ชีวิตที่เมืองลาว : ของดีราคาถูก...


ตั้งแต่ข้าพเจ้ามาอยู่ที่นี่ ได้พบเห็นอะไรหลากหลายอย่างที่ "ควรมี ควรเป็น..."

อาหารการกินที่นี่ ของดี ๆ ราคาถูก

อาหารการกินที่นี่ ของไม่ดี ราคาแพง

ข้าพเจ้าในเมืองไทย กฏของอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ซึ่งส่งผลในการกำหนดราคาตลาด น่าจะเป็นอย่างนี้บ้าง...

อาทิเช่น "น้ำอ้อย" คั้นสด ที่มี "คนใจดี" ซื้อมาฝากเป็นประจำ ขวดเบ้อเริ่ม (1.25 ลิตร) ราคาขวดละ 20 บาท

Large_2101201106

 

ที่เมืองไทย ครั้งล่าสุดปีก่อน ข้าพเจ้าเคยไปแวะซื้อที่ปากทางคลอง 14 ก่อนเดินทางกลับจากเลือกซื้อต้นไม้ ขวดเล็ก ๆ (ประมาณ 500 CC) ก็ 20 บาท เท่ากัน

น้ำอ้อย เป็นของดี ของมีประโยชน์ ที่นี่ราคาถูก

แต่น้ำอัดลม ที่ต้องขนข้ามฝากมาจากเมืองไทย ต้องบวกค่าขนส่ง ค่าภาษี จึงทำให้ราคาแพง

ในเมืองไทย "ตลาดเสรี" คู่แข่งขันมาก ทำให้สินค้าราคาถูก

หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง "น้ำดื่มบรรจุขวด" ที่นี่ส่วนใหญ่ดื่มยี่ห้อ "หัวเสือ" ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับ "เบียร์ลาว"

ข้าพเจ้าสอบถามทราบเบื้องต้นว่า น้ำดื่มขนาด 600 CC ที่นี่ขายอยู่ขวดละ 3,000 กีบ (1,000 กีบ เท่ากับ 4 บาท) ดังนั้น น้ำดื่ม (น้ำเปล่า) ที่บ้านเราขาย 6-7 บาท ที่นี่ราคา 12 บาท

แต่ข้าพเจ้าไปสอบถามน้ำดื่มบรรจุขวดขนาด 20 ลิตร ถังใส ที่มีรถขนน้ำคอยรับส่ง (แบบเปลี่ยนขวด) ราคาอยู่ที่ 12-15 บาท (ตอนนี้ราคาบ้านเราน่าจะแพงกว่า...)

อาหารสด เช่น ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ลูกเดือย" ที่ส่งออกข้ามฝั่งไปเมืองไทยที่นี่ "ถูกมาก" ของดี ๆ เช่นนี้ ที่นี่ราคาถูก

แต่อาหารก๊อบแก๊บ มาม่า ขนมหลอกเด็กสารพัด สารเพ ราคาแพง...

ถ้าเมืองไทยเป็นอย่างนี้บ้างก็คงจะดี...

ผักปลอดสารพิษบ้านเรา ราคาสูงกว่าผักธรรมดาค่อนข้างมาก

จะปลอดภัยที่ก็ต้อง "เสียเงินเยอะ" คนมีเงินน้อยต้องจำใจกิน "สารพิษ"

เด็กนักเรียนเงินน้อย "กินมาม่า (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป)" กินเข้าไปมาก ๆ ก็กลายเป็น "ตู้ผงชูรสเคลื่อนที่"

ที่นี่ข้าวจี่ ข้าวเหนียว ราคาถูก ซื้อกินอิ่มกว่าเยอะ...

คนมาทำงาน เลี้ยงอ้อย เลี้ยงมันแกว...

เหนื่อย ๆ ก็มาหยิบทานกัน อิ่ม อร่อย ปลอดภัย มิหนำซ้ำได้บริหารเหงือกและฟัน เพราะคนที่นี่ใช้ฟันปลอกเปลือกอ้อยกันหน้าตาเฉย...

มาที่นี่ ห่างไกลจาก "ค่าการตลาด" พอสมควร...

สินค้าที่โฆษณากันมาก ๆ แล้วบวกค่าโฆษณาลงในผลิตภัณฑ์ อยู่ที่นี่แล้ว "นอกสายตา"

อาหารสด ๆ ใหม่ ๆ เครื่องดื่ม "ดี ๆ" มีให้เลือกเยอะ

นอกจากน้ำอ้อยสด ขวดใหญ่ 20 บาทแล้ว น้ำใบบัวบกขนาดเท่ากัน (1.25 ลิตร) คั้นสด ราคาก็ไม่แตกต่างกันอีกด้วย (ราคาน้ำใบบัวบก ซื้อที่ห้างจังหวัดเชียงใหม่ ขนาด 600 cc ราคา 60 บาท)

มาอยู่ที่นี่ ใครดื่มน้ำอัดลมถือว่าเชย

มาอยู่ที่นี่ คำว่าของดีราคาถูกไม่เคย "เชย" ไปจากสังคม เพราะอยู่เมืองไทย ใคร ๆ ก็ว่า "ของดีราคาถูกนั้นไม่มี..."

Large_3101201103

หมายเลขบันทึก: 423780เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2011 20:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 12:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • เมืองไทยเสรีนิยมเกินไป มือใครยาวสาวได้สาวเอา
  • ธุรกิจเห็นแก่ตัวครับ

ความรู้ในปัจจุบันปนเปื้อนมาก โดยเฉพาะความรู้ที่หวังผลทาง "ธุรกิจ"

มีคนนำน้ำผึ้งมาให้ข้าพเจ้าขวดหนึ่ง ข้าพเจ้าดื่มได้สนิทใจว่าเป็น "น้ำผึ้งแท้" เพราะแถวนี้เขาไม่มีธุรกิจขายน้ำผึ้งกัน ไม่มีผลประโยชน์เรื่องเงินเรื่องทองเข้ามาเกี่ยวข้อง ของที่หยิบยื่นให้กันก็ "บริสุทธิ์"

อยู่เมืองไทย "หวาดระแวง" เพราะอะไร ๆ ก็เจือปนด้วย "ผลประโยชน์"

อยู่ที่นี่สบายใจ ผลประโยชน์น้อย ความจริงใจเยอะ...

ได้อ่านบทความข้างบนแล้วทำให้อยากไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจังค่ะ

 

อยู่เมืองไทยใคร ๆ ก็ว่า "ของดีราคาถูกนั้นไม่มี"

อยู่เมืองนี้ยังมีของดีราคาถูก ๆ ...

ระบบการตลาดบ้านเรา กลับตาลปัตร

ของดี ๆ มีคนผลิตออกมามาก แต่กลายเป็นสามารถ "อัพ" ราคาให้สูงขึ้นได้

ของไม่ดี ด้อยคุณค่า "ราคาต่ำ"

คนมีเงินน้อย เลือกไม่ได้ ก็ต้องบริโภคของไม่ดี

คนมีเงินมาก ตกเป็นเหยื่อนักการตลาดที่สามารถครอบครอง "ธุรกิจการศึกษา" แล้วอัดเนื้อหาทาง "วิชาการ"

อยู่เมืองนี้ของสดหาง่าย ผัก ผลไม้ ถูกกว่าเมืองไทย

น้ำอัดลม Junk food ขนมกรอบแกรบ น้ำเข้ามาจากเมืองไทย ราคาแพง

อยู่เมืองไทยใครหาน้ำส้มคั้นสด ๆ ดื่มได้ถือว่า "เก่ง"

อยู่เมืองไทยใครหามะพร้าวน้ำหอมแท้ ๆ ดื่มน้ำ ก็ถือว่า "เก่ง" เช่นเดียวกัน

เมืองไทยเป็นเมืองเกษตร แต่ทำไมหาสินค้าทางการเกษตรแท้ ๆ บริโภคกันได้ยาก

ถ้าจะหาก็หาได้อยู่แต่ "ราคาสูง..."

ยิ่งน้ำผลไม้บรรจุกล่อง พลาสเจอร์ไรส์ ยิ่งแพงเข้าไปอีก เพราะบวกค่า "โฆษณา" แต่ทว่าคนชอบดื่ม เพราะ "เท่ห์"

ของที่เก็บไว้ได้นาน คนกินอายุสั้น

ของที่เก็บไว้ได้สั้น ๆ คนกินอายุยืน

น้ำอ้อยที่นี่ ถ้าดื่มไม่หมด ต้อง "แจก" เพราะไม่มี "ตู้เย็น"

คนที่ได้รับแจก "ยิ้ม" กันถ้วนหน้า

ไอ้ตู้เย้นนี้ ทำลาย "มิตรภาพ" ทางสังคม

เพราะทำให้คนมัวแต่จะ "สะสม" ของกิน...

ถ้าชีวิตคนเราไม่มีตู้เย็น เราจะมีเพื่อนอีกมาก

เพราะมีของกินมากก็ต้อง "แบ่งกันกิน..."

แต่สมัยนี้ มีมากก็ "แช่" บางครั้ง "แช่จนเน่า"

ถ้าใครอยากมีเพื่อนเยอะ ขอให้ในบ้านไม่มีตู้เย็น

ถ้าบ้านไหนไม่มีตู้เย็น คนในบ้านจะรู้จักการ "เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่..."

น่ามีคนตั้งโจทย์วิจัยบ้างว่า "ตู้เย็นเป็นปัจจัยที่ทำให้คนไทยเห็นแก่ตัว..."

สถิติของคนไทยที่รู้จักชื่อคนข้างบ้านนั้นน่าจะน้อยลงทุกปี สวนทางกับขนาด (คิว) เฉลี่ย ของตู้เย็นที่เพิ่มขึ้น

ตู้เย็นบ้านใครใหญ่มาก ส่งผลต่อการรู้จักเพื่อนบ้านน้อยลง

อยู่ที่นี่ไม่มีตู้เย็นก็ดีอย่าง ตอนเย็น ของอะไรเหลือกิน "แจกโลด"

มีความสุข เพื่อเห็น "รอยยิ้ม" ของคนที่ได้รับแจก

การสะสมของกินมากส่งผลให้จิตใจเกิดความตระหนี่ คนตระหนี่ไม่มีเพื่อน

ไม่มีตู้เย็น จึงส่งผลให้ "มีเพื่อน..."

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท