ได้ยินแต่คนพูดคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง บอกตามตรง เป็นกระแสที่ฟีเวอร์ในช่วงนี้
ตอนเช้าอาบน้ำ ใจก็มาคิดถึงเรื่องพอเพียง คำว่าพอเพียงนี้ต้องเริ่มจากการพัฒนาที่ใจคนขึ้นมาเลย โดยเฉพาะหน่วยงานราชการหลาย ๆ แห่ง ที่ต้องพัฒนาในตัวผู้นำโครงการต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ได้งบประมาณมา 100,000 บาท จริง ๆ ก็ใช้ไม่หมด แต่ทำไมต้องแอบใส่ในโครงการต่าง หรือเขียนเกินความเป็นจริง แม้แต่การทำเพื่อโครงการตามกระแสก็ตาม ให้มันครบ 100,000 บาท
ตราบใดที่คนเรายังไม่รู้จักพอดี พอควร พออิ่ม พอประมาณ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งความรับผิดชอบต่อสังคม ก็จะไม่เข้าใจหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ดี ยากที่จะทำให้ชาวต่างชาติมาเข้าใจได้
10 ปากว่า ไม่เท่าตาเห็น 10 ตาเห็นไม่เท่ามือคลำ 10 มือคลำก็ไม่เท่าการกระทำ สำคัญต้องกระทำโดยใช้หลักเหตุผลและคุณธรรมในใจที่มาจากจิตใต้สำนึกที่ดีด้วย
เขียนอย่างใจคิด อาจจะผิดโปรดชี้แนะจะขอบคุณมา
เรียน อ.Ranee
ครูสมพร สอนลิงว่า "เป็นผู้นำ ต้องทำให้ดู ไม่ใช่ ดีแต่พูด" ครับ
เรียนอ.สจิต เอ๊ยขจิต
เห็นอาจารย์บอกครูอ้อยว่าอยากเปลี่ยนชื่อเป็น สจิต จะได้คล้องกับชื่อจริงของครูอ้อย
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่ชมนะค่ะ มีคนชมดีกว่ามีคนว่า เนอะ
ความพอเพียงอยู่ภายในครับ
ในการทำงาน ผมจะของบเต็มที่ และทำงานเต็มที่ และส่วนใหญ่จะได้งานมากกว่าที่เขียนไว้ครับ แล้วก็เอางานนั้ไปต่อยอดไปเรือยๆ อีกต่อครับ
กระบี่อยู่ที่ใจครับ
คุณรานีครับ
ดีใจที่ได้ยินว่ามีคนเอาอย่าง ผมกำลังขาดความมั่นใจว่ามาถูกทางหรือเปล่าครับ
ขอบคุณมากครับ
อาจารย์มีต้นทุนทางสำนึกดีแน่นเปรี๊ยะ
เพียงแต่ยังไม่เอาออกมาปัดฝุ่น
ที่อาจารย์เขียนนั้นตรงเป๊ะทุกอย่าง ใช้สูตร 10 ปากว่า..มาอธิบายก็เข้าใจได้ดี ว่าหัวใจมันอยู่ที่การลงมือทำ
อย่างที่อาจารย์กำลังทำอยู่นี่ไง อาจารย์กำลังบอกตัวเองว่าต่อไปนี้จะลงมือเขียนๆ ผมนะเชื่อมืออาจารย์ล่วงหน้าแล้ว เห็นแววตั้งแต่อาจารย์แซวผมเล็กๆ นี่คือเสน่ห์ของนักเขียน อาจารย์มีที่ลับมีดความคิดอยู่แล้วในตัวเอง ต่อไปมันก็จะคมวาววับเฉียบคมยิ่งขึ้น
อาจารย์ปากหวานได้อย่างพอดี ไม่มากไม่น้อย อย่างที่เขียนลงในบล็อกผมนั้น นั่นก็เป็นตัวพิสูจน์ความพอดีพองาม ถึงไม่บอก ผมก็รักและคิดถึงอาจารย์โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ช่วงอาจารย์หายไปกรุงเทพ เชื่อรึว่าลูกหว้าเขาจะคิดถึงอาจารย์มากกว่าผม โธ่!! พูดแล้วจะหาว่าคุย นักเลงโบราณเขาไม่พูดกันมากหร๊อก ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ก็แล้วกัน นักเลงบ้านนอกน้อยใจนะ
เรียนท่านครูบา
ต้องบอกว่า 10 ขอบคุณก็ไม่เท่าครูบาเข้ามาอ่านแล้วเข้าใจราณี ซาบซี้งจริงๆ ค่ะ
พอเพียงหรือไม่ อยู่ที่ใจจริงๆ ครับ ถ้าไม่โลภ ไปอย่าง sustainable ก็น่าจะดีนะครับ
โครงการธุรกิจ scale เท่ากัน โครงการหนึ่งเป็นแบบพอเพียงเพราะสร้างโครงการบนฐานแห่งความเป็นจริงมีต้นทุนพอเหมาะในการดำเนินการ ขณะที่อีกโครงการไม่ใช่ เพราะโครงการหลังกู้เงินมาเกินตัว อยู่บนฐานที่ง่อนแง่น เจ้าของพยายามผลักดันให้ไปเร็วๆ
แล้ว โปรเจคราชการประเภททำเพื่อเอาใจนาย เพื่อให้นายเห็นโดยเฉพาะ ก็ไม่น่าจะใช่พอเพียงเหมือนกันนะ
เรื่องนี้อยู่ที่จิตสำนึกครับ...
ระบบใด ๆ ก็ควบคุมพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้...
นอกจากพวกเขาจะคิดได้กันเองนะครับ...แต่ก็คงจะยากครับ
ปล. เพลงเพราะครับ
เข้ามาฟังเพลงครับ ไม่กล้าติแต่จะชม และบอกว่าบางครั้งเราก็ต้องพูดออกมาบ้างถ้าบางอย่างไม่ถูกต้อง ถึงแม้จะถูกใจก็ตาม ครับ