(รูปถ่ายนี้ ไม่ปรากฎหลักฐานว่ามีผู้ใดจัดสร้างขึ้น รู้แค่ว่ามีผู้พบมาตั้งแต่ 80 กว่าปีมาแล้ว)
ด้วยความดีใจและตื้นตัน เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงศรัทธา ที่ได้เดินทางไปกราบนบน้อมต่อองค์พระธาตุสบฝางอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวพุทธหลายท่านยังไม่เคยไปสัมผัส เพื่อกราบไหว้ต่อองค์พระศาสนดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้มาประดิษฐาน ณ ดินแดนล้านนาแห่งนี้เป็นเวลาเกือบ 1,600 ปี
ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้เกิดมาเป็นลูกหลานของคนแม่อาย ไม่เคยรับรู้ถึงประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของศาสนสถานแห่งนี้ ประชาชนในเขตภาคเหนือก็อาจเป็นเช่นเดียวกันกับข้าพเจ้า พระธาตุสบฝาง ปู่ย่าตายายเคยบอกไว้ว่ามีเจดีย์แห่งนี้ แต่ไม่รู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเจดีย์แห่งนี้เลย ทำให้หลายคนยังไม่รู้เรื่องราวความเป็นมา จนในวันที่ข้าพเจ้าได้ย้ายมารับราชการที่บ้าน ณ เดือนมกราคม 2551 คุณลุงหนานซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของข้าพเจ้าได้นำหนังสือประวัติศาสตร์ของพระธาตุสบฝางมาให้ข้าพเจ้าอ่าน ข้าพเจ้าจึงตั้งจิตอธิฐานเอาไว้ว่าจะเดินทางไปกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคงในครั้งหนึ่งของชีวิต และในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551 นี้เองข้าพเจ้าก็ได้ไปเยือนสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
พระธาตุสบฝาง ตั้งอยู่บนดอยสบฝาง บนฝั่งแม่น้ำกก ของอำเภอแม่อาย ห่างจากบ้านท่าตอนไปทางทิศตะวันออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.923 1600 กว่าปีมาแล้ว โดยพระเจ้าพรหมมหาราช เจ้าเมืองไชยปราการ ที่ได้สร้างเจดีย์เอาไว้บนยอดเขาดอยสบฝาง เพื่อบรรจุพระนลาฏธาตุของพระพุทธเจ้า(กระดูกในส่วนหน้าผาก) ที่แบ่งมาจากการบรรจุพระธาตุลงในพระธาตุจอมกิตติ ของจังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน(ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอนาจักรโยนกนครหรือเชียงแสนสมัยก่อน) โดยสมัยก่อนพระเจ้าพรหมมหาราชได้รับมาจากพญาเรือนแก้วซึ่งเป็นบิดา ที่ได้รับพระราชทานมาจากพระองค์พังคราช กษัตริย์องค์ที่ 45 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ(ตามประวัตศาสตร์ของอนาจักรสิงหนวัติในสมัยพุทธศตวรรษที่ 9 พระพุทธโฆษาจารย์ได้เดินทางไปศึกษาธรรมะจากประเทศศรีลังกา และกลับเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในอนาจักรพม่า มอญ สุโขทัยและโยนกนคร) โดยได้การกลับมาได้นำพระบรมธาตุมาถวายพระองค์พังราช กษัตริย์องค์ที่ 45 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติด้วย)
ต่อมาพระเจ้าพรหมหาราชได้ให้ช่างหล่อพระพุทธรูปด้วยทองสัมฤทธิ์จำนวนมาก ซึ่งปัจุบันหลังจากในปี 2476 ได้เกิดไฟไหมและกระจายไปเก็บไว้ยังวัดต่างๆ ของอำเภอแม่อายอยู่หลายแห่ง
ในปี 2467 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ได้รับรู้ถึงตำนานของพระธาตุสบฝางจุงได้เดินทางมาบูรณะพระธาตุสบฝาง (ซึ่งข้าพเจ้าได้รับรู้มาว่า ยังมีเกจิอาจารย์มากมาย เช่นหลวงปู่โต๊ะ ที่ได้เดินทางมากราบไหว้พระธาตุสบฝางแห่งนี้)
ในปี 2532 พระครูวุฒิญาณพิศิษฎ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอแม่อายได้ทำการบูรณะพระเจดีย์อีกครั้งโดยใช้ปูนฉาบทับพระเจดีย์องค์เดิม ทำให้พระธาตุสบฝางเกิดความสวยงามจนถึงทุกวันนี้
ในปี 2547 พระราชสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ (เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ) ได้เข้ามาฟื้นฟูและพัฒนา
พระธาตุสบฝางในปัจจุบันหลังจากมีการบูรณะแล้วในปี 2547
โดยจากคำกล่าวของรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุสบฝาง คำบอกเล่าของชาวบ้านใกล้เคียงและผู้เข้ามานั่งวิปัสนาซึ่งส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนกรุงเทพที่ศรัทธาในองค์พระธาตุ ได้เล่าให้ผมฟังว่า องค์พระธาตุสบฝางจะแสดงอภินิหาร มีลำแสงดวงไฟสีเขียว พุ่งออกจากพระธาตุ ในช่วงของวันสำคัญ เช่น วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันออกพรรษา เป็นต้น โดยผู้ที่รักษาศีล และเจริญในธรรมเท่านั้นที่จะเห็นได้
พระธาตุจอมกิตติ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ถือว่าเป็นพระธาตุองค์พี่ ของพระธาตุสบฝาง อำเภอแม่อาย ที่ก่อสร้างโดยพระเจ้าพรหมมหาราช ในเวลาไม่ห่างกันนัก
พระเจ้าพรหมหาราช ผู้ก่อสร้างพระธาตุสบฝาง ในปี พ.ศ.923
ครูบาศรีวิชีย นักบุญแห่งล้านนาไทยได้เข้ามาบูรณะเมื่อปี พ.ศ.2476
หลวงปู่โต๊ะหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ได้เข้ามาสักการะพระธาตุสบฝาง
ซากอิฐ ซึ่งเป็นหลักฐานเก่าแก่มาเป็นระยะเวลา 1600 กว่าปี
บันไดทางขึ้นวัดพระธาตุสบฝางที่ครูบาศรีวิชัยได้สร้างไว้ เมื่อปี พ.ศ.2476
ความงดงามของพระธาตุสบฝาง
ในชีวิตนี้แม้จะตายไปข้าพเจ้าก็ไม่เสียดาย เพราะได้เข้ามาก้มกราบพระพุทธองค์แล้ว
และในวันดังกล่าวข้าพเจ้าได้เข้าไปถวายสังฆทาน แก่ หลวงพ่อศรีทน ซึ่งหลวงพ่อ อายุ 70ปี ซึ่งเป็นพระที่จำพรรษา ณ วัดแห่งนี้เพียงคนเดียวมาหลายปีแล้ว
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551 มีเพียงคณะเดินทางของข้าพเจ้าเท่านั้นที่เข้าไปกราบไหว้พระธาตุสบฝาง เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ซึ่งข้าพเจ้าเสียดายแทนคนในประเทศไทย ที่ยังคงเดินทางไปกราบไหว้เจดีย์ยังต่างประเทศ แต่กลับลืมศาสนสถานที่มีค่าแห่งนี้
วิวบริเวณวัดพระธาตุสบฝาง ที่มีความร่มรื่นสำหรับผู้ที่ชอบมานั่งวิปัสนาธรรม
สวัสดีครับ
ขอบพระคุณมากที่นำสาระดี ๆ มาบอกกล่าวแก่ผู้มีใจเป็นธรรมทั้งหลาย รับรู้เรื่องราวและเห็นภาพแล้วอยากไปกราบมากครับ เสียดายอย่างเดียว น่าจะบอกเส้นทางการเดินทางด้วย เพราะคนพื้นล่างอย่างผม ไปไม่ค่อยถูก แต่อย่างว่าไปเริ่มต้นที่อำเภอแม่อาย คงไม่ยากเกินความพยายามนะครับ ขอบพระคุณอีกครั้งนะครับ
เส้นทางอยู่ห่างจากอำเภอแม่อายไปไม่กิโลเมตรครับ ไปง่าย มีป้ายบอกทางจนไปถึงวัดครับ
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่เอาสาระดีดี
มาเผ่ยแผร่ครับ
ผมก็คนแม่อายเช่นกันครับ
อายุ 14
เลยยังไม่ค่อยรู้จักพระธาตุสบฝาง ปิดเทอมนี้ว่าจะไปเที่ยว ไปกราบไหว้ด้วย
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ยังไงผมก็ลูกหลานชาวแม่อาย
ก็ต้องกราบไหว้
สักครั้งในชีวิตด้วยเช่นกัน
^_O
บ้านผมเอง ผมบวชอยู่วัดนี้มา สี่ปี บอกตรงๆ เงียบมาก สงบ สวย อากาศบริสุทธิ์ วิวสวย
เหมาะกับการปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน
หลวงปู่โต๊ะท่านไปบูรณะในปี 2520 ถึง 2521 ได้สร้างพระเครื่องไว้ แจกจ่ายให้กับผู้มาสบทบทุนบูรณะพระธาตุ หลาย ๆรุ่น หลาย ๆ แบบ ปัจจุบันไม่ทราบว่ายังหลงเหลืออยู่หรือไม่ ท่านใดมีวาสนา อาจจะได้มาบูชาสักองค์
คงมีโอกาสได้ไปกราบพระธาตุสบฝางสักครั้งหนึ่ง
สวัสดีค่ะ
พอดีกำลังศึกษาเรื่องเมืองโบราณของเมืองฝางเก่า แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปวัดพระธาตุสบฝางซักที เพราะต้องมาเรียนอยู่ กทม. เห็นกำแพงอิฐที่คุณศักดิ์ณรงค์ถ่ายภาพไว้น่าสนใจมากเลยค่ะ ไม่ทราบว่าถ่ายรูปนี้มานานหรือยังคะ กำแพงส่วนนี้ตั้งอยู่บริเวณวัดหรือเปล่า ถือว่าเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญมาเลยค่ะ บ้านเราก็มีของดีมากมาย หากมีคนช่วยกันดูแล ช่วยกันอนุรักษ์ก็คงอยู่ให้ลูกหลานได้ชื่นชมไปอีกนานนะคะ
ขอบคุณมากค่ะื สำหรับข้อมูลดีดี
ฝ้าย