รู้ - ไม่รู้ ในโลกยุคปัจจุบัน


รู้ - ไม่รู้ ในโลกยุคปัจจุบัน

"รู้ - ไม่รู้ ในโลกยุคปัจจุบัน"

สังคมในยุคปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนและวิวัฒนาการด้านการจัดการความรู้และการสื่อสารมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง "เทคโนโลยี" ซึ่งในอนาคตรัฐมุ่งหวังให้บุคลากรของประเทศได้มีการพัฒนาและมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต... ปัจจุบันจะเป็นช่วงในระยะเริ่มแรกที่บุคลากรต้องได้รับการพัฒนาทางด้านการจัดการความรู้ของตนเอง อาจทำให้ขัดแย้งกับความรู้สึก (เดิม ๆ) ของตน คือ สมัยก่อนจะอยู่แบบสบาย ๆ เรียนจบมาแล้วจบเลย (จบจริง ๆ)...ค่ะ...

แต่ในยุคปัจจุบันกลับตรงกันข้าม... เมื่อเรียนจบมาแล้วหาจบเลยไม่... ต้องมีการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ... ถึงแม้ว่าตนเองจะเก่งในวิชา หรือศาสตร์ นั้น ๆ แต่ใช่ว่าตนเองจะรู้ในเรื่องอื่น ๆ ไม่ (รู้แต่เฉพาะศาสตร์ของตนเอง...ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะศาสตร์เท่านั้น...) จึงทำให้ในโลกยุคปัจจุบัน...จะต้องหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับศาสตร์อื่น ๆ ที่ตนเองยังไม่รู้...(อย่างค่อยเป็น...ค่อยไปก็ได้ค่ะ)...

เพราะในโลกยุคปัจจุบัน จะมีเพียงแค่ "รู้" กับ "ไม่รู้" ซึ่งไม่ใช่ความหมายเดียวกับ "ฉลาด" หรือ "โง่" แต่จะเป็นลักษณะของการแบ่งปันความรู้ (Sharing Knowledge)...ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่...ซึ่งแต่ก่อน เด็กจะบอกกล่าวความรู้ให้กับผู้ใหญ่ไม่ได้ (ต้องฟัง + รับรู้ + ปฏิบัติ จากผู้ใหญ่แต่เพียงฝ่ายเดียว) เพราะผู้ใหญ่ถือว่าตนเองมีประสบการณ์มากกว่า...(อาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมรู้มากกว่า...) แต่ในโลกยุคปัจจุบัน ตั้งแต่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้น...ทำให้เกิดการเรียนรู้ โดยมีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น...ในสังคมจะไม่จำกัดอายุ เพศ วัย ซึ่งสมัยก่อนเป็นการสื่อสารแบบทิศทางเดียว (ผู้ใหญ่จะต้องรู้มากกว่าเด็กและเป็นผู้ให้ความรู้ฝ่ายเดียว...) โดย...สังคมได้ปฏิบัติกันมานานพอสมควร...

แต่ปัจจุบันเป็นการสื่อสารแบบสองทิศทาง (คือผู้ใหญ่ให้ความรู้แก่เด็กและเด็กก็มีโอกาสให้ความรู้แบ่งปันให้กับผู้ใหญ่...ในเรื่องที่ผู้ใหญ่ยังไม่รู้ในเรื่องนั้น ๆ )...โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี...จึงทำให้ผู้ใหญ่กับเด็กมีการปฏิสัมพันธ์กันในทางที่ดีขึ้น...อาจกล่าวได้ว่า..."เทคโนโลยีสามารถช่วยสังคมได้"...ในระดับหนึ่ง...เช่น ในประเทศเกาหลีใต้ ผู้สูงอายุ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ได้อยู่ที่บ้านและคิดถึงหลาน ๆ ก็สามารถส่ง Mail ไปให้กับหลานได้...จึงทำให้ผู้ใหญ่ได้มีความใกล้ชิดกับเด็ก ๆ...และผู้ใหญ่ก็ไม่เกิดความเหงา...เด็กก็มีที่ปรึกษาทางด้านประสบการณ์...ถือเป็นการกตัญญูต่อผู้มีพระคุณแบบโลกยุคใหม่ก็ว่าได้ค่ะ...

สรุป : ในโลกยุคปัจจุบันจึงไม่ต้องกลัวว่า...จะมีใครว่าตนเอง "โง่" หรือ "ฉลาด" ...เนื่องจากสมัยก่อนสังคมจะชอบใช้คำสองคำนี้อยู่เป็นนิจ...แต่โลกปัจจุบันจะมีแต่คำว่า "รู้" กับ "ไม่รู้" เท่านั้น...และสำหรับผู้ที่ไม่รู้ + ไม่เคยทำ... ก็อย่าอายในความที่ตนเองไม่รู้...(อายครู บ่ รู้วิชา)...เราสามารถฝึกฝนเพิ่มพูนความรู้ได้...โดยการแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน... สำหรับเด็กเมื่อมีความรู้เรื่อง "เทคโนโลยี"มากกว่าผู้ใหญ่...แต่ก็อย่าลืม! ...คำว่า "ประสบการณ์" ที่เด็ก ๆ ยังมีน้อย...... ซึ่งต้องใช้เวลาในการสั่งสมประสบการณ์ให้มากยิ่งขึ้นค่ะ...โดยการเรียนรู้จากผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ดี ๆ นะค่ะ...

หมายเลขบันทึก: 364791เขียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2010 21:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน 2016 14:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ

เทคโนโลยี่ กลายเป็นสิ่งที่จำเป็น ในการใช้ชีวิตประจำวันไปแล้ว

และ คอมพิวเตอร์ restore ใหม่ได้ ง่ายมากค่ะ   ขอบคุณค่ะ             

สวัสดีค่ะ...น้องมูน...

P  ขอบคุณค่ะ...เรียกว่า IT เป็นปัจจัยที่  5  สำหรับในชีวิตปัจจุบันแล้วมังค่ะ...

ความเก่งพอกัน เหนือชั้นกว่าก็ตรงประสบการณ์ เป็นเรื่องจริงเลยค่ะ ใครผ่านอะไรมาเยอะ เห็นมาเยอะก็จะรู้เยอะ ในปัจจุบันนี้ไม่มีใครโง่แล้ว มีแต่รู้กับไม่รู้ตามที่พี่เขียนในบันทึก ถูกต้องเลยค่ะ :-)

สวัสดีค่ะ...น้อง Baby...

P ขอบคุณค่ะ...สังคมปัจจุบัน มี "รู้" กับ "ไม่รู้" เท่านั้นเองค่ะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท