สวัสดีค่ะ อ.ลูกหว้า
สวัสดีครับ อาจารย์ ลูกหว้า
ผมเคยได้ยินมาจากที่ไหนจำไม่ได้ว่า
"แม้นแผ่นดินไร้ชายที่พึงเชย อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า..." ;-)
เอาไว้ถ้าหาที่มาเจอ จะมาแจ้งอีกทีครับ ตอนนี้ขอบ๊ายบายไปตอบคำถามของอาจารย์กฤษณาก่อนครับ
อยากได้รางวัลจัง...
เหตุผลดีๆ ข้อนึงคือผู้หญิงเดี๋ยวนี้หาเลี้ยงตัวเองได้สบายๆ ไม่อยากมีภาระ มีหน้าที่การงานเชิดหน้าชูตา เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้สบาย จะไปหาห่วงมาพ่วงตัวทำไมล่ะคะ อิ อิ อิ
แวะมาอ่านรอบที่ 2 แต่ยังขอไม่ให้ความเห็นนะคะ
เพราะคนที่จะให้ความเห็นได้ดีที่สุด คือ คนที่ตัดสินใจแล้วว่า ขออยู่เป็นโสด
แต่พี่จะมาเสริมและเพิ่มเติมในบางประเด็นนะคะ ตอนนี้ ขออนุญาต แวะไปงานบวชข้างบ้านก่อนนะคะ แล้วจะเวียนมาอ่านอีกรอบที่ 3
น้องหว้าขา
ถามครูอ้อยหรือคะ...จะตอบได้หรือนี่...ในเมื่อครูอ้อยมีลูกตั้งแต่อายุ 22 ปี คงจะไม่มีวิสัยทัศน์เรื่องนี้ค่ะ
ให้ครูอ้อยช่วยเรื่องอื่นๆเถอะค่ะ...ว้า..อุตส่าห์เชิญครูอ้อยมาแล้ว
เอ้า....ตอบก็ได้
เลือกมากค่ะ..ที่ไม่ยอมแต่งงานเพราะ
1. เลือกมาก
2. ไม่ถูกสเป็ก
3. ด้อยกว่า
4. ไม่หล่อ
5. ไม่รวย
6. มีพ่อแม่พี่น้องเยอะ
7. ไม่อยากรับใช้ใคร
8. ไม่ตามใจ..เอาแต่ใจ..เอาใจใครไม่เป็น
9. พ่อแม่พี่น้องไม่ชอบ
10.อุปสรรคเรื่องศาสนา
พอแล้วค่ะ...ตอบไม่ถูกมั้ง...เพื่อน้อง..พี่ทำได้
ผมว่า...
ผู้หญิงสมัยนี้ต้องการประสบความสำเร็จมากขึ้น เลยไม่อยากใช้ชีวิตคู่ อาจจะมองว่าการแต่งงานอาจจะทำให้มีเวลาน้อยลงในการทำในสิ่งที่อยากทำ เพราะต้องดูแลบ้าน ดูแลลูก และดูแลสามีครับ...
ถามผมว่ามองสาวโสดอย่างงัย...
ผมมองว่าดีออก เป็นผู้หญิงเก่งที่สามารถดูแลตัวเองได้ ทำอะไรคนเดียวได้ เท่ห์ครับ...
สรุปว่าโสดก็มีความสุขแบบคนโสด แต่งงานแล้วก็มีความสุขแบบคนแต่งงานแล้วครับ...
สวัสดีค่ะ อาจารย์ลูกหว้า มาช้าดีกว่าไม่มีเนอะ :D
สาเหตุที่ปิ๊กเป็นโสด เพราะว่าไม่มีคนมาจีบ สงสัยจะกลัว ...อิอิ .!!! ล้อเล่นอ่ะค่ะ (แต่สงสัยจริง)
งัยดีหล่ะ ส่วนมากก็เป็นแบบ ถูกใจเขา แต่ไม่ถูกใจเรา ถูกใจเรา แต่ไม่ถูกใจเขาน่ะแหล่ะ .....พอไปถูกใจเขา เขาก็มีแฟนแล้ว ฮือๆๆ ...........
ส่วนตัวไม่มีกฏเกณฑ์ ไม่มีเหตุผลใด ๆ ถือความชอบส่วนตัวเป็นหลัก ไม่มีความตั้งใจว่าจะโสด หรือจะแต่งงาน ...
ประมาณนี้แหล่ะค่ะ เลยเป็นฉาวโฉด มาถึงบัดนี้แล
สวัสดีค่ะ อ.ลูกหว้า (ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ หน้าตาก็น่ารักด้วย (^_^ ) เอ! ยังโสดอยู่เหมือนกันเหรอคะ อิ ๆ)
เรื่องของสาวโสดนี่มันมีหลายสาเหตุค่ะ แต่ที่มองนะคะ หลัก ๆ เลย คิดว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป สาว ๆ มั่นใจขึ้น หาเลี้ยงตัวเองได้ ความอดทนก็ลดลงด้วย ไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างใครโดยไม่มีเหตุผล คิดว่าสมัยก่อนที่คนไม่เป็นโสดกันเยอะขนาดนี้เพราะผู้หญิงมีความอดทนสูงนะคะ สมัยนี้พอผู้หญิงไม่ทน ความเป็นผู้นำของผู้ชายก็ลดลง เค้าก็ไปหาคนอื่นดีกว่าค่ะ ความเจริญทำให้โลกแคบลง ได้พบปะคนมากขึ้น โอกาสเลือกของผู้ชายก็เยอะขึ้น .. ทำให้สาวสวยน่ารักนิสัยดีอย่างพวกเรายังเป็นโสดกันถึงทุกวันนี้ แล้วก็ต้องมาเจอคำถามว่า โอ้ววว อายุขนาดนี้ทำไมยังโสด .. หันไปหันมา เจอรุ่นน้องทักทายเราแล้วก็หันไปบอกเจ้าตัวเล็ก เอ้า! ไหว้ป้าสิจ๊ะลูก แป่วววว ฮ่า ๆๆๆๆ (-_- " )
ผมว่าการศึกษามีส่วนอย่างมากที่ทำให้ผู้หญิงเป็นโสดเพราะเห็นเพื่อนที่เขาแต่งงานไว มีแต่ปัญหามากมาย ก็เลย ไม่อยากมีปัญหา
อยู่เป็นโสดจะได้ประหยัดไงครับ
1.ประหยัดน้ำลาย เพราะมีสามีเมื่อไหร่ ต้องคอยบ่นสามีทั้งวัน
2.ประหยัดค่าสาธารณูปโภคครับ เพราะสามีจะชวนอาบน้ำพร้อมกัน (ประหยัดน้ำ) และชวนปิดไฟนอนแต่หัววัน (ประหยัดไฟ)
3. ประหยัดรักษาพยาบาล เพราะไม่ต้องจ่ายค่าดูแลสามีที่บาดเจ็บจากการโดนสากปาหัว หลังถูกจับได้ว่าไปเที่ยวคาเฟ่ อิอิ
และอื่นๆอีกมากมายครับ อ.ลูกหว้า
แต่ผมเสนอแนวคิดแบบขำๆอย่างถือโทษโกรธผมเลยนะครับ
เอาเป็นว่าสาวโสดเพราะต้องการชีวิตอิสระ ไม่เชื่อต้องลองครับ อิอิ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ
ขอตอบด้วยนะครับ (แบบขำๆ)
สถิติประชากรชาย 100 คน
(ที่ยังไม่โดนระเบิด,และอุบัติเหตุ)
เป็นเกย์ - 30 คน
เป็นสามีของเกย์ - 20 คน
มีเมียแล้ว - 20 คน
อยู่ในคุก - 10 คน
มุ่งสู่นิพพาน - 5 คน
หน้าตาอุบาทว์มากๆ - 5 คน
ไร้สมรรถภาพ - 5 คน
เป็นเอดส์ - 3 คน
อยู่ในโรงพยาบาลบ้า - 1 คน
จากสถิติดังกล่าวชาย 100 คน
เหลือที่ใช้การได้เพียง 1 คน
(บังเอิญว่า 1 คนนี้ดันขี้อาย ไม่กล้าจีบสาวอีก)
ฉะนั้นผู้หญิงจึงอยากเป็นโสด
เพราะผู้ชายเหลือน้อยเกินไป
เป็นคำตอบสุดท้ายครับผม ;p
เป็นโสด...แต่ไม่ได้หมายถึง "หัวใจโสด" ใช่ไหมครับ...
.....
ผู้หญิงส่วนหนึ่งบอกว่า ในบรรดาจำนวนผู้ชายที่มีน้อยอยู่แล้ว กลับพบว่าส่วนหนึ่งก็ยัง "ไม่ดีพอ" เลยสถาปนาตนเองครองบัลลังค์โสดเลยดีกว่า
(^________________^)
เข้ามาอ่านแล้วมีความสุขค่ะ...ยังไม่ให้ความเห็นค่ะ..อ่านไปยิ้มไป...อิอิ
เข้ามาล่า...เอ๊ย อยากสอยรางวัลอีกคนค่ะ เหตุผลที่ยังไม่แต่งงานก็มีดังนี้ค่ะ
1. ชอบชีวิตที่อิสระเสรี อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องแคร์ใคร ไม่ต้องง้อใคร
2. รับไม่ได้กับสภาพที่ต้องอุ้มท้อง หรือมานั่งเลี้ยงเด็ก
3. สภาพเศรษฐกิจแบบนี้...ถ้ามีลูกก็คงจะต้องมีฐานะที่มั่นคง มีเงินทุนหมุนเวียน อย่างรอบคอบและคิดต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า นัยว่าเป็นโปรเจคใหญ่เลยทีเดียว
4. อกหักมาหลายครั้ง ได้เจอคนหลายประเภท คิดว่ายังไม่มีใครที่สามารถดูแลเราได้ค่ะ
5. สนุกกับการทำงาน และเรียนต่อแม้ตอนนี้จะมีใบปริญญามานอนกอดแล้ว 2 ใบ และกำลังจะตามมาอีก 2 ใบในวันข้างหน้าค่ะ
โอ้โห....เมนูยอดฮิต
เพื่อนของไร้นามชอบเล่าเรื่องนี้...อาจารย์ลูกหว้าจะโกรธไหมถ้าจะเล่าให้ฟัง....
วันหนึ่งพ่อกับลูกสาวนั่งด้วยกัน
พ่อ..เมือ่ไหร่ลูกจะแต่งงานน่ะ ลูกสาวอายุ 20 ปีตอบว่า ยังค่ะพ่อยังไม่เจอคนที่อยู่ในสเปค ลูกชอบที่หล่อ รวย รสนิยมดี
ต่อมาอีก 10 ปี พ่อก็ถามใหม่ เออ ลูก ชายหนุ่มในสเปคของลูกยังไม่เจอหรืออย่าไร ลูกสาวอายุ 30 ปีตอบว่า ก็เจอนะคะ แต่ว่าหนูดูแล้ว หล่อมันกินไม่ได้ค่ะ อีกอย่างพวกทำตัวหล่อและถึงรวยก็พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ลูกก็อยากได้คนที่พูดกันรู้เรื่องน่ะค่ะ หล่อหรือรวยมันไม่ก็ไม่สำคัญ
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อลูกสาวอายุ 40 ปี พ่อก็อดไม่ได้ ถามอีกว่า ลูกเอ้ย ทุกวันนี้พ่อก็แก่มากแล้วก็หวังจะเห็นเจ้าเป็นฝั่งเป็นฝา เมื่อไหร่จะพาผู้ชายคนที่พูดกันรู้เรื่องมาหาพ่อล่ะ
ลูกสาววัย 40 ปี ตอบด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย...พ่อ มีผู้ชายอยู่ที่ไหนบ้างล่ะคะพ่อ
แฮ่ม.....ไร้นามบอกแล้วว่าเพื่อนเล่ามา ...
นั่นแน่...ผู้หญิงแกร่ง ก็มักจะพูดเช่นนี้แหละครับ...
....
ผมเองยังอกหักทุกวันเลยครับ (ล้อเล่น)
ส่วนที่เป็นโสด แต่หัวใจไม่โสดนั้น...ผมไม่เจาะจงครับ...
ผมโชคดีแล้วที่มีคนมาพลาดท่ามอบหัวใจให้.. ! ภายใต้เงื่อนไขเดียวคือ รัก แล้ว ห้าม เลิก ...(ฮา)...........
แวะมาแสดงความเห็นด้วยครับ ตามความเห็นผมนะครับ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเราเก่ง คล่อง พึ่งตัวเองได้ ทั้งกายและใจ เมื่อเทียบกับสมัยก่อน เธอก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องไปสนใจกับคนที่ไม่ค่อยถูกสเป็คเต็มที่ทำไม เพราะมันมีตัวอย่างเยอะที่ พอแต่งไปแล้วผู้ชายก็ออกลายให้ปวดหัว อ่านเจอในหนังสือพิมพ์ก็เยอะที่แต่งได้ไม่ถึงปี อ้าว เตียงหักซะแล้ว ถ้าปิ๊งจริงๆ ก็ค่อยน่าลุ้นหน่อยว่า เอ้า ลองดูสักตั้ง
การที่ผู้หญิงเรามีสังคมเปิดมากขึ้นทำให้ไม่เหงาครับ มีเพื่อนเฮฮาได้ อยากไปไหนก็ได้ เมื่อก่อนถ้าไปไหนคนเดียว หรือไปบางที่เฉพาะผู้หญิงคนจะมองแปลกๆ
คนรอบข้างเขาถาม ก็เพราะเขาเป็นห่วง ก็ OK ครับ แต่ถึงเราแต่งไปแล้ว เขาก็ยังถามอยู่ดี 'ทำไมยังไม่มีลูกหละ แต่งมานานแล้วนี่' 'สามีไปไหนล่ะ ทำไมไม่มาด้วย' เพราะฉะนั้น ฟังเข้าหูซ้าย ทะลุหูขวาครับ ถ้าจะแต่งก็เพราะเจอคนถูกใจ ไม่ใช่แต่งเพราะคนอื่นมองว่าน่าจะแต่งได้แล้ว
สรุปตามมุมมองของผมคือ เพราะผู้หญิงเข้มแข็งขึ้นครับ ที่สิงคโปร์ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
เห็นบันทึกนี้ฮฮตเหลือหลาย....
ผมเลยตัดสินใจไปค้นเรื่องราวบุคลิกภาพและหัวจิตหัวใจของบรรดาผู้ชายทั้งหลายมาให้อ่านกัน...
เกือบสมบูรณ์แล้ว ..คาดว่าพรุ่งนี้ได้อ่านแน่...นะครับ
อ.ลูกหว้าค่ะ
พี่ตอบคำถามแล้วนะคะ ที่บันทึกนี้ค่ะ
ขอเพิ่มความเห็นอีกข้อได้ไหมค่ะ
ที่ผู้หญิงสมัยนี้ ชอบอยู่เป็นโสด เป็นเพราะ เป็นเพราะ เอ่อ
เอ่อ "เป็นทอม กะ ดี้" เจ้าค่ะ
ก๊าก จะรอดไหมเนี่ย
อ.ลูกหว้าขา
จด ๆ จ้อง ๆ หลายเพลา
คิดอย่างไรก็คิดว่าไม่ออกว่าทำไมเราถึงต้องอยู่เป็นโสด
เคยเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่าในชีวิตมีคนขอแต่งงาน 3 ครั้ง (ไม่รวมกับที่จะไปขอเค้าแต่งนะคะ...ฮา 1)
ประมาณว่าถ้าไม่ได้แต่งด้วย จะตาย ๆ ๆ ๆ ตรงหน้าตักเธอให้ได้ แต่....พี่ก็เห็นทุกกคนอยู่เย็นเป็นสุข มีลูกให้เชยชมทุกคน ฮา 2
จริง ๆ แล้วคงไม่มีใครที่รักจริง ๆ นั่นแหละ
ตอนที่เรารัก เราใช้หัวใจ ไม่ได้ใช้สมอง พอนำเหตุผลหลาย ๆ อย่างมาประกอบการตัดสินใจ มันจึงจำเป็นต้องตัดออกทีละข้อ ๆ ๆ ๆ ๆ จนเหลืออยู่ข้อเดียว......ยอมรับทุกอย่างที่ต่างคนต่างเป็นได้ไหม ไม่ใช่พบกันครึ่งทาง เพราะครึ่งทางเมื่อไร มันก็มีอีกครึ่งที่เป็นความไม่เข้าใจกันอยู่......ถ้ารับกันไม่ได้ทั้งหมด....การที่จะอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต......มันย่อมมีเรื่องไม่เข้าใจกัน.....
ถ้าคบกับใครจะยอมรับในความเป็นทั้งหมดของคน ๆ นั้น จะไม่ใช้คำว่า "อดทน" เพราะคำว่าอดทนต้องมีวันสิ้นสุด แต่การยอมรับกันทั้งหมด...มันตลอดไป
ดังนั้น สรุป เป็นว่า ที่โสด เพราะ
มีใครที่รักจริง ๆ นั่นแหละ ฮา 3........
รักเอ้ย ไม่เคยก็ลองแล
จะได้รู้ว่ารัก แท้มีแค่ไหน
รักจริง รักซ้อน หรือกลับกลาย
รักลวง รักใคร่ ก็ต้องลอง
ห้าๆๆๆ
โห ลูกหว้า ยังฮอตไม่เลิกเลยนะ
แต่เอ... คำว่าฮอต กับ แห้ว เสียงมันคล้ายๆ กันนะ ...อิอิ
คุณเม้งพูดก็ถูกนะ ลูกหว้า คนเราผูกกันด้วยใจ เรื่องงานบ้าน งานครัว มันไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ ...เรื่องสำคัญ คือ รักกันให้ได้ก่อนเหอะ
เออแน่ะ พ่อนักวิจัยใหญ่ คิดหัวข้อวิจัยได้แจ๋วจริง .....บูรณาการรักคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด....อืม เข้าท่า
อ่านแล้วก็ตลกดีนะคะ..เห็นด้วยกับทุกๆคำตอบนะคะ..(ในฐานะที่โสด.เหมือนกัน)..เพิ่มข้อคิดเห็นอีกหนึ่งข้อค่ะ..แต่ห้ามหัวเราะนะคะ..
คือ..แต่งงานเนี่ย..มันเป็นความจริงที่รับลำบากค่ะ..
แต่งแล้ว..ก็คงจะต้องเตรียมตัวรับความทุกข์กับอีกหลายๆเรื่อง..ทั้งในเรื่องการปรับตัว..และการทำใจหากอยากจะหลุดพ้นจากความทุกข์แล้ว..ใช้ชีวิตในชาตินี้เพื่อการพยายามหลุดพ้น..เนื่องจากขี้เกียจเกิดอีก.(ก็คือ..ไม่พยายามหาทุกข์..เข้าตัวอีก)ก็ไม่ควรจะแต่งงานน่ะนะคะ..(ไม่เสียเวลาชมนกชมไม้นานเกินไปน่ะค่ะ..เผลอๆกลัวว่าจะหลงทาง..เป้าหมายเปลี่ยนไปเสียอีก...แย่เลย.คิดไกลไปไหมคะเนี่ย...?)
สวัสดีครับอาจารย์
โหห ผมว่าผมนี่คงมาสายมากเลยนะเนี่ยกับการตอบกระทู้นี่ แต่ดูท่าทางสนุกดีครับ
ถ้าตอบแบบ operations research ก็คงต้องบอกว่า คำตอบที่ดีที่สุด (optimal solution) นั้นหาไม่ได้ครับ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่เช่น ปัญหาที่สร้างมานั้นมันเป็นไปไม่ได้ (infeasibility) หรือว่าปัญหาที่สร้างมานั้นมันไร้ขอบเขต (unbounded) ครับ นั่นหมายความว่าตัวเลือกนั้นมีมากมายเสียเหลือเกิน เจอคนหนึ่งถูกใจ เดี๋ยวก็เจอคนอื่นที่ดีกว่า (ตอบตรงตามสาขาที่ผมเรียนเลยนะครับ)
แต่ถ้าตอบตามเศรษฐศาสตร์ แล้วผมเป็นลูกศิษย์อาจารย์ ผมจะตอบว่าการแต่งงานนั้นดำเนินไปสู่จุดไม่คุ้มทุนครับ ดังนั้นก็เลยไม่แต่งดีกว่า
ถ้าตอบถามคุณพ่อผมครับ คุณพ่อสอนไว้ว่า ให้เลือกผู้หญิงแบบนี้ครับ
ถ้าไอ้สามอย่างนี้ไม่ใกล้กัน คุณพ่อผมบอกว่าปวดหัวครับ นั่นหมายความว่าคุณผู้หญิงอาจจะยังไม่เจอผู้ชายที่มีสามใกล้นี่ครับ
ปล รูปนั่นรูปผมกับแฟนสมัยเด็กครับ :D
สวัสดีครับอาจารย์
เป็นเพราะไม่โสดนี่เองเลยได้เข้ามาบันทึกนี้ช้า....ผู้หญิงอยู่เป็นโสดเยอะในความเห็นของพี่นะค่ะ...พี่คิดว่าส่วนใหญ่คงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะว่าจะคงความเป็นโสด แต่ที่เป็นโสด ก็อาจเนื่องมาจาก
แค่นี้ดีกว่านะ อาจซ้ำๆกับหลายๆ ท่านข้างบน
อ.ลูกหว้าน่าจะสรุป รวมเป็น Tacit knowledge เหตุผลของการอยู่เป็นโสดก็ดีนะค่ะ....สู้ๆ ค่ะ
ได้ข้อสรุปรึยังค่ะ อ.ลูกหว้า
นอนดึกจัง ลูกหว้า เป็นไรไป นอนไม่หลับเหรอ
สวัสดีครับอาจารย์ลูกหว้า
สวัสดีครับอาจารย์
เรื่องรูปนี่ แฟนผมเขาไปค้นรูปสมัยเรียนอนุบาลของเขามาดูนะครับ แต่แล้วดูไปดูมาไหงมีผมยืนอยู่ด้วยก็ไม่รู้ครับ เขาเลยสแกนให้เก็บไว้ แล้วผมก็ใช้เรื่อยมาครับ
ผมไม่ติดอะไรอาจารย์แล้วนะครับ
แถมนิดหนึ่งเรื่อง Markov ครับ เผื่ออาจารย์เอาไปหลอกเด็ก (เอ้ย ไม่ใช่สอนนักศึกษา) ตามหลักการของ perfect stock market แล้ว การเคลื่อนที่ของตลาดหุ้นต้องเป็นไปแบบ Markov ครับ
เพราะว่า Markov บอกว่า ไม่สนใจแหละว่าราคาหุ้นจะมีประวัติความเป็นมายังไง แต่ๆๆๆๆๆ เราแค่ราคาหุ้นวันนี้นั้น เราก็สามารถประมาณค่าราคาหุ้นวันพรุ่งนี้ได้ครับ
แต่นั่นมันทางทฤษฏีครับ ในทางปฏิบัติมันไม่ใช่ครับ (แต่จริงๆก็มีวิธีการหลายวิธีนะครับที่เอามาคาดการณ์ราคาหุ้น)
อ้อ อีกเรื่องอาจารย์ไม่สอน เรื่องการตัดสินใจแต่งงานไม่แต่งงานโดยใช้ decision theory บ้างหรอครับ ถ้าใช้คงสนุกแน่เลยครับ :D
อาจารย์ลูกหว้าคะ มาช้าแต่ก็ดีกว่าไม่มาใช่ม๊ะ
เวลาที่รักใครมากๆ
เรามักจะรู้สึกหวั่นไหว
และกลัวว่าความสุขนี้จะหมดไป
หรือจะอยู่ได้ไม่นาน
ยิ่งรักมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งหวั่นไหวมากเท่านั้น
ยิ่งผูกพันมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งกลัวมากเท่านั้น...ก็เลยอยู่เป็นโสดซะเลยดีกว่า...อิอิ..สบายใจดี (แต่ที่แน่ๆยังหาไม่เจอเลยนะซิคนที่ทำให้เราหวั่นไหว เฮ้อ!แย่จัง)
ฯลฯ
มีอีกมากมายตอบไม่หมดวันหลังจะมาตอบใหม่จ้ะสาวสุดฮอตตตต
แวะมาทักทาย
มาดูความฮิตฮอตของบันทึกนี้ที่มีอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
....
ตัดเกรดนักศึกษาเสร็จหรือยังครับ
..
กว่าจะอ่านจบ...ปาดเหงื่อไป 3 ที (อากาศร้อน)
บอกตรงๆ ว่าหลงเข้ามา แต่ก็แอบอมยิ้มไปหลายที...
มองต่างมุม แล้วผู้ชายที่อยู่เป็นโสดล่ะ...?
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งปวงคงไม่ต่างกันเท่าไร่
ผมมีเพื่อนๆ ผู้หญิงหลายคนที่แต่งงานแล้วก็หย่า
แล้วก็แต่งใหม่ทั้งที่มีลูกพ่วงอยู่ตั้ง 2 คน
มีเพื่อนที่ทั้งสวย ทั้งน่ารัก สมัยเรียนมีชายหนุ่มมาจีบเยอะ แต่กลับไม่แต่งงานจนเดี๋ยวนี้
มีเพื่อนที่หน้าตาธรรมดาๆ สมัยเรียนไม่โดดเด่น ไม่มีคนมาจีบ แต่พอเรียนจบปุ๊บ แต่งงานปับ
ทุกครั้งที่ผมนัดเจอเพื่อนๆ ก็มักจะเจอคำถามประมาณว่า "ทำไมยังไม่แต่งงานวะ เมื่อไหร่แกจะแต่งงาน"
ตอนที่มีเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนดูหนังเยอะๆ ก็สนุกดี แต่ตอนนี้เพื่อนๆ ต่างก็มีครอบครัว
ทุกวันนี้ผมต้องดูหนังคนเดียว พอเดินออกจากโรงหนังก็รู้สึกเหงาๆ ไม่มีเพื่อนชวนคุย
บ่อยครั้งที่ต้องไปเดินห้างคนเดียว เพราะโทรชวนเพื่อนแล้วไม่ว่าง หรือตามตัวไม่เจอ
ชักจะเหงา-เหงา
หลายๆ คนบอกผมว่า เนื้อคู่ยังไม่เกิดมั้ง
"แล้วจะเกิดเมื่อไหร่ละนั่น ชาติหน้าละมั้ง"
แต่จะอย่างไรก็ตาม... ความรักสามารถมีได้ทุกหนแห่ง
จะชายจริง หญิงแท้ หรือเพศที่ 3 ก็มีรักได้เท่าเทียมกัน
ชื่อหนังเรื่องนี้คงยังใช้ได้อยู่แม้เวลาจะเปลี่ยนไป
"รักออกแบบไม่ได้"
อะ...พิมพ์มาซะยาว ลืมตอบคำถาม
สำหรับเพื่อนๆ ผมที่ยังโสด เคยถามแล้วก็ได้คำตอบประมาณว่า ยังไม่พร้อม หรือ อยู่แบบนี้ก็มีความสุขดี
สำหรับผมก็แค่ยังรักอิสระ และยังไม่อยากมองใคร หลังจากที่ผิดหวังมา 2-3 ครั้ง
สุดท้าย ขอให้ความรักจงอยู่คู่กับทุกคนใน gotoknow