วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๒
เรียน เพื่อนครูและผู้บริหารที่เคารพรักทุกท่าน
วันจันทร์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๒ ตื่นนอน ๐๖.๓๐ น. เตรียมเอกสารสำหรับการเรียนในวันนี้ ลงไปทานข้าวที่ห้องอาหารของวิทยาลัย เช้านี้ทานข้าวต้ม กับปลาเล็กปลาน้อย จบด้วยกาแฟ ๑ ถ้วย เวลา ๐๘.๓๐ น. เข้าแถวหน้าเสาธง เชิญธงขึ้นสู่เสา ผมนำสวดมนต์เพราะเป็นหมู่บริการในวันนี้ ๐๙.๐๐ น. ขึ้นไปลงชื่อเข้าเรียน ที่นี่ต้องลงชื่อทุกคาบเรียน และต้องจดรายงานการเรียน(Learning Log) ทุกวิชาไปส่งในตะกร้าที่เขาวางไว้ โต๊ะเรียนก็จะเขียนชื่อพร้อมตำแหน่งไว้ทุกคน คุณสุมนา นุ่นแก้ว จากชุมพร ๑ โทร.มาทราบว่าเป็นวันเกิดจึงอวยพรให้เจริญก้าวหน้าและผาสุก ตามด้วย ผอ.ปราณี ซื่อสัตย์ อดีต ผอ. โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๗ (บ้านเนินสันติ) บอกว่ากำลังขึ้นกรุงเทพฯ จะแวะมาเยี่ยมที่เขต บอกท่านว่าไม่อยู่กำลังเรียนอยู่ที่บางละมุง เสียดายที่ไม่เจอ คิดถึงเหมือนกัน เข้าห้องประชุมชลบุรี ท่านผู้ว่าฯพินัย อนันตพงศ์ ที่ปรึกษาโครงการแจ้งให้ทราบว่าท่านจะมาเยี่ยมทุกวันจันทร์ หากนักศึกษามีข้อเสนอแนะให้กระทรวงมหาดไทยได้ปรับปรุงบริการด้านใดในการศึกษาอบรม ยินดีเป็นสื่อกลาง แต่จะสำเร็จหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ คุณเกื้อพร วานิชชัย ชี้แจงการใช้บริการห้องต่าง ๆ ในวิทยาลัย เช่น คาราโอเกะ ห้องดูหนัง ห้องออกกำลังกาย จากนั้นพวกเราลงไปเรียนเรื่องการคิดเชิงสร้างสรรค์(Creative and Positive) ที่ห้องสัตหีบ อยู่ชั้น ๑ ของอาคาร มีอาจารย์รัศมี ธันยธร เป็นวิทยากร ผู้เรียนไม่ต้องจด อาจารย์จะมีกิจกรรมให้เคลื่อนไหวและรวมกลุ่มคิดตลอดเวลา อาจารย์บอกว่าคนเรามีทักษะใหญ่ ๆ อยู่ ๓ ด้าน คือ ด้านความรู้ ด้านความคิด และด้านการอยู่กับคน ธรรมชาติของสมองเหมือนฝนตกลงมาน้ำไหลเป็นทาง แปลว่าชอบไปในแนวทางที่เคยชิน เราต้องเปลี่ยนเป็นวิธีใหม่ ๆ มาใช้บ้าง เหตุผลที่เราไม่ยอมเปลี่ยนความเชื่อและความคิดเพราะเราตกหลุมพรางความฉลาด หลุมพรางความฉลาดทำให้เกิดความคิดว่า “กูแน่” แต่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา เป็นเพียงผู้มาเยือน วิธีฝึกให้ใจกว้างเราต้องเลิกวิธีคิดแบบ Logic เช่น ๔ + ๔ = ๘ เป็น ๘ เกิดจากจำนวนใดทำวิธีใดกันได้บ้าง ก็จะเปิดโอกาสให้รับฟังคนอื่นได้หลากหลายขึ้น นิวรณ์ ๕ ก็เป็นตัวทำให้ความเป็นตัวตนสูง ไม่ว่าจะเป็น รักเกิน ชังเกิน อ่อนแอเกิน ฉลาดเกิน และโง่เกิน ความคิดเชิงลบก็ไม่ใช่ความจริง เราต้องถอนออกจากตัวเรา โดยการติเตียนตัวเอง ชื่นชมตัวเอง และให้อภัยตัวเอง เช่นเดียวกับคนอื่นก็ต้องทำในทำนองเดียวกัน การวาดภาพยักษ์จนกลัวยักษ์ที่วาดขึ้นจนตายก็เป็นเรื่องทำนองเดียวกับการสงสัย คนเรามักจะมองเห็นแต่ส่วนแย่ ๕ % แทนที่จะเห็นส่วนดี ๙๕ % ต้องฝึกขอบคุณ ขอโทษ และไม่เป็นไร พวกเราเรียนหัวข้อนี้ตั้งแต่เช้าจน ๑๖.๐๐ น. จึงได้เลิก ขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกาย ลงสนามหน้าอาคาร ฝึก ๑๐ ท่าพญายมและเต้นตามจังหวะดนตรี ตั้งแต่ ๑๗.๐๐ น. – ๑๘.๐๐ น. ผมมีอาการปวดหลัง ทั้งที่ซื้อยาดองเหล้าสูตรกะเหรี่ยงของนายตี๋ คล่องแคล่ว จากหุบกะพงมา ๑ ขวด แต่ก็ไม่ดีขึ้น ไปทานอาหารเย็นเป็นข้าวสวยกับแกงอีก ๒ – ๓ อย่าง พร้อมผลไม้และของหวาน เรื่องการกินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แต่ก็ตั้งใจว่าจะลดน้ำหนักลงให้ได้ ขึ้นห้องพักสรุปงานและทำรายงานประจำวันที่จะส่งพรุ่งนี้
วันอังคารที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงไปทานข้าวที่ห้องอาหาร แต่ทานสลัดผักเพราะอยากลดน้ำหนักลงสักหน่อย เมื่อวันครู รศ. ดร. สมบูรณ์ ชิตพงศ์ อาจารย์ที่เคยสอนมาเอามือมาจิ้มพุงถึงสองหน แปลความได้ว่าไปเอาออกเสียบ้าง ลงเวลาเข้าเรียนในภาคเช้าทางวิทยาลัยนำผลการตรวจสอบสมรรถภาพทางกายมาให้ดู ผลออกมาน้ำหนักเกินมาตรฐาน ไขมันก็เกิน อัตราเต้นของหัวใจสูงกว่าปกติ ความดันโลหิต ปกติ ความอ่อนตัวด้านหน้าน้อย สูญเสียความยืดหยุ่นของร่างกาย กล้ามเนื้อบาดเจ็บได้ง่าย เขาแนะนำให้ออกกำลังกาย ขึ้นไปลงชื่อเข้าเรียนภาคเช้า หัวข้อ เทคนิคการบริหารจัดการสมัยใหม่ วิทยากร ดร.พรรณิภา ภู่รุ่งเรือง จากบริษัท Grid Teamwork Ltd. เป็นการนำทฤษฎีของ Dr. Robert R. Blake & Dr. Jane S. Mouton ที่เราคุ้นเคยกันในนามตารางคนและงานของ Grid ซึ่งแบ่งกราฟออกเป็น ๒ ด้าน ด้านระนาบเป็นความมุ่งมั่นในงาน และแนวตั้งเป็นความมุ่งมั่นในคน แบ่งตารางออกด้านละ ๙ ช่อง รวมพื้นที่ ๘๑ ช่องตาราง การบริหารที่ตกอยู่ในตาราง ๑ , ๑ เป็นประเภทไม่สนใจใยดี ตกอยู่ในตาราง ๙ , ๑ เป็นประเภทมุ่งงาน ตกอยู่ในตาราง ๑ , ๙ ประเภทมุ่งคน ตกอยู่ในตาราง ๙ , ๙ เป็นประเภทเก่งงานเก่งคน แต่วันนี้วิทยากรได้เน้นการนำทฤษฎีสู่การปฏิบัติ โดยมุ่งตรวจสอบตนเอง การสร้างทีมงาน การผลผลิตของทีม ใช้เวลาตั้งแต่เช้าจนเย็นเป็นเวลา ๖ ชั่วโมง อาจารย์แถมให้อีก ๒๐ นาที เลิกแล้วรีบขึ้นห้องพักเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกีฬา ลงไปออกกำลังกาย ๑๐ ท่าพญายม ในความเห็นผมเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงวัย แต่จำท่ายากเพราะมีถึง ๑๐ ท่า ต่อด้วยการออกกำลังกายตามจังหวะเพลง ใช้เวลา ๑ ชั่วโมงพอดี อาหารเย็นเดิมกะจะงดแต่สงสารหลวงได้จัดค่าอาหารให้วันละ ๕ มื้อ วันนี้งดอาหารว่างไป ๒ มื้อ จะเสียเงินเปล่า ไปทานข้าวกับน้ำพริกปลาทูและผักเสียหน่อย กลับขึ้นทำการบ้านต่อที่ห้องทำงาน
วันพุธที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๒ วันนี้ตื่นมาทำรายงานจนสาย ลงไปทานอาหารเช้ากาแฟ ๑ ถ้วย ขนมปัง ๑ แผ่น ไปเข้าแถวเคารพธงชาติและสวดมนต์ ขึ้นไปลงชื่อเข้าเรียนห้องชลบุรี ชั้น ๒ หัวข้อวันนี้ การสร้างกรอบความคิดสำหรับนักบริหาร (Conceptualization) วิทยากร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุษกร วัชรศรีโรจน์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) เป็นการสอนการจัดระเบียบความคิดด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ปกติมนุษย์มีความคิด ๕ ชั้นตอน คือ รับรู้ถึงประเด็นที่ต้องตัดสิน ทำความเข้าใจกับเรื่องนั้น ทำความเข้าใจทางเลือกที่มี ประเมินผลของแต่ละทางเลือก และทำความเข้าใจปฏิกิริยาของกลุ่มเป้าหมาย ในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก็มีความสอดคล้องกัน คือการตั้งคำถาม ทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่อง สร้างความความคิด กำหนดวิธีศึกษาและดำเนินการ การตั้งปัญหาหรือคำถามที่ดี มีผลต่อคำตอบที่จะได้ เพื่อสร้างกรอบของปัญหา การจะคิดได้แยบยลเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับกระบวนทัศน์ (Paradigm) หรือกล่องความรู้ หรือทฤษฎีที่ตนเองมี เช่น คนที่นิยมใส่เสื้อขนสัตว์ก็จะคิดว่าสัตว์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์เลี้ยงไว้สำหรับบริโภค จึงมีความภาคภูมิใจที่ได้ใส่เสื้อผ้าขนสัตว์ราคาแพง แต่สำหรับนักอนุรักษ์สัตว์หรือกลุ่มกรีนพีช จะมองเห็นหยดเลือดไหลเป็นทางเมื่อเห็นคนสวมเสื้อขนสัตว์ ในการสร้างกรอบความคิดผู้บริหารจำเป็นต้องสร้างทฤษฎีเพื่ออธิบายข้อเท็จจริงให้สมเหตุสมผล ทฤษฎีหากอธิบายเหตุการณ์ได้มากก็จะมีอายุยืนยาว แต่หากมีข้อจำกัดก็ยกเลิกไป เราเรียนเรื่อง Inductive Theory คือความสัมพันธ์เชิงตรรกะ (Logical model) ที่หลักการต่าง ๆ ถูกพัฒนาขึ้นจากสิ่งที่พบจากการสังเกตการณ์ (Observation) แล้วนำไปสู่การสร้างทฤษฎี ส่วน Deductive Theory เป็นความสัมพันธ์เชิงตรรกะ(Logical model) ที่ความคาดหวัง(expectation) และสมมติฐาน (hypotheses) ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของหลักการที่มีอยู่ เพื่อทำการทดสอบว่าจริงหรือไม่ ความมีอยู่จริง (Reality) มีอยู่ ๒ ระดับใหญ่ ๆ คือ สิ่งที่เป็นรูปธรรม เช่น โต๊ะ เก้าอี้ และนามธรรม เช่น ความสวย ความเก่ง ผู้บริหารต้องสามารถวัดความคิดให้ได้อย่างชัดเจน เรื่อง Operationalization ต้องพิจารณาประเภทของตัวชี้วัด คุณภาพตัวชี้วัด และระดับตัวชี้วัด จะนำไปสู่การตั้งสมมติฐาน แต่สมมติฐานที่คลาดเคลื่อนจะนำไปสู่ข้อสรุปที่บิดเบือน สมมติฐานที่ดีสามารถช่วยลดเวลาและเงินในการแก้ปัญหา สุดท้ายคือ กับดักความคิด ๑๐ ประการ คือ (๑) การรีบด่วนสรุป (๒) ตั้งปัญหาตามความรู้สึกส่วนตัว (๓) พลาดที่จะมองจากมุมมองอื่น(๔) เชื่อมั่นในสิ่งที่คิดมากเกินไป (๕) นิยมการใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วมากเกินไป (๖) ไปตามอิทธิพลของค่านิยมในสังคม (๗) เชื่อการตัดสินใจแบบกลุ่มมากเกินไป (๘) ประเมินผลงานของตนแบบหลอกตัวเอง (๙) ขาดการบันทึกประสบการณ์การตัดสินใจ (๑๐) ขาดวิธีการตรวจสอบการตัดสินใจของตนเอง ใช้เวลาเรียนทฤษฎี ๖ ชั่วโมงเต็ม ๆ จนรู้สึกสมองมึนงงเหมือนกัน เย็นออกกำลังกาย ๑๐ ท่าพญายม ต่อด้วยฝึกโยคะ หลังอาหารเย็นประชุมกลุ่มเพื่อจัดทำรายงาน เลิกประชุมขึ้นห้องพักทำงานเดี่ยวอีกจนดึก
เพลง : ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้
ศิลปิน : ตั๋กแตน (ชลดา)
ไม่มีความเห็น