เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๒ - ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔


  
                                                                                           

๗  พฤษภาคม  ๒๕๕๔

เรียน เพื่อนครู ผู้บริหารและท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๒  พฤษภาคม ๒๕๕๔  เช้านี้นัดหมายท่านครรชิต หิรัณยหาด ดร.เอนก ล่วงลือ  คุณมาลี  โภชนาทาน คุณวิภาวรรณ พึ่งโยธิน คุณพัทธ์วิรา พัฒนอัศพงศ์ เดินทางไปเปิดโครงการการอบรมหลักสูตรเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ศูนย์การพัฒนาระดับคุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ซึ่งจัดอบรมระหว่างวันที่๒-๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ณ World Peace Valley อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพผ่านสระบุรี มวกเหล็ก มาแวะอำเภอปากช่อง เพราะใกล้เที่ยงแล้ว ไปทานอาหารกลางวันที่ร้านลุงมีชัย เป็นร้านอาหารจานเดียวตามสั่งประเภทข้าวผัด ผัดไทย และก๋วยเตี๋ยว หลังร้านเป็นแม่น้ำที่มีตลิ่งสูง มาอุดหนุนวันนี้เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกตอนกลับจากทำแผนปฏิบัติการที่อำเภอวังน้ำเขียวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อิ่มกันแล้วจึงเดินทางต่อไปใช้ถนนธนะรัชต์ ขึ้นเนินลงเนินประมาณ ๑ ชั่วโมงก็เลี้ยวซ้ายตรงทางเข้าวัดเขาใหญ่  World Peace Valley ตั้งอยู่ที่บ้านหนองจอก ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ปากทางเข้ามีป้อมยามสำหรับแลกบัตรเข้าออก ตัวอาคารสร้างบนเนินเขายื่นลงไปในอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก อาคารที่พักสร้างแบบตึกแถวเรียงรายกันไป กำลังปลูกไม้ยืนต้นและไม้ดอกไม้ประดับ คณะครูมาถึงก่อนเที่ยง รับประทานอาหารที่วัดเรียบร้อยแล้ว ห้องอบรมเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ให้ผู้เข้าอบรมนั่งอาสนะแบบที่นั่งสงฆ์เพื่อให้นั่งสบายขึ้น  ท่านรองฯ มนตรี  พรหมลาวัลย์ และท่านรองฯ วิรัช ฐิตติรัตนมงคล ได้มาอำนวยความสะดวกพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โครงการ พิธีเปิดเรียบง่าย ได้พูดถึงที่มาของโครงการซึ่งคุรุสภาได้สนับสนุนงบประมาณ ๒ แสนบาท สำหรับผู้เข้าอบรมทุกสังกัด ๒๐๐ คน วัตถุประสงค์หลักต้องการให้ครูเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ลักษณะสำคัญของการเป็นวิชาชีพ ได้แก่ ๑. มีองค์ความรู้เฉพาะของตน ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องเข้ารับการศึกษา ฝึกอบรมให้มีความรู้ในศาสตร์เฉพาะของวิชาชีพนั้นๆ ๒. มีความเป็นอิสระในการประกอบวิชาชีพ เป็นการประกอบวิชาชีพที่มีมาตรฐานการปฏิบัติเป็นการเฉพาะสำหรับวิชาชีพนั้นๆ โดยมีองค์ความรู้เป็นพื้นฐาน บุคคลอื่นไม่สามารถจะมาสั่งการให้ปฏิบัติอย่างนั้นอย่างนี้ได้ นอกจากนี้การปกครองกันเองภายในวิชาชีพเดียวกันยังเป็นอิสระจากการควบคุมของคนนอกวิชาชีพ เช่น ถ้าสมาชิกคนใดกระทำผิด การพิจารณาจะเริ่มจากคณะกรรมการขององค์กรวิชาชีพก่อน ๓. มีกฎหมายรองรับการประกอบวิชาชีพ หมายถึง จะต้องมีการขึ้นทะเบียนเพื่อขออนุญาตประกอบวิชาชีพ ได้แก่ ใบประกอบวิชาชีพ ๔. มีจรรยาบรรณ ตราขึ้นเพื่อผู้ประกอบวิชาชีพดำรงตนหรือประพฤติตนอยู่ในความถูกต้อง ดีงามต่อผู้รับบริการ ต่อเพื่อนผู้ร่วมวิชาชีพ ต่อตนเอง และต่อสังคมส่วนรวม ๕. มีสำนึกที่จะให้บริการ เมื่อถูกเรียกร้องการบริการจะต้องเต็มใจที่จะให้บริการแก่ผู้มารับบริการได้เสมอ บางครั้งอาจจะต้องสละความสุขส่วนตัว มีความภาคภูมิใจในวิชาชีพของตน  วิชาชีพชั้นสูง คือการทำให้ครูมีจิตวิญญาณความเป็นครูอย่างแท้จริง โดยมีพันธะหน้าที่ในการสั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดีและมีความรู้ ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่หนักหนากว่าคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นจึงต้องทำให้ครูยืนอยู่ในสังคมได้อย่างสง่างาม และไม่เดือดร้อนเรื่องฐานะความเป็นอยู่ เพื่อให้พวกเขาทุ่มเทพลังทั้งหมดในการสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพและคุณธรรม  สำหรับแนวทางสู่การเป็นวิชาชีพชั้นสูงของครูนั้น จะต้องมีพันธะหน้าที่ต่อสังคมชัดเจน มีการให้บริการต่อสังคมที่ชัดเจน และคนที่จะก้าวเข้าสู่อาชีพครูต้องมีการศึกษา อย่างน้อยระดับปริญญาตรี และอาชีพครูต้องมีมาตรฐานจรรยาบรรณของความเป็นครู มีองค์กรควบคุม มีใบอนุญาตความเป็นครูรองรับ เพื่อจะได้บุคลากรครูที่ดี  หลังบรรยายพิเศษและเปิดการอบรมแล้วเดินทางกลับมาแวะซื้อขนมงาตัดเตียฮั่วหยู สถานีบริการน้ำมันแถวสระบุรี กลับถึงเขตประมาณ ๑๗ นาฬิกา ท่านรองฯ สุรบัญชา  วิชิตพันธ์ รายงานว่า การตรวจกระดาษคำตอบการสอบบรรจุครูเรียบร้อยดี พรุ่งนี้พร้อมจะรวมคะแนนได้  เวลา ๑๘ นาฬิกา เดินทางไปร้านครัวอัปษร แถวท่าวาสุกรี ถนนสามเสน ตามที่สมาชิก นปส.๕๓ นัดไว้ หากเป็นกลางวันคงหาที่จอดรถยากหน่อย เป็นหัวค่ำสามารถจอดขอบทางเท้า ตรงข้ามร้านได้ ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ในย่านนี้ ผมมาครั้งแรก สมาชิกมาพร้อมแล้วแต่จำนวนน้อยประกอบด้วย คุณมลิวัลย์ วรรณอาภา จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน คุณจินตนา ศรีทอง จากกรมที่ดิน คุณภูสิต สมจิตต์ จากกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย  คุณศิริพร พุทธรังษี จากสภากาชาดไทย คุณสัจจะ คนตรง จาก กรุงเทพมหานคร คุณทวี เต็มญารศิลป์ จากกรมชลประทาน คุณสัญญา สุเรนทรานนท์  จากสำนักราชเลขาธิการ คุณสุพรรัตน์  แสงมาลี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สมาชิกส่วนหนึ่งจะเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น ป.ม.ในวันพรุ่งนี้ จึงนัดมาเลี้ยงฉลองกันล่วงหน้า อาหารเขาอร่อยหลายอย่าง อาทิ แกงเหลืองไหลบัว  แกงเขียวหวาน ปูผัดพริกเหลือง เมี่ยงคะน้า ปีกไก่ทอด ไข่ฟูปู กุ้งทอดกระเทียมพริกไทยดำ วันหน้าจะมาทานอีก


 

วันอังคารที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔  เช้าตั้งใจว่าจะไปทำงานที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ เชิงสะพานกรุงธน เพราะกำลังเปิดอบรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง รุ่นที่ ๓ ผู้เข้าอบรมเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แต่เข้าที่ทำงานก่อนใช้สโมสรนั่งทำงาน ในห้องประชุมเล็กกรรมการรวมคะแนนการสอบบรรจุครูที่ใช้ทั้งคอมพิวเตอร์และเครื่องคิดเลข แบบขานเลขทวนกันไป ตั้งใจว่าจะประกาศผลให้ทันวันนี้เพราะหลายเขตเขาประกาศกันแล้ว ทั้งที่ สพฐ.กำหนดไว้ภายในวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ แต่จะเร่งรีบมากก็ผิดมากต้องมาทวนกันใหม่หลายรอบ เที่ยงให้เต้ยไปซื้อข้าวผัดปูมาทาน    บ่ายผู้บริหารโรงเรียนนำภาพหลายมิติมาแจก เขาบอกว่าได้มาจากต่างประเทศ ใครมาก็แจก ทำมาหลายแบบหลายภาพ ในที่สุดวันนี้ตัดสินใจไม่ไปโรงแรมริเวอร์ไซด์ เพราะการประกาศผลสอบบรรจุครูสำคัญที่สุด ไม่มีสิทธิ์จะทำพลาด ประมาณ ๒ ทุ่มจึงสามารถประกาศผลได้ แต่การขึ้นเว็บไซด์ทุลักทุเลเต็มทีด้วยสัญญานเน็ตของเขตอ่อนเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ สพฐ.ไม่ได้  ต้องใช้โทรศัพท์มือถือเป็นโมเด็ม พอส่งไปได้สักพักสัญญานก็ตัด จนต้องยอมแพ้ ให้เจ้าหน้าที่กลับไปทำที่บ้านต่อ แต่การประกาศผลในป้ายประกาศหน้าสำนักงานเขตทำได้เรียบร้อยตามที่ตั้งใจไว้ รู้สึกผิดหวังเหมือนกันที่บางวิชาเอกคนสอบได้น้อย ทั้งที่อยากได้ขึ้นบัญชีไว้มาก ๆ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเกณฑ์ตัดสินของ ก.ค.ศ. กำหนดให้ทุกภาคต้องได้คะแนน ๖๐ % จึงจะผ่าน ตกภาคใดภาคหนึ่งก็ไม่ผ่านการสอบ หากกำหนดการผ่านแต่ละภาคเพียง ๕๐ % แต่คะแนนรวมต้องได้ ๖๐ % เหมือนเมื่อก่อนก็จะผ่านกันมากกว่านี้ การออกข้อสอบให้ง่ายทำได้ยาก เพราะเวลาออกข้อสอบคนที่ออกเปิดตำรา ก็ดูง่าย คนสอบไม่มีตำราเปิดก็ยาก เมื่อได้มาน้อยจะพยายามบริหารบัญชีให้หมดภายในสองปี บางวิชาเอกปีนี้ก็น่าจะหมดบัญชีแล้ว

 วันพุธที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔   เช้าเดินทางไปโรงแรมริเวอร์ไซด์ เชิงสะพานกรุงธน แม้จะต้องจอดรถในลานจอดก่อนถึงโรงแรม แต่ก็มีรถไฟฟ้ารับส่ง ไม่ต้องเดินเหมือนเมื่อก่อน วิทยากรบรรยายในวันนี้ คือ นายอุดม อินทรเวศน์วิไล นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงาน ก.ค.ศ. เป็นวิทยากรที่บรรยายได้เนื้อหาและสนุกสนานตลอดเวลา ได้ทักทายท่านรองฯ ที่คุ้นเคยกันมาก่อนหลายท่าน วิทยากรพี่เลี้ยงจะต้องตรวจชิ้นงานหรือแบบฝึกหัดให้กับผู้อบรม ผมอยู่เวรภาคเช้า ภาคบ่ายให้ ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต ๒ คุณสันติ  รุ่งสมัย รับผิดชอบ เที่ยงเดินทางกลับปทุมธานี ใช้ถนนราชพฤกษ์ มาแวะทานข้าวที่ร้านข้าวแกงฅนคอน บ่ายมีประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายครูผู้สอน มีตำแหน่งว่างประมาณ ๖๐ ตำแหน่ง มีผู้เขียนย้ายทั้งภายในเขตและนอกเขต จัดเรียงกันไปตามเกณฑ์ที่ อ.ก.ค.ศ. เขต กำหนด กว่าจะเสร็จก็เกือบ ๔ โมงเย็น  จะนำเข้าที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.เขต พิจารณาในสัปดาห์หน้า ส่วนตำแหน่งที่เหลือจะใช้บรรจุแต่งตั้งผู้สอบขึ้นบัญชีไว้ต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔   วันนี้เป็นวันหยุดราชการเนื่องในวันฉัตรมงคล แต่มีราชการต้องปฏิบัติที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ วันนี้นายบุญคุ้มวงศ์ จัดนิติสกุล นิติกรชำนาญการพิเศษ สพฐ. เป็นวิทยากร ไปนั่งด้านหลังห้องประชุมนำเน็ตบุ๊คไปใช้งาน โรงแรมนี้ดีตรงบริการ wireless แบบอิสระเสรีไม่มีรหัส มีความแรงสะใจนักเลงเน็ตทั้งหลาย    อยู่เพียงครึ่งวันพักเที่ยงจึงเดินทางกลับมาแวะห้างโฮมโปร ราชพฤกษ์ หาซื้อล้อยางขยาดเล็กเพื่อติดตั้งกระดานวางกล่องหนังสือกฎหมาย เพื่อสะดวกในการค้นคว้าหาอ่าน  เรียนมาเพียง ๔ เดือนเศษ ปรากฎว่ามีหนังสือและเอกสารเต็มกล่องพลาสติกขนาดใหญ่ เวลาใช้เวลาเก็บต้องลากออกมาจากที่เก็บไม่สะดวก หากวางบนกระดานลื่นจะสะดวกสบายขึ้น  อาศัยฝีมือจำลองกับลุงแดงช่วยทำให้  บ่ายอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ได้รับมา มีกรณีน่าสนใจเรื่องที่โรงเรียนเอกชนได้จดทะเบียนโอนขายที่ดินอันเป็นที่ตั้งโรงเรียนไปแล้ว กรณีจึงถือไม่ได้ว่าผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้จัดตั้งโรงเรียน ผู้รับใบอนุญาตจึงไม่มีสิทธิที่จะใช้ที่ดินดังกล่าวประกอบกิจการโรงเรียน ซึ่งอาจจะกระทบถึงนักเรียนในอนาคตอันถือได้ว่าจะก่อให้เกิดผลเสียหายในอนาคต ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีซึ่งเป็นผู้อนุญาตตามนัยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ จึงมีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนได้ แม้ผู้ฟ้องคดีจะอ้างว่าสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นนิติกรรมอำพรางจึงตกป็นโมฆะนั้น แม้จะฟังได้ว่ามีบทกฎหมายบัญญัติว่า โมฆะกรรมนั้น ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียจะยกขึ้นกล่าวอ้างได้ก็ตาม  แต่ข้อเท็จจริงอันเป็นการกระทำที่จะนำไปสู่การเป็นโมฆะกรรมจะต้องมีการพิสูจน์ในศาลหรือเป็นที่ยอมรับของคู่กรณี เมื่อข้อเท็จจริงอันเป็นการกระทำที่จะอ้างว่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ตั้งโรงเรียนเป็นโมฆะยังฟังยุติไม่ได้  กรณีจึงถือไม่ได้ว่านิติกรรมซื้อขายที่ดินที่ตั้งโรงเรียนเป็นโมฆะตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้าง  ประกอบกับผู้ฟ้องคดีรับว่า เป็นฝ่ายกระทำโอนขายที่ดินเพื่ออำพรางนิติกรรมที่แท้จริงเพื่อประโยชน์ของผู้ฟ้องคดี  ซึ่งเท่ากับผู้ฟ้องคดีเป็นฝ่ายก่อให้เกิดเหตุที่จะอ้างว่านิติกรรมเป็นโมฆะด้วยการกระทำของผู้ฟ้องคดีเอง  กรณีจึงถือได้ว่าผู้ฟ้องคดีกระทำการไม่สุจริต ผู้ฟ้องคดีจะยกความไม่สุจริตของตนขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหาได้ไม่  ประกอบกับในขณะที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เพิกถอนใบอนุญาตของผู้ฟ้องคดี สัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างผู้ฟ้องคดีกับผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ยังคงมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของผู้ฟ้องคดีจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว  หากต่อไปเมื่อศาลยุติธรรมได้พิพากษาคดีถึงที่สุดในคดีระหว่างผู้ห้องคดีกับผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ เกี่ยวกับข้อพิพาทตามนิติกรรมซื้อขายที่ดินอันเป็นที่ตั้งโรงเรียนว่าผู้ฟ้องคดียังคงมีสิทธิในที่ดินที่ตั้งโรงเรียนต่อไป ผู้ฟ้องคดีย่อมนำผลแห่งคดีดังกล่าว ฟ้องว่ากล่าวกับผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ต่อไปได้ พิพากษายกฟ้อง (คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ อ. ๑๕๖/๒๕๕๐) ที่น่าสนใจเพราะมีกรณีของโรงเรียนเอกชนที่จะต้องแก้ปัญหาอยู่หนึ่งแห่ง แต่เป็นคนละประเด็น สุดท้ายอาจจะต้องเดินไปเส้นทาง "ศาลปกครอง" เหมือนกัน

วันศุกร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔   เช้าแวะไปร้านขายขนมตาลหน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ใกล้สนามกีฬาจังหวัดนนทบุรี หน้าวัดโบสถ์ดอนพรหม เพราะสั่งขนมตาลไปรับแขก ๑๐๐ ชิ้น เขาลดราคาเหลือ ๒๘๐ บาท ติดกับร้านขนมตาลมีร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ฝีมือดีอยู่เจ้าหนึ่ง สั่งข้าวราดคั่วกลิ้งหมูกับหมูผัดตะไคร้มาทาน ๑ จาน รสชาติดีจึงซื้อมาฝากนักการภารโรงที่เขตอย่างละ ๑ ถุง เพราะทราบว่าเขาหุงข้าวกินกันทุกวัน  เวลา ๐๙.๐๐ น. เปิดประชุมปฏิบัติการผลิตสื่อภาษาไทย ที่มี ศน.สิรี พึ่งจิตต์ตน เป็นแม่งาน ผู้เข้าประชุมเป็นครูภาษาไทยที่เคยประชุมมาแล้ว วันนี้นำสื่อที่ผลิตมาพิจารณาร่วมกัน ไม่พูดนานเพราะจะแย่งเวลาทำงานของเขา มอบ ศน.สิรี ดำเนินการต่อ ประมาณ ๑๐ นาฬิการับคณะจาก สพป.ชุมพร เขต ๑ ประกอบด้วย คุณสุชาดา กฤตโยภาส คุณจินดา เกษแก้ว  คุณจันทรัตน์  ศรีปรีชาพัฒนะ คุณวรมาศ  ศรีประจันต์ คุณจันทนา ทันประจำสินธุ์ และคุณฒาลิสา ศรีนฤพัฒน์ ทุกคนเคยร่วมงานกันมาที่ชุมพร เขต ๑ เมื่อวานเดินทางมาส่งคุณรัตนพร สุสันหกนก ที่โอนมารับราชที่สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา วันนี้จึงมาเยี่ยมเพราะปีนี้ยังไม่ได้พบหน้ากัน ทุกคนเป็นผู้ร่วมงานที่ยอดเยี่ยม สามารถนำพาเขตไปสู่ความสำเร็จหลายประการ เมื่อพบกันจึงมีเรื่องเล่าสู่กันฟังไม่รู้จบสิ้น เที่ยงพาไปทานข้าวที่ร้านเรือนเจ้าพระยา ทุกคนตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศปทุมธานี เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่ามีแต่ตึกรามบ้านช่อง ขาดธรรมชาติ ทั้งที่เรามีสภาพแวดล้อมดีมีธรรมชาติที่สวยงามอยู่มาก  บ่ายกลับมาร่ำลากันที่ห้องสโมสร ส่งแขกกลับประมาณ ๑๕ นาฬิกา ความรักความผูกพันที่มีต่อกันยังแน่นแฟ้น อบอุ่นและประทับใจ สุภาษิตจีนกล่าวว่า "มีมิตรห้าร้อยคนนับว่าน้อยไป มีศัตรูหนึ่งคนนับว่ามากไป" นั่งลงชื่อในแฟ้มเอกสารจนหมดจึงเดินทางกลับที่พัก

 

นิทานก่อนลาสัปดาห์นี้เป็นเรื่อง "ซาจื้อเจี้ยวจื่อ : ฆ่าสุกรสอนบุตร"  เจิงจื๊อเป็นปรัชญาเมธีลัทธิจื้อผู้หนึ่ง ที่มีชีวิตอยู่ช่วงปลายยุคชุนชิว เขาถูกจัดเป็น ๑ ใน ๕ มหาปราชญ์ลัทธิขงจื้อ  เช้าวันหนึ่งภรรยาของเจิงจื๊อเปลี่ยนเสื้อผ้าจะไปตลาด ทว่าบุตรชายร้องไห้ขอตามไปด้วย ทำอย่างไรก็ไม่ยอมฟัง เด็กน้อยยังเล็กนัก อีกทั้งตลาดก็อยู่ห่างไกลจากบ้านพอสมควร ดังนั้นการพาบุตรชายไปด้วยเป็นเรื่องที่ยุ่งยากลำบากเกินไป  ภรรยาของเจิงจื๊อจึงกล่าวกับบุตรชายว่า "เจ้าจงกลับเข้าไปรอในบ้าน หากแม่ไปตลาดซื้อของกลับมาถึงบ้านแล้ว แม่จะฆ่าหมูสักตัวทำขาหมูตุ๋นที่เจ้าชอบให้กิน" คำกล่าวนี้กลับได้ผลชะงัด เมื่อบุตรชายได้ยินว่ามารดาจะทำอาหารจานโปรดให้กินก็เชื่อและกลับเข้าไปรอในบ้านอย่างใจจดจ่อ    เมื่อภรรยาของเจิงจื๊อเสร็จธุระเดินทางกลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันได้เข้าบ้านก็ได้ยินเสียงสุกรที่เลี้ยงไว้ร้องเสียงดัง  เมื่อเดินเข้าไปดูจึงพบว่า เป็นเจิงจื๊อกำลังเตรียมเชือดสุกรเพื่อทำอาหารให้กับบุตรชาย นางจึงรีบขัดขวางผู้เป็นสามีพลางกล่าวว่า "บ้านเราเลี้ยงสุกรไม่มาก ล้วนเอาไว้เชือดเป็นอาหารในเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ใยท่านต้องเอาคำกล่าวที่ข้าเพียงล่อหลอกบุตรชายให้เชื่อฟัง มาเป็นจริงเป็นจังด้วย"   เจิงจื๊อกล่าวว่า "ต่อหน้าเด็กนั้น เจ้าไม่อาจกล่าวคำเท็จ เพราะเด็กยังไร้เดียงสาและมักจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากบิดามารดา หากตอนนี้เรากล่าวสิ่งใดหลอกลวงเขา ก็ไม่ต่างจากสอนเขาว่า ต่อไปให้ไปหลอกลวงผู้อื่น แม้ว่าการที่เจ้าหลอกเขานั้นจะได้ผลในตอนนี้ แต่ต่อไปเมื่อเขาทราบว่าถูกหลอก ก็จะไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของมารดาอีก ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นต่อไป เจ้าก็ไม่สามารถอบรมบุตรชายตนได้อีกต่อไปแล้ว"  เมื่อภรรยาจงจื๊อได้ฟังก็เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ จึงช่วยสามีเชือดสุกรมาทำเป็นอาหารดังที่ได้สัญญากับบุตรชายไว้  สำนวน "ซาจื้อเจี้ยวจื่อ" หรือ "ฆ่าสุกรสอนบุตร" ใช้เพื่อเปรียบเปรยสอนคนเป็นพ่อแม่ว่าการเลี้ยงดูบุตรนั้นก็ต้องพูดจริงทำจริง สัญญาต้องเป็นสัญญา อย่าคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงเด็กเล็กแล้วจะพูดอะไรก็ได้ เพราะจะส่งผลถึงอุปนิสัยของเด็กต่อไป

 

กำจัด  คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑

หมายเลขบันทึก: 438348เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2011 20:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2014 09:00 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

นิทานเรื่องนี้เป็นการปลูกฝังคุณธรรมให้กับเด็กในเรื่อง "สัจจะ" เยี่ยมมากสอนคนเป็นพ่อเป็นเแม่ได้ดี

นิทานสนุกได้ข้อคิดดิฉันจะจำไปเล่าให้นักเรียนฟังและสอดแทรกคุณธรรม เรื่อง พูดจริงทำจริง และสัญญาต้องเป็นสัญญา

สวัสดีค่ะท่านผอ.กำจัด ออยกราบขอโทษที่ไม่ได้ไปกราบเยี่ยมท่านผอ.กับคณะพี่สุชาดา เนื่องจากติดภาระกิจต้องรอเข้าพบรายงานตัวกับท่านผอ.สำนักแผนฯ ได้อ่านเรื่องเล่าของท่านแล้วได้ข้อคิดมาก จะติดตามอ่านบ่อยๆค่ะ ด้วยความเคารพและคิดถึง

ครูสว่างจิต วัดเทียน

ชอบเรื่องเล่าท่านมากอยากทราบอะไรต้องมาดู ได้ฟังท่านบรรยายที่เขาใหญ่ได้ข้อคิดมากมาย เรื่องทางโลกเรารู้มากมายแต่เรื่องทางธรรมรู้น้อยมากชอบค่ะท่านเป็นคนพูดตรงดี และสุภาษิตดีมากคือ "มีมิตรห้าร้อยคนนับว่าน้อยไป มีศัตรูหนึ่งคนนับว่ามากไป" ขอบคุณในเรื่องดี ๆ จะเป็นแฟนพันธุ์แท้ต่อไป ด้วยความเคารพ

ขอขอบคุณท่านผอ.เขตฯมาก ข้าพเจ้าได้รับความรู้ ได้รับข้อคิดในการทำงานจากท่าน ชื่นชมในการทำงานของท่านมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท