ธรรมฐิต
พระ(มหา) วิชิต ชิต สมถวิล(ฐิตธมฺโม)

การแต่งงานไม่ใช่บทสรุปแห่งความรัก...


ถ้าพูดแบบภาษาสมัยใหม่ช่วงก่อนการแต่งงานคงเรียกได้ว่าเป็นเพียง .. ช่วงโปรโมชั่น..เท่านั้นเอง

วันนี้อากาศสบายๆไม่ร้อนจ้าเหมือนทุกวัน

แต่ตอนนั่งเขียนบันทึกนี้ฝนกำลังเทลงมาอย่างหนักเลยทีเดียว

  ตอนบ่ายมีโยมโทร.มานิมนต์ว่าเดือนหน้ากลับสงขลา

จะนิมนต์ธรรมฐิตไปให้พรลูกในวันแต่งงานหน่อย

เพื่อเป็นข้อคิดไว้ให้คู่บ่าวสาวได้นำไปใช้ดำเนินชีวิต..

ธรรมฐิตมานั่งนึกว่าหนุ่มสาวสมัยนี้แต่งกันง่ายและก็เลิกกันก็ง่าย

เวลาแต่งนิมนต์พระไปด้วย  แต่เวลาเลิกกันไม่ยักนิมนต์

หนุ่มสาวสมัยนี้คงไม่ค่อยเข้าใจความรักดีพอ

 (พูดเหมือนว่าตัวเองช่ำชองดีนักนะ) 

เพราะหลายคู่ชีวิตอาจมองว่าบทสรุปของความรักคือการแต่งงานด้วยกัน

ตามความเป็นจริงแล้วผิดถนัด  ก่อนการแต่งงานต่างคนก็ต่างที่จะงัดเอาในด้านที่ดีมานำเสนอ(โดยเฉพาะฝ่ายชาย) 

ถ้าพูดแบบภาษาสมัยใหม่ช่วงก่อนการแต่งงานคงเรียกได้ว่าเป็นเพียง

  ..ช่วงโปรโมชั่น..เท่านั้นเอง  

แต่หลังจากแต่งงานแล้วต้องคิดเงินตามความเป็นจริง

มีอะไรที่เป็นอีกด้านหนึ่งก็จะแสดงออกมาที่ละนิดหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรับไม่ได้

ก็ต้องจบที่แยกทางเดินจากกันและกัน

บางคู่อาจต้องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็มีมาก

สุดท้ายคนที่น่าสงสารคือเจ้าตัวน้อยที่ทั้งคู่สร้างกันขึ้นมานั่นเอง

ดังนั้นการแต่งงานจึงพูดได้ว่า

..เป็นเพียงจุดเริ่มต้นแห่งความรักของฉันและเธอเท่านั้น..

หาใช่บทสรุปแห่งความรักอย่างที่หลายคนเข้าใจไม่..  

 เรื่องการแต่งงานในพิธีหลั่งน้ำสังข์  คนบุราณมีการสอนธรรมให้ทั้งสองรักกัน  ปรองดองกันไม่แตกแยกกันดังสายน้ำ

จึงมีคาถาให้พรคู่บ่าวสาวไว้ว่า

..อิทัง อุทะกัง วิยะ สังสัฏฐา  อเภชชา  โหถะ..

แปลว่า..ขอเธอทั้งสองจงปรองดองไม่แตกแยกกันเหมือนน้ำนี้เถิด...

