เด็กขี้เกียจ สมุดบันทึก และการขอโดยใช้อุบายผสมกับการขอนิดส์นึง


Appreciative Inquiry : การขอแบบผสมผสาน

ต้องขออภัยทุกท่านมากมายนะครับ ที่เมื่อวานโดดร่มไม่ได้เขียน

พอดีมีสังสรรค์หลังทำงานเสร็จกันนิดส์หน่อยครับ

กลับมาก็หมดสภาพกันเลยทีเดียว แต่ก็ดีใจครับที่งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

เมื่อเช้ามีข่าวดีมากๆมาเล่าสู่กันฟังครับ... สืบเนื่องมาจากบทความเรื่อง Trigoal

ตอนนี้ทางผู้คิดคุ้นคือคุณเฉลิมเกียรติ เลาหัตถพงษ์ภูริ หรือคุณต๊อก ได้อ่านบทความของผมครับ

คุณต๊อก ยินดีที่จะร่วมมือในทุกๆทางครับ เพื่อที่จะทำให้ Trigoal เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

และผมก็สัญญากับคุณต๊อกไว้ตรงนี้เลยครับ ว่าผมก็จะขอเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยผลักดัน

Trigoal ให้ถึงฝั่งฝันให้ได้ครับ... ยินดีมากๆครับที่จะช่วยสนับสนุนความคิดของคนไทย ^^



เรื่องที่น่ายินดีก็ผ่านพ้นไป... กลับมาสู่เรื่องราวที่ติดค้างกันไว้ดีกว่าครับ ( รู้สึกผิดมากมาย T_T )

หลังจากที่ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับ "การขอโดยใช้อุบาย" ก็มีคำถามเข้ามามากมายเลยครับ

คำถามหนึ่งที่น่าสนใจมากๆก็คือ "เอาตัวอย่างอุบายให้ลูกขยันเรียนมาเล่าหน่อยนะคะ"

ได้ยินดังนั้นผมเลยรีบตรงมายังห้องสมุด MBA KKU เลยครับ เพื่อมาหาแหล่งข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง

จะด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็ไม่รู้ ผมเจอแหล่งข้อมูลพอดีครับ... คือพี่สาวคนสวย จบเภสัชฯซะด้วย

เลยลองเข้าไปถามพี่เขาดูครับ... ว่า "พี่พอจะมีอุบาย/วิธีที่ทำให้ขยันเรียนไหมครับ" เพราะเห็นพี่เขาเก่งดี ^^



ปรากฎว่าพี่สาวคนสวยของผมตอบออกมาครับว่า "ตัวพี่เองนี้ละ โดนใช้อุบาย" ได้ยินดังนั้นผมเลยถามต่อ

"พอจะเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ฟังได้ไหมครับ" พี่สาวตอบ "จัดไป... คืออย่างงี้ ต้องบอกกันก่อนว่าตอนเด็กๆ

พี่เป็นคนที่เรียนปึก(ปึกเป็นภาษาอีสาน = โง่)มาก" ผมสวนทันที "อย่างพี่เนี่ยนะ... เคยปึกกับเค้าด้วย ???"

พี่สาวเล่าต่อ
"เคยซิ... ปึกมาก คิดดูตอนประถมในห้องมี 40 คน พี่สอบได้ที่ 39 แถมไม่สำนึกด้วยนะ

มีการบอกอีกว่ายังมีคนโง่กว่าพี่ตั้ง 1 คน... พ่อแม่พี่กลุ้มใจมาก เพราะในบ้านพี่ๆของพี่ก็เก่งๆกันทั้งนั้น

Ent.ติดแพทย์ ติดวิศวะฯกันสนุกสนาน แล้วอย่างพี่จะเอาอะไรไป Ent.ติดจริงป่ะ... ทีนี้ก็ยังปึกอย่างต่อเนื่อง

จนมาถึง ม.1 เทอม 2 เจอจุดเปลี่ยนของชีวิต คือตอนนั้นแม่ของพี่ป่วยเป็นโรคไต และด้วยความที่เราเป็นเด็กเนอะ

เราก็คิดว่าเป็นโรคไตนี่...ตายแน่ๆ... เครียดมากไม่รู้จะทำยังไง ทีนี้มีอยู่วันหนึ่งแม่พี่ก็เอาสมุดเล่มเล็กๆคล้าย Diary มาให้"



ผมถาม "เอามาให้ทำไมอะพี่" พี่สาวเล่าต่อ "แม่พี่บอกว่า ...เนี่ยเป็นสมุดเอาไว้จดเวลาอ่านหนังสือนะ อ่านเท่าไหร่ก็จดไว้เท่านั้น

เช่น- วันนี้อ่านอังกฤษ 1 ชม.ก็บันทึกไปว่า "ภาษาอังกฤษ  .....  1" อ่านเลข 2 ชม.ครึ่งก็บันทึกไปว่า "เลข ...... 2.5" อะไรแบบนี้

พี่ก็ไม่ใช่คนชอบอ่านหนังสือนะ แต่ตอนนั้นแม่ขออะไรเราทำให้หมด ประมาณว่า"เรื่องแค่นี้เองทำไมจะทำให้แม่ไม่ได้"

เลยลองทำดู อาทิตย์แรกๆก็อ่านได้ไม่เยอะหรอก เอาสมุดไปให้แม่ดู แม่ก็บอกว่าอ่านวิชานี้น้อยไปนะ เพิ่มวิชานี้หน่อยดีไหม

พี่ก็ค่อยๆปรับมาเรื่อยๆ ทีนี้เริ่มสนุก" ผมถามต่อ "สนุกตรงไหนพี่" พี่สาวตอบ "สนุกตรงจดเวลานี้ละ คิดตลอดว่าจะทำยังไง

ให้วิชานี้จาก 1 เป็น 3 ได้ วันไหนขี้เกียจอยากไปเล่นกับเพื่อนก็จะอ่านได้น้อย เวลามันก็จะตกทีนี้ จากเคยทำได้ 2 มาเหลือ 1

พอทำไปนานๆ ...ถ้าวันไหนไม่ได้อ่านก็จะรู้สึกผิด... เพราะในสมุดบันทึกมันจะแหว่งหายไปวันนึง ประมาณนั้น ทำไปทำมา

จนในที่สุดก็ไม่ต้องจดแล้ว เพราะมันจัดการเวลาได้หมด แถมยังกลายเป็นคน"ชอบอ่านหนังสือ"ไปโดยไม่รู้ตัว"



ตัดมาที่จุดนี้ครับ... มาดูกับครับว่าพี่สาวของผมติดกับอุบายนี้ได้อย่างไร ตามมาเลยครับ ^^

จะเห็นได้ว่า... พี่สาวคนนี้ตอนแรกปึกมาก ไม่ชอบอ่านหนังสือหรืออะไรทั้งสิ้น สอบได้ที่ 39 ยังไม่สลดอีก - -"

จุดเปลี่ยนอยู่ที่ "การป่วยของคุณแม่" ที่ทำให้พี่สาวของผมเริ่มคิดถึงอนาคต บวกกับคุณแม่ใช้เทคนิค

"การขอโดยใช้อุบาย และการขอนิดส์นึง" คือให้สมุดมาเล่มหนึ่ง (ใช้อุบาย) แล้วบอกว่านี่เป็นสมุดจดเวลาอ่านหนังสือนะ

อ่านได้เท่าไหร่ก็จดไว้เท่านั้น (ขอนิดส์นึง) จังหวะนั้นพี่สาวของผม เพื่อแม่ทำได้ทุกอย่างเลยลองดู ไปๆมาๆกลายเป็นสนุก

วันไหนไม่ได้อ่านจะรู้สึกผิด
(ซะงั้น)  ทำไปเรื่อยๆจนติดกลายเป็นนิสัยรักการอ่านในที่สุด... สุดยอดไหมละครับอุบายนี้  ^^



ยาวไปนิดส์นะครับ
... กับ"การขอโดยใช้อุบายผสมกับการขอนิดส์นึง" สำหรับเด็กๆแล้ว การบังคับเป็นอะไรที่พวกเขา

ไม่ยอมรับและต่อต้าน เมื่อต้องการการเปลี่ยนแปลงลองใข้เทคนิคการขอนิดส์นึงดูครับ เพื่อเป็นการไม่ฝืนใจพวกเขาจนเกินไป

และลองใช้อุบายเล็กๆน้อยๆ อย่างในเคสนี้คือให้สมุดบันทึกเวลา เพื่อทำให้เกิดความคิดที่จะแข่งขันกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว

ผมเชื่อเหลือเกินว่า
... ถ้าปรับใช้เทคนิค 2 อันนี้ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว ลูกหลานของทุกท่านจะติดกับอย่างแน่นอนครับ


แล้วคุณละคิดยังไง ^^

หมายเลขบันทึก: 332167เขียนเมื่อ 30 มกราคม 2010 08:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ก็ดีค่ะ เทคนิคนี้(ขอนิดส์นึง) แต่..(ยังมีแต่อีก)

 ถ้ามีตัวอย่างอื่นก็นำมาฝากอีกหน่อยนะคะ

ขอบคุณมากนะคะที่หาข้อมูลที่มีประโยชน์มาเล่าให้ฟัง

ตอนนี้เริ่มจะเป็นแฟนประจำบล็อกนี้ไปแล้ว

ขอบใจมากคุณไพรัชช์ จะเอาไปใช้กับลูกสาวตัวน้อย

สวัสดีครับ

   เด็กๆเป็นอย่างที่ว่าจริงๆครับถ้าบังคับเขาจะต่อต้าน  ใช้เทคนิคค่อยเป็นค่อยไป  ทั้งเรื่องใช้กลอุบายและขอนิดนึง  ผมลองใช้มาแล้วได้ผลดีครับ  เด็กอ่อนก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นมาได้

     เทคนิคนี้ขอเสริมหน่อยครับ  ต้องมีมุมมองเด็กในทางบวกด้วยครับ

                  ขอบคุณครับ

 

อุบายอันนี้โดนคุณพ่อใช้มาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ

เนื่องจากว่าชามเองก็เป็นคนขี้เกียจ(มากกก)

จนคุณพ่อต้องใช้อุบายเพื่อหลอกล่อให้ทำโน่นทำนี่

กว่าจะยอมทำการบ้านอ่านหนังสือ เฮ้อ!!

กว่าจะมีวันนี้ คุณพ่อกับคุณแม่ต้องเหนื่อยมากจริงๆ ^^"

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

@นาง...มณีวรรณ ตั้งขจรศักดิ์ >>> ได้เลยครับ... ถ้าผมเจอที่เกี่ยวข้องอีก จะมานำเสนอครับ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับที่คุณติดตาม Blog AI-จิตวิทยาการขอ แห่งนี้ ขอบคุณมากครับ ^^

@อาจารย์โย >>> ลองดูครับอาจารย์ ค่อยๆแซกซึมเข้าไป ช่วงแรกอาจจะอ่านได้ 15 นา ครึ่งชม. อะไรก็ว่าไปครับ แต่พอติดเป็นนิสัยแล้ว ที่นี้มันจะเกิดการแข่งขันกับตัวเองขึ้นแน่นอน ไปๆมาๆ ก็จะรักการอ่านไปโดยไม่รู้ตัว สมุดบันทึกก็ไม่จำเป็นแล้วครับจังหวะนี้ ขอบคุณมากครับอาจารยืที่แวะเข้ามา ^^

@อาจารย์ small man >>> ขอบคุณท่านอาจารย์มากนะครับ ที่มาช่วยยืนยันว่ามันได้ผล ใช่แล้วครับ ของแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป ลองมองในมุมมองของเด็กครับ ว่าถ้าเราเป็นเด็กโดนสั่งแบบนี้แล้วจะรู้สึกอย่างไร คิดในด้าน + ของเด็กจะช่วยได้เยอะครับ ^^

@น้องชาม >>> เหอๆ... พ่อแม่เหนื่อยทุกท่านละจ๊ธ กว่าเราๆจะโตมาได้ถึงขนาดนี้ แต่สำหรับพี่ตอนนั้น พ่อพี่บังคับหนะ 555+ พี่เลยไม่ชอบอ่านหนังสือไปเลย ชอบดูหรือฟังคนอื่นเล่าให้ฟังมากก่า จะอ่านก็ต่อเมื่อจำเป็น หรือเรื่องที่สนใจเท่านั้น ขอบใจนะที่เข้ามาแชร์กัน

ก็แสดงความเห็นกันได้เต็มที่นะครับ ความเห็นของท่านเป็นแรงใจให้ผมเป็นอย่างดีครับ

ขอบคุณทุกท่านมากมายครับ ^^

สวัสดีค่ะ

***แวะมาเรียนรู้กับบันทึกดีมีสีสัน

*** ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณมากครับที่แวะมา คุณกิติยา เตชะวรรณวุฒิ

ยินดีมากมายครับ... ดีใจจริงๆที่ได้อ่านคอมเม้น

ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ และจะพยายามนำเสนอสิ่งดีๆที่น่าสนใจต่อไปเรื่อยๆครับ

ติดตามชมกันได้ที่ blog จิตวิทยาการขอ แห่งนี้ ^^

ส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเพราะเป็นคนอ่านหนังสือช้ามากๆๆๆ

ไม่ว่าจะการ์ตูน นิยาย หนังสือเรียน ก็อ่านช้าหมดเลยค่ะ เพราะว่าชอบอ่านให้ละเอียด ถ้าอ่านข้ามไปจะรู้สึกผิดว่า เขาอุตส่าห์เขียนมาเยอะแยะ แต่เรากลับไม่อ่าน ทำให้กลายเป็นว่าอยากอ่านแต่ไม่กล้าจับหนังสือมาอ่านเพราะกลัวว่าอ่านแล้วจะติด พอติดแล้วก็จะอ่านนานๆๆๆๆๆๆ เสียเวลาไปเยอะเลย

ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน

สวัสดีครับท่านเอิร์ท

สงสัยเมื่อวานมัวไปนั้งล้อมขวดวิเศษแน่ๆ เลยทำเอาหมดสภาพ

แต่ไม่เป็นไรอภัยให้ที่เอาข่าวดีมาแลก 

งานนี้ได้ คุณเฉลิมเกียรติ เลาหัตถพงษ์ภูริ ร่วมมือทำให้ Trigoal โลดแน่ๆ

วันนี้ขออภัยผมไม่มีความเห็นเรื่องหลอกเด็ก

เพราะผมชำนาญไม่เท่าท่านเอิร์ท ....ฮา....

เออ...ขอโทษช่วยเติมไม้ยมก (ๆ) ต่อท้ายคำว่า เด็ก ให้ด้วยพิมพ์ตกไป..อิ.อิ.

แต่ผมมีวิธีให้หลานอ่านหนังสืออีกวิธี

ผมจะเอาหนังสือนิทานสำหรับเด็กมาอ่านให้หลานฟัง พอถึงตอนสนุกก็หยุด ถามหลานว่ารู้ไหม ใครได้ม้าวิเศษไป ใครตอบได้จะพาไปกินไอติม(ไอศครีม) ถามเสร็จบอกไปห้องน้ำเดี๋ยวนึ่งแล้ววางหนังสือไว้ บอกกับหลานว่าห้ามใครมาเปิดดูนะเพราะคำตอบอยู่ในนี้ เมื่อกลับมาผมต้องเสียตัวค์เลี้ยงไอติม เพราะทุกคนตอบได้หมด อิ.อิ.เสร็จเรา ปานนี้คงรู้แล้วหละว่าถูกหลอก เพราะทำงานกันหมดแล้ว

ปล.

เรื่อง  Trigoal ติดตามต่อเนื่องนะครับช่วยกันวางเป้าให้ชัดจะได้ลงมือปฏิบัติ 

เรื่อง Trigoal อาจารย์ก็เอาด้วยจะเผยแพร่ในชั้นเรียนให้ครับ

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ ^^

@คุณOrn >>> คุณOrnก็เป็นเหมือนผมครับ... อ่านช้าจนไม่อยากอ่านไปเลย เพราะบางทีเหมือนกันใช้เวลากับมันมากเกินไปอะ ในความรู้สึก ผมเลยกลายเป้นพวกชอบดู มากก่าชอบอ่าน แต่มาพักฟลังๆก็ฌริ่มหาอะไรใหม่ๆมาอ่านบ้างครับ อ.โย แนะนำหนังสือดีๆให้เยอะเลย จึงเหมือนแรงจูงใจในการอ่าน ถึงจะอ่านช้าหน่อย แต่ก็เริ่มจะอ่านบ้างแล้วครับ ^^

@ท่านทนาย >>> แหมๆ ท่านก็พูดเกินไป ผมยังโสดอยู่เลยเดะ 555+ ขอบคุณท่านมากครับที่นำวิธีการดีๆมาแบ่งปันกัน เดี๋ยวผมเอาเรื่องของท่านไปรวมกับอุบายกินผัก แล้วเอาลงอีกที ส่วนเรื่อง Trigoal ตอนนี้ผมส่งเมลล์ไปขอบคุณคุณต๊อกแล้ว และก็ลองปรึกษาหารือถึงสิ่งที่เรากำลังจะทำ อ.ผมสนใจที่จะเชิญท่านมาบรรยายด้วยครับ เป็นอะไรที่แปลกดี

@อาจารย์โย >>> ขอบคุณมากครับอาจารย์... ผมลองส่งเมลล์ติดต่อหาคุณตีอกแล้วนะครับ ได้ผลยังไงเดี๋ยวจะแจ้งให้อาจารยืทราบอีกที ขอบคุณอาจารย์มากครับที่แวะมาเยี่ยม ^^

ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท