จากความเดิมค้างไว้ที่ หยุด หยุดคิด
เรานิ่งแต่ไม่ได้ทิ้งเฉย
เรา-ทุกคนในหน่วยงาน นัดกันมาคุยหรือสางปมด้ายที่ยุ่งเหยิง
ประเด็นที่เรา เคยคิดว่า
มันน่าจะเป็นแบบนี้
คำเสนอของเรา ชัดเจนอยู่แล้ว
งานของฉันสำคัญ อ้าว..ก็ ระดับนายใหญ่สุดก็รับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะให้ งบ เพื่อซื้อ เครื่องใหม่
แล้วนี่ยังไม่ให้ ทำไม ทำไม และทำไม
จึง ตั้งสติใหม่
ประเด็นนี้ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
รูรั่วตรงนี้ เราอุดแล้วอุดอีก..
รื้อใหม่ ประชุมแบบบ้าน ๆ ใหม่ (ในร้านส้มตำ)
ลองดู เอาสิ ตามข้อเสนอ
ของ(เครื่องมือ)ถ้าเสนอ สี่ชิ้น มันไม่เข้าตากรรมการ(เงินน้อยลง)
ตัดตัวไหน พอได้
ลองรื้อเรื่องเดิม ๆ ของเครื่องมือที่เก่าเก็บ โบราณวัตถุ ช่างยังไม่รับซ่อม เหมือนเซียงกง ไม่รับซื้อซาก รถยนต์
เดินไปให้ช่างเก๋า ๆ ของหน่วยงาน ดูแบบผู้ชำนาญการ คือ ลองดู ลองถอดชิ้นนี้ ใส่ชิ้นโน้น..
สูงสุดคืนสู่สามัญ
ลองทำบางขั้นตอน ด้วยสองมือและมันสมอง เติมความจริงใจ(ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติการ) และขนมนมเนยอภินันทนาการจากเรา (เขาเรียกว่า..ผู้ช่วยของผู้ช่วยคุณเอื้อ กระมัง)
มันได้ผล..แฮะ
ได้เฮกัน เหมือนตอนแข่งหมากรุกระหว่างหน่วยเลย
เมื่อเราวางประเด็น(หลีกเลี่ยงคำดั้งเดิมว่า"ปัญหา") นั้น ๆ ไว้ก่อนระยะหนึ่ง
เดินถอยหลัง เลี่ยงออกมาสอง-สามก้าว
ระดมความคิด ระดมขนม..เอ๊ย สมองหลาย ๆ ระดับผู้ปฎิบัติงาน
สวดมนต์ (มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งทำอย่างนี้จริง ๆ)
มันกลับเหมือนทางมันเปิดโล่ง กระจ่าง มองเห็นทางออก
มองเห็นแนวทาง ไปคุยกับคนโน้น..ลูกค้าภายในหน่วยงานเรา-สำคัญสุดให้มาเป็นพันธมิตร
ไปพบท่าน ใหม่
และไม่ลืมเล่าให้ฟังถึงวิธีที่ได้ลองทำ
มันทำได้ แต่สารเคมีเหล่านี้จะทำลาย แทรกแซงและสะสมในร่างกายของพวกเราขนาดไหน
ท่านยอมไม่ได้ ถ้าใครต้องป่วยเพราะการงาน สารเคมี
แฮปปี้ เอ็นดิ้งค่ะ ด้วยความซึ้งใจ
ไชโย
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย