"การได้รับสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ"

จากบันทึกที่ผู้เขียนลงในบล็อกเรื่อง "เครื่องแบบพิธีการของพนังานราชการ พ.ศ. 2552" นั้น ทำให้ทราบปัญหา ความเดือนร้อนและความต้องการในความมั่นคงในอาชีพของตนเอง ซึ่งถ้านำมาเทียบกับประเภทบุคลากรของรัฐ ได้แก่ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำแล้ว ทำให้เห็นถึงความแตกต่างของความเป็นพนักงานราชการ

จากที่ได้ปฏิบัติงานด้านงานบุคคล และได้ทราบถึงความน้อยเนื้อต่ำใจของพนักงานราชการในความก้าวหน้า มั่นคงในอาชีพของตนเอง ทำให้ผู้เขียนก็มิได้นิ่งนอนใจ พยายามศึกษาหาความรู้จากระเบียบ ประกาศ ของพนักงานราชการ โดยได้ไปอ่าน เรื่อง "การได้รับสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ และได้ทราบความเป็นมาเป็นไป จึงนำมาแจ้งให้กับพนักงานราชการและผู้สนใจ, ผู้ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบกัน ดังนี้...

ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547 ได้กำหนดให้พนักงานราชการได้รับสิทธิประโยชน์ โดยให้ส่วนราชการกำหนดหลักเกณฑ์การได้รับสิทธิประโยชน์ตามระเบียบดังกล่าวได้ตามความเหมาะสมว่า พนักงานราชการประเภทใดหรือกลุ่มลักษณะงานใด ควรจะได้รับสิทธิประโยชน์ใดบ้าง แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดการได้รับสิทธินั้นตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือมติคณะรัฐมนตรี โดยได้นำกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือมติคณะรัฐมนตรีของข้าราชการพลเรือนมาบังคับใช้

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่พนักงานควรจะได้รับ คณะกรรมการจะกำหนดมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการกำหนดสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการเพื่อให้ส่วนราชการถือปฏิบัติ

สิทธิประโยชน์จากการประกันสังคม

ตามกฎหมายประกันสังคม กำหนดให้พนักงานราชการต้องเข้าระบบประกันสังคมโดยส่วนราชการ (นายจ้าง) จะต้องหักค่าตอบแทนจากพนักงานราชการ 5 % นำส่งสมทบในส่วนของผู้ประกันตน ส่วนราชการจะจ่ายสมทบในส่วนของนายจ้าง 5 % เข้ากองทุนประกันสังคมให้กับพนักงานราชการและรัฐบาลจะจ่าย 2.75 % โดยตั้งงบประมาณที่ส่วนกลาง สำหรับสิทธิประโยชน์ทดแทนที่พนักงานราชการจะได้รับจากกองทุน กรณี...

1. ประสบอันตรายหรือบาดเจ็บอันมิใช่เนื่องจาการทำงาน

2. คลอดบุตร

3. ทุพพลภาพอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน

4. ถึงแก่ความตายโดยมิใช่ประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน

5. สงเคราะห์บุตร

6. ชราภาพ

7. การว่างงาน

สิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน

กองทุนเงินทดแทนเป็นกองทุนที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นทุนให้มีการจ่ายทดแทนแก่พนักงานแทนส่วนราชการ (นายจ้าง) เมื่อพนักงานราชการ เจ็บป่วย หรือประสบอันตราย ทุพพลภาพ สูญหาย หรือถึงแก่ความตายอันเนื่องมาจากการทำงาน หรือป้องกันรักษาผลประโยชน์ให้ส่วนราชการ โดยกองทุนเงินทดแทนจะเรียกเก็บเงินสมทบจากส่วนราชการในฐานะนายจ้างเพียงฝ่ายเดียว โดยจ่ายปีละ 1 ครั้ง เงินสมทบจะคำนวณจากอัตราค่าตอบแทนที่ส่วนราชการจ่ายให้แก่พนักงานราชการทั้งปีรวมกัน คูณด้วยอัตราสมทบ (0.2 %) สิทธิประโยชน์ที่พนักงานราชการจะได้รับตามพระราชบัญญัติเงินทดแทนขณะนี้อยู่ในระหว่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าว...

สำหรับการได้รับค่าตอบแทนกรณีออกจากงานโดยไม่มีความผิด

ส่วนราชการอาจกำหนดให้พนักงานราชการประเภทใดหรือตำแหน่งในกลุ่มงานใดได้รับค่าตอบแทนการออกจากงานโดยไม่มีความผิดได้ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด

ผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นว่า สำหรับกองทุนเงินทดแทน รัฐบาลกำลังจะจัดตั้งขึ้นให้กับพนักงานราชการค่ะ...ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับ...ต้องคอยติดตามต่อไปนะค่ะ เกี่ยวกับกองทุนเงินทดแทนของพนักงานราชการค่ะ...ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวค่ะ...จึงอยากจะฝากบอกน้อง ๆ พนักงานราชการ ทุกท่านค่ะ...ว่าต้องใจเย็นนิดหนึ่งนะค่ะ...เพราะกฎหมายที่ออกมาให้พวกเราได้ปฏิบัตินั้น ไม่ใช่จะออกมาใช้บังคับได้เลย ต้องรอการพิจารณา พินิจ วิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนค่ะ... สำหรับกองทุนเงินทดแทน ถ้าออกมาบังคับใช้ให้แก่พนักงานราชการเมื่อไร ผู้เขียนจะนำแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ...