หนังสือที่รัก:THE TOP SECRET : สุดยอดความลับ...ของจักรวาล


ถ้าคิดจะใช้ความรู้จากเดอะ ท็อปซีเคร็ทเพียงข้อเดียว จงเลือกใช้การฝึกสติสัมปชัญญะทุกขณะจิตที่เราระลึกได้ จนกลายเป็นวิถีชีวิตของเรา

ไม่ทราบว่า..มีใครเคยเป็นเหมือนกันมั๊ยคะ..ว่า..บางอย่างที่เราได้เคยอธิษฐานหรือเคยตั้งใจไว้..มันล้วนเป็นจริงเหมือนกับที่เราวาดฝันไว้..อย่างไม่น่าเชื่อ..ถ้าคุณเคย..คุณอยากรู้มั๊ยคะ..ว่าเพราะอะไร..

ทุกอย่างที่สงสัย..มีคำตอบและคำอธิบายอยู่ในหนังสือเล่มนี้..อย่างชัดเจนจริงๆค่ะ..

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

THE TOP SECRET แต่งโดย ทันตแพทย์สม  สุจีรา ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือติดอันดับขายดีที่สุดเล่มหนึ่ง เรื่อง ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น

 
จริงๆแล้ว..หลายท่านคงจะได้อ่านบ้างแล้ว..แต่ดิฉันขอพูดคุยเฉพาะเรื่องเดอะ ท็อป ซีเครท นี้ในแง่ประเด็นที่ดิฉันสนใจ..และอยากนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทุกท่านค่ะ..
 
               หนังสือเรื่องนี้ดิฉันอ่านรวดเดียวจบอย่างละเอียดทุกตัวอักษรจริงๆ..เพราะโดยส่วนตัวก็จะชอบอ่านหนังสือแนวศาสนา ปรัชญาและถ้ายิ่งเชื่อมโยงกับหลักทางจิตวิทยาด้วยยิ่งชอบมาก..
อ่านแล้วก็ยิ่งแน่ใจว่า..ธรรมะครอบคลุมในทุกๆศาสตร์ของโลกอย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว
         หนังสือเล่มนี้..เปรียบเป็นกุญแจที่ไขความลับของจักรวาล.ที่พูดถึงกฎการดึงดูดของความคิด ที่อธิบายอิงพุทธศาสนาได้ชัดเจนกว่า THE SECRET และอธิบายถึงวิธีปฏิบัติที่ไปได้ไกลกว่าTHE SECRET ที่ไปได้แค่ ความสุขในระดับโลกียะ ด้วยการไปถึงการหลุดพ้นซึ่งเป็นสูงสุดของความสุขระดับโลกุตระเลยทีเดียว
..............................................................
 

         ความลับนั่นก็คือ

  • เมื่อใดที่เราสร้างภาพแห่งอนาคตได้ชัดเจนเท่ากับภาพในอดีต เหมือนกับว่าเคยผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้ว รู้สึกว่าเกิดขึ้นจริงแน่นอน เมื่อนั้นเราก็จะสามารถกำหนดอนาคตให้เป็นดั่งภาพในจินตนาการได้
  • เคล็ดลับของอัจฉริยะ คือการสร้างภาพที่ชัดเจนขึ้นในใจก่อนเสมอ
  • มนุษย์มีสิ่งล้ำค่าอย่างหนึ่งนั่นคือ "สติสัมปชัญญะ" ที่คอยควบคุมดูแลอารมณ์ ความรู้สึก ตลอดไปถึงความคิด
  • ความคิด ส่งผลต่อเซลล์ทุกเซลล์ในทุกระบบของร่างกาย และสามารถส่งผลไปถึงเซลล์ของคนอื่นๆด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ในระบบประสาท ดังนั้น จงพยายามคิดบวกอยู่เสมอ
  • การ "ให้" คือการเพิ่ม ให้บวก..บวกในตัวคุณก็จะเพิ่ม ให้ลบ ลบในตัวคุณก็จะเพิ่ม เช่น ยิ่งให้ยิ่งเก่ง ยิ่งสอนยิ่งรู้ ยิ่งเรียนยิ่งฉลาด ยิ่งบริจาคยิ่งรวย
  • จักรวาลมีคลื่นความถี่ ตัวเราเปรียบเสมือนจอรับภาพ  ถ้าต้องการภาพชีวิตแบบไหน ก็เพียงแต่ปรับความถี่ของจอรับภาพให้ตรงกับคลื่นความถี่ของจักรวาล
  • จิตใต้สำนึก คือฐานข้อมูลของความคิด และความรู้สึกที่เกิดขึ้นซ้ำกันบ่อยๆจนตกตะกอนแล้ว
  • เมื่อเราฝึกคิดบวกจนเป็นนิสัย จิตใต้สำนึกก็จะบันดาลให้สิ่งที่เราคิดเกิดขึ้นจริง แล้วจะพบว่าสิ่งดีๆเข้ามาสู่ชีวิตเรามากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
  • จิตใต้สำนึกทำงานแม้ในขณะหลับ ดังนั้น ในแต่ละวันควรระลึกถึงสิ่งดีๆที่ได้ทำลงไปก่อนล้มตัวลงนอน เพื่อจะได้ตื่นเช้าวันใหม่ด้วยความสดชื่น สมองแจ่มใส
  • จิตใต้สำนึกมีพลังอำนาจมากว่าจิตสำนึกหลายหมื่นหลายแสนเท่า การทำงานของจิตใต้สำนึกอยู่เหนือมิติที่สี่
  • จิตใต้สำนึก เป็นสิ่งที่เราสั่งสมไว้ในภวังคจิตมานานหลายภพหลายชาติ รวมทั้งชาติปัจจุบัน จึงทำให้เรามีพื้นฐานจิต อุปนิสัย หรือจริตที่แตกต่างจากคนอื่น ตามประสบการณ์ที่เราสั่งสมมา
  • ทุกครั้งที่ทำความดี จงจดจำความรู้สึกดีดีนั้นไว้ ให้ประทับอยู่ในใจเรา สิ่งนี้จะเป็นพลังให้เรามีกำลังใจที่จะทำความดีอยู่อย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญกว่านั้น พลังนี้จะดึงดูดสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในชีวิตเราอย่างน่าอัศจรรย์
  • กฎลับ 4ข้อ  หนึ่ง..  ตั้งจิตอธิษฐานขอโดยปราศจากความอยาก เพื่อป้องกันความกระวนกระวายสอง..  มีความเชื่อมั่นในสิ่งที่เราขอว่าเป็นจริงได้โดยไม่มีข้อลังเลสงสัย  สาม..จินตนาการภาพแห่งความรู้สึกว่าสิ่งนั้นได้มาแล้วด้วยความรู้สึกปรีดาและมีความสุข  สี่..เตรียมความพร้อมทั้งกายและใจ
  • อย่าอธิษฐานขอที่เป้าหมาย แต่ให้ขอสิ่งที่จะทำไปให้ถึงเป้าหมายแทน เช่นขอให้มีพลังแรงกายแรงใจ มีสติปัญญาให้ไปถึงเป้าหมายนั้น เป็นต้น
  • ความกลัวเป็นตัวขัดขวางศักยภาพของจิตอย่างรุนแรง ทำลายสุขภาพทั้งกายและใจ
  • ความกลัวจัดเป็นความคิดด้านลบ เมื่อกลัวบ่อยๆ จิตใต้สำนึกจะบันทึกภาพนั้น แล้วเหนี่ยวนำให้เกิดขึ้นจริง
  • เมื่อใดเรามีสติ ความคิดลบที่เกิดขึ้นในสมองจะไม่มีทางหลุดฝังลงไปในจิตใต้สำนึกได้
  • เผชิญกับคนคิดลบ ต้องสร้างพลังบวกให้มากๆ(คบคนพาล พาลพาไปหาผิด)..แต่ยิ่งคบคนที่คิดบวก.บวกในตัวเราก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น(คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล)
  • ถ้าเราคิดดี..สิ่งดีๆจะเข้ามาในชีวิต ถ้าเราคิดลบ สิ่งที่ไม่ดีก็จะเข้ามาในชีวิต
  • เมื่อชีวิตพบกับอุปสรรค จงคิดบวก มองวิกฤตเป็นโอกาส เราก็จะมีพลังด้านบวกเพิ่มขึ้น มีความหวังและนั่นก็หมายถึงสิ่งดีๆ.ก็จะเข้ามาในชีวิตต่อไป
  • การหัวเราะ จะทำให้คลื่นรังสีออร่ารอบๆตัวเป็นสีสดใส คลื่นบวกของสิ่งแวดล้อมจะมาออรอบๆตัวเรา เสียงหัวเราะมีพลังดึงดูดสูงมาก และมันสามารถดึงพลังคลื่นบวกแห่งจักรวาลเข้ามาสู่ตัวเรา
  • ความรู้สึก "พอ" จะทำให้ชีวิตมีความสุข และเกิดความรู้สึกอยากแบ่งปันให้ผู้อื่น ความรู้สึกนี้จะเป็นพลังดึงดูดที่ทรงอานุภาพและเป็นทางลัดที่ง่ายที่สุดในการที่จะนำความมั่งคั่งมาสู่ตัวเรา
  • จงแผ่เมตตาให้ทุกสรรพสิ่ง เพราะมีการทดลองพบว่ามีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพุ่งออกมาจากร่างกายขณะทีแผ่เมตตา
  • จงมีสติทุกครั้งที่รลึกและรู้สึกตัว ให้เข้าไปดูความรู้สึกและปรับให้เป็นบวกเสมอ
  • ความรู้สึกเป็นกรรมเก่า  ความคิดคือกรรมปัจจุบัน การจะตัดความรู้สึกต้องระดมพลังความคิดบวกให้เข้มข้น แล้วบีบอัด จนกลายเป็นความรู้สึกเชิงบวก จึงจะสามารถนำไปตัดความรู้สึกลบได้ (ระงับได้ด้วยการเจริญสติ)
  • หมั่นใช้ปัญญาวิเคราะห์ความรู้สึก ว่าจะเหนี่ยวนำให้ความคิดเป็นบวกหรือลบ
  • การคิดลบจะเกิดเป็นความรู้สึกฝังอยู่ในจิต เป็นกรรมติดตัว แต่ถ้าคิดบวก ก็จะเป็นการสกัดไม่ให้กรรมใหม่เกิดขึ้นอีก
  • จงคิดบวกเสมอไม่ว่าสถานการณ์ใด คิดแต่สิ่งดีๆทำแต่สิ่งดีๆ แล้วจิตใต้สำนึกจะดึงดูดสิ่งที่ดีๆเหมือนกันเข้ามา ชีวิตเราก็จะไปสู่สิ่งที่ดี
  • สิ่งที่สกัดกิเลสตัณหาได้มีเพียงสิ่งเดียวคือ "สติสัมปชัญญะ" เพราะเป็นตัวเฝ้าทวารทั้งขาเข้าและออก
  • ในที่สุดเราก็จะรู้ว่า ทุกสิ่งแม้แต่ความรู้สึกก็ไม่มีอยู่จริง  เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เหมือนฟองสบู่ที่เกิดดับภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ถ้าคิดจะใช้ความรู้จากเดอะ ท็อปซีเคร็ทเพียงข้อเดียว จงเลือกใช้การฝึกสติสัมปชัญญะทุกขณะจิตที่เราระลึกได้ จนกลายเป็นวิถีชีวิตของเรา

ถึงตอนนี้..บอกได้อย่างเดียวเลยค่ะ..ว่าดีใจมากที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา และได้รู้ถึงความเป็นอัจฉริยะของพระพุทธเจ้า..ที่ไม่มีใครเทียบได้เลย

******************************************************************

 แล้วคุณล่ะคะ....มีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ...สำหรับดิฉันแล้วเห็นด้วยจริงๆ."สติปัฎฐานสี่"..ถ้าทำได้ในทุกอิริยาบถเนี่ย..สักวันคงเข้าสู่กระแสของพระนิพพานอย่างแน่นอน

******************************************************************

 

 

หมายเลขบันทึก: 180115เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2008 00:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (56)

สวัสดีต่ะ

เห็นครูแอ๊วจากบล็อกของครูตุ๊กแกน่ะ..ไม่อยากจะเชื่อว่าครูเด็กๆจะอ่านหนังสือกันเก่งอย่างนี้..พี่เห็นด้วยกับครูแอ๊วนะ..เราคิด..และทำด๊..เราก็จะได้สิ่งดีๆเกิดกับตัวเอง..พี่มีความเชื่อส่วนตัวอย่างนั้นมานานเลย

สวัสดีครับ

- โฆษณาในสื่อต่างๆ ได้ผลดีไม่น้อย ตอนนี้ที่ไหนๆ ก็มี the top secret...ถ้าพูดถึงร้านค้าที่ผมเห้นตั้งแต่ร้านค้าเล็กๆ ในตลาดจนถึงร้านค้าใหญ่ที่ได้เข้าไปมีเกือบจะทุกร้านครับ

- แต่หนังสือเล่มนี้ดีมากจริงๆ อย่างครูแอ๊วว่าไว้ครับ ผมได้หนังสือเล่มนี้มา ในตอนนั้นที่ผมไม่รู้เรื่อง The secret ที่โด่งดังอะไรนั่นเลย เมื่ออ่านคำนำในเล่มนี้ซึ่งอ้างถึง The Secret จึงตามไปเปิดๆ ดู รู้สึกไม่ค่อยถูกจริต จึงกลับมาซื้อ The Top Secret เพราะเนื้อหาในเล่ม และความชื่นชอบนักเขียน

- นักเขียนเคยเขียนหนังสือก่อนหน้านี้เป็นแนวศาสนาที่อธบายด้วยวิทยาศาสตร์...และทุกเล่มก็เป็นแนวนี้รวมทั้ง The Top Secret ด้วย อ่านแล้วจะรู้สึก ทึ่ง ศรัทธา ในพระพุทธองค์ ในพระพุทธศานา และผู้เขียนเน้นสติปัฏฐาน เพราะ...

- เป็นสมาธิ เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงรองรับว่าเป็นทางลัดสั้นที่สุดที่จะเข้าถึงสิ่งสูงสุด

- ขอบคุณครับ

  • อรุณสวัสดิ์ครับครูแอ๊ว
  • แวะมาเยี่ยมยามรุ่งอรุณครับ
  • ผมสนใจหัวข้อบันทึกที่ครูแอ๊วเขียนเอาไว้ครับ "หนังสือที่รัก: The Top Secret สุดยอดความลับของจักรวาล" น่าสนใจทีเดียวครับ
  • มีหลายเรื่องบังเอิญตรงกันกับที่ผมสนใจและบันทึกไว้ในบล็อกนิดหน่อยครับ เลยแวะเข้ามาอ่านเพิ่มเติมเต็ม และเสริมที่ขาดที่พร่อง ที่เว้าแหว่งไป
  • ขอบคุณครูแอ๊วมากครับสำหรับบันทึกดีๆที่นำมาแบ่งปันแก่กันและกัน ขอเป็นกำลังใจให้ครูแอ๊วบรรลุความสำเร็จในการแสวงว่าสัจจธรรมแห่งชีวิต สู้ๆครับ
  • อรุณสวัสดิ์ครับครูแอ๊ว
  • แวะมาเยี่ยมยามรุ่งอรุณครับ
  • ผมสนใจหัวข้อบันทึกที่ครูแอ๊วเขียนเอาไว้ครับ "หนังสือที่รัก: The Top Secret สุดยอดความลับของจักรวาล" น่าสนใจทีเดียวครับ
  • มีหลายเรื่องบังเอิญตรงกันกับที่ผมสนใจและบันทึกไว้ในบล็อกนิดหน่อยครับ เลยแวะเข้ามาอ่านเพิ่มเติมเต็ม และเสริมที่ขาดที่พร่อง ที่เว้าแหว่งไป
  • ขอบคุณครูแอ๊วมากครับสำหรับบันทึกดีๆที่นำมาแบ่งปันแก่กันและกัน ขอเป็นกำลังใจให้ครูแอ๊วบรรลุความสำเร็จในการแสวงว่าสัจจธรรมแห่งชีวิต สู้ๆครับ
  • อรุณสวัสดิ์ครับครูแอ๊ว
  • แวะมาเยี่ยมยามรุ่งอรุณครับ
  • ผมสนใจหัวข้อบันทึกที่ครูแอ๊วเขียนเอาไว้ครับ "หนังสือที่รัก: The Top Secret สุดยอดความลับของจักรวาล" น่าสนใจทีเดียวครับ
  • มีหลายเรื่องบังเอิญตรงกันกับที่ผมสนใจและบันทึกไว้ในบล็อกนิดหน่อยครับ เลยแวะเข้ามาอ่านเพิ่มเติมเต็ม และเสริมที่ขาดที่พร่อง ที่เว้าแหว่งไป
  • ขอบคุณครูแอ๊วมากครับสำหรับบันทึกดีๆที่นำมาแบ่งปันแก่กันและกัน ขอเป็นกำลังใจให้ครูแอ๊วบรรลุความสำเร็จในการแสวงว่าสัจจธรรมแห่งชีวิต สู้ๆครับ
  • เช้านี้ถ้าไม่ได้อ่านบันทึกนี้ ขาดทุนมหาศาล
  • ความรู้สึก "พอ" จะทำให้ชีวิตมีความสุข
  • คงทำยากมากๆๆ

หวัดดีค่ะ...ครูแอ๊ว

เห็นด้วยค่ะ...ขณะนี้ก็พยายามคิดบวกอยู่

แต่ไม่ค่อยจะลงตัวสักเท่าไหร่เลยค่ะ...^_^

ยินดีที่รู้จักค่ะ..พี่นงเยาว์..แอ๊วก็เห็นชื่อพี่บ่อยๆในบล็อกขอเพลงของครูตุ๊กน่ะค่ะ..อิอิ

สวนกันไปมาซะเหนื่อย..วันนี้ดีจัง..ที่ได้มีโอกาสคุยกันค่ะ..

จริงๆแล้วงานอดิเรกของแอ๊วคืออยู่บ้านอ่านหนังสือนี่ล่ะค่ะ..อ่านแล้วต้องรวดเดียวจบด้วยนะคะ..(จดจ่อมากๆ..อิอิ) วันก่อนอ่านเรื่องนี้ล่ะค่ะ..สี่ชั่วโมงจบแบบซึมซับทุกตัวอักษรเลย..เพราะรู้สึกถูกใจกับแนวคิดนี้มาก..รู้สึกหมือนค้นพบอะไรที่ค้นหาคำตอบมานาน...พออ่านเล่มนี้จบแล้วรู้สึกว่าใช่เลย..เห็นด้วยมากๆ..เพราะสังเกตจากชีวิตของตัวเองน่ะค่ะ.พี่นงเยาว์..การตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกขอบคุณทุกๆสิ่ง..ที่ทำให้ชีวิตของเราเปี่ยมสุข..แอ๊วรู้สึกว่า..มันรู้สึกดีและชีวิตเราก็มีความสุข สมูทไปทุกเรื่องจริงๆ..

เรามองหาสิ่งใด..เราก็จะเห็นสิ่งนั้น..จริงๆ..

คิดดี พูดดี ทำดี..ก็จะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตอย่างที่พี่นงเยาว์บอกนั่น..ใช่เลยค่ะ..

มีความสุขกับพลังด้านบวก..นะคะ..ความสุขอยู่รอบตัวเราแล้วค่ะ..

ขอบคุณมากๆค่ะ..^___^

 

 

 

ยินดีที่รู้จักค่ะ..คุณP  ดินดอน

ตัวเองก็ได้อ่าน THE TOP SECRET ก่อน THE  SECRET เหมือนกันค่ะ..เลยรู้สึกว่า เรื่องเดอะ ท็อป ซีเคร็ท เนื้อหาครอบคลุมตามหลักพุทธศาสนามากกว่า..เลยยิ่งรู้สึกทึ่งกับความเป็นอัจฉริยบุคคลของพระพุทธเจ้าจริงๆ..ที่ท่านรู้กฎนี้มาก่อนตั้งพันๆปี..ยิ่งอ่านทำความเข้าใจก็ยิ่งรู้สึกเชื่อค่ะ..ว่าจักรวาลนี้ดึงดูดด้วยคลื่นความถี่..ความถี่เหมือนกันก็จะดึงดูดกัน ..ก็จริงนะคะ.คิดถึงว่าถ้าพลังด้านบวกมีในตัวเรามาก..เราก็มักจะมีเพื่อนหรือคบค้าสมาคมกับคนที่เหมือนๆกันคือ..ด้านบวกเหมือนกัน และยิ่งคิดบวก.ชีวิตก็จะเจอแต่สิ่งบวกๆ..เมื่อมองบวกมากๆ..ก็จะทำให้มองไปทางไหนหรือพบเจอกับสถานการณ์ไหนก็ยิ้มรับได้..และวิถีทางที่ลัดที่สุดก็ต้องเจริญสติปิดทางเข้ากิเลสทั้งหมด..เพื่อป้องกันไม่ให้ความคิดนั้นไปถึงจิตใต้สำนึก ทำบ่อยๆตายไปภวังคจิตสุดท้ายก็จะเป็นด้านดีๆ.งก็จะไปดี..ก็คงจะจริงนะคะ

เช่นเดียวกับเรื่องไอสนสไตน์พบ  พระพุทธเจ้าเห็น..อ่านแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้พบพระพุทธศาสนา..ศาสนาที่สอนให้คิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล..มีคำอธิบายในทุกสิ่ง..ดีจังค่ะ..

รู้สึกดีนะคะ..ที่มีคนชอบอ่านแนวเดียวกันมาแลกเปลี่ยนแนวคิดร่วมกันอย่างนี้.มีความสุขค่ะ..

มีหนังสือไหนดีๆ..น่าสนใจก็อย่าลืมแนะนำกันด้วยนะคะ..

ขอบคุณมากค่ะ..ที่แวะมาคุยกัน.คุยซะเพลินเลยค่ะ..^__^

สวัสดีครับ

ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้ครับ

จะต้องหาอ่านที่อินเดียครับ

สวัสดีค่ะ.P  อ.อาลัม

ดีใจค่ะ..ที่อาจารย์เข้ามาทักทายแลกเปลี่ยนร่วมกัน

อยากรู้จังค่ะ..ว่าถ้าเรื่อง THE SECRET (ไม่ทราบว่าอาจารย์อ่านยังคะ.)ถ้าอ่านแล้วอยากทราบจังค่ะ.ว่า..ตามหลักการของศาสนาอิสลามมีความคิดเห็นอย่างไรต่อทฤษฎีแรงดึงดูดของจักรวาลนี้คะ?  น่าสนุกจังค่ะ..เหมือนจะเรียนศาสนาเปรียบเทียบเลยค่ะ..

หากอาจารย์ว่างรบกวนแลกเปลี่ยนกันนิดนึง..แนวคิดนี้น่าสนใจค่ะ..ว่าแต่ละศาสนาเค้ามีความคิดเห็นอย่างไร..(เป็นสิ่งที่น่าเรียนรู้มากค่ะ..)

ขอบคุณอาจารย์มากๆเช่นกันค่ะ..แอ๊วก็กำลังฝึกสติให้ทันกับอารมณ์อยู่ค่ะ..สักวันค่ะ..สักวัน..ต้องทำได้สิน่าอิอิ

ขอให้อาจารย์ประสบแต่ความผาสุขในชีวิตเช่นกันค่ะ..

ขอบคุณอาจารย์นะคะ.ที่แวะทักทายเสมอเลย..^____^

สวัสดีค่ะ..ผอ.P ประจักษ์

ตื่นเช้ามาก็ได้รับข้อความอรุณสวัสดิ์แต่เช้าอย่างนี้..มีความสุขแน่นอนเลยค่ะ.อิอิ

เค้าบอกว่า..สนทนาธรรมตามกาลเป็นมงคลแก่ชีวิต..แต่สิ่งนั้นเราก็ไม่รู้แน่ชัดนะคะ เอาเป็นว่า..การสนทนาธรรมกันครั้งนี้ได้กุศลหรือไม่ได้ไม่สนใจเท่ากับ..การคุยกันแล้วมีความสุขใจนะคะ..

แอ๊วชอบเรื่องนี้ในประเด็น การฝึกสติตามอารมณ์ให้ทันค่ะ..ยิ่งทำได้บ่อยก็ยิ่งทำให้เราคิดดีๆจนเป็นนิสัย คิดดี ก็จะพูดดีและทำสิ่งดีๆ..เมื่อทำเป็นนิสัยแล้ว จิตสำนึกก็จะมีแต่สิ่งดีๆ..จิตสุดท้ายยามไม่รู้ตัว..(เวลาตาย)ก็จะมีแต่สิ่งดีๆ..เป็นอันหวังได้นะคะ..

เคล็ดลับนี้ตั้งใจว่าจะฝึกทำไปพร้อมกับเด็กๆในช่วงเปิดเทอม.นี้ด้วยค่ะ.ฝึกตั้งแต่เล็กๆนี่ล่ะ...จะได้ต่อยอดได้ถึงขีดสุดได้ไว

เราดี..เด็กดี.ครอบครัวดี...สังคมดี..ชาติเจริญ...(ในหลวงมีความสุข)..หวังเกินไปไม่คะเนี่ย..

ขอบคุณนะคะ..ที่แวะมาทักทายทุกเช้าเลยค่ะ..ชื่นใจจริงๆค่ะ.

 

 

 

สวัสดีอีกครั้งค่ะ..อาจารย์P  windy

อาจารย์จำสโลแกนของเครื่องสำอางBSC ได้มั๊ยคะ..ที่ว่า."ยิ่งคิดบวก.ยิ่งสวยขึ้น"..ว่าแล้วก็ต้องฝึกคิดบวกเยอะๆ..จะได้สวยขึ้นไงคะ.อิอิ

ในหนังสือนี้เค้าก็บอกนะคะว่า...อาชีพที่ต้องคิดบวกมากๆก็มีอาชีพครู หมอพยาบาล แล้วก็ผู้พิพากษาค่ะ..

ที่ต้องเป็นอย่างงั้นเพราะการคิดบวกก็เหมือนเป็นการให้โอกาสกับคนอื่น(ครูกับผู้พิพากษา)..และเผชิญกับสิ่งลบๆ..ที่เจอทุกวัน(หมอ พยาบาล) อาชีพที่น่าเห็นใจที่สุดเพราะต้องคิดลบไว้ก่อนเสมอคือ.ตำรวจ..ดังนั้นต้องฝึกคิดบวกมากๆ.จะได้ไม่ถูกด้านลบกลืนค่ะ..ก็จริงนะคะ..

ว่าแล้วก็ต้องฝึกคิดบวกบัดเดี๋ยวนี้..เลยค่ะ..(จะได้สวยขึ้น..อะ..ม่ายช่ายค่ะ..อิอิ)

ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ..^__^

ครูอ้อย เชื่อค่ะ  ความมหัศจรรย์ในจักรวาลนี้มีมากมาย  หากเราศึกษา ตั้งใจ ความดี ความงาม รอเราอยู่  เรามีสิทธิไขว่คว้าได้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ .....วันก่อน---ด้วยความอยากได้หนังสือ "เดอะซีเคร็ต"  จึงเข้าไปที่ร้านนายอินทร์ ปรากฏว่า ได้หนังสือ "เดอะท็อปซีเคร็ต" มาอีกเล่ม (อิอิ)

-----------------------------

ปรากฏว่าผมอ่าน "เดอะท็อปซีเคร็ต" แล้วจึงค่อยย้อนไปอ่าน "เดอะซีเคร็ต" ครับ------>ผมประทับใจสไตล์การเขียนของผู้เขียนฯ ตั้งแต่อ่านหนังสือ "ไอน์ไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" แล้วครับ

------------------------------

อ่านแล้วได้ประโยชน์จริงๆ ครับ

ยินดีจริงๆค่ะ.ที่คุณ P  พลเดช วรฉัตร มาทักทายค่ะ.

ถ้าชอบปฏิบัติวิปัสนากัมฐานตามหลักสติปัฎฐานสี่ แล้วล่ะก็ต้องชอบหนังสือเล่มนี้แน่นอนค่ะ..รับรองว่า..อ่านแล้ววางไม่ลง..ซึมซับทุกตัวอักษรแน่นอนเลยค่ะ..และที่สำคัญเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากต่อวิถีชีวิตของเราในปัจจุบันและอนาคตจริงๆค่ะ..(รีบซื้อมาอ่านนะคะ..เชียร์ค่ะ)

หวังว่าคุณพลเดชจะมีความสุขที่แท้จริงกับการปฏิบัตินี้นะคะ..
ขอบคุณมากค่ะ..^_^

สวัสดีค่ะ คุณครูแอ๊ว คนสวย

น้องดอกไม้ไม่มีความลับอะไรหรอกค่ะ..มีแต่..ความร๊าก..งิงิงิ

คุณครูแอ๊วหละคะ..คงจะมีรักมากมาย ก่ายกองแน่ๆเยย

ผ่าน

 

หวัดดีค่ะ...ครูน้องแอ๊ว

แวะตามมาเก็บความลับสุดยอดของน้องแอ๊วด้วยคน อิอิ...ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบอย ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

ครูแอ๊ว แนะนำ และ มีรายละเอียดของหนังสือเล่มนี้ได้อย่างน่าสนใจครับ

คิดว่าวันหยุดนี้ ผมคงไปแกร่วแถว B2S สักแห่งเป็นแน่

ผมกำลังหาหนังสือสักเล่มเพื่อเขียนแนะนำหนังสือ(คอลัมภ์)ให้กับวารสารเล่มหนึ่งในรอบต่อไปพอดี

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ...คุณครูแอ๊วคนสวย

  • ดีใจจังค่ะ..ที่ได้อ่านแล้ว   THE TOP SECRET
  • วันก่อนเข้าร้านหนังสือ(ในช่วงเวลาสั้น ๆ ) สนใจภาพปกหยิบขึ้นมาเปิดดู  โดยผ่าน ๆ..ดูเนื้อหาคิดว่าหนักจัง (ในตอนแรก)..แต่สะดุดใจในหลาย ๆ เรื่องที่เป็นคำคมข้อคิด
  • เหมือนที่คุณครูแอ๊ว..บอก "ความลับนั่นก็คือ..."..ค่ะ
  • พอดีต้องรีบกลับ..ตั้งใจว่าจะย้อนกลับไปซื้อมาเป็นเจ้าของ ๑ เล่ม 
  • มาพบโดยบังเอิญ..ที่นี่ค่ะ..เหมือนฟ้าดลใจเชียว
  • ขออนุญาต Copy   "ความลับนั่นก็คือ.." ไปไว้ในบันทึกนะคะ
  • ได้อ่านฉบับย่อด้วย..อย่างน่าอ่าน..
  • ฝากดอกไม้สวย ๆ ..ขอบคุณคุณครูแอ๊ว..ด้วยค่ะ..
  • ...หอมชื่นใจมากค่ะ..ดอกสวยหลังฝนซา..

 

ดูความเห็นของผู้ที่เคยอ่าน เดอะท็อปซีเคร็ต ได้ที่นี่ http://www.118doctor.com/book/booktop.htm

สวัสดีครับคุณครู

    ขอบคุณมากครัีบ ผมยังไม่เคยอ่านหนังสือแต่อ่านบันทึกนี้ด้วยความรู้สึกว่า จะลองเทียบกับสิ่งที่ตัวเองเจอกับข้อสรุปความลับที่คุณครูเล่าไว้ครับ เพลินเลยละครับ

ทำให้เห็นว่า เป็นการบริหารสมองและจิตใจ เป็นสำคัญเลยครับ การคิดบวกเป็นสิ่งที่ต้องคิด ส่วนคิดลบผมว่ามันเกิดขึ้นได้ัอัตโนมัติและง่ายได้เช่นกัน อยู่กับรากฐานของระบบคิดว่าเราใกล้ชิดการคิดแบบไหนมาก่อน

มีสองคำที่ทำให้เกิดการคิดบวกและลบได้ใกล้ๆ ตัวเรา คือ ให้ และ เอา

"ให้" ทำให้เราคิดบวกได้ง่าย... ส่วน "เอา" ทำให้เราวิ่งไปสู่การคิดลบได้ หากสองสิ่งนี้อยู่ในภาวะสมดุล เราจะเจอธรรม

พอเจอคำว่า .. จิตใต้สำนึก  ทำให้ผมอดคิดคำว่า   จิตสำนึก และ จิตเหนือสำนึก ไปด้วยครัีบ ผมไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับคำว่า จิตใต้สำนึกอย่างไร แต่หากเราได้ใช้ คำว่า จิตสำนึก และจิตเหนือสำนึกที่เราไม่เคยรู้มาก่อน จะเป็นการใช้สมองของเราให้คุ้มค่ามากขึ้นครับ ใช้ในการพิจารณาครัีบ

ขอบคุณมากๆ เลยครัีบ ที่นำสิ่งดีๆ มาแบ่งปันครัีบ

สวัสดีค่ะ..พี่P  ครูอ้อย แซ่เฮ

ดีใจค่ะ.ที่พี่อ้อยมาแวะเยี่ยม...ไม่ได้ทักทายันนานเลยค่ะ..

จริงๆค่ะ.."ความมหัศจรรย์ของจักรวาล" มีมากมายจริงๆ และที่เรายังไม่รู้อีกก็มากมาย..เราเป็นแค่จุดเล็กๆของจักรวาลจริงๆ..คิดอย่างนี้แล้วเราจะไม่ทุกข์มาก เพราะเรารู้ว่า..แล้วต่อไปเราก็จะเป็นแค่ธุลี..ของจักรวาล...

ขอบคุณเช่นกันนะคะ..ที่แวะมาคุยกันค่ะ..มีความสุขค่ะ.มีความสุข^__^.

สวัสดีค่ะ..คุณP  อำนวย สุดสวาสดิ์

เหมือนกันเลยค่ะ..แอ๊วก็อ่าน "The  top secret " ก่อน"The  secret " จริงๆแล้ว..ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้หยิบมาอ่านก่อน..แต่ก็ดีนะคะ..ที่อ่านก่อน..เหมือนเราได้อ่านเรื่องที่ครอบคลุม..ละเอียด..เห็นภาพรวมมาก่อนลงรายละเอียดในแต่ละจุด..แล้วอาจจะเป็นเพราะนับถือศาสนาพุทธด้วยมังคะ..เลยรู้สึกว่า..อ่านแล้วลึกซึ้ง..ครอบคลุมตามหลักธรรมะ.รวมถึงวิธีปฏิบัติตามหลักของพระพุทธเจ้าซึ่งละเอียดมากกว่า..ก็เลยรู้สึกว่า..เข้าใจง่ายขึ้น..

จำได้ว่า..อ่านแรกๆก็ติดพันมากๆ..และที่สำคัญ..เค้าอธิบายแย้งตามความคิดของเราได้หมด..(เหมือนรู้ว่าคนอ่านจะคิดค้านยังไง..ก็อธิบายข้อย้งได้หมดข้อสงสัยเลย..)แสดงว่า..ผู้เขียนก็ได้ผ่านการคิดแย้งเหมือนเรามาก่อน..จนหาคำตอบได้..ดีค่ะ..

เจอแฟนพันธ์แท้เหมือนกันอย่างนี้.ดีเลยค่ะ..จะได้แลกเปลี่ยนร่วมกัน..ตอนนี้กำลังอ่านเรื่อง"ไอน์สไตน์ถาม พระพุทธเจ้าตอบ"แต่งโดย คุณศุภวรรรณ  พิพัฒพรรณวงศ์..ก็น่าสนใจเหมือนกันนะคะ..เป็นการคิดตามความคิดของไอน์สไตน์นำแล้ว..อธิบาย..สิ่งที่เป็นคำตอบของไอน์สไตน์..โดยผ่านมุมมองของพระพุทธเจ้าตามหลักธรรมะหรือธรรมชาติของสรรพสิ่ง..อ่านแล้วยิ่งรู้สึกศรัทธาในหลักธรรมของศาสนาพุทธ..ที่ตอบได้ทุกสิ่งค่ะ..

แล้วจะนำเสนอในบันทึกต่อไปค่ะ..แล้วอย่าลืมแวะมาคุยกันอีกนะคะ..

ขอบคุณมากค่ะ.^^

  • สวัสดีค่ะ ครูแอ๊ว..

เยี่ยมไปเลยค่ะ  ^^   ความลับนั่นก็คือ....

หวัดดีจ้า..น้องP  ดอกไม้ที่ปลายดอย~*

แหม..หวานเชียวน้องเรา..พี่ก็เหมือนหนูล่ะจ้ะ..(มีความรักอยู่เต็มหัวใจ...เหมือนกันเล้ยเรา..^ ^)

ให้ความรัก..ก็เหมือนให้ความสุข..ค่ะ..ยิ่งให้ก็ยิ่งได้..

เป็นสิ่งหนึ่งที่พี่พิสูจน์กับตัวเองมาแล้วนะคะ..เราแผ่เมตตาบ่อยๆ..ให้ความปรารถนาดีกับผู้คน สรรพสัตว์แบบไม่เจาะจง..เราก็จะได้ความรัก..ความเมตตา..มาจากทุกสรรพสิ่ง..เช่นเดียวกัน..(เหลือเชื่อ..แต่เป็นความจริงค่ะ)ไปไหนก็ปลอดโปร่ง..ปลอดภัยค่ะ..

ขอบใจมากนะจ๊ะ..สำหรับความปรารถนาดีที่มีให้นี้..พี่ดีใจที่มีน้องน่ารักอย่างนี้จ๊ะ.ชื่นใจจริงๆ^__^

สวัสดีค่ะ..พี่P  อ้อยควั้น ที่น่าร๊ากซาเหมอ..

แอ๊วไม่มีความลับหรอกค่ะ..พี่อ้อย..(มีแต่กุมความลับของคนอื่นค่ะ..อิอิ)

ไม่รู้ว่าพี่อ้อยชอบอ่านหนังสือแนวไหนคะ..แอ๊วชอบอ่านแนวธรรมะ.เชื่อมโยงกับศาสตร์ต่างๆประมาณนี้ล่ะค่ะ..เช่นธรรมะกับวิทยาศาสตร์ กับจิตวิทยา  กับการทำงาน  นิยายอิงธรรมะ และฯ  จริงๆแล้วทุกเรื่องก็เป็นเรื่องเดียวคือธรรมะ..ธรรมชาติ..ที่อธิบายโดยหลักทฤษฎีตามศาสตร์ต่างๆแค่นั้นเอง..

ถ้าเรามองทุกอย่าง..ให้เป็น"อย่างนั้นเอง"..ไม่ปรุงแต่งเราจะมีความสุขมากเลยค่ะ..(จะพยายามทำให้ได้..เหมือนกันค่ะ..)

พระท่านถึงสอนว่า..แค่หยุดปรุงแต่ง..ก็ไม่เกิดทุกข์ค่ะ..

ขอบคุณนะคะ..ที่แวะมาทักทายค่ะ..พี่อ้อยก็อย่าลืมดูแลสุขภาพเหมือนกันนะคะ..^^

สวัสดีค่ะ..คุณเอกP  จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

ดีใจค่ะ..ที่คุณเอกมาแวะเยี่ยม..วันนี้ได้พักเหรอคะ..หายเหนื่อยจากการเดินทางแล้วยังคะเนี่ย..

ไม่รู้ว่าคุณเอกชอบอ่านหนังสือแนวไหนคะ..แต่อ่านเล่มนี้แล้วน่าจะวางไม่ลงเหมือนกันนะคะ..ถ้าชอบอ่านเกี่ยวกับธรรมะ..เหมือนกับเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเราเองที่ได้ประโยชน์กับจิตวิญญาณของเราด้วย..สิ่งที่ได้ถ้าลองนำมาปฏิบัติก็คุ้มมากๆเลยค่ะ...

เอ..เพิ่งรู้ว่าคุณเอกเขียนบทความลงวารสารด้วย..ดีจังค่ะ..เหมือนเป็นนักเขียนเลย..ความสามารถที่น่าทึ่งอีกอันของคุณเอก.นอกจากการเขียน..ก็คือการถ่ายรูปนะคะ..รูปจะออกมาสวย..นอกจาก..ความสามารถด้านการใช้กล้องแล้วก็คือ..การมีมุมมองที่เห็นความสวยงามที่พิเศษกว่าคนอื่นค่ะ....แล้วรูปที่คุณเอกถ่ายออกมาก็สวยงามจริงๆด้วย..(พูดจริงๆ.ไม่ได้ยอนะคะ.^^)รีบจับอะไรไว้นะคะ..เดี๋ยวจะลอยค่ะ..อิอิ

..มีมุมมองอะไรดีๆ...งามๆ..ก็อย่าลืมนำเสนอทางบันทึก..นะคะ..จะรออ่านค่ะ..

"การที่มองเห็นความงดงามของทุกสิ่ง..ชีวิตก็เต็มไปด้วยสิ่งที่งดงามเช่นกันค่ะ.."

"ขอบคุณมากค่ะ"

สวัสดีค่ะ..คุณP  suksom

อ่อ..นี่..หมายความว่า..???

แซวเล่นค่ะ..แนะนำค่ะ..ถ้ามีเวลา..อยากแนะนำให้อ่านค่ะ..แล้วจะไม่เสียดายเลยที่ซื้อมา..ลองปฏิบัติดูแล้วจะรู้ด้วยตัวเองค่ะ..

ตัวเองเชื่อว่า..สิ่งที่ไม่เห็น..ก็ใช่ว่าจะไม่มีจริง..จริงมั๊ยคะ.

เพราะฉะนั้น..เราต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเราเองค่ะ..ไม่ลองไม่รู้นะคะ..

ขอบคุณนะคะ..ที่แวะมาทักทายค่ะ..

การหัวเราะ จะทำให้คลื่นรังสีออร่ารอบๆตัวเป็นสีสดใส คลื่นบวกของสิ่งแวดล้อมจะมาออรอบๆตัวเรา เสียงหัวเราะมีพลังดึงดูดสูงมาก และมันสามารถดึงพลังคลื่นบวกแห่งจักรวาลเข้ามาสู่ตัวเรา

---------^_^---------ชอบหลายข้อเลยอ่ะค่ะ..

สวัสดีค่ะครูแอ๊ว..คิดถึงจังเลย(มาช้าจังเลยเรา..)

     ตามไปที่บันทึกครูดอกไม้ที่ปลายดอยมารู้แล้วว่าครูแอ๊วนินทาครูตุ๊กแกว่าอย่างไร

    ตกลงเราร่างสนธิสัญญากันเลยนะคะ ครูตุ๊กแกเตรียมปากกาพร้อมลงชื่อแล้วค่ะ  คริ..คริ

     

   

   

  • มีความลับจะบอกคุณครูแอ๊วค่ะ.... ว่าดิฉันตกหลุมรักคุณครูเสียแล้ว... ทำงัยดี 555
  • เห็นด้วยกับการดำรงชีวิตอย่างเป็น "ปัจจุบันขณะ" โดยผ่าน สติปัฎฐานสี่ ค่ะ
  • สวัสดีครับครูแอ๊ว
  • เออ...ต้องขอสารภาพว่ายังไม่ได้อ่านทั้งสองเล่มเลยครับ ได้อ่านเฉพาะที่ครูแอ๊วเขียนบันทึกสรุปไว้ในบล็อก
  • อย่างที่ครูแอ๊วกล่าวไว้นั่นแหละครับ การได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากต่างมุมมองนี่น่าสนุกมากเลยครับ มันทำให้ได้รู้และสัมผัสกับ"สารัตถะ" ต่างๆที่ผู้มองแต่ละคนประจักษ์ทำให้ภาพที่เห็นสมบูรณ์ขึ้น และนำไปสู่การเคารพ และยอมรับในกันและกัน อันจะนำมาซึ่งเสถียรภาพของการดำรงอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจและถักทอเป็นมิตรภาพในความแตกต่าง ดั่งเสื้อที่ถักด้วยเส้นใยแม้หลากสีก็ทำให้ผู้สวมใส่ดูสวย ภูมิฐาน และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย รวมถึงดวงจิต
  • เห็นทีผมต้องออกไปหาซื้อหนังสือทั้งสองเล่มดังกล่าวแล้วซิครับ
  • ขอบคุณครูแอ๊วมากครับสำหรับคำอวยพร
  • ขออัลลอฮฺทรงนำทางครูแอ๊วสู่ทางเที่ยงตรงอันอบอุ่นและปิติสุขยิ่งของพระองค์ อามีน

กำลังอ่านอยู่จ้า...

ตอนนี้มีหนังสือดีดีหลายเล่มที่รอคิวให้อ่านอยู่

แต่มักแปลกเมื่อหยิบขึ้นมา ไม่นานก็ คร่อกๆ

มีดีๆอีกหลายเล่มนะครูแอ๊ว (แต่เอาค่าเช่ามาก่อน555!)

สวัสดีค่ะ..พี่P ศน.อ้วน วัชราภรณ์ วัตรสุข คนฉวย..^^

เล่มนี้เป็นหนังสือในดวงใจอีกหนึ่งเล่มเลยค่ะ..ชอบตรงที่มีการเทียบเคียงกับหลักวิทยาศาสตร์ด้วย กับศาสตร์ของพลังจิต รวมถึงหลักทางจิตวิทยาเข้ากันได้เป็นหนึ่งเดียวกับหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่เป็นจริงเสมอ..อ่านอึ้ง ทึ่งมาก..และยิ่งทึ่งมากกับประสบการณ์ของเราเองที่มันสอดคล้องกัน..

แอ๊วดีใจค่ะ.ที่ได้รู้จักกับพี่..และบุคคลที่น่ารักมากมายในนี้ ..คงเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ยืนยันได้ว่า.."คนคล้ายๆกันจะดึงดูดกันและกัน..เป็นการต่อยอดและเติมเต็มซึ่งกันและกัน."ซึ้งเชียวค่ะ..

ขอบคุณนะคะ..สำหรับไมตรีที่งดงามนี้..ความสุขเต็มหัวใจเลยค่ะ..

ปล..ดอกโมกสวยจังค่ะ..แอ๊วชอบลักษณะของเค้า ดอกเค้าจะเป็นตุ้งติ้งน่ารักดีค่ะ..ใบเล็กๆสีเขียวสดใสเวลาออกดอกเต็มต้นให้ความรู้สึกสบายตา สบายใจจริงๆ..ที่บ้านก็ปลูกค่ะ.ชอบนั่งมองค่ะ.สงบดี..ขอบคุณมากๆเลยนะคะ..

 

ดีใจค่ะ.ที่ คุณผ่านมา..ไม่ผ่านเลยไป.อุตส่าแวะมาทิ้งลิ้งค์ให้อ่านด้วย ..กำลังสนใจว่าคนที่อ่านเค้ามีความคิดเห็นยังไงอยู่พอดี..ขอบคุณมากนะคะ..แต่เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้..จะเป็นหนังสือในดวงใจของหลายๆท่านที่ชอบหนังสือแนวปรัชญา ศาสนาและวิทยาศาสตร์ และไม่แปลกเลยค่ะ..ถ้าเล่มนี้จะเป็นหนังสือขายดีอีกเล่มที่ผู้เขียนภาคภูมิใจ..

อยากให้อ่านเรื่องนี้กันเยอะๆ..จะได้นำแนวคิดดีๆ..อย่างนี้ไปลองใช้..

..สิ่งดีดี..มีไว้แบ่งปันค่ะ..

ขอบคุณค่ะ..^^

สวัสดีค่ะ..คุณ P  เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

ดีใจที่คุณเม้งแวะมาแจมค่ะ..จริงค่ะ...

" การคิดบวกเป็นสิ่งที่ต้องคิด ส่วนคิดลบผมว่ามันเกิดขึ้นได้ัอัตโนมัติและง่ายได้เช่นกัน อยู่กับรากฐานของระบบคิดว่าเราใกล้ชิดการคิดแบบไหนมาก่อน "

ประเด็นนี้ใช่เลยค่ะ..คิดดีมันต้องทวนกระแสนิดนึงเพราะมันทำยากกว่า..แต่ก็อย่างที่คุณเม้งว่าก็ถูกนะคะ..เราอยู่กับความคิดอย่างไหนบ่อยๆ..เราก็มักจะติดนิสัยคิดอย่างนั้น..จนกลายเป็นคนดี..ทำดีง่าย..ทำชั่วยากและเช่นกัน..คนชั่วทำชั่วง่าย ทำดียาก..เพราะมันขัดกับนิสัยนั่นเอง..

มีสองคำที่ทำให้เกิดการคิดบวกและลบได้ใกล้ๆ ตัวเรา คือ ให้ และ เอา  "ให้" ทำให้เราคิดบวกได้ง่าย... ส่วน "เอา" ทำให้เราวิ่งไปสู่การคิดลบได้ หากสองสิ่งนี้อยู่ในภาวะสมดุล เราจะเจอธรรม

หากความพอดีเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก..เพราะหากเราไม่รู้ว่าจุดสุดของแต่ละด้านแล้วเราจะหาจุดพอดีไม่ได้เลย..

พูดเรื่องนี้แล้วคิดถึงหนังสือเล่มนี้ค่ะ.."ไอน์สไตน์ถาม   พระพุทธเจ้าตอบ..แต่งโดยคุณศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์  หนังสือเล่มนี้ก็น่าอ่านนะคะ..คุณเม้งไม่รู้คุณเม้งอ่านหรือยัง..ถ้ายังล่ะก็แนะนำอีกเล่มเลยค่ะ..เค้าอ้างอิงความคิดของไอน์สไตน์เป็นการตามความคิดของเค้าแล้วตอบโดยหลักของพุทธค่ะ.ดีมากเลย เค้าบอกว่า..ไอน์สไตน์ก็ประสบปัญหานี้เหมือนกันค่ะ..เค้าพยายามศึกษาในช่วงบั้นปลายชีวิตของเค้ากับการหาคำตอบของความเป็นปกติ.ที่เป็นจุดคงที่ .ที่ไม่ใช่จุดสมมุติ..เพื่อที่จะไม่ต้องเปรียบเทียบแบบสัมพัทธ์..แต่เค้าก็ไม่สามารถหาคำตอบนี้ได้จนเค้าเสียชีวิต..ผู้แต่งเค้าก็เลยบอกว่า..ถ้าไอน์สไตน์ได้ลองปฏิบัติตามหลักศาสนาพุทธได้จนถึงขั้นนิพพานแล้ว..เค้าคงค้นพบคำตอบนี้แน่นอน..เป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก..

อ่านแล้วก็รู้สึกดีนะคะ..ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาและได้ลองปฏิบัติตามดูไม่ได้ก็ใกล้เคียงในซักวันล่ะค่ะ.ต้องคิดบวกเข้าไว้..

สรุปว่า..คิดบวกบ่อยๆ..แต่ต้องเข้าใจสภาพความจริงด้วย..รับรอง..ว่าสิ่งดีๆน่าจะเข้ามาในชีวิตอะนะคะ..

เขียนได้ยาวมากเลยค่ะ..สนุกค่ะ..มีคนแลกเปลี่ยนในเรื่องที่สนใจอย่างนี้..แล้วมาคุยกันอีกนะคะ..

ขอบคุณค่ะ..^_^

 

สวัสดีค่ะ..คุณต้อมP  เนปาลี

เป็นไงคะ..อิ่มอร่อยกับลาบหมูเมนูเด็ด...แล้วใช่มั๊ยคะ..อิอิ

พูดถึงหนังสือแล้ว..ก็คิดถึงคุณต้อมค่ะ..จำได้ว่าชอบอ่านหนังสือของปรายพันแสงเหมือนกันเลย..คุณต้อมอ่านเรื่อง miss you ของปรายเล่มใหม่ยังคะ..เป็นเรื่องสั้นค่ะ..เนื้อเรื่องก็หวานๆดีค่ะ.

แล้วมาเยี่ยมกันใหม่นะคะ..คิดถึงค่ะ..^____^

 

P  ครูตุ๊กแก คะ..เรื่องทำให้หัวเราะเนี่ย ฝ่ายหญิงเนี่ยยกให้ครูตุ๊กแกเลยค่ะ..(ฝ่ายชายก้อาจารย์ขจิตล่ะค่ะ..ขำก๊ากเลย..อิอิ)

คนที่อารมณ์ดีเนี่ย..เป็นคนที่มีเสน่ห์นะคะ..ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ๆ..เนี่ย..ขนาดครูตุ๊กแกอยู่ตั้งไกล..ยังมีแรงดึงดูดให้ครูแอ๊วดีใจเวลาเห็นครูตุ๊กโผล่มาเยี่ยมเลย..จริงๆน๊า

การหัวเราะทำให้เราอารมณ์ดี..สุขภาพดี..มุมมองต่อโลกก็สวยงาม..จริงมั๊ยคะ.ครูตุ๊ก...

ขอบคุณนะคะ..ที่แวะมาเยี่ยม.มีความสุขมากๆจ้า....

 

สวัสดีค่ะ.อาจารย์P  อัญชลี อุชชิน

ว้า..เสียดายจังค่ะ..เพิ่งเซ็นสัญญาใจกับครูตุ๊กไปก่อนหน้านี้เอง..(แหม..บอกช้าไปนะคะเนี่ย..อิอิ)

อาจารย์มีอะไรดีๆ..แนะนำกันบ้างนะคะ..แอ๊วก็พยายามปฏิบัติอยู่ค่ะ..ลักปิดลักเปิดอยู่ค่ะ..แต่ก็พยายามมีสติให้ทันให้เร็วขึ้น..ต้องรีบทำให้เป็นนิสัยค่ะ..ประมาทไม่ได้จริงมั๊ยคะ..

อาจารย์เป็นอย่างไรบ้างคะ..ดุแลสุขภาพด้วยนะคะ..

คิดถึงอาจารย์เสมอค่ะ.^_______^ขอบคุณค่า...

สวัสดีค่ะ..P  อ.อาลัม

ทางใต้เป็นยังไงบ้างคะ..แปลกนะคะ..แอ๊วไม่ค่อยได้ไปเที่ยวทางใต้เลย..ส่วนใหญ่มีแต่ไปทางเหนือค่ะ..จำได้ว่าครั้งนึงตอนเล็กๆได้ไปเที่ยวทางใต้..แต่ก็ไม่สุดนะคะ..สิ่งที่ประทับใจจนทุกวันนี้คือถนนสวยเต็มไปด้วยภูเขา..และถนนก็กว้างดีด้วย บรรยากาศดีค่ะ..แล้วก็ไม่ได้ไปอีกเลยนานมากกก..แต่มีสิ่งหนึ่งที่ประทับใจค่ะ.ตอนเรียนป.ตรี..มีเพื่อนคนนึงชื่ออ้อม..เป็นคนนครศรีฯ..เป็นเพื่อนแท้ที่แอ๊วรู้สึกประทับใจมากๆกับความจริงใจ..เป็นตัวแทนของลักษณะนิสัยคนใต้ที่ประทับใจจนทุกวันนี้เลยค่ะ..

ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีและคำอวยพรที่ศักดิ์สิทธิ์นี้นะคะ..

ขอให้ความปิติสุขเกิดแก่อาจารย์ด้วยเช่นกันค่ะ.. ^ ^

สวัสดีจ้า..พี่P  tuk-a-toon

ก็เห็นป้าคร่อกทุกที..เฮ้อ..แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จาจบล่ะจ๊ะ..^_________^ (หรือต้องไปเปลี่ยนบรรยากาศอ่าน..ที่อื่น ..ดีมะจ๊ะ..ถูกใจอะดิ อิอิ)

อยากรู้ว่า The secret กับ The top secret เนื้อหาเหมือนกันรึเปล่าครับ พอดีกำลังอ่าน The secret อยู่แล้วสนใจ ใครมีประสบการณืแอดมาหากันได้น่ะครับ ผมอยากประสบความสำเร็จเหมือนกัน

กำลังเข้ามาอ่านวันแรกค่ะ เพราะทุกครั้งพี่เค้าอ่านแล้วมาเล่าให้ฟัง เป็นคนสมาธิสั้น

อ่านหนังสือทีไร ง่วงนอน และเป็นคนอ่านหนังสือช้ามาก คงเป็นเพราะความแก่ตัว เพราะสมัยเรียนชอบอ่านนิยาย บางคืนไม่นอนก็ได้

ชอบศึกษาทางนี้มาก ตอนนี้ฝึกทำสมาธิอยู่ ติดที่เป็นคนกลัวผี เลยไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ จะพยามลบข้อมูลเก่าๆ คิดแต่สิ่งดีๆจ๊ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีและยินดีที่รู้จักค่ะ..คุณไก่และคุณป๊อบ

ขอโทษมากๆที่ตอบช้าค่ะ..พอดีมีภาระหลายๆอย่างเลยไม่ได้เข้ามาค่ะ..

ยินดีมากๆที่ได้แลกเปลี่ยนกันเรื่องหนังสือค่ะ..

หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วก็รู้สึกว่าทั้งสนุก ชวนติดตามและก็ได้ประโยชน์มากมายกับมุมมองและวิถีชีวิตค่ะ..

ขอบคุณสำหรับการแลกเปลี่ยนพูดคุยครั้งนี้ค่ะ..

แล้วแวะมาคุยกันใหม่นะคะ..

ขอบคุณค่ะ^___________^

สวัสดีครับคุณครู

กำลังอ่านเล่มนี้อยู่พอดี บทเกือบท้ายๆ แล้ว

ดีที่ได้อ่านสรุปอีก รอบจากบล็อกของคุณครู

คืนนี้จะลุยให้จบเล่มครับ

ดีใจที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ครับ ไม่ทราบว่าอาจารย์สอนวิชาไรเหรอ ตอนนี้ผมยังไม่ได้อ่านหนัง the top secret

สวัสดีค่ะ..คุณป๊อบและคุณไก่..

เนื้อหาของทั้งสองเล่มคล้ายๆกันแต่ลงลืกไม่เหมือนกันค่ะ..โดยเดอะท็อปซีเคร็ตจะเน้นการผสมผสานหลักธรรมของพุทธศาสนาเข้าไปด้วย..เป็นการใส่มุมมองที่กลมกลืนตามหลักเหตุและผลยิ่งขึ้น..

จริงๆแล้วก็ชอบทั้งสองเล่มนะคะ..แต่จะชอบเดอะท็อปซีเคน็ตมากกว่านิดนึง..ที่นำเอาหลักธรรม..ความเป็นเหตุและผลมาอธิบายได้อย่างแยบคายค่ะ..โดยเฉพาะในเรื่องภาวะนิพพาน..ชอบค่ะ..ถ้าชอบแนวนี้..แนะนำเรื่องไอนสไตน์พบ..พระพุทธเจ้าเห็นอีกเล่ม.งอ่านต่อเนื่อง..แล้วจะรู้สึกทึ่งในความเป็นเหตุและผลของพุทธะ.และอยากจะไปถึงจุดนั้นบ้างจริงๆค่ะ.ชอบมากเลยค่ะ..

ขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยนค่ะ..ชอบอ่านและพูดคุยแนวนี้ค่ะ..^^

สวัสดีค่ะ..คุณP  พี่โต๊ก และคุณกรณ์

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือในดวงใจอีกเล่มเลยค่ะ..ชอบพอๆกับไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น..เพราะแนวเดียวกันเหมือนต่อยอดกัน..ชอบลักษณะการถ่ายทอดมุมมองของผู้เขียนค่ะ..จริงๆแล้วตัวเองรู้สึกว่าผู้เขียนที่เขียนหนังสือแนวนี้แล้วอธิบายได้เข้าใจ ชัดเจนแล้วมีไม่กี่ท่าน..เนื้อหาชวนติดตามและนำไปปฏิบัติได้..ดีกับชีวิตและไม่เน้นนอกทางจาก.นิพพานค่ะ..ชอบค่ะ..

อ่านจบแล้วมีอะไรดีๆมาแลกเปลี่ยนกันอีกนะคะ..มีความสุขค่ะ..สนทนาธรรมตามกาลเป็นมงคลกะชีวิต..อิอิ..

ขอบคุณค่ะ..^^

 

หวัดดีค่ะ ชอบอ่านเรื่องแนวจิตวิทยาเหมือนกัน

และก็ชอบเรื่อง the top secret เช่นกัน ชอบตอนที่บอกว่า

สมองมีสองซีก เราต้องพยายามพัฒนาสมองซีกขวาให้มากๆ

เพื่อจะได้รับทุกสถานการณ์ที่เข้ามา

อย่างทันท่วงที สามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาไได้อย่างรวดเร็ว

และที่สำคัญต้องฝึกทำสมาธิให้มากๆด้วย

สวัสดีค่ะ..คุณAIM คะ

..ดีใจที่ชอบเหมือนกันค่ะ..เล่มนี้อ่านสนุกมากได้ความรู้เยอะ..ตอนนี้เล่มสองออกเเล้วนะคะ.ง

สนุกและน่าสนใจมากๆเลยค่ะ..ติดตามที่นี่เดอะท็อปซีเคร็ตII นะคะ..

แล้วมาคุยกันค่ะ..^^

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคอเดียวกันค่ะ..

I've great experiences about control all things i want and expected. First i will drawn a big picture in my mind and imagine this big picture every time and everyday until i can see this picture even awake or sleep and pretend that i don't want the thing that i have picture and one day it will comes eventually.

Steve K.

ดีค่ะมีเว็ปไซด์อย่างนี้มาแชร์ความรู้กันค่ะหลายคนอ่านแล้วก็สงสัยแต่ดิฉันอ่านแล้วไม่สงสัยเลยเพราะมันเกิดขึ้นจริงๆกับดิฉันก่อนจะมาเจอหนังสือเรื่องนี้อีก

อันที่จริงแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนของศาสนาพุทธของเราน่ะค่ะคือ หากเราทำอะไรๆที่เป็นกุศลทุกๆอย่างในคำที่องค์พระสัมาสัมพุทธ ท่านตรัสสอนไม่ว่าจะทำงาน นั่ง ยืนเดิน นอน ทุกที่ทุกเวลามุ่งเน้นให้เป็ฯกุศลอยู่ตลอดเวลาบางคนมีพลังเก่ามาก็ไม่นานนักที่จะทำให้จิตมีพลังพอที่จะมาบวกกับการคิดบวกแล้วสัมฤทธิ์ผล แต่หากบางคนที่มีอกุศลมาก รวมกับการคิดบวกเมื่อคิดบวกและทำกุศลมากๆจนจิตเบาสบายผ่องแผ้วมากถึงมากที่สุด(เมื่อนั้นจิตจะมีกำลัง)คือคิดบวกแล้วไม่มีกุศลเข้ามาเสริมพลังก็ไม่เกิดผล ที่ในหนังสือเขียนไว้น่ะค่ะเขาไม่ได้เน้นการเสริมพลังจิตนะคะ เพียงแต่คิดบวกตลอดเวลาแล้วก็รอการคิดบวกทุกวันทุกวันจนมีพลังไปเอง(จริงๆแล้วคนเขียนเขาอาจมีพลังเก่ามาแล้วการคิดบวกของเขาถึงดูว่าง่ายๆแค่เพียงคิดบวกของเขาก็อาจมีพลังแล้วน่ะค่ะ)แต่สำหรับคนที่คิดลบจนพลังหมดก็ต้องมาเพิ่มพลังทางจิตตามแบบอย่างของศาสนาพุทธ (ทั้งทำบุญทำทานทำกุศลคิดดีทำดี แผ่เมตตา กรวดน้ำ สวดมนต์นั่งมาธิ อานาปาณสติ อ่านหนังสือธรรมะ หนังสือที่ทำให้เราสบายใจ ดูหนัง ทำกิจกรรมที่เราจะสบายใจผ่องแผ้ว เลี้ยงเด็กกำพร้า ไปฟังพระสวดมนต์ฯลฯ ) สังเกตยังมีสวดมนต์เสริมดวงเสริมชะตาก็ใช้วิธีหรือกลไกเดียวกัน เสริมดวงต่อชะตาจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อจิตผู้ถูกต่อและผู้ต่อมีจิตเป็นกุศล จิตเป็นกุศลมากก็ไดผลมาก จิตเป็นกุศลน้อยก็ได้ผลน้อย เป็นต้น

เนี่ยะแหละค่ะ หากมีพลังแล้วคิดบวกแล้วจะมีพลังอะไรๆเสริมขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวิวิยะในการปฏิบัติสะสมกุศลให้ได้มากแค่ไหนและใช้เวลานานเท่าใด แต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ อาจใช้การทำบุญเป็นกุสโลบาย อ่านหนังสือที่ดี คิดดี ทำดี อยู่ตลอดเวลา เหมือนเราชาร์จแบตอยู่ตลอดเวลาและทุกลมหายใจ จนจิตใจผ่องใสถึงผ่องใสที่สุด (ต้องไม่ให้อะไรมาทำให้ใจขุ่นมัวได้เช่นถูกดุถูกว่าถูกนินทาแม้กระทั่งใครสอนอะไรนิดอะไรก็ไม่ได้ พวกนี้เป็น อกุศล ต้องเลี่ยง)แล้วกุศลก็จะเกิดในใจมากถึงมากที่สุดค่ะ แล้วโน้มนำเอาจิตที่ผ่องแผ้วนี้มา(อธิฐาน)คือตั้งจิตตั้ใจว่าจะทำอะไรให้ชีวิตเป็นอย่างไรแล้วจะสมปราถนาอย่างเหลือเชื่อ ที่พูดนี้เคยทำมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเข้าฝันบอกในวันหนึ่งนั้น(ใจผ่องแผ้วจากกุศลกรรมมากๆ)ท่านบอกว่ารุ่งเช้าพรุ่งให้อธิษฐานถึงสิ่งที่เราขอไปเมื่อวานน่ะ ว่าให้อธิษฐานเอานะ รุ่งเช้าตื่นมาก็รู้สึกว่าจิตใจตนเองผ่ิองแผ้วมากๆๆๆๆก็ลองดู(ไม่ลองก็ไม่รู้ไหนๆก็ไหนแล้ว)ปรากฏว่าสิ่งที่ต้องการสัมฤทธิ์ผลได้อย่างต้องการอย่างน่าอัศจรรย์ค่ะ

DEAR.Mr.STEVE K.

I think so and thank you very much for your comment.  ^____^

ขอบคุณค่ะ คุณ ang อ่านความคิดเห็นของคุณแล้ว ชอบจังค่ะ การคิดดี พูดดี ทำดี เป็นสิ่งที่น่าจะทำให้เราเจอแต่สิ่งดีๆ เชื่อและศรัทธามากๆนะคะ..ดีจังค่ะ มคนที่คิิดเห็นเหมือนกันอย่างนี้ พูดคุยด้วยทำให้ได้รับความรู้ และแนวคิดที่เป็นประโยชน์มากๆ วันหลังเชฺญแลกเปลี่ยนกันใหม่นะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท