ผมออกเดินทางจากพิษณุโลก ตอน ๒ ทุ่มครึ่ง ของวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม โดยรถทัวร์ของบริษัทขนส่งจำกัด ตอนแรกจะไปเที่ยงคืนซึ่งเป็นรถ VIP แต่คิดดูแล้วว่าจะต้องนอนดึกตื่นเช้า เลยเปลี่ยนมาเป็นเที่ยว ๒ ทุ่ม ซึ่งเป็น ป.๑
มาถึงกรุงเทพฯ ตอนตีสอง อยู่แถวรังสิต มีกล่อง ๒๐ กิโลกรัมติดไปด้วย 3 ใบ กับกระเป๋าลาก ๑ ใบ จับแท๊กซี่ไปแถวสะพานใหม่ ค่ารถ 97 บาท
วันรุ่งขึ้น ไปส่งของที่รพ.สินแพทย์ แล้วไปสัมภาษณ์ครูนเรศ ที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยจนถึงบ่ายสอง กลับมาที่พักแล้วจับแท๊กซี่ไปที่สถานีรถไฟบางซื่อตอนบ่าย ๒ ครึ่ง (ค่ารถ 115 บาท จ่ายจริง 120 บาท)..ไปถึงสถานีบ่าย ๓.๐๙ นาที เสียงประกาศว่ารถไฟด่วนพิเศษขบวนที่ 35 ปลายทาง butterworth กำลังจะเข้าเทียบสถานีในชานชลาที่ ๒
ผมกับคณะผู้ติดตามต้องรีบวิ่งไปที่ชานชลาที่สอง แล้วตู้รถนอนชั้น ๒ ปรับอากาศ อยู่หัวขบวนด้วย ทำให้คณะของผมทุลักทุเลน่าดู ลองเอาตั๋วไปถามเจ้าหน้าที่คุมขบวนรถ (ถือธง) เขาบอกว่า ขบวนของเราจะมาถึง 15.39 น. นี่เป็นเพราะคนถือตั๋วได้แต่จำเวลาว่าเป็น 15.09 น. แต่ไม่ Recheck ว่าจริงๆ ตั๋วที่จองเป็นขบวนรถด่วนพิเศษขบวนที่ 37 ปลายทางสุไหโกลก..
นั่งรอกันอีกครึ่งชั่วโมง ก็ได้ขึ้นรถไฟในชุดซักแห้ง..อิอิ โบกี้รถนอนปรับอากาศชั้น ๒ ของเราติดกับหัวรถจักร ต้นขบวน พวกเราต้องรีบวิ่งกันสุดฝีเท้า เป็นอะไรที่สนุกมาก..
เราซื้อตั๋ว เป็นผู้ใหญ่นอนเตียงล่าง ได้หมายเลข 10 กับ 12 อยู่คนละฝั่ง ส่วนเบอร์ 9 และ 11 นั้นเป็นเตียงบน ราคาตั๋วนั้น 903 บาท (ถ้าเป็นขบวน 35 ราคา 943 บาท) ส่วนเด็กที่ติดตามซื้อเป็นตั๋วนั่ง ราคา 362 บาท
สัมภาระ (ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นภาระ) ที่คณะของผมนำติดตัวไป มีกระเป๋าทั้งหมด 7 ใบ เป็นกระเป๋าเสื้อผ้า 2 ใบ ที่เหลือเป็นกระเป๋าเสบียง..
พอขบวนรถออกสักหน่อย ผมก็แจ้งกับน้องอาร์มว่าออกเดินทางแล้วนะ เผื่อว่าน้องอาร์มจะบอกเบอร์ของผมให้กับผู้มารับ เพื่อ Update เรื่องเวลาที่จะมารับตอนเช้า ซึ่งจะต้อง delay กว่าเวลาที่กำหนดไว้ว่าจะถึงหาดใหญ่ 7.13 น. อย่างแน่นอน เพราะที่นี่คือ รฟท. รถไฟไทย..
วัฒนธรรมของรถไฟไทยอย่างหนึ่งซึ่งเห็นได้จากอดีตจนปัจจุบันก็คือ เสียงเดินขายของของบรรดาพ่อค้าและแม่ค้าทั้งหลาย นับร้อยเที่ยวตลอดระยะเวลาการเดินทางอันยาวนาน 17 ชั่วโมง เวลาที่เราไม่ได้ยินเสียงก็คือเวลาที่เราหลับนั่นเอง
พนักงานเริ่มมาปูเตียงตอน ๑ ทุ่ม กว่าจะปูเสร็จทุกเตียงก็ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ เตียงล่างเต็มแต่เตียงบบว่างหลายเตียง...มาคิดๆ ดู การทำตู้นอนนี่ขาดกำไรหลายสตางค์ ถ้าทำตู้นั่งน่าจะเก็บเงินได้มากกว่า แต่ถือว่าเป็นบริการที่ดีสำหรับคนที่ไม่รีบมากนัก มองเห็นบรรยากาศของชนบทระหว่างเดินทาง
ผมเข้านอนตอน 21.30 น. แล้วมาตื่นเอาตอนตีห้าครึ่ง (ของเช้าวันเสาร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม) เช้าสั่งขนมปัง น้ำส้ม กาแฟ มาทาน ๑ ชุด ราคา 90 บาท ระหว่างนั้นก่อน 7 โมง น้องแนท โทรมาหา บอกว่ามารอรับที่สถานีรถไฟหาดใหญ่แล้ว แต่มาเช็คดูแล้ว จะ Late ไปเป็น 8.30 น. จะรออยู่แถวสถานี
ผมพยายามเช็คดูเวลากับกำหนดเวลาเดินรถในมือ คำนวณได้ว่ารถไฟคงไปถึงราวๆ 8.40 น. จึงไม่อยากให้รอนานถึง 2 ชั่วโมง (ในใจก็คิดว่า ทำไมไม่ประสานงานให้เร็วกว่านี้จะได้ไม่ต้องมารอ แต่ลองเปิดเบอร์ที่ไม่ได้รับสาย เมื่อวานนี้มี ๑ สายที่ไม่ได้รับ โทรมาตอนบ่ายสอง เป็นเบอร์ของ nat นั่นเอง จึงเปลี่ยนความคิดใหม่ ว่าเป็นเพราะเราไม่โทรกลับไปประสานให้ดีนั่นเองจึงทำให้เขาต้องมารอ) จึงโทรไปหา nat อีกครั้ง (ผมต้องเปลี่ยน sim อันใหม่ เพื่อให้ประหยัดค่าโทร เพราะ nat ใช้เครือข่ายต่างจากที่ผมใช้) เพื่อจะบอกเรื่องนี้
nat เปลี่ยนแผนว่าจะกลับไปมอ.ก่อน (ตอนที่คุยกันอยู่นั้นผมคิดว่า nat เป็นคนขับรถ เนื่องจากไม่ได้เปิดโพยดู) แล้วจะมาตอน 8.30 น.
ตอนใกล้ 8 โมง nat โทรมาอีกครั้งว่า จะต้องไปรับคุณวิชิต ที่สนามบิน ตอน 8.30 น. ขอให้ผมรออยู่ที่รถไฟก่อน แล้วจะพาไปซื้อตั๋วรถทัวร์ด้วย
8.30 น. รถไฟก็มาถึงสถานีหาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย เกือบ 9 โมง รถถึงจะมารับ nat กับคุณวิชิตมาพร้อมกัน ตอนพบกับ nat ครั้งแรกก็ยังเข้าใจว่าเป็นคนขับรถ (ไม่คิดว่าเป็นคนที่มาจาก Lab) คุณวิชิตขอเวลาจองตั๋วรถไฟตอนขากลับ บอกว่าพาครอบครัวมาด้วยซึ่งรออยู่ที่รถ
พอถึงที่รถตู้จอดอยู่ ก็เข้าใจทันทีว่า nat มาจาก Usablelabs เพราะในรถมีลุงคนขับอีกคนหนึ่ง ในรถเราก็พบครอบครัวคุณวิชิต มีแม่ฝน น้องภพ และน้องพีท (เกิด 27 26 พ.ค. 48) ทั้งสองอายุห่างกันหนึ่งปีครึ่ง เกิดวันพฤหัสเหมือนกัน..
วันนี้เมื่อวานเป็นวันคล้ายวันเกิดน้องพีท...Happy birthday นะครับ...
วันนี้เป็นวันที่เปิด Open ให้ user ทั้งหลาย เข้าใช้งาน Gotoknow เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และเป็นวันคล้ายวันเกิดท่านพุทธทาสครบ 103 ปี ด้วยครับ
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์ |
ละเอียดมากๆๆค่ะ จำได้หมดทุกบาททุกสตางค์
พวกเราทีมขอนแก่น แทบจะไม่ได้ใช้เงินที่หาดใหญ่ เพราะขาดโปรแกรมช๊อปปิ้งค่ะ
อาจารย์คะ
เรื่องรถไฟถึงหาดใหญ่ช้านั้น เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟนั้น จะค่อนข้างกำหนดเวลายาก เพราะส่วนมากแล้วจะถึงช้ากว่ากำหนดค่ะ
ดีใจที่ได้พบครอบครัวของอาจารย์ค่ะ ^_^
สวัสดีค่ะอาจารย์
มาติดตามกิจกรรมและสาระดีๆค่ะ
ขอให้ท่านมีความสุข
สวัสดีครับอาจารย์
สวัสดีครับท่าน บีแมน นั่งโต๊ะเดียวกัน แต่ไม่ได้สนทนากันสักเท่าไหร่ เสียดายโอกาสอันดีงาม เพราะกิจกรรมมาแย่งไป เป็นวาสนาที่ได้เจออาจารย์ครับ
ติดตามอ่านคะ เล่าเห็นภาพเลยนะคะ
เรียน ท่านอุบล
เรียน น้องมะปราง
เรียน ท่าน MSU-KM :panatung~natadee
เรียน คุณบอย
เรียน ท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
เรียน ท่านประกาย
吴老师你好。
อยู่ประเทศไทยก็เป็นปกติที่ล่าช้าบ้างพอทำใจ
ดีกว่าที่อินเดียหลายเท่านักเพราะล่าช้าทีละหลายๆชั่วโมง
ยินดีที่ได้พบตัวจริง เสียงจริง อ. Beeman ค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ ดีใจนะคะที่ได้พบครอบครัวอาาจารย์ เคยเข้าไปอ่านบล็อกของอาจารย์ วันนั้นได้เจอทั้งครอบครัวเลย เด็กๆน่ารักค่ะ ช่วยแจกขนมด้วย ^__^
เรียน คุณนุช
เรียน คุณส้ม citrus
เรียน ทีมงานเก๋น้อย