"จากลบ กลายเป็นบวก จนเป็นบวกสุดๆ" (ตอน 2)


AI

ถาม: อาจารย์ครับ/ค่ะ AI อะไรก็ว่าต้องคิดบวก แล้ว AI จากด้านลบนี่มีไหม  

ตอบ: มีครับ ลองดูเรื่องนี้ครับ

Discovery วันหนึ่งเมื่อสามสี่ปีก่อน ผมยังจำติดตา ตอนนั้นเป็นช่วงที่เริ่มทำ AI Projects กับนักศึกษาจริงๆ เป็นครั้งแรก (ไม่ใช่สอนอย่างเดียวครับ แต่ลงไปขยายผลกันจริงๆ) แต่ผลยังไม่ออกมาเป็นรูปธรรม ประมาณว่าผมก็ไม่ค่อยแม่นครับ  ผมก็เริ่มคิดการใหญ่ พอดีที่ MBA ให้เสนอหลักสูตรใหม่ ผมเลยเสนอหลักสูตร Appreciative Inquiry เสียเลยครับ วันนั้นเลยเป็นวันที่ผมตกม้าตาย เพราะต่อหน้าผมมีแต่ประเภทกูรุด้านเศรษฐกิจหลายคน บวกกับอาจารย์อาวุโส และระดับปริญญาเอกหลายคน ตอนนั้นยังเรียนป.เอกอยู่ ไปเสนออะไรที่คณะกรรมการไม่เคยได้ยินคือ AI ผมนำเสนอไปทุกท่านก็เมตตาครับ แต่บางคนก็อดขำผมไม่ได้ ผมก็เข้าใจครับ AI เป็นอะไรที่ประหลาดครับ มีเพื่อนอาจารย์ที่เป็นด๊อกเตอร์สองคน พูดอย่างขำครับ "คล้ายๆ  The Secret ใช่ไหมอาจารย์โย" อีกคนก็ถามครับว่า "เรื่องของอาจารย์คล้ายๆ The Tipping Point ใช่ไหม" สรุปแล้วท่านหลังก็บอกว่า AI น่าจะเป็นแค่ Tool ตัวหนึ่ง หรือ แค่ Problem Solving ตัวหนึ่งเอามาเป็นวิชาสอนไม่ได้  น่าจะทบทวนมาใหม่ 

ผมก็น้ำท่วมปากครับ แต่ในที่สุดผมก็พูดคำหนึ่งไปคือ อาจทำเป็นวิชา Positive Organization Development ก็ได้ ชื่อนี้เป็นอีกชื่อของ AI เหมือนกัน ในที่สุดคณะกรรมการก็ยอมรับหลักสูตรใหม่ครับ 

ครับตอนนั้น ผมก็ OK กับชื่อใหม่ แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ครับ อนาคตผมจะสอนวิชา Appreciative Inquiry ให้ได้ครับ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ผมไปโกรธแค้นอะไรกับคณะกรรมการของ MBA ครับ

วันแรกๆหลังจากตกม้าแล้ว ผมรู้สึกผิดหวังมากครับ แต่ผมก็เข้าใจ ผมมักจำประโยคสอนใจประโยคหนึ่งได้เสมอว่า "ถ้าลูกค้าไม่ซื้อของของเรา ไม่ใช่ความผิดของลูกค้าครับ"

ไม่เป็นไร ผมกลับมาเตรียมตัวใหม่ครับ เผื่อมีการปรับปรุงหลักสูตร ผมจำอาจารย์คนหนึ่งพูดคำว่า "...เหมือนๆ The Tipping Point ใช่ไหม" เป็นหนังสือที่เคยคิดอ่านแต่ก็ไม่เคยอ่านซักที เลยรีบกลับมาซื้ออ่านครับ เพราะอนาคตถ้าจะเสนอหลักสูตรอีก ผมต้องต้องผ่านด่านอาจารย์ท่านนี้ให้ได

เมื่อผมอ่านดูปรากฏว่า นี่คือการค้นพบสำคัญที่สุดในชีวิตผมที่เดียวครับ The Tipping Point พูดถึงปรากฏการณ์การระบาดของความนิยมครับ ที่เกิดผ่านตัวละครสามตัวคือ ผู้เชื่อมต่อ ผู้เชี่ยวชาญ และนักขายครับ

นิสัยผู้เชื่อมต่อ สังเกตง่ายๆ คือชอบชวนชาวบ้านไปซื้อโน่นซื้อนี่ ผู้เชี่ยวชาญ คือประมาณว่าเป็นผู้รู้อะไรในเชิงลึกครับ ส่วนนักขายคือพวกขาย Idea เก่ง

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ค้นพบปรากฏการณ์หลายอย่างเช่นกรณีรองเท้า Hush Puppy ที่เดิมแทบขายไม่ได้ แต่อยู่ดีๆก็ยอดขายโตวันโตคืนเป็น 100 เท่า เพราะบังเอิญเจอผู้เชื่อมต่อนั่นเอง

ต่อมาผมได้เอามาเล่าให้กลุ่ม AI ฟัง เราลองนั่งนึกกันก็เจอครับว่าในธุรกิจของแต่ละคนจะเจอคนกลุ่มดังกล่าวเสมอ พวกเราเลยเริ่มค้นหา และนั้งทำ Reflection กันว่า ตอนที่ได้ลูกค้ากล่มนี้มา เราไปทำอะไรให้เขา ปรากฏว่าข้อสังเกตที่เราได้ นำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการธุรกิจได้จิรง และสร้างยอดขายได้มากครับ (ดูกรณีศึกษาของเราที่ www.aithailand.org)    นี่เองที่ผมค้นพบครับ นำมาสู่การขยายผลดังนี้ครับ

Dream

AI Practitioners ควรมีโอกาสสร้างความสำเร็จ จากการค้นพบสิ่งที่ work จากคนสามประเภทนี้  (ผมเรียกรวมๆว่า The Tipping Point) 

Design

ศึกษาร่วมกับ AI Practitioners และส่งเสริมให้ทดลองจริงๆ เพื่อสร้าง case studies

Destiny

ปัจจุบันหนังสือเรื่อง The Tipping Point เป็นส่วนหนึ่งของการ Coach ในกลุ่ม AI Thailand ครับ เราให้อ่านกันเลย มาอ่านร่วมกันศึกษาร่วมกัน เราใช้แทนการ Sampling เลยครับ ถ้าใครอยู่ในกลุ่ม AI Thailand จะพบว่า the Tipping Point เป็นภาษาราชการของเรา และจะได้ยินเรื่องราวการค้นพบ และความสำเร็จจากการศึกษา The Tipping Point ครับ Case ใน AI Thailand ส่วนใหญ่จะสำรวจ และทำ Discovery กับ the Tipping Point ครับ

ค้นพบว่าทุ่นแรงกว่าในการทำ AI เฉยๆ

การทำ AI โดยปรับกระบวนการธุรกิจตาม สิ่งที่เราค้นพบจาก The Tipping Point ส่งผลให้เกิดการเปลียนแปลงที่ให้ผลกระทบมากกว่า แต่ประหยัดต้นทุนครับ

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #appreciative inquiry
หมายเลขบันทึก: 331482เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2010 14:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

   *    AI จากด้านลบ

  *    ผมว่าน่าจะเป็นสุดยอดของเคล็ดวิชา AI เลยนะครับ

   *    ถ้าขยายผล AI  มาจากด้านลบได้  ผมว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เลยครับ

 

หนังสือ the tipping point เป็นหนังสือที่ดีมากๆ ครับ

แต่เป็นหนังสือ (ฉบับแปลไทย) ที่หาซื้อมาอ่านยากอ่ะครับ

แทบจะหาซื้อไม่ได้เลยก็ว่าได้ครับ

ทีแรกผมก็คิดว่าจะเขียนบทความถึงหนังสือเล่มนี้อยู่นะครับ

เพราะผมอยากให้เกิดกระแสครั้งใหม่ของหนังสือเล่มนี้

เผื่อสำนักพิมพ์เขาจะได้พิมพ์ออกมาเป็นครั้งที่สองอ่ะครับ

ขอบคุณอาจารย์ภิญโญ ที่ได้แนะนำหนังสือนี้ให้อ่านครับ

1. ขอบพระคุณท่าน Small Man ครับ ท่านเป็นตัวอย่างของคนคิดดีทำดีครับ เครือข่ายของเราติดตามงานเขียนของท่านอยู่ครับ

2. ตอบคุณ what women want ครับ หนังสือนี้หมดแล้วครับ ผมมีแค่สองเล่มครับ อาจต้องหาตามร้านขายหนังสือต่างจังหวัด สั่งก้ไม่มีครับ

Marven Connector Saleman เป้นอะไรที่ทรงพลังมากครับ

ผมได้ครับการช่วยเหลือจาก Marven ในการพัฒนาธุรกิจของผมแบบฟรี

แล้วผมคิดว่าผู้หญิงทุกคนเป็น Connector ทื่ดี 1:27

แล้วผมก็กำลังหา Saleman ที่ clonning ตัวผมและแนวความคิดของผมได้

นี่ล่ะครับ ธุรกิจของผม

เครือข่ายของเรากลุ่มคุณสววรยาพึ่งสั่งซื้อได้ที่ร้านนายอินทร์ครับ

สวัสดีค่ะอ.โย

ได้ติดตามงานเขียนของท่านและกลุ่ม AI Thailand ในบล็อกมาระยะหนึ่งแล้วค่ะ

แต่ไม่ได้มาทักทายเนื่องจากเรื่องAIเป็นเรื่องที่ใหม่มากค่ะสำหรับตัวเอง

สัสวดีคุณมณีวรรณ พกเราก็ยังใหม่ครับ เรามาเรียนรู้ร่วมกันนะครับ

ขอบคุณค่ะ อ. โย เป็นกำลังใจให้ค่ะ อยากให้มีหลักสูตรวิชา AI ใน MBA ด้วยคนค่ะ

หวัดดีคุณ Orn จริงๆไม่มีก็รู้สึกดีไปอย่าง เพราะคนที่มาทำ IS หรือมาเรียนรู้กับอาจารย์เป็นคนที่อยกามาจริงๆ ไม่ได้บังคับ ไปสอนในชั้นบางทีเขาอาจไม่เต็มใจครับ เลยคิดว่าไม่ต้องมีอาจดีกว่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท