เมื่อวานคือวันอาทิตย์ ได้ดูหนังเรื่อง "Chaos" ใช้ชื่อภาษาไทยว่า "หักแผนจารกรรมสะท้านโลก" โดยใช้ทฤษฎีความวุ่นวายมาเป็นธีมหลักของเรื่อง ก็สนุกดีครับในแง่ของภาพยนต์แอ็คชั่น สืบสวนสอบสวน แต่ผมชอบหนังฝรั่งตรงที่ให้คนดูคิดตาม แล้วจะหลอกให้เราสับสนจากนั้นก็จะหักมุม แต่ละรอยต่อของการดำเนินเรื่องมีเหตุมีผล เนื้อหาอ้างอิงข้อมูลจริงได้ไม่ได้เมคขึ้นมาส่งเดชเหมือนหนังไทย ตอนกลางๆเรื่องยังให้พระเอกหน้าละอ่อนหยิบเอาหลักของศาสนาพุทธมาใช้แก้ปัญหาอีกด้วย "เมื่อจะแก้ปัญหาให้กลับไปหาต้นเหตุของปัญหา คำตอบของปัญหาอยู่ที่ต้นเหตุ" น่าสนใจครับที่ธีมของเรื่องถูกผูกปมด้วยทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ แต่พอจะแก้ปมปัญหานั้นกลับเลือกให้พระเอกใช้หลักศาสนาพุทธมาใช้ แม้จะไม่ได้อธิบายหลักการในข้อนี้อย่างลึกซึ้งแต่ก็ชวนให้ฉุกคิดครับว่า ฝรั่งเป็นชนที่ชอบใช้ปัญญา หาเหตุหาผลและเริ่มยอมรับศาสนาพุทธมากขึ้นเพียงใด และที่สำคัญฝรั่งเข้าใจศาสนาพุทธมากกว่าคนไทยที่พยายามจะให้บัญญัติให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติเสียอีก
ขอออกนอกเรื่องซักนิดครับ พอพูดเรื่องความเข้าใจในศาสนาพุทธแล้วชวนให้นึกถึงคำพูดของ มาร์ติน วีลเลอร์ จากรายการของคุณจักรพันธ์ตอนเช้าทางช่อง 5 มาร์ตินพูดได้ดีและเข้าใจคนไทยมากครับ "คนไทยนับถือศาสนาพุทธ แต่คนไทยไม่ปฎิบัติตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้า คนไทยนับถือในหลวง แต่คนไทยไม่เคยเชื่อคำสั่งสอนของในหลวง" เจ็บกระดองทรวงดีครับ คนไทยยังคลั่งจตุคามกันทั้งๆที่ไม่มีเงินจะใช้หนี้ใช้สิน หามาได้เท่าไหร่ก็ไปกว้างซื้อจตุคามมาหวังเก็งกำไร สุดท้ายคือคนไทยไม่ได้เชื่อถือเรื่องอะไรเลยนอกจากความพึงพอใจเฉพาะหน้า ความพอใจชั่วครั้งชั่วคราว แล้วพอมาฟังท่านพยอมทาง TITV นี่สิ่ไปกันใหญ่ พิธีกรเค้าถามว่าที่คนไทยหันไปคลั่งไคล้จตุคามเป็นเพราะว่าคนไทยขาดที่พึ่งทางใจหรือไม่ ท่านก็อุตส่าดำน้ำตอบมาว่าสื่อหน่ะผิดที่ไปรับลงโฆษณาจตุคาม อ้าว...ตอบไม่ตรงคำถามแล้วยังไปโทษคนอื่น ก็ท่านซึ่งเป็นผู้ให้ความรู้เรื่องหลักคำสอนพระพุทธเจ้า แล้วทำอะไรให้มันเข้าท่ากว่าทำคุ๊กกี้ขายหรือไม่
เอาเป็นว่าจบเรื่อง Chaos เลยดีกว่า เดี๋ยวแฟนท่านพยอมจะต่อว่าเอา
ขายขำไงคับ