ผมปลุกทุกคนให้ตื่นนอนด้วยบท เพลงเบา เบา ของ 2 หนุ่ม Singular
เสียงดนตรีที่ไพเราะ เสียงนักร้องก็เข้าท่า และเนื้อหางดงามและตราตรึงใจ
ผมนั่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟ และลูกชาย นั่งอ่านหนังสือการ์ตูน
ภรรยา กำลังทำอาหารเช้าให้ทุกคนอิ่มหนำสำราญ
ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปทำงานและเรียนหนังสือ
ผมได้คุยเรื่องราวต่าง ๆ กับภรรยา โดยเฉพาะเรื่องของเจ้าตัวเล็ก
เจ้าตัวเล็กของผม เท่าที่อยู่ด้วยกันมา 7 ปี สังเกตความสนใจของเขา พบว่า
ชอบอ่านหนังสือ ฟังเพลง และบทกวี เหมือนผม
ชอบตัวเลข ความทันสมัย เหมือนแม่
ชอบต้นไม้ ปลูกข้าว การเกษตรกรรม เหมือนคุณตา
ชอบไปวัด สวดมนต์ เหมือนคุณยาย และคุณย่า
ชอบภาพวาด เหมือนคุณปู่ ที่ล่วงลับไปแล้ว
และเมื่อมารวม ๆ กัน แล้ว....
ผลปรากฏผลสอบปลายภาคของเจ้าตัวเล็ก ได้อันดับที่ 25 จากเพื่อน ๆ จำนวน 36 คน ในชั้น
ซึ่งผม และภรรยา พวกเราคุยกันก่อนหน้านี้ว่า...
ลูกเรียนไม่เก่งไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะที่เขาเป็นแบบนี้
ก็นับว่า เป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่และมีค่าต่อชีวิตของพวกเรา
ไม่ใช่ว่า พวกเราจะไม่ให้ความสำคัญในเรื่องการเรียน
แต่ผมให้ความสำคัญเรื่องนี้มากที่สุด
โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่จะเข้าใจต่อชีวิตผู้อื่น เข้าใจโลก และเป็นคนดี
รวมถึงการมีความสุขในชีวิตของเขาต่อไปให้มากที่สุด
โดยความสุขเหล่านั้น ต้องไม่ทำผิดต่อชีวิตตัวเองและผู้อื่น
ไม่ผิดต่อธรรมชาติ และไม่ผิดต่อกฎหมาย
ผมมองว่า ความสุขของผมเอง ที่จะถ่ายทอดให้ลูกชาย คือ
1. ความสุขที่เกิดจากสิ่งที่ชอบ และการพักผ่อน
2. ความสุขที่เกิดจากการทำงาน
3. ความสุขที่เกิดจากการมีโอกาสให้คนรอบ ๆ ตัวของเรา มีความสุข
4. ความสุขที่เกิดจากความสงบในใจของเรา
ผมบอกไม่ถูกเหมือนกันว่า ... ผมเดินทางมาถูกทางหรือไม่ ?
แต่เชื่อแน่ว่า .... ความรักของพ่อแม่จะติดให้หัวใจของลูก
ตลอดไป แม้ผมและภรรยาจะไม่ได้อยู่ต่อไปในชีวิตข้างหน้าของเขา...
“ …ใจหนึ่งใจจะต้องการอะไร
ให้มันมากมาย ให้มันวุ่นวาย
เพียงเธอนั้น ใส่ใจกันเบาเบา
พอให้สองเราได้ทำอะไรมากมายในตอนนี้
บางเวลาไม่เป็นไร ถ้าเธออยู่ไกล
บางเวลาฉันเข้าใจ ถ้าลืมกันไป
บางเวลาไม่เป็นใจ ก็ไม่ต้องเสียดาย
ปล่อยมันไปก่อนนะ
คิดถึงฉันสักครั้ง เมื่อไม่ได้คิดถึงใคร
ทำตัวตามสบาย แล้วเจอกันในความฝัน
มีเวลาดีๆ ก็บอกให้ฉันได้ฟัง
ไม่มากเกินไปกว่านั้น ค่อยๆ รักกันเบาเบา
เธอกับฉันยังต้องเดินทางไกล
คงไม่สายไป ให้เวลากับใจได้เรียนรู้
คิดถึงฉันสักครั้ง เมื่อไม่ได้คิดถึงใคร
ทำตัวตามสบาย แล้วเจอกันในความฝัน
มีเวลาดีๆ ก็บอกให้ฉันได้ฟัง
ขอเธอแค่เพียงเท่านั้น ค่อยๆ รักกันเบาเบา
ค่อยๆ รักกันเบาเบา…”
มากระซิบน้องพี่เบาๆว่าขอให้มีความสุขนะจ๊ะวันนี้
สวัสดีค่ะ
ทิมดาบน่ารักมากค่ะ หากอยู่ใกล้ต้องถูกยายคิมยืมแน่ ๆ เลยค่ะ
อากาศร้อนมาก แต่ก็ทนได้ กำลังจะออกไปทำธุระให้กับเพื่อนบ้านค่ะ
ถ้าเราไม่มีปัญหารบกวนจิตใจ ทำอะไรก็รู้สึกดี คงเป็นความสุขนะคะยายคิมว่า
แต่ยายคิมไม่รู้ว่าตัวเองทุกข์หรือสุข...ฮา ๆ ๆ ๆ
ขอบคุณที่แวะไปทักทาย นำรูปมาลงให้แล้วครับ http://gotoknow.org/blog/rittichai/434186
ใครกันครับคนนี้ ทาแป้งไม่ปรึกษากำนันเลยนะครับบบบบ
คนนี้นี่เอง เจ้าของบล๊อคตัวจริง 555
- สวัสดีค่ะ คุณหมอ
- เป็นครอบครัวนี่น่ารักและอบอุ่นจังเลยค่ะ
- ชอบมาก ภาพสุดท้ายของน้องทิมดาบ
- ที่โรงเรียน ก่อนกลับบ้าน นักเรียนอนุบาลหน้าจะดูดีเป็นอย่างนี้ทุกคนค่ะ เผลอๆ ก็มีพี่มัธยมแจมด้วยหลายคน
สวัสดีค่ะคุณหมอ'ทิมดาบ'
เป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมากจ๊ะ
สิ่งแรกที่ดึงความสนใจให้เข้ามาอ่านคือคำว่า...เบา เบา... เพราะผมเองก็ชอบเพลงนี้ ชอบทั้งจังหวะ เสียงร้องและที่สำคัญความหมาย...ที่บอกให้เราทำอะไรแบบกลางๆ ไม่ต้องมากมาย ยิ่งพอได้อ่านบันทึกแล้วยิ่งรู้สึกชอบในมุมมองของการสอนลูกอีกด้วยครับ
คิดถึงทิมดาบจังเลยครับ