สำหรับประเด็นในเรื่องของภาษาที่ใช้ในการสอน อาตมามีลูกศิษย์ทางเมืองนาคปุระ รัฐมหาราษฎร์ มาช่วยแปลเป็นภาษาฮินดีและภาษามารตี แม้จะเตรียมเอกสารเป็นภาษาอังกฤษไปบ้าง แต่พอถึงเวลาสอนจริงกลับไม่ได้ใช้ อาตมาต้องใช้ทักษะที่มีอยู่มาสอนมาพูดคุยผ่านผู้แปลเป็นภาษาท้องถิ่น (ฮินดี, มารตี) ไปตามลำดับขั้น วันแรก (๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓) อาตมาสอนตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง มีภาคบ่าย เย็นและตอนค่ำ รวมแล้วหลายรอบ พอวันที่ 2 (๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓) ในตอนกลางวันก็สอนแยกกลุ่มคนไทยออกไปจากกลุ่มนานาชาติ ตอนค่ำเป็นพวกเวียดนามคณะหนึ่งที่ติดต่อมาขอเรียนเฉพาะกลุ่มของเขาโดยได้ล่ามเป็นพระเวียดนามที่พูดไทยได้ดี เป็นเจ้าอาวาสของวัดเวียดนามในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกามาช่วยแปลจากภาษาไทยเป็นเวียดนามโดยตรง ศรัทธาของกลุ่มเวียดนามนั้นสูงมาก พวกเวียดนาม เกาหลีและทิเบตนั้นเป็นมหายาน ส่วนไทย พม่า ศรีลังกาเป็นเถรวาท
ในวันสุดท้าย (๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓) ได้พระลูกศิษย์พระพิมลธรรมหรือสมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ จากวัดมหาธาตุพระมหาเถระที่ทรงคุณธรรมจากในอดีตซึ่งได้ละสังขารไปหลายสิบปีแล้ว โดยพระอินเดียองค์นี้อยู่เมืองไทยมา ๑๘ ปี ซึ่งพระพุทธปาโลท่านเดินทางมาจากรัฐมหาราษฎร์ โดยมากับผู้ช่วยรัฐมนตรีที่กำกับดูแลรัฐมหาราษฎร์ ชื่อ ดร.คัมเบล ซึ่งเดินทางมากราบเยี่ยมอาตมาพร้อมกัน โดยอาตมาได้มอบหมายให้ดร.คัมเบลไปกำกับดูแลงานมาฆบูชาที่รัฐมหาราษฎร์ กลายเป็นว่าได้มีบุคคลระดับสูงมารองรับงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยความเคารพน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนักกับพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ ซึ่งดร.คัมเบลได้นิมนต์พระลูกศิษย์ของพระพิมลธรรม ซึ่งท่านเป็นพระระดับสูง (Highest monks) ของรัฐมหาราษฎร์มาด้วย ซึ่งท่านมีวัดอยู่ที่ออรังบากาด ใกล้กับถ้ำอชันตา (Ajanta) และแอลโลร่า (Ellora) ท่านพูดไทยชัดเจนมาก เข้าใจภาษาไทยและหลักธรรมได้ดี เพราะเป็นผลผลิตจากพระสงฆ์ไทยเรา โดยเฉพาะจากหลวงปู่ใหญ่ (พระพิมลธรรม)
วันสุดท้ายเลยสบายกับการให้ความรู้ในธรรมชั้นสูง (วิปัสสนากรรมฐาน) ซึ่งโดยประสบการณ์การสอนธรรมะเรื่องภาษานั้นสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก หากต้องแปลไปสู่ภาษาท้องถิ่น แม้จะมีความสามารถทางภาษาอังกฤษดีแต่ก็มีปัญหา หากไม่เข้าใจหลักธรรมในพระศาสนา อาตมาไม่สามารถพูดแล้วให้พระหรือคนไทยที่ติดตามไปเหล่านี้แปลเป็นภาษาอังกฤษได้เลย ในกรณีธรรมชั้นสูง เพราะจิตหรือความเข้าใจในพระธรรมชั้นประณีตละเอียดแยบคาย ยังไม่ถึงขั้นที่จะสามารถใช้ศัพท์ได้ตรงกับที่อาตมาต้องการสื่อธรรมออกไปจากจิตขั้นความรู้ในกระบวนการของวิปัสสนา ซึ่งในเรื่องสมถะนั้นไม่ยาก เพราะมันเป็นทีละขั้นๆของลำดับจิตไม่ซับซ้อนมากนักเป็นหลักธรรมขั้นปกติ ซึ่งสามารถสอนให้ปฏิบัติได้ผลได้ไม่ยากตามที่ปรากฎ แต่ในเรื่องวิปัสสนากรรมฐานนั้นจะต้องใช้ภาษาธรรมชั้นสูงขึ้นรวมกับความเข้าใจทางจิตใจในด้านพระธรรมวินัยที่ต้องมีศักยภาพระดับสูง จึงจะสื่อความหมายออกไปได้ตามประสงค์ เพื่อให้ผู้รับการสอนเข้าใจในความหมายธรรมได้อย่างแจ่มแจ้ง จึงต้องมีผู้แปลสู่ภาษาท้องถิ่นที่ต้องเข้าใจหลักธรรมในพระพุทธสาสนาด้วยนี้คือเหตุผล
สำหรับพระท้องถิ่นและพระนานาชาติที่เข้ามาปฏิบัติเหล่านี้ จำนวนมากไม่เคยปฏิบัติมาก่อน ครั้งนี้จึงเป็นการปฏิบัติครั้งแรกของพวกเขา แต่ก็สามารถปฏิบัติได้ผลในขั้นของสมถกรรมฐานจนเกิดปีติและเกิดสมาธิ ทำได้ทั้งการนั่ง ยืน เดิน มีบุคคลผู้มีความรู้ระดับดอกเตอร์ มานั่งสังเกตการณืและกล่าวสรุปในวันสุดท้าย ซึ่งในเวลา ๕ วันที่ให้ความรู้ทางด้านจิตภาวนานั้นได้มีการวัดผล โดยมีบุคคลกรจากศรีลังกา จากมหาโพธิสมาคมมาติดตามประเมินผลด้วย การสอนคนที่ไม่รู้เรื่องให้เข้ามาปฏิบัติเป็นเรื่องที่ยาก แต่ไม่ยากกับ ๕ วันที่เกิดขึ้น สรุปได้ว่าปีแรกนี้แระสบความสำเร็จจนเขาอยากให้มีการจัดอย่างนี้ต่อไปในปีหน้า ที่เรียกว่า “งานธรรมจักรบูชา” เขาจึงขออารธนานิมนต์ล่วงหน้า โดยขอให้อาตมามาช่วยต่อไป โดยเฉพาะเขาชอบใจเรื่องการใช้เทคนิคการสอนให้เข้าใจได้ไม่ยากและสามารถทำได้จริง มีพลังและมีวิธีการอันเหมาะควรต้องตรงตามจริตของผู้เรียน
สิ่งที่อาตมามีความยินดีอย่างยิ่งคือ การที่อาตมาได้สั่งสอนพระนานาชาติและคนโดยทั่วไปที่ศรัทธาศาสนา โดยได้รับการอาราธนาจากมหาโพธิสมาคมของอินเดีย มีการจัดเตรียมสถานที่อย่างเหมาะสมในเขตโพธิมณฑลสถาน (พระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคเจ้า) มีเครื่องเสียงที่กระจายเสียงสวดมนต์และบรรยายธรรมเทศนาดังไปทั่วพุทธมณฑล จึงเป็นการไปสั่งสอนอย่างสมภาคภูมิของความเป็นครูในพระพุทธศาสนา ๒ ประการ สำคัญคือ การได้มาบุชาพระพุทธเจ้าตรงตำแหน่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้นถือว่าเป็นอานิสงฆ์ยิ่งนัก และอาตมาได้ให้ธรรมที่ยิ่งและถูกต้องตรงตามพระพุทธวจนะด้วย ที่สำคัย คือ ผู้รับสามารถรับได้ด้วย ทั้งที่พื้นฐานความรู้การปฏิบัติมีน้อยและไม่มีเลย อาตมาจึงมีความสุขกับการให้ธรรมะในครั้งนี้ยิ่งนัก และเชื่อมั่นว่าเป็นมหามงคล มหาบุญกุศลที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์เข้าสู่พระพุทธศาสนาในฐานะสมณอารยบุคคลในชาตินี้ เพื่อให้ถึงที่สุด หมดสิ้นภพสิ้นชาติ ตามจุดมุ่งหมายในพระพุทธศาสนา
ในจำนวนคนที่มาฟังอาตมาสอนบรรยายธรรมนั้น มีคนหนึ่งเป็นดอกเตอร์จากรัฐอุตตรประเทศที่อยู่ทางตอนเหนือของอินเดียมาจากสมาคมชาวพุทธ เดิมเป็นฮินดี จากวรรณะราชปุตตะ ต่อมาเข้ามานับถือพระพุทธศาสนา ศึกษาพระธรรมวินัยเป็นฆราวาส บรรยายศาสนาได้ดี มีความรู้และศึกษาพระไตรปิฎกมาเป็นอย่างดี เขาได้มานั่งฟังบรรยายและติดตามประเมินการสอนมาโดยตลอด บุคคลผู้นี้ได้พูดสรุปเป็นภาษาอังกฤษว่า งานธรรมจักรบูชานั้นได้ผลยิ่ง และควรจัดให้มีโครงการนี้ในปีต่อไป ผู้ฟังที่เป็นผู้รู้ดอกเตอร์ดังกล่าว ได้พูดสรุปในตอนหนึ่งว่า “การสอนของกูรูยีนั้นเป็นเหมือนกับการสร้างประวัติศาสตร์ที่ต้องบันทึกไว้ เพราะกูรูยีสอนตามแนวพระพุทธเจ้าที่สอนให้เรื่องยากเป็นไม่ยาก สามารถอธิบายธรรมวิปัสสนาอันเป็นเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องธรรม ให้คนทั่วไปสามารถรับฟังและเข้าใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเคยทรงรอยบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างแท้จริง” พวกเขาเชื่อว่า หากอาตมายังคงช่วยเหลือเขาต่อไป พระพุทธศาสนาจะต้องหันกลับเข้มแข็งอย่างแน่นอนในชมพูทวีป
ท่านสีวลีของมหาโพธิสมาคมก็พูดสรุปประเมินผลอย่างยาว ซึ่งจะได้มีการถอดเทปต่อไป อันมีนัยยะคำกล่าวคล้ายๆกัน งานธรรมจักรบูชาในปีนี้ แม้เป็นปีแรก จึงถือว่าเป็นที่น่าสนใจมากประสบความสำเร็จ คุ้มค่าต่อการเดินทางไปประกอบศาสนกิจในครั้งนี้
พระอาจารย์อารยะวังโส
มีต่อตอนต่อไปค่ะ
อ่านงานธรรมจักรบูชา อินเดีย ตอนที่ ๑ ได้ที่นี่ค่ะ
http://gotoknow.org/blog/arayawangso/344722
อ่านลิขิตธรรมของหลวงพ่ออารยะวังโส ได้ที่นี่ค่ะ
http://gotoknow.org/blog/arayawangso/344511
ไปอินเดียเมื่อวันที่ 16-19 มีนาคน53เห็นกลอนบทหนึ่งที่ เขาตงคสิริ มีคำว่า พระอาจารย์ อารยะวังโส กลอนนี้มีว่า
ที่สุดของที่สุดเส้นทางมรรค
ที่สุดของที่สุดปรากฏผล
ที่สุดของที่สุดพ้นบ่วงกล
ปรากฏผลเมื่อพ้นที่สุดจริง
กราบนมัสการพระอาจารย์
และกราบอนุโมทนาสาธุ
นับเป็นบุญของชาวพุทธอินเดียแล้วครับ
ขอบคุณญาติธรรมทุกท่านที่ติดตามอ่านบันทึกบุญนี้ค่ะ
ขอให้เจริญในธรรมทุกท่าน
บุญรักษา ธรรมคุ้มครองค่ะ