ดังที่ ผูกเป็นภาษากวีไว้ว่า

ขอเธอทั้งสอง อยู่ครองสมาน                 ดุจดังสายธาร สะอาดสดใส

สายน้ำมิแยก แตกกันฉันใด                    ขอสองดวงใจ ดุจสายธารเทอญ
         หลังหมดช่วงโปรโมชั่นแล้ว หากคู่ชีวิตคู่ใดคู่หนึ่งประกอบด้วย พรหมวิหารธรรมสี่ประการ คู่ชีวิตนั้นๆ

ก็สามารถจะครองคู่กันได้ยืดยาวอย่างแน่นอน

           ประการแรกคือมีเมตตา  เพ่งความสนใจอันดีงามของคู่ชีวิต เราจะมีความรักแบบเมตตาต่อเขา มีความปรารถนาให้เขามีสุขกายสบายใจ

เรียกว่ามีสุขร่วมเสพด้วยเมตตา

 
ประการที่ ๒ คือกรุณา  เมื่อทุกข์จากการเจ็บป่วยเป็นก็ควรให้ความสนใจต่อความเจ็บป่วยของเขา คู่ชีวิตที่รักกันต้องไม่ทอดทิ้งกันในยามจนและยามเจ็บ ต้องหยัดยืนเคียงข้างช่วยเหลือกันและกันให้ผ่านพ้นปัญหาต่างไปให้ได้

เรียกว่า..มีทุกข์ร่วมต้าน ด้วยกรุณา..
            ประการที่ ๓ คือ มุทิตา ความพลอยยินดี เวลาที่คู่ชีวิตเราประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องแสดงออกถึงความยินดีอย่างจริงใจด้วยมุทิตา คู่ชีวิตกันจะไม่อิจฉาริษยากันเองเพราะมองเห็นความสำเร็จของอีกฝ่ายหนึ่ง

แต่มันเป็นความสำเร็จของส่วนรวมคือครอบครัว ต่างฝ่ายต่างเป็นกำลังใจให้กันและกันเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ  

จนพูดได้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จแห่งกันและกัน

ต้องมีฉันและเธอเป็นกำลังใจให้เสมอ
             
              ประการที่ ๔ คือ อุเบกขา มีใจเป็นกลางวางเฉยต่อสิ่งที่ไม่น่าพอใจหรือสิ่งที่ต่างกันในบางอย่างของคู่ชีวิต เช่น  การศึกษา สังคมและวัฒนธรรม ทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับความแตกต่างนั้นด้วยอุเบกขา

 ต้องยอมให้อีกฝ่ายมีความเป็นตัวของตัวเองบ้างโดยไม่มีการก้าวก่ายจนเกินไป

เพราะบางครั้งการมองข้ามข้อบกพร่อง(ที่ไม่เสียหายต่อกันและกัน)ของกันและกันก็เป็นอุเบกขาอย่างหนึ่งซึ่งช่วยอยู่ด้วยกันได้นาน
และบางคู่ชีวิตญาติสนิทมิตรสหายก็อาจเป็นสื่อให้ปวดหัวได้ถ้าไม่รู้จักวางใจเป็นอุเบกขาด้วยการปรับตัวแปรเปลี่ยนให้ยอมรับซึ่งกันและกัน

ถึงจะไม่ชอบแต่ก็ไม่ต้องรังเกียจ 

 แม้จะมีความแตกต่างแต่ก็ไม่ถึงกับต้องแตกแยก จะเป็นอุเบกขาที่ทำให้คู่ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ไม่ต้องหย่าร้างเพราะอาการเหลืออดเหลือทน
ธรรมทั้งสี่ข้อตัวเราเองเป็นผู้สร้างให้เกิดขึ้นในใจด้วยการกำหนดทิศทางแห่งความสนใจให้เพ่งพินิจไปยังลักษณะแต่ละด้านของคู่ชีวิตซึ่งจะช่วยให้เกิดความรัก ความสงสาร ความพลอยยินดี

และความวางเฉยขึ้นในใจของฉันและเธอขึ้นมาได้
และเป็นหลักพื้นฐานที่จะทำให้คู่บ่าวสาวสามารถปฏิบัติหน้าที่ของฉันและเธอได้อย่างงดงามเลยที่เดียว

หากยอมรับช่วงหลังโปรโมชั่นของฉันและเธอได้ 

ความสุขก็จะตามมาหาเราเอง..

ธรรมะสวัสดีขอรับ..

คำสำคัญ (Tags): #ธรรมฐิต
หมายเลขบันทึก: 298235เขียนเมื่อ 16 กันยายน 2009 19:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 17:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

กราบนมัสการค่ะ

การแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก  ข้อคิดของพระคุณเจ้าช่างตรงใจเสียจริงๆ 

"เวลาแต่งนิมนต์พระไปด้วย  แต่เวลาเลิกกันไม่ยักนิมนต์" พูดเหมือนน้อยใจยังไงไม่รู้... (ล้อเล่นค่ะ)

ความรักของครูใจดี ตอนนี้ก็อยู่ช่วงหลังโปรโมชั่นค่ะ... พยายามทำใจยอมรับพฤติกรรมหลังโปรโมชั่นของกันและกัน... เพื่อความสุขความสบายใจ ถ้าใครทำผิดพลาดไปก็ให้อภัยกัน ถนอมน้ำใจซึ่งกันและกัน  มันจะได้ไม่ทุกข์ ปวดหัวเปล่าๆ

ขอบพระคุณข้อคิดดีๆ ค่ะ

         

สาธุ..คุณครูใจดี..

และขออนุโมทนาให้ได้รับสิ่งดีช่วงชีวิตหลังโปรโมชั่นของคุณครูด้วยขอรับ

เห็นด้วยกับพระอาจารย์ค่ะ ชีวิตแต่งงานหลังช่วงโปรโมชั่นนั้น

พรหมวิหาร 4 เป็นธรรมโอสถที่เยียวยาได้อย่างดีจริงๆค่ะ

โดยเฉพาะ อุเบกขา ดูท่าจะต้องเตรียมไว้มากหน่อยเจ้าค่ะพระอาจารย์

นมัสการด้วยความเคารพค่ะ

  นมัสการ ท่านธรรมฐิต

              ขอถามข้อสงสัยตามแบบกระทู้ที่ท่านให้ตัวอย่างมาค่ะ

ณ  บัดนี้   จักได้อธิบายขยายความแห่งกระทู้ธรรมสุภาษิตที่ลิขิตไว้ เบื้องต้น  พอเป็นแนวทางแห่งการศึกษา และนำไปปฏิบัติสืบต่อไป (ท่องจำไว้เลย)

          (อธิบาย)……(ประมาณ  ๘ -๑๒ บรรทัด)………………………………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

.............................................................................................................................สมกับสุภาษิตที่มาใน……………ว่า ในอะไรคะท่าน

(สุภาษิตอ้าง)………………………………………….

(คำแปล)………………..…………………………….

(เป็นสุภาษิตที่ท่องจำมา) 

          อธิบายความว่า…(ประมาณ  ๗ -๑๐ บรรทัด)……………………………………………………………………………………..……...

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

…………………………………………………………………………………………………....................……...........…...............................................................

......................……………………………...............................................................................………

          สรุปว่า…(ประมาณ  ๔ -๖ บรรทัด)….............………… ......................………… ......................…………………

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

………………………………………………………………………………………….........……………………………………………………………………………………….............

……….......................………......................................................................................

……………………………………สมดังสุภาษิตที่ยกขึ้นเป็นนิกเขปบทเบื้องต้นว่า (ท่องจำ)

คำนี้ นิกเขปบทคืออะไรแปลว่าอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไรจำเป็นต้องใช้หรือไม่ 

(สุภาษิต)………………………………………….

(คำแปล)…………....................................………….

(สุภาษิตข้างบน)

ดังพรรณนามาด้วยประการฉะนี้ฯ (ท่องจำ)

นมัสการ ท่านธรรมฐิต

  สุภาษิตที่ต้องท่อง  ท่านช่วยติวให้หน่อยว่าควรท่องหมวดไหนบ้าง แล้วกระทู้ที่จะเอามาเชื่อมควรเลือกอย่างไร

ขอบพระคุณท่านมากๆ

ขออุโมทนา Giant bird

ฝึกเรียนรู้ทุกขณะอย่างนิ่มนวล

สาธุขอรับ

สาธุคุณครู

สมดังสุภาษิตในที่มาของที่ท่องมาขอรับ..เช่น ธรรมบทขุททกนิกาย

 แต่ควรให้นักเรียนจำคนละอย่างน้อยสองสุภาษิตเพราะเดี๋ยวจะซ้ำกับปัญหา

และเลือกในที่มา ของ  ธรรมบทขุททกนิกาย  จะง่ายหน่อย

จะเลือกหมวดไหนได้ทั้งนั้นขอรับเพราะเข้ากันได้ทั้งนั้น ให้นักเรียนเขียนแบบฟอร์มให้ถูกละกัน

 

นิกเขปบท  คือ  บทสุภาษิตที่ตั้งไว้ตัวแรกของกระทู้นั้นๆ(ซึ่งเป็นสุภาษิตในปัญหา)

สาธุๆๆ

 

 

นมัสการพระคุณเจ้า

  • แวะมาอ่านเจ้าค่ะ
  • หัวข้อสรุปไว้แล้ว...การแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก 
  • กราบขอบพระคุณค่ะ

นมัสการพระคุณเจ้า...แวะเข้ามาอ่านเรื่องดีๆ ได้แง่คิดดีๆ...

เอาไว้ใช้ในชีวิตช่วงหลังโปรโมชั่นเจ้าคะ....

กราบขอบพระคุณคะ...

ขออนุโมทนาให้ชีวิตหลังช่วงโปรฯสุขสดใสขอรับ..พี่ครูกรุณา..

นมัสการเจ้าค่ะ

แวะมาอ่านบันทึกเก่าๆ...เอ้ย บันทึกที่ได้บันทึกไว้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ว่าเนื้อหายังคงความทันสมัย...เพราะโปรโมชั่นยังมีให้เห็นอยู่ตลอดและนับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ

"เวลาแต่งนิมนต์พระไปด้วย แต่เวลาเลิกกันไม่ยักนิมนต์" ระวังนะเจ้าคะ...กิจนิมนต์ท่านอาจจะเพิ่มขึ้น เพราะเกิดมีใครมีความคิดว่าเลิกกันแล้วจะนิมนต์พระไปช่วยปัดรังควาญไล่ความอัปมงคล สงสัยท่านธรรมฐิตคงจะได้รับนิมนต์เป็นรายแรก 555

P๕๕ขอขำก่อนตอบ

ธรรมฐิตเวลาเขานิมนต์ไปงานแต่งต้องพูดก่อนฉัน

ถ้าไม่ให้พูดไม่ไป

เพราะสวดภาษาพระไม่รู้เรื่องหรอก

ต้องสวดภาษาคนด้วย

บ่าวสาวและคนร่วมงานจะได้ข้อคิดสะกิดใจบ้าง

มันเป็นนิสัยธรรมฐิตนะชอบพูดมาก..

สาธุๆๆ

"มันเป็นนิสัยธรรมฐิตนะชอบพูดมาก.."

ดาวเชื่อเจ้าค่ะ...เพราะพระโกหกไม่ได้ จะผิดศีล

กำลังนึกสงสัยว่าถ้าเค้านิมนต์ไปปัดรังควานตอนเลิกกันเนี่ย ท่านธรรมฐิตจะเทศน์ภาษาคนว่าอย่างไรเจ้าคะ?

ปล. พี่นกฝากบอกว่า ถ้าเค้านิมนต์ท่าน เค้าคงไม่ได้หย่ากันเจ้าค่ะ แต่ความเห็นดาวคิดว่า...ก็ไม่แน่ เพราะอีกคนอาจจะเกิดอยากออกผนวชเข้าสู่ทางธรรมก็ได้เจ้าค่ะ

Pขอขำตอนเช้าก่อน..

ตอนหย่ากันยังไม่มีใครนิมนต์เลย..

จะพูดเรื่องไรดีเนาะต้องลองนิมนต์ดูไหมละดาวฟ้า..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท