ความเสียสละ


ปัจจุบันกำลังจะมีการเลือกตั้งก็เลยลองนำนิทานเรื่องหนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง ผมไปอ่านเจอจากหนังสือ "สิ่งที่พ่อไม่เคยรู้" ของ เอกราช  จันทร์ดอน เผื่อจะเป็นประสบการณ์ที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกตัวแทนของเรา ในสังคมปัจจุบันมีคนที่มีความรู้ มีความคิดมากมายแต่ยังขาดคน "เสียสละ"

เรื่องบ่อน้ำและหมู่บ้าน 2 แห่ง 

                กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  นานจนระบบการจ้างงานยังไม่เกิดขึ้นในโลกนี้  เงินทองยังไม่มี  ได้มีหมู่บ้านสองแห่ง  ที่อุดมสมบรูณ์  และทุกคนในหมู่บ้านใช้จอบเป็นเครื่องมือหลัก  ในการเลี้ยงชีพตนทุกคนในหมู่บ้าน  จะมีปัญหาเดียวคือในช่วงหน้าร้อนหมู่บ้านทั้งสองแห่ง  ประสบปัญหาภัยแล้งทุกปี  แต่ก็เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ที่สามารถทนกันได้                ทั้งสองหมู่บ้าน  ได้รับชุดความรู้ที่ประทานมาจากฟ้า  ว่าต้องขุดบ่อน้ำให้เพียงพอกับการเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง  คนในหมู่บ้านทั้งสองแห่ง  ต่างมีความรู้ว่าการขุดบ่อน้ำ  จะทำให้หมู่บ้านสามารถบรรเทาภัยแล้งได้  วันเวลาผ่านไปความแล้งไม่นานมาก                หน้าฝนก็มาเลื่อย ๆ บ่อน้ำทั้งสองของหมู่บ้านยังไม่ได้ขุด  เพราภัยแล้งมันสั้นเกินกว่า  จะเห็นคุณค่าของความรู้ที่ฟ้าประทานให้                ปีแล้วปีเล่า  ความรู้ดังกล่าวก็กลายเป็นหนังสือ                ที่เก็บอยู่ในหอสมุดของชาวบ้าน                ก็จะมีเด็ก ๆ ได้มาอ่านบ้าง  ได้เอาไปคิดบ้าง  แต่ทั้งสองหมู่บ้านไม่มีการขุดบ่อน้ำเพราะภัยแล้งที่เกิดขึ้น  ก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติ  ไม่ได้ทำให้ต้องเดือดร้อนกันยาวนาน                เวลาผ่านไปหลายปี  สมุดเล่มนั้นเก่า  และก็เสียหาย  สูญหายไปในที่สุด                ความรู้เรื่องการขุดบ่อน้ำ  เพื่อเป็นการสำรองน้ำไว้ใช้ในยามที่มีภัยแล้ง  จึงเป็นแค่ความรู้ที่เล่าขานกันในครอบครัวของทั้งสองหมู่บ้าน                แล้วในที่สุด.........ก็กลายเป็นตำนาน               

               เรื่องขุดบ่อน้ำ  เพื่อแก้ภัยแล้ง  จึงเป็นเรื่องเล่า  ให้เด็ก ๆ ได้ฟัง  หาผู้ใหญ่ที่เชื่อและคิดใคร่ครวญ  จนเห็นคุณประโยชน์ของการขุดบ่อน้ำอย่างแท้จริงยากเหลือเกิน                เวลาผ่านไปอีกรอบ.....นานกว่าเดิมนิดหน่อย                ภัยแล้งปีนี้นานกว่าที่คิด  ทั้งสองหมู่บ้านเกิดความเสียหาย  พืช  สวนไร่นา  ไม่สามารถมีผลผลิตที่เพียงพอ  ต่อหมู่บ้าน  เป็นปีแรก  ที่นอกจากจะแล้งยาวแล้ว  ยังต้องลดการบริโภคอาหารให้น้อยลง  ปี่ที่สองก็แล้งเช่นเดิม  ความแห้งแล้งเริ่มยาวนานขึ้น  ในปีถัดมา                คนในหมู่บ้านทั้งสอง  เริ่มพูดถึงเรื่องตำนาน  ความรู้ที่ฟ้าประทานมาให้  ตำรา  ขุด  บ่อน้ำ  ผู้มีอิทธิพลทั้งสองหมู่บ้าน  ต่างก็เข้าไปหาหนังสือ  ชุดความรู้ที่ฟ้าประทาน  สายซะแล้ว  ที่หนังสือไม่มีในหอสมุดอีกต่อไป                ตำนานเริ่มเอามาพูดถึงอีกครั้ง  การขุดบ่อน้ำที่แก้ภัยแล้ง  คนเริ่มรู้  เริ่มคิด  กันอีกครั้ง  ทั้งสองหมู่บ้านยังไม่มีบ่อน้ำ  หน้าแล้ง  ปีที่สองผ่านไป......                มีการประชุมกันประปราย  เรื่องการขุดบ่อน้ำ  ภายในปีนี้  แต่ทั้งสองหมู่บ้านคงยังไม่มีใครทำ  คนที่มีความคิด  ว่าควรทำ  ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงไปประกาศหาคน  บอกคนโน้นคนนี่  ว่าการขุดบ่อน้ำดี  แล้วก็บ้านไปนอน  คนมีความรู้ก็ออกมาอธิบายกันใหญ่  แต่ทั้งสองหมู่บ้านก็ยังไม่มีใครขุดบ่อน้ำ  มีการจัดประชุมใหญ่  เพื่อระดมความคิด  ความรู้  เพื่อการขุดบ่อน้ำ               

            “เราคิดว่าหมู่บ้านของเราควรขุดบ่อน้ำนะ  ผู้มีความคิดกล่าวขึ้นในที่ประชุม               

             “บ่อน้ำที่มี  จะช่วยเราเก็บน้ำไว้ได้  สามารถใช้แรงคนขุดได้  ผู้มีความรู้บอกในที่ประชุม               

                 แล้วเราจะเริ่มต้นกันอย่างไร  ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวขึ้น               

             “เราต้องหาคนมาขุด  ผู้มีความคิดกล่าวขึ้น   อย่างภาคภูมิ                คนที่ขุดจะต้องเป็นคนที่ใช้จอบได้ดี  ผู้มีความรู้กล่าวเสริมอย่างภาคภูมิไม่น้อยกว่ากัน                ชาวบ้านอีกคนหนึ่งให้เหตุผลในที่ประชุม               

             “นั้นนะซินะ  คำพูดของเจ้ามีเหตุผล  เราทุกคนต่างใช้จอบได้ดีกันทุกคน                ท่านผู้มีความคิด  แสดงความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับชาวบ้าน               

                   ปัญหาภัยแล้งของเราก็ได้เบาบางลงแล้ว  ตอนนี้  ฝนตกแล้ว  น้ำดีแล้ว  เช่นเดิม                ผู้มีความรู้  กล่าวข้อมูล  ที่สำคัญ  แก่ที่ประชุม  เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้จอบได้ดีเช่นกัน               

               “ในเมื่อ  ตอนนี้ปัญหาแล้งได้หมดไปจากหมู่บ้านเราแล้ว  และทุกคนก็ใช้จอบได้ดีเหมือน ๆ กัน  เราจึงยังหาคนเหมาะสมที่จะมาขุดไม่ได้  ปัญหาอื่นที่เราต้องทำมีมากมาย  ถ้าเราเอาเวลามาคุยเรื่องขุดบ่อน้ำก็เสียเวลากันไป  น่าจะเข้าประเด็น  งานเฉลิมฉลองที่เราจะจัดขึ้น  ตอนก่อนฤดูเก็บเกี่ยวนะ  ปีนี้เราจัดงานเช่นไรดี                ผู้มีความคิดเสนอแนวทางที่เห็นว่าเราควรต้องทำเนื่องจากตนเองก็นึกขึ้นได้ว่าตนเป็นคนหนึ่งที่ใช้จอบได้ดีเช่นกัน  แต่ยังไม่อยากขุดบ่อน้ำเอง  เพราะกังวลเรื่องเวลาที่เสียไปในการทำมาหากินส่วนบุคคล               

                  การประชุมจบลงโดยที่การขุดบ่อน้ำ  จะจบลงที่ปัญหาเดิม  ใครขุด ? เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี  บ่อน้ำยังไม่เกิดขึ้น  ในทั้งสองหมู่บ้านจนกระทั้ง  หน้าแล้งปีถัดมา  แล้งมาก   แล้งจนแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน    แล้งยาวนานมาก ๆ คนที่มีความคิด  ก็ยังกังวลเรื่อง  เรือกสวนไร่สวนนาของตน  คนที่มีความรู้ก็ยังกลัวการทำงานที่ต้องใช้แรง  เพราะจะทำให้ดูเหมือนไม่มีความรู้โชคดี  ยังเกิดขึ้นทั้งสองหมู่บ้าน  นายเสียสละได้ลงมือขุดบ่อน้ำในหน้าแล้งของปีนั้น  ตอนนี้  ความแล้งได้เล่นงานหมู่บ้านมาระยะหนึ่ง  นายเสียสละตัดสินใจยอมลำบาก  ลงมือขุดบ่อน้ำคนแรก 

                   หมู่บ้านที่ 1 นายเสียสละเริ่มขุดบ่อน้ำ  ขุดได้สักระยะ  ขุดจนเหงื่อท่วมกา  ขุดจนมือเริ่มแตก  น้ำในบ่อยังไม่เจอ  แต่น้ำใจเริ่มปรากฏ  ชาวบ้านคนที่มีความคิด  คนที่มีความรู้  ได้เห็นการกระทำของนายเสียสละ  เริ่มเห็นใจ  เดินตามกันออกมา เพื่อลงแรงช่วยขุดบ่อน้ำ  ในที่สุดก็ขุดบ่อน้ำจนเจอน้ำ  เรื่องนี้จบลงด้วยความสุขใจ  หมู่บ้านได้ตั้งชื่อของหมู่บ้านตนเองไว้  เพื่อเป็นอนุสรณ์ของเหตุการณ์ครั้งนี้   สืบต่อไปว่า  หมู่บ้านมีน้ำใจ               

                   หมู่บ้านที่สอง   นายเสียสละคนที่ 1 เริ่มขุดบ่อน้ำ  ขุดไปสัดระยะ  ขุดจนเหงื่อท่วมกา  ขุดจนมือเริ่มแตก  ก็ยังไม่เจอน้ำ  น้ำในบ่อยังไม่เจอ  และน้ำใจไม่ปรากฏ  นายเสียสละขุดบ่อน้ำจนเป็นลมตายคาบ่อน้ำ  ความแล้งยังมีต่อไป  นายเสียสละคนที่สองออกมาขุดต่อ                ก็หมดแรงตาย  เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ นายเสียสละตายไปหลายคน  จนกระทั้งนายเสียสละคนที่เท่าไหร่  ไม่ทราบขุดจนเจอตาน้ำ  น้ำในบ่อเริ่มเจอ  น้ำใจยังไม่ปรากฏเช่นเดิม  เนื่องจากทุกข์ยากที่ผ่านมาทำให้ทุกคนต้องคิดเอาตัวรอด   ข่าวเรื่องการเจอตาน้ำ  ได้กระจายไปอย่างรวดเร็ว  ไวเหมือนโกหก  ทุกคนวิ่งเข้ามายังบ่อน้ำ  ที่เจอตาน้ำแห่งนั้น  ลงไปแย่งชิงน้ำในบ่อกัน  แย่งกันตัก  แน่งกันยึดครอง  เหยียบกันตายบ้าง  ฆ่ากันเองบ้าง..  เกิดสงครามกลางเมืองในหมู่บ้าน  จนตายกันหมดหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้เป็นเพียงตำนานเล่าขานกันต่อไป  โดยมีชื่อว่า  หมู่บ้านแล้งน้ำใจ               

                   จบนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...  เราเป็นเช่นไร  สังคมเราเป็นเช่นนั้น 

                   หมายเหตุ  :   ความโชคดีของนิทานเรื่องนี้  หมู่บ้านทั้งสองแห่งว่างห่างกัน  และไม่มีคนจากหมู่บ้านแล้งน้ำใจเหลือรอดมาอาศัยในหมู่บ้านมีน้ำใจ  ถ้าโลกจริง ๆ เป็นอย่างนี้ได้คงดีจัง

หมายเลขบันทึก: 149775เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2007 08:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 19:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับ ใช้กูเกิลค้นชื่อตนเอง เลยได้เจอที่แห่งนี้

ดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าของนิทานเรื่องนี้ครับ

ขอบคุณมากครับที่ช่วยนำมาเผยแพร่

ขอบคุณมากครับ

เอกราช ครับ

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับนิทานดีๆ ที่นำมาโพสให้ได้อ่านน่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ

นู๋เจอทุกวันค่ะ

หมู่บ้านแล้งน้ำใจเนี๊ยะ

อิอิ

ทุกอย่างไม่เที่ยง ทุกอย่างไม่แน่นอน ที่แน่นอนคือคนไทยเราทุกๆคน มีน้ำใจ และมีความสามัคคี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท