คนสี่ประเภท ข้อคิดเตือนตนจากครูบ้านนอก(1)


Destiny
 

 

 

มีคนสี่ประเภทในชีวิตที่ผมเจอ

คนแรก หย่อนยานกับคนอื่น และหย่อนยานกับตัวเอง นี่คือคนขาดจุดยืน ไร้ที่ยืนในประวัติศาสตร์

คนประเภทสอง หย่อนยานกับคนอื่น และเข้มงวดกับตัวเอง อันนี้ทำงานต้องเหนื่อยหน่อย

ประเภทสาม เข้มงวดคนอื่น แต่ตัวเองหย่อนยาน พวกนี้เยอะโดยเฉพาะคนมีอำนาจ  ทำให้คนขาดศรัทธาต่อภาวะผู้นำ เป็นผู้นำจอมปลอม ครูจอมปลอม

ประเภทที่สี่ เข้มงวดกับคนอื่น และเข้มงวดกับตัวเอง นี่นับได้ว่าปูชนียะ 

 

คุณล่ะคิดยังไง

 
 
คำสำคัญ (Tags): #appreciative inquiry
หมายเลขบันทึก: 332650เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2010 09:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)
  • สวัสดีค่ะ อาจารย์
  • ส่วนใหญ่เจอคนที่เข้มกับคนอื่น แต่ตัวเองหย่อนอ่ะค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณคุณ pa daeng ครับ ผมก็เจอเยอะครับประเภทนี้

สวัสดีครับอาจารย์

ประเภทที่ 4 คงเป็นเป้าหมายของผมครับ

แต่ก็ต้องพัฒนาเรียนรู้ไปเรื่อยๆครับ

ตึงๆ หย่อนๆ ทางสายกลาง ต้องหาสมดุลให้ได้ แต่ก็ต้องมีวินัยในตัวเอง

เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ

ในชีวิตจริงเจอมาแล้ว 3 ประเภทครับ ส่วนประเภทที่ 4 เจอในหนัง

ประเภทแรกหาได้ทั่วไปตามท้องตลาดครับ... พวกที่วันๆไม่ทำอะไรนอกจากตื่น กิน เที่ยว หาความสุขให้กับตัวเองเท่านั้น

ประเภทที่ 2 สามารถพบได้ในกลุ่มผู้นำที่มีความเกรงใจ อาจจะเป็นเพราะผู้ร่วมงานเป็นเพื่อนสนิท หรือไม่ก็มีอายุมากกว่า

ผู้นำเหล่านั้นจึงคิดว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวทำเองก็ได้ แถมงานออกมาเร็วและดีกว่าไปรอพวกเพื่อนเอื่อยๆอีก

ประเภทที่ 3 อันนี้เห็นเยอะมากกกก ในสังคมที่ยึดวุฒิภาวะเป็นใหญ่ คนดีก็ดีไปครับ แต่ส่วนใหญ่พอมีอำนาจแล้ว จากเคยปฎิบ้ติจะกลายเป็นชี้นิ้วสั่ง เพราะเคยชินกับอำนาจและความสบาย จนลืม basic สำคัญในการเป็นผู้นำคือ ต้องทำให้ลูกน้องดูเป็นตัวอย่างก่อน

ประเภทสุดท้ายเคยเจอในหนังเรื่อง Good Luck ครับ เป็น Series เกี่ยวกับนักบิน คนที่ผมพูดถึงในเรื่องชื่อ โทดะครับ เป็นกัปตันนักบิน พ่วงด้วยตำแหน่งผู้ตรวจสอบ การทำงานของเขาจะยึดให้ผู้โดยสารปลอดภัยไว้ก่อน คือจะเข็มงวดทั้งกับตัวเอง และก็นักบินคนอื่นๆ คือแม้แต่เป็นหวัดก็จะไม่ให้ออกปิด เพราะถือว่าร่างกายไม่เต็มร้อย อะไรแบบนี้ครับ

ในสังคมนี้มีคนมากมายป่ะปนกันไปครับ... ประเภทที่ 1 กับ 3 จะพบเจอได้มากหน่อย

ร้อยพ่อพันแม่ต่างการอบรมเลี้ยงดู... ถ้าในองค์กรเจอคนประเภทที่ 2 กับ 4 มากๆ โดยเฉพาะ 4 องค์การนั้นไปไกลแน่นอนครับ

ขอบคุณอาจารย์สำหรับความรู้ครับ ^^

ขอบคุณคุณ Phornphon คุณกำลังพูดภถึงกุศโลบาย น่าสนใจครับ ผมจะเขียนต่อคร

Earth คุณพูดได้น่าสนใจครับ ผมว่าหนังญี่ปุ่นสอนคนเรื่องอย่าวนี้เยอะนะครับ หนังไทยไม่ค่อยมีเลย มีไหมถ้ามีบอกด้วย

เรื่องนี้จะต่อยอดเป็นกลยุทธ์เชิง AI ในโอกาสต่อไป (เคยใช้ได้ผลมาแล้ว)

เอ สงสัยตัวเองจะอยู่ประเภทไหนน้า สงสัย ปนๆกันไป แล้วแต่แต่ละเรื่อง ขึ้นกับสถานการณ์ค่ะ

สำหรับตนเองเคยเจอมาทั้งสี่แบบค่ะ  มีข้อสังเกตดังนี้

  • แบบที่ ๑  ไร้คนสนใจใส่ใจข้อคิดเห็นที่เขาเสนอมา
  • แบบที่ ๒  เป็นที่สนุกสนานในวงนินทากาเล มักถูกหยิบยกมาพูดถึงเสมอๆ
  • แบบที่ ๓  ขาดการได้ใจจากผู้อื่น หากเป็นนายไม่ได้ใจลูกน้อง มักถูกประชด
                 ประชันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
  • แบบที่ ๔  มักเป็นที่ชื่นชมเมื่อผลจากการที่เข้มงวดได้ผลผลิตไปในทางที่ดี

เป็นมุมมองส่วนตัวเพียงมุมหนึ่งเท่านั้นค่ะ เรื่องแบบนี้หากพูดจริงๆคงต้องใช้เวลาอีกอักโข

.............................................................

ขอบพระคุณค่ะ

***มีอุบัติเหตุรุนแรงในชีวิต เลยชักถอยร่นมาอยู่แบบที่ 1 ค่ะ เศร้าจัง

*** ขอบคุณที่ทำให้ได้คิดค่ะ

ตอบพี่ใบบุญ เห็นด้วยครับ ผมว่าขึ้นกับสถานการณ์ พี่กำลังพูดคล้าย Situational Leader ครับ ผมจะเขียนต่อในวันหลัง

ตอบคุณกิติยา ผมก็เคยถอยครับ พอได้คิดคราวนี้ไปได้ดีมาก ผมจะเล่าในตอนต่อไป แต่อย่างไร ขอเป็นกำลังใจครับ มารไม่มีบารมีไม่เกิดครับ

ตอบครูแป๋ม ผลของการใช้ชีวิตของ คนสี่ประเภทื่คุณครูพูดนี่คล้ายๆกับที่ผมเจอในชีวิตจริงครับ

ขอบคุณบันทึกดีดีค่ะ

ยืดหยุ่นบ้างได้ไหมคะท่าน

ขอคำปรึกษาค่ะ

ตอบครูจิ๋ว

ครับได้ครับ คอยติดตามตอนต่อไป ผมจะตอบคำถามนี้ครับ

เรื่องนี้ขึ้นกับปัจจัยหลักๆ ในหลายมิติ

เช่น ระดับวิสัยทัศน์ของเรา ความท้าทาย ภัยคุกคามครับ

นับถือ

อ.โย

  • การที่เขาเป็นแบบนี้ น่าสนใจมากนะคะ ที่จะเรียนรู้ที่มาของพวกเขา
  • ขอบพระคุณค่ะสำหรับการให้ความรู้เกี่ยวกับผู้คนที่แตกต่างกัน

ตอบคุณ Sila ครับ ผมจะเขียนตอบในตอนต่อๆไปนะครับ บางคนผมก็รู้ที่มา บางคนก็ไม่ แต่คงจะไม่ว่าถึงที่มาครับ จะพูดถึงตัวปรากฏการณ์และการแก้ไขเชิงประสบการณ์ครับ

บางครั้งการเข้มงวดกับผู้อื่นมันก็ยากที่จะทำได้อ่ะครับ แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ซะเลย

ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับเทคนิคในการสร้างแรงจูงใจให้กับคนๆ นั้นอ่ะครับ

เพราะเวลาที่ผมทำรายงานกลุ่ม ผมจะไม่บังคับให้ใครมา ไม่เข้มงวดกับเพื่อน (เพราะกลัวเขาจะเครียดกับงานจนเกินไป)

ผมจะเน้นที่การสมัครใจมาทำมากกว่า ใครอยากรับผิดชอบงานอะไรก็เลือกไปทำเอง

แต่ถ้ามีการเกี่ยงกันหรือไม่มีใครเลือก ผมก็จะเป็นคนเลือกให้ว่าใครจะเป็นคนทำงานอะไรแทน

ทั้งนี้เพราะผมคิดว่า เวลา่ที่คนเราตั้งใจจะมาทำงานนั้น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ที่ดีกว่า

การไปเข้มงวดหรือไปบังคับให้เขาต้องมาทำงานอ่ะครับ

"ขอบคุณครับ"

ตอบคุณ What women want?

คุณกำลังพูดถึง Extrinsic Motivationครับ ขอบใจมาก ผมได้เรื่องเขียนต่อแล้วครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท