ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลกินเจ
ปีนี้ตรงกับวันที่
11 ตุลาคม –
19
ตุลาคม 2550 รวมเวลา 9 วัน
ซึ่งในปัจจุบันนี้ ผู้คนเริ่มหันมาสนใจเรื่องสุขภาพกันมาก
และเพื่อเป็นการพัฒนา
และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ
ทำให้จำนวนผู้ทานอาหารเจเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ลดการทานเนื้อสัตว์
จะเน้นการทานเพื่อสุขภาพของตนเอง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
โรคความดันสูง ฯลฯ
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ทานเจ เนื่องจากการทานอาหารที่ปลอดเนื้อสัตว์
จะมีคลอเลสเตอรอลที่ต่ำ
จึงช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่าง ๆ เหล่านี้
ความเป็นมา
การกินเจ มีมาตั้งแต่บรรพกาล
ซึ่งชาวจีนถือปฎิบัติเป็นประเพณีสืบต่อกันมาช้านาน
เทศกาลกินเจจะเริ่มตั้งแต่ ๑ ค่ำ ถึง ๙ ค่ำ เดือน ๙
นับตามปฏิทินจีน ซึ่งจะตรงกับเดือนตุลาคมของไทยเรา
ตามตำนานเล่าว่า เมื่อเล่าจื๊อ
ศาสดาแห่งลัทธิเต๋าเกิดขึ้นได้ถือพรตของลัทธิเต๋าแต่นั้นมา
เมื่อก่อนนั้น การกินเจไม่มีการกำหนดว่าจะกินกันเมื่อไร
แต่ถือเอาความสะดวกของผู้กิน
จะกินวันไหน เดือนไหนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว
ผู้คนนิยมกินเจในช่วงไว้ทุกข์
ทั้งนี้เพื่อเป็นการปฎิบัติตนในทางที่ดีงาม
เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย
ต่อมาเมื่อเกิดกบฏไท้เผ้ง
ซึ่งชาวจีนได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านและหวังกอบกู้แผ่นดินจากพวกแมนจู
ผู้ก่อการกบฏ ถูกจับประหารชีวิต ยังความโศกเศร้า
เสียใจให้กับชาวจีนจึงร่วมกันปฎิบัติธรรม โดยกินเจและถือศิล
เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ถูกประหารชีวิต
การกินเจจึงถูกกำหนดให้เป็นเทศกาลตั้งแต่นั้นมา
<div style="text-align: center"></div>
เมื่อถึงเทศกาลกินเจ ชาวจีนจะนุ่งขาวห่มขาว
เพื่อแสดงถึงการตัดกิเลสจากโลกภายนอก ถือศิล กินเจ
โดยปฏิบัติดังนี้
1.
งดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์
อันเป็นเหตุให้ไม่ต้องแสวงหาเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายต่อชีวิตสัตว์
ไม่เบียดเบียนสัตว์ในทุกกรณีรวมทั้งน้ำนมและน้ำมัน
ที่มาจากสัตว์อีกด้วย
2. รักษาศีลห้าและรักษาพรหมจรรย์
3.
ทำบุญทำทาน
4.
รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์
5.
แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายสีขาว
6.
งดเว้นผักที่ให้กลิ่นแรงต่างๆ เช่น ผักชี กระเทียม
หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย
เพราะถือว่าเป็นสิ่งกระตุ้นอารมณ์
เมื่อการกินเจกำหนดเป็นเทศกาลขึ้น และมีกำหนดถึง ๙ วัน
ทำให้เทศกาลกินเจขยายใหญ่ขึ้นทุกที
จนกลายเป็นงานที่ใหญ่และสำคัญอีกอย่างหนึ่งของชาวจีน งานการกุศลต่างๆ
จึงมารวมกันในเทศกาลนี้ เช่น การทิ้งกระจาด
การลอยกระทง
สิ่งเหล่านี้ถูกนำเข้ามาทีหลัง…
<div style="text-align: center"></div>
ในพระพุทธศาสนาฝ่ามหายานมีอรรถาธิบายว่า
"
เป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการะบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล
7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก
2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ด้วยกัน
หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9
อันมี พระอาทิตย์ พระจันทร์
ดาวพระอังคาร ดาวพระพุธ ดาวพระพฤหัสบดี
ดาวพระศุกร์ ดาวพระเสาร์ ดาวพระราหู
ดาวพระเกตุ
"
<p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">
ในพิธีกรรมสักการบูชาพระพุทธเจ้า 7
พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์นี้
สาธุชนในพระพุทธศาสนา ต่างสละเวลาและกิจทางโลกมาบำเพ็ญศีล
ตั้งปณิธานกินเจ บริโภคแต่อาหารผลไม้
งดเว้นอาหารเนื้อสดของคาวด้วยการสมาทานรักษาศีล 3 ข้อ
กล่าวคือ :-
</p>
1 เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์
มาบำรุงชีวิตตน
2
เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์
มาเพิ่มเลือดตน
3 เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์
มาเพิ่มเนื้อตน
เพื่อซักฟอกมลทินออกจากร่างกาย
วาจา ใจ ต่างสวมเสื้อผ้าสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากจุดด่างพร้อย
พากันเดินทางสู่วัดวาอารามพร้อมด้วยดอกไม้ ธูปเทียน
ไปนมัสการน้อมบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และพระพุทธเจ้าทั้ง 7
พระองค์อีกทั้งพระมหาโพธิสัตว์ 2 พระองค์
พร้อมจัดหาเครื่องกระดาษ ทำเป็นรูปทรงเสื้อผ้า,
หมวก, รองเท้า,
กระดาษเงินกระดาษทองต่างๆ ไปน้อมถวายเป็นเครื่องสักการะ
เป็นกุศลสมาทาน (แต่ในอดีต
จะนำวัตถุสิ่งของ เครื่องปัจจัย 4 ไปถวายนักบวช พระเณร
ผู้ทรงศีล และแจกทานด้วยเสื้อผ้าเงินทอง ที่เป็นของจริงๆ แก่คนทุกข์
คนยากจน)
ความหมาย คำว่า "เจ"
คำว่า “เจ”
ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า
“อุโบสถ”
คำว่า
“กินเจ”
ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน
ดังเช่นที่ชาวพุทธในประเทศไทยถือ “อุโบสถศีล”
หรือ
“รักษาศีล
8”
จะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว
แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีล ของชาวพุทธฝ่ายมหายานไม่กินเนื้อสัตว์
จึงนิยมเรียก “การไม่กินเนื้อสัตว์”
ไปรวมกันคำว่า
“กินเจ”
ซึ่งเป็นการถือศีลไปด้วย
ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3
มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า
“กินเจ”
ฉะนั้นความหมายก็คือ
“คนกินเจ”
มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์
แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม
มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ
เป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรมไปด้วยพร้อมกัน
เช่นนี้แล้วจึงจะเรียกว่า “กินเจที่แท้จริง”
ดังนั้น
คำคล้องจองที่เราได้ยินอยู่เสมอ คือ “ถือศีลกินเจ”
จึงนับว่ามีความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ในตัวเองแล้ว
<div style="text-align: center">
</div>
ตามร้านขาย
"อาหารเจ"
เราจะพบเห็นตัวอักษร
คำนี้อ่าน "ไจ"
(เจ)
แปลว่า "ไม่มีของคาว"
เขียนด้วยสีแดงบนพื้นสีเหลืองเสมอ
ในช่วงเทศกาลกินเจเดือน 9
จะเห็นตัวอักษรนี้เขียนบนธงสีเหลือง
ปักอยู่ตามแผงขายอาหารเจมองเห็นเป็นที่สะดุดตาแก่คนทั่วไป
ชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งสิริมงคลแก่ชีวิต
สีเหลืองเป็นสีของผู้ทรงศีล
ดังนั้นผู้ตั้งใจถือศีลบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์
ตัวอักษรนี้ย่อมเป็นเครื่องหมายเตือนสติให้ระลึกไว้เสอมว่า
"การกินเจงดเว้นเนื้อสัตว์ของคาวคือ
การปฏิบัติธรรม
รักษาศีลของความเป็นมนุษย์
เป็นการเจริญมหาเมตตากรุณาธรรมโดยแท้
อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
และก่อให้เกิดสันติสุขแก่ทุกชีวิตบนโลก"
สำหรับตัวผุ้เขียนเอง
ก็รับประทานอาหารเจในช่วงเทศกาลกินเจนี้เช่นกัน
เพราะถือว่าปีหนึ่งมีครั้งเดียว
ก็ไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ อย่างนี้เหมือนกัน
ทานอาหารเจ งดการทานเนื้อสัตว์
เพื่อสุขภาพที่ดี
อีกทั้งเป็นการทดสอบตัวเอง
แถมยังอิ่มบุญอีกต่างหาก
อันที่จริงผู้เขียนเพิ่งเริ่มทานเจแบบเต็ม ๆ ช่วง 3
ปีหลังนี้เอง
(ทานเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจ) แต่สำหรับทุกวันพระ
ผู้เขียนจะลดการทานเนื้อสัตว์ใหญ่
และสัตว์ปีก ยกเว้นอาหารทะเล
ซึ่งก็ทานมาเป็นเวลา 3 ปีแล้วเช่นกัน
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะลดการทานเนื้อสัตว์ใหญ่ทุกวันนะ
แต่ในความเป็นจริงมันค่อนข้างทำได้ยาก
จึงได้แค่ทุกวันพระ
กับช่วงเทศกาลกินเจนี่เอง…
อยากเชิญชวนให้เพื่อน ๆ
ทุกคน มาร่วมทานอาหารเจ
งดเนื้อสัตว์
เพื่อสุขภาพที่ดีในช่วงเทศกาลกินเจกันเถอะค่ะ...
ที่มา
:บางส่วนจากเว็บ
http://www.lib.ru.ac.th/journal/oct/oct_gin-ja-fastival.html
http://www.ocanihao.com/interest7.html
บล๊อกแห่งสุขภาวะ
เข้ามาอ่านได้ความรู้แล้วยังสบายตา สบายใจ
มีความสุข ครับ ผมก็กินเจเหมือนกัน หลายปีแล้ว
ขอบคุณครับ
แวะมาเยี่ยมค่ะ เกือบหาทางเข้าไม่ถูกแน่ะ
สวัสดีครับ...
คำว่า "เจ" ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า "อุโบสถ" คำว่า "กินเจ" ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน
เกี่ยวกันหรือเปล่าครับกัยกรณีที่พระต้องฉันข้าวก่อนเที่ยงเท่านั้น (ฉันเพล)
.....
"คนกินเจ" มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ
ผมยังไม่เคยกินเจ... แต่ก็ให้ความนับถือต่อบุคคลที่กินเจมาก
...
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
9 วันของการกินเจนี่ ใจสบาย และร่างกายก็สะอาดขึ้นนะคะ คิดดี พูดดี ทำดีค่ะ
ประวัติมีอยู่มากมายครับ
ถ้าลอง search ใน Google ดูครับ
มีประวัติต่าง ๆ อีกเยอะครับ