1. การจัดการกับอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์
อารมณ์โกรธ เมื่อมีอารมณ์โกรธร่างกายจะเต็มไปด้วยความเครียด ความแค้น อัดแน่นในใจ ส่วนใหญ่ มักจะขาดความยั้งคิด ขณะมีอารมณ์โกรธให้รู้ตัวว่ากำลังโกรธ และไม่เปลี่ยนอารมณ์โกรธไปเป็นอารมณ์อื่น เช่น อารมณ์เกลียด ขณะมีอารมณ์โกรธให้นับ 1 - 10 หรือหายใจเข้าออกลึกๆ หลายครั้ง หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ถ้าคุณยังเผชิญหน้ากับคนที่คุณโกรธไม่ได้ ลองเขียนระบายในกระดาษปลดปล่อยความโกรธออกมาเขียนอะไรก็ได้ที่อยากเขียน พออารมณ์สงบ ฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและทิ้งไปเมื่ออารมณ์สงบแล้วจึงเผชิญหน้ากับคนที่คุณโกรธ
อารมณ์ขี้อิจฉา หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น มองในเชิงบวกมองในแง่ดี หลายๆ คนเมื่อประสบความล้มเหลวในชีวิตมักจะท้อแท้สิ้นหวัง และคิดลงโทษตัวเอง คิดว่าความผิดพลาดทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะตัวเอง ดูถูกตัวเองว่าด้อยคุณค่า ไร้ความสามารถ เศร้าหมอง และหมดกำลังไปตลอดชีวิต...แต่บางคน...แม้จะพบกับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังมุ่งมั่นบากบั่นไม่ท้อถอย ฝ่าฟันอุปสรรคจนประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะมีกำลังใจที่จะทุ่มเทในการทำงานอย่างมาก ความคิดในแง่ดี มองอุปสรรคหรือความล้มเหลวว่าเป็นสิ่งท้าทาย เริ่มต้นจาก การมองตัวเองในแง่ดี มองว่าตัวเองมีความสามารถอะไรบ้าง เช่น อาจจะทำงานเก่งแต่พูดไม่เก่งก็ควรภาคภูมิในจุดนี้ มองตัวเองในแง่ดี แล้วควรมองผู้คนและเหตุการณ์รอบข้างในแง่ดีด้วย จะทำให้มีความคิดดี อารมณ์แจ่มใส มีสติที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง
2. ยอมรับความเปลี่ยนแปลง
ในชีวิตคนเรามักจะพบกับความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงที่ดีจะทำให้จิตใจเป็นสุข ถ้าเปลี่ยนแปลงในทางตรงกันข้ามมักจะยอมรับไม่ได้ ทำให้จิตใจไม่เป็นสุข ถ้าเปลี่ยนแปลงในทางตรงกันข้ามมักจะยอมรับไม่ได้ ทำให้จิตใจไม่เป็นสุข ลองคิดว่าการเปลี่ยนแปแลงต่างๆ มักจะมีเหตุผลในการเปลี่ยนแปแลงเสมอ เช่น อยากรวยก็ต้องขยันทำงาน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ขอให้มองหาเหตุผลว่าเกิดจากอะไร ถ้าหากท่านทุ่มเทกับงานอย่างมาก แต่ไม่ได้รับผลดีเท่าที่คิดไว้ ก็คงต้องทำใจให้ยอมรับ และคิดหาเหตุผลที่จะแก้ไขต่อไป หรือถ้าท่านอกหักขอให้มองที่เหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร อาจจะเป็นที่เราเองหรือคนรัก และคงต้องทำใจให้ยอมรับและปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น ในวันข้างหน้าเราอาจจะพบรักคนใหม่ที่เหมาะสมกว่า หรือถ้าไม่พบใครที่เหมาะสมและถูกใจ การอยู่เป็นโสดก็เป็นสุขอีกแบบหนึ่ง
3. หาคนปรับทุกข์
เมื่อมีความเครียดมักจะเก็บความสับสนและกังวลใจเอาไว้คนเดียวทำให้อึดอัดไม่มีความสุขลองหาคนไว้ใจได้ อาจจะเป็นสามีภรรยาพ่อแม่หรือเพื่อนสนิท พูดระบายความคับข้องใจ ถ้าหากไม่ไว้ใจคนใกล้ชิดก็ลองใช้บริการจากสถานบริการของรัฐ ที่มีบริการสายด่วนสุขภาพจิตก็ได้
4. หัดเป็นคนมีอารมณ์ขัน ยิ้มหัวเราะ
ชีวิตคนไม่จำเป็นต้องมีสาระตลอดไปหัดเป็นคนมีอารมณ์ขัน ยิ้มและหัวเราะบ้าง เพราะการหัวเราะร่างกายจะผลิตฮอร์โมน "ความสุข" ออกมา นอกจากนั้นการหัวเราะทำให้เลือดขยายตัว ทำให้เลือดไหลเร็วมากขึ้น ทำให้ร่างกายภายในอบอุ่น ออกซิเจนไปเลี้ยงทุกเซลล์ของร่างกาย ระบบต่างๆ ของร่างกายจะทำหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ สามารถต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บได้ กระตุ้นให้เจริญอาหาร หัวเราะ 1 นาที เท่ากับได้พักผ่อน 45 นาที
*****************************************************************************************
เรื่องโดย : นายแพทย์สุริยเดช ทรีปาตี หัวหน้าคลินิกเพื่อนวัยทีน สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี , Update 12-09-51
นายสิทธิพงษ์ เวียงย่างกุ้ง ม.6/8 โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์
สวัสดีครับ...ผมอ่านและศึกษาแล็ว ผมสามารถเอามาจัดการกับความเครียดของตนเองได้เลยครับ เพราะวิธีการต่างๆสามารถนำมาใช้ได้หมดเลยครับ...ยังไงก็ดูแลสุขภาพของตนเองด้วยนะครับ ช่วงนี้ฝนตกหนัก..อย่าลืมกางร่มนะครับ...เดี๋ยวไมฉบาย
สวัสดีจ๊ะ คนเล่าเรื่อง
สวัสดีค่ะ พี่ขจิต
ดีจังเลยครับ นักเรียนอ่านแล้ว นำมาปฏิบัติเลย
สวัสดีค่ะ ต่อไปนี้จะมีความสุขแล้วนะ เพราะได้เรียนรู้เทคนิคแล้วจ๊ะ
สวัสดีค่ะ ท่านsmall man
สวัสดีครับครูแป๋ม...วันนี้เห็นครูแป๋มแล้ว ผมก็ดีใจครับ เพราะว่าไม่เห็นหน้ามา 2 วัน เพราะว่าครูไม่สบาย แต่วันนี้ขอขอบคุณครูแป๋มมากนะครับ ที่ได้แนะนำแนวทางการทำโครงการครับ แล้วผมก็จะทำให้เร็วทีสุดครับ และวันนี้ห้องของผมทำสแตนเชียร์กันครับ ดูดีมากครับ ทำเสร็จก็เกือบ 3 ทุ่มครับ คุ้มค่าเหนื่อยจริงๆ ครับ
ขอให้มีความสุขนะคะ p' krupom รักมากค่ะ..
มีความสุขกับงานที่ทำนะคะ
สวัสดีจ้า นายเต๋า
สะหวัดดีครับครูแป๋ม ผมมีเรื่องอยากถามเรื่องหนึ่งครับ ว่า เวลาผมเป็นไข้รู้สึกเจ็บคอ และรู้สึกขมๆ ในลำคอเป็นเพราะอะไรครับ ช่วยชี้แจงแถลงไขด้วยนะครับ ขอบคุณครับ