หลังเตรียมความพร้อม กันก่อนเล็กน้อย เราก็ไปห้องแลป ด้วยความหวั่นๆและกังวลลึกๆ พบว่าไม่ว่าทีมอยากฟังคุณเล่า หรือทีมอยากเล่าให้คุณฟัง นั่งกันพร้อมหน้า หลังคุณอำนวย(หมอหน่อย)ได้ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการมาพบกันในวันนี้ว่าเราจะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำความสำเร็จไปต่อยอดและให้เกิดบรรยากาศ Happy HA ตามนโยบายของท่านผอ ถ่ายทอดการเล่าความดีอย่างไรไม่ให้ยี้ ของอาจารย์วิจารณ์ พานิช และแนะนำตัวกันจนครบทุกคนแล้ว
ซึ่งความภาคภูมิใจเกิดมาจากทุกๆคน
สรุปการพัฒนาคุณภาพห้องแลป มีทั้งหมด 6 ข้อ
รู้ปรับเปลี่ยน : ปฏิวัติบทบาทด้านการบริหารจัดการ เน้นผู้ป่วยเป็นสำคัญ
รู้จุดหมาย : กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนขององค์กร มุ่งสู่มาตรฐานวิชาชีพ และมาตรฐานโรงพยาบาล
รู้จักตนเอง : ทบทวน วิเคราะห์องค์กร
รู้แนวทาง : กำหนดแผนงานโครงการ
รู้บทบาท : ทีมปฏิบัติการทั้ง 15 ทีม ดำเนินการพัฒนาตามแผนงาน
รู้ปรับปรุง : ติดตามผลและค้นหาโอกาสพัฒนา ทั้งจากผู้รับบริการ ผู้ประเมินจากภายในและภายนอกองค์กร
จากปัญหาที่ผู้รับบริการเพิ่มมากขึ้น บุคลากรเท่าเดิม ได้ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานโดยให้มีเจ้าหน้าที่จากส่วนอื่น เช่น สารบรรณ มาช่วยงานด่านหน้าในช่วงเช้า ให้เพียงพอกับผู้รับบริการ 250 คนต่อวัน ซึ่งต้องให้บริการตั้งแต่การแจกบัตร ลงคอมพิวเตอร์ เจาะเลือด แจกผลมีการประชุมประเด็นที่เป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง staff และหัวหน้างาน มีการอบรมพฤติกรรมบริการ จากการประเมินผลพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนพึงพอใจเพราะมีส่วนร่วม ผลงานเกินเป้า (ความพึงพอใจ 84.75% จาก เป้า 80%)นอกจากนี้ยังมีความฝันที่จะก้าวกันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง one stop service การใช้คอมพิวเตอร์เรียกคิว หรือการ print ผลแลปได้ที่ OPD
เราเรียกกันว่าคุณ สะมะพร ชื่อเรื่องเธอพึ่งนึกขึ้นก่อนประชุม โดยเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ มีการตรวจสอบซึ่งกันและกัน 4 ขั้นตอนก่อนรับงานเอามาทำต่อ ตั้งแต่ก่อนวิเคราะห์ ขณะวิเคราะห์ หรือหลังวิเคราะห์ ได้นำ idea ของพยาบาลที่มีการส่งเวรกัน โดยได้จัดทำสมุดโน้ตปัญหาต่างๆ ให้คนที่รับเวรอ่าน แม้ไม่มีเหตุการณ์อะไร ก็จะมีการบันทึกว่า”วันนี้ปกติสุขดี” ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่จะไม่ค่อยชอบ กลัวการตรวจสอบ แต่พอเห็นข้อดีที่ไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ และเอาไว้เป็นหลักให้นักศึกษาฝึกงานได้เข้ามาช่วยโดยไม่ผิดพลาด จากนั้นทุกคนปฏิบัติจนเป็นวัฒนธรรมองค์กร
70%ของ ของแลปทั้งหมดในโรงพยาบาล เป็น urine analysis เธอเลยคิดลดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยพัฒนา technology การตรวจจาก 4 strip เป็น 10 strip ก็จะทำให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการ review literature
เป็นการวินิจฉัยก่อนคลอด ซึ่งตรวจตาม criteria ของกรมอนามัย โดยครอบคลุมหญิงมีครรภ์มากขึ้นในปีที่ผ่านมา ผลทำให้พบ thalassemia น้อยมากในเด็กรุ่นใหม่อีกเรื่องเป็นการ identify microbacteria ด้วย PCR ซึ่งอยู่ในระหว่างการทำวิจัย โดยเริ่มต้นด้วยเชื้อ TB
คุณเรืองฤทธิ์ มีความภูมิใจทุกครั้งที่ใครกล่าวถึงการเอาผล CD4ที่ทำไปใช้ดูแลผู้ป่วยเอดส์ และผู้ติดเชื้อ เพราะเธอตรวจ CD4 อย่างมีคุณภาพ และผลงานที่ทำเป็นส่วนสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ และเล่าการพัฒนาคุณภาพจากตรวจสอบเอง ตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก เป็นระดับประเทศ จนถึงระดับ international มีข้อมูลหลักฐานย้อนหลัง ตรวจสอบได้ ว่าได้ข้อมูลซึ่งดีกว่าเดิม เ
มีความภาคภูมิใจที่มีส่วนร่วมในสิ่งดี ที่ให้กับผู้ป่วย ญาติ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนถึงชุมชนโรงเรียน โดยมีการตรวจน้ำดื่ม อุปกรณ์ ตรวจเชื้อในอาหารสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย ตรวจสารพิษในผักผลไม้ที่ขายในโรงพยาบาล โดยที่ไม่มีใครทราบแต่เรามั่นใจว่าของในโรงพยาบาลที่เจ้าหน้าที่เราใช้บริโภคจะปลอดภัยเพราะเราตรวจทุก 3 เดือน และตอนนี้เราเริ่มรุกต่อไปชุมชน โรงเรียนแล้ว
มีการพัฒนาระบบ LIS (Laboratory Information System) ใช้ระบบเทคโนโลยีคอมมาประมาณปีกว่า ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาตลอด ทำให้ใช้คนทำน้อยลง ได้งานมากขึ้น และป้องกันความผิดพลาดการสลับคน สลับผลเลือด การรายงานผล ลดความเสี่ยงให้ผู้ป่วยได้มาก
บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง ทุกคนมีความสุขไม่ว่าจะเป็นคนเล่า คนฟัง อยากให้บรรยากาศความสุขนี้อบอวลไปทั่วโฮงยาไทย ของพวกเรา
อ่านเรื่อง AAR ได้ใน บล็อกก่อนหน้านี้ค่า
รายงานโดยหมอติ่ง (วันนี้กำลังจะลงดอยมา ไปทำฟันให้ผู้ด้อยโอกาสค่ะ)
ไม่มีความเห็น