คลังได้ฤกษ์สั่งข้าราชการทำงานที่บ้าน หวังลดค่าใช้จ่ายพลังงานต่อหัว 20%

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะเริ่มนำร่องโครงการปฏิบัติงานราชการที่บ้าน ตามนโยบายประหยัดพลังงานของรัฐบาล ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2551-ก.ย. 2552 เป็นเวลา 15 เดือน   ทั้งนี้ จะให้ข้าราชการปฏิบัติราชการที่สำนักงานสัปดาห์ละ 4 วัน และปฏิบัติราชการที่บ้าน 1 วัน ในวันอังคาร พุธ หรือพฤหัสบดี โดยจะให้ข้าราชการแต่ละชั้นสลับหมุนเวียนวันที่ปฏิบัติราชการที่บ้านทุกเดือน

สำหรับกลุ่มข้าราชการที่ปฏิบัติงานที่บ้านได้ คือกลุ่มเป็นสายงานวิชาการ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไม่ต้องติดต่องานหรือให้บริการประชาชน จำนวน 166 คน หรือคิดเป็น 41% ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สศค.ทั้งหมด

รมว.คลัง กล่าวว่า ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ข้าราชการที่เริ่มทำงานที่บ้านจะอยู่ในส่วนของสำนักนโยบายการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจมหภาค  และสำนักงานกฎหมาย สศค. หลังจากนั้นจะวนไปในสำนักงานต่าง ๆ เฉลี่ยข้าราชการทำงานที่บ้านวันละ 60 คน

นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า สำหรับการประเมินผลโครงการ จะติดตามการใช้ปริมาณไฟฟ้าของสำนักงานทุกเดือน ใน 3 เดือนแรก และทุก ๆ 3 เดือนหลังจากนั้น รวมถึงประเมิน ค่าใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่     ว่าลดลงหรือไม่จากการปฏิบัติงานที่บ้าน  ซึ่งปัจจุบัน  สศค.มีค่าใช้จ่ายจากการใช้ไฟฟ้าเดือนละ 3.8 แสนบาท  “การทำงานที่บ้านจะช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานได้ 20% ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน แล้วช่วยเพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่ ได้คนละ 14% แต่จะช่วยคุณภาพชีวิตดีขึ้น” นางพรรณี กล่าว

นางพรรณี กล่าวว่า ขณะนี้ทุกอย่างมีความลงตัวให้เริ่มโครงการทำงานที่บ้านได้ ทั้งเรื่องราคาพลังงาน
ที่ปรับตัวสูงขึ้นกระทบค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศที่พัฒนาขึ้นมากสามารถรองรับให้ทำงานในลักษณะดังกล่าวได้ ซึ่งถ้าโครงการเริ่มเห็นผลก็จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อให้รัฐบาลขยายการทำงานที่บ้านไปยังส่วนราชการอื่น

 ข้าราชการคนหนึ่งของ สศค. กล่าวว่า การปฏิบัติงานที่บ้านจะไปเพิ่มค่าใช้จ่ายของข้าราชการแต่ละคนแทน ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะประหยัดจริงหรือเปล่า

                                      โพสต์ทูเดย์  เดลินิวส์  ไทยรัฐ  มติชน  ข่าวสด  ผู้จัดการรายวัน 1กรกฏาคม 2551