Archanwell
รศ.ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร

จากน้องหม่องสู่น้องนารวย....ความเหมือนในความต่างตามกฎหมายไทย


"น้องนารวย"เด็ก ป.4 อ.แม่อาย ส่ออดไปเที่ยวเมือง"เฉิงตู" หลังคว้ารางวัลเชียร์ตั้งชื่อ"หลินปิง" เหตุไร้สัญชาติ เผยพ่อแม่สัญชาติไทย เชื้อชาติมูเซอ แต่ไม่มีเงินเดินทางไปแจ้งเกิด รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ชี้ยังมีหวัง ถือเป็นบุคคลบนพื้นที่สูง ให้นำหลักฐานไปขอลงรายการสัญชาติไทยได้ เชื่อใช้เวลาไม่นาน อยู่ที่ดุลพินิจนายอำเภอ ผอ.สวนสัตว์ระบุหากไปไม่ได้จะให้เงินปลอบใจแทน (มติชนรายวัน วันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๑๑๕๐๗)

อ่านเรื่อง ด.ญ.นารวย หงุดหงิดมาก น้องเหมือนน้องหม่องที่เป็นเด็กไร้สัญชาติที่มีสถานะบุคคลตามกฎหมายทะเบียนราษฎรประเภท ๐ (บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร) เหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนกัน ก็คือ น้องนารวยเป็นคนสัญชาติไทยที่ถูกบันทึกเป็นคนต่างด้าว ในขณะที่...น้องหม่องเป็นคนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทยที่ถูกบันทึกเป็นคนสัญชาติพม่าในทะเบียนราษฎรประเภท ๐๐ จากข้อกฎหมายที่ซับซ้อน ก็สรุปได้ว่า การแก้ไขปัญหาย่อมไม่เหมือนกัน

การแก้ไขปัญหาของน้องนารวย ทำได้ง่ายมาก ก็คือ (๑) พาพยานบุคคลที่รู้เห็นการเกิดของน้องไปร้องขอทำหนังสือรับรองการเกิดที่อำเภอแม่อาย (๒) ถ้าอำเภอปฏิเสธที่รับคำร้อง หรือสืบปากคำแล้วไม่เชื่อ ก็อาจร้องขอให้ศาลปกครองช่วยฟังข้อเท็จจริงว่า น้องเป็นบุตรของบิดาห...รือมารดาที่มีสัญชาติไทย .... ใครช่วยไปบอกน้องหน่อยซิคะ

อ่านเรื่องน้องนารวยแล้ว อดไม่ได้ที่จะนำมาเปรียบเทียบกับน้องหม่อง ไม่อยากให้ใครดับฝันเด็ก และไม่อยากให้ใช้ลัทธิเชื้อชาตินิยมมาตัดสิน แม้บุพการีจะเป็นลาหู่ แต่ก็เป็นคนดั่งเดิมของแผ่นดินไทย โดยหลักกฎหมาย คนลาหู่เป็นคนสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่ปัญหาที่ตกหล่นจากทะเบียนราษฎรของรัฐไทย

น้องหม่อง

 

 

น้องนารวย

 

 

เปรียบเทียบ

ไม่มีสัญชาติไทย

แม้เกิดในประเทศไทย

เพราะบิดามารดาเป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองไม่ถาวร

มีสัญชาติไทยโดยหลักดินแดน

เพราะเกิดในประเทศไทย

จากบิดามารดาที่เกิดในประเทศไทยและมีสัญชาติไทย

โดยหลักสืบสายโลหิต

เพราะบิดามารดา

เป็นคนสัญชาติไทยโดยการเกิด

แม้จะเพิ่งได้รับการบันทึกในสถานะคนสัญชาติไทยเมื่อไม่นานมานี้

ต่างกัน

เกิดในประเทศไทย นอกโรง พยาบาล แต่ได้รับหนังสือรับ รองสถานที่เกิดจากอำเภอสันทราย

เกิดในประเทศไทย นอกโรงพยาบาล

แต่ไม่ได้รับหนังสือรับรองสถาน

ที่เกิดจากอำเภอแม่อาย

ต่างกัน

ได้รับการบันทึกชื่อในทะเบียนประวัติประเภทบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรในสถาบันการศึกษาไทย

จึงมีเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลักขึ้นต้นด้วยเลขศูนย์

ได้รับการบันทึกชื่อในทะเบียนประวัติประเภทบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร

ในสถาบันการศึกษาไทย

จึงมีเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลักขึ้นต้นด้วยเลขศูนย์

เหมือนกัน

ไม่ประสบความไร้รัฐ

ไม่ประสบความไร้รัฐ

เหมือนกัน

ประสบความไร้สัญชาติ

ประสบความไร้สัญชาติ

เหมือนกัน

การขจัดปัญหาความไร้สัญชาติอาจทำได้โดยการพาไปพิสูจน์สัญชาติกับประเทศพม่า ซึ่งเป็นประเทศต้นทางของบิดามารดา

ไม่สามารถพาไปพิสูจน์สัญชาติกับรัฐต่างประเทศ

ต่างกัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด ไทยมีอำนาจดุลพินิจที่จะมีคำสั่งอนุญาตให้สัญชาติไทยโดยหลักดินแดน.ให้แก่น้องหม่อง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทยอาจมีอำนาจหน้าที่บังคับการให้มีการลงรายการสัญชาติไทยให้แก่น้องนารวย

ต่างกัน

หากไม่ได้รับการอนุญาตให้มีสัญชาติไทย ก็ไม่อาจร้องขอให้ศาลปกครองบังคับการให้

หากไม่ได้รับการลงรายการสัญชาติไทย ก็อาจร้องขอให้ศาลปกครองบังคับการให้

ต่างกัน

ความเป็นไปได้ที่จะมีสถานะคนสัญชาติไทยขึ้นอยู่กับคุณประโยชน์ที่ก่อให้เกิดแก่ประเทศไทย

ความเป็นไปได้ที่จะมีสถานะคนสัญชาติไทยขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ความเป็นผู้สืบสันดานจากบุพการีสัญชาติไทย หรือเกิดในประเทศไทยจากบุพการีที่เกิดในประเทศไทย

ต่างกัน

ถูกจำกัดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานหลายประการ อาทิ สิทธิในหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ถูกจำกัดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานหลายประการ อาทิ สิทธิในหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

เหมือนกัน

 

คำสำคัญ (Tags): #เด็กไร้สัญชาติ
หมายเลขบันทึก: 296574เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2009 16:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะอาจารย์

มาเปิดบ้านได้ความรู้ใหม่ น้องนารวยกรณีนี้น่าคิดนะคะ

เกิดในบ้านแท้ๆ แต่ต้องประสบปัญหา ...

ขอบคุณค่ะ ชื่นชม เป็นกำลังใจให้ท่านอาจารย์ค่ะ

ขอบคุณคุณปูค่ะ

กรณีน้องนารวย เขาไม่ได้มาหารืออะไร

อ่านเจอในหนังสือพิมพ์ค่ะ ก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำ แสดงความคิดเห็น

คนสัญชาติไทยแท้ๆ นะคะ

กลัวเหมือนกันว่า น้องจะถูกดับฝัน

ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มีหัวใจเป็นสีทอง สาธุ

กราบสวัสดีครับอาจารย์

พอได้ยินข่าวกรณีน้องหม่อง ผมก็คิดเหมือนกันว่า ทำไม คนที่เป็นคนไทย แต่ตกอยู่ในสถานะไร้รัฐ-ไร้สัญชาติ จึงไม่ได้รับการปฏิบัติต่อ อย่างที่ น้องหม่องได้รับ บ้าง

ก็คิดเลยเถิดไปถึง กรณี อาจารย์ อายุ และ คนอื่น ๆ ด้วย

มาตรฐาน ที่ ไม่มาตรฐาน ผมก็คิดได้เช่นนี้ครับ

23 กย. 2552 12:18 น.

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=407038&lang=&cat=

ความคืบหน้ากรณี น.ส.นารวย จะเติง อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้โชคดีจากโครงการไปรษณียบัตรตั้งชื่อแพนด้าน้อย "หลินปิง" ขององค์การสวนสัตว์นพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รางวัลที่ 3 เงินสด 100,000 บาท และตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-เฉิงตู แต่ไม่มีสิทธิเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากเป็นบุคคลไม่มีสัญชาตินั้น

ล่าสุดนายชัยณรงค์ บุญวิวัฒนาการ นายอำเภอแม่อาย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากปลัดอำเภอพร้อมเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สอบสวนและสำรวจข้อเท็จจริงอย่างรัดกุม ตลอดจนรวบรวมพยานเอกสารหลักฐานต่างๆจนครบถ้วน ซึ่งน่าเชื่อได้ว่าน.ส.นารวย เป็นคนไทยแน่นอน ล่าสุดเย็นวานนี้(22 ก.ย.)ตนได้ลงนามรับรองสถานะและสั่งการให้มีการเพิ่มชื่อ น.ส.นารวย จะเติง ลงในทะเบียนบ้านในฐานะคนไทยแล้ว ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

แม้ขั้นตอนจะล่าช้าไปบ้าง แต่เจ้าหน้าที่เน้นทำตามระเบียบปฏิบัติตามข้อกฎหมายและหลักมนุษยธรรมเป็นหลัก รวมทั้งทำให้น้อง 3 คนของ น.ส.นารวยได้รับการลงสัญชาติไปพร้อมกันด้วย การดำเนินการอย่างรัดกุมเช่นนี้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กหากมีการร้องเรียนในภายหลัง และรู้สึกดีใจกับน.ส.นารวยที่จะได้ไปเที่ยวชมแพนด้าที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีนอย่างที่ตั้งใจไว้เพราะเป็นเมืองเก่าที่สวยงาม ที่สำคัญเป็นเมืองที่มีแพนด้าอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก ซึ่งตอนนี้ทางอำเภออยู่ระหว่างประสานไปยังโรงเรียนเพื่อนัดหมายให้น้องนารวยเดินทางมาทำบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมกันทั้งครอบครัว

นายชัยณรงค์ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ทราบว่า น.ส.นารวยเป็นเด็กที่มีศักยภาพแต่ที่ผ่านมาขาดโอกาส เจ้าหน้าที่ทุกคนที่นี่อยากช่วยให้ได้สิทธิ์ตามที่มี เพราะเป็นอนาคตของเด็กและจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยชนเผ่าต่างๆที่มีลักษณะเดียวกัน

สังคมไทยยังต้องการการเปิดเผยอีกมาก ขอบคุณค่ะที่ได้ให้สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์

อีกแสนหม่อง ณ ชายขอบสังคม โดย สมชาย ปรีชาศิลปกุล

มติชนรายวันวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11524

-------------------------------------------------------------------

แม้เด็กชายหม่อง ทองดี จะสามารถเดินทางไปแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับที่ประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยความช่วยเหลือของหลายฝ่าย และยังได้ชัยชนะในการแข่งขันบางประเภทเมื่อกลับมาสู่เมืองไทยมีปัญหาที่เด็กชายคนนี้ต้องเผชิญรออยู่เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกเป็นจำนวนมาก

การไร้สัญชาติเป็นปัญหาสำคัญประการหนึ่งที่เกิดขึ้นโลกปัจจุบัน อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานที่อยู่ของผู้คนไม่ว่าจะเป็นไปด้วยความเต็มใจหรือไม่ และเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั่วโลก

จำนวนไม่น้อยเคลื่อนย้ายถิ่นที่อยู่ด้วยความหวังว่าจะไปมีชีวิตที่ดีกว่าในประเทศอื่นเนื่องจากในบ้านเกิดของตนมีความยุ่งยากทางด้านเศรษฐกิจ หรือไม่สามารถทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากท้องของตนและครอบครัวได้ จำนวนไม่น้อยก็เป็นการอพยพเพื่อหลบหนีภัยความตายจากการต่อสู้หรือสงครามภายในประเทศ

แม้อาจไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยก็ยังมีความหวังมากกว่าการทนทุกข์อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอน

เด็กชายหม่องเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงนี้ และเป็นปัญหาสำคัญไม่น้อยที่กำลังฝังตัวอยู่ในสังคมหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการอพยพย้ายถิ่นฐานดำเนินไปในรูปแบบที่เป็นการอพยพแบบไม่อาจหวนกลับสู่บ้านเกิด เมื่อเวลาเนิ่นนานไปบรรดาลูกหลานของผู้อพยพในลักษณะเช่นนี้จะถือกำเนิดขึ้นมาในอีกประเทศหนึ่ง เติบโต ดำรงชีวิต คุ้นเคยและรู้จักแต่เฉพาะดินแดนใหม่เท่านั้น ไม่รู้จักถิ่นฐานบ้านเกิดของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตน

ความยากลำบากที่แต่ละรัฐต้องขบคิดก็คือ เป็นไปได้ยากหรือแทบเป็นไม่ได้เลยในการผลักดันคนกลุ่มนี้ให้ออกไปจากดินแดนของตน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของการเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือการไม่มีสัญชาติไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม ลองจินตนาการถึงเด็กชายหม่อง ผู้ซึ่งพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว เรียนในโรงเรียนไทย ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมไทยนี่คือโลกแห่งเดียวที่หล่อเลี้ยงเขาขึ้น

แล้วจะไล่ให้กลับไปอยู่ประเทศพม่าที่เขาไม่รู้จักแม้แต่น้อยเลยกระนั้นหรือ

รัฐเป็นจำนวนมากก็เผชิญกับปัญหาในลักษณะที่กล่าวมา และก็ตระหนักถึงข้อเท็จจริงว่าไม่อาจขับไล่ไสส่งมนุษย์เหล่านี้ออกไปจากดินแดนของตนเหมือนหมูเหมือนหมา เพราะอย่างไรก็ไม่มีที่ไปให้คนกลุ่มนี้มากนัก

หลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปจึงหันมาจัดการกับความยุ่งยากนี้ ด้วยการยอมรับให้บุคคลที่เป็นผู้อพยพหรือลูกหลานของผู้อพยพสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ซึ่งนำไปสู่การสร้างอาชญากรรมแบบใต้ดินให้เกิดขึ้นติดตามมา

ทั้งนี้ ด้วยการยอมรับการให้สัญชาติด้วยหลักการใหม่ จากแต่เดิมที่การให้สัญชาติของรัฐแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะยึดอยู่กับหลักดินแดนและหลักสืบสายโลหิตเป็นสำคัญ โดยหลักดินแดนจะให้สัญชาติกับบุคคลที่ถือกำเนิดขึ้นภายในรัฐแห่งใดแห่งหนึ่ง และบุคคลผู้เป็นบิดามารดาอาศัยอยู่อย่างถูกกฎหมาย

ส่วนหลักสืบสายโลหิตจะเป็นการให้สัญชาติกับบุคคลตามสัญชาติของผู้ที่เป็นบิดามารดา เช่น หากบิดาหรือมารดาเป็นสัญชาติไทย เด็กที่เกิดขึ้นมาจากบิดาหรือมารดาที่ถือสัญชาติไทยก็จะได้รับสัญชาติไทยตามหลักสืบสายโลหิต

ซึ่งหากพิจารณาตามหลักการได้สัญชาติทั้งหลักดินแดนและหลักสืบสายโลหิตจะพบว่าบุคคลผู้อพยพผู้เข้าสู่ดินแดนของรัฐอื่นอย่างผิดกฎหมายหรือการหลบหนีภัยสงครามจะไม่สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นได้ แม้ในความเป็นจริงจะมีชีวิตแทบทั้งหมดอยู่ภายในสังคมแห่งนั้น

รวมทั้งลูกหลานของผู้อพยพก็ตกอยู่ในสถานะที่ไม่แตกต่างกัน

มีการพัฒนาหลักการให้สัญชาติในแนวทางใหม่ ด้วยการให้แก่บุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมนั้นๆ มาเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ยาวนานพอจะแสดงให้เห็นว่าสังคมแห่งนี้เป็นถิ่นฐานของเขาในการดำรงชีวิต และได้แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวให้เข้ากับสังคมผ่านกระบวนการบางอย่าง เช่น ในบางประเทศกำหนดให้ต้องเรียนในโรงเรียนเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือสามารถใช้ภาษาของประเทศนั้นได้

หลักการนี้ถูกเรียกว่าการให้สัญชาติโดยหลักพำนักอาศัย (jus domicile) อันเป็นหลักการที่ช่วยทำให้สามารถรับเอาบุคคลจำนวนมากซึ่งเป็นผู้อพยพแบบไม่หวนกลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นได้มากกว่าการปล่อยให้เขาต้องเคว้งคว้างไป จะทำงานแบบสุจริตก็ทำไม่ได้ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ ระบบสวัสดิการทางสังคมก็ไม่มีรองรับ

สุดท้ายก็จบลงด้วยการประกอบอาชญากรรมในลักษณะต่างๆ ค้ายาเสพติด อาวุธสงครามเถื่อน

แน่นอนว่าการให้สัญชาติแก่บุคคลในลักษณะเช่นนี้ย่อมมีความแตกต่างจากการได้สัญชาติโดยหลักสืบสายโลหิตและโดยหลักดินแดน เนื่องจากอาจถูกพิจารณาได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับผู้ที่ได้สัญชาติอยู่ในลักษณะที่เบาบาง จึงอาจทำให้มีข้อสงสัยถึงความปลอดภัยหรือความมั่นคงต่อรัฐที่ให้สัญชาติได้

ซึ่งการให้สัญชาติด้วยหลักพำนักอาศัยก็ได้คำนึงถึงด้วยเช่นกัน การให้สิทธิกับบุคคลที่ถือสัญชาติในลักษณะนี้จะไม่ได้อยู่ในลักษณะเดียวกันกับบุคคลอื่นที่ถือสัญชาติ แต่มีข้อจำกัดบางประการเอาไว้โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง เช่น สิทธิในการลงคะแนนเลือกผู้แทนหรือการลงรับสมัครเป็นผู้แทนในการเมืองระดับชาติ

แต่โดยที่ยังคงรับรองสิทธิในด้านอื่นๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองจากรัฐในชีวิตและร่างกาย สิทธิในสวัสดิการที่รัฐจัดไว้ให้กับประชาชนกลุ่มต่างๆ สิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองแห่งรัฐ

การให้สัญชาติด้วยหลักพำนักอาศัยจึงเป็นการยอมรับถึงความเป็นจริง ว่ามีกลุ่มคนซึ่งอพยพมาอยู่ในดินแดนของรัฐแม้ว่าจะเป็นการเดินทางเข้ามาแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายแต่ก็ยากจะผลักดันให้พ้นไปจากสังคมของตน ยกเว้นจะปิดหูปิดตาไม่สนใจต่อความโหดร้ายว่าเมื่อไล่ไปแล้วเขาอาจตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ

ในขณะเดียวกันก็ตระหนักว่าอาจต้องจำกัดสิทธิบางประการทางด้านการเมืองกับคนกลุ่มนี้ จนกว่าจะเกิดความมั่นใจหรือมีช่วงระยะเวลาที่แสดงให้เห็นได้มากขึ้นถึงความมั่นคงในการดำรงอยู่ในสังคมนั้น

ระบบกฎหมายของไทยในเรื่องการให้สัญชาติยังคงยึดหลักการให้สัญชาติด้วยหลักดินแดนและหลักสืบสายโลหิตเป็นสำคัญ ทำให้คนอีกจำนวนมากที่อยู่ในฐานะเฉกเช่นเด็กชายหม่องจึงยังต้องตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากอีกต่อไป

ในฐานะที่ตกเป็นเป้าสายตาของสังคม ในอนาคตเขาอาจได้รับการแปลงสัญชาติให้เป็นคนไทยได้

อย่างไรก็ตาม จะยังคงมีเด็กชายหม่องอีกนับหมื่นนับแสนอยู่ในสังคมไทย คนเหล่านี้อาจไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถในด้านต่างๆ ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ได้เจอนายกรัฐมนตรี ต้องตกอยู่ในสถานะของการไร้สัญชาติและเผชิญกับความยากลำบากในชีวิตอีกต่อไป

ตราบเท่าที่ระบบกฎหมายไทยยังไม่ยอมรับการให้สัญชาติในรูปแบบใหม่ๆ ที่เปิดกว้างเพิ่มมากขึ้น

หน้า 6

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท