โลกที่เปลี่ยนไป...แลหาผู้นำยุคใหม่


โลกที่เปลี่ยนไป...แลหาผู้นำยุคใหม่

"โลกที่เปลี่ยนไป...แลหาผู้นำยุคใหม่"...

แต่กาลก่อน สังคมโลกเป็นสังคมปัจเจกชน คือ สมาชิกแต่ละคนจะพึ่งตนเอง กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ห่างไกลกัน ต้องทำทุกอย่างเพื่อตนเองด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพิงบุคคลภายนอกมากนัก หากจะมีการพึ่งพิงกันบ้าง...ก็มักจะเป็นการช่วยเหลือกันในครอบครัวและเครือญาติ ต่อมาเมื่อประชากรโลกมากขึ้นจนรวมเป็นชุมชนในที่สุด...เมื่ออยู่รวมกันเป็นชุมชนจึงเกิดการแบ่งหน้าที่กันทำ พึ่งพิงซึ่งกันและกันด้วยระบบการแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ แต่ละครัวเรือนจะผลิตสินค้าหรือให้บริการที่ตนถนัดต่อชุมชน...โดยมีค่าเงินเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน จวบจนปัจจุบัน ...ประชากรในชุมชนได้รวมตัวกันเป็นองค์กร เพื่อประกอบภารกิจตามปรารถนาของตน ร่วมกันรับผิดชอบในชุมชนและระบบเศรษฐกิจการเมืองในสังคมร่วมกัน

ในอดีต...แต่ละประเทศจะบริหารปกครองกันเองเป็นการภายใน ไม่เปิดประเทศสู่โลกภายนอก แต่ก็มีการแลกเปลี่ยนทูตสันถวไมตรีและสินค้าบางประเภทบ้าง ต่อมาเมื่อมีการเรียนรู้ระหว่างกันมากขึ้น แต่ละประเทศต่างได้เห็นข้อดีของกันและกัน ต่างเรียนรู้ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เทคโนโลยีและสินค้าต่อกัน เมื่อมีการพัฒนามากขึ้นถึงกับมีข้อกฎหมายพันธะสัญญาร่วมกันและในที่สุด ก็พร้อมใจกันพยายามยกเลิกข้อกีดกันใด ๆ ระหว่างกันที่เคยมีมาแต่อดีต เกิดการรวมตัวกัน ในแต่ละภูมิภาคเป็นกลุ่มต่าง ๆ ในลักษณะรูปแบบ "เหนือชาติ" (Supernationalism)" และกลุ่มภูมิภาคต่าง ๆ รวมตัวกันในสังคมโลกกว้างที่เรียกกันว่า "โลกาภิวัตน์" (Globalization) คือ การทำให้โลกกว้างนี้เป็นโลกเดียวกัน ตลาดโลกเปิดกว้างสำหรับการแข่งขันเสรี โดยผู้มีศักยภาพทั้งหลาย ภาพที่เคยเห็นความแตกต่างกันระหว่างการทำงานของคนภาครัฐและเอกชน ที่แต่เดิมราชการพลเรือนไทยเน้นที่คุณลักษณะเชิงพฤติกรรมที่ข้าราชการแสดงออกขณะที่ปฏิบัติงานและคนทำงานภาคเอกชนเน้นที่ความรู้ ทักษะ ความสามารถและพฤติกรรมของพนักงาน แต่มาในยุคปัจจุบัน ทางทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนเริ่มมาบรรจบกันมากขึ้น ทุกหน่วยงานและทุกองค์กรต่างมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ขององค์กรเป็นหลัก

จากกระแสโลกาภิวัตน์ที่เห็นปรากฎอยู่ในปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา...โดยองค์ประกอบ ภาวะ ฐานะ ทิศทาง สถานการณ์ในโลกก็เปลี่ยนแปลงนำไปสู่ความแปรปรวนของโอกาสและข้อจำกัดหลายประการ...

ในฐานะผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องรู้และเข้าใจสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก ใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้น หรือสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นตามความเหมาะสม...

ที่มา : หนังสือ KPI รายบุคคล : สุดยอดบริหารผลลัพธ์ขององค์กร.

กรุงเทพฯ : สินทวีกิจ พริ้นติ้ง, 2553.

หมายเลขบันทึก: 427180เขียนเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2011 15:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน 2016 14:51 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท