REWAT BUDDHINAN ALIVE อัลบั้มใหม่ กับแนวคิดในการนำเสนอผลงานในรูปแบบที่ฉีกแนว


เรวัติ พุทธินันท์ สำหรับชื่อนี้ในวงการเพลงไทย หลายคนรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี กับนักร้องและนักดนตรี นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ฯลฯ ของวงการเพลงไทย ผู้ที่อยูเบื้องหลังความสำเร็จของศิลปิน นักร้องค่าย GMM GRammy หลายคน

พี่เต๋อ เรวัติ พุทธินันท์ ได้ล้มป่วย และเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน แต่ทาง GMM Grammy ได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับเรวัติ พุทธินันท์อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงคอนเสิร์ตที่ให้นักร้องรุ่นใหม่ๆนำเพลงเก่าของเต๋อ มาร้องใหม่

แต่สำหรับอัลบั้ม ALIVE ของ เรวัติ พุทธินันท์ เป็นเพลงเก่าที่ขับร้องใหม่  เป็นเสียงร้องของพี่เต๋อที่ร้องไว้เมื่อหลายปีที่แล้ว ที่ยังไม่ล้มป่วย
อัลบั้มเพลงชุดนี้ จะวางขายในเดือน พ.ย.2550 นี้

มองปรากฏการณ์นี้  หลายคนมองว่า เป็นแผนการตลาดหรือเปล่า
แนวคิดในการนำเสนอ ต่างจากนักร้องหลายคนในปัจจุบัน เพราะพี่เต๋อ ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่เสียงขับร้อง เป็นเสียงที่ได้บันทึกไว้ แม้จะเป็นเพลงเก่า แต่ขับร้องใหม่ สำเนียงใหม่ เข้มข้น ฟังดูหนักแน่นมากขึ้น

ดนตรี เป็นดนตรีร่วมสมัยเพื่อให้คนฟังเพลงในยุคปี 2550 ฟังได้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือ วัยรุ่น วัยใส วัยคะนองทั้งหลายได้ฟังเพลงเก่าๆกัน
และอาจจะมีคอนเสิร์ตอีกด้วย

แนวคิดในการทำงานนี้ น่าสนใจหลายอย่าง เป็นการนำเพลงเก่ามาเรียบเรียงใหม่
ทำให้ของเก่า ยังคงมีความร่วมสมัย ฟังได้
เป็นการแสวงหาความคิดสร้างสรรค์ ทำให้บทเพลงไม่ถูกลืมไปพร้อมกับกาลเวลา หรือมีอายุสั้นเหมือนกับหลายบทเพลงในยุคปัจจุบัน




นี่คือตัวอย่างบางช่วงบางตอนชอง  MV เพลง อกหักไม่ยักตาย
อัลบั้ม REWAT BUDDHINAN ALIVE ที่ถูกนำมาเผยแพร่ในสื่อทีวี ก่อนที่อัลบั้มเต็มจะวางขายในช่วงเดือน พ.ย.2550 นี้

ภาพจาก MV  ต้องฉีกแนว และใช้จินตนาการพอสมควร
หลายคนอาจจะชื่นชอบ หรือไม่ชื่นชอบกับเพลงของ เต๋อ
แต่ผลงานนี้ มีความน่าสนใจ ในการที่จะทำให้ เพลงในอัลบั้มชุดนี้ มีชีวิตขึ้นมา (ALIVE)
เพราะเรื่องราวของคุณเต๋อ เรวัติ ยังถูกหยิบยกมาพูดถึง นำมาจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง....

เช่นเดียวกับ สิ่งต่างๆ หลายสิ่ง
ถ้าผนวกเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ  มุมมองใหม่ ความคิดนอกกรอบ
ผลงานเก่าๆย่อมจะมีคุณค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


หมายเลขบันทึก: 131743เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2007 22:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 13:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับ...

คิดถึงเหลือหลาย... สบายดีใช่มั๊ย...

ทราบว่ามาสารคามบ่อยครั้ง  แต่ก็ไม่ค่อยได้เสวนากันซะที

.....

เจ้าสาวที่ลัวฝน,  ดอกไม้พลาสติค  คือ เพลงที่ผมชอบมาก ....

ขอบคุณครับ

สบายดีครับพี่
วันนี้ก็แวะไป มมส แต่ไป ม.เก่าครับ

คักหลายเ้ด้ออ้าย มักฟังเต๋อคือกันติครับ :)))

ชอบครับ..ชอบนักร้องท่านนี้มาก...

ชื่นชอบศักยภาพด้านดนตรีและวิสัยทัศน์ด้านดนตรี ...

สำคัญคือ  ท่านสร้างต้นทุนไว้ให้กับแวดวงดนตรีอย่างน่ายกย่องเลยทีเดียว...

คิดเหมือนอย่างคนที่เป็นอมตะ
เขียนอย่างคนที่เป็นอมตะ
มีผลงานที่ยอมรับอย่างยาวนาน

เหมือนอย่างที่พี่พนัส เีขียนบันทึกที่สร้างต้นทุนเรื่องราว ต้นทุนทางความคิดให้ มมส.นั่นเองครับ

เพลงตัวอย่าง ฟังแล้วไม่ชอบเลยครับ ดนตรีกับเสียงไปคนละทาง

สงสัยงานนี้คงขายยากครับ

อีกอย่างหากให้ผู้มีฝีมือมากๆมาทำดนตรี ก็จะฟังได้ยาก เพราะเน้นฝีมือ

แต่ฟังแล้วก็ไม่เห็นจะมีฝีมืออะไร

อยากให้เน้นความละเมียดละไมทางดนตรี และความไพเราะ

ไม่ชอบแบบสไตล์แกรมมี่ เช่น งานดนตีซน

น่าเบื่อครับ ฟังแล้วหมดความเป็นอมตะไปเลยครับ

เสียงกลองเหมือนโปรแกรม ดนตรีไม่มีความสลับซับซ้อน

หากงานนี้โอม ชาตรีเป็นคนทำดนตรี ก็เหมาะกับงานเดี่ยวของเขามากกว่าครับ

ไม่เหมาะกับเพลงแบบนี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท