อย่าเพิ่งตกใจว่าโหดร้ายถึงกับฆ่าแกงกันแต่มันจริงไหมละ
ความสุขของชาวโลกตั้งอยู่บนพื้นฐานของความอยาก เมื่อเกิดความอยากขึ้น ความอยากนั้นแหละจะเข้ามาเผาลนจิตใจ ทำให้มันกระสับกระส่ายร้อนรน มนุษย์จึงไม่สามารถทนต่อความร้อนรนที่เผาลนจิตใจได้ จึงวิ่งเต้นแสวงหาสิ่งต่างๆมาเพื่อประทังความอยากนั้น เมื่อความอยากได้สนองสมใจ ก็เกิดความสบายใจอยู่ชั่วครู่ และในชั่วครู่นี้แหละเหล่ามนุษย์พากันเรียกว่า..ความสุข..แต่ทว่าในไม่ช้าก็เกิดความอยากรุนแรงกว่าเดิมมาเผาลนจิตใจอีก ก็เกิดทุกข์ขึ้นมาอีก จึงวิ่งเต้นแสวงหาสิ่งต่างๆมาสนองความอยากอีก แล้วก็ดำเนินไปอย่างนี้ตั้งแต่เกิดจนตายหามีที่สิ้นสุดไม่ ในที่สุดก็ไม่สามารถที่จะสนองความอยากให้พึงพอใจได้เลย ตายอยากอดอยากอย่างน่าสงสารแทบทุกคนไป สุขชนิดนี้จึงเป็นสุขนิดหน่อย เจือปนด้วยทุกข์ เต็มไปด้วยภาระที่น่ากังวล เต็มไปด้วยความยึดมั่นถือมั่น ไร้ซึ่งอิสรเสรีภาพโดยประการทั้งปวง
ส่วนสุขอีกชนิดหนึ่ง เป็นสุขที่มุ่งกำจัดต้นตอของความทุกข์และความสุขอย่างแรกอย่างสิ้นเชิง ต้นตอคือความอยากนั้น แทนที่ว่าเราจะบำรุงเลี้ยงรักษาความอยาก เราก็กลับมาทรมานความอยากให้อดอยากแล้วจัดการฆ่ามันทิ้งเสียแบบไม่ใยดี เมื่อความอยากตายแล้วความหิวทางใจก็ไม่เกิดขึ้น จิตใจก็อิ่มเอิบสงบทุกเมื่อเชื่อวัน เมื่อไม่อยากก็ไม่ต้องดิ้นรนแสวงหาสิ่งต่างๆมาสนองความอยากอีก จิตใจก็เป็นอิสรเสรีภาพเต็มเปี่ยม นี้คือความสุขตลอดกาล ไม่สามารถจะหาได้จากวัตถุภายนอกใดๆอยู่ในใจเรานี้เอง ความสุขชนิดนี้ฟังดูอาจจะแปลกแตกต่างจากความสุขที่มนุษย์ส่วนมากเข้าใจอย่างสิ้นเชิง บางคนอาจค้านว่าไม่มีทางเป็นไปได้เสียด้วยซ้ำ ควรลงมือพิสูจน์ดูตามแบบอารยชน
แล้วจะรู้ว่าสุขชนิดนี้มีจริงอยู่บนพื้นพิภพนี้หรือไม่
เมื่อใดมนุษย์มีจิตใจอ่อนแอไม่เชื่อมั่นในตัวเอง
เมื่อนั้นพิธีกรรมพิธีการหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ยังจำเป็นอยู่ต่อไป
เมื่อใดมนุษย์ยังมีความต้องการคุณงามความดี
เมื่อนั้นคุณธรรมจริยธรรมก็ยังจำเป็นอยู่ต่อไป
เมื่อใดมนุษย์ยังหาคำตอบที่แท้จริงกับปัญหาชีวิตไม่ได้
เมื่อนั้นคำตอบเชิงปรัชญาของศาสนาก็ยังจำเป็นอยู่ต่อไป
และตราบใดความสุขอย่างแรกที่กล่าวมาข้างต้นยังมีอยู่เป็นอยู่
เมื่อนั้นความสุขอย่างที่สองที่กล่าวมาก็ยังเป็นที่ต้องการของเหล่าปัญญาชนต่อไป
แล้วท่านละต้องการสุขชนิดไหน
เต็มใจจะทรมานมันหรือยัง..
..ธรรมะสวัสดีขอรับ..
สวัสดีครับ ท่านธรรมฐิต
ความเชื่อพิธีกรรมแปลกๆผมว่าเป็นวัฒนธรรมคู่กับคนไทยมานาน
ไม่รู้จะแก้กันอย่างไรนะครับท่านมหา
น้อมคารวะขอรับอาจารย์..
ก็มีทุกแห่งหนขอรับอาจารย์..
"แทนที่ว่าเราจะบำรุงเลี้ยงรักษาความอยาก เราก็กลับมาทรมานความอยากให้อดอยากแล้วจัดการฆ่ามันทิ้งเสียแบบไม่ใยดี"
แล้วสิ่งนี้จะทำได้อย่างไรครับ
กระผมเองคิดว่าสิ่งที่หนียากคือโมหะ บางสิ่งแม้จะรู้ว่ามีความไม่ดีอยู่แต่คนก็ยังไม่อยากจะปล่อยไป จึงยังพัวพันติดอยู่อย่างนั้น
เมื่อสองสามวันก่อนอ่านหนังือของท่านพุทธทาส ท่านกล่าวว่าไสยศาสตร์คือการไม่พึ่งตนเอง และการกลัวสิ่งที่ไม่ควรกลัว สิ่งแปลกๆที่เกิดอยู่ในประเทศเราขณะนี้คงเป็นลักษณะไสยศาสตร์ขอรับ
นมัสการ
กราบนมัสการครับภัณเตธรรมฐิต
การแสวงหาของมนุษย์ไม่มีวันจบสิ้นครับ
บุกไปถึงดวงดาว อวกาศ เพื่อจะหาคำตอบ
เพื่อจะให้ตนเองและเผ่าพันธุ์ตนพ้นทุกข์
ซึ่งก็ยังไม่ได้ข้อสรุป แม้จะทุ่มเทปานใดก็ตาม
การหันมามองชีวิตด้านใน แล้วจัดการลดความต้อง
การที่เป็นส่วนเกินของชีวิตลง เป็นทางแห่งความสุข
สงบและเป็นประโยชน์แก่ัสังคมมากนะครับ...ทุกวันนี้ชาวพุทธเข้า
ใจว่าการปฏิบัติธรรมคือการ นั่งหลับตาทำสมาธิ เสียเป็นส่วนใหญ่
ผู้ที่สงบต้องอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ไม่ข้องเกี่ยวกับใคร ไม่ทำการทำงาน
ซึ่งยังมีผู้หลงผิดแบบนี้อยู่เยอะ หลักธรรมอริยมรรคมีองค์8คือทาง
ปฏิบัติเพื่อความเจริญของมวลมนุษย์ แต่จะมีใครสนใจแค่ไหนเป็นเรื่อง
น่าคิดทีเดียว กราบขอบพระคุณที่ท่านกรุณาไปเยี่ยมครับผม
กราบนมัสการครับ
เพราะเรากลัวไงขอรับจึงหาที่พึ่ง..
น้อมรับด้วยใจขอรับอาจารย์..
สาธุ สาธุ สาธุ
น้อมรับด้วยใจขอรับคุณครู
กราบนมัสการพระคุณเจ้าธรรมฐิต
ตามมาเก็บความอยากไปทรมาน...แล้วจะค่อยๆ ฆ่าเจ้าค่ะ (ฟังดูโหดเหี้ยม จริงๆ ด้วย)
สาธุ....
กราบนมัสการพระคุณเจ้าธรรมฐิตค่ะ
วันนี้ฆ่าไปหลายตัวแต่ดูท่าจะยังเหลือให้ฆ่าอีกเยอะ......โหดร้ายจริงๆ