พ่อรวยสอนลูก ทำธุรกิจ
อ่านดู มันเหมือนยากนะครับที่จะทำได้
แต่ก็ขอบคุณนะครับที่มอบแนวคิดให้ครับ
สวัสดีครับ HeadOfArt
|
|
เข้าใจครับ ไม่ยากๆ
ดีมาก ๆ ครับ ชัดเจน รู้สึกตัวแล้วว่า อยู่ในสนามแข่งหนู
ผมเป็นลูกจ้าง ทำงานวันละ 11 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 6 วัน
ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เพื่อกอบโกยประสบการณ์จากการทำงานให้มากที่สุด
เมื่อถึงวันที่ผมเลิกเป็นลูกจ้าง แล้วมาทำธุรกิจส่วนตัว ผมจะได้ดูแลธุรกิจของผมอย่างมั่นคงและมั่นใจ
เพราะไม่มีใครทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จหากทำงานไม่เป็น ดังนั้นการเป็นลูกจ้างนี่แหล่ะ เป็นบทเรียนที่ดีที่สุดแล้วสำหรับผู้ประำกอบการ
ผมเห็นด้วยกับคุณ jao393 ครับ ผมรักในงานที่ผมทำผมเรียนมา 30 ปีเพื่อทำงานที่ผมรักแม้ใครจะดูถูกว่าผมเป็นแค่ลูกจ้าง แต่มันสอนอะไรผมเยอะมาก ว่าชีวิตคนเรา อย่ามองแค่เพียงค่าของเงิน การทำงานร่วมกับผู้อื่นทำให้ผมเห็นมุมมองความคิดคนและนัยเดียวกัน เงินอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของทุกคน...
ผมขอเสริมคุณ jao393 นะครับ
ถือว่าผมขอแบ่งปันนะครับ สำหรับคำว่าหาประสบการณ์จากการเป็นลูกจ้าง แล้วไปทำธุรกิจ ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำและดีที่สุด นี่แหละครับ ในหนังสือของโรเบิตได้เขียนไว้ชัดเจนว่า นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เราชินหู โดยสอนมาตั้งแต่เด็ก จากพ่อแม่ ครูอาจารย์ สังคม เหมือนกับคำว่าตั้งใจเรียนให้เก่งจะได้มีเงินเดือนเยอะๆ มั่นคงในบริษัท
จริงๆแล้ว ผมอ่านหนังสือของโรเบิตหลายเล่มครับ ผมเริ่มทำงานและเก็บเงินใช้เวลา3ปีระหว่างนั้นก็ขายนั่นนี่เล็กๆจนออกจากคำว่าเงินเดือนได้ครับ ตลอดเวลาการทำงานทำธุรกิจผมใช้แนวคิดจากหนังสือนี้มาตลอด5-6 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ผม อายุ 26 ปี เคยลงทุนล้มไป3ครั้งครับ ตอนนี้ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่ส่งเงินให้ 4 ช่องทางมีลูกจ้าง 11 คน และ 2 ช่องทางเป็นธุรกิจที่ผมไม่ต้องทำงานเองแต่อาจะต้องมีบริหารบ้าง และก็ยังมีงานที่ได้เป็นชั่วโมง และยังมีที่ธุรกิจที่ผมกำลังสร้างระบบอยู่อีก2 ธุรกิจ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ผมเป็นข้าราชการและ ไม่ได้มีแต้มต่อใดๆทั้งสิ้นครับ ชีวิตผมโชคดีที่พอใกล้จะเรียนจบก็มีโอากาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ชีวิต ของผม มุมมอง พลิก ทุกอย่างเปลี่ยนหมดครับ
เรื่องที่ว่าทำงานประจำเอาประสบการณ์มาทำธุรกิจได้ ผมขอตอบตามตรงครับว่า ถูกครึ่งเดียว หรือบางอย่างอาจผิดเลยก็ได้
ในงานประจำ นั้นจะได้ประโยชน์ในการออกมาทำธุรกิจก็ต่อเมื่อเป็นงานเดียวกันกับที่ธุรกิจเราจะทำ เช่น เป็นกุ๊กในโรงแรม แล้วออกมาเปิดร้านอาหาร อันนี้ถือว่าได้ประโยชน์มากเลยทีดียว แต่ถ้าคุณไปเป็นพนักงานบริษัท ทำหน้าที่เกี่ยวกับบัญชี แต่อยากจะออกมาทำร้านกาแฟ ร้านอาหาร นี่ถือว่าไม่มีประโยชน์ครับ ยังไงออกจากงานมาก็ต้องมานั่งเขียนแผนที่ไปหาความสำเร็จแบบนับ 1 ใหม่อยู่ดีครับ เพราะฉะนั้นแนวคิดที่ว่าหาประสบการณ์จากงานประจำแล้วจะมีประโยชน์กับธุรกิจของคุณ ไม่ใช่แนวคิดที่ดีครับ และ พอทำงานประจำไปนานๆ สิ่งที่คุณเจอแนวคิดความคิด ในที่ทำงาน จะดลบรรดาลให้คุณรักงานคุณไปจนเคยชินกับความมั่นคง โดยที่คุณไม่รู้ตัวครับ
แต่ในเรื่องเงินทุนนั้น หลายคนชอบเอามาเป็นข้ออ้าง ผมบอกเลยว่า ค่อยๆก้าวครับ บางครั้งการลงทุนทำธุรกิจ อาจจะลงน้อยได้มาก ลงมากได้น้อย สนามจริงมันต่างจากสนามในจินตนาการเยอะมากครับ
งานประจำจะสามารถให้คุณได้คือสะสมเงินทุน จนกว่าจะพอเพื่อกระโดดออกมาครับ แต่มันไม่สามารถ ทำให้คุณทำธุรกิจได้ดีแน่นอน
มันใช้ทักษะคนละด้านครับ และเสี่ยงจริงๆครับ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะแบ่งปันครับ ขอให้ประสบความสำเร็จทุกคนครับผม ^_^
ผมเคยลองเล่นเกมส์ Cashflow ตอนแรกๆยังงงๆ แต่ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่าจะต้องทำยังไง สิ่งแรกเลยคือ ลิสต์รายการที่เรามีทั้งหมด เช่น หนี้สิน สินทรัพย์ และทุนในมือ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเน็ตๆ ว่าเราจะสามารถอยู่ได้อย่างสบายๆ