14 มิถุนายน 2551 เดินทางข้ามสู่วันใหม่ ระหว่างที่วิ่งรถผ่านเข้าสู่โคราช เข้าใกล้เขตบุรีรัมย์ไปเรื่อยๆแล้ว พ่อครูที่เหนื่อยนั่งหลับๆตื่นๆ ได้บอกทางบ้างไม่ได้บอกบ้างผนวกกับโชเฟอร์ที่ไม่คุ้นทาง ทำให้ได้ผลผลิต คือ โชเฟอร์หมดลาน ไปต่อไม่ไหว อัยการชาวเกาะคอยสังเกตอยู่แล้ว น้องชายไม่รอรีลงไปขับรถแทน พ่อครูตื่นมาได้เห็นสักครู่แล้วก็หลับๆตื่นๆต่อไป ฉันเองนั้นนั่งถ่างตาคอยดูบางครั้งตามันลอยไปเหมือนกันค่ะ ตอนนั้นนึกสะท้อนว่า นี่ถ้าน้องชายไม่ได้มาด้วย ฉันคงต้องไปช่วยขับให้แน่นอน ถ้าไม่ให้ขับ เราคงต้องจอดนอนกลางทางกันแน่นอน ใครหนอที่ช่วยไม่ให้ชะตาต้องผจญภัยมากเกินไป
ผ่านมาถึงแยกที่จะเลือกเข้าบุรีรัมย์ อัยการถามขึ้น พี่หมอไปเส้นไหน เออ! ไก่ตาฟางงงบอกไม่ถูกค่ะ พ่อครูได้ยินตื่นมาช่วยบอกไปทางนั้นครับแยกทางนี้ครับ จนกระทั่งเข้าเขตบุรีรัมย์แล้ว พ่อครูปรารภแวะกินข้าวต้มกันก่อนนะครับ แล้วเงียบหลับต่อ วิ่งรถผ่านมาและเห็นบ้านช่องปิดเงียบเสียมาก โชเฟอร์กิตติมศักดิ์ตัดสินใจเอง ดื้อแพ่งคำพ่อวิ่งเข้าบายพาสไม่ผ่านเข้าเมือง พ่อตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินคำถามเข้าสตึกทางไหน เมื่อพ่อบอกว่าให้ยูเทิร์นกลับจึงมองเห็นป้ายไปสตึกกันค่ะ
วิ่งมาไม่นานคราวนี้พ่อตื่น คอยบอกชี้ทาง ฉันนั้นรู้สึกจากไปไม่เกิน 2 เดือน เอ๊ะ! ระยะทางวิ่งผ่านเข้าสวนป่าเปลี่ยนแปลงเยอะนะนี่ พุ่มไม้ละเมาะแตกกิ่งเติบโตเพิ่มความรกตา ทางวิ่งที่เคยเห็นว่าสบายๆ มีต้นไม้มากหลายระรายตลอดทาง ต้องวิ่งระวังไม่ให้ไม้ขีดรถ แถมยังต้องหลบหลุมบ่อบนถนน แม้ระยะทางใกล้ก็ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงจากถนนแดงเข้าสู่สวนป่า ในใจนั้นนึกโชคดีนะนี่มีพ่อครูมาด้วย นี่ถ้ามาเองสงสัยหลงป่าให้โดนแซวทั้งปีก็ไม่จืดค่ะ
เข้าถึงหน้าบ้าน ไฟสว่างให้เห็น มีเงาผู้หญิงนั่งคอยอยู่ค่ะ มิใช่ใครอื่น ป้าจุ๋มเองแหละค่ะ เข้าถึงในบ้าน บรรดาเจ้าสี่ขาพากันดีใจมาสะกิดทักทายไม่ยอมห่างไป จนต้องเล่นกับมันอยู่เป็นพักใหญ่ มันจึงคลายใจ ยอมพากันจากไป น้องๆและเจ๊ศรีขนกระเป๋าขึ้นห้อง เตรียมการเข้านอนกันไปก่อนค่ะ มีแต่ชาวเฮ 4 คน นั่งจิบน้ำชาป้าจุ๋มชงให้และคุยกันต่อ จนราวกว่าตี 2 จึงได้พากันแยกย้ายไปนอน
ตื่นเช้าขึ้นมา แสงสว่างชัดแจ๋ว ป้าจุ๋มตื่นแล้ว แต่ไหงเงียบจัง นึกถึงอึ่งอ๊อบและคนชอบวิ่ง ส่งข่าวไว้ว่าจะถึงตี 4 มีใครไปรับมาแล้วหรือยัง เมื่อคืนนอนดึกหลับสนิทหรือไรจึงไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์อึ่งอ๊อบ ลุกตื่นมากดมือถือดู เอ๊ะ! ไม่เห็นมีโทรเรียกเข้ามา หรือว่าอึ่งอ๊อบจะรอจนสว่างค่อยเรียกเข้ามา เหมือนจะรู้ว่าเมื่อคืนนี้โชเฟอร์เขาหมดลานแล้ว จึงให้เขานอนไม่เรียกให้ไปรับตั้งแต่ตี 4 อาบน้ำแต่งตัวลงมาชั้นล่าง จึงถึงบางอ้อ! มึคนไปรับคนชอบวิ่ง อึ่งอ๊อบมากันแล้วจ๊า เจอหน้าก็โดนแซว สวนป่าแห่งใหม่ที่สุโขทัยเป็นไง คุยกันสักครู่ กินมื้อเช้าด้วยกัน ทีมกระบี่จึงนั่งเล่นนั่งคุยทำความรู้จักกันกับสมาชิกชาวเฮ จนเกือบใกล้เที่ยงคณบดีคณะแพทย์จากม.อุบลราชธานีก็มาถึงค่ะ
คนชอบวิ่ง ฉัน และคณบดีนั่งคุยแลกเปลี่ยนกันค่ะ คนชอบวิ่งถามว่า อาจารย์คาดหวังอยากจะได้อะไร ส่วนฉันถามว่า อาจารย์คิดอย่างไรจึงให้โอกาสน้องนักศึกษาแพทย์มาสัมผัสสวนป่า อาจารย์บอกว่า อาจารย์เคยมาสวนป่าครั้งหนึ่ง มีความประทับใจส่วนตัวรู้สึกว่าดี จึงอยากจะให้ลูกศิษย์มีโอกาสสัมผัสความประทับใจเหมือนที่ตัวเองได้พบ อาจารย์อยากให้ลูกศิษย์ได้เรียนรู้และสัมผัสสังคม ปรับตัวตนให้เป็นแพทย์ที่ไม่ยึดวัตถุเป็นเป้าหมายของชีวิต ฉันฟังแล้วงงๆ โอ้โห ความคาดหวังยิ่งใหญ่นักสำหรับช่วงเวลาสั้นๆที่มา ฉันจึงบอกออกไปว่า ช่วงเวลาที่มามันสั้นนะค่ะ จะหวังว่ามันเปลี่ยนคนทั้งคนทวนกระแสสังคมให้ไม่ยึดติดกับวัตถุ ไม่น่าจะสำเร็จได้
เราคุยกันถึงรุ่นพี่แพทย์หลายคนที่อาจารย์รู้จัก แล้วฉันจึงวกมาเสนอความเห็นว่า ฉันเพียงอยากเห็นคนเป็นแพทย์รุ่นน้องๆมีใจเป็นมนุษย์ การหารายได้ด้วยการทำคลินิกของหมอๆนั้นควรเป็นการทำเพื่อช่วยคนมากกว่าเป็นธุรกิจที่สร้างความร่ำรวย ถ้าช่วยให้เกิดตรงนี้กันได้ ก็น่าจะถือว่าทำงานสำเร็จแล้ว เรื่องเปลี่ยนคนทำยาก เมื่อนักศึกษาแพทย์กลับไปจากสวนป่า สิ่งแวดล้อมที่จะเป็นพิมพ์ให้เห็นมันเป็นคนละเรื่องกันเลยนะค่ะ สวนป่าไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมที่เด็กๆเขาคลุกคลีอยู่ได้ค่ะ อาจารย์ดูเหมือนจะนิ่งไป คนชอบวิ่งสรุปว่า เราได้คำตอบแล้วว่าคาดหวังอะไร แลกเปลี่ยนกันต่อสักครู่ นักศึกษาก็มาถึงสวนป่า เลยเป็นอันว่า ทำความเข้าใจกันแบบไม่สรุปชัดๆกันค่ะ
สวัสดีวันหยุดค่ะพี่หมอเจ๊
คิดว่าพ่อแอบไปมีบ้านใหม่ เอ้ย ไม่ใช่ มีสวนป่าแห่งใหม่ ที่สุโขทัยซะแล้ว
อิอิ
อิลฮามมาอ่านบล็อกของคุณหมอ เลยถามอาบีย์(พ่อ) ว่า ดอกไม้สวยมากค่ะ มีนกด้วยหรือเปล่าค่ะ
ขออภัยครับ ผมลืมย่อรูป
สวัสดีค่ะ อ.หมอเจ๊
สวัสดีค่ะ
เป็นคนแซ่เฮเช่นกัน ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะ มาส่งข่าวด้วย สัปดาห์หน้าจะส่งผ้าไตร ร่วมบุญได้บัญชี ในบันทึกhttp://gotoknow.org/blog/tantirapan/188734
สาธุค่ะ
มาเยี่ยมครับ
สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊
ยัง บ่ เห็นแม้เงา สาวสวย อารมณ์ดี นามว่า เขียว เลยค่ะ