แบบอย่างที่ดีในใจของผู้อื่น...คือมรดกที่มีค่ามหาศาล


รายละเอียดต่างๆที่คนรอบข้างเก็บมาเล่า คือสิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดเจน

วันนี้อ่านข่าวทางการแพทย์ถึงการสูญเสีย Dr. Judah Folkman ผู้ซึ่งถือเป็นคุณหมอนักวิจัยที่สำคัญยิ่งในแวดวง Cancer research เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ปกติเวลาคนสำคัญๆแบบนี้เสียชีวิต เราก็จะได้รับรู้ประวัติและผลงานของท่านซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องน่าชื่นชมยกย่อง เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ

แต่สิ่งที่พิเศษสำหรับคุณหมอท่านนี้ซึ่งเราจะไม่ค่อยได้เห็นในรายอื่นๆ ก็คือ ท่านได้สร้างความประทับใจที่เป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ ไว้กับคนมากมายที่รู้จักท่าน สิ่งที่เรารับรู้ได้จากสิ่งที่ผู้คนทุกระดับชั้น ต่างนำมาแลกเปลี่ยนเล่าสู่กันฟังด้วยความรักและอาลัยท่านนั้น บอกให้เรารู้ว่า มรดกที่ท่านทิ้งไว้ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าผลงานตีพิมพ์ ผลงานวิจัย ก็คือ แรงบันดาลใจและแบบอย่างจากท่าน ซึ่งนอกจากจะทำให้งานการค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งได้รับการสานต่อจากทีมงานของท่านแล้วก็ยังจะสร้างคนดีๆแบบท่านให้โลกนี้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

มีถ้อยคำที่ระลึกถึง Dr. Judah Folkman มากมาย จากผู้คนที่ทำงานกับท่านทุกระดับตั้งแต่คนทำงานตัวเล็กๆไปจนถึงนักวิจัยชื่อดังมีผลงานตีพิมพ์มากมาย, คนไข้ที่รอดชีวิตจากมะเร็งด้วยวิธีการรักษาแบบใหม่ที่ท่านค้นพบ ขอนำตัวอย่างบางส่วนของความเห็นที่น่าประทับใจเอามาเล่าต่อไว้ตรงนี้ เพื่อเป็นการขยายพลังแนวทางดีๆของท่านให้พวกเราชาวไทยได้ช่วยกันสานต่อด้วย

คุณหมอนักวิจัยท่านหนึ่ง เล่าถึงสิ่งที่ Dr. Judah Folkman ได้แนะนำเมื่อเขาต้องการเลือกที่จะเป็นทั้งแพทย์และนักวิจัยว่า "ธรรมชาติสอนให้แพทย์ได้รู้สิ่งที่คนอื่นไม่รู้ หากเราให้ความสนใจอย่างจริงจัง ต้องคอยเรียนรู้อยู่เสมอและตั้งคำถามกับทุกเรื่องที่ได้รู้ คนไข้จะเป็นแรงกระตุ้นและนำทางไปสู่คำถามที่สำคัญ ผลักดันให้ค้นหาคำตอบอย่างไม่หยุดยั้ง และจะเป็นรางวัลที่หาค่าไม่ได้ถ้าการค้นพบคำตอบพวกนั้นได้นำกลับมารักษาพวกเขาให้หายจากโรคได้" คุณหมอท่านนี้บอกว่า เป็นโชคดีมหาศาลที่มีคนชี้ให้เห็นว่าวิชาชีพนี้มีโอกาสดีเช่นนี้ ซึ่งทำให้เขาชื่นชมกับทุกขณะที่ได้ทำหน้าที่แพทย์ ทำให้อดทนต่อความเหนื่อยล้าได้ เขาไม่เคยลืมถ้อยคำสอนเหล่านี้ และตัวเขาเองก็ได้นำมาสอนให้กับลูกศิษย์ต่อๆไป   

ส่วนลูกศิษย์และเพื่อนร่วมงานที่เป็นแพทย์ พยาบาลต่างก็บอกว่า Dr. Judah Folkman ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างของการทำความเข้าใจกับความเจ็บป่วยของคนไข้ แล้วใช้เป็นแรงจูงใจให้ค้นหาวิธีการรักษาที่ดียิ่งขึ้น เป็นตัวอย่างของผู้ที่อุทิศตนเพื่อคนไข้และใช้งานวิจัยเป็นเครื่องมือเพื่อคนไข้

มีคนหนึ่งที่บอกว่า ท่านอบอุ่นและฉลาดหลักแหลม เป็นส่วนผสมที่มหัศจรรย์ของหัวใจและมันสมอง เป็นคนที่มีบุคลิกภาพอันยิ่งใหญ่ คือมีทั้งความเมตตาเอื้ออาทร และยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น   

คนที่ได้พบท่านเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ก็ยังมาเขียนบอกว่า เมื่อตอนที่ลูกชายอายุ 12 ปีซึ่งเป็นมะเร็งในสมองมารักษา แล้วเธอได้มีโอกาสปรึกษาท่าน แม้ว่าท่านจะไม่สามารถช่วยอะไรหนูน้อยคนนั้นได้ เธอก็ยังจำได้ถึงความเห็นใจอย่างจริงใจจากท่านที่บอกตามตรงว่าไม่มีทางช่วยใดๆ ท่านทำให้เธอคิดได้ว่าเธอได้ทำดีที่สุดแล้วในการช่วยลูก สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอไม่เคยลืมคุณหมอและร้องไห้เมื่ออ่านพบข่าวการเสียชีวิตของท่าน

ลูกสาวของท่านได้ให้สัมภาษณ์ว่า วิธีการที่ท่านเลี้ยงดูลูกก็ถือเป็นแบบอย่างได้ ทุกเย็นในช่วงอาหารค่ำท่านจะถามว่าวันนี้ได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง และสอนให้มองเรื่องธรรมดาๆในมุมมองต่างๆ ซึ่งผู้ร่วมงานก็เล่าว่าท่านจัดให้มีการคุยกันในทีมทุกสัปดาห์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องต่างๆ  

มีกระทั่งผู้ที่บอกว่าอยากให้มีรางวัล Judah Folkman Physician/Scientist/Humanitarian Award ที่คนได้รับรางวัลควรจะภูมิใจมากกว่าได้รางวัล Nobel เสียอีก โดยที่รางวัลนี้ไม่ได้แจกกันทุกปี แต่ทำเฉพาะในวาระพิเศษที่มีใครสักคนที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมลึกซึ้งเช่นเดียวกับลักษณะของ Dr. Judah Folkman ซึ่งคงจะหาได้ยากยิ่ง

 

หมายเลขบันทึก: 161586เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2008 23:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอบคุณค่ะคุณโอ๋

ที่นำเรื่องที่ดี  ที่ทำให้มีพลัง  มาให้มิตรรักได้อ่าน

คุณโอ๋น่ารักเสมอค่ะ

สบายดีนะคะ

ขอบคุณค่ะ พี่โอ๋

ขอฝากเรื่องของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์  " บิดา30บาท"

ไว้ในบันทึก แบบอย่างที่ดีในใจของผู้อื่น...คือมรดกที่มีค่ามหาศาล ของพี่โอ๋นะคะ

อ๋อเขียนไม่ค่อยออกค่ะ เสียดายคนดี

อ๋อค่ะ

P

อ่านแล้ว เสียดายท่านมากนะคะ

ครูอ้อยที่รักคะ โอ๋ไม่ค่อยได้มีเวลาแวะไปบล็อกใครเลย แต่ก็มีคนน่ารักน้ำใจงามอย่างครูอ้อยมาให้กำลังใจกันเสมอๆ ทำให้อย่างน้อยก็ต้องเขียนทุกวันค่ะ  ขอบคุณมากๆค่ะ

น้องหมออ๋อคะ ท่านก็คงอยากให้พวกเราพยายามในแนวทางของเราต่อไปนะคะ แนวทางปฏิบัติของคุณหมอสงวนน่าจะสร้างพลังต่อเนื่องให้คนได้อีกมากค่ะ ขอเพียงเราคอยเล่าต่อๆกันอยู่เสมอเท่านั้นเอง ความดี แนวทางดีๆไม่มีวันตายค่ะ ฟังเสียงน้องหมออ๋อเหมือนจะเหนื่อยใจยังไงไม่ทราบ เป็นกำลังใจให้นะคะ อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการ"เก็บ"สิ่งหนักๆไว้ในใจนะคะ

ขอบคุณพี่ Sasinanda มากๆเช่นกันค่ะ สำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอตลอดมา ชื่นชมพี่มากๆค่ะที่สามารถแบ่งภาคทำอะไรๆที่มีคุณค่าได้มากมายเหลือเกิน

พี่โอ๋

แอบทราบได้ไงคะ ว่า อ๋อ "เก็บ"สิ่งหนักๆไว้ในใจนะคะ

ขำ ขำ ค่ะ  เดี๋ยวก็โอเค ขอบคุณค่ะ

อ๋อค่ะ

ปล.ตกใจนะคะเนี่ย รู้ได้ไงหว่า...อิอิ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท