ข้อเสนอในการจัดทำโครงการส่งเสริมให้เกิดร้านเกมคาเฟ่ ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการจัดทำวาระเด็ก เยาวชน


สถานการณ์ด้านร้านเกมคาเฟ่ ร้านอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

๑.      ในปัจจุบันพบว่า สถานการณ์ร้านเกมคาเฟ่ในประเทศไทย พบว่ามีสถานการณ์ที่สำคัญอยู่ ๗ ประการ กล่าวคือ

     ประการที่ ๑               ด้านสภาพและพฤติกรรมของการใช้งาน โดยเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเป็นกลุ่มที่ใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตมากที่สุด[1] อีกทั้งลักษณะของการใช้งาน กว่า 80% เป็นการใช้เพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะการเล่นเกมส์ ซึ่งเมื่อเทียบกับการใช้งานเพื่อการค้นคว้าหาความรู้หรือทำงานเพียงไม่ถึง 20%  รวมไปถึง ปัญหาเด็กติดเกมส์ซึ่งเด็กไม่สามารถควบคุมเวลาในการเล่นเกมส์และทำกิจกรรมอย่างอื่นได้อย่างเหมาะสม  

     ประการที่ ๒  การประกอบการโดยละเมิดต่อบทบัญญัติกฎหมาย โดยที่กฎหมายที่มีผลใช้บังคับกับการประกอบการร้านเกมคาเฟ่ ก็คือ พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๓๐  ซึ่งมีผลให้การขอนุญาตประกอบการ ประเภทฉาย (อาศัยอำนาจตาม มาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติฯ) จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อีกทั้ง เกณฑ์หรือเงื่อนไขในอารออบใบอนุญาต ตาม ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติในการกำหนดเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตของนายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ในการควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยเฉพาะ

·        การประกอบการนอกเหนือเวลาเปิด – ปิด สถานประกอบการที่ได้รับอนุญาต

·        การอนุญาตให้เด็ก เยาวชน สามารถเข้าใช้บริการนอกเหนือเวลาที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ  ช่วงเวลาก่อน ๑๔.๐๐ น. ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ยกเว้นวันหยุดราชการ

·        การให้เด็กอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ใช้บริการหลังเวลา ๒๒.๐๐ น. ของทุกวัน

·        การให้เด็กอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี เล่นเกมคอมพิวเตอร์เกินกว่า ๓ ชั่วโมงต่อวัน

·        การจำหน่ายบุหรี่ สารเสพติดทุกชนิด และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสถานที่ให้บริการ

·        การมีสื่อลามกอนาจารใดๆ ในสถานที่ให้บริการ

      ประการที่ ๓ การขาดระบบการสนับสนุนให้เกิดการส่งเสริมบรรยากาศของการลงทุนประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และ ร้านเกมคาเฟ่ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่ต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และ สามารถส่งเสริมการประกอบการที่เป็นรูปธรรม อันที่จริงแล้ว ภาคนโยบายเคยจัดทำโครงการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่สีขาว แต่เนื่องจากปัญหาความต่อเนื่องและอุปสรรคในด้านมิติการส่งเสริมการประกอบการที่เป็นรูปธรรม ทำให้แนวทางในการสนับสนุนดังกล่าวเกิดความไม่ต่อเนื่อง เป็นผลให้สถานประกอบการที่ประกอบการอย่างถูกต้องและมีความรับผิดชอบต่อสังคมไม่สามารถประกอบการได้เท่าเทียมหรือได้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่ากับสถานประกอบการทั่วไป

       ระการที่ ๔  การขาดระบบการตรวจร้านที่มีประสิทธิภาพและทั่วถึง เนื่องจากปริมาณร้านเกมคาเฟ่ และร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่เปิดกิจการใหม่ในทุกวัน ประกอบการจำนวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจร้านที่มี่จำนวนน้อยทำให้เกิดปัญหาด้านการออกตรวจร้านเกมคาเฟ่อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ เป็นสาเหตุให้ร้านเกมคาเฟ่บางส่วนสามารถหลีกเลี่ยงข้อบังคับทางกฎหมายในการประกอบการได้

       ประการที่ ๕  การขาดการสร้างความเข้มแข็งและมีการมีส่วนร่วมให้กับชุมชน สังคม โดยเฉพาะ เด็ก เยาวชน และครอบครัว อีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในปัจจุบันพบว่า สังคมไทยยังขาดการสร้างความเข้าใจให้กับเด็ก เยาวชน และครอบครัวในปัญหาที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการเล่นเกม การเลียนแบบพฤติกรรมในเกม ตลอดจนการใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเกม อีกทั้ง การสร้างระบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการรวมไปเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปตรวจเยี่ยมสถานประกอบการในชุมชนของตนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำให้สถานประกอบการเป็นพื้นที่ที่แปลกแยกจากสังคมโดยทั่วไป กล่าวคือ กลายเป็นพื้นที่เฉพาะของเด็กเยาวชนในอีกหนึ่งกลุ่มเท่านั้น

      ประการที่ ๕  การขาดความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายและนโนบาย พบว่า ผู้ประกอบการนั้นอยู่ในสถานะของ “ผู้ละเมิดกฎหมาย” กล่าวคือ เพื่อผลกำไรสูงสุดในการประกอบการจึงประกอบการโดยละเมิดต่อกฎหมาย เช่น การอนุญาตให้เด็ก เยาวชนอายุต่ำกว่า ๑๘ ปีเข้ามาเล่นภายในร้านก่อนเวลา ๑๔.๐๐ น. และ หลัง ๒๒.๐๐ น.[2] และ ในสถานะของ “เหยื่อ” ของความไม่รู้ในการพิทักษ์สิทธิของตนภายใต้กฎหมาย โดยเฉพาะ การได้รับความคุ้มครองในทางกระบวนการยุติธรรม เช่น การประกันตัว เป็นต้น ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดทำกระบวนการในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่มีผลใช้บังคับในการประกอบการทั้งในเรื่องของการกำกับดูแล การปราบปรามในกรณีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติทางกฎหมาย กฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีพิจารณาความ และ กฎหมายที่เกี่ยวกับการสนับสนุนหรือส่งเสริม

      ประการที่ ๖  การขาดการสร้างความเป็นเอกภาพของกฎหมายที่ผลใช้บังคับอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของการกำหนดเวลาเปิด-ปิด ของสถานประกอบการในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน โดยอาศัยอำนาจตาม มาตรา ๒๐ วรรรค ๒ แห่งพระราชบัญญัติ ควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๓๐  ในเรื่องของการอนุญาตให้ฉายเทปและวัสดุโทรทัศน์ เป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบกับมาตรา ๓๙ แห่ง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ ทำให้การกำหนดเวลาเปิด – ปิด สถานประกอบการประเภทให้บริการฉายวัสดุเทปโทรทัศน์เป็นอำนาจดุลยพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งพบว่าปัญหาที่สำคัญก็คือ การขาดการกำหนดเงื่อนไขที่เป็นเอกภาพในการกำหนดเรื่องเงื่อนเวลาในการประกอบการ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเป็นเอกภาพที่ชัดเจนในประเด็นเรื่องเงื่อนเวลาในการกำหนดเวลาเปิด ปิด ของสถานการประกอบการ

ประการที่ ๗             การขาดระบบการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ ในกรณีของการประกอบการโดยฝ่าฝืนต่อ พระราชบัญญัติฯ เช่น การเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด การอนุญาตให้เด็ก เยาวชนอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี เข้ามาใช้บริการนอกเหนือเวลาที่กฎหมายกำหนด จากสภาพข้อเท็จจริงพบว่า ยังไม่มีการดำเนินการกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 ข้อเสนอในการพิจารณา

๑.      ให้กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการจัดทำโครงการร้านเกมคาเฟ่ ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยจัดทำระบบการส่งเสริมให้เกิดการส่งเสริมการลงทุนให้กับร้านเกมคาเฟ่ และ ร้านร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ เช่น การลดต้นทุนในส่วนของซอฟท์แวร์ในการประกอบการในสถานประกอบการ

๒.      ให้กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทยในการพิจารณาหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการพิจารณากำหนดเงื่อนเวลาในการเปิด – ปิด สถานประกอบการเพื่อสร้างเป็นเอกภาพในการประกอบการ

๓.      ให้กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการปฏิรูปกฎหมายและนโยบาย กล่าวคือ  ดำเนินการแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับช่วงเวลาในการอนุญาตให้เด็ก และ เยาวชนอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี สามารถเข้าใช้บริการในช่วงเวลาก่อน ๑๔.๐๐ น. ของวันหยุดภาคเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมย์ของการจัดทำระเบียบกระทรวงมหาดไทยในส่วนของการป้องกันการหนีเรียนของเด็กและเยาวชน

๔.       ให้กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการให้เกิดการจัดทำเวทีสาธารณะในจังหวัดเพื่อสร้างยุทธศาสตร์ในการทำงานเพื่อพัฒนาร้านเกมคาเฟ่ ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ระดับภาคขึ้น

๕.      ให้กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทวงการพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการพัฒนาระบบการตรวจเยี่ยมโดยดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการชุมชนซึ่งประกอบด้วยภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาชน และ ภาคเอกชน


[1] จากข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติปี 2548
[2] ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติในการกำหนดเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตของนายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ในการควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๔๙
หมายเลขบันทึก: 156680เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2007 22:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 18:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท