ก็ตามติดจากบันทึก นี้ แล้วก็ถึงตอนที่เข้าสู่การเรียนรู้จากครูบาอาจารย์ที่สวนป่า
ถ้าจะนับว่ามหัศจรรย์การเรียนรู้ ก็น่าจะเรียกได้
เมื่อนึกและพยายามจะถามหลายๆคนว่า คราวนี้เป็นการรวมตัวที่มากที่สุดของบรรดา Blogger ของ Gotoknow แล้วหรือไม่ ..คำตอบก็คงเดาได้นะคะว่า ใช่
ที่ว่าใช่ คือ ถ้านับจากการไปรวมกันเมื่อ งานKMเชียงใหม่ แล้วคราวนี้ก็นับว่า ได้กลับมาเจอกันอีกเช่น ท่านครูบา อาจารย์ Handy อาจารย์แป๋ว อาจารย์ลูกหว้า อาจารย์ขจิต ซูซาน น้องอึ่งอ๊อบแล้วยังรวม Blogger ที่อยากได้เจอท่านอีกหลายๆคน อย่างเช่น พี่บางทราย น้องหมอเบิร์ด อาจารย์พิสูจน์ คุณหมอคนชอบวิ่ง อาจารย์แสวง น้องจิ อาจารย์กั๊ตจัง ป้าแดง น้องแป๊ด น้องราณีฯลฯ (คิดถึงอาจารย์พิชัย อาจารย์หมู น้องกมลวัลย์ น้องเอก น้องกะปุ๋มและน้องมะปรางเปรี้ยวด้วยค่ะ)
และที่รู้สึกดีใจมากก็คือได้ฟังอาจารย์ธวัชชัยและคุณ conductor พูดถึงอนาคตของ Gotoknow โดยมีพี่บางทรายเป็นผู้นำการอภิปราย และมีการเปิดเวทีให้ทุกๆคนได้ร่วมเสนอความเห็น ท่ามกลางดงไผ่หลังจากซาบซึ้งกับหมอลำ พิธีบายศรีสู่ขวัญ และฟังแหล่แล้ว
มาคราวนี้คุณหมอคนชอบวิ่งพาทีมวงน้ำชามาเปิดมิติของการฝึกฝน "จิต" เพื่อนำพาให้ผู้เข้าอบรมได้รู้จักตัวเองและการอยู่ร่วมกับสังคมด้วยการฟังอย่างมีคุณภาพ และการเปิดพื้นที่การพูดให้กับคนอื่น โดยกิจกรรมหลายๆ อย่าง ที่ดูเหมือนว่าท่านวิทยากรเน้นๆ คือการพัฒนาจิต (ดูเหมือนว่าท่านใช้คำว่า จิตวิวัฒน์)
กิจกรรมในห้องประชุมดำเนินไปอย่างมีธรรมเนียมของเรื่องเวลาและรูปแบบกิจกรรมที่นำพาให้ใจสงบสบายและเป็นสุขกับทุกสภาวะจิต ที่ทำให้เกิดความคิดว่า การจัดการความเครียดและการผ่อนคลายนั้นมีหลากหลายวิธีการ และการผ่อนคลายอย่างแท้จริงนั้นทำให้ "จิต" มีพลังขับไล่ความเครียดไปอย่างง่ายดาย
การเรียนรู้จัดการกับตัวเอง ผ่านกระบวนการ "เพลงยุทธ์ไร้ข้อจำกัด" จากท่านครูบา ด้วยการพาเดินป่าและพูดคุยอย่างสุนทรียสนทนาก็เสริมสร้างพลังของการมีชีวิตร่วมกันและนอบน้อมกับธรรมชาติ อย่างมีคุณค่ามหาศาลด้วย
ไม่เพียงแต่การฝึกฝนผ่านเจ้ายุทธจักรต่างๆ ข้างบนแล้ว ในภาคส่วนที่กลมกลืนนั้น...ตัวเองก็ค้นพบว่าการเฝ้าฟังถ้อยคำจากแม่หวีที่ถ่ายทอดอย่างเรียบง่าย ชัดเจนและมีประเด็นแน่น รวมทั้งความสงบเย็นและเคลื่อนช้าแต่ต่อเนื่องในการบริหารจัดการให้ทุกคนได้ "อยู่ดี อิ่มอุ่น" ก็คือการเรียนรู้การปฏิบัติเมตตาธรรมที่จับต้องได้
การเรียนรู้ถอดระหัสธรรมชาติผ่านผู้รู้และเมตตาสูงอย่างท่านครูบา แม่หวี รวมทั้งการได้มีโอกาสได้เรียนรู้ "ฟัง" ใจตัวเอง จากการนำทางของทีมวิทยากร "วงน้ำชา" นับเป็นโอกาสที่หายากและคิดว่าการมีโอกาสในคราวนี้นับเป็นวาสนาอย่างแท้จริง....
และที่สำคัญมากอีกประการสำหรับตัวเองคือ
ที่กล่าวกันว่า "โอกาสเป็นของผู้แสวงหา" นั้น บล็อกเกอร์ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในคราวเดียวกันนี้ด้วย
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ร่วมกันถอดระหัสความงดงามออกมาเป็นกิจกรรมให้ได้ก้าวเดินเพื่อเรียนรู้ตัวเองในคราวนี้ค่ะ
ตามมาอ่านบันทึกคะ
อ่านแล้ว ก็ชักจะมีอาการรู้สึกว่า ทำไม ไม่ได้ไปร่วมบ้างน้อ ... เอาไว้โอกาสหน้านะคะ
อาจารย์สร้อยคะ รบกวนเพิ่มคำสำคัญ เฮฮาศาสตร์ และ เฮฮาศาสตร์5 ด้วยนะคะ
ขอบคุณคะ
มาอ่านที่อ.สร้อยถ่ายทอดก็เหมือนไปเองเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ดีใจที่ได้พบพี่สร้อย ฮ่าๆๆ ตอนนี้มึนๆๆกับตัวเองคาดว่า คงได้พักผ่อนบ้าง
เป็นไปได้สูงว่าถ้าอยู่กรุงเทพในช่วงเวลานี้ก็คงได้ไปร่วมงานเฮฮาศาสตร์นี้ด้วย อยากไปฝึกจิตให้วิวัฒน์ค่ะ ^ ^
คิดถึงบรรยากาศทั้งที่เชียงใหม่และที่สตึก แต่อยู่ที่นี่ก็มีบรรยากาศธรรมชาติให้สัมผัสมาก ที่ขาดไปก็คงจะเป็นผู้คนที่คุ้นเคย..แต่ก็ได้พบเจอทางบันทึก/อนุทินตลอด ก็เลยทำให้รู้สึกว่าไม่ได้ไปไหนไกล ไม่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศโดยตรงก็ยังได้รู้ได้เห็นบ้างทางบันทึกค่ะ ^ ^
มาขอแสดงความยินดี ทราบว่าวิทยานิพนธ์ผ่านแล้วใช่ไหมครับ
เสียดายมากๆที่ไม่ได้พบกันทั้งที่ภูเก็ตและที่สวนป่าครั้งนี้ ครั้งหน้าก็คงได้เจอ ถ้ายังไม่เจอผมจะบุกไปเจอที่เชียงใหม่นะครับ อิอิ
แย้มหน้ามาบอกว่า "อกหัก" ค่ะ...
โดนภารกิจเพื่อชาติ...ต้องดำเนินการก่อนค่ะ... วาสนายังบ่ถึงสวนป่าเลยค่ะ อ.สร้อยขา...
คิดถึง...อ.สร้อย..ติดตามตามภาพข่าว (บันทึก) เป็นระยะ ๆ ค่ะ...ตอนนี้สานต่อภารกิจที่ว่า กระโดดมาประชุมที่ สวรส. ค่ะ
(^______^)
"สิ่งที่เข้ามาสัมพันธ์ คือ กิจที่พึงทำและน้อมรับ"
กะปุ๋ม
สวัสดีค่ะพี่สร้อย
เข้ามากอดนุ่มๆด้วยความคิดถึงค่ะ
พี่สร้อยงาม เย็นกายและใจทำให้ผู้ที่พบเห็นและได้สัมผัสมีความสุขเหลือเกิน
เบิร์ดได้เรียนรู้มากมายจากพี่สร้อย ภาพที่พี่สร้อยเดินขนอิฐให้ทั้งๆที่มีมดอยู่เต็มนั้นทำเอาเบิร์ดน้ำตารื้นเลยค่ะ รวมทั้งภาพที่พี่นั่งสนทนากับตัวเองก็สวยนัก..กราบและกอดนุ่มๆด้วยความระลึกถึงอย่างที่สุดนะคะ
พวงกุญแจที่พี่มอบให้เบิร์์ดเอาเปลี่ยนพวงที่ใช้อยู่ประจำแล้วค่ะ จะได้เห็นแล้วคิดถึงทุกครั้ง อิ อิ
สวัสดีค่ะ มะปรางเปรี้ยว
สวัสดีค่ะ พี่sasinanda
สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต
สวัสดีค่ะท่านอัยการ
สวัสดีค่ะน้องกะปุ๋ม
สวัสดีค่ะน้องเบิร์ดคนสวย
สวัสดีค่ะอาจารย์ประจักษ์
"โอกาสเป็นของผู้แสวงหา"
"โอกาสเป็นของผู้แสวเห็น"
คิดถึงพี่สร้อย เสียดายมีเวลาน้อยเกิน อยากมีโอกาสใช้เวลาด้วยกันมากกว่านี้ หวังไว้ว่าคงไม่นานจะได้ป๊ะกั๋นใหม่
ท่านครูบาที่รักและเคารพ
สวัสดีค่ะซูซาน
ขอบคุณค่ะพี่สร้อยที่นึกถึงสุขภาพผิวหนังของหนู คือเป็นพวกแพ้ง่าย หญ้าแมลงอะไรก็แพ้หมด อยู่บ้านมีคาลาไมลด์ติดตู้เย็นไว้เลย นั่งเฉยๆ บางทีก็เป็น สงสัยแบบพวกละอองเกสรปลิวมาโดน ยิ่งเกายิ่งคัน ยิ่งมันยิ่งเกา เสร็จเลย เป็นปื้นล่ะทีนี้ เบื่อเหมือนกันนะคะแพ้ง่ายแบบนี้
รูปใหม่ถ่ายที่ออฟฟิศหนูเมื่อเที่ยงค่ะ ไม่ได้ถ่ายในรถสีทองแต่อย่างใด จริงๆ รถหนูก็สีทองนะ สีที่เหมาะกับคนหน้าตาดีที่ขี้เกียจล้างรถบ่อยเพราะมันกลืนไปกับฝุ่น 555
"ทุกลมหายใจแห่งการตื่นรู้...กะปุ๋มได้ปวารณาต่อลมหายใจแห่งการตื่นรู้นี้...เพื่อการทำธรรมทาน...ต่อทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าลมหายใจนี้พัวพันอยู่ในกิจใด ก็ตื่นรู้และปิติสุขยิ่งค่ะ..."
แม้จะไม่ได้ไปร่วมที่สวนป่าฯ แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่เต็มกำลังต่อกิจที่เข้ามาสัมพันธ์ ณ ห้วงเวลานั้น
สิ่งที่ปรากฏต่อเราทุกขณะล้วนมีค่า...และความหมายเสมอ...
...............................
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและ
ขอให้พี่สร้อยเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นนะคะ
(^_____^)
กะปุ๋ม
ดีใจจัง วันนี้จะได้เจออุ๊ยจั๋นตา ตัวเป็นๆอีกแล้ว อิอิ
ขอไปวิ่งก่อน แล้วมาอาบน้ำ ทาแป้งหอมๆ อิอิ
มาติดตามผลการอบรมครับ ต้องคุยกันนานหน่อย อิอิ
สวัสดีค่ะ ซูซาน
ขอบคุณค่ะกะปุ๋ม
ขอบคุณค่ะน้องสิงห์ป่าสัก
อิอิ คุณหมอคนชอบวิ่ง
ประทับใจน้องสร้อยมากครับ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้คุยกัน การเห็นกิริยาอาการแล้ว ชื่นชมครับ
ขาแว๊บๆๆ มาให้พี่สร้อยเห็นอ่ะ (กลัวพี่สร้อยไม่เห็นขาแว๊บ อิอิ )
สวัสดีค่ะ พี่บางทราย
สวัสดีค่ะขาแว๊บ อิอิ