บันทึกความทรงจำ...ตอน...ขอโทษ...ครับคุณครู


ครู

    ตอนเด็กๆสมัยผมเรียนอยู่ชั้นป.5 ในโรงเรียน

จะมีกลุ่มของเด็กๆหลายกลุ่มที่เวลาพัก

จะแยกไปทำกิจกรรมร่วมกันในแต่ละกลุ่ม

  ตามสะดวก...และ่กลุ่มพวกผมก็มีกิจกรรมประจำช่วงพัก

คือแกล้งเพื่อนนักเรียนรวมไปถึงคุณครูด้วย(บางเวลา..แหะๆ)

    " ต้องขอโทษ  เพื่อนฝูง  ที่เคยแกล้ง

      ขโมยแกง  กับห่อข้าว  ไปแอบซ่อน

      ตอกตะปู  สายรองเท้า  จนล้มนอน

      แอบล็อคกลอน  ขังในห้อง  จนร้องโฮ

โรยหมามุ่ย  หมั่นใส้  ที่เรียนเก่ง

เลาะตะเข็บ  กางเกง  จนเป้าโบ๋

มุดใต้โต๊ะ  เปิดกระโปรง  เพื่อนหญิงโชว์

เขียนป้ายโต  เตะฟรี  ที่หลัง..เกลอ

     ด้วยสำนึก  เอาปูนนี้  คงไม่สาย

     เพื่อนที่ตาย  เราจุดธูป  บอกเสมอ

     แต่ไหงเพื่อน  ที่ยังอยู่  ยังพบเจอ

     มัวเขินเก้อ  ละอายใจ  ไม่กล้า..say "

(ก็ขอถือเอาโอกาสนี้ ขอโทษเพื่อนๆที่เคยโดนผม แกล้งทุกผู้ทุกคน....ขอโทษจากใจจริงครับ)

        

        วันนั้นเป็นคิวแกล้งของครูชื่อ ครูเกษม (ขออนุญาตคาดตาไว้กลัวผู้อื่นทราบนาม) 

พี่ paleyon คงจำ คุณครูท่านนี้ได้นะครับ

        ครูเกษม นั่งเขียนหนังสืออยู่ที่ม้าหินอ่อน ผมกับเพื่อนๆก็หงุดหงิดที่โดนครูมาแย่ง

ที่นั่งเล่นประจำก็เลยเกิดความคิดพิเรนแกล้งคุณครูโดยผมย่องไปข้างหลังแล้ว

เอาเชือกฟางไปผูกหูกางเกงด้านหลัง ของคุณครู แล้วลากไปผูกกับต้นหูกวางเอาไว้ .......

พอก่อนเลิกเรียนก็ได้ข่าวที่ไม่อยากได้ยินคือ...............

ครูเกษมแขนเดาะต้องไปเข้าเฝือกที่ อนามัย .....

   เช้าวันรุ่งขึ้นพวกผมเตรียมใจไว้แล้วว่าต้องโดนทำโทษหน้าเสาธงแน่ๆแต่พิธีการ

ประจำวันเสร็จแล้ว คุณครวร (เอ่อ..คุณครููที่อยู่เวรนะครับ) ก็สั่งเข้าเรียนตามปกติ

ทุกอย่างเหมือนปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้นครูเกษมก็สอนหนังสือโดยให้นักเรียนเขียนกระดานให้

" ไม่มีร่องรอยความโกรธ มีแต่ร่องรอยเชือกฟางที่ขาดติดหูกางเกง "

(ครูใส่กางเกงตัวเมื่อวานซึ่งผมมาทราบทีหลังว่าต้องใส่ตัวเดิมเพราะรีดผ้าไม่ได้และยังแกะ

เชือกฟางออกไม่ได้ด้วย) ครูต้องรู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะเชือกฟางเส้นนั้นผมขอมาจาก

คร ูตอนอาสาไปช่วยนับไม้พลองลูกเสือ แต่..ทำไมครูไม่บอกครูใหญ่  ทำไมครููไม่บอกครูท่านอื่น

และทำไมครูไม่ลงโทษ..ผมคิดไม่ออกจริงๆ....

 ตอนค่ำวันนั้นผมบอกแม่ว่าพรุ่งนี้ไปส่งผมที่บ้านพักครูด้วย(เป็นวันหยุดแต่จำไม่ได้ว่าวันอะไร)

ผมบอกแม่ว่าจะไปกราบขอโทษ ครูเกษม..ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง

..พอแม่ทราบเรื่่่องก็บอกว่า ไม่ต้องรอพรุ่งนี้ไปเดี๋ยวนี้เลย

    แม่พาผมซ้อนมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า 50 ซีซี ขี่ไปประมาณ สิบกว่ากิโลเมตร ถึงบ้านพักครู 

ผมวิ่งขึ้นไปกราบขอโทษคุณู..สารภาพทุกอย่างที่ทำไป ครูเกษม บอกว่า

ครูต้องการแค่นี้แหละสมมุติว่าเธอไม่มาสารภาพผิดกับคร ูครููก็จะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก...

แต่วันนี้เธอมาขอโทษครู ครููดีใจที่สุดเพราะการที่ครููได้สั่งสอนลูกศิษย์มาก็หวังว่า

จะให้เป็นคนดี ครูไม่โกรธเธอหรอก ครูต้องขอบใจเธอมากกว่าที่ทำใหครูรู้ว่า

" ครูสอบผ่านการเป็นครู....."   

กลับบ้านไปพักผ่อนซะเถอะลูก....

    ในวินาทีนั้นผมยังไม่เข้าใจกับคำพูดที่ว่า  ครูสอบผ่านการเป็นครู แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก 

จนพอเริ่มโตขึ้นมาถึงได้เข้าใจ...ในความหมายของคำพูดของคุณครู...

น้ำตาไหลทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้......

 

" ผมมี..ความรู้สึก..ในส่วนลึก..ก้นบึ้งใจ   

ไม่กล้าเขียนออกไป..เป็นบทกลอน..กลัวกระทบ..ครู....

ไม่กล้า..แม้จะคิด..ไม่กล้าแม้..จะเขียน...ความรู้สึกของนักเรียน..น่าอดสู

ทำพลาดอะไร..ไว้กับ..ครูู..ผู้พร่ำ..สอนอบรม..

ได้ยิน..ได้รับรู้..ครูอภัยให้เสมอ..

ศิษย์จะหา...ความเป็นคน..ให้เจอ..สร้างประโยชน์..ต่อสังคม

ได้ยินคำว่า..ครูู..ผมอบอุ่นใจ..และ..สุขสม..

ความรู้สึกนี้..จะอยู่ในใจไว้ชื่นชม..ตลอดกาล..."

                            กราบขอโทษครับคุณครู

                                          รพี

 


หมายเลขบันทึก: 184006เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2008 00:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:10 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

ให้แง่คิดดีมากครับ ขออนุญาตนำไปรวมครับ...................รวมตะกอน

เป็นความรู้สึกประทับใจ ที่เก็บไว้ตลอดเวลา และจะเก็บไว้ตลอดไปครับ

               ขอบคุณที่มาเยือนครับ

                           รพี

มาเยี่ยม...คุณรพี

โฮ...ดีจริง มองเห็นภาพเลยละ

เป็นโอกาสดีมากที่กล้าเขียนให้อ่านในวันนี้นะ

สำหรับลูกศิษย์ที่มีคุณครูอยู่ในดวงใจ ถ้าไม่ได้มาอ่านนี่ อาจสูญเสียสิ่งมีคุณค่าบางอย่างไปตลอดชีวิตละ...

สวัสดีค่ะ

* มาดูลูกศิษย์แกล้งครู

* เห็นภาพเลยค่ะ...และรับรู้ด้วยสำนึก ฮือๆๆ .....เราก็เคยแกล้งครู...เอาหน้าไม้ยิงก้นครู(เวลาครูเขียนกระดาน)

* ชอบ...ศิษย์จะหาความเป็นคนให้เจอ...เอาใจช่วยค่ะ

คุณครูยูมิครับ

     ผมได้พูดอยู่เสมอในบันทึกว่า ผมอบอุ่นใจที่ได้ยินคำว่า ครู

               ขอบพระคุณที่ครูยูมิมาเยือนครับ

                                  รพี

ครูเกษม...ยังคงเป็นครูเกษมครูเดิม

(แถมยังหนุ่มแน่นแข็งแรงเหมือนเดิม จนเราๆเจริญวัยเลยท่านไปแล้ว)

ครูเกษม....เป็นครูสอนภาษาอังกฤษป.ห้า เป็นงานหนักมากสำหรับครูที่จะต้องสอนเด็กให้รู้จักภาษาอังกฤษครั้งแรก

แต่หากครูเกษมได้รู้ว่าภาษาอังกฤษที่ท่านได้เปิดโลกให้เด็กนักเรียนคนหนึ่งได้ใช้สอยจนถึงทุกวันี้ ท่านก็คงดีใจ

ครูเป็นตุ่มใส่น้ำวิชาที่เต็มเสมอ หากแต่ศิษย์คนใดจะตักตวงไปได้เท่าไร

ปาเจรา.. จริยาโหนติ..  มา คารวะคุณครูเกษม  ครับ

สวัสดีครับครู พรรณา

    ในเวลานั้นตามความคิดของเด็กๆมีแค่นั้นจริงๆครับ และเดี๋ยวนี้

ผมยังคงเป็นเด็กของคุณครูอยู่ตลอดเวลาครับ (แต่เป็นเด็กดีนะครับ)

                    ขอบพระคุณที่มาให้กำลังใจครับ

                                         รพี

ไหว้สาครับอ้ายเปลี่ยน

        กึ๊ดเติงหาครูเษมปึ๊งเนาะอ้าย ได้เขียนระบายแล้วโล่งใจ๋ขึ้นจ้าดนักครับ

           ฮักษาสุขภาพเน่อ

                         รพี

ขอบคุณครับครูข้างถนน

       คำว่าครูเป็นคำที่มีความหมายกับผมมากครับ

                         ยินดีครับ

                                   รพี

ครูเกษม น่าสรรเสริญจริงๆ ครูนงเยาว์คงทำใจไม่ได้แน่ๆ ต้องเกิดฆาตกรรมเด็กขึ้นแน่ๆโชคดีที่พี่เกิดช้า ไม่ได้สอนเด็กชายรพี

ครูนงเยาว์จะดุยังไงก็ยังแฝงความอบอุ่นซ่อนอยู่ในความเป็นครูเสมอครับ

                 ด้วยความเคารพครับ

                          รพี กวีกลับใจทัน(แหะๆ)

น้ำตาซึมไปด้วยกับ"ครูสอบผ่านความเป็นครู"

มีดื้อ และ ซนร้ายกาจนะคะ ไม่น่าเชื่อเล้ย..ด.ช.รพี

(*ไม้พลอง หรือเปล่าคะ แอบเห็น)

สวัสดีครับคุณหมอจริยา

   ขอบคุณครับสำหรับไม้พลองได้ทำการแก้ไขแล้วครับ       เรื่องครูเกษมนี้เป็นความผิดโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จริงๆครับ ผมมาตีความหมายของคำว่า ครูสอบผ่าน ออกเอาตอนโตครับน้ำตาไหลทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ครับ

                         ด้วยความเคารพครับ

                                      รพี

สวัสดีครับ ลุงครู ประจักษ์

ดีใจที่มาเยือนและกราบขอบคุณที่อวยพรครับ

                  ด้วยความเคารพ

                            รพี

+ ครูคนนี้ขออนุญาตนำเรื่องราวเหล่านี้ไปให้เพื่อนครู และเด็ก ที่โรงเรียนอ่านนะค่ะ

+ ผลเป็นอย่างไรจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

 + ที่โรงเรียนมีเด็กซนแบบท่าน  แต่ มะรอวีของครูอยู่แค่ชั้น ป.2 (อย่างว่าคลื่นลูกหลังต้องใหญ่กว่า)

    กระทำการฉี่ใส่กระติกนำร้อนครูชั้นป.3...ครูท่านนั้นชอบกินนำร้อนละลายไขมัน...

      วันเกิดเหตุแกกดนำร้อนกินตามปกติ...กดน้ำร้อนเสร้จยกขึ้นดื่ม...

     บัดดล...ใจครูร้อนกว่าน้ำในแก้วและในกระติก...

     ครูผู้พี่สืบสวนแล้ว..ไม่ได้ความ..แกเลยมาบอกดิฉัน...

      ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...ความลับก็ไม่มีในโลก...มะรอวียิ้มเห็นฟันหลอ..

    เดินมาสารภาพกับดิฉันว่า "ผมฉี่ใส่ครับครู"

    ดิฉันนั่งกอดมะรอวี  แล้วร้องไห้  มะรอวีร้องไห้...ไม่มีคำพูดใด

    ดิฉันจูงมือมะรอวีไปขอโทษครูท่านนั้น...

     คิดว่าเรื่องคงจบลง...แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่...

     เรื่องนี้ถึงผู้ปกครอง...แม่มะรอวีเดินร้องไห้มาโรงเรียน...

     "ครูเอ๋ยครู...ใยใจจึงห่างไกล

      จากใจครูเกษมมากนัก " 

   

คุณแอมแปร์ครับ

  ที่จริงผมอยากลงนามสกุลของคุณครูเกษม ด้วยครับแต่ในความคิดของผมคิดว่ามันอาจจะกลายเป็นการทำร้ายครู.... ในทางอ้อมครับ...ผมเลยไม่ได้บอกนามสกุลท่านไว้ และี่ครูเคยบอกว่าแค่อยากเห็นลูกศิษย์เป็นคนดีเท่านั้น.. ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

               ด้วยความเคารพครับ

                               รพี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท