เสียดาย...ฟัน (เหงือกจ๋า ฟันลาก่อน)


กำลังนั่งเจ็บระบมเหงือกด้านซ้ายอยู่ ทำอะไรก็ไม่มีความสุขเพราะมันตึ้บๆไปทั้งแถบ เป็นเหตุมาจากการที่ฟันซึ่งเคยอุดไว้เขาแตก เจ้าที่อุดไว้หลุดมาทั้งกะบิเมื่อสองสามวันก่อน ด้วยความที่เป็นโรคกลัวการทำฟันมากๆ ก็เลยทำใจอยู่หลายวัน แต่เนื่องจากฟันกรามด้านขวาก็บิ่นเล็กน้อยมาสักพักใหญ่ๆแล้ว เคี้ยวอะไรก็จะหลุดเข้าไปติดแล้วจะเสียวฟัน ทำให้ต้องเคี้ยวด้วยข้างซ้ายมาตลอด พอเขาแตกเสียแล้ว กลายเป็นฟันคมๆแถมมีรูเบ้อเริ่มอีก ก็เลยถึงเวลาต้องพบหมอฟันจนได้

ปรากฎว่าได้คิวค่อนข้างเร็ว เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ แต่ท่าทางคุณหมอก็เหนื่อย พอเราเข้าไปนั่ง คุณหมอก็บอกพี่ผู้ช่วยว่า มีคนไข้ใหม่อีกแล้วเหรอ ขอหมอหายใจก่อนนะ เลยบอกคุณหมอว่า ดีค่ะ พี่ก็จะได้ทำใจไปด้วยกลัวๆอยู่เหมือนกัน แต่คุณหมอก็ดูให้ทันทีนั่นแหละ เห็นปั๊บก็บอกทันทีว่า ต้องถอน เราฟังแล้วก็สยองเหมือนกัน อยากจะให้อุด แต่ถ้าหมอบอกถอนก็คิดว่าดีเหมือนกันจะได้เสร็จๆไป (ครั้งสุดท้ายที่มาหาหมอฟันก็ถอนไปแล้วหนึ่งซี่ และสำเร็จอย่างรวดเร็ว)

แต่คราวนี้รู้สึกจะคิดผิดไปหน่อย เพราะพอคุณหมอฉีดยาชาสักพักก็ถอนได้ ตอนที่คุณหมอฉีดยา เธอก็ยังคอยบอกตลอดว่า หมอฉีดยาชาหน่อยนะคะ พอฉีดด้านในก็บอกว่าตรงนี้เจ็บนิดนึงนะคะ นึง ส่อง ส้ำ ยังนึกในใจว่าคุณหมอน่ารักจัง พอเริ่มทำการถอน คุณหมอก็บอกให้ขยับหัวทางขวา เอียงหน้าก้มคอหน่อยนะคะ แล้วคุณหมอก็เริ่มทำการงัด เราก็รู้สึกหวาดเสียวไปด้วย เพราะท่าทางจะดึงยากทีเดียว ครั้งแรกที่ดึงออก ก็รู้สึกได้ถึงส่วนของฟันที่มันกระเด็นตึ้กลงไปในปาก คุณหมอเริ่มไม่พูดกับเราแล้ว แต่บอกพี่ผู้ช่วยว่า ขอน้ำเกลือหน่อย เราก็รู้สึกได้ถึงน้ำเค็มๆในปาก และความเครียดเล็กๆของคุณหมอ เริ่มงัดอีกรอบก็ตึ้ก ไปอีกที ได้ยินคุณหมอพึมพัมว่า มีสองราก แล้วก็เอาอะไรที่เหมือนเครื่องกรอฟันมาจี้ๆอยู่หลายรอบ เราก็ลุ้นไปด้วย รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน แม้จะไม่รู้สึกเจ็บเลย แต่ก็รู้สึกหนักๆในเหงือกตลอด ลุ้นไปกับการพยายามงัดของคุณหมอมากๆ ไม่ค่อยรู้สึกเลยว่าฟันหลุดไปหรือยัง สุดท้ายก็ได้โล่งใจเมื่อได้รับการบอกให้กัดผ้าก๊อซเสียที เห็นรากฟันที่กองอยู่ในถาดแล้วก็สยองเชียวเพราะค่อนข้างใหญ่ทีเดียว

ใช้เวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เดินกลับมาที่แล็บ 11 โมงกว่าๆเป็นเวลาพักพอดีเพราะวันนี้อยู่เวรเที่ยง รู้สึกหนักๆที่แก้มซ้ายเป็นอย่างยิ่ง ยังกินอะไรไม่ได้แน่ๆก็เลยกลับมาอ่านเมลที่บ้าน กลับไปอยู่เวรเที่ยงพร้อมนม 1 กล่องเตรียมเอาไว้ดื่มหลังอยู่เวร ปรากฎว่าความเจ็บระบมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำงานไปขมวดคิ้วนิ่วหน้าไป พี่ประจิมคู่เวรกับเราก็ได้แต่ปลอบใจ ถึงเวลาบ่ายโมงที่คุณศิริมารับช่วงต่อ เราก็เกือบจะทนไม่ไหวแล้ว เจ็บมากๆอยากจะคายผ้าเสียทีเผื่อจะเจ็บน้อยลง แต่ปรากฎว่าคายไปแล้วก็ต้องล้างปากอยู่หลายรอบกว่าน้ำเค็มๆในปากและคราบเลือดจะพอทนได้ และสามารถกลืนยาแก้ปวดได้ ดูดนมไปได้กว่าจะหมดกล่องก็ทรมานเหลือเกิน นั่งรอเวลาให้ยาออกฤทธิ์ เพราะขยับไปไหนไม่ได้เลย ปวดเหลือเกิน ใครผ่านไปผ่านมาก็มาปลอบใจกันทั้งนั้น

อีกครึ่งชัวโมงต่อมาก็ดีขึ้น ลุกไปทำงานเอกสารที่ตั้งใจไว้ได้ แต่สักพักอาการระบมก็กำเริบ รู้สึกเหมือนโดนชกแก้มด้านซ้ายมาเลย เพราะมันเจ็บระบมไปทั้งเหงือกด้านซ้ายเลย พี่ปนัดดาแนะนำให้เอาถุงน้ำแข็งมาประคบ ช่วยได้เยอะทีเดียว

ทำให้เย็นวันนี้ ขอเมนูเป็นข้าวต้มกินกันทั้งบ้าน ตอนแรกคิดว่าคงค่อยๆกลืนได้นิดเดียว แต่คงเป็นเพราะความหิว นั่งกลืนไปเรื่อยๆได้จนหมดถ้วยเลย ทำกิจกรรมไปตามปกติและพยายามกำหนดใจว่าอย่าไปคิดถึงอาการระบม แต่ก็ทำได้ยากจริงๆเพราะระบมมากๆ

มานั่งย้อนคิดว่า เสียดายจังที่ไม่ได้ถามคุณหมอเลยว่า รักษาฟันนี้เอาไว้ไม่ได้เหรอ เพราะท่าทางเขาจะเป็นฟันใหญ่ที่ทนทานมานานปี อุดกันมาได้ตั้งนานมากๆ ตั้งแต่สมัยก่อนไปเรียนต่อ ยิ่งรู้ว่ามีถึงสองรากก็ยิ่งเสียดาย คิดว่าการรักษาฟันนี่เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันนะคะ เพราะเมื่อถอนออกไปแล้วนี่ก็เรียกว่า ถอยกลับไม่ได้แล้วแน่นอน การจะใส่ฟันปลอมก็คงยากเพราะเท่าที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ก็ไม่ work เลยเพราะเราทนใส่ไม่ได้ เสียตังค์ไปฟรีๆหลายอยู่

บทเรียนจากตัวเองสมัยเด็กๆ ทำให้ดูแลลูกเรื่องฟันอย่างทุ่มเทมาก เห็นว่าเป็นเรื่องสุขภาพพื้นฐานที่สำคัญในระยะยาวจริงๆ เพราะถ้าเรารักษาเขาไว้ดีๆตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการระวังรักษาสม่ำเสมอ โอกาสที่เราจะสูญเสียเขาไปในยามอายุเยอะๆก่อนเวลาอันควรก็น้อยลง

ใครที่ยังมีฟันดีๆอยู่ อย่าลืมดูแลรักษาเขากันไว้ด้วยนะคะ อย่าให้ต้องอำลากันไปก่อนเหมือนเหตุการณ์ที่เล่ามาเลยนะคะ  

หมายเลขบันทึก: 289862เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2009 23:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน 2012 17:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เรื่องนี้ ต้องตั้งชื่อว่าเหงือกจ๋า ฟันลาก่อน

แต่ถึงจะถอนแล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่จะรักษาค่ะ ทดลองปรึกษาหมอฟันดูก็ได้ค่ะ เดี๋ยวนี้มีวิทยาการใหม่ๆดีๆเนอะค่ะ

ชอบใจคุณใบบุญแนะนำค่ะ เอาไปใส่เพิ่มในชื่อบันทึกแล้ว วันนี้ก็ยังต้องพึ่งยาแก้ปวดอยู่เลยค่ะ รู้สึกว่ายังเจ็บเหงือกมากๆ ทนไม่ไหวจริงๆ น่าจะตั้งชื่อว่า เหงือกจ๋า ข้าขอโทษ...ด้วยนะคะเนี่ย

คิดว่าคุณหมอเธอก็คงคิดอย่างที่คุณใบบุญบอกนั่นแหละค่ะ ถึงเห็นปั๊บก็บอกปุ๊บว่าต้องถอน เพราะเขาแตกเป็นฟันฉลามเลยค่ะ แต่ก็อย่างว่าเป็นโรคกลัวการทำฟัน อาจจะต้องทำใจนานกว่าจะไปหาอีกรอบ ยังมีที่อุดไว้หลุดเล็กๆอยู่อีกเลย บรื๋อ...

เสียดายที่ไม่ได้ไปเชียร์ข้างเตียง

อ.หมอแป๊ะ...ใจร้ายหรือใจดีคะนี่ วันนี้ยังไม่หายระบมเลยค่ะ เข็ดจังเลย

มาเป็นกำลังใจ เข้าใจเพราะหัวอกเดียวกันครับ

ขอบคุณ อ.เต็มฯมากค่ะ นี่กำลังสงสัยว่าเขาจะเจ็บไปอีกกี่วัน วันนี้ก็ยังตึ้บๆอยู่เลยค่ะ เคี้ยวมากๆพูดมากๆไม่ได้เลย มันจะปวดเหงือกไปทั้งแถบ (ขนาดเคี้ยวคนละข้าง)

อาจารย์หัวอกเดียวกันแบบไหนคะ แบบกลัวการทำฟันหรือทำฟันมาแล้วกำลังเจ็บอยู่ จะได้เอาใจช่วยถูกค่ะ ทรมานจริงๆนะนี่ ฮือ..ฮือ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท