Praepattra
ผู้ช่วยศาตราจารย์ Praepattra Kiaochaoum

การพัฒนาสุขภาพจิตด้วยกรรมฐานในวิถีพุทธ


            โครงการ การพัฒนาสุขภาพจิตด้วยกรรมฐานในวิถีพุทธ” กระทรวงสาธารณสุข ขอเชิญเพื่อนๆ ร่วมถวายสังฆทานอาหารสด ปฏิบัติธรรม ทำสมาธิบำบัดโรค กับหลวงพ่อพระอาจารย์อารยะวังโส วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (จ.ลำพูน) และฟังบรรยายธรรม หลวงพ่อท่านจะให้คำปรึกษาด้านภาวะการเจ็บป่วยและด้านสมาธิบำบัดด้วยนะคะ  ดีมากเลยค่ะ  ต้องมาให้ได้นะคะงานนี้  มีพระสงฆ์ 5-9 รูป  จากวัดป่าฯ มาด้วยค่ะ

จากการตามติดและติดตามทำบุญกับหลวงพ่อ มาสักพัก  เราขอแนะนำที่นี่ค่ะน่าสนใจมาก  คือ  กระทรวงสาธารณสุข ณ ห้องประชุมไพจิตร  ประบุตร  อาคาร 7  ชั้น 9  ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำบุญครบค่ะ ทั้งทาน  ศีล ภาวนา  ปฏิบัติธรรมทั้งนั่ง ยืน เดินในห้องแอร์ เย็นสบาย สงบ สุขค่ะ

หลวงพ่อสอนอะไร

เดือน ธันวา 51 พระอาจารย์สอนเรื่อง  การแผ่เมตตา 7 ชั้น  ดีมากค่ะ
เดือน มกรา 52 พระอาจารย์สอน การฝึกนั่งสมาธิโดยใช้วิธีนับ (หายใจเข้า พุธ 1 หายใจออก โธ นับ 1 ไปจนถึง แล้วก็นับย้อนใหม่ หายใจเข้า พุธ 5 หายใจออก โธ นับ 5 ไปจนถึง 1)
เดือน กุมภา ไม่ได้ไปค่ะ

เดือน มีนา เค้างดจัดค่ะ          

            เดือน เมษายน  ต้องมาฟังด้วยตนเองค่ะ

นอกจากนั้น  หลวงพ่อท่านจะสอนธรรมอีกหลายเรื่อง  น่าสนใจมากๆค่ะ  ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เคร่งวินัยมากๆ ก็จะสอนการปฏิบัติที่ถูกต้องตามพระไตรปิฎกด้วยค่ะ

          สิ่งที่ต้องเตรียมมานะคะ

1.      อาหารสดค่ะ ทั้งคาวและหวาน ไทยและเทศ น้ำดื่ม  นมเปรี้ยว ฯลฯ ไว้ทำบุญ และเตรียมเผื่อเราทานเองด้วยนะคะ

2.      หนังสือสวดมนต์  ไว้สวดมนต์ทำวัตรเช้าด้วยกันค่ะ จะมีบทสวดมนต์ที่ใช้สวดแจกหน้าห้องประชุมด้วยนะคะ  ตอนลงทะเบียน

3.      พวงมาลัยดอกไม้สด  ไว้ถวายพระอาจารย์ค่ะ

4.      จาน ชาม ช้อน แก้ว ที่นี่เค้าเตรียมให้ค่ะ แต่อาจมีไม่พอ ถ้ามีคนมาร่วมเยอะ  เอาของตัวเองมาได้ก็สะดวก สบาย สวยงามดีค่ะ

5.      ใส่ชุดขาว เสื้อ กางเกง เพราะถวายอาหารเสร็จแล้ว  เราจะฟังธรรมและปฎิบัติกรรมฐานกันค่ะ ห้องประชุมติดแอร์นะคะ  ใครที่ไม่ชอบอากาศเย็นๆ ควรมีเสื้อคลุมและผ้าพันคอ สีขาวติดมาค่ะ

ข้อสังเกตของเรานะคะ

1.   ควรมาก่อนงานเริ่มนะคะ (8.30) เตรียมเอาอาหารใส่ภาชนะ จัดวางให้เรียบร้อย  เมื่อหลวงพ่อมาถึง และท่านกำลังพูด ไม่ควรเดินเข้าเดินออก จัดอาหาร  เพราะจะโดนท่านว่าออกไมด์  (มีคนเจอมาแล้วค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน)

2.   ท่านชอบฉันผัก น้ำพริก เห็ด อาหารเพื่อสุขภาพ มากกว่าเนื้อสัตว์นะคะ น้ำเต้าหู้ น้ำผลไม้นำมาถวายก็ดีนะคะ  ส่วนขนมปังต่างๆ ท่านก็หยิบใส่บาตรพิจารณาค่ะ อาหารเห่านี้ควรเตรียมมานะคะ  แล้วจะชื่นใจค่ะ  เวลาเห็นอาหารหมด 555

3.   เวลาถวายอาหาร นำอาหารของเราไปประเคนหลวงพ่อ  แล้วถอยออกมาตั้งแถวรับอาหารออกมาที่พระสงฆ์พิจารณาแล้ว  ออกไปวางบนโต๊ะนอกห้องประชุมค่ะ  ได้บุญเพิ่มอีกแล้วค่ะ

4.   ท่านเป็นพระวัดป่าฯ ท่านฉันมื้อเดียวค่ะ  ฉันอาหารในบาตรของท่าน เวลาท่านฉันอาหาร  ท่านไม่ชอบให้มานั่งมองท่านนะคะ  เราจะออกมารับประทานอาหารที่ผ่านการพิจารณาของพระอาจารย์แล้วกันด้านนอกห้องประชุม  ท่านฉันเสร็จแล้ว เราค่อยเดินเข้าไปนั่งค่ะ

5.  เมื่อหลวงพ่อฉันเสร็จ  เพื่อนดูดีๆนะคะ  จะมีลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อนำอาหารก้นบาตรของท่าน  มาให้พวกเราได้ร่วมกันทานเป็นยารักษาโรค  แบ่งๆกันไปค่ะ  (ถึงหน้าตาจะดูไม่น่ากิน  เพราะหลวงพ่อท่านคลุกๆอาหารทุกอย่างในบาตรก่อนฉัน ก็อย่าคิดมาก) โชคดีได้รับมาแล้ว ก็อธิษฐานดีๆ ก่อนทานนะคะ จะได้สิ่งดีๆกลับไป  

6. หลวงพ่อจะสวดมนต์บทนี้ด้วย  ไพเราะมาก  ลูกศิษย์หลวงพ่อแท้ๆต้องสวดเป็นค่ะ http://gotoknow.org/blog/arayawangso/257941

 

            ถ้าเพื่อนๆอยากรู้ว่าเป็นยังไงนะคะ  ต้องตามไปฟังเองค่ะ  เราเล่าก็ไม่รู้เรื่องเท่ากับฟังจากหลวงพ่อท่านค่ะ  แต่จะพยายามเก็บรายละเอียดมาเล่าให้ฟังวันหลังนะคะ

หลวงพ่อกำลังจะไปอินเดียสักพัก  อีกนานนะคะ  กว่าเราจะได้ไปทำบุญ ปฏิบัติธรรมกับท่าน  ถ้าหาโอกาส เวลาว่างได้  ขอให้ลองมาดูค่ะ  แล้วจะดีใจ ที่ได้มาค่ะ

 

เริ่มงานเวลา                   7.30 น.ค่ะ

งานเลิกประมาณ            14.30 -15.00 น.ค่ะ

 

ครั้งต่อไปจัดใน          วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 

แก้วกัลยาสิกขาลัย  สถาบันพระบรมราชชนก โทร. 0-2590-1816

 

หมายเหตุ : หากจะถวายปัจจัย  กรุณาใช้ใบปวารณาถวายในช่วงท้ายพิธีนะคะ

 

หมายเลขบันทึก: 257946เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2009 15:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 08:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

คุณแอร์ได้เข้าร่วมงานบรรยายธรรมเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา เขียนมาเล่าว่า

ช่วงธรรมบรรยาย พระอาจารย์เริ่มจากถามผู้ป่วยที่มาจากมูลนิธิฯ ว่าหลังจากไปมูลนิธิแล้ว อาการที่ป่วยเป็นอย่างไรบ้าง แล้วผลที่ได้รับจากการปฏิบัติเป็นอย่างไร เข้าใจว่าน่าจะมีแบบฟอร์มไว้ให้ผู้ป่วยกรอกนะคะ เพราะเห็นพระอาจารย์สุ่มเรียกชื่อจาก คุณนิพนธ์,คุณกุศล และคุณภัทรกร เมื่อพระอาจารย์อ่านเนื้อความในกระดาษ แล้วจึงถามว่ามีอะไรจะถามเพิ่มเติมไหม โดยรวม คนไข้บอกว่า หายใจดีขึ้น ใจเย็นขึ้น ไม่ผูกใจเจ็บ และปลงได้มากขึ้น คุณภัทรกรมีคำถาม แต่แอร์จำไม่ได้ แต่พระอาจารย์ก็ได้สอนเกี่ยวกับเรื่องปิติค่ะ แล้วก็สอนเรื่องการเดินจงกรมด้วย (แต่บรรยายให้ฟังก่อนนะคะ ยังไม่ได้ให้ปฏิบัติ) เหมือนกันที่คุณแพรบอกนั่นล่ะค่ะ ว่า ไฟส่ง – ลมขับ, น้ำวาง – ดินแนบแน่น พระอาจารย์สอนว่าให้ดูจากธาตุทั้งสี่ อากาศธาตุให้ความรู้สึก (เวทนา) เมื่อยกสู่อารมณ์แล้ว จะขึ้นสู่จิต จากจิตไปวิญญาณ แล้วท่านก็สอนเรื่องอายตนะ 6 ค่ะ ท่านเน้นย้ำว่า เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ควรศึกษาธรรมะจากขันธ์ 5 ให้มาก ท่านสอนว่าให้เรารู้จักอุปสรรคก่อน แล้วระวังไม่ให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นให้ละออก เมื่อละกุศลจะได้กุศล เราต้องมีความเห็นยอมรับความจริง เมื่อเรายอมรับความจริงได้ เราจะยอมรับกรรมได้ หลังจากนั้นให้ทำใจให้สงบก่อนรักษาศีล การที่เรายอมรับความจริงได้นั้น ทำให้เรารู้ว่าเราไม่อยากทำร้ายใครอีก เพราะถ้าเราไปทำร้ายเขาอีก เราก็ต้องได้รับผลกรรมตอไป - ไม่ว่าเขาว่าเราย่อมเป็นไปตามกรรมและท่านก็ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของศีลด้วย

จากนั้นท่านจึงนำเข้าสู่การปฏิบัติธรรมค่ะ โดยเริ่มจากการหายใจเข้า กลั้นลมหายใจแล้วนับ 1 2 3 4 แล้วหายใจออก แล้วหายใจเข้าใหม่ กลั้นลมหายใจ นับ 1 2 3 4 5 ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึง 10 ค่ะ ท่านให้ทำอย่างนี้ 9 ชุด และเน้นว่าเวลานั่งต้องนั่งตัวตรง อย่านั่งตัวงอ และท่านก็สอนเดินจงกรมค่ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาถามท่านเรื่องเดินจงกรม แต่ไม่ต้องถามเลยค่ะ เพราะวันนี้ท่านสอนเลย ให้เดินเลยว่าเป็นอย่างไร (แหม อย่างกับท่านรู้แน่ะ ว่าเราตั้งใจอยากจะมาขอความรู้เรื่องนี้) นอกจากนี้ท่านยังสอนวิธีคลายความทุกข์ออกจากใจ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย แต่พิเศษมาก ๆ คือ ท่านให้กำหนดจิตตัวเราเอง ให้อยู่ตรงศูนย์กลางของร่างกาย เมื่อตั้งจิตตรงแล้ว ให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา งง เลยค่ะ ท่านบอกให้กำหนดจิต ทวนเข็มนาฬิกา เราก็ทำอย่างเก้ ๆ กังๆ ท่านบอกว่าไม่เป็นไรนะ ถ้าใครตัวโยกนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่ต้องทวนเข็มให้ได้ แรก ๆ ก็ติดขัดนิดหน่อย พอสักพัก รู้สึกว่าใจเรามันสบาย โปร่ง โล่ง เบา อย่างไม่น่าเชื่อ ท่านบอกว่าสำคัญนะ ใครที่มีความทุกข์มาก ๆ เจ็บแค้นในใจมาก ๆ หรือเจ็บป่วยเป็นทุกข์มาก ๆ ต้องคลายจิตใจซะบ้างจะดีขึ้น

ขออนุโมทนาด้วยนะคะ ที่ช่วยนำมาเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้อ่านกันด้วย

คุณพี่รจนา โยมอุปัฏฐากหลวงพ่อ

แจ้งให้ทราบว่า หลวงพ่ออารยะวังโส จะสัตตหะกลับเมืองไทยวันที่ 9-13 ก.ย.52

และจะมาโปรดผู้ป่วยที่มูลนิธิร.พ.ธรรมศาสตร์ ถ.ศรีอยุธยา

ใน( เช้า)วันที่ 9 และ 10 ก.ย.ค่ะ

ส่วนเย็นวันที่ 9 ประมาณ 1 ทุ่ม ท่านจะไปให้ธรรมะที่บ้าน พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์

ที่พหลโยธิน 11 , ซ.เจริญพร 2 นะคะ

ถ้าเพื่อนๆมีโอกาส เชิญไปฟังธรรมกับหลวงพ่ออารยะวังโสได้นะคะ

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท