สวัสดีครับ ศ.ดร.จีระ คณะกรรมการบริหารโครงการฯ และท่านผู้อ่านทุกท่าน

ครับ ยินดีต้อนรับสมาชิกผู้เข้าร่วมสัมมนา โครงการผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง รุ่นที่ 2 ที่ได้เข้ามาร่วมโครงการนี้  และปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง รุ่น 1 ก็ได้มาเยี่ยม และให้กำลังใจ รุ่น 2 และให้กำลังใจกับคณะทำงาน 

ขอชื่นชมคณะทำงาน ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย โดยการนำ ของ ผอ.วิทย์ ที่บริหารจัดการโครงการผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง ให้ดำเนินไปได้เป็นอย่างดี และทำให้เกิดรุ่นสอง และรุ่นสามอีกด้วย

สำหรับ ผู้เข้าร่วมสัมมนา รุ่นที่ 2 ผมขอต้อนรับท่านเข้าสู่โครงการฯขอให้ท่านประสบความสำเร็จกับการสัมมนาครั้งนี้  เราจะได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นกันและกัน ในการสัมมนาหลักสูตรนี้

ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน

ความคิดเห็นกลุ่ม 1 นำเสนอโดยคุณคำรณ สหกรณ์ออมทรัพย์คำ

• รู้สึกประทับใจ
• สหกรณ์มี 7 ประเภท การทำงานสหกรณ์ต้องมีเครือข่ายเชื่อมข้อมูลกัน
• ปี 2540 สหกรณ์ไม่ฟุบตามเศรษฐกิจ

ความคิดเห็นกลุ่ม 2

การเรียนรู้ ต้องเพิ่มvalue

ความคิดเห็นกลุ่ม 3 นำเสนอโดย ประธานสหกรณ์จากปากช่อง

• สหกรณ์ต่อสู้ผลักดัน วันนี้จะขอเพิ่มราคาน้ำนมดิบ แต่ติดต้องเข้าครม. ต้องเชื่อมโยงหน่วยต่างๆ

ความคิดเห็นกลุ่ม 4

• เกษตรกรเป็นคนปลูกพืช แต่ต้องซื้อพันธุ์จากนายทุน สหกรณ์ต้องเชื่อมโยงช่วยกันแก้ปัญหา

ความคิดเห็นกลุ่ม 5 นำเสนอโดยท่านปลัด

• ผมอยากเห็นสหกรณ์มีความเข้มแข็ง แต่ตอนนี้อำนาจต่อรองแทบไม่มีเลย
• เราภูมิใจที่ได้เข้าหลักสูตรนี้ ควรใช้โอกาสนี้พัฒนาตนเอง

ความคิดเห็นกลุ่ม 6 นำเสนอโดย ผู้แทนจากสหกรณ์จากตรัง

• HRDS เราเน้นความสุขสมาชิก เราต้องการแปรรูปปาล์มเป็น bio diesel ให้ความสำคัญเรื่องพลังงาน
• เราอยากเปลี่ยนแปลงให้สหกรณ์สู่ความเป็นเลิศ

ความคิดเห็นกลุ่ม 7 นำเสนอโดย ผู้แทนจากสหกรณ์เชียงราย

• ผู้นำต้องรู้จริง ศึกษาให้รู้จริง และรู้จักตนเอง สร้างศรัทธาให้ได้

เรียน อาจารย์ใหญ่ หลักสูตรผู้นำขั้นสูง รุ่น 2

ผมมีความประทับใจกับคณะผู้นำสหกรณ์ ทั้ง 40 คน มาก เพราะทุกคนมีความตั้งใจสูง และมีความคาดหวังกับหลักสูตรนี้มาก ดังนั้น ก็ฝากอาจารย์ได้ให้กำลังใจมาก ๆ เพราะแต่ละคน ค่อนข้างกังวลว่าจะจบหลักสูตรไหม ก็ขอบอกว่า ถ้าท่านสนใจ และเข้ารับฟังการบรรยายและกิจกรรมอยู่ในเกณฑ์ ก็เชื่อแน่เหลือเกินว่าทุกท่านจบแน่นอน ก็ฝากอีกเรื่อง เกี่ยวกับโครงการพัฒนาสหกรณ์ ถ้าท่านมีหัวข้อในใจแล้วสามารถนำมาปรึกษาอาจารย์ยม นาคสุข ได้นะครับ และที่สำคัญผู้นำที่ยังไม่เข้าใจเรื่องการใช้ blog ก็สอบถามเจ้าหนัที่สถาบันพิทยาลงกรณได้ ทุกคนต้องมีรหัส e-mailด้วยนะครับ

ด้วยความรักและเป็นห่วงผู้นำที่รักทุกท่าน

วิจิตร จะโรจร

หัวหน้าสถาบันพิทยาลงกรณ

(081-8390466)

สวัสดีครับ อาจารย์จีระ

วันนี้ วันที่ 2 ของหลักสูตร เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ความรู้จากที่เคยมีอยู่และส่งคืนครู

เริ่มกลับมาฟื้นฟูอีกครั้งแล้วครับ

รุ่น 2

เมธาภิวัฒน์

ผมภูมิใจที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานเปิดโครงการ "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" รุ่น 2 ซึ่งจัดโดย สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย  และมีพณฯท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ท่านธีระชัย แสนแก้ว มาเป็นประธานในพิธีเปิด

ผมดีใจที่ได้เห็นความมุ่งมั่นและตั้งใจของทุกท่าน หวังว่า ทุกท่าน จะได้ใช้ Blog แห่งนี้ ให้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และร่วมแบ่งปันแสดงความคิดเห็นกันต่อไป

                                              ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

สวัสดีครับ คณะกรรมการบริหารโครงการ สมาชิกผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง และ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

เช้านี้ ได้มาร่วมกิจกรรมตอนเช้า  เวลา 8.30 น.  ครับ ได้เห็นแววผู้นำจากสมาชิก ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง ได้ออกมาพูดเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นกติกา ที่ทางโครงการกำหนดให้ ผู้เข้าร่วมสัมมนา แต่ละท่าน ได้ออกมาแสดงความเป็นผู้นำ และได้แนะนำตนเอง ให้ทุกท่านได้รู้จัก

สุดท้าย เมื่อผู้นำสองท่านได้พูดไปสองท่านแรก ถือว่า เป็นผู้นำที่เก่งกล้า  เพราะอาสาออกมาเป็นตัวอย่างที่ดี  ครับ ผมได้เสนอแนะเพิ่มเติมไปว่า 

นับจากนี้ ไป การพัฒนาขีดความสามารถ สมรรถนะหรือ competency ของ ผู้นำ จะเริ่มทุกวินาที เริ่มจากการเป็นผู้พูด และผู้ฟัง ครับ

ผมได้เสนอแนะว่า เพื่อให้การพูดและการฟังของผู้นำสหกรณ์ ชั้นสูง รุ่นที่สอง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผมเสนอว่า สิ่งที่ควรเป็นประเด็นที่พูดอย่างน้อยขอให้มี สามประเด็น ครับ ได้แก่

หนึ่ง ประเด็น แนะนำตัวท่านให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก 
สอง ประเด็นความสำเร็จที่ท่านภาคภูมิใจ ต่อการบริหารองค์การ สหกรณ์ของท่าน
และสิ่งที่เป็นปัญหาในการบริหารจัดการที่ท่านพบ หรือหากไม่มีปัญหา ก็พูดถึงประเด้นที่ท่านอยากจะพัฒนาอะไร ให้องค์การ สหกรณ์ของท่านมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สาม ประเด็น แนวคิด ปรัชญา การทำงาน ที่ท่านอยากจะบอกเพื่อน  หรือ มีข่าวสาร สาระความรู้ที่น่าสนใจ มาแชร์ เพื่อน ๆ ผู้เข้าร่วมสัมมนา
ครับ สามประเด็นนี้ ท่านต้องควบคุมประเด็น และเวลา ไม่เกิน 10 นาที ครับ  ถ้าหากสามารถควบคุมเวลาให้เสร็จก่อนสิบนาที เปิดโอกาสให้เพื่อน ๆ ได้ซักถามบ้าง ก็จะยิ่งดีครับ  เป็นเรื่องท้าทาย ขีดความสามารถของการเป็นผู้นำยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 ครับ

ส่วน ผู้รับบทเป็นผู้ฟัง  ครับ ก็ควรต้องแสดงภาวะผู้นำในการฟังครับ คือ ให้กำลังใจผู้พูด สายตามองผู้พูด จับประเด็นให้ได้  มองแง่ดี หากมีสิ่งใดสงสัยหรืออยากทราบเพิ่มเติม ก็ยกมือขอถาม ผู้พูด แสดงให้เห็นว่า เราสนใจและปรบมือให้กำลังใจ ฯ กันและกันครับ

นี่เป็นเบื้องต้นสำหรับกิจกรรมยามเช้า ที่เราจะมีการเสวนา แนะนำตัวผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง  ผมเชื่อมั่นว่า ทุกท่านจะสามารถบริหารจัดการตรงนี้ได้เป็นอย่างดี และขอส่งกำลังใจมา ณ โอกาสนี้

สวัสดี

อ.ยม นาคสุข(DPA candidate, MPPM, MPA,BA)
gotoknow.org/profile/yom-nark

ขอสนับสนุน และขอชื่นชมแนวคิดของท่านอาจารย์จีระ หงส์ลดารมภ์ ต่อการริเริ่ม โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ เพราะผู้นำถือเป็นหัวใจขององค์กร ที่จะต้องบำรุงและเสริมสร้าง ให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา

ผมอยากเสนอให้วิทยากรมีการเน้นย้ำ ถึงปรัชญาสหกรณ์ด้วย เพราะนั่นน่าจะเป็นเจตนาของการจัดตั้งสหกรณ์ที่รัฐต้องการ เพื่อให้ผู้นำได้ตระหนักถึงแนวทางการนำสหกรณ์ที่แท้จริง

ว่าที่ ร.ต.จรูญ ชูลาภ

สวัสดีคะอาจารย์จิระ หงส์ลดารมภ์ และอ.ยม นาคสุข

และคณะผู้จัดโครงการผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 2

ก่อนอื่นรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ เดิมก่อนเข้ามารับการอบรม ได้อ่านโครงการนี้จาก web ของสันนิบาตฯ เห็น อ.จิระเป็นผู้บริหารโครงการ อึ้งเหมือนกันเพราะเคยเป็นลูกศิษย์ อาจารย์มาก่อน รู้ว่า อ.จิระมีความตั้งใจสูงในการที่จะสอนลูกศิษย์ทุกคนให้ได้รับความรู้ให้มาก และสามารถนำไปต่อยอดได้ มีการทำโครงการนำเสนอด้วย น่าจะยากแน่ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อยิ่งอ่านหัวข้อรายวิชา ยิ่งน่าสนใจ เพราะเหมาะกับการงานของสหกรณ์ และคิดว่าจะต้องได้รับความรู้ที่เรายังไม่เคยรู้ก็ได้ และคิดว่าถ้าเราพยายามก็คงน่าจะทำโครงการได้ เวลาตั้ง 150 ชม.ต้องได้ความรู้มากมายแน่ และเมื่อเข้าโครงการน่าจะได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์สหกรณ์ด้วย อาจทำให้มีเครือข่ายเพิ่มขึ้น เผื่อมีปัญหาหรือขอข้อเสนอแนะ จากผู้เข้าอบรมน่าจะดีกว่าอยู่แต่ที่ทำงาน

เมื่อวานวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 วันแรกของการไปปฐมนิเทศ พิธีเปิดโดยรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรฯ เปิดโครงการ โดย อ.จิระ หงส์ลดารมภ์ บรรยายถึงผู้นำแบบชุดกระเป๋า ที่น่าสนใจมากๆคือ แนวคิด เรื่อง รู้-รัก-สามัคคี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กฎของ Peter Senge ที่สอดคล้องกันคือรู้อะไรให้รู้จริง คิดอย่างมีเหตุผล มีการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อให้เห็นอนาคตร่วมกัน และสุดท้ายน่าเป็นเครือข่ายร่วมกันได้ ระหว่างสหกรณ์

สำหรับวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของหลักสูตร เรียนโลกาภิวัฒน์ กับแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่สามารถนำมาใช้ร่วมกัน โดยประยุกต์กับสหกรณ์ได้ เรื่องการแก้ปัญหาให้กับสมาชิก เรื่องของการใช้ชีวิต การประกอบอาชีพ การดูแลสุขภาพ การสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง

สรุป ความรู้ที่ได้จะพยายามนำมาศึกษาเพิ่มเติม และนำมาประยุกต์ใช้กับสหกรณ์ของดิฉันอย่างเมความสามารถ และคาดหวังว่าจะต้องให้ประสบความสำเร็จให้ได้ แม้จะต้องใช้ความพยามยามแค่ไหนก็ตาม

ขอแสดงความเคารพและนับถือ

วรวรรณ ส่องพลาย

สวัสดีค่ะ อ.ดร จีระ , ผู้บริหารโครงการ และผู้นำสหกรณ์ทุกท่าน

วันนี้ช่วงเช้าได้เรียนรู้เรื่องโลกาภิวัฒน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชอบ และก็คิดอยู่เสมอว่าการก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการติดตามข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย จะทำให้สหกรณ์ของเราได้เปรียบกว่าผู้อื่น ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้นำสหกรณ์จะมีแนวคิด กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดอย่างไรในการบริหารงานสหกรณ์ให้เข้มแข็ง เคยได้ยินหล่ายๆ ท่านที่นับถือกล่าวว่า ความเจริญก้าวทางเทคโนโลยีมักจะสวนทางกับจริยธรรมของคนเรา มนุษย์จะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากขึ้น การช่วยเหลือสังคมจะน้อยลง อาจารย์และเพื่อนๆ มีความเห็นในประเด็นนี้อย่างไรค่ะ

ช่วงบ่ายเรียนรู้เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำอย่างไรจะทำให้สมาชิกสหกรณ์กู้เงินเฉพาะที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่ของครอบครัว มากกว่าการยึดติดกับการใช้ของแพงๆ เกินตัว เพราะชีวิตที่มีแต่หนี้ (ที่ไม่จำเป็น ) ไม่อาจทำให้เรามีความสุขไปได้เลย

เมื่อผนวกเรื่องของโลกาภิวัฒน์กับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว คณะกรรมการสหกรณ์ก็ต้องพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง และส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ของเราก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยยึดความพอเพียง และการมีจริยธรรมที่ดีงาม ไม่สวนทางกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

พรุ่งนี้มีการบรรยายภาษาต่างประเทศ ทุกท่านโปรดติด Talking Dict

มาให้อุ่นใจด้วยนะค่ะ (ฟังออกหรือไม่ออก ก็คอยลุ้นเอาแล้วกันค่ะ )

อรุณี วงศ์ราเชน ผู้นำสหกรณ์ รุ่น 2 ค่ะ

การเรียนในวันนี้(12/07/08) หัวข้อโลกาภิวัฒน์และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ทั้ง 2 หัวข้อหากนำมาหลอมรวมกันเพื่อใช้กับสหกรณืก็สามารถใช้ได้อย่างไม่เคอะเขิน เพราะสหกรณ์ไม่ใช่ว่าจะต้องอยู่ในกรอบที่พยายามจะมีการตีกรอบไว้ให้เท่านั้น จะต้องมีการพัฒนาและปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ละทิ้งรากเหง้าเดิมคือหลักการและวิธีการของสหกรณ์ ขณะเดียวกันก็สามารถนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่ก้าวกระโดดจนเกินไป

สวัสดีค่ะ อาจารย์จิระ

การเรียนเรื่องโลกาภิวัฒน์ ทำให้ได้ความคิดว่าในอนาคตอันใกล้ โลกจะต้องเผชิญกับอะไร จะได้เตรียมความพร้อมและใช้ประโยชน์จากโลกาภิวัฒน์มาพัฒนาสหกรณ์ให้ทันการเปลี่ยนแปลง โดยประยุกต์กับเศรษฐกิจพอเพียง จะทำให้สหกรณ์สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง ซึ่งดิฉันคิดว่าได้ประโยชน์คุ้มกับที่ได้อบรม

อรวรรณ ผู้นำสหกรณ์รุ่น 2

เรียน  คุณจรูญ

          สวัสดีคุณจรูญ ผู้เข้าร่วมโครงการ และชาว Blog ทุกท่าน

      ผมเห็นด้วยกับคุณจรูญครับ ผมจะนำหลักปรัชญาเกี่ยวกับสหกรณ์ มาเพิ่มในเนื้อหาเพื่อจะได้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้นครับ

                               ขอบคุณครับ

                                                  จีระ  หงส์ลดารมภ์

จากทฤษฎี HRDS(Happiness/Respect/Dignity/Sustainability)

เราจะต้องพัฒนาตนเอง และพัฒนาตลอดเวลา โดยมองตัวเองก่อนว่าขาดอะไร ยอมรับความจริง และต้องยอมรับว่ามีอะไรอีกมากที่ยังไม่รู้

I KNOW WHAT I DON'T KNOW (ฉันรู้ว่าฉันไม่รู้อะไร ?)แต่คนส่วนใหญ่ชอบพูดว่า I DON'T KNOW WHAT I DON'T KNOW (ฉันไม่รู้ว่าฉันไม่รู้อะไร ?)

สรุป อาจารย์จีระ อยากเห็นผู้นำสหกรณ์ ต้องคิดเป็น วิเคราะห์เป้น โดยใช้ทฤษฎี 4L's และทฤษฎี 2R's เป้นหลัก ที่สำคัญที่สุด คือ Life Long Learning ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง ความมั่นใจเกิดจากความพร้อม และรู้จริง ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุขและมีความสมดุลในชีวิต

เรียน อาจารย์จีระ

อาจารย์จะเน้นเสมอเรื่อง สื่อมวลชนจะลงแต่ข่าวสหกรณ์อ่อนแอ ดิฉันเจอ ท่านแก้วขวัญ วัชโรทัย ในลิฟท์โรงแรมที่มุกดาหาร ท่านถามอยู่ที่ไหน ? ดิฉันบอกว่ามาจากสหกรณ์ ท่านถามว่า "สหกรณ์เข้มแข็งหรือไม่" ช่วงนั้น ท่านแก้วขวัญ ไปดูตลาด2 ชั้น ริมนำโขง เพื่อจะมาทูลในหลวง ถึงความเป็นไปได้ในการนำมาเป็นตัวอย่างสร้างสหกรณ์ตลาดโบ๊เบ๊

ธญา โบสุวรรณ

ครบุรี โคราช

ดีใจที่ได้เข้าร่วมในหลักสูตรนี้ครับ

ดิฉัน ธญา โบสุวรรณ์ ผู้จัดการ จากสหกรณ์การเกษตร จำกัด จังหวัด นครราชสีมา สนใจใบสั่งที่อาจารย์พูดเกี่ยวกับพลังงานจากมันสัมปะหลัง กำลังเชิญ ผ.อ.วิทย์ พาโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากหัวมันสำปะหลังไปชี้แจงให้ข้อมูลกับชาวสหกรณ์การเกษตรที่ จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้ค่ะ

หนูชอบที่อาจารย์บรรยายมาก หนูอยากให้สหกรณ์ทำเรื่องพลังงานอย่างครบวงจร หนูอยากทำเรื่องส่งออกมากที่สุด แต่ยังทำไม่สำเร็จ และอยากให้สหกรณ์ การเตรียมทั้งหมด ต้องเปลี่ยนแปลงตนเองและองค์กร เพื่อให้องค์กรอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจทุกยุคต่อไป

สถาบันพิทยาลงกรณ (สพล)

ปรัชญา สพล. พาเพลิน

ชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ เราถนัดบูรณาการงานสร้างสรรค์

วิชาการใช้นำเป็นสำคัญ ประสบการณ์นานวันจึงมั่นใจ

สพล.พาเพลินเชิญเรียนรู้ สพล.พาสู้ รู้แก้ไข

สพล.พารุก รุดหน้าไป สพล.พาให้ร่วมใจกัน

วิสัยทัศน์สูงส่งและองอาจ ประเด็นยุทธศาสตร์ ฉลาดสรรค์

เป้าประสงค์หมายมุ่งอย่างมาดมั่น กลยุทธ์แข่งขันและมั่นใจ

สว้สดีครับ ผู้นำสหกรณ์

ผมขอชื่นชมทุกท่านที่เข้าร่วม โครงการพัฒนาผู้นำฯ รุ่นที่ 2 แสดงให้เห็นว่า วงการสหกรณ์มีความหวังมากขึ้น เพราะวันนี้ ผู้นำเป็นคำตอบที่สำคัญยิ่งสำหรับการขับเคลื่อนขบวนการสหกรณ์ และสังคมไทย.....

ประเทศไทยกำลังขาดแคลนผู้นำ? เรามีคนที่อยากนำเยอะ แต่ขาดภาวะผู้นำ ขาดสมอง ขาดหัวใจ การนำ.....

โครงการนี้ ผมหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างภาวะผู้นำให้แก่ขบวนการสหกรณ์ และสังคมไทย.....

วิทย์

เรียน ท่าน ศ.ดร.จีระ

ก่อนอื่นผมต้องขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่งท่านมีอุดมการณ์อย่างแน่วแน่ที่กระตุ้นให้พวกเราผู้นำสหกรณ์ทุกคนมีความตื่นตัวต่อการเรียนรู้ในเรื่องวิธีการ การสร้างบรรยากาศ การสร้างโอกาส และการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ เพิ่มมากขึ้น โดยเน้นให้ใช้หลักของทฤษฎี 2Rs คือการมองที่ความเป็นจริง และการกระทำสิ่งต่างๆ ให้ตรงประเด็น ฉะนั้นสหกรณ์ทุกภาคต้องยึดหลักวิธีการคิดที่ว่า เราจะทำอะไร ทำอย่างไร ทำเพื่อใคร และท่านทำแล้วจะได้รับอะไร และความเห็นส่วนตัวเห็นว่าทุกภาคสหกรณืต้องจริงจังต่อการสร้างเครือข่ายและให้ความร่วมมือต่อระบบและลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังด้วยครับ.

เรียน ท่านอาจารย์จีระ ที่เคารพ

ท่านคงจำลูกศิษย์คนนี้ได้ ก็คนที่บอกท่านว่าท่านเป็นคนที่น่ากลัวมาก ที่เปรียบท่านว่าท่านเหมือนลูกระเบิดแต่เป็นระเบิดทางปัญญา

สวัสดีครับ

สรุปแนวคิด ด้านเศรษฐศาสตร์กับสหกรณ์ภาคการเกษตร

สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

ภาวะเงินเฟ้อ ราคาน้ำแพง ต้นทุนการน้ำเข้า สินค้าเกษตรราคาต่ำ

สรุปผลกระทบต่อสหกรณ์

1. ภาวะดอกเบี้ยสูง

2. ต้นทุนสินค้าเกษตรสูง เช่น ปุ๋ย ค่าขนส่ง

3. สินค้าเกษตรราคาต่ำ

แนวทางพัฒนาสหกรณ์

1. พัฒนาบุคคลากรของสหกรณ์ โดยหน่วยงานภาครัฐเข้ามาจัดการอย่างจริงจัง

เกี่ยวกับระบบสหกรณ์

2. เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และบริการ

3. ส่งเสริมสมาชิกสหกรณ์พึ่งพาต้นเอง เช่น ปลูกพืชพลังงานทดแทน ทำปุ๋ยใช้เอง

ท่านใดมีความคิดเห็นต่างจากนี้ มาแชร์กันครับ

รุ่น 2

เมธาภิวัฒน์

เรียนอาจารย์ ดร จิระ หงส์ลดารมภ์

กระผมมีความภาคภูมิใจที่มีโอกาสเป็นลูกศิษย์อาจารย์ ดร จิระ หงส์ลดารมภ์ ผมได้รับความรู้ในเรื่องที่รู้บ้างก่อนอบรม หลังจากฟังอาจารย์แล้วได้ทราบแนวการปฎิบัติ ผมจะนำไปพัฒนาองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลังพัฒนาแล้วได้ผลอย่างไร จะรายงานให้อาจารย์ทราบเป็นระยะๆต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

อดิศักดิ์ ว่องเล่ห์

เรียน ศ.ดร.จีระ

          ผมว่าได้อะไรเยอะแยะจาก อ.จีระ เพราะ สก.ลงประเด็นการแข่งขันซึ่งกันและกันมาตลอด ขาดการเชื่อมโยงอย่างจริงจังและพัฒนามนุษย์อย่างจริงจัง

          ในเมื่อได้รับฟัง อ.จีระ แล้วเรื่อง สก. ผมว่าเป็นง่ายแต่อาจจะยากับการปฎิบัติ แต่มั่นใจว่าทำได้ ในเมื่อ สมาธิเข้าใจและศรัทธา และร่วมใจกันเป็นพลังที่ขับเคลื่อน ผมมั่นใจว่า สก ไทยคงจะแข็งแรงในเวลาอันรวดเร็ว ผมให้สัญญาว่าผมทำได้เพราะเคยทำมาแล้ว เรื่องแรกเปลี่ยนสินค้าระหว่าง สก

          ธกส.สงขลา เคยส่งพันธ์ยางพารา แลกกับข้าวสารมีส่วนเกษตรให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินทุนซึ่งกันและกันเสริมสภาพคล่อง อีกอย่าง อุปสรรค์ โอกาสของ สก.เอง

          ผมว่ามีเยอะอยู่แล้ว เศรษฐกิจพอเพียงก็ได้ปลูกฝัง ของคนไทยมานานแล้ว ก็ยังขาดการดูแล ติดตามอย่างจริงจังก็เท่านั้นเอง ยังไงก็มั่นใจว่าทำได้แน่ครับ

สวัสดี ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

          ตามที่ผมได้ฟัง อาจารย์บรรยายมาผมมีความรู้สึกว่าสหกรณ์ไทยทุกประเภท ของเราจะ 100 ปี อยู่แล้ว ยังล้มลุกคลุกคานอยู่

          ผมฟังท่าน อาจารย์จีระ บรรยายผมจับประเด็นสำคัญที่สุด คือ ติดอาวุธทางปัญญาให้กับ “ทรัพยากรมนุษย์” เวลาที่ผ่านมาผมเฝ้ามองคนที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองของเราและมาดูงานด้านสหกรณ์ขาดความรู้ความสามารถและเข้าใจเรื่องสหกรณ์อย่างแท้จริง ส่วนคนที่เข้าบริหารสหกรณ์ก็ขาดความรู้ความสามารถเช่นกัน

          ผมจึงคิดว่าโครงการนี้ มีท่าน อาจารย์จีระ หงส์ลดารมภ์ เป็นประธานโครงการ “ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูงรุ่นที่ 2” ผมเห็นว่าโครงการนี้ตรงประเด็นถือเวลาแล้วต้อง “พัฒนาทรัพยากรมนุษย์” อย่างแท้จริง และเอาจริงเอาจัง เพื่อให้ขบวนการสหกรณ์ของเรามีพลังต่อรองกับอำนาจรัฐ เพราะคนของเรามีความรู้ความสามารถจะได้นำขบวนการสหกรณ์ของไทยไปสู่เป้าหมายให้จงได้

                                                           ขอขอบคุณครับ

                                                นายประจวบ คงเป็นสุข

ดิฉันเชื่อว่า บุคลากรของสหกรณ์ ต้องได้รับการพัฒนาสหกรณ์ จึงจะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างยั่งยืน

          แต่ที่ผ่านมา สหกรณ์ภาคเกษตรยังมีบุคลากรที่ขาดความรู้จริงอยู่เป็นจำนวนมาก และผู้ที่มีหน้าที่พัฒนาคนของสหกรณ์ ก็ยังไม่ได้ให้ความสำคัญอย่างแท้จริง ดิฉันได้พบว่าหลักสูตร หรือการได้รับการฝึกอบรมของกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะมีเนื้อหาสาระที่สนองตอบนโยบายของกรม ซึ่งตอบสนองภาครัฐ และในบางครั้งมีความรู้สึกว่าจัดเพื่อต้องการใช้งบประมาณที่ได้มาให้หมดไปไม่ตกแผน

          คนสหกรณ์ฯที่ไม่เข้มแข็ง ยังต้องอาศัยศึกษาหาความรู้ผ่านกรมอยู่ ก็ยังคงต้องเป็นกบในกะลา เพราะไม่เคยถูกสอนให้คิดอย่างเป็นระบบ คิดไม่เป็น ไม่รู้จริง เมื่อลงมือทำสิ่งใด จึงไม่ประสบความสำเร็จ จึงเห็นด้วยกับอาจารย์ว่าจะทำอะไรต้องมีความรู้ ต้องรู้ให้จริง

                                                ไพรพนา 

                        ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรไทรน้อย

จากไฟที่กำลังจะดับ กลับมาเริ่มเปล่งแสง เมื่อสมองได้รับการกระตุ้นจากท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ชอบเทคนิควิธีการกระตุ้นและการสอนของท่านมาก จากคนเรียนเศรษฐศาสตร์ไม่รู้เรื่อง กลับมาเริ่มเข้าใจมากขึ้น ขอให้สัญญาอาจารย์ ว่าจะทำดีที่สุด จะมุ่งมั่นให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของอาจารย์ครับผม

                             สงกรานต์  ธรรมกุล

ประเทศที่กำลังพัฒนา ควรให้ความสำคัญกับกระบวนการสหกรณ์ เพื่อให้องค์กรนี้มีความเข้มแข็ง ที่เป็นที่พึ่งได้ของสมาชิก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีรายได้น้อย และมีอำนาจต่อรองต่ำ

สำหรับในการเรียนในวันที่ 12ก.ค.51 นั้น สิ่งที่ได้รับหรือความรู้ที่ได้พอจะสรุปได้ว่า การพัฒนาระบบสหกรณ์หรือประเทศชาติ หัวใจสำคัญสำหรับการพัฒนานั้น คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หรือการสร้างคุณภาพของมนุษย์และต้องพัฒนาแบบยั่งยืนโดยยึดหลักหรือปรัชญาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและเพิ่มโอกาสให้กับสหกรณ์ ในขณะเดียวกันต้องพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ และพัฒนาด้านเทคโนโลยีไปพร้อมๆ กัน และก่อนอื่นที่จะพัฒนาระบบสหกรณ์ หรือพัฒนาองค์กรนั้น ต้องพัฒนาตนเองให้ถึงพร้อมด้วยองค์ความรู้(ปัญญา/สติ)ในเรื่องวิธีการเรียนรู้ วิธีคิด ในรูปแบบของการรู้จริง...

เรียน อาจารย์ จีระ

จากการเรียนรู้จากอาจารย์ มีเรื่องที่ตรงใจผมมากคือการเพิ่มคุณภาพของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญา อุดมการณ์ และหลักการของสหกรณ์มากขึ้น ซึ่งตรงกับที่ผมได้ทำมาตลอดเวลา 3 ปีกว่าของสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด คือการอบรมผู้นำกลุ่มเกษตรกรให้รู้จักคำว่าสหกรณ์มากขึ้นและผมคิดว่าจะทำโครงการเพิ่มทุนทางมนุษย์ให้กับสมาชิกที่เป็นเกษตรกรชั้นล่างจนกว่าสมาชิกเหล่านั้นจะเรียนรู้ เข้าใจและเข้าถึงหลักการสหกรณ์

เรียนท่านอาจารย์ จีระ หงส์ลดารมภ์

ผมได้รับฟังท่านอาจารย์ได้กล่าวถึงการพัฒนาซึ่งได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งในปัจจุบันผมเชื่อว่าสหกรณ์ต่างๆก็ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรหรือสมาชิกของสหกรณ์ แต่ในทางปฏิบัติการพัฒนาสมาชิกในระดับล่างของสหกรณ์กับประสบกับปัญหาที่ตัวสมาชิกเองไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง จึงจำเป็นที่จะต้องทำให้สมาชิกให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองและมีความมุ่งมั่นต่ออุดมการณ์และมีความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์อย่างเต็มใจ เพื่อให้สหกรณ์ของเรามีความเจริญก้าวหน้าต่อไป

อยากกราบเรียนอาจารย์ จีระ ว่า หนูรู้สึกดีมากๆ ค่ะกับการพัฒนาความรู้ด้วยวิธีการทำ Workshop , Learning by doing การจัดโต๊ะนั่งแบบวงกลม และหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกวัน เป็นแนวคิดที่ดีค่ะ (ปกติจะชินกับการจัดโต๊ะแบบ Class Room

ซึ่งปกติใครมาก่อนก็นั่งข้างหลัง ใครมาที่หลังก็ต้องนั่งข้างหน้า) เพราะทำให้ผู้เข้าอบรมได้มีโอกาสทำความรู้จักกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันจริงๆ ที่สำคัญคือต้องตื่นตัว(ห้ามหลับ)อยู่ตลอดเวลา เพียง 3 วัน กับการอบรมหลักสูตรนี้รู้สึกคุ้มค่ากับเวลาเหลือเกิน จะพยายามไม่ทำให้อาจารย์และผู้บริหารโครงการผิดหวังค่ะ และต้องทำให้ตัวเองเป็นผู้บริหารที่ดี ด้วยการมีทั้ง Relation , Structure และ Change ภายใต้ปรัชญาสหกรณ์

เรียน อ.จีระ และผู้นำสหกรณ์ทุกท่าน

จากการเรียนหัวข้อวิชาโลกาภิวัตน์ โดยอ.เฉลิมพล มีประเด็นหนึ่งที่ผมสะดุดใจ ได้แก่ "ศรัทธา" เป็นสิ่งไม่ยั่งยืน แต่ "การคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล(ปัญญา)" จึงจะเป็นสิ่งที่ยั่งยืน ทำให้ผมนึกถึงคำพูดที่ได้ยินอยู่เสมอว่าถ้าสมาชิกและกรรมการ มีอุดมการณ์สหกรณ์ ก็จะทำให้สหกรณ์เจริญรุ่งเรืองและอยู่รอดได้

ความศรัทธาจะทำให้เกิด"อุดมการณ์" ดังนั้นผมจึงคิดว่าถึงแม้สมาชิกและกรรมการสหกรณ์จะมีอุดมการณ์สหกรณ์อันเป็นความปรารถนาสูงสุดของชาวสหกรณ์ คงไม่เพียงพอที่จะให้กระบวนการสหกรณ์อยู่รอดได้เสียแล้ว

สิ่งที่เราต้องทำต่อเนื่องหลังจากมีอุดมการณ์สหกรณ์แล้ว ก็คือต้องสร้างกระบวนการศึกษาเรียนรู้ให้กรรมการและสมาชิกเกิดปัญญาขึ้นในตัวเอง จึงจะทำให้กระบวนการสหกรณ์อยู่รอดและเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน

ดำรงค์ โกสิโยนุสรณ์

ผู้นำสหกรณ์ รุ่น2

13 กค.51

“ช่วยเหลือตนเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” คืออุดมการณ์ของสหกรณ์ กระบวนการสหกรณ์ไม่ได้สอนให้เรารอคอยความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนอื่น หลายครั้งได้ยินบุคลากรในกระบวนการสหกรณ์ระดับผู้นำพูดว่า “หน่วยงานของรัฐไม่ค่อยให้ความเหลียวแล” “ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐแล้วไม่ได้รับการตอบสนอง” “ กว่าจะได้ก็ช้าเหลือเกิน” “ได้ก็ได้น้อยเกินไปทำอะไรไม่ได้” ขอเรียนให้ทราบว่าได้ยินแล้วไม่สยายใจ ถ้าคนในกระบวนการสหกรณ์มัวแต่ร้องขอและรอคอยแล้วเมื่อไหร่จะเกิดความเข้มแข็ง สหกรณ์สามารถสร้างคนและสร้างทุนได้เอง อยากเห็นนะครับอยากเห็น อยากเห็นสหกรณ์เป็นที่พึ่งให้กับประเทศชาติ ทำงานให้กับขบวนการสหกรณ์มา 22 ปี นำเสนอความคิดเห็นมาหลายเวทีว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะมีสภาพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ มีข้อปฺฏิบัติและหลักเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นโดยบุคลากรในกระบวนการสหกรณ์อย่างแท้จริง ไม่ใช่ถูกยัดเยียดให้ใช้โดยหน่วยงานของรัฐภายใต้เงื่อนไขของการให้การสนับสนุนและรับการสนับสนุน ขอเรียนให้ทราบว่าเป็นอย่างนี้อีก 100 ปี สหกรณ์ก็ไม่มีวันโต ต้องทำให้สมาชิกรู้และเข้าใจว่าสหกรณ์เกิดขึ้นจากสมาชิก และสมาชิกเท่านั้นที่จะเป็นผู้ช่วยเหลือสหกรณ์ ไม่ใช่คอยให้คนโน้นคนนี้คอยช่วยเหลือ ดีใจครับที่ได้ยินอาจารย์ ดร.จีระ บอกว่า จะช่วยดูแลสหกรณ์ร้านค้าเป็นพิเศษ ให้เติบโตต่อไป

กฤษณะ ผู้นำสหกรณ์ รุ่น 2 เลขที่ 40

"ทุนมนุษย์" เป็นหลักการที่คงจะเห็นตรงกันในการเสริมสร้างองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขบวนการสหกรณ์ แต่ต้องยอมรับกันว่าการที่องค์กรใดองค์กรหนึ่งจะลงทุนในส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาล ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะย้อนกลับมายังหลักของการดำเนินงานสหกรณ์ที่ท่านอาจารย์หลายท่านได้ชี้แนะว่า จุดต่างขององค์กรสหกรณ์คือการดำเนินการใน 2 ส่วนได้แก่ ส่วนที่ทำกำไรทางเศรษฐกิจ และส่วนที่ต้องคืนกำไรกลับสู่สมาชิก ซึ่งทำให้ องค์กรสหกรณ์ไม่สามารถทำกำไรได้สูงสุดได้ ในที่สุดเงินทุนที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อ "ทุนมนุษย์" ก็จะมีน้อยลงหรือแทบจะไม่มีเลย ดังนั้นการบริหารจัดการในส่วนนี้ควรจะต้องเป็นนโยบายของภาครัฐที่จะผลักดันให้งบประมาณมาอย่างเต็มที่

ทองปาน โอษฐ์แก้ว

ผู้นำสหกรณ์รุ่นที่ 2

รู้สึกขอบคุณคณะผู้บริหารโครงการที่คัดเลือกเข้าอบรมหลักสูตร"ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่2"มาก และรู้สึกตกใจและกลัวว่าจะทำไม่ได้เมื่อพบอาจารย์จีระครั้งแรก ต่อเมื่อเรียนไปก็มีกำลังใจที่จะสู้ เพราะอย่างน้อยก็มีโอกาสได้พบกับผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาก จะตั้งใจให้ดีที่สุดค่ะ

กราบเรียนท่านอาจารย์ จีระ หงส์ลดารมภ์

3 วันจากการที่ผมได้เข้าร่วมสัมนาได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนอย่างมากมาย ต้องขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เลือกสรรค์สิ่งดี ๆ มาให้ในหลักสูตรนี้ ปรัชญาสหกรณ์นั้นเข้าใจว่าทุกคนในขบวนการสหกรณ์รับรู้ แต่มีจิตสำนึกหรือจิตวิญญาณที่จะอุทิศให้กับขบวนการสหกรณ์อย่างแท้จริงหรือไม่ หรือเข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ เมื่อไหร่จะถึงเวลาที่จะให้คนรุ่นใหม่ ๆ มีโอกาสเข้ามาแสดงความสามารถบ้าง มองไปทางไหนมีแต่คนรุ่นเก่า ๆ อยู่ทุกจุดของขบวนการสหกรณ์ แต่ละคนก็เป็นกันหลายที่หลายตำแหน่ง สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขบวนการสหกรณ์ปัจจุบันนี้คือการแข่งขันเข้ามาเป็นกรรมการบริหารในวงการสหกรณ์นับวันจะมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น แล้วอย่างนี้จะให้ขบวนการสหกรณ์เจริญเติบโตได้อย่างไร ในเมื่อที่มาไม่ได้มาด้วยจิตวิญญาณ แต่มาด้วยผลประโยชน์

ด้วยความเคารพอย่างสูง

นายนพคุณ ยังเอี่ยม

กรรมการ สอ.กฟผ.

14 ก.ค. 51

สวัสดี ผู้เข้าร่วมโครงการฯและชาว Blog ทุกท่าน

            การนำเสนอ work shop เรื่อง Macro ทุกกลุ่ม ทำได้ดีมาก  Blog ของเรา มาแรง ภายใน 1 อาทิตย์ คนข้างนอกสนใจมาก เราสามารถ สร้าง Brand ได้ดี มองจากภาพ Macro แล้ว เรื่องดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และเรื่องการสร้างจิตวิญญาณของขบวนการสหกรณ์สำคัญ คล้าย ๆ กลับมาเน้นว่า “สหกรณ์” อะไรคือจุดยึดเหนี่ยวของพวกเรา ทำไมจึงมีประโยชน์ และกลับสร้างจิตสำนึกให้สมาชิกจริง ๆ คือทำให้การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในขบวนสหกรณ์มีความเป็นจริงมาก ผมจะช่วยเป็นผู้กระตุ้นให้ เกิด “พลัง” ครั้งนี้ในสังคมไทยอย่างแท้จริง ควรจะใช้สื่อให้เหมาะสมอย่างน้อย ผมมีทีมคุณวิทย์ ประทักษ์ใจ อ.ยม นาคสุข รุ่น 2 และ รุ่น 1 ก็คงจะต้องช่วยด้วย เพราะเมื่อนั้น เราก็จะไม่เข้มแข็ง เท่าที่ควร

 ไม่ได้พบกับผมหลายวัน ช่วยมีวินัยในการอ่านหนังสือด้วย

                                                            จีระ หงส์ลดารมภ์

อ่านมามากมายรับข้อมูลมาเยอะแยะ แต่ "ครู" ที่ทำให้ลูกศิษย์คนนี้เข้าใจความหมาย วัตถุประสงค์ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ "ครู" ดร.ธันวา จิตต์สงวน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   ขอกราบขอบพระคุณคุณครูด้วยความเคารพอย่างสูง นะครับ

เรียน ศ.ดร.จีระ ดิฉันนางสงวน ชูทองเข้าอบรมหลักสูตร ผู้นำขั้นสูง สุดยอดของวิชา หลักเศรษฐศาสตร์มหภาคเบื้องต้น ได้เข้าใจหลักการเพื่อนำมาใช้ในการสหกรณ์ ได้ติดตามข่าวสารทางเศรษฐศาสตร์ตลอดเวลา เข้าใจถึงแนวทางที่จะทำให้สหกรณืมีโอกาสในการมำธุรกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สหกรณ์มีความเข้มแข็ง เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย

ดีใจที่แม่บ้านเข้ารับการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง ได้นำความรู้มาถ่ายทอด แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันความรู้ เพื่อนำใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้เป็นอย่างดี ในส่วนสหกรณ์การเกษตรรัฐบาลน่าจะจัดสรรงบประมาณให้ทุกสหกรณ์อย่างน้อยปีงบประมาณละ 1 ล้านบาท เป็นการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้สมาชิก และยังเป็นการคืนกำไรให้กับรากหญ้าด้วย หากใครสามารถเจราจาต่อรอง (ซึ่งที่จริงน่าจะเป็นผู้แทนราษฎร)ได้จะเยี่ยมมากครับ...ผมคิดว่าปัญหาของสหกรณ์การเกษตรฯ วันนี้มิได้อยู่ที่ความรู้ของผู้จัดการ ความรู้ของสมาชิก (ผมมีความเชื่อว่าการใช้ภูมิปัญญาบ้าน ๆ บริหารจัดการก็ประสบความสำเร็จได้ เพราะวิชาการที่รับมาจากนักวิชาการส่วนมากก็ลอกมาจากฝรั่ง ซึ่งไม่ค่อยจะเข้ากับบริบทของสหกรณ์ไทย )แต่อยู่ที่ราคาสินค้าเกษตรที่ Marketing ไม่ดีเลย ไม่แน่นอน ยังต้องเป็นเบี้ยล่างของพ่อค้าจีนอยู่ดี....ดูประหนึ่งว่าสหกรณ์การเกษตรเป็นลูกค้ารายใหญ่ของพ่อค้าทีเดียว (นี่พูดในแง้ธุรกิจรวมซื้อนะครับ) แต่อย่างไรก็ตามสหกรณ์การเกษตรฯ เป็นแหล่งทุน แหล่งตลาด ที่ให้บริการสมาชิกและบุคคลทั่วไปด้วยไมตรีจิต และพร้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ

ขอชื่นชมอาจารย์ที่เชื่อว่าขบวนการสหกรณ์สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมซึ่งได้อธิบายอย่างจริงจัง(ใจ)

ขอชมเชยอาจารย์ยม ที่สรุปวิชาแต่ละวิชาได้อย่างดีเยี่ยมและสมบูรณ์

เรียน อาจารย์ ดร.จีระ ที่เคารพ

14/7/51 22.18 กฤษณะ ผู้นำสหกรณ์ รุ่น 2

ดีใจมากครับที่วันนี้มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการสัมมนาหลักสูตร “การเปิดโลกธุรกิจร้านสหกรณ์” โดยชุมนุมร้านสหกรณ์แห่งประเทศไทยร่วมกับ สนง.ส่งเสริมสหกรณ์พื้นที่ 2 ได้พบและได้ฟังอาจารย์บรรยายพิเศษเรื่อง “ร้านสหกรณ์..ทางรอดในยุคโลกาภิวัฒน์ นำไปปฏิบัติให้ได้” ท่านอาจารย์จุดประกายความคิดให้กับร้านสหกรณ์หลายๆร้านซึ่งขณะนี้เริ่มถอดใจ ให้กับมาคิดใหม่และเริ่มหันมาคุยกันที่จะหาทางพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสโดยจะหันมาพึ่งเครือข่ายร้านสหกรณ์ให้มากขึ้น... อาจารย์ครับ วันนี้ได้ยินผู้เข้าร่วมสัมมนาพูดถึงการรวมซื้อ อาจารย์เชื่อไหมครับ ร้านสหกรณ์ กฟผ. ของผม และร้านสหกรณ์อีกหลายแห่งรวมทั้งชุมนุมร้านสหกรณ์ฯ เคยเข้าร่วมโครงการพัฒนาค้าปลีกของสหกรณ์ภายใต้ความช่วยเหลือของรัฐบาลสวีเดนผ่านโครงการ KFPC และสันนิบาติสหกรณ์ โดยใช้ทั้งวิธีการฝึกอบรมและทำ Workshop ใช้เวลา 10 ปีเต็ม ซึ่งโครงการนี้มีการทำแผนการรวมซื้อของสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการเข้าไว้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่อาจจะนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมได้ทั้งนี้เนื่องจาก

1.โอกาสที่จะร่วมกันขายมีน้อยมาก เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคคือสมาชิกของแต่ละร้านสหกรณ์มีความแตกต่างกันค่อนข้างสูงสำหรับสินค้าที่เป็นสินค้าหลักที่มีปริมาณการสั่งซื้อค่อนข้างสูง เช่นการซื้อและใช้ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน น้ำมันพืช นม ข้าวสารและอื่นๆ

2.เมื่อไม่สามารถรวมขายได้ การรวมซื้อก็เลยไม่เกิด

3.การเจรจาต่อรองกับผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายเป็นไปในลักษณะกล้าๆกลัวๆ

4.เกือบทุกสหกรณ์ที่ร่วมโครงการไม่มีใครกล้าลงนามใน MOU

5.ไม่มีเจ้าภาพที่กล้าพอที่จะเป็นแกนนำในการสั่งซื้อเพราะกลัวโดนเบี้ยว

6.กรรมการของร้านสหกรณ์ไม่ให้ความสำคัญต่อการรวมซื้อเท่าที่ควรเพราะคิดว่าตัวสหกรณ์เองซื้อได้ในราคาที่พอใจอยู่แล้ว

7.ขณะนั้นยังไม่เกิดวิกฤตเท่าในขณะนี้ (ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา)

และแล้วรัฐบาลสวีเดนก็เลยล้มเลิกโครงการ KFPC ที่ให้กับร้านสหกรณ์ไทยไปอย่างน่าเสียดาย โดยหันไปช่วยร้านสหกรณ์ในประเทศเวียตนามแทนและเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยดี แต่หลายสหกรณ์ไม่ได้สูญเปล่านะครับ ยังสามารถนำความรู้ในเรื่องเทคนิคการบริหารพื้นที่ เทคนิคการบริหารสินค้าและการบริหารงานบุคล ที่ได้รับจากโครงการมาใช้อย่างได้ผลจนทุกวันนี้

สวัสดีครับ

หลังจากได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจในองค์รวม หรือภาพรวม(Macro)แล้วมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าระบบสหกรณ์ทุกภาคสหกรณ์มีส่วนที่ช่วยปํญหาของสังคมโดยเฉพาะสมาชิกสหกรณ์และเป็นวิกฤตที่จะเพิ่มโอกาสต่อการพัฒนาในด้านต่างๆ อาทิ การสร้างจิตวิญญาณของมวลสมาชิกที่มีต่อระบบสหกรณ์ โดยขั้นแรกเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสหกรณ์เบื้องต้นแก่บุคลากรใหม่ขององค์กรทุกคนได้รับทราบ และเพิ่มการให้ความรู้ในขั้น 2,3...ต่อไป เพราะเชื่อว่าประชากรส่วนใหญ่ของชาติยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสหกรณ์อย่างตรงประเด็นและจริงจัง...

ผนส.รุ่นที่ 2จาก สอ.ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ จก.

ชอบที่ อาจารย์จีระ กล่าว กับผู้นำสหกรณ์

พูดน้อย ๆ ทำเยอะ ๆ ขอเพิ่ม ใช้ความคิดมาก ๆ ด้วยครับ

ต้อย

สอ.กฟผ.

"ครู" มีความหมายอย่างไร ทุกคนคงรู้ดี ในประเทศไทยมี "ครู" หลายแสนท่าน "ครู" ทุกท่านมีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่จะถ่ายทอด สั่งสอนในเรื่องต่างๆ หลากหลายด้วยกัน แต่ "ครู" ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ถือว่า ท่านเป็น "ครูเหนือครู" ด้านทรัพยากรบุคคล เพราะท่านจะจริงใจในการสอน และจริงจัง ที่จะทำให้ลูกศิษย์ของท่านทุกคน(ขอย้ำว่าทุกคน) เข้าใจในเนื้อหาเป็นอย่างดี และมุ่งหวังให้ทุกคนนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม

สวัสดีครับ

ความรู้ที่ได้ทั้ง 3 วัน ผมได้นำมาต่อยอดถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวแก่คณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่เพื่อให้บุคคลทั้ง 2 กลุ่มนี้มีพลังร่วมในการขับเคลื่อนให้สหกรณ์บรรลุถึงเป้าหมายสูงสุดคือ การกินดีอยู่ดีของมวลสมาชิกและดีใจที่ทุกคนให้การยอมรับกับสิ่งที่ผมได้นำเสนอไปทั้งหมด

บุญครองชีพ สกก.ห้วยยอด จำกัด

เรียนท่านอาจารย์ จีระ หงส์ลดารมภ์

เรื่องการสร้างจิตวิญญาณของขบวนการสหกรณ์เป็นสิ่งที่จำเป็นแต่ในขณะนี้เรายังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง สมาชิกของสหกรณ์ยังไม่ให้ความสำคัญกับความเป็นสหกรณ์อย่างแท้จริง ประกอบกับสมาชิกส่วนมากยังคงขาดความรู้ความเข้าใจในแก่นแท้ของความเป็นสหกรณ์ ดังนั้นการสร้างจิตวิญญาณของสหกรณ์ให้เกิดขึ้นจึงน่าที่จะเริ่มต้นให้มีการปลูกฝังเรื่องของสหกรณ์ให้เกิดขึ้น โดยที่น่าจะมีการเรียนเรื่องของสหกรณ์อย่างจริงจังตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย เพื่อให้คนไทยรุ่นใหม่จะได้มีจิตวิญญาณของสหกรณ์ติดตัวไว้ตลอดไป

อาจารย์จีระค่ะ หนูได้นำหลักคิดของการสร้างมูลค่าเพิ่มที่อาจารย์สอนมาขบคิดอยู่หลายครั้งว่าจะกำหนดกลยุทธ์อย่างไรดีในการสร้างมูลค่าให้กับสมาชิก สอ.ข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จำกัด ซึ่งหนูเป็นเลขาสหกรณ์อยู่ เพราะขณะนี้หนูได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการให้ยกร่างแผนยุทธศาสตร์สหกรณ์ หนูได้รับแนวคิดจากอาจารย์ในการทำงานครั้งนี้ ขอบคุณนะคะที่ทุ่มเทให้กับผู้นำสหกรณ์ รุ่น 2 ถึงจะไม่มีการอบรมในช่วงนี้ หนูก็ยังมีการพัฒนาตัวเองด้วยวิธีอื่นค่ะ ไม่ลืมที่กรุณาอาจารย์แนะนำค่ะ

ผมได้อ่านพบบทความที่น่าสนใจ ต้องการเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้รับทราบ คือ 14 ที่สุดในชีวิตเรา

1.ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง

2.ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี

3.การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง

4.สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอิจฉาริษยา

5.ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง

6.สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง

7.สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง

8.สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะวิริยะ

9.ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง

10.ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์

11.หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้บุญคุณ

12.ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัย และความเมตตา กรุณา

13.ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล

14.สิ่งที่ทำให้อิ่มอก อิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้ทาน

สุดท้ายนี้ผมขอขอบพระคุณผู้ที่เขียนบทความข้างต้นด้วยครับ

อยากให้สมาชิกสหกรณ์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่าหลงลมคนที่ว่าจะทำนู๊นทำนี่ให้ ขี้หกทั้งเพ

ทางรอดของประชาชนไทยคือระบบสหกรณ์คู่ไปกับเศรษฐกิจพอเพียง

         ระบบทุนนิยมแบบที่รัฐบาลทุกรัฐบาลและพรรคใหญ่ทุกพรรค สนับสนุนอยู่จะไม่ช่วยแก้ปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจสังคมได้ เพราะเป็น ทุนนิยมผูกขาดที่เป็นบริวารของบริษัททุนข้ามชาติ การพัฒนาแนวนี้ จะทำให้เกิดการเอาเปรียบทั้งทรัพยากรและคนในประเทศ ความไม่สมดุล และความเหลื่อมล้ำต่ำสูงระหว่างกลุ่มคนไทยมากขึ้น ทางรอดของประชาชนไทย คือต้องพัฒนาระบบสหกรณ์ ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจพอเพียงหรือเศรษฐกิจที่พึ่งตนเองในระดับประเทศเป็นสัดส่วนสูงขึ้น ระบบสหกรณ์ต่างจากและดีกว่าทุนนิยม ตรงที่เป็นระบบที่ตัดพ่อค้าคนกลางและกำไรของนายทุนเอกชนออกไป พนักงานผู้ผลิต ผู้บริโภคเป็นเจ้าของร่วมกัน ทำงานร่วมกัน และแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน ได้ร่วมมือกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบทุนนิยม สร้างปัญหาการทำลายธรรมชาติสภาพแวดล้อม และทำลายวัฒนธรรมค่านิยมดั้งเดิมมาก ทำให้คนบางส่วนเริ่มคิดว่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะช่วยแตะเบรกไม่ให้เราพัฒนาทุนนิยมแบบสุดโต่ง คือโลภ และเป็นหนี้มากเกินไป แต่แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องเชิงความคิดค่านิยมที่ตีความได้ต่างๆนานา  ถ้าจะให้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้ผลจริง เราต้องปฎิรูประบบเศรษฐกิจให้ต่างไปจากระบบทุนนิยม โดยการเปลี่ยนระบบการผลิต การจัดจำหน่าย และให้บริการในเศรษฐกิจหลายสาขาให้เป็นระบบสหกรณ์ ซึ่งผู้ผลิตและผู้บริโภคได้ประโยชน์ร่วมกัน เพราะสมาชิกทุกคนได้เป็นเจ้าของทุนร่วมกัน บริหารอย่างเป็นประชาธิปไตย และแบ่งปันผลผลิตและบริการอย่างเป็นธรรมและเอื้อเฟื้อต่อชุมชนและสังคม ระบบสหกรณ์จะลดการกระจุกตัวของทุน กระจายทรัพย์สินและรายได้ ให้เป็นธรรมขึ้น ทำให้คนจนส่วนใหญ่ได้มีงานทำ มีอาหาร ที่อยู่อาศัย การสาธารณสุข ปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ พอเพียงต่อการดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพ ที่สำคัญคือ สหกรณ์มุ่งประโยชน์สมาชิกและชุมชนส่วนรวมมากกว่าเพียงเพื่อผลกำไรของผู้ถือหุ้น ประชาชนไทยต้องช่วยกันศึกษา เผยแพร่และผลักดันให้เกิดขบวนการสหกรณ์ที่เข้มแข็ง เราจึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจการเมืองให้ก้าวหน้ากว่าระบบทุนนิยมผูกขาดที่เป็นบริวารประเทศทุนนิยมศูนย์กลางในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง

สวัสดีค่ะ อาจารย์

การเข้าร่วมอบรมครั้งนี้มีความคาดหวังว่า จะทำให้เราสามารถคิดเป็น

ทำเป็น สร้างเป็น และแก้ปัญหาเป็น

ท่านอาจารย์ที่เคารพ

ตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษของอาจารย์ที่โรงแรมกานต์มณี เมื่อบ่ายวันที่ 14 ก.ค. 51 อาจารย์กล่าวว่า “สหกรณ์ จะต้องมีทั้ง Share และ Care” ผมว่าถูกต้องที่และชัดเจน

หนึ่งในโครงสร้างหลักของสหกรณ์ คือ คน

คน ในสหกรณ์ แบ่งเป็น 3 ฝ่าย คือสมาชิก - คณะกรรมการ - ฝ่ายจัดการ เชื่อมโยงและยึดโยงกัน ทั้ง 3 ฝ่ายนี้จะต้อง Share คือเป็นหุ้นส่วนกัน ต้องร่วมมือกัน และร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน และจะต้อง Care คือ รักกัน เอาใจใส่กัน และระวังรักษากันไว้ ผมเชื่อว่าถ้าทั้ง 3 ฝ่ายในสหกรณ์ ยึดมั่นในความร่วมมือและการใจใส่ซึ่งกันและกัน ย่อมส่งผลให้กิจการสหกรณ์และขบวนการสหกรณ์ตั้งอยู่และเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน.....

กฤษณะ ผุ้เข้ารับการอบรมผู้นำสหกรณ์ รุ่น 2

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์

ปัจจุบันนี้พื้นที่การเกษตรลดลงอย่างรวดเร็ว จนคนสหกรณ์ภาคเกษตร

รับมือไม่ทัน ไม่ว่า กรรมการ พนักงาน ซึ่งเดิมเคยชินกับธุรกิจสินเชื่อ จำหน่ายสินค้าการเกษตร แต่ปัญหาใหม่ที่ต้องรับมือก็คือพื้นที่การเกษตรลดลง แต่มีโรงงานอุตสาหกรรม และหมู่บ้าน เข้ามาแทน สหกรณ์จะต้องตระหนักและปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์

ไพรพนา (ผู้เข้าอบรมผู้นำฯ รุ่นที่ 2)

อาจารย์ครับ

ช่วยแก้ปัญหาให้ผมด้วย ปัญหามีอยู่ว่าสหกรณ์ในปัจจุบันนี้คณะกรรมการดำเนินงานมีนักการเมืองเข้ามาจำนวนมากและได้นำการบริหารแบบการเมืองมาใช้บริหารสหกรณ์โดยไม่ได้ยึดหลักการและอุดมการณ์สหกรณ์เลยทำให้สหกรณ์เสียหายอย่างมากท่านช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ด้วย

ขอบคุณครับ

ไปวัดมาเอาของดีมาฝากผู้นำทุกท่านครับ  !

• แบ่งปัน  เอื้อเฝื่อเผื่อแผ่  เสียสละ  ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 
• พูดอย่างรักกัน  กล่าวคำสุภาพ  ไพเราะ  น่าฟัง มีเหตุผล  ให้กำลังใจกัน 
• ทำประโยชน์แก่เขา  ช่วยเหลือด้วยแรงกาย  ช่วยเหลือกิจกรรมต่างบ ๆ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์  แก้ไขปัญหา  ปรับปรุง และส่งเสริม
• วางตนเสมอต้นเสมอปลาย  ให้ความเสมอภาค  ไม่เอาเปรียบ  ร่วมสุข ร่วมทุกข์  ร่วมรับรู้  ร่วมแก้ไขปัญหา  เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สุขส่วนรวม

ต้อย

สอ.กฟผ.

18/07/08

เรียนท่านอาจารย์ กรณีที่ท่านนายกฯได้พุโถงการนำน้ำมันดีเซลจากรัซเซียเข้ามาในประเทศไทย โดยจะมอบให้สหกรณ์เป็นผู้จัดการ ท่านอาจารย์คิดว่าในทางปฎิบัติจะเป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจากผมเป็นสหกรณ์ภาคประมงที่สมาชิกต้องใช้น้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนหลักในการประกอบอาชีพและทุกวันนี้จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงมากขึ้นทำให้สมาชิกในสหกรณ์ไม่สามารถที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ดังนั้นถ้าสามารถทำได้ควรมีการดำเนินการอย่างไร

เรียนท่านอาจารย์ กรณีที่ท่านนายกฯได้มีโครงการนำน้ำมันดีเซลจากรัซเซียเข้ามาในประเทศไทย โดยจะมอบให้สหกรณ์เป็นผู้จัดการ ท่านอาจารย์คิดว่าในทางปฎิบัติจะเป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจากผมเป็นสหกรณ์ภาคประมงที่สมาชิกต้องใช้น้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนหลักในการประกอบอาชีพและทุกวันนี้จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงมากขึ้นทำให้สมาชิกในสหกรณ์ไม่สามารถที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ดังนั้นถ้าสามารถทำได้ควรมีการดำเนินการอย่างไร

                         ทำไม่ต้องเปิดใจรับฟังคนอื่น

• การฟังคนอื่นมากกว่าการพูดทำให้เรามีโลกที่กว้างขึ้น
• จุดประการให้เกิดความคิดใหม่ ๆ
• รุู้ว่าปัญหาอุปสรรค์ คืออะไร
• สร้างความกระตือรือร้นในการทำงาน
• รู้ว่าจะต้องนำสิ่งใดมาเพื่อผลักดันให้ผู้อื่นทำงาน
• จะเกิดแต่สิ่งสร้างสรรค์
• ทีมงานทุกคนมีความสุขและสามารถสร้างผลงานให้องค์การ

ไพรพนา  (ผู้้เข้าอบรมผู้นำรุ่น 2)

เห็นด้วยกับปัญหาที่นักการเมืองเข้ามาครอบงำสหกรณ์ คำว่านักการเมือง ดูเหมือนว่าเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับสังคมไปเสียแล้ว เพราะเค้าเหล่านั้นมุ่งสู่อำนาจและหวังกอบโกย สังคมไทยคงต้องหาหนทางและทางออกไปให้ได้ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง ผู้นำต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและมีความโปร่งใสในการทำงาน

เรียน...อาจารย์จีระ ที่เคารพ

ปัญหาและแนวทางพัฒนาสหกรณ์ในประเทศไทย

       สหกรณ์เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจแบบสมาชิกเป็นเจ้าของร่วมกันแบบประชาธิปไตยที่มีสัดส่วนใน ระบบเศรษฐกิจที่สำคัญในหลายประเทศ แต่สหกรณ์ของไทย เช่น สหกรณ์การเกษตรและสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งมีจำนวนสหกรณ์ สมาชิกและทรัพย์สิน และยอดธุรกิจมากที่สุดรู้จักกันแค่ว่าเป็นแหล่งเงินกู้ สหกรณ์อีก 5 ประเภทที่เหลือ คือ สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์ประมง สหกรณ์นิคม สหกรณ์บริการ และสหกรณ์เครดิตยูเนียนซึ่งความจริงคือสหกรณ์ออมทรัพย์นั่นเอง ปัจจัยที่ทำให้สหกรณ์ไทยเติบโตช้า ปัญหาของขบวนการสหกรณ์ไทยที่เติบโตช้ามีหลายสาเหตุครับ...

สาเหตุแรกคือ การอยู่ภายใต้ระบบ ราชการ และกฎหมายที่เข้มงวด สหกรณ์ทุกประเภทอยู่ภายใต้กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจสอบบัญชี สหกรณ์ภายใต้กระทรวงเกษตรฯ และมีกฎหมายที่ค่อนข้างเข้มงวดตายตัว

สาเหตุที่ 2 คือระบบนายทุน โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ กีดกันสหกรณ์ออมทรัพย์ไม่ให้ตั้งเป็น ธนาคารได้เหมือนประเทศอื่น สหกรณ์จะรับฝากหรือให้กู้คนภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกก็ไม่ได้ ทั้งการให้ สิทธิพิเศษด้านลดหย่อนภาษีก็จำกัด  ในประเทศไทยมีธกส.ที่ให้สินเชื่อแก่เกษตรกร แต่การเป็นเจ้าของและการจัดองค์กรเป็นธนาคารของรัฐที่บริหารงานเพื่อหากำไรแบบ ธนาคารพาณิชย์เหมือนธนาคารกรุงไทย ไม่ใช่ธนาคารที่เป็นของชาวสหกรณ์ที่บริหารโดยสหกรณ์เพื่อ สหกรณ์อย่างแท้จริงเหมือนธนาคารสหกรณ์ในประเทศอื่น

หากต้องการปฎิรูประบบสหกรณ์ไทยให้ ก้าวหน้า ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแปลงให้ ธกส. เป็นธนาคารที่สหกรณ์เกษตรเข้าไปถือหุ้นทั้งหมดหรือถือหุ้นใหญ่ และสหกรณ์การเกษตรเป็นผู้เลือกตั้งผู้แทนเข้าไปดูแลบริหารจริงๆ บอร์ดผู้บริหารต้องเป็นชาวสหกรณ์ที่เป็นตัวแทนของสมาชิกที่เป็นผู้ถือหุ้นและผู้ใช้บริการ

สาเหตุที่ 3 คือการขาดการให้การศึกษาประชาชนให้เข้าใจอุดมการณ์สหกรณ์ และขาดการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการบริหาร และมีความซื่อสัตย์ มีอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม ประชาชนมักมองสหกรณ์เป็นแค่แหล่งเงินกู้แหล่งหนึ่ง ที่ได้รับการสนับสนุนจากราชการ ไม่เข้าใจว่าสหกรณ์เป็นทางเลือกที่ 3 ที่ต่างจากทั้งทุนนิยมและสังคมนิยม

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกเราจะช่วยกัน ปฎิรูประบบสหกรณ์ใหม่กันซะที

คำรน  ศรีวงค์ษา  เลขานุการ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 2

ผลกระทบจากการพัฒนาของโลกที่มองเห็น

• โลกเล็ก   ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
• โลกเร็ว   การเคลื่อนย้ายโดยเสรี และรวดเร็วของทุน แรงงาน ข่าวสาร  และวัฒนธรรม
• โลกร้อน  ปัจจัยความไม่แน่นอนของธรรมชาติ
• โลกร้าย  โรคระบาดกลายพันธุ์ เชื้อโรคชนิดใหม่ การก่อการร้าย  ความแตกแยก

ถ้าตั้งผิดมัวหมองไม่ผ่องใส

ถ้าตั้งถูก ผุดผ่อง ไม่หมองใจ

สติใช้คุมจิต ไม่ผิดนา

ภูมิใจที่ได้มีส่วนลดภาวะโลกร้อนด้วยการปลูกต้นบนพื้นที่ของสหกรณ์เอง

<p>ได้ไปร่วมงานทำบุญบ้านของน้องๆ ที่ทำงาน เจ้าของบ้านได้แจก "มงคลชีวิต" อ่านแล้วน่าสนใจดี จึงขอฝากให้ทุกท่านอ่านนิดหนึ่งนะครับ.....

มงคลชีวิต

อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน

อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา

อย่าเสวนาคนชั่ว อย่ามั่วอบายมุข

อย่าสุกก่อนห่าม อย่าพล่ามก่อนทำ

อย่ารำก่อนเพลง อย่าข่มเหงผู้น้อย

อย่าคอยแต่ประจบ อย่าคบแต่เศรษฐี

อย่าดีแต่ตัว อย่าชั่วแต่คนอื่น

อย่าฝ่าฝืนกฎระเบียบ อย่าเอาเปรียบสังคม

อย่าชื่นชมคนผิด อย่าคิดเอาแต่ได้

อย่าใส่ร้ายคนดี อย่ากล่าววจีมุสา

อย่านินทาพระเจ้า อย่าขลาดเขลาเมื่อมีทุกข์

อย่าสุขจนลืมตัว อย่าเกรงกลัวงานหนัก

อย่าพิทักษ์พาลชน อย่าลืมคนเมื่อมั่งมี

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเจ้าของบ้านที่ได้แจกบทกลอนดีๆ ให้อ่าน และขอขอบคุณอย่างสูงสำหรับผู้เขียนบทกลอนดังกล่าวด้วย

มีความภูมิใจที่มีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยการปลูกต้นไม้

เรียนท่านอาจารย์

อาจารย์ค่ะตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะเงินเฟ้อ ธนาคารประกาศขึ้นอัตรา

ดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ความเป็นจริงเงินก็หายากเหมือนเดิม ราคาสินค้าเกษตรไม่ได้

เพิ่มขึ้นอย่างที่รัฐบาลประกาศเกษตรกรยังขายข้าวเกวียนละ 8,000 บาท เหมือน

เดิม สหกรณ์จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็กลัวจะมีผลกระทบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ จะไม่ขึ้น

ก็เกรงจะกระทบกับเงินฝากของสหกรณ์ เพราะการให้ข่าวการขึ้นดอกเบี้ยแต่ละครั้งครึกโครมมาก ภาวะปัจจุบันเหมือนกับเงินเฟ้อพร้อมกับเงินผืด อาจารย์มีข้อแนะนำสำหรับสหกรณ์การเกษตรอย่างไรบ้างค่ะ ให้สมาชิกผู้กู้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเพราะไม่ขึ้นดอกเบี้ยก็จะแย่อยู่แล้ว

สวัสดีครับ นักเรียนผู้นำสหกรณ์ฯ รุ่นที่ 2 ทุกท่าน

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ เราจะพบกันและเข้าชั้นเรียนเป็นครั้งที่ 2 ผมมีกำหนดให้เป็นผู้บรรยาย วิชา สหกรณ์ภาคปฏิบัติ (ในช่วงบ่าย) ซึ่งน่าจะเป็นหัวข้อวิชาแรกของการเรียนการสอนด้านสหกรณ์ในประเทศไทย ฉะนั้น ประเด็นเนื้อหาวิชา จึงเชื่อว่าไม่ซำแบบใคร... และวิธีการเรียนการสอน ก็เชื่อว่าทันสมัย และเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา และสถานภาพสมรส?...

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา... อ่านบทความทางวิชาการของผม เรื่อง "สู่ศตวรรษใหม่ สหกรณ์ไทย" ว่าด้วยการปฏิรูประบบสหกรณ์ไทย... ท่านสามารถหาอ่าน หรือ Donw Load ได้จากเว็บไซด์ของ สันนิบาตสหกรณ์ฯ www.clt.or.th เพื่อท่านจะได้ร่วมแลกเปลี่ยนในช่วงการ workshop ในวิชาสหกรณ์ภาคปฏิบัติ จึงขอความกรุณาอ่านมาก่อนด้วยนะครับ เพราะมีไม่กี่หน้า...

เจอกันวันศุกร์นี้ครับ

Have a good day

สวัสดีครับ

วิทย์

สวัสดีค่ะ อาจารย์

ในปัจจุบันนี้โลกแคบลงเนื่องจาก การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร แม้กระทั่งเกษตรกรเองก็ได้รับข้อมูลสารที่ทันต่อเหตุการณ์ เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลแจ้งข่าวสารทางสถานีโทรทัศน์ว่า รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการจำหน่ายปุ๋ยให้กับเกษตรกรด้วยราคาทุนผ่านสหกรณ์การเกษตร โดยออกข่าวล่วงหน้าก่อนการปฏิบัติจริง ทำเกษตรกรพากัน

ตั้งตารอการช่วยเหลือผ่านสหกรณ์ หลังจากการเสนอข่าวหลายเดือนนโยบายจึงมาถึงสหกรณ์ แต่การปฏิบัติมีขั้นตอนยุ่งยากมากมาย เช่น การจัดซื้อปุ๋ย การจำหน่ายปุ่๋ย

และที่สำคัญเงินทุนในการจัดซื้อปุ๋ยคราวละมาก ๆ และยังมีเงื่อนไขหลาย ๆ ประการ

ที่กำหนดให้ปฏิบัติ

สหกรณ์หลาย ฯแห่ง มีความเต็มใจที่จะเป็นสื่อกลางในการดำเนินตามนโยบายรัฐบาล ในเรื่องที่เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร แต่รัฐบาลควรหาวิธีการให้มีความเหมาะสมและสหกรณ์ทุกแห่งสามารถปฏิบัติตามได้เพื่อเป็นการกระจายความช่วยเหลือ สู่เกษตรกร หากการปฏิบัติเช่นนี้จะทำให้สหกรณ์ที่ไม่มีความพร้อมในเรื่องเงินทุน วัสดุอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามนโยบายของรัฐบาล

นโยบายช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป ก็คือน้ำมันราคาถูกผ่านสหกรณ์ และได้ขายนโยบายผ่านสื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่รัฐบาลศึกษาวิธีการหรือไม่ว่าการผ่านสหกรณ์

จะทำอย่างไรให้ทั่วถึง ไม่เกิดการรั่วไหล และที่สำคัญสหกรณ์ฯที่เป็นสื่อกลางสามารถปฏิบัติได้อย่างดี และที่สำคัญเกษตรกรได้รับความพึงพอใจ

เรียน ท่านอาจารย์จีระ หัวหน้าโครงการหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ รุ่น 2

     หากเป็นไปได้ขอให้แจก เอกสารประกอบการบรรยายก่อนล่วงหน้าอย่างน้อยสัก 1 อาทิตย์ จะส่งให้ทาง Email หรือแจกในห้องเรียนก็ได้ครับ จะได้นำมาศึกษาก่อนหากมีข้อสงสัยจะได้ถามได้เมื่อถึงเวลาสอนครับ

กราบขอบพระคุณครับ

นพคุณ ยังเอี่ยม

สอ.กฟผ.

ภาวะเงินเฟ้อซึ่งได้สร่างซาไปจากเมืองไทยหลายปีบัดนี้มาเยือนอีกแล้ว ทุกครั้งที่มีปัญหาข้าวยากหมากแพงสังคมมักจะเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินมาตรการควบคุมราคาสินค้าเสมอ เช่นเดียวกันทุกครั้งที่น้ำมันแพงสังคมมักจะเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการมาตรการอย่างไรก็ได้ให้น้ำมันถูกลง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ค่อยจะเป็นธรรมกับรัฐบาลเท่าไรเพราะข้าวยากหมากแพงเป็นเพราะน้ำมันแพง น้ำมันแพงในบ้านเราเพราะราคาน้ำมันตลาดโลกแพง ซึ่งเป็นปัญหายากที่รัฐบาลประเทศใด ๆ จะเข้าไปควบคุมได้จริงไหม

เรียนผู้นำทุกท่าน

วันที่ 25-26 ก.ค.51 ที่ท่านมาอบรมครั้งที่ 2 ขอความร่วมมือทุกท่านนำ PASSPROT มาด้วยนะครับ

เจ้าหน้าที่สันนิบาตสหกรณ์

อ่านพบในหนังสือพิมพ์ น่าสนใจจึงนำมาฝากทุกท่านครับ หลักการดำเนินชีวิต จากการที่อาจารย์ “ว.วชิรเมธี” มาพูดโปรดในรายการ “คลับเซเว่น” ทางช่อง 7 ได้กล่าวว่า สังคมไทยทุกวันนี้ที่อยู่ได้เพราะว่าเรายังให้กันอยู่ แต่ที่วุ่นวายก็เพราะเลิกให้กันแล้ว สังคมไทยสู่หายนะ เพราะเราตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ยอมให้กันแล้ว ถ้าเรารู้จักการให้ เราก็มีความสุข การให้ ไม่ว่า ให้ก่อน หรือ ให้หลัง ให้ไปแล้วก็อย่าไปคาดหวังว่าจะต้องได้อะไร นี่คือ การให้ อาจารย์ “ว.วชิรเมธี” แนะนำทางสร้างในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะคนที่ชีวิตล้มลุกคลุกคลานว่า 1. เมื่อคุณเกิดมาแล้ว คุณต้องเดินเข้าไปหาโอกาส อย่าให้โอกาสเดินเข้ามาหาเราเอง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่โอกาสจะเดินเข้ามาหา ถ้ามัวแต่นอนงอมืองอเท้า เมื่อไหร่จะประสบความสำเร็จ ถ้าโอกาสไม่มี ก็สร้างโอกาสให้ตัวเอง 2. ทำงานแล้วทำไมไม่ประสบความสำเร็จ ตัวอย่าง มังกรถ้าเอามาอยู่ในครอบแก้วก็จะเป็นแค่ไส้เดือน ซึ่งก็คือ คุณเป็นคนเก่ง ถ้าทำงานไม่ตรงกับสายงาน คุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ดังนั้น ควรทำงานให้ตรงกับความสามารถของตนเอง 3. การทำงานจะให้ดีต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม การทำงานต้องใส่ใจใส่ความรู้ที่เรามีอยู่ ทำงานอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด 4. เวลา คือ ทรัพยากรที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก หาเงินแทบตาย แต่ก็ซื้อความแก่ความตายไม่ได้ ความดีต่างหากที่อยู่ยั้ง ยืนยง ..... คัดลอกมาจาก คอลัมน์ “แจ๋วริมจอ” หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2551

เรียนท่านอาจารย์

เมื่อนักการเมืองเข้ามาบริหารสหกรณ์แบบการเมืองท่านคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น บริหารทุนของสมาชิกเช่นเดียวกับงบประมาณซึ่งต้องใช้ให้หมด ท่านช่วยคิดหน่อยผมจะทำอย่างไรดี

เรียน อาจารย์วิทย์ ที่เคารพ

ผมได้อ่านเนื้อหาที่ท่านสั่งแล้วพอคร่าวๆ สรุปได้สั้นๆว่า สหกรณืไทยต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วนและทันที เพื่อให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนของโลกที่รวดเร็วในปัจจุบัน โดยเริ่มตั้งแต่ผู้นำของประเทศจนถึงฐานรากแลที่สำคันอีกอย่างก็คีอการปฏิรูปกฏหมายสหกรณ์

เรียน ท่านอาจารย์

ปัจจุบันคณะกรรมการของสหกรณ์ภาคเกษตร เป็นนักการเมืองท้องถิ่น

เกือบทุกคน หรือใส่หมวกหลายใบ ทำให้มีเวลาให้กับสหกรณ์น้อยลง และเมื่อเที่ยบสหกรณ์กับองค์กรปกครองท้องถิ่นแล้ว องค์กรท้องถิ่นทำงานสบายและได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการต่าง ๆ มากกว่า

การทำงานในสหกรณ์ ต้องเข้ามาบริหารงานอย่างจริงจังเพื่อให้ได้รายได้มา

แต่องค์กรปกครองท้องถิ่นได้รับงบประมาณมาบริการ

ค่าตอบแทนและสวัสดิการในสหกรณ์มีน้อยมาก เนื่องจากต้องทำงานด้วยความทุ่มเท และเสียสละ แต่องค์การปกครองท้องถิ่นเงินเดือนก็ได้ และได้เดินทางไปดูงานต่างประเทศทุกปี

ดังนั้น เมื่อสหกรณ์มีการนัดประชุม แล้วซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น สหกรณ์จะได้รับการพิจารณาเข้าร่วมประชุมอยู่ลำดับสุดท้าย

ประเด็นสำคัญ ๆ จากบทความของ ดร.จีระ หงษ์ลดารมภ์ Newsletter 26 ก.ค. 51

สรุปได้ว่าในประเทศไทยมีผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้เป็นครูด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์

มาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งแต่ละท่านมีความเชี่ยวชาญและชำนาญในทฤษฏีต่าง ๆ ที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศไทย ซึ่งไม่ได้เน้นเฉพาะความเก่งเพียงอย่างเดียว คนเก่งต้องมีความดีเป็นคุณธรรมประจำตัวด้วย และอีกประเด็นสำคัญความรู้ต่าง ๆ

ไม่ได้เกิดจากห้องเรียนเพียงอย่างเดียว การมีโอกาสได้เข้าร่วมสัมมนา อบรม หรือได้มีโอกาสฟังบรรยาย หรืออ่านบทความของผู้รู้ต่าง ๆ ล้วนทำให้โลกทัศน์ของเราเปิดกว้าง

การเป็นผู้นำ มีคุณสมบัติข้อหนึ่งคือ เปิดใจกว้าง ทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว เพราะยังมีความรู้ต่าง ๆ อีกมากมายที่เราต้องเรียนรู้ หากวันใดเราคิดว่าเก่ง ว่าเฮงอยู่แล้ว ก็เหมือนเราปิดตา ปิดใจตนเอง ไม่รับรู้วิวัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงของโลกอีกต่อไป

เมธาภิวัฒน์ กายขุนทด

ผู้นำรุ่น 2

26 ก.ค. 51

สวัสดีค่ะอาจารย์

สิ่งที่ได้จากบทความของอาจารย์ สามารถสรุปได้ดังนี้

1.ผู้นำที่ดีต้องเป็นผู้สร้าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาในรุ่นต่อ ๆ ไป

2.การเป็นผู้นำต้องแสวงหาความรู้ เพื่อนำไปปฏิบัติ

3.ผู้นำต้องทำให้ผู้อื่นเกิดศรัทธา/มิใช่มุ่งมีแต่อำนาจ

4.คนเก่าสามารถสร้างได้

5.การเรียนต้องแสวงหาความรู้ ควบคู่กับประสบการณ์

6.ผู้นำอย่าพูดเก่งแต่ต้องเป็นผู้ปฏิบัติทีดี

เรียนท่านอาจารย์จีระ

ผมได้อ่านบทความของท่านอาจารย์ในเรื่องของผู้นำที่เป็นตัวแบบที่ดี ซึ่งคนไทยในปัจจุบันไม่ค่อยที่จะให้ความสำคัญในการศึกษาถึงแนวทางการทำงานของท่านเหล่านั้นในขณะนี้เรากำลังหลงไปกับนักพูดที่พูดเก่งแต่ไม่เคยมีผลงานจากการทำงานเลย นอกจากนี้สังคมยังไม่มีการค้นหาผู้นำที่ดีที่จะนำมาเป็นตัวแบบอย่างแท้จริง

ทำให้เราต้องเสียโอกาสที่จะได้นำเอาวิธีการทำงานหรือแนวคิดที่ทำแล้วประสบความสำเร็จมาเป็นแนวทางในการทำงาน ผมคิดว่าสังคมต้องกลับมาให้ความสำคัญกับการค้นหาต้นแบบของคนไทยเราอย่างจริงจังกันแล้วครับ

สวัสดีครับ อาจารย์

ผมได้อ่านบทเรียนจากความเป็นจริงของอาจารย์ วันที่ 26 กรกฎาคม 2551 มีความเห็นด้วยกับอาจารย์ที่สังคมไทยควรระลึกถึงคุณงามความดีของคนดีที่มีประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง และควรเผยแพร่เป็นตัวอย่างให้แก่คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เป็นแบบอย่างถึงปฏิบัติตาม แทนที่สื่อจะนำแต่ข่าวเลวร้ายแตกในสังคมปัจจุบันมาเผยแพร่ สมควรนำข่าวยกย่องคนดี ความดีมาเผยแพร่แทน

เห็นด้วยที่ทรัพยากรมนุษย์เป็นทรัพย์ยากรที่สำคัญที่สุด ควรสร้างคนดีให้เกิดมาก ๆ และถคนดีต้องมาก่อนคนเก่ง คนจนเป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคม ต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตคนจนให้ได้รับความเป็นธรรมในสังคม เพื่อความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน

ขออนุญาตอาจารย์ comment บทความที่อาจารย์กรุณานำมาให้อ่าน ดังนี้

เรื่องแรก เป็นเรื่องของบุคคลที่เป็นปูชนียบุคคลหรือเป็นตัวอย่างของบุคคลที่น่าเอาเยี่ยงอย่างในแง่ของ "ทรัพยากรมนุษย์" อย่างเช่น อ.วิทูร จันทรวิทูร ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของอาจารย์ทั้งสอง แต่ไม่รู้จักท่านมากนัก ดังนั้น จึงเป็นเรื่องดีที่ได้รับความรู้เพิ่มเติมจากท่านอาจารย์จิระ

เรื่องที่สอง สังคมไทยควรปฏิรูปวิธีการเรียนรู้(Learning Culture)ให้เป็นการเรียนรู้รูปแบบใหม่ กล่าวคือ ไม่ใช่เรียนไปเพื่อให้ได้ใบปริญญา แต่ต้องมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และนำไปปฏิบัติได้จริง ไม่ได้เก่งแต่พูดแต่ให้เน้นการปฏิบัติ นอกจากนั้นการเรียนรู้หรือการศึกษาควรเน้น "ความดี" ให้มากและมาก่อน "ความเก่ง" ปัญหาของบ้านเมืองเราปัจจุบันนี้ ก็มาจากจุดนี้ คือสังคมเน้น "คนเก่ง" มากกว่า "คนดี"

เมื่อมีการยกย่อง "คนดีคนเก่ง" แล้วหันมาปฏิรูปการศึกษาหรือการเรียนรู้อย่างจริงจัง จะนำไปสู่การพัฒนา "ทุนมนุษย์" ไปในแนวทางที่ถูกต้องและยั่งยืนต่อไป

ทองปาน โอษฐ์แก้ว

ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่น 2

เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

ดิฉัน ธญา โบสุวรรณ์ ได้อ่านจดหมายข่าวของอาจารย์ "บทเรียนจากความจริง" ฉบับ วันเสาร์ 26 ก.ค. 51 ได้รู้จักผู้ใหญ่ที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นคุณค่าของทรัพยากรมนุษย์ ที่เน้นคนไทยมีสองอย่างควบคู่กันไป คือ เก่งและดี ซึ่งเก่งสร้างได้ ดีสร้างลำบาก ดีต้องมาก่อนเก่ง เรียนแล้วต้องนำไปปฏิบัติไม่ใช่ท่องและได้กระดาษอีกแผ่น

ขอบพระคุณอาจารย์มากที่ส่งความรู้มาให้ได้ศึกษาวิเคราะห์

เรียนท่านอาจารย์จีระ ที่เคารพ

อ่านบทความของอาจารย์แล้วจากตัวอย่างของอาจารย์ นิคม และคุณพารณทำให้ เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำงานสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้กับสังคมและผู้อื่น

ผมคิดว่าสังคมเราขาดการทบทวน และเผยแพร่สิ่งดีงามของคนในสังคม

ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราควรทบทวนประวัติศาสตร์ ความดีงามของคนในสังคม

รวมทั้งทบทวนตนเองในแต่ละวันด้วยว่ามีอะไรที่ดีงามที่เราได้ทำ มีอะไรบกพร่องที่ต้องแก้ไข ผู้คนที่เราพบในแต่ละวันมีอะไรบ้างที่เราควรเอาเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูไปดูมาจะเข้าหลักการ KM ด้วยนะครับอาจารย์

ด้วยความเคารพ และดีใจที่ได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์อาจารย์ครับ

นพ.วิษณุกร อ่อนประสงค์

COOP LEADER 2

จากบทความประจำวันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม การเรียนรู้จากผู้ใหญ่ทั้ง 2 ท่าน ท่านอาจารย์นิคม จันทรวิทุร เป็นผู้ใฝ่หาความรู้ตลอดเวลาและนำไปปฏิบัติ ท่านได้ต่อสู้เพื่อออกกฎหมาย เพื่อลดความไม่เป็นธรรมต่อผู้เสียเปรียบ ส่วนอีกท่านหนึ่งคือ คุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ต้องการให้สังคมมีศรัทธาที่มีต่อทรัพยากรมนุษย์ว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด คนไทยต้องมี 2 อย่าง ควบคู่กันไป คือเก่งและดี เก่งสร้างได้ ดีสร้างลำบาก ดีต้องมาก่อนเก่งโดยการทำความดีต้องทำอย่างบูรณาการควบคู่กับ กิจกรรมอื่นๆ การศึกษานั้นเน้นที่วิธีการเรียนของเด็ก โดยเด็กจะต้องเป็น ศูนย์กลางของการเรียนรู้ เมื่อเรียนแล้วต้องนำไปปฏิบัติไม่ใช่แค่ท่องให้ได้ หรือไม่ใช่แค่ได้ปริญญา หรือเรียนเพื่อสอบผ่าน การหาความรู้ ควรหาจากประสบการณ์และหาบุคคลที่เป็นตัวอย่าง (Role Model) ที่เราเคารพศรัทธาและขอให้เป็น Mentor ของเรา

ในขบวนการสหกรณ์ต้องสร้าง Brand ให้เกิดขึ้นต่อพี่น้องชาวสหกรณ์ทุกท่าน อย่าพัฒนาเฉพาะผู้นำเท่านั้น ต้องพัฒนาจิตวิญญาน คุณค่าของขบวนการสหกรณ์โดยคนไทยทั้งในระบบสหกรณ์ หรือนอกระบบ ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ว่า ปรัชญาของสหกรณ์คืออะไร ขบวนการนี้จะทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศได้บ้าง

นายอนนท์ ศุภตระกูล

คนไทย แม้จะมีคนเก่งมากพอ แต่ที่หาคนดีและคนไม่เห็นแก่ตัวได้ยากนั้น เพราะผู้นำของสังคมไทย ยังเห็นว่า "ตัวกู ของกู" 20 กว่าปี สหกรณ์ย่านตาขาว กระทำเรื่องธุรกิจเชิงสังคม มาตลอดเวลา จนทำให้สังคม 4000 ครอบครัว ดีขึ้นมาระดับหนึ่ง ยอมรับว่าเหนื่อย แต่เราไม่ท้อแม้ แม้บางเรื่องหลายครั้ง เราจะถูกแรงเสียดทาน จากทางหน่วยงานก็ตาม แต่เราเน้นว่า สิ่งต่างๆ นั้น ทำให้ทุกคนมีความอยู่ดีมีสุข ยั่งยืนในอนาคตอย่างแน่นอน เราตั้งใจ จงใจ จริงใจ จริงจัง ว่า เกิดมาแล้วครั้งหนึ่ง อย่าให้เสียชาติเกิด ทำอะไรให้เป็นประโยชน์เพื่อส่วนรวม และทุกคนในสังคมต่อไปอย่างยั่งยืน ณ เวลาใด เวลาหนึ่ง เราก็พอใจแล้ว ไม่เชื่อท้าให้ไปดูได้ ที่สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว

นางนุชรินทร์ อยู่อำไพ

สหกรณ์ย่านตาขาว

เรียน อาจารย์ ดร.จีระ ที่เคารพ

ผมได้อ่าน บทเรียนจากความจริง ที่ท่านอาจารย์ได้กรุณานำมาให้ ผนส.2 ได้อ่าน ผมสนใจแนวคิดของท่านอาจารย์พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ที่เน้นให้สังคมทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์ เพื่อสร้างคนไทยให้เป็น คนเก่งและดี ซึ่งคนเก่งสร้างได้ แต่คนดีสร้างลำบาก ประเด็นหลังผมว่าน่าสนใจ ที่ผู้นำสหกรณ์จะต้องนำมาคิดต่อ ว่าเราจะทำความดีหรือเป็นคนดีได้อย่างไร เพราะอาจารย์บอกว่า ดีต้องมาก่อนเก่ง

ผมเห็นด้วยที่สื่อสารมวลชนต้องช่วยกันยกย่องคนดีและคนเก่งมาตีแผ่ให้คนไทยได้รู้ สุดท้ายครับอาจารย์ ผมเกิดที่อุบล (อำเภอนำยืน) มีชายแดนติดต่อกับอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เห็นปราสาทพระวิหารตั้งแต่เด็กจนโต มีความผูกพันครับ ก็อยากเห็นรัฐบาลไทยแก้ปัญหาอย่างรู้เท่าทัน แต่อย่างไรการแก้ปัญหาแบบ Win Win ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะการใช้กำลังแก้ไขปัญหาคงทำได้ยากในสังคมโลกปัจจุบัน งานนี้ เป็นการทดสอบภาวะผู้นำของรัฐบาลไทย กองทัพไทย

สำหรับการสร้างผู้นำสหกรณ์ไทย นั้น ผมเห็นว่า การสร้างผู้นำที่เก่งและดี ต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปลูกฝังจิตตารมย์ 4 ประการ ให้กับผู้นำสหกรณ์ คือ สนใจ ห่วงใย แบ่งปัน และรับใช้ และมีค่านิยมหรือเห็นคุณค่าสหกรณ์ (Cooperative Value)ได้แก่ การพึ่งพาตนเอง รับผิดชอบตนเอง ประชาธิปไตย ความเสมอภาค ความเที่ยงธรรม ความสามัคคี มีจริยะธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต เปิดเผย รับผิดชอบต่อสังคม และเอื้ออาทรต่อผู้อื่น ถ้า ผนส.ทุกท่านสามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ให้เป็นรูปธรรมได้ เชื่อเหลือเกินว่า สหกรณ์ไทยจะก้าวไกลแน่นอนครับ

หัวข้อ สหกรณ์ภาคปฏิบัติ : ผลการดำเนินงานสหกรณ์ขบวนการสหกรณ์ไทย- สากล และวิสัยทัศน์การพัฒนาขบวนการสหกรณ์

กราบขอบคุณ        ท่านอาจารย์"วิทย์"         ประทักษ์ใจ

ที่มาให้                 ความรู้                        สู่รุ่นสอง

ทั้งแนวคิด             แนวทาง                      ตามครรลอง

ช่างมากมาย          ก่ายกอง                      หลายประการ

เรื่องหลักการ         สหกรณ์                       และเป้าหมาย

นโยบาย               กระบวนการ                  ด้านบริหาร

ทั้งโครงสร้าง         ประเภท                       ความสัมพันธ์

ล้วนสำคัญ            ต้องใส่ใจ                     ใฝ่เรียนรู้

เรื่องบทบาท          อำนาจ                         และหน้าที่

แถมยังมี                ด้านกฎหมาย                มาเคียงคู่

ข้อบังคับ               ระเบียบคำสั่ง                 ล้วนเชิดชู

สหกรณ์ไทย           คงได้สู้                         สู่สากล

อ้อ ยังมี                คำตัวย่อ                        พอดูเท่ห์

ICA                     BSC                              ที่ฉงน

CSR                     ILO                              โอ้เรื่องคน

ไม่สับสน               FTA                              เก่ "ประทับใจ"

กราบขอบพระคุณอีกครั้งครับผม

นายสายัณห์ ถิ่นสำราญ

ผมภูมิใจที่ได้เข้ามาร่วมอบรมผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ ๒ แลภูมิใจที่ได้เป็นลูกศิษย์ของท่าน อาจารย์จีระ หงส์ลดารมภ์ จากการวิเคราะห์งานที่อาจารย์มอบหมายให้ยิ่งมีความลึกซึ้ง ถึงความปรารถนาดีของอาจารย์ที่มีต่อชาติบ้านเมือง ทั้งที่ท่านอาจารย์มีงานออกจะมากมายแต่ท่านอาจารย์ ก็ยังแสวงหาแต่ผู้รู้อยู่ตลอดเวลาไม่มีหยุด เพื่อมุ่งเน้นด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติอยู่ตลอดเวลา ผมจะไม่ลืมคำสอนของท่านอาจารย์ และจะนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และนำไปถ่ายทอดให้กับสมาชิกของสหกรณ์ที่ผมทำงานร่วมกันอยู่ต่อไป

วิรัตน์ พรมสี

ผู้นำฯ รุ่น 2

เรียน ท่าน ผนส.2 ทุกท่าน

ผมเป็นห่วง ผนส.ที่เริ่มขาดหายจากห้องเรียน เพราะหลักสูตรนี้ ท่านต้องผ่านเกณฑ์การประเมินเท่านั้นที่จะได้รับวุฒิบัตร ในฐานะหัวหน้าสถาบันพิทยาลงกรณ (สพล)จึงฝากความห่วงใยมายังท่าน ผนส.รุ่น 2 ต้องช่วยกันประคับประคองให้สมาชิกในรุ่น ตระหนักและให้ความสำคัญ เพราะท่านอาจกำลังทำลายโอกาสผู้นำสหกรณ์ท่านอื่น ที่ต้องการเข้ารับการอบรมในหลักสูตรนี้มาก เมื่อท่านได้รับโอกาสแล้วก็อยากให้เต็มที่กับหลักสูตร ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง ความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อองกรณ์สหกรณ์ ต่อขบวนการสหกรณ์ เป็นบททดสอบเบื้องต้นสำหรับทุกท่านครับ ท่านจะต้องจบออกไปเป็นผู้นำต้นแบบที่พึงประสงค์ ที่จะสามารถขับเคลื่อนสหกรณ์ให้บรรลุเป้าหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างต้อง เริ่มที่ตัวเราก่อน อย่ารอคนอื่นทำก่อน สิ่งแรกท่านต้องพิสูจน์ให้ท่านอาจารย์จีระยอมรับพวกเราให้ได้ ด้วยความรักและห่วงใย จาก... สพล.

สุดท้าย อย่าลืมเรื่อง โครงการพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล ขอให้ท่านได้นำองค์ความรู้ในวิชาต่าง ๆ มาอ้างอิงหรือเชื่อมโยงในโครงการให้ได้ อย่าลือการนำเสนอก็มีความสำคัญครับ ต้องทำให้คณะกรรมการฯ ฟังแล้ว ทึ่ง อึ้ง นำตาไหลไปเลย หวังว่าโครงการของท่านจะได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นโครงการดีเด่น ว๊าว!!! สุดยอดไปเลย ท่านใดคิดอะไรไม่ออก อย่าลืมปรึกษาหารือกับอาจารย์พี่เลี้ยง คือ อาจารย์ยม อาจารย์วิทย์ อาจารย์ปรีชา นะครับ ทำไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก โชค เอ.ทุกท่านนะครับ

เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

จากการได้อ่านบทความแล้ว จะเห็นว่าการศึกษาเรียนรู้จากอาจารย์ที่มีความรู้และได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับคนรุ่นหลัง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนารูปแบบของสหกรณ์ โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องส่วนตัว หวังเพียงสร้างระบบของสหกรณ์เพื่อการพัฒนารูปแบบของสหกรณ์ให้ยั่งยืนให้แก่บุคคลรุ่นต่อ ๆ มา ซึ่งอาจารย์จีระ ก็ได้ยกตัวอย่างบุคคล สองท่านที่ได้กล่าวมา ท่านได้เรียนรู้ตลอดเวลาและนำมาถ่ายทอด เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสหกรณ์และประเทศชาติต่อไป

ชนุดม ศิริบุรม

ผู้นำฯ รุ่น 2

เรียน อาจารย์ที่จีระที่เคารพ

การหาความรู้ไม่ใช่แต่ได้ปริญญาหรือเรียนเพื่อสอบผ่าน แต่ควรจะหาประสพการณ์ โดยเฉพาะประสพกราณ์จากผู้อาวุโส ท่านผู้อาวุโสหลาย ๆ ท่านในเมืองไทยมีเยอะมาก ท่านเปรียบเสมือนคลังสมองที่สุดยอดที่สุด

นพคุณ ยังเอี่ยม

สอ.กฟผ.

สวัสดี เพื่อน พ้อง น้อง พี่ ผู้นำสหกรณืชั้นสูง รุ่น ๒ ที่เคารพ รักทุกท่าน

วันนี้ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑ได้เข้าเรียน พอเข้าใจในวิชา การวางแผนแบริหาร

โครงการเพราะหางเหินการทำแผนมาเป็นเวลานานพอสมควร

โอกาสหน้าจะเข้ามาใหม่กำลังหัดพิมพ์คอมพิวเตอร์ครับ

สวัสดี จาก ส ยาสูบ

เรียน อาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

อาจารย์ครับผมเห็นว่า หลักสูตร ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 2 การปรับหลักสูตร โดยเพิ่มหัวข้อวิชา การวางแผนและการบริหารโครงการ โดยท่านอาจารย์ยม นาคสุข ให้เกียรติเป็นวิทยากร ผมคิดว่า ทำให้หลักสูตร ผนส.รุ่น2 สมบูรณ์มากขึ้น และผู้นำฯ ได้รับประโยชน์มาก โดยเฉพาะ การเขียนโครงการพัฒนาสหกรณ์ที่ผู้นำต้องทำเป็นรายบุคคล เสนอก่อนจบหลักสูตร สามารถวางแผนและเลือกโครงการที่ดีมีคุณค่า พร้อมกับการเตรียมตัวสำหรับการ Presentation ผมขอเสนอว่า ผู้นำฯ น่าจะเตรียมสื่อในรูปของ Power Point นำเสนอน่าจะได้รับความสนใจกว่า การอ่านให้ฟังอย่างเดียว โดยเฉพาะจำกัดด้วยเวลา จะช่วยให้การนำเสนอมีประสิทธิภาพ ชัดเจน ขอเป็นกำลังใจให้ ผนส.รุ่น 2 ทุกท่าน

สวัสดีครับ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมยภ์

ผมได้อ่านบทความของ อาจารย์ที่ลงหนังสือพิมพ์ แนวหน้าวันเสาร์ที่ 26 ก.ค.51 ปีที่ 2 ฉบับที่ 30 ผมมีความรู้สึกต้องขอขอบคุณอาจารย์มาก เพราะบุคคลที่อาจารย์กล่าวถึง คืออาจารย์นิคม จันทรวิทุร ผมในฐานะที่อยู่ในขบวนการแรงงานรู้สึกว่า ผมมีหนี้ติดค้าง อาจารย์นิคม จันทรวิทุร เป็นอย่างมาก เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา สมัยนั้นคุณไพศาล ธวัชชัยนันท์ เป็นประธานสหภาพฯพนักงานการไฟฟ้านครหลวง อาจารย์นิคม ได้เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่แวดวงแรงงานให้ความนับถือมาก

ผมมีความเห็นว่าอาจารย์นิคม จันทรวิทุร ท่านเป็นคนทั้งพูด ทั้งทำ และมีความเมตตาต่อแรงงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการกดขี่ของนายจ้าง ให้ได้รับความเป็นธรรมในสังคมไทยเป็นอย่างมาก

ผมเห็นด้วยที่จะยกย่องคนทำดี และขอให้ผู้นำรุ่นใหม่เอาแบบอย่างท่าน

ประจวบ คงเป็นสุข

สวัสดีค่ะ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมยภ์

จากบทความของอาจารย์ ดิฉันคิดว่า การเป็นคนนั้น จะต้องเป็นทั้งคนเก่ง และคนดี เพราะคนเก่ง แต่ไม่ดี จะเห็นได้จากปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ของบ้านเมือง เพราะถ้าคนเก่ง ที่เป็นคนดีมีจริยธรรม จะกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวมมากว่าส่วนตัว ซึ่งจะทำให้สังคมและประเทศเจริญก้าวหน้า สำหรับการศึกษาหาความรู้นั้น ในโลกปัจจุบันเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมาก แต่การแสวงหาความรู้ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ในห้องเรียน แต่อาจได้มาจากประสบการณ์ หรือการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เช่นเรื่องการอ่าน การพบปะพูดคุยกับคนที่มีความรู้และประสบการณ์ เหมือนกับที่ดิฉันได้เข้าอบรมหลักสูตรครั้งนี้ที่พบกับผู้นำแต่ละแห่งที่มีความรู้แตกต่างกัน และนำมาแบ่งปันกัน

กรณีเรื่องปราสาทเขาพระวิหารนั้น สงสัยว่าประชาชนคงจะพึ่งรัฐบาลนี้ไม่ได้แล้ว เนื่องจากรัฐบาลจงใจตั้งแต่เริ่มแรกที่จะยกใส่พานให้เขมรไป จึงไม่คิดที่จะทำอะไรเลย รัฐบาลรู้ว่าตนเองมีบทบาทอะไร แต่เจตนาจะไม่ทำมากกว่า รัฐบาลนี้ขาดความสำนึกของการเป็นคนไทย ทำให้ประชาชนเริ่มเสื่อมศรัทธาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถ้าให้ความสำคัญและมองว่าขบวนการสหกรณ์เป็นจุดที่สำคัญของสังคมไทย น่าจะให้การสนับสนุนกับ ขบวนการสหกรณ์ในทุกๆด้านมากกว่าปัจจุบัน

วรวรรณ ส่องพลาย

เรียนอาจารย์จีระ

เมื่อวานได้หนังสือจากอาจารย์มา 1 เล่มคือ ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ บังเอิญซื้อไว้แล้ว พร้อมกับหนังสือ 2พลังความคิดชีวิตและงาน ตั้งแต่ 13 มกราคม 2007 อยากเปลี่ยนเป็นหนังสือเล่มอื่นของอาจารย์จะได้ไหมคะ

วรวรรณ ส่องพลาย

สวัสดีเพื่อนๆ ผนส.รุ่น 2

หนังสือที่อาจารย์จีระให้ เพื่อนๆพยายามอ่านนะคะ เพราะมีประโยชน์มาก

ท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ทำงานในเครือปูนซิเมนต์ไทย และทำให้ปูนซิเมนต์ไทยรุ่งเรืองมาก ท่านเป็นต้นแบบที่ดีมากสำหรับผู้นำ แนวปฎิบัติของท่านใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย เราจะได้แนววิธีคิด วิธีการทำงานจากท่าน ท่านมีแนวคิดเดียวกับกับอาจารย์จีระเรื่อง "คน" และคิดว่า คนไม่ใช่ต้นทุน แต่ คนคือผลกำไร หากสามารถพัฒนาคน ยิ่งนาน ก็จะยิ่งเก่ง ยิ่งกล้า เพราะ "คนเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กร”

ท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา"จะมีแนวคิด ทฤษฏี 4 L’s

1. Village that Learn หมู่บ้านแห่งการเรียนรู้

2. School that Learn โรงเรียนแห่งการเรียนรู้

3. Industry that Learn อุตสาหกรรมแห่งการเรียนรู้

4. Nation that Learn ชาติแห่งการเรียนรู้

สำหรับอาจารย์จีระ หงส์ลดารมภ์ ของเราท่านมีทฤษฏีที่พวกเราได้รับทราบตั้งแต่วันแรกคือ ทฤษฏี 4 L’s

1. Learning Methodolody เข้าใจวิธีการเรียนรู้

2. Learning Environment สร้างบรรยากาศในการเรียนรู

3. Learning Opportunity สร้างโอกาสในการเรียนรู้

4. Learning Community สร้างชุมชนการเรียนรู้

หวังว่าเพื่อนๆคงจะอ่านกันนะคะ เพราะหนังสือนี้น่าอ่านมาก

คิดถึงเพื่อนๆทุกคนค่ะ

วรวรรณ ส่องพลาย

เพื่อนๆค่ะขอ share ความรู้ของอาจารย์จีระมี 2 ทฤษฎีซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆคือ

ทฤษฏี 3 วงกลม” ซึ่งเป็นสูตรสําหรับรับการเปลี่ยนแปลง หรือ Changing Management คือ

วงกลมที่ 1 เรื่อง CONTEXT พูดถึง เรื่อง IT ว่ามีความสําคัญ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ต้องใช้ระบบสารสนเทศมากขึ้น และการจัดองค์กรที่เหมาะสม เรียกว่าเป็นเรื่องของการบริหารทรัพยากรมนุษย์

วงกลมที่ 2 เรื่อง ภาวะผู้นํา นวัตกรรม การบริหารเวลา เป็นนทฤษฏีเพิ่มศักยภาพของคน

วงกลมที่ 3 เป็นหลักที่ดี คนเราจะสําเร็จในงานได้ต้องมองว่างานทุกอย่างเป็นงานที่ท้าทาย ต้องมีแรงบันดาลใจ ทำงานนั้นให้เกิดขึ้นจริง

และทฤษฏี 8 K’s

Social Capital ซึ่งแปลว่าทุนทางสังคม เป็นทุนที่มนุษย์มีความสัมพันธ์กัน

1. Sustainable Capital ทุนแห่งความยั่งยืน

2. Social Capital ทุนทางสังคม

3. Ethical Capital ทุนทางจริยธรรม

4. Happiness Capital ทุนแห่งความสุข

5. Digital Capital ทุนทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ IT

6. Intellectual Capital ทุนทางปัญญา

7. Talented Capital ทุนทางความรู้ ทักษะ และทัศนคติ

8. Human Capital ทุนมนุษย์

หวังว่าคงมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะคะ

วรวรรณ ส่องพลาย

สวัสดีค่ะ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมยภ์

บทความของอาจารย์ หัวข้อ "บทเรียนจากความจริง"ทำให้ดิฉันได้เห็น

ตัวอย่างของบุคคลที่ควรยกย่องทั้ง 2 ท่าน เพราะคนเราควรจะต้องค้นคว้าหาความรู้

อยู่ตลอดเวลา ทั้งจากประสบการณ์ และบุคคลที่เป็นตัวอย่าง ข้อสำคัญ คนที่มีความรู้

ควรเป็นคนดีด้วยจึงจะพัฒนาชุมชนและประเมศชาติให้เจริญได้ ตามหลักสหกรณ์

ข้อที่ 7 "ความเอื้ออาทรต่อชุมชน" สหกรณ์ในประเทศไทยยังต้องการผู้นำที่มี

ความรู้ความสามารถ และเป็นคนดี มีความเสียสละและซื่อสัตย์ ปัจจุบันสมาชิกสหกรณ์

ยังขาดความรู้เกี่ยวกับหลักการและวิธีการสหกรณ์อย่างแท้จริง การให้ความรู้แก่ผู้สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกสหกรณ์ จึงจำเป็นต้องกระทำก่อน ซึ่งมีหลายสหกรณ์ได้กระทำแล้ว

ขอขอบพระคุณ สำหรับหนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ ของอาจารย์

ได้อ่านไปบ้างแล้วมีประโยชน์มาก

อรวรรณ วัฒนะรัตน์

คนเก่งและคนดีในคนคนเดียวหายาก แต่จะเก่งมากหรือน้อย ดีมากหรือน้อย อยู่ที่ไหนเอาอะไรมาวัด จิตสำนึกของเราให้เราคิดว่าที่เราทำนั้นแหละดีแล้ว ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนก็น่าจะได้ เก่งในหน้าที่การงานทำประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติ ปัจจุบันในสังคมมีแต่ความแก่งแย้งชิงดีชิงเด่นกันโดยเฉพาะในยุดข้าวยากหมากแพง ต่อไปในอนาคตจะเป็นอย่างไร หลักสูตรนี้หากนิมนต์พระมาเทศน์ให้ฟังบ้างก็ดีเหมือนกันนะจ๊ะ

อ่านบทความของอาจารย์แล้ว ความคิดเห็นของคุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ท่านเน้นการเรียนของเด็ก โดยให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ทำไมไม่มีใครคิดที่จะนำระบบสหกรณ์ไปสอนเด็กในสถานศึกษาตั้งแต่เล็ก เพื่อเป็นการปลูกฝังปรัชญาสหกรณ์ เพราะการที่จะปลูกฝังให้เด็กซึมซับไปเรื่อย ๆ จะมีผลมากกว่าและปรัชญาสหกรณ์ก็สามารถใช้กับชีวิตประจำวันและในครอบครัวได้

เรื่องเขาพระวิหาร ทำไมทั้งสองประเทศไม่คิดหาผลประโยชน์ร่วมกัน เหมือนสหรัฐกับแคนนาดา ที่มีผลประโยชน์มหาศาลในเรื่องของน้ำตกไนแองการ่า มัวแต่ทะเลาะกัน และมองแต่ความผิดหรือสิ่งไม่ดีของผู้อื่น ลืมมองถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ทำแล้วเกิดประโยชน์อะไร

เรียนถามอาจารย์ครับ

1. ความหมายของ Brand และความหมายของ Logo

2. จำเป็นหรือไม่ที่สหกรณ์ต้องสร้าง Brand

3. จำเป็นหรือไม่ที่สหกรณ์ทุกสหกรณ์ต้องมี Logo เหมือนกัน

4. จำเป็นหรือไม่ที่สหกรณ์ไทย ต้องมี Logo อย่างใดอย่างหนึ่งให้เหมือนกับสากล (เกลียวเชือก , สายรุ้ง , สนคู่)

กราบขอบพระคุณครับ

นพคุณ ยังเอี่ยม

สอ.กฟผ.

ได้ฟังการบรรยายของอาจารย์ปรีชาแล้ว ขอเคารพความเป็นนักสหกรณ์อย่างแท้จริง ของท่าน จะมีใครที่สามารถถ่ายทอดเรื่องสหกรณ์ได้เข้าใจ และลึกซึ้ง และจะมีสหกรณ์ที่ยังเป็นสหกรณ์อย่างแท้จริงสักเท่าไร

สหกรณ์จะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการสหกรณ์ และการบริหารจัดการธุรกิจที่ดี เพื่อความยั่งยืนของสหกรณ์และลงไปสู่ความอยู่ดีกินดีของมวลสมาชิกตามอัตภาพ

เห็นด้วยกับคุณ Kittaya นะที่น่าจะมีหลักสูตรสหกรณ์เสริมเข้าไปในวิชาการเรียน ของเด็กๆ จำได้ว่าสมัยก่อน มีเฉพาะเรื่องสหกรณ์ร้านค้า ตอนเด็กๆเราก็เป็นสมาชิกก็จะอาสาแม่ซื้อของ และจะมาซื้อแต่ที่สหกรณ์ไม่ไปซื้อที่อื่น เพราะซื้อของที่ร้านสหกรณ์ฯ จะมีราคาถูกกว่า แล้วปลายปีจะได้เงินปันผล เพราะเหมือนกับเราเป็นเจ้าของร้านสหกรณ์ แม้จะมีหุ้นไม่มาก แต่อยากขายของให้ได้มากๆจากสมาชิก จะได้มีกำไรแล้วจะได้รับปันผลด้วย ไม่ค่อยรู้เรื่องหลักการสหกรณ์เท่าไร รู้แต่ว่าถ้าเป็นสมาชิกนำเงินมาลงหุ้นกัน นำเงินไปซื้อของมาขาย จะขายได้ราคาถูกกว่าตลาด หรือบางวันถ้าว่างจะมาช่วยขายสินค้าด้วย

เรียน อาจารย์ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

คนส่วนใหญ่ชอบพูดว่า สหกรณ์ไม่ก้าวหน้า ไม่เจริญ ไม่ประสพผลสำเร็จ เค้าวิเคราะห์จากอะไร เพราะบางครั้งการประสบความสำเร็จไม่สามารถแสดงออกเป็นรูปรรมได้ ถ้าดูภาพรวมของผลการดำเนินงาน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (หลายปีที่ผ่านมา)จำนวนสมาชิก จำนวนทุนของสหกรณ์ ทุนดำเนินงาน ก็เพิ่มขึ้น ขอเรียนถามอาจารย์ว่า เราควรจะดูตรงไหนว่าสหกรณ์เจริญหรือไม่เจริญ

ถึงเพื่อนๆพี่ๆ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 2 (ผนส.)ทุกท่าน

ขออนุญาตฝากข่าว ถึง เพื่อนๆพี่ๆ ผนส.รุ่น 2 ทุกท่านนะครับ...

1.ท่านที่ยังไม่ได้ให้หนังสือเดินทางกับเจ้าหน้าที่ อย่าลืมรีบส่งไปให้คุณวิจิตร คุณสารินี หรือคุณณรงค์ โดยด่วนนะครับ

2.ท่านที่ยังไม่ได้จ่ายค่าลงทะเบียน จำนวน 25,000 บาท ก็อย่าลืมโอนให้ทางสันนิบาตด้วยนะครับ

3.ในวันที่ 8 สิงหาคม 2551 จะมีการถ่ายรูป ดังนั้นจึงขอให้ทุกท่านสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมสูทตัวใหม่ ผู้ชายผูกเนคไท

4.วันที่ 8 สิงหาคม 2551 อย่าลืมนำโครงร่างโครงการไปส่งอาจารย์ด้วยนะครับ

คิดถึงทุกท่านครับ....

จาก คำรน  ศรีวงค์ษา  เลขานุการ ผนส.รุ่น2

สวัสดีค่ะ  อาจารย์

         สกรณ์ในปัจจุบัน   ถ้าเรายอมรับความจริงแล้ว  แทบจะใช้คำว่าขบวนการไม่ได้เลย 

         จากประสบการณ์ของตนเอง ที่อยู่ในสหกรณ์มาก็หลายปี ได้พบเห็นความเป็นไปของสหกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัว  ผู้นำของสหกรณ์ส่วนใหญ่ ยังต่างกันต่างอยู่  ยังตั้งตัวอยู่ในความเป็น ตัวกู้ของกู

         ผู้นำของสหกรณ์ ก็รู้มาตลอดว่าการรวมกันเป็นขบวนการจะเป็นการสร้างพลัง แต่สหกรณ์ส่วนใหญ่ยังไม่มีการรวมตัวกันอย่างยั่งยืนเสียที  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทุน  ด้านการค้า ด้านวิชาการ เช่น สหกรณ์มีสินค้าประเภทเดียวกันก็ไม่รวมกันขาย ต่างคนต่างแย่งลูกค้า/แย่งกันขาย ตัดราคากันวุ่นวาย  การซื้อสินค้าก็ไม่รวมกันซื้อ ตกลงรวมกันไม่ได้เป็นห่วงเรื่องผลประโยชน์ซื่อกันและกัน ด้านวิชาการ  ก็แทบจะไม่มีการรวมกันเลย  ต้องอาศัยองค์กรอื่น ๆ เป็นผู้จัดหามาให้

         ตราบใดที่สหกรณ์ส่วนใหญ่ ยังปฏิบัติตนเช่นนี้ จะเรียกว่าเป็นขบวนการสหกรณ์ได้อย่างไร

สรุปสาระสำคัญบทเรียนจากความจริง  จิระ หงส์ลดารมภ์ท่านจีระ ฯ กล่าวว่าท่านเป็นผู้โชคดีที่ได้รู้จักและร่วมเรียนรู้กับผู้ใหญ่ในประเทศไทยมากมาย              ในบทความนี้ท่านได้นำเสนอคุณงามความดีของบุคคล 2 ท่าน ได้แก่1. อาจารย์นิคม จันทรวิทุร ผลงานสำคัญและคุณลักษณะโดดเด่น 1) ก่อตั้งสถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2) ผลักดันให้เกิดกฎหมายประกันสังคมเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้     แรงงาน 3) เป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานหนัก ให้เกียรติเด็กรุ่นหลัง 4) สร้างผู้นำทางสังคมรุ่นใหม่              5) มุ่งแสวงหาความรู้อยู่เสมอเน้น "เรียน..รู้..นำใช้"2. คุณพารณ  อิศรเสนา ผลงานสำคัญและคุณลักษณะโดดเด่น  1) สร้างให้สังคมมีความศรัทธา      ต่อทรัพยากรมนุษย์ ให้มีบทบาทเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 2) เน้นให้คนไทย "เก่งและดี" หมายความว่าดีต้องนำเก่ง เช่น นักเรียนก่อนเรียนต้องมีสมาธิและสติ 3) การศึกษาเน้นให้เด็กเป็นสำคัญ หมายความว่า ให้เด็กพบคำตอบด้วยตนเอง เมื่อเกิดการเรียนรู้ให้นำไปปฏิบัติในด้านการสร้างผู้นำในขบวนการนิบาตสหกรณ์ ท่านจิระฯ ให้แนวคิดไว้น่าสนใจว่า 1) ผู้นำระดับกระทรวง "อย่าพูดเก่งแต่ด้านการเมือง ต้องนำไปปฏิบัติและร่วมกันสร้าง"ยี่ห้อหรือจุดเอกลักษณ์ (Brand) ให้เกิดขึ้นในวงการสหกรณ์ 2) อย่าพัฒนาเฉพาะความรู้ให้ผู้นำ ต้องพัฒนาจิตให้รักหวงห่วงและเป็นเจ้าของสหกรณ์อย่างแท้จริง 3) ช่วยกันหาคำตอบให้พบว่า "ปรัชญาของสหกรณ์คืออะไร" แล้วช่วยกันอย่างจริงจังให้เป็นสถาบันี่ตอบสนองสมาชิกได้ด้วยความอบอุ่นใจ

การจ่ายค่าลงทะเบียน จำนวน 25,000 บาท ที่ต้องโอนให้ทางสันนิบาต มีวิธีการดำเนินการอย่างไร

เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

จากที่ได้อ่านบทความของท่านอาจารย์ ฉบับวันเสาร์ที่ 26 ก.ค.2551จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ปีที่ 2 ฉบับที่ 30 ทำให้กระผมมีความเข้าใจว่าการจะเรียนรู้เรื่องอะไรหรือการจะได้รับองค์ความรู้ใดๆก็ตาม ต้องได้รับการศึกษาถึงประวัติศาสตร์ของเรื่อง หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องนั้นๆ ก่อน เช่นอาจารย์ได้ยกตัวอย่าง ท่านอาจารย์นิคม

จันทรวิทุร ที่เป็นผู้ผลักดันการประกันสังคมเพื่อผู้ที่เสียเปรียบในสังคม ให้เกิดความสำเร็จได้ และท่านอาจารย์พารณ อิศราเสนา ณ อยุธยา ที่เป็น Mentor ของสังคมในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเน้นว่า คนเก่งสร้างได้ แต่คนดีนั้นสร้างลำบาก ฉะนั้นการเรียนที่ถูกต้อง ต้องไม่ควรมองข้ามประวัติศาสตร์ของตัวบุคคลที่ต่อสังคม และประเทศชาติ

ปัจจุบันจะเห็นว่าสังคมไทยขาดสิ่งที่เรากำลังค้นหา ก็คือ การยกย่องคุณงามความดีของบุคคลที่ได้สร้างให้กับคนในสังคม จึงทำให้เรา ขาดแนวร่วมด้านทุนมนุษย์ และนำไปสู่การการขาดทุนทางทรัพยากรธรรมชาติที่เกี่ยวข้อง...

สอ.มธบ.

ตอบคุณทองปาน  โอษฐ์แก้ว

วิธีโอนค่าใช้จ่ายสมทบการศึกษาดูงานต่างประเทศ 25,000 บาท

ให้โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาศรีย่าน

เลขที่ 012-1-62642-3 บัญชีออมทรัพย์ครับ

หรือเช็คสั่งจ่ายในนาม "สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย"

หมายเหตุ...โอนทางตู้ ATM ก็สะดวกดีครับ

ค่าธรรมเนียน 25 บาท แล้วแฟ็กสลิบไปให้เจ้าหน้าที่สันนิบาตครับ

จากคำรน  ศรีวงค์ษา

ขอชมท่านเลขารุ่นทำงานฉับไวดีจังเลย เก่งจริงๆ

สหกรณ์ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ต่างเป็นเสมือนกลุ่มเล็กๆอยู่ตามอำเภอต่างๆจะให้รวมตัวได้อย่างไรในเมื่อคณะกรรมการก็คนละชุด สหกรณ์ 8,000 สหกรณ์ คณะกรรมการก็ 8,000 คณะ ไหนเลยจะสู้ห้างร้าน บริษัท ธนาคารใหญ่ๆได้ ของเขามีผู้บริหารชุดเดียวทั่วประเทศสามารถสั่งการได้เลย สหกรณ์เรายังต้องขออนุมัติต่อคณะกรรมการของสหกรณ์เองก่อนและยิ่งในปัจจุบันมีนักการเมืองเข้ามาในระบบสหกรณ์มากขึ้นก็ยิ่งใช้สหกรณ์เป็นฐานเสียงมากขึ้น จะทำอะไรก็กลัวฐานเสียงของตนเองจะเสีย เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ไม่สามารถโยกย้ายไปไหนได้อยู่ตำแหน่งไหนก็ตำแหน่งนั้นนั่นแหละเป็นตลาดก้ตลาดอยู่นั้นแหละ ที่พยายามสร้างเอกลักษณ์(brand)เป็นของตนเองก็เพื่อแสดงให้รู้ว่ายังมีสหกรณ์อยู่นะ

สวัสดีครับอาจารย์ ผมต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่ให้แนวคิดกับตัวผมเป็นอย่างมาก ในการอบรมในครั้งนี้ ผมมีคำถามอย่าจะถามอาจารย์ว่า อาจารย์ว่าจริงไหมครับที่สหกรณ์ในประเทศไทยยังไม่พัฒนาไปถึงไหน เพราะผู้นำขาดจิตสำนึกที่ดี ขาดความรับผิดชอบ อาจารย์ครับถ้าผมจะพัฒนาสหกรณ์ซึ่งเป็นองค์กรที่ผมรับผิดชอบอยู่โดยให้ความรู้ ความเข้าใจ เรื่องสหกรณ์ 1. โดยการสร้างจิตสำนึก ให้สมาชิกมีระเบียบ วินัย และรักสหกรณ์ 2. ปลูกจิตสำนึกให้ ผู้นำมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ร่วมกัน ผมว่าน่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหาในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน (อาจารย์มีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้างครับกับแนวคิด หรือต้องการเสริมแนวคิดผมอย่างไร ด้วยวิธีการแบบไหน บอกด้วยก็คงจะดีไม่น้อยเลยครับ) วันนี้ผมต้องขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงที่ให้โอกาศผมในการแสดงความคิดเห็น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาจารย์ คงจะได้อ่านข้อความ และตอบกับผม .........ขอบคุณมากครับ นายบุญส่ง ทองคุ้ม ประธานกรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านหนองกระทุ่มพัฒนา จำกัด จ.เพชรบุรี

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์จีระ ,ผู้บริหารโครงการ และ ผู้นำรุ่น 2 ทุกท่าน

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านในการศึกษาความรู้แบบ 2R

โครงการนี้เป็นการเน้นการเรียนแบบมีส่วนร่วม เน้นให้บ้าคลั่งความรู้ สไตล์ อ.จีระ

หลังจบการศึกษารุ่น 1 ได้มีการติดตามโครงการที่นำเสนอ ปรากฏว่าส่วนใหญ่

ได้มีการนำไปปฏิบัติและได้ผลดีมากๆ มีเอกสารโครงการเก็บไว้ที่สถาบันกับคุณวิจิตร และอาจารย์วิทย์

ขอชื่นชมกับการประสานข่าวสารข้อมูลความรู้อย่างต่อเนื่องในblogนี้ และอวยพรให้สำเร็จการศึกษาทั้ง 40 ท่าน /ทราบข่าวว่าขณะนี้ผู้นำรุ่นต่อไป(3)คอยติดตามอยู่

ผลิตผลจากผู้นำสหกรณ์รุ่นที่ 1

พีระพันธ์ 31กค.51

สวัสดีครับท่านอาจารย์..สหกรณ์จะรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มั่นคงและยั่งยืนนั้น ผมมีความเห็นว่าประเด็นแรกผู้นำของสหกรณ์ต้องมีจิตสำนักที่ดีต่อขบวนการของสหกรณ์ และทั้งมีความเข้มแข็ง มีความจริงใจและจริงจังต่อระบบของสหกรณ์ ประเด็นที่สองผู้นำขององค์ต้นสังกัดของสหกรณ์ต้องมีความรู้ความเข้าใจต่อระบบของสหกรณ์ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ตามสมควร อาทิ คน อุปกรณ์ สถานที่ และเวลา ตามความเหมาะสม แต่ขณะนี้ผมเชื่อว่าทุกสหกรณ์สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ยกเว้นเรื่องสถานที่สำหรับบางสกหรณ์เท่านั้น หากได้รัการส่งเสริมสนับสนุนทั้งสองประเด็นสหกรณ์จะได้รับการพัฒนาต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง..ดังคำว่า..ร่วมกันทำ..

สอ.มธบ.

ถึง Buddy ที่ชื่อ คุณไพรพนา เย็นฉ่ำอุรา

ผมมีความยินดี และดีใจที่ได้ Buddy ที่ชื่อไพรพนา เย็นฉ่ำอุรา ครับ

จาก Buddy ที่จะคอยดูแล และเอาใจคุณ

สวัสดีค่ะ อาจารย์

ความสำคัญของการพัฒนา

สหกรณ์ฯ ส่วนใหญ่ติดปากกับคำว่าถ้าเราจะก้าวหน้าได้เราต้องมีการพัฒนา

แต่ที่ผ่านมาสหกรณ์ฯ เน้นการพัฒนาในเรื่องธุรกิจ วัสดุอุปกรณ์ ต่าง ๆ มากกว่าการให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนอย่างจริงจัง

ทำให้เห็นว่าการที่ธุรกิจของสหกรณ์จะก้าวหน้า สมาชิกมีส่วนร่วมทางด้านกิจกรรม และธุรกิจ สหกรณ์ฯ ต้องได้รับการพัฒนาคนเป็นลำดับแรก

1.ผู้นำ ต้องมีความรู้/มีการศึกษา/นำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปสู่การปฏิบัติ

2สมาชิก ต้องมีความรู้/ความเข้าใจ/นำความรู้และความเข้าใจไปสู่การปฏิบัติที่แท้จริง

สวัสดีค่ะ ถึงผู้ที่มี Buddy ชื่อไพรพนา

ขอบคุณนะค่ะ ถึงแม้ยังไม่ทราบว่าเป็นใครก็ตาม

ถึง Buddy ที่ชื่อ คุณไพรพนา เย็นฉ่ำอุรา

ผมมีความยินดี และดีใจที่ได้ Buddy ที่ชื่อไพรพนา เย็นฉ่ำอุรา ครับ

จาก Buddy ที่จะคอยดูแล และเอาใจคุณ

ขออนุญาติครับผมพิมพ์ตกไปนิดตรงจากครับ

จริง ๆ ต้อง ใช้คำว่าจาก Buddy ที่จะคอยดูแล และเอาใจช่วยคุณ ครับ

เพราะคนเอาใจคงจะนั่งอยู่ในหัวใจอยู่แล้วครับ

จาก Buddy ของคุณครับ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์ปรีชา อาจารย์ได้พูดถึงผีที่เป็นศัตรูสำคัญของสหกรณ์ ดังนี้

ผีหนึ่ง ชอบบุหรี่สุราเป็นอาจิณ ไม่ชอบกินข้าวปลาเป็นอาหาร

ผีสอง ชอบเที่ยวยามวิกาล ไม่รักบ้านรักลูกเมีย

ผีสาม ชอบดูการละเล่นไม่เว้นบาร์คลับ ละครโขน

ผีสี่ ชอบคบคนชั่วมั่วกับโจร หนี้ไม่พ้นอาญาตราแผ่นดิน

ผีห้า ชอบเล่นหวย เล่นม้า กีฬาบัตร สารพัดพั่วไปโฮโลสิ้น

ผีหก ชอบเกียจคร้านการทำกิน มีทั้งสิ้นหกฟีอัปรีย์เอย

เรียน อาจารย์ ดร.จีระ ที่เคารพ

ผมอดดีใจแทนอาจารย์ไม่ได้ ว่า ผนส.รุ่น 2 เป็นรุ่นที่ "ซุปเปอร์เจ๋ง" ครับอาจารย์ ทุกคนให้ความสนใจในสิ่งที่อาจารย์พยายามหยิบยื่นให้ โดยเฉพาะการใช้ blog ของอาจารย์ เป็นการฝึกผู้นำให้สามารถประมวลสาระความรู้ที่ตนเองได้รับออกมาสู่สายตาท่านผู้อ่าน ก็เปรียบเสมือนการทานอาหาร แล้วสามารถย่อยเอาสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น ของเสียก็ขับออกจากร่างกาย การเรียนก็คงคล้ายกัน เมื่อเรียนแล้วสามารถสรุปประเด็นหรือแนวคิดหลัก ที่เป็นประโยชน์สำหรับตนเองได้ ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะส่วนใหญ่เมื่ออบรมแล้วก็มักลืมในไม่กี่วัน หรือส่งคืนอาจารย์กันหมด การฝึกสรุปแล้วนำมาถ่ายทอดเป็นตัวอักษร จะช่วยให้เข้าใจและจดจำได้ดียิ่งขึ้น ก็อยากให้ ผนส.ทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ยังไม่คุ้นเคย ก็ขอให้ท่านลองนั่งลงที่เก้าอี้หน้าจอแล้วฝึกปฏิบัติจริง (Lerning by Doing) แล้วท่านจะเป็นเองครับ ผนส.สู้ สู้ สู้โว๊ย...

จงก้าวไปแม้ไฟจะไหม้โลก

จงก้าวไปแม้โชคจะอับเฉา

จงก้าวไปแม้ใครจะด่าเรา

จงก้าวไปแม่ใครเขาจะนินทา

"งานหนักไม่เคยฆ่าคน"

MEAJO CO-OP EX.1

ถึง สมาชิก ผนส.รุ่น 2 ทุกท่าน

ย้ำเตือนมายังสมาชิก ผนส.รุ่น 2 ทุกท่านนะครับ ว่า ตี 5 ของวันที่ 18 สิงหาคม 2551 เราเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 2 Row - E เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์ เอเชีย

สำหรับการแต่งกาย...มีดังนี้ครับ...

18 สิงหาคม 2551  วันออกเดินทางจะมีการถ่ายรูปที่สนามบิน  

ใส่เสื้อยืดสีส้ม (สันนิบาต) + สูท (สันนิบาต)

19 สิงหาคม 2551  ศึกษาดูงานที่ประเทศมาเลเซีย

ใส่เสื้อยืดสีขาว (สันนิบาต) + สูท (สันนิบาต)

21 สิงหาคม 2551 ศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์

ใส่เสื้อยืดสีขาว (สันนิบาต) + สูท (สันนิบาต)

สำหรับท่านที่อยู่ต่างจังหวัด ไปพักที่สันนิบาต ก็สะดวกดีนะครับ เพราะจะมีรถรับส่งถึงสนามบิน ที่สำคัญมีคนปลุกให้ตื่นด้วย จะได้ไม่ตกเครื่องบินครับ...

จาก คำรน  ศรีวงค์ษา  เลขานุการครับ...

สวัสดีค่ะ อาจารย์

ได้อ่านหนังสือ ของอาจารย์ที่ได้มอบให้กับผู้นำรุ่นที่ 2 บ้างแล้ว ทำให้เกิดความคิดหลาย ๆ ด้านด้วยกัน

คน ถ้าเปรียบกับสิ่งของ มีทั้งความเหมือนและความแตกต่าง ของใช้ บางอย่างใช้งานน้อยอายุการใช้งานจะนาน แต่บางอย่างไม่ค่อยได้ใช้งานแต่จะเสื่อมสภาพด้วยอายุของมันเอง

แต่สำหรับคนนั้น สมองยิ่งใช้งาน ยิ่งได้รับการพัฒนาเพราะฉะนั้น ไม่ว่าเราเป็นผู้เรียนดีขนาดไหน แต่เราหยุดอยู่กับที่ไม่รู้จักแสวงหาโอกาส เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ สมองก็จะไม่ได้รับการพัฒนา

คนที่เรียนไม่ดี แต่เป็นคนใฝ่รู้ หาโอกาศพัฒนาตัวเองด้วยการศึกษาเพิ่มเติม คนที่เรียนดีย่อมสู่เราไม่ได้แน่นอน ดังคำพูดที่ว่า "ไอ้โง่เดินทางรอบโลก ย่อมมีความฉลาดกว่าคนฉลาดที่นั่งอยู่กับที่"

เรียน อาจารย์จีระ

หนูต้องขอโทษที่ไม่ได้เข้า Blog มานาน ติดเดินทางไปราชการหลายวันค่ะ

ไม่สะดวกที่จะเข้า INTERNET ค่ะ และขอกราบขอบคุณอาจารย์มากนะคะที่กรุณา

มอบหนังสือให้กับพวกเรา ผู้นำสหกรณ์ รุ่น 2 อ่านแล้วทำให้ทราบว่าเราสามารถพัฒนา

ตนเองได้ไม่มีที่สิ้นสุด การมีความรู้และปํญญาติดตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ และจะอยู่กับเราไป

ตลอดชีวิต สิ่งสำคัญคือ อย่าอายที่จะเรียนรู้ ไม่มีใครแก่เกินเรียน ( No one no

old to learn ) ขอบคุณนะคะที่อาจารย์สอนให้เราเป็นคนไฝ่รู้ และก้าวทัน IT

ถึง Buddy คุณไพรพนา

คุณไพรพนามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเชื่อมโยงของขบวนการสหกรณ์แต่ละประเภท และมีความคิดเห็นอย่างไรที่ปัจจุบันสหกรณ์แต่ละประเภทอยู่แบบตัวใครตัวมันต่างคนต่างคิดต่างคนต่างอยู่ ?

จาก Buddy คุณไพรพนา ครับ

สวัสดีค่ะ คุณคนที่มองเห็น

ในเรื่องความเชื่อมโยงของขบวนการสหกรณ์แต่ละประเภท ความเป็นไปได้มีน้อยมาก จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนต้องรักองค์กรของตนเอง ห่วงในเรื่องของผลประโยชน์ และห่วงในเรื่องของความเสี่ยงขององค์กรเป็นหลัก ดังนั้น สหกรณ์แต่ละประเภทศักยภาพแตกต่างกัน คนในแต่ละสหกรณ์ก็ต้องดูแลผลประโยชน์ของตนอง

แม้แต่สหกรณ์ประเภทเดียวกัน ที่รวมกันเป็นชุมนุมฯ ก็ยังไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ เช่นประเภทเกษตรเป็นต้น บางแห่งศักยภาพด้านทุนมีน้อย แต่ก็ไม่สามารถเชื่อมโยงด้านทุนได้ ต้องไปใช้แหล่งเงินทุนจากแหล่งอื่น ๆ ที่มีต้นทุนที่สูง สหกรณ์ที่มีศักยภาพด้านทุนมากได้ ก็จะห่วงผลประโยชน์ ห่วงความเสี่ยงของสหกรณ์เป็นหลัก

แม้แต่เรื่องตลาด สหกรณ์ก็ต่างคนต่างทำ ไม่รวมกัน หรือบางครั้งยังแย่งกันทำตลาดเสียด้วยซ่ำไป

ทางเดียวที่จะทำให้ขบวนการสหกรณ์ไปได้อย่างอย่างยื่นทั้งประเภทเดียวกันหรือต่างประเภท ก็คือ ต้อง ทำให้คนที่เกี่ยวข้องในสหกรณ์แต่ละประเภท เชื่อมโยงกันได้เสียก่อน และให้มีใจที่เป็นกลางในการพัฒนาขบวนการสหกรณ์

เล่าสู่กันฟัง

ได้เข้าร่วมสัมมนา แนวทางการกำหนดเกณฑ์และรูปแบบการถ่ายโอนงานสอบบัญชีสหกรณ์ให้ภาคเอกชน เป็นงานวิจัยจัดโดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ทำให้ทราบว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์มีนโยบายที่จะขยายเป้าหมายให้เอกชนเข้าตรวจสอบบัญชีไปยังสหกรณ์ภาคการเกษตรด้วย เนื่องจากกรมตรวจ ฯ มีภารกิจส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจด้านการบัญชีให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศ ส่งผลให้ไม่สามารถให้บริการตรวจสอบบัญชีได้อย่างรวดเร็วทันต่อความต้องการของสหกรณ์ งานวิจัยนี้ได้ศึกษาพัฒนาเกณฑ์มาตรฐานและรูปแบบการถ่ายโอนงานสอบบัญชีสหกรณ์ภาคการเกษตรให้เอกชนด้วย หากมีการถ่ายโอนจริง สหกรณ์ภาคการเกษตรคงต้องเตรียมความพร้อมในการถ่ายโอน

ถึง เพื่อนๆ พี่ๆ ผนส. รุ่น 2 ทุกท่าน...

ผมมีเรื่องเกี่ยวกับ เงินๆทองๆ มาฝากทุกท่านให้ทราบไว้ สำหรับท่านที่ทราบแล้วก็อย่าว่ากันนะครับ

พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา จะเริ่มมีผลบังคับใช้ใน
วันที่ 11 สิงหาคม 2551 เป็นต้นไป

แล้วกระทบกับชาวบ้านอย่างพวกเรายังไง??

ก่อนหน้านี้การฝากเงินในธนาคาร ผู้ฝากจะได้รับการคุ้มครองเงินฝาก “เต็มจำนวน” ตามกฎหมายเดิม

แต่ต่อไปนี้ .. ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วนะครับ

ตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2551 ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป คือ จะมีการจำกัดจำนวนวงเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครอง โดยจะค่อยๆ ลดระดับความคุ้มครองลง
มีลำดับตามนี้ครับ

• 11 ส.ค. 51 - 10 ส.ค. 52: คุ้มครองเต็มจำนวน
• 11 ส.ค. 52 - 10 ส.ค. 53: คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท
• 11 ส.ค. 53 - 10 ส.ค. 54: คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท
• 11 ส.ค. 54 - 10 ส.ค. 55: คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท
• 11 ส.ค. 55 เป็นต้นไป: คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

ทำความเข้าใจไว้ด้วยนะครับว่า จำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองนั้นนับรวมทุกบัญชีเข้าด้วยกันภายในธนาคารเดียวกันนะครับ ไม่ใช่นับต่อบัญชี

ต่อไปนี้ คนรวยคงนอนไม่ค่อยหลับแน่ๆๆเลย...

จาก คำรน  ศรีวงค์ษา เลขานุการรุ่นครับ...

ผนส.รุ่นหนึ่งเล่าให้ฟังว่าการเดินทางโดยรถจากมาเลเซียไปสิงค์โปร์เสียเวลามาก ถ้าเป็นไปได้ควรประหยัดเวลาเพื่อเพิ่มกิจกรรมในประเทศสิงค์โปร์โดยการเดินทางโดยเครื่องบินจะดีกว่า ค่าใช้จ่ายก็ไม่สูงมากนัก คิดว่าน่าจะลองทบทวนดู

ถึงท่านผอ.สงกรานต์

ดิฉันเป็นบัดดี้ท่านจะคอยดูแลและเอาใจใส่ท่านเสมอนะคะ

ถึง เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน... ผมมีข้อคิดบวก ชีวิตบวก POSITIVE THINKING, POSITIVE LIFE ซึ่งผมได้อ่านพบจากบทความของ ท่าน ว.วชิรเมธี คิดบวก ชีวิตบวก POSITIVE THINKING, POSITIVE LIFE

เรียนผู้เข้ารับการอบรมผู้นำขั้นสูงรุ่น2

สวัสดีทุกท่านค่ะ ทุกคนคงงานยุ่งมากนะคะดิฉันก็เช่นกัน ยังไม่ได้ทำโครงการส่งเลยคงจะส่งใกล้ 30ส.ค ท่านๆทั้งหลายรอด้วยเด้อ

ธญา(นันท์)

เรื่อง พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่

13 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 สิงหาคม 2551 เป็นต้นไปนั้น ผมคิดว่าคงไม่กระทบกับสหกรณ์ดอกนะ

เพราะหากวิเคราะห์กันจริง ๆ แล้ว ก่อนจะใช้ พ.ร.บ.นี้ รัฐก็คุ้มครองเงินฝากในสถาบันการเงินเต็มจำนวนอยู่แล้วแต่ไม่คุ้มครองมาถึงเงินฝากในสหกรณ์ เมื่อ พ.ร.บ.นี้ มีผลก็จำกัดการคุ้มครองเงินฝากในสถาบันการเงินลงจนเหลือ 1 ล้านใน 1 บัญชี(1 ธนาคาร)ในขณะที่เงินฝากในสหกรณ์ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จะกระทบบ้างคงมาจากสมาชิกที่ตื่นตกใจไม่รู้จริงเท่านั้น ไม่ทราบว่ามีใครคิดเห็นเป็นอื่นบ้างครับ

                    การเปิดใจ  (Open -Minded)

• การมีทัศนคติของการเรียนรู้ เป็นการเปิดประตูไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ด้วยการก้าวออกไปจากแนวความคิดหรือมุมมองที่คับแคบ
• การเปิดใจ คือก้าวแรกของการสร้างความเข้าใจ เป็นการเชื่อมโยงตนเอง เข้ากับสิ่งต่าง ๆ  ด้วยความถ่อมตน การซักถาม การทดสอบ  การทดลอง
• การรับฟังความคิดเห็น ข้อแนะนำ และข้อมูลป้อนกลับต่าง ๆ จากคนที่อยู่ใกล้ชิด

ผู้ร่วมรุ่นทุกท่านครับ ท่านเป็นเหมือนผมหรือเปล่าครับเมื่อไปเที่ยววัดไม่ว่าจะเป็นที่วัดใดก็ตามจะชอบเดินดูภาพในโบสถ์ ดูภาพแกะสลักตามประตูหน้าต่าง หรือไม่จะเดินอ่านบทกลอน หรือป้ายคำเตือนต่าง ๆ รอบ ๆ ในวัด ผมว่าสิ่งที่เราได้ดูสิ่งที่เราได้อ่านให้อะไรกับเราหลาย ๆ อย่าง ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตำราและทฤษฏีในการบริหารต่าง ๆ ของฝรั่ง กับบทความ บทกลอนต่าง ๆ ตามวัด หรือในหนังสือธรรมะ ของใครมาก่อนกัน เพราะคำสอนจากธรรมะไม่แตกต่างกับตำราของฝรั่ง หลายสิ่งหลายอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านสั่งสอนดูแล้วครอบคุมจะต่างกันตรงที่การนำมาประยุกต์ใช้คำให้ดูแล้วน่าอ่านน่าศึกษา ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าผมอ่านในหนังสือธรรมะหรือว่าไปเดินอ่านที่วัดใด ผมจำคำว่า 4 ป. มาได้แต่รายละเอียดจำได้ไม่หมดลองอ่านกันดูแล้วช่วยเพิ่มเติมกันให้หน่อยครับ ว่าควรจะเพิ่มในข้อใดบ้าง

ป.ที่ 1 ปลูก จิตวิญญาณ จิตสำนึก ความรัก ความศรัทธา เจตนารมย์

ป.ที่ 2 ปรับ ความคิด ปรับตัวให้เข้ากัน ป.ที่

3 เปลี่ยน พฤติกรรม พัฒนาให้เจริญก้าวหน้า

ป.ที่ 4 ปลด คนไม่ดี คนชั่ว ความทุกข์

นพคุณ สอ.กฟผ.

ผมคงได้มาพบกับท่านในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม นี้ ในเรื่องของ หลักเศรษฐศาสตร์จุลภาค

ผมประทับใจในคุณภาพของการเขียน Blog ของทุกท่าน

แต่ คุณภาพการเขียน Blog ยังไม่พอ ต้องมีการสร้าง ทีมเวอร์ค ต้องทำให้มีการสร้างสิ่งที่เราเชื่อมา อย่างที่เราเคยคุยกัน ในเรื่องการสร้างจิตวิญญานของสหกรณ์ เรายังต้องพัฒนาตรงนั้นต่อไป

ทั้งนี้ พณฯท่าน ธีระชัย แสนแก้ว ท่านยังเป็นแนวร่วมคอยดูแลพวกเรา ดังนั้น เราต้องช่วยกันผนึกกำลังและ ดูแลว่าทำอย่างไร สหกรณ์จึงจะมีงบประมาณเพื่อนำมาพัฒนาสหกรณ์ของเราต่อไป

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

สวัสดีครับคุณไพรพนา

     ขอบคุณครับสำหรับคำตอบเรื่องความเชื่อมโยงของขบวนการสหกรณ์แต่ละประเภท ที่มีความเห็นว่าเป็นไปได้น้อยมาก สาเหตุเนื่องมาจาก ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนต้องรักองค์กรของตนเอง ห่วงในเรื่องของผลประโยชน์ และห่วงในเรื่องของความเสี่ยงขององค์กรเป็นหลัก ดังนั้น สหกรณ์แต่ละประเภทศักยภาพแตกต่างกัน คนในแต่ละสหกรณ์ก็ต้องดูแลผลประโยชน์ของตนอง แต่หากว่าเราทดลองนำทฤษฏี 2 R คือ R ที่ Reality (ความเป็นจริง) และ R ที่ 2 Relavance (ความเชื่อมโยงมาสู่เรา หรือสู่องค์กรของเรา)มาใช้ ไม่แน่น่ะครับอาจจะสำเร็จได้

จาก Buddy ของคุณ

กราบเรียน อ.ดร.จีระ

ผมขอขอบคุณอาจารย์มากที่ได้มอบหนังสือให้ลูกศิษย์คนละ 1 เล่มผมได้ศึกษาจากหนังสือมีประโยชน์มากเป็นประโยชน์ต่อการบริหารองค์กรและได้ศึกษาจากเอกสารที่อาจารย์สอนที่ผ่านมาทำให้เกิดแนวคิดที่จะเป็นประโยชน์ให้กับสหกรณ์อีกมากผมจะตั้งใจรับเอาความรู้จากอาจารย์นำไปปฏิบัติให้ดีที่สุด

ถึงเพื่อนๆพี่ๆ ผนส.รุ่น 2 ทุกท่านครับ

วันที่ 8 สิงหาคม 2551 นี้อย่าลืม...

1.ป้ายชื่อนะครับ (เดี๋ยวน้องณรงค์ จะดุเอานะครับ)

2.ท่านที่ทำโครงการเสร็จแล้ว ก็นำไปส่งด้วยนะครับ

3.ท่านสุภาพบุรุษใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไท พร้อมสูทเตรียมถ่ายรูป

ด้วยนะครับ  สุภาพสตรีใส่สูท เสื้อข้างในสีขาวเช่นเดียวกัน

จาก คำรน  ศรีวงค์ษา ผู้จัดการ สอ.สาธารณสุขสมุทรสงคราม จำกัด

เรียน ผนส.2 ทุกท่าน

คิดว่าทุกท่านคงสบายดี และสุขภาพแข็งแรง ก็มีเรื่องฝากมาบอกทุกท่านเกี่ยวกับโครงการดังนี้

1 อย่าลืมเรื่องโครงการพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล นะครับตามที่ อ.ยมได้ไกด์ให้แล้ว ถ้ายังไม่มั่นใจ ปรึกษาอาจารย์ยม ได้ตลอด เพราะท่านจะทำหน้าที่ Coaching ให้กับผู้นำ เน้นโครงการเพื่อการพัฒนา หรือการแก้ปัญหาของสหกรณ์ ในด้านต่าง ๆ ไม่ต้องเป็นโครงการใหญ่โตมโหฬาร แต่ขอให้เป็นประโยชน์ นำไปใช้ได้จริงในสหกรณ์ท่านหรือสหกรณ์อื่นที่สนใจ ตรงประเด็น ชัดเจน ทำได้จริง ก็โป๊ะเชะ..แล้วครับท่าน

2 พาสปอร์ตใครยังไม่ส่งรีบจัดการด่วนเลยครับ

3 ค่าลงทะเบียนสมทบคนละ 25,000 บาท อย่าลืมโอนเข้าบัญชี สันนิบาตสหกรณ์ฯ ตามที่แจ้งให้ทราบแล้ว

4 ขอความร่วมมือทุกท่านตรงวลา และอย่าลืมลงเวลาเรียน เช้า-บ่ายทุกครั้งด้วยขอบคุณ เพราะทุกคนต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเองนะครับ

การเรียนรู้ คือ การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตของมนุษย์

โชคดีทุกท่านครับ พบกันวันที่ 8 สิงหานี้ครับ

กราบเรียน ท่านอาจารย์จีระ       ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณท่านอาจาย์เป็นอย่างมากที่ได้มอบหนังสือให้ลูกศิษย์คนละเล่ม และต้องกราบขอโทษอาจาย์เป็นอย่างมากที่เขียน Blog ช้าเนื่องจากพออบรมเสร็จยังไม่ได้เดินทางกลับมาทำงานเพราะต้องอยู่สัมมนาต่อที่รร.รอยัลซิตี้บางพลัด      อ่านบทเรียนจากความจริงของอาจารย์แล้วสรุปได้ว่ามีบุคคลหลาย ๆ คนที่ทำประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองและสังคมมักจะไม่รู้จักและไม่ได้ศึกษาชีวประวัติอย่างเช่น อาจารย์นิคม  จันทรวิทุร และ คุณพารณ  อิศรเสนา ณ อยุธยา เห็นด้วยกับท่านพารณเป็นอย่างยิ่งและขอยกย่องที่ท่านเน้นให้คนไทยมีสองอย่างควบคู่กันไป คือ เก่งและดี เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่าเก่งสร้างได้ ดีสร้างลำบาก เพราะสังคมไทยในปัจจุบัน จะมีข่าวออกมาทางสื่อโทรทัศน์ สื่อหนังสือพิมพ์ หรือสื่ออะไรก็แล้วแต่มักจะมีแต่เรื่องที่ไม่ดีทั้งนั้นเรื่องที่ดี ๆ มีน้อยเหลือเกิน

ถืง พี่สายัญห์

อ่านคิดบวก ชีวิตบวก ที่พี่เอามาฝากแล้วชอบมาก ๆ เลยอยากให้ ผนส.รุ่น 2 ทุกคนได้อ่านดู ขอบคุณพี่มาก ๆ ที่นำสิ่งที่ดี ๆ มากฝากค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์ ดร.จีระ ที่เคารพ

ทำอย่างไรจะสร้างจิตวิญาณการเป็นนักสหกรณ์ให้กับคณะกรรมการสหกรณ์ในภาคการเกษตรได้อย่างเข้าใจ การได้เรียนรู้กับอาจารย์ต่อไปดิฉันจะพยายามนำมาถ่ายทอดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อมวลสมาชิกในภายภาคหน้าให้ได้นะคะ

สวัสดี อาจารย์

โครงการนี้ นอกจากได้รับความรู้จากท่านอาจารย์แล้ว พวกเรายังได้เครือข่ายอาวุธทางปัญญา จากเพื่อน ๆ แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนใช้ปรัชญาสหกรณ์ให้เป็นประโยชน์ต่อองค์กรอย่าง win win ด้วยกันอย่างแท้จริง แต่ที่ไม่ใช่ ความกลัว การไม่ 4จ. การไม่มีปัชญาสหกรณ์ในบุคคลธรรมดา จึงทำให้เราส่วนใหญ่ยังไปไม่ถึงไหน จึงขอให้บุคคลคนเก่ง ๆ ดี ๆ ทั้งหลาย จงช่วยกันสิ อย่าคิดว่า " นี่ไม่ใช่งานฉัน "

จากนุชรินทร์ สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด ลว.7 สิงหาคม 2551

ถึง Buddy คุณไพรพนา

          การบ้านที่อาจารย์ให้ทำเสร็จเรียบร้อยหรือยังครับ ?

จาก Buddy ของคุณ

เรียน ท่านศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์

       อาจารย์ วิทยากรที่บรรยายในวันศุกร์-เสาร์ที่ 8-9 สิงหาคม 2551

       และเพื่อนๆ ผู้เข้าอบรมหลักสูตร"ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" รุ่นที่ 2 ทุกท่าน

           กราบขออภัยที่มิสามารถมาเข้าร่วมรับการอบรมฟังการบรรยายในสองวันนี้ได้ เนื่องจากต้องเดินทางไปดูงานของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่ประเทศเกาหลีใต้ ครับผม

           แต่เรื่องเดินทางไปดูงานที่มาเลเซีย และสิงคโปร์ ไม่พลาดแน่นอน พบกันเช้ามืดวันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2551 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ครับผม

           โชคดีทุกท่านครับ

                                  สายัณห์  ถิ่นสำราญ

ได้อ่านบทความอ.จีระ แล้วรู้สึกว่าเมืองไทยยังโชคดีที่มีบุคคลากรอย่างท่านอาจารย์ทั้งสาม

ภาระกิจในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ ผมคิดว่าการสร้างความรู้นอกจากการอบรมแล้ว อีกประการหนึ่งคือ "ความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรง"

การจะทำให้สมาชิกสหกรณ์มีความรู้ ความเข้าใจในอุดมการณ์สหกรณ์นั้นจะต้องทำให้เขาเกิดความศรัทธาเสียก่อน ความศรัทธาจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อเขามีความเชื่อมั่นว่าเป็นสมาชิกสหกรณ์แล้วดีจริง การจะทำให้สมาชิกเกิดความเชื่อมั่นได้นั้น สหกรณ์จะต้องทำให้สมาชิกได้รับประโยชน์ที่จับต้องได้จากการเข้ามาเป็นสมาชิก(จินตนาการจากแนวคิดวัตถุนิยม).

เรียน ผู้เข้ารับการฝึกอบรมผู้นำขั้นสูงทุกท่าน

ดิฉันรู้สึกดีใจที่เห็นผู้นำสหกรณ์ทุกท่าน มีความตั้งใจในการพัฒนาตนเอง ซึ่งหวังว่าทุกท่านคงจะได้นำความรู้และประสบการณ์ นำไปปรับใช้กับสหกรณ์ให้เกิดประโยชน์ต่อไป ค่ะ

จาก เบญจมาส พรพิทักษ์พันธุ์

เจ้าหน้าที่ประจำโครงการ

เสนอชื่อโครงการ

โครงการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของสมาชิก

 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูออมทรัพย์ครูเลย จำกัด

เรียนท่านอาจารย์จีระ

สหกรณ์มีการอบรมเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผู้นำ การอบรมให้สมาชิกมีภาวะผู้นำ แต่ในความเป็นจริงสมาชิกสหกรณ์ควรได้มีการพัฒนาในเรื่องของการเป็นผู้ตามที่ดีในองค์กร สมาชิกสหกรณ์รับรู้และยินดีที่ได้ใช้สิทธิของตนในองค์กร แต่ในด้านของหน้าที่กลับไม่มีสมาชิกพูดถึงหรือปฏิบัติตามหน้าที่ที่สมาชิกพึงกระทำดังนั้นในสหกรณ์จึงประสบกับปัญหาที่สมาชิกมักไม่ทำตามหน้าที่ที่ตนควรจะทำ ในฐานะผู้นำองค์กรเรามีวิธีที่จะเสริมสร้างให้สมาชิกเป็นผู้ตามที่ดีได้อย่างไรครับ

                               เสนอชื่อโครงการ

โครงการการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงจากมูลโค

                                   เสนอชื่อโครงการ

                โครงการการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาชุมชนกับ

                            การเกษตรไทรน้อย จำกัด

                               เสนอชื่อโครงการ

                 การระดมเงินฝากจากโรงเรียนในจังหวัดแพร่

กระผม ขอส่งรายชื่อโครงการ หัวข้อ โครงการพัฒนาสมาชิกอย่างยั่งยืน

ท่านอาจารย์ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ที่เคารพ ผมขอสนับสนุนความคิดของอาจารย์ที่ส่งเสริมให้มีการพัฒนาคน โดยการนำแนวคิดมาใช้ในการสร้างสิ่งที่เรียกว่า Creativity ซึ่งเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่จะกระตุ้น ให้เกิดการพัฒนาทางความคิด เป็นการจูงใจให้มนุษย์พยายามนำความสามารถของสมองมาสร้างประโยชน์ แต่คงต้องใช้ความพยายามมากหน่อยในการที่จะกระตุ้น เพราะคนไทยถูกสร้างและสอนมาตั้งแต่เด็กและวัยเรียน ให้ "ฟังและจำ" เด็กไม่ได้ถูกให้โอกาสที่จะแสดงออกและคิดอย่างอิสระ ผมหวังว่าลูกศิษย์ของอาจารย์จะเป็นพลังในการผลักดันสังคม ให้เปลี่ยนพฤติกรรมการเลี้ยงลูกใหม่ ที่พร้อมจะรับฟังข้อคิดเห็นของลูก และพยายามส่งเสริมลูกให้แสดงความคิดเห็น เพื่อให้สมองที่กำลังเจริญวัยได้ทำงาน และการปรับวิธีการเรียนการสอนแนวใหม่ แทนการท่องจำอย่างอดีตที่ผ่านมา ผมภูมิใจในความตั้งใจและความทุ่มเทของอาจารย์ที่จะพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศ ขอให้ประสบความสำเร็จครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์จีระ

รู้จักชื่อเสียงตระกูลหงส์ลดารมภ์มานาน สนใจเศรษฐสาสตร์ สนใจตัว Vของอาจารย์ ช่วย coaching พวกเราผู้เข้าอบรมด้วย สนใจ blog กีฬาด้วยค่ะ

คุณนพคุณ วันนี้รับกระเป๋าที่บริษัททัวร์นำมาแจกแทน วันจันทร์จะนำติดไปให้ที่ที่ทำงานขอรับได้ที่ รส.กฟผ.

สวัสดีครับอาจารย์จีระ

ความเข้มข้นของเนื้อหาที่อาจารย์ทุกท่านใส่ให้พวกเรา ผนส.2 เข้มข้นขึ้นทุกวัน ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านมาก สัญญาว่าจะความรู้ที่โได้ไปสู่การปฏิบัติจริงให้จงได้

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์จีระ ที่เคารพ

วันที่ 10 ส.ค อาจารย์สอนเกี่ยวกับเศรษฐศาตร์จุลภาคชี่งยากพอสมควรแต่อาจารย์ก็สามารถถ่ายทอดความรู้ให้พวกเราเข้าใจได้และให้ยกต้วอย่างในภาระกิจที่ผู้เข้ารับการอบรมได้มีประสพการณ์จากการปฎิบัติงานที่ผ่านมาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐศาตร์เช่นภาคอีสานประสบภัยแล้งควรจะมีการจัดสรรน้ำเช่นไร ควรจะเก็บเงินค่าน้ำกับเกษตรหรือไม่ ในทางเศรษฐศาตร์ไม่มีของฟรีในโลกจะต้องเก็บและจัดการบริหารให้เพียงพอต่อปริมาณความต้องการโดยใช้หลักการทางรัฐศาตร์เข้ามาบริหารจัดการด้วย สิ่งเหล่านื้ที่อาจารย์สอนนับว่าเป็นประโยชน์ต่อพวกเรามากและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติจืงขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ

เรียน ผู้อำนวยโครงการหลักสูตรผู้นำสหกรณ์รุ่น 2

เรื่อง ขอส่งชื่อโครงการที่นำเสนอ

         ตามที่โครงการให้ผู้เข้าร่วมสัมนาหลักสูตรผู้นำสหกรณ์รุ่น 2 จัดทำโครงการเพื่อที่จะนำเสนอ กระผมนายนพคุณ ยังเอี่ยม กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด ขอเสนอชื่อ "โครงการสหกรณ์ออมทรัพย์กับการเอื้ออาทรต่อสังคม"

         จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

                                                     นายนพคุณ ยังเอี่ยม

สำเนา Email clt.clt.or.th

เรียน อาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

        บทความของอาจารย์ หัวข้อ"บทความจากความจริง" เมื่อวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2551 จนถึงวันนี้พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ก็ผ่านไปอย่างยิ่งใหญ่เรียบร้อยด้วยดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ประเทศจีนเป็นผู้นำที่ได้เหรียญทองมากที่สุด ประเทศไทยได้เหรียญทองจากกีฬายกน้ำหนัก 1 เหรียญ ดิฉันได้ดูกีฬาอีกหลายๆอย่าง นักกีฬาไทยมีความสามารถเพิ่มขึ้น เช่น แบตมินตัน บางคนพยายามอย่างดีที่สุดแล้วไม่ได้เหรียญ ดิฉันจะพยายามส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทยได้เหรียญทองเพิ่มขึ้นอีก

        ดิฉันอ่านหนังสือทรัยากรมนุษย์พันธุ์แท้ของอาจารย์ ได้ข้อคิดและข้อปฏิบัติหลายอย่างจากอาจารย์พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตของตนเองได้ เช่น

        -เก่ง 4 คือ เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด และเก่งเรียน

        -ดี 4 คือ ประพฤติดี มีน้ำใจ ใฝ่ความรู้ คู่คุณธรรม

        -การทำงานที่ดี คือ การทำงานที่เอาความสามารถของคนแต่ละคนมารวมกัน

        -คนไม่ได้ต้องการผลตอบแทนที่เป็นเงินทองอย่างเดียว แต่ยังต้องการผลตอบแทนทางใจด้วย

สวัสดีค่ะ   ท่านอาจารย์

               ในการบริหารงานของสหกรณ์ฯ  มีการนำในเรื่องของเศรษฐศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา  แต่เมื่อได้เรียนเพิ่มเติมเข้าไปทำให้เราเกิดความคิดหลากหลาย ที่สามารถนำเข้ามาปรับใช้ในองค์กรได้มากมาย 

                เพี่ยงแต่เรายึดแนวคิดที่ว่า  เราใช้ความต้องการของมนุษย์ที่ไม่มีวันสิ้นสุดเข้ามาศึกษา  และควรทำในสิ่งที่เสียไปแล้วต้องเกิดความคุ้มทุนมากที่สุด  หากองค์การใดใช้จ่ายทรัพยากรที่มีอยู่อย่างฟุ้งเฟือย องค์กรนั้นคงไปไม่รอด  ดังนั้น ต้องคิดอย่างมีเหตุ มีผล  โดยต้องศึกษาต้นทุนทางด้านเศรษฐศาสตร์  ต้นทุนทางบัญชี และต้นทุนทางสังคม  ไปพร้อม ๆ  กัน

สวัสดีค่ะท่านผู้เข้ารับการอบรมผู้นำขั้นสูงรุ่น2ทุกท่าน

พบกันวันที่ 18 ส.ค ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และอีกส่วนเราต้องพบกันที่สันนนิบาติในวันที่ 17 ส.ค ตอนใหนกันเอ่ยแต่ชาวโคราชอาจจะไปถึงเย็นนะคะ

เรียนท่าน อ.จีระ หงส์ลดารมภ์ และท่านอ.ยม นาคสุข

             ผมนายวิร้ตน์ พรมสี ผนส.2 ประธานผู้ตรวจสอบกิจการสกก.เมืองเชียงราย จำกัด รู้สึกขอบคุณและภุมิใจในโครงการอบรม ผนส.อย่างมากมาย เพราะโครงการนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ชัดเจนในระดับบริหารอย่างมากมาย โดยเฉพาะวิชาหลักเศรษฐศาสตร์มหาภาคกับการทำงานของสหกรณ์ และวิชาการวางแผนและเขียนโครงการพัฒนาสหกรณ์ หลังจากกลับจากการอบรมวันที่ 9 สค. มาถึงที่สกก.เชียงราย ผมก็ได้เจอโครงการที่ฝ่ายจัดการเขียนเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในวันที่ 26 สค.51 มีอยู่ 4 โครงการ เมื่ออ่านและวิเคราะห์เรื่องการเขียนโครงการของฝ่ายจัดการแล้ว ทำให้นึกถึงวิชาที่ท่านอาจารย์ยม นาคสุข ได้ถ่ายทอดและเพื่อน พี่ ผนส.ทุกท่านได้ช่วยกันวิเคราะห์โครงการตัวอย่าง 2 โครงการในห้องอบรมแล้ว มาถึงบทบาทของตัวผมเองบ้าง ที่ต้องนำวิชาที่ได้เรียนมาหมาด ๆ มาวิเคราะห์และถ่ายทอดให้ทางฝ่ายจัดการบางท่าน ว่าโครงการที่เขียนมา มีข้อบกพร่องอยู่มากมายเนื่องจากเป้าหมาย วัตถุประสงค์และผลที่ได้รับของโครงการไม่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะผลที่คาดว่าจะได้รับไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

          ทำให้ผมได้ข้อคิดว่าบางครั้ง เหตุผลที่งานไม่บรรลุเป้าหมายและผลที่คาดว่าจะได้รับไม่บรรลุวัตถุประสงค์ เป็นเพราะการเขียนโครงการที่มีขั้นตอนและแบบแผนไม่สอดคล้องกันนี่เอง

           จึงขอขอบคุณโครงการ ผนส.2 เป็นอย่างสูงที่สามารถทำให้ผมนำมาใช้และก่อให้เกิดประโยชน์กับหน่วยงานที่ผมได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา

วิรัตน์ พรมสี ผนส.2

สวัสดีครับคุณพี่สายัณห์ ถิ่นสำราญ

          วันอบรมเมื่อ 8-9 สค. ที่ผ่านมาผมมองหาพี่ในห้องอบรมไม่เจอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่ากลัวจะมีเวลาอบรมไม่ครบตามหลักสูตร แต่พอมารู้ว่าท่านมีภาระกิจที่ต้องไปดูงานต่างประเทศก็รู้สึกภูมิใจในตัวท่านที่อุทิศเวลาให้กับหน่วยงานแต่แล้วก็เสียโอกาสในการเข้ารับการอบรม ผนส.2 น่าเสียดายนะครับ แต่ก็อย่างว่าแหละครับคนเราได้อย่างก็ต้องยอมเสียอย่าง ขอเป็นกำลังใจให้พี่นะครับและขอให้ได้ประโยชน์กับการไปดูงานทดแทนโอกาสที่เสียไปอย่างคุ้มค่านะครับ

buddy พี่เองครับ

คุณสงกรานต์ยินดีที่จะเทคแคร์คุณนะไว้พบกันที่สนามบินนะคะ

ใครที่เป็นบัดดี้ดิฉันโปรดแสดงเทคแคร์ให้พอรู้ๆบ้างนะจะได้คอยช่วยเหลือกันเวลาไปต่างประเทศไง

ถึง ผนส.รุ่น 2 ทุกท่านครับ...

ช่วงนี้กีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีนกำลังสนุกเข้มข้นทีเดียวครับ แต่พวกเราต้องมีภาระหน้าที่เดินทางไปศึกษาดูงานสหกรณ์ต่างประเทศกันก็คงต้องไปเชียร์นักกีฬาไทยที่ต่างประเทศนะครับ...

โปรดอย่าลืมว่า...

ถึง ผนส.รุ่น 2 ทุกท่านคับ

ผมขอย้ำเตือนในเรื่องการแต่งกาย สำหรับการไปศึกษาดูงานหน่อยนะครับ เผื่อว่ามีบางท่านอาจไม่อยู่ในวันที่เราตกลงกัน

-วันเดินทาง 18 ส.ค.51  เสื้อยืดสีส้ม+สูท

-วันศึกษาดูงานที่มาเลเซีย 19 ส.ค.51 เสื้อยืดสีขาว+สูท

-วันศึกษาดูงานที่สิงคโปร์ 21 ส.ค.51 เสื้อยืดสีขาว+สูท

-วันเดินทางกลับ 22 ส.ค.51 เสื้อยืดสีชมพู(เสื้อที่ท่านมีอยู่)+สูท

มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะขอความรู้ ท่านใดรู้ ช่วยบอกด้วยนะครับ คือเรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือที่ต่างประเทศ ควรใช้อย่างไรถึงจะประหยัดครับ...

จาก คำรน  ศรีวงค์ษา

โทรหาพี่สายัณห์ ถิ่นสำราญ จาก TOT ซิครับ พี่สายัณห์ มีบัตรโทรราคาถูกโทรได้นานครับ

สวัสดีค่ะท่านร่วมอบรมผู้นำขั้นสูงรุ่น2

พรุ่งนี้พบกันที่สันนิบาตและที่สนามบินนะคะ เรียนคุณพี่สายันต์นพาการใช้บัตรโทรข้ามประเทศฝากฃื้อแบบถูกและดีด้วยตามเสียงเรียกร้องจากเพื่อนที่จากบ้านหลายวันนะคะ

we come to visit co-operartive colledge we have got knowledge from his presentation. We wiill send a message to you later in thai language . fr. Coop Leader 2.

ถามคุณวิจิตร

     เมื่อไหร่ จะมีการเฉลยว่า ใครเป็น Buddy กับใครครับ ?

ถึง เพื่อน ผนส.2

คงเหนื่อยจากการศึกษาดูงานกันมากไม่เห็นมีใครส่งข่าวมาเลย ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนอย่าลืมส่งโครงการให้อาจารย์ด้วย คิดว่าท่านอาจารย์ยมคงรอพวกเราอยู่

กราบเรียนท่านอาจารย์ ดร.จีระ อ.วิทย์ ที่เคารพ

อาจารย์ครับพวกเราทุกคนคิดถึงอาจารย์จังเลย ไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ได้ทั้งความรู้และประสบการณ์ ทั้งสนุก ทั้งทุกข์ และเหนื่อย สิ่งที่พวกเราได้แน่ ๆ ก็คือทุกคนมีความรัก ความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้น ทุกคนให้ความเป็นกันเองโดยเฉพาะท่านผู้หลักผู้ใหญ่ท่านเป็นกันยเองกับพวกเรามาก ก็ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับผม

คณะผู้ศึกษาดูงานทุกคนต่างก็มีบุคลิกและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปหากมีการแซว ๆ กันลงบลอ็กบ้างก็อย่าถือสากันเลยนะครับ..............

ขอบคุณบัดดี้ของสงกรานต์และขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้เทคแคร์ จะพยายามแสวงหาว่าใครคือ "บัดดี้"

เรียน อาจารย์

อาจารย์ค่ะ พวกเราได้อะไรมากมายจากการศึกษาดูงานครั้งนี้ ในคร้งนี้ของสรุปแนวทางการดำเนินงานของ Singapore National co-operative Federation (S.N.C.F.) ดังนี้

1.มีการส่งเสริมให้สมาชิกรู้จักวิธีการสหกรณ์ และคุณค่าของสหกรณ์

2.การนำหลักธรรมภิบาลมาใช้

3.ส่งเสริมให้สหกรณ์มีส่วนร่วมในสังคม และภาคเศรษฐกิจ

4.ทำให้เกิดสหกรณ์ใหม่ ๆ ที่ช่วยเหลือมวลสมาชิก

5.การทำให้ขบวนการสหกรณ์มีความเข้มแข็ง ทำให้สหกรณ์สามารถยืนอยู่ได้ในระดับชาติ

6.การทำงานเน้นด้านการประชาสัมพันธ์ กับภาคเอกชน

7.การให้ความร่วมมือซื่งกันและกัน

8.การพัฒนาองค์กรแบบใหม่ ๆ

9.การพัฒนาบุคคล

10.การสร้างเครือข่าย

11.การสร้างเครือข่ายระดับโลก

เรียนท่านอาจารย์จีระครับ

ผมคิดว่าจากการที่เราได้ไปศึกษาดูงานใน 2 ประเทศ นั้นการดำเนินงานขององค์กรสหกรณ์ของทั้งสองประเทศไม่แตกต่างจากการดำเนินการในประเทศไทยของเรา

แต่ส่งที่แตกต่างกันคือความต้งใจและความมุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรมขององค์กรนอกจากนี้การสนับสนุนจากภาครัฐของเขาได้รับการสนีบสนุนอย่างเต็มที่ในหลายด้าน

คิดว่าถ้ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญแก่องค์กรสหกรณ์อย่างจริงจังและสนับสนุนองค์กรสหกรณ์เหมือนกับในสองประเทศผมคิดว่าองค์กรสหกรณ์ของไทยจะสามารถดำเนินการได้ไม่ด้อยกว่าเขาเลยครับ

        สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ได้รับจากการศึกษาและดูงาน คือ คน กล่าวคือหากมีความตั้งใจจริงของคนในองค์กรนั้น ๆ

ประการแรกคือความซื่อสัตย์ของคนต่อองค์กร ไม่ว่าองค์กรจะเป็นเช่นไรต้องอยู่เคียงคู่กับองค์กร โดยคิดว่าเราคือองค์กร  องค์กรคือเรา  ขาดเราขาดองค์กร

ประการที่สอง คนต้องเก่ง คนต้องดี และคนต้องไม่โกง 

ประการที่สาม ความตั้งใจจริงของคน โดยเฉพาะผู้บริหาร (รัฐบาล , คณะกรรมการของแต่ละองค์กร)

การที่ได้ไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้มากมาย อย่างแรกเราได้เรียนรู้เพื่อนร่วมโครงการ เพื่อนๆ ทุกคนเป็นคนน่ารักมากแม้นจะเหนื่อยแค่ไหนทุกคนก็ยังมีน้ำใจให้กับเพื่อนเสมอ โดยเฉพาะท่านผู้ใหญ่ท่านได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องเสมอ อย่างที่สองประสบการณ์ที่ได้เก็บเกี่ยวมาจาก 2 ประเทศ จะเห็นได้ว่าระบบสหกรณ์สามารถสร้างประเทศได้อย่างมั่นคง

ผมได้อ่านบทความ บทความหนึ่งเมื่อ่านแล้วน่าสนใจเลยเอามาให้อ่าน เป็นเรื่องของคนที่ประสบความสำเร็จคิดอย่างไร หรืออะไรเป็นแรงผลักดันพวกเขา  ซึ่งมีด้วยกัน 7 ประการดังนี้

1.บอกกับตัวเองว่า อนาคตขึ้นอยู่กับความคิด และการกระทำของคุณเอง

 2.วางเป้าหมายให้ชีวิต เช่น จะทำงานอะไร หรือมีชีวิตอย่างไร ใช้สติกำหนดไว้แต่เนิ่นๆ

 3.เมื่อมีเป้าหมายก็ต้องมีการวางแผน ทำอย่างไรถึงจะได้ดังใจ

4.อย่าจับเสือมือเปล่า หมายถึง ต้องยอมลงทุนบ้าง เพื่อให้ได้ความสำเร็จนั้นมา ถ้าไม่พยายามอะไรเลย ไม่ยอมเขียนจดหมายไปสมัครงาน แล้วบริษัทห้างร้านต่างๆ จะรู้ได้อย่างไรว่า มีคุณอยู่ในโลก หรือจะติดต่อคุณอย่างไร

5.ทำสิ่งใดก็ควรรู้จริงในสิ่งนั้น อย่ารู้แบบเป็ด เพราะคนที่คู่ควรกับความสำเร็จ ต้องฝึกฝนจนมีทักษะสุดยอด ในงานที่ทำถึงจะถูก

6.อย่าท้อถอยง่ายๆ แต่ต้องเผื่อใจไว้ด้วย

7.อย่าชักช้า ลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจตั้งแต่บัดนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพภายใน

เรียนอาจารย์จีระที่เคารพ

จากการที่ได้ไปศึกษาดูงานประเทศมาเลเซีย-สิงค์โปร์จะเห็นว่าการพัฒนาบุคคล และผู้นำด้านสหกรณ์สำคัญที่สุดแม้ว่าทรัพยากรธรรมชาติของประเทศเขาจะสู้ประเทศเรายังไม่ได้ในสายตาตัวเองแต่ด้านทรัพยากรมนุษย์ของประเทศนี้พัฒนามากๆ

ระบบสหกรณ์ที่เข้มแข็งมั่นคง

ถึงเพื่อน ผนส.2

เหนื่อยกันไหมเมื่อกลับถึงบ้าน เพื่อนส่วนหนึ่งพักที่สันนิบาตฯอีกคืนเพราะอยู่ไกลน่าเห็นใจจัง ส่วนคุณธญาก็ต้องพักที่สันนิบาตฯเหมือนกันเพราะรถสตาทร์ไม่ติดจอดอยู่ที่สันนิบาตฯหลายวัน เช้าตื่นมาก็ไม่สะบายปวดหัวมากและก็อาเจียนมากจนลงมาไม่ไหวโทรลงมาขอยาต้องลงมาเอาเองนอนอยู่จนบ่ายลูกสาวจึงมารับไปโรงพยาบาลนอนอีกคืนกลับถึงโคราชวันอาทิตย์ ตอนนี้หายแล้วเพียงแต่เพลียนิดหน่อย แต่สนุกมากนะได้เรียนรู้อะไรมากมายได้ความเป็นกันเองจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆโดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆคนอาจารย์ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี รถบัส1เป้นรถสำหรับส.วตัวเองก็เลยอบอุ่นกับส.วด้วยกันแต่ก็เห็นใจส.สที่หลงมาอยู่บัส1นะคะโดยเฉพาะท่านdoctorผู้น่ารักของพวกเรา

จากการไปศึกษาดูงานทั้ง 2 ประเทศ จะเห็นว่าเขาจะให้ความสำคัญในการพัฒนาคนเป็นหลัก แม้ว่าทุกคนจะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็มีความรัก สามัคคี และให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามระบบสหกรณ์เป๊ะเลย แม้จะมีเรื่องให้ตื่นเต้นแต่ก็สามารถผ่านพ้นไปด้วยดี ขอบคุณหัวหน้าทัวร์เยลหลี และไกด์แดเนียลมาก ๆ เลยที่ไม่อารมย์เสียใส่ลูกทัวร์ เวลาที่อยู่ด้วยกัน 5 วัน ทำให้ผนส.รุ่น 2 มีความสนิทสนมรู้จักกันมากยิ่งขึ้นทุกคนน่ารักมาก ๆ เลย แต่ที่รักที่สุด คือ รักประเทศไทย เพราะไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ไม่สบายและมีความสุขเท่าประเทศของเรา.

สวัสดีครับ ผนส.รุ่น 2 ทุกท่าน

        หวังว่าทุกท่านคงสบายดีนะครับ หลังจากไปดูงาน 2 ประเทศเรียบร้อยแล้ว ผมว่าทั้ง มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีดีไปคนละแบบครับ ตลอด 5 วันที่ร่วมศึกษาดูงาน ยอมรับว่ารู้สึกเหนื่อยและเมื่อยขาพอสมควร แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและมิตรไมตรีจากเพื่อนร่วมรุ่นทุกๆคนครับ มีความสุขจริงๆครับ...

        วันที่ 29 - 30 สิงหาคม 2551 เรามีการอบรมตามปกตินะครับ ถึงแม้ว่าจะมีเหตุการณ์ประท้วงของกลุ่มพันธมิตร คงไม่มีผลกระทบมาถึงพวกเรา ซึ่งผมได้ประสานกับคุณณรงค์ (คณะผู้จัด) เรียบร้อยแล้ว และในช่วงเย็นวันเสาร์จะมี ดินเนอร์ทอล์ค เวลาประมาณ 17.00 น-18.30 น. เสร็จจากดินเนอร์ทอล์ค ก็รับประทานอาหารเย็นครับ

จาก คำรน  ศรีวงค์ษา

ถึงคุณธญา ขอแสดงความเป็นห่วง และให้หายไวๆ ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

น้องเป็นห่วงมากค่ะ การอบรมครั้งที่จะถึงเราคงจะได้เจอกันนะค่ะ

ขอแก้ไข เรื่อง Dinner Talk ที่คุณคำรน แจ้งไว้ครับ จริงๆ เป็นวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2551 เวลา 17.00-18.30 น. โดย คุณอุทัย พิมพ์ใจชน ครับ

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์

จากการได้ไปศึกษาดูงานรู้สึกประทับใจท่านอาจารย์ที่ร่วมเดินทาง ประทับใจผู้ดูแลโครงการซึ่งให้ความช่วยเหลือ และดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ตลอดจนเพื่อนร่วมรุ่นทุกคนซึ่งมาจากต่างที่กัน แต่พวกเราสามารถเข้ากันได้ด้วยดี มีความเอื้อเฟื้อ ดูแล และคอยช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งชี้วัดได้อย่างหนึ่งของพลังสหกรณ์ ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงเครือข่ายกันต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน

ถึง ผนส.ทุกท่าน

ขอให้ผู้นำทุกท่าน นำเมมโมรี่ การ์ดของกล้อง ของแต่ละท่าน มาในวันศุกร์ที่ 29 นี้ด้วย เพื่อนำรูปมาลงไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์หลังห้องอบรม จะได้แชร์รูปให้ทุกท่านได้เลือกไป เพราะ ในกล้องแต่ละท่าน คงจะมีรูปของเพื่อนๆ ผู้นำ อยู่หลากหลาย ถ้ามีปัญหาสงสัยประการใด หรือ อยากสอบถามวิธีการก็อปปี้รูปหรือ write รูปลงแผ่นถามได้ที่ คุณภูมินทร์ 089-9915325 เลยครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ภูมินทร์

ถึง เพื่อน ๆ

เป็นอย่างไรกันบ้าง ฝากถึงพี่ธญา หายป่วย เร็ว ๆ นะค่ะ คิดถึงทุก ๆ คน ใครมีรูป อย่าลืมเอามาฝากกันบ้างนะจ๊ะ

พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ผนส

จากการดูงานในสองประเทศพวกเราคงจะได้ความรู้กันอย่างมากและที่เราได้กันมากที่สุดคือความสนิทสนมความเป็นกันเองช่วยเหลือซึ่งกันและกันหยอกล้อเก็บตกเหตุการณ์มันๆมาเล่ากันในวงกินข้าว แต่คิดที่ว่าขาดไปหน่อยคือ buddyเพราะว่ากลัวเขาจะรู้ว่าเป็น buddyก็เลยแกล้งดูแลกันจนไม่รู้ใครตัวจริงตัวปลอม ยังมีเวลาสำหรับbuddyอยู่ ตัวผมพอกลับมางานก็รออยู่มากสงสัยที่บันทึกไว้จะสรุปไม่ทันการเสียแล้ว ตินาไม่ต้องกังวลเรื่องเงินไม่พอเก็บใหม่ได้ คุณธญาขอให้หายเร็วๆสงสัยคงจะเป็นเพราะส้มแน่เลย

สุดท้ายอย่าลืมหัวข้อนะครับ(ฮาๆตัวเองก็ยังไม่ได้ทำและหยุดกินเต้าหู้ 20 วัน)

 สวัสดีค่ะอาจารย์จีระ และ ผนส. 2

*-* การศึกษาดูงานในครั้งนี้ สิ่งที่สำคัญได้เห็นผู้นำมีความสามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

*-* ซึ่งแม้ทุกคนจะเหนื่อย แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข ได้ความรู้ และประสบการณ์ใหม่จากการดูงานทั้งสองประเทศ

*-* ขออนุญาตท่านอาจารย์ค่ะ ตอบคำถามเพื่อนสนิท ถามถึงคุณวิจิตร จะเฉลยว่าใครเป็น Buddy กับใคร

*-* เราจะเฉลยกันในการเรียนครั้งที่ 9 ในวันที่ 17 -19 ตุลาคม 2551  และอย่าลืมของขวัญ จำนวน 2 ชิ้น มอบให้ Buddy ด้วยจ้า

สวัสดี คณะกรรมการบริหารหลักสูตร ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง ผู้เข้าร่วมสัมมนา และท่านผู้อ่านทุกท่าน

ในบล็อกนี้ เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ เกี่ยวกับการพัฒนาผู้นำ  เป็นการแบ่งบันแนวคิด ความรู้ ซึ่งยุคนี้ นอกจากเป็นยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ แล้ว ยังเป็นยุคแห่งการแบ่งบันความรู้ สู่สังคมการเรียนรู้

ผมรู้สึกประทับใจ และดีใจที่ผู้เข้าร่วมสัมมนา "ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง" หลายท่าน มีภาวะผู้นำ สมกับเป็นผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง   เช่น การใฝ่เรียนรู้  การอ่อนน้อมถ่อมตน  ความมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีความอดทน ฯลฯ

จากการไปศึกษาดูงาน ณ สองประเทศ ที่มาเลเซีย สิงค์โปร์ นั้น ผมได้ขอความร่วมมือจาก ผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่าน ช่วยแบ่งบันความรู้ และประสบการณ์ ว่าการมาดูงานครั้งนี้ 

1. ท่านได้พบเห็นสิ่งใด น่าประทับใจ หรือเห็นว่า เป็นสิ่งที่ดี ที่จะเป็นประโยชน์แก่ สังคมไทย สหกรณ์ในไทย หรือประเทศไทย อย่างน้อย สักสามประเด็น  
2. จากการที่ร่วมกิจกรรม ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานกับเพื่อนผู้เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้  ท่านประทับใจใครมากที่สุด ประทับใจ เรื่องอะไรบ้าง ที่จะเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือและต่อ แนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นำในไทย ให้แก่ท่านผู้อ่านที่สนใจ

และขอให้ช่วยเขียนลงในบล๊อกนี้  เพื่อเรียนให้คณะกรรมการบริหารหลักสูตรได้ทราบ และได้เปิดโอกาสให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้ศึกษาแนวคิดของท่าน เพื่อ ประโยชน์ต่อสังคมแห่งการเรียนรู้นี้

ผมต้องขอความกรุณาจากทุกท่านช่วย เขียนข้อความให้ครบทุกท่านด้วย  ขณะนี้ มีหลายท่านได้เขียนมาบ้างแล้ว  บางท่าน ส่งมาถึงสองครั้ง ก็มี ถึงแม้จะยังไม่ครอบคลุมประเด็น แต่ก็ถือว่า ได้มีส่วนร่วม แสดงสปิริตมาล่วงหน้าแล้ว และขอชื่นชมครับ ท่านเหล่านั้น ได้แก่

1.    คุณสงกรานต์ เมื่อ จ. 25 ส.ค. 2551 @ 14:12

2.    คุณไพรพนา ฉ่ำเย็นอุรา เมื่อ จ. 25 ส.ค. 2551 @ 16:32

3.    คุณนายชนะพันธุ์ ดุรงค์ธรรมรัตน์  เมื่อ จ. 25 ส.ค. 2551 @ 19:50

4.    เพื่อนสนิท เมื่อ จ. 25 ส.ค. 2551 @ 20:25

5.    คุณpim เมื่อ อ. 26 ส.ค. 2551 @ 16:16

6.    คุณ nopphakhun  เมื่อ อ. 26 ส.ค. 2551 @ 18:20

7.    คุณธญา โบสุวรรณ์ เมื่อ พ. 27 ส.ค. 2551 @ 11:15

8.    คุณธญา โบสุวรรณ์ เมื่อ พ. 27 ส.ค. 2551 @ 11:46

9.   คุณ ศศิกร กลับอินทร์ เมื่อ พ. 27 ส.ค. 2551 @ 12:52

10. คุณคำรน ศรีวงค์ษา เมื่อ พ. 27 ส.ค. 2551 @ 14:06

11. คุณไพรพนา เมื่อ พ. 27 ส.ค. 2551 @ 16:45

12. คุณอธิรัตน์ เมื่อ พ. 27 ส.ค. 2551 @ 20:06

13. คุณสารินี ไกรพจน์  เมื่อ พฤ. 28 ส.ค. 2551 @ 10:04

ครับ ผมอ่านที่ท่านเขียนมาทุกคน และรอคอยที่จะอ่านของอีก หลาย ๆ ท่าน ครับ  ขอให้ทุกท่านโชคดี แล้วพบกัน

สวัสดี

การเดินทางเพื่อการศึกษาและดูงานในทั้งประเทศมาเลเซียและประเทศสิงค์โปร เราได้พบในหลายสิ่งหลายอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบสหกรณ์ที่เขาพัฒนาไปไกลกว่าของเรามากนัก ที่ประทับใจเห็นจะได้แก่การที่องค์กรกลางทางด้านสหกรณ์ของประเทศมาเลเซียที่มีความคิดริเริ่มในการพัฒนาอาชีพให้กับบรรดาสมาชิกของเขา มีการจัดตั้งสถาบันให้การศึกษาทางด้านวิชาชีพต่างๆ มีห้องสมุดขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาหาข้อมูลทางด้านสหกรณ์ มีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาทางด้านสหกรณ์ ชัดเจนว่าไม่มีการพัฒนาใดจะยิ่งใหญ่และยั่งยืนเท่ากับการพัฒนาคน ในประเทศสิงค์ โปรเองเขาก็นำระบบสหกรณ์มาใช้สร้างหลักประกันให้กับชีวิตหลังจากไม่สามารถประกอบอาชีพเดิมได้ เช่น สหกรณ์ซีแมน มีการฝึกอาชีพเสริมให้กับผู้ประกอบอาชีพลูกเรือ มีกองทุนต่างๆ มากมาย อยากเห็นสหกรณ์ซักประเภทของไทยให้โอกาสสมาชิกเยี่ยงนั้น แต่ที่น่าเสียดายโครงการไม่ได้นำคณะไปเยี่ยมชมศูนย์กระจายสินค้าของ Fair Price ซึ่งเคยไปเห็นมาพบว่าการบริการจัดการของที่นั่นมีการเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ที่น่านำมาเป็นตัวอย่าง โดยภาพรวม Happy มั๊ก มั๊ก

ประโยชน์จากการดูงานทั้ง 2 ประเทศต่อสหกรณ์ สังคมไทย

ประเทศมาเลเซีย

1. หน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนสถาบันสหกรณ์อย่างเต็มที่ หากประเทศไทยทำได้ก็น่าจะทำให้ระบบสหกรณ์ของไทยเข้มแข็งและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้

2. มีสถาบันที่ให้การศึกษาเกี่ยวกับระบบสหกรณ์เพื่อนำออกไปประกอบอาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งให้ความสำคัญเหมือนกับวิชาชีพอื่น ๆ ช่วงที่ผ่านมาไทยเราก็พยายามจะมี แต่ก็หยุดไป น่าจะทบทวนให้เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง

3. บุคคลากรของสันนิบาตร์ฯ มาเลเซีย มีคุณภาพและความสามารถหลาย ๆ ด้านที่เป็นจุดเด่น โดยเฉพาะด้าน IT

4. การพัฒนาประเทศโดยรวม พัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง

แต่สิ่งที่รักษาควบคู่ไปด้วยกัน คือ การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน

ประเทศสิงค์โปร

1. ประเทศไทยต้องศึกษาสหกรณ์ของสิงค์โปรเพราะส่วนใหญ่เป็นสหกรณ์ร้านค้า

ซึ่งมีหลากหลายบริการ และสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นจำนวนมาก

2. สหกรณ์ของประเทศสิงค์โปรพยามยามตอบสนองวิถีชีวิตของประชาชนชาวสิงค์โปร

นั่นหมายถึง ได้ศึกษาและสร้างบริการได้ตรงกับความต้องการของสมาชิก

3. สิงค์โปรพัฒนาประเทศ บนพื้นฐานของการขาดทรัพยากรที่สำคัญต่าง ๆ อย่างมากกมาย แต่สามารถนำจุดแข็งที่ตนมี มาสร้างจุดขาย จนเป็นที่รู้จักและยอมรับของคนทั่วโลกได้

4. สิงค์โปรให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน เศรษฐกิจ สังคม ควบคู่กับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เก่งในเรื่องการปลูกจิตสำนึก

5. ประเทศไทยควรจะทบทวนเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มในวัฒนธรรมของไทย เนื่องจากประเทศไทยมีรากเหง้าของวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ต่าง ๆ ซึ่งหากทำได้อย่างสิงค์โปรแล้ว อาจไม่มีใครเทียบเราได้

ความประทับใจต่อเพื่อนร่วมรุ่น

ท่านแรก ท่านปลัด ท่านเป็นกันเองกับน้อง ๆ และเข้ากับน้อง ๆ ในกิจกรรมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จนบางครั้งน้อง ๆ ลืมเรื่องอายุของท่านไปเลย

ท่านที่สอง พี่ระเบียบ ด้วยลักษณะการท่องเที่ยวดูงานที่แทบจะต้องแข่งกับเวลาตลอด

เพื่อให้ทันกับกำหนดการต่าง ๆ ซึ่งต้องเดินกัน แม้ว่าพี่ระเบียบจะลำบากในการเดิน พี่ก็พยายามทำทุกอย่างด้วยตนเอง เยี่ยมจริง ๆ ครับ

ท่านที่สาม พี่โชค ทริปนี้สนุกสนาน ได้สาระ ประสบการณ์ต่างแดนอีกแนว ซึ่งจะมีเสียงหัวเราเฮฮาตลอด ทำให้ทริปนี้สนุก ประทับใจ ขอบคุณจริง ๆ

มีอีกหลาย ๆ ท่านนะครับ แต่ด้วยเนื้อที่จำกัด ขอเก็บความประทับใจในความทรงจำครับ

ผู้นำที่ประทับใจที่สุด รุ่นที่ 2 น่าประทับใจที่สุดในการไปศึกษาดูงานประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ เพราะความน่าประทับใจใกล้เคียงกันจนแยกความต่างไม่ได้ โดยเฉพาะในเรื่อง ความเป็นผู้มีวินัย และความตั้งใจ ใส่ใจในการดูงานเห็นได้จากความพร้อมเพรียงตรงต่อเวลา และประพฤติตนดีงาม ซึ่งยากที่กลุ่มคน 40 คนจะทำได้ สมกับเป็นตัวแทนสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

การศึกษาดูงานในที่ต่างๆเป็นการเปิดโลกทัศน์ การดำเนินงานเกี่ยวกับสหกรณ์ที่ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ เห็นสิ่งที่เป็นประโยชน์คือ ประการแรกแนวคิดของพวกเขาคิดเชิงธุรกิจเป็นหลัก ประการที่สอง พวกเขาดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของสมาชิกและสอดคล้องกับสภาพสังคม ประการสุดท้าย การตั้งโรงเรียนสหกรณ์เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการตั้งใจพัฒนากระบวนการสหกรณ์อย่างจริงจัง

จากการใช้เวลาร่วมกันที่ต่างประเทศรู้สึกประทับใจเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนเลย ทุกคนมีความจริงใจต่อกัน รวมถึงอาจารย์และเจ้าหน้าที่สันนิบาตทุกท่าน

สิ่งที่ได้จากการศึกษาดูงานทั้งสองประเทศ

          ประการแรก ที่สำคัญที่สุดสำหรับผมน่าจะเป็นเรื่องการศึกษา จะเห็นได้จากการให้การศึกษาขบวนการสหกรณ์ และระบบสหกรณ์อย่างจริงจัง โดยให้การศึกษาตั้งแต่ประถม ถึง มหาวิทยาลัย รวมถึงเพื่อแผ่กับเพื่อนสหกรณ์ต่างประเทศ และยังให้ความสำคัญในการจัดอบรมสัมนาให้กับสมาชิกทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น หรือระยะยาว เพราะมองเห็นว่าการส่งเสริมการพัฒนาให้การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

          ประการที่สอง มีการเชื่อมโยงเขื่อข่ายระหว่างสหกรณ์อย่างทั่วถึง และช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างจริงใจ

          ประการที่สาม ขบวนการสหกรณ์ได้รับการช่วยเหลือ และดูแลจากรัฐอย่างเต็มที่ เพื่อให้ขบวนการสหกรณ์เดินได้อย่าง ภาคภูมิใจ

          ประการสุดท้าย สมาชิกมีความจงรักภักดีต่อองค์กร มีความเชื่อมั่นว่าเราคือเจ้าของสหกรณ์ ถือว่าการทำธุรกรรมกับสหกรณ์เป็นหน้าที่ที่สำคัญยิ่ง

ประทับใจเพื่อน ผนส.2  ทุก ๆ  ท่าน ที่ช่วยเหลือ และดูแล ซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ และดีที่สุด และคนที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คือน้องภูมินทร์ (ตากล้องมือโปร์)  ถ้าจะให้ผมบรรยาย 3 หน้าคงจะไม่จบ อีกท่านที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ คือคุณวิจิตร และคณะ ที่จัดให้มีการพูดคุยกันยามเช้า   และสุดท้ายประทับใจอาจารย์ทุก ๆ ท่าน รวมถึงที่ปรึกษา และประธานรุ่น ที่สรุปการศึกษาดูงานให้เราฟังทุกเช้าเราได้รับความรู้อย่างมากมายเลยครับ  และสุดท้ายจริง ๆ ครับ กราบขอบพระคุณอาจารย์ปรีชา ที่ช่วยแปลเป็นไทยให้เรารู้เรื่องครับ    

มุมมองที่ได้จากการศึกษาดูงานต่างประเทศ

1.ด้านการวางแผนของผู้นำ จะเห็นได้ว่าประเทศสิงคโปร์ มีรูปแบบการวางผังเมืองที่ดี เป็นระเบียบ สภาพบ้านเมืองถูกจัดวางไว้อย่างเหมาะสม ซึ่งต้องเกิดจากวิสัยทัศน์ของผู้นำที่มีการวางแผนบริหารจัดการที่ดี จึงส่งผลต่อความเป็นอยู่ในปัจจุบัน และอนาคต

2.การไม่ยอมแพ้ต่อธรรมชาติ ประเทศสิงคโปร์ ตั้งอยู่ในความขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติแทบทั้งสิ้น แต่คนมีทรัพยากรทางสมอง จึงไม่ได้ยอมแพ้ แต่สิ่งที่ตนเองขาด แต่สิ่งที่สำคัญคือ คิดเก่ง ทำเก่ง ไม่ยอมแพ้ สิงคโปร์จึงมีทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ต้องการ เป็นสิ่งที่เตือนสติเราได้ว่าองค์กรเราอาจขาดแคลน ไม่ครบถ้วนเหมือนองค์กรอื่น ๆ แต่ถ้าเรารู้จักคิด มีการบริการจัดการที่ดี เราก็จะสามารถนำองค์กร และสมาชิกของเราเติบโต และอยู่ดีกินดีได้โดยไม่ต้องรอรับการสนับสนุนจากใคร

3. ด้านการศึกษา รัฐบาลให้ความสำคัญด้านการศึกษาแก่ประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องของ สหกรณ์ มีการให้การศึกษาด้านสหกรณ์ในระดับเยาวชน ปลูกฝังการเป็นนักสหกรณ์ตั้งแต่เด็ก ดังนั้น เมื่อเติมโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจะเป็นคนสหกรณ์อย่างแท้จริง

บุคคลที่ประทับใจ

1.  อาจารย์ทุกท่าน  ที่คอยให้คำแนะนำเราทุก ๆ  วัน

2.เพื่อร่วมรุ่นที่น่ารักทุกคน ที่มีความเป็นกันเอง ดูแลช่วยเหลิ่อซึ่งกันและกัน

3.ผู้ดูแลโครงการทุก ๆ  คน   และประเทบใจน้องภูมินทร์  ที่ผู้เข้าอบรมทุกคน จะคอยเรียกชื่อน้องภูมินทร์จนติดปาก ไปทางโน้นที ทางนี้ที  แต่น้องภูมินทร์ก็มีสีหน้ายิ้มแย้ม  และวิ่งตามพวกเราในทุก ๆ โอกาส  และสถานที่   และที่สำคัญ ในวันที่ 29  ส.ค. 51 น้องภูมินทร์

ก็ทำให้พี่ ๆ ทุกคนมีรอยยิ้มที่มีความสุขที่ได้เห็นภาพถ่ายของตนเอง และของเพื่อน  ๆ

เสนอความเห็นและความประทับใจในการศึกษาดูงานของ ผนส.2ไปแล้วแต่ยังไม่ได้โหวตว่าประทับใจผู้ใดในการเดินทางในทริปนี้ตามที่อาจารย์ยมท่านกำหนดไว้ ก็ขอเรียนว่าประทับใจผู้นำสหกรณ์ทุกท่าน ผู้ประสานงานทุกท่าน อาจารย์ที่ปรึกษาทุกท่าน ประทับใจตั้งแต่วันออกเดินทางจนถึงวันกลับ และจะขอโหวตให้เป็นพิเศษสำหรับ V1 น้องภูมินทร์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าทีได้ยอดเยี่ยม ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่รู้จักเหน้ด ไม่รู้จักเหนื่อย สงสัยจริงๆ ตอนนอนหลับไม่รู้ว่าจะละเมอนับ หนึ่ง สอง สาม สลับการยกนิ้วเป็นสัญญานด้วยหรือเปล่า เห้นภาพซึ่งเป็นผลงานของน้องภูมินทร์ แล้วต้องขอบอกว่า เยี่ยมยอด เยี่ยมยอด

จากการศึกษาดูงาน 4 แห่ง 2 ประเทศ ได้มาหลายอย่างเห็นแล้วอนาถใจเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับบ้านเรา ของเขาให้ความสำคัญและสนับสนุนมากแต่ของเรามีแต่ถดถอย ลองไปอ่านประวัติสหกรณ์ของบ้านเราดูนะครับนี่ก็เกือบจะครบ 100 ปีแล้วยังนึกถึงแต่ตัวกู พวกกู ของกูกันอยู่เลย สิ่งที่ได้แง่คิดกลับมาคือ 1.การให้ความสำคัญจากภาครัฐ ไม่ต้องช่วยหรอกครับขอแค่ให้ความสำคัญด้วยความจริงใจ ไม่คอยบอนไซให้แคระแกรนอยู่อย่างนี้ก็พอ 2.ความหลากหลายของสหกรณ์แต่ละประเภททำให้เห็นลู่ทางในการที่เราจะนำมาปรับใช้ในบ้านเราได้ 3.การใช้สถานที่แบบฉีกแนวโดยให้ใช้ได้ประโยชน์สูงสุดนับเป็นไอเดียที่บรรเจิดจริง ๆ 4.ความเข้มแข็งและประสบความสำเร็จของร้าน FairPrice โดยสามารถยืนหยัดท้าทายห้างฯต่างชาติได้อย่างทรนง สำหรับ ผนส.2ทุกคนแล้วแต่ละคนสร้างความประทับใจได้หลากหลายจนไม่สามารถจัดวัดลำดับได้รวมถืงผู้ร่วมคณะทุก ๆ ท่าน......ข อ บ อ ก เ พี ย ง ว่ า ..สุ ด ย อ ด.

สวัสดีค่ะทุกท่าน

หลังจากกลับมาจากการดูงานต่างประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ห่างหายจากการเมืองของไทยไป 1 สัปดาห์ วันที่ 26 สิงหาคม 2551 เจอสถานการณ์การเมืองที่น่าตกใจ พันธมิตรนัดชุมนุมใหญ่ตลอดทั้งวันไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เริ่มช่วงเช้าบุกยึด NBT สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลที่น่าจะถ่ายทอดสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้ทุกแง่มุม ลักษณะการบุกน่ากลัวมาก ไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการนี้ ต่อมาเริ่มบุกสถานที่ราชการต่างๆจนกระทั้งช่วงบ่าย เริ่มบุกเข้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเปรียบเสมือนกองบัญชาการของผู้นำประเทศ เหมือนการยึดอำนาจรัฐ หรือผู้นำซึ่งคือนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ทำให้คิดว่าผู้นำของไทยหมดความน่าเชื่อถือที่จะเป็นผู้นำ แถมยังยั่วยุให้คนเลือกข้างอีก เท่ากับตัวนายกฯเป็นแรงกดดันให้กับผู้คนมีความคิดเห็นแตกแยกกันอีก ถ้าให้คะแนน คงติดลบไม่รู้กี่คะแนน แต่แปลกที่ท่านนายกฯกลับไม่มองตนเอง คิดว่าทุกอย่างเป็นความผิดของผู้อื่นหมด เสียดายที่สมัยก่อนเคยนิยมชมชอบท่าน แต่ก็ไม่สงสัยเท่าไรเพราะส่วนใหญ่คนแก่จะดื้อ และคิดว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่ต้องถูกเสมอตามความคิดของคนสมัยก่อน ต่อมาเลยต้องติดตามสถานการณ์มาเรื่อยจนวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2551 เหตุการณ์ที่ตำรวจสลายการชุมนุม และทำร้ายประชาชน เป็นเหตุการณ์ที่ทำร้ายคนไทยมาก แถมนายกฯยังไม่มีความรับผิดชอบในการกระทำของตำรวจอีก ซึ่งก็คงเหมือนกับการไม่สนใจการทำผิดของคนทีเป็นพรรคพวกตนเอง การกระทำของนายกฯจึงทำให้เสื่อมศรัทธามากสำหรับคนไทย ไม่รู้ว่าการเมืองไทยจะออกมารูปแบบใด ที่แน่คงไม่ยุบสภาแน่ เพราะแต่ละคนยังถอนทุนไม่ได้ หรืออาจจะยังหากำไรได้ไม่คุ้ม สงสารประเทศไทยจัง

วรวรรณ ส่องพลาย

ท่านอาจารย์จิระ หงส์ลดารมภ์

1. ผมได้ไปดูงานประเทศมาเลเซีย ผมเห็นประชาชนบ้านเขาแล้วน่าภูมิใจมาก เพราะเขายกย่องผู้นำประเทศเขาต่างกับประเทศเรามากเลยครับ

2. ส่วนดีของประเทศมาเลเซียที่มองเห็นได้และผมประทับใจมากคือ แหล่งมั่วสุมของประเทศเขาต่างกับบ้านเรามาก จะเห็นได้ว่าสถิติการเกิดขึ้นของอุบัติเหตุเกี่ยวกับเรื่องของสุรา แทบไม่มี

3. ขบวนการสหกรณ์ของประเทศเขาได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาล ทำให้เกิดความเข็มแข็งของขบวนการบ้านเขามาก

ประจวบ คงเป็นสุข

สวัสดีค่ะอาจารย์ จิระ หงส์ลดารมภ์

สำหรับการไปดูงานต่างประเทศที่ประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ 5 วัน ดูงาน 4 แห่งนั้นสิ่งที่ประทับใจในการดูงานคือ

1.ทั้ง 2 ประเทศผู้นำเอาใจใส่ เอาจริงเอาจังกับระบบสหกรณ์ โดยมีการเริ่มต้นตั้งแต่ในโรงเรียน มีการปลูกฝังความคิดให้ประชาชนตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะมาเลเซีย ถึงระดับมหาวิทยาลัยสหกรณ์โดยเฉพาะ และยังมีโครงการร่วมการศึกษาระหว่างประเทศด้วย

2.ประเทศสิงคโปร์มีกฎหมายที่เข็มงวด และเข็มแข็ง ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การศึกษา งาน แม้กระทั้งที่อยู่อาศัยซึ่งทำให้ประชาชนอยู่อย่างสงบ ร่มเย็น แสดงให้เห็นว่าผู้นำเห็นความสำคัญของประชาชนเป็นหลัก เมื่อประชาชนมีพื้นฐานที่ดี ทำให้ประชาชนของประเทศเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นผู้พัฒนาประเทศของเขาเอง

3.กิจกรรมของระบบสหกรณ์ที่สิงคโปร์มีหลายรูปแบบ ชอบมาก คือ FAIR PRICE ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่มีการควบคุมราคาสินค้าจำเป็นของประชาชน ไม่ให้ใครมาเอาเปรียบหรือทำให้ราคาสูงเกินความจำเป็นได้

สำหรับประทับใจผู้ร่วมเดินทาง ก็คงไม่พ้นจากการดูแลของคณะเจ้าหน้าที่สันนิบาตฯ น้องภูมินทร์ที่ขยันถ่ายรูปไม่รู้จักเหนื่อย เพื่อนๆ ผนส.ทุกคน ที่เอ็นจอยมากทุกเวลาและโอกาส อาจารย์ปรีชา ที่บรรยายการดูงานให้กับพวกเราทุกคน ขอขอบคุณที่มีโอกาสดีๆที่ได้ร่วมเดินทางไปกับทุกๆคน

วรวรรณ ส่องพลาย

สวัสดีครับอาจารย์ จิระ หงส์ลดารมภ์

ประทับใจในการดูงาน “สหกรณ์ต่างประเทศ”

1. ประเทศของเขาได้รับการสนับสนุนจารัฐบาลมากกว่าสหกรณ์บ้านเรา

2. การทำธุรกิจสหกรณ์ ครบวงจรมากและมีประสิทธิภาพในการบริหารมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงาน

3. ผู้นำบ้านเขาได้รับความยอมรับและการยกย่องมาก

ประทับใจเพื่อนร่วมเดินทาง

1. ประทับใจอาจารย์เจ้าของโครงการ และเจ้าหน้าที่สันนิบาตฯทุกท่านทำหน้าที่ได้อย่างดีมากๆครับ

2. ประทับใจ พลเรือตรีกุล ผาสุก เป็นประธานกลุ่มทำหน้าที่ร่วมกับทีมงานของท่านได้อย่างดีเยี่ยม

3. ประทับใจ คุณสมหวัง จำปาหอม ทำให้ผมมีความสุขมากๆ เพราะร้องเพลงเพราะมากๆร้องได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียนหรือบนรถ ทำได้ดีมากๆครับ

ประจวบ คงเป็นสุข

            การศึกษาดูงานในประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้พบเห็นและได้รับความรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์หลายด้านซึ่งสามารถนำมาพัฒนาสหกรณ์ไทย หรือประเทศไทย
ประเทศมาเลเซีย

     1. การเกิดสหกรณ์ในประเทศมาเลเซียกับไทยคล้ายๆกัน มีกฎหมายสหกรณ์ ,มีการควบสหกรณ์เหมือนประเทศไทย แต่สหกรณ์ในประเทศมาเลเซียได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่โดยรัฐบาลมาเลเซียมีแผนพัฒนาสหกรณ์ระดับประเทศ (ค.ศ. 2002-2010)

     2. มาเลเซียมีสถาบันการศึกษาทางสหกรณ์โดยเฉพาะในประเทศไทยเคยมี แต่เลิกไปแล้ว ควรจะมีการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่

     3. มาเลเซียส่งเสริมให้มีสหกรณ์ในโรงเรียนมัธยมถึง 1,724 แห่ง เพื่อสอนให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้เรื่องสหกรณ์จากประสบการณ์จริง เดิมประเทศไทยก็มีการส่งเสริมสหกรณ์ในโรงเรียน ปัจจุบันก็เลิกไปเป็นส่วนใหญ่

     4. มาเลเซีย มีผู้นำที่ดี เป็นผู้มีความรู้ เสียสละ

     5. มาเลเซีย เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ประเทศสิงคโปร์

     1. สหกรณ์ร้านค้าในประเทศสิงคโปร์ ต่างกับสหกรณ์ร้านค้าในไทย ซึ่งนับว่าจะเลิกไป เพราะสู้ห้างสรรพสินค้าไม่ได้ และสหกรณ์ร้านค้าของสิงคโปร์สามารถขยายใหญ่ขึ้นจนแข่งขันกับห้างสรรพสินค้าได้ และมีจำนวนมากถึงกว่า 200 แห่ง มีสมาชิกมาก มีสินค้าและบริการทุกอย่าง สามารถตรึงราคาสินค้าในสิงคโปร์ได้ ทำอย่างไรสมาชิกสหกรณ์ของไทยจึงจะจงรักภักดีต่อสหกรณ์บ้าง

     2. รัฐบาลของประเทศสิงคโปร์ เน้นความพยายามสร้างจุดขาย เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ มีที่อยู่เป็นของตนเอง คนว่างงานน้อยมีเพียง 1.6% ซึ่งประเทศไทยน่าจะนำมาเป็นตัวอย่าง

     3. สิงคโปร์มีเกาะ 60 กว่าเกาะ แต่อนุรักษ์ธรรมชาติไว้เป็นอย่างดี โดยมีพื้นที่ป่าถึง 45% เป็นพื้นที่ใช้สอย 55%

      ประทับใจ ผนส.รุ่น 2 ทุกๆ ท่านที่ให้ความช่วยเหลือกันและกัน อาจารย์ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร ที่ให้ความรู้ในระหว่างเดินทางโดยรถบัส และแปลภาษาอังกฤษเป็นไทยให้พวกเราเข้าใจเรื่องสหกรณ์ของ 2 ประเทศ และช่างภาพของเรา คุณภูมินทร์ เจือไทย ที่ถ่ายรูปให้ทุกคนโดยไม่เหน็ดเหนื่อย

จากการที่ได้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศมาเลเชียและประเทศสิงคโปร์มีความประทับใจในหลายๆอย่างคือ

1.ประชากรของทั้งสองประเทศมีความรับผิดชอบต่อสังคม มีจิตสำนึกที่ดี จะมีการปลูกฝังไว้ตั้งแต่ยังเด็กโดยฌฉพาะประเทศสิงคโปร์จะให้เด็กๆได้เรียนรู้ภาษาเมื่อเข้าโรงเรียนอย่างน้อย 2 ภาษา

2.ผู้นำของประเทศให้ความสำคัญต่อบวนการสหกรณ์อย่างแท้จริงและให้อำนาจต่อสหกรณ์มาก ไม่เหมือนประเทศเราที่จะมองสหกรณ์ก็ต่อเมื่อมีการเลือกตั้งหรือเพื่อหาเสียง

3.ถึงแม้จะมีความเจริญในด้าน เทคโนโลยี่แต่ทั้งสองประเทศก็ยังรักษาสมดุลของธรรมชาติไว้ จะไม่ทำลายสภาพแวดล้อม และในปัจจุบันประเทศไทยเราก็ได้มีการรณรงค์ในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

ประทับใจ ผนส.ทุกๆท่านที่ตลอดการเดินทางได้ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความรักความสามัคคี ตรงต่อเวลา ให้เสียงสนุกเฮอา และขอขอบคุณท่านอาจารย์ทั้งสามท่านที่ให้คำแนะนำ และเจ้าหน้าที่สันนิบาตฯทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือและดูแล อำนวยความสะดวกด้วยดี ขอขอบคุณจริงๆค๊ะ

เรียน ท่านอาจารย์จีระ

ผมมีสิ่งที่ประทับใจ ที่จะขอแชร์จากการร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานที่มาเลเซียและสิงคโปร์ ประการแรก ต้องยกนิ้วให้กลุ่ม ผนส.รุ่น 2 ทุกคน ที่มีความร่วมมือที่ดี ให้เกียรติกันและกัน และมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อกลุ่ม และที่สำคัญต่อคำว่า ประเทศไทย ทุกท่านให้ความสนใจ ที่จะเรียนรู้ ซักถาม และที่ประทับใจมาก ท่านอาจารย์ยม ท่านเป็นกรรมการบริหารที่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับผู้นำสหกรณ์ ท่านพยายามให้ผู้นำตระหนักและคิดเสมอว่าเรามาศึกษาดูงาน แล้วต้องบูรณาการสิ่งที่พบเห็นมาปรับใช้กับสหกรณ์ สังคม ประเทศชาติได้อย่างไร ซึ่งผมค่อนข้างเห็นด้วยในวิธีการที่อาจารย์พยายามแนะนำ ซึ่งผมเองคิดว่า ผู้นำสหกรณ์จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะผู้นำที่มีการจดบันทึกทุกเรื่องที่ตนเองประสบพบเห็น ผมประทับใจ ใครบ้างในครั้งนี้ ผมคิดว่า หลายคนก็มีความน่ารัก น่าเคารพทั้งหมด แต่คนที่น่าเอาเป็นแบบอย่างคือ ท่านจรูญ ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเป็นกันเอง และยังช่วยกลุ่มได้เป็นอย่างดี ท่านที่ 2 ท่านอาจารย์อธิรัตน์ จากจุฬาฯ ท่านเป็นคนที่รักการจดบันทึกทุกอย่างที่เห็นและเป็นประโยชน์และเป็นข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง สุดท้ายผมต้องขอบคุณกรรมการบริหารทั้ง 3 ท่าน ที่ได้ให้เกียรติและสละเวลากับโครงการ ขอบคุณท่านอาจารย์ ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร ที่ได้ช่วยทำหน้าที่ล่ามแปลให้กับกลุ่ม ผนส.ในครั้งนี้ และขอบคุณทีมงาน สถาบันพิทยาลงกรณ ทีมงานบริษัท ควอลิตี้ ที่ได้ให้การดูแลเอาใจใส่กลุ่มของเรา จนบรรลุผลเป็นที่น่าพอใจ และลุล่วงไปด้วยดี ก็เสียดายที่ท่านอาจารย์จีระไม่สามารถร่วมเดินทางไปกับกลุ่ม ผนส.ได้ เพราะท่านคงจะให้สาระได้มากมาย ก็ต้องขอบคุณท่านอาจารย์จีระ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ ที่ทำให้มีวันนี้

วิจิตร จะโรจร

หัวหน้าทีมสถาบันพิทยาลงกรณ

เรียนอาจารย์จีระที่เคารพ

       จากการที่ได้เดินทางไปศึกษาดูงานด้านสหกรณ์ ณ ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ มา นับว่าไม่ผิดหวังครับ แต่ละประเทศก็มีสิ่งดีๆ แตกต่างกันไป บางอย่างก็คล้ายคลึงกัน ที่พูดมาไม่ใช่ว่าของไทยเราไม่มีดีเลยนะครับ แต่สิ่งที่น่าจะเอาเป็นเยี่ยงอย่างก็คือ

1.การรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ที่มีพื้นที่อันน้อยนิด แต่เค้าก็ปลูกต้นไม้ได้ร่มรื่นมากๆๆ

2.การส่งเสริมด้านการศึกษา ทั้ง มาเลเซียและสิงคโปร์ มีการส่งเสริมเรื่องการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม

3.การเมืองที่มั่นคง การที่ทั้งสองประเทศ มีการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง ก็คงมาจากการที่ได้มีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีคุณธรรม จริยธรรมทำให้ประเทศของเค้าเจริญอย่างที่ประเทศไทยของเราได้แต่มอง...

        ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศในครั้งนี้ รู้สึกประทับใจเพื่อนร่วมเดินทางหลายท่านครับ ...

1.ดร.ปรีชา หัวหน้าทีมของเรา ซึ่งท่านก็ได้ให้ความรู้กับพวกเรามากมาย โดยที่ท่านเองก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเอาซะเลย

2.อ.อธิรัตน์ ครับ ถึงแม้ท่านจะดูเป็นคนสนุกสนาน แต่ไปคราวนี้ท่านไปแบบมีสาระครับ ท่านมีสมุดโน๊ตจดทุกที่จริงๆครับ นับถือๆ

3.คุณอรุณี ครับ เพราะท่านทำให้บรรยากาศในรถบัสคันที่ 1 ไม่เงียบเหงาครับ ท่านพูดเก่งจริงๆๆ นับถืออีกเหมือนกันครับ..

คำรน  ศรีวงค์ษา

เรียนท่านอาจารย์จีระ

การศึกษาดูงานในประเทศมาเลเซียผมคิดว่ามีสิ่งที่ประทับใจ ดังนี้

1.การสนับสนุนอย่างจริงจังของภาคราชการที่มีต่อกระบวนการสหกรณ์ โดยเฉพาะในด้านการเงิน หรือการออกกฎระเบียบที่เอื้อให้กระบวนการสหกรณ์สามารถดำเนินไปได้ด้วยดี

2.การจัดตั้งโรงเรียนสหกรณ์ที่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อปลูกฝังความคิดและอุดมการณ์สหกรณ์อย่างยั่งยืน

3.ความตั้งใจของผู้บริหารองค์กรที่มีความจริงจังในการนำพากระบวนการสหกรณ์ให้มีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

การศึกษาดูงานในประเทศสิงค์โปร์ผมคิดว่ามีสิ่งที่ประทับใจ ดังนี้

1.ความตื่นตัวของประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นกลางและล่างต่อการเข้าร่วมเป็นสหกรณ์กันเป็นจำนวนมาก และมีการรวมตัวกันอย่างดี

2.ความสามารถของผู้บริหารสหกรณ์ที่สามารถผลักดันให้สหกรณ์สามารถดำเนินกิจกรรมแข่งขันกับภาคธุรกิจได้เป็นอย่างดี

3.ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆที่ทำให้สิงค์โปร์สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปเป็นจำนวนมาก ทั้งที่สิงค์โปร์มีข้อจำกัดมากมาย

ในการศึกษาดูงานผมมีความประทับใจในผู้ร่วมเดินทางแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1.คณะอาจารย์ทุกท่านที่เป็นผู้นำคณะเดินทางไปดูงานที่คอยให้ความรู้และเป็นผู้ประสานงานให้การเดินทางครั้งนี้ได้รับความสำเร็จดังที่ตั้งไว้ทุกประการ

2.ทีมงานสถาบันพิทยาลงกรณ์ทุกท่าน รวมถึงคุณเยาวลักษณ์ ที่ได้คอยดูแลให้การเดินทางเป็นไปด้วยความราบรื่น และนำพาสิ่งที่ดีๆมาให้แก่ชาวคณะ(หวังว่าในการเดินทางครั้งหน้าทุกท่านจะร่วมเดินทางไปดูงานด้วย)

3.ผนส.ทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจกันในการเดินทางในทุกๆสถานที่ ให้ความช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี

สวัสดีครับ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรฯ  ผู้เข้าร่วมสัมมนา และท่านผู้อ่านทุกท่าน

ผมต้องขอขอบใจ และขอชื่นชมกับผู้เข้าร่วมสัมมนาที่ถือว่า มีสปิริตของความเป็นผู้นำอย่างยิ่ง ที่ได้ส่งข้อมูล เข้ามาเพิ่มเติม  (นับต่อจากคราวที่แล้ว)ได้แก่  

14. คุณกฤษณะ ผนส.2/40   เมื่อ พฤ. 28 ส.ค. 2551 @ 21:56

15. คุณเมธาภิวัฒน์   เมื่อ ศ. 29 ส.ค. 2551 @ 12:52

16. คุณดำรงค์ โกสิโยนุสรณ์  เมื่อ ศ. 29 ส.ค. 2551 @ 21:50

17. คุณนพคุณ ยังเอื่ยม   เมื่อ อา. 31 ส.ค. 2551 @ 09:07

18. คุณไพรพนา   เมื่อ อา. 31 ส.ค. 2551 @ 13:04

19. คุณกฤษณะ ผนส.2/40  เมื่อ อา. 31 ส.ค. 2551 @ 13:28

20. คุณอนนท์ เมื่อ อา. 31 ส.ค. 2551 @ 19:49

21. คุณวรวรรณ ส่องพลาย เมื่อ อา. 31 ส.ค. 2551 @ 21:24

22. คุณประจวบ คงเป็นสุข เมื่อ อา. 31 ส.ค. 2551 @ 21:34

23. คุณวรวรรณ ส่องพลาย เมื่อ อา. 31 ส.ค. 2551 @ 21:40

24. คุณประจวบ คงเป็นสุข เมื่อ อา. 31 ส.ค. 2551 @ 21:51

25. คุณอรวรรณ วัฒนะรัตน์  เมื่อ จ. 01 ก.ย. 2551 @ 01:36

26. คุณนงเยาว์  เมื่อ จ. 01 ก.ย. 2551 @ 08:57

27. คุณวิจิตร จะโรจร เมื่อ จ. 01 ก.ย. 2551 @ 11:54

28. คุณคำรน ศรีวงค์ษา  เมื่อ จ. 01 ก.ย. 2551 @ 14:25

29. คุณชนะพันธุ์ ดุรงค์ธรรมรัตน์  เมื่อ จ. 01 ก.ย. 2551 @ 20:36

บางท่าน น่าชื่นชมมากเพราะ ส่งมามากกว่าสองครั้งก็มี เช่นคุณนพคุณ และมีหลายท่านเขียนได้ดี มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น ในการจับประเด็น และการแบ่งบันความรู้ ประสบการณ์ ให้แก่ผู้สนใจที่เข้ามาศึกษาในบันทึกนี้ 

ในอนาคตอยากจะฝาก ผู้จัดการสถาบันพิทยาลงกรณ์ฯ ไว้ ให้พิจารณาเปิดบล็อก ของสถาบันพิทยาลงกรณ์ฯ เชื่อมโยงไว้ ในเว็บของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย  เพื่อใช้เป็นสื่อ แบบที่ ศ.ดร.จีระ ทำอยู่นี้ เพื่อขยายขอบเขตการแบ่งบันความรู้  นี้ออกไปยังหมู่สมาชิกของสถาบันฯ  ของสันนิบาตฯ และชาวชนบท ท้องถิ่นที่ยากไร้ ที่เป็นเครือข่าย และเพื่อความสะดวก ในการปรับ การแก้ไข การใส่ภาพ การตัดข้อความที่ไม่เหมาะสม และการตรวจสอบและการป้องกัน ไวรัส ด้วย

และฝากข่าวไปยังสมาชิกผู้เข้ารับการอบรม สัมมนา ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง รุ่นที่ 2 เกี่ยวกับการศึกษาดูงานในประเทศที่จะถึงนี้  ก็ขอให้ทำเช่นเดียวกับการไปศึกษาดูงานต่างประเทศ คือ

1. การมาศึกษาดูงานในประเทศ  ได้พบเห็นอะไรที่ประทับใจหรือน่าจะเป็นประโยชน์แก่ สหกรณ์ ชุมชนหรือสังคมไทย  อย่างน้อยประเทศละสามประเด็น
2. การศึกษาดูงาน การสันทนาการระหว่างศึกษาดูงาน ร่วมกับเพื่อนผู้ร่วมเดินทางฯ ท่านประทับใจใครมากที่สุด สิ่งที่ประทับใจได้แก่....อะไรบ้าง

แล้ว ขอให้ช่วยเขียนลงมาในบล็อก เช่นเคยครับ และหวังว่า การเขียนของพวกเรา ยิ่งเขียนจะยิ่งเข้มข้น และพัฒนาขึ้น สมกับภาวะผู้นำที่เข้มแข็งของพวกเรา  นี่คือส่วนหนึ่งของสปิริตของพวกเรา “ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง ภาค 2”

สำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนา ที่ยังไม่ได้ เขียนแชร์ความรู้ประสบการณ์มาในบล็อกนี้  อย่ารักษาตำแหน่ง คนสุดท้ายที่ส่งน๊ะครับ   ผมอ่านของทุกคน และกำลังรอคอย ข้อความของท่าน 

สวัสดีครับ

สวัสดี ท่านอาจารย์ เจ้าหน้าที่ ผนส 2 ทุกท่าน

สบายดีทุกท่านนะครับ ตอนกลับมาจากการดูงานทุกท่านคงจะได้นำความรู้ที่จด จำไปประยุกต์ใช้กับที่ทำงานของท่านให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและอย่านำข้อที่เราเห็นมาเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างกระทันหัน ซึ่งมวลสมาชิก ผู้ร่วมงานจะต่อต้านหาว่าบ้าวิชาไปดูต่างประเทศมานิดเดียวทำเป็นเก่ง จึงขอให้ ผนส 2 ได้ศึกษา วิเคราะห์ และนำความรู้ที่เรียนในห้องเรียน ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสหกรณ์ของท่านโดยทำอย่างต่อเนื่องโดยอันดับแรกผมเห็นว่าน่าจะทำความเข้าใจของท่านกรรมการดำเนินการให้มีทิศทางในการบริหาร มีนโยบายเดียวกัน ยึดระเบียบ ข้อบังคับเป็นที่ตั้ง ส่วนสมาชิกก็ต้องจัดให้ความรู้เข้าใจในขบวนการสหกรณ์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ตัวอย่างที่ สอ จุฬาฯ จะจัดสัมมนาสมาชิกทุกปีๆละ 2 รุ่น ให้ความรู้เรื่องขบวนการสหกรณ์ แจ้งผลการดำเนินการเท่าที่ผ่านมา ตลอดจนการประมาณการผลกำไรสุทธิอาจถึงการปันผล เฉลี่ยคืนด้วยและผลพวงของการสัมมนาสมาชิกก็ได้รู้จักกันมากขึ้นสามารถที่สื่อสารปฏิสัมพันธ์ในหน้าที่การงานระหว่างหน่วยงานซึ่งกันและกันอีกกันได้อีกด้วย ถ้าสหกรณ์ใดจะขอคำปรึกษายินดีหรือให้ช่วยจัดกิจกรรมยินดีรับใช้

สวัสดีครับ

ประทับใจพี่ๆ ผู้นำรุ่น 2 ทุกท่าน ไปกันครบทุกคนเลยครับ สำหรับกิจกรรมที่ศึกษาดูงานนั้น จะนำเสนอในหนังสือพิมพ์โคออปนิวส์ฉบับต่อไป และอีกหลายฉบับ และในรายการโทรท้ศน์ "ข่าวดีประเทศไทย" เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ทางช่อง NBT (ขออภัยด้วยนะครับที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเพราะสถานการณ์ไม่แน่นอน) แต่ท่านสามารถติดตามชมได้ใน web สันนิบาตสหกรณ์ฯ (www.clt.or.th) ขอขอบคุณท่านผู้นำทุกท่านที่ให้ความเป็นกันเองมาก ยินรับใช้ด้วยความเต็มใจเพื่อสหกรณ์ไทย

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 51 ดูรายงานทาง UBC ดร.จีระ สัมภาษณ์ คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย

ในหัวหัว Blue Ocean ของธุรกิจแปลหนังสือ จับประเด็นสำคัญ ๆ เกี่ยวกับผู้

นำได้ดังนี้

1. หลักการทำตัวเองให้เป็นแก้วเปล่า หรือกระดาษเปล่า พร้อมที่จะรับความรู้ต่าง ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ อดีตเราเคยได้ยินว่าทำตัวให้เป็นน้ำไม่เต็มแก็ว พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ลองเปรียบเทียบดูแล้วกันว่า ทำตัวอย่างไรถึงจะได้รับความรู้ต่าง ๆ มากที่สุด

2. การเป็นผู้นำ คนส่วนใหญ่คิดว่ามาพร้อมกับอำนาจหรือตำแหน่ง แต่แท้ที่จริงแล้ว ความเป็นผู้นำอยู่ในตัวของเราเอง ไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในระดับใด ตั้งแต่เป็นนักเรียน

การเป็นหัวโจกของห้อง พาเพื่อนเที่ยว พาเพื่อนเรียน นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามีภาวะผู้นำ

พอเข้าสู่วัยทำงาน การที่คน ๆ นั้นสามารถชักจูงเพื่อน ๆ หรือนำในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็แสดงถึงภาวะผู้นำ.......เพราะฉะนั้น อย่ารอสร้างภาวะผู้นำเมื่อมีตำแหน่งจะไม่ทันกาล

3. ดร.จีระ ได้วิเคราะห์ คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ว่าเป็น CEO ที่ให้ความสำคัญกับการ

บริหาร HR โดยเริ่มจากการบริหาร HR ภายในให้ดี

4. ดร.จีระ วิเคราะห์การเป็นผู้นำของจีน ในการจัดโอลิมปิด ซึ่งมีผลกระทบต่อ Buseness หลาย ๆ ด้าน เช่นไทย ได้ส่งผลไม้ออกไปขาย จีนได้พัฒนาชุดกีฬา และนาฬิกาจับเวลาโอเมก้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเอเซียก็สามารถเป็นผู้นำด้านกีฬา แข่งกับประเทศตะวันตกได้ ซึ่งการแข่งกีฬาไม่ได้มุ่งหวังที่เหรียญ หรือการทำลายสถิติ แต่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วย

เมธาภิวัฒน์ กายขุนทด

ผนส. 2

2 September 2008

เรียน ท่านอาจารย์และเพื่อนทุกท่าน

วันที่ 29 และ 30 ส.ค. ได้เห็นภาพประทับใจจากพวกเรา เมื่อน้องภูมินทร์ เอารูปมาติด ทุกคนสนุกสนาน แซวกันตลอด เป็นภาพที่อบอุ่นมาก และยิ่งเวลาที่อาจารย์ให้เล่นเกมหลอดกาแฟและขวดน้ำ ยิ่งทำให้เห้นความรักสามัคคี เป็นกันเองมากขึ้น มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ซึ่งหายากเต็มทีในเวลานี้ นี่คือผลจากการศึกษาดูงานร่วมกัน ทำให้เราสนิทสนมกันมากขึ้น

1.จากการศึกษาดูงานที่ประเทศมาเลเซียและประเทศสิงคโปร์ ได้ข้อคิดเห็นที่อาจมาปรับใช้กับสหกรณ์บ้านเราได้บ้าง คือ

1.1 สหกรณ์หรือขบวนการสหกรณ์ทั้งสองประเทศ มีความเข็มแข็ง สามารถช่วยเหลือสังคมที่เป็นรูปธรรมเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้ทำให้รัฐเข้ามาสนับสนุนอย่างเต็มที่(จะว่าเต็มที่นักก็ไม่เชิง)เพราะรัฐเห็นผลงาน ที่สหกรณ์สามารถแก้ไขปัญหาของสังคมได้ ถ้าขบวนการสหกรณ์ของเราสามารถสร้างความเข็มแข็งให้เป็นรูปธรรมและช่วยเหลือสังคมได้เต็มที่ รัฐอาจจะสนับสนุนเราได้ อยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้ขบวนการสหกรณ์ของเราเข็มแข็งเหมือนสองประเทศได้

1.2 ทั้งสองประเทศจะเน้นเรื่องการศึกษาในเรื่องสหกรณ์ ทั้งในโรงเรียนและวิทยาลัยการสหกรณ์ มีการนำเงินจากกำไรของสหกรณ์มาสนับสนุนเพื่อการศึกษา ของประเทศไทยคงจะเป็นเรื่องยากที่จะนำเรื่องสหกรณ์ไปสอนในโรงเรียนอย่างเต็มที่เพราะเป็นนโยบายของการศึกษา ซึ่งจะต้องชี้แจงและมีการสนับสนุน ผลักดัน ใครจะเป้นผู้ริเริ่ม แต่สิ่งหนึ่งที่สหกรณ์ต่าง ๆ สามารถทำได้โดยให้ความรู้กับสมาชิกเป็นประจำ สม่ำเสมอ เพราะสหกรณ์มีทุนศึกษาอบรมทางสหกรณ์ มากบ้างน้อยบ้าง บางสหกรณ์นำเงินนี้ให้คณะกรรมการ ฝ่ายจัดการไปศึกษาดูงานเพื่อหาประสบการณ์มาพัฒนาสหกรณ์ ถ้าสหกรณ์จะนำทุนศึกษาอบรมบางส่วน มาให้ความรู้กับสมาชิก โดยค่อย ๆ ทำจะมากน้อยแล้วแต่ความสามารถ แต่ต้องทำต่อเนื่อง ถือเป็นนโยบายหลักของสหกรณ์ อาจจะทำเป็นหลักสูตร โดยยอมเสียค่าใช้จ่ายจากทุนนี้ เพื่อให้สมาชิกมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องสหกรณ์อย่างแท้จริง ค่อยเป็นค่อยไป อาจต้องใช้เวลานานแต่ดีกว่าไม่ทำเลย เพราะสหกรณ์ในประเทศไทยมักจะพูดว่า สมาชิกไม่รู้เรื่องหลักการ วิธีการสหกรณ์ ดังนั้น ถ้าเราเริ่มต้นให้ความรู้โดยอาศัยเงินทุนนี้คงไม่ช้าเกินไปที่จะทำ

1.3 จากการดูงานที่ FairPrice ได้ถามถึงการสูญหายของสินค้า และการคัดเลือกสินค้าแต่ละชนิด ที่นี่เค้าจะมีการสอบถามความถึงพอใจของสมาชิกในสินค้าต่าง ๆ สินค้าใดสมาชิกไม่ชอบหรือไม่ต้องการ เค้าจะไม่นำมาขาย จะยึดความต้องการของสมาชิกเป็นหลัก ดังนั้นการสูญเสีย หรือเสียหายจะน้อยมาก อีกประการหนึ่ง หลักสำคัญในการดูแลสินค้า เค้าจะให้ความสำคัญในเรื่องของสต็อกสินค้า ในการพิจารณาสินค้าแต่ละชนิด ว่าสินค้าใดเป็นที่ต้องการ มากน้อยเพียงใด ในการตัดสินใจ สหกรณ์ของไทยจะเห็นว่าสิ้นปีจะมีสินค้าเสื่อมสภาพ สินค้าเสียหาย บางสหกรณ์ตัดเป้นสินค้าเสียจำนวนมาก ถ้าเรามีการสำรวจความต้องการของสมาชิก อาจจะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลในการจัดหาสินค้าเบื้องต้น เป็นการป้องกันไม่ให้มีสินค้าเหลือมากและเกิดการเสื่อมสภาพต้องตัดเป็นค่าใช้จ่าย น่าจะลองทำดู

2. ความประทับใจในเพื่อน ๆที่ร่วมไปด้วยกันเห็นจะไม่พ้นน้องภูมินทร์ ที่ให้บริการรอยยิ้มตลอด ทั่ง ๆ ที่พี่ ๆ แต่ละคนก็ต้องการช่างภาพฝีมือเยี่ยมของน้องทั้งนั้น คนนั้นเรียก คนนี้เรียก แต่น้องก้ยิ้มตลอด บางครั้งยังสงสารว่า มัวแต่ถ่ายภาพคนอื่น ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีภาพของตัวเองบ้างหรือเปล่า ส่วนเพื่อนคนอื่นน่ารักทุกคน บางคนทำให้เพื่อน หัวเราะลืมความเหน็ดเหนื่อยไปเลย โดยเฉพาะท่านอาจารย์และทีมงานของสันนิบาต ฯได้ให้ความเป็นกันเองกับทุกคนมาก

เรียน อาจารย์ และสวัสดีเพื่อร่วมรุ่นทุกคน

การศึกษาดูงานต่างประเทศ หลักสูตร “ ผู้นำสหกรณ์ ขั้นสูง ” รุ่นที่ 2

1. สิ่งที่ได้ประโยชน์จากการศึกษาดูงานครั้งนี้

1.1 พบสัจจะธรรมอย่างหนึ่งว่าจริง คือ เราจะไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ได้กระทำสิ่งนั้นทุกวันหรือบ่อย ๆ กล่าวคือ จริยธรรม ความรู้ด้านสหกรณ์ในมาเลเซีย สอนเรียนรู้มาตั้งแต่ระดับประถม มัธยม ปริญญา จึงทำให้คนเหล่านี้รู้เรื่องสหกรณ์มาตั้งแต่เกิด และรู้จริง ทำจริง จึงทำให้ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยเหลือผลักดันในการพัฒนาอย่างจริงจัง และเป็นระบบ แล้วเราล่ะ?

1.2 ประเทศสิงคโปร์ มั่งคั่งเป็นที่ 2 รองจากฮ่องกง ในเอเชีย สำหรับประเทศที่ไม่มีทรัพยากรอะไรเป็นของตนเองเลย นอกจากการขายความคิด ขายเทคโน ขายสัญญา เราล่ะเอาแบบอย่าง?

1.3 ผู้นำอย่างมหาเถีระและสีกวนหยู เป็นผู้นำที่น่าเอาแบบอย่างได้เป็นอย่างดี อยู่ที่เราจะมีกึ๋นเพียง?

2. สิ่งที่ประทับใจจากการศึกษาดูงาน

2.1 ประทับใจในความรัก ความเอื้ออาทร ของพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ร่วมรุ่นทุกคน และอาจารย์ธม อาจารย์สมชาย และน้อง ๆ สันนิบาตทุกคนที่ได้จัดงานวันเกิด ( 21ส.ค. ) ให้และมีเค้กอร่อยที่สุด ขอบคุณอีกครั้งสำหรับเพลงและคำอวยพรวันเกิด ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกคนเคารพ และคุณความดีที่เราได้ร่วมทำมา จงช่วยดลบันดาลให้พรต่าง ๆ นี้ จงย้อนกลับให้แก่ทุกคนในครั้งนี้ด้วย ขอขอบพระคุณค่ะ รักทุกคนค่ะ

2.2 ประทับใจในการต้อนรับ ( ทั้งการบริการ การให้ความรู้ และอาหาร ) ทั้ง 4 องค์กรที่ได้ดูงานครั้งนี้

2.3 ประทับใจในบริการของทีมงานสันนิบาตและน้องปุ้ย ประทับใจและขอบคุณพี่ดำรงค์ที่ช่วยถือของบริการให้นุช

เรียน อาจารย์จีระ หงส์ลดารมภ์

จากการดูงานต่างประเทศ ที่มาเลเซียและสิงคโปร์

-สิ่งที่น่าประทับใจในมาเลเซีย และน่ายกย่องให้เป็นตัวอย่าง สำหรับสหกรณ์ และสันนิบาตสหกรณ์ของเรา คือ การที่สันนิบาตสหกรณ์มาเลเซียคือ อังกาซ่า ซึ่งสามารถเชื่อมโยงสหกรณ์ภายในประเทศและสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายไปเกือบทั่วโลก และสามารถดำเนินธุรกิจหักเงินเดือน ซึ่งเป็นตัวกลางระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ จนสามารถทำรายได้จากธุรกิจหักเงินเดือนเป็นรายได้หลักของอังกาวซ่า และสามารถมีเงินให้สินเชื่อเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษาได้

-ในมาเลเซียปลูกฝังระบบสหกรณ์ตั้งแต่ยังเล็ก คือในระดับนักเรียนตั้งแต่ประถมจนจบปริญญา จบออกไปทำงานก็ผูกพันธ์กับสหกรณ์ ดังนั้น สหกรณ์ในมาเลเซียจึงมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีหลักการณ์ สหกรณ์ตั้งแต่เล็กจนโต สหกรณ์เขาจึงมีบทบาทต่อสังคมเป็นอย่างมาก

-สหกรณ์ในสิงคโปร์ เป็นธุรกิจที่เน้นช่วยเหลือสังคมเป็นอันดับต้น ๆ โดยสหกรณ์ในสิงคโปร์มี 72 ประเภท เกือบจะทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคน ล้วนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ โดยรัฐบาลไม่จัดเก็บภาษีรายได้จากสหกรณ์แต่มีการหักเงินเข้าเป็นกองกลางสำหรับช่วยเหลือสหกรณ์ที่ตั้งขึ้นใหม่และจะช่วยเหลือเฉพาะสหกรณ์ที่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือสังคมอย่างชัดเจนเท่านั้น

สำหรับคณะบุคคลที่ร่วมเดินทางทั้งหมด ประทับใจทุกส่วนจนแยกไม่ออกว่าควรให้คะแนนฝ่ายไหนมาก ทั้งคณะอาจารย์ยม อาจารย์ปรีชา อาจารย์สมชาย และเจ้าหน้าที่สันนิบาตทุกท่าน มีความเอาใจใส่ต่อคณะเดินทาง ผนส.2 ทุกท่านเป็นอย่างดี สามารถสร้างความพร้อมตื่นตัว ในการดูงานทุก ๆ ที่ และคิดว่าได้รับประโยชน์ สิ่งดี ๆ เพื่อกลับมาพัฒนาสหกรณ์ของเราได้เป็นอย่างมาก

ประทับใจเพื่อ พี่ ๆ ผนส.2 ทุก ๆ ท่าน ที่ทุก ๆ คน มีแต่ให้แก่กันและกัน จนเกิดความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวพร้อมที่จะขับเคลื่อนสหกรณ์ให้ก้าวหน้าต่อไป

เรียน ท่านอาจารย์ยมและเพื่อน ๆ

การไปศึกษาดูงานที่ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ครั้งนี้ ได้ประสพการณ์มากมาย เสียดายเวลาน้อย ไม่สามารถศึกษาลงไปลึก ๆ ถึงการบริหารจัดการของสหกรณ์แต่ละประเภทได้ เพราะก่อนไปได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ไว้บ้างแล้ว โดยเฉพาะสหกรณ์ ประเทศสิงคโปร์ทราบว่าการบริหารจัดการสหกรณ์ของเขาดีมาก อยากถามหลายอย่าง แต่เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง เลยถามไม่ได้มากอย่างที่ตั้งใจไว้ก่อนไป

ที่มาเลเซียมีสหกรณ์ 10 ประเภท โดยเค้ามองในแง่ของกิจการหรือผู้ประกอบการ ว่าดำเนินกิจกรรมอะไร ก็ตั้งสหกรณ์รูปแบบนั้น ซึ่งแตกต่างจากของไทย เราแบ่งประเภทสหกรณ์เป็นเจ็ดประเภท ในแต่ละประเภทจะมีกิจกรรมหรือการดำเนินงานหลายอย่าง เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์มีให้เงินกู้ ฝากเงิน หรือบางแห่งก็จัดสรรที่ดินให้สมาชิก สหกรณ์การเกษตร มีฝากเงิน กู้เงิน ซื้อ ขาย สินค้า หลากหลาย แต่ของมาเลเซียไม่ทราบว่าสหกรณ์ของเค้าแต่ละประเภททำเพียงกิจกรรมเดียว หรือหลายกิจกรรม รู้เพียงว่า ประเภท Banking เค้าทำเหมือนธนาคาร ถ้าสหกรณ์แต่ละประเภททำเพียงอย่างเดียวเหมือนBanking อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่สหกรณ์เค้าประสบผลสำเร็จได้ดี เหมือนเก่งเฉพาะทางหรือทำให้ดีไปเลยด้านเดียว แต่ของเราทำหลายอย่างแต่ไม่ชำนาญสักอย่าง(บางสหกรณ์)เลยล้มรุกคลุกคลาน(คิดเองนะ)

ส่วนประเทศสิงคโปร์ จะจัดตั้งสหกรณ์ได้ต้องดูว่าสามารถช่วยเหลือสังคมหรือให้ประโยชน์แก่สังคมได้อย่างไร เทียบกับของไทย การจะตั้งสหกรณ์แต่ละประเภทไม่ได้ดูว่าสามารถช่วยเหลือสมาชิก(สังคมส่วนหนึ่งได้อย่างไร)แม้แต่สมาชิกก็หวังแต่กู้เงินอย่างเดียว คือจะได้อะไรจากสหกรณ์ จะได้อะไรจากรัฐ ไม่ได้นึกถึงหลักการ วิธีการสหกรณ์เลย ทำให้สหกรณ์ของเราไม่ค่อยมีคุณภาพหรือไมค่อยเข็มแข็ง บางครั้งก็มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงเป็นเฉพาะกิจไป แม้แต่สหกรณ์นอกภาคการเกษตรที่สมาชิกค่อนข้างจะเป็นผู้มีการศึกษา ก็ยังไม่รู้เรื่องสหกรณ์ รู้แต่ว่าจะกู้เงินได้เท่าไร(บางสหกรณ์ส่วนใหญ่)

 สวัสดีครับ คณะกรรมการบริหาร หลักสูตรฯ  ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง รุ่น 2 และท่านผู้อ่านทุกท่าน

วันนี้ ผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับการไปศึกษาดูงาน ของสมาชิกผู้เข้าร่วมสัมมนา ที่เขียนเข้ามาเพิ่มเติม  นับต่อจากคราวที่แล้ว มีดังนี้ครับ

30.  อธิรัตน์   เมื่อ อ. 02 ก.ย. 2551 @ 11:19

31.   ภูมินทร์ เมื่อ อ. 02 ก.ย. 2551 @ 11:39

32.   kittaya เมื่อ อ. 02 ก.ย. 2551 @ 14:38

33.  นุชรินทร์ อยู่อำไพ เมื่อ อ. 02 ก.ย. 2551 @ 15:50

34.  รัตน์ พรมสี เมื่อ อ. 02 ก.ย. 2551 @ 15:58

35.   กฤตยา(kittaya) เมื่อ อ. 02 ก.ย. 2551 @ 21:53

ผมอ่านแล้ว ประทับใจบทความของทุกท่านที่เขียนมา  เห็นความมีสปิริต มีภาวะผู้นำของท่านทั่งหลาย  และคราวนี้ประทับใจ คุณ Kittaya ด้วยเหตุที่เขียนส่งมาถึงสองครั้ง และประเด็นที่เขียน ครอบคลุมครบถ้วนในประเด็นที่กำหนดไว้  และที่สำคัญ คือ เขียนได้ใจความที่น่าศึกษา น่าสนใจ เป็นอย่างยิ่งชัดเจน ว่า ที่มาเลเซีย เป็นอย่างไร ที่สิงค์โปร์เป็นอย่างไร สั้นกระชับ เข้าใจง่าย และประทับใจผู้ร่วมเดินทางไปด้วยเรื่องอะไรบ้าง  นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการเขียนในประเด็นที่ให้ไว้

คุณนุชรินทร์ และ วิรัตน์ พรมสี  ก็เขียนไว้ครอบคลุมประเด็นเช่นกัน และสั้นกระชับ เข้าใจง่าย น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง 

สมาชิก ผู้เข้าร่วมสัมมนา  ที่อ่านบทความนี้ ช่วยกรุณาแจ้งเพื่อน ๆ ที่ยังไม่ได้เขียนมา  ให้ทราบด้วยครับ อย่ารับตำแหน่งคนสุดท้ายที่เขียนมา น๊ะครับ   ผมอ่านของทุกคน และกำลังรอคอย ผู้ที่ยังไม่ได้ส่งมา   ขอฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ สถาบันพิทยาลงกรณ์ ช่วยตรวจสอบด้วยว่า ส่งครบกันหรือยัง  ขาดใครบ้าง  หวังว่า จะส่งกันครบ ก่อนที่จะถึงวันดูงานในประเทศในอีกไม่กี่วันนี้ 

สวัสดีครับ

ยม

http://gotoknow.org/profile/yom-nark

ท่านอาจารย์ และผู้นำฯ(ผนส.2)ทุกท่าน

ผมมีความตั้งใจอยู่ตลอดที่จะแสดงตนในBlogนี้ แต่ด้วยความห่างเหินต่ออุปกรณ์ก็เลยต้องหาโอกาสอยู่หลายครั้ง แต่ผมไม่เคยคิดที่จะห่างเหินสมาชิกผู้เป็นเจ้าของสหกรณ์ และผมก็ไม่คิดที่จะห่างเหินผนส2ทุกท่านเพราะท่านก็เป็นผู้ที่ทำให้ผมได้รับความรู้หลายๆด้านที่เป็นประโยชน์ต่อสหกรณ์ของผม

การไปศึกษาดูงานในต่างประเทศที่มาเลเซียและสิงค์โปร์นั้น ผมเองก็มีความประทับใจอยู่หลายด้านเหมือนกัน ที่เห็นได้ชัดคือเขาสามารถบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลและสามารถรักษาความสมดุลทางธรรมชาติได้ค่อนข้างดีบนพื้นที่อันจำกัด ในฐานะผู้นำคนหนึ่งก็สำนึกในใจว่าเราก็ต้องใช้ทรัพย์สินของหกรณ์ให้เกิดประโยชน์ให้มาก

แต่สำหรับระดับประเทศผมถือว่าประเทศไทยเราดีกว่า เพียงแต่เราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร .......แค่นี้ก่อนนะครับ...

สวัสดิ์ /คนเจียงฮาย

ผมอ่านบทความใน Blog ของ ผนส.2 หลาย ๆ ท่าน แต่ละท่านที่เขียนมาว่าได้รับความรู้กันมากมายจากการที่ไปดูงานทั้งสองประเทศ ผมเสนออย่างนั้ดีไหมครับก่อนจบครอสเราไปศึกษาดูงานกันอีกสักประเทศดีไหมครับ ไม่ต้องไกลเวียตนามก็พอ ค่าใช้จ่ายในการเดินออกเงินกันเองครับ อาจจะให้สันนิบาติติดต่อหาที่พักและสถานที่ที่จะดูงานให้ หากเห็นด้วยยกมือครับ (แล้วจะรู้หมัยเนี้ยว่าใครเห็นด้วย)

เรียนอาจารย์ทุกท่าน

จากการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และสิงคโปร์ได้ประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับกระบวนการสหกรณ์มากมายทั้งที่ ไม่เคยพบเจอ และเคยพบเจอมาบ้างในเมืองไทยของเรา

ประเทศมาเลเซีย รัฐบาลเค้าให้ความสำคัญกับกระบวนการสหกรณ์เป็นอย่างมากดูได้จากการให้การเรียนรู้เรื่องสหกรณ์ตั้งแต่เล็กจนโตหรือที่เรียกว่าการเรียบรู้ตลอดชีวิตทำให้สหกรณ์ในประเทศเค้าเป็นสหกรณ์ที่มีคุณภาพและให้ความสำคัญกับมวลสมาชิกให้ได้รับสวัสดิการที่สูงสุดตามหลักการสหกรณ์ ซึ่งใช้หลักการเดียวกันสากลทั่วโลก อีกอย่างหนึ่งคือการนำเอาสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับผู้นำของเค้ามาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชม ถ้าประเทศไทยของเรานำวิธีการนี้มาใช้บ้าง(ไม่ใช่ทำตามเค้าน่ะ)แต่เมืองไทยมีสถานที่เช่นเดียวกับที่ทำงานของผู้นำมาเลเซียมากมายสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองไทยได้เยอะอย่างแน่นอน อีกอย่างหนึ่งที่ประทับใจประเทศมาเลเซียคือ 2 ข้างทางของถนนที่คณะเดินทางผ่านจะสะอาดมาก ๆ บ้านเมืองเป็นระเบียบบ้านเรือนไม่ปลูกอยู่ชิดกับถนนเลย น่าประทับใจกว่าเมืองไทยมากกับการวางผังเมืองของประเทศเค้า

ประเทศสิงคโปร์ยิ่งแล้วใหญ่เลย จะเห็นว่าเค้าให้ความสำคัญกับกระบวนการสหกรณ์มากสุด ๆ ดูได้จากทุกอย่างในประเทศเค้าต้องผ่านขบวนการสหกรณ์ เช่นสหกรณ์เด็ก สหกรณ์ผู้ใหญ่ ซึ่งในเมืองไทยไม่มีและสมาชิกทุกคนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่อย่างโลตัส บิ๊กซี หรือคาร์ฟูร์ได้ จากร้านค้า Fair Price ซึ่งในเมืองไทย ร้านขนาดใหญ่เช่นนี้เป็นของเฉพาะนายทุนทั้งในและต่างประเทศเท่านั้นสมาชิกสหกรณ์ฐานรากไม่สามารถเป็นสมาชิกได้หาดเมืองไทยสามารถพัฒนาได้ถึงขั้นนี้ผมคิดว่าคงจะสุดยอดเลย ที่ประทับใจประเทศสิงคโปร์อีกอย่างหนึ่งคือรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นอันดับแรกทำให้ประชากรของเค้าเป็นประชากรที่ดีมีคุณภาพ เมืองไทยน่าจะนำมาพัฒนาบ้าง (นี่ก็ไม่ใช่ทำตามเค้านะ)

ความประทับใจสำหรับ ผนส.2 เพื่อนๆ ทุกคนน่าประทับใจมากมากให้ความเป็นกันเองให้ความรักดูแลเอาใจใส่ ซึ่งกันและกันทั้งที่มากันคนละถิ่นคนละที่ และบางคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนให้ความเป็นกันเองเช่นนี้ช่างน่าประทับใจเหลือเกิน แต่ที่ประทับมากๆ ก็คือท่านอาจารย์ปรีชา อาจารย์สมชาย อาจารย์ยม ที่ท่านให้ความรู้เพิ่มเติมสำหรับคนที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงก็มีอาจารย์นี่แหละที่ช่วยแนะนำและที่ลืมไม่ได้คือเจ้าหน้าที่จากสันนิบาต มีท่านวิจิตร คุณปุ้ย คุยปุยและคุณภูมินทร์ ที่ดูแลเอาใจใส่พวกเราเรื่อยมาและหวังว่าคงตลอดไป ขอบคุณมากๆ

บุญครองชีพ

เรียน อาจารย์ผู้ให้ความรู้แก่ ผนส. รุ่น 2 ทุกท่าน ค่ะดิฉันได้ Print Blog ที่ทุกคนเขียนส่งมาให้สันนิบาตอ่านตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันทุกหน้าเป็นร้อยหน้า ประทับใจทุกคน ประทับใจแง่คิดของอาจารย์เจ้าหน้าที่สันนิบาตฯ และเพื่อน ๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มีความคิดที่มีวิสัยทัศน์ ที่เห็นก่อน เห็นไกล เห็นกว้าง และเห็นลึก สมกับเป็นผู้นำชั้นสูง ซึ่งดิฉันเองจะพยายามขอเรียนรู้กับผู้นำทุกคนในรุ่น เพื่อเป็นแบบอย่าง เพราะเมื่อมาอบรมกับทุกคนมีความรู้สึกว่าทุกคนสมกับเป็นผู้นำชั้นสูง เก่งกันทุกคน แม้ว่าอายุจะหลายช่วงชั้นตั้งแต่อายุ 32 ถึง 61 ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือแตกต่างอะไรเลยมีสมองที่เก่งและดีทุกคนเหมือนอายุเท่ากันหมด แม้ว่าจะดูหลากหลายอาชีพ แต่เมื่อมาอบรมกันแล้ว ทุกคนคีอ ทรัพยากรที่มีอุดมการณ์ หลักการสหกรณ์เป็นเกลียวเดียวกัน ที่จะเป็นผู้นำที่มนุษย์มีความคิดดีสร้างสรรค์ ต่อไป การศึกษาดูงานประเทศมาเลเซีย สิ่งที่พบเห็นและเป็นสิ่งที่ดีเป็นประโยชน์ต่อสังคมสหกรณ์ไทย 1.การที่มาเลเซียยกย่องผู้นำ เช่น มหาเถรที่สร้างประเทศเขาให้เจริญรุ่งเรืองสุด ๆ และนำบ้านของใช้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้นำครอบครัวมาเปิดบ้านเก็บทุกอย่างไว้เป็นอย่างดีปิดล้อมรั้วทุกห้องทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียหาย เก็บไว้ให้ประชาชนได้เห็นและศึกษาประวัติและนำมาเป็นแบบอย่างให้รุ่นต่อ ๆ ไป 2.ภาครัฐ ให้ความสำคัญกับขบวนการสหกรณ์มาก ของไทยนาน ๆ จะได้ยินนายกพูดถึงสหกรณ์ ล่าสุดได้ยินนายกสมัครพูดถึงน้ำมันราคาถูกจากรัฐเซียจะนำมาโดยผ่านสหกรณ์ภาค เกษตรก็ยังภูมิใจว่านายกยังพูดถึงสหกรณ์ทั้ง ๆ สิ่งที่พูดสหกรณ์ทำยากมาก เพราะน้ำมันมีค่ากำมะถันสูงจะนำมาใส่ถังที่สหกรณ์ขายอยู่ไม่ได้ และถึงปัจจุบันก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ไปไม่ถึงดวงดาวแล้วใช่หรือไม่ 3.องค์กรกลางที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ เช่น angkasa ที่เป็นสถาบันสหกรณ์ ที่สามารถหักเงินเดือนเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นรายได้ให้กับวิทยาลัยสหกรณ์เพื่อนำไปสร้างคนแห่งการเรียนรู้และบุคคลากรของ angkasaน่ารักใจดีทุกคน และมอบเสื้อที่ดิฉันตั้งใจจะซื้อจากที่โชว์ไว้ ให้คุณอานนท์ไปช่วยซื้อว่ามีเพียง 3 ตัว คุณอานนท์ คุณพี่ประวัติ และคุณโจ้ได้ฟรีไปเลย เริ่มจากธญานะคะ เพราะฉะนั้นแบ่งมาคนละแขนเสื้อ การศึกษาดูงานสหกรณ์ในประเทศสิงคโปร์ สิ่งที่พบเห็นและนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมสหกรณ์ไทย 1.การพัฒนาสหกรณ์ในด้านธุรกิจที่เป็นสหกรณ์ชั้นนำของประเทศและระบบสหกรณ์การเกษตรไม่มีในสิงคโปร์ 2.ด้านการศึกษาสำคัญที่สุดที่จะต้องรักษาทรัพยากรบุคคลและมีระบบ Manager Service 3.ร้านสหกรณ์ Fair Price ได้เห็นข้าวสารจากโรงสีเจียเม้ง ตราหงส์ทองที่อยู่โคราช และสหกรณ์การเกษตรพิมาย ส่งข้าวให้กับเจียเม้ง ทำอย่างไรจะให้สหกรณ์การเกษตรพิมายที่มี โรงสีข้าวส่งข้าวสารให้กับ Fair Price ได้บ้าง จากการร่วมกิจกรรมเดินทางศึกษาดูงานเพื่อนผู้ร่วมเดินทางประทับใจทุกคน เหมือนเป็นเพื่อนร่วมรุ่น แม้ว่าจะหลายรุ่นราวคราวเดียวกันก็ตาม เมื่อ 3 ปีก่อนคิดว่าเพื่อนที่เรียนโทด้วยกันจะเป็นรุ่นสุดท้ายในชีวิต เพราะอยู่ด้วยกันนานได้เรียนรู้ศึกษาในอีกช่วงวัยของชีวิตการทำงานทั้งสนุก สุข ซีเรียส เครียด แต่เมื่อมาเป็น ผนส.รุ่น 2 คิดว่าไม่แตกต่างจากการเรียนโท คิดว่าเข้มข้นกว่าอีก อันนี้คือสิ่งที่ประทับใจของผนส.40คนนี้และรวมทั้งอาจารย์ที่ปรึกษา อ.ยม อ.สมชาย และที่ประทับใจอีกคนคือ ท่านปลัดจรูญ ที่มีความเป็นกันเองกับทุกคน ดิฉันเลยคิดว่าท่านอายุรุ่นเดียวกับพวกเราไปแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่สันนิบาตฯ ทุกคนที่ดูแลเป็นอย่างดี และก็เหนื่อยแทนอาจารย์ทุกคนที่อุทิศตนเพื่ออุดมการณ์จริงๆ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ประทับใจทุกคนเลย แต่ที่น่ายกย่องที่สุด สู้เว้ย!! คือ คุณพี่ระเบียบ คุณพี่สายัณห์ คุณพี่สอ ของทุกคนที่น่ารักมากๆ

เรียนอาจารย์และ ผนส2

ต้องขออภัยด้วยนะคะที่ข้อความข้างต้นติดกันมากอ่านยากนิดนะคะเพราะ

พิมย์ใส่ในwordก่อนแล้วcopy ลงในblog

ขอบคุณค่ะ

เรียน อาจารย์ผู้ให้ความรู้แก่ ผนส. รุ่น 2 ทุกท่าน

ค่ะดิฉันได้ Print Blog99 ที่ทุกคนเขียนส่งมาให้สันนิบาตอ่านตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันทุกหน้าเป็นร้อยหน้า

ประทับใจทุกคน ประทับใจแง่คิดของอาจารย์เจ้าหน้าที่สันนิบาตฯ และเพื่อน ๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มีความคิดที่มีวิสัยทัศน์ ที่เห็นก่อน เห็นไกล เห็นกว้าง และเห็นลึก สมกับเป็นผู้นำชั้นสูง

ซึ่งดิฉันเองจะพยายามขอเรียนรู้กับผู้นำทุกคนในรุ่น เพื่อเป็นแบบอย่าง เพราะเมื่อมาอบรมกับทุกคนมีความรู้สึกว่าทุกคนสมกับเป็นผู้นำชั้นสูง เก่งกันทุกคน แม้ว่าอายุจะหลายช่วงชั้นตั้งแต่อายุ 32 ถึง 61 ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือแตกต่างอะไรเลยมีสมองที่เก่งและดีทุกคนเหมือนอายุเท่ากันหมด แม้ว่าจะดูหลากหลายอาชีพ แต่เมื่อมาอบรมกันแล้ว

ทุกคนคีอ ทรัพยากรที่มีอุดมการณ์ หลักการสหกรณ์เป็นเกลียวเดียวกัน ที่จะเป็นผู้นำที่มนุษย์มีความคิดดีสร้างสรรค์ ต่อไป

การศึกษาดูงานประเทศมาเลเซีย สิ่งที่พบเห็นและเป็นสิ่งที่ดีเป็นประโยชน์ต่อสังคมสหกรณ์ไทย

1. การที่มาเลเซียยกย่องผู้นำ เช่น มหาเถรที่สร้างประเทศเขาให้เจริญรุ่งเรืองสุด ๆ และนำบ้านของใช้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้นำครอบครัวมาเปิดบ้านเก็บทุกอย่างไว้เป็นอย่างดีปิดล้อมรั้วทุกห้องทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียหาย เก็บไว้ให้ประชาชนได้เห็นและศึกษาประวัติและนำมาเป็นแบบอย่างให้รุ่นต่อ ๆ ไป
2. ภาครัฐ ให้ความสำคัญกับขบวนการสหกรณ์มาก ของไทยนาน ๆ จะได้ยินนายกพูดถึงสหกรณ์ ล่าสุดได้ยินนายกสมัครพูดถึงน้ำมันราคาถูกจากรัฐเซียจะนำมาโดยผ่านสหกรณ์ภาค เกษตรก็ยังภูมิใจว่านายกยังพูดถึงสหกรณ์ทั้ง ๆ สิ่งที่พูดสหกรณ์ทำยากมาก เพราะน้ำมันมีค่ากำมะถันสูงจะนำมาใส่ถังที่สหกรณ์ขายอยู่ไม่ได้ และถึงปัจจุบันก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ไปไม่ถึงดวงดาวแล้วใช่หรือไม่
3. องค์กรกลางที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ เช่น angkasa ที่เป็นสถาบันสหกรณ์ ที่สามารถหักเงินเดือนเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นรายได้ให้กับวิทยาลัยสหกรณ์เพื่อนำไปสร้างคนแห่งการเรียนรู้และบุคคลากรของ angkasaน่ารักใจดีทุกคน และมอบเสื้อที่ดิฉันตั้งใจจะซื้อจากที่โชว์ไว้ ให้คุณอานนท์ไปช่วยซื้อว่ามีเพียง 3 ตัว คุณอานนท์ คุณพี่ประวัติ และคุณโจ้ได้ฟรีไปเลย เริ่มจากธญานะคะ เพราะฉะนั้นแบ่งมาคนละแขนเสื้อ

การศึกษาดูงานสหกรณ์ในประเทศสิงคโปร์ สิ่งที่พบเห็นและนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมสหกรณ์ไทย

1. การพัฒนาสหกรณ์ในด้านธุรกิจที่เป็นสหกรณ์ชั้นนำของประเทศและระบบสหกรณ์การเกษตรไม่มีในสิงคโปร์
2. ด้านการศึกษาสำคัญที่สุดที่จะต้องรักษาทรัพยากรบุคคลและมีระบบ Manager Service
3. ร้านสหกรณ์ Fair Price ได้เห็นข้าวสารจากโรงสีเจียเม้ง ตราหงส์ทองที่อยู่โคราช และสหกรณ์การเกษตรพิมาย ส่งข้าวให้กับเจียเม้ง ทำอย่างไรจะให้สหกรณ์การเกษตรพิมายที่มี โรงสีข้าวส่งข้าวสารให้กับ Fair Price

จากการร่วมกิจกรรมเดินทางศึกษาดูงานเพื่อนผู้ร่วมเดินทางประทับใจทุกคน999ได้บ้าง  เหมือนเป็นเพื่อนร่วมรุ่น แม้ว่าจะหลายรุ่นราวคราวเดียวกันก็ตาม เมื่อ 3 ปีก่อนคิดว่าเพื่อนที่เรียนโทด้วยกันจะเป็นรุ่นสุดท้ายในชีวิต เพราะอยู่ด้วยกันนานได้เรียนรู้ศึกษาในอีกช่วงวัยของชีวิตการทำงานทั้งสนุก สุข ซีเรียส เครียด

แต่เมื่อมาเป็น ผนส.รุ่น 2 คิดว่าไม่แตกต่างจากการเรียนโท คิดว่าเข้มข้นกว่าอีก อันนี้คือสิ่งที่ประทับใจของผนส.40คนนี้และรวมทั้งอาจารย์ที่ปรึกษา อ.ยม อ.สมชาย

และที่ประทับใจอีกคนคือ ท่านปลัดจรูญ ที่มีความเป็นกันเองกับทุกคน ดิฉันเลยคิดว่าท่านอายุรุ่นเดียวกับพวกเราไปแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่สันนิบาตฯ ทุกคนที่ดูแลเป็นอย่างดี และก็เหนื่อยแทนอาจารย์ทุกคนที่อุทิศตนเพื่ออุดมการณ์จริงๆ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

ประทับใจทุกคนเลย แต่ที่น่ายกย่องที่สุด สู้เว้ย!! คือ คุณพี่ระเบียบ คุณพี่สายัณห์ คุณพี่สอ ของทุกคนที่น่ารักมากๆ

สวัสดีครับ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูงฯ และท่านผู้อ่านทุกท่าน

ผมได้อ่านบทความ ในส่วนของการศึกษาดูงานต่างประเทศของท่านผู้นำที่เข้าร่วมสัมมนา  ส่งมาเพิ่มเติมอีกสามท่าน นับต่อจากคราวที่แล้ว ได้แก่

36.     คุณสวัสดิ์ /เจียงฮาย [email protected]   เมื่อ พ. 03 ก.ย. 2551 @ 14:07

37.     คุณบุญครองชีพ จันทร์หอม   เมื่อ พ. 03 ก.ย. 2551 @ 16:48

38.     คุณธญา โบสุวรรณ์   เมื่อ พ. 03 ก.ย. 2551 @ 20:53

ขอชื่นชมทั้งสามท่านที่ไม่รีรอ รีบส่งตามติด ๆ กับเพื่อน ๆ ที่จริงคุณสวัสดิ์ เขียนได้น่าสนใจทีเดียว แต่เสียดาย สั้นไป หรือว่า ของดีมีน้อยครับ  คุณนพคุณ ก็เขียนมาให้กำลังใจเพื่อน ๆ ด้วย แถมยังเชิญชวนไปดูงานที่เวียดนามด้วย น่าสนใจครับ  มีน้ำใจจริง 

ที่น่าชื่นชมมากในคราวนี้ คือคุณธญา ครับ ที่เขียนมาได้สาระ และแน่นด้วยเนื้อหา เขียนชื่นชมเพื่อน ๆ ได้อบอุ่น  แต่ดูคุณธญาจะไม่ค่อยสบายใจ ที่ตัวหนังสือที่เขียนมา ติดกันเป็นพืด  ผมเลยนำข้อความของคุณธญา มาจัดวางให้ใหม่ ขยายตัวอักษร ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อประโยชน์แก่ผู้สนใจอ่านทุกท่าน

สำหรับท่านที่ยังไม่ได้เขียนมา ผมแนะนำให้เขียนลงใน Microsoft word เสียก่อน แล้วใช้รูปแบบตัวอักษร Tahoma ขนาด 14 ครับ  จัดรูปแบบให้สวยงาม   แล้วเข้ามาในบันทึกที่จะวางข้อความ คลิ๊กที่ เรียกใช้งานตัวจัดการข้อความ  แล้ว copy สิ่งที่เขียนไว้มาวางในบล็อก ก็จะได้ตัวอักษร ใหญ่ อย่างที่ผมเขียนอยู่นี้

ขอความสวัสดี จงมีแด่ผู้อ่านทุกท่าน ครับ

เรียน ผู้นำสหกรณ์ฯ รุ่น 2 ทุกท่าน

ผมอ่านความเห็นเกี่ยวกับการดูงานในมาเลเซีย/สิงคโปร์ ของท่านผู้นำทั้งหลายแล้ว รู้ลึกยินดีครับ ที่ท่านประทับใจ และได้เรียนรู้มากมาย คุ้มค่า กับการไปศึกษาดูงานครั้งนี้... เสียดายที่ไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับท่านครั้งนี้ เหตุที่ไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับท่านครั้งนี้ เพราะเห็นว่า มีกรรมการโครงการฯ และเจ้าหน้าที่ ร่วมเดินทางไปมากพอสมควรแล้ว และสามารถมาช่วยเหลือ ให้บริการท่านทั้งหลายได้อยู่แล้ว(ช่วยติดต่อ ประสานงาน และช่วยเรื่องภาษาอังกฤษ) จึงขอประหยัดให้กับสันนิบาตสหกรณ์ฯ ไว้ก่อน และผมเองก็เคยไปหลายครั้ง และรู้จักหน่วยงานที่ท่านไปดูมาดีพอสมควร... ที่อยากเสนอให้พิจารณาคือ น่าจะหาเวลาพูดคุย แลกเปลี่ยน สรุปสิ่งที่ท่านได้ไปดูงานมา บางที่สิ่งที่ท่านได้รู้ ได้เห็น แล้วอาจจะคิด และเข้าใจไม่เหมือนกัน มีมุมมองต่างกัน หรืออาจจะเข้าใจที่ต่างกัน หากได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน อาจจะทำให้ท่านได้รับประโยชน์มากขึ้นก็ได้ ลองพิจารณาดูนะครับ...

ผมในฐานะผู้บริหารโครงการฯ อาจจะไม่ค่อยได้คลุกคลี กับ ผู้นำสหกรณ์ รุ่น 2 ใกล้ชิดเท่ารุ่น 1 เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่าง ต้องขออภัยด้วยครับ แต่ก็พยายามปรับปรุง พัฒนาโครงการฯ และหลักสูตรให้เป็นประโยชน์กับท่านอยู่ตลอดเวลา...

สวัสดีครับ

วิทย์ ประทักษ์ใจ

เรียน ผนส.รุ่น 2 ที่เคารพทุกท่าน

ผมขอแจ้งข่าวดี ในการเดินทางไปศึกษาดูงานในประเทศ ระหว่างวันที่ 10 – 11 กันยายน 2551 ครั้งนี้ ท่านประธานฯ สันนิบาตสหกรณ์ฯ ท่าน ดร.จีระ ดร.ยม และว่าที่ ดร.วิทย์ ประทักษ์ใจ (ผอ.โครงการ) จะให้เกียรติเดินทางไปร่วมใน Trip นี้ด้วย ดังนั้น ผนส.รุ่น 2 ทุกท่าน ต้องแสดง Spirit เพื่อต้อนรับอาจารย์ใหญ่และคณะ ฝากท่านประธานรุ่น (ท่านบงกช) ช่วยแจ้งทุกท่านด้วย เพื่อความเป็นเลิศของ ผนส.รุ่น 2 ครับท่าน

สิ่งที่ ผนส. จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม คือ สุขภาพกายและจิตใจ และมีเป้าหมาย 3 ข้อ ดังนี้

1. การนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปบูรณาการกับสิ่งที่จะไปศึกษาดูงานว่าเขามีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร มีกลยุทธ์ในการทำงานอย่างไรที่ประสบความสำเร็จ และสามารถแข่งขันได้

2. การนำองค์ความรู้และประสบการณ์จากการศึกษาดูงานมาประยุกต์หรือบูรณาการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์กับสหกรณ์ท่านได้อย่างไร

3. การสร้างความผูกพันและมิตรภาพที่ดีต่อกันของผู้นำ จากกิจกรรมและการศึกษาดูงาน

ดังนั้น ภารกิจของแต่ละกลุ่ม (กลุ่ม 1 – 8) ต้องเลือกประธานกลุ่ม และเลขาฯกลุ่ม แบ่งหน้าที่กันให้ได้ว่าใครจะถามเรื่องอะไร ซึ่งในวันที่ 12 จะมีการสรุป และนำเสนอ ที่สำคัญหน้าที่ของแต่ละกลุ่มจะต้องสรุปประเด็นสำคัญ ตามที่ อาจารย์กำหนด 2 ข้อ ไปลงใน blog ด้วย

สุดท้าย ทุกท่านพร้อมกันในวันพุธที่ 10 กันยายน 2551 ล้อหมุนเวลา 07.00 น. ที่สันนิบาตสหกรณ์ฯ ย้ำทุกท่านต้องตรงเวลานะครับ...เพราะคิดว่าทุกท่านก็คงไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา

การแต่งกาย วันแรก เสื้อยืดโปโลสีขาว สวมทับด้วยแจ๊คเก็ตรุ่น วันที่ 2 สีส้ม+แจ็คเก็ต วันที่ 3 ฟรีสไตล์

เรียน ท่าน ผนส.ทุกท่าน

ผมมีข้อมูลเบื้องต้นของ บริษัท พาราวู้ด ดีไซด์ อินดัสทรีส์ จำกัด เพื่อให้ท่านได้มีข้อมูลประกอบ

ชื่อบริษัท : บริษัท พาราวู้ด ดีไซน์ อินดัสทรีส์ จำกัด

ที่อยู่ : 100 หมู่ 11 ถนนสาย 331 ตำบลหนองเหียง อำเภอพนัสนิคม

จังหวัดชลบุรี 20140

โทรศัพท์ : (038) 299161-2

โทรสาร : (038) 299163

เวปไซต์ : www.parawooddesign.com

อีเมลล์ : [email protected]

กรรมการผู้จัดการ: คุณอรุณชัย วิเศษวงศ์สหกิจ

ชื่อผู้ติดต่อ: คุณบุญญวัฒน์ ศิริพัชราวงศ์

คุณกิตติพงษ์ เดชคูหะภูมิพิทักษ์

ปีที่ก่อตั้ง: พ.ศ. 2538

ทุนจดทะเบียน : 1 ล้านบาท

ธนาคารที่ใช้: ธ กสิกรไทย

ผลิตภัณฑ์ : ผลิตเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก ของใช้ในครัวและของตกแต่งบ้าน

วัตถุดิบที่ใช้ : วัสดุที่ใช้จากไม้พาร์ทิเคิลไม้เอ็ม.ดี.เอฟ. เหล็กพลาสติก อลูมิเนียมจำหน่ายภายในประเทศ และส่งออกสหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศยุโรป

เรียน   อาจารย์

               จากการที่ได้อ่านข้อมูลของเพื่อน  ๆ  ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มเติม  และหลากหลาย  ถือว่าเป็นการแชร์ความคิดร่วมกัน 

                และสิ่งที่สำคัญที่ได้จากการเรียนรู้จากการดูงานและการเข้ารับการอบรมของโครงการนี้

                1.แนวคิดของเพื่อน ๆ ผู้เข้าอบรมที่เต็มไปด้วยความรู้ความสามารถ  และประสบการณ์

                2.แนวคิดจากท่านอาจารย์ที่มีให้อยู่เสมอ ๆ ทำให้เรามีความติดที่แตกยอดมากมาย

           สำหรับแนวคิดในการทำงานของตนเอง ก็คือ การดูแลหลักการ /แนวคิดด้านสหกรณ์  โดยยึด  3  คุณค่าดังนี้

                        1.คุณค่าของการรักษาความจริง

                        2.คุณค่าของการรักษาความเชื่อมั่น

                        3.คุณค่าของการรักษาความศรัทธา

เรียนท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.2 ทุกท่าน

ผม ผตส.สกก.เมืองเชียงราย ได้อ่านข้อความของผนส.ที่ส่งเข้ามาใน blogหลาย ๆท่านได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ผมจะนำไปเป็นเยื่องอย่างได้และอดนึกถึงคำชี้แนะของท่านอาจารย์ยม ที่ได้ให้ข้อคิดกับผู้นำไว้ว่า ทุกความเคลื่อนไหวของผู้นำต้องมีเป้าหมาย แล้วมามองย้อนดูลักษณะการปฏิบัติตัวของผู้นำทุกท่าน ที่ร่วมเดินทางไปดูงาน ทำให้มองเห็นรูปธรรมที่แสดงออกถึงการเป็นผู้นำของ ผนส.2 ทุกท่าน เพราะทุกท่านมีความไฝ่รู้มีความตั้งใจจริงในการดูงานเพื่อนำความรู้ และวิเคราะห์ความแตกต่าง หาความเหมาะสมจากการดูงานเพื่อกลับมาพัฒนาสหกรณ์ของตนเอง เท่าที่อ่านดูข้อความของหลายท่าน น่าเลื่อมใสจริงๆ

ความใฝ่ฝันของผมตั้งแต่เข้าร่วมอบรม และไปดูงานต่างประเทศมีความหวังไว้เป็นอย่างยิ่งว่า สหกรณ์ในประเทศยกตัวอย่างสหกรณ์การเกษตรน่าจะเป็นเครือข่ายกันทั่วประเทศ สั่งสินค้ามาจำหน่ายให้กับสมาชิกเหมือนๆ กันในราคาส่งจากผู้ผลิดโดยตรง เช่น ปุ๋ย ยา หากไม่ได้โดยตรงจากผู้ผลิดได้จากตัวแทนขายในจังหวัดนั้นๆ ก็ควรจะมีการรวมตัวกันระหว่างสหกรณ์ เหมือนสหกรณ์ในมาเลเซีย เพื่อเป็นการต่อรองจากผู้ผลิต ว่าสินค้าเหล่านี้สหกรณ์ทั่วประเทศขอสั่งซื้อจากผู้ผลิตโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านตัวแทนจำหน่าย หากไม่ได้ตามต้องการ สหกรณ์ทั่วประเทศก็มีศักยภาพในการจัดตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยเพื่อจำหน่ายแก่สมาชิกในราคายุติธรรมได้ และหลาย ๆ ธุรกิจที่สหกรณ์ควรจะเชื่อมโยงกันให้ได้ทั่วทั้งประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผนส.2 ทุกท่านจะช่วยกันผลักดันให้ความฝันนี้เป็นจริง เหมือนดังที่ตอนนี้ที่เรา ระหว่างสหกรณ์การเกษตรเมืองเชียงราย โดยผมและท่านประธานสวัสดิ์ ได้แวะดูงานที่ สกก.สุพรรณบุรี เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจตั้งจุดรวบรวมผลผลิตแห่งใหม่ และในวันที่ 5 กย.51 นี้ทางคณะสหกรณ์การเกษตรสุพรรณบุรี นำโดยท่านประธานวัฒนา ผนส.2 ท่านจะนำทีมสมาชิกสหกรณ์การเกษตรสุพรรณบุรี มาดูงานที่สหกรณ์การเกษตรเมืองเชียงราย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระบบรูปแบบการทำงานซึ่งกันและกัน

และสกก.เมืองเชียงรายยินดีต้อนรับ ทุกคณะสหกรณ์ที่อยากมาดูงานที่เชียงรายครับ

เรียนท่านอาจารย์ และสวัสดี ผนส.2 ทุกท่าน

อ้างถึงบทความที่มีประโยชน์ ที่พี่สายัณห์ ส่งลงในบล็อค หน้า 5 ที่พี่บอกว่าอ่านพบมาจากท่าน ว.วชิรเมธี เรื่องคิดบวก ชีวิตบวก มีสาระให้ข้อคิดสำหรับมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดามาก และขอขอบคุณพี่สายัณห์นะครับที่อ่านพบสิ่งดี ๆ ก็อุตส่าห์นำลงมาฝากให้ ผนส.2 ได้อ่าน ผมก็เลยขอฝากข้อความเพิ่มเติมลงไปให้เห็นแจ่มชัดขึ้น ก็จำเขามาเห็นว่าพอชีวิตมีปัญหาอะไรถ้าได้นึกถึงบทความเตือนสติที่ดีเหล่านี้ก็จะทำให้เราได้มองเห็นความเป็นจริงแทนที่จะนั่งกลัดกลุ้ม (ธรรมชาติสร้างสิ่งตรงกันข้ามไว้เสมอ)เมื่อมีมา ก็ต้องมีจากไป เมื่อมีได้ก็ต้องมีเสีย เมื่อมีสุขก็ต้องมีทุกข์ จงทำใจให้มีสติ นึกถึงหลักธรรมชาติทุกสิ่งมีความเป็นจริง ในขณะที่มีทุกข์อยู่ก็อย่ากลุ้มจงบอกกับตนเองว่าเดี๋ยวก็จะมีสุข มีปัญหาการทำงาน ท่านก็นึกว่าเดี๋ยวก็แก้ไขได้ จริงหรือเปล่าครับท่าน

เรียน อาจารย์และเพื่อน ๆ ทุกท่าน

ขอเล่าความรู้สึกที่ไปศึกษาดูงานที่ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ต่อจากวันก่อนในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับสหกรณ์ เพื่อแจมความคิดเห็นกับเพื่อน ๆ ต่อนะคะ

1. ถ้าพูดถึง ตึกแฝดปิโตรนัส ทุกคนจะนึกถึงประเทศมาเลเซีย และถ้าพูดถึง เกาะsentosa หรือสิงต์โตทะเล ทุกคนจะนึกถึงประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายที่สำคัญของทั้งสองประเทศ ทำให้นึกถึงสหกรณ์ ถ้าเราสามารถทำหรือหาจุดขายของสหกรณ์แต่ละสหกรณ์ได้ จะทำให้คนรู้จักสหกรณ์และเห็นความสำคัญของสหกรณ์ได้

2. ประเทศสิงคโปร์ ที่อยู่อาศัยของประชาชนจะแบ่งตามฐานะหรือรายได้ของประชาชนแต่ละคน มีบ้านเอื้ออาทร สำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล และที่อยู่อาศัยของเอกชน สำหรับผู้มีรายได้มาก ผู้มีรายได้น้อย สามารถเลือกที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นของเอกชนได้เมื่อมีรายได้เพิ่มมากขึ้น (ตามไกด์บอก) ถ้าสหกรณ์ของเราสามารถจัดชั้นสมาชิก (ไม่ใช่จัดชั้นลูกหนี้สมาชิก) โดยดูปัญหา ดูรายได้ หรืออื่น ๆ ที่สามารถจะนำมาจัดลำดับความช่วยเหลือ เพื่อให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กว่าเดิม จะทำให้สมาชิกเห็นความสำคัญของสหกรณ์ เพราะสามารถช่วยให้เค้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เหมือนคนที่อยู่บ้านเอื้ออาทรของรัฐบาล ต่อมามีรายได้เพิ่มมากขึ้นสามารถมาอยู่บ้านของเอกชนได้

ขอโทษ นะคะ ขอเปลี่ยน e - mail ของ hotmail ลำดับที่ 251 เป็นของลำดับนี้

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ทุกท่าน และท่านผนส2ทุกคนนะคะ

ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ ยม เป็นอย่างสูงที่ช่วยขยายข้อความให้อ่านง่ายขึ้น และเรียนท่าน ผอ.วิทย์ ด้วยนะคะที่เรียนอาจารย์ทุกท่านรวมท่านผอ.ชึ่งเป็นอาจารย์ของพวกเราด้วย ดีใจจังที่จะมีท่านอาจารย์หลายคนไปร่วมดูงานกับพวกเรา

ช่วงนี้บ้านเมืองเครียดจัง กลางวันดูข่าวที่ทำงาน เย็นกลับบ้านจะพยามไม่ดูข่าวเครียดมากนักจะหาดูตลกหรือละครที่ไม่ชีเรียส ตกดึกตอนนี้มีข่าวด่วนอีกแล้วนักศึกษารามถูกยิงหน้าบ้านนายกอีกแล้ว ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เช้าจะมีข่าวอะไรอีก เพราะฉะนั้นคิดบวกไว้ดีกว่า

จะได้มีกำลังใจ ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเดอะท็อปชีเคร็ต ที่มียอดพิมพ์แสนเล่มภายใน2เดือนถ้าอ่านจบแล้วถ้ามีใครสนใจจะส่งต่อให้ได้เลยนะคะ มีจุดหนึ่งที่อ่านในความลับที่สำคัญใว้ว่าถ้าต้องการสิ่งใดให้อธิฐาน'ขอ' หลังจากนั้นให้'เชื่อ'ว่าคุณได้รับสิ่งนั้นแล้วและจุดที่สำคัญที่สุดคือ'รับ'หมายถึงการสร้างความรู้สึก ความพอใจปลาบปลื้ม ยินดี ราวกับว่าคุณได้รับสิ่งนั้นมาครอบครองแล้วจริงๆ และข้อที่ทำยากที่สุดคือ'รับ'เพราะการ'ขอ'และ'เชื่อ'ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับปุถุชนทั่วไปที่จะทำ แต่ความสามารถในการ'รับ'นี่เองที่ทำให้คนเราแตกต่างกันในเรื่องความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน ความรำรวย คู่ชีวิต และสุขภาพ ไว้ติดตามตอนต่อไป กู๊ดไนท์ค่ะ

เรียน ท่านอาจารย์ สวัสดีเพื่อน ผนส.2 ทุกท่าน

วันนี้ผมในฐานะประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตร สุพรรณบุรี ได้นำคณะกรรมการและประธานกลุ่ม พนักงานเจ้าหน้าที่รวมคณะ ประมาณ 100 คน มาดูงานที่สหกรณ์การเกษตรเมืองเชียงรายจำกัด ดูงานระบบแยกสาขาบริการสมาชิก และเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดในการบริหารงาน ก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของการอบรม ผนส.2 ในระดับหนึ่ง ในเรื่องของการเชื่อมโยงเครือข่าย วันนี้ขอสั้นๆ ก่อนนะครับเดี๋ยวดูงานเสร็จจะเพิ่มเติมลงในบล็อคใหม่นะครับ พี่น้อง

เรียนท่านปลัดฯจรูญ

เมื่อวานได้เข้าดูเวปของสหกรณ์ฯท่าน ที่น่าสนใจเรื่องสวัสดิการสมาชิกที่มีคล้ายๆของ สอฟ.แต่ที่น่าสนใจคือฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งของ สอฟ.ไม่มี แต่อยากจะศึกษา อยากได้ระเบียบ ข้อบังคับ จังคะ ขอบ้างได้ไหมคะ เผื่อ สอฟ.จะทำอะไรดีๆ อย่างสหกรณ์ฯท่านบ้าง

กราบขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ

วรวรรณ

ถึงคุณธญาและเพื่อน ๆ ทุกคน

พี่ห่วงสุขภาพคุณธญา พักผ่อนบ้างนะคะ เหน็ดเหนื่อยกับงานแล้วยังเครียดเรื่องการเมือง พี่เป็นเหมือนกัน แต่เมื่อ 2 วันก่อนไปไหว้พระแก้วมรกต ที่วัดพระแก้ว กลับมารู้สึกสบายใจขึ้น เพราะคิดว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ฟ้าลิขิต ขอให้บ้านเมืองสงบสุข ร่มเย็นเหมือนก่อน สงสารในหลวงของเรา ก้ช่วยกันทำความดีถวายในหลวงแล้วกัน

พี่มีเรื่องขำขันที่เกิดขึ้นจริง จะเล่าให้ฟัง เพื่อคลายเครียด น้องที่ทำงานอยู่กลุ่มตรวจสอบภายใน เป็นผู้หญิงไปตรวจงานที่จังหวัดหนึ่งทางอีสาน ต้องไปพบสมาชิกสหกรณ์ที่บ้าน พอไปถึงก็พบสมาชิกนั่งรออยู่ ในชุดนุ่งผ้าขาวม้าซึ่งปกติชาวบ้านจะใส่ผ้าขาวม้าเป้นประจำ พนักงานสหกรณ์คิดว่าไม่เรียบร้อย จึงบอกให้ไปเปลี่ยนนุ่งผ้าให้เรียบร้อยใหม่ สมาชิกก็เชื่อเข้าไปเปลี่ยนนุ่งผ้าออกมาใหม่ ถามว่า สมาชิกเปลี่ยนนุ่งผ้าอะไร คำตอบ สมาชิกเปลี่ยเป้นนุ่งผ้าขนหนู(ผ้าเช็ดตัว)ออกมาแทน ค่ะ

คุณธนา หรือเพื่อน ๆ ลองวิเคราะห์ดูซิว่า ทำไมสมาชิกจึงนุ่งผ้าขนหนู(ผ้าเช็ดตัว)แทนผ้าขาวม้า

ตอบ คุณพี่กฤตยา

ผมคิดว่าจากที่สมาชิกท่านนั้น เปลี่ยนจากนุ่งผ้าขาวม้าเป็นผ้าขนหนู(ผ้าเชิดตัว)เพราะว่าทั้งชีวิตเขามีอยู่แค่นั้นครับ ทำให้เรามามองว่าสหกรณ์เราจะมีอะไรช่วยเหลือเขาเหล่านั้นได้บ้าง เพราะหลักการณ์สหกรณ์ ช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ความหวังนี้คงต้องพื่ง ผนส.2ทุกๆ ท่านช่วยกันแก้ไขปริศนาของชาวบ้าน ผู้เป็นสมาชิกของสหกรณ์ และลองหันมองดูสมาชิกของท่าน ๆ ทั้งหลายดูซิครับ ว่าจะเหมือนกับที่ผมมองเห็นสมาชิกของผมหรือเปล่า ว่ายิ่งเป็นสมาชิกนานวัน ก็ยิ่งมียอดกู้เงินเพิ่มขึ้นทุกปี (มีหนี้สินเพิ่มขึ้นไม่ยอมลดลงหรือหมดลงซักที) มันเกิดอะไรขึ้นกับสมาชิกสหกรณ์ครับ

เป็นปัญหาที่ผู้บริหารของสหกรณ์ ต้องนำมาคิดและกำหนดเป็นเป้าหมายการทำงานเพื่อให้สมาชิกกินดีอยู่ดีใช่หรือไม่ ขอรับ

เรียน คุณวิรัตน์

เข้าใจความรู้สึกของคุณวิรัตน์ เพราะตนเองอยู่ภาคการเกษตรเหมือนกัน

บางครั้งออกไปเผยแพร่ความรู้เรื่องสหกรณ์ให้กับเกษตรกรฟัง เกษตรกรตั้งคำถามว่า ถ้าผมเชื่อว่าสหกรณ์ดี แล้วผมสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์จะให้ผมกู้ได้เท่าไหร่

ทุกวันนี้เข้าใจเกษตรกรดี เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่มีทุน ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง และตนเองก็ประกอบอาชีพเชิงเดี่ยว ซึ่งต้องอาศัยธรรมชาติเป็นที่ตั้ง เมื่อประสบภัยแล้ว ชีวิตของพวกเขาก็จะสลาย เหลือไว้เพียงหนี้สิน

ในฐานะของคนสหกรณ์ สิ่งที่ช่วยเขาได้ในเรื่องหนี้สินที่เขาหนีไม่พ้นนี้ก็คือต้องช่วยเขาให้หลุดออกจากการเป็นหนี้พ่อค้าหรือหนี้นอกระบบเสียก่อน ถึงแม้เขาจะเป็นหนี้สหกรณ์มากขึ้นก็ตาม ดีกว่าปล่อยให้เขาเป็นหนี้หลายทางจากภายนอก ซึ่งจะถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้

มีความเชื่อว่า สหกรณ์ จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ ขาดแคลนเงินทุนได้ แต่ต้องอาศัยเวลา ความอดทน ความพยายามทั้งเราและเขา

ถึง Buddy (คุณไพรพนา)

          ก่อนอื่นต้องขอปรบมือให้กับ ผนส.2 ที่เป็นเจ้าหน้าที่ และกรรมการของสหกรณ์ภาคการเกษตร ทุก ๆ ท่าน ที่ทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย และยากลำบาก การทำความเข้าใจกับสมาชิกในภาคการเกษตรนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะทำให้สมาชิกทุกคนเข้าใจ แต่มันก็ไม่เกินกำลังของพวกเรา ผนส.2 ใช่ไหมครับ ?  ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

จาก Buddy  ของคุณไพรพนา

เรียน ท่านอาจารย์ และเพื่อน ผสน ๒ ที่เคารพทุกท่าน

คิดถึงทุก ๆ ท่านมากครับ การอ่านข้อคิดเห็นจาก blog แล้วนับว่ามีคุณค่ายิ่งเสมือนหนึ่งกับเราเข้าไปในห้องสมุดที่สามารถแรกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมรุ่นที่รู้ใจและอาจารย์ที่เอื้ออาทรต่อลูกศิษย์ทุกคน

การศึกษาดูงานในประเทศคิดว่าจะลาเพราะติดราชการที่จำเป็นมาก พอน้องปุยโทรบอกก็ยังไม่ตัดสินใจ จึงเข้าห้องสมุด(บล็อก)อ่านตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้า ๙ เลือดนักสหกรณ์ ที่ได้รับประสบการณ์และแนวคิดจากอาจารย์และเพื่อน ๆ รุ้น ๒ ทำให้ผมต้องเปลี่ยนแผนทันที บอกตรง ๆ ใจอ่อนครับ แผนงานราชการของผมจึงนัดหมายให้มาทำงานกันในวันเสาร์-อาทิตย์ เห็นใหมครับ"ความสามัคคี การมีน้ำใจต่อกัน การมีความซื่อสัตย์ ให้เกียรติ ให้โอกาส ให้อภัย และใหกำลังใจซึ่งกันและกัน"นั้นจะมีพลังมหาศาลสามารถจะแก้ไขสถานการณ์ได้ทุกอย่าง ก็อยากจะฝากแง่คิดว่า เครือข่าย ผสน ๒ เราจะเหนียวแน่น เราจะรักและกลมเกลียวกันได้ จะสานต่ออุดมการณสหกรณ์ให้ถึงเป้าหมายได้สูงสุดเราต้อง"มีความรักความสามัคคี ความห่วงใย และสื่อสานสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง"นะครับ

วันที่ ๑๐ เจอกันครับผม............พันธมิตรเป็นไง..สู้..ๆๆๆๆ

เรียน ท่านอาจารย์ และ ผนส.2 ทุกท่าน

ต้องขอโทษทั้งอาจารย์และชาว ผนส.2 ทุกท่าน ที่ตี๊ไม่ได้เข้า Blog

ในช่วงนี้ และการบ้านของอาจารย์ยมอีก ตี๊ต้องเดินทางไปราชการติดต่อกันนาน และ

ไม่สะดวกที่จะใช้ Internet จริงๆ วันนี้กลับมาตอนดึก เปิดโทรทัศน์ ช่อง TTV

เวลา 22.45 น. โชคดีได้ฟัง ดร.จีระ ออกรายการคิดเป็น..ก้าวเป็น กับ ดร.จีระ

ซึ่งวันนี้ท่านพูดเรื่อง เจาะลึก Bill Gates ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่าง

ยิ่งใหญ่ ในวงการ IT อาจารย์กล่าวว่า ที่ Bill Gates มีชื่อเสียงได้ขนาดนี้ มิใช่

เขามีเงินทุนมากมาย แต่ทุนที่สำคัญ คือ เขามีทุนทางปัญญา Bill Gates อายุ

เพียง 56 ปี แต่เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ ของคนที่ก้าวหน้าและประสบผลสำเร็จในด้านการ

งานอย่างรวดเร็ว เขามีปัญญามากมายจริงๆ ในการคิดและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง พวก

เราชาว ผนส.2 ก็ต้องพยายามสร้างภูมิปัญญาให้มากขึ้น เพื่อมีส่วนในการพัฒนา

ขบวนการสหกรณ์ไทย ให้ก้าวทันโลกปัจจุบันนะคะ

อาจารย์ยมค่ะ การบ้านของอาจารย์ตี๊ขอส่งพรุ่งนี้นะคะ วันนี้มีงานด่วน

(จริงๆ)ที่ต้องทำเสนอผู้บริหารกรมฯ วันพรุงนี้ค่ะ เฮ้อ ! อจฉาคุณ ไพรพนา จังเลย

Buddy เอาใจมากมายเหลือเกิน

     ขอบคุณน้องติ๊นาที่โทรไปหาด้วยความเป็นห่วงเมื่อเช้าวันที่ 2กันยา และต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ได้โทรกลับ เพราะขณะที่โทรไปเสียงขาด ๆ หาย เนื่องมาจากที่ทำงานสัญญาณไม่ค่อยดี เหตุจากมีการทดลองติดแผงโซล่าเซลล์กับตัวตึก และกระจกรอบอาคารติดฟิมล์กรองแสงเพื่อประหยัดพลังงาน ทำให้สัญญาณผ่านเข้าตัวอาคารได้น้อยซึ่งขณะนี้ กฟผ. กำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ครับ เห็นน้องติ๊นาให้ความรู้ผมเอาความรู้ในการหัดมาฝากด้วยครับ  

- หัดคิดแต่ด้านบวก แล้วเราจะรู้ว่ามีแต่สิ่งที่เป็นไปได้

- หัดฝัน แล้วเราจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่

- หัดพูดแต่ด้านบวก แล้วเราจะรู้ว่ามีคนอีกมากมายที่รักเรา

- หัดทนดู แล้วเราจะรู้ว่า เรามีความอดทนยิ่งกว่าใครๆ

- หัดฟาดฟันกับอุปสรรค แล้วเราจะรู้ว่าเราคือคนที่เข้มแข็ง

- หัดออกกำลังกายทุกวัน แล้วเราจะรู้ว่าเราคือมนุษย์เจ้าพลังคนหนึ่ง

- หัดยิ้ม แล้วเราจะรู้ว่าเราคือคนที่น่ารัก

          ก่อนจบตรงนี้หน้า 8 ผมเขียนเรื่องการไปดูงานที่เวียตนามก่อนจบครอส ถึงเวลานี้แล้วดูไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่ เราไปทำบุญร่วมกันไหมครับเป็นทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา หรือจะซื้ออุปกรณ์การกีฬาไปให้โรงเรียนตามท้องที่ต่าง ๆ ที่ ผนส. 2 เห็นว่าขาดแคลน ดีไหมครับ จะไปหลังจบหรือเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่อยากให้เราห่างกันครับ

รักทุกคน จุ๊บ จุ๊บ ...

เรียนท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.ทุกท่าน

อ่านข้อความในบล็อค ทุกรายการตั้งแต่หน้า 1 ถึง 9 รู้สึกว่าได้ประโยชน์มาก ๆ ถึงได้รู้ความลึกซึ้งถึงคำสอนของท่านอาจารย์จีระ และแรงกระตุ้นที่ท่านอาจารย์พยายามเตือนลูกศิษย์ อยู่เสมอว่าผู้นำต้องหู ตา กว้างไกล อย่าให้ขาด IT นี่คือเรื่องจริงสำหรับในยุคปัจจุบันและต้องขอขอบคุณท่านอาจารย์อีกครั้ง ที่เปิดบล็อคนี้เพื่อให้ ผนส.ได้ติดต่อและแสดงความคิดเห็นเสนอสิ่งดี ๆ มีสาระให้กับเพื่อน ผนส.ได้ติดตามตลอด

ขอบคุณ พี่ต้อยนพคุณ นะครับที่มีสาระหน้ารู้ฝากลงมาในบล็อค ผมชอบและติดใจคำว่า หัดทนดูแล้วเราจะรู้ว่า เรามีความอดทนยิ่งกว่าใคร ๆ เพราะเดิมทีผมเป็นคนที่มีความอดทนในการฟังน้อย หากคิดว่าเรื่องที่ฟังไม่มีสาระ เลยไม่ได้ฟังเรื่องจนจบที่อาจจะมีสาระก็ได้

ถึงพี่ตินา วันนี้สัญญาว่าจะส่งการบ้านอาจารย์ยม นะครับอย่าลืมและผมเองก็อยากจะอ่านแนวคิดของพี่จากการดูงานนะครับ คงมีสาระน่าเรียนรู้ไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ก่อนไม่เคยสนใจเรื่องบล็อคกับใครเขาเลย แต่พอมาอบรมโครงการ ผนส.แล้วสิ่งเรียนรู้เก่า ๆ ที่คืนให้อาจารย์ตอนเรียนจบต้องเรียกกลับมาแล้ว แบบนี้เขาว่ายังไม่สายที่จะปรับปรุงตัวเองให้ทันต่อยุกโลกาภิวัฒน์ใช่ไหมครับ คงต้องขอบคุณโครงการอบรม ผนส. และขอบคุณ สหกรณ์ต้นสังกัดที่ให้โอกาสเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ด้วย

ท่าน ผนส.2 ท่านใดยังไม่ได้พิมพ์ข้อความลงในบล็อค รีบ ๆ นะครับอย่าปิดกั้นตัวเองไว้นะครับ เพื่อน ๆ รออ่านอยู่นะครับ

เรียน ท่านอาจารย์และสวัสดี ผนส.2 ทุกท่าน ผมได้ มีโอกาส ไช้เครือข่ายของรุ่นให้เป็นประโยชนทางด้านการศึกษงานเพื่อนำปรับปรุงไช้กับสหกรณ์ของตนเอง คิดว่าคงมีอีกหลายท่านที่คิดเช่นเดียวกันแต่ยังมิได้ดำเนินการผมบอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก นอกจากประสพการ ความรู้แล้วเรายังได้ความผูกพันธุ์ ความอบอุ่นที่เป็นกันเองจากเพื่อนร่วมรุ่น ผมเชื่อว่าเราคงได้อะไรอีกหลายอย่างนอกเหนือจากการอบรมครั้งนี้ ส่วนเรื่องการดูงานต่างประเทศคงขอรับทราบความคิดเห็นจากท่านอื่นมากกว่าเอาไว้ดูงานภายในประเทศแล้วค่อยขอแสดงความคิดเห็นต่อแล้วกันนะครับ

สวัสดีครับ ผู้นำ ผนส.2 ทุกท่าน

ช่วงนี้หลาย ๆ ท่าน คงจะรีบเคลียร์ภารกิจต่าง ๆ เพื่อให้ไปดูงานวันที่ 10-12 ก.ย.อย่างสบายใจ ฝากความคิดถึงพี่ ๆ ทุกภาคนะครับ

เมธาภิวัฒน์

สกต.ชัยภูมิ จำกัด

สวัสดีท่านอาจารย์และเพื่อนผนส.๒ ทุกคน

จากการที่ได้เข้าอบรมทั้ง 5 ครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งการไปดูงานต่างประเทศผมได้รับความรู้และประสบการณ์มากมายมหาศาลจากอาจารย์และเพื่อนผนส.๒ ผมได้พูดคุยกับเพื่อนๆและอาจารย์หลายท่านโดยเฉพาะอาจารย์ยม ว่าความรู้ที่อาจารย์สอนไม่สำคัญเท่าประสบการณ์ที่อาจารย์นำเสนอเพราะผมคิดว่าความรู้เราสามารถศึกษาหาอ่านเอาจากที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้ แต่ประสบการณ์นอกจากประสพด้วยตัวเองแล้วก็มีเพื่อน ๆ และอาจารย์นี่แหละที่ถ่ายทอดให้เพราะประสบการณ์สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับสถานการณ์ที่คล้ายกันได้ แต่ถ้าเรามีความรู้และประสบการณ์แล้วไม่นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ก็เช่นเดียวกับการที่เราคิดว่าเราคือผู้นำอยู่แถวหน้าแต่ถ้าไม่พัฒนาหรือย่ำอยู่กับที่ก็จะเป็นผู้ตามที่ดีในวันข้างหน้า

ขอบคุณอาจารย์และเพื่อน ๆ ทุกคนที่ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กันและกันตลอดเวลา

ขอบคุณครับ

ถึงพี่นพคุณ

        โครงการที่พี่คิดว่าเราควรจะไปดูงานที่เวียดนาม และโครงการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา ล้วนแต่เป็นโครงการที่ดีทั้งสิ้น เอาไว้เราไปคุยกันที่อบรมก็ได้ครับ

คิดถึงทุกคนครับ...

คำรน  ศรีวงค์ษา

• สวัสดีท่านอาจารย์และเพื่อนร่วมรุ่น ผนส.2
•  สนใจโครงการของคุณนพคุณอยู่นะ พบกันวันที่ 10ก.ยนี้และคงมีเพื่อนส่วนหนึ่งไปพักที่สันนิบาต ขอบคุณพี่กฤตยามากนะคะที่เป็นห่วงสุขภาพและเพื่อนๆที่เป็นห่วงช่วงที่กลับจากสิงค์โปรไม่สะบายขอบคุณอีกคร้งค่ะ ไปดูงานด้านสหกรณ์ภาคเกษตรหวังว่าท่าน ภาคออมทรัพย์จะเข้าใจผู้นำภาคเกษตรมากขึ้นแต่ไม่ต้องถึงขนาดไปลงมือทำไร่ทำนาเองหรอกนะคะ     คิดถึงทุกคนเช่นเดียวกันค่ะ          

ท่านผู้นำ(ผนส.2)ทุกท่าน

ในวันนี้ หลายๆ ท่านคงจะเตรียมตัวไปศึกษาดูงานที่บ้านของท่าน สจ.ขจร ส่วนผมต้องขออนุญาตท่านอาจารย์และต้องขอโทษ ผนส2ทุกท่าน โดยเฉพาะพี่ขจร ในฐานะเจ้าบ้าน ที่ผมไม่ได้ร่วมศึกษาดูงานในครั้งนี้ แต่ถึงแม้ผมไม่ได้ไปดูงานที่สหกรณ์ฯจันทรบุรี ผมก็ถือว่าผมได้รับเอาแนวการบริหารจัดการด้านสวัสดิการของสกก.จันทรบุรีมาใช้แล้ว คือ เมื่อปลายเดือนก.ค (ช่วงอบรมครั้งที่2)ผมกับคุณวิรัตน์ ได้รับเกียรติจากท่านวัฒนา ประธาน สกก.เมืองสุพรรณ ได้เชิญผมทั้งสองในฐานะตัวแทนของ สกก.เมืองเชียงราย ไปศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารจัดการสหกรณ์ของกันและกันในวันนั้นผมก็ได้รับแนวการจัดสวัสดิการให้สมาชิกของสกก.เมืองสุพรรณ เกี่ยวกับสมาชิกผู้สูงอายุและกรณีเสียชีวิต พอในวันประชุมประจำเดือนส.ค ผมก็นำความคิดดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุม ทางคณะกรรมการและผู้จัดการใหญ่ก็เห็นพ้องต้องกันทำเป็นระเบียบขึ้นมาถือใช้ทันทีเริ่มตั้งแต่วันที่ 1ก.ย51 เป็นต้นมา ต่อมาได้รับแจ้งจากท่านวัฒนาว่าแนวการจัดสวัสดิการดังกล่าวได้รับแนวมาจากสกก.จันทรบุรี ของพี่ขจร นั่นเอง ถ้าใครอยากทราบว่าสหกรณ์ของผมนำแนวของท่านวัฒนากับท่านขจรมาปรับใช้อย่างไรก็เชิญมาที่เชียงรายแล้วจะเล่าให้ฟัง..ครับ

ขอกลับไปแสดงความเห็นขำขัน(จริง)ของพี่กฤตยา ผมเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เราต้องนำภาวะผู้นำมาใช้ คือ การรู้จริง รู้ลึก มีความอดทนต่อสภาวะการต่างๆ ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า และอาจารย์ก็ได้ให้กลักการไว้ด้วยว่าผู้นำจะต้องไม่ตัดสินเพียงอาศัยภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าเท่านั้น.....วันนี้เวลามีแค่นี้ก่อนนะครับ...ขอให้ทุกท่านศึกษาดูงานอย่างมีความสุข แล้วผมจะขอศึกษาดูงานจากท่านต่อ..ครับ

คนเชียงราย..ทบุรี

สวัสดีค่ะ อาจารย์จีระและผนส.2ทุกท่าน

ยินดีที่ได้รู้จักและมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย โดยเฉพาะคุณประวัติ ได้ฟังความคิดเห็นและเฉียบคมมาก ถ้ามีโอกาส คงได้พบปะพูดคุยกันอีกนะคะ

ทาง รป.ม.5 ยินดีต้อนรับค่ะ

วันนี้เพิ่งกลับมาจากการศึกษาดูงานที่จังหวัดชลบุรี และจันทบุรี ได้ประโยชน์มากมายในทุกสถานที่ที่ไปดูมา ( แล้วค่อยชี้แจงรายละเอียดภายหลังนะคะ ) มีท่านอาจารย์ จีระ ท่านประธาน สสท. ท่านผอ.วิทย์ ท่านอาจารย์ยม ให้เกียรติไปดูงานกับพวกเราด้วย วันนี้พวกเร ชาว ผนส.2 ได้สลับกันมาเล่าเรื่องราวของตัวเองบนรถ ทำให้เรียนรู้ว่า เบื่องหลังของพวกเราบางคน กว่าจะถึงวันนี้ ต้องต่อสู้ ดิ้นรน (น้ำตาจะหยดให้ได้ )เพียงใด นี่แหละคือชีวิตจริงและประสบการณ์ ที่หาในตำราเรียนไม่ได้ ตี๊นาคงไม่ได้เข้า Blog หลายวัน มีรายการเดินทาง ดังนี้ 13 -14 ต.ค. 2551 สัมมนาผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ จ. สุพรรณบุรี 14 -20 ต.ค 2551 ไปราชการที่ จ. กระบี่ เพื่อนๆ ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน คือ คุณคำรณ ( รูปหล่อ),คุณโชค (ท่านเจ้า),ป้าสงวน และ น้องบุญส่ง พวกเราต้องเสนอรายงานกลุ่ม ของสหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี จำกัด นะคะ ยังไม่ได้คุยกันเลย คุณคำรณช่วยเป็นหัวหน้าทีมประสานพวกเราด้วยนะคะ แล้ว e-mail ถึงกันนะคะ งานนี้เห็นป้าสงวนของเราจดข้อมูลของสหกรณ์ การเกษตรเมืองจันทบุรี เพียบ คงได้ทำรายงานดีๆ เสนออาจารย์กันนะคะ ติดต่อตี๊นา ได้ที่ 089 -9692574 นะคะ

          ผมคิดว่าจะเป็นรายแรกที่เข้า Blog หลังเสร็จสิ้นการดูงานภายในประเทศเสียอีก เห็นชื่อน้องติ๊นาเป็นคนแรกช่างขยันอะไรจะปานนั้น ติ๊นาลืมอะไรหรือเปล่า ยังมีคนรออ่านความประทับใจในการศึกษาและดูงานต่างประเทศอยู่น่ะ อย่างน้อยก็พี่นี้แหละที่รออ่านอยู่ครับ

          การศึกษาดูงานภายในประเทศ งานนี้จะว่าไปแล้วเสียดายทีธรรมชาติไม่ค่อยจะเป็นใจไม่เช่นนั้นแล้วเราจะได้อะไร ๆ มากกว่านี้

      สถานที่แรกที่ไปดูงาน (พาราวูด) ผมเข้าใจคิดว่าหลายคนคงจะมีความเห็นเหมือน ๆ กัน ในด้านการจัดการขององค์กร และช่วยเหลือคนในพื้นที่ให้มีงานทำ ตรงนี้ผมว่าผ่าน (จากการPresent ให้ฟัง) แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ เรื่องชีวอานามัยของพนักงาน (นรกชัด ๆ ไม่ทราบว่าแรงไปหรือเปล่า)  เรื่องการจัดพื้นที่ สถานที่ทำงานไม่เป็นหมวดหมู่เห็นสภาพแล้วไม่มีแรงจูงใจที่จะทำงาน  เห็นได้จากบางงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับฝุ่น ก็อยู่รวมปะปนกัน ผู้จัดการท่านอาจจะเห็นว่าใครทำงานที่นี้แล้วทุกคนต้องได้รับฝุ่นเสมอภาคกัน

      สถานที่อันดับสองสหกรณ์การเกษตรขลุงเสียดายที่เรามีเวลาน้อยไปนิดที่ข้อสงสัยต่าง ๆ ยังไม่ถาม ทั้ง ๆ ที่ดูความตั้งใจของท่านประธาน ท่านผู้จัดการ และคณะกรรมการของขลุงที่ให้การต้อนรับ ดูทุกท่านมีความพร้อมที่จะตอบข้อสงสัยและปัญหา เรื่องนี้ผมขอรบกวนคณะผู้จัดศึกษาดูงานสักนิดหนึ่ง การที่มีโปรแกรมอื่นเข้ามาแทรกอาจทำให้เสียบรรยากาศในการรับฟัง  การให้เกียรติกับคณะผู้ต้อนรับที่เราไปดูงานผมว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกันน่ะครับ   

      สถานที่อันดับสามสหกรณ์การเกษตรจันทบุรี คล้าย ๆ กันครับจะดีอยู่ที่ว่ามีสมาธิในการบรรยาย ส่วนที่อาจจะไม่ค่อยดีก็คือ มีการตอบเสริมของสหกรณ์จังหวัดฟังแล้วดูเหมือนขัดกันครับ  

สรุป การดูงานทั้งสามที่ต้องขอขอบคุณคณะต้อนรับทุกสถานที่ ๆ ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง  ถามว่าการดูงานทั้งสามที่มีความประทับใจไหม  ในส่วนของการต้อนรับผมให้ 100 เต็ม ถ้าเป็นในเรื่องความรู้ผมให้คะแนนผมให้ 60 ครับ 

     สิ่งที่เราได้และได้มากโดยที่ไม่ได้คลาดคิดจากการไปศึกษาและดูงานในครั้งนี้คือคำว่า "เพื่อนแท้"  ทำไมผมถึงได้พูดว่าเพื่อนแท้ เพราะเราไม่ได้คบกันอย่างผิวเผิญ แต่เราคบกันอย่างเปิดอกเปิดใจ ดูได้จาก หลายคนแสดงความเป็นเพื่อนแท้ออกมาโดยการเล่าประสบกราณ์ชีวิต ประสบการณ์ทางด้านสังคม ไม่ว่าจะเป็นท่านประธานรุ่น พี่สายัณต์ ท่าน ผอ.อดิศักดิ์  น้องติ๊นา น้องกบ น้องโชค น้องคำรณ และอีก หลาย ๆ คน  ในความคิดของผมน่ะครับผมคิดว่า สิ่งนี้นี่เองที่ทำให้รุ่นเรามีความรักและสามัคคีกัน พลังถึงได้เกิดครับ เพราะพวกเราเปิดอกและเปิดใจ ครับ  ขอให้ความรักและสมัครสมานของ ผนส. 2 อยู่ยั้งยืนยงครับ   

สวัสดีครับพี่ๆ ผนส.2 ทุกคน

คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะกลับถึงบ้านกันอย่างปลอดภัยแล้ว....ตัวผมเองถึงบ้านตอนตี 4 เพราะรถเสียระหว่างทาง (รถทัวร์) แต่ก็ถึงบ้างอย่างปลอดภัย...ฝากข่าวถึงพี่ติ๊นา พี่ต้อย พี่ส.ที่วันนี้ไปประชุมราชการที่อ่างทอง และพี่ติ๊นาต้องเดินทางไปราชการที่กระบี่อีกหลายวัน...ทำงานซะเหนื่อยเลย....

ส่วนผมเองวันนี้...จัดอบรมพนักงาน เสาร์อาทิตย์ ไม่ได้หยุดเหมือนกัน

พี่วิรัช เมื่อคืนไปถึงหมอชิตแทบไม่ทัน เพราะรถติด และคนเยอะ มาก รถออก 20.30 ไปถึงกัน 20.20 พี่่วิรัชเกือบตกรถซะแล้ว...แต่ตอนนี้คงจะนอนสบายอยู่เจียงฮายแล้วเน้อ

สมาชิกกลุ่ม 1 พี่ดำรงค์ พี่จักร พี่พิมพ์ พี่วรรณ เดี๋ยวทำร่างเสร็จจะส่งให้ดูทางเมล์นะครับ ส่วนพี่จักรไม่เป็นไร ไว้โทรคุยกันนะครับ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ผนส. 2 ทุก ๆ ท่าน

          ดูงานแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับเพื่อน ๆ ผนส.2  ไปสัมนาครั้งนี้คุณเอาใจ Buddy ของคุณบ้างหรือเปล่าครับ

สวัสดีครับอาจารย์จีระ และเพื่อน ผนส.2 ทุกท่าน

          จากการที่ได้ไปศึกษาดูงานที่บริษัทพาราวู๊ด ได้ฟังการบรรยายจากผ จัดการใหญ่แล้วรู้สึกว่าในการมีส่วนร่วมระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างเป็นด้วยความร่วมมือร่วมใจกัน แต่ในส่วนสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงาน นายจ้างไม่คำนึงถึงทรัพยากรบุคคลเกี่ยวกับชีวอานามัยกับสิ่งแวดล้อม ส่วนของสหกรณ์การเกษตรจันทบุรี ผมได้ฟังการบรรยายระหว่างประธานกับ สหกรณ์จังหวัดแล้วรู้สึกว่ามีความขัดแย้งกัน ทำให้เห็นว่าการเชื่อมโยงเครือข่ายล้มเหลวในส่วนนี้น่าจะมีการแก้ไข ปรับตัวเข้าหากัน

ส่วนงานสังสรรค์กลางคืนผมมีความประทับใจอาจารย์จีระเห็นอาจารย์มีความสุข และสนุกสนานกับลูกศิษย์ แล้วทำให้ผมคุ้นเคยและเข้าใจอาจารย์มากขึ้น ทำให้ผมลดอาการเกร็งเวลาเรียนกับอาจารย์ในชั่วโมงต่อไป คิดว่าชั่วโมงที่เหลือจากการเรียนน่าจะเรียนอย่างมีความสุข

ด้วยจิตคาราวะ

เรียนท่านอาจารย์จีระที่เคารพ

      ผมมีความเห็นว่า Blog นี้มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะเป็นการสื่อสารระหว่างรุ่นอีกช่องทางหนึ่ง หากสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังรุ่น 1 และ รุ่น 3 ได้ จักเป็นการดี   เมื่อจบหลักสูตรแล้ว ผมยังมีความเห็นว่า Blog นี้ควรจะมีต่อไปครับ

ด้วยความเคารพ

นายนพคุณ  ยังเอี่ยม

เรียนคณาจารย์และเพื่อน ผนส. 2 ทุกท่าน

ผ่านพ้นไปแล้วพร้อมกับสาระและความชื่นมื่น สำหรับการเดินทางไปศึกษาและดูงานในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการฝึกอบรมผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง การเดินทางในครั้งนี้ ผนส. รุ่น 2 ได้ศึกษาดูงานทั้งในส่วนของธุรกิจภาคเอกชนและสหกรณ์ภาคเกษตร

ตามที่ได้มีการจัดแบ่งสหกรณ์ทั้ง 7 ประเภท ออกเป็น 2 ภาค คือ สหกรณ์ภาคเกษตร และ สหกรณ์นอกภาคเกษตร กระผมปฏิบัติงานในสหกรณ์ร้านค้า ซึ่งถูกจัดไว้ให้อยู่ในสหกรณ์นอกภาคเกษตร เมื่อมีโอกาสได้มาศึกษาดูงานสหกรณ์ภาคเกษตรก็ได้พบว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง สหกรณ์ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรคือ มีทั้งการจัดหาทุน กระจายทุน รวบรวมผลผลิต ซื้อขายปัจจัยในการผลิต ธุรกิจห้องเย็นและที่สำคัญมีธุรกิจส่งออก ทั้งที่สหกรณ์ดำเนินการเอง และร่วมกับเครือข่ายธุรกิจอื่น นอกจากนี้สหกรณ์ยังมีนโยบายที่จะส่งเสริมกิจกรรม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับสมาชิกสหกรณ์และสังคม โดยกำหนดไว้ในแผน 5 ปีของสหกรณ์ ซึ่งถ้าทำอย่างต่อเนื่องก็ต้องขอแสดงความยินดีกับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรของจังหวัดจันทบุรี (โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรทั้ง 2 แห่งที่ได้ดูงาน) ที่จะมีอนาคตที่สดใส

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือธุรกิจห้องเย็นที่สหกรณ์ลงทุนไว้มาก ทั้งที่เป็นการลงทุนของสหกรณ์เอง ลงทุนจากแหล่งอื่น แต่มูลค่าเพิ่มที่ได้รับจากห้องเย็นค่อนข้างน้อย ทำให้เป็นตัวฉุดธุรกิจด้านอื่นของสหกรณ์ ยิ่งน่าเป็นห่วงเมื่อได้ฟัง ท่าน สกจ. ชี้แจงเพิ่มว่า จังหวัดจันทบรีมีสหกรณ์ถึง 4 แห่งที่มีห้องเย็นเป็นของตัวเอง ไม่ทราบว่าอีก 3 แห่งมีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร ถ้ามีผลการดำเนินงานไม่คุ้มค่าเหมือนๆ กัน ก็น่าเป็นห่วง เลยมีความคิดว่าถ้าสหกรณ์ร่วมกันจัดทำเป็นศูนย์ห้องเย็นจังหวัดโดยให้สหกรณ์ใดสหกรณ์หนึ่งเป็นผู้ดำเนินการน่าจะลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงได้ และให้มีการเชื่อมโยงมากขึ้น น่าจะเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถแก้ปัญหาได้

สำหรับธุรกิจภาคเอกชนที่ได้เข้าเยี่ยมชม คือ บริษัทพาราวูด เป็นธุรกิจที่ดำเนินการในระบบครอบครัว จึงไม่ค่อยมีความซับซ้อนในระบบบริหารจัดการมากนัก แต่ที่น่าสนใจคือการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับพนักงานและสังคมโดยรอบโรงงาน ให้รู้จักความพอเพียง มีการส่งเสริมให้มีการลดละเลิกอบายมุขเพื่อความสุขของครอบครัว แต่ที่ยังขาดอยู่ก็คงจะเป็นสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยในสถานประกอบการที่คงจะต้องมีการพัฒนาต่อไป

ในการเดินทางครั้งนี้ประทับใจผู้จัดการขจรฯ และคณะที่ให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

กฤษณะ อัมพวานนท์ ผนส.2/40

เรียนท่านอาจารย์ สวัสดีท่าน ผนส.2 ทุกท่าน

มาตามสัญญานะครับ ว่าจะส่งสิ่งที่มีประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆก็ได้จากการไปดูงานที่จันทร์บุรี ที่กลุ่มแม่บ้านเสม็ดงามชงชาใบขลู่ ให้ท่านได้ชิมกันนั่นแหละครับข้อมูลต่อไปนี้ก็นึกเสียว่าได้จากการต่อยอดการไปดูงานนะครับ ขลู่ (หนาดวัว หนาดงิ้ว คลู)คือตัวเดียวกัน แล้วแต่จะเรียก

ส่วนที่ใช้ ใบ ดอก ทั้งต้นและราก

สรรพคุณ ใบ แก้ริดสีดวงทวาร แก้กระษัย ขับนิ่ว ขับปัสสาวะ เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ไข้ขับเหงื่อและแก้เบาหวาน นำใบมาผึ่งให้แห้งและชงดื่มเป็นชาเพื่อลดน้ำหนัก บรรเทาอาการปวดเมื่อย ต้มน้ำอาบรักษาเส้นตึง ใช้ลดน้ำหนัก

ดื่มเป็นชาโดยใช้ใบสด 40-50กรัม หรือใบแห้ง 15-20กรัม ต้มกับน้ำ แบ่งดื่มวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ถ้วยชา ก่อนอาหาร หรือใช้ใบแห้งครึ่งกำมือ คั่วให้เหลือง แล้วชงดื่มแทนชา

ดอก - 1 กำมือ ใช้ต้มดื่มเพื่อขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะ

ทั้งต้น - 2 กำมือ ใช้ต้มดื่มเพื่อแก้นิ่วในไต ขับปัสสาวะ แก้ริดสีดวงทวาร

ยอดอ่อน - มีรสมัน รับประทานเป็นผักสด

เปลือกต้น - มวนยาสูบแก้โรคริดสีดวงจมูก ใช้ต้มเอาไอบรรเทาการอักเสบริดสีดวงทวาร

ส่วนข้อมูลของ ลูกสำรองไว้จะถ่ายเอกสารไปให้วันทที่ 26 ต.ค. นะครับ

        สวัสดีครับเพื่อน ๆ กลับจากจันทบุรีแล้วคงได้อะไรติดตัวมาบ้างนะครับ     สำหรับผมแล้วได้จากทั้ง 4 แห่งพอสมควรทีเดียวบางอย่างน่าจะนำมาต่อยอดได้        เช่นการส่งออกผลผลิตของสมาชิกในสหกรณ์การเกษตร   ซึ่งคงต้องมีการศึกษารายละเอียดอย่างจริงจังหากจะมีการดำเนินการต่อไป  การเชื่อมโยงเครือข่ายของขบวนการสหกรณ์เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจเอกชน  การคิดถึงปากท้องเพื่อการมีชีวิตอยู่กับเรื่องของสุขอนามัย  การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้าโดยต้องมีการสร้างมาตรฐานให้กับตัวสินค้าพร้อมกันไปด้วย  แล้วพบกันใหม่ครับ...

เรียน อาจารย์และ ชาว ผนส.2ทุกท่าน

ตี๊นาเพิ่งกลับมาจากสุพรรณบุรี แวบเข้ามาดู Blog เห็นพี่ต้อย (นพคุณ)เขียนทวงการบ้านของตี๊ที่ยังไม่ได้นำเสนออาจารย์ (ศึกษาดูงานต่างประเทศ)ขอเรียนแก้ตัวว่า ตี๊ไม่ลืมจริงๆ ค่ะ แต่เดินสายตลอดเลย ตอนนี้กลับมาบ้านเพื่อเอากระเป๋าเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ จะไปกระบี่อีก 6 วันค่ะ สัญญาว่ากลับมา กทม. เมื่อไร จะทำการบ้านส่งอาจารย์ให้หมดเลย ทั้ง ศึกษาดูงานใน - ต่างประเทศ และโครงการพัฒนาสหกรณ์ ขอเวลาตี๊หน่อยนะคะ ตอนนี้เพลียมากเลยค่ะ คิดถึงพี่ๆ เพื่อน ๆ และน้องชาว ผนส.2 และ จนท. สสท.ทุกคนค่ะ ...ตี๊นาเองค่ะ

สวัสดีค่ะ  อาจารย์  และเพื่อน ๆ

            จากการที่ได้ไปศึกษาดูงานภายในประเทศ ทำให้เกิดความคิดเพิ่มเติมมากมาย  ทั้งด้านการบริหารจัดการ การทำธุรกิจ  ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่าย  แต่ขอยกประเด็นการเชื่อมโยงเครือข่าย มาพูดคุยก่อนนะค่ะ

            การเชื่อมโยงเครือข่ายด้วยการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างสหกรณ์ เราไม่สามารถเชื่อมโยงได้สำเร็จอาจด้วยสาเหตุดังนี้

            1.ประเภทของสินค้า/ที่ไม่ตรงความต้องการ

            2.มูลค่าของสินสินค้า/ที่มีราคาที่แตกต่างกัน

            3.การขนส่ง/ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบ

            4.ความสามารถในการกระจายสินค้าที่แลกเปลี่ยนออกสู่สมาชิกของตน

            5.คุณภาพของสินค้า

            6.ความคิดเชิงบวกของผู้นำแต่ละแห่ง

            7.อื่น  ๆ  อีกมากมาย

ถึงเพื่อน ๆ ผนส. 2 ทุกท่าน

          ผมมีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่งที่เพื่อนรุ่นพี่ผมคนหนึ่งเล่าถึงประวัติของแกให้ผมฟังเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา  ผมเห็นว่าเรื่องที่เค้าเล่าให้ผมฟังนั้นมันทำให้เค้าเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองได้ ผมจึงขออนุญาตที่จะนำเรื่องของแกมาเล่าต่อเพื่อน ผนส. 2 ครับ      

          เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชิตแกเป็นคนที่ชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แม้แต่เป็นเนื้อหมา แกก็กินแหลก ครับแต่ แม่แกบอกมันบาปนะลูก(ไม่สนโว้ย)  มีเหตุการณ์ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป ครั้งนั้นมีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งครับมันมักวิ่งไปหาของ กินแถวๆบ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด พี่แกกินหมาอยู่บ่อยๆแต่ กรณีหมาขี้เรื้อนแกบอก "กูกินไม่ลงว่ะ" แกทำอย่างเดียวคือไล่ฆ่า แต่มันรอดได้ทุกครั้ง ( สงสัยมีของ) มันไปหาของกินทีบางทีก็ได้บางทีก็ไม่ได้ คราวนั้นเนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนวิ่งหลุนๆไป แกเดือดทันทีครับวิ่งตาม ไป คราวนี้ทันครับเพราะหมาขี้เรื้อนวิ่งช้ามาก แกทุบไปทีเดียวหมานั่นล้มลงชักทันที (แกบอกว่าหากตีตรงจุดแค่ไม้บรรทัดก็ตาย) แกทิ้งไว้ตรงนั้นไม่ อยากจับแต่จะทำกินตรงนั้น จึงกลับบ้านไปเตรียมของ ( แค้นจัดอยากกินหมาขี้เรื้อน) ให้เด็กอายุแค่ 12เฝ้าไว้ เด็กก็มัวแต่เก็บตะขบจนลืมดู แล้วมันก็หายไปจริงๆ  พี่ชิตแกโกรธมากคงอยากเต๊ะเด็กที่เฝ้าเต็มแก่  แล้วแกก็เดินตามหาหมาขี้เรื้อนนั้น พร้อมบ่น "ทำไมมันไม่ตายวะ" พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหมาเห่า แกตามทันทีพอไปถึง ภาพที่เห็น....... หมาขี้เรื้อนกำลังจะตายมันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังหย่านมบางตัวยังกินนมอยู่ บางตัวก็วิ่ง ไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก (เห็นกับตา) ที่มันยังไม่ยอมตายเพราะต้องกลับไปให้นมลูก แม้ น้ำนมแห้งกรัง เอาอาหารไปให้ลูกมัน เรียกลูกๆเพื่อให้นม ให้อาหาร เป็นครั้งสุดท้าย แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุด มันมองผมกับพี่ชิตอย่างขอร้อง ขอให้มันให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย  ไม่อยากเชื่อนั่นคือน้ำตาของหมาขี้เรื้อน มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย พี่ชิตไม้หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดูแม่หมานั่น ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูก แกไม่พูดอะไรทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอสายตาอ่อนโยนลง ลูกหมาตัวหนึ่งวิ่งไปหาแกกระดิกหางให้ แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมพูดว่า "ขอโทษ" พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็ตาย พี่ชิตกับเด็กช่วยกันฝังแม่หมา แกรับเลี้ยงหมานั่นไว้ ทั้ง 5 ตัวตั้งแต่นั้นแกกลายเป็นคนใจดีไม่ไล่ยิงนกยิงหมายิงแมวอีกแกบอก "มันอาจมีลูกรออยู่ก็ใด้" เมื่อ 12 สิงหา ที่ผ่านมา แกเอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆที่ไม่เคยทำ พูดกับแม่ว่า " แม่ ตอนผมอายุ 16 แม่สอนผมยังไงนะสอนอีกหนใด้ไหมครับ" แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก ไม่อยากเชื่อแม่หมาขี้เรื้อนตายไป 1 ตัว กลับทำให้คนใจดำอย่างแกเปลี่ยน ไปขนาดนี้

เรียน ท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.2 ทุกท่าน

เพิ่มเติมการเชื่อมโยงเครือข่าย ต่อจากของคุณไพรพนา ความคิดเล็ก ๆ แต่มีความสำคัญไม่แพ้ความคิดกว้างไกล เพราะคิดกว้างไกลหากมองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปอาจล้มทั้งยืนได้

สาเหตุที่ 1 ประเภทสินค้าที่ไม่ตรงตามความต้องการ(ต้องหาว่าเรามีอะไรแล้วใครที่ไหนต้องการ)

สาเหตุที่ 2 มูลค่าสินค้า/ที่ราคาแตกต่างกัน (ย่อมเป็นไปตามธรรมชาติของแต่ละพื้นที่อยู่ที่เราจะหาและปรับราคาให้ยุติธรรมระหว่างผู้ผลิตและผู้ชื้อ)

สาเหตุที่ 3 การขนส่ง/ค่าใฃ้จ่ายที่รับผิดชอบ (ต้องคิดว่านั่นคือต้นทุนที่เราต้องบวกเข้าไปเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้)

สาเหตุที่ 4 ความสามารถในการกระจายสินค้าออกสู่สมาชิก (ก็อย่าอยู่กับที่เหมือนคนนั่งขายของชำซิครับ เราต้องใช้ระบบขายส่งหรือตลาดขายส่งโดยการใช้ประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์ เคยเห็นตลาดคลองถมเคลื่อนที่ไหมครับที่ปัจจุบันทำให้ร้านค้า โชห่วยในต่างจังหวัดเป็นง่อยตาม ๆ กัน)

สาเหตุที่ 5 คุณภาพสินค้า ผู้ผลิตและผู้ขายย่อมเป็นผู้กำหนดร่วมกันได้ เพราะราคาจะเป็นตัวผลักดันเอง

สาเหตุที่ 6 ความคิดเชิงบวกของผู้นำแต่ละแห่ง (ต้องขอมอบส่วนกลางคือผู้เชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์ ถ้าเป็นมาเลเซียและสิงคโปร เขาคงทำได้ดีมาก แต่ของเราตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่า สันนิบาตของเราจะเป็นตัวเชื่อมโยงได้ดังที่เราไปดูงานต่างประเทศมาหรือเปล่า อย่างแรกหากต้องการประสพผลสำเร็จในเวลาอันใกล้ คงต้องทำให้การเชื่อมโยงเครือข่าย ผนส.1 2 3 ให้แน่นแฟ้นและต่อยอดให้ได้

สาเหตุที่ 7 สัญญาว่าจะเพิ่มเติมลงในบล็อคต่อไปนะครับ

ผมมีความสุขมากที่ได้ไปร่วมการศึกษาดูงาน ในจ.จันทบุรีในครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงพลังและความสามัคคีของ ชาว ผนส. 2 และผมได้นำไปพูดออกรายการวิทยุสั้นๆ ถึงการไปดูงานที่สหกรณ์การเกษตรเมืองขลุง และสหกรณ์การเกษตรจันทบุรี ว่าเป็นที่ตัวอย่างที่ดีของสหกรณ์

สหกรณ์การเกษตรเมืองขลุง สามารถส่งสินค้าตรงไปที่เทสโก้ โลตัสได้ ส่วนสหกรณ์การเกษตรที่จันทบุรี ก็มีบริษัทคนจีนมาดูแลเรื่องการส่งออก ในเรื่องมังคุด ซึ่งมีมูลค่า กว่า 100 ล้าน

ส่วน ดร.ซิงห์ แขกของผม ก็กำลังหาช่องทางส่งออกมังคุดโดยเน้นไปที่ประเทศอินเดีย เพราะในอินเดียนั้น คนชั้นกลางชอบมังคุดเป็นพิเศษ ผมก็หวังว่า เราจะมีเน็ตเวอร์คที่ช่วยกระจายโอกาส เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง

ผมรู้สึกดีใจมาก ที่ลูกศิษย์ทุกคนมีความกระตือรือล้น ในการใช้ Blog เป็นช่องทางการประสาน ในด้านความรู้และประสบการณ์ที่ได้พบเห็นมา ผมจะติดตามอ่านทุกความเห็นที่ส่งเข้ามาใน Blog

พบกันวันที่ 26 กันยานี้

จีระ หงส์ลดารมภ์

เรียน ท่านอาจารย์ คณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ทุกท่าน

ขอบรรยายภาพการศึกษาดูงานในประเทศ ให้ท่านที่ไม่ได้เดินทางร่วมในครั้งนี้ว่า ผมยังขอยืนยัน นอนยันว่า ผนส.รุ่น 2 ได้สร้างความประทับใจให้กับผมและทีมงานสถาบันฯ เป็นอย่างยิ่ง เพราะทุกท่านมีความรัก ความสามัคคี มีภาวะผู้นำที่เป็นเลิศ โดยการนำของประธานรุ่น (พลเรือตรีบงกช ผาสุข)และคณะ ซึ่งได้ทำหน้าที่ได้อย่างสมความภาคภูมิ บรรยายกาศตั้งแต่เริ่มเดินทางเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น จากการได้ให้แต่ละคนได้เล่าประวัติส่วนตัว โดยเฉพาะคุณกบ รู้แล้วจะหนาวครับ เรียน ท่านอาจารย์ คณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ทุกท่าน

ก่อนอื่นต้องขอบรรยายให้เห็นภาพการศึกษาดูงานในประเทศของ ผนส.2 ก่อน เรานัดกัน 7 โมงเช้า เนื่องจากฝนตกรถติดต้องเสียเวลาไปนิดหน่อย ในที่สุดคณะผู้นำก็มาครบ ทั้งจากเหนือจรดใต้ ประเภทที่ว่าลงรถแท็กซี่ ก็รีบเปลี่ยนชุดกันเลย ทุกท่านให้ความร่วมมือด้วยดี แต่งชุดด้วยเสื้อโปโลสีขาว สวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตรุ่น สีดำ ตลอดเส้นทางก็เจอฝนประปรายครับ ที่แรกที่ผู้นำจะไปศึกษาดูงาน คือ บริษัท SME ที่เป็นของคนไทย เป็นบริษัทไม่ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่ก็สามารถยืนหยัด ต่อสู่กับการแข่งขันที่รุนแรง เมื่อไปถึงก็ได้รับการต้อนรับจากคุณกิตติพงศ์ ซึ่งกรรมการผู้จัดการบริษัท หลังจากได้ฟังการบรรยายแล้ว ก็ได้เข้าชมกิจการ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์

สิ่งที่ได้จาก พาราวู้ด การบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถยืนอยู่ได้ภายใต้การแข่งขันที่สูงจากภายนอกเช่น จีน เวียดนาม โดยบริษัทเน้นการลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะตลาดภายในประเทศ โดยการลดต้นทุนในด้านเครื่องจักร และอุปกรณ์ โดยรวมกลุ่มกันเป็นคลัสเตอร์ และจะบริการซ่อมบำรุงกันเองภายในกลุ่ม ส่วนในด้านแรงงาน เน้นเป็นคนไทยในชุมชน ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม และพุทธ ซึ่งน่าสนใจที่มีวิธีการจูงใจพนักงาน เช่น การทำประกันชีวิตกับ AIA วงเงิน หนึ่งแสนบาทให้กับทุกคน นอกเหนือจากประกันสังคม การทำโครงการ “ซดเหล้า...เข้าพรรษา” เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับพนักงาน รู้จักการออม ลดละเลิกอบายมุข และที่สำคัญเศษวัสดุเหลือใช้จะนำมาเพิ่มมูลค่าโดยนำมาผลิตวัสดุประกอบเล็ก ๆ การนำผงไม้ไปทำธูป เป็นต้น

การแวะชมตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่อำเภอโป่งนำร้อน จันทบุรี พบว่า ตลาดการค้าตามแนวชายแดน ยังมีคนไปเที่ยวไม่มากนัก อาจเพราะเป็นวันทำงาน แต่ในฝั่งกัมพูชาก็มีสินค้าธรรมดาทั่วไป ถูกหน่อยก็บุหรี่ ส่วนบ่อนก็มีเปิดบริการเหมือนในหลาย ๆ ด่าน แสดงว่ายังมีคนไทยนิยมไปเล่นการพนันอยู่ และที่สำคัญเขมรไม่ให้คนของเขาเข้าไปเล่น น่าคิดนะครับท่านผู้นำ แล้วทำไมไม่ทำบ่อนในบ้านเราเสียเลยเงินจะได้ไม่ไหลออกไปไหน ก็มีหลายรัฐบาลคิดจะทำ แต่ยังไม่กล้าพอ ซึ่งในความเป็นจริงบ้านเราก็ มีบ่อนเถื่อนเต็มบ้านเต็มเมือง จับกันทุกวัน ดูสิงค์โปร์ไม่รอช้าอะไรที่จะโกยเงินเข้าบ้านต้องทำ กำลังทำบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ที่เกาะเซ็นโทซ่า ของเราคงอยู่ที่ผลประโยชน์ไม่ลงตัวหรืออย่างไร...ดูเรื่องหวยสิครับ พอมีคนกล้าทำหวยบนดิน สิ่งที่เคยอยู่ใต้ดิน ก็อยู่บนดิน นำเงินที่ได้มาพัฒนาคนให้ฉลาดมากขึ้น น่าจะดีนะครับ

การดูงานภาคสหกรณ์ เริ่มที่สหกรณ์การเกษตรเมืองขลุง จำกัด และสหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี จำกัด ดูงานกลุ่มสตรีสหกรณ์ที่ทอสื่อในหมู่บ้านเสม็ด ในเบื้องต้นสิ่งแรกที่ทุกคนเห็น คือ ความใหญ่โตของสหกรณ์ทั้งสองแห่ง มีอาคารสำนักงาน มีธุรกิจปั๊มน้ำมัน มีร้านจำหน่ายสินค้าและปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยา เครื่องมือทางการเกษตร มีห้องเย็น ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าสหกรณ์มีการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งดูแล้วสหกรณ์ยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาและต่อยอดธุรกิจได้อีกมาก สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องทำให้ชุมนุมสหกรณ์ระดับจังหวัดมีความเข้มแข็งให้ได้ โดยให้ชุมนุมทำหน้าที่เป็นเหมือนบริษัทใหญ่ของสหกรณ์ ในการทำหน้าที่รวบรวม ส่งออก หาตลาด เพื่อทำหน้าที่แทนสหกรณ์ทั้งหมดในจังหวัด โดยสหกรณ์ไม่ต้องมาแข่งขันกันเอง เพราะชุมนุมเป็นของทุกสหกรณ์ ชุมนุมมีกำไรสหกรณ์ทุกสหกรณ์ก็ได้ประโยชน์เท่าเทียมกัน การรวมซื้อ รวมขายอำนาจต่อรองก็สูงกว่าต่างคนต่างทำอยู่แล้ว อาจฟังดูง่ายแต่ทางปฏิบัติทำยาก เพราะ เรายังไม่ร่วมมือกันจริง ยังไม่รักกันจริง ยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม จึงรวมกันยาก ต้องพยายามใช้หลักการสหกรณ์ทั้ง 7 ข้อมาบูรณาการให้ได้ สหกรณ์จะเข้มแข็งเองตามธรรมชาติ

สิ่งที่ผมประทับใจมากในทริปนี้ คือ ความรัก ความสามัคคี ความเป็นกันเอง ภาวะผู้ที่น่านับถือของแต่ละท่าน โดยเฉพาะกิจกรรมภาคกลางคืน ผมประทับใจมาก ทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว สนุกสนาน โดยมีคุณพี่อธิ จาก สอ.จุฬาลงกรณ เป็นผู้สร้างสรรค์ ความบันเทิง เริงใจ จนพระเจ้าตากเข้าสิงห์ร่าง ขนาดท่านอาจารย์ ดร.จีระ ยังระงับอารมณ์ (อารมณ์ร่วมไว้ไม่อยู่) ต้องออกมาร่วมสนุกอย่างเป็นกันเอง ผมเสียดายแทน ผนส. อีก 4 ท่านที่พลาดโอกาสเช่นนี้ ผมประทับใจน้ำใจคนจันทบุรี นำโดยท่านสจ. หรือ ผนส. ขจร วรวาท ที่ท่านได้ประสานงานสถานที่ การต้อนรับและดูแลคณะของเรา ตั้งแต่ย่างกรายไปถึงจังหวัดจันทบุรีเลยทีเดียว ท่านจัดรถนำขบวนตลอดทาง ขอบคุณคณะผู้บริหารสหกรณ์และฝ่ายจัดการทุกท่าน ที่ได้ให้การต้อนรับอย่างดี ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนช่วยให้การศึกษาดูงานครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ขอบคุณ..จากใจจริง

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่าน  คณะกรรมการบริหารหลักสูตร ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง และผู้เข้าร่วมสัมมนา ทุกท่าน

เสร็จสิ้นไปอีกภารกิจหนึ่ง กับการศึกษาดูงานในประเทศ ของผู้นำสหกรณ์ชั้นสูงรุ่นที่ 2 ผมเห็นใจเจ้าหน้าที่ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ที่ไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ครั้งนี้ ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ได้ดี   “ลูกน้องดีเพราะผู้นำเก่ง” และขอชื่นชมประธานสันนิบาตสหกรณ์ฯ ประธานโครงการฯ และผู้อำนวยการฯ ที่ให้ความเอาใจใส่ ให้กำลังใจ ให้ความสะดวกต่อการบริหารโครงการนี้ ทั้งติดตามไปดูงานอย่างใกล้ชิดด้วย

คุณวิจิตร จะโรจร รับตำแหน่ง คนแรก ที่ส่งมาไปแล้วหลังจากศึกษาดูงาน   และเขียนได้ดีอีกด้วย ขอปรบมือให้ เยี่ยมจริง ๆ ผู้นำยุคใหม่ นี้ ต้องคล่อง ว่องไว รอบรู้

นอกจากนี้ ผมประทับใจผู้เข้าร่วมสัมมนาหลายท่านที่ร่วมไปศึกษาดูงานในครั้งนี้    คุณขจร  วรวาท ผู้จัดการ สกก. เมืองจันทบุรี จำกัด  รับบทหนักได้อย่างดี ทั้งเป็นผู้เข้าร่วมสัมมนา และเป็นผู้ต้อนรับและนำพาคณะผู้เข้าร่วมสัมมนา ศึกษาดูงานด้วย 

คุณสายัณห์  ถิ่นสำราญ ประธาน  สอ.บริษัท ทีโอที จำกัด ขยันจริงระหว่างศึกษาดูงาน เอาหนังสือไปอ่านหลายเล่ม แถมยังเผื่อมาถึงอาจารย์ด้วย  ประทับใจจริง

คงไม่มีใครดำขำสุขุม สุขแบบลึกๆ เท่าคุณ  จักรินทร์  สังข์ทอง  ประธาน สกก. ระโนด  จำกัด  เพราะไปไหน ผมไปด้วยช่วยทุกเรื่องได้ดี  

คุณประจวบ  คงเป็นสุข รองประธาน สอ.สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟน. จำกัด ดูสุขุม ใจดี สนใจศึกษาแบบเจาะลึก อยากรู้จริงว่า ในเขมรมีอะไรมากกว่านี้  

คุณ วรวรรณ  ส่องพลาย ผู้จัดการสำนักงาน สอ.สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟน. จำกัด ก็ปรับตัวได้ดี ดูเอาจริง และจริงจังกับการศึกษาดูงาน ไม่แพ้กับการเต้นแบบสุดๆ  เต้นได้ทุกวันแบบที่จันทบุรีท่าจะดีกับสุขภาพน๊ะ

บุญครองชีพ  จันทร์หอม  รองประธาน สกก. ห้วยยอด จำกัด หอมสมชื่อนามสกุล เพราะท่านมาดูงานเมืองจันท์นี่  เนื้อหอมเป็นพิเศษ  ดูดี มาดผู้นำ สุขุม ลุ่มลึก

ว่าที่ ร.ต.จรูญ  ชูลาภ ประธาน  สอ.ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ  จำกัด แม้ว่าท่านจะมากด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิ ก็มากด้วยภาวะผู้นำ ปรับตัวเข้าได้ทุกสถานการณ์ น่าศึกษาเป็นแบบอย่างที่ดี  จริงใจ ให้ความเป็นกันเอง กับทุกคน

เพิ่มสีสันให้กับรุ่น ในการดูงานครั้งนี้คงไม่มีใครเกิน   ไพรพนา ฉ่ำเย็นอุรา  ผู้ช่วยผู้จัดการ สกก. ไทรน้อย จำกัด สุภาพเรียบร้อย  ตั้งใจ ให้ความร่วมมือดีเยี่ยม 

สรกฤต พลเคน  กรรมการ สอ.พนักงานยาสูบ จำกัด ช้าแต่ชัวร์ เพราะเดินช้า แต่ความคิด คำพูด ชัวร์ สุขุม ลุ่มลึก สนุก ร่าเริงได้เสมอ เช่นกัน

คม ชัด ลึก ต้อง ประวัติ  หาดปิ่นขจรจารุ  ผู้ตรวจสอบกิจการ  สอ.พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด  แค่มองก็รู้แล้วว่า ในโรงงานนี้ มีอะไร ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานฯ บ้าง 

เมธาภิวัฒน์ กายขุนทด  ผู้ช่วยผู้จัดการ  สกต. ธกส. ชัยภูมิ จำกัด  ดูจะหนุ่มที่สุดในรุ่น (ไม่นับความหล่อ)  มีไฟ เฉียบคม กว้างไกลเกินวัย  ทำได้ตั้งแต่ขายของหน้าร้านยันงานบริหารจัดการ ว่าที่ผู้นำยุคใหม่ตัวจริงเสียงจริง

  ขยัน เรียบร้อย จริงใจ ต้องคุณนุชรินทร์  อยู่อำไพ  ผู้จัดการสกก.ย่านตาขาว จำกัด

เดิมมาแต่ไกล ผมนึกว่าเจ้าพ่อ คาสิโนว์ที่กัมภูชา ที่ไหนได้กลายเป็นคุณ วัฒนา  บุญญทิม ประธาน สกก.เมืองสุพรรณบุรี  จำกัด นี่เอง สุขุม สุภาพ น่าเลื่อมใสใจจริง

พิมพ์นภา  เนียมบุญ  ผู้จัดการ  สกก.เขาชัยสน จำกัด ดูคล่อง ว่องไว ผสมผสานความเรียบร้อย สุขุม รู้จักบริหารทั้งสองอย่างได้ดีทั้งหยินและหยาง

กฤษณะ  อัมพวานนท์  ผู้จัดการ  ร้านสหกรณ์ผู้ปฏิบัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จำกัด  ดูสุขุม สุภาพเรียบร้อย มาดผู้นำ สมวัย

ธญา โบสุวรรณ์  ผู้จัดการ  สกก.ครบุรี  จำกัด ใคร ๆ ก็อยากเรียกคุณแม่ เพราะทราบว่า มีดี ๆ อยู่ที่บ้าน  แต่ท่านยังขยันขันแข็ง แต่งชุดฮาวายแล้ว ยังกะชาวเกาะที่ฮาวายเลยทีเดียว นี่เรียกว่า “ปรับตัว” “ทำตัวเข้าบรรยากาศ” ได้เป็นอย่างดี น่าชื่นชม

ใครที่ทุกข์ใจ ต้องคุยกับ ชนะพันธุ์  ดุรงค์ธรรมรัตน์  รองประธาน สป.แม่กลอง จำกัด เพราะเขามีอะไรเด็ด ๆ อยู่ในตัว มีพลัง มีไฟ อารมณ์ขัน ผู้นำยุคใหม่ ต้องรู้จักบริหารอารมณ์ ใช่เลย

คำรน  ศรีวงค์ษา กรรมการและผู้จัดการ สอ.สาธารณสุขสมุทรสงคราม  จำกัด  หล่อ สุขุม แคล่วคล่อง ว่องไว ไม่แพ้ใคร เรียนรู้เร็ว ไม่วอกแว๊ก น่าชื่นชมยิ่ง

ซุ่มเรียนรู้ ดูงาน ไม่เบาเลย กับคุณสงกรานต์ ธรรมกุล  กรรมการ สอ.ครูเลย จำกัด  มาเลย ไปเลย จริงๆ

นี่ก็เช่นกัน ดูไกล ๆ ผมนึกว่า พ่อเลี้ยงเชียงราย หรือพ่อเลี้ยงที่กัมภูชา ที่ไหนได้เป็น คุณวิรัตน์  พรมสี ผู้ตรวจสอบกิจการ  สกก.เมืองเชียงราย จำกัด  หล่อ สุขุม แคล่วคล่องว่องไว

ไม่เห็นกับตา ก็จะไม่เชื่อ กับคุณอนนท์  ศุภตระกูล  ผู้จัดการ  สอ.พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  จำกัด ตัวจริงไม่เหมือนใคร แต่ เสียงจริง ร้องเพลงจริง เหมือนนักร้องดังหลายๆ คนจริงๆ สุขุม ร่าเริง ปรับตัวได้ทุกสถานการณ์

ประธานรุ่น พลเรือตรีบงกช  ผาสุก  ผู้จัดการ สอ.กรมอู่ทหารเรือ จำกัด รับบทหลากหลายได้ดี ผู้นำ ผู้ตาม ประธาน จะให้บริการอะไรบอกได้เลย ทำได้ดีเสมอมา ดีมีน้ำใจ  สมชายชาติทหาร 

ไม่มีใครเกินเลย นักรบพระเจ้าตาก คุณอธิรัตน์  บุญสมบูรณ์สกุล เลขานุการ สอ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด ทำหน้าที่พิธีกร และผู้สร้างอารมณ์ร่วมให้กับเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี สนุก ร่าเริง แบบมีสาระ น่าสนใจ แต่ให้ทำบนรถคงไม่เอาเพราะเมารถแต่ก็ไม่เคยเมารักใคร

สุขุม สมศักดิ์ศรีมีมาดนักวิชาการเต็มตัว ปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ แม้จะให้ถือไมล์ที่มีแต่หัวไมล็ ก็ร้องเพลงได้เสมอ ต้องคุณระเบียบ  มโนรัตน์ นักวิชาการ  กรมส่งเสริมสหกรณ์

บริหารอารมณ์  จัดการความเครียดไม่มีใครเกินคุณอรุณี  วงศ์ราเชน  หัวหน้ากลุ่มงาน  กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  หากให้เล่าเรื่อง ขำขัน built อารมณ์ เมื่อไหร่ เป็นหายง่วงทุกที  ผู้นำยุคใหม่ ต้องใส่ใจกับการบริหารอารมณ์ ไม่ให้เครียดอย่างคุณอรุณี

เสียงเหนอ ๆ แบบหล่อ  ไม่มีใครเกินคุณบุญส่ง ทองคุ้มประธาน   สค.บ้านหนองกระทุ่มพัฒนา จำกัด ปรับตัวได้ดี ทุกสานการณ์ แต่ขอสงวนเสียงเหนอ ๆเอาไว้ เป็นเอกลักษณ์ ที่ดี น่าสนใจ

อดิศักดิ์  ว่องเล่ห์ รองประธาน สอ.ครูแพร่  จำกัด อีกผู้หนึ่ง ที่สร้างสรรค์บรรยากาศบนรถได้ดีแต่ละเรื่องที่เล่ามา ทั้งโครงการประกวดพ่อพันธุ์หมู ฯ มีสาระ และสนุกสนาน ประสานได้ดี

หล่อ สุขุม  การดูงานและความสนุกสนานบริหารได้ balance คุณ นพคุณ  ยังเอี่ยม  กรรมการ  สอ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด  น่าชื่นชมยิ่ง

สุพจน์  แสงวิริยภาพ  กรรมการและผู้จัดการ   สอ.มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จำกัด มาดผู้นำ มาดนักธุรกิจบัณฑิตย์  สุขุม เรียนรู้ ดูงานด้วยความตั้งใจ 

หล่อ สุภาพ เรียบร้อยต้องคุณ  ชนุดม  ศิริบุรม ประธาน  สหกรณ์โคนมปากช่อง  จำกัด  ปรับตัวเข้าได้ทุกสถานการณ์

เพื่อให้การนำเสนอโครงการของทุกท่าน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ จึงขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่าน เตรียมพร้อมเกี่ยวกับโครงการที่ต้องนำเสนอ ตามกำหนดการดังต่อไปนี้ 

•  26-27 กันยายน 2551    สัปดาห์สุดท้ายของการส่งโครงการ (ฉบับร่างตามแบบฟอร์มที่กำหนด)
• 28 กันยายน- 2 ตุลาคม 2551  อาจารย์ที่ปรึกษา ตรวจร่างโครงการ
• 3-4 ตุลาคม 2551      คืนร่างโครงการ ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา

เรียน ท่าน ผนส.ที่รักทุกท่าน

ท่าน ผอ.วิทย์ มีความเป็นห่วงเรื่องโครงการ จึงฝากมาเรียนว่า ขอให้ทุกท่านได้มีเวลาได้เตรียมการแต่เนิ่น ๆ และเน้นให้เป็นโครงการที่เป็นไปได้ ไม่ใหญ่โต หรือเพ้อฝันจนเกินไป ทำได้จริงและเกิดผลดีกับสหกรณ์ ส่วนรายละเอียดไม่จำเป็นต้องเขียนมากมาย ขอให้กระชับ ชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องสวยหรู เพราะบางโครงการเขียนไว้สวยหรู แต่นำไปปฏิบัติจริงไม่ได้ ก็เปล่าประโยชน์

วันที่ 26 กันายน 2551 ทุกท่านต้องส่งโครงการ หรือโครงร่าง เน้นทุกคนนะครับ

กติกาการนำเสนอคร่าว ๆ คนละ 18 นาที (6 ชั่วโมง = 720 นาที จำนวน 40 คน)

1. ทุกคนจะมีเวลานำเสนอคนละ 10 นาที เน้นต้องตรงเวลาที่กำหนด

ดังนั้น ทุกคนต้องทำการบ้านและเตรียม Power Point ก่อนนำเสนอ

2. การซักถามและให้ข้อเสนอแนะ 8 นาที

เมื่อได้โครงการครบทุกคน สถาบันฯ จะกำหนดวัน เวลาในการนำเสนอแต่ละท่านต่อไป

(ต่อจากบันทึกข้างต้น)

•  26-27 กันยายน 2551    สัปดาห์สุดท้ายของการส่งโครงการ (ฉบับร่างตามแบบฟอร์มที่กำหนด)
• 28 กันยายน- 2 ตุลาคม 2551  อาจารย์ที่ปรึกษา ตรวจร่างโครงการ
• 3-4 ตุลาคม 2551   คืนร่างโครงการ ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา
• 5-11 ตุลาคม 2551  ผู้เข้าร่วมสัมมนา ปรับปรุง โครงการ และทำ presentation
• 12-15 ตุลาคม 2551    ทบทวนโครงการ และเตรียมนำโครงการ
• 17- 18 ตุลาคม 2551     นำเสนอโครงงานพัฒนาสหกรณ์รายบุคคล
• 19 ตุลาคม 2551    กิจกรรมคำมั่นสัญญา และปิดโครงการ

สำหรับรายงานกลุ่มเกี่ยวกับการศึกษาดูงาน  ขอให้เป็นไปตามที่คุยกันไว้ คือ แบ่งกลุ่มทำรายงาน  ประเด็นที่ต้องอธิบายคือ

1. จากการศึกษาดูงานในองค์การ(ชื่อองค์การ)...............................ทางกลุ่ม ได้พบเห็นสิ่งที่น่าประทับใจ ในการบริหารจัดการองค์การ  เช่น ด้านการบริหารจัดการองค์การ   การจัดการเชิงกลยุทธ์  การบริหารทรัพยากรมนุษย์  การบริหารโครงการ  การบริหารจัดการด้านการเงิน ฯลฯ เป็นต้น มีอะไร น่าประทับใจ โปรดอธิบาย ยกตัวอย่างประกอบ
2. จากข้อ 1. หากจะให้องค์การนั้น สามารถดำเนินกิจการไปได้ด้วยดี  ทางกลุ่มของท่าน มีข้อเสนอแนะเชิงสร้างสรรค์อย่างไร โปรดอธิบายให้เป็นรูปธรรม
3. จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ ท่านได้พบเห็นอะไร หรือใคร ที่ทางกลุ่มประทับใจที่สุด (ฝึกการมอง การคิดแบบผู้นำชั้นสูงในศตวรรษที่ 21) ขอได้โปรดใช้องค์ความรู้ที่เรียนมา วิชาใดก็ได้มาประกอบการอธิบาย จะดียิ่ง 

สำหรับรายงานการไปศึกษาดูงาน ทำเป็น paper กลุ่ม กำหนดส่งที่เราตกลงกันไว้คือ ภายในวันที่ 27 กันยายน 51 ครับ  รายงานของทุกกลุ่ม จะรวบรวมเข้าเป็นเล่ม ถือว่าเป็นผลงานของรุ่นของท่าน ขอให้ทำให้ดีที่สุด และจะได้หารือ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร เพื่อพิจารณาเรื่องการเผยแพร่ และการเก็บไว้ศึกษาในห้องสมุดของสถาบันพิทยาลงกรณ์ สันนิบาตสหกรณ์ แห่งประเทศไทย ต่อไป

ขอให้ทุกท่านโชคดี สวัสดี

เรียน ท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.2 ทุกท่าน

มาตามสัญญา ท่านที่สนใจทัวร์หลวงพระบาง และได้มอบหมายให้คนเจียงฮายมาหาข้อมูลให้ โดยเฉพาะท่าน ผอ.อดิศักดิ์ ท่านเน้นเหลือเกินว่าวิรัตน์ ต้องหามาให้ได้ในวันที่ 26 กย. ต้องได้รายละเอียดมานำเสนอ ผนส.เผื่อใครสนใจก็จะได้ร่วมกันตัดสินใจ

ตอนนี้ ในเบื้องต้นได้พบข้อมูลแล้วครับท่าน ให้ท่านผู้สนใจค้นหาโดย Google แล้วพิมพ์คำว่า ทัวร์หลวงพระบาง ลงไปในช่องแล้วค้นหาโดย Google ท่านก็เลือกโปรแกรม ทัวร์หลวงพระบางตามใจชอบได้เลยครับ

เรียน คุณวิจิตร จโรจร

          คุณวิจิตร ครับ ผมขอเสนอกิจกรรมวันปิดโครงการวันที่ 19 ตุลาคม 2551 ภาคค่ำ ขอให้เตรียมรางวัลให้ด้วยเพื่อความสนุกสนานครับ จะเป็นการแต่งตัวแฟนซีหรือแต่งตัวอะไรก็ได้ให้เป็นแบบเดียวกัน เช่นชุด Cowboy และ Cowgril ครับ หรืออะไรก็ได้แล้วแต่คณะทำงานกำหนดครับ  ขอบคุณครับ

          ขอแสดงความนับถือ

          ผนส.2

ขออภัยช่างเทคนิค กู้ข้อมูลอย่างไร ?ทำมาทั้งคืนถึงเวลาบันทึก ข้อมูลหายหมด ช่วยบอกที...รมย์เสียหมด

เรียน ท่านอาจารย์จีระ คณะผู้บริหารโครงการ ผนส ทุกท่าน

เป็นอย่างไรบ้างกลับถึงบ้านกันครบทุกคนนะจ๊ะ (เผื่อจะมีคนหลงทาง)ช่วงนี้งานยุ่งมากเพราะเตรียมจะประชุมใหญ่ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ บุญครองชีพ หนุ่มเจ้าสำราญสบายดีนะ คนเชียงฮายอย่าลื่มของฝากที่บอกว่าจะเอามาให้ในวันที่ 26 นี้และอย่าลืมการบ้านที่ท่านอาจารย์ให้ด้วยนะคุณสุพจน์ คุณอนนท์ ชนุดม และวิรัตน์ อีกอย่างในวันที่ 26 คงจะไม่เครียดแล้วเพราะตอนเดินทางกลับได้นั่งรถมากับอาจารย์จีระแล้ว

คิดถึงพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคน

เรียน ท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.2 ทุกท่าน

บทนี้ ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องไปศึกษาดูงานทื่จันทร์บุรีนะครับ จุดแรกดูงานที่ สกก.เมืองขลุง ประทับใจการต้อนรับเป็นอย่างดี และการให้เกียรติกับคณะของ ผนส.ทุกท่านคนเราอะไรก็ดีหากไม่ให้เกียรติกันแล้วคงหาความประทับใจยาก แต่ที่นี่เขาให้เกียรติกับคณะ ผนส.มาก แต่เสียอย่างเดียวเสียสมาธิในการรับฟังเนื่องจากข้างหลังเสียงดังมาก

ข้อคิดจากการดูงาน สกก.ขลุง จากการวิเคราะห์งบการเงิน บางรายการเช่น น้ำมัน รวมอยู่กับธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ซึ่งโดยรวมมีกำไรน้อยมาก หากแยกงบเฉพาะธุรกิจน้ำมันออกมาอย่างเดียวคงมีผลขาดทุน

ข้อสังเกตุ - มีการลดราคาน้ำมันทุกวันอังคาร .30-.40 บาท/ลิตร เพื่อสร้างจะดขายและแข่งขันการตลาดกับ ปตท. น่าจะเป็นข้อดีถ้าหาก ท่านลดราคาให้เฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกเท่านั้น แต่เป็นข้อเสียอย่างใหญ่หลวงหากลดราคาให้ทุกคนรวมบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิกของสหกรณ์ (เพราะสกก.ต้องนำกำไรจากธุรกิจอื่น เช่นสินเชื่อ ซึ่งได้กำไรมาจากสมาชิกที่เสียดอกเบี้ย ต้องนำกำไรส่วนนี้มาถั๋วเฉลี่ยให้กับการขาดทุนจากการลดราคาให้กับบุคคลทั่วไป) "ขอคัดค้านครับ" ระบบตรวจสอบภายใน(ผู้ตรวจสอบกิจการอ่อนข้อไปนิด) สังเกตุจาก จำนวนสินค้าขาดบัญชี มีมากเกินไป (เสียหายมากควรปรับปรุงเป็นอย่างยิ่ง

ดูงานตลาดค้าชายแดน ใครอยากดึงบ่อนเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็ตาม แต่ผมว่าลองนึกดูให้ดี ว่าพวกเขาเหล่านั้น น่าสงสารนะครับ วัน ๆ ไม่ทำอะไรมั่วแต่ในบ่อน แล้วคิดหรือว่าจะได้เงินกลับบ้านทุกวันอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ ขนาดบ่อนอยู่นอกประเทศ ยังมีความกระสันไปเล่นกัน (แต่ขอให้เป็นส่วนน้อยก็แล้วกัน) หากมีบ่อนได้ในประเทศไทยคงแย่ สังคมไทยจะเป็นอย่างไร หากบ่อนอยู่ในประเทศและทุก ๆ จังหวัดก็มีบ่อน สังคมไทยคงไม่น่าอยู่ เพราะคนไทยเล่นเสียแล้วไม่รู้หาเงินที่ไหนไปเล่นอีก ก็หาทางโดยการปล้น จี้ เพื่อให้มีเงินไปเล่น ต่างจากต่างประเทศเขา ทำธุรกิจมีเงินก็ไปเล่นผ่อนคลาย ปัญหาสังคม ปัญหาครอบครัวคงตามมาให้แก้ไขกันไม่รู้จะสิ้นสุด ผมว่าอย่าไปเสียดายเงินที่พวกเขาขนไปเล่นที่นั่นเลย เพื่อแลกเปลี่ยนกับสังคมไทยวัฒนธรรมไทยที่บรรพชนได้สร้างเอาไว้ "อย่าลืมว่าได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง" คิดเอาว่าอย่างไหนคุ้มค่ากว่ากัน

ท่านอาจารย์ทุกท่าน เจ้าหน้าที่ ผนส 2

การไปดูงานที่จันทรบุรี ทุกท่านคงได้นำสิ่งที่พบเห็นนำไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงานของท่านให้ได้รับประโยชน์ ส่วนที่พวกเราได้รับกันมากขึ้นคือการรู้จักกันมากขึ้น เห็นความเป็นผู้นำที่มีอยู่ในตัวเพื่อนๆ มีความสนิทสนมกันมากขึ้น ความเป็นกันเอง ช่วยเหลือเอื้ออาทรต่อกันซึ่งคงเป็นกลุ่มที่จะเชื่อมโยงประสานการทำงานในกลุ่มสหกรณ์ต่างๆดังวัตถุประสงค์ของดร.จีระและสันนิบาตได้เป็นอย่างดี ผมจึงเห็นด้วยที่พี่นพคุณยังคงให้ใช้ blog ต่อไปและเชื่อมกับรุ่น 1 และ รุ่นต่อๆไป การดูงานครั้งนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่สันนิบาตทุกคนที่ช่วยดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ขอขอบคุณพี่ขจรที่เป็นเจ้าภาพต้อนรับอย่างอบอุ่น(ไม่เชื่อถามพี่วัฒนา) และดีใจกันทุกคนที่ ดร.จีระ ประธานสันนิบาต อ.ยม ผอ.วิทย์ ให้ความเป็นกันเองร่วมร้องเพลง รำวงอย่างสนุกสนาน(พี่ประจวบหายเครียดหน่อย)และ อ.ยม ได้เก็บข้อมูลบุคลิกภาพของทุกคนดังที่อยู่ใน blog แล้ว(สุดยอดข้อมูลเลย)และดีใจกันอีกวันสุดท้าย อ.ยม ถอดสายเอี้ยม(แอบปลื้มกันสุดๆ)

ผมยังเสียดายที่ไม่ได้ดูงานจนจบเพราะว่ามีงานรอที่จุฬาฯมากยังคิดว่าเราทำงานหลายจ๊อบอาจทำให้งานของเราไม่สมบรูณ์ก็ได้(แต่ตอนนี้มีหลายตำแหน่งก็ต้องทำที่ดีที่สุดผมอาจโชคดีที่ภรรยาเข้าใจ) ฉะนั้นใครที่พอมีเวลาก็สุรปลง blog ให้เพื่อนๆได้อ่านต่อไปด้วยนะครับ

เรียน ท่าน ผนส. ทุกท่าน

ตามที่มีผู้เสนอแนะว่าควรมีกิจกรรมพิเศษในวันปิดโครงการ โดยให้แต่งตัวแบบ COWBOY / COWGIRL และมีรางวัลมอบให้สำหรับผู้ที่แต่งตัวเท่ที่สุดในงาน ก็เป็นแนวคิดที่ดีครับ แต่กำหนดการพิธีปิดโครงการในวันที่ 19 ต.ค. 51 นั้น จะเสร็จสิ้นในตอนเที่ยง แล้วก็เลี้ยงแสดงความยินดีกับ ผนส. รุ่น 2 ทุกคน ดังนั้น ถ้าขยับเวลางานเลี้ยงมาอยู่ที่เย็นวันที่ 18 ต.ค. 51 ก็คงทำได้ เพียงแต่เวลาตกแต่งสถานที่ การแต่งตัวหลังการนำเสนอโครงการคนสุดท้ายไม่รู้จบกี่โมง แต่คงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกท่าน ในการร่วมด้วยช่วยกัน แต่งเวที สถานที่ แบบตะวันตก มีวัวหันสักตัว ดนตรีโฟล์คซองแบบคันทรีมาบรรเลง จัดอาหารเป็นซุ้ม ๆ ก็น่าจะสนุกไปอีกแบบ ก็ลองเข้ามาแชร์ไอเดียได้นะครับ เผื่อใครจะมีอะไรเสนอแนะ ทางเรามีความยินดีที่จะสร้างสรรค์อยู่แล้ว ขอให้ท่านมีความสุข พวกเรา สถาบันพิทยาลงกรณ ก็พร้อมที่จะทำครับกระผม....

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์และเพื่อนรุ่น 2 ทุกคน

นุชต้องขอโทษเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยที่ไม่ได้ไปดูงานของ สกก.จันบุรี ขอโทษพี่ขจรด้วยนะค่ะ สกก.พี่ขจรเจ๋งอยู่แล้ว แต่นุชดูรายงานของพี่ขจรแล้วนะค่ะ การดูงานภายในประเทศได้อะไรมากมาย โดยเฉพาะการนั่งรถคันเดียวกันทั้งหมด ทำให้มิตรภาพของเราทุกคนแน่นแฟ้นขึ้น รู้จักตัวตนของทุกคน นี่แหละคือสิ่งสำคัญที่เราได้จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ เพราะการวิจารณ์+วิเคราะห์ทุกคนเก่ง ๆ ทั้งนั้น ไม่ต้องบอกก็ทราบว่าเป็นอย่างไร ?

แต่สิ่งหนึ่งที่นุชอยากให้พี่ ๆ รุ่น 2 ทุกคน ( โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ ) ตระหนักในปรัชญาสหกรณ์ข้อหนึ่ง “ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ” โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตร มีอีกมากที่ยังต้องการเรื่องเงินทุน ฯลฯ หากเราช่วยกันได้เองไม่ต้องพึ่งธนาคารจะเป็นการดีมาก ๆ

เราสหกรณ์โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรทุกคนต้องพยายาม อย่าเพิ่งท้อนะค่ะ คือ ต้องวางนโยบายสหกรณ์ไว้ ต้องวางแผนพัฒนาสหกรณ์ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง เช่น สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด มีแผนพัฒนาระยะยาวย่อ ๆ ( แผนฯ 1 ปี 2529 / แผนฯ 2 ปี 2540-50 / แผนฯ 3 ปี 2551-55 ) เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ ณ จุดหนึ่ง มาถึงปัจจุบัน เพราะเราผู้นำต้อง “ เก่งงาน เก่งคิด และเก่งใจ ” ขอจบก่อนน่ะค่ะ รักทุกคนค่ะ...

เรียนอาจารย์จีระ และสวัสดีเพื่อนๆ ผนส. รุ่น 2 ทุกท่านครับ

       หลังกลับจากการไปศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรที่จังหวัดจันทบุรีมาแล้ว กะว่าจะรีบเขียนลงบล็อก ปรากฎว่า ไวรัสเล่นงานคอมพิวเตอร์ เลยต้องเอา คอมฯไปซ่อมอยู่หลายวัน การบ้านที่ อ.ยมมอบหมาย เลยอาจช้าไปหน่อยนะครับ คงไม่ว่ากัน

       1.บริษัทพาราวู้ด ถึงแม้จะเป็นบริษัทเล็กๆๆ แต่เค้าก็มี จุดแข็งเยอะเหมือนกันครับ อาทิ

      1.มีเครือข่ายในการทำธุรกิจ

      2.มี Item ให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้มากมาย

      3.ใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า

      4.ให้สวัสดิการพนักงานดี

แต่จุดอ่อนก็มีนะครับ

คือพนักงานไม่ตระหนักในการป้องกันตนเอง เช่น

1. เสียงดังเกินไปในส่วนที่มีเครื่องจักรทำงานเกิน 90 เดซิเบล พนักงานไม่ใส่ EAR PLUG

2. ฝุ่นจากการไสไม้ พนักงานไม่มี หน้ากากป้องกันฝุ่น DUST MASK

ซึ่งแนวโน้วต่อไปในอนาคต พนักงานจะป่วยเป็นโรคจากการประกอบอาชีพ เช่น หูตึง โรคปอด เป็นต้น ตรงนี้คนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญ

ส่วนที่ สหกรณ์การเกษตรขลุง และสหกรณ์การเกษตรจันทบุรี

ก็ดูดีนะครับ มีคณะกรรมการบริหารงานสหกรณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

ซึ่งดูได้จาก รางวัลต่างๆที่ได้รับครับ เพียบเลย...

คำรน  ศรีวงค์ษา

เรียน    อาจารย์  และสวัสดีเพื่อน  ๆ  ทุกคน

                 เห็นด้วยกับความคิดของพี่นุชนะค่ะ สหกรณ์การเกษตร มีปัญหาและอุปสรรค  หลายด้าน ด้วยกัน ที่เห็นชัดเจนก็คือในเรื่องของการขาดแคลนเงินทุนในการดำเนินงาน  จะต้องอาศัยเงินทุนจาก ธ.ก.ส. จากเงินรับฝาก  และจากหุ้นของสมาชิก  ซึ่งแต่ละแหล่งเงินทุน  ก็มีต้นทุนที่แตกต่างกันไป  ผู้บริหารสหกรณ์ควรศึกษาให้ดี ๆ โดยเฉพาะสหกรณ์ที่ยังใช้เงินกู้จาก ธ.ก.ส.อยู่  เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ประมาณ  5  บาท  จึงเป็นแหล่งเงินทุนที่ค่อนข้างสูง  เมื่อเปรียบเทียบกับเงินรับฝาก  และเงินปันผลให้กับสมาชิก  ดังนั้น ถ้าหากสหกรณ์ใดมีปัญหาขาดแคลนเงินทุน  และสหกรณ์ใดที่มีคนล้นระบบ  น่าจะจับมือกันให้ได้  เราชาวสหกรณ์ก็จะได้รับผลดังนี้

                1.ผู้ฝากได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์  

ทำให้สหกรณ์มีรายได้เพิ่มขึ้น

                2.ผู้รับฝาก นำเงินนำไปบริหารจัดการ โดยมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายดอกเบี้ยเงินรับฝากที่ต่ำกว่า จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับ ธ.ก.ส.จึงมีต้นทุนที่ต่ำ  ทำให้สหกรณ์มีค่าใช้จ่ายที่ลดลง

                3.เราชาวสหกรณ์ ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

happy  ด้วยกันทุกฝ่าย

เรียนอาจารย์ทุกท่าน

จากการไปศึกษาดูงานภาคตะวันออก ชลบุรี จันทบุรี 2 คืน 3 วันเป็นการสร้างสมประสบการณ์มากขึ้นที่แรก บ.พาราวู้ดดีไซต์ อินดัสทรีส์ จก. ทุกคนคงมีความคิดและมีความรู้สึกหมือน ๆ กัน เกียวกับการบริหารจัดการแบบครอบครัว สร้างความรักความผูกพันกันในองค์กร มีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีเป้าหมายของความสำเร็จอยู่ที่ผลงานเหมือนกันทำให้การทำงานกันแบบสบายๆ

เรื่องสุขอนามัยก็เช่นกัน ขาดความสะอาด ฝุ่นมากเกินไปและขาดการป้องกันที่ดีคิดว่าอีกไม่นานถ้ายังไม่มีการป้องกันที่ดีกว่านี้พนักงานคงจะเป็นโลกทางเดินหายใจกันทุกคน อีกอย่างหนึ่งที่มองเห็น คือการจัดการกับภูมิทัศน์ไม่มีการจัดการภูมิทัศน์ให้สวยงามผู้พบเห็นไม่ประทับใจกับสถานที่อาจจะเป็นเพราะนโยบายประหยัดของบริษัทหรือเปล่าไม่ทราบ แต่คิดว่าประหยัดมากเกินไป สำหรับอีก 2 สหกรณ์ค่อยนำเสนอต่อไป แต่ที่อยากพูกอีกอย่างก็คือ ขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน และเพื่อนที่เดินทางกลับก่อนอย่างท่านปลัดจรูญ และอาจารย์สงกรานต์ไม่ได้ร่วมในงานเลี้ยงในค่ำคืนนั้นเพราะท่านไม่ได้เห็นอาจารย์อย่างอาจารย์ยมตะบะแตก และบุคลิกท่าทางที่สนุกสนานอย่างผ่อนคลายของสุดยอดอาจารย์อย่างอาจารย์จีระ

ขอบคุณเพื่อนๆ ผนส2. ที่ทำให้มีวันนั้น ที่ สำคัญที่สุดคือท่านผู้จัดการ สจ.ขจร วรวาท แห่งสหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี สุดยอดมากๆ เลยท่าน พร้อมทั้งขอบคุณอาจารย์วิจิตร คุณปุย คุณปุ้ย คุณณรงค์ และที่ขาดไม่ได้คือคุณภูมินทร์ทำหน้าที่ไม่บกพร่องเหมือนเดิม สุดท้ายของคุณเจ้าหน้าที่สันนิบาตสหกรณ์ทุกคน

ขอบคุณครับ

เรียนอาจารย์จิระ

         หลังจากการไปดูงานที่ จ.จันทบุรีแล้วพอจะสรุปได้ดังนี้

   1. บ.พาราวู้ด ก็จะได้เห็นความสามารถในการบริหารจัดการเพื่อความอยู่รอดขององค์กร  และเพื่อนร่วมงานในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ

    2. สกก.เมืองขลุง จก. มีการทำธุรกิจหลายด้านด้วยกัน  เงินกู้  จัดสินค้ามาจำหน่าย  รวบรวมผลผลิต  รับฝากเงิน  ก็สามารถทำได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกในภาคเกษตรถือว่าเป็นธุรกิจที่ทำได้ยากมาก  และมีอุปสรรคทั้งคุณภาพผลผลิต ราคา  แต่สก.ก็ทำได้ดีมาก  และธุรกิจจัดสินค้ามาจำหน่ายอาจจะดูแล้วไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุนแต่จะมองในรูปของการบริการให้แก่สมาชิกแม้นว่าการลดราคาน้ำมันจะทำให้สก.ได้กำไรน้อยเรามองในหลักเอื้อต่อชุมชนซึ่งถ้าเป็นในรูปพ่อค้าจะได้มองในจุดนี้และคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชนใน จ. จันทบุรี

     3. กลุ่มสตรีทอเสื่อ ก็จะเห็นถึงความสามัคคี  และการได้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านให้เกิดมูลค่าเพิ่ม  สามารถสร้างรายได้ให้แก่สามาชิก

     4. สกก.เมืองจันทบุรี จก.  ทำธุรกิจแบบเดียวกับสกก.เมืองขลุง  แต่สกก.เมืองจันทเดินต่อไปอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งสามารถส่งออกมังคุดได้แม้ต้องอาศัยพ่อค้าคนกลาง  แต่ประสบการณ์อีกไม่นานคิดว่าสกก.จะสามารถส่งออกได้ด้วยตัวของตัวเองถือว่ายอดเยี่ยมมาก  แต่ยังมีห้องเย็นที่สกก. ได้รับงบประมาณและเป็นทุนของสกก.เองที่ยังใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่าลงทุน  ซึ่งจะเป็นปัญหาหลักของสกก. ตอนเริ่มสร้างก็ยังเห็นความจำเป็น  และสำคัญ  แต่พอระยะเวลาผ่านไปเทคโนโลยีและปัจจัยอื่นๆ  ทำอุปกรณ์เหล่านี้ใช้ประโยชน์ได้น้อยลง

      หลังจากดูงานที่สก.เกษตร แล้วเพื่อนๆ สก.ออมทรัพย์คงจะเข้าใจสก.เกษตรมากขึ้น ว่าจะต้องทำงานสองส่วนไปพร้อมๆ กันทั้งด้านการทำกำไรให้องค์กร  และพร้อมกันต้องดูแลการทำอาชีพและรายได้ของสมาชิกให้อยู่ดีกินดี

รายงานกลุ่มเกี่ยวกับการศึกษาดูงานในประเทศ

สำหรับการศึกษาอบรมหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง รุ่น 2

ระหว่างวันที่ 10 – 12 กันยายน 2551

ณ จังหวัดชลบุรี และจันทบุรี

...................

จากการศึกษาดูงาน บริษัท พาราวู้ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านและสำนักงานด้วยไม้ยางพาราซึ่งนำมาจากทางภาคใต้ของประเทศไทย เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายตามแบบที่โรงงานออกแบบเองและผลิตตามแบบที่ลูกค้ากำหนด จำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ ทางกลุ่มได้พบว่า

- ด้านการบริหารจัดการองค์การ เป็นการร่วมทุนระหว่างบุคคลในครอบครัว แบ่งการบริหารกันเองระหว่างพี่-น้องและครอบครัว การจัดองค์กรไม่ยุ่งยากซับซ้อน

- การจัดการเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาในการถูกลอกเลียนแบบและช่องทางในการจำหน่ายที่ค่อนข้างจำกัด บริษัทจึงหลีกเลี่ยงที่จะผลิตจำนวนมากๆ โดยจะผลิตเพียงพอจำหน่ายโดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งในคุณภาพและรูปลักษณ์ของชิ้นงาน และการจำหน่ายจะเป็นลักษณะขายขาดไม่รับเปลี่ยนคืน สถานที่จำหน่ายจะเป็นโชว์รูมในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ หรือห้างขายสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ สำหรับคู่แข่งที่น่ากลัวผู้บริหารของบริษัทมองไปที่ประเทศจีน ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่า

- การบริหารด้านการเงิน บริษัทไม่มีปัญหาในเรื่องของเงินทุน เพราะบริษัทเน้นการผลิตแบบพอเพียง ประกอบกับครอบครัวที่เป็นเจ้าของทุนมีความมั่นคง มีการวางแผนการผลิตที่ดี

- การบริหารโครงการ ผู้จัดการบริษัทเป็นผู้มีความสามารถในหลายด้าน ทั้งด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ออกแบบเครื่องจักรเครื่องมือในการผลิต การดัดแปลงวัสดุเหลือใช้ให้เป็นสินค้าและสามารควบคุมการผลิตได้ด้วยตนเอง

- การบริหารทรัพยากรมนุษย์ เนื่องจากบริษัทพาราวู้ด เป็นโรงงานขนาดกลางมีบุคลากรที่ร่วมงาน 90 กว่าคน และมีความแตกต่างกันทางด้านการนับถือศาสนา แต่บริษัทก็สามารถหาแนวทางในการบริหารจัดการบุคลากรได้อย่างลงตัวโดยไม่ทำให้บริษัทและผู้ร่วมงานเกิดความเดือนร้อน นอกจากนี้บริษัทยังมีสวัสดิการต่างๆ ให้กับพนักงาน มีการส่งเสริมการออมและการลดละเลิกอบายมุข ในช่วงออกพรรษา เช่น โครงการซดเหล้าเข้าพรรษา เพียง 3 เดือน แต่อีก 9 เดือนที่เหลืองดบริโภค มีโครงการปลดหนี้ให้กับพนักงาน และที่น่าสนจนคือ แบ่งความรับผิดชอบระหว่างพนักงานในทุกส่วนงานโดยให้ดูแลและควบคุมกันเอง มีการเฝ้าดูพฤติกรรมของพนักงาน เมื่อพบปัญหาจะแก้ไขทันที

- ในส่วนของอาชีวะอนามัยในสถานประกอบการ ควรต้องมีการปรับปรุง เพราะในโรงงานเต็มไปด้วยมลภาวะทั้งฝุ่นจากขี้กบขี้เลื่อย กลิ่นจากสีและน้ำมันรักษาเนื้อไม้ เสียงที่ดังมากของเครื่องจักร นอกจากนี้แสงสว่างยังไม่เพียงพอ ตลอดทั้งอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุต่างๆไม่เพียงพอ

- ขอแนะนำให้ผู้บริหารของ บริษัทพาราวู้ด ให้ความสำคัญเกี่ยวกับอาชีวะอนามัยของผู้ร่วมงาน และควรปรับปรุงทางเข้าออกให้น่าดูขึ้น

.........................

....ขอฝากข้อมูลเหล่านี้ให้อาจารย์อธิรัตน์ ประธานกลุ่ม 3 และสมาชิกกลุ่มเพื่อพิจารณาต่อไป จาก กฤษณะ อัมพวานนท์

สวัสดีค่ะ  เพื่อน ๆ 

            เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ  ทำงานกลุ่มกันเสร็จหรือยังค่ะ อย่ามัวแต่ทำงานกลุ่มอย่างเดียวนะ  โครงร่างของแต่ละคนด้วย  กำลังเตือนสติตัวเองด้วยเหมือนกัน   รู้นะว่าบางคนกำลังหาโครงการใหม่อยู่เพราะมีข้อมูลมากมายจากการไปดูงาน ทำให้หลายคนเปลี่ยนใจ  เปลี่ยนชื่อโครงการกันหลายคนแน่นอน  

            แน่ใจว่าทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับหน้าที่การงานของตนเอง  ขอเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ  คน  ในความพยายาม  ด้วยธรรมะของหลวงพ่อปัญญา นะค่ะ

           หน้านอกบอกความงาม        หน้าในบอกความดี

           หน้าที่บอกความสามารถ      หน้านอก.....แต่งให้พอดี

           หน้าในและหน้าที่....แต่งให้มาก  ๆ

สวัสดีค่ะ อาจารย์ และเพื่อน  ๆ

             วันนี้ มีโอกาสดี ได้ไปบำเพ็ญประโยชน์โดยสหกรณ์ได้ไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียน มีนักเรียนชั้น ป.1-ป.6 ประมาณ 100 คน  จึงมีโอกาสได้เผยแพร่ความรู้เรื่องสหกรณ์เบื้องต้นให้กับเด็ก  ๆ  ควบคู่กับการเล่นเกมส์ และแจกของรางวัลให้กับเด็กเล็ก ๆ  น้อย 

             ได้สังเกตเห็นเด็กหลายคนนั่งมองของที่เราให้อย่างชื่นชม  บางคนนั่งหอมตุ๊กตาตัวเล็ก  ๆ ที่เราให้ มันบ่งบอกถึงช่องว่างอะไรบางอย่าง

            เด็กหลายสิบคนใส่เสื้อโรงเรียนที่หน้าอกปักตัวอักษาไม่เหมือนกัน  เพื่อน ๆ  ลองทายซิค่ะว่าเพราะอะไร

            ห้องประชุมกับห้องอาหาร ใช้สถานที่เดียวกัน วันนี้ใช้ห้องอาหารเป็นห้องประชุม น้อง ๆ  จึงตั้งไปนั่งกินข้าวกับพื้นตามใต้ต้นไม้

            เด็กบางคน เมื่อเราเดินผ่าน จะเข้ามากอด บางคนไม่กล้า  ก็จะเอามือมาลูบแขนเราบ้าง  เข้ามาใกล้ ๆ  มาจับแขนเราบ้าง  ทำให้เกิดความรู้สึกดีมาก ๆ

            (โรงเรียนวัดหนองเพรางาย  อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี)

ผนส 2ทุกท่าน

อ่าน blog วันนี้จึงรู้ว่าเป็นประธานกลุ่ม 3 เพราะว่าตอนแบ่งกลุ่มไม่ได้เข้าเรียน ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อยจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ไม่กลัวที่จะต้องดำเนินการพูดหรือนำเสนอแต่เกรงว่าจะดำเนินการไม่ถูกขั้นตอนของการนำเสนอ (พี่ต้อยช่วยให้ความสว่างด้วยครับ)จะทำให้กลุ่มเสียหาย จากการดูงานกลับมาผมเองยังไม่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องหัวข้อโครงการเลย(ยังเสียวใส้ว่าจะส่งโครงร่างไม่ทัน) ตามที่บอกไปแล้วว่านั่งทำงานในหลายตำแหน่งแล้วอาจจะไม่สมบรณ์สักอย่าง แต่เมื่อตัดสินใจทำแล้วต้องทำให้ดีที่สุด(มาดผู้นำออก) การส่งหัวข้อก็เป็นห่วงตัวเองอยู่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เวลาที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนสมองยังไม่แล่น(ยังไม่ถึงวันสุดท้าย)พอดีตัวเองจะต้องจัดกิจกรรมสัมมนาให้กับสมาชิกอยู่บ่อย ๆ เช่น 19 ก.ย.จะพาสมาชิกสหกรณ์จุฬาฯที่เป็นเลขานุการหน่วยงานในจุฬาไปสัมมนาเรื่องเกี่ยวกับสหกรณ์ การลงทุนกับสหกรณ์ จัดกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ให้ด้วย เสาร์หน้าก็สัมมนาสมาชิก 250 คน อีก ก็เลยคิดว่าน่าจะทำโครงการส่งเสริมพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์อื่นๆให้ได้ความรู้เรื่องสหกรณ์ การบริหาร กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์จุฬาฯได้ตั้งงบประมาณในการจัดสัมมนาวิชาการในการให้ความรู้แก่กรรมการ(กรรมการเปลี่ยนอยู่บ่อย ๆ)เจ้าหน้าที่ โดยให้สหกรณ์ที่ทุนทรัพย์น้อยเข้าอบรมฟรีมีค่าเดินทางด้วยเล็กน้อย ส่วนที่มีทุนบ้างช่วยค่าลงทะเบียน อ.ยมครับพอจะมีทางเป็นไปได้บ้างไหมครับ(ผมก็อยากจบหลักสูตรพร้อม ๆกับรุ่น 2 ฮา)

ผนส 2

ขออภัยที่อ่าน blog ไม่ครบหัวข้อสรุปการดูงาน ท่านอ.ยม ได้เขียนไว้ใน blog แล้ว ขอบคุณท่านอาจารย์มากครับ หลังจากนี้กลุ่ม 3 จะให้ทำอะไรบอกต่อได้ยินดี(แต่อยู่ดูงานไม่ครบนะครับ)

สวัสดีครับ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร ผู้นำสหกรณ์ และผู้เข้าร่วมสัมมนา ทุกท่าน

คุณอธิรัตน์ ถามผมมาว่า "อ.ยมครับพอจะมีทางเป็นไปได้บ้างไหมครับ"  กว้างมากเลย  ผมยังนึกถึง โครงการประกวดพ่อพันธุ์หมู ที่เราคุยกันบนรถอยู่เลย  ถ้าโครงการประกวดพ่อพันธุ์หมูนี่ อธิรัตน์ ทำได้อยู่แล้ว สบายมาก

ส่วนเรื่อง โครงการ ผมได้แจ้งกำหนดการ คือ วางแผนอย่างกว้างๆ ให้พวกท่านไปแล้ว  หากวางแผนให้รัดกุม ตามกำหนดการที่ผมแนะนำไว้  ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร 

ตอนนี้ หากใครจะส่งชื่อโครงการอย่างเดียว นี่ ไม่ทันแล้ว  ต้องส่งมาเป็นรูปโครงการในแบบฟอร์มที่ให้ไว้ และสาระการทำโครงการ ต้องสอดคล้อง กับหลักการ วางแผนการบริหารโครงการ ตามหลักวิชาการ บูรณาการเข้ากับประสบการณ์ ครับ 

บางท่านหลังจากกลับมาจากศึกษาดูงาน ก็ส่งโครงการมาให้พิจารณาทางอีเมล์แล้ว ยังมีเวลา ครับ พยายามทำให้ได้ตามกำหนดการที่แนะนำให้ไว้ ผมเชื่อว่าจะดำเนินไปได้ด้วยดี

บางท่าน ส่งร่างโครงการมาให้ผมพิจารณาตั้งแต่ก่อนไปศึกษาดูงานก็มีหลายท่าน  เมื่อผมตรวจเสร็จ จะส่งคือให้ท่าน ไปศึกษาและทำต้นฉบับ เตรียมตัวมา Present ในวันและเวลาที่กำหนด

ส่วนรายงานกลุ่ม สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปศึกษาดูงาน  ผมได้แนะนำเจ้าหน้าที่ของพิทยาลงกรณ์ไปแล้ว ว่า ขอให้เข้ากลุ่มเพื่อน ๆ ท่านละกลุ่ม หมายความว่า หากไม่ได้ไปดูงาน สี่ท่าน ๆ ที่ไม่ได้ไป ควรกระจายไปหากลุ่มที่เขาไปกัน  แล้วนัดพบกันนอกรอบหรือจะใช้เทคโนโลยีฯ สื่อสารกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน  จัดการกันตามสะดวก  เพื่อท่านจะได้บริหารความรู้ ประสบการณ์ และสานความสัมพันธ์กันเองได้  ครับ   รายงานกลุ่มที่ส่งมา ขอให้ระบุชื่อสมาชิกกลุ่ม จัดทำเข้าเล่มให้เรียบร้อย เพื่อรายงานให้คณะกรรมการบริหารหลักสูตรพิจารณา ด้วย  และจะได้รวบรวมทุกกลุ่ม ทำเป็นรูปเล่ม และถือเป็นหนึ่งในผลงานของพวกท่าน ผู้สำสหกรณ์ รุ่น 2 สำหรับการเขียนบันทึกของพวกเราที่นำมาลงบล็อกนี้ ผมติดตามอ่านของทุกท่าน ซึ่งจะยังไม่ comment อะไร ในตอนนี้   ผมจะทยอยอ่านต่อไป ฝากแจ้งยังเพื่อน ๆ ที่ยังไม่ได้เขียนมา ด้วย ผมยังคงรอคอยบทความจากท่าน

ขอความสวัสดีจงมีแต่ทุกท่านครับ

เรียนอาจารย์อธิรัตน์

กลุ่ม 3 ได้รับมอบหมาย (จับฉลาก)ให้ทำรายงานสรุปการศึกษาดูงาน บริษัทพาราวู้ด ในรูปแบบเอกสาร ตามหัวข้อที่อารย์ยม กำหนด (ดูได้จาก Blog) กำหนดส่งวันที่ 26 กันยายน 51 ผมจึงได้ส่งข้อมูลซึ่งผมได้บันทึกและเรียบเรียงมาให้อาจารย์พิจารณา ตามความละเอียดแจ้งแล้วนั้น ไม่ทราบว่าสมาชิกกลุ่มติดต่อไปที่อาจารย์บ้างหรือเปล่า

ขอบคุณครับ

กฤษณะ อัมพวานนท์

เรียน ท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.ทุก ๆ ท่าน

วันก่อนได้แสดงความคิดเห็นลงไปในบล็อค จากการดูงานไป 2 แห่งก็ยังไม่ครบทั้งหมดเพราะจำกัดด้วยเวลาวันนี้ขอเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อย คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจการกินเพื่อสุขภาพนะครับ เพราะในวันที่ไปดูงานจันทร์บุรี ทั้งที่สกก.ขลุง และสกก.เมืองจันทร์บุรี ของท่าน สจ.ขจร จะสังเกตุได้ว่าทั้งสองแห่งมีอาหารพิเศษ(น้ำลูกสำรอง)ให้คณะผนส.ได้ทานกันถ้วนหน้า แต่ดูรายละเอียดประกอบอย่างไรก็ไม่เจอคุณสมบัติ ว่าดื่มน้ำสำรองแล้วจะได้อะไร คนเจียงฮายเลยอาสานำมาบอกกล่าวเป็นเกล็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับเพราะเห็นตอนกลับ รถแวะร้านของฝาก มีผนส.หลาย ๆ ท่านโดยเฉพาะ พี่สุพจน์ เห็นซื้อน้ำสำรองกระป๋องติดมือกลับบ้านมาเยอะเลย

ลูกสำรอง หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า พุงทลาย

เป็นอาหารที่ดับร้อนใน ได้เร็วกว่าสมุนไพรตัวอื่น อาหารแก้ร้อนใน หมายถึง อาหารอะไรที่กินเข้าไปแล้ว ดูดซับไขมันได้ จัดว่าเป็นอาหารแก้ร้อนใน ลูกสำรองเป็นตัวดูดไขมันที่หน้าท้อง จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พุงทลาย คือ พุงคนเราที่มีไขมันเกาะรอบ ๆ สะดือ แล้วมีไขมันรุ่นใหม่เข้ามาก็จะเกาะติดเพิ่มเข้าไปอีก การกินสำรอง จะไปช่วยดูดซับไขมัน อุ้มไขมัน เพื่อให้ขับถ่ายออกมา ถ้ากินตอนเช้าจะช่วยลดหน้าท้องได้

เวลาที่เหมาะแก่การกินลูกสำรอง

03.00 น. -ช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง

05.00 น. -ช่วยบำรุงลำใส้ใหญ่ให้บริหาร

07.00 น. -ช่วยรักษาและเคลือบกระเพาะอาหาร

09.00 น. -ช่วยให้ม้ามดูดซึมความชื้น ดูดซับไขมันในลำใส้และกระเพราะอาหาร กินเวลานี้ช่วยลดหน้าท้อง

บ่ายถึงเย็น -ช่วยบำรุงไตให้แข็งแรง และได้เพคตินไปสมานแผล

19.00 น. -กินคู่กับน้ำดอกคำฝอย ช่วยลดไขมันในเลือด

กินก่อนนอน -ช่วยให้ขับถ่ายในตอนเช้า

ท่านอาจารย์อดิศักดิ์ ท่านได้อ่านทัวร์หลวงพระบางหรือยังครับ ผมได้เสนอข้อมูลไปแล้วนะครับท่าน หรือว่ามัวแต่ไปร่วมงานประกวดพ่อพันธ์หมู อยู่ที่สหกรณ์ครูแพร่ อยู่คัรบ (ฮ่า ๆ)

ขอบคุณ สำหรับท่านสจ.ขจร นะครับที่ให้การต้อนรับและการให้ความสะดวกในการเดินทางไปดูงานทุก ๆ ที่ และท่านสร้างความประทับใจอย่างสุด ๆ สำหรับ ผนส.ทุกท่านที่ไปดูงานเลยทีเดียว ทั้งท่านวัฒนา ท่านบุญครองชีพ คุณจักรินทร์ คงประทับใจจันทร์บุรีไปอีกนานนะครับ(ฮ่า ๆ)

เรียน  ท่านอาจารย์

            การอบรมครั้งนี้มีการให้การศึกษาดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ  อาจมีเหตุผลหลาย ๆ ประการ ที่เพื่อน ๆ ได้มีการนำเสนอกันแล้วมากมาย  แต่มุมมองของตนเอง  สิ่งที่ได้จากการดูงานร่วมกัน  ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ผู้นำทั้ง 40 คน ได้มีโอกาสนั่งรถไปด้วยกัน  มีระยะเวลายาวนานหลายชั่วโมง เป็นกลยุทธอย่างหนึ่งที่ผู้จัด  เปิดโอกาสให้เราได้อยู่ด้วยกัน ในสถานที่ที่จำกัด จึงเกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้ประสบการณ์ เรียนรู้บทบาทหน้าที่  อย่างที่หลาย ๆ  คนก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่าเป็นอาจารย์ให้กับเพื่อน ๆ   หรือเราได้เรียนรู้และซึมซับความรู้สึกนึกคิดซึ่งกันและกัน อย่างไม่รู้ตัว และที่สำคัญเราอาจมีการพัฒนาต่อยอดความสัมพันธ์ไปถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายซึ่งกันและกันได้ในอนาคน ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ประเภทใดก็ตาม

เรียนท่านอาจารย์จีระ และสวัสดี ผนส.ทุกท่าน

การไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ทำให้ได้พบเห็นถึงความสามารถของชาวสหกรณ์ที่สามารถผลักดันให้สหกรณ์มีความก้าวหน้าจากการดำเนินกิจกรรม ในสหกรณ์การเกษตรทั้งสองแห่งที่เราได้ไปเยี่ยมชมกิจการก็มีการดำเนินธุรกิจที่สามารถเพิ่มคุณค่าของสินค้าเกษตรได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสหกรณ์การเกษตรแห่งอื่นๆที่ยังไม่ได้มีการเพิ่มมูลค่าของผลผลิตที่ตนเองมีอยู่ ก็จะทำให้สมาชิกของสหกรณ์การเกษตรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นและเป็นห่วงก็คือการที่สหกรณ์การเกษตรมีรายได้หลักจากดอกเบี้ยเงินกู้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสมาชิกยังมีรายได้จากการประกอบอาชีพที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพสหกรณ์ถือหลักของการช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญแต่การสร้างรายได้จากเงินกู้ของสมาชิกจึงยังคงไม่ใช่สิ่งที่ผู้บริหารควรจะพึงพอใจกับผลกำไรที่เกิดขึ้น

ผมคิดว่าสหกรณ์การเกษตรควรต้องหาแนวทางในการดำเนินการทำอย่างไรรายได้หลักของสหกรณ์จะมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสมาชิก ถ้าเมื่อใดก็ตามสหกรณ์การเกษตรมีสมาชิกที่กู้เงินจากสหกรณ์น้อยลง สมาชิกใช้บริการด้านซื้อขายกับสหกรณ์มากขึ้นสมาชิกมีรายได้จากการประกอบอาชีพอย่างพอเพียง สหกรณ์การเกษตรจึงจะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์

สวัสดีครับ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง  ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง และท่านผู้อ่านทุกท่าน

เกี่ยวกับการศึกษา หาความรู้  ผมมิหยุดนิ่ง  วันนี้ผมได้ศึกษาตัวอย่างการทำโครงการ จากหลาย ๆ แห่ง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เท่าที่มีให้ศึกษา ในเว็ป ต่าง ๆ  พิจารณาบางส่วนแล้ว เห็นว่า มีอยู่เว็ปหนึ่งจากหลาย ๆ เว็ป ที่น่าสนใจ ศึกษา เป็นแบบอย่างที่ดี ในการเขียนโครงการ และการบริหารโครงการครับ  เชิญท่านที่สนใจเข้าไปศึกษาได้ที่  http://rc.nida.ac.th/รายละเอียด%2025%20กย%2051.pdf

หรือที่ http://rc.nida.ac.th/รายละเอียดการประชุมวิชาการ%20ประจำปี%202551%20วันพฤหัสบดีที่%2025%20ก.ย.%202551.pdf

หวังว่า ข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ ทางการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการจัดทำและการบริหารโครงการ

ขอความสวัสดี จงมีแด่ผู้อ่านทุกท่าน

เรียน ท่านอาจารย์ ดร.จีระและคณะอาจารย์ที่เคารพทุกท่าน

สัปดาห์ที่แล้ว ได้อ่าน บล็อก ของเพื่อน ๆแล้วได้รับแง่คิดและความรู้เพิ่มขึ้นมากมาย และที่สะดุดใจที่สุดก็คือ แง่คิด และของฝากจากคุณนพคุณเพื่อนพันธมิตรตัวจริง ที่ได้นำเรื่องจากการเล่าของคุณชิดมาลงบล็อกให้เพื่อน ๆได้อ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจไว้บ้าง ก็ต้องขอขอบคุณมาก ๆ คงไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับที่ผมจะนำเรืองนี้ ไปเป็นเรื่อง"จริงที่เล่าผ่านหู" ให้กับนักเรี่ยนของผมฟังเพื่อเป็นการปลูกฝังให้กับนักเรียนได้มีความรัก ความเมตตา ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อมนุษย์และสัตว์ร่วมโลกกันมากขึ้น รู้จักการให้ทานและให้อภัยกันมากขึ้น แล้วในอนาคต บ้านเมือง เราคงไม่วุ่นวาย เหมือนอย่างทุกวันนี้เป็นแน่แท้ครับ (ถ้าทุกคนช่วยกันจริง)

คนเรานี้ก็แปลกกว่าจะสำนึกได้ มันก็สายไปเสียแล้ว นี่แหละที่เขาเรียกว่า "ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งนำตา" ถึงแม้ว่าน้ำตาจะใหลออกมาเป็นสายเลือดก็ไม่สามารถคืนชีวิตขึ้นมาได้ จะขอโทษสัก ร้อยครั้ง พันครั้ง ก็ไม่สามารถทดแทนความสูญเสียได้ เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจได้อย่างดีในเรื่องการมีสติและสัมปชัญญของเรา

การสำนึกได้นั้นยังดีกว่าที่ไม่มีความสำนึกเสียเลย บ้านเมืองเราวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากการขากความสำนึกที่ดี ของกลุ่มผู้ลุ่มหลงใน ลาภ ยศ สรรเสริญ ไม่ยอมอ่อนข้อ และให้อภัยซึ่งกันและกัน เอาประชาชนที่ไม่ประสีประสา อะไรมาเป็นเครื่องมือต่อรอง ก็ขอฝาก ผนส.2 ของเราทุกท่าน ได้สานงาน ที่อาจารย์ มอบอุดมการณ์ ในการเป็นผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงผนึกเป็นกำลัง ที่เข้มแข็ง ก่อกิจการของสหกรณ์ไทย ให้รุดหน้าต่อไปให้ได้ครับ

การศึกษาดูงาน ในประเทศที่ผ่านมาความเห็นและความรู้สึกนั้นคงไม่แตกต่างกับเพื่อน ๆ ที่แสดงในบล็อก และที่แสดงความคิดเห็นได้ตรงประเด็นและไม่อ้อมค้อมที่สุดก็คือคุณพี่ ประวัติ แห่งการบินไทย พูดได้ฉะฉาน ตรงไปตรงมาฟังแล้วเห็นภาพพจน์ชัดเจน และอีกหลายท่านได้แยกแยะประเด็นต่าง ๆที่เป็นข้อมูลต่อการศึกษามาสรุปให้อ่านอย่างสมบูรณ์ ท่านใดที่ไม่ได้ร่วมไปศึกษาดูงานนี้ มาอ่านบล็อกนี้ ก้จะเสมือนหนึ่ง ได้ไปศึกาดูงานกับพวกเราด้วย (จริง ๆ ไม่โกหกนะครับ ดาแน่ว)

บรรยากาศทั้งในรถทั้งนอกรถน่ารักกันทุกคน สนุกสนานสุด ๆ คุณตินา ออกลวดลายสาวพันปี เรียนดีไม่มีแฟน เพราะนายมะกะดองอ เป็นเหตุ..จริงมะ.??? ส่วนพ่อเลี้ยงอดิศักดิ์ก็ออกลวดลายเจ้าอาวาส เจ้าสำนักแห่งวัดถ้ำเมืองแป้ ก่อตั้งกองผ้าป่าเฉพาะกิจบอกบุญกับคณะ ผนส.2 ของเราได้ปัจจัยพอสมควร แถมยังมอบเพลงและนิทานก้อมอีกมากมาย และน่าเสียดายที่สุดที่พี่ขจร หอบจักรินทร์และบุญครองชีพ ไปที่ใหนไม่รู้ ทำให้พี่จวบและพี่นนท์ต้องแห้งเหี่ยวเช่นเคบ เสียดายคืนที่ สองไม่ได้ร่วมเพราะต้องรีบกลับพร้อมท่านจรูญ ชูราช เพราะมีงานเร่งด่วนและจำเป็นจริง ๆ ครับผม

13 เมษายน

รายงาน

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ และท่าน ผนส 2ทุกท่าน เสาร์ อาทิตย์นี้อยู่บ้านทำโครงการจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา และทำรายงานจากที่ไปศึกษาดูงานในประเทศเพิ่งเสร็จณ.เวลานี้เอง ก็รีบเข้าblogทันที พรุ่งนี้จะโทรหากลุ่ม7ที่ร่วมไปดูงานด้วยกันเพื่อขอคำแนะนำข้อเสนอแนะนะคะ ท่านผอ.อดิศักดิ์ ท่านปะธานวัฒนา และน้องแจ้ศศิกร กลับจากดูงานก็ประชุมคณะกรรมการ ประชุมผู้ช่วยฝ่าย และนำแง่คิดจากการได้ศึกษาหลักสูตร ผนส2ให้ที่ประชุมรับทราบโดยตลอด เข้าblogช้าไปนิดแต่ก็หาเวลาเปิดอ่านblogจากทุกคนทุกวัน ถ้าวันใหนไม่ได้เปิดอ่านมีความรู้สึกว่าชีวิตวันนี้เหงาขาดอะไรไปอย่าง และข่าวสารไปถึงใหนแล้วเราจะไม่ทันเหตุการณ์ ได้ความรู้จากอาจารย์ทุกท่าน จากเพื่อน พี่ น้อง แต่ละเรื่องที่ทุกท่านอุทิศเวลาอย่าง สร้างสรรค์ ขอบคุณนะคะ ราตรีสวัสดิ์ แล้วพบกัน

ขอฝากข้อความถึงท่านประธาน บงกฎ ด้วยครับ.....

ท่านประธานครับ..ผมสงกรานต์ จาก จ.เลย ติดต่อท่านไม่ได้เลยครับเรืองงานที่ท่านจะนำคณะไป จ.เลย ผมยังไม่ทราบกำหนดการที่ชัดเจนเลย กรุณาแจ้งให้กระผมทราบด้วยนะครับ...

13 เมษายน

เรียนท่านอาจารย์จีระและ ผนส.ทุกท่าน

จากการที่ได้ไปดูงานในประเทศ 1.บ.พาราวู๊ดผลิตเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในบ้านมีการบริหารจัดการที่ดีโดยใช้ระบบครอบครัว เจ้าของกิจการเป็นผู้ออกแบบเองเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ต่อสู้กับภาวะเศรฐกิจได้ มีสวัสดิการให้กับคนงานโดยทำประกันชีวิตให้ในวงเงินคนละ 100,000 บาท ใช้นโยบาย ซดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อให้เวลากินเหล้ามีน้อยและค่อยๆเลิกกินไปในที่สุด เสียที่สภาวะแวดล้อมทำให้สุขภาพไม่ดีได้ 2. สกก.เมืองขลุง มีธุรกิจเกือบครบวงจร มีการเชื่อมโยงธุรกิจกับบริษัทเอกชนอย่างเทสโก้ ทำให้ผลิตผลของสมาชิกมีตลาดรองรับและทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น รกิจปั้มน้ำมันก็ใช้เทคนิคเพื่อให้สามารถแข่งขันกับเอกชนและให้สหกรณ์อยู่รอด 3.กลุ่มสตรีทอเสื่อบ้านเสม็ดงามมีความสามัคคีกันดีและชาวบ้านมีความภูมใจในการที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการกอบกู้เอกราชสมัยของพระเจ้าตากสินมหาราช การที่พวกเขามีฝีมือในการทอเสื่อได้สวยงามจนถึงกับไปจดลิทขสิทธิ์ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และต่อไปในอานาคตอาจถึงขั้นส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ ชุมชนจะมีความเข้มแข็ง 4.สกก.เมืองจันทรบุรี มีธุรกิจคล้ายๆกับ สกก.เมืองขลุง มีการทำธุรกิจการส่งออก และสหกรณ์นี้มีความสนใจความเป็นอยู่ของสมาชิกจะจัดสวัสดิการให้กับสมาชิกตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย และยังให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาของบุตรสมาชิกอีกด้วย น่าเลื่อมใสจริง และต้องขอขอบคุณคุณขจรเป็นอย่างมากที่ให้ความดูแลเอาใจใส่คณะของเราเป็นอย่างดี มีรถนำขบวนนี่สินักการเมืองของสหกรณ์ตัวอย่าง น่าประทับใจท่านอาจารย์จีระที่ให้ความเป็นกันเองกับพวกเราไม่มีช่องว่างระว่างลูกศิษย์อาจารย์ ท่านอาจารย์ยมยิ้มตลอด กับการบริการของคณะสันนิบาตฯที่ไม่บกพร่องเลยแม้นแต่น้อยรวมภูมินท์ด้วยนะจ๊ะ

น้ำท่วมสำนักงานครับ

น้ำท่วมในรอบเกือบ 10 ปี ท่วมตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ 19 สูงประมาณระดับเอว ตอนนี้มาทำงานต้องนั่งเรือครับ แต่เอกสารและคอมฯ ไม่เสียหายเท่าไร เพราะเข้ามาเก็บหนีน้ำตั้งแต่วันเสาร์ ท่วมทั้ง สกต. และ ธกส. จังหวัดชัยภูมิ ข่าวแจ้งว่าจะท่วมอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะระบายน้ำลงจากเขื่อน เนื่องจากเขื่อนจะแตกครับ จังหวัดอื่น ๆ เป็นไงบ้างครับ

เมธาภิวัฒน์

เรียนท่านอาจารย์ทุกท่านและเพื่อน ผนส.๒ทุกคน

วันนี้ขออนุญาตพิเศษสำหรับท่านอาจารย์ยมนะครับ

      ฝากบทกลอน ถึงท่าน อาจารย์ยม

ใคร่ชื่นชม ผลงาน ผ่านBLOGนี้

ที่ปรึกษา เพื่อนคู่คิด มิตรที่ดี

เพื่อน้องพี่ ผนส.๒ ต้องได้ใจ

      เพื่อนเดินทาง เพื่อนปรึกษา วิชาการ

ทุกถิ่นฐาน ท่านร่วมด้วย ช่วยแก้ไข

ทั้งเมืองนอก ต่างแดน ที่แสนไกล

ในเมืองไทย ท่านร่วมไป ไม่ห่างเลย

       บุคลิก ท่าทาง อย่างผู้นำ

ท่านเน้นย้ำ หลักสหกรณ์ อย่านอนเฉย

อุดมการณ์ ปรัญชา อย่างละเลย

ท่านเปรียบเปรย คือหัวใจ ให้ผู้นำ

       ท่านไม่หยุด คิดค้นคว้า หามาฝาก

ทำเรื่องยาก เป็นง่าย ท่านได้ย้ำ

ทั้งเว็บไซต์ เว็บบอร์ด ท่านจดจำ

พร้อมทั้งนำ มาบอกเล่า ให้เข้าใจ

      ขอขอบคุณ อาจารย์ ที่ผ่านมา

ศิษย์ศรัทธา บูชา สุดเลื่อมใส

แม้วันเดือน เคลื่อนมา ศิษย์ลาไกล

ขอมอบใจ ผ่านเว็บไซต์ ส่งถึงกัน

สิ่งที่อาจารย์ยมบอกผมว่า บทกลอนที่เขียนไว้ให้ลงใน BLOG บ้างวันนี้ขออนุญาตพูดถึงท่านอาจารย์ก่อนครับ หากผิดพลาดหรือล่วงเกินอย่างไร กราบขออภัยด้วยนะครับ

เรียน  ท่านอาจารย์

              จากการได้อ่านข้อมูลของพี่ชนะพันธุ์   จึงขอแช่ร์ความคิดเห็นด้วยนะค่ะ ในฐานะของคนเกษตร

               สหกรณ์ภาคเกษตรส่วนใหญ่ธุรกิจหลักอยุ่ที่ธุรกิจสินเชื่อ

รายได้ส่วนใหญ่ที่ได้มาก็คือสินเชื่อ  และปัญหาใหญ่ของสหกรณ์ก็อยู่ที่สินเชื่อดัวยเช่นกัน  ในปัจจุบันหลาย ๆ  สหกรณ์กำลังน้ำตาตกอยู่กับสินเชื่อ  ที่มีหนี้ค้างชำระกันมากมาย  บางแห่งถึงกับขาดทุน ซึ่ง มีสาเหตุที่ใหญ่  ๆ ดังนี้

              1.เกิดจากการบริหารจัดการของสหกรณ์ ที่มีจุดเริ่มต้นของการไม่รอบคอบในการพิจารณาเงินกู้/ ขาดหลักเกณฑ์/มีระบบอุปถัมภ์

              2.เกิดจากสมาชิก  ขาดความรับผิดชอบ  ขาดทุนจากการประกอบอาชีพ  ประสบภัยธรรมชาติ  ขาดที่ดินทำกิน  ฯลฯ

                และในสภาพปัจจุบัน พื้นที่การเกษตรลดลง ธุรกิจสินเชื่อของสหกรณ์เริ่มลดปริมาณลง ย่อมหมายถึงรายได้ของสหกรณ์ก็ลดตามไปด้วย  ดังนั้น  สหกรณ์ต้องหาธุรกิจอย่างอื่นเพื่อรองรับ ความเปลี่ยนแปลง  เพื่อสร้างรายได้ให้กับสหกรณ์ ทั้งนี้ทั้งนั้น สหกรณ์ต้องพิจารณาความสามารถของตนเอง ความเหมาะสมขององค์กร ลักษณะอาชีพของสมาชิก  และความสอดคล้องของชุมชน

ฝากความห่วยใย

             ถึงน้องกบ  น้ำท่วมมีวันแห้ง   แต่น้ำใจของพวกเรา ไม่มีวันแห้งไปหรอก   อดทนหน่อยนะ  ฝากความห่วงใยถึงทุกคนที่เดือนร้อนจากน้ำท่วม

             ถึงพี่ธญา   น้ำท่วมหรือเปล่าค่ะ เห็นข่าว เมืองโคราชก็ท่วมที่บ้านท่วมหรือเปล่า

             ถึงเพื่อน ๆ  สายอีสาน  น้ำท่วมหรือเปล่าค่ะ

             ถึงเพื่อน ๆ  สายเหนือ   น้ำท่วมหรือเปล่า  ถ้ายัง ก็ แสดงความยินดีด้วย   ถ้าท่วมแล้ว   ให้น้ำไปทางอื่นนะ  อย่าให้น้ำเหนือมาภาคกลางเลยเจ้าพระคุณ 

             พี่สวัสดิ์    ทำแบบเสนอโครงการเสร็จหรือยังค่ะอย่าลืมเอามาส่งให้อาจารย์ยมดูก่อนนะค่ะ

อ่านข้อความของเราชาว ผนส. 2 

            ตั้งแต่ต้นจนถึงหน้าที่ 11  ข้อความที่มาอันดับหนึ่งจะเป็นเนื้อหานวิชาการ การหาความรู้ที่เอามาฝากกัน พร้อมกับเล่าประสบกราณ์ที่พบมา  ส่วนข้อความที่มาเป็นอันดับที่สองคือข้อความเกี่ยวกับความเป็นห่วงเป็นใยสมาชิกของตนเอง (ผนส.2)  นี้แหละหนาหัวอกของกรรมการ และฝ่ายการจัดการ  ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีสมาชิกท่านใดบ้างที่จะทราบถึงความรู้สึกเช่นนี้ 

ก่อนจบขอแก้ไขข้อความ Buddy ของผม นิดหนึ่งครับ จากคำว่า ฝากความห่วยใย  เป็น ฝากความห่วงใย ครับ

คิดถึงเพื่อน ผนส. 2 ทุกคน  

อ่านข้อความของเราชาว ผนส. 2 

            ตั้งแต่ต้นจนถึงหน้าที่ 11  ข้อความที่มาอันดับหนึ่งจะเป็นเนื้อหาวิชาการ การหาความรู้ที่เอามาฝากกัน พร้อมกับเล่าประสบกราณ์ที่พบมา  ส่วนข้อความที่มาเป็นอันดับที่สองคือข้อความเกี่ยวกับความเป็นห่วงเป็นใยสมาชิกของตนเอง (ผนส.2)  นี้แหละหนาหัวอกของกรรมการ และฝ่ายการจัดการ  ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีสมาชิกท่านใดบ้างที่จะทราบถึงความรู้สึกเช่นนี้ 

ก่อนจบขอแก้ไขข้อความ Buddy ของผม นิดหนึ่งครับ จากคำว่า ฝากความห่วยใย  เป็น ฝากความห่วงใย ครับ

คิดถึงเพื่อน ผนส. 2 ทุกคน  

วัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture)

วัฒนธรรมองค์กรคืออะไร? หลายคนอาจจะตอบว่าเป็นสิ่งที่คนเขาปฏิบัติที่สืบต่อกันมาในองค์กร แต่หากคิดต่อไปอีกสักนิด เราจะพบว่าวัฒนธรรมองค์กรมีความหมายมากกว่านั้น เพราะการที่องค์กรของเราอยู่มาได้จนทุกวันนี้ ฝ่าฟันปัญหา และอุปสรรคมานับไม่ถ้วน จนดำรงคงอยู่ในปัจจุบัน ก็เป็นเพราะวัฒนธรรมของเราเข้าไปมีส่วนร่วมมาตั้งแต่อดีต และมีส่วนอย่างสำคัญยิ่งต่อองค์กรในอนาคตอีกด้วย จากความหมายของคำว่า “วัฒนธรรมองค์กร” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ให้ความหมายว่า หมายถึง “พฤติกรรม และสิ่งที่คนในหมู่ ผลิต สร้างขึ้นด้วยกัน เรียนรู้จากกันและกัน และร่วมใช้อยู่ในหมู่พวกของตน” ดังนั้น วัฒนธรรมองค์กร ก็คือ พฤติกรรมที่สร้างขึ้นจากคนในองค์กรโดยมีการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และยึดถือปฏิบัติกันมาจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในองค์กรนั้นๆ ทำไมองค์กรจึงต้องมีวัฒนธรรม องค์กรทุกองค์กรมีวัฒนธรรม เพราะวัฒนธรรม คือ สิ่งที่หล่อหลอมให้คนในองค์กรมีและเข้าใจกฎกติกาในการอยู่ร่วมกัน วัฒนธรรมทำหน้าที่เหมือน “กรอบ” ที่หลอมให้คนในองค์กรมีความเชื่อและพฤติกรรม ไปในทิศทางเดียวกัน วัฒนธรรม ทำให้คนในองค์กรอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และลดความขัดแย้ง วัฒนธรรมองค์กรสร้างได้อย่างไร องค์กรควรเริ่มจากการดูตัวเองว่าปัจจุบันคนในองค์กรของเรามักมีพฤติกรรมหรือแนวปฏิบัติไปในทิศทางใดบ้าง แล้วจึงนำเอาพฤติกรรมเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกับทิศทางที่องค์กรมุ่งที่จะไป เพื่อดูว่าพฤติกรรมใดที่จะทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ตามพันธกิจ และพฤติกรรมใดที่เป็นอุปสรรคต่อการก้าวไปข้างหน้าขององค์กร ตัวอย่างพฤติกรรมที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร เช่น การเคารพระบบอาวุโสที่มากจนเกินไป จนขาดความเป็นระบบแบบอย่าง, ทำดีได้แต่อย่าเด่น, เอายังไงเอาด้วย (ประมาณว่า ถูกครับพี่ ดีครับนาย ได้ครับท่าน) ผมไม่ได้บอกว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ดี หรือ ไม่ถูก แต่ผมอยากจะบอกว่าพฤติกรรมเหล่านี้ “อาจจะไม่เหมาะ ไม่สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร” เท่านั้น วัฒนธรรมในองค์กรนั้นไม่ได้มีแต่ด้านดีเพียงอย่างเดียว เราคงต้องยอมรับว่า ยังมีวัฒนธรรมในด้านไม่ดีที่ฝังรากปะปนอยู่ด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นที่ผู้นำหรือผู้บริหารในทุกระดับขององค์กรต้องสร้างการปฏิบัติที่เป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นต้นแบบในการปฏิบัติ ค้นหา ส่งเสริม รณรงค์ และกระตุ้นให้พนักงานทุกคนในองค์กรมีจิตสำนึกในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีให้เกิดขึ้น เพื่ออนาคต และทิศทางที่องค์กรจะก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

ท่าน ผนส2 ทุกท่าน

เสียดายที่ผมไม่มีโอกาสได้ไปรับบรรยากาศแห่งความอบอุ่นที่เมืองจันทร รู้สึกดีใจที่ทุกท่านได้รับความอบอุ่นจากพี่ขจรและยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ผมเองต้องขอโทษพี่ขจรอย่างมากที่ไม่ได้ไปรับความอบอุ่นจากพี่ขจรในครั้งนี้ แต่ก็เคยเรียนไว้เมื่อก่อนไปดูงาน(หน้า9)แล้วว่าสหกรณืของผมได้รับแนวทางการบริหารจัดการเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการของ สกก.จันทรบุรี มาใช้แล้วโดยได้รับถ่ายทอดผ่านมาจากท่านวัฒนา (สกก.เมืองสุพรรณ) ในฐานะสหกรณ์การเกษตรรู้สึกดีใจและขอบคุณที่ท่านผนส.สหกรณ์ภาคอื่นหลายท่านที่ยังไม่เคยเห็นรูปร่างหน้าตาของสหกรณ์การเกษตรแต่พอ กลับจากดูงานครั้งนี้หลายท่านเริ่มเห็นภาพสหกรณ์การเกษตรชัดขึ้นและให้ความสนใจสหกรณ์การเกษตรมากขึ้น....แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าหน้าตาของสหกรณ์การเกษตรทางเหนือมีหน้าตาอย่างไร ก็ลองถามท่านวัฒนาดู...แต่ถ้าอยากเห็นภาพชัดจริงต้องมาพิสูจน์ด้วยตนเอง....

ขอบคุณคุณไพรพนา ที่เป็นห่วงเรื่องโครงการ ตอนนี้แบบโครงการยังอยู่ในหัวอยู่เลย คิดว่าจะเสนอโครงจริงที่เสนอผ่านที่ประชุมใหญ่ไว้แล้ว....เมื่อคืนวันที่ 18ก.ย ที่ผ่านมาผมฝันว่าตัวเองเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีดารานางเอกหนังมาแจกของให้แก่นักเรียนที่โรงเรียน......แค่นี้ก่อน (คราวหน้ามีกลอนชีวิตมาฝาก)