มีคนสี่ประเภทในชีวิตที่ผมเจอ
คนแรก หย่อนยานกับคนอื่น และหย่อนยานกับตัวเอง นี่คือคนขาดจุดยืน ไร้ที่ยืนในประวัติศาสตร์
คนประเภทสอง หย่อนยานกับคนอื่น และเข้มงวดกับตัวเอง อันนี้ทำงานต้องเหนื่อยหน่อย
ประเภทสาม เข้มงวดคนอื่น แต่ตัวเองหย่อนยาน พวกนี้เยอะโดยเฉพาะคนมีอำนาจ ทำให้คนขาดศรัทธาต่อภาวะผู้นำ เป็นผู้นำจอมปลอม ครูจอมปลอม
ประเภทที่สี่ เข้มงวดกับคนอื่น และเข้มงวดกับตัวเอง นี่นับได้ว่าปูชนียะ
คุณล่ะคิดยังไง
ขอบคุณคุณ pa daeng ครับ ผมก็เจอเยอะครับประเภทนี้
สวัสดีครับอาจารย์
ประเภทที่ 4 คงเป็นเป้าหมายของผมครับ
แต่ก็ต้องพัฒนาเรียนรู้ไปเรื่อยๆครับ
ตึงๆ หย่อนๆ ทางสายกลาง ต้องหาสมดุลให้ได้ แต่ก็ต้องมีวินัยในตัวเอง
เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
ในชีวิตจริงเจอมาแล้ว 3 ประเภทครับ ส่วนประเภทที่ 4 เจอในหนัง
ประเภทแรกหาได้ทั่วไปตามท้องตลาดครับ... พวกที่วันๆไม่ทำอะไรนอกจากตื่น กิน เที่ยว หาความสุขให้กับตัวเองเท่านั้น
ประเภทที่ 2 สามารถพบได้ในกลุ่มผู้นำที่มีความเกรงใจ อาจจะเป็นเพราะผู้ร่วมงานเป็นเพื่อนสนิท หรือไม่ก็มีอายุมากกว่า
ผู้นำเหล่านั้นจึงคิดว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวทำเองก็ได้ แถมงานออกมาเร็วและดีกว่าไปรอพวกเพื่อนเอื่อยๆอีก
ประเภทที่ 3 อันนี้เห็นเยอะมากกกก ในสังคมที่ยึดวุฒิภาวะเป็นใหญ่ คนดีก็ดีไปครับ แต่ส่วนใหญ่พอมีอำนาจแล้ว จากเคยปฎิบ้ติจะกลายเป็นชี้นิ้วสั่ง เพราะเคยชินกับอำนาจและความสบาย จนลืม basic สำคัญในการเป็นผู้นำคือ ต้องทำให้ลูกน้องดูเป็นตัวอย่างก่อน
ประเภทสุดท้ายเคยเจอในหนังเรื่อง Good Luck ครับ เป็น Series เกี่ยวกับนักบิน คนที่ผมพูดถึงในเรื่องชื่อ โทดะครับ เป็นกัปตันนักบิน พ่วงด้วยตำแหน่งผู้ตรวจสอบ การทำงานของเขาจะยึดให้ผู้โดยสารปลอดภัยไว้ก่อน คือจะเข็มงวดทั้งกับตัวเอง และก็นักบินคนอื่นๆ คือแม้แต่เป็นหวัดก็จะไม่ให้ออกปิด เพราะถือว่าร่างกายไม่เต็มร้อย อะไรแบบนี้ครับ
ในสังคมนี้มีคนมากมายป่ะปนกันไปครับ... ประเภทที่ 1 กับ 3 จะพบเจอได้มากหน่อย
ร้อยพ่อพันแม่ต่างการอบรมเลี้ยงดู... ถ้าในองค์กรเจอคนประเภทที่ 2 กับ 4 มากๆ โดยเฉพาะ 4 องค์การนั้นไปไกลแน่นอนครับ
ขอบคุณอาจารย์สำหรับความรู้ครับ ^^
ขอบคุณคุณ Phornphon คุณกำลังพูดภถึงกุศโลบาย น่าสนใจครับ ผมจะเขียนต่อคร
Earth คุณพูดได้น่าสนใจครับ ผมว่าหนังญี่ปุ่นสอนคนเรื่องอย่าวนี้เยอะนะครับ หนังไทยไม่ค่อยมีเลย มีไหมถ้ามีบอกด้วย
เรื่องนี้จะต่อยอดเป็นกลยุทธ์เชิง AI ในโอกาสต่อไป (เคยใช้ได้ผลมาแล้ว)
เอ สงสัยตัวเองจะอยู่ประเภทไหนน้า สงสัย ปนๆกันไป แล้วแต่แต่ละเรื่อง ขึ้นกับสถานการณ์ค่ะ
สำหรับตนเองเคยเจอมาทั้งสี่แบบค่ะ มีข้อสังเกตดังนี้
เป็นมุมมองส่วนตัวเพียงมุมหนึ่งเท่านั้นค่ะ เรื่องแบบนี้หากพูดจริงๆคงต้องใช้เวลาอีกอักโข
.............................................................
ขอบพระคุณค่ะ
***มีอุบัติเหตุรุนแรงในชีวิต เลยชักถอยร่นมาอยู่แบบที่ 1 ค่ะ เศร้าจัง
*** ขอบคุณที่ทำให้ได้คิดค่ะ
ตอบพี่ใบบุญ เห็นด้วยครับ ผมว่าขึ้นกับสถานการณ์ พี่กำลังพูดคล้าย Situational Leader ครับ ผมจะเขียนต่อในวันหลัง
ตอบคุณกิติยา ผมก็เคยถอยครับ พอได้คิดคราวนี้ไปได้ดีมาก ผมจะเล่าในตอนต่อไป แต่อย่างไร ขอเป็นกำลังใจครับ มารไม่มีบารมีไม่เกิดครับ
ตอบครูแป๋ม ผลของการใช้ชีวิตของ คนสี่ประเภทื่คุณครูพูดนี่คล้ายๆกับที่ผมเจอในชีวิตจริงครับ
ขอบคุณบันทึกดีดีค่ะ
ยืดหยุ่นบ้างได้ไหมคะท่าน
ขอคำปรึกษาค่ะ
ตอบครูจิ๋ว
ครับได้ครับ คอยติดตามตอนต่อไป ผมจะตอบคำถามนี้ครับ
เรื่องนี้ขึ้นกับปัจจัยหลักๆ ในหลายมิติ
เช่น ระดับวิสัยทัศน์ของเรา ความท้าทาย ภัยคุกคามครับ
นับถือ
อ.โย
ตอบคุณ Sila ครับ ผมจะเขียนตอบในตอนต่อๆไปนะครับ บางคนผมก็รู้ที่มา บางคนก็ไม่ แต่คงจะไม่ว่าถึงที่มาครับ จะพูดถึงตัวปรากฏการณ์และการแก้ไขเชิงประสบการณ์ครับ
บางครั้งการเข้มงวดกับผู้อื่นมันก็ยากที่จะทำได้อ่ะครับ แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ซะเลย
ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับเทคนิคในการสร้างแรงจูงใจให้กับคนๆ นั้นอ่ะครับ
เพราะเวลาที่ผมทำรายงานกลุ่ม ผมจะไม่บังคับให้ใครมา ไม่เข้มงวดกับเพื่อน (เพราะกลัวเขาจะเครียดกับงานจนเกินไป)
ผมจะเน้นที่การสมัครใจมาทำมากกว่า ใครอยากรับผิดชอบงานอะไรก็เลือกไปทำเอง
แต่ถ้ามีการเกี่ยงกันหรือไม่มีใครเลือก ผมก็จะเป็นคนเลือกให้ว่าใครจะเป็นคนทำงานอะไรแทน
ทั้งนี้เพราะผมคิดว่า เวลา่ที่คนเราตั้งใจจะมาทำงานนั้น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ที่ดีกว่า
การไปเข้มงวดหรือไปบังคับให้เขาต้องมาทำงานอ่ะครับ
"ขอบคุณครับ"
ตอบคุณ What women want?
คุณกำลังพูดถึง Extrinsic Motivationครับ ขอบใจมาก ผมได้เรื่องเขียนต่อแล้วครับ