เตรียมความพร้อมบนความไม่พร้อม...การเสริมสร้างพลังอำนาจจากผู้หญิงสู่ผู้หญิง


เจอโจทย์จริง ก็ต้องทำจริงล่ะ

     เจอโจทย์จริงๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อได้รับทราบว่า ต้องไปร่วม "โครงการเตรียมความพร้อม" ให้กับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ที่กำลังจะขึ้นฝึกปฏิบัติเรื่องการตรวจครรภ์ จำนวน 71 คน

    นักศึกษา 71 คนที่ไม่เคยเรียนทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ คลอด และหลังคลอด แต่ต้องไปฝึกจริงๆ ตั้งแต่สัปดาห์หน้า!!      โจทย์นี้..ใครเป็นพยาบาลคงนึกออก ว่า...มันยากหรือง่าย......

    เฉพาะการตั้งครรภ์ นักศึกษาจะต้องเรียนตั้งแต่ว่ากระดูกเชิงกรานมีกี่ชิ้น การเจริญพัฒนาการของทารกตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิไปจนถึงระยะคลอด การเปลี่ยนแปลงที่เกิดตลอดการตั้งครรภ์ การตรวจครรภ์ให้ถูกต้อง นับคำนวณอายุครรภ์และกำหนดวันคลอด รวมไปถึงการแนะนำการปฏิบัติตัวให้กับสตรีที่ตั้งครรภ์ การดุแลสุขภาพของทารกในครรภ์ การคัดกรองภาวะเสี่ยงต่างๆตลอดการตั้งครรภ์และการวินิจฉัยให้ได้ว่าควรจะส่งต่อให้แพทย์ในกรณีภาวะเสี่ยงใดบ้าง

  ทีมอาจารย์ผู้สอนจึงคิดโครงการ "การเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษา" เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และมีการเสริมสร้างสมรรถนะการเรียนรู้ให้กับนักศึกษา....

แต่เวลา 2 วัน จะทำอย่างไรถึงจะให้บรรลุวัตถุประสงค์

  อาจารย์หัวหน้าทีมได้เขียนโครงการโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยขณะที่ตัวเองได้รับมอบหมายเมื่อวันพุธเพื่อให้ร่วมโครงการในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา และไม่เคยมีการประชุมกันเลย!! น่าจะเรียกได้ว่า เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาโดยความไม่พร้อมของทีมงาน....และยังเป็นการทำงานบนความไว้วางใจในความเป็น "ครู" ของทีมงาน ว่าจะสามารถช่วยกันสนับสนุนให้นักศึกษาได้พัฒนาความรู้และสมรรถนะของเขาให้ดีที่สุด

  เริ่มโครงการโดยมีการบรรยายถึงสิ่งที่นักศึกษาจะต้องมีความรู้ และจะต้องปฏิบัติได้ และมีบรรยายสรุปย่อถึงมโนทัศน์ต่างๆของการตั้งครรภ์ ...เสียงฮือฮาดังเป็นระยะๆ ตามความยากของเนื้อหา...แต่ก่อนที่นักศึกษาจะเกิดความท้อแท้....ทีมงานก็จัดกลุ่มให้เขาทำความเข้าใจด้วยโจทย์สมมุติ

  

บนความเคร่งเครียดจริงจัง ทีมงานสลับกันเข้าไปประคับประคอง ให้คำอธิบาย ด้วยความเข้าใจในความยากของเรื่องใหม่ที่นักศึกษากำลังเจอะเจอ

สองวันของการทำงานกลุ่ม มีทั้งการรวมกลุ่มใหญ่ แยกกลุ่มย่อย ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายและด้วยโจทย์ที่ถูกออกแบบมาต่างๆนานาจากหัวหน้าทีม

ขณะที่เฝ้ามองดูและร่วมในทีมช่วยสนับสนุนนักศึกษาก็พบว่า....นักศึกษาเอาจริงเอาจัง นำเสนองานอย่างละเอียด แล้วยังสามารถท้วงติงคำศัพท์ที่พิมพ์ผิดของเอกสาร และสร้างกรณีศึกษาขึ้นมาใหม่ได้เองอย่างสนุกสนาน

และสุดท้ายก่อนสิ้นสุดโครงการ...ซึ่งเป็นหัวข้อสรุปเพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้กับประสบการณ์ที่จัดให้กับนักศึกษา...ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของตัวเองที่จะต้องLecture...

ได้ตัดสินใจเปลี่ยนจากการทำตัวเป็นผู้สอนไปเป็นผู้เรียนและผู้ฟังและใช้หัวใจของเฮฮาศาสตร์มาประยุกต์

       บอกให้นักศึกษานั่งท่าที่สบายที่สุด ชักพาให้เขานึกย้อนไปถึงช่วงแรกที่เขามาเข้าร่วมโครงการมาจนสิ้นสุดโครงการ ...ขอให้เขาบอกเล่าเรื่องราวที่เขาประทับใจ สิ่งหรือใครที่เขาอยากจะขอบคุณ การเรียนรู้แบบไหนที่เขาคิดว่าเหมาะกับเขาที่สุด ...และหรือเรื่องราวการพัฒนาใดๆ ที่เกิดขึ้นในตัวเขาเองในระยะ 17 ชั่วโมงที่อยู่ร่วมกันกับเพื่อนและอาจารย์

ขณะเดียวกันก็ชักชวนให้อาจารย์ท่านอื่นๆ และนักศึกษาทุกๆคน ร่วมกิจกรรมด้วยการฟังสิ่งที่เพื่อนบอกเล่า ฟังอย่างตั้งใจและอย่างไม่ตัดสิน

       นักศึกษาระยะแรกเกร็ง และต่อมาก็ผ่อนคลายและกล้าพูด ไมค์ถูกส่งไปเรื่อยๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดอย่างสนุกสนาน

หลายคนบอกว่าไม่เคยทราบมาก่อนว่าเพื่อนมีศักยภาพ หลายคนรู้สึกว่าตัวเองมั่นใจที่จะไปเผชิญกับ "ของจริง" และหลายคนบอกเล่าว่า ความรู้ความเข้าใจเกิดจากการได้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ และอาจารย์...เป็นการสร้างเสริมพลังอำนาจจากผู้หญิงสู่ผู้หญิง....และจาก เพื่อนสู่เพื่อนอย่างดงาม

 

สิ้นสุดโครงการแล้ว

อาจารย์ผู้ร่วมทีมทุกคนยังคงเก็บความสุขที่ได้รับรู้ว่านักศึกษามี "ใจที่พร้อมจะเรียนรู้" และ "ค้นพบศักยภาพของตัวเอง" และมีกำลังใจที่จะสนับสนุนให้นักศึกษาเติบโตไปอย่างมีความสุขในยามที่ต้องเผชิญกับการฝึกฝนบนเส้นทางสีขาวแห่งนี้ต่อไป

สำหรับตัวเองแล้ว รู้สึกขอบคุณตั้งแต่อาจารย์หัวหน้าทีมที่มอบความไว้วางใจให้กับผู้ร่วมทีมทั้งๆที่ไม่มีความพร้อม ผู้ร่วมทีมทุกคนที่ต่างมาด้วย "ใจของครูที่อยากให้" และนักศึกษาทุกคนที่ "เปิดใจสำหรับการเรียนรู้"  ที่ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จตามความตั้งใจของทุกคนค่ะ

หมายเลขบันทึก: 186718เขียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2008 17:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

ดีใจที่การเรียนรู้ไม่เครียด แบบนี้ละเยี่ยมเลย เด็กได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ แต่กลุ่มนักศึกษากลุ่มใหญ่จังเลยครับ แนะนำให้อ่านบันทึกท่านอาจารย์แสวง อันล่าสุด พี่สร้อยสู้ๆๆ

  • สถานการณ์สร้างวีรบุรุษและวีรสตรี..เนอะ
  • ใจพร้อมเสียอย่าง..ใช่ไหมจ๊ะ
  • ส่งกำลังใจมาให้อาจารย์ ลูกศิษย์ ทุกคนค่ะ

ตามมาให้กำลังใจค่ะพี่สร้อย แต่..รูปใหญ่ยักษ์มากเลยนะคะ อิอิ

ขอบคุณค่ะ อาจารย์ขจิต

นักศึกษากลุ่มใหญ่ คืออีกโจทย์หนึ่งที่ต้องคิดหนัก แต่ก็เป็นโจทย์ที่มาในระดับนโยบายของรัฐ

เมื่อหน่วยฝึกในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยไม่สามารถรองรับได้เทอมนี้ นักศึกษา71 คนจะต้องสลับกันฝึกในหลายโรงพยาบาลและ "ครู" ที่จะต้องตามไปก็จะต้องแยกย้ายกันไป

สัปดาห์หน้าเขาจะต้อง "ฝึกไปเรียนรู้ไป" แต่ด้วยความเป็นพยาบาล ชีวิตของคนไข้ไม่สามารถ "ลองผิดลองถูกได้" เลยต้องทำอย่างไร เตรียมเขาให้พร้อมก่อนไป "ฝึกปฏิบัติจริงๆ" นั่นแหล่ะค่ะ

เรียนบนของจริงที่ต้องระวังเรื่องสิทธิผู้ป่วย เรื่องความปลอดภัยทั้งคนไข้และตัวนักศึกษา ครูก็เหนื่อยเป็นธรรมดา (แล้วครูก็แอบดีใจจะได้ผอม อิอิ)

 

ใจพร้อมจ้า คุณเพื่อนผู้นำP

อิอิ....เฮฮาศาสตร์ช่วยชีวิตครูน้อยแบบอิฉันไงคะ
ในยามฉุกเฉิน การที่เคยถูก ถี..ศาสตร์จากครูบา ก็ช่วยให้ถือไมค์ได้คล่องขึ้น....อิอิ

 

ขอบคุณค่ะน้องลูกหว้าP

พี่กำลัง งงๆ ว่าจะลดรูปได้อย่างไร....เหมือนกันจ้า

ขอบคุณค่ะ อาจารย์ประจักษ์P

 

โป๊ยเซียนใช่ไหมคะ

สมัยเด็กๆ เคยมีหน้าที่จุดธูปที่ต้นโป๊ยเซียน เพื่อ....พอวันใกล้ๆ หวยออก จะต้องไปนับจำนวนดอกให้บรรดาลุงป้าน้าอาใกล้ๆบ้าน

 

เมื่อก่อนคนเขาบอกว่าให้หวยแม่นค่ะ อิอิ เลยมีคนมาถามเลขเรื่อยๆ สมัยหนึ่งคนงานเขาเรียกว่า "อาจารยฺสร้อย" ก็มาจากการให้หวยเขานั่นแหล่ะค่ะ ...อิอิ

แต่ตอนนี้บน GotoKnow มีคนบอกตัวเลขเกือบทุกวันอยู่แล้ว...เลยไม่ได้นับโป๊ยเซียนให้ใครอีก..เอิ๊กๆๆ

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์ จันทรรัตน์

  • นี่ขนาดไม่พร้อมนะคะ ลูกศิษย์ยังสนุกสนาน เรียนรู้อย่างมีความสุขขนาดนี้
  • ถ้าพร้อม จะขนาดไหนเนี่ยะ อิอิ
  • ชื่นชม ด้วยคนค่ะ

เสนอภาพได้อลังการมากอุ๊ย

หายเหนื่อยแล้วยัง

ขอบคุณค่ะ คุณครูปูP

อาจารย์หัวหน้าทีม กล่าวกับนักศึกษาว่า

"ที่จริง ทีมที่มานี้ทุกๆคนอาจจะไม่ได้เข้าร่วมทุกกิจกรรมเพราะมีสอนวิชาต่างๆ แต่ทุกคนก็เต็มใจที่จะมาร่วมกัน สนับสนุนให้นักศึกษาได้ดึงศักยภาพที่ตนเองมีออกมา นักศึกษาทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง แต่อาจจะขาดโอกาสในการแสดงหรือเข้าใจตัวเอง จนเมื่อว่าร่วมกิจกรรมและได้ทำงานกลุ่มก็คงจะได้เรียนรู้ว่าตัวเองเก่งหรือไม่เก่งตรงไหนอย่างไร"

ตลอดสองวันเต็มๆ ที่มีโอกาสร่วมกิจกรรมเตรียมความพร้อมนี้ อาจารย์ทุกคนเอาใจใส่ประคับประคอง ลุ้น เชียร์ เพื่อให้นักศึกษามั่นใจและพร้อมสำหรับการไปขึ้นวอร์ดน่ะค่ะ คุณครูปู

ยังคุยกันว่า เราจะจัดกิจกรรมแบบนี้อีก แต่ เราจะสอดแทรกเรื่องของการฟังผู้อื่น การอยู่ในสังคม และเรื่องของ "คุณภาพใจ" ให้กับนักศึกษาด้วยค่ะ....

เห็นนักศึกษาสนุก บรรดาอาจารย์ก็มีกำลังใจกันน่ะค่ะ

 

ขอบพระคุณค่ะครูบาP

ขอสารภาพว่า เพราะวิชาถี-ศาสตร์ ของท่านครูบาและประโยคเตือนใจที่ว่า "ทำงานบนความไม่พร้อม" น่ะค่ะ ที่ทำให้ สู้ สู้

จ่ายงานล่วงหน้าหนึ่งวัน ก็ลุยล่ะค่ะ...อิอิ

 

ดีจังเลยค่ะพี่สร้อย เป็นตัวอย่างที่ดีมากเลย ไว้ต้องลองหัดฟังนักศึกษาให้มากกว่านี้..เชื่อว่าเด็กๆ มีศักยภาพดีมากทุกคน เพียงแต่เรายังไม่เห็นเองเท่านั้นแหละ ^ ^

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ น้องตุ๋ยP

ความยากจะอยู่ที่การ "ออกแบบ" และการทำความเข้าใจระหว่างทีมงาน ว่านักศึกษาคือชั้นปีไหน เคยเจอกิจกรรมเรียนรู้อะไรมาบ้างและกิจกรรมแต่ละอย่างมีความหมายอย่างไร

แต่คราวนี้ทีมไม่มีเวลาคุยกันเลย และไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถอยู่ร่วมกิจกรรมได้ครบสองวัน...มีแต่หัวหน้าทีมและพี่เท่านั้นที่อยู่ตลอด

ระหว่างกิจกรรมนอกจากจะต้องประคับประคอง สนับสนุนนักศึกษาแล้ว พี่พบว่า ความนิ่งและฟังผู้ร่วมทีมที่ไม่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน มีความสำคัญมากทีเดียวค่ะ

สิ่งที่ต้องทำอย่างนุ่มนวลคือการสนับสนุนผู้ร่วมทีมที่ผลุบเข้าออกตามเวลาที่ว่างมาช่วยกัน ให้สามารถต่อยอดกันได้ ไกด์ให้นักศึกษาได้ และไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในการนำกิจกรรม ให้กำลังใจและเสริมแรงกัน พี่เรียกการทำนั้นว่า วางใจลงบนความเชื่อมั่นต่อทีมค่ะ..และพี่ก็พบว่า การช่วยให้คิดเชิงบวกทำให้ได้ใจของทีมด้วย และตอนท้ายทีมก็ผ่อนคลายไปกับนักศึกษาเหมือนกัน

พี่พยายามเขียนบอกเล่าค่ะ ยาวสักนิดนะคะ คงไม่เบื่ออ่านก่อนนะคะ

สิ่งที่ต้องทำอย่างนุ่มนวลคือการสนับสนุนผู้ร่วมทีมที่ผลุบเข้าออกตามเวลาที่ว่างมาช่วยกัน ให้สามารถต่อยอดกันได้ ไกด์ให้นักศึกษาได้ และไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในการนำกิจกรรม ให้กำลังใจและเสริมแรงกัน พี่เรียกการทำนั้นว่า วางใจลงบนความเชื่อมั่นต่อทีมค่ะ..

  • สิ่งนี้ยิ่งใหญ่นะ
  • นึกถึงคำว่า "ลดในส่วนของตัวเอง..เพื่อเพิ่มในส่วนของผู้อื่น"..ด้วยจ้า
  • นี่คือสิ่งที่เพื่อนได้ทำ...ชื่นชม...น่าเคารพด้วย..อิ..อิ
  • กลับมาป่วนแล้วครับ  อิอิ
  • ดูเหมือนอุ๊ยจั๋นตาจะใช้เคล็ดวิชายืมพลังจากคู่ต่อสู้มาใช้   ทีมงานน้อย  ก็ใช้พลังของนักศึกษาหรือผู้เข้ารับการอบรมนั่นแหละมาช่วย  อิอิ
  • ว่างๆต้องขอไปเรียนวิชาด้วย  อิอิ

 

"ลดในส่วนของตัวเอง..เพื่อเพิ่มในส่วนของผู้อื่น"....ขอบคุณค่ะ ท่านผู้นำที่เคารพP 

บางทีก็ทำเอาคนอื่นไม่เข้าใจเหมือนกันแหล่ะ...แต่ก็ไม่เป็นไรเน๊อะ...

 

 

อิอิ ซือแป๋ กลับมาแล้ว...เจอนางเอกเรื่องเกอิชาไหมคะ...

"เคล็ดวิชายืมพลังจากคู่ต่อสู้มาใช้".....โห...เห็นชื่อวิชาแล้วดูขลังมากๆ ...ชอบๆๆ ...อิอิ

ซือแป๋จะไปสวนป่าสอนเคล็ดวิชาอะไรบ้างให้กับนักศึกษาแพทย์ กรุณาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ ..จะเรียนผ่าน GotoKnow อ่ะค่ะ

  • แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • สบายดีนะคะ

สวัสดีครับ อ.สร้อย

ยังรู้สึกคุ้นเคยอยู่เสมอ เมื่อได้อ่านเรื่องราวบรรยากาศ การเรียนการฝึกงานที่คณะพยาบาล สวนดอก

บ่อยากบอกว่าตอนฝึกงานตึกสูติฯ แถวคนไข้ทำแผล P care ของผมยาวที่สุด ฮิๆ (เพราะตอนนั้นยังเป็นละอ่อนที่สุดในรุ่น..)

ขอบคุณค่ะ คุณ Bright LilyP

สบายดีค่ะ หวังว่าคุณBright Lily สบายดีเช่นกันนะคะ

ระยะนี้ห่างหายจากบันทึกเพราะว่าขึ้นวอร์ดตั้งแต่เช้าจนเย็นค่ะ...^^

สวัสดีค่ะ คุณเปลี่ยนP

เจอจากข้อมูลศิษย์เก่า....ยังนึกว่าอาจจะต้องเรียก อ้ายเปลี่ยน ดีไหมน่ะค่ะ

....บรรยากาศฝึกปฏิบัติ...คุ้นเคยนะคะ...^^

สอนปฏิบัติก็มีความสุขไปอีกแบบค่ะ.....เรียนจากของจริงของชีวิตที่ไม่มีความแน่นอนอยู่ตลอดเวลา...ในชีวิตนี้เคยดูแลคนตั้งครรภ์ และทำคลอดมาจนนับไม่ถ้วน แต่ก็ยังต้องเรียนและเตรียมพร้อมกับความไม่แน่นอนของแต่ละรายอยู่ตลอด..เลยต้องเตรียมนักศึกษาให้เขาพร้อมจะเผชิญกับ"ของจริง" ทุกรูปแบบด้วยการเรียนรู้ตัวของเขาเองก่อนน่ะค่ะ

วันหลังหากมีโอกาสน้องๆนักศึกษาคงได้ฟังเรื่องราวเรื่องเล่าจากคุณเปลี่ยนบ้างนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท