เริ่มต้นเช้าวันที่ ๔ ของการเดินทาง เข้าพบกับ KADO ย่อมาจาก Korea Agency for Digital Opportunity and Promotion |
ประธาน ชื่อว่า Dr.Yeongi Son มาร่วมประมและนำเสนอภาพรวมขององค์กร |
KADO มีเป้าหมายหลักในการทำงาน ๗ ข้อ โดยหลักเป็นการเสริมสร้างโอกาสและลดช่องว่างการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากไอซีที |
เครื่องมือช่วยเหลือคนพิการในการใช้งานไอซีที ที่เห็นเป็นเครืองช่วยคนพิการด้านแขน โดยใช้เครื่องเป่าลมแทนการพิมพ์คีย์บอร์ดและเม้าส์ |
ด้านหลังของโต๊ะและเก้าอี้ |
วีระ อยู่รัมย์ ผู้อนวยการมูลนิธิกระจกเงา เชียงราย กำลังทดลองใช้เครื่องช่วยเหลือการใช้คอมพิวเตอร์สำหรับคนพิการที่แขน |
นอกจากนี้ยังมีระบบการช่วยเหลือ โดยใช้ระบบอาสามัครมาเป็นคนกลางในการติดต่อแทน |
ที่บริเวณชั้น ๓ ของอาคารเป็นที่ตั้งของศูนย์ให้ความช่วยเหลือการติดอินเทอร์เน็ต ส่วนการติดเกมอยู่ที่กระทรวงวัฒนธรรม |
บริเวณด้านหน้าของศูนย์ |
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ KADO กำลังอธิบายแบบประเมินการติดอินเทอร์เน็ตและค่ายบำบัดการติดอินเทอร์เน็ต ใช้เวลาในการเข้าค่าย ๕ วัน ในค่ายไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลย |
คุณหมอกฤษฎาสนใจหน่วยงานนี้เป็นพิเศษ กลับมาคงขายแนวคิดให้กับ พม. |
เรายืม KADO เป็นสถานนที่ประชุมย่อยสำหรับการวางแผนการจัดทำรายงานสรปุการเดินทาง |
ต่อกันที่ห้องทำงานเคลื่อนที่ของเรา คุณหมอพรรณพิมล เร่มต้นชวนคณะที่ปรึกษาและนักวิจัยคุยต่อ |
ที่เห็นในภาพก็คือ ตำรวจ ตำรวจที่นี่ คุณปู ไกค์ของเราบอกว่าแต่งตัวคล้ายยาม (ก็จริงนะ) หน้าตาจะคล้ายกันมากๆ แถมใส่แว่นด้วย ที่สำคัญหน้าเด็กมาก |
ตอนบ่ายเราประชุมร่วมกับ เจ้าหน้าที่จากฝ่ายอุตสาหกรรมเกมคอมพิวเตอร์ กระทรวงวัฒนธรรม |
รองผู้อำนวยการ Min Ah Kang มาร่วมประชุมเกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรม และ แนวทางในการแก้ไขการติดเกม |
การทำงานของหน่วยงานนี้จะมีการทำงานประสานกับเองค์กรเอกชนด้านเกม มีกองทุนอุตสหากรรมเกม ภาพยนตร์ เกมในเกาหลีห้ามเกี่ยวกับการพนัน มีกฎหมายพัฒนาวัฒนธรรมการเล่นเกมและส่งเสริมอุตสหากรรมเกม |
พี่ลัดดา จากกระทรวงวัฒนธรรม เป็นหัวหน้าทีมของคณศึกษาในช่วงบ่าย |
ระหว่างที่รอประชุมร่วมกับ NIA ยังพอมีเวลาว่างประมาณสองชั่วโมง เราเลยไปเดินเล่นคลองคอเคชินที่ขึ้นชื่อของโซล ในฐานะที่เคยเป็คลองเน่ามาก่อนแต่ผู้ว่าคนก่อนได้พัฒนาจนนำใสสะอาด คนในโซลชอบมาแช่เท้ากันที่นี่ |
ตอนเย็น (16.30 น) เราพบกับ Gregory J.Pokorny เจ้าหน้าที่จาก National Information Society หรือ NIA |
คุณหมอกฤษฎา หัวหน้าทีมในช่วงนี้ แลกเปลี่ยนประเด็นการเปลี่ยนโฉมจาก e society เป็น Ubiquitous Society โดยจะทดลองที่เมืองอิมชอลใหม่ |
คุณสุรวดี กับ คุณอารยา นักวิจัยประจำโครงการ สนใจประเด็นการใช้หมายเลขบัตร 13 หลักในการเล่นเกม ซึ่งทำให้กำกับเวลาในการเล่นเกมของเด็กๆได้ เรียกว่า ค่าความเหนือยล้า เช่น เล่นเกิน 3 ชั่วโมง ก็จะได้แต้มครึ่งหนึ่ง หรือไม่ได้เลย น่าจะนำมาใช้ในไทยบ้าง |
หน่วยงานนี้ คล้ายกับ เนคเทค กับ กระทรวงไอซีที รวมกัน บ้านเรา เป็นศูนย์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสาร NIA เป็นหน่วยงาน 1 ใน 7 ด้านข้อมูลสารสนเทศของเกาหลี |
อาจารย์สายฤดี เป็นแกนนำคณะเดินทางในการมองขอบที่ระลึก โดยอาจารย์สายฤดีสนใจระบบฐานข้อมูลของ NIA |
อาหารกลางวันของพวกเรา คราวนี้เป็นกระดูหมูอ่อน คล้ายๆกับไก่ตุ๋นโสม เช่นเคย เราขอจิ้มแจ่วอีกแล้ว |
มือไหนไม่มีกิมจิ แสดงว่าไม่ได้อยู่ที่เกาหลี |
พร่อมหน้า พร้อมตา คณะที่ปรึกษษทั้ง ๕ คน คุณหมอกฤษ คุณหมอพรรณ อ.สายฤดี พี่ลัดดา และ อ.พันธุ์ทิพย์ |
รออ่านรายละเอียดค่ะ
ลูกสาวทำงานอยู่สำนัก KM กรมควบคุมโรค
เล่าถึงอาจารย์ให้ฟังค่ะ
เลยเข้ามาชื่นชมอาจารย์ค่ะ
ขอบคุณครับ เข้าใจว่าน่าจะเคยเจอกันนะครับ