ออกกำลังกายอย่างไรให้ปลอดภัย

การออกกำลังกายถือว่าเป็นเรื่องดีต่อสุขภาพ เพราะจะทำให้ร่างกายแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยขจัดสารพิษ โดยสารพิษจะถูกระบายออกมาพร้อมกับเหงื่อ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ความอ้วน คอเรสเตอรรอลสูง ฯลฯ

แต่ถ้าสภาพร่างกายรับไม่ไหวก็ไม่ควรจะฝืนออกกำลังกายต่อ เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ มีหลายกรณีที่เราควรระวัง หรืองดออกกำลังกายชั่วคราว ได้แก่

๑. มีอาการเจ็บป่วยไม่สบาย เพราะจะทำให้อาการเจ็บป่วยหรืออักเสบนั้นแย่ลง

๒. หลังทานอาหารเสร็จใหม่ๆ เพราะจะทำให้จุกหรือเป็นตะคริวได้

๓. หลังฟื้นไข้ใหม่ๆ เพราะถ้าออกกำลังกายในช่วงที่ยังอ่อนเพลียอยู่ จะทำให้ร่างกายยิ่งอ่อนเพลียลงไปอีกและหายช้าลง

๔. ช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัดหรืออบอ้าวมาก เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียเหงี่อและน้ำเป็นจำนวนมาก จะเหนื่อยง่ายและเร็วกว่าปกติ อาจเป็นลมหมดสติได้

นอกจากงดออกกำลังกายชั่วคราวแล้ว หากมีอาการบางอย่างก็ต้องหยุดออกกำลังกายทันที เช่น

-เหนื่อยมากผิดปกติ

-หายใจผิดปกติ

-หายใจขัดหรือหายใจไม่เต็มปอด

-เวียนศีรษะ

-หน้ามืด

-คลื่นไส้

-ชีพจรเต้นเร็ว  (ในผู้สูงอายุเร็วกว่า ๑๔๐ ครั้งต่อนาที ในคนหนุ่มสาวเร็วกว่า ๑๖๐ ครั้งต่อนาที)

ทีนี้ก็สามารถออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัยแล้วล่ะ

เล็บสวยด้วยมือเรา

เล็บเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนนอกเหนือจากผิวหนังและเส้นผม และที่สำคัญ เล็บยังสามารถบ่งบอกได้อีกด้วยว่า เราสุขภาพดีหรือไม่

หากเล็บมีสีเหลือง อาจเกิดจากร่างกาบขาดวิตามินอี หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหรือต่อมน้ำเหลือง ซึ่งปกติเล็บจะต้องมีสีชมพูอ่อนๆ เรียบเสมอกันไม่มีหยักหรือโค้งงอ

วันนี้มีเคล็ดลับการดูแลและอาการผิดปกติของเเล็บมาฝาก

ความผิดปกติของเล็บที่พบบ่อย

๑. จมูกเล็บอักเสบ มักเกิดกับแม่บ้านหรือผู้ที่รักความสะอาดมากๆ เช่น ล้างมือบ่อยๆ มือเปียกน้ำบ่อยๆ หรือตัดเล็มจมูกเล็บ ทำให้เกิดช่องว่างในซอกเล็บ เมื่อน้ำเข้าไปขังนานๆ เข้าก็เกิดอาการอักเสบขึ้น โดยที่ลักษณะของเล็บจะบวมแดงนูนออกมา

๒. เล็บเป็นเชื้อรา มักพบในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ติดเชื้อโรคได้ง่าย เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ปล่อยปละละเลยไม่ทำความสะอาดเล็บ โดยเล็บจะเปลี่ยนสี ดำคล้ำขึ้นหรือเขียวขึ้น ลักษณะของเล็บจะผิดปกติ บิดเบี้ยว โค้งงอ แตกเปราะ

๓. เล็บกร่อน เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เล็บจะกร่อน แตกหักง่าย เป็นคลื่นบ้าง บุ๋มบ้าง สีของเล็บจะเพี้ยนไปจากเดิมเล็น้อย

๔. สะเก็ดเงินที่เล็บ เล็บจะหนาขึ้นที่ปลายเล็บ สังเกตเห็นความผิดปกติได้ชัดเจน

วิธีดูแลรักษาเล็บ

๑. อย่าล้างมือบ่อยเกินไป หากจำเป็นต้องทำ เมื่อล้างแล้วต้องรีบเช็ดให้แห้งทันที

๒. ถ้าต้องล้างชาม ซักผ้า ถูบ้าน ควรใส่ถุงมือให้เป็นนิสัย

๓. ทาโลชั่นช่วยบำรุงมือและเล็บ

๔. ตัดเล็บให้สั้นพอสมควร เพราะการไว้เล็บยาวเกินไปจะทำให้เล็บฉีกขาดได้ง่าย แตก็ไม่ควรตัดสั้นเกินไปเพราะจะทำให้เกิดเล็บขบได้

๕. พยายามทาสีเล็บให้น้อยลง เพื่อให้เล็บได้พักผ่อน และหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ทำลายเนื้อเล็บ

ลองสำรวจดูเล็บของตนเองว่ามีอะไรผิดปกติบ้าง แล้วรีบทำการรักษาแต่เนิ่นๆ

ข้อมูล นิตยสาร ชึวจิต ฉบับเดือนตุลาคม ๒๕๔๗ หน้าปก บัวชมพู ฟอร์ด