เดิน ทีละ ก้าว
กินข้าว ทีละ คำ
ทำ ทีละ อย่าง
ผมได้ยินประโยคนี้มานานแล้วตั้งแต่เข้ามาร่วมงานกับเครือข่ายมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ แต่ไม่ค่อยคิดอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ดูรายการปราชญ์เดินดิน ซึ่งคุณนริสร (ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่า) เจ้าของชุมพรคาบานารีสอร์ท หนึ่งในศูนย์อบรมของมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ชื่อว่าศูนย์อบรมเพลิน ซึ่งคุณนริสรเป็นหัวหน้าศูนย์ฝึกอบรม คุณนริสรเองเป็นหนี้ธนาคาร ในสมัยฟองสบู่แตก ถึง 300 ล้านบาท ก็ไม่มีทฤษฎีธุรกิจใดที่ร่ำเรียนมาที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ สุดท้ายก็ใช้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ถึงแม้ว่าตอนนี้หนี้จะไม่หมด แต่คุณนริสร ก็มีความสุขในการทำงาน
ที่รีสอร์ท มีการลดต้นทุนทุกอย่าง ตั้งแต่ปลูกข้าวเอง เลี้ยงไก่ไข่เอง ทำน้ำยาทุกอย่างที่ใช้ในโรงแรม ทำน้ำมันไบโอดีเซลใช้กับรถทุกคันที่ใช้ในรีสอร์ท อื่นๆ อีกมากครับ คุณนริสร ออกรายการทีวีหลายรายการคิดว่าน่าจะผ่านหูผ่านตากันมาบ้างนะครับ
ในตอนหนึ่งของรายการคุณนริสรได้พูดถึง คำว่า มีเรื่องให้ทำเยอะแยะ แต่ต้องเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง ทำให้มาสะกิดใจผม ผมเองก็มีแผนงานอยู่ใจพอสมควร จะทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันคงไม่ได้ ต้องค่อยๆทำไป
ผมเองก้าวเข้ามาในชุมชนแห่งนี้ด้วยการชักชวนของเม้ง ผมเองจดๆ จ้องๆ อยู่นานไม่กล้าเข้ามาเพราะคิดว่าไม่มีอะไรจะให้กับสังคมแห่งนี้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็ได้ให้ และได้รับจากสังคมแห่งนี้เช่นกัน สิ่งที่ได้ให้มันก็เป็นสิ่งใหม่กับชิวิตผมเหมือนกัน ถูกบ้างผิดบ้างก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะผมเองก็เพิ่งเริ่มต้นชีวิตเกษตรกร เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2550
บล๊อกของผมชื่อ "กสิกรรมธรรมชาติ" ช่วงหลังชักรู้สึกละอายใจเพราะไม่มีความรู้อะไรใหม่ๆ ให้กับสังคมแห่งนี้ การที่เข้ามาหวังจะเอาอย่างเดียว หรือให้โดยมีอย่างอื่นซ่อนเร้น ไม่ใช่วิสัยของผม หลายคนน่าจะรู้จักผมดี ตั้งแต่ linuxsiam.com จนมาถึง sothorn.org และ agri-nature
ผมขอหยุดพักการให้ความรู้กับสังคมแห่งนี้ชั่วคราว เพื่อแสวงหาความรู้ ทดลอง ลบคำสบประมาท พิสูจน์ตัวเอง และจะ เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง เพื่อให้มีสิ่งที่ภาคภูมิใจในเศรษฐกิจพอเพียง เพราะเศรษฐกิจพอเพียงพูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องลงมือทำ
กล้วยพิสดารงอกหน่อ ออกเครือ คงแวะมาเล่าสู่กันฟัง และคงได้เข้ามาร่วมในสังคมแห่งนี้อีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่ตั้งใจ
ขอบคุณทุกท่านทุกความเห็นที่เคยพูดคุยกันในบล๊อกแห่งนี้
ผมเองก็เคยอ่านบทความเรื่องของคุณนริสร (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขียนถูฏหรือเปล่า) ในนิตยสารสารคดีเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน รู้สึกศรัทธา
ตอนนี้ก็รู้สึกศรัทธาในตัวโสทรเหมือนกัน เพราะว่าสามารถทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างที่คนอื่นไม่สามารถทำได้
ยินดีที่ได้รู้จักอย่างแรงครับ
ชื่นชม และศรัทธา วิถีชีวิตแห่งความพอเพียง เช่นกันค่ะ
... ยิ่งได้มารู้จัก G2K มาเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ หลายๆ คนที่นำเดินทางสายธรรมชาติไปปฏิบัติได้จริง ก็... ยิ่งเชื่อมั่นค่ะ
อ่านงานเขียนชิ้นนี้ของคุณโสทร แล้วเหมือนจดหมายบอกลา เลยกระนั้น ....
.... เดินทีละก้าว ทำทีละอย่าง ... ก็ไม่เห็นจำเป็นต้อง เลิกร้างลา มิใช่หรือคะ ...
... คุณโสทร อาจจะจริงจังเกินไปหรือเปล่า ... ก็ไม่จำเป็นต้องบันทึกทุกวัน ไม่จำเป็นต้องมีสาระตลอด ?
.... เป็นการถ่ายทอดออกมาจากใจ ในความรู้สึก ในชีวิตประจำวัน ... ก็เท่านั้นเอง มิใช่ฤา ?
.... อย่างไรก็ตาม ยินดีที่ได้รู้จักมิตรใหม่แม้เพียง 1 เดือนก็ตามที
... ด้วยปรารถนาดีค่ะ
สวัสดีครับโสทร
สวัสดีครับโสทร
สวัสดีค่ะคุณโสทร
คุณโสทรทำงานในเครือข่ายมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ อยู่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ รึเปล่า? หรืออยู่จังหวัดใดใกล้เคียง?
ถ้าใช่ขอรบกวนเวลาคุณโสทร เราก็คนหนึ่งที่สนใจเป็นเกษตรกร ตอนนี้อยู่ อ.ทุ่งสง ทุกวันนี้ในแต่ละวันกำลังปลูกต้นไม้ และปลูกต้นไม้ และเคยอบรมที่มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ที่ทุ่งสง แต่ปัญหาของเราคือไม่เคยทำเกษตรมาก่อนเลย นี่เป็นเหตุให้ต้องหาแนวร่วม หรือพรรคพวกที่มีความสนใจเดียวกัน คอยปรึกษาหารือ
ได้เข้ามาเจอบล็อคนี้ ก็เพราะเสิร์ชหาคำว่า "การปลูกกล้วย" นี่แหล่ะ ถึงมาเจอคนแบบเดียวกัน
ถ้าจะศึกษาหาความรู้จากชาวบ้านละแวกนี้ ก็น่าจะไม่ค่อยหลงเหลือภูมิปัญญาแล้ว เพราะคำตอบที่ได้ส่วนใหญ่ก็คือ เดี๋ยวนี้ไม่ทำแล้ว, ฉีดยาฆ่าหญ้า หรือไม่ก็ใส่ปุ๋ยเคมี หาภูมิปัญญาชาวบ้านจากเมืองที่เจริญแล้วไม่ได้เลย (รึว่าเรายังหาไม่เจอ)
ดีใจที่เจอได้กัลยานมิตร...
สวัสดีครับ คุณแอน
ผมเข้าอบรมที่ศูนย์ฯ ทุ่งสง รุ่นที่ 17 ครับ
มีอะไรแลกเปลี่ยนกันได้ที่ [email protected] ครับ
รอได้ค่ะ
คุณ โส จะ เขียนเมื่อไร ก็จะอ่านต่อเลย
อ้าว! พอผมกลับมา โสทรก็ทำท่าจะไป
ไม่เขียนบันทึกเอง ก็แวะมาฝากรอยในบันทึกคนอื่นบ้างก็ได้ครับ
เรื่องของโสทร ผมเข้ามาอ่านอย่างเดียว ..เอาเปรียบน่าดู แต่ไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้เลย เพราะไม่มีความรู้จริงๆ
รอได้เหมือนกันครับ
อยากมาบอกว่าเป็นอีกคนที่แวะเวียนมาอ่านบล็อกของพี่ครับ
จะรอการกลับมาครับ :)
ถึงน้องโสทร ที่นับถือ
ใจหายแว๊บเลย เพราะชอบอ่านบันทึกของน้องแถมมีภาพให้ดู ทำให้ความสุข รู้สึกได้ถึงความงดงามของธรรมชาติ ธรรมดาจะอ่านทุก ๆ ตอน พี่เองก็ทดลองทำ ขุดร่อง+ปลูกผักบ้างพอได้เหงื่อในวันหนึ่ง ๆ ส่วนมากจะได้ทำวันเสาร์+อาทิตย์ คิดว่าเมื่อไหร่มีโอกาสผ่านไปทางตรังจะเข้าไปเยี่ยมที่บ้าน เอาเป็นว่า พร้อมเมื่อไหร่ ก็มาเขียนให้อ่านกันต่อนะน้อง ขอบคุณที่ให้อะไรดี ๆ มากมาย จะรออ่านต่อไปครับ ...ขอบคุณอีกครั้ง...พี่ณรงค์
สวัสดีครับโสทร
เมื่อวันที่ 1 ได้ เข้ามาเขียนแต่ส่งไม่ขึ้น แม้ว่าจะพยายามส่งใหม่ถึงสองสามครั้ง หลังจากนั้นก็มีภาระกิจ เพิ่งจะกลับมาวันนี้ ตั้งใจว่าจะเข้ามาเขียนตามที่คิดเอาไว้ในตอนแรก แต่หลังจากอ่านที่คนอื่นๆเขียนมาแล้ว ก็เริ่มเข้าใจวัฒนธรรมขององค์กรแห่งนี้ ก็เลยไม่ต้องเขียนอะไรเพิ่มเติมอีกครับ
เอาไว้ช่วงไหนมีเรื่องที่จะเขียนเล่าสู่กันฟังก็เขียนมาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกันบ้าง
หลังจากมัวแต่ตระเวณไปหลายที่ กลับมาดูต้นข้าวของผมที่ปลูกไว้ในถัง ยังรอดครับ ขึ้นมาสวยงามดี ต้นออกสีดำๆด้วย เอาไว้ว่างๆ จะลองถ่ายภาพให้ดูครับ
ไม่เจอกันในเวทีนี้ แต่เราก็มีเวทีอื่นที่จะเจอกันได้อีกครับ
สวัสดีค่ะโสทร
ขออภัยด้วยค่ะ แอนไม่สามารถอ่านเมลของคุณโสทรเลย ได้รับเมลแล้วทั้งสองครั้ง แต่ยังเป็นภาษาที่อ่านไม่ได้ แม้จะลองเปลี่ยน Encoding แล้ว ก็ยังเป็นภาษาแปลกๆอยู่ดี
สงสัยต้องเข้ามาพูดคุยกันในเว็ปบล็อก หรือไม่ก็ทางโทรศัพท์
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ ทุกท่าน
ขอบคุณครับสำหรับทุกความคิดเห็น ช่วงนี้ผมกำลังลุยงาน ในสิ่งที่ตั้งใจไว้หลายอย่าง สำเร็จหรือไม่สำเร็จ อย่างไร แล้วคงมาเล่าสู่กันฟัง