ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3


เชื่อมโยงและสร้างเครือข่าย ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

โครงการผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 สันนิบาตสหกรณ์

สวัสดีครับ

เพื่อเป็นการวางแผนระยะยาว และผมก็อยากทำความรู้จัก กับ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 ที่กำลังจะเข้ามารับการอบรมผมจึงเปิด Blog นี้ขึ้นเพื่อให้ทุกท่านได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ผมและสันนิบาตสหกรณ์ ได้ทำหลักสูตร ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง มาแล้ว 2 รุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จมาก และจะพยายามทำให้ดีที่สุดต่อไป  Blog ของเราจะต้องมีความเข้มข้น และมีประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะจะต้องให้มีความเชื่อมโยง กับ รุ่น 1 และ รุ่น 2 อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างเครือข่าย ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างไกล

ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะนำความรู้ ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และมีมูลค่าเพิ่ม

จีระ หงส์ลดารมภ์

ภาพบรรยากาศในวันพิธีเปิดโครงการฯ

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มเสนอโครงการได้ที่นี่

 http://gotoknow.org/file/todschanin/Projectfrom.doc

หมายเลขบันทึก: 231359เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2008 10:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1,561)

สวัสดีครับ

ท่านอาจารย์ ผมนายสุทิศ พงษ์จีน ผนสรุ่นที่ 3 ซึ่งจะเข้าบการอบรมครั้งแรกในวันที่ 8-10 มกราคม 2551 แต่เพื่อความพร้อมในการเข้ารับการอบรม ต้องเตรียมตัวอย่างไรบาง สถานที่พักมีไหม เพื่อให้การเข้ารับการอบรมประสบความสำเร็จมายิ่งขึ้น อาจารย์ช่วยแนะนำหน่อย และขอให้ผู้รับผิดชอบโครงการผนสรุ่น 3 แจ้งสมาชิกร่วมรุ่นให้ทราบหน่อย ว่ามาจากไหนบาง

ขอขอบพระคุณอยางสูงที่กรุราให้เข้ารับการอบรม

สุทิศ พงษ์จีน

ขอบคุณ ดร. จีระ มากๆ ที่เขียนบทความถึงบอลไทย ทำหน้าที่สื่อกีฬาไทยที่ดีนะครับ

เยอรมันที่ผมอยู่หาข่าวฟุตบอลนอกประเทศได้ยากมากๆ นึกถึงภาพง่ายๆ

บอลนอกในสื่อไทย มีข่าวมาแค่ไหน แล้วบอลไทยมีข่าวมากแค่ไหน ประเทศที่ผมอยู่นี้

เป็นตรงกันข้าม. ที่นี่ ข่าวทีมบอลระดับทัวร์นาเมนต์แชมป์เปี้ยนลีกยุโรปเท่านั้นที่จะมี

ข่าว แถมต้องเป็นหนังสือพิมพ์เฉพาะด้วย. นอกนั้นมีแต่ผลหลังเกมส์การแข่งขัน

สมัยตอนผมเรียนอยู่เมืองไทย นอกจากผมเชียร์ทีมชาติไทยแล้ว ก็เป็นแฟนบอลอังกฤษ เพราะ ที่บ้านติดเคเบิล และเพื่อนๆก็เชียร์บอลนอก ก็เลยหาทีมเชียร์เพื่อไปคุยกับเพื่อนๆ พี่น้องได้

แต่พอต้องมาอยู่ต่างประเทศ หลายๆปี ด้วยการที่หาข่าวบอลต่างประเทศได้ยากมากๆ

ทีมนอกที่ผมเชียร์ไม่ต้องพูดถึง ช่วงแรกๆผมก็อยากหาดูถ่ายทอดสดทีมรักผม แต่พอผ่านๆไปหาดูไม่ได้ซัก 2-3 เดือนผมก็เลิกอยากดู ข่าวซื้อขายนักเตะในลีกต่างประเทศ ผมก็ไม่ค่อยสนใจ รวมทั้งข่าวทีมรักผม

เกิดมีความรู้สึกอยากดูทีมในไทยลีกขึ้นมาแทน หลังจากได้ชม ทีมชลบุรี แข่งกับ ทีม วิกตอเรีย เมลเบิร์น และชนะในบ้าน ซึ่งคนเชียร์ในสนามเยอะมาก จนผมตกใจ

แล้วผมก็มารู้จักกับเวป เชียร์ไทย และไทยแลนด์สู้ๆ ก็เลยติดตามข่าว กับชาวเวปคอบอล

ไทยเหมือนกัน จนหลังจากนั้น ผมก็หาดูทีวีออนไลน์ นัดถ่ายคู่ชลบุรี กับทีมไทยลีกต่างๆแทน ทุกนัดที่มีถ่ายทอดทาง สยามกีฬา nbt19 ทั้งๆที่ผมเป็นคนกรุงเทพฯ

อยากให้ฟุตบอลในประเทศบูม สื่อเท่านั้นที่เป็นคนกำหนดทิศทาง ถ้ายังตามนายทุนเคเบิลทีวี

ไม่ช่วยกันเสนอข่าวบอลไทยลีก ช่วงที่กำลังมีแฟนบอลต่างจังหวัด เข้ามาชมเหนียวแน่นแล้ว อนาคตก็ไม่เกิดแฟนบอลใหม่ๆแน่ครับ เพราะจะมีคนไทยซักกี่คน ที่ต้องมาใช้ชีวิตที่เมืองนอกแบบผม.

Sodat

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์จีระ และนักศึกษา ผนส.รุ่นที่ 3 ทุกท่าน

ก่อนอื่น ขอส่งพรปีใหม่มาให้ทุกท่าน ขอให้ท่านมีสุขภาพดี ไม่มีภัย ได้รับแต่สิ่งดีๆ มีความสุขสมหวังดังที่ปรารถนาทุกประการ.....

ขอส่งข่าวมาทักทายกันหน่อยครับ

ก่อนเปิดการเรียนการสอน ขอให้ทุกท่านเข้าใช้ Internet/ website ต่างๆ ค้นคว้าเรื่องที่จะมาเรียน เพื่อให้คุ้นเคยกับบทเรียน และการใช้เทคโนโลยี ครับ

และที่อยากฝากให้ทุกท่านคิด และเตรียมคำตอบมาให้ด้วยว่า... ความคาดหวัง ท่านคาดหวังอะไร กับการมาร่วมโครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตรผู้นำขั้นสูง ครั้งนี้?????..... แค่นี้แหละครับ.....

พบกันวันที่ 8 ม.ค. 2552

สวัสดีปีใหม่ครับ

วิทย์

สวัสดีลูกศิษย์ทุกท่าน

    ผมภูมิใจมากที่จะได้ดำเนินการ โครงการผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 ซึ่งข้อดีก็คือ เรามีตัวอย่างมาแล้ว 2 รุ่น โดยเฉพาะ คุณภาพที่ดีของ รุ่น 1 และ รุ่น 2 ผมจึงอยากให้ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 ภูมิใจ และยกระดับการฝึกอบรมให้ดีกว่าเดิม

จีระ หงส์ลดารมภ์

เรียน  ท่านอาจารย์จีระ อาจารย์ยม คณะกรรมการบริหารโครงการ และ ผนส.  ๓ ทุกท่าน ขออวยพรในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๕๒.......

           สวัสดีปีใหม่ให้สุขสันต์

          พร้อมความฟันสู่วันอันยิ่งใหญ่

          พร้อมพลังสร้างสรรค์มุ่งมั่นไป

          พร้อมก้าวไกลสู่อนาคตอันงดงาม

 

 

สวัสดีปีฉลู 2552

ขอให้มีความสุข ความเจริญ ยิ่งๆขึ้นทุกปี นะคะ และขอฝากความระลึกถึงมายัง

เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวสันนิบาตทุกท่านทุกคนด้วยนะคะ อีกไม่กี่วันก็จะมาเป็นศิษย์สันนิบาต ตื่นเต้นไม่น้อยเลยนะเนี่ย ยังไงๆก้เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

โชคดืปีใหม่ คะ

สวัสดี

สวัสดีครับ ผนส.รุ่น 3 ทุก ๆ ท่าน

     ผนส. 2 ขอแสดรงความยินดี และขอต้อนรับ ผนส.ร่น 3 ทุก ๆ ท่านครับ

 

สวัสดีปีใหม่

สวัดดีปีใหม่ครับ ท่านอาจารย์ จีระ และคณาจารย์ทุกท่านที่ให้ความรู้โครงการผู้นำรุ่น 1 รวมถึงคณะกรรมการดำเนินการ ผู้อำนวนการสนันิบาตฯและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน จบมีความสุขสมหวังตลอดปี 2552

P
71. เล็กๆน้อยๆ
เมื่อ ส. 03 ม.ค. 2552 @ 10:15
1051741 [ลบ]

สวัสดีครับครูปู

         เห็นครูปูเข้าไปสวัสดีปีใหม่ใน Blog ของผู้นำสหกรณ์ชั้นสูงรุ่นที่ 2 จึงติดตามมาดู ได้อ่านบันทึกแล้วรู้สึกดี อยากจะ Copy ไปให้เพื่อน ๆ ชาว สหกรณ์ได้อ่านบ้าง เพื่อเป็นแนวทางไม่ทราบว่าจะอนุญาติหรือเปล่าครับ

         นพคุณ

ด้วยความยินดีและถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยค่ะ

ขอบพระคุณที่ให้เกียรติมาเยี่ยมถึงบันทึกนะคะ

หากสะดวกเมื่อไร ก็ขอเรียนเชิญอีกนะคะ

ขอบพระคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีดีคะ ท่านอาจารย์จีระฯ และคณะอาจารย์ คณะกรรมการฯ ผู้อำนวยการสันนิบาตฯ และท่านที่มีส่วนร่วมจัดทำโครงการผู้นำสหกรณ์ฯทุกท่าน

นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญอีกก้าวหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตที่จะได้เข้ารับการฝึกอบรม "โครงการผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" รุ่น3 เพื่อนำความรู้ ความเข้าใจ ที่ได้รับจากท่านวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ทรงเกียรติ ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและถ่ายทอดสู่การปฏิบัติในการพัฒนางานของสหกรณ์หรืองานอื่นๆอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากความรู้ที่ได้รับจากท่านวิทยากรแล้ว ดิฉันยังมองเห็นคุณค่าของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้ที่เข้ารับการอบรมซึ่งมาจากหลากหลายแหล่งความรู้ เห็นความรัก ความสามัคคี ความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน (จากรุ่น1สู่ รุ่น2 เชื่อมโยงสู่รุ่น3 และ 4 5 6...) และในที่สุดก็จะรวมเป็นพลังปัจจัยนำสู่ความร่วมมือ ร่วมใจกัน

นำพาขบวนการสหกรณ์ไทยไปสู่ความสำเร็จ ตอบสนองความตั้งใจของ "คณะผู้จัดทำ

โครงการอบรมผู้นำขั้นสูง" และเมื่อถึงวันนั้น..ทุกท่านต้องภูมิใจและหายเหน็จเหนื่อย

ดิฉันจะพยายามเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นคะ

สุดท้ายนี้ ดิฉันขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

จัดทำโครงการฯทุกฝ่าย และทุกท่านที่ให้การสนับสนุนดิฉัน ตลอดถึงผู้ที่จะเข้ารับการอบรมในรุ่น3ทุกท่านที่ทำให้โครงการอบรมนี้เกิดความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ที่สุด

มา ณ โอกาสนี้

ขอแสดงความนับถือ

ชวลี สวัสดิบุตร

ผนส.รุ่น 3

เรียน ท่านอาจารย์จีระ สวัสดี ผนส.ทุกท่าน

สวัสดีเจ้าหน้าที่สันนิบาตทุกท่านนะครับ ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม

ขอแสดงความยินดีกับ ผนส.3 ทุกท่านนะครับ ที่ได้เข้ารับการอบรมวันนี้เป็นวันแรก

คนเจียงฮาย(ผนส.3)อยากจะมาต้อนรับในเย็นวันนี้ด้วย แต่ก็มาไม่ได้เพราะเพิ่งจะเดินทางกลับจากการไปดูงาน สหกรณ์ทางภาคใต้มา ก็เหน็ดเหนื่อยพอสมควร แต่ก็ไม่เป็นไรขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านก็แล้วกันนะครับ พร้อมกับการส่งตัวแทนจาก สกก.เมืองเชียงรายเข้าร่วมอบรม รุ่นที่ 3 ด้วย 1 คน

ขอให้ผนส.3 ทุกคนจบหลักสูตรนี้ด้วยคุณภาพก็แล้วกันนะครับ

วิสัยทัศน์ การพัฒนาผู้นำสหกรณ์ยุคใหม่ (ผู้นำแบบชุดกระเป๋า)

โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ในวันที่8 มกราคม 2552

·       ในการส่ง blog ควรให้ความเห็นว่าเพื่อนของเราพูดว่าอะไร

·       สหกรณ์ขับเคลื่อนโดยความคิดที่เกิดจากการปะทะกันทางปัญญา

·       รุ่น 3 ควรชนะรุ่น 2

·       สันนิบาตสหกรณ์คือวปอ.ของสหกรณ์

·       สูตรคือ อย่าลอกความคิด ขอให้ทุกคนสอนดร.จีระ

·       ลงทุนเป็นล้านต้องทำให้ขบวนการสหกรณ์เข้มแข็ง

·       ข้อดีคือมีความต่อเนื่อง

·       รุ่นที่แล้ว ปลัดจรูญมาเรียน ท่านอยากให้ผลักดันเรื่องอุดมการณ์สหกรณ์

·       แท็กซี่มีสหกรณ์มากแต่ไม่มีอุดมการณ์สหกรณ์ เจ้าของสหกรณ์รวย

·       เมื่อเรียนจบแล้วต้องมาหารือกันเรื่องโครงการต่อเนื่อง

·       รุ่น 2 เริ่มมีวัฒนธรรมการเรียนรู้มากขึ้น คือคิดเป็น วิเคราะห์เป็น ใฝ่รู้ ถ่ายทอดให้คนอื่นๆ มีการส่งความเห็นทางบล็อกมากและมีคนสนใจอ่านมาก

·       การส่งข้อมูลทางบล็อกต้องมีความคิดที่คมขึ้น และควรมีการวิจารณ์ความเห็นของแต่ละคน

·       ควรมีการสร้างเครือข่าย รุ่นนี้มีจากสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์และธกส.

·       ภายภาคหน้าควรมีกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ และอาจารย์มาด้วย

·       การเป็นผู้นำต้องรู้จักสังเกตมาก

·       ควรมีการคิดทำวิจัยเพราะความสำเร็จมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารและความรู้ใหม่ๆ

·       ไม่ควรลอกความคิด

·       ควรช่วยกันเขียนโครงการขึ้นมา

·       อย่ารู้เฉพาะสหกรณ์ของตนเอง ต้องรอบรู้หลายศาสตร์ด้วย

·       การเรียนแบบนี้เป็นการติดอาวุธทางปัญญา

·       ฟังอย่างเข้าใจแล้วคิดมากๆ ปรับใช้กับสภาพความเป็นจริง

·       ขบวนการสหกรณ์ควรหันมาพึ่งตนเอง รู้จักตนเอง แก้จุดอ่อน

·       ขบวนการสหกรณ์ควรเริ่มปรับกรอบความคิด

·       ขอให้ผู้นำยึดหลัก 2R สะท้อนความจริง จับประเด็นให้ถูก

·       ขอให้สนใจ HRDS ยกย่องเพื่อนร่วมงาน มองทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มองไกลและยั่งยืน

·       ผู้นำเกิดได้ในตัวท่านเองทุกคน ไม่ใช่พูดเก่งอย่างเดียวต้องทำเก่งด้วย

·       ต้องรู้จักเชื่อมโยง ช่วยเหลือและกระตุ้นกัน

·       ผู้นำที่ดีต้องทำตัวเป็นประโยชน์แก่ลูกน้อง

·       ได้มีโอกาสร่วมงานนี้ และตกใจที่ได้พบรัฐมนตรีที่หนุ่ม

กลุ่ม 1 

มีสมาชิกมาจาก

1.       กรมตรวจบัญชีสหกรณ์

2.       กรมส่งเสริมสหกรณ์

3.       สหกรณ์นิคมท่าแซะ

4.       สหกรณ์จากจังหวัดสงขลา

·       สหกรณ์ต้องขับเคลื่อนด้วยความคิด

มีสมาชิกมาจาก

1.       สหกรณ์แท็กซี่สยาม

2.       กรมส่งเสริมสหกรณ์

3.       สหกรณ์ร้อยเอ็ด

4.       สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

·       สหกรณ์ต้องสร้างให้เป็นสังคมการเรียนรู้

มีสมาชิกมาจาก

1.       ธกส.

2.       สหกรณ์บ้านเป้า

3.       สหกรณ์ออมทรัพย์รพ.พระปกเกล้า

·       ปรับกรอบความคิด Change

·       ประทับใจ value-added ทำให้วิกฤติเป็นโอกาส พัฒนาจนฟื้นตัว

มีสมาชิกมาจาก

1.       สหกรณ์นครราชสีมา

2.       สหกรณ์สุรินทร์

3.       สหกรณ์ชัยภูมิ

4.       สหกรณ์ออมทรัพย์กรมตรวจบัญชี

·       แนวคิดการจัดหลักสูตร ประทับใจที่ไม่อบรมชุ่ยๆ

·       ประทับใจแนวคิดผู้นำต้องสังเกตและฟังมาก

กลุ่ม 6

มีสมาชิกมาจาก

1.       สหกรณ์ห้างฉัตร

2.       สหกรณ์อ่างทอง

3.       กรมส่งเสริมสหกรณ์

4.       สหกรณ์สงขลา

5.       สหกรณ์นครราชสีมา

·       ผู้นำต้องมีการศึกษาอย่างจริงจังและต้องทำงานเป็นทีม

กลุ่ม 7

มีสมาชิกมาจาก

1.       ชุมนุมสหกรณ์

2.       สหกรณ์การเกษตร

3.       สหกรณ์นครศรีธรรมราช

·       วัฒนธรรมการเรียนรู้ควบคุมหมด สอดคล้องกับวัฒนธรรมผู้นำสหกรณ์

มีสมาชิกมาจาก

1.       สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้

2.       สหกรณ์ออมทรัพย์ทีโอที

3.       สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขนครศรีธรรมราช

4.       สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ

·       อยากให้สันนิบาตสหกรณ์เป็นหัวขบวนนำการเรียนรู้ อยากให้ผลักดันให้กว้างขวางมากขึ้น นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาทำจะได้ก้าวไกล ควรใช้เทคโนโลยีช่วยเผยแพร่ความรู้ให้กว้างขวาง

การปฐมนิเทศ การพัฒนาผู้นำสหกรณ์ไทย” โดย ผอ.วิทย์ ประทักษ์ใจ

·       เราจำเป็นต้องรู้จักกัน มีเครือข่าย ทำให้ทุกท่านมีพลังมากขึ้น

·       อยากให้ผู้หญิงเข้ามาร่วมพัฒนาสหกรณ์มากขึ้น

·       ผู้เข้าร่วมโครงการมาจากสหกรณ์เกษตรมากสุด รองลงมาเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์และจบปริญญาตรีและโทมาก

·       เราต้องการให้ผู้นำมีพื้นฐานต่างกันมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน พัฒนาความคิดบนพื้นฐานข้อมูลความรู้

·       อนาคตผู้นำสหกรณ์จะเปรียบเสมือนเป็นคนครอบครัวเดียวกัน มีเอกภาพมากขึ้น

·       มีการดูงาน ทำโครงการ นำเสนอโครงการด้วย

·       อยากให้ผู้นำสหกรณ์มีวิสัยทัศน์ ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ การเดินทางมากทำให้ได้เห็นสิ่งต่างๆมากมาย

·       อยากให้ผู้นำสหกรณ์มีความยืดหยุ่น รู้จักจังหวะที่เหมาะสม

·       อยากให้ผู้นำสหกรณ์มีจริยธรรม

·       อยากให้ผู้นำสหกรณ์ตรงต่อเวลา

 

 

เรียน ท่านอาจารย์จีระ สวัสดี ผนส.รุ่น3 ทุกท่าน

สวัสดีเจ้าหน้าที่สันนิบาตทุกท่านนะครับ

ผมผนส.รุ่น 3 มีความรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมโครงการนี้ และประทับใจตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการอบรม จากพิธีเปิดโดยรัฐมนตรี และได้รับการต้อนรับจากอาจารย์ ผู้รับผิดชอบโครงการ ผนส ร่น 1 2 ที่มาให้การเลี้ยงต้อนรับ และประทับใจเพื่อนร่วมรุ่นทุกคน ซึ่งวันแรกในสมาชิกในกลุ่ม กลุ่ม 6 มีสมาชิกมาจาก 1. นายกิตติพล ยาลังกา ประธาน สกก.ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง

2. นางสาวสวนีย์ อาสนทอง ผจก สกต.อ่างทอง จังหวัดอ่างทอง

3. นายทศเทพ เทศวานิช นักวิชาการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์

4. นายอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ ประธน สกก.มาบตะโกเอน

และผมนายสุทิศ พงษ์จีน ผจก.สกก.ควนเนียง จำกัด จังหวัดสงขลา

สวัสดีครับ....ผนส.3 ทุกท่าน

ผมขอแนะนำตัว ผมมาจากสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด จังหวัดชุมพร ตำแหน่ง ผู้จัดการสหกรณ์ ประสบการณ์ทำงาน 24 ปี มีความยินดีที่จะมาแชร์ประสบการณ์แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ กับเพื่อนๆทุกคนครับ

เรียน ท่านอาจารย์จีระ และสวัสดีเพื่อนๆพี่ ผนส.3 ทุกท่าน

สวนีย์ อาสนทอง ผจก. สกต.อ่างทอง จำกัด (สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. อ่างทอง จำกัด) เป็นสหกรณ์การเกษตร แต่การดำเนินงานแตกต่างจากสหกรณ์การเกษตรทั่วไป เนื่องจากสหกรณ์ไม่ได้ดำเนินการด้านสินเชื่อกับสมาชิก ดำเนินการเพียงด้านจัดหาปัจจัยการผลิตและการรวบรวมผลิตผลเท่านั้น

วันที่ 8 ม.ค. 52 อยู่กลุ่มที่ 2 ได้แลกเปลี่ยนความคิดกับผนส.อีก 4 ท่าน

พี่ทศเทพ จากกรมส่งเสริม อภิสิทธ์ จากโคราช สุทิศ จากสงขลา และกิตติพล จากลำปาง

มีความภูมิใจที่ได้เข้าร่วมในการอบรมครั้งนี้ ได้พบเพื่อนๆที่มาจากหลายหน่วยงานซึ่งจะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากการอบรมที่ผ่านๆมา

สวนีย์ อาสนทอง

เรียน ศ.ดร.จีระ 

       สวัสดี ผนส.รุ่น 3เจ้าหน้าที่สันนิบาตทุกท่านและขอแสดงความยินดีกับ ผนส.3 ทุกท่านที่ได้รับคัดเลือกเข้ารับการอบรม ผนส.ขั้นสูงกระผมกิตติพลคนห้างฉัตร จ.ลำปาง(ผนส.3)ภูมิใจและดีใจมากที่ได้อบรม ผนสรุ่น3 ในครั้งนี้ขอให้ ผนส.3 ทุกท่านจบหลักสูตรการอบรม ผนส.รุ่น3ทุกๆท่าน

เรียนอาจารย์จีระ

ยินดียิ่งที่ได้มาเป็นลูกศิษ์

เรียนท่านอาจารย์จีระ สวัสดีค่ะผนส.3 ทุกท่าน

วันนี้แวะมาเยี่ยมผนส.3 มีความยินดีมากที่ได้มี ผนส.3 ขึ้นมาอีกและอยากให้มี 4 5 6 ต่อไปยีงมากรุ่นยิ่งดีเพราะเราจะได้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายมากยิ่งขึ้น อยากมาต้อนรับอย่างยิ่งแต่ด้วยภาะกิจสำคัญไม่สามารถปลีกตัวมาได้จึงได้ส่งใจมาต้อนรับทาง blog นี้ก็แล้วกันนะค่ะ

ผนส.2 พัทลุง

สรุปการบรรยายเรื่อง สหกรณ์:ทฤษฎีและการปฏิบัติ โดย ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร ในวันที่ 9 มกราคม 2552

·       สหกรณ์เป็นเรื่องของคน กลุ่มคนและสังคม

·       สหกรณ์เกิดจากการที่คนงานถูกเอาเปรียบ สหกรณ์จึงเป็นทางแก้ปัญหาให้พวกเขา

·       โรเบิร์ต โอเวน เป็นผู้จัดการโรงงานทอผ้า คิดวิธีการสหกรณ์ (รูปแบบคล้ายสหกรณ์นิคม) เขียนเอกสาร The Crisis คนเห็นด้วยแล้วเชื่อมั่น ความคิดนี้จึงแพร่หลาย เขาคิดบัตรแรงงานระบุชั่วโมงการทำงาน มีการตั้งสมาคมคล้ายบัตรแรงงานแล้วเลิกไปเพราะบางคนเอาเปรียบคนอื่น

·       ต่อมารอสเดลตั้งสหกรณ์รอสเดล จดทะเบียนแบบสมาคม

·       ไรไฟเซลคิดสหกรณ์เครดิตแล้วพัฒนาเป็นสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน มีเครือข่ายไรไฟเซล ส่งเสริมเครดิต ศีลธรรมและสังคม

·       บาทหลวงบอนแนงเป็นบิดาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนไทย ก่อตั้งศูนย์กลางเทวา

·       สหกรณ์ยังช่วยสนับสนุนความรู้ เทคโนโลยีการผลิตและการตลาดที่เหมาะสม

·       วิธีการสหกรณ์ คือ นำหลักสหกรณ์มาประยุกต์ใช้ดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจและสังคมเพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกและชุมชนโดยไม่ละเลยหลักการธุรกิจที่ดี

·       มีคุณธรรม 5 ประการ ซื่อสัตย์ เสียสละ รับผิดชอบ เห็นอกเห็นใจ ไว้ใจ

·       มีจิตตารมย์คือ สนใจ ห่วงใย แบ่งปัน รับใช้

·       อุดมการณ์สหกรณ์ มีความเชื่อร่วมกันช่วยตนเอง ช่วยเหลือกันและกันตามหลักสหกรณ์

·       หลักการสหกรณ์สากล

·       เปิดรับสมาชิกทั่วไปและด้วยความสมัครใจ

·       ควบคุมโดยสมาชิกตามหลักประชาธิปไตย

·       มีส่วนร่วมทางธุรกิจโดยสมาชิก

·       ปกครองตนเองและเป็นอิสระ

·       ศึกษา ฝึกอบรม ข่าวสาร

·       ร่วมมือระหว่างสหกรณ์

·       เอื้ออาทรต่อชุมชน

·       แนวคิดสหกรณ์

·       สหกรณ์มีฐานะเป็นขบวนการ

·       เป็นเครื่องมือของรัฐพัฒนาประเทศ

·       มีฐานะเป็นองค์กรธุรกิจ

·       พัฒนาผู้คน ชุมชนและสังคม

·       บิดาสหกรณ์ไทยคือ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ตั้งสหกรณ์วัดจันทร์ไม่จำกัดสินใช้ (เป็นสหกรณ์เครดิต)

·       26 กุมภาพันธ์เป็นวันสหกรณ์ไทยคือวันก่อตั้งสหกรณ์วัดจันทร์ไม่จำกัดสินใช้

·       สัญลักษณ์ขบวนการสหกรณ์ไทยคือเกลียวเชือกสามัคคีกัน สายรุ้ง

·       วันสหกรณ์สากลคือ เสาร์แรกของเดือนกรกฎาคมของทุกปี

·       ธงสายรุ้งคือธงสหกรณ์เพราะสหกรณ์เกิดจากการที่แรงงานถูกเอาเปรียบ สหกรณ์เปรียบเหมือนรุ่งอรุณที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นจึงใช้สายรุ้งแทน

·       สัญลักษณ์ขบวนการสหกรณ์สากลคือสนคู่ (Twin Pines) สวัสดิการสหกรณ์ผูกพันกับทั้งชีวิตของคนดังนั้นสหกรณ์จะเป็นนิจนิรันดร์จึงใช้วงกลมแทน

·       สัญลักษณ์ ICA คือนกพิราบ แทนสันติวิธีของสหกรณ์และมีอิสระทางเศรษฐกิจ

·       สันนิบาตสหกรณ์เกิดจากพระราชบัญญัติสหกรณ์พ.ศ. 2511

·       ฐานสำคัญสุดคือสมาชิก ฐานย่อยขึ้นมาคือคณะกรรมการดำเนินการ คนทำคือฝ่ายจัดการ

·       วิถีสหกรณ์

·       ช่วยเหลือตน

·       ช่วยเหลือกัน

·       แก้เศรษฐกิจ

·       แก้สังคม

·       คุณค่าสหกรณ์

·       กรอบธุรกรรมสหกรณ์

·       ส่งเสริมการออม

·       ส่งเสริมการผลิต อาชีพ แก้เศรษฐกิจ เช่น

·       สหกรณ์ร้านค้า Fair Price ของสิงคโปร์มีบัตรอาหารยังชีพให้สมาชิกที่ตกงาน

·       สหกรณ์ซีแคร์ของสิงคโปร์มีการฟื้นฟูให้ลูกเรือไปทำอาชีพใหม่ มีการตั้งมูลนิธิด้วย

·       ให้สินเชื่อแก่สมาชิกตามความจำเป็น เช่น สินเชื่อเพื่อสร้างอาชีพ ส่งให้คนไปฝึกอาชีพ

·       จัดสวัสดิการให้เหมาะสม เช่น สหกรณ์ซีแคร์ของสิงคโปร์มีเครือข่ายคลินิคให้ลูกเรือ

·       ธุรกรรมคุณภาพชีวิต (ส่งเสริมในทางที่ดีเท่านั้น) เช่น สวัสดิการมงคลสมรส โครงการ

       สร้างชีวิตใหม่ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง

·       กิจกรรมเพื่อสังคม เช่น ระบบบริการสหกรณ์ 24 ชั่วโมง

·       แนวปฏิบัติของสหกรณ์

·       สร้างอาชีพ

·       ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียง เช่น กะบะต้นหอม นำหัวหอมไปปลูกเป็นต้นหอม

·       ส่งเสริมการออมนำสินเชื่อ

·       คลินิกให้คำปรึกษาแก้ปัญหาหนี้

·       สินเชื่อเพื่อส่งเสริมอาชีพ

·       ผลิต จำหน่ายให้บริการด้วยความซื่อสัตย์

·       เกษตรวิถีธรรมชาติ ปลูกทุกอย่างที่กิน

·       วิเคราะห์รายได้รายจ่าย

·       วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่าย

·       วางแผนการใช้จ่าย

·       ตั้งปณิธานการออม

·       สหกรณ์ต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เน้นความรอบคอบ อย่ากระตุ้นสินเชื่อเกินพอดี

·       ความรู้ความเข้าใจสำคัญ แต่สมาชิกยังเข้าใจน้อย เขาอยากใช้เงินมากกว่าออมเงิน เวลาจัดอบรมคนมาน้อยเพราะติดงาน อยากอธิบายการปรับโครงสร้างหนี้ให้เขา

ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร

·       เราปล่อยกู้แต่ไม่ช่วยสร้างความเข้มแข็ง ต้องทำให้ออมอย่างเหมาะสม

ผู้แทนสหกรณ์นาบอน

·       สหกรณ์การเกษตรนาบอนได้ทำแล้วหลายอย่าง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมออม มีสวัสดิการเกิดจนตาย

·       สิ่งที่ฟังแล้วชอบมากที่สุดสนใจนำไปใช้คือการบริหารหนี้

ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร

·       บางทีเน้นธุรกิจมากไปควรเน้นบริการส่งเสริมสังคมด้วย

·       เราไม่เคยอบรมสมาชิกก่อนเข้า แต่อบรมหลังจากเป็นสมาชิกแล้ว เป็นสมาชิกเพื่อกู้ 97%

ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร

·       ต้องแก้ปัญหาแบบสันติวิธี ต้องอบรมสมาชิก มุ่งแก้ปัญหา

ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรสะเดา

·       สหกรณ์มีปัญหาความรู้ความเข้าใจ

·       เรื่องธุรกรรมสหกรณ์ พนักงานหลงทาง ทำกิจกรรมอย่าหนึ่งอย่างใด ต้องขยายสวัสดิการ บริการให้ดี ไม่ใช่ออมหรือสินเชื่อเท่านั้น ยังไม่แก้ปัญหากว้างขวาง

·       จะฝึกอบรมพนักงานเป็นเรื่องแรกก่อน

ผู้แทนสหกรณ์กรมบัญชีกลาง

·       สมัยก่อนจัดให้สมาชิกจับกลุ่มคุยหาข้อเสนอแนะ

ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร

·       สหกรณ์เป็นที่พึ่งความคิดและจิตใจของสมาชิก

เรียน ท่านอาจารย์ และ ท่าน ผนส.3 ทุกท่าน

วันนี้เป็นวันแรกของการอบรม ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 ก็ยังดูเกร็งกันอยู่นะครับ !! ก็ขอเป็นกำลังใจ สู้ สู้ ก่อนอื่นก็ขอแจ้งกติกาของการอบรมสำหรับท่าน ผนส.3 ดังนี้

1 การลงเวลาเรียน ต้องเซ็นชื่อทุกเช้า-บ่ายที่มีการเรียนการสอน และต้องเช็คเวลาของท่านอย่างน้อยต้องครบ 80 % นะครับ

2 การส่งงาน ตามที่ท่านอาจารย์มอบหมาย

3 การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของรุ่น

4 ท่านต้องมีอีเมลของตัวเอง

5 ทุกเช้าที่มีการเรียนการสอน จะมีการเชิญ ผนส.3 มาพูดหน้าชั้นเรียน ดังนั้นต้องเข้ามาพร้อมกันในเวลา 08.30 น. แต่ละท่านจะมีเวลานำเสนอคนละ 10 นาที

6 ทุกคนจะมีคู่บัดดี้ โดยจะจับคู่ในการอบรมครั้งที่ 2 ทุกท่านเมื่อได้บัดดี้ ต้องสืบให้รู้ว่าบัดดี้ของตนเองคือใคร แล้วเก็บเป็นความลับ เราจะเปิดเผยชื่อบัดดี้ในงานเลี้ยงจบหลักสูตร (วันสุดท้าย) ซึ่งแต่ละคนต้องเตรียมของขวัญไว้ 2 ชิ้น เพื่อมอบให้กับคู่บัดดี้ในวันสุดท้าย ตลอดระยะเวลาที่อบรม ท่านต้องคอยแอบติดตามดูแล เทคแคร์บัดดี้ด้วย

ผมขอฝาก ผนส.3 อย่าน้อยหน้ารุ่น 1 , 2 เกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์กันในรุ่น และการดูแลกันและกันในรุ่น ประคับประคองเพื่อนในรุ่นให้จบหลักสูตรครบทุกคน และอย่าลืมว่าท่านเป็นนักเรียนทุนของสหกรณ์ ยังมีอีกหลายท่านที่รอโอกาส เมื่อท่านได้รับโอกาสแล้ว ก็อยากให้ท่านตั้งใจและทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อก้าวสู่ผู้นำที่พึงประสงค์ของขบวนการสหกรณ์ต่อไป ผมในฐานะหัวหน้าทีมสถาบันฯ ขอเป็นกำลังใจ และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความร่วมมือ

ผมชื่อบัญชา ชลาภิรมย์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัดเป็นผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรนี้ด้วยครับ

ดีใจมากที่ได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์อาจารย์ครับ ขออนุญาตรายงานตัวก่อนในโอกาสต่อไปจะแสดงความคิดเห็นครับ

บัญชา

เรียน อาจารย์จีระและเพื่อน ผนส.3 ทุกท่าน

เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาในบล็อกของอาจารย์ ดีใจที่มีโอกาสเข้ารับการอบรมในหลักสูตรนี้ อาจารย์เข้ามาแล้วก็ขอยุติแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วจะเข้ามาเยี่ยมบล็อกใหม่

สรุปการบรรยายเรื่อง หลักเศรษฐศาสตร์มหภาคกับงานสหกรณ์ โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ในวันที่ 9 มกราคม 2552

·       ผู้นำต้องหลีกเลี่ยงภัยคุกคามทันเหตุการณ์

·       สหกรณ์ต้องอินเตอร์

·       ต้องรู้สภาพแวดล้อมเพื่อบริหารความเสี่ยง

·       เศรษฐศาสตร์ คือ ทางเลือกหนทางในการใช้ทรัพยากรการผลิตอันมีอยู่จำกัด สำหรับการผลิตสินค้าและบริการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

·       เศรษฐศาสตร์มหภาค  คือ การศึกษาเศรษฐกิจของทั้งระบบ ระดับประเทศ ระดับโลก เช่น

-            รายได้ประชาชาติระดับสินค้า และบริการทั้งหมด

-            ความสัมพันธ์ระหว่างรายได้  การบริโภค การออม

-            การลงทุน ระดับการจ้างงานโดยทั่วไป

-            การใช้จ่ายของรัฐบาล

-            การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

-            การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

-           เศรษฐกิจระหว่างประเทศ

·       รัฐบาลไม่เคยใช้สหกรณ์เป็นเครื่องมือเศรษฐกิจอย่างแท้จริง

·       ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP)   หมายถึง มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตขึ้นภายในประเทศในระยะเวลาหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงว่าทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตสินค้า และบริการจะเป็นทรัพยากรของพลเมืองในประเทศหรือเป็นของชาวต่างประเทศ

                      GDP = C+I+G+X-M

 

                        C  =  consumption

                        I    = investment

                        G  =  government spending

                        X  =  exports

                        M = imports

 

·       ไทยส่งออกเก่ง = 70% ของรายได้ เท่ากับ 5 ล้านล้านบาท อัตราแลกเปลี่ยนถูกทำให้ส่งออกดี

·       สหกรณ์ต้องช่วยกระตุ้นการบริโภคของสมาชิก เพราะช่วยให้ GDP มาก

·       ต้องเร่งใช้จ่ายเงินสหกรณ์ออกไป

·       นายกอภิสิทธิ์จึงส่งเสริมให้อบต.ใช้เงิน

·       รัฐบาลควรลงทุนพัฒนาคนจึงจะดี

·       รุ่น 3 ควรทำวิจัยจากประเด็นเศรษฐกิจมหภาค

·       จุดอ่อนการวัด GDP คือ

·       เราไม่ได้ดูค่าครองชีพ GDP ไทยจึงต่ำกว่าความเป็นอยู่จริงของคนไทย

·       ไม่ได้วัดความสุขของคนในประเทศ

·       ไม่ได้พูดถึงจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม

·       สหกรณ์ต้องเน้นคุณภาพมากขึ้น

·       ประเทศไทยยังมีความสามารถในการแข่งขันน้อยเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายการเงินการคลัง การเมือง ทรัพยากรมนุษย์ และการบริหารจัดการ

·       ต้องขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีวัฒนธรรมการออม

·       วิกฤติปัจจุบันได้แก่

·       เงินเฟ้อ

·       Sub-prime

·       การล่มสลายของอเมริกา

·       นโยบายการเมือง ประชานิยม

·       ไม่มีแผนระยะยาว

·       ขาดเรื่องการพัฒนาคนอย่างจริงจัง

·       ขาดเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Workshop 1

ผลกระทบเศรษฐกิจต่อสหกรณ์

·       ส่งออกข้าวลดลง ไทยแข่งเวียดนามไม่ได้ ราคาสินค้าเกษตรลดลง ราคาจำนำแพง สมาชิกไม่สามารถขายข้าวได้ในราคาสูง

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       เงินเฟ้อขึ้นไปถึง 9% สหกรณ์เจอราคาพืชผลตกต่ำ แต่เงินเฟ้อจะลดลง ดอกเบี้ยจะลดมาก

·       ธปท. ลดดอกเบี้ยกระทบรายได้สหกรณ์เพราะต้องลดดอกเบี้ยตาม

·       ส่งออกกระทบสหกรณ์การเกษตรเรื่องส่งยาง

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       การเงินคือดอกเบี้ย การคลังคือหนี้ภาครัฐต้องระวัง

·       Sub-prime มีผลต่อการแทรกแซงราคาข้าวโพด ในตลาดต่างประเทศข้าวโพดราคาต่ำ จึงเหลือในประเทศไทยมาก

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       งานวิจัยของสหกรณ์ควรร่วมมือกันระหว่างหน่วยต่างๆ

·       ไทยเคยมีฟองสบู่แตกเรื่องที่ดิน แต่อเมริกาคือเรื่องที่ดินและบ้าน สมัยก่อนคนมีเงินจึงซื้อได้ แต่ความโลภของคนและนโยบายใต้การนำของกรีนสแปนที่ขึ้นดอกเบี้ยช้า ทำให้กู้ไปซื้อบ้านมากกว่าที่ควรจะเป็น คนที่รวยจากจดจำนองบ้านก็รวย รัฐอเมริกาควรหยุดนานแล้ว แต่พวกนักการเมืองได้เงินจึงค่อยพยุง แต่ฟองสบู่แตกเพราะน้ำมันขึ้น ต้องจ่ายมากข้น ส่งคืนเงินไม่ทันเกิดหนี้เสีย กระทบไปทั่ว เช่น ลีห์แมนบราเตอร์หลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยรีไฟแนนซ์ ซึ่งไม่ดี

·       Sub-prime กระทบสหกรณ์เพราะความต้องการสินค้าของโลกลดลง

·       ไทยเป็นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ หลังฟองสบู่แตกแต่เราก็ค่อยปรับตัว ไอเอ็มเอฟควรทำงบประมาณขาดดุล

·       Sub-prime ขยายรุนแรงกระทบเอเชียมากกว่ายุโรป

·       ถ้าขาดภาษี 16% จะกระทบกรมเพราะไม่มีเงินจ่ายเงินเดือน

·       สินเชื่อในระบบอ่อนแอมาก

 

·       กระทบยางพารา ราคายางตกเพราะภาวะเศรษฐกิจโลก

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       เราเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก รายได้ลด การบริโภคลดลง รถยนต์น้อยจึงใช้ยางน้อย

·       โลกเรามีขึ้นและลง

·       เวลาลง สหกรณ์ต้องอยู่ได้

·       เวลารวย สหกรณ์ก็ต้องยั่งยืน

·       ต้องบริหารความไม่แน่นอนได้ เช่น น้ำมัน ราคาพืชผล

·       สันนิบาตสหกรณ์ควรมีสถาบันวิจัยพยากรณ์สินค้าเกษตร ขอให้ทุกคนช่วยกัน

·       กระทบท่องเที่ยวและบริการ เศรษฐกิจติดลบ กระทบสหกรณ์ขนส่ง และพืชพลังงาน

·       FTA ทำให้พืชต่างประเทศมาแข่ง

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       สหกรณ์ต้องวิจัยเรื่อง FTA และ WTO

·       โคนมออสเตรเลียเข้ามา แต่ต้องรอ 5 ปีจึงจะส่งเงาะเข้าไปขายได้ ออสเตรเลียปลูกเงาะที่ควีนส์แลนด์ เขามีมาตรการกีดกันคือสุขอนามัย

·       กระทบสินค้าเกษตร

·       นโยบายรัฐทำให้เกษตรกรรอความหวังรัฐเรื่องการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตร ควรปล่อยให้ลอยตัว ทำให้เกษตรกรเคยตัว

·       ควรเน้นสินค้าเกษตรล่วงหน้า

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
  • ควรจับนโยบายรัฐบาลและช่องว่างทางเศรษฐกิจ
  • การเมืองก็สำคัญเพราะขับเคลื่อนไปด้วยกัน

·       นโยบายรัฐกำหนดใช้สหกรณ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแก้ปัญหาว่างงาน สหกรณ์ต้องเขียนโครงการของบ สหกรณ์มีหน้าที่ส่งเสริมอาชีพสมาชิกและต้องส่งเสริมการตลาดด้วย

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

     ·       ต้องช่วยกันคิดต่อ ต้องเขียนโครงการให้เก่ง รู้จักปรึกษาคนอื่นจะได้มี

                มาตรฐานพอที่จะได้เงิน

·       ชื่นชมธกส. จับมือทบวงมหาวิทยาลัยให้บัณฑิตกู้

·       สหกรณ์มีพลังมหาศาล ต้องกระจายข้อมูลไปให้สมาชิกให้ได้

ผู้แทนสหกรณ์นาบอน

Workshop 2 ได้อะไรจากชมวีดิทัศน์สัมภาษณ์ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์

·       ไทยได้เปรียบกว่าทุกประเทศ

·       พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ควรลงลึกรูปแบบ

·       ต้องหาโอกาสเพื่อนำไทยไปสู่ระดับอาเซียนไม่เสียเปรียบเรื่องอื่น

·       ที่อ.จีระบอกให้สหกรณ์ทำตัวกว้าง ขึ้นอยู่กับผู้นำ

·       ผมนำสหกรณ์ไปผูกพันช่วยเหลือ จนนายอำเภอมองว่าสำคัญ ต้องหาโอกาสเปิดโลกกว้าง

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       ผู้นำสหกรณ์ควรไปเรียนวปอ. และสถาบันพระปกเกล้าด้วย

·       ควรมีบทบาทในสังคมมากขึ้น

ผู้แทนสหกรณ์การเกษตร

 

·       การเมือง สิ่งแวดล้อม พลังงานทดแทนมีผลต่อโลก จะมีปัญหากระทบเรื่องอาหาร

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       หลังลีห์แมนบราเตอร์พัง ฮาร์วาร์ดเรียน Green Economy เศรษฐกิจเชิงสิ่งแวดล้อม

·       สหกรณ์ต้องทำวิจัยเศรษฐกิจเชิงสิ่งแวดล้อม

·       สหกรณ์ต้องช่วยสังคมที่ไม่ใช่สหกรณ์มากขึ้น Corporate Social Responsibility

·       ระวังสหกรณ์จะมีหนี้เสียมากขึ้น

·       ควรจัด Public Seminar เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดและสมาชิกสหกรณ์มาร่วม

ผู้แทนสหกรณ์จากจังหวัดนครราชสีมา

·       คนที่เข้ามาบริหารคลังไม่ควรเป็นนักการธนาคาร

·       วันนี้ได้คนเก่งระดับดร.ศุภชัยและอาจารย์จีระมาร่วมรายการกัน

·       อยากให้อาจารย์มาร่วมบริหารบ้านเมือง

·       การเมืองยังอยู่กรอบเดิมๆ

·       ในอนาคต อยากให้อาจารย์มามีบทบาทขับเคลื่อนการศึกษาการเมืองสู่ประชาชน ในระดับล่าง ยังขาดเรื่องนี้มาก เขายังรับทราบความจริงน้อย ควรทำผ่านสหกรณ์

·       การเมืองอยู่ในระบบทายาท ควรแก้ไข

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       ชีวิตคนเรา แม้ไม่ใช่นักการเมือง เราก็ทำงานเพื่อประเทศได้ แต่ต้องชอบในสิ่งที่ทำ ต้องรู้จักเชื่อมโยงกับการเมือง

·       เราควรกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจช่วยส่งคนไปเวทีโลก

·       คนไทยขาดการวิเคราะห์ข้อมูล เชื่อตามเสียงข้างมาก ต้องทำให้คนคิดวิเคราะห์เป็น

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       ถ้าไปอยู่ในเวทีโลกได้ ก็จะได้เรียนรู้

·       ลูกในวงการสหกรณ์ต้องบ้าคลั่งความเป็นเลิศ ต้องมีโลกทัศน์กว้าง

·       ต้องหูตากว้างไกล

·       จากการดูวีดีโอมีมุมกล้องสวยงาม

·       ต้องพัฒนาที่คน ทำแผนพัฒนาไปสู่ความสำเร็จ ควรมีแผนพัฒนาต่อเนื่อง

·       กระทรวงศึกษาเขียนแผนมากแต่สถานศึกษาไม่ค่อยทำ

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       ดร.ศุภชัยทำวิทยานิพนธ์เรื่องทรัพยากรมนุษย์จึงเชื่อมโยงกับผมได้

·       การจุดประกายเล็กๆทำให้ก้าวไปได้

·       สหกรณ์เป็นศูนย์กลางชุมชน แต่ถูกมองว่าทำงานด้านธุรกิจมาก

·       ต้องทำสหกรณ์ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

·       ควรสร้างเยาวชนมีความรู้วิเคราะห์ข้อมูล และสันนิบาตสหกรณ์เป็นหัวขบวน

·       ศักยภาพคนไทยและประเทศไทยเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ เขาก็ยังเข้ามาเที่ยวและลงทุน

·       ผู้นำสหกรณ์ได้รับผลกระทบแต่ก็ต้องมีทางแก้

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       อยากให้รุ่น 3 ยกระดับภาพลักษณ์สหกรณ์

·       คนไทยในสายตาคนต่างชาติยังเป็นที่ชื่นชอบอยู่ แต่คนไทยชอบพูดทำลายตนเอง

·       อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังไม่ทรุดเท่าที่คิด

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
  • นักท่องเที่ยวมากแต่รายได้เข้าประเทศน้อย เรานำเข้าน้ำมันมากกว่า

เรียน อาจารย์จีระ

ทศเทพ เทศวานิช ภูมิใจมากที่ได้เข้าเรียนกับอาจารย์ จะตั้งใจรับองค์ความรู้จากอาจาย์ทุกท่านในการอบรม ผนส.รุ่นที่ 3 และจากพิ่/เพื่อนผู้เข้ารับการอบรมทุกท่าน สำหรับการเข้า Blogs นี้จะเข้ามาศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ

การเรียนวันที่ 2 เริ่มต้นด้วยวิชา สหกรณ์:ทฤษฎีและการปฏิบัติ โดย ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร และมีการเปลี่ยนที่นั่งใหม่เป็นสิ่งที่ดีได้รู้จักรเพื่อนใหม่และวิชาที่เรียนที่ดีมาก เพราะปัจจุบันคนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกสหกรณ์ต้องเรียนรู้เรื่องสหกรณ์ก่อนว่าต้องทำอย่างไรบ้างไม่ใช่ รู้แต่ว่าเป็นสมาชิกสหกรณ์และกู้อย่างเดียว

ซึ่งจะนำไปใช่ในสหกรณ์

สำหรับวันนี้ตอนบ่ายเป็นวิชาของอาจารย์จีระ หลักเศรษฐศาสตร์มหาภาคกับงานสหกรณ์ ซึ่งปกติสหกรณ์ไม่ค่อยนำมาใช้มากนัก แต่พอฟังอาจารย์บรรยายแล้ว มีความจำเป็นมากและต้องทำ และที่หน้ากลัวคือที่อาจารย์พูดเรื่องว่าอีกไม่เกิน 12 เดือนราคาน้ำมันจะสูงขึ้น สิ่งที่หน้ากลัวมาก และสหกรณ์ ต้องเตรียมตัวเพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

การมาเรียนครั้งนี้ถือว่าคุ่มค่ามาก ได้ความรู้ ได้เพื่อนใหม่ และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์

ผลการเลือกประธานผนส.รุ่นที่3 คือรองศาสตราจารย์บัญชา ชลาภิรมณ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด

ต้องขอแสดงความยินดีด้วย

ได้มีโอกาสเข้ามารับการอบรม ผู้นำสหกรณ์รุ่นที่ 3 นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะได้รับความรู้เพิ่มเติม และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน จากการที่ได้รับชม วีดีทัศน์ ที่อ.จีระ สัมภาษณ์ ดร.ศุภชัย แล้ว ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ในเรื่องการปลูกฝังความรู้เรื่องการ

สหกรณ์นั้น จะต้องสอนและให้เรียนรู้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ เพราะ วิชาสหกรณ์นั้นมีทั้งในเรื่องประชาธิปไดย การเสียสละ ความมีคุณธรรม จริยธรรม เป็นต้น หากเด็ก ๆ ได้ซึมซับสิ่งเหล่านี้ ในอนาคตบ้านเมืองคงจะดีขึ้น

เรียน ท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.ทุกท่าน

แวะมาเยี่ยมครับ วันนี้เปิดอ่านบล็อค ผนส.3 รู้สึกดีใจและภูมิใจครับ

เพราะว่าบล็อคของผนส.3 พอเริ่มวันแรกของการอบรม ก็เต็มไปด้วยสีสรรและไฟแห่งการเรียนรู้ มีการเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านลงมาในบล็อคอย่างมากมาย ต้องขอชมว่ายอดจริง

เดี๋ยวบล็อคของ ผนส.2 ต้องปรับกระบวนการใหม่แล้วครับ

ดีใจด้วยนะครับ จากผนส.2

นพ.กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

ดีใจมากครับ และคิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่มาเข้าอบรม ผนส.รุ่น3 ต้องขอขอบคุณที่รับผม เพียงสองวันที่อบรมก็เปลี่ยนกรอบแนวคิดของผมต่อสหกรณ์และสันนิบาตสหกรณ์ ทั้งๆที่ผมเข้ามาทำงานสหกรณ์ด้วยความสนใจส่วนตัวและไม่เคยหยุดนิ่งที่จะคิดกิจกรรมหรือโครงการใหม่ๆ แต่ต้องยอมรับว่ายังเด็กๆ วันนี้ต้อง change to think big! อาจารย์ จีระ ครับ ลูกศิษย์คนนี้จะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง และคิดว่าผนส.รุ่น3จะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังเช่นกัน ผมจะทยอยแสดงความคิดเห็นและcommentออกมาเรื่อยๆครับ

วันนี้ อ.ปรีชา ได้มาเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของขบวนการสหกรณ์ ซึ่งการสหกรณ์นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่พอมาถึงไทยแล้ว มันเหมือนบิดเบี้ยวไป แต่ถึงอย่างไรคิดว่าก็คงยังไม่สายเกินไป เพราะเราจะได้ผู้นำสหกรณ์ ที่ดีในรุ่นที่ 3 นี้ นำสิ่งดี ๆ ไปถ่ายทอด และทำให้เกิดผลต่อไป อย่าให้มีความรู้เพียงในห้องเรียน แค่เพียงวันแรกที่ได้รับความรู้ ก็รู้สึกถึงคุณค่าของหลักสูตรนี้แล้วค่ะ

การขับเคลื่อนด้วยความคิด อันดับแรกต้องเป็นความคิดเชิงบวก กล้าคิดนอกกรอบแต่ต้องเป็นไปด้วยความถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คิดอย่างมีคุณธรรม เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

การอบรมผ่านไป 2วัน เกิดปรากฎการณ์ หู ตา สว่าง โลกที่ใครว่ากว้างใหญ่

อาจารย์ 2 ท่านย่อมาไว้ในมือพวกเรา แล้วก็คาดหวังจะให้พวกเราช่วยกันรังสรรค์

ปั้นแต่งให้งดงามต่อไป "คงไม่ง่าย" เพราะผู้นำสหกรณ์ "ตัวจริง" (ประธาน รอง

ประธาน)จะมีโอกาสเข้ารับการอบรม "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" สัก...? เหตุผล ไม่มี

เวลาครับ!

2วันที่อบรมพูดได้อย่างเดียวว่าดี

หลักสูตรผู้นำสหกรณ์มีประโยชน์ในการเปิดโอกาสให้ผู้นำได้ตีกรอบประสบการณ์เข้ากับหลักวิชาการ เพราะหัวใจของสหกรณ์จะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ผู้นำ จากการเรียนทำให้ได้เกิด

ประกายในความคิดมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวโดยมีอาจารย์จิระเป็นผู้จุดประกายในความคิด

ชอบวิธีการสอนของอาจารย์มาก

ผู้นำต้องคิดเชิงบวก ทำวิกฤตให้เป็นโอกาส เรียนรู้อย่างจริงจัง

กัญจน์นิกข์ กำเนิดเพ็ชร์

รู้สึกดีใจที่ได้ได้เข้าอบรมในหลักสูตรนี้ อบรมมา 3 วันได้รับความรู้ และได้โอกาสแลกเปลี่ยนความรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรง ทำให้เปิดโลกทัศน์ที่กว้างไกลยิ่งขึ้น

เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

เมื่อวานนี้ที่ผมได้ดูเทปของ NBT ที่ท่านสัมภาษณ์ ดร.ศุภชัย นั้นผมจับประเด็นเรื่องผลกระทบของการเกิดภาวะวิกฤตโลก ที่เกิดขึ้นประเทศอเมริกา เกิดล่มสลายของเศรษฐกิจ เกิดการบริหารเศรษฐกิจภายในประเทศอเมริกา นั้นผมอยากทราบปัญหาที่แท้จริงว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อเราจะได้นำมาเป็นบทเรียนของประเทศไทย เพื่อจะได้เป็นภูมิคุ้มกันในการบริหารเศรษฐกิจของเรา ขอบคุณครับ

นพ.กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

เศรษฐกิจโลกถดถอยคราวนี้ถือเป็นวิกฤตใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ คนไทยเคยมีภูมิต้านทานมาแล้วครั้งหนึ่ง คิดว่าบทเรียนคราวนั้นจะทำให้เราสามารถฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ พวกเราต้องเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องช่วยเหลือให้ประเทศไทยของเราทุกคนรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ให้ได้ ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

เข้ารับการอบรม ผนส.รุ่นที่3 วันนี้เป็นวันที่สามแล้วคิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่มาเข้าอบรม ผนส.ในครั้งนี้ จากการที่ได้เข้ารับการอบรมกับ ศ.ดร.จีระ ซึ่งมีวิธีการอบรมที่แปลกกว่าที่กระผมได้ผ่านการอบรมมาจะแปลกยังไรจะบอกให้ติดตามตอนต่อไป

การบรรยายเรื่อง โลกาภิวัตน์: ผลกระทบและการเตรียมพร้อมเชิงรุกและรับ โดย ดร.เฉลิมพล เกิดมณี ในวันที่ 10 มกราคม 2552

·       ต้องพัฒนาคนให้มีคุณภาพ สามารถสร้างเทคโนโลยีแล้วนำไปต่อยอดได้

·       การรักษาโรคในอนาคตต้องใช้ข้อมูลทางดีเอ็นเอ ทำให้เข้าใจการระบาดของโรค

·       ศาสตร์ต่างๆของโลกจะรวมตัวกันอธิบายเรื่องพลังงานได้ วิทยาศาสตร์ก็จะอธิบายสิ่งเหนือธรรมชาติได้ เช่นวิเคราะห์น้ำมนต์บางที่พบว่ามีการบิดตัวของน้ำ นำไปรดต้นไม้ทำให้โตเร็ว 30 %

·       พุทธศาสนาสอนให้มองสิ่งต่างๆว่าเกิดจากการปรุงแต่ง

·       สิ่งแวดล้อมต้องแก้ที่นาโนเทคโนโลยี

·       ความเจริญของเอเชียแปซิฟิกจะกลับมาอีกรอบ

·       การสื่อสารจะกลับเข้ามา

·       GMO มีการตรวจสอบเหมือนการทำยา มีการแสดงออกอย่างไร

·       GMO มีความปลอดภัยการกินสูง แต่อาจมีอาการแพ้ในบางคน

·       GMO ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน่ากลัว ทำให้เก่งเกินจริงอาจทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้กลายพันธุ์ เกิดโรคใหม่ เกิดปัญหาทางจริยธรรมไม่สามารถพิสูจน์บุตรได้

·       นำยีนของมะเขือเทศเขียวตลอดกาล นำไปใส่หนูทำให้หนูอายุยืนถึง 3 เท่า

·       ผลกระทบ GMO ในการค้าโลก คือ GMO มีต้นทุนผลิตถูกกว่า และทำให้สินค้าคุณภาพดีกว่า แต่ผู้บริโภคยินดีรับความเสี่ยงในการบริโภค

·       พลังงานที่มาแรงคือไฮโดร

·       พลังงานลมได้รับความนิยมสูงเพราะถูก

·       ไทยใช้พลังงานชีวภาพ หมักจากอ้อย มันสำปะหลัง

·       ยุโรปใช้พลังงานนิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้า ฝรั่งเศสใช้ผลิตไฟฟ้าเลี้ยงทั้งทวีปยุโรป

·       ในการผลิตข้าว หมักฟางในนาเกิดก๊าซมีเทนทำลายโลก ประเทศเกษตรก็ทำให้โลกร้อนได้เหมือนกัน

·       ภาคกลางและภาคใต้ของไทยจะจมน้ำแล้วหายไปจากแผนที่โลก

·       คุณภาพคนสร้างได้ดังนั้นอัจฉริยะสร้างได้

·       มนุษย์พันธุกรรมต่างกันไม่มาก แต่มีตัวอื่นทำให้เราต่างคือสภาพแวดล้อม และการบ่มเพาะ

·       สมองซีกซ้ายคิดแบบคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์อธิบายตามที่เห็น

·       สมองซีกขวาคิดแบบศิลปะ อธิบายยากกว่า

·       คุณภาพของคนมีหลายระดับ คนไทยส่วนใหญ่อยู่ในระดับทักษะและเทคโนโลยี ส่วนประเทศพัฒนาแล้วขั้นต่ำของคนอยู่ในระดับวิจัยและพัฒนา

·       การวิจัยและพัฒนาคือการพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น ไม่จำเป็นว่าต้องทำในห้องแล็ปเท่านั้น

·        พัฒนาคนต้องพัฒนา IQ (ความฉลาด) EQ (ความฉลาดทางอารมณ์) MQ (จริยธรรม) สำคัญสุด SQ (การเอาตัวรอด)

·        บุคลิกคนไทยมี S คือเป็นผู้ฟัง แต่องค์กรต้องมีทั้ง C คนยึดความถูกต้อง D คนกล้าตัดสินใจ S ผู้ฟัง I ชอบเข้าสังคม

·       คนไทยเป็นกลุ่ม S มากเพราะการเลี้ยงดู

·       ทุกบุคลิกเป็นผู้นำได้แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์

·          C ควรทำงานบัญชี พนักงานสินเชื่อ

·          I ควรทำงานพิธีกร บันเทิง

·       ควรเก่งรอบด้าน รู้ว่าตนเองเก่งอะไร ทำสิ่งที่ตนเองเก่ง

·       การเอาใจคน

·          D ต้องการให้ลูกน้องถาม ชอบสั่งงานแบบเป้า

·          C ต้องใช้เหตุผลตรงประเด็น

·          I ชอบเอาอกเอาใจ

·          S ต้องสร้างศรัทธา ให้ความรัก

·       ต้องสร้างคนให้คิดเป็นเหตุเป็นผล โดยต้องพัฒนาการใช้ประสาทสัมผัสเพราะจุดประกายคุณสมบัติอื่นๆ

·       หัวหน้าต้องใช้คำถามเพื่อฝึกลูกน้อง

·       เวลามอบหมายงาน กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน คิดเชิงบวกเพิ่มโอกาสความสำเร็จ ต้องดูความถนัดของคน เลือกวิธีการทำงาน ลดความเสี่ยง ปรับปรุงการทำงาน

·       ต้องมีการสื่อสารสองทาง

·       การคิดนวัตกรรมสามารถพัฒนาได้

·        อุปสรรคนวัตกรรมคือ วิถีชีวิตเดิมๆ งานมาก เฉื่อย

·       สหกรณ์ต้องขายสินค้าที่แตกต่าง มีมูลค่าเพิ่ม

·       วิธีสร้างนวัตกรรมคือ เรียนรู้จากประสบการณ์ เทียบจากสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต เช่น ญี่ปุ่นสร้างเครื่องทำอุโมงค์โดยดูการทำงานของไส้เดือน  นำของเดิมไปใช้ในแบบใหม่

·        การคิดนวัตกรรมแบบง่าย ทำได้โดยเปรียบเทียบของสองสิ่งแล้วนำมาหาจุดร่วมให้ได้ แล้วสร้างสิ่งใหม่ขึ้น

·        คนแต่ละบุคลิกคิดนวัตกรรมต่างกัน

·       การคิดนวัตกรรมช่วยพัฒนาธุรกิจได้มากขึ้น

·        นวัตกรรมมีหลายระดับ เช่น ร้านโชห่วย พัฒนาเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วเป็นค้าทางคอมพิวเตอร์

·       คนคิดนวัตกรรมเก่งคือคนที่อยากสบาย อยากมีพัฒนาการตลอดเวลา

·        ทำงานต้องเน้นเป้าหมายก่อนเวลา

·       เวลาเกิดปัญหา อย่าตกใจเกินเหตุแต่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ได้รับความรู้เรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้านเทคโนโลยี ทรัพยากรและคุณภาพมนุษย์

ได้รับรู้เรื่อง GMO ลึกซึ่งขึ้นจากที่ไม่เคยทราบมาก่อน

·       เศรษฐกิจพอเพียง สหกรณ์ยังเข้าใจน้อย ควรมีสรุปย่อๆให้คนเข้าใจเพื่อสหกรณ์จะได้อธิบายแก่สมาชิก

ดร.ธันวา จิตต์สงวน

·       เห็นด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรทำ

อดิศักดิ์ สหกรณ์โคนมปากช่อง

·       จะประยุกต์เศรษฐกิจพอเพียง อย่างไร

·       เรามีสมาชิก 700 คน ไม่มากไป

·       มีแผนลงทุนอีก 5 ปี อนาคตจะแปรรูปด้วยนอกจากส่งน้ำนมให้เอกชน จะหาตลาดที่รองรับก่อน

ดร.ธันวา จิตต์สงวน

·       ดูแล้วก็พอเพียง มีเหตุมีผล พอประมาณและมีภูมิคุ้มกัน

ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์

·       ทำอย่างไรให้เขาเข้าใจถ่องแท้ เราให้ค่าตอบแทนวิทยากร 900 ปีนี้ให้เงินแก่สหกรณ์เลย

ดร.ธันวา จิตต์สงวน

 

·       ต้องสร้างจำนวนผู้รู้ด้านนี้ให้มาก ต้องสร้างวิทยากร 500 คน อบรมแล้วทดสอบวิทยากรก่อนให้ไปสอน

·       กระทรวงเกษตรต้องมีวิทยากร 5,000 คน กรมส่งเสริมสหกรณ์มีวิทยากร 3,000 คน

·       ปัญหาคือการลดละอัตตาของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

สรุปการบรรยายเรื่อง การประยุกต์ใช้แนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดย ดร.ธันวา จิตต์สงวน

·       ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงคือแนวคิดที่ทำให้อยู่ในโลกได้อย่างยั่งยืน

·       ยุคนี้คือการปฏิวัติด้านชีวภาพ ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องผ่าตัด

·       ต้องฉลาดในการบริโภคอาหาร ควรกินข้าวกาบ้า (ข้าวกล้องงอก) ทำให้ผิวนุ่มนวล

·       Sub-prime ทำให้เกิดหนี้เสีย ไทยอาจทรุดเพราะธนาคารต่างชาติมีปัญหา

·       โลกเร็วโดยเฉพาะข้อมูลข่าวสาร

·       อุณหภูมิเปลี่ยนทำให้ไทยมีฝนมากขึ้นและแมลงมากขึ้น รวมทั้งโรคด้วย

·       โลกจึงจัดระเบียบโดยโลกาภิวัตน์ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน การค้าเสรีและสิ่งแวดล้อม

·       ต้องส่งเสริมการศึกษาเพราะเป็นรากฐานให้เข้าใจประชาธิปไตย

·       สหกรณ์เป็นเวทีสำคัญสำหรับให้ความรู้ประชาธิปไตย ต้องแทรกในกิจกรรมสหกรณ์

·       โลกาภิวัตน์ก็เกิดปัญหาเช่นเรื่องการเปิดการค้าเสรี

·       โลกาภิวัตน์เป็นโอกาสสำหรับสหกรณ์ ถ้าเก่งและมีความสามารถ

·       สหกรณ์ต้องเข้าใจองค์กรธุรกิจสากล แล้วรู้จักปรับองค์กร มีความรู้ทันสมัยแล้วนำมาประยุกต์ใช้

·       มนุษย์ต้องมีความรู้ ไม่งมงาย กายและใจแข็งแรง มีความสามัคคี

·       95% ของโลกอยู่ในระบบทุนนิยมขับเคลื่อนโดยการบริโภค คนจีนใช้ทรัพยากรมาก

·       สหกรณ์เป็นทุนนิยมลักษณะพิเศษขับเคลื่อนโดยแรงจูงใจต้องมีกำไรแต่ต้องเป็นกำไรของส่วนรวม

·       ทุนนิยมน่ากลัวอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา

·       คนรวยในประเทศพัฒนาแล้ว ก็อยู่แบบธรรมดาแต่นำเงินมาทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม เช่น บิล เกตส์ตั้งมูลนิธิช่วยเด็กที่เป็นโรคเอดส์

·       ต้องภูมิใจในความเป็นไทย อย่าบ้าคลั่งวัฒนธรรมต่างชาติมากเกินไป

·       ต้องส่งเสริมค่านิยมทำงานหนัก อดทน ซื่อสัตย์

·       ไม่ควรสนใจ GDP มากเกินไป

·       ต่างจังหวัดแทบจะไม่ได้รับผลกระทบ Sub-prime แต่ภาคส่งออกได้รับผลกระทบ

·       ไทยมีทุนสังคม กริยามารยาท มีน้ำใจ อบอุ่นและทุนสิ่งแวดล้อม

·       ไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพแต่ใช้ไม่เป็น

·       ในการพัฒนา ควรให้คนมีส่วนร่วม ให้คนเป็นศูนย์กลาง ยึดภูมิสังคมเป็นหลัก ดูงานได้แต่อย่าลอก

·       ภูฏานเน้นความสุขมวลรวม ได้แก่ เศรษฐกิจยั่งยืน ประเพณีเข้มแข็ง อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการแบบธรรมาภิบาล

  • วิสัยทัศน์ประเทศไทย 2550-2555 จะเป็นสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน ใช้ประโยชน์จากเงิน กลุ่มสหกรณ์(ทุนสังคม) และสิ่งแวดล้อม
  • เศรษฐกิจพอเพียง
    • คุณลักษณะ
      • พอประมาณ เช่น จัดสรรเงิน เวลาดี แต่งตัวสมฐานะ ดูแลตนให้สมกับวัย ขนาดสหกรณ์ไม่ควรใหญ่หรือเล็กเกินไป
      • มีเหตุผล เช่น ไทยควรเน้นพัฒนาเกษตรเพราะเหมาะสมกับทรัพยากร
      • มีภูมิคุ้มกันในตัวเอง เช่น มีเพื่อน กลุ่ม ชมรม ออมทรัพย์ ประกันชีวิต มีเส้นสายช่วยเหลือในสิ่งที่มีเหตุผล มีหลายอาชีพรองรับ
    • ต้องมีความสมดุล ความมั่นคง ความยั่งยืน
    • 2 เงื่อนไข คือ ความรู้และ คุณธรรม
    • ต้องมีชีวิตเหมาะสมตามอัตภาพ มีหนี้แต่ต้องใช้คืนได้ มีการสังสรรค์พอประมาณเพื่อสร้างเครือข่าย
    • รู้จักพัฒนาตนเองให้สมกับความเก่งของตนเอง ใช้ศักยภาพที่มีอยู่

 

·       ต้องเข้าใจปรัชญาสหกรณ์ไทยและสากล นำมาประยุกต์ใช้ให้ได้ อย่าเลียนแบบกัน

·       ประเทศไทยควรทำเกษตรมากกว่า ทำเกษตรดี แพง สะอาด เน้นสปา อาหาร

·       ทำอะไรให้สมฐานะ คนเก่งต้องทำมาก แต่คนไม่เก่งทำน้อยแต่ต้องพยายามพัฒนา

·       อย่าประมาท ต้องมีภูมิคุ้มกัน

·       สหกรณ์คือภูมิคุ้มกัน ทำให้มีเพื่อนและมีพลัง

·       ทำอะไรให้เหมาะกับศักยภาพ

·       เศรษฐกิจพอเพียงเป็นของทุกคน

·       ใช้ของแพงได้แต่อย่ากู้หนี้ยืมสินมาซื้อ

·       เศรษฐกิจพอเพียงไม่ต่อต้านโลกาภิวัตน์ แต่ต้องเหมาะกับอัตภาพ

·       โลกเราต้องเข้าหาแนวทางประนีประนอม นั่นคือทางสายกลาง

·       บริษัทต้องคืนกำไรให้สังคม

·       เศรษฐกิจพอเพียงนำมาประยุกต์กับสหกรณ์ได้ง่ายมาก

·       สหกรณ์คือการรวมกลุ่มของสมาชิกเพื่อช่วยเหลือสมาชิกด้วยกันเองเป็นหน่วยพัฒนาเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพกว่าในการประหยัดทางขนาดและทางขอบข่าย

·       ความสำเร็จของสหกรณ์ขึ้นอยู่กับคุณภาพสมาชิกและประสิทธิภาพการจัดการบริหาร

·       อย่าให้สหกรณ์โตแบบก้าวกระโดด

·       มีเหตุผลในการจัดตั้งสหกรณ์

·       มีเครือข่ายสหกรณ์

·       สหกรณ์ต้องมีการเรียนรู้

·       สหกรณ์ต้องมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส

·       การส่งเสริมสหกรณ์เท่ากับขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง เช่น โปรโมทสหกรณ์ ศรัทธาเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้ ปฏิบัติและนำมาเป็นวิถีชีวิต

·       บุคลากรสหกรณ์ควรสอนให้ทำ ทำให้ดู อยู่ให้เห็นเศรษฐกิจพอเพียง

การบ้าน

1. ให้คำจำกัดความองค์กรการเรียนรู้ นึกถึงบรรยากาศ 2  วันที่ผ่านมา สหกรณ์จะเป็นองค์กรการเรียนรู้ได้อย่างไร

2. อ่านข้อ 19 จาก powerpoint สรุปประเด็น โลกาภิวัตน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์อย่างไร

ประธานรุ่น

รศ. ดร.บัญชา ชลาภิรมย์

 

เลขานุการรุ่น

นายธนะ บำรุงแสง

 

เหรัญญิกรุ่น

นางพจนารถ เกษประคอง

 

วันนี้ (11 มค.52) ได้เรียนรู้ 2 วิชา จาก ดร.เฉลิมพล และ ดร.ธันวา ได้รับความรู้อย่างมากมายมหาศาล พร้อมทั้งมีความสนุกสนานในการเรียนรู้ อาจารย์เฉลิมพล มีวิธีการนำเสนอ เปรียบเทียบ ยกตัวอย่าง ทำให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนอาจารย์ธันวา สอนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ ได้อย่างลึกซึ้ง สามารถนำไปปฏิบัติได้ โดยเฉพาะระบบสหกรณ์นั้น สามารถนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ได้เลย พวกเรา ควรร่วมด้วยช่วยกันขับเคลื่อนและถ่ายทอดให้สมาชิกตลอดจนเกษตรกรหรือบุคคลโดยทั่วไปให้ทราบถึงหลักเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อว่าประเทศไทยอยู่รอดแน่

กิตตินันท์ สอ.โรงพยาบาลพระปกเกล้า

สหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่งตั้งมานานเกินกว่า20ปีมีสมาชิกหลายพันคน ปล่อยเงินกู้แก่สมาชิกเกินกว่าสองเท่าของทุนของสหกรณ์เอง เงินรับฝากเองก็มีไม่พอต้องไปกู้เงินจากที่อื่นเพื่อให้สมาชิกกู้ และก็เกิด NPLขึ้นต้องฟ้องร้องบังคับคดีกันหลายราย สหกรณ์แบบนี้จะเป็นตัวอย่างของหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้หรือเปล่า อยากขอให้เพื่อนๆช่วยกันแสดงความคิดเห็น

วันนี้เป็นการเรียนวันที่ 3 เริ่มสนุกมากขึ้น รู้จักพี่ๆในรุ่นมากขึ้น และคุยสนุก ได้มีการแลกเปลี่ยนกันหลายสหกรณ์ในเวลาทานอาหารและเวลาว่าง และสำหรับวันนี้ได้เรียนรู้ 2 วิชา จาก ดร.เฉลิมพล และ ดร.ธันวา ได้รับความรู้อย่างมากมาย โดยเฉพาะระบบสหกรณ์นั้น สามารถนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ได้เลยเพราะสหกรณ์กับเศรษฐกิจพอเพียงไม่ต่างกันเลย ซึ่งจะนำมาใช้กับสหกรณ์อีกวิชาหนึ่งด้วย

และหลังเลิกเรียนรีบกลับบ้านก่อน ไม่ทราบในรุ่นมีอะไรคุยกันต่ออีกหรือไม่ แล้ววันที่ 23-24 พบกันอีกครั้ง และทุกคนอย่าลืมการบ้านที่อาจารย์สั่งนะ

    เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

    สวัสดี พี่ๆเพื่อนร่วมรุ่นทุกคน ดีใจมากที่ได้มาเรียนร่วมกัน

  •        การบ้าน ความหมายขององค์กรแห่งการเรียนรู้ : องค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาและปรับปรุงขีดความสามารถ ศักยภาพของทั้งบุคคล ทีมงานและองค์กร อย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะได้มาซึ่งผลลัพธ์ อย่างที่ใจสมาชิกทุกคนในองค์กรต้องการร่วมกันจริงๆ

   คุณลักษณะขององค์กรแห่งการเรียนรู้ 5 ประการ

  1.การรู้จักตนเอง (personal mastery) หมายถึง การที่บุคลากรองค์กรรู้จักตัวของตัวเอง และรู้วิธีในการสร้างเสริมศักยภาพของตน การพัฒนาวินัย(discipline)ในข้อนี้จึงหมายถึง การพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเองไปพร้อมๆกันทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านสติปัญญา/ความรู้ ด้านจิตใจและด้านอารมณ์ โดยพัฒนาให้บุคลากรแต่ละคนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมีความสามารถในการสร้างสรรค์เชิงรุกทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจนติดเป็นนิสัยไปตลอดชีวิต

   2.การมีมุมมองที่กว้างไกล (mental models) หมายถึงบุคลากรในองค์กรมีอัตตา (ego) ต่ำเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่างออกไปจากผู้อื่น รวมทั้งมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในศักยภาพของเพื่อนร่วมงาน

  3.การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน (shared vision) เป็นการทำความเข้าใจร่วมกันในการตั้งเป้าหมาย และมองอนาคตของตนเองไปในทิศทางเดียวกันกับขององค์กรโดยให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการสร้างวิสัยทัศน์ขององค์กรอันจะนำไปสู่ความต้องการร่วมกันของทั้งบุคลากรมีส่วนร่วมในการสร้างวิสัยทัศน์ขององค์กรอันจะนำไปสู่ความต้องการร่วมกันของทั้งบุคลากรและองค์กร

4.การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (team learning) เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิด หลักการ และวิธีการทำงานร่วมกันเป็นทีมได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะนำไปสู่องค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานที่ก่อให้เกิดพลังและประโยชน์ทั้งต่อตนเองและองค์กรได้อย่างแท้จริง

  5.การคิดเป็นระบบครบวงจร (systems thinking) เป็นการคิดภาพรวมทั้งระบบ(holistic) ที่สัมพันธ์เชื่อมโยงกันทั้งหมดอย่างเป็นตรรกะ (logic)โดยพิจารณาถึงต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาและผลกระทบของปัญหานั้นที่มีต่อทุกส่วนขององค์กรอันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     คุณลักษณะขององค์กรแห่งการเรียนรู้ทั้ง 5 ประการ สามาถนำมาใช้กับงานสหกรณ์ได้เลย

     

ขนิษฐา บวชสันเทียะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ ดีใจมากที่ได้มาเรียน ผนส.3 ในครั้งนี้ นอกจากได้รับความรู้เพิ่มเติมแล้ว ยังได้รู้จักเพื่อนจากหลายหน่วยงานด้วยค่ะ

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

ตั้งใจมากอยากจะเรียนตั้งแต่ ผนส.2 แต่ก็ไม่สายเพราะเราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ดีใจที่ได้มาเรียน ผนส.3 ที่มีหลักสูตรที่เข้มข้นขึ้น จากการเรียน 3 วันที่ผ่านมา กระผมขอสรุปว่าหลักสูตรนี้ไม่ธรรมดาครับอาจารย์

สวัสดี ผนส.รุ่น 3 ทุกท่าน

รู้ยินดี และขอต้อนรับ ผนส. รุ่น 3 ทุกท่าน เข้าสู่การสัมมนา "ผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง รุ่น 3"  ขอขอบใจอย่างมาก สำหรับ ผนส.รุ่น1 และ 2 ที่ได้มีส่วนร่วมในการต้อนรับ รุ่นน้องอย่างสมเกียรติ  และเป็นแบบอย่างที่ดี ของผู้มีภาวะผู้นำ พึงกระทำต่อกัน คือการสร้างความดีงามต่อกัน 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผนส. ทุกท่าน จะเป็นผู้นำที่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไทย ให้พัฒนา ถาวร

ด้วยความชื่นชม ยินดี

อาจารย์ยม

http://gotoknow.org/profile/yom-nark

http://gotoknow.org/blog/yom-nark11/234646

ประยูร รัตนเมธางกูร ผู้นำ สก. ขั้นสูงรุ่น 3 สกต.นครราชสีมา

ถือเป็นโอกาศดี ที่ได้เข้าอบรมโครงการ หลักสูตรผู้นำ สก.ขั้นสูงรุ่น 3 ถ้าพลาดครั้งนี้คงเสียดายไปนาน

- เคยผ่านการอบรมหลักสูตรต่างๆพอสมควร การอบรมหลักสูตรนี้เพียงสำผัสใน 2 วันแรก ความรู้สึกต่างจากการอบรมในหลักสูตรอื่นๆอย่างมากมาย

- ความกระตือรือร้นที่จะรับเนื้อหาจากวิทยากรมีมากในตัวตลอดเวลา

- รูปแบบการจัดโครงการ เท่าที่ได้ศึกษา หัวข้อวิชา มีเนื้อหาสาระเหมาะสมตรงกับบทบาทหน้าที่ รวมทั้งใช้เวลาที่เหมาสมทั้งหลักสูตร

- การมีส่วนร่วมแฝงไว้ในเนื้อหาวิชาระหว่างผู้เข้ารับการอบรมด้วยกัน ซึ่งสามารถที่จะแชร์ไอเดียร์ซ่งกันและกันได้มาก รวมทั้งการต่อยอด ทั้งผู้เข้าอบรมและวิทยากรได้กว้างขวางขึ้น

- หลักสูตรนี้น่าจะเป็นชิ้นโบว์แดงให้สันนิบาต และ เสริมภาพลักษณ์สถาบันฝึกอบรม "พิทยาลงกรณ์" สร้างความเชื่อถือไม่แพ้สถาบันอื่นๆ เช่น พระปกเกล้า หรือ ป.ว.อ.

- อยากเห็นทฤษฏีใหม่ จาก อ.จีระ ในโครงการต่อไป หรือ จะมีเรื่องวิจัยที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการนี้ พร้อมจะเข้าร่วมโครงการอย่างทุ่มเท

- ชื่นชมและมั่นใจ อ.จีระ ถือว่าอาจารย์ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้สันนิบาตได้มาก อยากให้ อาจารย์สร้างสันนิบาตเป็นสถาบันฝึกอบรมฉีกแนวใหม่ในยุคโลกาภิวัติ

- สงสัยเล็กๆทำไม? ใช้คำว่า "ผู้นำขั้นสูง ทำไมไม่ใช้คำว่า ผู้นำชั้นสูง"

                                  สวัสดีครับ

เรียน อาจารย์จีระ

ยินดียิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ ซื้อหนังสือของอาจารย์ไปเปิดดูบ้างแล้ว เห็นว่าเป็นหนังสือที่ดีมีประโยชน์ คงต้องพยายามหาเวลาอ่าน จะได้เข้าใจลึกซึ้งขึ้น ขอบคุณที่ผลิตหนังสือเล่มนี้ออกมา และอยากดูเทปที่อาจารย์คุยกับท่านพารณ ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสไหม ขอบคุณค่ะ

ราตรี

การอบรมหลักสูตร ผนส.รุ่น 3 แตกต่างจากการอบรมที่ผ่านๆมามาก เพื่อนร่วมรุ่นมีความแตกต่างกันทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ แต่ทุกท่านก็ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่วนตัวข้าพเจ้าก็ตื่นเต้นและกลัวอยู่ตลอดเวลาเพราะต้องฟังและคิดตามเพื่อวิเคราะห์ให้ได้ว่าท่านวิทยากรได้บอกอะไรบ้างนอกเหนือจากตำรา

เรียน ท่านอาจารย์ ดร.จีระ และ ผนส.ทุกท่าน

คิดว่าในการฝึอบรม ผนส.รุ่น 3 ครั้งแรกก็ต้องมีการเตรียมการที่เร็วขึ้น เพราะกำหนดให้มีการศึกษาดูงานในประเทศในวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ และต่างประเทศในวันที่ 2-6 มีนาคมนี้ จึงต้องมีเวลาพอสมควรในการเตรียมการ ดังนั้น ผนส.3 ต้องรีบทำหนังสือเดินทาง และส่งให้เจ้าหน้าที่ ในการอบรมครั้งที่ 2 (วันที่ 23-24 ม.ค.52) จากการตกลงร่วมกันของ ผนส.3 เลือกจะไปดูงานที่ประเทศอินเดีย ค่าใช้จ่ายประมาณ 3 หมื่นบาท ก็ขอให้แต่ละท่านเตรียมขออนุญาตต้นสังกัด รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม

ในฐานะที่เคยสัมผัสอินเดีย ก็คิดว่าดีมากครับ เพราะอินเดียเป็นต้นกำเนิดสหกรณ์ในภูมิภาคบ้านเรา สำนักงาน ICA ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ก็อยู่ที่อินเดีย และอินเดียมีอะไรที่น่าสนใจมาก รวมถึงด้านการศึกษา และด้านไอที แน่นอนคงได้แวะชมมรดกโลก คือ ทัชมาฮาล แต่ที่แน่ ๆ อากาศคงหนาว คงได้สวมเสื้อกันหนาว

สิ่งที่ ผนส.3 ต้องมีส่วนร่วมให้มากขึ้น คือ การเข้ามาใช้ Blog เพื่อแชร์ไอเดีย หรือสิ่งที่เป็นองค์ความรู้ที่ท่านได้รับจากวิทยากร เพราะท่านจะฝึกย่อยความรู้ออกมาเป็นตัวหนังสือ ดังนั้น เรียนวิชาอะไรเสร็จแล้ว พยายามสรุปประเด็นสำคัญ ๆ ให้ได้ ว่าท่านได้อะไร นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกวันที่เรียน ต้องเขียนลง Blog เท่าที่ติดตามยังมีอีกหลายท่านยังไม่เห็นชื่อเข้ามารายงานตัวเลย ผู้นำ...ต้องกล้า CHANGE หรือกล้าเปลี่ยนแปลงอะไรต่าง ๆ ไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงตัวท่านเองด้วย มิเช่นนั้น ท่านก็ยังเป็นผู้ตามอยู่ร่ำไป สู้ สู้ สู้ !!!

การบ้าน ให้คำจำกัดความ องค์กรแหงการเรียนรู้

องค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นองค์กรที่บุคคลในองค์กรถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันพร้อมทั้งรับความรู้จากภายนอกมาประยุกต์ใช้ในองค์กรเพื่อพัฒนาองค์กร ให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

สหกรณ์จะเป็นองค์การเรียนรู้ได้โดย

 บุคคลรอบรู้ (Personal Mastery) หมายถึง การเรียนรู้ของบุคลากรจะเป็นจุดเริ่มต้น คนในองค์กรจะต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ

 แบบแผนทางความคิด (Mental Model) หมายถึง แบบแผนทางความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ แสดงถึงวุฒิภาวะ(Emotional Quotient, EQ) ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์กลายเป็นกรอบความคิดที่ทำให้บุคคลนั้นๆ มีความสามารถในการทำความเข้าใจ วินิจฉัย ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

 การมีวิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision) หมายถึง การสร้างทัศนคติร่วมของคนในองค์กร ให้สามารถมองเห็นภาพและมีความต้องการที่จะมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน

 การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Learning) หมายถึง การเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกในลักษณะกลุ่มหรือทีมงานเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์กันอย่างสม่ำเสมอ

 การคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking) หมายถึง การที่คนในองค์กรมีความสามารถที่จะเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ โดยมองเห็นภาพความสัมพันธ์กันเป็นระบบโดยรวม(Total System) ได้อย่างเข้าใจ แล้วสามารถมองเห็นระบบย่อย(Subsystem) ที่จะนำไปวางแผนและดำเนินการทำส่วนย่อยๆ นั้นให้เสร็จทีละส่วน

ชีวิตคนไทยในชนบท ในอดีต โรงเรียนวัดจะหยุดเรียนในวันโกน.วันพระ เด็กๆก็จะไปวัดกับตา.ยาย อย่างน้อยก็ได้ซึมซับหลักธรรมคำสอนมาบ้างพอสมควร ปัจจุบันเด็กๆ จะรับสื่อจากรายการโทรทัศน์,วีซีดีและเกมส์ต่างๆ เด็กหลายคนจะไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ ความอดทนมีน้อย ส่วนผู้ใหญ่ยุคปัจจุบันก็จะเป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้เพราะงบประมาณต่างจากภาครัฐ มีแต่ให้ เช่น กองทุนหมู่บ้าน โครงการอยู่ดีมีสุขและโครงการต่างๆจากอบต.และหน่วยงานอื่นๆก็ให้ชุมชนทั้งหมด และยังได้ลดภาระดอกเบี้ยจากสหกรณ์อีกร้อละ ๓

คนชนบทบางกลุ่มเลยยังไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง

“องค์กรแห่งการเรียนรู้” ( Learning Organization : LO) “องค์กรแห่งการเรียนรู้” เป็นองค์กรที่มีการสร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการรับความรู้จากภายนอก เป้าประสงค์สำคัญ คือ เอื้อให้เกิดโอกาสในการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างเป็นฐานความรู้ที่เข้มแข็ง(Core competence) ขององค์กร เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา องค์ประกอบขององค์การแห่งการเรียนรู้ มี 5 องค์ประกอบ ดังนี้ 1. การเรียนรู้ (Learning) หรือพลวัตการเรียนรู้ (Learning Dynamics) ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ระดับการเรียนรู้ ได้แก่ การเรียนรู้ระดับบุคคล การเรียนรู้ระดับกลุ่ม และการเรียนรู้ระดับองค์การ 2) ประเภทของการเรียนรู้ ได้แก่ การเรียนรู้จากการปรับตัว การเรียนรู้จากการคาดการณ์ การเรียนรู้เพื่อเรียนรู้ และการเรียนรู้จากการปฏิบัติ 3) ทักษะการเรียนรู้ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ 3.1) บุคคลรอบรู้ (Personal Mastery) 3.2) แบบแผนทางความคิด (Mental Model) 3.3) การมีวิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision) 3.4) การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Learning) 3.5) การคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking) 3.6) การสนทนาแบบมีแบบแผน (Dialogue) 2. องค์การ (Organization) หรือการปรับเปลี่ยนองค์การ (Organization Transformation) ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) วิสัยทัศน์ 2) วัฒนธรรมองค์การ 3) กลยุทธ์ 4) โครงสร้าง 3. สมาชิกในองค์การ (People) หรือการเสริมความรู้แก่บุคคล (People Empowerment) ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) บุคลากร 2) ผู้บริหาร / ผู้นำ 3) ผู้รับบริการ / ลูกค้า 4) คู่ค้า 5) พันธมิตร / หุ้นส่วน 6) ชุมชน 4. ความรู้ (Knowledge) หรือการจัดการความรู้ (Knowledge Management) ประกอบด้วย 1) การแสวงหาความรู้ 2) การสร้างความรู้ 3) การจัดเก็บความรู้ 4) การถ่ายโอนความรู้และการใช้ประโยชน์ 5. เทคโนโลยี (Technology) หรือการนำเทคโนโลยีไปใช้ (Technology Application) ประกอบด้วย 1) เทคโนโลยีสารสนเทศ 2) เทคโนโลยีพื้นฐานของการเรียนรู้ 3) ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สนับสนุนการปฏิบัติงาน แนวทางในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ 1. บุคคลรอบรู้ (Personal Mastery) หมายถึง การเรียนรู้ของบุคลากรจะเป็นจุดเริ่มต้น คนในองค์กรจะต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ 2. แบบแผนทางความคิด (Mental Model) หมายถึง แบบแผนทางความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ แสดงถึงวุฒิภาวะ(Emotional Quotient, EQ) ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์กลายเป็นกรอบความคิดที่ทำให้บุคคลนั้นๆ มีความสามารถในการทำความเข้าใจ วินิจฉัย ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม 3. การมีวิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision) หมายถึง การสร้างทัศนคติร่วมของคนในองค์กร ให้สามารถมองเห็นภาพและมีความต้องการที่จะมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน 4. การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Learning) หมายถึง การเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกในลักษณะกลุ่มหรือทีมงานเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์กันอย่างสม่ำเสมอ 5. การคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking) หมายถึง การที่คนในองค์กรมีความสามารถที่จะเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ โดยมองเห็นภาพความสัมพันธ์กันเป็นระบบโดยรวม(Total System) ได้อย่างเข้าใจ แล้วสามารถมองเห็นระบบย่อย(Subsystem) ที่จะนำไปวางแผนและดำเนินการทำส่วนย่อยๆ นั้นให้เสร็จทีละส่วน ลักษณะสำคัญ 5 ประการขององค์การแห่งการเรียนรู้ องค์การที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ จะมีลักษณะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้คือ 1. มีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ (Systematic problem Solving) โดยอาศัยหลักทางวิทยาศาสตร์ เช่น การใช้วงจรของ Demming ( PDCA : Plan, Do, Check, Action) 2. มีการทดลองปฏิบัติ (Experimental) ในสิ่งใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์ต่อองค์การเสมอ โดยอาจจะเป็น Demonstration Project หรือเป็น Ongoing program 3. มีการเรียนรู้จากบทเรียนในอดีต (Learning from their own experience) มีการบันทึกข้อมูลเป็น case study เพื่อให้สมาชิกในองค์การได้ศึกษาถึงความสำเร็จและความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในอนาคต มีการแลกเปลี่ยนความรู้และ ประสบการณ์ของสมาชิก 4. มีการเรียนรู้จากผู้อื่น (Learning from the Others) โดยการใช้การสัมภาษณ์ (Interview), การสังเกต (Observation) ฯลฯ 5. มีการถ่ายทอดความรู้โดยการทำ Report, Demonstration, Training & Education, Job Rotation ฯลฯ อุปสรรคต่อการเรียนรู้ขององค์การ 1. สมาชิกในองค์การรู้แต่หน้าที่ของตนเองแต่ไม่รู้เป้าหมายขององค์การ (I'm my position) 2. สมาชิกรู้ว่าปัญหาขององค์การอยู่ที่ใด แต่ไม่รู้ว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร (The enemy is out there) 3. ทำตามแบบที่เคยทำ เห็นแต่ภาพลวงตา ไม่ได้แก้ปัญหาที่สาเหตุที่แท้จริง (The Illustration of taking change) 4. ยึดติดอยู่กับเหตุการณ์มากเกินไป (A fixation on events) 5. ความเข้าใจผิดว่าการเรียนรู้มาจากประสบการณ์เท่านั้นแต่ไม่เข้าใจในความแตกต่างของอดีตกับปัจจุบัน (The delusion of learning from experience) 6. มีผู้บริหารที่ดีแต่ไม่ได้สืบทอดความรู้ให้ผู้บริหารรุ่นต่อไป (The myth of management team) 7. ขาดสติไม่รู้ตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไป

"โลกภิวัตน์" กันอย่างกว้างขวาง เมื่อคนเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินกันพล่านทุกมุมเมือง ได้ดูข่าวซีเอ็นเอ็นทางทีวี เห็นรถยนต์ยี้ห้อแปลก ๆ มาวิ่งบนถนน ก็อาจจะพูดว่า นี่แหละโลกาภิวัตน์ นักธุรกิจที่สามารถเปิดคอมพิวเตอร์ติดต่อค้าขายกับทุกมุมโลก ก็จะสรรเสริญโลกาภิวัตน์ คนงานที่ได้ยินว่า โรงงานสั่งเครื่องจักรใหม่เข้ามาใช้แทนแรงงาน และจะปลดคนงานออก ย่อมจะกล่าวโทษโลกาภิวัตน์ คำศัพท์ต้นตอของโลกาภิวัตน์มาจากภาษาอังกฤษว่า globalization คำนี้เริ่มใช้กันครั้งแรกเมื่อปี 2528 โดยใช้เรียก "กระบวนการผสมผสานเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ เข้ากับตลาดระดับโลก" ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในภาคเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างเข้มแข้นมากขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา "โลกาภิวัตน์" เป็นศัพท์ที่บัญญัติขึ้นในภาษาไทยเมื่อประมาณ 6-7 ปีมาแล้วนี่เอง ตามพจนานุกรมฉบับรบัณฑิตยสถาน โลกาภิวัตน์ แปลว่า "การแพร่กระจายไปทั่วโลก การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น" จะเห็นได้ว่าคำแปลนี้ยังไม่ครอบคลุมถึงส่วนที่เป็นแกนหลักของกระบวนการโลกาภิวัตน์คือ ระบบเศรษฐกิจระหว่างประเทศซึ่งได้แก่ การลงทุน การผลิตสินค้าและบริการ และการค้าขายแลกเปลี่ยนข้ามพรมแดน กระบวนการผสมผสานเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ เข้ากับตลาดโลกไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น การค้าขายกันข้ามประเทศและข้ามทวีป มีมานานแล้ว เช่น การขนส่งเส้นไหมจากประเทศจีนไปขายในยุโรปและอเมริกาเหนือมีมากว่า 2500 ปีแล้ว เมื่อชาวยุโรปค้นพบเส้นทางการเดินเรือที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปต่าง ๆ เมื่อ 500 ปีที่แล้ว การค้าขายแลกเปลี่ยนวัตถุดิบกับสินค้าหัตถกรรมระหว่างอาณานิคมกับประเทศต่าง ๆ ในยุโรป กลายเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการโลกาภิวัฒน์ในอดีต การปฎิวัติอุตสาหกรรมในทวีปยุโรปเมื่อ 150 กว่าปีที่แล้ว เป็นต้นกระตุ้นให้การค้าและการลงทุนข้ามประเทศขยายตัวขึ้นอย่างมาก ทุกครั้งที่กระบวนการโลกาภิวัตน์ได้รับแรงกระตุ้นด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีต ผลที่เกิดขึ้นคือ การขยายตัวของการค้า การลงทุน และการเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง สังคม และวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นอย่างล้ำลึก เส้นทางทุนนิยมไทย พึ่งพาเทคโนโลยี พึ่งพาตลาด พึ่งพาแรงงานต่างประเทศ แล้วก็จะเห็นว่ากระแสโลกาภิวัตน์ที่พัดเอาทุนเข้ามา วันนี้ทุนมันทะลักเข้ามาแล้ว โลกาภิวัตน์ของทุน ผมว่ามันมี 3 ด้านที่น่าสนใจนะครับคือ เรื่องเทคโนโลยี เราส่งเสริมการลงทุน เราก็จะยกเว้นไม่เก็บภาษีเครื่องมือเครื่องจักรต่างๆ อันแรกที่ทำให้เกิดการพึ่งพาทางเทคโนโลยี หลังปี 1980 เราเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การพัฒนาจากการพัฒนาเพื่อทดแทนการนำเข้าไปสู่การพัฒนาเพื่อส่งออก ซึ่งตรงนี้เรากลายมาเป็นโรงงานของประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ต้องการใช้แรงงานราคาถูก เพราะฉะนั้นจะสังเกตว่าหลังจากนั้นแล้วตลาดของเราจะอยู่ข้างนอกหมด สินค้าที่ผลิตในประเทศนั้น ตลาดอยู่ข้างนอกหมด สินค้าแบรนด์เนมดังที่สุดในโลกอย่างเช่นไนกี้มีโรงงานผลิตสินค้าในประเทศไทย 70 กว่าโรงงาน เพราะฉะนั้นถามว่ามันจะกระทบอะไรแค่ไหนมันก็ต้องดูในเรื่องของการกีดกันทางการค้าอะไรต่างๆ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือว่าเรื่องของตลาดเราต้องพึ่งคนอื่น เราต้องส่งออก วันนี้เราต้องสู้กับเขาด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ปัญหาก็คือว่าคุณไม่สามารถที่จะใช้คนไทยในการผลิตสินค้าเหล่านี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจว่าวันนี้โรงงานผลิตสินค้าระดับโลกทั้งหลายอยู่แถวๆ แม่สอด ใช้แรงงานพม่าเยอะมาก เพราะฉะนั้น ในแง่นี้ โลกาภิวัตน์หมายถึงการยกเลิกขอบข่ายความเป็นชาติ เพื่อที่จะเปิดให้มีการใช้แรงงานราคาถูกมากๆ ในสังคมเรา คำถามก็คือว่าตรงนี้ทำให้อำนาจรัฐอ่อนตัวลงหรือเข้มแข็งขึ้น สุดแต่ว่าคนที่กุมอำนาจรัฐนั้นมีผลประโยชน์อยู่กับใคร บางคนก็บอกว่ามันทำให้คนที่กุมอำนาจรัฐเข้มแข็งขึ้น บางคนก็บอกว่ามันอ่อนแอลง อย่างไรก็ตามเขตแดนของอำนาจรัฐคงดูหลวม ดูไม่สำคัญ แต่คำถามก็คือว่าคนที่กุมอำนาจรัฐอ่อนแอลงจริงหรือเปล่าหรือว่าเข้มแข็งขึ้น ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือว่าสิ่งที่อำนาจรัฐเข้าไปไม่ถึงหรือเข้าไปเขย่าไม่ได้ คืออำนาจรัฐนั้นเข้าไปไม่ถึงหมู่บ้าน แต่ชุมชนก็คงจะต้องอ่อนแอลงถ้าเราไม่พยายามไปกระตุ้นมัน โลกาภิวัตน์ในวันนี้กระทบรัฐไทยไปถึงไหน และคนที่อยู่ในสังคมนั้นมันถูกครอบงำมากน้อยแค่ไหน เป็นตัวของตัวเองมากน้อยแค่ไหน หากว่าเราพยายามรักษาเอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์เอาไว้ มันจะอยู่ได้ไหมโดยไม่ต้องใช้จมูกคนอื่นเขาหายใจ และหากว่ามีวิกฤติเกิดขึ้นที่ภายนอกมันจะไม่กระทบกระเทือนไปมาก

ส่งการบ้าน

1.องค์การแห่งการเรียนรู้( Learning Organization )

1.1 คำจำกัดความ "องค์กรแห่งการเรียนรู้" เป็นองค์กรที่มีการสร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการรับความรู้จากภายนอก เป้าประสงค์สำคัญคือเอื้อให้เกิดโอกาสในการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างฐานความรู้ที่เข้มแข็ง ( Core Competence) ขององค์กร เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

1.2 สหกรณ์จะดำเนินการอย่างไรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

(1) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ HRD การเสริมสร้างความรู้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการรือผู้นำสหกรณ์ เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์และสมาชิกของสหกรณ์ โดยอาจให้การศึกษาอบรมหรือส่งไปศึกษาอบรมจากสถาบันต่างๆ การใช้จดหมายหรือสื่ออื่นๆ การถ่ายโอนความรู้เพื่อใช้ประโยชน์โดยการจัดการความรู้ (Khowledge Management) ซึ่งอาจมีการทดลองปฏิบัติ การเรียนรู้จากอดีตและการเรียนรู้จากผู้อื่นรวมทั้งการเรียนรู้จากซึ่งกันและกัน (Team Learning)

(2) ปรับเปลี่ยนแนวคิด ทัศนคติและวัฒนธรรมองค์ร โดยการมีวิสัยทัศน์ร่วม (Shared Thinking ) แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ปรับโครงสร้างการบริหารให้เหมาะสม เอื้อให้คนได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกัน และให้มีความคิดนอกกรอบเพื่อเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ

(3) การใช้เทคโนโลยี เพื่อให้การทำงานของสหกรณ์รวดเร็วทันสมัย เชื่อมโยงเครือข่ายได้ก้าวไกล และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อพัฒนาสหกรณ์ให้เจริญก้าวหน้า ทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทคโนโลยีพื้นฐานของการเรียนรู้และระบบอิเล็คทรอนิกส์ที่สนับสนุนการปฏิบัติงาน

2. บรรยากาศ 2 วันที่อยู่กับอาจารย์

คิดว่าเป็นบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ทุกคนสนใจและกระตือรือล้นแสวงหาความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างและพัฒนาผู้นำสหกรณ์ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาสหกรณ์และระบบสหกรณ์ต่อไป หลังจากนี้คงมีคน "คลั่งไคล้" อาจารย์มากขึ้น

คลั่งไคล้ = หลงใหลในบุคคลหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

บ้าคลั่ง = เสียสติ แสดงอากาศผิดปกติอย่างคนบ้า

ราตรี ภูมิฐานนท์

เรียนอาจารย์ จีระ ผมขอแสดงความรู้สึกที่ได้มีโอกาสมาเรียนรู้ในครั้งนี้

ผมรู้สึกดีมากครับที่ได้มีโอกาสมาเรียนรู้และเป็นเครือข่ายกับอาจารย์และทีมงานสหกรณ์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ และเป็นการจ่ายที่คุ้มค่า(เนื่องจากใช้ทุนตัวเองลงทะเบียน) ผมเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการศึกษาและอบรมหลักสูตรต่างๆ มามากมายซึ่งเป็นเรื่องวิชาการและการบริหาร การได้เรียนรู้ในครั้งนี้เป็นการเรียนรู้กับอาจารย์จีระ และวิทยากรอื่นๆ ซึ่งเป็นบุคลากรที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของประเทศไทย ตลอดถึงผู้บริหารกิจการสหกรณ์ฯ ซึ่งมาจากหลายสาขาอาชีพ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่ได้นำตัวเองเข้าสู่เครือข่ายในครั้งนี้ ผมจะเก็บเกี่ยวเอาหลักวิชาการ และทักษะต่างๆของอาจารย์จีระ คณะวิทยากร และผู้บริหารทุกท่าน เพื่อเติมเต็มให้ตัวเองเป็นผู้บริหารที่ดีมีความรอบรู้ ในทุกๆด้าน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการองค์กรทั้งในส่วนของานประจำและกิจการของสหกรณ์ให้สัมฤทธิ์ผลต่อไป

องค์กรแห่งการเรียนรู้

เนื่องจากกระแสโลกาภิวัฒน์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้คนในองค์กรต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงด้วย ต้องพัฒนาตนเองให้เป็นบุคคลที่มีความรู้ สามารถทำงานได้อย่างรอบด้าน และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ รวมทั้งสามารถแก้ปัญหางานและรับผิดชอบงานได้ด้วยตนเอง เพื่อนำไปสู่เป้าหมายตามที่องค์กรกำหนด ไม่ต้องรอการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาตลอดเวลา มีความมุ่งมั่นต่อองค์กร ทำงานอย่างมีเป้าหมาย และต้องเป็นคนที่มีสมรรถนะสูง ซึ่งเหมาะกับสังคมฐานความรู้อย่างมาก เพื่อที่จะสามารถผลักดันให้องค์กรอยู่รอดได้ในสภาวะแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากและรวดเร็ว รวมทั้งมีการแข่งขันกันสูง สิ่งสำคัญยิ่งคือคนในองค์กรต้องเป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน พัฒนาตนเองให้เป็นบุคคลเรียนรู้ สร้างความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์และใช้ในการพัฒนาคุณภาพการทำงาน พัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรอัจฉริยะ จากสภาพการณ์ดังกล่าว การจัดการความรู้จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือบริหารองค์กรเพื่อไปสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะ (Intelligence Organization)

องค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นการดำเนินการร่วมกันโดยผู้ปฏิบัติงานในองค์กรเพื่อสร้างและใช้ความรู้ในการทำงานให้เกิดสัมฤทธิผลดีขึ้นกว่าเดิม เป็นกระบวนการส่งผ่านความรู้ ภายใต้หลักการและแนวทางที่ว่า มุ่งให้เกิดการนำพลังปัญญาขององค์กรมาเพิ่มพลังในการเรียนรู้ด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ พร้อมรวบรวมและสร้างความรู้ใหม่ที่จำเป็นต่อการพัฒนางานให้สำเร็จ ให้คนเข้าถึงความรู้ รู้จักเลือก ดัดแปลง ปรับปรุง ต่อยอดความรู้ที่มีอยู่เดิม และหรือสร้างความรู้ใหม่ อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลขององค์กร

สวัสดีท่านอาจารย์ และเพื่อนๆพี่ๆชาว ผนส3

ดีใจค่ะที่ ผนส3 เริ่มเข้าblog กันแล้ว แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ ผนส2ด้วยนะคะ

แล้วพบกันใหม่นะ

มาร์ควอตส์ (Marqoardt,1996) นิยามว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้ หมายถึง องค์การซึ่งมีบรรยาศของการเรียนรู้รายบุคคลและกลุ่ม มีวิธีการเรียนรู้ที่เป็พลวัต มีการสอนคนของตนเองให้มีกระบวนการคิดวิเคราะห์เพื่อช่วยให้เข้าใจในสรรพสิ่ง สามารถเรียนรู้ จัดการและใช้ความรู้เป็นเครื่องมือไปสู่ความสำเร็จควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีทีทันสมัย โดยองค์ประกอบของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่

พลวัตการเรียนรู้ (Learning dynamics)

การปรับเปลี่ยนองค์กร (Organaization Transformation)

การเพิ่มอำนาจแก่บุคคล (People Empowerment)

การจัดการความรู้ (Knowledge Management)

การใช้เทคโนโลยี (Technology Application)

สหกรณ์จะดำเนินการอย่างไรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

สหกรณ์จะต้องมีความมุ่งมั่นปรารถนาในการที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาการทำงาน มีการแบ่งปันความคิดในการทำงาน มีการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีการทุ่มเททรัพยากรเพื่อการลงทุนให้บุคคลทุกระดับเกิดการเรียนรู้ ตลอดจนมีการสร้างนวัตกรรมและทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ จนกลายเป็นวัฒนธรรมขององค์กร

สวัสดีครับท่านอาจารย์จีระ และผนส 3 ทุกท่าน

ได้เข้ารับการฝึกวิทยายุทรจากท่านอาจารย์และวิทยาการอื่น ๆ มาแล้ว 1 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน ก็ได้รับอะไรต่อมิอะไรที่แปลกใหม่ เกินกว่าที่คิดไว้มาก ทำให้รู้สึกว่าตัวเองต้องพัฒนามากขึ้นกว่านี้ และการบ้านที่ได้รับมอบหมายกำลังเริ่มทำ แล้วจะส่งให้อาจารย์ครับ

กำนันบ้านนอก สุขสันต์ ท้วมจันทร์

การบ้าน “องค์กรแห่งการเรียนรู้” เป็นองค์กรที่มีการสร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการรับความรู้จากภายนอก เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างเป็นฐานความรู้ที่เข้มแข็งขององค์กร ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เกิดขึ้น

องค์ประกอบขององค์การแห่งการเรียนรู้

1. การเรียนรู้ ได้แก่ ระดับการเรียนรู้ ประเภทของการเรียนรู้ ทักษะการเรียนรู้

2. องค์การ ประกอบด้วย ได้แก่ วิสัยทัศน์ วัฒนธรรมองค์การ กลยุทธ์ โครงสร้าง

3. สมาชิกในองค์การ ประกอบด้วย ได้แก่ บุคลากร ผู้บริหาร ผู้รับบริการ ลูกค้า คู่ค้า ชุมชน

4. ความรู้ ประกอบด้วย การแสวงหาความรู้ การสร้างความรู้ การจัดเก็บความรู้ การถ่ายโอนความรู้และการใช้ประโยชน์

5. เทคโนโลยี ประกอบด้วย เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีพื้นฐานของการเรียนรู้

แนวทางในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้

1. บุคคลรอบรู้ หมายถึง การเรียนรู้ของบุคลากรจะเป็นจุดเริ่มต้น คนในองค์กรจะต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต

2. แบบแผนทางความคิด หมายถึง แบบแผนทางความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ แสดงถึงวุฒิภาวะ ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์กลายเป็นกรอบความคิดที่ทำให้บุคคลนั้นๆ มีความสามารถในการทำความเข้าใจ ในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

3. การมีวิสัยทัศน์ร่วม หมายถึง การสร้างทัศนคติร่วมของคนในองค์กร ให้สามารถมองเห็นภาพและมีความต้องการที่จะมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน

4. การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม หมายถึง การเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกในลักษณะกลุ่มหรือทีมงานเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์กันอย่างสม่ำเสมอ

5. การคิดอย่างเป็นระบบ หมายถึง การที่คนในองค์กรมีความสามารถที่จะเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ โดยมองเห็นภาพความสัมพันธ์กันเป็นระบบโดยรวม ได้อย่างเข้าใจ

คุณลักษณะขององค์กรแห่งการเรียนรู้

1. การรู้จักตนเอง หมายถึง การที่บุคลากรองค์กรรู้จักตัวของตัวเอง และรู้วิธีในการสร้างเสริมศักยภาพของตน การพัฒนาวินัยในข้อนี้จึงหมายถึง การพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเองไปพร้อมๆกัน ทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านสติปัญญา/ความรู้ ด้านจิตใจและด้านอารมณ์ โดยพัฒนาให้บุคลากรแต่ละคนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมีความ สามารถในการสร้างสรรค์เชิงรุกทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจนติดเป็น นิสัยไปตลอดชีวิต

2. การมีมุมมองที่กว้างไกล หมายถึงบุคลากรในองค์กรมีอัตตาต่ำเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่างออกไปจากผู้อื่น รวมทั้งมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในศักยภาพของเพื่อนร่วมงาน

3. การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน เป็นการทำความเข้าใจร่วมกันในการตั้งเป้าหมาย และมองอนาคตของตนเองไปในทิศทางเดียวกันกับขององค์กรโดยให้บุคลากรมีส่วนร่วม ในการสร้างวิสัยทัศน์ขององค์กรอันจะนำไปสู่ความต้องการร่วมกันของทั้ง บุคลากรมีส่วนร่วมในการสร้างวิสัยทัศน์ขององค์กรอันจะนำไปสู่ความต้องการ ร่วมกันของทั้งบุคลากรและองค์กร

4. การเรียนรู้ร่วมกัน เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิด หลักการ และวิธีการทำงานร่วมกันเป็นทีมได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะนำไปสู่องค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานที่ก่อให้ เกิดพลังและประโยชน์ทั้งต่อตนเองและองค์กรได้อย่างแท้จริง

5. การคิดเป็นระบบ เป็นการคิดภาพรวมทั้งระบบที่สัมพันธ์เชื่อมโยงกันทั้งหมดอย่างเป็นตรรกะ โดยพิจารณาถึงต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาและผลกระทบของปัญหานั้นที่มี ต่อทุกส่วนขององค์กรอันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและวางแผนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ

สวัสดีผู้นำสหกรณ์ รุ่น 3

ขอแสดงความยินดี กับรุ่น 3 และ ฝากขอบคุณ รุ่น 2 ด้วยที่ทำแนวทางอย่างดีไว้ การสร้างผู้นำ ยาก แต่ ไม่ใช่เป็นไป ไม่ได้ ผมภูมิใจมาก ที่เห็นศักยภาพของทุกท่าน อย่าลืมทำการบ้านนะครับ และ ขอชมว่า Blog ของรุ่น 3 ดีมาก อาทิตย์เดียวมีคนคลิ๊กเข้ามาดู 500 กว่าแล้ว น่าจะไปได้ถึง 10,000 นะครับ

จีระ หงส์ลดารมภ์

ส่งงานที่มอบให้ทำ

องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)หรือองค์กรที่มีการเรียนรู้ เป็นองค์กรที่มีการสร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายใน ระหว่างบุคคล ควบคู่ไปกับการรับความรูไปจากภายนอก เพื่อให้มีโอกาสใช้ความรู้เป็นฐานในการพัฒนาองค์กร

สหกรณ์จะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร

ขอเสนอแนวทางแบบย่อ ๆ กล่าวคือ ให้มีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหรือประชุมสัมมนา ตามแบบที่ผู้นำสหกรณ์ รุ่นที่ 3เข้าเรียนที่สันนิบาตฯ ซึ่งให้ทุกคนได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ รวมทั้งประสบการณ์และสิ่งที่แปลกใหม่ ซึ่งการจะไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ จะต้องมีการวางแผนและดำเนินการตามแผนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

เรียนอาจารย์ที่เคารพ

องค์กรการเรียนรู้คือ สถาบัน หน่วยงาน ชุมชน สังคม เป็นแหล่งที่ให้ความรู้และพัฒนาการต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่ได้วางไว้รวมถึงสื่อการเรียนรู้

บรรยากาศที่ที่อยู่กับอาจารย์ มีความสนใจ ตั้งใจ อยากที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วยความตั้งใจ

สหกรณ์เป็นองค์กรการเรียนรู้แบบประชาธิปไตยและมีการมอบหมายให้ผู้แทนทำหน้าที่บริหารงานตามวัตถุประสงค์เป้าหมายและนโยบายที่ได้วางไว้

ข้อ 1. องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ องค์กรที่ขยายขีดความสามารถและเพิ่มศักยภาพ เพื่อสร้างผลงานและสร้างอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้คนในองค์กรต่างก็เรียนรู้ถึงวิธีที่จะเรียนรู้ด้วยกันอย่างต่อเนื่อง

องค์กรแห่งการเรียนรู้เป็นองค์กรที่มีการมุ่งเน้นในการกระตุ้น เร่งเร้าและจูงใจให้สมาชิกทุกคนมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อขยายศักยภาพของตนเองและองค์กร ในการที่จะลงมือปฏิบัติภารกิจนานัปการให้สำเร็จลุล่วง โดยอาศัยรูปแบบของการทำงานเป็นทีม และการเรียนรู้ร่วมกัน ตลอดจนมีความคิดความเข้าใจเชิงระบบ ที่จะประสานกัน เพื่อให้เกิดความได้เปรียบที่ยั่งยืนต่อการแข่งขัน ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ตลอดไป

ข้อ 2. สหกรณ์จะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยการทำตนเป็นคนสวนพรวนดินใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้งอกงาม ต้องสร้างแบรนด์ของตัวเอง และใช้วัฒนธรรมองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องรู้จักพึ่งตนเอง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทำอะไรใหม่ ๆ เสมอ และนำความคิดไปสร้างโครงการ

๒๐ คำถามกับ ว.วชิรเมธี

บางส่วนจากหนังสือ"มหัศจรรย์แห่งชีวิต ๗ หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี"

๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?

ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก

ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ

๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี?

(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด

(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง

(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว

(๔) ขออย่าให้ตายในสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี?

ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ

ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ

ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข

๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน?

งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน

รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน

อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน

๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา?

โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว

คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย

คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์

ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง

๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?

(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง

(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน

(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ

ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา

๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?

เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น

แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้

๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี?

(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ

(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ

(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน

สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ

๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร?

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม

คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี

คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้

เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา

ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา

๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี?

(๑) หางานใหม่

(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก

(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ

(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด

จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่

๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย?

คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง

คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า

แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย

๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม?

ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ

แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป

แทนที่จะไถ่โคกระบือ

คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า

๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน?

ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน

ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน

๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?

มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน

ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน

ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ

๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?

(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร

(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร

(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง

๑๖. สวดมนต์บทไหนดี?

(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น

(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า

จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ

(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้

คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง

๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี?

(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู

(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น

(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส

เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด

๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก?

(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป

(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย

(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน

๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม?

ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า

ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน

๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ?

ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์

ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน

มองอย่างพินิจจะพบว่า ในดีมีเสีย ในเสียมีดี

กำนันบ้านนอก สุขสันต์ ท้วมจันทร์

ส่งการบ้าน โลกาภิวัฒน์ กับการจัดการ SUPPLY CHAIN

โลกาภิวัฒน์ (Globalization) เป็นกระแสของการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน ซึ่งมีอิทธิพลเข้าครอบงำต่อการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศต่างๆในโลกที่จะต้องปฏิบัติตาม โดยกระแสของการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้อยู่ภายใต้ปฏิสัมพันธ์เชิงอำนาจซึ่งจะเป็นไปตามความต้องการของประเทศโลกตะวันตก บทบาทตัวตนที่แท้จริง ของโลกาภิวัตน์ จะมีรายละเอียดแบบย่อๆ ดังนี้

1. ทุน Capital เศรษฐกิจ โลกจะต้องเป็นไปตามลัทธิทุนนิยม (Capitalism) ภายใต้การแข่งขันในลักษณะเสรีนิยม (Liberalism) ซึ่งเป็นลักษณะเศรษฐกิจของโลกตะวันตกที่มีเนื้อหาเน้นการสะสมทุนและการค้า เสรี โดยต่างก็จะให้มีการเปิดการค้าระหว่างประเทศให้เป็นการค้าที่ไร้พรมแดนแต่ ภายใต้การค้าเสรีนี้ ความได้เปรียบของบริษัทข้ามชาติ ก็จะมีมากกว่าจึงเป็นความเสรีที่ไม่เท่าเทียมกัน ทุนจะมีการเคลื่อนย้ายไปยังประเทศต่างๆของโลกที่ให้เงื่อนไขและผลประโยชน์ ที่ได้กำไรสูงสุด

2. การครอบงำผ่านทางข้อมูล-ข่าวสาร (Dominant) การปฏิวัติทางเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการเชื่อมโยงสื่อสารกันได้อย่างรวด เร็ว โลกถูกเชื่อมด้วยข้อมูลข่าวสารและมักเป็นข้อมูลข่าวสารฝ่ายเดียวจากโลกตะวัน ตก หรือจากประเทศซึ่งมีอำนาจเศรษฐกิจและการทหารที่เหนือกว่า โดยการครอบงำและสร้างกระแสข่าวตามที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเมืองและเศรษฐกิจ ของตะวันตก เป็นการครอบงำทางข่าวสาร และวัฒนธรรมซึ่งมีผลต่อความเชื่อของมนุษยชาติในการที่จะต้องบริโภคข่าวสาร , การบริโภคสินค้า ,บริการ และวัฒนธรรมของตะวันตกนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

3. ค่านิยม (Value) โลกาภิวัฒน์ ได้สร้างค่านิยมผ่านทางข้อมูลข่าวสาร โดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ

ค่านิยมทางการเมือง ทุก ประเทศในโลกต้องเป็นแนวประชาธิปไตยแบบตะวันตก ซึ่งประเทศต่างๆ หากจะต้องมีรูปแบบการเมืองการปกครองในแบบเดียวกัน มิฉะนั้นก็จะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หรือใช้กำลังทหารเข้าไปปลดปล่อยให้เป็นประชาธิปไตย โดยไม่สนใจต่อความพร้อมหรือวิถีชีวิตของคนในประเทศเหล่านั้น ซึ่งการเมืองในระบบประชาธิปไตย เมื่อถูกผ่านการครอบงำผ่านทางข้อมูลข่าวสารจากโลกตะวันตก ก็จะทำให้ประชาชนมีค่านิยมที่จะเลือกผู้นำที่มีแนวความคิดแบบการค้าเสรีหรือ เป็นนายทุนเศรษฐกิจแบบตะวันตกไปเป็นรัฐบาล ซึ่งก็จะมีการแก้ไขกฎเกณฑ์ กฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทข้ามชาติสามารถเข้าไปแข่งขันกับธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งมีความอ่อนแอกว่า ซึ่งจะมีผลต่อจะต้องมีการพึ่งพาโลกตะวันตก

ค่านิยมทางเศรษฐกิจ โลก จะมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ มีการแบ่งงานกันทำ (Division of Labour) โดยถือหลักการว่าที่ไหนถูกก็ผลิตหรือซื้อที่นั่น โดยต่างฝ่ายจะใช้มาตรการทางภาษีให้มีน้อยที่สุด โดยโลกตะวันตกก็จะมีการปกป้องธุรกิจที่ไม่สามารถแข่งขันกันได้ในรูปแบบของ การกีดกันทางการค้า ในแบบที่เรียกว่า NTB (Non Tariff Barrier) การค้าของโลกจะตกอยู่ภายใต้กติกา WTO (World Trade Organization) ที่โลกตะวันตกไม่กี่ประเทศเป็นผู้บงการ และข้อตกลงในลักษณะที่เป็นทวิภาคี ได้แก่ ที่มาในรูปแบบของ FTA ซึ่งหาก WTO ไม่สามารถเอื้อประโยชน์ก็จะมีการทำข้อตกลงความร่วมมือในระดับภูมิภาค เช่น ASEAN , NAFTA , APEC เป็นต้น ต้องเข้าใจว่าการค้าเสรีของ Globalization นั้นเป็นความเสรีบนความไม่เท่าเทียมกัน จึงไม่ใช่ความยุติธรรมทางการค้า

ค่านิยมทางสังคม โดย การครอบงำทางสังคมวัฒนธรรม โดยผ่านทางข้อมูลข่าวสาร ทำให้การค้าของโลกจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิมนุษยชน (Human Right) การบริโภคนิยม (Consumerism) การนิยมวัตถุ (Materialism) รวมถึงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Environment) ซึ่งจะอนุรักษ์เฉพาะในสิ่งที่ประเทศด้อยพัฒนาไม่พร้อม แต่โลกตะวันตกพร้อม

จากที่กล่าวข้างต้น เพื่อที่จะเชื่อมโยงให้เห็นว่า Globalisation ส่งผลกระทบอย่างมาก ต่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆใน Supply Chain Management (SCM) หรืออาจกล่าวได้ว่าในทุกยุทธศาสตร์ของการค้าระหว่างประเทศ จะต้องสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับกระแสโลกภิวัฒน์ ซึ่งมีทั้งข้อดี ขณะเดียวกันก็จัดเป็นอุปสรรค และเป็นภัยคุกคาม (Thearts) อยู่ในอาณาบริเวณของตลาด

การแข่งขัน (COMPITITION)

ใน อาณาบริเวณที่เรียกว่า “ตลาด” นั้น นอกจากจะเป็นแหล่งของลูกค้าแล้วยังประกอบไปด้วยคู่แข่งสภาวะการแข่งขันนั้น เป็นไปอย่างรุนแรง และพัฒนาไปสู่เป็นภัยคุกคาม (Threats) ซึ่งหากไม่มีการบริหารจัดการที่ได้ ก็จะสร้างความพินาศให้กับองค์กร ภายใต้อิทธิพลของ Globalization ซึ่งออกมาในรูปแบบข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ เช่น FTA ของประเทศไทยกับประเทศจีน และในอนาคตก็อาจจะเป็นออสเตรีย , สหรัฐอเมริกา และอินเดีย รวมทั้งการลดพิกัดอัตราภาษีของ AFTA ซึ่งจะมีผลทำให้เรื่องของภาษีไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้ากลายเป็น “ไม่มีพรมแดนทางการค้า” ตลาดในปัจจุบันจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับศักยภาพในการแข่งขัน การบริหารจัดการเชิงระบบ (SYSTEM MANAGEMENT) และทรัพยากรมนุษย์ (HUMAN RESOURCES) ที่จะต้องทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ พัฒนาองค์กร เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ดังนั้น การสร้าง คุณค่าแก่ลูกค้า (CUSTOMER VALUE) และการสร้าง คุณค่าเพิ่ม (VALUE ADDED) บนตัวสินค้าและบริการก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ผู้บริโภคจะได้รับรู้ข้อมูลและนำเอาไปประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า นอกจากนี้แล้ว ลูกค้าจะเกิดความจงรักภักดีต่อสินค้าและบริการนั้นๆ ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนนั้นการบริหารฐานภักดี (LOYALTY EFFECTS) ก็จะเป็นอีกหนึ่งกระบวนการทางการตลาดองค์กรที่มีการจัดการแบบ Supply Chain จะสามารถสร้าง VALUE ADDED คือ คุณค่าเพิ่ม ให้กับสินค้าและบริการในทุกช่วงต่อของแต่ละกระบวนการในทางการตลาด โดยใช้ Supply Chain Management เข้ามาจัดการ เพื่อทำให้ลูกค้าได้มากกว่าตัวสินค้า โดยการสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การส่งมอบที่ Real Time (แบบทันเวลา) , การสั่งซื้อทาง Web Site , หรือการซื้อสินค้าจาก Convenience Store ใกล้ๆบ้านหรือการส่งสินค้าถึงบ้านลูกค้า (Delivery at Home) หรือมีบัตรกำนัล (Bonus) รวมทั้งมี Catalog สินค้าใหม่ และ New Letter แจ้งข่าวสารให้ลูกค้า ทั้งหมดล้วนเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยอาศัยการจัดการ Supply Chain Management

ประยูร รัตนเมธางกูร ผู้นำ สก. ขั้นสูงรุ่น 3 สกต.นครราชสีมา

เรียน อาจารย์ จีระ ที่เคารพ

        บรรยากาศจากการเริ่มสู่การอบรม 2 วันแรก ผมได้ ส่ง Block ถึงความรู้สึกไว้แล้วเมื่อวันที่ 11 มค. 52 ก็ขอเรียนอีกครั้งว่า ถือเป็นโอกาศที่ดีที่ได้เข้าอบรมในครั้งนี้ หากพลาดโอกาศคงเสียดายไปนาน

- องค์กรณ์แห่งการเรียนรู้

       อาจรวมความถึง การเรียนที่ไม่มีกรอบจำกัด เรียนด้วยวิธีการหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาสาระจากผู้สอน เรียนจากประสบการณ์จริงจากผู้เรียนด้วยกัน หรือสิ่งแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ซึ่งสามารถทำความเข้าใจได้ท่องแท้ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง รวมทั้งสามารถทดลองวิจัยให้เกิดสิ่งใหม่กว่าดีกว่าเดิมได้ องค์กรแห่งการเรียนรู้จึงควรเป็นองค์กรที่กระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆอย่างไม่รู้จบ

- สหกรณ์ จะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร

        แท้จริงแล้วกระบวนการสหกรณ์ ถือว่าเป็นองค์กรที่เอื้อต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ง่ายยิ่งกว่าองค์กรณ์อื่นๆ เพียงรู้จักการสร้างเครือข่ายของสหกรณ์ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ที่หลากหลายแห่งความสำเร็จแต่ละด้าน อาจประมวลสำฤทธิผลแต่ละแห่ง จัดเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี

นพ.กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

องค์การแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)

หมายถึงองค์การที่มีการพัฒนาความสามารถของตนเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลง โดยทุกคนภายในองค์การต่างต้องมีความกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้และสิ่งจำเป็นต่างๆเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการทำงานของตนในเรื่องต่างๆตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆ โดยอยู่บนพื้นฐานของการบริหารและจัดการนำเอาความรู้ความสามารถมาใช้ในการปรับปรุงพัฒนาการทำงานให้เกิดประโยชน์แก่องค์การ (Knowledge Management)

องค์การต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพโลกาภิวัตน์ที่มีการเปลียนแปลงตลอดเวลาและต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยเฉพาะระบบสารสนเทศ (Information Technology)และมีการเรียนรู้ตลอดเวลา

สหกรณ์เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ด้วยตัวของมันเองโดยวิถีทางประชาธิปไตย กรรมการก็คือสมาชิดที่อาสาเข้ามาทำงานโดยสมาชิกเป็นผู้เลือก มีการประชุมวางแผนกำหนดนโยบายแนวทางการทำงาน ตลอดจนการประชุมใหญ่สามัญซึ่งสมาชิกมีสิทธิ์ในการตัดสินพิจารณาเรื่องต่างๆของสหกรณ์ มีความหลากหลายทางความคิด มีการใช้เทคโนโลยีระบบสารสนเทศในการปฏิบัติงาน มีนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเกิดขึ้นมาตลอด เพียงแต่สมาขิกและกรรมการต้องตระหนักและเข้าใจในหลักการสหกรณ์ และมีความใฝ่รู้และเรียนรู้ตลอดเวลาเพื่อพัฒนาสหกรณ์ให้มีความก้าวหน้า

รู้สึกคิดถึง เพื่อน-พ้อง-น้อง-พี่ และบรรยากาศในห้อง "ผนส.รุ่น3" มากคะ(โดยเฉพาะ อาจารย์ เพราะยังไม่ได้ส่งการบ้านเลย) วันนี้ไปรับเสด็จที่ จ.สระแก้ว แล้วพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางล่วงหน้าไปรับเสด็จที่ จ.กาญจนบุรี จะทำยังไงดีคะ " คุณจิ๋น "

คิดถึงกระทันหัน

นะ ..จะบอกให้

ปรีชา แก่นอินทร์ สอ.สาธารณสุขนครศรีธรรมราช

เรียน ท่านอาจารย์จีระ และผนส.3 ทุกท่าน ผมได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสหรกรณ์สู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ รายละเอียดตามนี้ นะครับ

การพัฒนาองค์กรสหกรณ์สู่องค์กรแห่งการเรียนรู้

ในการสร้างองค์กรสหกรณ์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ จำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาวิจัยหรือสำรวจองค์กรว่า ปัจจุบันอยู่ในระดับใด มีการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีมมากน้อยแค่ไหน ภาวะผู้นำของคณะกรรมการอำนวยการ/ดำเนินการเป็นอย่างไร สมาชิกมีค่านิยมร่วมที่เหมือนหรือแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เจ้าภาพที่ทำการวิเคราะห์ คือคณะกรรมการดำเนินการ ต้องเป็นผู้ริเริ่ม โดยทำการวิเคราะห์สถานการณ์ทิศทางการนำองค์กร ความรู้ ความต้องการของสมาชิก ตลอดถึง ความรู้ความสามารถของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในองค์กร เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ก็จะสามารถสรุปรวมเป็นข้อมูลขององค์กร เพื่อนำไปเป็นข้อมูลที่จะใช้ในการพัฒนาองค์กรเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ได้ ลักษณะของการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้มีมีความเป็นนามธรรมค่อนข้างสูง ดังนั้น เราจำเป็นต้องสร้างหรือกำหนดตัวชี้วัดในแต่ละประเด็นให้ชัดเจน นอกจากวัดพฤติกรรมบริการของบุคคลในองค์กรแล้ว สิ่งที่จะต้องวัดอีกก็คือสิ่งที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของสมาชิก เช่นระบบข้อมูลข่าวสารที่ใช้สื่อสารในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น เมื่อเราได้ศึกษาวิเคราะห์องค์กรของเราแล้ว ก็จะทราบได้ว่าองค์กรมีจุดอ่อน จุดแข็ง มีอะไรบ้างที่เป็นอุปสรรคต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ก็สามารถที่จะแก้ไขจุดอ่อน เสริมจุดแข็งและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำองค์กรไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยที่ทุกคนมีส่วนร่วม และเข้าใจในสภาพแวดล้อมที่มีผลให้องค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ถ้าจะพัฒนาสหกรณ์ให้เข้มแข็งอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน ต้องมีวิธีการที่จะการจัดการ โดยมีองค์ประกอบดังนี้

ประการที่ 1 ควรมีแผนแม่บทพัฒนากิจการสหกรณ์ หรือแผนระยะยาวในการพัฒนาองค์กรสหกรณ์ ไว้เป็นเครื่องมือทำงานสำหรับคณะกรรมการดำเนินการ

ประการที่ 2 ต้องใช้การจัดการความรู้ในการจัดทำแผนแม่บทฯ ต้องมีกิจกรรมเป็นแผนงานโครงการ มีการแบ่งมอบหน้าที่ และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันก่อนที่จะดำเนินการโครงการใดๆ

ประการที่ 3 ต้องมีคณะผู้นำ/คณะกรรมการที่เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพ และมีการสืบทอดการพัฒนากิจกรรมตามแผนแม่บทนั้น

ประการที่ 4 ต้องมีแผนการใช้เงินในการดำเนินการโครงการ

ประการที่ 5 ต้องพัฒนาการเรียนรู้ ให้คณะกรรมการ หรือตัวแทนสมาชิกของหน่วยย่อย เป็นการสร้างสัมพันธ์กับสมาชิกในหน่วยงานนั้นๆอีกทอดหนึ่ง ฉะนั้น เวลาทำประชาคมหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องใดๆ ก็จะง่ายขึ้น

เรียน ท่านอาจารย์ และผู้นำสหกรณ์ทุกท่าน

ท่าน Peter Senge ศาสตราจารย์วัย 50 ปี ของสถาบัน MIT ของสหรัฐอเมริกา ได้ให้ความหมายของ “ Learning Organization : LO ” ว่า เป็นองค์การที่ซึ่งคนในองค์การได้ขยายขอบเขตความสามารถของตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับบุคคล ระดับกลุ่ม และระดับองค์การ เพื่อนำไปสู่จุดหมายที่บุคคลในระดับต่าง ๆ ต้องการแท้จริง เป้นองค์การที่มีความคิดใหม่ ๆ และแตกแขนงของความคิดได้รับการยอมรับเอาใจใส่ เป็นองค์การที่ซึ่งบุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ไปด้วยกันทั้งองค์การ

แนวทาง 5 ประการในการสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้ (The five Disciplines)

1 การเรียนรู้ของสมาชิกในองค์กร (Personal Mastery)

2 ความมีสติ (Mental Model)

3 การมีวิสัยทัศน์ร่วมกันของคนในองค์การ (Shared Vision)

4 การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning)

5 ระบบการคิดของคนในองค์การ (Systems Thinking)

ลักษณะสำคัญ 5 ประการของ LO

1 มีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยหลักทางวิทยาศาสตร์ เช่น การใช้วงจรของ PDCA : Plan , Do , Check , Action

2 มีการทดลองปฏิบัติในสิ่งใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์ต่อองค์การเสมอ

3 มีการเรียนรู้จากบทเรียนในอดีต

4 มีการเรียนรู้จากผู้อื่น

5 มีการถ่ายทอดความรู้

ขั้นตอนการพัฒนาเป็นองค์การ LO

1 Unfreeze คือขั้นเตรียมความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง คือ สร้างกระแสของความต้องการการเปลี่ยนแปลง ระดมความคิดว่าต้องการความเปลี่ยนแปลงอย่างไร องค์การต้องการอะไร

2 Change คือขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลง โดยการศึกษาให้เข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริง เพื่อจะแก้ปัญหาได้ถูกจุด และนำไปสู่ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลง

3 Refreeze คือขั้นตอนที่เมื่อองค์การเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแล้ว ก็ควรหยุดภาวการณ์เปลี่ยนแปลง กลับสู่ภาวะงานปกติ เพราะหากองค์การมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คงไม่เป็นผลดีต่องานของเราเป็นแน่

บทสรุป

องค์การแห่งการเรียนรู้ (LO) เป็นองค์การในอุดมคติ ที่สามารถสร้างขึ้นมาได้ ด้วยความร่วมมือของสมาชิกในองค์การ โดยอาศัย The Five Disciplines เป็นหลัก ที่สมาชิกในองค์การจะใช้เพื่อพัฒนาตนเองและองค์การสู่ความเป็นองค์การอัจฉริยะ ที่จะสามารถดำรงอยู่ในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคง ซึ่งการที่จะเปลี่ยนแปลงองค์การให้เป็น LO นั้น เราต้องคำนึงถึงเป้าหมายและภาระหน้าที่ขององค์การเป็นหลักวิเคราะห์หาปัญหาที่แท้จริงขององค์การ โดยไม่หลงยึดติดอยู่กับภาพลวงตา ซึ่งในสหกรณ์เรานั้น คิดว่า ผู้นำสหกรณ์ คือหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้เกิดองค์การแห่งการเรียนรู้ในสหกรณ์ของท่าน

การบ้าน การเปลี่ยนแปลง โลกาภิวัฒน์มีผลกระทบอย่างไรต่อสหกรณ์

ผลกระทบต่อสหกรณ์ด้านเศรษฐกิจ

สมาชิกสหกรณ์ได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้น จากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันจะลดลงแล้วก็ตามแต่ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ลดราคาลง ตามราคาน้ำมัน หนักไปกว่านั้นราคาข้าวเปลือกก็สวนทางกับความเป็นจริง ตอนปุ๋ยราคากระสอบละ 700-800 บาท รัฐบาลประกันราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ 14,000 บาท/ตัน พอราคาปุ๋ยที่เกษตรกรใช้ก่อนได้ผลผลิตในฤดูนี้ราคา กระสอบละ 1,200 - 1,400 บาท รัฐบาลประกันราคา ข้าวเปลือกเจ้า 12,000 บาท/ตัน แล้วชาวนาซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติจะเหลืออะไร สมาชิกมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น และในอนาคตจะเริ่มเป็นช่วงปลดคนงาน บัณฑิตที่จบการศึกษาก็จะหางานทำได้ยากขึ้น ซึ่งเขาเหล่านั้นอาจเป็นลูกหลานสมาชิกสหกรณ์

สหรณ์ก็มีหน้าที่ทำอย่างไรให้สหกรณ์อยู่ได้ นั่นก็แปลว่าสมาชิกสหกรณ์ต้องคงอยู่เช่นกัน สหกรณ์ต้องให้ความรู้กับสมาชิกในการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ฟังดูเหมือนง่าย แต่การปฎิบัติจริงนั่นค่อนข้างยากเพราะต้องระเบิดจากข้างในโดยการนับหนึ่งใหม่ในการปลูกฝังสมาชิก เพิ่มรายได้โดยการปลูกพืชสวนครัวรั้วกินได้เหลือกินก็นำไปขายในท้องถิ่นหรือแลกเปลี่ยนกันระหว่างกัน เกี่ยวข้าวก็ต้องให้ครบอายุของข้าวแต่ละชนิดความชื้นจะได้ต่ำข้าวก็จะขายได้ราคาสูงขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ทางสหกรณ์ได้มีการอบรมสมาชิกให้ทำน้ำยาอเนกประสงค์ใช้เองเช่น น้ำยาล้างจาน,น้ำยาซักผ้าฯลฯ ปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพ (น้ำยาล้างจานราคาชุดละ 120 บาท ทำได้ 20 ลิตร)

สวนีย์ อาสนทอง

ความรู้สึก 2 วันที่อบรม

เป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมาก ไม่เหมือนที่เคยอบรมหลักสูตรอื่นๆ โดยเฉพาะวิชาของอาจารย์ จีระ อาจารย์มีวิธีที่จะให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการอบรมรับรองไม่มีใครกล้าหลับแน่ๆ ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น และมีแนวความคิดที่อยากเรียนต่อโท จากเดิมคิดว่าเก็บเงินไว้ให้ลูกเรียน และความนำสิ่งที่ได้รับจากการอบรมมาถ่ายทอดให้น้องๆในสหกรณ์ฟัง

สวัสดีครับ ผนส.รุ่น 3 ทุกท่าน

แจ้งข่าวถึง ผนส. รุ่น 3 ทุกท่าน ที่รู้จักท่านพลเรือตรีบงกช ผาสุข (ประธาน ผนส.รุ่น2) พ่อของท่านเสียแล้ว ศพตั้งอยู่ที่วัดเครือวัลย์วรวิหาร ศาลา 5 วันนี้ 4 โมงเย็นมีการรดน้ำศพ และสวดอภิธรรมศพ 5 วัน (สอ.กรมอู่ทหารเรือเป็นเจ้าภาพในวันที่ 15 มกราคม 52) หลังจากนั้นจะมอบให้ ร.พ.ขอนแก่น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

นพคุณ ยังเอี่ยม

อาจารย์ได้พูดถึงวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่มีผลกระทบในปัจจุบันปัญหาหลักเกิดจากปัญหาซับไพรม ผมเลยลองค้นคว้าทบทวนอีกครั้งเผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆได้บ้าง

ซับไพรม (Sub-Prime) มาจาก 2 คำ คือ

  - Sub   แปลว่า  ต่ำกว่า หรือ  เป็นรอง

  - Prime แปลว่า  ยอดเยี่ยม (ในที่นี้หมายถึง Prime Interest Rate คือดอกเบี้ยที่ต่ำสุดสำหรับลูกค้าชั้นดี)

    สินเชื่อซับไพรม...  จึงหมายถึง สินเชื่อที่ปล่อยให้กับผู้กู้ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นลูกหนี้ด้อยคุณภาพ และมีความเสี่ยงในการไม่ชำระหนี้สูง เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะขอสินเชื่อปกติ ( Prime Market) และมีประวัติผิดนัดชำระหนี้  อาจเคยถูกฟ้องล้มละลาย รวมถึงผู้กู้ยืมที่มีประวัติการกู้ยืมที่ไม่สมบูรณ์ ผู้กู้ประเภทนี้จึงมีขีดความสามารถในการชำระคืนหนี้ที่ต่ำ  ด้วยเหตุนี้ สินเชื่อซับไพรมจึงมีระยะเวลาการให้กู้ยืมที่สั้นกว่า และอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อปกติ   นี่คือสาเหตุหลักในเบื้องต้นที่ทำให้เกิดวิกฤติการณ์ทางด้านเศรษฐกิจไปทั่วโลก

(โปรดติดตามตอนต่อไป)+

 

   

ภัททรัตน์ แนวพานิช

“องค์กรแห่งการเรียนรู้” เป็นองค์กรที่มีการสร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการรับความรู้จากภายนอก เป้าประสงค์สำคัญ คือ เอื้อให้เกิดโอกาสในการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างเป็นฐานความรู้ที่เข้มแข็ง(Core competence) ขององค์กร เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

แนวทางในการสร้างสหกรณ์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

1.บุคคลรอบรู้ (Personal Mastery) หมายถึง การเรียนรู้ของบุคลากรจะเป็นจุดเริ่มต้น คนในสหกรณ์จะต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ

2.แบบแผนทางความคิด (Mental Model) หมายถึง แบบแผนทางความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ แสดงถึงวุฒิภาวะ(Emotional Quotient, EQ) ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์กลายเป็นกรอบความคิดที่ทำให้บุคคลนั้นๆ มีความสามารถในการทำความเข้าใจ วินิจฉัย ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

3.การมีวิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision) หมายถึง การสร้างทัศนคติร่วมของคนในสหกรณ์ ให้สามารถมองเห็นภาพและมีความต้องการที่จะมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน

4.การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Learning) หมายถึง การเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกในลักษณะกลุ่มหรือทีมงานเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์กันอย่างสม่ำเสมอ

5.การคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking) หมายถึง การที่คนในสหกรณ์มีความสามารถที่จะเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ โดยมองเห็นภาพความสัมพันธ์กันเป็นระบบโดยรวม(Total System) ได้อย่างเข้าใจ แล้วสามารถมองเห็นระบบย่อย(Subsystem) ที่จะนำไปวางแผนและดำเนินการทำส่วนย่อยๆ นั้นให้เสร็จทีละส่วน

ภัททรัตน์ แนวพานิช

บรรยากาศในการเรียน 2 วันที่ผ่านมา เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยพบทำให้รู้สึกว่าได้รับความรู้โดยที่ไม่ได้เรียนหนังสือ เหมือนกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน รู้สึกว่าตัวเองได้เติมเต็มความรู้มากขึ้นค่ะเรื่อยๆค่ะ

นาย สมพงษ์ พาหุวัฒนกร

.............test............

นาย สมพงษ์ พาหุวัฒนกร

ตอบ การบ้าน อาจารย์ ครับ

” องค์กรแห่งการเรียนรู้” เป็นองค์กรที่ทำให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ พัฒนา ปรับปรุงระบบ ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการนำเอาความรู้จากภายนอกมาใช้พัฒนาและปรับปรุงให้เหมาะสมกับเป้าประสงค์สำคัญ คือ เอื้อให้เกิดโอกาสในการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างเป็นฐานความรู้ที่เข้มแข็ง ขององค์กร เพื่อต่อสู้กับสภาวะการณ์ในปัจจุบันได้

เนื่องจากในสภาวการณ์ในปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างเสรี ทำให้มีการต่อสู้กันทางความคิดริเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีแนวโน้วที่จะรุนแรงขึ้นนอกจากให้ภาคเอกชนแล้ว ระบบงานของสหกรณ์ก็ต้องพัฒนาแลปรับปรุงให้ทันตามสภาวะของโลกยุคใหม่ด้วย จึงต้องมีการเรียนรู้ละพัฒนาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

นาย สมพงษ์ พาหุวัฒนกร

บรรยากาศในการเรียน 2 วันที่ผ่านมา เป็นบรรยากาศการแลกเปลื่ยนความรู้กัน เรียกว่าเป็น องค์กรแห่งการเรียนรู้ ก็ได้ เพราะได้รับความรู้เพิ่มเติม ในหลาย ๆ เรื่อง ประกอบกับการเรียนรู้เป็นไปแบบเป็นกันเอง มีการตอบสนองระหว่างผู้ถ่ายทอดและผู้เรียน ไม่ใช่แบบการสั่งการ

สุรชัย บำรุงราษฎร์

องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ องค์กรที่มุ่งพัฒนาและปรับปรุงขีดความสามารถ ศักยภาพ ของทั้งบุคลากร ทีมงานและองค์กรอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา

การพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

1. พัฒนาภาวะผู้นำ ทั้งผู้นำระดับกลุ่ม ผู้นำองค์กร

2. การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม

3. พัฒนาความคิดเชิงระบบ

งานสหกรณ์เป็นงานที่ท้าทายและมีความจริงใจ หมายความว่าต้องมีใจจึงจะอยู่กับงานนี้ได้หลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงถือว่ามีประโยชน์มากทั้งตัวผู้เข้ารับการอบรมและตัวสหกรณ์เพราะอาจารย์ทุกท่านเป็นผู้รอบรู้และมีประสบการณ์

ธนณฐ์วรรธ์ แสงหวัง

เรียน ศ.ดร.จีระ

การบ้าน 14 มกราคม 52

1. คำจำกัดความ “องค์กรแห่งการเรียนรู้” เป็นองค์กรที่มีการพัฒนาบุคลากรภายในให้มีความรู้ รู้ทันและพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาวะปัจจุบัน ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อนำมาสร้างภูมิคุ้มกันองค์กรให้เข้มแข็ง

2. สหกรณ์จะดำเนินการอย่างไรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

2.1 พัฒนาบุคลากร ฝึกอบรมและพัฒนา เสริมสร้างและเปลี่ยนแปลงบุคลากรในด้าน ความรู้ ความสามารถ ทักษะ อุปนิสัย ทัศนคติ และวิธีการในการทำงานอย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่การพัฒนา

2.2 ปรับโครงสร้างของสหกรณ์ให้เหมาะสม คัดสรรบุคลากรให้เหมาะกับงาน

2.3 นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ให้เหมาะกับงาน เสริมการบริการให้ประทับใจ สื่อสารกับสมาชิกและบุคคลภายนอกได้อย่างรวดเร็ว

เรียนอาจารย์ จีระ ดิฉันมีความชื่นชมยินดี อาจารย์มาก หลังจากได้มีโอกาสมารับฟังอาจารย์อยู่ 2 วัน ได้รับความรู้และแนวความคิดในการทำงาน

ขอบคุณมากค่ะ

ธนณฐ์วรรธ์ แสงหวัง

ธนณฐ์วรรธ์ แสงหวัง

เพื่อนๆหน.๓ ส่งการบ้านกันทุกคนหรือยังคะถ้ายังส่งด่วนนะคะจะบอกให้

กัญจน์นิกข์ กำเนิดเพ็ชร์

ส่งการบ้าน

องค์กรแห่งการเรียนรู้ คืออะไร สหกรณ์จะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ด้วยขั้นตอนอย่างไร

เนื่องจากองค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นกลยุทธ์ของโลกยุคใหม่ (New Globalizing Strategy) ในารดำเนินธุรกิจให้ก้าวหน้าในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น จึงมี นักวิชาการหลายท่านให้นิยาม และกล่าวถึงแนวคิดองค์กรแห่งการเรียนรู้ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นแนวคิดของ Senge, Peter M. (1990), Gavin, David A. (1993), Marquardt, Michael J. (1994) ซึ่งต่างนักวิชาการเหล่านี้ต่างมีเป้าหมายสอดคล้องกัน คือ การเรียนรู้เป็นบุคคล เป็นทีม และทั้งองค์กร

องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ สถานที่ซึ่งทุกคนสามารถขยายศักยภาพของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างผลงานตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เป็นที่ซึ่งเกิดรูปแบบการคิดใหม่ๆ หลากหลายมากมาย สถานที่ซึ่งแต่ละคนมีอิสระที่จะสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นสถานที่ซึ่งทุกคนต่างเรียนรู้วิธีการเรียนรู้ร่วมกัน (Senge, Peter M.1990)

องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ องค์การที่มีลักษณะในการสร้าง แสวงหา และถ่ายโอนความรู้ และมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันเป็นผลมาจากความรู้ใหม่ และการเข้าใจในสิ่งต่างๆ อย่างถ่องแท้ (Gavin, David A. 1993)

องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ สถานที่ซึ่งมีบรรยากาศของการเรียนรู้รายบุคคลแต่ละกลุ่ม มีการสอนคนของตนเองให้มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ เพื่อช่วยให้เข้าใจในสรรพสิ่ง ในขณะเดียวกัน ทุกคนต่างช่วยองค์การเรียนรู้จากความผิดพลาดและความสำเร็จ ซึ่งผลที่ได้รับคือ ให้ทุกคนตระหนักในการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Marquardt, Michael J. 1994)

สรุปได้ว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ สถานที่ซึ่งมีบรรยากาศของการเรียนรู้รายบุคคลแต่ละกลุ่ม มีการสอนสมาชิกในองค์กรให้มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ และทุกคนต่างเรียนรู้วิธีการเรียนรู้ร่วมกัน เกื้อกูลและพึ่งพาซึ่งกันและกัน ผลที่ได้รับคือ ทุกคนในองค์กรตระหนักในการเปลี่ยนแปลง และสามารถขยายศักยภาพของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับตัว และเพิ่มมูลค่าของกิจการภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถึงแม้ว่า ผลที่ได้จากการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้จะเป็นเรื่องที่ดี และส่งผลให้องค์กรอยู่รอดในสภาพการแข่งขันทางธุรกิจที่มีความรุนแรงก็ตาม แต่พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ไม่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ 1) คนในองค์กรมีเจตคติต่อต้านการเปลี่ยนแปลง 2) คนในองค์กรติดกับดักของความสำเร็จในอดีต จนไม่คำนึงถึงความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 3) ไม่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ 4) ผู้นำองค์กรไร้ความสามารถ 5) ผู้นำองค์กรทุกระดับไม่สนใจใฝ่รู้ 6) การติดต่อสื่อสารภายในองค์กรไม่มีประสิทธิผล

เพื่อให้การพัฒนาองค์กรให้ประสบผลสำเร็จในการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยเฉพาะสหกรณ์นั้น จะใช้แนวคิดของ Senge, Peter M. (1990) ซึ่งเป็นต้นตำรับของแนวคิดองค์กรแห่งการเรียนรู้เป็นแนวทางการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ตามขั้นตอนของวินัยหรือข้อบัญญัติ 5 ประการ ซึ่งนับว่าเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของการพัฒนาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ทั้งนี้ วินัยหรือข้อบัญญัติ 5 ประการ ของ Senge, Peter M. (1990) ประกอบด้วย

1. การคิดอย่างเป็นระบบ หรือคิดมีเหตุผล (System Thinking) : คนในองค์กรมีความสามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆโดยมองเห็นภาพของความสัมพันธ์กันเป็นระบบโดยรวม (Total System) แล้วสามารถมองเห็นระบบย่อยที่จะนำไปวางแผนและดำเนินการทำส่วนย่อยๆนั้นให้เสร็จทีละส่วน

2. แบบแผนทางความคิด หรือแบบอย่างทางความคิด (Mental Model) : ความเชื่อ เจตคติ การแสดงถึงวุฒิภาวะ (Emotional Quotient : EQ) ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์กลายเป็นกรอบความคิดที่ทำให้คนมีความสามารถในการเข้าใจ และตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้อย่างเหมาะสมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้

3. บุคคลรอบรู้ หรือรู้อะไร รู้ให้จริง (Personal Mastery) : การเรียนรู้ และใฝ่รู้ของคนจะเป็นจุดเริ่มต้นซึ่งคนในองค์กรจะต้องให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ

4. การมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน หรือ เห็นอนาคตร่วมกัน (Shared Vision) : การสร้างเจตคติร่วมของคนในองค์กรให้สามารถมองเห็นภาพ และมีความต้องการที่จะมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน

5. การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม หรือเรียนเป็นทีม (Team Building) : การเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกในกลุ่มหรือทีมงานเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์กันอย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้น สหกรณ์จะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ได้ด้วยขั้นตอนตามวินัยหรือข้อบัญญัติ 5 ประการของ Senge, Peter M. (1990) และวงจรเดมมิ่ง (Demming Cycle) ของ Kaizen บูรณาการกับ 4 L , s Theory & 2 R , s Theory & 2 I , s Theory ของ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และการนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมขององค์กร และความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยมีรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนดังนี้

1. Start : เริ่มต้นจากการพัฒนาศักยภาพในบทบาทของผู้นำ เนื่องจากการเป็นผู้นำจะต้องแสดงบทบาทในองค์กร 3 ด้าน ได้แก่ 1) การเป็นผู้นำความคิด 2) การเป็นผู้สอน 3) การเป็นผู้ช่วยเหลือ เนื่องจากการพัฒนาภาวะผู้นำเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้เป็นบุคคลไฟแรงใฝ่รู้รอบรู้ หรือรู้อะไร รู้ให้จริง ควบคู่ด้วย ศักยภาพ (Personal Mastery) ซึ่งจะเป็นการปรับกระบวนทัศน์ (Paradigm) ของการเป็นผู้นำเพื่อสร้างพลังจูงใจ และขยายศักยภาพสมาชิกในองค์กรให้มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องผู้นำองค์กรไร้ความสามารถ และผู้นำองค์กรไม่สนใจใฝ่รู้

2. Smart : การสื่อสารการมีวิสัยทัศน์ร่วมกันหรือมองเห็นวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Shared Vision) อย่างอย่างมีประสิทธิภาพ และเข้าใจตรงกันรวมทั้งยอมรับปฏิบัติเนื่องจากวิสัยทัศน์เป็นสิ่งที่เป็นความมุ่งหวังขององค์กรที่ทุกคนจะต้องร่วมกันทำให้เกิดเป็นรูปธรรมซึ่งเป็นการเน้นให้เกิดการเรียนรู้ในเรื่องที่มีทิศทางเป็นไปตามความต้องการร่วมกันขององค์กร และการมีวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ภายในองค์กร (Corporate Learning Culture) โดยสมาชิกในองค์กรเกิดการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้จะมาจากค่านิยม และนโยบายขององค์กร เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมร่วมขององค์กรซึ่งต้องใช้การสื่อสาร 2 ทางระหว่างผู้นำและสมาชิกในองค์กรเพื่อให้เกิดการปฏิบัติซึ่งเป็นที่ยอมรับของสมาชิกในองค์กร ในขณะเดียวกัน จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องคนในองค์กรมีเจตคติต่อต้านการเปลี่ยนแปลง และคนในองค์กรติดกับดักของความสำเร็จในอดีต

3. Satisfied : การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Building) จะเป็นการนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากการทำงาน และการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการสร้าง “ความรู้” ออกมาส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่สินค้า และบริการ รวมทั้งความพึงพอใจ (Satisfied) ของทีม ดังนั้น ในขั้นตอนนี้จึงเป็นการทำงานร่วมกันเป็นทีมและเครือข่าย (Teamwork and Networking) เพราะทุกคนเป็นครู ทุกที่เป็นห้องเรียน ซึ่งจึงเป็นพลังร่วมในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ ในขณะเดียวกัน การเรียนรู้ร่วมกันควรสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ตามหลักการทฤษฎี 4 L และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สมาชิกในองค์กรเพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม และพัฒนาศักยภาพอย่างเป็นอิสระและต่อเนื่อง ซึ่งจะสะท้อนการเป็นองค์กรที่เอาใจใส่ต่อความเป็นมนุษย์ที่มีความเคารพศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน ควบคู่ไปกับการเปิดใจกว้าง และให้ความสำคัญกับทุกคนเท่าเทียมกันซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาการไม่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการสร้าง“ความรู้” ได้อีกทางหนึ่ง

4. Smooth : แบบแผนทางความคิด หรือแบบอย่างทางความคิด (Mental Model) เป็นการรับรู้ภาพลักษณ์โลกรอบตัวอย่างถูกต้องโดยการตรวจสอบสภาพแวดล้อม (Environmental Scanning) ที่มีการเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบทั้งทางบวก และทางลบต่อองค์กรเพื่อให้สมาชิกในองค์กรมีความสามารถมองเห็นความจริง (Reality) และตรงประเด็น (Relevance) ได้อย่างรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะนำไปสู่การปรับตัวและการสะท้อนภาพให้เห็นถึงการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

5. Speed : ความคิดเชิงระบบ (System Thinking) เนื่องจากความรวดเร็วในการเรียนรู้อย่างเชื่อมโยง และคิดอย่างมีเหตุผล จะเป็นการคิดถึงภาพรวมโดยไม่คิดแยกส่วน จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้วยความรวดเร็วของแรงบันดาลใจ (Inspiration) ซึ่งเป็นกุญแจในการเปิดพลังจินตนาการ (Imagination) ของสมาชิกในองค์กรเพื่อนำไปสู่การสร้างนวัตกรรม (Innovation) ในองค์กรโดยนวัตกรรมจะเป็นพลังขับเคลื่อนการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) เพราะจินตนาการจะช่วยให้องค์กรเห็นผลที่สามารถวัดได้จากการลงทุนในการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกในองค์กร

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ และชาว ผนส3

ขอคาระวะท่านผู้นำรุ่น3เป็นอย่างยิ่ง เรียนอาทิตย์แรกก็มีไฟกันมาก โดยเฉพาะคุณ

พี่เครือวัลย์หรือชื่อใหม่ที่เรียกแสนจะยากธนณฐ์วรรณ คุณท่านฉายากำนันบ้านนอกท่าน

สุขสันต์ คุณบุญตรง พี่ยูร สกต.ธกส.และท่านอื่นๆที่เข้าblogกันแล้วดีใจแทนท่าน

อาจารย์ทุกท่านที่ผู้นำมีความสนใจและตั้งใจกันที่ศึกษาแสวงหาความรู้ที่ไม่มีวันหมดสิ้น

ท่านอื่ๆที่ยังไม่เข้ามาร่วมขบวนการอย่าช้านะ คุณนายต้อยเจ้าแม่พิมาย ท่านต้อยอภิสิทย์

จากครบุรีเข้ามาได้แล้วเดี่ยวเรียนปไม่ทันเพื่อนนะไม่ต้องค้นคว้านานเพื่อให้ได้Aหรอกนะ

งานนี้ไม่มีเกรดจ้ะมีแต่ความเร็ว รู้เร็ว เห็นเร็ว รู้กว้าง รู้ไกล และรู้ลึก

ขอส่งข่าวเพิ่มเติมท่านประธานรุ่น2พลเรือตรีบงกชสูญเสียคุณพ่อเช้าวันนี้พรุ่งนี้

พระราชทานอาบน้ำศพ ณ.วัดเครือวัลย์วรวิหาร ถนนอรุณอัมรินทร์ ท่านใดรู้จักจะไปร่วม

แสดงความเสียใจขอเรียนเชิญและบอกต่อด้วยนะคะสวด5วัน โดยส่วนตัวแล้วจะไปร่วม

งานเย็นวันที่16 นี้

จาก หลานย่าโม

ขนิษฐา บวชสันเทียะ

ส่งการบ้าน

องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ องค์กรที่มุ่งเน้นให้สมาชิกทุกคนมีความกระตือรือร้น

ที่จะเรียนรู้ในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาองค์

กรมีประสิทธิภาพ โดยต้องมีการเรียนรู้ร่วมกัน การทำงานเป็นทีมและมีความคิด

ความเข้าใจเชิงระบบ

สหกรณ์จะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยเน้นด้านการพัฒนาและให้ความรู้

แก่สมาชิก คณะกรรมการ ฝ่ายจัดการ ให้มีความรู้ความสามารถมีวิธีคิด

และมุมมองที่เปิดกว้างเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกอยู่ตลอดเวลา

ส่งการบ้าน

เรียน...ศ.ดร.จีระ ที่เคารพ

หัวข้อ สหกรณ์เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้อย่างไร

สหกรณ์เกิดจากการรวมคน ตั้งแต่สิบคนขึ้นไปเพื่อดำเนินธุรกิจในระบบเศรษฐกิจทางสายกลาง ระหว่างทุนนิยม กับระบบคอมมิวนิตส์ เรียกว่า ระบบสหกรณ์ หมายถึง หลักและวิธีการสหกรณ์ อุดมการณ์สหกรณ์ ที่ได้รับมาจากต่างประเทศ และเข้ามาในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2459 ประมาณ 93 ปี เทียบได้กับ 1 รุ่นของอายุคนเรา ก็ทำให้ได้เห็นว่า สหกรณ์ในประเทศไทยนั้น มีจำนวน 7 ประเภท ประมาณ 6 พันว่าสหกรณ์ซึ่งถ้าเปรียบเทียบ ความเจริญก้าวหน้าของสหกรณ์นั้น มีความแตกต่างกันมาก สหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จก็มีบ้าง มีน้อยกว่าสหกรณ์ประสบความล้มเหลว เทียบเปอร์เซนต์ 30 : 70 ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่า สหกรณ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ของคนสหกรณ์นั้น แต่ละสหกรณ์ได้มีการศึกษาระบบหลักการและวิธีการสหกรณ์ กันได้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจอย่างท่องแท้แค่ไหน คนสหกรณ์ ประกอบด้วย สมาชิก คณะกรรมการ ฝ่ายจัดการ และฝ่ายเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมสหกรณ์ให้เป็นไปตามกหลักการสหกรณ์

ในสหกรณ์ต้องการการเรียนรู้ แลกเปลี่ยน ระหว่าง สมาชิกสหกรณ์ คณะกรรมการ ฝ่ายจัดการ ซึ่งประกอบด้วย

1.ระบบสหกรณ์ หลักและวิธีการสหกรณ์ อุดมการณ์สหกรณ์

2.พ.ร.บ สหกรณ์ ข้อบังคับ คำสั่งนายทะเบียนและระเบียบ

3.วิธีการแนวทางการบริหารธุรกิจ เช่น สินเชื่อ การเงิน จัดหาสินค้ามาจำหน่าย รวบรวมผลผลิต และบริการ

4.หลักธรรมาภิบาล

5.หลักการบริหารธุรกิจสมัยใหม่

ดังนั้นสหกรณ์จึงต้องมีหน้าที่ในการสร้างบุคลากรขึ้น มาศึกษาอย่างต่อเนื่อง อย่างไม่ขาดสายเพราะสหกรณ์วัตถุประสงค์มากมาย สามารถทำธุรกิจได้มากกว่า ห้างร้าน บริษัท ธนาคาร จึงทำให้คนสหกรณ์จำเป็นต้องเรียนรู้ วิธีการ การจัดการบริหารสหกรณ์ ทำให้สหกรณ์เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ที่ยั่งยืนสืบทอดไปยังลุกหลาน ทายาทรุ่นแล้วรุ่นเล่า

ขอบคุณครับ

เรียน ท่านอาจารย์จีระ ที่เคารพ

ขอนำส่งงานชิ้นแรกครับ

"องค์กรแห่งการเรียนรู้"

ผมเห็นด้วยกับที่หลาย ๆ ท่านได้ให้คำจำกัดความไว้ และขอเพิ่มเติมไปถึงว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้เป็นเหมือนอาณาจักรแห่งหนึ่งที่คนทั้งหลายควรจะต้องเข้าไปศึกษา เรียนรู้ ซึ่งที่แห่งนั้นจะมีทั้งศาสตร์นานับประการ และศิลปที่ละเอียดอ่อน ยากที่จะรับรู้ได้ด้วยการมองเห็น ผู้ที่จะรับรู้ถึงแก่นแท้ได้ต้องเข้าไปศึกษาโดยถ่องแท้ด้วยใจรัก แล้วผลที่ได้จากการเรียนรู้นั้นจะเกิดความพึงพอใจ จนถึงการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

แล้วพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ต่อไป

"สหกรณ์จะทำอย่างไรที่จะให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้"

สหกรณ์เป็นองค์กรหนึ่งที่มีคุณค่าแห่งการเรียนรู้ ด้วยประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน เริ่มจากร้านสหกรณ์รอชเดล ตั้งแต่ปี คศ 1844 ระบบสหกรณ์เป็นที่ยอมรับและได้มีการจัดตั้งขยายเป็นวงกว้างทั่วโลก จนถึงปัจจุบันผ่านมาแล้ว 165 ปี สหกรณ์เป็นที่รู้จักของคนโดยทั่วไป ด้วยปรัชญาสหกรณ์ที่ให้ความสำคัญถึงเรื่องการช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรับผิดชอบร่วมกัน การยึดหลักประชาธิปไตย ความยุติธรรม การพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อให้มุ่งไปสู่การอยู่ดีมีสันติสุข

จนถึงปัจจุบันสหกรณ์ก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่อยู่ในอุดมการณ์สหกรณ์ ที่จะต้องร่วมกันศึกษาหาทางที่จะต่อยอดให้สหกรณ์เกิดอุดมการณ์ถึงจุดสูงสุด ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ

1 ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ถึงการใช้หลักประชาธิปไตยมาใช้ในการบริหารงาน ซึ่งไม่มีองค์กรไหนปฏิบัติได้เหมือนสหกรณ์ ให้ระบบของสหกรณ์ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติให้ยั่งยืน

2 ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ที่เน้นความมีเหตุมีผล ความพอดี การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ตนเองไปจนถึงการคุ้มครองส่วนรวม

3 ให้เป็นองค์กรแห่งการพัฒนาคนและสังคม โดยอุดมการณ์ของสหกรณ์แล้วจะเน้นในเรื่องของคุณธรรม จาริยธรรม บุคคลที่เข้ามาสู่ระบบของสหกรณ์และได้มีการเรียนรู้ จนถึงการนำไปปฏิบัติจริง จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และสังคมก็ดีขึ้นด้วย

แนวคิดองค์กรแห่งการเรียนรู้ มีนักวิชาการให้ความหมายไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

Senge (1990) กล่าวว่า องค์การแห่งการเรียนรู้ (Learning Organizational) คือ องค์การที่องค์การที่คนในองค์การได้ขยายขอบเขตความสามารถของตนอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม องค์การ เพื่อนำไปสู่จุดหมายที่บุคคลในระดับต่างๆ ที่ต้องการอย่างแท้จริง และยังเป็นองค์การที่ยอมรับและเอาใจใส่ต่อความคิดใหม่ นอกจากนั้น ยังเป็นองค์การที่ซึ่งบุคคลในองค์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในเรื่องของวิธีการที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันทั้งองค์การ

Nevis , DiBella and Gould. (1995) ได้ให้ความหมายองค์กรแห่งการเรียนรู้ว่า เป็นความสามารถหรือกระบวนการภายในองค์การ ที่มุ่งรักษาพัฒนาการปฏิบัติที่อาศัยพึ่งพิงประสบการณ์ ถือได้ว่าเป็นระบบที่เกิดขึ้นคงอยู่กับองค์การ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติไปก็ตาม องค์การเรียนรู้ไปด้วยขณะที่ทำการผลิตสินค้า และหรือขณะให้บริการ

Marquardt (1996: 229) กล่าวถึง องค์กรแห่งการเรียนรู้ว่าเป็นหน่วยงานที่ มีการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ และสะสมความรู้ แปลงสภาพองค์ความรู้หรือประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่องในองค์การของตนเอง อันนำไปสู่การจัดการความรู้อย่างมีประสิทธิผล มีการเสริมพลังอำนาจแก่บุคคลในองค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่จะเรียนรู้การปฏิบัติงานของพวกเขาเอง อีกทั้งมีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้เกิดการเรียนรู้ในองค์การและเพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุด

Garvin (2000) กล่าวว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้ หมายถึง องค์การที่มีทักษะที่จะสร้างสรรค์ แสวงหา ถ่ายโอนองค์ความรู้ ปรับแต่งความรู้ไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สะท้อนถึงความรู้ใหม่ที่องค์กรมีอยู่และภูมิปัญญาที่เกิดขึ้นในองค์กร

ปราโมทย์ เบญจกาญจน์ (2546: 17) กล่าวว่าองค์กรแห่งการเรียนรู้ หมายถึง องค์การที่มีความสามารถพัฒนาการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่องโดยสมาชิกทุกคนมีบทบาทในการกำหนดปัญหาและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

อรจรีย์ ณ ตะกั่วทุ่ง (2543) ใช้คำว่าองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยกล่าวว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้ หมายถึง ที่ซึ่งบุคลากรแต่ละคน แต่ละกลุ่มทั่วทั้งองค์การมีอิสระในการเรียนรู้ สร้างความรู้ที่หลากหลายร่วมกัน แบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มพูนสมรรถนะและศักยภาพที่จะก่อให้เกิดความก้าวหน้าในการดำเนินกิจการไปสู่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

สรุปได้ว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้ หมายถึง องค์การที่มีบรรยากาศกระตุ้นให้บุคคลมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการเรียนรู้ทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม และองค์การ มีการสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ ๆ และถ่ายโอนความรู้ระหว่างกัน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน นำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาองค์การอย่างต่อเนื่อง

องค์ประกอบขององค์กรแห่งการเรียนรู้

การเรียนรู้เป็นองค์ประกอบที่เป็นหัวใจสำคัญในของการพัฒนาทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม และองค์การ หากองค์การสามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน จะเป็นองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาองค์ประกอบอื่น ๆ ซึ่งองค์ประกอบทั้ง 5 ระบบย่อยที่ Marquardt (1996) เสนอนั้นจะมีความเกี่ยวพันกัน ถ้าระบบย่อยใดอ่อนแอหรือขาดไป จะเป็นผลต่อระบบย่อยอื่นๆ ระบบย่อยทั้ง 5 ระบบมีรายละเอียด ดังนี้

1) ระบบย่อยด้านการเรียนรู้ (Learning Subsystem) : การสร้างพลวัตรการเรียนรู้ ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ

1.1) ระดับการเรียนรู้ (Levels of Learning) การเรียนรู้ในองค์การสามารถเกิดขึ้นได้ใน 3 ระดับ คือ ระดับบุคคล ระดับกลุ่ม/ทีมงาน และระดับองค์การ

1.2 ) ประเภทของการเรียนรู้ (Types of Learning) ได้แบ่งการเรียนรู้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ การเรียนรู้จากการปรับตัว การเรียนรู้จากการคาดการณ์ การเรียนรู้เพื่อเรียนรู้ และการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง

1.3) ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills/Disciplines) มีทักษะตามแนวคิดของ Senge ที่กล่าวถึงวินัย 5 ประการคือ ความรอบรู้แห่งตน แบบแผนความคิดอ่าน วิสัยทัศน์ร่วม การเรียนรู้เป็นทีม และการคิดอย่างเป็นระบบ

2)ระบบย่อยด้านองค์การ (Organization) : การปรับเปลี่ยนองค์การ ซึ่งการที่องค์การ จะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบในระบบย่อยขององค์การใหม่โดยคำนึงถึง 4 องค์ประกอบ ได้แก่ วิสัยทัศน์ วัฒนธรรม กลยุทธ์ และโครงสร้างขององค์การ ดังนี้

2.1) วิสัยทัศน์ (Vision) การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันขององค์การเป็นสิ่งที่สำคัญ การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน เป็นส่วนสนับสนุนให้พร้อมที่จะกล้าเสี่ยง มีการทดลอง คนทั่วไปจะตื่นเต้นกับการพยายามหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะทำให้องค์การประสบผลสำเร็จตามวิสัยทัศน์ที่ร่วมกันคิดร่วมกันทำ

2.2) วัฒนธรรม (Culture) หมายถึง ความเชื่อ ความคิด ค่านิยม และการปฏิบัติของคนในองค์การ วัฒนธรรมองค์การจะช่วยสร้างและวางแนวทางของพฤติกรรม และการรับรู้ในสิ่งที่นิยมปฏิบัติกัน

2.3) กลยุทธ์ (Strategy) ต้องนำกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้เพื่อสร้างองค์การเอื้อการเรียนรู้ให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

2.4 )โครงสร้าง (Structure) การจัดโครงสร้างองค์การ เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจ โครงสร้างขององค์การเป็นความจำเป็นพื้นฐานไปสู่การเรียนรู้ จะทำให้เกิดการเรียนรู้และการเข้าถึงองค์ความรู้

3) ระบบย่อยด้านบุคคล (People) : การเพิ่มอำนาจแก่บุคคล ซึ่งบุคคลในองค์การนั้นเป็นแกนหลักขององค์การเอื้อการเรียนรู้ เนื่องจากเป็น ผู้นำข้อมูลและปรับเปลี่ยนข้อมูลให้เกิดเป็นความรู้ที่มีคุณค่า การเรียนรู้ในองค์การที่มีประสิทธิภาพ บุคคลในองค์การต้องได้รับการเพิ่มอำนาจในการทำงาน การเรียนรู้ องค์ประกอบของระบบย่อยด้านบุคคล ประกอบด้วย พนักงาน ผู้บริหารผู้นำ ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร และชุมชน ทั้งนี้ผู้บริหาร/ ผู้นำ (Managers / Leaders) จะเปลี่ยนจากการควบคุมบุคคลอื่นไปสู่การเพิ่มอำนาจแก่บุคคล มีกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ สร้างโครงสร้างแบบเครือข่าย สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้ และมีบทบาทใหม่ในองค์การเอื้อการเรียนรู้ ได้แก่ ผู้สอน (Instructor) ผู้ฝึก (Coach) และพี่เลี้ยง (Mentor) เพื่อผลักดันสมาชิกในองค์การให้เกิดการเรียนรู้ ได้แก่ การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกับพนักงานในองค์การ การประสานงานส่งเสริมการคิดอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม มีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้และกระตุ้นการปฏิบัติ

4) ระบบย่อยด้านความรู้ (Knowledge) : การจัดการกับองค์ความรู้ ซึ่ง ความรู้ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์การมากกว่าทรัพยากรด้านอื่นๆ ความรู้เป็นทรัพยากรหลักที่ใช้ในการทำงาน โดยที่วัฒนธรรม เทคโนโลยี การปฏิบัติการ ระบบต่างๆ และขั้นตอนการทำงานขององค์การล้วนมาจากพื้นฐานของความรู้และความชำนาญทั้งสิ้น ระบบย่อยด้านความรู้ เป็นการจัดการกับความรู้ และสร้างความรู้ขององค์การ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอน 4 ขั้นตอน คือ การแสวงหาความรู้ การสร้างองค์ความรู้ การจัดเก็บความรู้และการถ่ายโอนและการใช้ประโยชน์จากความรู้

5) ระบบย่อยด้านเทคโนโลยี (Technology) : การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในระบบนี้ถือว่าเทคโนโลยีเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการจัดการความรู้ ระบบย่อยด้านเทคโนโลยีประกอบด้วย 3 ปัจจัย ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีพื้นฐานของการเรียนรู้ และระบบปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์ที่สนับสนุนการปฏิบัติงาน

จากที่กล่าวมาข้างต้น ลักษณะองค์การแห่งการเรียนรู้ตามแนวคิดของ Marquardt (1996) เป็นระบบที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวและประสานกันขึ้นใน 5 ระบบย่อย ซึ่งเป็นลักษณะการมองภาพโดยรวม ในการพัฒนาองค์การทุกๆ ด้าน ทำให้เกิดเป็นองค์ประกอบหรือลักษณะต่างๆ ที่สำคัญในการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้โดยมีการมุ่งเน้นการสร้างการเรียนรู้ เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการบูรณาการการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการทำงานมีพื้นฐานการคิดอย่างเป็นระบบ สร้างบรรยากาศที่สนับสนุนและให้รางวัลแก่บุคคลและกลุ่มในการเรียนรู้ ส่งเสริมบุคลากรให้สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลได้อย่างทั่วถึง เกิดการยอมรับความเปลี่ยนแปลงใช้ความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ทำให้สามารถปรับตัว พัฒนาได้อย่างต่อเนื่องในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป รวมทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาส่งเสริมเครือข่ายสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งแต่ละระบบย่อยจะมีความเชื่อมโยงและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยที่จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้

         องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือองค์กรที่มีการดำเนินการวางระบบวางแผนงานการสร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการรับรู้จากภายนอก จุดมุ่งหมายที่สำคัญเพื่อก่อให้เกิดโอกาสในการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อนำไปสู่การพัฒนาและการสร้างฐานความรู้ที่ถูกต้องเข้มแข็งขององค์กรเพื่อให้สามารถนำมาปรับปรุงพัฒนารองรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกยุคโลกาภิวัฒน์ที่เกิดการเปลี่ยนปลงอยู่ตลอดเวลา  โดยนำองค์ความรู้ที่ได้นี้มาแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและอาจจะพบแนวทางหรือวิธีใหม่ๆที่มีประโยขน์ต่อองค์กรเสมอๆ มีการเรียนรู้จากบทเรียนในอดีตที่เกิดขึ้นในองค์กรจะได้ศึกษาทั้งความสำเร็จและความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในอนาคต และถ่ายทอดความรู้ให้กันและกันภายในองค์กรแห่งการเรียนรู้

ส่งการบ้าน

1. สรุปประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลกาภิวัฒน์

โลกาภิวัตน์ มาจากภาษาบาลี โลก +อภิวตตน ตามรูปศัพท์หมายถึง การแผ่ถึงกันทั่วโลก การเข้าถึงโลก การเอาชนะโลก

โลกาภิวัตน์ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง “การแพร่กระจายทั่วโลก การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นต้น

โลกาภิวัตน์ เป็นคำศัพท์เฉพาะที่บัญญัติขึ้นเพื่อตอบสนองปรากฏการณ์ของสังคมโลกที่เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในส่วนหนึ่งของโลก ส่งผลกระทบอันรวดเร็วและสำคัญ ต่อส่วนอื่นๆ ของโลก

โลกาภิวัตน์ (Globalization) หมายถึงกระบวนการที่ประชากรของโลกถูกหลอมรวมกลายเป็นสังคมเดี่ยว กระบวนการนี้เกิดจากแรงของอิทธิพลร่วมทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและส่งคม-วัฒนธรรมและการเมือง

ทุกคนและทุกประเทศจึงต้องเตรียมพร้อมที่จะรับผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์ ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ โดย

(1)การพัฒนาคุณภาพมนุษย์ ให้มีความรู้ความเข้าใจรู้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลง มีความคิดเชิงกลยุทธ์ที่จะบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ

(2)การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน และสิ่งแวดล้อมซึ่งมีอยู่จำกัด การพัฒนาสิ่งทดแทน การใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและมั่นคง

(3)การพัฒนาวิทยาศาสตร์และสารสนเทศ เทคโนโลยีการสื่อสาร นวัตกรรม / วิทยาการสมัยใหม่ ที่จะช่วยแก้ไข/ชะลอปัญหา หรือนำไปสู่สังคมที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้น

2. การเกี่ยวข้องกับสหกรณ์

สหกรณ์เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยธุรกิจและเป็นชุมชน ย่อมต้องได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่นๆ ของประเทศและของโลกด้วยเช่นกัน จึงควรสร้างความรู้ความเข้าใจและเตรียมการเพื่อรองรับกระแสโลกาภิวัตน์ด้วย

เรียน ท่านอาจารย์ และท่าน ผนส.3 ทุกท่าน

ก่อนอื่นก็จะขอแจ้งข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบิดาท่านประธาน ผนส.รุ่น 2 (พลเรือตรีบงกช ผาสุข)ซึ่งได้เสียชีวิตเช้านี้ ก็อยากเรียนเชิญท่าน ผนส.3 ร่วมแสดงความเสียใจกับท่านบงกชด้วย ก็ฝากท่านประธานรุ่น 3 ท่าน ดร.บัญชาด้วยนะครับ จะมีพระราชทานน้ำอาบศพ ในเวลา 16.00 น.และกำหนดสวดอภิธรรม 5 วัน ณ วัดเครือวัลย์วรวิหาร ถนนอรุณอัมรินทร์ ใกล้กรมอู่ทหารเรือ ศาลา 5

เรียนท่านอาจารย์จีระ หงส์ลดารมภ์ และสวัสดีเพื่อน ๆ รุ่น 3 ทุก ๆท่าน

ขอส่งการบ้านอาจารย์

ข้อ 1 องค์กรแห่งการเรียนรู้คืออะไร

ตอบ ** องค์กรแห่งการเรียนรู้คือ องค์ที่มุ่งพัฒนา และปรับปรุงขีดความสามารถศักยภาพของทั้งบุคคลากร ทีมงาน และองค์กรอย่างเหนียวแน่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ได้ผลอย่างที่ทุกคนในองค์กรต้องการร่วมกันจริงๆ

ข้อ 2. สหกรณ์เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้แบบไหน

ตอบ ** สหกรณ์เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้แบบบูรณาการโดยอาศัยการทำงานเป็นฐาน มีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของการพัฒนาการต่าง ๆ ทั้งในด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพและการสร้างนวัตกรรมร่วมทั้งวัฒนธรรมองค์กร

ข้อ 3. ทำอย่างไรจะทำองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

ตอบ ** การที่จะทำให้องค์กรเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เบื้องต้นอาจต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ ที่หลากหลายบนฐานวัฒนธรรมและเศรษฐกิจโดยให้องค์กรมีความรู้และทักษะอันเกี่ยวกับงานขององค์กรและมีเจตคติ โลกทัศน์ วิธีคิดในลักษระของบุคคลเรียนรู้ รวมทั้งทักษะของการเป็นบุคคลเรียนรู้ที่ต้องอาศัยหลักสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ 1.การคิดเชิงระบบ 2.ความเชี่ยงชาญ 3.การสร้างแบบจำลองความคิด 4.เรียนเป็นทีม 5.การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน

ข้อ 4. สรุปผลการเรียนเศรษฐศาสตร์มหาภาคเบื้องต้นเพื่อการทำงานของสหกรณ์

ตอบ** ผลจากเรียนได้เข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์มหาภาคในส่วนที่จะเกิดประโยชน์กับทางสหกรณ์ และเข้าใจแนวคิด ในการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างบ้าคลั่ง การติดตามข่าวสาร การบริหารจัดการที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยง โดนคำนึ่งถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบต่อการจัดการในทางตรงและทางอ้อม

สุดท้าย เพื่อนๆ พี่ ๆ สบายดีนะค่ะ แล้วพบกัน 23 มกราคม 2552

พิณ เกื้อกูล (สอ.ปม.)

“องค์กรการเรียนรู้” เป็นองค์กรถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ระหว่างบุคลากร รวมทั้งการรับความรู้จากภายนอก เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาหรือปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยั่งยืนตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

องค์กรการเรียนรู้กับการพัฒนาสหกรณ์

1. การพัฒนากรรมการและเจ้าหน้าที่

1.1 โดยการส่งไปฝึกอบรมและดูงานเกี่ยวกับสหกรณ์

1.2 ส่งเสริมและสนับสนุนเจ้าหน้าที่สหกรณ์ให้มีความชำนาญ มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในหลาย ๆ ด้าน โดยการหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ ความรับผิดชอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการตามแผนกลยุทธ์สหกรณ์

2. การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม

2.1 การอบรมวิชาอาชีพเสริมให้แก่สมาชิกเพื่อเพิ่มรายได้เสริม โดยการไปศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน

2.2 โครงการค่ายเยาวชนสหกรณ์ “เยาวชนคนรักป่า” สอนให้เยาวชนบุตรของสมาชิกสหกรณ์ได้เรียนรู้จากห้องเรียนธรรมชาติ การใช้ชีวิตในป่า การพึ่งพาตนเอง และการช่วยเหลือผู้อื่น

3. การพัฒนาความคิดเป็นระบบ

การจัดทำแผนกลยุทธ์ร่วมกันระหว่างผู้แทนสมาชิก เจ้าหน้าที่และกรรมการสหกรณ์ รวมทั้งอาจารย์จากภายนอก โดยช่วยกันระดมความคิดให้ได้เป็นแนวทางที่ถูกต้อง มีระบบและประสิทธิภาพ เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก

เรียน ท่านอาจารย์จีระ และ ผนส 3 ทุกท่าน

ขอส่งงานเพิ่มเติมครับ

จากที่ได้เข้าเรียน ระหว่างวันที่ 8-10 ที่ผ่านมา ก็ขอชมท่านอาจารย์แต่ละท่านมีการนำเสนอที่ดีมาก ดีทั้งเนื้อหา ทั้งวิธีการนำเสนอ รวมถึงการส่งการบ้านด้วย และได้เห็น ผนส 3 ทุกท่านมีความกระตือรือร้นในการเรียน ผมยิ่งเกิดแรงฮึดมากขึ้น 3 วันผ่านมานั้นได้รับเนื้อหาสาระมากแต่ขอกล่าวไว้สั้นๆคือ

1 ได้เรียนรู้ ทฤษฎี 4L’s ทำให้รู้ว่าการที่จะเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพนั้นต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์มาเป็นองค์ประกอบ ทั้งผู้เรียนและผู้สอนเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การเรียนการสอนประสบความสำเร็จ

2 ได้เรียนรู้เพิ่มเติมในเรื่องของ หลักการ วิธีการ และอุดมการณ์ของสหกรณ์ ทำให้มองเห็นคุณค่าของสหกรณ์มากขึ้น และเกิดความมั่นใจว่าสหกรณ์จะเป็นทางออกสำหรับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับชาติได้

3 ได้เรียนรู้ถึงหลักเศรษฐศาสตร์ ทั้งระดับ MACRO และ MICRO ทำให้เกิดวิสัยทัศน์ในการมองสิ่งต่าง ๆ ได้กว้างไกลขึ้น มองเห็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น แล้วจะส่งผลให้รู้จักการระมัดระวังป้องกันผลกระทบจากปัญหาเหล่านั้น

4 ทำให้มองเห็นความชัดเจนยิ่งขึ้นในเรื่องของ โลกาภิวัตน์ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในต้านต่างๆ เช่นด้านเทคโนโลยี การเมือง เศรษฐกิจ ที่เข้ามากระทบต่อองค์กรทั้งที่ผ่านมา หรืออาจจะมีเกิดขึ้นในอนาคต จำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมทุกด้านที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงนั้น

คำตอบ

การพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นองค์กรเอื้อการเรียนรู้ สามารถพัฒนาทักษะและความสามารถในตนเองของบุคคลในขบวนการสหกรณ์ ให้เป็นผู้ที่มีวินัย 5 ประการ ตามแนวคิดของ Senge (1994) มีดังนี้

วินัยประการที่ 1 ไฟแรงใฝ่รู้ควบคู่ด้วยศักยภาพ (Personal Mastery) : ศักยภาพของบุคคลในสหกรณ์เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสหกรณ์ให้ไปสู่ความสำเร็จ คือสมาชิกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บุคคลในขบวนการสหกรณ์จึงต้องบังคับหรือฝึกตัวเอง ให้เป็นคนที่เรียนรู้ตลอดเวลา มีความชำนาญเป็นพิเศษในทุกแง่มุมของชีวิต ทั้งด้านส่วนตัว และวิชาชีพ โดยอาศัยความเป็นนักพัฒนาตนเอง ที่จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ให้เกิดความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำงานตลอดจนสามารถสร้างสรรค์ผลงาน และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยต้องมีวิสัยทัศน์ส่วนบุคคล มีความสามารถในการจัดการกับความตึงเครียดอย่างสร้างสรรค์ และมีการเรียนรู้โดยใช้จิตใต้สำนึก

วินัยประการที่ 2 รับรู้ภาพลักษณะโลกรอบตัวอย่างถูกต้อง (Mental Models): เป็นความคิดความเข้าใจที่บุคลากรในขบวนการสหกรณ์มีต่อสหกรณ์ และต่อธุรกิจของสหกรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่มีอิทธิพล อย่างยิ่งต่อพฤติกรรมของบุคคล ทำให้เกิดความกระจ่างชัดกับแบบแผนความคิด ความเชื่อที่ดี มีผลต่อการตัดสินใจและการกระทำของตนเพื่อพัฒนาความคิด ความเชื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนไปของโลก ไม่ยึดติดกับความเชื่อเก่าๆ ที่ล้าสมัย สามารถเปลี่ยนความคิด ความเชื่อ และความเข้าใจที่มีต่อโลกต่อสิ่งอื่นให้ถูกต้องและชัดเจนเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้อง

วินัยประการที่ 3 สร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Building Shared Vision): เป็นการสร้างทัศนะของความร่วมมือกันของสมาชิกในสหกรณ์ เพื่อพัฒนาภาพของสหกรณ์ในอนาคต และความต้องการที่จะมุ่งไปสู่ความปรารถนาร่วมกันของสมาชิกทั้งสหกรณ์ในทุกระดับ ซึ่งจะสนับสนุนให้เกิดการรวมพลังของสมาชิกที่มีความคาดหวังต่อการเปลี่ยนแปลง และความก้าวหน้าต่อไป ภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกันของคนทั้งสหกรณ์ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีของคนในสหกรณ์ที่มีต่อสหกรณ์และขบวนการสหกรณ์ รวมทั้งระหว่างคนในสหกรณ์

วินัยประการที่ 4 เรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Learning): เป็นการเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกเป็นกลุ่มในสหกรณ์โดยแต่ละคนเรียนรู้ด้วยตนเอง แต่ละคนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และแต่ละคนเรียนรู้ด้วยกัน พัฒนาความฉลาดรอบรู้ ความสามารถของทีมให้เกิดขึ้น มีการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกัน โดยการสื่อสารข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จนเกิดเป็นความคิดร่วมกันของกลุ่ม

วินัยประการที่ 5 คิดเป็นอย่างมีระบบครบวงจร (Systems Thinking) : เป็นวิธีการคิด การอธิบาย และการทำความเข้าใจในปรากฎการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยการเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ อย่างเป็นระบบ มีส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ และเป็นกระบวนการในการหาความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยอาศัยองค์ความรู้ที่เป็นสหวิทยาการ นำมาบูรณาการขึ้นเป็นองค์ความรู้ใหม่ ความคิดใหม่ เป็นกรอบของการสร้างความชัดเจนในความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ เห็นแบบแผนเห็นขั้นตอนของการพัฒนา เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สามารถทำความเข้าใจในปรากฏการณ์ต่างๆ ทั้งในภาพรวมและในส่วนย่อย

จากลักษณะที่เป็นองค์ประกอบทั้ง 5 ประการตามแนวคิดของ Senge (1990) สรุปได้ว่า ลักษณะองค์การแห่งการเรียนรู้นั้น ต้องเริ่มจากการพัฒนาที่ตัวบุคคลให้มีไฟแรงใฝ่รู้ควบคู่ด้วย ศักยภาพ โดยมุ่งมั่นสร้างความรู้ ความเชี่ยวชาญให้ตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการพัฒนาตนเองทั้งกาย ปัญญา และอารมณ์ สามารถจัดการกับความตึงเครียดอย่างสร้างสรรค์ มีสติระลึกรู้ในปัจจุบันหาวิธีการแนวทางในการทำงานใหม่ๆ มีมุมมองที่กว้าง มีการรับรู้ภาพลักษณ์โลกรอบตัวอย่างถูกต้อง มีการมองโลกและการตัดสินใจได้เหมาะสมและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ แล้วสัมพันธ์กับองค์กรโดยการสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน มีความเข้าใจในทิศทางขององค์การในอนาคตร่วมกัน มุ่งไปสู่จุดหมายเดียวกัน โดยอาศัยการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ทักษะและวิธีคิด ความคิดเห็น เรียนรู้ร่วมกันเป็นทีมเพื่อก่อให้เกิดผลตามจุดมุ่งหมายผ่านการสนทนาและอภิปราย รับฟังด้วยความจริงใจ เรียนรู้ด้วยสภาพความเป็นจริง และมีการฝึกฝนเพื่อพัฒนาภูมิปัญญาและเสถียรภาพของทีมงานโดยรวม เน้นกระบวนการและระบบ โดยคิดเป็นอย่างมีระบบครบวงจร เพื่อให้เห็นภาพรวมและสามารถระบุประเด็นที่ต้องตัดสินใจได้ถูกต้อง จะเห็นได้ว่าทุกองค์ประกอบไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ต้องทำเป็นวัฏจักร อย่างเป็นระบบต่อเนื่อง เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่วางไว้

เรียนพี่ๆ เพื่อนๆ

เรื่องไปอินเดียนั้นพอจะจับเค้าได้ว่า เราจะเดินทางในวันที่ 2 มีนาคม 2552 ตอนกลางคืน เช้าวันที่ 3 มีค.City Tour วันที่ 4 มีค.ดูงาน และวันที่ 5 มีค.ดูงานเช้า บ่าย City Tour กลางคืนกลับถึงกทม.ดึกๆ รวมเป็น 3 คืน4 วัน ใครประสงค์จะให้บริษัททัวร์จัดรายการโปรดแจ้งให้ทราบแล้วให้บริษัทมาเสนอในวันศุกร์ที่ 23 มค.ตอนเลิกเรียนให้เพื่อนๆพิจารณา

ส่วนไปโคราชนั้นนั้นเดินทาง 4-5-6 กพ.52 วันแรกไปที่โคราช นอนที่โคราชวันที่สองนอนไปพิมายแล้วกลับมานอนที่ปากช่อง

ใครมีข้อมูลที่ชัดเจนโปรดแจ้งเพื่อนๆด้วยครับ

บัญชา

นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3

จากองค์ความรู้จากการศึกษา การเรียนรู้ การอบรม สัมมนา และจากประสบการณ์ ข้าพเจ้าขอนำเสนอความรู้เกี่ยวกับ องค์กรแห่งการเรียนรู้ และการประยุกต์องค์กรของสหกรณ์ให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ เพื่อแสวงหาโอกาส เชิงการบริหารและการดำเนินธุรกิจ ในยุคโลกาภิวัฒน์ ดังต่อไปนี้

องค์กรแห่งการเรียนรู้ ( Learning Organization : LO) คือ องค์กรที่มีการสร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการรับความรู้จากภายนอก เป้าประสงค์สำคัญ คือ เอื้อให้เกิดโอกาสในการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างเป็นฐานความรู้ที่เข้มแข็ง(Core competence) ขององค์กร เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

องค์ประกอบขององค์การแห่งการเรียนรู้ มี 5 องค์ประกอบ ดังนี้

1 การเรียนรู้ (Learning) หรือพลวัตการเรียนรู้ (Learning Dynamics) ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่

1) ระดับการเรียนรู้

2) ประเภทของการเรียนรู้

3) ทักษะการเรียนรู้

2 องค์การ (Organization) หรือการปรับเปลี่ยนองค์การ (Organization Transformation) ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่

1) วิสัยทัศน์

2) วัฒนธรรมองค์การ

3) กลยุทธ์

4) โครงสร้าง

3 สมาชิกในองค์การ (People) หรือการเสริมความรู้แก่บุคคล (People Empowerment) ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่

1) บุคลากร

2) ผู้บริหาร / ผู้นำ

3) ผู้รับบริการ / ลูกค้า

4) คู่ค้า

5) พันธมิตร / หุ้นส่วน

6) ชุมชน

4 ความรู้ (Knowledge) หรือการจัดการความรู้ (Knowledge Management) ประกอบด้วย

1) การแสวงหาความรู้

2) การสร้างความรู้

3) การจัดเก็บความรู้

4) การถ่ายโอนความรู้และการใช้ประโยชน์

5 เทคโนโลยี (Technology) หรือการนำเทคโนโลยีไปใช้ (Technology Application) ประกอบด้วย

1) เทคโนโลยีสารสนเทศ

2) เทคโนโลยีพื้นฐานของการเรียนรู้

3) ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สนับสนุนการปฏิบัติงาน

การสร้างสหกรณ์ให้เป็น”องค์กรแห่งการเรียนรู้” เพื่อแสวงหาโอกาสในเชิงบริหารและการจัดการ ขอเสนอกรอบแนวความคิด ดังต่อไปนี้

1. บุคคลรอบรู้ (Personal Mastery) หมายถึง การเรียนรู้ของบุคลากรซึ่งเป็นทรัพย์กรอันมีค่าของสหกรณ์ ประกอบด้วย ฝ่ายบริหาร ได้แก่ คณะกรรมการและฝ่ายจัดการ ประกอบด้วย ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่และลูกจ้างฝ่ายต่าง ๆ จะเป็นจุดเริ่มต้น ทุกคนในสหกรณ์จะต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ การฝึกฝน การปฏิบัติ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต (Lifelong Learning) การอบรม การสัมมนา เพื่อเพิ่มศักยภาพของคนในสหกรณ์อยู่เสมอ

2. แบบแผนทางความคิด (Mental Model) หมายถึง แบบแผนทางความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ แสดงถึงวุฒิภาวะ(Emotional Quotient, EQ) ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์กลายเป็นกรอบความคิดที่ทำให้ฝ่ายบริหารและฝ่ายจัดการของสหกรณ์ มีความสามารถในการทำความเข้าใจ วินิจฉัย ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

3. การมีวิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision) หมายถึง การสร้างทัศนคติร่วมของฝ่ายบริหารและฝ่ายจัดการของ ให้สามารถมองเห็นภาพและมีความต้องการที่จะมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งยึดนโยบาย และแผนการดำเนินงานเป็นสำคัญ

4. การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Learning) หมายถึง การเรียนรู้ร่วมกันของฝ่ายบริหาร และฝ่ายจัดการของสหกรณ์ ในลักษณะทีมงาน เป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน สร้างความสามัคคี การทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ

5. การคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking) หมายถึง การที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายจัดการ มีความสามารถที่จะเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ โดยมองเห็นภาพความสัมพันธ์กันเป็นระบบโดยรวม (Total System) ได้อย่างเข้าใจ แล้วสามารถมองเห็นระบบย่อย(Subsystem) ที่จะนำไปวางแผนและดำเนินการทำส่วนย่อยๆ นั้นให้เสร็จทีละส่วน

การสร้างสหกรณ์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ สหกรณ์จะต้องยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ในการดำเนินธุรกิจเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกัน และสร้างความมั่นคงแก่สหกรณ์

นายอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ

สวัสดีครับ ศ.ดร.จีระ ที่เคารพ ผมนายอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ ผนส.3 ผมรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาพัฒนาตนเองในหลักสูตรนี้ ถึงแม้ว่าบรรยากาศใน 2 วันแรกจะรู้สึกอึดอัดบ้าง แต่ก็สามารถที่ปรับตัวเองได้ และนี่คงจะเป็นองค์กรการเรียนรู้บทแรกของผมในหลักสูตรนี้ สำหรับสหกรณ์สามารถที่จะเป็นองค์กรการเรียนรู้ได้อย่างแน่นอนและมีประสิทธิภาพ เพราะสหกรณ์มีต้นกำเนิดมาจากการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แล้วมารวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรม ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการพึ่งพากันและกัน และเรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมร่วมกัน โดยเฉพาะสหกรณ์ในภาคเกษตรจะมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะเศรษฐกิจ มีความอ่อนไหวมากกว่าสหกรณ์ในภาคอื่นๆ จึงต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวตามสภาวะนั้นๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง การบริหารจัดการจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ สหกรณ์จึงจะสามารถผ่านวิกฤติไปได้ แต่ความสำเร็จของสหกรณ์จะต้องมีองค์ประกอบ 2 อย่างที่สำคัญ คือ 1 ความรู้- คณะกรรมการและสมาชิกต้องมีความรู้ความเข้าใจ ในหลักการดำเนินงานแบบสหกรณ์ 2 คุณธรรม- คณะกรรมการและสมาชิก ต้องมีวินัย ซื่อสัตย์ โปร่งใส ในการทำธุรกิจกับสหกรณ์ ร่วมกันในการคิด ทำ ตัดสินใจ และรับผิดชอบร่วมกัน

        เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ ผนส.3 ทุกคน

       หายไปหลายวันไม่ได้เข้าบล็อก เนื่องจากไปอบรมโครงการของศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี่การสหกรณ์ที่ 17 18 จังหวัดสงขลา โครงการอบรมผู้จัดการ ในภาคใต้ 7 จังหวัด รวม 80 คน โดยในโครงการมีการไปศึกษาดูงาน และได้ไปศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรดอนตูม จำกัด จังหวัดนครปฐม ซึ่งหลังจากไปดูแล้ว เลยมาเล่าสู่กันฟัง    

        ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านประธานและผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรดอนตูม จำกัด ที่ให้การต้อนรับด้วยดี และให้ความรู้ในการไปศึกษาดูงานครั้งนี้ จากไปศึกษาดูงานครั้งนี้ถือว่าคุ่มค่ามากที่เดียวอันดับแรกได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้เข้ารับการอบรมด้วยกัน ได้รับความรู้จากประสบการณ์ของแต่ละผู้จัดการ

      ที่สำคัญจากผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรดอนตูม  จำกัดที่บรรยายให้ความรู้และประสบการณ์ สหกรณ์ มีธุรกิจหลายอย่าง ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจรับเงินฝาก ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจน้ำมันเชื่อเพลิง ธุรกิจแปรรูปน้ำดื่ม แต่ละธุรกิจมีความสำเร็จด้วยมีซึ่งมีปัจจัยที่ทำให้สำเร็จน่าจะเกิดจาก

1 ความร่วมมือของสมาชิก เห็นได้จากการมาใช้บริการสหกรณ์

2 ความเสียสละของกรรมการ เห็นได้จากกรรมการที่มาต้อนรับและจากการบอกเล่าของผู้จัดการ

3 ความซื่อสัตย์ ของเจ้าหน้าที่ เห็นได้จากการทำงานของผู้จัดการที่ทำงานมานานหากไม่ซื่อสัตย์คงไม่อยู่มานานกว่า 30 ปี

4 โครงสร้างทางการเงิน ดุจากรายงานกิจการของสหกรณ์และการจ่ายเงินปันผล เงินเฉลี่ยคื่น และอัตราส่วนทางการเงิน

5 สหกรณ์มีแผนงานการดำเนินงาน สหกรณ์มีแผนงานและมีการติดตามผลทุกเดือน

6 สหกรณ์ใช้ระบบธรรมาภิบาลในการบริหารงานสหกรณ์

    จากผลสำเร็จของสหกรณ์ ทีกล่าวมาแล้วสหกรณ์แห่งนี้มีโครงการและมีการจัดสวัสดิการมากมายให้กับสมาชิกและครอบครัวและสังคม เลยทำให้ผูกมัดใจสมาชิกได้เป็นอย่างดี

ขอเล่าแค่นี้ก่อนค่อยต่อวันหลังอีก

สวัสดีครับ

เรียนผู้รับผิดชอบสถานที่ ขอให้ช่วยดูแลความสะอาดในห้องเรียนด้วยหยากไย่เกาะผนังหลายจุด อายทั่นรัฐมนตรีในวันมาเปิดโครงการฯ

learning organization

เท่าที่อ่านจากเพื่อนๆก็พอจะทราบว่าเพื่อนๆมีพื้นความรู้ในเรื่องนี้มากพอสมควรแล้ว แต่เราก็ได้ส่ง file ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เพื่อนแล้ว ซึ่งเป็นการนำเสนอที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และขั้นตอนรวมตลอดทั้งทฤษฎีของนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับ learning organization

แนวทางในทางปฎิบัติของที่สำนักงานของเรา จะใช้วิธีการนำทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมาผนึกรวมกับภาคปฏิบัติจริง โดยเริ่มนำมาใช้กับตัวเองก่อน และกระจายไปในแผนก และให้บุคลากรในแผนกกระจายไปในแต่ละฝ่ายจนกระทั่งระดับองค์การ นอกจากนี้การนำไปปฏิบัติจริง ยังทำให้พนักงานของเราได้มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อเกิดมีปัญหาที่ต้องใช้การแก้ปัญหาร่วมกันเกินกว่า 1 ฝ่าย ก็มีการระดมสมองเข้าช่วยกันแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และทำให้เกิดมุมมองที่แตกต่างจากเดิมมาก ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ทำให้ลดงบประมาณค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นในส่วนนี้นอกจากศึกษาตามทฤษฎีแล้วควรนำไปใช้จริงด้วย โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ เพื่อทำให้หน่วยงานของเราเข้มแข็งได้

เรียน ผู้นำสหกรณ์ รุ่นที่ 3 ทุกท่าน

ขอแจ้งกำหนดการศึกษาดูงานในประเทศ ระหว่างวันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ 2552 ดังนี้ครับ

4 ก.พ. 52

เช้า เดินทางสู่จังหวัดนครราชสีมา

บ่าย ศึกษาดูงาน บ.สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด (รอยืนยัน)

สรุปผลการศึกษาดูงาน

พัก โคราช 1 คืน

5 ก.พ. 52

เช้า ศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด

บ่าย ทัศนศึกษา เดินทางสู่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

สรุปผลการศึกษาดูงาน

พัก วังนำเขียว 1 คืน

6 ก.พ. 52

เช้า ศึกษาดูงานสหกรณ์กสิกรรมไร้สารพิษ อ.วังน้ำเขียว

สรุปผลการศึกษาดูงาน

บ่าย เดินทางกลับกรุงเทพฯ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายณรงค์ ยี่หวา เจ้าหน้าที่ประสานงาน 08-9159-0632 หรือ 0-2241-4839

ณรงค์ ยี่หวา

เจ้าหน้าที่โครงการ

เรียนคุณณรงค์ ยี่หวา

ขอบคุณมากในเรื่องข้อมูลการเดินทางไปทัศนศึกษาภายในประเทศ ขอให้พี่ๆเพื่อนๆรับทราบด้วยครับ และทำตัวให้ว่างนะครับ

บัญชา

      เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ และผู้บริหารโครงการ และพี่ๆเพื่อน ผนส.3 ทุกคน

          การเข้ามาเยี่ยมในบล็อก เป็นการบ้านส่วนหนึ่งที่อาจารย์มอบหมาให้ทำ ผมหวังว่า ผนสรุ่น 3 จะทำสถิติใหม่ให้อาจารย์ตามที่อาจารย์ตั้งใจไว้ว่าต้องชนะรุ่น  2 ทำ

        ผู้บริหารโครงการ ช่วยแนะนำโปรแกรมที่จะไปต่างประเทศ( อินเดีย)ให้หน่อย และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง และการเรียนในอาทิตย์หน้ามีเรื่องอะไรบ้าง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มีโปรแกรม กิจกรรมที่ต้องทำอย่างไรบ้าง

       และเรียนท่านประธานรุ่น และ สวัสดีพี่ๆเพื่อน ผนส รุ่น 3 ทุกคน อาทิตย์หน้าจะได้เจอกันและไม่ทราบมีโครงการอะไรบ้างในวันศุกร์ แต่ที่แน่นอนได้กินข้าวโพดหวานจากพี่ อภิสิทธิ์ จั้นอรัญ ประธาน สหกรณ์การเกษตรมาบตะโกเอน จำกัด ต้องขอขอบคุณพี่ไว้ร่วงหน้านะ

   

กราบเรียน อาจารย์จีระ หงส์ลดารมภ์ ที่เคารพ

เนื่องจากติดภาระกิจหลายประการทำให้ส่งงานที่ท่านมอบหมายล่าช้าต้องขออภัยมาด้วยความเคารพคะ

"องค์การแห่งการเรียนรู้" อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลจากการที่ได้รับความรู้ใหม่ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและเกิดการแสวงหามิติใหม่เสริมสร้างประสบการณ์นำมาสู่การพัฒนาตนในยุคข้อมูลข่าวสาร ผ่านกระบวนการเผยแพร่และแบ่งปันกระตุ้นให้เกิดแนวคิดเป็นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันเป็นขั้นเป็นตอนอย่างมีเหตุผล เกิดทักษะในการไตร่ตรอง สร้างทัศนคติในเชิงบวก เกิดความเชี่ยวชาญและ

สามารถถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อยกระดับในการพัฒนางาน โดยใช้เทคโนโลยี

เป็นเครื่องอำนวยความสะดวก ในยุคของกระแสโลกาภิวัตน์ ซึ่งต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิตอย่างไร้พรมแดน เพื่อการแข่งขัน สู่ความเป็นเลิศ แต่..อย่าไรก็ตาม ความรู้ต้องคู่คุณธรรม จึงจะนำพาไปสู่ความเจริญอย่างยั่งยืน

ราตรีสวัสดิ์คะ

ขนิษฐา บวชสันเทียะ

การบ้าน

โลกาภิวัฒน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์อย่างไร

สหกรณ์เป็นองค์กรหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัฒน์ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากดังนั้นสหกรณ์ต้องปรับตัวดังนี้

1.สหกรณ์ต้องพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถเพื่อจะปรับตัวและพัฒนาการทำงาน ให้สอดคล้อง สะดวก รวดเร็วกับการเปลี่ยน

แปลงกับกระแสโลกาภิวัฒน์ที่เกิดขึ้นให้สามารถแข่งขันกับภายนอกได้

2.สหกรณ์ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานโดยการนำระบบการสื่อสารทาง

เทคโนโลยี เช่นคอมพิวเตอร์ internet เพื่อรู้ข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วเพื่อให้สามารถตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล

3.การทำการเกษตรของสมาชิกต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ใช้แรงงานคนมีการลงแขกเกี่ยวข้าวในการทำนา ทำไร่ ต้องเปลี่ยนมาใช้รถไถ รถเกี่ยวนวดเครื่องจักรกลทางการเกษตรแทนเพราะลูกหลานไปทำงานโรงงาน

4.การผลิตสินค้าเช่นข้าวนั้นเนื่องจากผู้บริโภคต้องการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยปราศจากสารพิษสหกรณ์จึงต้องส่งเสริมให้สมาชิกใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนการใช้ปุ๋ย

เคมี และสหกรณืที่มีโรงสีข้าวจะต้องจัดทำระบบ GMP และ HACCP เพื่อรับประกันว่าข้าวสารที่ผลิตมาจำหน่ายได้คุณภาพและมีมาตรฐานในการผลิต หากสหกรณ์ไม่ทำจะไม่สามารถขายข้าวได้

ขนิษฐา บวชสันเทียะ

สวัสดีค่ะเพืี่่่อนๆทุกคน

วันที่ 23 ม.ค.นี้ดิฉันติดงานประชุมใหญ่สมาคมฌาปนกิจฯ ที่สหกรณ์ต้องขาดเรียน

1 วันหากการประชุมเสร็จเร็ว จะรีบมาเรียนให้ทันช่วงบ่าย กำหนดการดูงานที่โคราชของพวกเราจะไปดูงานที่สหกรณ์การเกษตรพิมายจำกัด ในวันที่ 5ก.พ. นั้นยินดีต้อนรับเต็มที่

เพราะ ผนส.3 รุ่นนี้มีชาวโคราชถึง 4 คน รับรองไม่ให้เพื่อนๆผิดหวังแน่นอน ขอบอกโดยเฉพาะนักท่องราตรีทั้งหลายถ้าอยากรู้ที่เที่ยว คุณอภิสิทธ์ จั้นอรัญยินดีจัดให้ค่ะ

สวัสดีครับ เพื่อน ผนส.3 ทุกท่าน

บรรยายกาศการเรียนในวันที่ 8- 10 ม.ค.52 ผมมีความประทับใจในการที่ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่และคณะอาจารย์ของอาจารย์จีระ และต้องขอบคุณ ผนส.2 รุ่นพี่ ที่ได้ต้อนรับอย่างอบอุ่น ในบรรยายกาศงานเลี้ยงสังสรรค์คืนวันที่ 8 ม.ค.52 และขอบคุณประธานสันนิบาตสหกรณ์และคณะ ที่ได้ดูแลเป็นอย่างดี และอย่าลืมมาเรียนครั้งที่ 2 ในวันที่ 23-24ม.ค.52 นะครับ สวัสดีครับ

เรียน ศ.ดร.จีระ

เรื่อง ส่งงานชิ้นที่ 2

ส่งมาแล้วที่[email protected] วันที่ 16/1/52 ไม่แน่ใจว่าอาจารณ์จะได้รับขอส่งทางนี้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

สรุปประเด็นโลกาภิวัตน์แผ่นงาน

ความหมายโลกาภิวัตน์

การเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัตน์

อิทธิพลโลกาภิวัตน์

ผลกระทบโลกาภิวัตน์

วิเคราะห์ผลกระทบโลกาภิวัตน์

โลกาภิวัตน์ Globalization) คืออะไร

โลกาภิวัตน์ (มีความหมายว่า การแผ่ถึงกันทั่วโลก, การเข้าถึงโลก, การเอาชนะโลกการแพร่กระจายไปทั่วโลก; การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ

ความหมายดังกล่าวมีนัยแสดงถึงการล่วงรู้ความเป็นไปของโลกหรือก้าวทันโลก กล่าวคือ การรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งที่เกิดขึ้นในประเทศของตนเองและประเทศต่าง ๆ ในด้านสังคม เศรษฐกิจการเมือง ฯลฯ เป็นการรับรู้ในเวลาใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะอยู่ ณ สถานที่ใด ๆ

โลกาภิวัตน์ และแนวโน้มของผลกระทบที่จะเกิดกับการจ้างแรงงาน รวมทั้งนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของภาครัฐที่พึงมีต่อแรงงานในโลกยุคโลกาภิวัตน์ เพื่อจะสร้างความมั่นคงของมนุษย์และสร้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับแรงงานในท้ายที่สุด

โลกาภิวัตน์” กันอย่างกว้างขวาง นักธุรกิจสามารถเปิดคอมพิวเตอร์ติดต่อค้าขายกับทุกมุมโลก อินเตอร์เน็ตกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของการสื่อสาร และการทำธุรกิจ ดูเหมือนว่าเรายิ่งโลกาภิวัตน์กันมากเท่าไร ก็ดูจะเป็นประเทศเจริญแล้ว เศรษฐกิจยิ่งเติบโตมีเงินจับจ่ายคล่องมือ เราสื่อสารได้รวดเร็ว ค้าขายกับต่างประเทศได้คล่อง มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมาก ๆ ขายที่ดิน ขายหุ้นกันได้กำไรงาม ก็ว่าเป็นเพราะโลกาภิวัตน์ พอตกมาถึงยุคฟองสบู่แตก เงินทองพากันไหลออกนอกประเทศ ประเทศเป็นหนี้ล้นพ้นตัว ข้าวของขายไม่ออก แม้เงินบาทจะมีราคาถูกลงมาก ธุรกิจ บริษัทเล็กบริษัทน้อยทะยอยกันเจ๊ง คนว่างงานเต็มบ้านเต็มเมือง ห้างยักษ์อย่างแมคโคร เทสโกโลตัส บิ๊กซี พากันมายึดหัวหาดกิจการค้าปลีก ร้านค้า

ปลีกไทยเจ๊งกันเป็นระนาว ก็ว่าเป็นเพราะโลกาภิวัตน์

โลกาภิวัตน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์อย่างไร

โลกาภิวัตน์กับ สหกรณ์ ต้องเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยการเอาความรู้มาแชร์กันต้องแก้ปัญหาทุกวัน มองอนาคตใหม่ๆ จัดการกับความไม่แน่นอน ที่เกิดขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน , เศรษฐกิจแย่, การเมืองไม่แน่นอน , ดอกเบี้ยแพง ต้องมีโลกทัศน์กว้าง ใฝ่รู้ และติดตามสถานการณ์ด้วยความรวดเร็วว่องไว ไม่ว่าเรื่องใดๆ ทั้ง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ธุรกิจสหกรณ์เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการเงิน การตลาด และลูกค้า สมาชิก เราได้รับผลกระทบหลายเรื่อง ต้องคิดให้เป็น ต้องมีทุนทางปัญญา

เรียน ศ.ดร.จีระ

เรื่อง ส่งงานชิ้นที่ 1

ส่งมาแล้วที่[email protected] วันที่ 13/1/52 ไม่แน่ใจว่าอาจารณ์จะได้รับขอส่งทางนี้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

งานชิ้นที่1

องค์กรแห่งการเรียนรู้คืออะไร

องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) เป็นอย่างยิ่ง หากองค์กรจะพัฒนาตนเองให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ก็จำเป็นจะต้องบริหารจัดการความรู้ภายในองค์กรให้เป็นระบบเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรเรียนรู้ได้จริงและต่อเนื่อง หากองค์กรใดมีการจัดการความรู้โดยไม่มีการสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นภายในองค์กร ก็นับเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการความรู้ มีความซับซ้อนมากกว่าการพัฒนาบุคลากรด้วยการฝึกอบรม เพราะเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการต่อภายหลังจากที่บุคลากรมีความรู้ความชำนาญแล้ว องค์กรจะทำอย่างไรให้บุคลากรเหล่านั้นยินดีถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้อื่น และในขั้นตอนสุดท้าย

ทำไมจึงต้องเป็นองค์กรแห่งความรู้

แนวคิดของการพัฒนาองค์กรในปัจจุบันมักจะพูดถึง “องค์กรแห่งการเรียนรู้” (L/O :Learning Organization) ที่มีความโด่งดังในอดีตตามทฤษีของ Peter Senge (1993) ซึ่งบอกกับธุรกิจทุกประเภทว่าจะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ด้วยวินัย 5 ประการ คือ

1) การเป็นบุคคลผู้รอบรู้ (Personal Mastery)

2) การคิดเป็นระบบ (System Thinking)

3) มีโมเดลความคิด(Mental Models)

4) ทีมการเรียนรู้ (Team Learning)

5) มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Shared Vision)

องค์กรแห่งความรู้จะทำให้นำไปสู่ องค์กรแบบใหม่

อ.ดนัย เทียนพุฒได้เสนอแนวคิดว่า พื้นฐานของการพัฒนาธุรกิจจาก "องค์กรแห่งการเรียนรู้" (L/O) และ "องค์กรที่สอนให้เรียนรู้"(T/O) จะทำให้นำไปสู่ "องค์กรแบบใหม่" ในศตวรรษที่ 21 ได้ก็คือ "องค์กรแห่งความรู้" (KBO)

1. องค์กรแห่งความรู้ (KBO) จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคนทำงานในองค์กรไปสู่ "คนทำงานรูปแบบใหม่" ที่เรียกว่า "Knowledge Worker" คือ ต้องสร้างความรู้ขึ้นมาได้ของในองค์กร

2. ลักษณะของ "องค์กรแห่งความรู้"

จะมีรูปแบบการจัดโครงสร้างองค์กรใน 4 ลักษณะด้วยกันคือ

1) เซ็ต (Set) โดยทุกองค์กรจะมีเซทของรายการ เช่น เครื่องจักร หรือคน บางครั้งรายการนี้อาจเชื่อมโยงถึงกันแต่ก็อยู่ในเซ็ต ตัวอย่างเช่น ธุรกิจบริการด้านวิชาชีพ กลุ่มบริษัท หรืองานด้านวิจัยในมหาวิทยาลัย

2) เชน (Chain) เป็นลักษณะของการเชื่อมโยงติดต่อกัน ตัวอย่างเช่น วัตถุดิบถูกส่งเข้าโรงงานเพื่อให้เป็นชิ้นส่วนประกอบ (Parts) โดยจะนำไปประกอบกันที่สายการผลิตย่อยๆ และส่งต่อไปประกอบในสายการผลิต จนกระทั่งส่งถึงมือลูกค้า

3) ฮับ (Hub) เป็นการให้บริการในลักษณะของศูนย์กลางประสานงาน โดยที่มองได้ทั้งกายภาพและจุดรวมของแนวคิด ที่ซึ่งคน สิ่งของ หรือสารสนเทศมีการเคลื่อนย้ายไปมา เช่น โรงเรียน สนามบิน ผู้จัดการ มีจุดศูนย์กลางเป็นการสื่อสารแบบเปิดและการเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่องของคนและความคิด

4) เว็บ (Web) คือเป็นลักษณะของการเชื่อมโยงในรูปของกริด (Grid) หรือตาข่ายที่อยู่ในรูปของ World Wide Web ซึ่งทั้ง 4 แบบนี้จะเรียกว่า องค์กรแบบออร์แกนิกราฟ (Organigraphs)

3. องค์กรแห่งความรู้ในรูปแบบที่สมบูรณ์ จะต้องสร้างให้เกิดทุนทางปัญญา (IC : Intellectual Capital) จากความสามารถของคน (Human Competence) ซึ่งจะสามารถนำไปสู่องค์กรรูปแบบใหม่ในอนาคตที่กำลังก่อตัวอยู่ซึ่งเรียกว่า องค์กรสู่คุณค่าทุนทางปัญญา (ICVO : Intellectual Capital Value Organization)

โดยสรุปแล้ว...องค์กรแห่งความรู้ (KBO : Knowledge Based Organization)เป็นองค์กรที่จำเป็นในปี 2546 เพราะเป็นฐานรากสู่องค์กร ICVO ในศตวรรษที่ 21

องค์ประกอบสำคัญของการจัดการความรู้กับสหกรณ์

องค์ประกอบสำคัญคือ คน เทคโนโลยี และการะบวนการความรู้โดยที่คนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดเพราะเป็นแหล่งความรู้ และเป็นผู้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อให้คน ค้นหา จัดเก็บ แลกเปลี่ยน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้อย่างง่ายและรวดเร็วขึ้น

ขั้นตอนการจัดการความรู้กับสหกรณ์

ตั้งทีมจัดการความรู้ จากการทำโฟกัสกรุ๊ฟ

จัดทำเป้าหมายในการบริหารจัดการความรู้ จากการระดมความคิด กระบวนการมีส่วนร่วม

สิ่งเสริมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แลกเปลี่ยนผ่านสื่อ เว็บเพจซ์ เว็บบล็อก

จัดรวมรวมสร้างองค์ความรู้ สังเคราะห์องค์ความรู้

ติดตามประเมินผล

สิ่งที่อยู่ในใจเป็นความเชื่อค่านิยม

สิ่งที่อยู่ในสมองเป็นเหตุผล

สิ่งที่อยู่ในมือ ส่วนต่างๆของร่างกายได้แก่ทักษะในการปฏิบัติ

การเกิดสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้

วิธีการสหกรณ์ คือ นำหลักสหกรณ์มาประยุกต์ใช้ดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจและสังคมเพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกและชุมชนโดยไม่ละเลยหลักการธุรกิจที่ดี

มีคุณธรรม 5 ประการ ซื่อสัตย์ เสียสละ รับผิดชอบ เห็นอกเห็นใจ ไว้ใจ

มีจิตตารมย์คือ สนใจ ห่วงใย แบ่งปัน รับใช้

อุดมการณ์สหกรณ์ มีความเชื่อร่วมกันช่วยตนเอง ช่วยเหลือกันและกันตามหลักสหกรณ์

สวัสดีค่ะ อาจารย์และพี่ ๆ เพื่อน ผนส.3 ทุกท่าน

ไม่ได้เข้า blog เสียหลายวันเพราะมีปัญหาเรื่อง com. คิดถึงทุกท่านค่ะ ขอส่งการบ้านเรื่องที่ 2 ก่อนนะค่ะ

โลกาภิวัฒน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์อย่างไร

ปัจจุบันเป็นยุคที่สังคมโลกกำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียว มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรม โดยมองผ่านกระแสเรียกว่า โลกาภิวัฒน์ (Globallization)ที่มีกระแสอย่างรุนแรงครอบคลุมทุกส่วนของสังคมโลก ซึ่งมีเครื่องมือ คือ เทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบทุนนิยมเป็นปัจจัยหลักที่เป็นเกณฑ์ในการพัฒนาและการติดต่อสื่อสารในด้านต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ดังนั้น สหกรณ์นั้นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเอง ในด้านความคิด ทัศนคติ ต้องมีการเชื่อมโยงกันในสหกรณ์ประเภทเดียวกัน หรือ ต้องมีเครื่องข่ายไปยังสหกรณ์ประเภทอื่น ด้วยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือ เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ว่า จะเป็นความรู้เพื่อการพัฒนาองค์กร แหล่งเงินทุนเพื่อการทำธุรกิจ เป็นต้น ตลอดจนจะต้องรู้ถึงภาวะการเมื่อง เศรษฐกิจเพื่อจะได้พัฒนาให้สหกรณ์เป็นองค์กรที่สามารถช่วยเหลือมวลสมาชิกและเป็นแหล่งเรียนรู้ได้

สวัสดีค่ะพี่น้อย คิดถึงเหมือนกัน ฝากบอกพี่เพื่อน ๆ ด้วยนะค่ะ ได้ไปดำเนินการเรื่องเสื้อที่เป็นแบบเสื้อลำลองใส่สบาย ๆ ตามที่ท่านประธานบัญชาได้บัญชาให้ไปเลือกหามาแล้วนะค่ะ นำสีเสื้อตัวอย่างมาให้เลือก 6 สี มีสีม่วงตามที่หมอกิตตินันท์ ชอบด้วยนะค่ะ วันศุกร์จะเอาไปให้ชมกัน ต่อรองมาได้ตัวละ 230 บาทค่ะ

ประยูร รัตนเมธางกูร สกต. นครราชสีมา ผนส.3

เรียน ท่านอาจารย์ จีระ ที่เคารพ

จาก "โลกาภิวัฒน์" ที่อาจารย์เล๊กเชอร์ วันที่ 9 ม.ค.52

    -ในฐานะเป็นคนในกระบวนการสหนกรณ์ และเข้าอบรมหลักสูตรนี้ หากไม่มี หัวข้อ "โลกาภิวัฒน์" ในหลักสูตร คิดว่าหลักสูตรคงไม่สมบูรณ์

    -มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่บุคลากรณ์ของทุกองกรณ์ โดยเฉพาะผู้นำ ต้องปรับตัวให้ทันต่อโลกาภิวัฒน์ เพราะมันเชื่อมโยงเกี่ยวข้องไปทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้าน เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และ วัฒนธรรม ครอบคลุมไปทั้งหมด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บุคลากร ตั้งแต่ผู้บริหารลงมาแทบทุกระดับ ต้องพัฒนาตัวเอง เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆทุกด้านเพื่อปรับตัวเท่าทันเหตุการณ์อยู่เสมอ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการถือว่ามีความจำเป็นมาก ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสูง การนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการจัดการระบบสื่อสารสารสนเทศก็จะทำให้ได้เปรียบ และทันสมัยกว่าองกรณ์อื่นๆ หรือล้ำหน้าอยู่เสมอ ดังนั้นกระบวนการณ์สหกรณ์ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาบุคลากรให้รู้เท่าทัน "โลกาภิวัฒน์" อย่างกว้างขวางกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

                                                        สวัสดีครับ

สวัสดีคะ ท่านประธาน และ เพื่อนๆ ผนส.รุ่น3

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม นี้ ผสน.รุ่น3 จะร่วมกันประกอบพิธีสักการะ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย" เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงเป็นผู้บุกเบิกริเริ่มงานสหกรณ์ขึ้นในประเทศไทย และเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ ผนส.รุ่น3ทุกคน ได้ประสบความสำเร็จในการอบรม และสามารถนำความรู้ที่อาจารย์ทุกท่าน กรุณาเสียสละเวลาตั้งใจถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับพวกเรา และท่านก็หวังใจว่าพวกเราจะช่วยกันนำพาขบวนการสหกรณ์ไทยไปสู่สากลได้ในที่สุด พิธีนี้ก็มีแต่พวกเราไม่ใหญ่โตอะไร แค่ " พอมี พอดี พอเพียง " เวลาจะให้พร้อมกันก็คงจะตอน สิบโมงเศษๆ ดีมั้ยคะ

ท้ายนี้..ขอขอบคุณนะคะ "คุณจิ๋น" ที่กรุณาเป็นธุระ จัดหาเสื้อผ้าให้พวกเรา แถมไปต่อราคาเค้ามาซะอีก "เก่งจัง" ระวังเค้าจะไม่เจาะ รังดุม ให้นะ..จะบอกให้

คิดถึงทุกคนคะ

สวัสดี

พี่น้อย

       เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

        ส่งการบ้าน โลกาภิวัตน์

       โลกาภิวัตน์ เป็นคำที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ Globalization ซึ่งมีผู้รู้ให้ความหมายไว้เฉพาะว่า โลกไร้พรมแดน

       คำว่าโลกไร้พรมแดน  เข้ามาสู่สังคมไทยในยุคที่เรียกว่าไอที  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ เมื่อมีการเกิดเครือข่ายโทรคมนาคมที่โยงใยทั่วโลกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า Internet (International Network )

       Internet มีคุณประโยชน์ต่อโลกอย่างมหาศาล ทำให้มนุษย์ชาติหาความรู้ที่มีอยู่รอบโลกได้โดยไร้ขีดจำกัด เกิดกิจกรรมไร้พรมแดนมากมาย เกินกว่าที่จะบรรยายได้หมดในหน้ากระดาษเดียว

       ประเด็นที่สำคัญโลกภิวัฒน์ คือกระแสโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การอยู่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลง

          สหกรณ์เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยธุรกิจและเป็นชุมชน ย่อมต้องได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่นๆ ของประเทศและของโลกด้วยเช่นกัน จึงควรสร้างความรู้ความเข้าใจและเตรียมการเพื่อรองรับกระแสโลกาภิวัตน์ด้วย ดังนี้

1.สหกรณ์ต้องพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถเพื่อจะปรับตัวและพัฒนาการทำงาน ให้สอดคล้อง สะดวก รวดเร็วกับการเปลี่ยน แปลงกับกระแสโลกาภิวัฒน์ที่เกิดขึ้นให้สามารถแข่งขันกับภายนอกได้

2.สหกรณ์ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานโดยการนำระบบการสื่อสารทาง

เทคโนโลยี เช่นคอมพิวเตอร์ internet เพื่อรู้ข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วเพื่อให้สามารถตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล

3.การทำการเกษตรของสมาชิกต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ใช้แรงงานคนมีการลงแขกเกี่ยวข้าวในการทำนา ทำไร่ ต้องเปลี่ยนมาใช้รถไถ รถเกี่ยวนวดเครื่องจักรกลทางการเกษตรแทนเพราะลูกหลานไปทำงานโรงงาน

4.การผลิตสินค้าเกษตรนั้นเนื่องจากผู้บริโภคต้องการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยปราศจากสารพิษสหกรณ์จึงต้องส่งเสริมให้สมาชิกใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนการใช้ปุ๋ยเคมี หรือจัดตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์เองเพื่อบริการสมาชิก

 

เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

ขอส่งการบ้านข้อแรก และขออนุญาติส่งช้า

1.องค์การแห่งการเรียนรู้ "องค์กรแห่งการเรียนรู้" เป็นองค์กรที่มีการสร้างช่องทางให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากร ควบคู่ไปกับการรับความรู้จากภายนอก เป้าประสงค์สำคัญคือเอื้อให้เกิดโอกาสในการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างฐานความรู้ที่เข้มแข็ง ขององค์กร เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

2สหกรณ์สามารถนำไปใช้ได้กับสหกรณ์ดังนี้

(1) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ HRD การเสริมสร้างความรู้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์และสมาชิกของสหกรณ์ โดยอาจให้การศึกษาอบรมหรือส่งไปศึกษาอบรมจากสถาบันต่างๆ

(2) ปรับเปลี่ยนแนวคิด ทัศนคติและวัฒนธรรมองค์กร โดยการมีวิสัยทัศน์ร่วม (Shared Thinking ) แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ปรับโครงสร้างการบริหารให้เหมาะสม เอื้อให้คนได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกัน และให้มีความคิดนอกกรอบเพื่อเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ

(3) การใช้เทคโนโลยี เพื่อให้การทำงานของสหกรณ์รวดเร็วทันสมัย เชื่อมโยงเครือข่ายได้ก้าวไกล และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อพัฒนาสหกรณ์ให้เจริญก้าวหน้า ทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทคโนโลยีพื้นฐานของการเรียนรู้และระบบอิเล็คทรอนิกส์ที่สนับสนุนการปฏิบัติงาน

ภัททรัตน์ แนวพานิช

ความหมายของโลกาภิวัตน์

กระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทำให้เกิดการติดต่อด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สร้างตลาดการค้า การแข่งขัน การส่งออก การบริการ การลงทุน และองค์ความรู้เทคโนโลยีร่วมสมัย

ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากความเจริญก้าวหน้า ความรวดเร็วในการใช้เทคโนโลยีใหม่ สินค้านำเข้าราคาถูกลง ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างประเทศ

ผลดีและผลเสียของโลกาภิวัตน์

ผลดี

1.ทำให้มีการค้าขายและการลงทุนข้ามชาติ

2.สร้างงานในประเทศ

3.บูรณาการด้านเศรษฐกิจกับสิ่งแวดล้อมโดยสร้างตลาดจากสินค้าที่มีศักยภาพ

ผลเสีย

1. ทำให้สูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ

2. การลงทุนแข่งขันทำให้ต้องต่อสู้กันเพื่อชัยชนะ

โลกาภิวัฒน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์อย่างไร

สหกรณ์มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเกี่ยวข้องกับโลกาภิวัฒน์ทั้งในด้านของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป สหกรณ์สามารถนำเทคโนโลยีและข่าวสารในยุคโลกาภิวัฒน์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ และในด้านของการค้าขายเสรี การลงทุนข้ามชาติที่มองว่าเป็นผลเสียต่อสหกรณ์นั้น หากสหกรณ์มีการตั้งรับกับโลกโลกาภิวัฒน์และฉกฉวยเอาวิกฤตให้เป็นโอกาสก็จะสามารถดำรงอยู่ได้ในโลกโลกาภิวัฒน์นี้

กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

โลกาภิวัตน์ (Globalization) หมายถึงโลกไร้พรมแดน สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารได้ง่ายและสะดวกขึ้น ทำให้โลกแคบลงเป็นไปในลักษณะของการโยงใยกันทั่วโลก เสมือนหนึ่งโลกเป็นสังคมเดียวกัน ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ณ ที่แห่งใดในโลกสามารถติดต่อถึงกันและรับรู้เหตุการณ์ได้พร้อมกัน โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศ(Information Technology)

สหกรณ์เป็นสังคมที่มีบุคคลมารวมตัวกันทำกิจกรรมหลายๆอย่างเช่นการผลิต การจำหน่าย การบริการ การค้า การลงทุน การทำธุรกรรมการเงินต่างๆอย่างหลากหลาย ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมโลกซึ่งไม่สามารถหลีกพ้นกระแสโลกาภิวัตน์ได้ จึงต้องปรับตัวให้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในปัจจุบัน ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมจากที่อื่นๆบนโลกาใบนี้ย่อมส่งผลถึงกันอย่างทั่วถึง ผุ้นำสหกรณ์ต้องสามารถหลีกเลี่ยงภัยคุกคามได้ และถ้ามีโอกาสก็ต้องฉกฉวย โดยต้องพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้และก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ๆ

สุรชัย บำรุงราษฎร์

โลกาภิวัตน์ เป็นแนวคิดโดยสมมติว่าทุกคนมีโอกาสและความรู้เท่าเทียมกัน โดยมีการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรมของประเทศทั่วโลก ผู้ที่เรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ดีจะมีศักยภาพและขืดความสามารถในการแข่งขันสูง สหกรณ์ในยุกต์โลกาภิวัตน์ ต้องมีการเรียนรู้และพัฒนาองค์กรให้ทันต่อเหตุการณ์ และต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อพัฒนาให้ทันต่อการแข่งขัน

เพื่อนๆ พี่ๆ ผนส.รุ่น3 ส่งการบ้านกันครบทุกคนหรือยังคะ คุณสุทิศน่ารักมากที่ขยันเข้า blog ขอขอบคุณ อ.บัญชา ประธานรุ่น ที่ส่งกำหนดการคร่าวๆในการดูงานให้ทราบ เพื่อใช้ในการวางแผนงานได้ล่วงหน้าละเอียดขึ้น อีก 2วัน ก็จะได้เจอะกันนะคะ

เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

เรื่อง ขอส่งการบ้าน เรื่อง โลกาภิวัตน์

โลกาภิวัตน์ Globaliztion คือ การเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์วันต่อวัน ทำให้เกิดการเชื่อมโยงทางด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง,ธุรกิจและการพัฒนาด้านต่าง ๆ

เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

เรื่อง ขอส่งการบ้าน เรื่อง โลกาภิวัตน์

โลกาภิวัตน์ Globaliztion คือ การเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์วันต่อวัน ทำให้เกิดการเชื่อมโยงทางด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง,ธุรกิจและการพัฒนาด้านต่าง ๆ

สวัสดีครับท่านอาจารย์จีระ และ ผนส.รุ่นที่3 ทุกท่าน

ใกล้ถึงวันที่ 23-24 ม.ค 52แล้วนะครับจะได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สอง

ช่วงนี้ที่จังหวัดลำปางอากาศหนาวมาก แล้วที่ท่านอยู่เป็นอย่างไรบ้าง รักษาสุขภาพ ด้วยนะครับแล้วเจอกัน อย่าลืมส่งการบ้าน ท่านอาจารย์จีระ ด้วยนะครับ

บล็อก 174 ขอขอบคุณ คุณณรงค์ ยี่หวาที่แจ้งกำหนดการศึกษาดูงานในประเทศ ระหว่างวันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ 2552

4 ก.พ. 52

เช้า เดินทางสู่จังหวัดนครราชสีมา

บ่าย ศึกษาดูงาน บ.สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด

สรุปผลการศึกษาดูงาน

พัก โคราช 1 คืน

5 ก.พ. 52

เช้า ศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด

บ่าย ทัศนศึกษา เดินทางสู่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

สรุปผลการศึกษาดูงาน

พัก วังนำเขียว 1 คืน

6 ก.พ.52

เช้า ศึกษาดูงานสหกรณ์กสิกรรมไร้สารพิษ อ.วังน้ำเขียว

สรุปผลการศึกษาดูงาน

บ่าย เดินทางกลับกรุงเทพฯ

อยากให้คุณณรงค์ ยี่หวา แจ้งเพิ่มเติมด้วยว่าเช้า เดินทางสู่จังหวัดนครราชสีมา

บอกเวลาด้วยและวันที่ 6 ก.พ.52 บ่าย เดินทางกลับกรุงเทพฯ ถึงเวลาใด

คนต่างจังหวัดจะได้จองตั๋วเดินทางกลับบ้านถูก

ความหมายของโลกาภิวัตน์

- โลกาภิวัตน์เป็นคำที่มีความหมายที่หลากหลายขึ้นอยู่กับบริบทของสังคมนั้น ๆ และนักคิดที่จะบัญญัติความหมายโลกาภิวัตน์ขึ้นมา เช่น เน้นในเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และสังคมวัฒนธรรม ซึ่งมีความหมายแตกต่างกันออกไป

- ความหมายที่บัญญัติไว้ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์ครั้งที่ 5 ได้ให้คำนิยามเกี่ยวกับคำว่า “โลกาภิวัตน์” ว่า การแพร่กระจายไปทั่วไลก, การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใดสามารถรับรู้สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น

- โลกาภิวัตน์มีจุดเชื่อมกันในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในการทำให้เราติดต่อกันได้

- โลกาภิวัตน์ คือ กระแสไหลเวียนของการค้าและการลงทุนขนาดใหญ่ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องระหว่างประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ยังพบการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ และกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องของคน ข้อมูลข่าวสาร และความคิดต่าง ๆ

- โลกาภิวัตน์เป็นเรื่องของทั่วโลกที่มีกระบวนการของการแพร่ขยายสิ่งต่าง ๆ ที่หลากหลายไปสู่ประชาชนในทุกมุมของโลก

- โลกาภิวัตน์คือการทำให้มีความทันสมัย พยายามทำให้เกิดรูปแบบต่าง ๆ ที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่เป็นตัวแทนของความเป็นสมัยใหม่นั้นเอง

สรุปได้ว่าประเด็นโลกาภิวัตน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ดังนี้

1. บุคลากรของสหกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นกรรมการ พนักงาน และสมาชิก หากทุกคนช่วยกันคิด ค้นคว้าหาสิ่งใหม่ ๆ ที่ดี ที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับสหกรณ์ของตนเอง ตามภารกิจของแต่ละคนที่ดำเนินการอยู่ และมาร่วมกันบูรณาการความคิดในด้านต่าง ๆ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน เพื่อใช้ในการพัฒนาสหกรณ์

2. นอกจากบุคลากรในสหกรณ์แล้ว ยังควรมีการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากภายนอก ได้แก่ สหกรณ์อื่นทั้งสหกรณ์ในประเทศและสหกรณ์ในต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือเอกชนก็ตาม

3. วัสดุอุปกรณ์และครุภัณฑ์ต่าง ๆ ในการทำงาน อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ควรมีการวางแผนและพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ทันสมัย โดยมีการเตรียมการในเรื่องต่าง ๆ ไว้ให้พร้อม

นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3

จากองค์ความรู้กระผมขอให้นิยามความหมาย และขอแสดงให้ความคิดเห็นผลกระทบของโลกาภิวัฒน์ ต่อสหกรณ์ ดังต่อไปนี้

โลกาภิวัฒน์ เป็นคำที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ Globalization ซึ่งมีผู้รู้ให้ความหมายไว้เฉพาะว่า “โลกไร้พรมแดน” คำว่าโลกไร้พรมแดน เข้ามาสู่สังคมไทยในยุคที่เรียกว่าไอที (IT = Information Technology) โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ เมื่อมีการเกิดเครือข่ายโทรคมนาคมที่โยงใยทั่วโลกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า Internet (International Network ) Internet มีคุณประโยชน์ต่อโลกอย่างมหาศาล ทำให้มนุษย์ชาติหาความรู้ที่มีอยู่รอบโลกได้โดยไร้ขีดจำกัด เกิดกิจกรรมไร้พรมแดนมากมาย อิทธิพลของโลกาภิวัฒน์ ทำให้เกิดการกระเพื่อมต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์มากมายหลายด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยี การเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ค่านิยม รวมทั้งภาษาใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น

ผลกระทบต่อสหกรณ์ การดำเนินงาน และการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ ในโลกปัจจุบันนี้ไม่ได้เรียบง่ายดังเช่นในอดีต แต่กลับต้องดำเนินงานภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ที่นับวันยิ่งเชี่ยวกราดมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทุกอย่างรอบตัวกำลังรวมเป็นตลาดเดียว คือ ตลาดโลก นั่นหมายความว่า ราคาสินค้า และบริการถูกกำหนดโดยตลาดโลก ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการปฏิวัติทางเทคโนโลยี และการสื่อสาร ต้นทุนการคมนาคมขนส่งที่ลดลงต่ำเป็นอย่างมาก ด้วยปัจจัยทั้งหมดที่เชื่อมโยงกัน สหกรณ์จะต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี การเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ค่านิยม ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบต่อสหกรณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม สหกรณ์ใดที่เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ก็จะสามารถประสบความสำเร็จในการดำเนินงาน แต่หากสหกรณ์ใดยังล้าหลัง ปรับตัวไม่ทัน ผู้นำไม่มีวิสัยทัศน์ ก็อาจนำพาสหกรณ์นั้นไปสู่ห้วงเหวลึกได้ ยากที่จะเยียวยาได้

สวัสดีค่ะ  ผนส.3  ทุกท่าน

        ขอแสดงความยินดีกับทุกท่าน ที่ท่านได้มีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในบ้านของ ผนส. 

        จากประสบการณ์ วันนี้ท่านได้เป็นที่หนึ่งจากองค์กรของท่าน ที่ได้เข้ารับการอบรม  แต่เมื่อท่านได้อยู่กับเพื่อน ๆ  ไประยะหนึ่งท่านจะรุ้สึกถึงความรัก ความผูกพันธ์  และมิตรภาพ  และท่านจะกลายเป็นหนึ่งเดียวไม่ใช่ที่หนึ่ง

        ขอให้ทุกท่านโชคดี และมีความสุขในบ้าน ผนส.

                      จาก      ผนส. 2

         เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ ผู้บริหารโครงการ ผนส.3 ทุกคน

             วันที่ 23-24 มกราคม 2552 เป็นการอบรมตามโครงการครั้งที่สอง หลังจากที่อบรมครั้งแรกผ่านไป แต่การอบรมครั้งที่สองไม่ทราบมีวิชาอะไรบ้าง

             และวันที่ 23 เช้าขออนุญาตเข้าสาย เนื่องจากเดินทางไกล ถึงกรุงเทพประมาณ 10.00 น.

สวัสดีครับ ระบบสหกรณ์จะนำพาชาติรอดครับ

นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ สกก.บ้านเขว้า จก. จังหวัดชัยภูมิ

ความเป็นอิสระของสหกรณ์ ตามรัฐธรรมนูญ ฯ ฉบับปัจจุบัน โดยความเห็นส่วนตัว ความเป็นอิสระส่วนหนึ่งจะต้องให้อำนาจแก่องค์กรสูงสุดของขบวนการสหกรณ์ คือ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย(สสท.)เป็นผู้กำหนด หลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติ ประกาศ หรือคำสั่งแทนนายทะเบียนสหกรณ์ ในการกำหนดจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ ฯ ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เทียบเคียงกับการตรากฏหมายต้องผ่านสภา ฯ หรือมติ ครม.เหตุผลเนื่องจาก ๑.หลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติ ประกาศหรือคำสั่งนายทะเบียน ซึ่งมีผลให้สหกรณ์ถือปฏิบัตินั้น ไม่สอดคล้องและมีกรอบในการดำเนินงานของสหกรณ์แคบเกินไป ๒.สหกรณ์เป็นผู้ใช้และมีผลกระทบต้องมีส่วนร่วมในการกำหนด ๓.สหกรณ์มีความแตกต่างกัน เช่น ประเภท ฐานะการเงิน ภูมิศาสตร์ ประเพณี เศรษฐกิจ สังคม และ สมาชิก

เรียน ท่านอาจารย์จีระ

โลกาภิวัฒน์ ความสามารถในการเพิ่มผลกำไร และพัฒนาการสื่อสารภายในองค์กรสหกรณ์

องค์กรต่างๆทั่วโลกได้รับประโยชน์ในการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ โดยปรับปรุงการสื่อสาร, ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ตลอดจนกระบวนการต่างๆ สำหรับพนักงาน, คู่ค้าทางธุรกิจ, และลูกค้า ซึ่งหัวใจหลักก็คือ ความสามารถในการขยายระบบ, การเข้าถึงข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายไอพี และการนำเอาแอพพิเคชันในการสื่อสารมาใช้งาน อาทิเช่นการประชุมทางไกล ผ่านทางเว็บ, อีเลิร์นนิ่ง, การจัดการข้อมูลและการพัฒนาซอฟท์แวร์ ความเป็นองค์กรในยุคโลกาภิวัฒน์ มีความหมายมากไปกว่าแค่การมีสำนักงานสาขาทั่วโลก โดยต้องเป็นองค์กรที่มีการแบ่งปันข้อมูลอย่างไม่มีขอบเขต ตลอดจนการใช้ข้อมูล และกระบวนการต่างๆ อย่างทั่วทั้งองค์กร ซึ่งเป็นหลักการในการสร้างความเป็นโลกาภิวัตน์ภายใต้การใช้โซลูชัน ธุรกิจต่างๆ จำเป็นที่จะต้องสร้างรากฐาน เพื่อที่จะรองรับการเติบโตของธุรกิจ และการปรับตัวเพื่อนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดในทุกภูมิภาค ซึ่งกระบวนการในการปฏิบัตินั้น ต้องมีความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ทั้งด้านเทคนิค, ด้านการเงิน, การจัดการ, ด้านบุคลากร, และการตัดสินใจด้านการตลาด

การก้าวสู่ความเป็นโลกาภิวัฒน์หมายถึงการคิดใหม่, ทำใหม่และอาจรวมไปถึงการปรับองค์กรเลยทีเดียว โดยองค์กรจำเป็นที่จะต้องมองไกลออกไปในอนาคต และดำเนินการในทุกด้าน เพื่อให้ถึงจุดหมายการสร้างแอพพิเคชันขึ้นมา และมีการแบ่งปันในการใช้งานทั่วโลกนั้น มีความท้าทายอย่างมากในด้านระบบเครือข่ายที่มีความซับซ้อน ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านแบนด์วิธ, ระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย, ความสามารถในการขยายระบบในการที่จะมีการใช้แอพพิเคชันร่วมกัน ตลอดจนการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดจากอินเทอร์เน็ต ความเป็นโลกาภิวัฒน์นั้นครอบคลุมทั้งด้านไอที และส่วนที่ไม่ใช่ไอที องค์กรที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานได้นั้น โดยมากจะมีกระบวนการด้านธุรกิจที่เชื่อมต่อกับทุกหน่วยงาน และบุคลากรทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ โดยเน้นในส่วนผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นแกนหลักของธุรกิจ และใช้บริการจากภายนอก หรืออาศัยพันธมิตรทางธุรกิจให้ดำเนินการในส่วนอื่นๆ

ปรีชา แก่นอินทร์ นครศรีธรรมราช

เรียน ท่านอาจารย์จีระ (ขอโทษครับ ลำดับที่ 203ลืมแสดงตนครับ)

โลกาภิวัฒน์ ความสามารถในการเพิ่มผลกำไร และพัฒนาการสื่อสารภายในองค์กรสหกรณ์

องค์กรต่างๆทั่วโลกได้รับประโยชน์ในการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ โดยปรับปรุงการสื่อสาร, ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ตลอดจนกระบวนการต่างๆ สำหรับพนักงาน, คู่ค้าทางธุรกิจ, และลูกค้า ซึ่งหัวใจหลักก็คือ ความสามารถในการขยายระบบ, การเข้าถึงข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายไอพี และการนำเอาแอพพิเคชันในการสื่อสารมาใช้งาน อาทิเช่นการประชุมทางไกล ผ่านทางเว็บ, อีเลิร์นนิ่ง, การจัดการข้อมูลและการพัฒนาซอฟท์แวร์ ความเป็นองค์กรในยุคโลกาภิวัฒน์ มีความหมายมากไปกว่าแค่การมีสำนักงานสาขาทั่วโลก โดยต้องเป็นองค์กรที่มีการแบ่งปันข้อมูลอย่างไม่มีขอบเขต ตลอดจนการใช้ข้อมูล และกระบวนการต่างๆ อย่างทั่วทั้งองค์กร ซึ่งเป็นหลักการในการสร้างความเป็นโลกาภิวัตน์ภายใต้การใช้โซลูชัน ธุรกิจต่างๆ จำเป็นที่จะต้องสร้างรากฐาน เพื่อที่จะรองรับการเติบโตของธุรกิจ และการปรับตัวเพื่อนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดในทุกภูมิภาค ซึ่งกระบวนการในการปฏิบัตินั้น ต้องมีความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ทั้งด้านเทคนิค, ด้านการเงิน, การจัดการ, ด้านบุคลากร, และการตัดสินใจด้านการตลาด

การก้าวสู่ความเป็นโลกาภิวัฒน์หมายถึงการคิดใหม่, ทำใหม่และอาจรวมไปถึงการปรับองค์กรเลยทีเดียว โดยองค์กรจำเป็นที่จะต้องมองไกลออกไปในอนาคต และดำเนินการในทุกด้าน เพื่อให้ถึงจุดหมายการสร้างแอพพิเคชันขึ้นมา และมีการแบ่งปันในการใช้งานทั่วโลกนั้น มีความท้าทายอย่างมากในด้านระบบเครือข่ายที่มีความซับซ้อน ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านแบนด์วิธ, ระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย, ความสามารถในการขยายระบบในการที่จะมีการใช้แอพพิเคชันร่วมกัน ตลอดจนการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดจากอินเทอร์เน็ต ความเป็นโลกาภิวัฒน์นั้นครอบคลุมทั้งด้านไอที และส่วนที่ไม่ใช่ไอที องค์กรที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานได้นั้น โดยมากจะมีกระบวนการด้านธุรกิจที่เชื่อมต่อกับทุกหน่วยงาน และบุคลากรทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ โดยเน้นในส่วนผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นแกนหลักของธุรกิจ และใช้บริการจากภายนอก หรืออาศัยพันธมิตรทางธุรกิจให้ดำเนินการในส่วนอื่นๆ

คุณไกรฤกษ์ ดวงคงทอง

ส่งการบ้าน โลกาภิวัฒน์กับสหกรณ์

เรียน ศ.ดร.จีระ ที่เคารพ

ในกระแสความเปลี่ยนแปลงในระบบสังคมโลกในปัจจุบัน คือ กระแสโลกาภิวัฒน์ (Globalization) ทำให้เกิดความก้าวหน้าด้านสื่อสารโทรคมนาคม โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) เป็นผลให้เกิดการผลักดันที่สำคัญ คือ ทำให้โลกอยู่ในภาวะที่ไร้พรมแดนมีการติดต่อสัมพันธ์กันได้อย่างรวดเร็ว เปิดโอกาสให้มนุษย์แสวงหาความรู้ได้ทั่วทุกทิศทาง แม้แต่โลกของธุรกิจมีความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการค้า การบริหารจัดการในภาวะทรัพยากรมีขีดจำกัดการแข่งขันในเชิงธุรกิจที่ต้องใช้กลยุทธ์ในการแย่งชิง ส่วนแบ่งการตลาดให้ได้มากที่สุด ซึ่งขบวนการสหกรณ์ก็ถือว่าเป็นระบบธุรกิจประเภทหนึ่งที่จะต้องปรับตัว เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในปัจจุบัน

ปัจจัยการบริหารจัดการองค์กรทั้ง 4 ปัจจัย คือ คน (Man) เงิน (Money) วัสดุอุปกรณ์(Material) และการจัดการ (Management) นั้น “คน” มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการนำธุรกิจไปสู่จุดมุ่งหมายขององค์กรโดยเฉพาะในขบวนการสหกรณ์ การที่จะทำให้องค์กรมีความเข้มแข็งจะต้องมีการพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการให้แก่ผู้บริหาร ซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรที่มีบทบาทในการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจให้แก่องค์กร ดังนั้น การสร้างทัศนคติ ทักษะ องค์ความรู้แนวใหม่ ในด้านการบริหารจัดการธุรกิจสหกรณ์แก่ บุคลากรของสหกรณ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญในสภาวะปัจจุบันที่มีกาเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นในบุคลากรของสหกรณ์ เกิดแนวคิดที่ถูกต้องในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารจัดการของสหกรณ์ และส่งผลถึงประโยชน์ ที่สมาชิกจะได้รับจากสหกรณ์ การบริหารจัดการเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการแบบสมัยใหม่เพื่อสหกรณ์ได้ยืนหยัดอยู่ในระบบธุรกิจของโลกได้อย่างยั่งยืน

พิณ เกื้อกูล (สอ.ปม.)

โลกาภิวัฒน์ (Globalization ) คือ ความเป็นโลกเดียวกันหรือโลกไร้พรมแดน ทุกคนสามารถเรียนรู้ หรือเข้าถึงแหล่งข่าวสารข้อมูล ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว พร้อม ๆ กันทุกแห่งหนของโลก โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศ โลกาภิวัฒน์ เป็นเรื่องของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานของสหกรณ์ เพื่อทำให้ระบบมีความถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และช่วยทำให้ลดขั้นตอนวิธีทำงาน ทำให้เกิดการประหยัดยิ่งขึ้น การให้บริการด้านระบบสารสนเทศ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ได้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิก เพื่อให้สมาชิกได้มีช่องทางในการทำธุรกรรมกับสหกรณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้นดังนี้
1. สหกรณ์ออนไลน์ ให้บริการข้อมูลสมาชิกผ่านเครือข่ายระบบอินเตอร์เน็ตพิมพ์รายการเรียกเก็บประจำเดือน หรือใบเสร็จรับเงินได้ด้วยตนเอง
2. สหกรณ์ทางโทรศัพท์อัตโนมัติ อำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกในการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนทุนเรือนหุ้น เงินกู้ และเงินฝากคงเหลือ สิทธิการกู้เงินสามัญ สิทธิการค้ำประกันเงินกู้ ผลการอนุมัติเงินกู้ รายการหักเงินเดือน และเงินปันผล นอกจากนี้ ระบบยังสามารถให้บริการกู้เงินกู้ฉุกเฉินทางโทรศัพท์ โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ซึ่งมีอยู่กับสหกรณ์ของผู้กู้
3. สหกรณ์ ATM บริการถอนเงินฝากจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของสมาชิกที่มีอยู่กับสหกรณ์ผ่านตู้ ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ.

ส่งงานเรื่องโลกาภิวัตน์กับสหกรณ์ครับ

โลกาภิวัตน์เป็นกระแสหรือตัวขับเคลื่อนที่มีลักษณะไม่คงที่หรือเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ซึ่งเป็นกระแสที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ ซึ่งการที่สหกรณ์จะดำเนินงานหรือคงอยู่ได้ หรือมีความเจริญ ก้าวหน้าต่อไป จะต้องมีการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีิ มีการวางโครงสร้างการบริหารจัดการที่ดี มีการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่แม่นยำ เพื่อสามารถควบคุม ทิศทางการจัดการกับกระแสโลการภิวัตน์ ไม่ให้เกิดผลกระทบมาก จนทำให้สหกรณ์มีผลการดำเนินงานที่เสียหาย ไม่สามารถอำนวยประโยชน์ให้แก่สมาชิกในการประกอบอาชีพหรือการดำรงชีพได้

กระแสโลกาภิวัตน์ที่มีผลกระทบต่อสหกรณ์ เช่น การเชื่อมโยงกันทางเศรษฐกิจ การค้าเสรี FTA ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย จะส่งผลต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทำให้ส่งน้ำ้นมดิบ/ขายน้ำนมดิบให้สหกรณ์ได้น้อยลง เนื่องจาก สหกรณ์ไม่สามารถขายได้ จากการที่มีการนำเข้านมผงจากต่างประเทศ สหกรณ์จะอ่อนแอลง สมาชิกจะเดือดร้อนจากการมีรายได้ในการขายน้ำนมดิบน้อยลง แต่หากมีการใช้เทคโนโลยี รวมทั้งการสารสนเทศ จะให้มีข้อมูลข่าวสารเพื่อเตรียมการแก้ไขไว้ล่วงหน้า

"โลกาภิวัตน์เกื่ยวข้องกับสหกรณ์อย่างไร"

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามกระแสโลกาภิวัตน์ ทำให้เกิดการแข่งขันและถูก

ครอบงำทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ด้วยระบบทุนนิยมเพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก อย่างรวดเร็ว การใช้ภูมิปัญญาความรู้ (ชาวบ้าน)พัฒนาตนเองก็คงตามไม่ทัน จึงเกิดช่องว่างของการได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะไม่เข้าใจระบบจึงเป็นเหตุให้เกิดการล้มเหลวในการพัฒนา ประเด็นสำคัญคือต้องรู้เท่าทัน และสามารถทำความรู้เข้าสอดแทรกช่องว่างเพื่อให้เกิดความผาสุข ของสังคม

สหกรณ์จึงเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบสังคม ด้วยการขับเคลื่อนแนวคิด

"ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ผ่านกระแสโลกาภิวัตน์ ในระบบสหกรณ์เพื่อเสริม

สร้างทัศนคติแห่งการเรียนรู้เพื่อพาตนเองให้พ้นจากภัยคุกคามของกระแสโลกาภิวัตน์

ในการแสวงหาแนวทางพัฒนาที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมและคตินิยมของสังคมไทย

ด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกัน

ตนเอง

กัญจน์นิกข์ กำเนิดเพ็ชร์

โลกาภิวัตน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์

ปัจจุบันเป็นยุคที่สังคมโลกกำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียว และมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรมโดยมองผ่านกระแสที่เรียกว่า

โลกาภิวัตน์ (Globalization) ที่ครอบคลุมทุกส่วนของสังคมโลกโดยมีเครื่องมือ ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบทุนนิยม เป็นปัจจัยหลักในการพัฒนา และการติดต่อสื่อสารในด้านต่างๆทั้งทางตรงและทางอ้อม

มีนักวิชาการหลายท่านได้ให้คำนิยามของโลกาภิวัตน์ไว้แตกต่างกัน ดังนี้

โลกาภิวัตน์ หมายถึง กระแสไหลเวียนของการค้าและการลงทุนขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างประเทศต่างๆ นอกจากนี้ ยังพบการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ และกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องของคน ข้อมูลข่าวสารและความคิดต่างๆ ซึ่งเป็นความหมายในมิติเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Hirst, Paul Q. & Thompson, Grahame. 2007)

โลกาภิวัตน์ หมายถึง กระบวนการผนวกรวมเศรษฐกิจระหว่างประเทศด้วยการลดหรือทำลายสิ่งต่างๆ เช่น กำแพงที่ขวางการค้าหรือกฎระเบียบต่างๆ, กฎระเบียบการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และการควบคุมการทุน เป็นต้น ซึ่งเป็นความหมายในมิติเรื่องความเป็นเสรีนิยม (วีระพงษ์ วรวัฒน์.2549)

โลกาภิวัตน์ หมายถึง กระบวนการของการแพร่ขยายสิ่งต่างๆที่หลากหลายไปสู่ประชาชนในทุกมุมของโลก เช่น การแพร่ขยายของรถยนต์, ร้านอาหารจีน, การทำฟาร์มประศุสัตว์ขนาดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งเป็นความหมายในมิติเรื่องสังคมโลกเป็นสากล (Reiser, Oliver L. & Dawies, Blodwen.2004)

โลกาภิวัตน์ หมายถึง การแพร่กระจายไปทั่วโลก, การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใดสามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเป็นความหมายในมิติเรื่องการพัฒนาระบบสารสนเทศ (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน.2542)

โลกาภิวัตน์ หมายถึง กระบวนการหรือชุดของกระบวนการที่ซึ่งฝังตัวของอยู่ในการเปลี่ยนแปลงทางองค์ประกอบทางด้านพื้นที่ของความสัมพันธ์ทางสังคม และการมีปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งเป็นความหมายในมิติเรื่องลักษณะการแบ่งเขตพื้นที่ใหม่ (Held, David & Mcgrew, Anthony. G. 2002)

สรุปได้ว่า โลกาภิวัตน์ หมายถึง กระบวนการเชื่อมโยงสัมพันธ์กันทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรมที่หลากหลายไปสู่ประชาชนในทุกมุมของโลกผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ และและระบบทุนนิยม

ดังนั้น โลกาภิวัตน์ จึงเป็นกระแสหลักของโลกที่พัฒนาแล้วมาต่อยอดเป็นโลกไร้พรมแดนตามลักษณะการแพร่กระจายขยายตัวของข้อมูล วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองโดยสะท้อนสภาพสังคมโลกที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ในปัจจุบันให้เป็นระบบที่เชื่อมโยงโลกทั้งโลกใบนี้ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารและข่าวสารสมัยใหม่อย่างโทรศัพท์มือถือ และผ่าน Internet ทำให้เกิดความรู้สึกใกล้ชิด และเป็นโลกเดียวกันมากขึ้น โดยเฉพาะการเกี่ยวข้องในบทบาททางเศรษฐกิจภายใต้กติกาเดียวกัน เพราะโลกได้ใช้ปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นเป้าหมายด้านการพัฒนา ตามที่ได้ลงนามกันในองค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) เพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมการอยู่ดีกินดีของประชากรโลก รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเข้าถึงวัตถุดิบ และทรัพยากรที่มีต้นทุนต่ำ

นอกจากนี้ โลกาภิวัตน์ไม่ใช่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่โลกาภิวัตน์นำการเปลี่ยนแปลงที่รอบด้านและครอบคลุมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราในแทบทุกด้าน และกระทบต่อทุกกลุ่มคน ทุกชนชั้นในสังคมและในโลก แต่ในอัตราส่วนและความรุนแรงที่แตกต่างกันไป จึงกล่าวได้ว่า โลกาภิวัตน์เป็นสภาพแวดล้อมภายนอกองค์กร (External Environment) ที่มีผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อทุกกลุ่มคน องค์กรต่างๆ รวมทั้งสหกรณ์ ทำให้โลกาภิวัตน์จึงกลายเป็นทั้งโอกาส และอุปสรรค ของการดำเนินงานสหกรณ์

เพื่อให้สหกรณ์ปรับตัวอย่างมีภูมิคุ้มกัน และรับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้อย่างรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น สหกรณ์จึงต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อม (Environmental Scanning) เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์ คณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ได้รับรู้โลกรอบตัวอย่างถูกต้อง โดยต้องใช้ความสามารถในการมองเห็นความจริง (Reality) และตรงประเด็น (Relevance) ได้อย่างรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่การปรับตัว และสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งการนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมของสหกรณ์ต่อไป เนื่องจากนวัตกรรมจะเป็นปัจจัยหนึ่งของการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เพื่อรักษาสหกรณ์ให้อยู่รอด และมีภูมิคุ้มกันอย่างมั่นคง

ดังนั้น จึงสรุปผลการวิเคราะห์โลกาภิวัตน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ ดังนี้

1. มุมมองด้านโอกาส

1.1 Political : นโยบายรัฐบาลปัจจุบันใช้สหกรณ์เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสู่ท้องถิ่นเพื่อลดปัญหาการว่างงาน ซึ่งจะมีผลกระทบทางบวก และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับปานกลาง เพราะจะทำให้สหกรณ์ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพทั้งคนของสหกรณ์ และสมาชิกของสหกรณ์ให้มีความรู้ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตการเกษตรให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ของสมาชิกสหกรณ์ให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการเกื้อกูลทั้งด้านการผลิต การจำหน่าย การบริการ และสวัสดิการที่มีต่อสมาชิกของสหกรณ์

1.2 Economic : กระแสการใช้พลังงานทดแทนจากพืชแทนการใช้น้ำมันจากฟอสซิล ซึ่งจะมีผลกระทบทางบวก และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับปานกลาง เพราะสหกรณ์ต้องสื่อสารให้ความรู้เกี่ยวกับผลผลิตการเกษตรประเภทน้ำมันจากพืช ทำให้พืชน้ำมันเป็นที่มีอนาคตสดใสมากขึ้น และราคาผลผลิตจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ในการปลูก และรูปแบบการผลิตของสมาชิกสหกรณ์ รวมทั้งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงธุรกิจช่วยเหลือกันและกันระหว่างสหกรณ์ต่อไปในอนาคต

1.3 Social : ประชากรใส่ใจต่อการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบทางบวก และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับสูง เพราะจะทำให้สหกรณ์ส่งเสริมกิจกรรมการให้ความรู้และสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สมาชิก รวมทั้งการให้ความสำคัญต่อการทำธุรกิจของสหกรณ์ที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตสินค้า รวมทั้งให้ความใส่ใจในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคม อาทิ ความรู้ในการใช้สารเคมีที่อันตรายต่อคนหรือต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตสินค้าของสมาชิก

1.4 Legislative : องค์กรระหว่างประเทศ อาทิ องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ซึ่งมีบทบาทในการดำเนินการบริหารจัดการเศรษฐกิจโลก เพิ่มมากขึ้น และผลักดันแนวคิดเรื่องการบริหารจัดการที่ดี หรือ ธรรมาภิบาล (Good Governance) มาใช้ในการบริหารจัดการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในโลกยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งจะมีผลกระทบทางบวก และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับปานกลาง เพราะสหกรณ์ต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญต่อระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อตกลงองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งมีบทบาทมากขึ้น อาทิ การเจรจาในเรื่องมาตรการภาษีศุลกากรและมาตรการที่มิใช่ภาษีศุลกากร ดังนั้น ทิศทางการบริหารจัดการของสหกรณ์โดยคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ต้องเรียนรู้ และปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการและปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อให้รองรับและสอดคล้องกับกระแสโลกยุคโลกาภิวัตน์

1.5 Technological : มีวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งจะมีผลกระทบทางบวก และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับสูง เพราะจะเป็นโอกาสที่ดีของสหกรณ์ในการยกระดับการเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงตนเองโดยใช้เทคโนโลยีเป็นพลังขับเคลื่อนในการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการที่ทันสมัย และทันเวลา เพื่อนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตการเกษตรให้มากขึ้น และสามารถแข่งขันกับกลุ่ม/องค์กรต่างๆ รวมทั้งจะเป็นการสร้างพื้นฐานการพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้เพื่อพึ่งตนเองต่อไปในอนาคต

2. มุมมองด้านอุปสรรค

2.1 Political : ความมีเสถียรภาพทางการเมืองยังไม่มั่นคง ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบ และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับปานกลาง เพราะหากรัฐบาลไม่มีความเสถียรภาพทางการเมืองแล้ว จะส่งผลให้การดำเนินงานของสหกรณ์ไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากนโยบายการให้ความช่วยเหลือแก่สหกรณ์ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความมีเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลที่จะสนับสนุนการสานต่อการพัฒนาของสหกรณ์ให้มีความต่อเนื่อง และลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนพัฒนาศักยภาพของคน และสมาชิกของสหกรณ์

2.2 Economic : ปัญหา Subprime Mortgage ในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือสินเชื่อที่ปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ที่มีเครดิตทางการเงินต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้อำนาจซื้อของต่างชาติซึ่งเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าเกษตรรายใหญ่ของประเทศไทย อาทิ ประเทศจากแถบอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ลดลง ในขณะเดียวกัน จะผลักดันค่าเงิน “ดอลลาร์” ลดต่ำลง แต่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น ส่งผลต่อราคาสินค้าส่งออกของไทยโดยเฉพาะสินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง อาทิ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบ และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับสูง เพราะวิกฤตการเงินโลกได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศอุตสาหกรรมให้ชะลอตัวอย่างรุนแรง และจะส่งผลกระทบทางลบต่อการส่งออกของประเทสไทยโดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากประเทศไทยจะลดลง ทำให้รายได้ของสมาชิกสหกรณ์ลดลง และจะส่งผลกระทบทางลบต่อวินัยต่อตนเองของสมาชิกทั้งเรื่องการออมเงิน และจ่ายชำระคืนแก่สหกรณ์ ดังนั้น สหกรณ์จึงต้องปรับกลยุทธ์การตลาดโดยให้ความสำคัญต่อตลาดในประเทศและตลาดใหม่ให้มากขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจซื้อ-ขายรวบรวมผลผลิตการเกษตรของสมาชิกสหกรณ์ให้มีแหล่งตลาดรองรับผลผลิตการเกษตรเพิ่มขึ้น

2.3 Socio – cultural : ประชากรที่เป็นแรงงานเกษตรกรรมมีแนวโน้มเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบ และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับสูง เพราะจะส่งผลให้มีจำนวน ผู้ประกอบอาชีพการเกษตรลดลง และจะส่งผลให้ภูมิปัญญา (Wisdom) ทางการเกษตรกรจากรุ่นสู่รุ่น (Socialization) สูญหายไป

2.4 Legislative : ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA), เขตการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA) มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศไทย/สหกรณ์ ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบ และระดับผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์อยู่ในระดับสูง เพราะประเทศไทย และสหกรณ์มีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจน้อยกว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจดีกว่า และจะเป็นการเพิ่มคู่แข่งขันในเวทีการค้ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบทางลบต่อการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์

สรุปได้ว่า กระแสโลกาภิวัตน์นั้น เป็นสิ่งที่สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญโดยมีเครื่องมือที่สำคัญ คือ เทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ที่ส่งผลกระทบต่อด้านต่าง ๆ ในสังคม ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรม ล้วนแต่หนีไม่พ้นกระแสโลกาภิวัตน์ จึงกล่าวได้ว่า โลกาภิวัตน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ทั้งทางบวก และทางลบไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อสมาชิก คณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ รวมทั้งส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับงานสหกรณ์ ดังนั้น สหกรณ์จึงต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อม (Environmental Scanning) อยู่เสมอเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ระหว่างผู้มีส่วนได้เสียของสหกรณ์ในเรื่องการทำธุรกิจของสหกรณ์โดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แต่คำนึงถึงการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้บริโภค รวมทั้งการเกื้อกูลทั้งด้านการผลิต การจำหน่าย การบริการ และสวัสดิการต่อสมาชิกของสหกรณ์ อันจะทำให้เกิดความเข้มแข็งแก่ครอบครัวและชุมชน รวมทั้งสหกรณ์ได้อย่างมั่นคงเพื่อผลประโยชน์สูงสุดจะได้กลับคืนมาสู่สมาชิกหรือชุมชนของสหกรณ์อย่างแท้จริง

ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี อาหารชนิดต่างๆที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆ ที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆ มีความหมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน

เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย

เกาลัด - มีความหมายถึง เงิน

สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย

เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข

หน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข

เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์

อาหารอื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดมสมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาวทางตอนใต้ของจีนจานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ

ทางเหนือ หมั่นโถและติ่มซำเป็นอาหารที่นิยม

อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน

ของไหว้เจ้าที่ ประกอบด้วย

- ของคาว หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา แล้วแต่ว่าจะไหว้มากหรือน้อย

- ไหว้ 3 อย่าง เรียกว่า ชุดซาแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่

- ไหว้ 5 อย่าง เรียกว่า ชุดโหงวแซ ประกอบด้วยหมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา

- ข้าว ข้าวสวยใส่ชาม พร้อมตะเกียบ จำนวนชุดตามจำนวนบรรพบุรุษ นิยมนับถึงแค่รุ่นปู่ย่า

- ขนมไหว้ ฮวกก้วยหรือขนมถ้วยฟู คักท้อก้วยหรือขนมกุยช่าย(เป็นไส้ชนิดใดก็ได้)

- ขนมจันอับ ซาลาเปา ขนมไหว้นี้ต้องมีสีชมพู หรือมีแต้มจุดแดง

- ขนมไหว้พิเศษ ขนมเข่ง ขนมเทียน ต้องยืนเป็นหลัก

- ผลไม้ ส้ม กล้วยทั้งหวีเลือกเขียวๆ องุ่น แอปเปิล ชมพู่ ลูกพลับ

- เครื่องดื่ม น้ำชา 5 ที่หากมีไหว้ของคาวจะไหว้เหล้าด้วยก็ได้ก็จัด 5 ที่เช่นกัน

- กระดาษเงิน กระดาษทอง ชุดไหว้เจ้าที่ ธุปไหว้ คนละ 5 ดอก

- ทองแท่งสำเร็จรูป แบงก์กงเต็ก ค้อซี ฯลฯจะมากหรือน้อยแล้วแต่เรา

กระถางรูป โดยเอาข้าวสารใส่ในแก้วไว้สำหรับปักรูป หลังจากที่เสร็จพิธีก็นำเข้าไปผสมกับถังข้าวสารในบ้านไว้สำหรับหุงทนเพื่อ ให้เฮง ๆ

จำนวนชนิดของขนมไหว้ นิยมให้สอดคล้องกับของคาว เช่น ไหว้ ของคาว 3 อย่าง ขนม 3 อย่าง ผลไม้ 3 อย่างของไหว้บรรพบุรุษ ประกอบด้วย

- หมู มีความหมายถึงความมั่งคั่ง ด้วยความอ้วนของตัวหมู สะท้อนถึงความกินดีอยู่ดี

- ไก่ มีมงคล 2 อย่างคือ

- หงอนไก่สื่อถึงหมวกขุนนาง ความหมายมงคลจึงเป็นความก้าวหน้าในงาน

- ไก่ขันตรงเวลาทุกเช้า สะท้อนถึงการรู้งาน

- ตับ คำจีนเรียกว่า กัว พ้องเสียงกับคำว่า กัว ที่แปลว่าขุนนาง

- ปลา คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ฮื้อ โดยมีวลีมงคล อู่-ฮื้อ-อู่-ชื้ง แปลว่า ให้เหลือกินเหลือใช้ ไหว้ปลาเพื่อให้มีเงินเหลือกินเหลือใช้มาก ๆ

- กุ้งมังกร ไหว้ด้วยรูปลักษณ์ของกุ้งที่หัวใหญ่ มีก้ามให้ความรู้สึกถึงอำนาจวาสนา ต่อมากุ้งมังกรหายาก จึงเปลี่ยนเป็นเป็ดสำหรับคนจีนแต้จิ๋ว และเปลี่ยนเป็น ปลาหมึกแห้ง สำหรับคนจีนแคะ)

ชุดกับข้าว ซึ่งทำไหว้ผีบรรพบุรุษและไว้รับประทาน

- ลูกชิ้นปลา จีนแต่จิ๋วออกเสียงว่า ฮื้อ-อี๊ แปลว่า ลูกปลากลมๆ

- ฮื้อ หรือปลา คือให้เหลือกินเหลือใช้

- อี๊ แปลว่า กลม ๆ หมายถึงความราบรื่น

- กระเทียม เพราะคนจีนแต้จิ๋ว เรียกกระเทียมว่า สึ่ง พ้องเสียงกับสึ่งที่แปลว่านับ ไหว้ต้นกระเทียม เพื่อให้มีเงินมีทองให้ได้นับอยู่เสมอ

- ผัดตับกับกุยช่าย ตับคือ การเรียกว่า กัว พ้องเสียงกับกัวที่แปลว่า ขุนนาง กุยช่ายเป็นการพ้องเสียงของคำว่ากุ่ย แปลว่า แพง รวย

- แกงจืด คนจีนเรียกว่า เช็ง-ทึง เช็ง แปลว่า ใส หวาน ซดคล่องคอ การไหว้น้ำแกงก็เพื่อให้ชีวิตลูกหลานหวานราบรื่น

- เป๊าฮื้อ เป๊า หรือ เปา แปลว่า ห่อ ส่วน ฮื้อ คือเหลือกินเหลือใช้ ไหว้เป๊าฮื้อ เพื่อห่อความมั่งคั่เหลือกินเหลือใช้มาให้ลูกหลาน

- ผัดถั่วงอก คนจีนแต้จิ๋วเรียกถั่วงอกว่า เต๋าแหง๊ แต่ภาษาวิชาการเรียกว่า เต้าเหมี่ยว เหมี่ยว แปลว่า งอกงาม ไหว้ถั่วงอกเพื่อให้งอกงามรุ่งเรือง

- เต้าหู้ เป็นคำเรียกแบบชาวบ้านที่อาจเรียกเป็นเต้าฮกก็ได้ ฮก คำนี้เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว จีนกลางออกเสียงเต้าหู้ว่า โตฟู ฟู แปลว่า บุญ ดี ร่ำรวย

ชุดของหวาน

- ซาลาเปา เล่นเฉพาะคำว่า เปา แปลว่า ห่อ ไหว้ซาลาเปาเพื่อให้เปาไช้ แปลว่า ห่อโชค ห่อเงินห่อทองมาให้ลูกหลาน

- ฮวกก้วย ก้วย แปลว่า ขนม ฮวก แปลว่างอกงาม

- ขนมคัดท้อก้วย คือขนมไส้ต่าง ๆ เช่น ไส้ผักกะหล่ำ มันแกว ไส้กุยช่าย ทำเป็นรูปลูกท้อสีชมพู ลูกท้อ เป็นผลไม้มงคลมีนัยอวยพรให้อายุยืนยาว

- ขนมไข่ คนจีนเรียกว่า หนึงก้วย ไข่คือบ่อเกิดแห่งการได้เกิดและเติบโต ไหว้ขนมไข่เพื่อให้ได้มีการเกิดและการเจริญเติบโต

- ขนมจับกิ้ม หรือ แต้เหลียง ก็เรียกคือ ขนมแห้ง 5 อย่าง จะเรียกว่า โหงวเส็กทึ้ง หรือ ขนม 5 สี ก็ได้ ประกอบด้วย ถั่วตัด งาตัด ถั่วเคลือบ ฟักเชื่อม และข้าวพอง

- ฟัก เพื่อฟักเงินฟักทอง ฟักเชื่อม คือการฟักความหวานของชีวิต

- ข้าว ถั่ว งา คือ ธัญพืช ธัญญะ แหลว่า งอกงาม ไหว้เพื่อให้งอกงามและชีวิตหวานอย่างขนม

- ขนมอี๊ อี๊ หรือ อี๋ แปลว่ากลม ๆ ขนมอี๊ทำจากแป้งข้าวเหนียว นวดจนได้ที่เจือสีชมพู ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ต้มกับน้ตาล เพื่อให้ชีวิตเคี้ยวง่ายราบรื่น เหมือนขนมอี๊ที่เคี้ยวง่ายและหวานใส ซึ่งขนมอี๊นี้อาจใช้เป็นสาคูหรือลูก เดือยก็ได้ คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่าอี๊เหมือนกัน

ชุดผลไม้

- ส้ม คนจีนแต้จิ๋วเรียกแบบชาวบ้านว่า กา แต่ส้มมีอีกคำเรียกว่า ไต้กิก

- ไต้ แปลว่า ใหญ่ กิก แปลว่า มงคล

- ไต้กิก จึงแปลว่า มหาสิริมงคล แต่ถ้าแปลง่ายๆ แบบชาวบ้านก็คือ โชคดี

- กล้วย จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า เก็ง-เจีย จะเล่นเสียงว่า เก็ง-เจีย-เก็ง-ไล้ แปลว่า ถึงโชคเข้ามา กับอีกความหมายว่า กล้วย มีผลมากมายแถมเป็นเครือ จึงมีมงคลให้ลูกหลานมาก ๆ มีวงศ์วานว่านเครือสืบสกุล

- องุ่น จีนแต้จิ๋วเรียกว่า พู่-ท้อ

- พู่ ก็คือ งอก หรืองอกงาม

- ท้อ ก็คือ พ้องเสียงกับลูกท้อ ที่เป็นผลไม้มงคล อายุยืน

- สับปะรด คนจีนแต้จิ๋วเรียก อั้งไล้ แปลว่า เรียกสีแดงมา สีแดงเป็นสีของโชค ก็ประมาณว่าเรียกโชคเข้ามา คนจีนทางใต้นิยมไหว้สับปะรด มาก

________________________________________

สิ่งที่ไม่ควรทำวันตรุษจีน

- ห้ามทำความสะอาด เนื่องจากการทำงานบ้าน เช่น การซักล้าง หรือ การกวาดบ้านปัดฝุ่น จะเป็นการขับไล่ความโชคดีออกไป ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านจึงควรเริ่มทำตั้งแต่ก่อนที่วันขึ้นปีใหม่จะมาถึง

- ห้ามสระผม ไม่ควรสระผมในวันเริ่มต้นและวันสุดท้ายของวันขึ้นปีใหม่ เนื่องจากการสระผมถือเป็นการชะล้างความโชคดีที่มาถึงในวันขึ้นปีใหม่

- ห้ามใช้ของมีคม ไม่ควรใช้ของมีคมในวันขึ้นปีใหม่ ของมีคมต่างๆ เช่น มีด, กรรไกร, ที่ตัดเล็บ เนื่องจากถือว่าการกระทำของของมีคมนี้ จะเป็นการตัดสิ่งหรืออนาคตที่ดี ที่จะนำมาในวันขึ้นปีใหม่

- ห้ามโต้เถียง ควรระมัดระวังในการใช้คำพูดที่มีความหมายไปในทางลบ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการโต้เถียงกัน

- คำที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยหรือความตาย เป็นคำที่เราควรหลีกเลี่ยงในวันขึ้นปีใหม่

- เลี่ยงเรื่องเกี่ยวกับความตาย

- หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานศพ และการฆ่าสัตว์ปีก

- ห้ามซุ่มซ่าม ควรระมัดระวังในการทำสิ่งใดๆ ไม่ควรที่จะให้เกิดการสะดุด หรือ ทำสิ่งของตกแตก ซึ่งนั่นจะหมายถึงการนำความโชคไม่ดีเข้ามาในอนาคต

โลกาภิวัตน์ หรือ โลกานุวัตร (Globalization) คือ ผลจากการพัฒนาการติดต่อสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยีสารสนเทศ อันแสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงระหว่างปัจเจกบุคคล ชุมชน หน่วยธุรกิจ และรัฐบาล ทั่วทั้งโลก

โลกาภิวัตน์ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง "การแพร่กระจายไปทั่วโลก; การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นต้น" โลกาภิวัตน์ เป็นคำศัพท์เฉพาะที่บัญญัติขึ้นเพื่อตอบสนองปรากฏการณ์ของสังคมโลกที่เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในส่วนหนึ่งของโลก ส่งผลกระทบอันรวดเร็วและสำคัญต่อส่วนอื่นๆของโลก

โลกาภิวัตน์ (Globalization) หมายถึงกระบวนการที่ประชากรของโลกถูกหลอมรวมกลายเป็นสังคมเดี่ยว กระบวนการนี้เกิดจากแรงของอิทธิพลร่วมทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและสังคม-วัฒนธรรมและการเมือง

โลกาภิวัฒน์ (Globalization) เป็นยุคของสังคมที่เต็มไปด้วยข้อมูล และข่าวสาร (Information Society) และเป็นยุคที่ เป็นโลกของการติดต่อสื่อสารที่ไร้พรมแดน ทั้งนี้เพราะเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารจะมีความทันสมัย ก้าวหน้า สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว มีความคล่องตัวสูง คำว่า “ โลกาภิวัตน์ ” หรือ Globalization” โดยนัยความหมายของคำว่า “ โลกาภิวัตน์ ” นั้น มีผู้ให้คำจำกัดความที่กระชับและชัดเจนไว้ว่า คือ สภาวะโลกไร้พรมแดน ซึ่งสภาวะของการเกิดเป็นโลกที่ไร้พรมแดนนี้เป็นผลพวงที่เกิดจากการวิวัตนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ผนวกกับความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร ทำให้ความเป็นไปของในซีกโลกหนึ่ง สามารถเห็นได้ในอีกซีกโลกหนึ่งในเวลาเพียงชั่วเสี้ยววินาที ส่งผลให้มีผู้กล่าวกันว่าทำให้โลกใบนี้เล็กและแคบลง ซึ่งผลพวงแห่งความเจริญแห่งยุคโลกาภิวัตน์นี้กล่าวได้ว่ามีผลกระทบกับทุก ๆ วงการ ทั้งด้านการศึกษา การพาณิชย์ อุตสาหกรรม สังคม การเมือง วิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งภาคการเกษตรที่นับเป็นส่วนหนึ่งของระบบวิถีชีวิตของการดำรงชีวิตของมนุษย์ในโลกนี้ด้วย

อิทธิพลของโลกาภิวัตน์ ทำให้เกิดการกระเพื่อมต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์มากมายหลายด้าน เช่นเกิดภาษาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจนตั้งรับแทบไม่ทัน เป็นภาษาต่างประเทศที่ต้องทำความเข้าใจในหมู่คนเจ้าของภาษาเดิมให้ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งอาจจะต้องแปลภาษาต่างประเทศนั้น มาเป็นภาษาของตัวเอง หรือต้องยอมรับภาษาที่ทะลักเข้ามานั้น มาเขียนโดยใช้อักขระแห่งภาษาของตนเอง เป็นคำทับศัพท์ เนื่องจากแปลไม่ทัน หรือเหตุผลอย่างอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นเมื่ออิทธิพลของโลกาภิวัฒน์ส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์และต่อสหกรณ์ สหกรณ์จึงต้องมีการปรับตัวให้สหกรณ์สามารถดำรงอยู่มากขึ้นให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เช่นปรับปรุงการให้บริการที่เน้นลูกค้าเป็นสำคัญไม่ใช่เห็นว่าสมาชิกเป็นหมูในอวยจะโขกจะสับอย่างไรก็ได้ มีการดำเนินงานธุรกิจที่หลากหลายเพิ่มขึ้นจากธุรกิจเดิมที่ตนมีความถนัดหรือขยายธุรกิจให้มีปริมาณมากขึ้น การใช้ข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายให้เป็นประโยชน์ในการบริหารงานของสหกรณ์ สหกรณ์ต้องปรับเปลี่ยนวิธีบริหารงานให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และมีความยุติธรรมต่อสมาชิก สหกรณ์ต้องปรับปรุงตัวเพื่อรองรับเงินทุนที่จะไหลเข้ามาในระบบ มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมไม่ใช่ตามใจกรรมการ สหกรณ์ต้องมีการปรับตัวเองให้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจระหว่างสหกรณ์ไม่ใช่เป็นคู่แข่งแต่ต้องเป็นคู่ค้า สหกรณ์ต้องใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ให้เพียงพอและมีความเหมาะสม สุดท้ายสหกรณ์ต้องมีการพัฒนาคนในสหกรณ์และคนที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ให้เป็นที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพที่สูง เพราะคนเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งที่ลงทุนแล้วไม่มีการขาดทุน

เมื่อสหกรณ์มีการปรับตัวให้พร้อมเพื่อรองรับกับกระแสโลกาภิวัฒน์แล้ว สหกรณ์ก็จะสามารถเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็งและนำพาสมาชิกของสหกรณ์ที่มีอยู่ให้สมาชิกสามารถที่จะยกระดับเศรษฐกิจของตนให้ดีขึ้น และนำให้สมาชิกมีความสุข มีชีวิตแจ่มใสรวมทั้งสามารถดำรงตนอยู่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้

ปรีชา แก่นอินทร์ นครศรีธรรมราช

เรียน ผนส.3 ทุกท่านทราบ

วิธีปิดบัญชีธนาคารอันชาญฉลาดที่ถูกปกปิดมานาน

> > ที่มาบอกเนี่ยเพราะเป็นวิธีที่ธนาคารปกปิดมาตลอด

> > เคยมีหนังสือพิมพ์ออกมาขายแต่ธนาคารสั่งเก็บหมด

> >โปรด..อ่าน..ช้า ช้า.......

> > หากคิดต้องการถอนเงิน โดยจะไม่ใช้บัญชีนี้อีกต่อไปแล้ว......ห้ามเบิกเงินแค่ที่มีในบัญชี

> > ให้ใช้วิธี...ไม่กรอกตัวเลข ... แต่..เขียน.. ปิดบัญชี

> > เพียงเท่านี้..ธนาคารต้องจ่ายดอกเบี้ยคุณ 6 เดือน วิธีนี้..เป็นวิธีที่ธนาคารไม่พยายามบอกคนฝากเงิน เพราะธนาคารมันเสียเปรียบ... แต่ต้องเป็นกรณีที่เป็นบัญชีออมทรัพย์นะ

> > ถ้าเป็นบัญชี ฝากประจำเราจะไม่ได้ดอก เพราะถือว่าฝากไม่ครบตามกำหนด

> > แต่ถ้าบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์ หรือที่เรียกว่า savings

> > (สะสมทรัพย์) ธนาคารจะคิดดอกให้ทุวันตามยอดเงินที่มี...เข้าๆออก ครบ6 เดือนทีหนึ่งก็จะมีดอกเข้ามาให้ ดังนั้นถ้าใครปิดบัญชี เขาก็ต้องคิดดอกมาให้ด้วย ส่วนมากประชาชนจะไม่รู้

> > ก็จะถอนแค่จำนวนเงินที่มีในบัญชี แล้วก็ทิ้งสมุดไว้..ตรงนี้แหละที่ธนาคารได้กำไร

> > เพราะสมุดนั้นพอทิ้งไว้นานเกินก็จะปิดไปเอง และเดี๋ยวนี้ธนาคารส่วนมากจะกำหนดให้

> > บัญชีต้องมีเงินเหลือติดอยู่ อย่างน้อยๆ 500 บาท หากขาดการเคลื่อนไหวนานเกิน

> > 3-6 เดือน ก็จะเริ่มหักค่ารักษาบัญชี รายละประมาณ 50 บาทหรือไงเนี่ยแหละ

> > ที่บอกนี่เป็นผลประโยชน์ของผู้บริโภคน่ะ แต่ส่วนมากมักจะไม่ชอบไปธนาคาร

> > ถอนทางเอทีเอ็ม แล้วก็คิดว่าที่เหลือแค่เศษสตางค์ช่างมัน..

> > พอเราขาดการติดต่อธนาคาร เขาก็หักค่ารักษาบัญชี เงินไม่พอเขาก็ปิด บช เองตามกฎ

> >เมื่อรู้วิธีแล้ว...ช่วยกันเผยแพร่นะ

สวัสดีครับท่านอาจารย์ และ ผนส.3 ทุกท่าน

พรุ่งนี้ 23 ม.ค 52 จะได้เจอกันอีกครั้งแล้ว ผนส.3 อย่างลืมเอาหนังสือเดินทาง passport ไปให้เจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ...อย่าลืม

ขอบคุณคุณกิตติพลมากครับที่ช่วยเตือนพวกเราทุกคน เยี่ยมจริงๆ มีเพื่อนๆเยี่ยมอย่างนี้มันแน่นอน

นางธนณฐ์วรรธ์ แสงหวัง

โลกาภิวัฒน์มีผลกระทบกับสหกรณ์อย่างไร

โลกาภิวัฒน์มีผลกระทบกับสหกรณ์ด้านการสื่อสาร การผลิต การพัฒนาคน ทำให้สินค้าเกษตรมีราคาผันผวน มีสินค้าทดแทนเกิดขึ้น แต่ถ้าหากสหกรณ์มีการพัฒนาองค์กรให้เข้มแข็ง พัฒนาคนในองค์กรรวมถึงมวลสมาชิกนำระบบสื่อสารที่ทันสมัยมาใช้ให้เหมาะสม ก็จะทำให้ได้รับผลกระทบน้อยลง

นางธนณฐ์วรรธ์ แสงหวัง

โลกาภิวัฒน์หมายความว่าการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ

หรืออื่นใดอันเนื่องมาจากอันเนื่องมาจากธรรมชาติหรือทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้ทำขึ้น

ซึ่งอยู่รอบๆตัวเราเกิดผลดีที่สุดหรือผลกระทบข้างเคียงทำให้เกิดการเสียหายต่อทรัพสินเงินทองหรือต่อชีวิต การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เราอาจเพิ่มโอกาสนำมาทำประโยชน์ได้เช่นกัน

เรียน พี่บัญชา

กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้ออะไรไหว้เจ้าในวันตรุษจีนนี้ดี ขอบคุณที่ให้ความรู้เรื่องของไหว้

พรุ่งนี้ 23 มกราคม นี้ ก็ได้พบกันแล้วนะคะ และน้องจะเอาเสื่อไปให้ลอง และ เลื่อกสีกัน สำหรับเสื้อยึดนั้น ได้ให้น้องณรงค์ ยี่หวา ไปดำเนินการแล้ว คิดถึงทุกท่านค่ะ

แ น ว คิ ด อ ง ค์ ก ร ก า ร เ รี ย น รู้ Learning Organization

ในปี 1990 Peter M. Senge ได้เขียนหนังสือชื่อ The fifth discipline : The art and practices of learning organization โดยให้คำจำกัดความ องค์กรการเรียนรู้ (learning organization) ว่าหมายถึงองค์กรที่บุคลากรสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างผลงานให้บรรลุได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นองค์กรที่เกิดรูปแบบการคิดใหม่ที่หลากหลาย ซึ่งบุคลากรมีอิสระที่จะสร้างแรงบันดาลใจและเรียนรู้วิธีการเรียนรู้ร่วมกัน องค์กรการเรียนรู้ จะเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมของบุคลากรในองค์กรที่มี “วินัย 5 ประการ” (five disciplines) ในตนเอง ได้แก่

1. การรู้จักศักยภาพของตนเอง (personal mastery) หมายถึง การที่บุคลากรในองค์กรรู้จักตนเอง และรู้วิธีในการสร้างเสริมศักยภาพของตนเอง การพัฒนาวินัย (discipline) ในข้อนี้ จึงหมายถึงการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเองไปพร้อม ๆ กันทั้ง 3 ด้าน คือด้านร่างกาย ด้านสติปัญญาและความรู้ ด้านจิตใจและอารมณ์ โดยเน้นให้บุคลากรแต่ละคนเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ มีความสามารถในการสร้างสรรค์เชิงรุก(proactive) มีความสามารถ ในการกำหนดวิสัยทัศน์ (Personal vision) ของตนเองตามสภาพความเป็นจริงว่าเป้าหมายที่แท้จริงของตนเอง คืออะไร รวมทั้งสามารถนำความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ไปประยุกต์ใช้กับการทำงานอยู่เสมอ

2. รูปแบบวิธีคิดและการมีมุมมองที่กว้าง (mental models) หมายถึง บุคลากรในองค์กรมีอัตตาต่ำเปิดใจ ยอมรับฟังความคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่างออกไป รวมทั้งมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในศักยภาพของเพื่อนร่วมงาน ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจและการกระทำทั้งต่อตนเองและผู้อื่น การพัฒนาวินัยในข้อนี้จะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในองค์กรให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ตามสภาพความเป็นจริงที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาปัจจัยที่ก่อให้เกิดรูปแบบวิธีการคิดและการมีมุมกว้างนั้น เริ่มจากทักษะและค่านิยม 5 ประการ คือทักษะการตรวจสอบความคิด (reflection skill) ทักษะการถาม (inquiry) ความสมดุลระหว่างการยืนยันความคิดของตนเองและการถาม (inquiry and advocacy) ค่านิยมความดีความชอบ (merit)

- 2 -

3. การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน (shared vision) เป็นการทำความเข้าใจร่วมกันในการตั้งเป้าหมายและมองอนาคตไปในทิศทางเดียวกัน โดยให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการสร้างภาพอนาคตขององค์กร และมุ่งสู่ความต้องการของบุคลากรทั่วทั้งองค์กร ซึ่งการสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันนี้ จะช่วยให้บุคลากรได้ตระหนักและเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงอนาคตขององค์กร ทำให้เกิดความผูกพันกัน มีความรับผิดชอบร่วมกัน โดยมีความรู้สึกว่า องค์กรเป็นของตนเองและทุกคนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการ (sense of belonging) ด้วยซึ่งวินัยนี้จะเป็นพลังสำคัญที่ส่งเสริมให้บุคลากรในองค์กรมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานไปให้ถึงสิ่งที่ใฝ่ฝันร่วมกันรวมทั้งพัฒนาวิสัยทัศน์ของตนเองเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ร่วมขององค์กรด้วย

4. การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (team learning) เป็นการเรียนรู้แนวคิด หลักการ และวิธีการทำงานร่วมกันโดยการถ่ายทอดความคิดซึ่งกันและกัน (thinking together) ผ่านการสนทนา (dialogue) การแสดงความคิดเห็นของตนให้ผู้อื่นเห็นและซักถาม การอภิปราย (discussion) การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความคิดเห็น ประสบการณ์ โดยการนำเสนอความคิดเห็นที่แตกต่างและนำความคิดที่ดีที่สุดไปใช้ในการตัดสินใจ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันของกลุ่ม ดังนั้นการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม จึงต้องอาศัยการประสานงาน ด้านความคิดระหว่างบุคลากรแต่ละคนไปในทิศทางเดียวกัน(alignment) เพื่อพัฒนาสมาชิกในกลุ่มให้เกิดการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งจะนำไปสู่ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน ที่ก่อให้เกิดพลังและประโยชน์ทั้งต่อตนเองและองค์กรได้อย่างแท้จริง

5. การคิดเป็นระบบครบวงจร (systems thinking) เป็นการคิดภาพรวมทั้งระบบ (holistic) ที่สัมพันธ์เชื่อมโยงกันทั้งหมดอย่างเป็นตรรกะ (logic) โดยพิจารณาถึงต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหา และผลกระทบของปัญหานั้นที่มีต่อองค์กรทั้งหมดอันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดมากขึ้น

- 3 -

สหกรณ์จะเป็นองค์กรการเรียนรู้ได้ คือ

1. สหกรณ์ต้องส่งเสริมกรรมการและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสัมมนา เพื่อพัฒนาศักยภาพ ความรู้ ความเข้าใจในงานสหกรณ์ให้เพิ่มขึ้น เพื่อจะได้นำพาสหกรณ์สู่การเจริญเติบโตที่เข้มแข็งและมั่นคง

2. สหกรณ์ต้องพัฒนาและศึกษาเทคโนโลยีให้ทันสมัย สามารถใช้เป็นข้อมูลในการที่สมาชิกกู้เงิน –ฝากเงิน – ถอนเงิน ได้อย่างรวดเร็วถูกต้อง

3. สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นงานบริการด้านหนึ่ง ที่จะต้องบริการให้สมาชิกประทับใจในการประสานงาน ประชาสัมพันธ์ รวมทั้งข่าวสารต่าง ๆ ต้องแจ้งให้สมาชิกทราบอยู่เสมอว่า คณะกรรมการดำเนินการได้บริหารจัดการให้เกิดความเชื่อมั่น ไว้ใจ และนำสหกรณ์สู่ความเจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่างกรรมการ สมาชิก และเจ้าหน้าที่

- 4 -

โลกาภิวัฒน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์อย่างไร

โลกาภิวัฒน์ (Globalization) เป็นยุคของสังคมที่เต็มไปด้วยข้อมูล และข่าวสาร(Information Society) และเป็นยุคที่ เป็นโลกของการติดต่อสื่อสารที่ไร้พรมแดน ทั้งนี้เพราะเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารจะมีความทันสมัย ก้าวหน้า สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว มีความคล่องตัวสูง คำว่า “ โลกาภิวัฒน์ ” หรือ “Globalization” โดยนัยความหมายของคำว่า “ โลกาภิวัฒน์ ” นั้น มีผู้ให้คำจำกัดความที่กระชับและชัดเจนไว้ว่า คือ สภาวะโลกไร้พรมแดน ซึ่งสภาวะของการเกิดเป็นโลกที่ไร้พรมแดนนี้เป็นผลพวงที่เกิดจากการวิวัตนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ผนวกกับความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร ทำให้ความเป็นไปของในซีกโลกหนึ่ง สามารถเห็นได้ในอีกซีกโลกหนึ่งในเวลาเพียงชั่วเสี้ยววินาที ส่งผลให้มีผู้กล่าวกันว่าทำให้โลกใบนี้เล็กและแคบลง ซึ่งผลพวงแห่งความเจริญแห่งยุคโลกาภิวัฒน์นี้ กล่าวได้ว่ามีผลกระทบกับทุก ๆ วงการ ทั้งด้านการศึกษา การพาณิชย์ อุตสาหกรรม สังคม การเมือง วิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งภาคการเกษตรที่นับเป็นส่วนหนึ่งของระบบวิถีชีวิตของการดำรงชีวิตของมนุษย์

อิทธิพลของโลกาภิวัฒน์ ทำให้เกิดการกระเพื่อมต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์มากมายหลายด้าน เช่นเกิดภาษาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจนตั้งรับแทบไม่ทัน เป็นภาษาต่างประเทศที่ต้องทำความเข้าใจในหมู่คนเจ้าของภาษาเดิมให้ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งอาจจะต้องแปลภาษาต่างประเทศนั้น มาเป็นภาษาของตัวเอง หรือต้องยอมรับภาษาที่ทะลักเข้ามานั้น มาเขียนโดยใช้อักขระแห่งภาษาของตนเอง เป็นคำทับศัพท์ เนื่องจากแปลไม่ทัน หรือเหตุผลอย่างอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเมื่ออิทธิพลของโลกาภิวัฒน์ส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์และต่อสหกรณ์ สหกรณ์จึงต้องมีการปรับตัวให้สหกรณ์สามารถดำรงอยู่มากขึ้นให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เช่นปรับปรุงการให้บริการที่เน้นลูกค้าเป็นสำคัญไม่ใช่เห็นว่าสมาชิกเป็นหมูในอวยจะโขกจะสับอย่างไรก็ได้ มีการดำเนินงานธุรกิจที่หลากหลายเพิ่มขึ้นจากธุรกิจเดิมที่ตนมีความถนัดหรือขยายธุรกิจให้มีปริมาณมากขึ้น การใช้ข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายให้เป็นประโยชน์ในการบริหารงานของสหกรณ์ สหกรณ์ต้องปรับเปลี่ยนวิธีบริหารงานให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และมีความยุติธรรมต่อสมาชิก สหกรณ์ต้องปรับปรุงตัวเพื่อรองรับ

- 5 -

เงินทุนที่จะไหลเข้ามาในระบบ มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมไม่ใช่ตามใจกรรมการ สหกรณ์ต้องมีการปรับตัวเองให้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจระหว่างสหกรณ์ไม่ใช่เป็นคู่แข่งแต่ต้องเป็นคู่ค้า สหกรณ์ต้องใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ให้เพียงพอและมีความเหมาะสม สุดท้ายสหกรณ์ต้องมีการพัฒนาคนในสหกรณ์และคนที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ให้เป็นที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพที่สูง เพราะคนเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งที่ลงทุนแล้วไม่มีการขาดทุน

เมื่อสหกรณ์มีการปรับตัวให้พร้อมเพื่อรองรับกับกระแสโลกาภิวัฒน์แล้ว สหกรณ์ก็จะสามารถเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็งและนำพาสมาชิกของสหกรณ์ที่มีอยู่ให้สมาชิกสามารถที่จะยกระดับเศรษฐกิจของตนให้ดีขึ้น และนำให้สมาชิกมีความสุข มีชีวิตแจ่มใสรวมทั้งสามารถดำรงตนอยู่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้

สรุปประเด็นโลกาภิวัฒน์เกี่ยวข้องกับสหกรณ์อย่างไร

และ

สหกรณ์จะเป็นองค์กรการเรียนรู้ได้อย่างไร

จัดทำโดย

นางปัทมา วิมลเศรษฐ

อดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์

องค์กรแห่งการเรียนรู้คือ มีความใฝ่รู้ตลอดเวลา

อดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์

การบ้าน ให้คำจำกัดความ องค์กรแหงการเรียนรู้

องค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นองค์กรที่บุคคลในองค์กรถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันพร้อมทั้งรับความรู้จากภายนอกมาประยุกต์ใช้ในองค์กรเพื่อพัฒนาองค์กร ให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

สหกรณ์จะเป็นองค์การเรียนรู้ได้โดย

 บุคคลรอบรู้ (Personal Mastery) หมายถึง การเรียนรู้ของบุคลากรจะเป็นจุดเริ่มต้น คนในองค์กรจะต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ

 แบบแผนทางความคิด (Mental Model) หมายถึง แบบแผนทางความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ แสดงถึงวุฒิภาวะ(Emotional Quotient, EQ) ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์กลายเป็นกรอบความคิดที่ทำให้บุคคลนั้นๆ มีความสามารถในการทำความเข้าใจ วินิจฉัย ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

 การมีวิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision) หมายถึง การสร้างทัศนคติร่วมของคนในองค์กร ให้สามารถมองเห็นภาพและมีความต้องการที่จะมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน

 การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Learning) หมายถึง การเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกในลักษณะกลุ่มหรือทีมงานเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์กันอย่างสม่ำเสมอ

 การคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking) หมายถึง การที่คนในองค์กรมีความสามารถที่จะเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ โดยมองเห็นภาพความสัมพันธ์กันเป็นระบบโดยรวม(Total System) ได้อย่างเข้าใจ แล้วสามารถมองเห็นระบบย่อย(Subsystem) ที่จะนำไปวางแผนและดำเนินการทำส่วนย่อยๆ นั้นให้เสร็จทีละส่วน

อดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์

ส่งการบ้าน

1. สรุปประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลกาภิวัฒน์

โลกาภิวัตน์ มาจากภาษาบาลี โลก +อภิวตตน ตามรูปศัพท์หมายถึง การแผ่ถึงกันทั่วโลก การเข้าถึงโลก การเอาชนะโลก

โลกาภิวัตน์ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง “การแพร่กระจายทั่วโลก การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นต้น

โลกาภิวัตน์ เป็นคำศัพท์เฉพาะที่บัญญัติขึ้นเพื่อตอบสนองปรากฏการณ์ของสังคมโลกที่เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในส่วนหนึ่งของโลก ส่งผลกระทบอันรวดเร็วและสำคัญ ต่อส่วนอื่นๆ ของโลก

โลกาภิวัตน์ (Globalization) หมายถึงกระบวนการที่ประชากรของโลกถูกหลอมรวมกลายเป็นสังคมเดี่ยว กระบวนการนี้เกิดจากแรงของอิทธิพลร่วมทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและส่งคม-วัฒนธรรมและการเมือง

ทุกคนและทุกประเทศจึงต้องเตรียมพร้อมที่จะรับผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์ ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ โดย

(1)การพัฒนาคุณภาพมนุษย์ ให้มีความรู้ความเข้าใจรู้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลง มีความคิดเชิงกลยุทธ์ที่จะบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ

(2)การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน และสิ่งแวดล้อมซึ่งมีอยู่จำกัด การพัฒนาสิ่งทดแทน การใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและมั่นคง

(3)การพัฒนาวิทยาศาสตร์และสารสนเทศ เทคโนโลยีการสื่อสาร นวัตกรรม / วิทยาการสมัยใหม่ ที่จะช่วยแก้ไข/ชะลอปัญหา หรือนำไปสู่สังคมที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้น

2. การเกี่ยวข้องกับสหกรณ์

สหกรณ์เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยธุรกิจและเป็นชุมชน ย่อมต้องได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่นๆ ของประเทศและของโลกด้วยเช่นกัน จึงควรสร้างความรู้ความเข้าใจและเตรียมการเพื่อรองรับกระแสโลกาภิวัตน์ด้วย

สรุปการบรรยายเรื่อง ผู้นำกับการพัฒนาระบบความคิด โดย ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์  ในวันที่ 24 มกราคม 2552

·       ระบบสังคมไทยเป็นอุปสรรคต่อการคิด

·       รากฐานของสังคมที่ใช้ปัญญามากกว่าสังคมที่ใช้ความรู้ ข้อมูล การที่จะไปถึงสังคมพึงประสงค์ทำให้ต้องพัฒนาความคิดและต้องโยงเป็นระบบ ผู้นำต้องทำจุดนี้ด้วย

·       การเข้าในสภาพสังคมทำให้เข้าใจหลักคิด

·       มนุษย์ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ (สมัยนอร์แมน) พยายามเอาตัวรอด แรกเริ่มล่าสัตว์หากิน ซึ่งเป็นสมัยที่คนมีน้อยก็ไม่ต้องดูแลอะไร

·       ต่อมา ตั้งรกรากเป็นสังคมเกษตร เกิดเป็นคลื่นลูกที่ 1 และเลือกคนที่คุ้มครองปัจจัยการผลิตได้เช่นที่ดินมาเป็นผู้นำ นักรบจะเป็นผู้ครองนคร ในสังคมโลกปัจจุบัน ประเทศเกษตรหัวหน้ามักจะเป็นทหาร เช่น ประเทศในแอฟริกา จากการวิจัย ก่อนเกิดคลื่นลูกที่ 2 คนรวยคือผู้ถือครองที่ดินมาก ถ้าใครถือปัจจัยแห่งยุค (มีความสำคัญมากต่อยุค) ได้ คนนั้นจะรวยมาก ประเทศที่เข้าคลื่นลูกที่ 1 ได้ก่อน จะเกิดเป็นอารยธรรมและมหาอำนาจเพราะมีความสามารถเชิงผลิต ประเทศที่ผลิตได้มากจะรวย

·          ประเทศอียิปต์ทำเขื่อนได้ก่อนเกิดเป็นอารยธรรมและเชื่อชีวิตหลังความตายว่าสำคัญทำให้วางแผนไปถึงอนาคตด้วยเน้นระยะยาว

·          อารยธรรมโรมันเกิดจากกองทัพโรมันรู้จักเทคนิควิศวกรรมโยธากลุ่มแรก ทำถนน และมีปรัชญาการจัดกองทัพที่ดี

·          ชาวตะวันตกเป็นมหาอำนาจเพราะความรู้ มีการกระจายความรู้ มีการรวมตัวของผู้มีความรู้ถกเถียงกันและตั้งเป็นมหาวิทยาลัยมีคนมาสมัครเรียน ในการพิจารณาให้ปริญญาเอกก็ต้องเป็นการคิดทฤษฎีใหม่จริงๆและต้องนำมาตีพิมพ์เผยแพร่ด้วย แตกต่างจากสังคมไทยมีการลอก

·          ผู้นำต้องจัดระบบคิดให้เป็น

·       ส่วนคลื่นลูกที่ 2 คือ สังคมทุนอุตสาหกรรม นำเครื่องจักรไอน้ำไปช่วยผลิตและนำไปใส่รถไฟขนส่งสินค้าไปขาย ถ้าพัฒนาจากสังคมเกษตรไปสู่สังคมอุตสาหกรรมก่อนจะเป็นมหาอำนาจ ทำให้นายทุนมีอำนาจ เช่น วอเรน บัฟเฟต

·       ส่วนคลื่นลูกที่ 3 คือ สังคมข้อมูล ข้อมูลจึงเป็นปัจจัยแห่งยุค เครื่องมือแห่งยุคคือไอที มหาอำนาจแห่งยุคจึงกลายเป็นบิล เกตส์

·          สังคมไทยตอนนี้อยู่ในคลื่นลูกที่ 1,2,3 ซ้อนกัน คนร้อยละ 50 อยู่ในคลื่นลูกที่ 1 ตั้งรัฐบาล แต่คลื่นลูกที่ 2,3 ล้มรัฐบาล เพราะปริมาณคนกับความสามารถทางเศรษฐกิจไม่เหมือนกัน

·          อเมริกาเป็นมหาอำนาจ คนส่วนมากทำงานในสังคมความรู้ มีมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกเป็นจำนวนมาก อเมริกาจดลิขสิทธิ์ทางปัญญามากที่สุดในโลก

·       สิงคโปร์เป็นสังคมคลื่นลูกที่ 4 อย่างแท้จริง คนมีความรู้เป็นผู้มีอำนาจ ลีกวนยูพัฒนานาโนเทค ไบโอเทคซึ่งเป็นเครื่องมือแห่งยุค จึงรวยกว่าไทย 10 เท่า เขาให้คนเก่งได้ทำงานที่เหมาะสม ซึ่งต่างจากไทย

·       ต้องคิดว่าการเมืองคือการเสียสละ แก้ปัญหาบ้านเมือง ต้องให้คลื่นลูกที่ 4 นำแล้วประเทศไทยจะรอด

·       การคุมเงินทำให้คุมคลื่นลูกที่ 1 ได้ การคุมข้อมูลข่าวสารได้ทำให้คลื่นลูกที่ 2,3 ได้

·       ผู้นำที่ดีต้องเป็นผู้บริหารด้วย

·       องค์กรที่อยู่รอดได้เกิน 300 ปีมีคุณสมบัติคือ วางระบบต่างๆให้ถูกต้องสอดคล้องกันระบบปรัชญาส่วนบุคคลและปรัชญาส่วนระบบ

·          ปรัชญาส่วนบุคคลคือ วิเคราะห์ได้ชัดเจนว่าอะไรคือความดี ความจริง ความงาม

·          ปรัชญาส่วนระบบคือ ความเสมอภาค ภราดรภาพ (ทำให้องค์กรยั่งยืน) เสรีภาพ

·       ผู้นำต้องทำงานถูกต้องและถูกหลัก

·       ผู้นำต้องมองหาความยืดหยุ่นในวิธีการแต่ต้องไม่เสียหลักการ

·       เราขาดผู้นำที่เหมาะสมในโลกปัจจุบัน

·       การเป็นผู้นำนั้นฝึกได้แต่บางคนก็มีลักษณะที่เป็นผู้นำที่ติดตัวมาตามธรรมชาติ

·       ผู้นำไม่มีจริงตลอดเวลาแต่สถานการณ์จะเปิดโอกาสให้คนแสดงภาวะผู้นำออกมา ถ้าแสดงออกบ่อยอาจเรียกว่าเป็นผู้นำก็ได้ แต่ควรจะแสดงถูกที่

·       หลักการบริหารแบบผู้นำ จากไฮเฟต

·       ภาวะผู้นำมาจากแรงบันดาลใจ 1% และอย่างอื่นอีก 99%

·       เป็นผู้นำต้องปรับตัว (Adaptive Work) จัดระบบให้เอื้อ

·       ผู้นำต้องมองภาพรวมเก่ง

·       ผู้นำต้องสามารถบ่งชี้สิ่งท้าทายที่ต้องนำไปปรับระบบ วางรากฐานให้ประเทศไทยไม่เสียเปรียบ (ปฏิวัฒน์) เช่นปฏิสังขรณ์ ปฏิรังสรรค์ (นำมาต่อใหม่) ปฏิรูป (เปลี่ยนรูปแบบใหม่) ปฏิวัติ (รื้อระบบ)

·       ผู้นำไม่ต้องทำแทนคนอื่นเสมอไป แต่ต้องมอบให้คนอื่นทำแทนตามความเหมาะสม

·       ผู้นำต้องวิเคราะห์ความเครียดของระบบ อย่าเร่งเกินไป หรือปล่อย ปรับระบบให้มีประสิทธิภาพ

·       ผู้นำต้องพูดนิ่มแต่ชัดเจน

·       ผู้นำต้องจับเรื่องใหญ่ให้ดี จดจ่อและไม่วอกแวก

·       ผู้นำต้องปกป้องเสียงที่มาจากข้างล่างที่เป็นผู้นำแท้ๆ เพราะบางทีผู้นำที่แท้จริงก็ไม่ใช่คนมีตำแหน่งแต่มีอิทธิพลสำคัญ ต้องเปิดโอกาสให้คนแสดงความคิดเห็น

·       สหกรณ์เป็นองค์กรที่ทรงพลังแต่เหมือนเสือหลับ วางผู้นำได้ถูกแต่ขาดการจัดระบบที่ทรงพลัง

·       สหกรณ์ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาบ้านเมือง

 

สรุปการบรรยายเรื่อง HR for Non-HR โดย คุณศิริลักษณ์ เมฆสังข์ ในวันที่ 24 มกราคม 2552

การบริหารคนในองค์กรเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็น

·       งานบริหารคนในองค์กร เป็นหน้าที่ของผู้บริหารทุกคน ไม่ใช่งานของฝ่าย HR เพียงผู้เดียว

·       ผู้จัดการ ต้องเป็น นักบริหารคน เพราะ

                - เป็นผู้ที่คัดเลือกพนักงาน ถ้ามาทำงานในสายงานของท่าน

                - เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพนักงานในฝ่าย

                - เป็นผู้กำหนดเป้าหมายในการทำงานกับลูกน้อง และประเมินผลการทำงาน

- ให้คำแนะนำ สอนงาน เป็นที่ปรึกษา และให้ Feedback อย่ามองคนที่ความคิดแตกต่างไม่ดี ต้องรู้จักผสมผสานความคิด

-หัวหน้างานต้องมีพี่เลี้ยงให้พนักงานใหม่เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง จะได้ส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน

                - พัฒนาพนักงาน

                - สร้างขวัญกำลังใจ และแรงจูงใจในการทำงาน

                - ให้คุณ ให้โทษแก่พนักงาน

·       ปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ต้องพัฒนาคน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 เน้นสร้างสังคมความรู้

·       จากวิจัยไอเอ็มดี พบว่าประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขัน ไทยต้องมีความสามารถในการแข่งขัน

·       สสส.นำความสุขในที่ทำงานเข้ามา ควรทำให้เกิดความสุขในองค์กร เช่น ทุกองค์กรสอนคนว่าอย่าไปสร้างหนี้ หัวหน้างานและ HR สามารถให้แนวแก่เขาได้

·       ขอบข่าย

·          ภาวะผู้นำเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความผูกพันต่อองค์กร

·          วัฒนธรรมองค์กรและค่านิยม

·          การบริหารคนในองค์กร

·       แนวโน้ม

·          ความสามารถองค์กร องค์กรใดที่มีลำดับชั้นมากก็จะมีการลดสายบังคับบัญชาลง การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น ลดขั้นตอน บางองค์กรมีทุกอย่างพร้อม แต่คนมีอำนาจเซ็นไม่เซ็นเพราะกลัวความผิดพลาด บางครั้งนายไม่รับผิดชอบ ต้องสร้างความเชื่อมั่นในการทำงาน

·          ให้อำนาจผู้บริหารในสายงานมากขึ้นโดยให้ความรู้คนในที่ทำงานว่าให้อำนาจในขอบเขตความรับผิดชอบในใบพรรณนาหน้าที่การงาน ต้องทบทวนบทบาทแต่ละคน นายก็ต้องโค้ชลูกน้อง

·          องค์กรต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว

·          ต้องมีความยืดหยุ่นแต่ต้องไม่เกิดต่อความเสียหายต่อองค์กร

·          การบริหารจัดการความรู้ บางทีมีแต่ไม่ใช้ จากการสัมภาษณ์ SMEs พบว่าพนักงานเรียนรู้ได้โดยการไปเรียน การบริหารจัดการความรู้ต้องทำให้คนอยากเรียน แต่ปริมาณงานทำให้อยากเรียน ต้องทบทวนเรื่องการมอบหมายงาน บางทีเกิดจากนายมีความลำเอียง ต้องสอนให้คนบริหารตนเองเป็น

·          ต้องมีการตรวจสอบคนที่มีศักยภาพที่มีอยู่ในตลาดแรงงานยังมีไม่มากจึงมีการแย่งชิงตัวแรงงานสูงอายุมีมากขึ้น มีการจ้างหลังเกษียณเป็นที่ปรึกษาหรือวิทยากรถ่ายทอดความรู้ในองค์กร และส่งเสริม succession plan การมีผู้แทนในตำแหน่งที่จะว่างลงในอนาคตโดยมีวิธีการคัดเลือกอย่างชัดเจนจะได้ลดความรุนแรงลงได้ส่วนหนึ่ง

·          วิถีชีวิตคนเปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่ต้องการเงินและตำแหน่ง

·          สารสนเทศสำคัญ

·       บางทีเขียนรายงานดีแต่ไม่กล้าเสนอนายเพราะกลัวตกงาน ควรนำเสนอประเด็นหลักว่าจะได้ประโยชน์อะไร ใช้งบเท่าไร

·       ควรตรวจสุขภาพองค์กร สำรวจความคิดเห็นพนักงาน

·       การวางแผนด้านคน HR ต้องหารือกับสายงานต่างๆเกี่ยวกับแนวนโยบาย นำมาประมวลแล้วบรรจุเป็นกลยุทธ์

·       การบริหารผลการทำงาน การฝึกอบรม

·       การพัฒนาสายอาชีพ ทำให้รู้อนาคต

·       ต้องมีกระบวนการ การสรรหาคัดเลือกคนที่เหมาะกับวัฒนธรรมองค์กร ต้องประสานงานกับคนอื่นได้

  • สรุปงานหลัก HR คือ หาคนมา พัฒนาเขา รักษาคนไว้
  • เจ้านายต้องสื่อสารดี เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในความสำเร็จขององค์กร คนในองค์กรต้องสนทนากันแล้วต้องเข้าใจตรงกัน มีทักษะการฟัง ตั้งคำถามเป็นบริหารความหลากหลาย
  • หัวหน้างานต้องมีสมรรถนะด้านทรัพยากรมนุษย์คือ

·          รู้งานทรัพยากรมนุษย์

·          มีความรู้ในเรื่องธุรกิจ

·          การจัดการความเปลี่ยนแปลง

·          ระบบการคิดเชิงกลยุทธ์

·          ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ

·       ในองค์กรที่อยู่ ต้องมีวัฒนธรรมองค์กรร่วมกัน

·       สหกรณ์ก็มีค่านิยมร่วมกันคือให้ความสำคัญกับสมาชิก

·       ต้องจัดโครงสร้างให้เหมาะสมกับองค์กร

·       คนต้องมีความรักและผูกพันในการทำงาน

  • การจัดการและการปฏิบัติ

          โครงสร้าง (Structure) บอกว่านี่คือสายงานที่จำเป็นที่ทำให้เราบรรลุผลสำเร็จ บอกสถานะผู้กำกับดูแล แต่บางองค์กรสร้างโครงสร้างเพื่อหาตำแหน่งให้คนทำงานซึ่งไม่จำเป็น

          ระบบ (Systems) สร้างให้งานมีความต่อเนื่อง การบริหารข้อมูลก็สำคัญ

          กระบวนการ (Processes)

·         คุณลักษณะสำคัญขององค์กรที่มีสมรรถนะสูง ได้แก่

       ค่านิยมร่วมวัฒนธรรมองค์กร มีความเป็นเลิศปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

       ทีมงานผนึกกำลังเป็นทีมที่ไม่เป็นทางการ

       สไตล์ของผู้นำ ผู้นำแบ่งการเรียนรู้สร้างแรงจูงใจ กระตุ้นและนำการเปลี่ยนแปลง

       โครงสร้างเครือข่ายที่ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีพลวัต

       พนักงานรักการเรียนรู้ และถ่ายทอดความรู้ มีการแบ่งงานดีให้มีเวลา หาเวทีให้พนักงานแลกเปลี่ยนความเห็น

       ยุทธศาสตร์ที่ทุกฝ่ายร่วมกันแสดงความคิดเห็น และเรียนรู้ร่วมกัน

         กิจกรรม HR ที่ผู้บริหารฝ่ายต่างๆ ต้องรู้ และสามารถทำได้

       การคัดเลือกบุคลากร  ต้องมีทักษะที่จำเป็นคือ การสัมภาษณ์ และการสื่อสาร ควรยกตัวอย่างสถานการณ์ให้แก้ไข ดูความรู้ ทักษะและวุฒิภาวะที่ผู้สมัครแสดงออกมา

       การบริหารผลการปฏิบัติงาน เจ้านายกับลูกน้องต้องหารือกันเรื่องความคาดหวัง

          หัวหน้าต้องสังเกตการทำงาน สอนงาน ให้ Feedback จัดให้มีการฝึกอบรมและการพัฒนา และมีการให้รางวัลเมื่อมีผลงานดี ต้องมีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน SMART (มีความชัดเจน วัดได้ เข้าถึงได้สอดคล้องกับความเป็นจริง มีกำหนดเวลา)

·       นำผลประเมินไปบริหารคนเก่งในองค์กรและการวางแผนสืบทอดตำแหน่ง เชื่อมโยงกับอาชีพการงาน มีเครื่องมือครบ

·       ควรคุยกับลูกน้องเพื่อทราบความคาดหวังของเขา ทำอะไรสำเร็จ อยากทำอะไรเพิ่มขึ้นและมีความมุ่งมั่นอย่างไร จะได้ทราบว่าต้องพัฒนาอะไร

·       ในการค้นหาคนมีศักยภาพสูงในการทำงาน ก็ต้องดูผลการทำงานที่ผ่านมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน

·       การพัฒนาอาชีพ ควรทำในทุกกลุ่มแม้จะไม่ใช่กลุ่ม talents ก็ตามจะได้พัฒนาถูกทาง

·       บทบาทผู้บริหารในการสร้างการเรียนรู้

·          กล้าริเริ่ม

·          ให้คนมีส่วนร่วม

·          ส่งเสริมกิจกรรมเรียนรู้

·          เป็นต้นแบบ

·          หาเวทีให้ลูกน้องแสดงความคิดเห็น

·          ติดตาม

·          ให้ feedback

·      หลักการให้รางวัลคือ ควรให้ทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน

ถ้ามีการพัฒนาบุคลากรแล้ว แต่ลูกน้องทำงานไม่ได้จะทำอย่างไร

ศิริลักษณ์ เมฆสังข์

ต้องคุยกับเขาว่าจุดอิ่มตัวมีแค่ไหน ต้องจัดงานให้เหมาะสม มีการทำนโยบายให้ชัดว่า พัฒนาแล้วแต่ไม่สามารถทำงานได้ ก็สามารถให้ออกได้โดยมีผลประเมินเป็นหลักฐานยืนยัน

ถ้าหัวหน้าไม่รับฟังจะทำอย่างไร

ศิริลักษณ์ เมฆสังข์
  • ควรนั่งคุยกันเป็นทีม หรือให้หัวหน้าของหัวหน้ามาคุย หรือมี Executive Coaching
  • หัวหน้าควรคุยกับลูกน้องตกลงกันเรื่องความคาดหวัง

เมื่อแรกเริ่ม การทำงาน active มากแล้วค่อยเฉื่อยลง จะแก้ปัญหาอย่างไร

ศิริลักษณ์ เมฆสังข์

ต้องหาสาเหตุ โดยจัดประชุมโต๊ะกลมเพื่อทราบปัญหาและความคาดหวัง สาเหตุอาจจะมาจากงาน เจ้านาย   60% ของคนลาออกเพราะเจ้านาย

การสรรหาคนมาทำงานสหกรณ์ผิดพลาด คณะกรรมการตัดสินเลือกคน แต่ฝ่ายจัดการแค่ร่วมสัมภาษณ์ จะลดปัญหาเส้นสายในการรับคนอย่างไร

ศิริลักษณ์ เมฆสังข์

ต้องกลับไปเปลี่ยนกระบวนการสัมภาษณ์ ระบุใครต้องเกี่ยวข้องในการสัมภาษณ์และใครตัดสินใจ มีการให้คะแนนที่ชัดเจน แต่ถ้าต้องรับคนตามใบสั่ง ต้องขอพิจารณาผ่านกระบวนการแล้วจัดให้ทำงานที่เหมาะสม ต้องประกาศนโยบายให้ทราบทั่วถึงกัน

ผู้บริหารที่ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้น้อยแสดงความคิดเห็น จะแก้ไขอย่างไร นายจะห้ามลูกน้องพูดทุกเรื่อง

ศิริลักษณ์ เมฆสังข์

ถ้าเปลี่ยนนายไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนตัวเอง เช่นวิธีการนำเสนอ ในการพัฒนาผู้นำ ต้องออกแบบกิจกรรมเพราะจะทำให้ผู้นำเปลี่ยนตัวเองได้

เรียน อ.ศิริลักษณ์ เมฆสังข์

จากกาเรียนกับอาจารย์วันนี้ถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมา เพาระสหกรณ์กำลังจะรับคนเข้าทำงานพอดี อยากให้ อาจารย์ให้คำแนะนำ หรือบอกแนวคิดในการ สรรหาคนมาทำงาน ที่สำคัญวิธีการสอบสัมภาษณ์ หากได้ตัวอย่าจะดีมาก ส่งอีเมล ก็ได้

เรียนท่านอาจารย์ จีระ ที่เคารพ

ขอรายงานผลการเรียน ครั้งที่ 2 ครับ

การเรียนครั้งที่ 2 วันที่ 23 – 24 มกราคม เริ่มแรกได้เรียนเรื่อง LEADERSHIP IN CHANGED WORLD BY MR.PETER BJORK ท่านบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ แต่ล่ามก็ได้แปลให้อย่างชัดเจน ท่านได้กล่าวถึงประเทศสวีเดนที่มีความโดดเด่นหลาย ๆ ด้าน สามารถแข่งขันได้กับกลุ่ม EU ความสำเร็จในด้านต่าง ๆ มีผลมาจากได้ที่มีการส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยมาเป็นอันดับหนึ่ง การบริหารประเทศมีความโปร่งใส ไม่มีปัญหาการคอรัปชั่น เขามีวัฒนธรรมในการทำงานที่ดี และยังได้พูดถึงเรื่องการเป็นผู้นำที่ดีด้วย

ท่านอาจารย์ยม นาคสุข ได้สอนการวางแผนและการบริหารโครงการ ก็ได้เรียนรู้ในเรื่องของการเขียนโครงการ การวางแผนและการบริหารโครงการ การประเมินความเสี่ยงและการป้องกันปัญหาในการบริหารโครงการ เทคนิคการจัดทำโครงการ การควบคุมโครงการ และสุดท้ายท่านได้ไห้จัดทำโครงร่างการเขียนโครงการเป็นการบ้านด้วย

ท่าน ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงต์ศักดิ์ ได้มาสอนในเรื่องผู้นำกับการพัฒนาระบบความคิด ท่านได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น ปัญหาวิกฤตต่าง ๆ ความปลี่ยนแปลงที่ยังต้องเกิดขึ้นอีกเสมอ มาเป็นประเด็นให้ผู้นำร่วมกันคิด และผู้นำต้องคิดตามให้ทัน ทำให้เห็นว่าผู้นำนั้นจะต้องใช้สมองในการทำงานอยู่ตลอดเวลา จะหยุดไม่ได้

ท่านอาจารย์ศิริลักษณ์ เมฆสังข์ ได้มาสอนให้รู้ในเรื่องการพัฒนาทรัพย์กรมนุษย์สำหรับนักบริหาร ทำให้ท่านผู้นำต้องกลับไปทบทวนบทบาทของตัวเองที่ได้แสดงไปแล้ว ว่าได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนหรือยัง จะทำอย่างไรให้พนักงานเป็นพนักงานที่ดีมีคุณภาพ และสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่องค์กร

ในทุกๆ เรื่องผู้นำทุกคนต้องนำไปทบทวนตามเอกสารที่อาจารย์ไดแจกให้ และต้องช่วยกันคิดต่อ คิดแบบผู้นำด้วยครับ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์และเพื่อนชาว ผนส3

ในรูปท่านผนส3วางพวงมาลาไม่ทราบว่าเป็นวันสำคัญอะไรหรือเปล่าคะ

จะคอยเป็นกำลังใจให้รุ่นท่านประสบความสำเร็จทุกๆคนและติดตามข่าวความ

เคลื่อนไหวไดยตลอด

เรียนคุณธญา ครับ

พวกเราไปกราบขอพรจากพระบิดาของสหกรณ์ครับ จะได้เรียนหนังสือเก่ง มีความคิดในการพัฒนา รักและเสียสละเพื่อสหกรณ์ครับ

บัญชา

เพื่อนๆ

วันนี้ฟังธรรมมังนะครับ สงบ สันติ

บัญชา

พลังแห่งความดี

คอลัมน์ มองอย่างพุทธ

โดย พระไพศาล วิสาโล เครือข่ายพุทธิกา http://budnet.info

ย้อน หลังไปเพียง 2 ปีคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อ บารัค โอบามา เลยด้วยซ้ำ แต่วันนี้เขากลับเป็นว่าที่ประธานาธิบดีที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และกำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในฐานะผู้นำผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ชัยชนะของโอบามาบนเส้นทางสู่ทำเนียบขาวนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากความเบื่อ หน่ายและผิดหวังที่ประชาชนมีต่อพรรครีพับลิกันอันมีประธานาธิบดีบุชเป็นตัว แทน ยิ่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจซ้ำเติมด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำความไร้ ประสิทธิภาพของรัฐบาลรีพับลิกัน

แต่โอบามาจะประสบความสำเร็จไม่ได้ เลยหากปราศจากการรณรงค์หาเสียงที่มีการจัดตั้งอย่างเข้มแข็ง ทรงประสิทธิภาพ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ชนิดที่เป็นแบบฉบับให้แก่นักการเมืองรุ่นหลังไปได้อีกนาน สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนก็คือการระดมอาสาสมัครมาช่วยหาเสียงให้ เขานับล้านๆ คน อาสาสมัครเหล่านี้เปรียบเสมือน "กองทัพมด" ที่กระจายกำลังไปทั่วประเทศ และช่วยระดมทุนให้เขาอย่างมากมายเป็นประวัติการณ์ ต่างคนต่างคิดและริเริ่มทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากส่วนหัว กล่าวได้ว่าการรณรงค์ของโอบามามีฐานจากประชาชนระดับรากหญ้าอย่างแท้จริง

ความ สำเร็จในการดึงผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ และทุกเชื้อชาติผิวสีมาช่วยทำงานการเมืองให้โอบามาอย่างแข็งขันนั้น ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของการจัดการองค์กรหรือบริหารเครือข่ายเท่านั้น หากยังอยู่ที่บุคลิกและความสามารถเฉพาะตัวของโอบามาเองด้วย ความสามารถในทางวาทศิลป์ของเขานั้นเป็นเรื่องที่กล่าวขานกันมาก แต่ที่เขามีมากกว่านั้นก็คือ ความสามารถในการดึงเอาส่วนที่ดีของผู้คนออกมา แทนที่จะปลุกให้คนเกลียดกัน เขาสามารถบันดาลใจให้ผู้คนมองกันด้วยสายตาที่เป็นมิตร แทนที่จะพูดให้คนนึกถึงประโยชน์ส่วนตัว เขาสามารถชักชวนให้ผู้คนคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม

มีนักเขียนผู้หนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า "โอบามามีความสามารถในการทำให้คนเก่งๆ และประสบความสำเร็จรู้สึกดีขึ้นมาทันทีเพียงเพราะว่านึกอยากจะช่วยเขาเท่า นั้น" มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนเราอยากจะช่วยผู้อื่น เหตุผลหนึ่งก็คือเพราะหวังผลตอบแทน แต่ในกรณีของโอบามานั้นผู้คนรู้สึกดีที่ได้ช่วยโอบามาก็เพราะเชื่อว่าตน กำลังทำสิ่งที่มีคุณค่าต่อผู้อื่นหรือเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เมื่อใครสักคนหันมาคิดถึงผู้อื่น (หรือหลักการอันดีงาม) ยิ่งกว่านึกถึงตนเอง นั่นก็เพราะคุณงามความดีในใจของเขากำลังถูกปลุกขึ้นมาแล้ว

มนุษย์ทุก คนมีทั้งความใฝ่ดีและความเห็นแก่ตัว เราจะทำดีหรือชั่วก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นความใฝ่ดีหรือความเห็นแก่ตัวขึ้น มาเป็นใหญ่ในใจเรา โอบามาเคยพูดถึงคำสอนของแม่ว่า "อย่าตัดสิน ให้มองหาความดีในตัวผู้คนเสมอ" คำสอนดังกล่าวมีอิทธิพลต่อเขาไม่น้อย เขาเคยพูดว่า "ปกติคนเราก็อยากทำสิ่งที่ถูกต้อง" ทรรศนะดังกล่าวทำให้เขามีท่าทีเป็นมิตรกับผู้คนมากกว่าจะเป็นปฏิปักษ์ จึงสามารถดึงความร่วมมือจากผู้คนหลากหลายอุดมการณ์ และทำให้การรณรงค์หาเสียงของเขาหลีกเลี่ยงการโจมตีคู่แข่ง แต่เน้นหลักการหรืออุดมคติของสังคมการเมืองอเมริกัน เช่น ความยุติธรรม ภราดรภาพเหนือชาติพันธุ์ และความเสียสละเพื่อส่วนรวม ดังตอนหนึ่งในการปราศรัยของเขา

"ผมเชื่อว่าชาวอเมริกัน ไม่ว่าจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองเช่นใด กำลังกระหายอยากเห็นการเมืองแบบใหม่ การเมืองที่ไม่ได้เน้นที่คำถามว่า เราจะเอาชนะคะคานกันอย่างไร แต่เน้นที่คำถามว่า ทำไมเราจึงควรจะเอาชนะกัน การเมืองที่เน้นคุณค่าและอุดมการณ์ที่เรามีร่วมกันในฐานะคนอเมริกัน การเมืองที่เชิดชูสามัญสำนึกมากกว่าอุดมการณ์ และการพูดตรงไปตรงมามากกว่าการปั่นคำพูด"

ในขณะที่การเมืองแบบเก่า เน้นที่การหาเสียงจากความแตกต่างทางอัตลักษณ์ เช่น เพศ หรือผิวสี โอบามากลับเน้นสมานฉันท์ระหว่างผิวสี โดยชี้ให้เห็นว่าความเจริญก้าวหน้าของเพื่อนต่างผิวนั้นหมายถึงความเจริญ รุ่งเรืองของทุกคน "เส้นทางสู่ความปรองดองสมบูรณ์แบบ แปลว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องตระหนักว่าความฝันของคุณไม่จำเป็นต้องแลกด้วย ความฝันของฉัน ตระหนักว่าการลงทุนในระบบประกันสุขภาพ สวัสดิการ และการศึกษาของคนผิวดำ คนผิวสีน้ำตาล และคนผิวขาว จะทำให้อเมริกาทั้งประเทศเจริญรุ่งเรือง" (สำนวนแปลของสฤณี อาชวานันทกุล)

การ มองเห็นด้านดีของมนุษย์และเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนล้วนอยากทำความดีทำให้เขาไว้ วางใจผู้คนมาก ความไว้วางใจดังกล่าวนี้เองที่นักสังเกตการณ์หลายคนชี้ว่าเป็นกุญแจสู่ชัย ชนะของเขา อาสาสมัครนับล้านสามารถเข้าถึงคลังข้อมูลของคณะหาเสียงของโอบามาเพื่อดึงเอา ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ลงคะแนนเสียงออกมาได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพราะโอบามาไว้วางใจว่าพวกเขาจะนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในทางที่ถูก ต้อง ทุกคนสามารถโทรศัพท์หรือเคาะประตูบ้านเพื่อหาเสียงในนามของเขาได้อย่างอิสระ เพราะเขาไว้วางใจวิจารณญาณของทุกคน เมื่อผนวกกับการรณรงค์ที่เน้นประเด็นเชิงบวก ทุกคนจึงรู้สึกว่ากำลังมีส่วนสร้างการเมืองใหม่ให้กับประเทศของตน

ที่ แล้วมาการหาเสียงทางการเมืองมักเน้นที่การสร้างความกลัว-เกลียด-โกรธ การแบ่งเขาแบ่งเรา และการนึกถึงแต่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ซึ่งก็คือการดึงเอาด้านที่เห็นแก่ตัวของมนุษย์ออกมา แต่โอบามาเป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าการดึงเอาด้านที่ดีของมนุษย์ออกมา นั้นไม่เพียงเป็นไปได้เท่านั้น หากยังสามารถก่อให้เกิดพลังการเปลี่ยนแปลงที่มหาศาลได้ด้วย นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่มีคุณค่าอย่างมากสำหรับเมืองไทยในยุคที่กำลังแบ่งแยก เป็นฝักฝ่ายด้วยสาเหตุทางด้านอุดมการณ์ ภูมิภาค เศรษฐฐานะ ตลอดจนชาติพันธุ์ และศาสนา คนเราไม่จำเป็นต้องรวมกันเพียงเพราะว่าเกลียดศัตรูคนเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องยอมเสี่ยงตายเพราะมีความโกรธเป็นตัวขับเคลื่อน ความรักและศรัทธาในสิ่งดีงามก็สามารถเป็นพลังประสานให้เรารวมกันและกล้าทำ สิ่งยากที่ท้าทายหรือเรียกร้องการเสียสละอย่างสูงได้

จะทำเช่นนั้น ได้เราต้องมีศรัทธาในผู้คนไม่เว้นแม้แต่คู่กรณีว่า เขาเหล่านั้นมีความดีงามอยู่ในจิตใจ แต่ความดีงามนั้นบ่อยครั้งก็ไม่สามารถออกมาจากจิตใจของเขาได้ เพราะถูกครอบงำด้วยความเห็นแก่ตัวหรือเพราะความกลัว-เกลียด-โกรธ ในกรณีเช่นนี้ยิ่งเราทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับเขา หรือโจมตีด่าว่าเขา ก็ยิ่งกระตุ้นความกลัว-เกลียด-โกรธให้รุนแรงขึ้น กลับกลายเป็นการดึงพลังฝ่ายลบของเขาออกมา ในทางตรงข้ามการแสดงความเป็นมิตรกับเขาหรือการกระทำที่สัมผัสด้านดีของเขา สามารถปลุกความดีงามภายในใจเขาให้มีพลังมากขึ้น จนอาจเอาชนะความเห็นแก่ตัวได้

ความดีงามภายในใจนั้นเติบโตได้ก็เพราะ มีความดีเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง หากบุคคลผู้นั้นคิดดี พูดดี ทำดี ความดีงามภายในก็ยิ่งเบ่งบาน อย่างไรก็ตามแม้ผู้นั้นจะพร่องในการคิดดี พูดดี หรือทำดี แต่หากมีผู้ใดมาพูดดีทำดีด้วย ความดีที่ได้รับก็อาจซึมซาบไปถึงใจและบำรุงความดีงามในตัวเขาให้เจริญงอกงาม ได้ ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงตรัสสอนให้เราเอาชนะความชั่วด้วยความดี เพราะความดีนั้นย่อมสามารถชนะใจเขาได้ในที่สุด

สตีเวน สปีลเบิร์ก นักสร้างหนังชื่อดังเคยเล่าว่า เมื่อเขาอายุ 13 ปี เขามักถูกอันธพาลรุ่นพี่แกล้งเป็นประจำ บางครั้งก็ถึงกับทำร้ายเขา จนเขาไม่อยากไปโรงเรียน แต่แล้ววันหนึ่งเขาเดินไปหาอันธพาลผู้นั้นแล้วบอกว่า เขากำลังถ่ายทำวิดีโอเรื่องต่อสู้นาซี จึงอยากชวนเขามาเล่นเป็นพระเอก หมอนั้นหัวเราะใส่เขาแต่ 2-3 วันหลังจากนั้นก็ตอบรับอย่างไม่เต็มใจ เขาได้เล่นเป็นพระเอกจนถ่ายทำจบ สปีลเบิร์กเล่าว่านับแต่นั้นมาอันธพาลคนนั้นก็เลิกทุบตีเขา แถมยังกลายเป็นเพื่อนสนิทของเขาไปในที่สุด

แม้ไม่มีอะไรให้เขา เพียงแค่รู้จักขอโทษเมื่อทำผิด ก็สามารถเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรได้ ชายคนหนึ่งเล่าว่าขณะที่กำลังขับรถอยู่เพลินๆ ก็มีรถอีกคันหนึ่งปาดหน้าพร้อมกับมีเสียงตะโกนด่าว่าเขา เขาโมโหมากจึงเร่งเครื่องไล่ตามเพื่อปาดหน้ากลับ ขณะที่รถของเขาแล่นตีคู่กับรถคันนั้น เขาได้ลดกระจกเพื่อเตรียมตะโกนด่า แต่ชั่วขณะนั้นเองเขาก็เปลี่ยนใจ แล้วตะโกนว่า "ผมขอโทษ" แทน ส่วนอีกฝ่ายซึ่งลดกระจกและเตรียมด่ากลับ พอได้ยินคำขอโทษ ก็อึ้งไปแล้วก็ตะโกนกลับมาว่า "ผมก็ขอโทษ" จากนั้นต่างคนต่างก็บอกให้อีกฝ่ายแซงไปก่อน "คุณไปก่อน" "ไม่ คุณไปก่อน"

บาง ครั้งเพียงแค่มีผู้เห็นความดีของเราหรือเชื่อมั่นในความดีของเรา ก็ทำให้เราอยากทำความดีจนสามารถเอาชนะนิสัยที่ไม่ดีได้ ครูสุรินทร์ กิจนิตย์ชีว์ ปูชนียบุคคลในวงการครูชนบทและนักพัฒนาเล่าว่า ในอดีตท่านติดการพนันแถมเป็นนักเลงชนไก่ ถึงกับลงขันกับเพื่อนๆ ตั้งบ่อนไก่หน้าโรงเรียนที่ท่านเป็นครูใหญ่ แม่ขอร้องให้เลิกเท่าไรก็ไม่เคยเป็นผล

แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดจุด เปลี่ยนในชีวิต ท่านไปร่วมพิธีวันครูที่อำเภอ นายอำเภอได้กล่าวเปิดงานสั้นๆ ว่า "วันนี้เป็นวันครู ผมดีใจ ผมไหว้ครูได้สนิทใจ เพราะครูเป็นปูชนียบุคคล ผมได้ดีมาทุกวันนี้เพราะว่าคุณครู" ได้ยินเพียงเท่านี้ ครูสุรินทร์ก็ใจหาย เอามือแอบไว้ข้างหลัง เพราะกลัวว่านายอำเภอจะเห็นมือซึ่งเหลืองอร่ามเพราะทาขมิ้นให้ไก่ ขณะเดียวกันก็รู้สึกกังวลว่าหากนายอำเภอรู้ว่าเราตีไก่ ท่านจะไหว้เราลงหรือนี่

นายอำเภอยังพูดต่อไปว่า เมื่อได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นนายอำเภอ ได้ไปเล่าให้แม่ฟัง ถามว่าแม่ดีใจไหม แม่ตอบว่า "เอ็งเป็นนายอำเภอ แม่ไม่ดีใจหรอก เอ็งเป็นคนดีต่างหากแม่ถึงดีใจ" คำพูดดังกล่าวกระทบใจครูสุรินทร์อย่างจัง มาได้คิดตอนนั้นเองว่าเหตุใดแม่ถึงได้อ้อนวอนไม่หยุดให้ตนเลิกอบายมุข นับแต่นั้นมาครูสุรินทร์ก็ตั้งปณิธานว่าจะเลิกทั้งการพนันและเหล้ายา และสามารถเลิกได้ในที่สุด

ครูสุรินทร์รู้ดีว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดี แต่ก็เลิกไม่ได้เพราะความเห็นแก่ตัวมีอำนาจมากกว่า แต่คำพูดของนายอำเภอที่ชื่นชมความดีของครู ก็สามารถปลุกความดีในใจของครูสุรินทร์ขึ้นมา ยิ่งมาเข้าใจความรักของแม่ที่อยากให้ลูกได้ดี ครูสุรินทร์ก็ยิ่งมีพลังที่จะทำความดีจนสามารถเอาชนะความเห็นแก่ตัวได้

น่า คิดว่าหากนายอำเภอพูดตำหนิครูที่ติดพนัน ครูสุรินทร์จะมีปฏิกิริยาอย่างไรในวันนั้น เป็นไปได้ว่านอกจากจะเกลียดนายอำเภอแล้ว อัตตายิ่งสรรหาเหตุผลและกลไกต่างๆ มาปกป้องพฤติกรรมของตนแน่นหนาขึ้น จนยากที่จะเปลี่ยนนิสัยได้

ทุก วันนี้ผู้คนถูกปลุกเร้าให้ใช้พลังฝ่ายลบเป็นแรงจูงใจและขับเคลื่อนทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุนนิยมกระตุ้นให้เรานึกถึงแต่ตัวเองเพื่อจะได้ขยันหาเงิน บริโภคนิยมกระตุ้นให้เราเกลียดตัวเองและอิจฉาคนอื่นเพื่อจะได้ซื้อสินค้ามา เสริมภาพลักษณ์ตัวตนมากๆ ส่วนการเมืองก็ปลุกให้เราเกลียดกลัวซึ่งกันและกัน เพื่อจะได้พึ่งพาและเชื่อฟังผู้นำ ทั้งหมดนี้อาจก่อให้เกิดผลดีเฉพาะหน้า แต่สร้างปัญหาในระยะยาว อาทิ สิ่งแวดล้อมถูกทำลาย สังคมแตกแยก ครอบครัวร้าวฉาน และผู้คนเป็นทุกข์

ไม่ดีกว่าหรือหากเราจะมาช่วย กันดึงเอาพลังฝ่ายดีของกันและกันออกมา เริ่มจากการมองเห็นความดีที่มีอยู่ในใจของผู้คน ชื่นชมความดีของเขา และทำดีหรือมีน้ำใจไมตรีต่อเขา การทำเช่นนี้ไม่เพียงเสริมสร้างพลังแห่งความดีในใจเขาเท่านั้น หากยังบ่มเพาะความดีในใจของเราให้งอกงาม ซึ่งในที่สุดย่อมทำให้ชีวิตสงบเย็นและสังคมเป็นสุขอย่างแท้จริง

หน้า 6

วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11271 มติชนรายวัน

สวัสดีครับ

   ผมได้อ่าน Blog ของพวกเรา ทุกๆคน ขอชมว่า

- ดีมาก

- มีความรู้มาก

ผมอยากให้เราจัดโครงการ public seminar คือ จัดสัมมนา ที่ประชาชน มีโอกาสได้รับฟังเรื่องสหกรณ์ ในมุมของประโยชน์ต่อประเทศ

-          อนึ่ง ผมขอโทษที่ไม่ได้ไปร่วม ทัศนศึกษาดูงานในประเทศ เพราะ ผมต้องไปลาวในช่วงนั้น

จีระ หงส์ลดารมภ์

สวัสดีอาจารย์ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ

เนื่องจากวันนี้เป็นวันตรุษจีนหรือวันปีใหม่ของจีน ก็ขอสวัสดีปีใหม่แบบจีน ซิงเจียยู่อี่ ชิงนี้ฮวดไช้ ค่ะ

ราตรี


                             

 

      นพคุณ  ยังเอี่ยม 

อยากให้เด็กๆได้ฟังแนวคิดจาก ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ เพื่อว่า วันข้างหน้าจะได้เป็นคนดีของสังคม จะได้ช่วยกันพัฒนาประเทศให้อยู่ในยุค "คลื่นลูกที่สี่"

นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3

จากการเรียนครั้งที่ ๒ วันที่ ๒๓-๒๔ มกราคม ๒๕๕๒ ผ่านไปด้วยความเข้มข้นแห่งองค์ความรู้ จากท่านอาจารย์ โดยเริ่มตั้งแต่ Mr.Peter Mjork อาจารย์ยม นาคสุข ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ และ อาจารย์ศิริลักษณ์ เมฆสังข์ ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทุกท่าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ พี่ ๆ เพื่อน ผนส 3

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยค่ะ ดิฉันมีความเห็นว่าเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยสนใจในการอ่านมากนัก ชอบฟัง หรือ มีคนเล่าให้ฟัง จึงทำให้รู้อะไรอย่างผิวเผิน ไม่ลีกซึ้ง เช่น ในเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ก์เรียนนิดเดียว ไม่เหมือนสมัยก่อนที่เรียนมากและเรียนอย่างต่อเนื่อง ดิฉันจึงมากว่า เป็นเพราะระบบการศึกษาเปลี่ยนไป เด็กมักขอแค่สอบผ่านเพียงเท่านั้น เพราะเทอมต่อไปก็ไม่ต้องกลับมาย้อนอ่านของเดิม ซึ่งเมื่อก่อนนี้การสอบครูจะถามตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนั้น ในการสอบแต่ละครั้งจะต้องอ่านของเดิมด้วย ทำให้เราจำและรู้อย่างลึกซึ้ง เห็นด้วยไม๊ค่ะ

เรียนท่านอาจารย์ จีระ หงส์ลดารมภ์ ที่เคารพ

มขออนุญาตนำข้อเสนอของอาจารย์ที่ให้จัด Public seminar เป็นเวทีสาธารณ ในหัวข้อลักษณะเกี่ยวกับประโยชน์ของสหกรณ์ในการบริหารประเมศ หรือสหกรณ์ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ นำเสนอเพื่อนๆเพื่อพิจารณาครับ

ในโอกาสนี้ขอเรียนเชิญเพื่อนๆพี่ๆน้องร่วมแสดงความคิดเห็นในการจัดสัมมนาดังกล่าวไว้เป็นเบื้องต้น ส่วนรายละเอียดเราคงนำไปพูดคุยในชั้นเรียนต่อไป

รักทุกคน โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยครับ

บัญชา

ออกกำลังกายช่วยบำรุงสมอง ดีกว่าน้ำมันปลา-เกมโซโดกุ

ออกกำลังกายใช่แต่จะดีต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อสมอง พัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ คลายความเครียด รักษาระดับฮอร์โมนให้คงที่ และช่วยชะลอความชราได้ด้วย

หลายคนพยายามออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 หนอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าช่วยป้องกันโรคเบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็ง และเส้นเลือดสมองแตก แต่ล่าสุดมีหลักฐานว่า ในการออกกำลังกายแต่ละนาทีนั้นยังได้ช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในสมองด้วย ทำให้เราฉลาดขึ้น มีความสุขขึ้น อ่อนเยาว์ขึ้น และป้องกันไม่ให้สมองเกิดความเครียดและแก่ตัวลง

ในหนังสือเล่มใหม่ ดร.จอห์น เรทีย์ นักจิตเวชศาสตร์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอกว่า การออกกำลังกายต่างหาก ไม่ใช่น้ำมันปลาหรือเกมโซโดกุ ที่ช่วยบำรุงสมองเหนือสิ่งอื่นใด และยิ่งเราแข็งแรงขึ้นเท่าไร สมองก็ยิ่งทำงานดีเท่านั้น

ผลวิจัยชี้ว่า การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยกระตุ้นสมอง ทำให้เซลล์ประสาทมีการเชื่อมต่อกันดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น การออกกำลังกายช่วยปลดปล่อยสารเคมีหลายชนิดเข้าสู่กระแสเลือดซึ่งจะไปบำรุงเลี้ยงสมอง สารเคมีเหล่านี้มีเช่น BNDF ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการของสมอง เซลล์ประสาทในสมองมีการเชื่อมต่อกันคล้ายกิ่งก้านของต้นไม้ ทำให้กิ่งก้านเหล่านี้เติบโต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้

ประโยชน์ของสารดังกล่าวได้ลดน้อยถอยลงเนื่องจากแรงกดดันของวิถีชีวิตสมัยใหม่ แต่การออกกำลังกายจะกระตุ้นการหลั่งสารเคมีชนิดนี้ และจะทำให้มีการผลิต "นักชำระล้าง" ภายในสมอง ซึ่งก็คือเอ็นไซม์และโปรตีนที่จะกำจัดของเสียที่อุดตัน อันทำให้เกิดอาการคิดช้าและเหนี่ยวรั้งไม่ให้สมองทำงานอย่างเต็มที่

เมื่อเราแข็งแรงพอที่จะจ้ำได้เป็นครั้งคราว เช่น ว่ายน้ำอย่างเร็วในสระ หรือปั่นจักรยานอยู่กับที่นาน 30 วินาที ต่อมพิทูอิทารีในสมองก็จะปล่อยฮอร์โมนสร้างความเติบโตที่ชื่อ HGH ออกมา เจ้าฮอร์โมนนี้จะเผาผลาญไขมันหน้าท้อง จัดระเบียบเส้นใยกล้ามเนื้อ และเพิ่มเนื้อสมอง โดยทั่วไป HGH จะอยู่ในกระแสเลือดเป็นเวลาแค่ไม่กี่นาที แต่ผลวิจัยชี้ว่า การจ้ำจะช่วยรักษาระดับของฮอร์โมนตัวนี้ไว้ได้นานถึง 4 ชั่วโมง

คุณหมอเรทีย์บอกว่า เราไม่ต้องทำถึงขนาดวิ่งมาราธอน การออกกำลังกายของเราจะเลียนแบบการเคลื่อนไหวของบรรพบุรุษของเราซึ่งมีการออกกำลังกายตลอดเวลา เช่น เดินวันละ 12 ไมล์ทุกวัน

ถ้าใครอยากพัฒนาพลังสมองอย่างเต็มที่ สามารถทำได้โดยออกกำลังกายปานกลางวันละ 1 ชั่วโมง เช่น จ๊อกกิ้ง สัปดาห์ละ 4 วัน หรือเล่นสควอช หรือวิ่งสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คนที่ไม่แข็งแรงควรเริ่มแต่น้อยก่อน

ดร.เรทีย์ได้ให้คำแนะนำสำหรับคนแต่ละกลุ่ม คนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปจะสูญเสียมวลของสมอง 5% ในทุกๆ 10 ปี เนื่องจากจุดประสานประสาท ซึ่งหมายถึงบริเวณระหว่างเซลล์สมองต่างๆ ที่มีการส่งผ่านข้อมูล จะเสื่อมสภาพ ในที่สุดจุดประสานนี้ก็จะขาดออกจากกัน หลอดเลือดฝอยซึ่งส่งเลือดไปเลี้ยงสมองก็หดตัวตามวัย ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง เป็นเหตุให้คนเราขี้หลงขี้ลืมเมื่อแก่ตัว

ดร.เรทีย์พบว่า การออกกำลังกายสามารถป้องกันผลกระทบของภาวะชราภาพต่อสมองได้ ยิ่งเริ่มออกกำลังกายเร็วเท่าไรยิ่งดี เพราะหากเรามีสมองที่มีเส้นประสาทเชื่อมต่อกันดีก่อนที่จะเข้าสู่วัยชราก็จะสามารถป้องกันผลกระทบดังกล่าวได้

ดร.เรทีย์แนะนำให้ออกกำลังกายในแบบใดแบบหนึ่งทุกวัน เช่น เต้นลีลาศ ตัดหญ้าในสนาม เล่นเทนนิส หรือเล่นกับหลานๆ แต่ถ้าต้องการชะลอความแก่ ขอแนะนำให้ทดลองวิธีการเหล่านี้

1.ทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น เดิน เต้นรำ ทำสวน เป็นเวลา 30-60 นาที สัปดาห์ละ 4 วัน

2.ออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนัก หรือทำตามคำแนะนำในวิดีโอสอนการออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกระดูก เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน

3.ออกกำลังกายจำพวกยืดหยุ่นหรือการทรงตัวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เช่น โยคะ รำมวยจีน หรือเล่นทรงตัวในลักษณะต่างๆ เป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้ร่างกายมีความว่องไว.

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ มั่งมี ศรีสุขกันทุกคนค่ะ

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ 万事如意 新年 发财 ปีใหม่ขอให้ทุกอย่าง สมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย

มีโชคลาภ ร่ำรวย เงินทอง สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์สวยงาม

จิตใจสดชื่นแจ่มใส การงานเจริญก้าวหน้ามั่นคง

มีคนรักและอุปถัมป์ค้ำชูมากมาย ทุกสิ่งเป็นไปดั่งใจสมปารถนา

祝:春 节 快 乐,

万 事 如 意 ,恭 喜 发 财!

身 体 健 康,合 家 欢 乐!

恭喜 发财 กงสี่ฟาไฉ.. ขอให้ร่ำรวย , 万事如意 ว่านซื่อหยูอี้ .... สมความปรารถนา

财源广进 ไฉเหยียนกว่างจิ้น... เงินทองไหลมา , 年年有余 เหนียนเหนียนโหย่วหยวี๋.. เหลือกินเหลือใช้

事事 顺利 ซื่อซื่อซุ่นลี่.. ทุกเรื่องราบรื่น , 金玉 满堂 จินยวี้หม่านถัง.. ร่ำรวยเงินทอง

一本万利 อิ้เปิ่นว่านลี่... กำไรมากมาย , 大吉大利 ต้าจี๋ต้าลี่... ค้าขายได้กำไร

年年 发财 เหนียนเหนียนฟาไฉ... รำรวยตลอดไป , 龙马精神 หลงหม่าจินเสิน.. สุขภาพแข็งแรง

吉祥如意 จี๋เสียงหยูอี้.. สมปรารถนา , 好运年年 เห่ายวิ่นเหนียนเหนียน.. โชคดีตลอดไป

四季平安 ซื่จี้ผิงอัน.. ปลอดภัยตลอดปี

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ มั่งมี ศรีสุขกันทุกคนค่ะ

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ 万事如意 新年 发财 ปีใหม่ขอให้ทุกอย่าง สมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย

มีโชคลาภ ร่ำรวย เงินทอง สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์สวยงาม

จิตใจสดชื่นแจ่มใส การงานเจริญก้าวหน้ามั่นคง

มีคนรักและอุปถัมป์ค้ำชูมากมาย ทุกสิ่งเป็นไปดั่งใจสมปารถนา

祝:春 节 快 乐,

万 事 如 意 ,恭 喜 发 财!

身 体 健 康,合 家 欢 乐!

恭喜 发财 กงสี่ฟาไฉ.. ขอให้ร่ำรวย , 万事如意 ว่านซื่อหยูอี้ .... สมความปรารถนา

财源广进 ไฉเหยียนกว่างจิ้น... เงินทองไหลมา , 年年有余 เหนียนเหนียนโหย่วหยวี๋.. เหลือกินเหลือใช้

事事 顺利 ซื่อซื่อซุ่นลี่.. ทุกเรื่องราบรื่น , 金玉 满堂 จินยวี้หม่านถัง.. ร่ำรวยเงินทอง

一本万利 อิ้เปิ่นว่านลี่... กำไรมากมาย , 大吉大利 ต้าจี๋ต้าลี่... ค้าขายได้กำไร

年年 发财 เหนียนเหนียนฟาไฉ... รำรวยตลอดไป , 龙马精神 หลงหม่าจินเสิน.. สุขภาพแข็งแรง

吉祥如意 จี๋เสียงหยูอี้.. สมปรารถนา , 好运年年 เห่ายวิ่นเหนียนเหนียน.. โชคดีตลอดไป

四季平安 ซื่จี้ผิงอัน.. ปลอดภัยตลอดปี

5 วิธีคิดอย่างคนเก่ง

คนเก่งไม่ใช่มาจากพันธุกรรมหรอก แต่อยู่ที่การฝึกขัดเกลาสมองต่างหาก วันนี้มี 5 วิธีคิดอย่างคนเก่งมาฝากกัน...

1. มองโลกในแง่ดี และทำทุกสิ่งอย่างเต็มกำลังด้วยรอยยิ้มและความเบิกบาน ทำตัวให้สดชื่นมีชีวิตชีวาและกระตือรือร้นอยู่เสมอ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา ได้อย่างอยู่มือ

2. มีศรัทธาในตัวเอง จงเชื่อมั่นในความเก่งของคุณ อยากให้ใคร ๆ เขาชื่นชอบและทึ่งในตัวคุณ คุณก็ต้องมั่นใจตัวเองก่อน

3. ขอท้าคว้าฝัน ไม่มีอะไรที่จะทรงพลังมากเท่ากับความตั้งใจจริงและทุ่มสุดตัว จะเป็นแรง ผลักดันที่จะทำให้คุณสานฝันสู่ความจริงได้

4. ค้นหาบุคคลต้นแบบ ใครก็ได้ที่คุณชื่นชมเพื่อเป็นมาตรฐานที่ดีในการดำเนินรอยตาม ศึกษาแนวคิด วิธีการทำงาน จุดเด่นในตัวเขา แล้วอาจนำมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตได้บ้าง

5. เริ่มต้นงานใหม่ทุกวันด้วยรอยยิ้มสดใส คนที่มีรอยยิ้มระบายไว้บนใบหน้า เสมือนประตูที่เปิดกว้าง ให้ใคร ๆ อยากเข้ามาคบหาด้วย การเจรจา ติดต่องานก็มักจะลงเอยด้วยความสำเร็จ

นอกจากนี้ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ยังสร้างความเบิกบานและคลายทุกข์ แถมยังเป็นยาอายุวัฒนะชั้นดีอีกด้วย

__._,_.___

因为你是我的好朋友 = เพราะเธอคือเพื่อนที่ดีของฉัน

 我對佛說... ฉันพูดกับพุทธองค์ว่า

我對佛說:讓我所有朋友永遠健康快樂~!

ฉันพูดกับพุทธองค์ว่า : ขอให้เพื่อนของฉันทุกคนมีความสุข สุขภาพดี ตลอดไป

佛說:只能四天~!

พุทธองค์ตอบว่า : ขอได้เพียง 4 วันเท่านั้น

我說:好,春天、夏天、秋天、冬天。

ฉันตอบว่า : ได้ ถ้างั้นขอวันฤดูใบไม้ผลิ วันฤดูร้อน วันฤดูใบไม้ร่วง วันฤดูหนาว

佛說:三天。

พุทธองค์ตอบว่า : 3 วัน

我說:好,昨天、今天、明天。

ฉันตอบว่า : ได้ เมื่อวาน วันนี้ วันพรุ่งนี้

佛說:不行,兩天。!

พุทธองค์ตอบว่า : ไม่ได้ ให้ได้แค่ 2 วัน

我說:好,白天、黑天。

ฉันตอบว่า : ได้ งั้นเป็นกลางวัน และ กลางคืน

佛說:不行,就一天~!

พุทธองค์ตอบว่า : ไม่ได้มากไป ให้ได้วันเดียว

我說:好~!

ฉันตอบว่า : อ๋อ ได้

佛茫然問到:哪一天?

พุทธองค์ถามว่า : วันไหนล่ะ

我說:在我所有朋友活著的每一天 ~! ?

ฉันตอบว่า : ขอเป็นวันที่เพื่อนๆของฉันยังมีชีวิตอยู่

佛笑了……說:以後你所有朋友將天天健康快樂~

พุทธองค์หัวเราะ แล้วพูดว่า : นับแต่นี้ไปเพื่อนๆของเธอจะมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรงทุกๆวัน

看到此信息的人轉發給朋友,祝你的朋友們都是快樂健康~

, ขออวยพรให้เพื่อนๆ ของคุนทุกคนมีความสุข สุขภาพดี

天氣多變...加倍保重!(把溫暖傳下去 哦∼)

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลตัวเองด้วย (อย่าลืมส่งความอบอุ่นไปด้วยล่ะ)

p.s 佛說好朋友不可以都沒連絡!

ปล. พุทธองค์พูดว่าเพื่อนที่ดีไม่ควรขาดการติดต่อ

สำหรับสาวรุ่น3-2-1 คุณเตรียมตัวหล่อสวยเด้งรับปีฉลูกันหรือยัง...? ลองนอนก่ายหน้าผากทบทวนเหตุการณ์ดีและไม่ดีใน พ.ศ. ที่ผ่านไป คิดไม่ออกไม่เป็นไร ลองส่องกระจกดูริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการตรากตรำมาทั้งปี หากตรึกตรองแล้วใบหน้าเหมือน อมทุกข์ แบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว ถึงเวลาหรือยังที่ต้องแปลงโฉมดวงหน้าให้หล่อเหลา สวยเฉียบรับปีฉลู

ศาสตร์โหงวเฮ้ง เป็นอีกทางเลือกเพื่อเสริมความมั่นใจในการแต่งหน้าให้เหมาะสมและถูกต้องตามราศี ซึ่ง โดย คฑา ชินบัญชร นักพยากรณ์ไพ่ยิปซีและฮวงจุ้ย ให้ความเห็นถึงศาสตร์การแต่งหน้าตามโหงวเฮ้งว่า มีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณที่มีการนำเปลือกไม้สีสันต่าง ๆ มาแต่งเติมหน้าตาของผู้หญิงเพื่อให้เกิดความสวยงาม ด้านผู้ชายก็นำเปลือกไม้สีสันต่าง ๆ มาแต่งเติมใบหน้าให้ดูน่าเกรงขามเมื่อออกรบเพื่อข่มขวัญศัตรู

วัฒนธรรมการแต่งหน้าแผ่ขยายสู่เอเชียผ่านประเทศจีน จึงเกิดแนวคิดนำศาสตร์โหงวเฮ้งมาผสมผสานกับการแต่งหน้า ซึ่งโหงวเฮ้งบนใบหน้าประกอบด้วย 2 หลักใหญ่ คือ 1.อวัยวะทั้ง 5 บนใบหน้าประกอบด้วย คิ้ว ตา จมูก ปาก หู 2.เนินทั้ง 5 บนใบหน้าคือ เนินแก้มซ้าย แก้มขวา เนินคาง เนินจมูก เนินหน้าผาก

หากแยกตามราศีการแต่งหน้าเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง คฑา แนะนำไว้ดังนี้

ราศีมังกร (14 ม.ค. - 13 ก.พ.) ธาตุดิน เป็นคนใบหน้าออกไปทางยาวรูปไข่ คิ้วเรียว ริมฝีปากสวยอิ่ม ควรใช้สีสันของธาตุไฟเสริมราศี ดวงตาใช้สีส้ม น้ำตาล น้ำตาลทองแลดูมีพลัง โหนกแก้มปัดด้วยสีโทนชมพู ส้ม อิฐ สีโอลด์โรสเพิ่มเสน่ห์ด้วยรอยยิ้มสีกุหลาบ หรือส้มโอลด์โรส ชมพูเหลือบม่วง ด้านคิ้วหมายถึง อำนาจบารมี วาดให้หัวคิ้วเรียวตามธรรมชาติถึงหางคิ้ว ใช้สีน้ำตาลเข้มปัดคิ้ว อย่าพยายามใส่แว่นปิดดวงตาแต่ควรเน้นให้ตาโตเพื่อเสริมพลังอำนาจ

ราศีกุมภ์ (14 ก.พ. - 13 มี.ค.) ธาตุลม ใบหน้ามนแต่มีโหนกแก้ม ควรเน้นที่ริมฝีปากด้วยสีสว่างสดใสแดงอมชมพู หรือชมพูเหลือบม่วง และชมพูประกายสดใส เสริมความมั่นใจเพื่อให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยการไฮไลต์สันจมูก ส่วนตาสีท้องฟ้า หรือประกายเหลือบทอง ปัดแก้มด้วยสีอ่อนเช่น ชมพูอ่อน ม่วงอ่อน เน้นแต่งเติมผิวใต้ดวงตาเพื่อส่งเสริมความรัก

ราศีมีน (14 มี.ค. - 14 เม.ย.) ธาตุน้ำ ดวงตาควรใช้สีชมพูอมม่วงอ่อน หรือเขียวอ่อนของใบไม้แรกผลิหรือสีควันบุหรี่ประกายขาวสดใส คิ้วกันให้ได้รูปรับกับใบหน้า เน้นริมฝีปากสีชมพูประกายสดส่งเสริมให้สุขภาพดี

ราศีเมษ (15 เม.ย - 14 พ.ค.) ธาตุไฟ สีผิวมักออกคล้ำ คางเด่น คอยาวระหง หน้า ผากกว้าง คิ้วดกควรปัดมาสคาร่าเน้นเปลือกตาด้วยสีเงิน สีบรอนซ์ โหนกแก้มเอิบอิ่มด้วยสีธาตุไฟสว่างด้วยสีบรอนซ์เงิน สีม่วง และสีส้มแดง ริมฝีปากมันวาวดูเป็นประกายเย้ายวนด้วยสีชมพูแดง ส้มโอลด์โรส ชมพูประกายใสและแดงแตงโม

ราศีพฤษภ (15 พ.ค. - 14 มิ.ย.) ธาตุดิน ใบหน้ากลม จมูกโด่ง แต่งหน้าด้วยเฉดสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก ปัดแก้มด้วยสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลประ กายทอง น้ำตาล อมม่วง เน้นขอบตาและเปลือกตาด้วย สีโกโก้ น้ำตาลเข้ม ทรายทอง ใช้ลิปสติกโทนน้ำตาลแดง น้ำตาล อมส้ม สีแดงประกายสดใส สีส้มโอลด์โรสทำให้รอยยิ้มอบอุ่นน่าใกล้ชิด

ราศีเมถุน (15 มิ.ย. - 12 ก.ค.) ธาตุลม ใบหน้าอูมสวย จมูกโด่งหรือใหญ่ ดวงตา แจ่มใส ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย แก้มและหน้าผากโหนก ริม ฝีปากได้รูป ควรใช้โทนสีธรรม ชาติที่ดูสดชื่นแจ่มใส เสริมความเป็นตัวเอง ดวงตาเน้นสีเขียวเข้ม ฟ้าอมเทา ประกายขอบตาเหลือง หรือทอง แก้มสีส้มอิฐ หรือชมพูสดใส ริมฝีปากเพิ่มความงามด้วยสีส้มแดงและสีชมพูกลีบกุหลาบ

ราศีกรกฎ (16 ก.ค. - 16 ส.ค.) ธาตุน้ำ หน้าผากนูนสวย จมูกเชิดงอน แก้มใสอิ่ม ริมฝีปากเต็มได้รูป ดวงตาแลดูอ่อนเยาว์ใส การแต่งแต้มใบหน้า เน้นรอยยิ้มและดวงตาเปล่ง ประกายสดใสด้วยสีเขียวน้ำทะเล สีม่วงอ่อน สีเขียวพฤกษ์ไพร โหนกแก้ม สีส้มอิฐ ริมฝีปากสีชมพูเข้ม และชมพูสดใสดูเป็นประกาย

ราศีสิงห์ (17 ส.ค. - 15 ก.ย.) ธาตุไฟ ใบหน้าดูดีได้รูปสีชมพูเปล่งปลั่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลสนิทคมขาว ใช้สีเจิด จ้าเสริมพลัง ควรทาตาด้วยสีบรอนซ์เงิน น้ำตาลทอง สีฟ้าอมม่วงและเปลือกตาประกายเหลืองทอง ปัดแก้ม ด้วยสีอิฐประกายเงิน ริมฝีปากควรเสริมด้วยสีชมพูแดง ชมพูสดใส สีแดงฉ่ำเนื้อแตงโมและสีชมพูเหลือบม่วง

ราศีกันย์ (16 ก.ย. - 16 ต.ค.) ธาตุดิน สีสันบนใบหน้าที่จะเติมพลังชีวิตนั้นคือ สีชมพูอ่อน สีอิฐ สีส้ม พวง แก้มน้ำตาลอ่อน หรือน้ำตาลประ กายทอง เปลือกตาใช้สีแดงกุหลาบ แดงชบา ชมพูเหลือบม่วง น้ำตาล ส่วนริมฝีปากแต่งด้วยสีโอลด์โรส

ราศีตุลย์ (17 ต.ค. - 15 พ.ย.) ธาตุลม ใบหน้ารูปไข่ คางมน ตาสีเข้ม ริมฝีปากสวย ผิวพรรณดี แต่งแต้มใบหน้าเน้นความสมดุลของธรรมชาติ ดวงตาสีเขียวเข้มของพรรณไม้ สีม่วงประกายขาว สีเขียวอ่อน เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดใจ ด้วยแก้มโทนสีส้ม สีอิฐ สีโอลด์โรสและชมพู รับกับริมฝีปากส้มแดง สีโอลด์ โรสประกาย

ราศีพิจิก (16 พ.ย.-14 ธ.ค.) ธาตุน้ำ แววตามีเสน่ห์ชวนมอง คิ้วเข้ม ใบหน้าและรอยยิ้มน่าประทับใจ ควรแต่งแต้มเปลือกตาด้วยสีม่วงเข้ม ฟ้าอ่อน และเขียวน้ำทะเล เพิ่มพลังของแววตา ด้วยประกายทองและฟ้า แก้มชมพูดูมีเสน่ห์น่าค้นหา ริมฝีปากชมพูเข้ม

ราศีธนู (15 ธ.ค. - 13 ม.ค.) ธาตุไฟ ใบหน้ามักมีรูปไข่ ควรมีสีส้ม น้ำตาลทองหรือออกส้มแดงและสีอิฐที่แก้ม แต่งเปลือกตาด้วยสีอบอุ่น เช่น น้ำตาล น้ำตาลทอง เขียวและชมพูแดง ริมฝีปากธรรมชาติด้วยสีส้มสด หรือส้มโอลด์โรส ชมพูกลีบกุหลาบสดใส และน้ำตาลเหลือบม่วง ควรเสริมความมันวาวให้ริมฝีปากแลดูเย้ายวนใจ

ปีวัวนี้ราศีที่อาจจะมีเคราะห์มากที่สุดคือ ราศีพฤษภ, มีน, กรกฎ, พิจิก อาจได้รับทุกข์ร้อนต่าง ๆ นานา จึงต้องระวังตัวและหมั่นทำบุญอยู่เสมอ ซึ่งการแต่งหน้าเพื่อเพิ่มโหงวเฮ้งก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมดวงชะตาได้ คฑา กล่าว

การแต่งหน้าเพื่อเสริม โหงวเฮ้งเป็นอีกความเชื่อหนึ่งที่ส่งเสริมความมั่นใจ แต่ต้องควบคู่กับการทำความดีที่จะทำให้การงาน ชีวิตครอบครัวเจริญก้าวหน้าได้ในปีฉลู.

แต่งผมแบบ 12 ราศี

ราศีมังกร ควรตัดผมหน้าม้าเสมอคิ้ว เพิ่มประกายสดใสเส้นผมด้วยสีน้ำตาลประกายส้มหรือน้ำตาลช็อกโกแลต

ราศีกุมภ์ ดัดผมเป็นลอนคลื่นนุ่มสลวย เพิ่มสีสันด้วยสีบลอนด์อ่อน ประกายหมอกเหลือบเขียว

ราศีมีน ซอยสไลด์ทั้งศีรษะแต่ไม่สั้นมากปล่อยด้าน หลังให้ยาวระดับบ่า ด้านหน้าตัดขอบเฉียงปิดตา 1 ข้าง ทำให้เธอดูมีเสน่ห์น่าค้นหา จัดทรงปล่อยเส้นผมให้เป็นอิสระ เพิ่มสีสันด้วยน้ำตาลอ่อนประกายชมพู

ราศีเมษ ปล่อยด้านข้างยาวกว่าปลายคาง จับเซต ออกมาในลักษณะของการสลับไขว้กันไปมาให้ดูโฉบเฉี่ยว เพิ่ม ชีวิตชีวาด้วยสีหมอกน้ำเงิน ไฮไลต์สีบลอนด์อ่อน

ราศีพฤษภ ผมหยิกแบบเปิดหน้าผากตั้งแต่ช่วงหน้าผากลงมาควรให้ยาวเกินคางมาสัก 2-3 ซม.จะช่วยให้หน้าดูเด่นและคมขึ้น ไฮไลต์ช่วงลอนด้วยสีบลอนด์อ่อนมากที่สุดเพื่อให้ตัดกับสีเข้มของด้านบน

ราศีเมถุน ผมซอยเป็นม้าระดับลูกตา ด้านข้างไว้จอนเป็นประกายถึงปลายคาง ด้านหลังซอยบาง ๆ คล้ายผมรากไทร ไฮไลต์สีบลอนด์อ่อนประกายแดงทองเป็นช่อ ๆ ทั้งศีรษะ

ราศีกรกฎ ตัดทรงบ๊อบประยุกต์ ไฮไลต์เป็นช่อ ๆ ด้วยสีแดง

ราศีสิงห์ ผมซอยสั้น เน้นความยาวของเส้นผมบริเวณกลางศีรษะชี้ขึ้นมาเป็นแนวคล้ายครีบปลา แต่งแต้มสีสันด้วยสีบลอนด์จาง ๆ

ราศีกันย์ ทรงผมไม่ว่าจะเป็นผมปล่อยธรรมชาติหรือรวบแบบไม่ตั้งใจเสมือนเพิ่งตื่นนอนจัดแต่งให้ดูนุ่มนวลมีน้ำหนักและพลิ้วไหว ทำสีบลอนด์ผสมม่วงประกายมุก

ราศีตุลย์ ให้ปลายผมชี้ออกเสมือนปล่อยเส้นผมให้เป็นอิสระ เพิ่มสีสันด้วยการใช้สีดำรองพื้นและไล่สีประกายชมพูเข้ม

ราศีพิจิก สไลด์ผมให้สั้นกว่าระดับกรอบหน้าเพื่อให้ ดูเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น ทำสีบลอนด์อ่อนประกายแดงมะฮอก กานีผสมสีบลอนด์กลางประกายแดงมะฮอก กานี

ราศีธนู เปิดหน้าผากกว้างและมีไรผมพองาม เติมสีสันเพิ่มเสน่ห์ให้เส้นผมด้วยแบบผมยาวประบ่า ทำโลว์ไลต์สีชมพูผสมสีเขียว

ศราวุธ ดีหมื่นไวย์

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

--------------------------------------------------------------------------------

นาย สมพงษ์ พาหุวัฒนกร

เรียนท่าน อาจารย์จีระ ที่เคารพ และพี่ ๆ ผนส.3 ทุกท่าน

เรื่อง ขอส่งการบ้าน เรื่อง โลกาภิวัตน์

โลกาภิวัตน์ มีความหมายว่าการแพร่กระจายไปทั่วโลก; การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ณ จุดใดสามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องจากการพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นต้น

นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

ตามที่ท่านอาจารย์ เสนอแนวคิดอยากให้พวกเราจัดโครงการ public seminar คือ จัดสัมมนา ที่ประชาชน มีโอกาสได้รับฟังเรื่องสหกรณ์ ในมุมของประโยชน์ต่อประเทศ นั้น ในฐานะที่กระผมเป็นคนต่างจังหวัด และคลุกคลีกับชาวบ้าน (รากหญ้า)มาตลอด ขอสนับสนุนแนวความคิดของท่านอาจารย์ เพราะว่า ชาวบ้าน หรือเกษตรกรปัจจุบัน ขาดความรู้ จึงคิดวิเคราะห์ไม่เป็น รอแต่ให้รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจทางการเมือง ส่งงบประมาณหรือสวัสดิการมาให้ เปรียบเสมือนดั่งหญ้าในหน้าแล้ง ที่รากขาดน้ำหรือแร่ธาตุ แต่ดำรงชีวิตอยู่ได้เพราะหยดน้ำค้างในตอนเช้า แล้วเหี่ยวเฉาในช่วงกลางวัน สำหรับการจัดทำโครงการ public seminar นั้น เสนอให้ท่านอาจารย์ผลักดันของบประมาณจากรัฐบาล ให้สันนิบาตสหกรณ์เป็นเจ้าภาพครับ

เรียน อาจารย์จีระ เพื่อนๆผนส 3 ทุกท่าน

เข้าใจว่าไปศึกษาดูงานปักกิ่ง ประเทศจีนคราวนี้ เรามีล่ามประจำรุ่นแล้วอย่างนัอย 2 ท่าน คือ ประธานรุ่นสารพัดประโยชน์ และคุณกำนันบ้านนอก

กรณีเวทีสาธารณะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อวงการสหกรณ์ ขอเสนอว่าควรเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนเสนอความคิดเห็นให้มากที่สุด

ราตรี

ธนณฐ์วรรธ์ แสงหวัง

ถึงเพื่อนๆรุ่น 3 วันที่4กพ52 พบกันที่ร้านอาหารเที่ยงโคราชนะคะ

ป้าเครือ

สวัสดีค่ะท่านประธ่านและเพื่อน ผนส 3

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะสำหรับเวทีสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ว่าสามารถช่วยประเทศได้อย่างไร และให้โอกาสทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้กัน

จะเป็นสิ่งที่วิเศษมากเลยค่ะ

ทั่งท่านประธานและกำนันบ้านนอก มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมากฝากเป็นประจำเลยนะคะ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ อ่านแทบไม่ทัน

เรียน ท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.ทุกท่าน

เช้านี้มีปัญหามาฝากทุกท่านช่วยกันคิด คิดหาวิธีแก้ไขได้ กรุณาส่งลงทางบล็อคด้วยนะครับ ทั้ง ผนส.1-2-3

ปัญหามีอยู่ว่า เหรียญ 2 บาท ที่ทางกระทรวงการคลัง ได้ผลิตออกมาสร้างปัญหาให้ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ขายจนต้องเสียเวลาทำสัญญลักษณ์ติดไว้ ว่านี่คือเหรียญ 2 บาทนะจ๊ะ

ปัญหาเท่านั้นไม่พอครับ ขณะนี้ทางสหกรณ์มีเหรียญ 2 บาท ไว้มีก็มากนำเข้าแบงค์ ก็ไม่รับ เมื่อวานนำไปถามแลกที่คลังจังหวัดเชียงราย ยังไม่รับอี

ถามว่า คลังยังไม่รับ บอกว่าให้หมุนอยู่ในตลาด แต่เพราะว่ามันมีปัญหาในการใช้จ่าย เลยไม่มีใครเขาอยากจะให้อยู่ในระบบอีก จึงมุ่งหน้าไปหาคลังจังหวัด แต่ก็ไม่รับแล้วจะทำอย่างไรครับ

ทำหนังสือกระทรวงการคลังได้ไหมครับ บอกให้สั่งการมายังคลังจังหวัดเชียงรายหน่อย ว่าต้องรับแลกเปลี่ยนให้ผู้มาแลก

กระทรวงการคลัง รัฐบาลจ๋าอยากให้การอบรม ผนส.มีตัวแทนจากกระทรวงการคลังด้วยนะครับ

อีกปัญหาเหรียญที่นำไปแลกเปลี่ยน เหรียญอื่น ๆ หากมีรอยบิดเบี้ยวก็ไม่รับแลก ที่จริงควรจะรับแลกคืนไปเหมือน แบงค์ที่ฉีกชำรุด เพื่อนำไปเก็บ หรือหล่อเหรียญครั้งต่อ ๆ ไป ไม่ควรปล่อยให้เป็นภาระของประชาชน

รัฐบาล กระทรวงการคลังหันมาดูแลปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ตรงนี้เสียบ้าง

เรียกน้ำย่อยแค่นี้ก่อนนะครับ ใครรู้วิธีช่วยบอกต่อด้วยครับ

เรียน ท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.ทุกท่าน

จากเรียนอาทิตย์นี้ เป็นการเรียนที่มีปะโยชน์ต่อสหกรณ์เป็นอย่างมา ทุกวิชาที่เรียน โดยเฉพาะของอาจารย์ ศิริลักษณ์ เมฆสังข์ การบริหารคนในองค์กรเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมาก ที่สหกรณ์กำลังสรรหาคนเข้าทำงานพอดี

แต่ที่สำคัญกว่านั้นของอาจารย์ยม เรื่องแผนงานและการเขียนโคงการ ซึ่งผมกำลังเขียนโครงการนำเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาพอดี ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งก็ได้คำแนะนำจากอาจารย์ยม อย่างดี

สำหรับการศึกษาดูงานระหว่างวันที่ 4-6 นั้น เสียดายที่ตรงกับทางชมรมผู้จัดการ นัดประชุมที่เกาะสมุย ความจริงอยากไปร่วมด้วย(ระหว่างวันที่ 6-8 ) แต่ไม่รู้ ผนส.รุ่น 3 ใครอยากไปร่วมบ้าง ซึ่งผมเช็คเที่ยวบินที่ไปลงเกาะสมุยแล้ว ออกจากสุวรรณภูมิ เวลา 18.00 น

สวัสดีครับ

เรียน อาจารย์ และ เพื่อน ผนส3

ขอเสนอเพิ่มเติมว่า เวทีสาธารณะควรดำเนินการร่วมกับรุ่น 1 และ 2 ด้วย

ราตรี

พี่ๆคะ ที่จะไปศึกษาดูงาน วันที่ 4-6 กพ 52 วันแรกนัดกันใส่เสื้อสีขาวใช่มั๊ยคะ แล้ววันต่อๆไปละคะ หรือว่าเสื้อที่สั่งจะเสร็จทันไหมคะ (พี่จิ๋นตอบด้วยค่ะ)

นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ สกก.บ้านเขว้า จก. จังหวัดชัยภูมิ

มุมมอง(๒)..ความเป็นอิสระของสหกรณ์ ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ ๒๕๕๐

ควรทำการแก้ไขกฎหมายสหกรณ์เสียใหม่ โดยเปลี่ยนกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้เป็นองค์กรอิสระหรือองค์กรภาคประชาชน ทำหน้าที่ส่งเสริมการสหกรณ์และประสานงานกับสหกรณ์ เพื่อพัฒนาสหกรณ์ทั้งระบบได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เปิดกว้างให้ประชาชนจัดตั้งสหกรณ์ตามกลุ่มอาชีพและประเภทของสหกรณ์ รัฐทำหน้าที่ตั้งกองทุนหรือตั้งธนาคารสหกรณ์แห่งประเทศไทย ให้สหกรณ์กู้ยืมอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ระบบสหกรณ์ที่เป็นอิสระจากการควบคุมของระบบราชการ และการควบคุมของแหล่งเงินทุน (ธกส.) จะทำให้สหกรณ์เปลี่ยนแปลง(CHANGE)แนวความคิด นำองค์ความรู้พัฒนาธุรกิจของสหกรณ์แข่งกับธุรกิจของเอกชน การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน และป้องกันในอนาคตข้างหน้า รัฐบาลต้องเน้นและให้ความสำคัญกับระบบสหกรณ์ (COOPERATIVE) ลดขนาดของทุนนิยมผูกขาดลง และเน้นการสร้างระบบสหกรณ์ในความหมายที่กว้างแทน

เห็นใจคนเจียงฮาย ถือได้ว่าเป็นทุกข์ของคนรวยมีเงินแต่หาทางใช้ลำบาก ขอแนะนำให้นำมาด้วยช่วงไปดูงานที่โคราชเพื่อนๆ ผนส3.จะช่วยกันหาทางระบายสู่ตลาดเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการให้

สิทธิพร มีเสถียร ผนส.3

บทเรียนจากความจริง จีระ หงส์ลดารมภ์ นสพ.แนวหน้า วันเสาร์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๒

อ่านบทความของอาจารย์ที่พูดถึงทฤษฎี 2I,s ก็ได้นึกถึงบรรยากาศในการเรียนในวันแรกของอาจารย์เพื่อทดสอบทฤษฎีที่ใช้ตัวแรกImspriation คือ การกระตุ้นความรู้สึกนึกคิดและแรงบันดาลใจให้พวกเราเกิดพลังและกระหายอยากจะเรียนรู้ และตามด้วยทฤษฎีImaginationที่ทำให้เกิดพลังแห่งความนึกคิดมีความฝันและจินตนาการขึ้นมาและเกิดแรงผลักดันมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ดีนั้นให้ได้ ผมเห็นด้วยที่อาจารย์บอกว่าในปัจจุบันการดำรงชีวิต(Life ) ต้องมี 2I,s อยู่เสมอและจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ไม่จนยากเกินไป

เรียน ชาวผู้นำสหกรณ์

ผมเจอสไลด์ Power Point Presentation ใน website เรื่องเกี่ยวกับการเขียนโครงการ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับท่านทั้งหลายที่กำลังเรียน และกำลังจะเขียนโครงการพัฒนาสหกรณ์เสนอ จึงจะฝากให้เจ้าหน้าที่สันนิบาตสหกรณ์ฯ E-mail ส่งมาให้ทุกท่านครับ

อ่าน Blog หลายๆ ท่านแล้ว ก็ขอชมเชยครับที่ท่านสนใจและให้ความรู้ โดยเฉพาะอาจารย์บัญชา เยี่ยมครับ ขอชมเชยครับ ท่านประธานรุ่น 3

เจอกับทุกๆ ท่านที่โคราชครับ

วิทย์ ประทักษ์ใจ

เงินฝืด หรือ Deflation คืออะไรกันแน่?

ในปีที่ผ่านมา เราเห็นเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างรวดเร็ว โดยหลายประเทศได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ความต้องการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ในตลาดโลกปรับลดลงอย่างรวดเร็ว

เป็นผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันในปัจจุบันปรับลดลงถึง 75% จากราคาสูงสุดในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ทําให้เงินเฟ้อลดลงมากในเกือบทุกประเทศทั่วโลก

หลายฝ่ายจึงเริ่มเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจไทยอาจเข้าสู่ภาวะเงินฝืด หรือ Deflation ได้

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ทําไมการที่ราคาสินค้าทั่วไปลดลงอย่าง ต่อเนื่อง จึงทําให้คนทั่วโลกกังวลกันมากนัก ทั้งๆ ที่ราคาสินค้าที่ ลดลงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในแง่ลดการใช้จ่าย

ดังนั้น น่าจะมีอะไรลึกๆ เกี่ยวกับคําว่า ภาวะเงินฝืด

ภาวะเงินฝืด ในทางเศรษฐศาสตร์หมายถึง การลดลงอย่างกว้างขวางของระดับราคาสินค้า และบริการติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน (Persistent) แต่ความหมายอย่างเดียวอาจทําให้เรามอง ภาวะเงินฝืด ไม่ชัดเจนเท่ากับการเข้าใจสาเหตุหรือการเกิดขึ้นของภาวะเงินฝืด

ภาวะเงินฝืดไม่ได้เกิดกันง่ายๆ การลดลงของระดับราคาอย่างรุนแรงของสินค้าบางกลุ่ม เช่น น้ำมัน หรือการที่อัตราเงินเฟ้อติดลบในบางช่วงเวลายังไม่เรียกว่าภาวะเงินฝืด เงื่อนไขที่จําเป็นคือ การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ทําให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจเชื่อว่าราคาสินค้าต่างๆ จะลดลงไปอีกในอนาคต ผู้บริโภคจึงเลื่อนการจับจ่ายใช้สอยออกไปเพื่อรอให้สินค้ามีราคาถูกลง

สำหรับนักธุรกิจก็หยุดลงทุนและปรับลดต้นทุนสินค้า รวมทั้งค่าจ้างแรงงาน เพราะคาดว่าจะได้กําไรน้อยลง ซึ่งการคาดการณ์นี้จะวกกลับไปสร้างแรงกดดันทําให้เศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่องจริงๆ

ดังนั้น วงจรของภาวะเงินฝืดจะเกิดขึ้นได้ต้องมีลักษณะสําคัญ 3 ประการ คือ

1.การลดลงของราคาสินค้าอย่างกว้างขวาง มิใช่เกิดขึ้นเฉพาะในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

2.มีความต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งอาจกินเวลาหลายปี

3.ประชาชนมีความเชื่อว่าราคาจะปรับลดลงต่อเนื่อง จึงเลื่อนการบริโภคและการลงทุนออกไป

ภาวะเงินฝืดเคยเกิดขึ้นที่สหรัฐ และญี่ปุ่น ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1990

กรณีของสหรัฐ เกิดจากการที่ฟองสบู่ในตลาดหุ้นแตก และระบบสถาบันการเงินประสบกับวิกฤต ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการดําเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดเพื่อจัดการกับภาวะฟองสบู่ในช่วงก่อนหน้านั้น

ขณะที่ไม่ได้ใช้นโยบายการคลังแบบผ่อนคลายเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทําให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง (Great Depression)

สำหรับกรณีของญี่ปุ่นเริ่มต้นมาจากการแตกของฟองสบู่ในภาคที่อยู่อาศัยและตลาดหุ้น ซึ่งส่งผลต่อเนื่องทําให้หนี้เสียในระบบธนาคารเพิ่มสูงขึ้นมาก ประกอบกับการใช้นโยบายการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมีความล่าช้าและประสิทธิผลต่ำ

ภาวะเงินฝืดในทั้ง 2 กรณีดังกล่าว พบว่าระดับราคาสินค้าโดยทั่วไปลดลงพร้อมๆ กับการหดตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้รายได้ที่แท้จริงติดลบ (Negative real incomes) ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

นั่นคือเหตุผลว่า ทําไม Bernanke ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐคนปัจจุบัน เคยกล่าวในปี 2545 ว่า เราต้องไม่ให้สิ่งนั้น (Deflation หรือเงินฝืด) เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาอีก

สําหรับประเทศไทย แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ตั้งแต่เดือนก.ย. 2551 จะชะลอลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลง

ประกอบกับมาตรการของภาครัฐที่ช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชนเป็นสําคัญ ขณะที่เมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ในส่วนที่ไม่ใช่น้ำมัน และอยู่นอกเหนือมาตรการของภาครัฐที่กล่าวข้างต้น พบว่าราคาส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับลดลง

จึงอาจกล่าวได้ว่ายังไม่มีสัญญาณของการเข้าสู่ภาวะเงินฝืด

ดังนั้น แม้ในระยะสั้นจะมีโอกาสที่จะได้เห็นอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบบ้าง แต่ก็เป็นผลจากการปรับลดลงอย่างมากของราคาสินค้าเฉพาะกลุ่ม คือ ราคาน้ำมันที่ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีที่แล้วอยู่ในระดับสูงกว่าปัจจุบันมาก

นอกจากนี้ จากการสํารวจความเห็นของผู้ประกอบการ และการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวที่คํานวณจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Government bond yield curve) สะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดว่าเงินเฟ้อจะต่ำไปอีกนานๆ

Post Today

Last update : 1/29/2009 11:51:02 AM

เรียน   ผนส. และผู้มีเกียรติทุกท่าน

          ขอแจ้งกำหนดการศึกษาดูงานที่จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2552 ดังนี้

       

กำหนดการศึกษาดูงานในประเทศ
โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตร  "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง"  ( ผนส.รุ่นที่ 3 )
ระหว่างวันที่  4 - 6  กุมภาพันธ์ 2552
(กรุงเทพฯ - นครราชสีมา - พิมาย - วังน้ำเขียว - กรุงเทพฯ)

 ****************

 

วันพุธที่ 4  กุมภาพันธ์  2552

เวลา  07.00 น.                 ออกเดินทางจากสันนิบาตสหกรณ์ฯ 
                                     ไปศึกษาดูงานโดยรถบัสปรับอากาศ

 เวลา  11.00 - 12.00  น.   พาทุกท่านแวะพักผ่อนอิริยาบถและ
                                     รับประทานอาหารกลางวัน ชิมรสชาติ
                                     อันลือลั่นของไก่ย่างท่าช้าง และ
                                     เมนูอร่อยอื่นๆ เช่น ส้มตำ ลาบหมู 
                                     ไส้กรอกอีสาน ผัดหมี่โคราช ฯลฯ 
                                     ณ ร้านน้อง-หนึ่งไก่ย่างท่าช้าง  
                                     อ. สีคิ้ว  จ. นครราชสีมา

เวลา  13.30 - 15.30  น.   เดินทางไปศึกษาดูงาน  บริษัท
                                    สงวนวงษ์อุตสาหกรรม  จำกั

                                    120 หมู่4 ถ.ราชสีมา-โชคชัย
                                    ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง 
                                    จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบริษัทดำเนินธุรกิจ
                                    การเกษตรที่ผลิต จำหน่าย และส่งออก
                                    แป้งมันสำปะหลัง เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมา
                                    เป็นเวลานานกว่า 30 ปี มีกำลังการผลิต
                                    มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
                                    มีการส่งออกกว่าร้อย 80 มีระบบการ
                                    บริหารงานได้รับการรับรองระบบ
                                    มาตรฐานISO9001,ISO14001,
                                    OH&SAS/TIS18001, มรท.8001,
                                    GMP, HALAL, KOSHER ฯลฯ

เวลา  17.00 - 18.30 น.   Check in เข้าพักและสัมผัสบรรยากาศ
                                   แบบสบายๆ ที่โรงแรมชิตี้ พาร์ค 
                                   อ.เมือง จ.นครราชสีมา เยื้องๆ กับ
                                   The Mall โคราช

เวลา  18.30 - 19.30 น.   - สรุปผลการศึกษาดูงาน (ตามเวลา/
                                     สถานที่อันเหมาะสม)
                                   - รับประทานอาหารเย็น ณ ห้อง City 
                                     park B ของโรงแรม

เวลา  19.30  น.             พักผ่อนตามอัธยาศัย

 วันพฤหัสบดีที่  5  กุมภาพันธ์  2552

เวลา 07.00 - 08.00 น.     รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมซิ้ตี้
                                    พาร์ค
และ Check Out

เวลา 10.00 - 12.00 น.     เดินทางไปศึกษาดูงานด้านการดำเนิน
                                    ธุรกิจ และบริการของสหกรณ์การ
                                    เกษตรพิมาย จำกัด ถ.พิมาย-ตลาด
                                    แค ต.ในเมือง อ.พิมาย
                                   
จ.นครราชสีมา
ซึ่งเป็นสหกรณ์การ
                                     เกษตรขนาดใหญ่ระดับอำเภอที่ได้รับโล่
                                     เกียรติคุณสหกรณ์การเกษตรดีเด่น
                                     2533, 2544 โล่รางวัลสหกรณ์ สามารถ
                                     ดำเนินงานเป็นที่ยอมรับในขบวนการ
                                     สหกรณ์  ประจำปี 2545, โล่ประกาศ
                                     เกียรติคุณสหกรณ์ที่มีผลงานดีเด่น
                                     ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประจำปี
                                     2541 จากกรมส่งเสริมสหกรณ์กระทรวง
                                     เกษตรและสหกรณ์  ฯลฯ

 เวลา 12.00 - 13.00 น.    รับประทานอาหารกลางวัน ณ  สหกรณ์
                                    การเกษตรพิมาย  จำ
กัด

เวลา 13.30 - 14.30 น.    เยี่ยมชมปราสาทหินพิมาย / เลือกซื้อ
                                   สินค้าพื้นเมือง/นมัสการอนุสาวรีย์
                                   ท้าวสุรนารี

เวลา 14.30 - 16.00 น.    พาท่านเดินทางสู่ อ.วังน้ำเขียวเพื่อพบ
                                   และสัมผัสกับบรรยากาศที่ถูกขนานนามว่า
                                   สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน

เวลา 17.00 - 18.00 น.    สรุปผลการศึกษาดูงาน (ตามเวลา/
                                   สถานที่อันเหมาะสม)

เวลา 18.00 - 19.00 น.    Check in เข้าพักและสัมผัสและพักผ่อน
                                   กับบรรยายสบายๆ  และรับประทานอาหาร
                                   เย็นที่ อิมภูฮิลล์ รีสอร์ท อ.วังน้ำเขียว
                                   จ. นครราชสีมา

วันศุกร์ที่ 6  กุมภาพันธ์ 2552

เวลา 07.00 - 08.00 น.    รับประทานอาหารเช้าที่อิมภูฮิล รีสอร์ท
                                   และ Check out

เวลา 09.30 - 11.00 น.    เดินทางศึกษาดูงาน "ศูนย์ศึกษาการ
                                   พัฒนาของชาวบ้าน" ของสหกรณ์
                                  
กสิกรรมไร้สารพิษในเขตปฏิรูปที่ดิน
                                   อำเภอวังน้ำเขียว  
จำกัด 
                                   อ.วังน้ำเขียว  จ.นครราชสีมา
อีกชื่อ
                                   หนึ่งว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาของ
                                   ชาวบ้าน โครงการกสิกรรมไร้สารพิษอัน
                                   เนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่เลขที่14
                                   หมู่ที่ 11ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวัง
                                   น้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

เวลา 11.00 - 12.00 น.    สรุปผลการศึกษาดูงาน (ตามเวลา/
                                   สถานที่อันเหมาะสม)

เวลา 12.00 - 13.00 น.    รับประทานอาหารกลางวัน  ณ  สหกรณ์
                                   กสิกรรมไร้สารพิษฯ

เวลา 13.00 น.               เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 

                        **********************

 สถาบันพิทยาลงกรณ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ สกก.บ้านเขว้า จก. จังหวัดชัยภูมิ

ขอเสนอ ผนส.รุ่น ๓ ในวันที่ ๕ กพ.๕๒ ตามกำหนดการศึกษาดูงานในประเทศ พวกเราเข้าพัก สัมผัสกับบรรยากาศสบาย ๆ และรับประทานอาหารเย็นที่ อิมภูฮิลล์ รีสอร์ท อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ในกำหนดการ ฯไม่ได้ระบุ "งานเลี้ยงสังสรรค์"ไว้ ไม่ใจว่ามีงานเลี้ยงหรือเปล่า อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งขุนเขาและม่านหมอก ควรจะมีงานเลี้ยงแบบ "คาวบอย ไนท์" นะครับ ยังพอมีเวลาเตรียมงาน ฝากท่านประธานและกรรมการรุ่น ช่วยประสานด้วยนะครับ แต่หากได้เตรียมการณ์นี้ไว้แล้ว โปรดแจ้งให้พวกเราทราบด้วยนะครับ จะได้เตรียมหมวก เสื้อ กางเกง รองเท้า เข็มขัด เครื่องประดับและอื่น ๆ

รียน ท่านอาจารย์ สวัสดี ผนส.ทุกท่าน

เห็นด้วยกับคุณทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ สกก.บ้านเขว้า จก. จังหวัดชัยภูมิ คืนวันที่ 5 ไม่มีกิจกรรมกลางคืน จะทำให้ขาดอะไรไปบางอย่าง งานเลี้ยงสังสรรค์ หากแบบคาวบอยไม่ทัน งานเลี้ยงธรรมดาก็ได้ เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในขณะร่วงงานเลี้ยงสังสรรค์

และที่สำคัญอยากทราบว่าวันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552

เดินทางกลับเวลา 13.00 น. ไม่ทราบถึงกรุงเทพฯ เวลาไหน ใช้เวลากี่ ชม เนื่องจากจะต้องไปประชุมต่อที่เกาะสมุย ขึ้นเครื่องสนามบินสวรรณภูมิ เวลา 18.00 น ไม่ทราบทันหรือเปล่า ใครจะไปบ้างโปรดติดต่อกลับด้วย 081-5419595 จะได้ไปพร้อมกัน

สวัสดีครับ

กำนันบ้านนอกอย่าลืมเอาปืนปราบอินเดียนแดงไปด้วยนะ จะได้เลื่อนเป็นนายอำเภอไวๆ

เรียน ชาว ผนส.ทุกท่าน

เสื้อสีม่วงได้ซื้อมาเรียบร้อยแล้วนะคะ รับปากกับสาว ๆ บางคนว่าจะนำไปซักรีดให้เพื่อจะได้ใส่ในวันที่ไปศึกษาดูงาน ส่วนหนุ่ม ๆ ไม่ต้องห่วงนะจะซักรีดให้เหมือนกัน

ได้รับการประสานจากคุณณรงค์ (เจ้าหน้าที่สันนิบาติ)เสื้อยึดที่สั่งไปนั้น ยังไม่ได้ ก็เลยบอกน้องเค้าไปแล้ว คงไม่เป็นไร คงจัดการได้เรียบร้อยก่อนไปต่างประเทศ

สำหรับคืนวันที่ ๕ ได้บอกกับคุณต้อย (ผจก พิมาย)และคุณอภิสิทธิ์ ในฐานะเจ้าถิ่นให้ช่วยจัดกิจกรรมด้วย ค่าใช้จ่ายส่วนที่เพิ่มกองกลางมีให้ใช้อยู่แล้ว

ช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย ไอ และ ไม่มีเสียง ไม่รู้ว่าจะหายทันไปศึกษาดูงานหรือไม่ ถ้าไม่ทันตัวเองคงจะสนุกน้อยไปหน่อยแน่ ๆ เลย

คุณสุทิศ พี่ว่าเวลาที่จะไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ น่าหวาดเสียวเหมือนกันนะ แต่ถ้าขึ้นที่ดอนเมืองคิดว่าทัน

สวัสดีค่ะ

    เรียน อาจารย์ ผู้บริหารโครงการ ผนส.ทุกท่าน

       ขอบคุณพี่พจนารถ ที่ให้ข้อมูลดูงาน และข้อมูลขึ้นเครื่อง แต่ไม่ทราบว่าที่ดอนเมืองมีเครื่องไหม เพราะได้ข่าวว่าเครื่องไปเกาะสมุยที่ดอนเมืองไม่มี  เดียวต้องเช็คดูก่อน  แล้วผนส.3 ไม่ทราบใครไปบ้างละไม่เห็นมีใครตอบรับมาบ้างเลย ถ้าผมไปคนเดียวคงจะไม่ไปเหมือนกัน

    สวัสดีครับ

22 เคล็ดลับของนักออมทั่วโลก

1.จ่ายให้ตัวเองก่อนอันดับแรก กันส่วนหนึ่งของเงินเดือนที่ได้รับ จะมากจะน้อยให้นำไปฝากเข้าบัญชีธนาคารทุกๆ เดือน แล้วอย่าไปยุ่งกับบัญชีนั้นเด็ดขาด ถ้าจำเป็นต้องถอนเงินส่วนนี้ ให้ถือว่ากำลังกู้เงิน เวลาคืนต้องคืนทั้งต้นทั้งดอก

2.เก็บเหรียญทั้งหลายลงกระปุก เปิดอีกบัญชีสำหรับเงินหยอดกระปุก อย่าดูถูกการสะสมเงินเล็กเงินน้อย จากก้อนเล็กๆ เติบโตกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ในอนาคต

3.เก็บเงินคืนที่ได้รับจากเรื่องต่างๆ เข้าบัญชีธนาคาร เงินรับที่เป็นเบี้ยหัวแตก เช่น เงินคืนตามโปรโมชันการซื้อสินค้า เงินคืนเบี้ยประกัน รายได้เบี้ยใบ้รายทางต่างๆ ให้รวมเป็นบัญชีเดียว แล้วทำบัญชีไว้ คุณจะได้รู้ว่า ณ สิ้นปีรายรับที่ได้จากเงินคืนพวกนี้มันมากขนาดไหน รายรับพวกนี้เป็นรายรับไม่ต้องเสียภาษี น่าเสียดายที่จะใช้ทิ้งๆ ขว้างๆ

4.จ่ายเงินค่างวดผ่อนต่างๆ เข้าบัญชีตัวเอง (แม้เมื่อผ่อนค่างวดนั้นหมดแล้ว)

คุณกำลังผ่อนค่างวดรถ (หรือจอแบน) อยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ ขอให้คุณผ่อนต่อไปด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม แต่จ่ายเข้าบัญชีเงินออมของคุณเอง วิธีนี้คุณไม่เดือดร้อนเพราะคุณเคยชินกับภาระผ่อนนั้นๆ อยู่แล้ว ทั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขว่าคุณไม่มีภาระผ่อนอะไรใหม่ๆ เข้ามาอีก

5.หยุดนิสัยฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย รายจ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ ตัดทิ้งให้หมด ทำรายการขึ้นมาว่าต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง หลายคนแปลกใจว่ายิ่งคิดยิ่งตัดได้เรื่อยๆ

6.เพิ่มผลตอบแทนการลงทุน ไม่ควรยอมรับผลตอบแทนดอกเบี้ยต่ำ เงินออมที่มีอยู่ควรไปสร้างเงินต่อด้วยการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างสมดุลในการรับความเสี่ยงด้วย

7.เป็นสมาชิกสหกรณ์ เป็นวิธีง่ายสุดของการออมเงิน พร้อมทั้งเป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอีกต่างหาก

8.ซื้อพันธบัตรรัฐบาล สำหรับประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการออกพันธบัตรประเภทต่างๆ ให้ผู้สนใจ ถ้าสนใจเข้าไปดูที่ www.bot.or.th การจำหน่ายพันธบัตรให้กับประชาชน สิ่งที่ต้องดูคือประเภทพันธบัตร อัตราดอกเบี้ย และวันจ่ายดอกเบี้ย

9.ใช้ประโยชน์จากการโอนเงินบัญชีธนาคาร เมื่อเงินเดือนถูกนำฝากเข้าในบัญชีของคุณแล้ว คุณควรให้มันอยู่ในบัญชีธนาคารให้นานที่สุด (ฮา)

10.เข้าร่วมแผนออมเงินของบริษัท แผนการออมของบริษัทเป็นแผนออมเงินแบบปลอดภาษี และนายจ้างช่วยจ่ายสมทบ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกจ้าง

11.ใช้การเสียภาษีให้เป็นประโยชน์ เรียนรู้เรื่องภาษี ประโยชน์ที่คุณไม่ควรเสียและประโยชน์ที่คุณควรได้ (ลดหย่อน)

12.เข้าโครงการออมเงินที่น่าสนใจ เปิดหูเปิดตาให้กว้าง อาจมีโปรแกรมออมที่นึกไม่ถึง

13.ส้มหล่น อย่าเพิ่งกินหมดในคราวเดียว เงินก้อนใหญ่ไม่มาบ่อยครั้ง เช่น มรดก รางวัลเกมโชว์ ลอตเตอรี่ เงินปันผลกองทุน ฯลฯ เงินก้อนนี้ควรนำไปใช้ในการออมหรือลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ อย่าลืมปรึกษามืออาชีพด้านภาษีด้วย

14.รัดเข็ดขัดชั่วคราว อยากได้อะไรมากๆ ลองรัดเข็มขัดในช่วงเวลาหนึ่งๆ เช่น 2-3 เดือน เพื่อออมเงินให้มากกว่าปกติ เก็บเงินได้เท่าราคาของแล้วจึงค่อยกลับสู่การดำเนินชีวิตปกติ

15.ฝากเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคลเพื่อการเกษียณอายุสัปดาห์ละครั้ง ในต่างประเทศนิยมมาก มีการทำบัญชีฝากสะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายก้อนใหญ่เพียงครั้งเดียว สำหรับไทยมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งนายจ้างจ่ายสมทบให้

16.ให้นำเงินเดือนส่วนเพิ่มไปฝาก ถ้ารับเงินเป็นรายสัปดาห์หรือราย 2 สัปดาห์ อาจเป็นได้ว่าบางเดือนคุณจะได้รับเงินมากครั้งกว่าปกติ เช่น ถ้าได้รับเงินเป็นรายสัปดาห์ จะมี 4 เดือนที่ได้รับเงินมากครั้งกว่าปกติ หรือถ้าได้รับเงินเป็นราย 2 สัปดาห์ จะมี 3 เดือนที่คุณได้เงินเดือน 3 ครั้ง ครั้งที่เกินมาให้นำไปเข้าบัญชีเงินออม (ทันที)

17.เก็บเงินเบิกรายการต่างๆ ส่วนที่เกินจากรายจ่ายจริงเข้าบัญชีเงินออม ค่าเดินทางหรือรายจ่ายอื่นที่เบิกบริษัทได้ ควรเก็บส่วนเกินจากรายจ่ายจริงไว้ หรือคุณอาจได้ค่าล่วงเวลา ควรเก็บเงินส่วนนี้มาออมเช่นกัน เช่น ได้ค่าล่วงเวลาเดือนละ 2,000 บาท ถึงสิ้นปีจะมีเงินก้อน 2.4 หมื่นบาท สามารถนำมาใช้จ่ายในกรณีพิเศษโดยไม่ต้องไปถอนเงินออมหลัก

18.ยืมมาออม บางคนประสบความสำเร็จในการกู้เงินธนาคาร แล้วนำกลับไปฝากในบัญชีเงินออมของตนเองอีกทีหนึ่ง วิธีนี้ใช้ได้ผลกับคนที่กำลังมีค่าหักลดหย่อน (เช่น กู้ซื้อบ้าน) และใช้ได้กับช่วงเวลาที่ดอกฝากมากกว่าดอกกู้ (หลังภาษี) เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันไม่ต้องพูดถึง

19.นำเงินปันผลและดอกเบี้ยไปต่อเงินโดยอัตโนมัติ เมื่อลงทุนหรือฝากเงินในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด จัดการให้เงินปันผลหรือดอกเบี้ยสามารถนำฝากหรือลงทุนต่อได้อัตโนมัติ ในระยะยาวจะเห็นผลน่าพอใจ

20.ทิ้งเงินไว้ในบัญชีกระแสรายวันให้น้อยที่สุด มีคนจำนวนมากทิ้งเงินไว้ในกระแสรายวัน (เพราะปลอดดอกเบี้ย) แต่หารู้ไม่ว่ากำลังพลาดโอกาสในการทำเงิน ที่ควรก็คือมีเงินในกระแสรายวันให้พอกับรายจ่ายรายเดือน หากเงินเหลือให้โอนไปยังบัญชีเงินฝากที่มีดอกเบี้ยหรือโอนไปลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินที่มีดอกเบี้ยดีสุดในเวลานั้น

21.ใช้ประโยชน์จาก Float ความหมายของ Float คือระยะช่วงที่ผู้ถือเช็คได้รับเช็คไปจนกระทั่งถึงตอนที่ได้รับเงินสั่งจ่ายตามเช็ค กล่าวคือช่วงที่ยังไม่ได้ถูกตัดบัญชีก็ควรแช่เงินไว้ในบัญชีเงินฝากให้นานเท่าที่จะนานได้ ก่อนจะโอนไปเข้าบัญชีกระแสรายวันเพื่อตัดจ่ายเช็ค

22.จ่ายหนี้ให้หมด คุณอยากได้ผลตอบแทน 17-21% หรือเปล่า? อย่ามีหนี้บัตรเครดิตสิ เคลียร์หนี้บัตรให้หมด รู้มั้ยว่าถ้ายอดหนี้อยู่ที่ 2.4 หมื่นบาท ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งปีอยู่ที่ 4,000-5,200 บาท รีบเคลียร์หนี้ให้หมด ผลตอบแทนที่คุณจะได้คือไม่ต้องเสียดอกเบี้ยก้อนนี้ การปลอดหนี้บัตรจึงเป็นวิธีออมเงินก้อนใหญ่ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีหนี้ (จริงๆ) หาบัตรที่ดอกถูกสุดมาใช้

คิดและลงมือทำ!

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผนส.3 ทุกคน

วันนี้ผมเพิ่มเข้ามาอ่านบล๊อค ขอโทษด้วยที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ก็งานที่สำนักงานมีมากมาย แต่ก็มีเวลาที่จะมาร่วมดูงานสหกรณ์ภายในประเทศ วันที่ 4/5/6 ก.พ.52 นี้ครับ และดูงานที่ปักกิ่ง ประเทศจีนครับ แล้วค่อยพบกันที่ จังหวัดนครราชสีมา นะครับ สวัสดีครับ

สวัสดีเพื่อน ผนส.3 ทุกท่าน

ได้อ่านหนังสือทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้แล้ว ชอบและถูกใจในประโยคต่าง ๆ แล้ว เห็นว่าเหมาะกับผู้นำ สามารถนำไปปรับใช้ได้ จึงนำมาฝากเพื่อนค่ะ

ความเชื่อเก่า ๆ ที่ว่า "คน" เป็นเพียง "ต้นทุน" การผลิต "คน" ต่างหาก คือ

"ผลกำไร" ที่แท้จริงขององค์กร หากได้รับการดูแลเอาใจใส่เพิ่มศักยภาพ โดยการพัฒนาอย่างจริงจัง สม่ำเสมอและเป็นระบบ

"คนเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กร" ซึ่งผู้บริหารจะต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ฝึกสอนและพี่เลี้ยงพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาตลอดเวลา เพื่อให้เขาสามารถเรียนรู้และสามารถปลดปล่อยความรู้ความสามารถของเขาออกมาอย่างเต็มที่ ด้วยการส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและสนับสนุนให้มีการศึกษาและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

สวัสดีค่ะ

พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ชาวผนส. รุ่นที่ 3

ใกล้ถึงวันเดินทางทางไปดูงานที่สวิตเซอร์แลนด์แล้วตื่นเต้นจังเลย (แฮ่ๆ สวิตเมืงไทยนะครับ ) อยากเจอพรรคพวกเสียแล้ว เหงาจริงๆ

วันเดินทางอย่าลืมมาให้ทันรถนะครับ 7.00 น. ใส่เสื้อสีขาว มีจีวรสีดำด้วยนะครับ วันต่อไปใส่สีที่ใกล้ๆเหลืองดีไหมครับ(เข้าใจว่ามีทุกคน)แล้วใส่จีวรดำเช่นเดิม วันสุดท้ายใส่สีอะไรดีละ ช่วยเสนอหน่อยนะครับ หรือว่าตามสบายแต่ใส่จีวรดำไว้ก่อน

สำหรับเสื้อสีม่วง... นั้นใส่ในงานเลี้ยงวันไหนดี วันแรกเลยกีไหมครับหรือเป็นคืนที่อยู่สวิตเซอร์แลนด์ครับ

คิดถึงใจจะขาด

บัญชา

พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ

ต้องขอโทษที่แสดงความคิดเห็น 2 ขยัก พอดีเห็นข้อเสนอของคุณทนงศักดิ์ก็ดีนะครับกรณีที่เราไปสวิตเซอร์แลนด์แล้วแต่งเป็นคาวบอยนิดหน่อยน่าจะดีเหมือนกัน

เอ้าแสดงความคิดเห็นหน่อย หมดเขตแสดงความคิดเห็นวันจันทร์ ที่ 2 กพ. 52 เวลา 23.59 น.หลังจากนั้นจะได้ตัดสินใจกันนะครับ

บัญชา

ขอแสดงความคิดนะคะ สำหรับวันที่ 5 ช่วงเช้าให้ใส่เสื้อสีม่วง ส่วนตอนเย็นควรแต่ง

คาวบอยให้สมกับที่อยู่สวิตเซอร์แลนด์ สำหรับคนที่ไม่มีเสื้อใส่ไม่เป็นไร ต้อยซื้อผ้าพันคอไว้ให้ทุกคนไส่แก้ขัดแล้วค่ะ แล้วพบกันนะคะ

เรียน  ท่านประธานฯ ผนส. รุ่นที่ 3 และผนส.รุ่นที่ 3 ทุกท่านครับ

               ทุกท่าน เย็นวันที่ 4 เราจัดเลี้ยงอาหารเย็น ที่ห้องอาหารของโรงแรม city park โคราช หากต้องการ karaoke โรงแรมคิด 3,000 บาทครับ

               สำหรับเย็นวันที่ 5 กพ. 52 เราประสานจัดงานเลี้ยงนะครับ ในรูปแบบอาหารของบุปเพ่ พร้อม Karaoke แบบเปิดเวทีข้างนอกมีสถานที่จัดรอบกองไฟได้ มีฟืน+ไฟให้ (จะเอาหรือไม่ก็ได้) ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น.ครับ

               กิจกรรม บรรยากาศงาน และการแต่งกาย ที่ผนส .3บางท่านเสนอมานั้น แล้วแต่คณะผนส.รุ่น 3 จะออกแบบคิดกันเพื่อความสนุกสนานครับ สำหรับเครื่องดื่ม soft drink (นำแข็ง+โซดา+น้ำอัดลม) ทางรีสอร์ทคิดหัวละ 50 บาท   ครับ

                                                    "สถาบันพิทยาลงกรณ์"

      สำหรับรูปที่พักโรงแรม City park โคราช สถานที่พัก คืนวันที่ 4 กพ. ครับตาม link นี้ครับ

http://gotoknow.org/file/todschanin/DSCN7075.JPG

http://gotoknow.org/file/todschanin/DSCN7077.JPGบ

สถานที่พักที่อิมภูฮิลล์อ.วังน้ำเขียว เป็นห้องพักแบบบ้านพัก+hotel ตามจำนวนที่รีสอร์ทที่มอยู่ ตามlink น่ะครับ http://gotoknow.org/file/todschanin/04_Benjamard.jpg

http://gotoknow.org/file/todschanin/06_Indiana.jpg

http://gotoknow.org/file/todschanin/10_Pikoolkeaw.jpg

http://gotoknow.org/file/todschanin/11_Lanna.jpg

http://gotoknow.org/file/todschanin/Clubhouse1-3.jpg

http://gotoknow.org/file/todschanin/P1010107.jpg

แผนที่น่ะครับ แต่ต้องแตก zip เป็น PDF น่ะครับ

http://gotoknow.org/file/todschanin/map2impoohill.zip

พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ

วันเลี้ยงวันที่ 4 เราจะมี karaoke นะครับ เพิ่มอีก 3,000 บาทเพื่อให้เราสนุกสุดเหวี่ยง

วันที่ 5 เช้าแต่งเสื้อม่วง ฝากพี่จิ๋นดูแลซักให้ดีนะครับ ตอนเย็นกางเกงยีนส์ เสื้อลายๆคล้ายคาวบอย ผ้าพันคอไปรับที่ต้อย (แต่เชือผูกคอให้รับที่อภิสิทธิ์ )หรือใครจะคาวบอยเต็มยศเพื่อเป็นสีสันก็จะกรุณามากครับเพื่อรุ่น 3 ของเรา

รักทุกคน อยากเห็นหน้าและบรรยากาศสนุกๆจังเลย

บัญชา

เห็นด้วยทุกอย่างครับkalaoke 3,000 บาทใช้เงินรุ่นไปก่อน (ไม่พอเจ๊จิ๋นเก็บใหม่) cowboy night น่าสนุกนะครับขากลับกรุงเทพขี่ม้ากลับได้หรือเปล่า ช่วงนี้วิชาการพักไว้ก่อนอาจารย์จะว่าอะไรไม๊เนี่ย

goodnightฝันดีทุกคนแล้วพบกันวันพุธ

แจ้....

..เทคนิคมองโลกแง่ดี ในชีวิตประจำวันของหลายๆ คน คงได้ประสบกับสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความหงุดหงิดใจ และบั่นทอนสุขภาพจิต ว่ากันว่า วิธีที่จะทำให้อยู่ได้อย่างมีความสุขในทุกๆ วัน นั้น "การมองโลกในแง่ดี" ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเรียกความเข้มแข็ง สร้างกำลังใจ และช่วยให้ดำรงชีวิตในสังคมได้ดี

เพื่อนนินทา... แสดงว่าเรามีดี มีจุดเด่นที่เขาไม่มีจึงนำเราไปนินทา (หลายคนบอกเปลี่ยนความโกรธ เป็นความภูมิใจแทน)

 อกหัก.... คิดเสียว่าได้เรียนรู้ชีวิต เป็นประสบการณ์ หลังจากนี้เดินหน้าดูแลตัวเอง พอชีวิตดีเดี๋ยวคู่มาเอง

เงินหมด ....โอ๊ย! เรื่องขี้ผง คนอื่นที่ทุกข์กว่าเรามีเยอะแยะ ดีเลยฝึกนิสัยอดทน (สักระยะ) แต่ถ้าไม่อยากทนบ่อยๆ คราวต่อไปก็ระวังอย่าใช้เงินเกินงบ

รถติด..... ฝึกสมาธิมันซะเลย นั่งกำหนดลมหายใจเข้าออก นอกจากจะเป็นผลดีต่อความจำแล้ว ยังช่วยฝึกความเป็นคนใจเย็นอีกด้วย

 เจอข้อผิดพลาดในการเรียน - การทำงาน.... คิดเสียว่าไม่เป็นไร ปัญหาหรืออุปสรรคเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ หลังจากนั้น คิดสู้ปัญหา โดยการ ‘เริ่มใหม่’ เพราะความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินความพยายาม และถ้าเราสามารถผ่านมันไปได้ งานนั้นจะนำมาซึ่งความภูมิใจ และหลังจากนี้ ต่อให้เจออุปสรรคเล็ก - ใหญ่แค่ไหน จะไม่มีทางมาบั่นทอนจิตใจเราได้ จำไว้ว่า "ไม่เป็นไร"

 มีปัญหากับเพื่อนมนุษย์.... คิดเสียว่ามันยังไม่ได้เลวร้ายจนถึงที่สุด ยังดีที่ไม่เจอหนักกว่านี้ คิดปล่อยวาง และคิดถึงสิ่งดีๆ ที่เขาพอจะมีอยู่ หรือคิดถึงในแง่ดีๆ ของเขา แต่หากปัญหานั้นเกิดจากตัวเรา ให้มองย้อนกลับไป แล้วแก้ไขปรับปรุง "การมองโลกในแง่ดี" นั้น เชื่อว่าทุกคนสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ การรู้จักคิดปล่อยวาง คิดให้สบายใจ ในยามที่พบกับปัญหา นอกจากจะไม่เป็นการซ้ำเติมตนเองแล้ว จะรู้สึกว่าชีวิตดูมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย

enjoy your trip to korat.sorry I can not go.bcause I work in LOAS

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

"คิดแบบผู้นำ ทำแบบผู้ชนะ" เราอยู่ในยุคของการข่งขันแบบโลกาภิวัฒน์ที่รุนแรง เราอยู่ในยุคของความไม่แน่นอนทางด้านการเงิน เราอยู่ในยุการแย่งชิงคนเก่ง เราอยู่ในยุคของการเปลี่ยนผ่าน เราอยู่ในยุคขององค์กรต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และประเทศชาติ ผู้นำที่จะทำให้การดำเนินงานขององค์กรประสบความสำเร็จในสถานการณ์เหล่านี้ ผู้บริหารจะต้องเป็นคนที่สามารถคิดวางแผน หรือมี Sceanario Planning หลาย ๆ แผนแบบเร็ว ๆ ได้และผู้นำต้องสามารถมองไปข้างหน้าได้อย่างเฉียบคม(Sharp Mind)และรวดเร็ว จากนั้นต้องสามารถสื่อสารได้เก่งและเร็ว ใช้เวลาอธิบายความคิดของตนเองให้ทีมงานเข้าใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมทั้ง การปรับกระบวนทัศน์ได้อย่างว่องไว

ผมกับปุ้ยคงไม่ได้ไปดูงานในประเทศที่โคราชกับทุกท่าน ขอให้การดูงานครั้งนี้เ็ต็้มไปด้วยความสุขและทุกคนได้ความรู้อย่างเต็มที่

เพื่อนๆผนส 3ทุกท่าน

ขอบคุณที่ได้สิ่งดี ๆ จาก blog ทั้งความรู้ แนวคิด และความคิดถึงที่มีให้กัน ปลื้มค่ะ

ประธานรุ่น ผนส.3

ขอขอบคุณอาจารย์บัญชาที่เชิญไปงานสัมมนาวิชาการของสหกรณืออมทรัพย์จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ที่ Miracle Grand ได้ประโยชน์ดี เจอพวกเราบางคนด้วย

สวัสดี คะ ผนส.3

ก่อนอื่นต้องขอประทานโทษ ท่านประธาน ผนส.3และขอขอบคุณที่กรุณาให้เกียรติเชิญไปร่วมงาน สอ.จุฬา เมื่อ 31 มค.ที่ผ่านมา ติดภาระกิจจริงๆคะ เสียดายมากเลย เพราะทราบว่ามี ผนส.3ไปกันหลายท่าน ทราบว่างานสุดยอดมาก ได้ความรู้

ได้ของขวัญ แถมของรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้าน "อาหารอร่อยจัง สตังค์เหลือเท่าเดิม"

เสียดาย..จัง! แต่ก็ดีใจนะ ที่มีใครหลายคนถามหาจนท่านประธาน ผนส.2 ต้องโทรตาม แต่ก็สุดวิสัยจริงๆคะ รับรองคราวหน้าถึงไหนถึงกัน

ไม่ได้เข้ามาพูดคุยหลายวัน "คุณจิ๋น" คงจะเหนื่อยเลยไม่ค่อยสบายระวังสุขภาพด้วย ท่านประธาน ผนส.3 จะพาไปสวีต อุณภูมิเป็นอย่างไร ใครอยู่แถวนั้นช่วยบอกด้วยคะ "คุณต้อย" จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม

ล่าสุดทราบว่าท่านอาจารย์จีระ ไปกับพวกเราไม่ได้เสียดาย..อีกแล้ว ตั้งใจจะเชิญท่านรำวงรอบๆกองไฟกับพวกเราอดเลยงานนี้

พรุ่งนี้พบกันที่สันนิบาต 7โมงคะ คิดถึงทุกคนนะ...จะบอกให้!

ประธานรุ่นผนส.3

วันที่ 4 ไม่ได้ร่วมทานอาหารเที่ยงกับเพื่อนๆนะคะ จะรออยู่สถานที่ดูงานเลยค๋ะ

ขอบคุณท่านประธานรุ่น ๓ ครับ ที่ทำให้วันที่ 4 มีงานเลี้ยงและ karaoke ฝากท่านประธานเป็นธุระจัดคิวนักร้องไว้ด้วย เพราะสืบทราบมาว่า รุ่นเราเนี๊ย..นักร้องเยอะจริง ๆ เลยนะท่าน จะจัดอย่างไรก็ตาม ผมขอคิวต้น ๆ นะครับ หลังเลิกงานเลี้ยง รุ่น ๓ โคราช ช่วยแนะนำถิ่น กิน เที่ยว ของดีเมืองโคราช ด้วยเน้อ งานคาวบอยไนท์ คืนวันที่ ๕ ท่านอดิศักดิ์ เจ้าของฟาร์มโคนม ช่วยนำโคนมแปรรูปไปงานเลี้ยงด้วยนะครับ ขอบคุณพี่ต้อยที่แจกผ้าพันคอ แต่..เชือกผูกคอของ ท่านนายกอภิสิทธิ์ ขอเปลี่ยนเป็น"ยา"แก้เจ็บคอแทนจะดีกว่า

เรียน ท่านประธาน และผนส รุ่น 3 ทุกท่าน

ตามกำหนดการดูงาน โคราช ผมตั้งใจรอเวลานั้นเต็มที่อยู่แล้ว แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง วันที่ 4 ไปร่วมไม่ได้ ไม่มีโอกาสได้ร่วมดูงานในช่วงบ่าย และงานเลี้ยงในช่วงเย็น แต่วันที่ 5 จะไปพบกับพวกเราที่ สกก พิมาย และร่วมกิจกรรมด้วยตลอดโครงการ ขอจองคิวเพลงล่วงหน้าด้วย 2 เพลง แล้วไม่รู้ว่าคาวบอยกินเหล้าแล้วจะเมาหรือเปล่าไม่รู้นะครับ

ขอบอกว่าอากาศที่วังนำ้เขียวจะหนาวช่วงเช้าและตอนกลางคืน เตรียมเสื้อหนาวมาหน่อยก็ดีค่ะ โดยเฉพาะพี่น้อยแต่งสวยได้เต็มที่

15 วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย

การแก้กรรมสะเดาะเคราะห์เป็นการทำพิธีตามความเชื่อโบราณว่าจะสามารถส่งเสริม ดวงชะตาให้ดีขึ้น มักรวมไปถึงการต่ออายุ หรือแก้ไขสิ่งเลวร้ายให้กลายเป็นดี การเริ่มทำบุญตั้งแต่ต้นปีก็จะเพิ่มดวง เสริมสง่าราศีให้ชีวิตมีความสุข และประสบความสำเร็จตลอดทั้งปีและตลอดไปอย่างแน่นอน

1. ถือศีล 5 การ ถือศีล 5 เป็นประจำจะช่วยเสริมดวงชะตาและจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีงาม การทำดีและไม่เบียดเบียนใครถือเป็นการทำบุญกุศลที่ได้อานิสงส์ เป็นผลให้เกิดความโชคดี และแก้เคราะห์ลดกรรมได้

2. การถือศีล 8 จะช่วยเสริมดวงและแก้เคราะห์ได้เช่นเดียวกับการถือศีล 5 แต่การถือศีล 8 นั้นปฏิบัติได้ยากยิ่ง แต่เมื่อปฏิบัติได้สำเร็จจะได้กุศลแรงนักปฏิบัติแล้วยังช่วยเสริมดวงอำนาจ บารมีได้

3. กินเจ ก็เพื่อลดละชีวิตสัตว์ ซึ่งได้อานิสงส์ผลบุญสูงและควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ถ้าอธิษฐานไว้ว่า 7 วัน ก็ทำให้ครบ 7 วัน อาจตั้งจิตว่าจะทำทุกวันพระและทุกเดือน หรือปฏิบัติทุกเดือน เดือนละ 3 วัน หรือ 7 วัน เป็นต้น

4. ไหว้พระและถวายดอกไม้ ธูปเทียน รวมทั้งการปิดทองคำเปลวและเครื่องหอม ผลบุญนี้จะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง มีความเจริญก้าวหน้า

5. ถวายน้ำมันตะเกียง เพื่อ ความรุ่งโรจน์โชติช่วงของชีวิต เช่นเดียวกับความสว่างของแสงตะเกียง ทำให้พ้นจากความมืดมิดทั้งการดำเนินชีวิต รวมทั้งปัญหาและความคิดที่สว่างไสวไม่อับจนหนทาง

6. ถวายสังฆทาน เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยถวายสิ่งของจำเป็นแด่พระสงฆ์ อานิสงส์ผลบุญจะส่งให้ชีวิตหมดเคราะห์หมดโศก จะทำสิ่งใดก็ราบรื่นไม่ติดขัด พบแต่ความสำเร็จสมปรารถนา รวมทั้งมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ ไม่ขัดสน

7. ไหว้พระ ไหว้บูชาเทพต่างๆ จะทำให้พบกับความสุข ความเจริญเกิดความสุขใจว่ามีที่พึ่งพิง ยึดเหนี่ยว นำมาซึ่งกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไปและรู้สึกเสมอว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คอยคุ้มครองเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง

8. ทำบุญปล่อยสัตว์ เป็นการไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น แต่ถือว่าได้บุญแรง จะต้องทำด้วยความตั้งใจจริง เช่น การไปซื้อสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่าไปปล่อย ไถ่ชีวิตวัวควายถวายวัดเพื่อมอบให้ชาวนานำไปใช้ประโยชน์ ซื้อปลาในตลาดที่จะถูกฆ่าไปปล่อยน้ำ ผลบุญนี้ยังผลให้หมดทุกข์ หมดภัย และพบความสุขความเจริญในชีวิต

9. ทำบุญ ให้ทาน เป็น การรู้จักเสียสละตนเองและแบ่งปันให้ผู้อื่น ซึ่งผลบุญจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องมีจิตใจยินดีในการทำบุญให้ทานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงพุทธศาสนา หรือการให้ทานเกื้อกูลคนยากไร้ ล้วนแล้วแต่เป็นบุญส่งเสริมให้ชีวิตมีโชค มีทรัพย์ และมากด้วยบารมี

10. ทำทานแก่คนยากไร้ เป็น การทำบุญที่มาจากจิตใจอันไม่ยึดติดมีความไม่โลภ ผลบุญจึงหนุนนำให้มีแต่ความราบรื่น ยามมีเรื่องติดขัดก็จะมีผู้มาช่วยเหลือค้ำจุน ยามมีเคราะห์ภัยก็จะแคล้วคลาด เพราะแรงอนุโมทนาจิตจากผู้ยากไร้ที่ได้รับสิ่งของจากเรานั่นเอง

11. ทำบุญโลงศพ ซื้อโลงศพบริจาคศพอนาถาไร้ญาติ จะได้อานิสงส์แรงยิ่งนัก การทำบุญเช่นนี้จะช่วยเสริมดวงชะตาให้แข็งแกร่ง สามารถต้านเคราะห์ภัยหนักต่างๆ และผ่อนหนักเป็นเบาได้

12. พิมพ์หนังสือธรรมะแจก จัดพิมพ์เองหรือร่วมบริจาคสมทบทุนการพิมพ์กับผู้อื่นก็ได้ เป็นการเสริมดวงให้มีวาสนาบารมี เพื่อให้ปัญญาสว่าง หมดทุกข์ หมดโศก ไม่มีเคราะห์ร้ายมากล้ำกราย

13. บริจาคค่าน้ำ ค่าไฟ จะช่วยให้ชีวิตราบรื่น หมดทุกข์ หมดโศก ประสบแต่ความโชคดี

14. ซื้อข้าวสารถวายวัด เลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าตามสถานสงเคราะห์เป็นการสั่งสมบุญกุศล เพื่อให้ชีวิตมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์และเพียบพร้อมด้วยบารมี

15. การตักบาตรร่วมขันกับผู้อื่นหรือทำบุญร่วมกับผู้อื่น ไม่ ว่าจะทำบุญด้วยการบริจาคทรัพย์หรือโดยทางอื่น จะส่งผลให้เนื้อคู่ดูดี ดวงชะตาแข็งแกร่ง เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และจะได้แต่เพื่อนที่ดีในชาตินี้

เรียน ท่าน ผนส.3 ทุกท่าน

ก็ต้องขออภัยที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมในการดูงานที่โคราช ก็ค่อนข้างสบายใจครับ เพราะก่อนไปเราก็ได้ส่งคุณต็อด กับน้องณรงค์ น้องแนน ไปตรวจสอบสถานที่ก่อน เพื่อความพร้อมและความเรียบร้อย แต่ก็อาจมีอะไรขาดตกบกพร่องบ้างก็ต้องขออภัย รู้สึกเกรงใจท่านอาจารย์ยมมาก ๆ เพราะไม่ได้ไปเทคแคร์อาจารย์ด้วยตนเอง แต่ก็มีท่าน ผอ.วิทย์ และผู้ช่วยณัชชาไปร่วมด้วย ก็ไม่หนักใจ เชื่อว่าคงให้การดูแลเอาใจใส่ท่านผู้นำและอาจารย์ได้ดี มีอะไรก็คอมเม้นต์ได้นะครับ ทีมสถาบันฯ จะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ก็ขอให้ท่านได้ทั้งสาระความรู้ และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้นำด้วยกัน เป็นวัตถุประสงค์ที่สำคัญที่ต้องการให้ ผนส.มีความสนิทสนมกันมากขึ้น ได้เรียนรู้จักกันมากขึ้น นำไปสู่การมีเครือข่ายที่เข้มแข็งต่อไป สถาบันฯ ต้องการเห็นเครือข่ายผู้นำสหกรณ์ มีพลังความเข้มแข็งในการช่วยกันพัฒนาการสหกรณไทยให้ก้าวไกลกว่าที่เป็นอยู่ ยุคนี้ สมัยนี้ ผู้นำต้องกล้าคิด กล้าทำ และกล้าตัดสินใจครับท่าน ท่านผู้นำสหกรณ์รุ่นใหม่ทุกท่าน คือ พลังขับเคลื่อนสหกรณ์ที่สำคัญ และจะเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลังได้ถือเป็นแบบอย่าง ผมขอฝากความหวังไว้กับทุกท่าน นะครับ มาอบรมก็ต้องไม่ลา ไม่ขาด ไม่สาย เพราะเงินทุกบาทที่ท่านได้รับการสนับสนุนให้มาอบรมฟรี เป็นเงินของส่วนรวม และยังมีผู้นำอีกมากที่ต้องการโอกาสดีดีอย่างนี้ครับ ผมอยากรักษามาตรฐานของหลักสูตรนี้ไว้ โดยผู้นำต้องรักษากติกาและเกณฑ์พิจารณา เวลาอบรมต้องครบ 80 % และสำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปดูงานในประเทศ ขอให้ทำ Paper ส่งด้วย ถ้าท่านคิดว่าเวลาเรียนมีปัญหากรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่โครงการด่วน ว่าจะมีการซ่อมเสริมอะไรได้บ้าง ผมอยากให้ ผนส. 3 ทุกท่านจบทุกคนพร้อมกันหมดครับ (ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด)

For those who like to drink cold water, this article is applicable to you.

บทความนี้สำหรับคนที่ชอบกินน้ำเย็นโดยเฉพาะ

It is nice to have a cup of cold drink after a meal. However, the cold water will solidify the oily stuff that you have just consumed.

เวลาได้กินน้ำเย็นๆ ซักแก้วหลังอาหารรู้สึกมันชื่นใจดีใช่มั้ยครับ แต่ว่า น้ำเย็นจะทำให้ไขมันที่คุณเพิ่งกินเข้าไปเมื่อกี๊จับตัวเป็นไขขึ้นมา

It will slow down the digestion. Once this "sludge" reacts with the acid, it will break down and be absorbed by the intestine faster than the solid food. It will line the intestine. Very soon, this will turn into fats and lead to cancer. It is best to drink hot soup or warm water after a meal.

ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง ถ้าคราบไขมันเหล่านี้ไปทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วจะถูกดูดซึมไปที่ลำไส้ ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารทั่วไป แล้วก็จะเริ่มเคลือบลำไส้ของเราไว้ (ด้านใน) ในไม่ช้า มันก็จะแปรสภาพเป็นไขมันก้อนๆ และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด ดังนั้น ควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหารดีกว่า

A serious note about heart attacks - You should know that not every heart attack symptom is going to be the left arm hurting. Be aware of intense pain in the jaw line.

ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการของโรคหัวใจ เวลาที่เกิดอาการ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเจ็บที่แขนซ้ายเสมอไป ถ้าคุณมีอาการปวดกรามหรือขากรรไกรก็อาจจะเป็นสัญญาณของโรคหัวใจได้

You may never have the first chest pain during the course of a heart attack. Nausea and intense sweating are also common symptoms. 60% of people who have a heart attack while they are asleep do not wake up. Pain in the jaw can wake you from a sound sleep. Let's be careful and be aware. The more we know the better chance we could survive.

แม้ว่าคุณจะเป็นโรคหัวใจ แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องมีอาการเจ็บหน้าอก อาการเหงื่อออก คลื่นไส้ ก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับโรคทั่วๆไป 60% ของคนที่โรคหัวใจกำเริบขณะหลับมันจะไม่ตื่น (อีกเลยรึเปล่าก็ไม่รู้) แต่อาการปวดกราม อาจจะทำให้คุณตื่นขึ้นมากลางดึกได้ ก็ให้ระวังดูและตัวเอง ถ้ามีอาการเหล่านี้

คงถึงบ้านกันแล้วทุกคนโดยสวัสดิภาพการดูงานในประเทศในครั้งนี้มีสิ่งดีๆน่าประทับใจและได้รับความรู้หลายๆอย่างในการที่จะเป็นนักสหกรณ์ที่ดีนั้นไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆแต่ในเบื้องต้นก็รู้สึกปลื้มใจที่ได้เห็นภาพแห่งมิตรภาพของเพื่อนพ้องน้องพี่ชาว ผนส.3ทุกคนทุกคนได้หลอมจิตวิญญานแห่งการเป็นเพื่อนได้อย่างแน่นแฟ้นกลมเกลียวไม่มียศฐาบันดาศักดิ์ทุกคนได้ถอดมันทิ้งออกไปได้อย่างหมดจดและหวังว่าพวกเราจะรักษามิตรภาพที่ดีเช่นนี้ตลอดไป

..ไม่มีมิตรภาพใดใด จะคงไว้ได้นานเท่าการเป็นเพื่อน

แม้เนิ่นนานเพียงใดไม่ลบเลือน ความเป็นเพื่อนนั้นคงอยู่ตลอดไป

goodnight..

jaee/

สวัสดีครับ ...เพื่อน ผนส.3 ทุกคนครับ

ผมกลับถึงบ้านเมื่อวันที่ 7ก.พ.2552 เวลา 01.30 น.เดินทางกลับโดยรถยนต์ส่วนตัว กับกำนันนัด ดวงใส และแวะส่งคุณประพันธ์ ดำชู สหกรณ์การเกษตรกงหรา จังหวัดพัทลุง ส่งที่ร้านสุภาพชน สามร้อยยอด จังหวัดประจวบฯ โดยสวัสดิภาพ ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดนครราชสีมา 3วัน มีความประทับใจ หลายอย่าง

1.เพื่อนๆร่วมรุ่นมีความเป็นกันเอง อบอุ่น ช่วยเหลือแนะนำกันดีมาก

2.การบริหารการจัดการของสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด เยี่ยมมากๆ น๊ะกับผู้นำ 2 คน คือ ประธานอยู่ สมานมิตร ผู้นำที่สามารถปฎิรูประบบและคนสหกรณ์ กล้าตัดสินใจ และ ผู้จัดการต้อย ที่ นำพาทีมงานฝ่ายจัดการไปสู่ความสำเร็จ และบริหารงานเข้ากับคณะกรรมการดำเนินการได้อย่างดี

3.บรรยากาศของ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา "สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย"

4.สหกรณ์กสิกรรมปลอดสารพิษ อยู่อย่างพอเพียง ไม่ต้องพึ่ง พาสังคม เป็นผู้กำหนดคุณภาพและราคาของสินค้าปลอดสารพิษ ไม่มีคู่แข่งขัน

เพื่อนๆอย่างลืมส่ง หนังสือเดินทาง รูปถ่าย2รูป สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนให้คุณณรงค์ ยี่หว่า ด้วยนะครับ จะได้ไปปักกิ่งกันนะครับ และอย่าลืมไปเรียนในวันที่ 20-21กพ.52 และขอบคุณอ.ยม ผอ.วิทย์ และทีมงานทุกคนที่ดูแลนักศึกษา ผนส.3เป็นอย่างดี สวัสดีครับ

เรียน ผู้นำสหกรณ์

เนื่องจากนายเสนอ ตัณฑเศรษฐี บิดาของคุณหญิงกัลยา หงส์ลดารมภ์ (ภรรยาของ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์) ได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ โดยในวันเสาร์ที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ วัดเทพศิรินทร์ ศาลา ๑๔ และกำหนดสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา ๗ วัน

ผมกลับถึงบ้านเสุพรรณมื่อวันที่ 7ก.พ.2552 เวลา 01.00 น.เดินทางกลับโดยรถยนต์ส่วนตัว กำนันบ้านนอก "ขับช้ามากๆๆๆๆ ไม่ได้ตกหลุมดำนะ ปู่พิน" ..ไม่มีมิตรภาพใดใด จะคงไว้ได้นานเท่าการเป็นเพื่อน " เห็นด้วยพี่แจ้"

สวัสดีเพื่อน ผนส.3

กำนันบ้านนอกขับรถช้ามากกกกก จริง ๆ การไปศึกษาดูงานครั้งนี้ประทับใจได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน ความเป็นกันเอง ทำให้มีความสุขมาก

ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของบิดาคุณหญิงกัลยา หงส์ลดารมภ์ ด้วยคะ ไม่สามารถไปร่วมงานได้ เนื่องจากต้องเดินทางไปสัมมนาที่จังหวัดระยองถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้

กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

สวัสดีครับเพื่อนผนส.รุ่น3ทุกท่าน

ผมได้อะไรหลายอย่างจากการไปดูงานที่โคราชคราวนี้ ทั้งความรู้ และแนวคิดโดยเฉพาะปัจจัยแห่งความสำเร็จที่พวกเราทุกคนได้แสดงความคิดเห็นกันไป แถมผลพลอยได้คือการได้หัวเราะดังๆและนานพอ จึงอยากพูดถึงเรื่องการหัวเราะสักหน่อย

การหัวเราะดังๆในแต่ละวัน จะทำให้สุจภาพจิตดี มีความสุข สร้างความผ่อนคลาย ลดความเครียดได้อย่างง่ายที่สุด

การหัวเราะดังๆและนานพอจะทำให้เกิดการดูดซึมออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายไปสุ่อวัยวะต่างๆได้ดีขึ้น การไหลเวียนของโลหิตจะดี เลือดไปเลี้ยงสมองและหัวใจได้ดีขึ้น เกิดความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ความคิดจะวิ่งแล่นและสร้างารรค์ ความฉลาดจะมีมากขึ้น พฤติกรรมของคนจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีสมรรถภาพและคุณภาพในการทำงานมากขึ้น

การหัวเราะดังๆและต่อเนื่องนานพอ(ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องไม่หยุด เดี๋ยวท้องแข็งเป็นตะคริว แย่เลย)จะมีสารแห่งความสุข (Endorphine)หลั่งออกมาในสมอง ทำให้สดชื่น หายเศร้า คลายเครียด

ลองๆฝึกนิสัยและหาเรื่องหัวเราะดังๆสักวันละ 5นาทีดูซิ โดยลองจินตนาการว่าตัวเองเป็นเด็กมากขึ้น อย่าติดภาพลักษณ์ผู้ใหญ่มากนัก ให้ลดความเป็นผู้ใหญ่สู่ความเป็นเด็ก อภัยตัวเองและคนอื่นให้มาก แล้วเราก็จะเป็นเจ้าสัวรวยความสุขกลับกลายเป็นหนุ่มสาวขึ้นทันตา ดูอย่างพี่พิณของเราซิครับขาไปขายังเดี้ยงอยู่ ขากลับขาหายเดี้ยงเลย

แล้วพบกัน20ก.พ.นี้ครับ

สวัสดีครับ…ผนส.3 ทุกท่าน

วันนี้วันหยุด ผมกำลังทำการบ้านของอาจารย์ยม คือ โครงการพัฒนาการบริหารการจัดการของสหกรณ์ภาคการเกษตร นำเสนอโครงร่างก่อน เพื่อนๆเริ่มทำกันแล้วหรือยังครับ กะว่าจะนำเสนออาจารย์ในวันที่ 20 ก.พ.52 นี้ ก็เลยไปค้นประวัติวันสำคัญวันหนึ่งในเดือน กุมภาพันธ์ นี้ ในวันที่ 14 ก.พ.52 ใกล้จะมาถึง ก็คือ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก ทุกคนต้องมีใช่ไหมครับ จึงนำประวัติมาฝากเพื่อนๆด้วยครับ

วันวาเลนไทน์ หรือวันนักบุญวาเลนไทน์ (Saint Valentine's Day) หรือที่เป็นที่รู้จักว่า วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันประเพณีที่คู่รักบอกให้กันและกันทราบเกี่ยวกับความรักของพวกเขา โดยการส่งการ์ดวาเลนไทน์ ซึ่งโดยมากจะไม่ระบุชื่อ วันนี้เริ่มเกี่ยวข้องกับความรักแบบชู้สาวในช่วงยุค High Middle Ages เมื่อประเพณีความรักแบบช่างเอาใจ (courtly love) แผ่ขยาย

ก่อนคริตสทศักราช 269 ปี ในสมัยนั้นเขาไม่นิยมให้แต่งงานกันในโบสถ แต่เซนต์วาเลนไทน์กลับให้คนภายนอกเข้ามาแต่งงานได้ซึ่งประเพณีรักแบบนี้มักจะถูกต่อต้าน แต่เซนต์ วาเลนไทน์กลับให้คนรักกันแบบนี้ได้ จากนั้นเซนต์วาเลนไทน์ถูกพวกโรมันจับตัวส่งไปขังและเขาก็ได้พบรักกับสาวตาบอดในคุกเมื่อฝ่ายที่ว่ามานี้รู้ข่าวเข้าจึงนำเซนวาเลนไทน์ไปประหารวันที่ 14 กุมพาพันธ์ วันนี้จึงเป็นวันวาเลนไทน์นั่นเอง

ส่งดอกไม้วันวาเลนไทน์

มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย

กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ" I love Selarath,Sithy

กุหลาบขาว (White Rose) : กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์

กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน

กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน

จะเห็นได้ว่าดอกไม้เป็นประดิษฐกรรมทางธรรมชาติที่มนุษย์เรานำมาใช้เป็นสื่อแทนความหมายแห่งความรักได้หลายรูปแบบ

ของขวัญวันวาเลนไทน์

วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นการรักครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อน คนรัก ดังนั้นพอถึงวันวาเลนไทน์จึงมีการให้ของขวัญการ์ดรูปหัวใจ หรือดอกไม้ โดยทั่วไปแล้วดอกกุหลาบ จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน มีความเชื่อกันว่าดอกกุหลาบนั้นเป็นตัวแทนของการบอกรัก ได้เป็นอย่างดี ดอกกุหลาบแต่ละสีจะบอกความหมายที่แตกต่างกันไปซึ่งล้วนแต่เป็นความหมายที่ดีทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าข้างๆ ดอกไม้ที่เขาให้จะไม่มีข้อความที่บอกรักหรือความในใจก็ตามแต่ สิ่งของที่ใครมอบให้เราล้วนแต่เจ้าของคนให้จะคิดทั้งสิ้นว่ามีความหมายอย่างไรกับเรา สวัสดีครับ...

เรียน อาจารย์ และ สวัสดีครับ…ผนส.3 ทุกท่าน

การศึกษาดูงานภายในประเทศ ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

การดูงานบริษัทสงวนอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแป้งมันสำปะหลัง และผลิตแป็งมันสำปะหลังดัดแปลง จากการดูงานบริษัท ซึ่งคุณทศพล ตันติวงค์ เป็นประธาน เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2517 บนเนื้อที่ ประมาณ 1,000 ไร่

ปัจจัยความสำเร็จของบริษัท การมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชนและคนรอบข้าง การได้รับมาคราฐาน เรื่องสิ่งแวดล้อม สวัสดิการต่อพนักงาน การมีคุณธรรม ความซื่อสัตย์ การรับซื้อสินค้าที่เป็นธรรม การนำวัตถุดิบเหลือใช้มาทำปุ๋ย การผลิตแก๊ส ไฟฟ้า

ความเสี่ยงของบริษัทที่จะเกิดขึ้น การใช้ระบบครอบครัวหากขาดผู้นำ ภาวะเศรษฐกิจ คู่แข่งทางการค้า

ในอนาคตบริษัทจะหันมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มมาขึ้น และจะผลิตป๋ยอินทรีย์เพื่อจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น

จากการดูงานภายในประเทศในช่วงสรุปตอนก่อนอาหารเย็นจะเห็นได้ว่าอาจารย์ยมและท่านผอ.วิทย์ จะพูดถึงทฤษฎี 7,S และ swot analysis บ่อยครั้งเพื่อให้พวกเราใช้เป็นแนวทางการวิเคราะห์องค์กรต่างๆได้เกือบทุกประเด็น ผมเลยได้ไปค้นคว้าหามาทบทวนที่พวกเราอาจจะลืมไปบ้างเผื่อคิดโยงๆเปรียบเทียบและทดสอบทฤษฎีกับการดำเนินกิจการของบริษัทสงนวงษ์และสก.พิมาย ที่พวกเราได้ไปดูมา :SWOT Analysis คือการวิเคราะห์เจาะลึกโดยใช้ปัจจัย 4 ประการ Strength.. คือจุดแข็ง จุดที่ได้เปรียบหรือจุดที่สามารถแข่งขันได้ Strength ขององค์กรอยู่ที่ การเงิน ความเป็นผู้นำทางการตลาด ภาพพจน์ที่มีมานาน ความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ คุณภาพของวัตถุดิบ ทักษะของคนงาน ฯลฯ Opportunities.. คือโอกาสหรือช่องทางที่สามารถจะนำมาใช้เพื่อให้เป็นประโยชน์กับองค์กรหรือฉกฉวยโอกาสที่จะมีชัยเหนือคู่แข่งของเราได้ เช่น ส่วนแบ่งทางการตลาดที่ยังพอมีที่ว่างให้เราแทรกเข้าไป การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มากระทบจนคาดว่าว่าคู่แข่งต้องปรับตัว การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจจะพลิกสถานการณ์ทางการตลาดให้กับสินค้าของเราได้ Threat.. คือสิ่งที่ธุรกิจอยากหลีกเลี่ยงและไม่อยากพบพาน เพราะหมายถึงผลกระทบทางลบที่จะมีต่อการประกอบธุรกิจ เช่นภาวะถดถอยทางธุรกิจ การเข้าสู่ตลาดของคู่แข่งรายใหม่ๆ ซัพพลายเออร์หรือคู่ค้ามีอำนาจต่อรองมากขึ้น รวมถึงการออกกฎหมาย ข้อระเบียบการใหม่ๆ ของทางการ ซึ่งอาจสร้างกรอบ หรือข้อจำกัดในการประกอบธุรกิจให้เกิดขึ้นได้ Weakness.. หมายถึงจุดอ่อนหรือจุดเสียเปรียบ อันจะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน เช่น เงินทุน ความสามารถในการจัดการ หรือทักษะทางการตลาด หรือภาพพจน์ของสินค้า แค่นี้ก่อนนะลองวิเคราะห์ดูจริงๆก็ไม่ค่อยง่ายสักเท่าไหร่ Goodnight Jaee/ แจ้ ปล:ถึงท่านประธาน ผนส.3ผมขอเสนอให้จัดหรีดเคารพศพคุณพ่อภรรยาท่านอาจารย์จีระในนามรุ่นของพวกเราด้วยครับ ( เก็บเงินที่เจ๊จิ๋น)เพื่อนๆเห็นด้วยไหมครับ

                เรียน อาจารย์ และ สวัสดีครับเพื่อนผนส.รุ่น3ทุกท่าน   

      จากการดูงานภายในประเทศ ของสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด มีความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าสู่สหกรณ์ในครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วจาก 7 ปีที่แล้ว ที่ได้มีโอกาสไปดูงาน เห็นความแตกต่างหลายอย่าง ความเป็นผู้นำของท่านประธาน และผู้นำของผู้จัดการ ที่สำคัญสมาชิกที่มาติดต่อซึ่งต่างจากหลายปีก่อนที่ไปดู เพราะมีเย้ยมากจริงๆ  ซึ่งการดำเนินงานสหกรณ์สมาชิกสหกรณ์เป็นคนสำคัญอันดับที่ 1 หากมีสมาชิกมาใช้บริการมาก ถือว่าสหกรณ์นั้นประสบความสำเร็จไปแล้วเกินครึ่ง ที่เหลือเป็นการบริหารจัดการการให้บริการตามที่สมาชิกต้องการ

     จากการดูงานครั้งนี้ได้อะไรหลายๆอย่าง ที่สำคัญได้รู้จักพี่ๆเพื่อนๆผนส 3 เพิ่มมากขึ้น และได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้มากขึ้น ทีสำคัญตอนมีกิจกรรมตอนเย็น  สรุปการดูงาน ซึ่งการดูงานแล้วมาสรุปร่วมกันเลยเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะเหตุการณ์พึ่งผ่านมาใหม่ๆทุกคน สามารถสรุปได้ดี และที่สำคัญสรุปได้หลายประเด็น หลายความคิด การไปดูงานที่เดียวกันอาจจะเห็นต่างกันก็ได้

     และต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุน กิจกรรมกลางคืน(งานเลี้ยง)    ไม่ว่าหมูย่าง จากพี่อดิศักดิ์ ไก่ย่างจากประธานสูงเนิน ข้าวโพดหวานๆๆๆๆๆจากพี่อภิสิทธิ์ เหล้าจากพี่นัน(รุ่น2) และผนส3ทุกคนที่ให้การสนับสนุน

      การศึกษาดูงานครั้งนี้ถือว่าคุ่มค้าได้ทั้งความรู้ ประสบการณ์จากสถานที่ที่ไปดูงาน จากผู้ร่วมเดินทาง

    แล้ววันที่ 20 พบกัน ไม่รู้พี่จิ่น มีอะไรมาแจกอีกหรือเปล่า หรือว่าอาทิตย์นี้เก็บเงินอย่างเดียว

เรียนอาจารย์ และสวัสดีเพื่อนผนส.รุ่น3

โครงการไปศึกษาดูงานในประเทศวันที่ 4-6 กพ 52 ได้ประโยชน์และมีความประทับใจมากที่ไปดูบริษัทเอกชนที่มีการบริหารงานอย่างมีคุณธรรมเอื้ออาทรต่อชุมชนและดูแลคนในองค์กรอย่างเป็นธรรม สร้างความสัมพันธ์ที่กับลูกค้า

ดูที่สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด การบริหารจัดการก็ไม่แพ้กันเช่นกันถึงแม้ว่าจะเป็นองค์กรของเกษตรกรผู้บริหารรวมทั้งฝ่ายจัดการของสหกรณ์ก็มีวิสัยทัศน์กว้างไกลให้ความสำคัญกับสมาชิกสร้างความศรัทธากับสมาชิก มีเป้าหมายอย่างชัดเจนที่จะพัฒนาสหกรณ์ขอชื่นชมยินดีจริงๆ ค่ะ

ยัง..ไม่ทันหาเหนื่อยเลย เพราะพึ่งกลับจากเกาะสมุย..หลังจากที่ไปดูงานที่จังหวัดโคราช ผมและคุณสุทิศ ก็ต้องเดินทางไปที่เกาะสมุย เพื่อร่วมประชุม(สัญจร)ชมรม ผจก.และเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย แต่...อดคิดถึง ผนส.๓ ไม่ได้ จึงขอสรุปการไปศึกษาดูงาน ดังนี้

บ.สงวนวงษ์อุตสาหกรรมฯ จำกัด เป็นบริษัทที่เติบโตมาจากการสร้างสมประสบการณ์ โดยประธานบริษัท ยึดหลักคุณธรรม และจริยธรรม ปฏิบัติต่อเครือข่ายทางธุรกิจ ผูกมิตรสัมพันธ์กับชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม ยึดคุณภาพนำการตลาด แสวงหาโอกาสทางการค้า จึงกลายเป็นสุดยอดของบริษัทประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ซึ่งประธานบริษัทมีความเป็น"ผู้นำ" ท่านคิดแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน แต่ท่านทำแบบภูมิปัญญาชาวโลก

สกก.พิมาย จำกัด เป็นสหกรณ์ที่ผมชื่นชมและถือว่าเป็นสหกรณ์ต้นแบบของประเทศไทยอีกสหกรณ์หนึ่ง ผมเคยไปดูงานและติดต่อการค้าหลาย ๆ ครั้ง แต่..ครั้งนี้ สกก.พิมาย เปลี่ยนไปมากและยิ่งใหญ่กว่าเดิม ต้องขอแสดงความยินดีกับพี่ต้อย ที่จะได้บ้านหลังใหม่ ฉลองเมื่อไหร่อย่าลืมส่งข่าวให้ ผนส.๓ ร่วมงานด้วยนะครับ ทุกบทกวีของลุงอยู่ ยังก้องฝังตรึงในใจเสมอ กับบทบาทของ"ผู้นำ"ผู้ทำหน้าที่ประธานกรรมการสหกรณ์ ซึ่งบทกวีของท่าน เป็นเหมือนดังคำภีร์สหกรณ์ สอนสั่ง เปลี่ยนแปลงแนวความคิด สร้างศรัทธา ผูกจิตสำนึกให้แก่สมาชิกได้เป็นอย่างดี ในการดำเนินงานและการพัฒนาสหกรณ์โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตร ผู้ที่จะทำหน้าที่เป็น"ผู้นำ" ประธานกรรมการเป็นผู้นำสมาชิก และ ผู้จัดการ เป็นผู้นำฝ่ายจัดการ ประธานกรรมการและผู้จัดการ จะต้องนำพาสหกรณ์ไปในทิศทางเดียวกัน เพราะฉะนั้น ประธานกรรมการ และผู้จัดการ จึงจำเป็นต้องมี"ภาวะผู้นำ"

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์และเพื่อนพี่น้อง ผนส3

ขอเข้ามาทักทายก่อน ยังเหนื่อยอยู่เช่นเดียวกันเหมือนท่านทนงศักดิ์ เพราะ

เพิ่งกลับมาจากสมุยเมื่อเช้านี้เอง อิจฉาท่านสุทิศ คงได้กลับถึงบ้านได้เร็วกว่าเพราะอยู่

ใกล้กว่า ไปสมุยดีใจมากที่ได้เจอกับสาวใต้ ผนส2 หนุ่มใต้ด้วย ก็ได้ประสบการณ์จาก

การไปสัมนาในครั้งนี้ในหลายๆเรื่องที่คณะกรรมการชมรมนำมาเสนอ เสียดายที่ต้อย

พิมายซึ่งเป็นกรรมการชมรมไม่ได้ไปด้วยเพราะติดภาระกิจ ต้อนรับ ผนส3 และผนส3

ทุกท่านมีความมุ่งมั่นเป็นเลิศ โดยเฉพาะท่านประธานรุ่นอาจารย์บัญชา มีสปริตสูงมาก

เป็นกันเอง รวมทั้งอาจารย์ยม ท่าน ผอ.วิทย์ เช่นเดียวกันค่ะ

เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่กลับมาจากโคราชก็ไปสัมมนาต่อที่สุพรรณบุรีถิ่นกำนันบ้านนอกออกจากกรุงเทพประมาณ 7 โมงเช้าถึงสุพรรณบุรีประมาณ8.15น.ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงสิบหน้านาที เที่ยบกับกำนันบ้านนอกออกจากสันนิบาตสหกรณ์ตอนกลับจากโคราช 6 โมงเย็นถึงสุพรรณตีหนึ่งกว่าๆ เลยได้ข้อมูลใหม่ของรถ Benzของกำนันบ้านนอก รถยี่ห้อนี้ทำความเร็วได้ไม่สูงนัก หากพวกเราถ้าจะซื้อใช้ให้ตรวจสอบข้อมูลของรถยี่ห้อนี้กับกำนันบ้านนอกก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ..... ไปสุพรรรณเที่ยวนี้ก็เจอพี่ชวลีด้วยโลกกลมจริงๆ...ได้ไปพักที่ศูนย์สัมมนาสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานรถเมล์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (รหัส 27) บ้านหนองการ้อง ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ก็ได้ชื่นชมการก่อร่างสร้างตัวของสหกรณ์นี้มากมีการดำเนินการที่ดีสามารถเลี้ยงตัวรอดและสามารถทำกำไรโดยใช้หลักการบริหารแบบทุกคนมีส่วนร่วมพนักงานทุกคนมีงานในหน้าที่เกินสามอย่างทุกคน ยกตัวอย่างเช่น พนักงานต้อนรับเมื่อมายกกระเป๋าเสร็จก็ต้องไปช่วยในครัวเตรียมอาหารตอนเย็นก็มาเป็นเด็กเสริฟหรือต้องไปเป็นนักแสดงรำไทย ก็รู้สึกภูมิใจแทนสหกรณ์รถเมล์ที่มีการพัฒนาไปได้ไกลพอสมควรก็อยากเสนอพวกเราถ้ามีเวลาไปเยี่ยมเยียนดูงานที่นี่บ้างท่านประธาน(ชำนาญ)บอกว่ารับรองเต็มที่ สำหรับนักกอล์ฟที่นี่มีสนาม5หลุมพอได้เหงื่อได้สตางค์กลับบ้าน . ..กำนันบ้านนอกเจ้าถิ่นพาไปเที่ยวหน่อย จะได้ทดสอบรถกำนันด้วย

แค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกันฝันดี...แจ้

สวัสดีค่ะอาจารย์ และเพื่อนๆ รุ่น ผนส.3 ทุกท่าน

จากการสัมมนาร่วมกัน 3 วัน 2 คืน ที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับความรู้มากค่ะ ทุกคนมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการหรือความบันเทิง ซึ่งพอจะคาดหวังได้ว่า ในสถานการณ์อย่างไรก็ตามพวกเราชาวสหกรณ์ทั้ง 40 ชีวิต คงต้องช่วยกันนำพาสหกรณ์ของเราให้ประสบผลสำเร็จตามที่พวกเราตั้งใจไว้ทุกประการ

เพื่อนๆ ได้ลองทานข้าวที่สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด โดยลุงอยู่และคุณต้อยนำมาแจกให้หรือยังค่ะ อร่อยมากค่ะ ทานแล้วจะได้รู้จักคำว่า ข้าวมียางมีลักษณะเป็นอย่างไร

ในตอนเช้าวันนี้ได้รับข่าวจากเพื่อนที่อยู่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดจันทบุรีว่า ท่านสหกรณ์จังหวัดตราดที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี อาการไม่ค่อยดี และได้รับทราบว่า คุณหมอกิตตินันท์ได้มาเยี่ยมดูอาการอยู่เสมอ จึงขอขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ อาจารย์จีระค่ะการสร้างเครือข่ายของอาจารย์และของสันนิบาตสหกรณ์ฯ ถือว่าประสบความสำเร็จค่ะ

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณพ่อของภรรยาท่านอาจารย์จีระฯอาจารย์ใหญ่ของพวกเรา ก็ต้องขอรบกวนพีจิ๋นที่เคารพช่วยอนุเคราะห์เรื่องหรีดในนามรุ่นด้วยครับ

การไปดูงานที่โคราชครั้งนี้ได้รับประโยชน์ในทางวิชาการอย่างมาก ได้เห็นรูปแบบการบริหารแบบครอบครัวที่อยากเป็นสากล มีความตั้งใจสูงพยายามแก้ปัญหาของบริษัทด้วยวิธีการทางสากลเป็นมาตรฐานมากขึ้นแต่ไม่ละเลยการปฏิบัติต่อลูกค้าแบบคนจีน คือยึดมั่นในบุญคุณที่เรียกว่าบุญคุณต้องทดแทนมากๆหลายเท่า และผมเห็นว่าเจ้าของจะต้องมีความเชื่อว่าชาวไร่มันนี้ทำให้เขามีฐานะที่ดีขึ้น เขาจึงพยายามตอบแทนชาวไร่มันนี้อย่างเต็มที่ไม่เอารัดเอาเปรียบ คุณอยู่ได้ผมอยู่ได้ WIN WIN ทุกฝ่าย ยอดเยี่ยมจริง

สำหรับสกก.พิมายมีอะไรที่ผมประทับใจมาก เห็นการบริหารงานแล้วเกิดความทึ่งว่าสหกรณ์การเกษตรจึงมีอะไรที่ดีอย่างนี้ ทำให้ ธกส.จึงไม่ยอมปล่อยมือ เป็นสหกรณืที่มีประธานที่มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณของการเป็นนักสหกรณ์จึงสามารถบริหารสหกรณืได้เติบโตมากมาย และหากสหกรณ์แห่งนี้ได้รับการดูแลที่ดีมากขึ้นผมเชื่อว่าสมาชิกจะมีรายได้ที่ดีมากขึ้นตามไปด้วย เช่นมีเงินมาให้สมาชิกเขานำไปพัฒนาผลผลิตของตนก็จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สมบูรณ์ของโลก และสหกรณ์ก้จะสามารถนำเงินไปจัดการรับซื้อผลผลิตหรือขยายงานรับซื้อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นส่งผลให้รายได้ของสมาชิกสูงขึ้น กำไรของสหกรณ์มากขึ้น การจัดสวัสดิการให้สมาชิกได้มากขึ้นและครอบคลุม

ส่วนสุดท้ายคือความสัมพันธ์ในรุ่น3 นั้นผมเชื่อว่าเราทั้ง 40 คน รวมทั้งอาจารย์ยมและท่านผอ.วิทย์และเจ้าหน้าที่ ได้ทำความรู้จักกันมาขึ้น ละลายกำแพงของความเป็นตัวเองออกหมดแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่หลักสูตรมีพึงประสงค์ พวกเรามีความสุขสนุกสนานกัน ได้หัวเราะ คงเป็นความทรงจำที่ดีไปตลอดการอบรมและตลอดไป ต่อไปข้างจะมีแต่ความเป็นห่วงใยกันมากขึ้น มีการให้ความช่วยเหลือกันในทุกๆด้านของชีวิต เราจะเป็นผู้นำสหกรณ์ที่มีความรู้ มีทักษะในการจัดการบริหาร และมีเพื่อนผู้นำสหกรณ์ที่ยิ่งใหญ่ 40 คน ครับ

รักนะจะบอกให้

บัญชา

ข้อแนะนำในการดำเนินชีวิต

1.ระลึกเสมอว่า การจะได้พบความรักและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็ต้องประสบกับความเสี่ยงอันมหาศาลดุจกัน

2.เมื่อคุณแพ้ อย่าลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน

3.จงปฏิบัติตาม 3Rs

3.1 เคารพตนเอง (Respect for self)

3.2 เคารพผู้อื่น (Respect for others)

3.3 รับผิดชอบต่อการกระทำของตน (Responsibility for all your actions)

4.จงจำไว้ว่า การที่ไม่ทำตามใจปรารถนาของตนบางครั้งก็ให้โชคอย่างน่ามหัศจรรย์

5.จงเรียนรู้! กฎ เพื่อจะทราบวิธีการฝ่าฝืนอย่างเหมาะสม

6.จงอย่าปล่อยให้การทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย มาทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ของคุณ

7.เมื่อคุณรู้ว่าทำผิด จงอย่ารอช้าที่จะแก้ไข

8.จงใช้เวลาในการอยู่ลำพังผู้เดียวในแต่ละวัน

9.จงอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง แต่อย่าปล่อยให้คุณค่าของคุณหลุดลอยจากไป

10.จงระลึกไว้ว่า บางครั้งความเงียบก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด

11.จงดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อที่ว่าเมื่อคุณสูงวัยขึ้นและคิดหวนกลับมาคุณจะสามารถมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำลงไปได้อีกครั้ง

12.บรรยากาศอันอบอุ่นในครอบครัวเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต

13.เมื่อเกิดขัดใจกับคนที่คุณรัก ให้หยุดไว้แค่เรื่องปัจจุบัน อย่าขุดคุ้ยเรื่องในอดีต

14.จงแบ่งปันความรู้ เพื่อเป็นหนทางก้าวสู่ความเป็นอมตะ

15.จงสุภาพกับโลกใบนี้

16.จงหาโอกาสท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่คุณไม่เคยไป อย่างน้อยก็ปีละครั้ง

17.จำไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด คือความรักมิใช่ความใคร่

18.จงตัดสินความสำเร็จของตนด้วยสิ่งที่ต้องเสียสละ

19.จงเข้าใกล้ความรักด้วยการปล่อยวาง

ด่วนที่สุด

เรียน ประธาน ผนส.3 และ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ

หลังจากการศึกษาดูงาน 4-6 ก.พ.ที่นครราชสืมา 7-8 ก.พ.ไปสัมมนาต่อที่ สุพรรณบุรี เข้ามาอ่าน Blog วันนี้ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว

"ตัณฑเศรษฐี" โดยเฉพาะ "คุณหญิงกัลยา หงส์ลดารมภ์" ต่อการจากไปของบิดาผู้เป็นที่รักและเคารพยิ่ง มา ณ ที่นี้ ด้วยความเคารพ ในนามของ ผนส.3 จึงเรียนขออนุญาต(ดำเนินการแทน)นำพวงมาลาไปวางแสดงความเคารพและไว้อาลัยในนามของ

"ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่3" ในวันพรุ่งนี้ ณ วัดเทพศิรินทร์ ศาลา14 เนื่องจากวันนี้ศาลาปิด (งดสวด) คาดว่าเจ้าภาพกำหนดสวดพระอภิธรรมถึงวันที่ 14 ก.พ. ส่วนที่ว่าใครจะไปร่วมงานวันไหน นัดกันอย่างไร "เลขา" ช่วยประสานด่วนนะคะ ช่วยๆกันนะ

ขอบคุณและสวัสดีคะ

ปล. สั่งดอกไม้ไปตั้งแต่บ่ายแก่ๆ แล้วก็ออกไปธุระพึ่งจะกลับมารายงานคะ

อ้อ!แล้วก็ทำหน้าที่ส่งข่าวไปให้ "พี่ผนส.2"เค้าทราบด้วย จะได้ไปวางพวงมาลาพร้อมกันเลย

เรียน อาจารย์บัญชา

ที่ได้มอบหมายให้กุ้งสรุปข้อคิดเห็นของพี่ๆที่ได้จากการศึกษาดูงาน สัญญาว่าจะรีบจัดการให้เสร็จภายใน 2-3 วันนี้ค่ะ คิดถึงทุกๆคนนะคะ

กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

ฝากถึงคุณ TOD ด้วยครับ

หนังสือที่จะขอแจ้งการไปดูงานต่างประเทศของผม กรุณา FAX มาที่เบอร์ 039-311511 ด้วยครับ ขอบคุณครับ

เรียน ท่านอาจารย์ พพน.(เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ) ผนส.3

ควันหลงจากการไปดูงานที่โคราช ขอขอบคุณพี่จิ๋นเลขาผู้น่ารักที่อุตส่าห์ซักรีดเสื้อสีม่วงให้ทุกคนแม้จะป่วยอยู่ ผ้าพันคอเก๋ไก๋จากคุณต้อย หมูย่างคุณอดิศักดิ์ ข้าวโพดหวานคุณอภิสิทธิ์ ข้าวสารและเกลือจากสกก.พิมาย ขอบคุณ ๆ ๆ

เรียน สวัสดีครับท่านอาจารย์ และ ผนส.3 ทุกท่าน

กลับถึงบ้านลำปางแล้วได้ความรู้จากการศึกษาดูงานที่จังหวัดนครราชสีมามากงานแรกที่ไปดูบริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแป้งมันสำปะหลังที่ใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ ปัจจัยความสำเร็จของบริษัท มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม การรับซื้อสินค้าที่เป็นธรรม การมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชนและประชาชนพื้นที่ใกล้บริษัท มีสวัสดิการของพนักงาน การนำวัตถุดิบมาใช้คุ้มค่ากับการลงทุน ไม่ให้เหลือเศษเหลือใช้ยังมาทำปุ๋ยอีก ใช้วัตถุดิบคุ้มค่าจริงๆ

ที่ สกก.พิมาย จำกัด น่าจะเป็นสหกรณ์ตัวอย่างของ สหกรณ์ในประเทศไทย

ที่จะไปศึกษาดูงานในภาคเกษตรในภาพรวม สกก.พิมายถือว่าเป็นสหกรณ์ที่ดีมีระบบ

(แต่ยังไม่ได้เจาะเชิงลึกของแต่ละธุรกิจ)

ไว้เจอกันในวันที่ 20 /2/52 นะครับ

เรียน อาจารย์ พพน.ผนส.3

การไปดูงานโคราชได้ความรู้และประโยชน์มากมาย ขอขอบคุณจากใจทั้งแหล่งดูงานทั้งสาม คณะผู้จัด ทีมงานของ สสท.และพวกเราเองที่ทำให้ได้หัวเราะ ขอบคุณ ๆ ๆ

ถึง พพน.ผนส.3

คงมีควันหลงให้พูดกันได้อีกยาวกับคำศัพท์ใหม่ ๆ อาทิ คอของหมวยพี่หมอไม่เกี่ยว ดอกอะรูมีไร้ และอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่ผ่านเซ็นเซอร์

ต้องขอขอบคุณพี่ๆและทีมงานที่เลือกไปดูงานที่ สกก.พิมาย ซึ่งทำธุรกิจหลากหลาย และมีทรัพย์สินจำนวนมาก มีการบริหารงานที่เป็นระบบ โดยเฉพาะพี่ต้อยที่มีความมุ่งมั่นสูงมาก ท่านประธานก็เก่งมีแนวคิดแบบภูมิปัญญาชาวบ้านแต่สามารถนำพาสหกรณ์ให้ไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย

ขอขอบคุณพี่นก (หมูย่าง 2 ตัว ) คุณอภสิทธิ์และผจก. (ข้าวโพด) ข้าวหอมมะลิ,เกลือ,ผ้าพันคอจากพี่ต้อย และดีใจที่พี่จิ๋นหายป่วยได้ร่วมสนุกกับพวกเรา นอกจากจะได้รับความรู้แล้ว ยังได้ย้อนเวลากับไปสู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น และได้รับคำศัพท์ใหม่ๆหลายคำ ขอขอบคุณจริงนะคะ

เรียน ผนส. 3 ทุกท่านครับ

         ผมได้โหลดไฟล์แบบเสนอโครงการ และคู่มือการปฏิบัติงานของสกก.พิมาย ขึ้นแล้วตาม Link น่ะครับ

http://gotoknow.org/file/todschanin/Project.doc

http://gotoknow.org/file/todschanin/Pimai1.doc

         สำหรับ ไฟล์ข้อมูลบริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม และสกก.พิมาย ที่เป็น Presentation และ VDO ไม่สามารถ upload ขึ้นได้เพราะไฟล์ใหญ่เกินไป หาก ผนส. 3 ท่านใดต้องการให้นำ drive มา save ได้นะครับ 

         ผนส.3 บางท่านที่ไม่ได้ไปศึกษาดูงานภายในประเทศครั้งนี้ ท่านอาจารย์ยม ให้ส่ง Peper สรุปเกี่ยวกับการศึกษาดูงานทั้ง 3 แห่ง โดยใช้ข้อมูลสถานที่ดูงานและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ประกอบน่ะครับ

         บรรยากาศโดยรวมบางภาพเอาเป็นน้ำจิ่มไปก่อนครับ

                 ระลึกถึงน้าชาติ                                                   

 ประชันความสวยความหล่อกันที่ลำตะคอง

 ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ดูงานบริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม

 

มากราบเท้าย่าโมกัน

 

ประชันความหล่อ

  ข้าวกะเกลือ พิมายเขาละ

 

 

เครียดๆๆๆๆๆ

 

                กราบเท้าย่าโม...ขอให้เราได้แต่งงานกันเถ้อะ...สาธุ....

 

       สำหรับกำหนดการสถานที่ดูงานที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งนะครับ

"ต๊อด"

ขออภัยท่าน ผนส. 3 และผู้มีเกียรติทุกท่าน รูปไม่ทันได้ปรับขนาด มือไวไปหน่อยครับ ขอโทษจริงๆๆ ครับ

"ต๊อด"

บอกเล่าข่าวสหกรณ์...

        วันที่ 26  กุมภาพันธ์  "วันสหกรณ์แห่งชาติ" สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า  จำกัด จังหวัดชัยภูมิ จัดงานวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2552  เชิญชม..นิทรรศการการประมูล การประกวดพระเครื่อง พระบูชา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ,การแข่งขันกีฬาฟุตบอล ฟุตซอล ,การประกวดแด๊นเซอร์  เลือกซื้อสินค้าโรงงาน สินค้าเกษตร สินค้าสหกรณ์ผู้ผลิต พบผู้บริโภค ฯลฯ

        ผนส.3 ท่านใดสนใจมาเที่ยวชม พักค้างที่โค-ออป อินน์(โรงแรมสหกรณ์)บริการฟรี  หรือต้องการสนับสนุนกิจกรรม  ติดต่อ...อู๊ต ทนงศักดิ์  081 265 2880  ครับผม

เรียน ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง ทุกท่านทุกรุ่น

ผมขอแจ้งข่าวมายัง ผนส.ทุกท่านว่า สันนิบาตสหกรณ์ฯ โดยท่านประธานฯ สันนิบาตสหกรณ์ ในฐานะประธานผนส.รุ่น 1 ได้มอบหมายให้สถาบันฯ ประสานงานกับท่านอาจารย์ ดร.จีระ ว่า ทางสันนิบาตสหกรณ์ฯ ร่วมกับ ผนส.ทุกรุ่น (รุ่น 1-3) จะขอเป็นเจ้าภาพร่วมในงานสวดพระอภิธรรมศพ บิดาของคุณหญิงกัลยา หงส์ลดารมภ์ (พ่อตาท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์) จึงขอแจ้งข่าวให้ทราบโดยทั่วกัน และขอเรียนเชิญผนส.ทุกท่าน ร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 ณ วัดเทพศิรินทร์ ศาลา 14 เวลา 18.30 น.

วิจิตร จะโรจร

เรียน ท่านอาจารย์ และผนส.2 ทุกท่าน

ผมรู้สึกได้ว่าการไปศึกษาดูงานครั้งนี้ ได้สร้างความประทับใจในหลาย ๆ มิติ ทั้งในด้านความรู้ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รู้จัดตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนมากขึ้น ก็คิดว่าได้ทั้งความรู้และประโยชน์ที่จะนำมาปรับใช้ต่อไป ผมขอบคุณทีมงานสถาบัน ขอบคุณท่านกรรมการบริหารโครงการ ได้แก่ ท่านอาจารย์ยม นาคสุข และท่าน ผอ.วิทย์ ประทักษ์ใจ และขอบคุณกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท ประธานฯ สกก.สูงเนิน จก และในฐานะ ผนส.รุ่น 1 และพี่ธญา โบว์สุวรรณ ผจก.สกก.ครบุรี จก.ผนส.รุ่น 2 ที่ได้ให้การต้อนรับคณะ ผนส. 3 เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ ต้องขอบคุณบริษัท สงวนอุตสาหกรรม สหกรณ์การเกษตรพิมาย จก. ที่ให้การต้อนรับคณะ ขอบคุณหลาย ๆ ขอให้มั่งให้มี อยู่ดีมีแฮง อยู่แดงมีฮี เด้อครับพี่น้อง.. คนบ้านเฮา..คนบ้านเดียวกัน

เรื่องดูงานต่างประเทศกรุณาทำหนังสือถึงประธานสหกรณืออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวงเพื่อขออนุญาตผู้ว่าการ(ขอด่วนด้วยครับ)และรบกวนแนบตารางการเรียนรวมกิจกรรมทั้งหมดไปด้วยครับ

ขอบคุณหลายเด้อ....พี่แจ้

พพน.ผนส.3

เมื่อวานใส่ตำแหน่งพี่จิ๋นผิด ขออภัย ต้องเป็นเหรัญญิกผู้น่ารักที่ซู๊ด.. แต่ท่านประธานรุ่นและท่านเลขารุ่นก็น่ารักไม่แพ้กัน สรุปว่าไม่ผิดหวังที่เลือกมา

การไปดูงาน ผนส. 3 วันที่ 4-6 ก.พ.2552 มีประโยชน์มากทั้งทางตรงและ

ทางอ้อม ซึ่งการใด้ไปดูงานทั้งภาคเอกชนและภาคสหกรณ์ จะเห็นได้ทั้งความแตกต่างและความเหมือน หลายแง่มุมซึ่งต้องขอขอบคุณทั้งสามแห่งที่ให้ดูงานและถ่ายทอดประสบการณ์โดยเฉพาะพี่ต้อยต้องของคุณเป็นพิเศษเพราะถ่ายทอดให้น้องมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ส่วนในทางอ้อมทำให้มีความคุ้นเคยกันมากขึ้นในรุ่น ในอนาคตอาจมีการเชื่อมโยงเครือข่ายกันในรุ่นได้

ฝากถึงพีจิ๋นหายป่วยดีหรือยังพบกันวันที่ 20 นี้คงได้ยินเสียงพื่เหมือนเดินนะคะ

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ

ขอเชิญชวนไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ บิดาของคุณหญิงกัลยา หงส์ลดารมภ์ (พ่อตาท่านอาจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์) ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 ณ วัดเทพศิรินทร์ ศาลา 14 เวลา 18.30 น.นครับ

ส่วนผมมีประชุมใหญ่สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯจะผ่านดีหรือไม่พรุ่งนี้รู้ ฝากผนส.รุ่น 3 ทุกท่านที่ว่างไปร่วมงานนะครับ ผมขอโทษจริงๆ ส่วนหรีดนั้นพี่ชวลีที่น่ารักที่สุดของผมได้ดำเนินการแล้วครับ ต้องขอบคุณจริงๆ

รักทุกคน

บัญชา

• โลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มี อะไรได้มา ฟรี ๆ

ของ ฟรีไม่เคยมี ของ ดีไม่เคยถูก

• อยู่ให้ ไว้ใจ ไปให้ คิดถึง

• คน เราต้องเดินหน้า เวลา ยังเดินหน้าเลย

• ไม่ต้องสนใจ ว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้ จับหนูได้ก็พอ

• ยิ่งมี ใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่ เยือกเย็น

• ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า } แน่นอน~

• คนเรา เมื่อ ตัวตาย ก็ต้องลงดิน

• ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย

• อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา

• พักได้ แต่อย่าหยุด

• เหตุผล ของ คน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของ คน อีก คน หนึ่ง

• ถ้าไม่ลอง ก้าว จะ ไม่มีวันรู้ ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร

• หนทาง อันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้อง เริ่มต้นด้วยก้าวแรก ก่อนเสมอ

• ปัญหา ทุกอย่าง อยู่ที่ ตัวเรา ทั้งสิ้น

• จะเห็นค่า ของความอบอุ่น เมื่อผ่าน ความเหน็บหนาว มาแล้ว

• อันตราย ที่สุดคือ การคาดหวัง

• เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย

• อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่

• จง ใช้สติ อย่าใช้อารมณ์

• เบื้องหลัง ความเข้มแข็ง สมควรมี ความอ่อนโยน

• ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ

• ยินดี กับสิ่งที่ได้มา และ ยอมรับ กับสิ่งที่เสียไป

• หลังพายุ ผ่านไป ฟ้า ย่อม สดใส เสมอ

• หลังผ่าน ปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้น เล็กนิดเดียว

• ไม่เป็น ขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็น คนไม่ได้

• มีแต่ วันนี้ ที่มีค่า ไม่มี วันหน้า วันหลัง

• เมื่อวาน ก็สายเกินแล้ว พรุ่งนี้ ก็ สายเกินไป

• อย่าหวัง ว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก

เพราะคนที่ คุณรัก ไม่ได้ รักคุณ หมดทุกคน

• เพื่อนทั่วไป ไม่เห็นคุณร้องไห้

เพื่อนแท้ มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้

เพื่อนทั่วไป ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ

เพื่อนแท้ จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงานเพื่อนทั่วไป คาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ

เพื่อนแท้ คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป

เพื่อนทั่วไป เข้าหาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากเรา

เรียน ผนส. 3 ทุกท่าน ครับ

         ที่ผมได้ post กระทู้ที่ 322 เมื่อ อ. 10 ก.พ. 2552 @ 16:59 1121804 เป็น Link แบบเสนอโครงการของอาจารย์ยม ที่ link http://gotoknow.org/file/todschanin/Project.doc

ขอแก้ไขเป็น link ใหม่ น่ะครับที่.....

http://gotoknow.org/file/todschanin/Projectfrom.doc

          สำหรับ file Presentation ของ สกก.พิมาย และ VDO Presentation ของ บริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม file ใหญ่เกินกว่าที่จะupload ขึ้นได้ครับ ผนส.ท่านใดต้องการมา save ข้อมูลได้ตอนมาเรียนน่ะครับ

          รูปและหนังสือเดินทางให้ส่งด่วนเลยนะครับ ส่วนหนังสือขออนุญาตแจ้งมา 6 ท่าน ดำเนินการให้แล้วน่ะครับมารับวันเรียน หรือหากต้องการด่วน กรุณาแจ้งเบอร์ fax ที่สะดวก ให้ด้วยน่ะครับ

------------------------------------------

ไหนๆ ก็จะถึงวันแห่งความรักแล้วครับ ข้าผู้น้อยฯ ขอแจม "ความลับ-ความรัก" ล่าขานสักคนน่ะครับ

"ความลับ...มักสีดำ

ความรัก...จำสีชมพู

ความลับ...กระซิบข้างหู

ความรัก...รับรู้ด้วยใจ

ความลับ...มีวางแผน 

ความรัก...กี่หมื่นแสนยังยิ่งใหญ่

ความลับ...บอกแล้วไม่ลับอีกต่อไป 

ความรัก...ฟังเมื่อไหร่ก็งดงาม

ความลับ...ฟังแล้วยังสงสัย

ความรัก...ไม่ต้องมีคำถาม

ความลับ...หากเก็บดีแค่นิยาม

ความรัก...ไม่จำกัดความให้สับสน

ความลับ...ไม่บอกให้ใครรู้

ความรัก...ได้ฟังอยู่ก็สุขล้น

ความลับ...มีมากจะวกวน

ความรัก...มีในใจใครสักคน...ก็เพียงพอ"

สุขสันต์วันแห่งความรักครับ

ด้วยจิตคารวะ

"ต๊อด"

ใครทราบอีเมลล์อาจารย์บัญชาบ้างคะ พอดีกุ้งไม่ได้เอานามบัตรติดมาวันนี้ กุ้งจะส่งการบ้านจากการศึกษาดูงานให้อาจารย์บัญชาตรวจก่อนเอาขึ้นบล็อคค่ะ

13กพ2500 ขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชลาภิรมย์ ที่ได้สมาชิกใหม่ที่ชื่อ ดช.บัญชา ชลาภิรมย์ เข้ามามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบตรัว ขอให้ดช.บัญชา มีความสุขคิดสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้น คิดทองให้ได้ทอง คิดเงินให้ได้เงิน คิดกิ๊กให้ได้กิ๊ก ขอให้บัญชาจงเจริญๆๆ...เอ้า,,,,,

ด้วยความจริงใจ....แจ้

      เรียน อาจารย์ และผนสรุ่น 3 ทุกท่าน

       วันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมในบล็อก หลังกลับจากดูงานวันก่อน เดินทางต่อไปเกาะสมุย หลังจากกลับจากเกาะสมุยมีประชุมทุกวันเลย เตีรยมงานวันสหกรณ์แห่งชาติ จังหวัดสงขลามีการจัดร่วมกันทุกสหกรณ์ทุกประเภทสหกรณ์ มีข้าราชการมาร่วมด้วย จัดวันที่ 26 ณ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ ผมรับปิดชอบด้านกีฬา

     และพรุ่งนี้มีการประชุมประจำเดือนสหกรณ์ หลังจากนั้นวันที่ 16-18 นี้ ต้องไปอบรมที่สันนิบาตรโครงการกรมส่งเสริมสหกรณ์

   อบรมเสร็มคงจะไม่กลับสงขลา รออบรมผนส.วันที่ 20-21เลย สำหรับอีเมลล์อาจารย์บัญชา [email protected] และของคนอื่นๆผมเคยส่งไปให้แล้ววันก่อน ตามบัญชีรายชื่อ ไม่ทราบได้รับทุกคนหรือเปล่า แต่มีข้อมูลผิดพลาดอยู่ ไปเรียนครั้งนี้จะขอณรงค์ใหม่ แล้วจะส่งให้ใหม่

ผนส.3 ศึกษาดูงาน ณ จ.นครราชสีมา

ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่นที่ 3 นำโดย อ.ยม  นาคสุข  กรรมการบริหารโครงการ    นายวิทย์  ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการโครงการ  รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ ประธานรุ่นฯ  นำคณะผู้นำสหกรณ์ ศึกษาดูงาน ณ  จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา   

การศึกษาดูงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาอบรมในโครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตร ผู้นำสหกรณขั้นสูง รุ่นที่ 3  โดยทำการศึกษาดูงาน ณ บริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด  อ.เมือง จ.นครราชสีมา  ศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด อ.พิมาย จ.นครราชสีมา  และศึกษาดูงาน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาของชาวบ้าน  สหกรณ์กสิกรรมไร้สารพิษในเขตปฏิรูปที่ดินอำเภอวังน้ำเขียว  จำกัด  อ.วังน้ำเขียว  จ.นครราชสีมา

ถึง พพน.ผนส.3 ทุกท่าน

ไม่ทราบว่าเห็นเหมือนกันไหมว่าพวกเราในรูปดูดีมากเลย ทุกคนท่าทางมีความสุขและสนุกสนาน

เรียน อาจารย์ .ผนส.3 ทุกท่าน

ปกติก็ดูดี และน่ารักอยู่แล้วครับพี่

แล้วอาทิตย์ที่จะถึงนี้ แต่งกายอย่างไร มีเสื้อรุ่นหลายตัว หากมีการกำหนดการใส่เสื้อน่าจะดี และดูแล้วสวยงาม

เรียน ท่านอาจารย์ และ ผนส.รุ่น3 ทุกท่าน

ได้รับข่าวสารจากคุณณรงค์ ยี่หวา ขอเลื่อนการไปดูงานที่ประเทศจีนวันไปและวันกลับ จากวันที่ 2 มี.ค 5 เลื่อนเป็นวันที่ 3 มี.ค 52 ไม่ทราบว่า ท่าน ผนส.รุ่นที่3 มีความคิดเห็นอย่างไร

กุ้งไม่มีปัญหาค่ะ ไปวันไหนกลับวันไหนก็ได้ ห่วงแต่พี่ๆบิ๊กบอสน่ะสิคะ เดี๋ยวจะเคลียร์งานไม่ลงตัว ยังไงก็ขอให้ราบรื่นนะคะจะได้ไปศึกาดูงานอย่างมีความสุข

สุขสันต์วันเกิดท่านประธานรุ่น ผนส.3 ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

รักนะ...เด็กโง่

ต้อยก็ไม่มีปัญหาค่ะ ไปวันไหนก็ได้ไม่ขัดข้อง เพื่อนๆเขียนโครงการเสร็จหรือยัง ต้อยยังไม่ได้เริ่มทำเลยเพราะงานยุ่งมาก อาจารย์ให้ส่งวันไหนช่วยบอกด้วย เจอกันวันที่ 20ก.พ.นะคะ

ขอให้ท่านประธาน ผนส.๓ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทนทาน มีความสุขตลอดไป ฉลองวันเกิดวันนี้ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ก็พอ อีก ๒๐ เปอร์เซ็นต์เก็บไปฉลองที่สันนิบาตฯวันที่ ๒๐ กพ.นะครับ..ท่านประธานที่เคารพ

เห็นภาพที่พวกเราไปศึกษาดูงานครั้งนี้ ทุกคนได้รับองค์ความรู้กันถ้วนหน้า ต่างก็มีรอยยิ้ม มีความสุข และมิตรภาพที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะงานเลี้ยง คาวบอย ไนท์ ที่วังน้ำเขียว ชื่นมื่นเสียจริง ๆ เสียดายเครื่องเสียง และงานเลี้ยงเวลาสั้นไปหน่อย แต่ต้องขอขอบคุณผ้าพันคอจากพี่ต้อย ข้าวโพดหวานจากนายกอภิสิทธิ์ หมูหันจากท่านอดิศักดิ์ และลีลา ท่าเต้น เสียงเพลงจากทุกท่าน

สุขสันต์วันเกิดท่านประธาน ผนส รุ่น 3 ด้วยคนนะคะ ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ เห็นด้วยกับพี่ทนงศักดิ์ค่ะ อีก 20 เปอร์เซนต์ให้ไปฉลองวันที่ 20 กพ น้องๆจะได้อานิสงฆ์ (กินฟรี)ไปด้วย ปล.สุขสันต์วันวาเลนไทน์ด้วยนะคะ พี่ๆทุกคน

ในวันแห่งความรักขอส่งความสุขถึง ผนส. รุ่น 3 ทุกคน

และสุขสันต์วันเกิดท่านประธาน ผนส. รุ่น 3 ให้มีความสุขกาย สบายใจ

ปราศจากโรคภัยทั้งปวง

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ และผนส 3 ทุกท่าน

กลับจากโคราชแล้วมีภารกิจมาก หาเวลาเข้าบล็อก ยากจังเลย แต่พอได้เข้ามาแล้วเห็น ผนส ของเราได้ติดต่อสื่อสารถึงกันมากมายแล้วรู้สึกซึ้งใจจริง ๆ โดยเฉพาะท่านประธานบัญชาของเราได้เนื้อหาสาระมากเลย สมัยหน้าขอสนับสนุนให้ลงผู้ว่า กทม.ตวยเน้อ

ได้ไปเห็นความเจริญของโคราชแล้วทำให้รู้สึกว่าประเทศไทยของเรามีของดีมากมายจริง ๆ แม่ย่าโมสร้างท่านประธานอยู่ให้คู่กับผู้จัดการต้อย ไปด้วยกันได้ดีอย่างนี้แล้วสกก.พิมายจะไม่โตได้ไงครับ เสร็จจากพิมายต่อด้วยวังน้ำเขียวเห็นโครงการปลูกผักปลอดสารพิษของจริง ปลอดจริง ๆ ทอสอบแล้วปลอดภัยทุกคน

นอกจากได้สาระจากการดูงานแล้วยังสนุกสนานไปกับคณะทัวร์อีก สนุกจริง ๆ ท่านคุณหมอสูติยังได้ให้ความรู้ใหม่ ๆ หลายอย่าง เช่น “คลอดไหล่” ผมจำได้แม่นครับ

พรุ่งนี้ 14 ก.พ. วันแห่งความรักขอมอบดอกกุหลาบสีแด๊งแดง แด่ทุกท่านคนละหนึ่งดอก ขอให้มีคนรักเยาะ ๆ และรักนาน ๆ นะครับ

กำหนดการไปดูงานเมืองจีนเลื่อนจากเริ่มวันที่ 2 เป็นวันที่ 3 ได้รับทราบแล้วไม่มีปัญหาครับ ก็ดีครับจะได้มีเวลาหาสตางค์อีกวันหนึ่ง

สุขสันต์วันเกิดนะคะท่านประธานบัญชา ขอให้เป็นที่รักของทุก ๆ คนนะคะ เห็นด้วยกับน้องกุ้งและคุณทนงศักดิ์ ที่ว่า อย่าลืมเก็บมาฉลองวันเกิดร่วมกับเพื่อนในรุ่น ผนส 3 ด้วยนะ และในโอกาสนี้ของส่งความรักพร้อมช่อกุหลาบแดงในวันวาเลนไทน์ด้วยนะคะ

คิดถึงทุกคนค่ะ

โครงการของอาจารย์ยม มีแล้วแต่ยังไม่ได้กรอกใส่ในแบบฟอร์ม ช่วงนี้ก็มีงานมากประเภทงานด่วนทั้งนั้น งานนอกแผน แต่ก็ดีใจที่เจ้านายให้ความไว้วางใจให้ทำ

รักนะ.....จุ๊บ จุ๊บ

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมามีผู้แทนไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ บิดาของคุณหญิงกัลยาฯ สำหรับรุ่น 3 มีพี่น้อย (ชวลี) คุณติ๊ก (อรพรรณ) คุณราตรี และพี่จิ่น คะ ทีแรกนึกว่าจะกลับมาจากระยองไม่ทัน แต่เผอิญที่สัมมนาเลิกเร็วก็เลยได้มีโอกาสไปร่วมงาน ด้วย อาจารย์จิระ ฝากขอบคุณมายังรุ่น 3 ด้วยและยังพุดอีกว่า I am very pround of you.

Happy Birthday ท่านประธาน บัญชา ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง

คิดสิ่งใดขอให้สมปราถนา

และในโอกาส valentine นี้ของส่งความรักให้เพื่อนๆทุกคน

ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุข love everybody ^o^

Ti amo

    เรียน อาจารย์ .ผนส.3 ทุกท่าน

       สุขสันต์วันเกิดท่านประธานบัญชา ขอให้มีความสุข สมหวัง ในชีวิตและหน้าที่การงาน ตลอดจนครอบครัว

     เห็นด้วยกับทนงศักดิ์ และคนอื่นๆว่า มาฉลองวันเกิดร่วมกับเพื่อนในรุ่น ผนส 3 ในวันที่ 20 เห็นด้วยไหมพี่จิ๋น ถ้าเห็นด้วยช่วยเก็บเงินด้วย

       และในโอกาสวันวาเลนไทน์ขอส่งความรักพร้อมดอกกุหลาบแดงให้แก่ผนส ทุกคน

        สวัสดีครับ

ธญา โบสุวรรณ์ ผนส2หลานย่าโม

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์และท่านผู้นำ ผนส3

อาจจะช้าไปนิดที่เข้ามารู้ข่าวประธารรุ่น3 สุขสันต์วันเกิด13ก.พ และมีความรักและ

ความอบอุ่นให้ผู้อื่นเสมอตลอดกาลตลอดไปนะคะ

สุขสันต์วันวาเลนไทน์ 14 ก.พ 52 แด่ ชาว ผนส3 ขอให้มีความรักความสุข

สมหวังทุกสิ่งทุกอย่างที่ปราถนานะคะ

ขอให้เพื่อนๆ ผนส3 ทุกคนจงมีความสุขในวันวาเลนไทน์นะคะ และอวยพรให้ท่านประธานรุ่น ผนส3 จงประสพสิ่งที่สุขที่สุดในชีวิตคือสุขภาพแขงแร็งและมีความสุขมากๆนะคะ

สุขสันต์วันเกิดท่านประธานบัญชา ขอให้มีความสุข ขอให้แขง ขอให้แร็ง ขอให้ได้ของถูกใจ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ 14 ก.พ 52 แด่ ชาว ผนส3 ความรักแท้ ต้อง อดทน คาถาบูชาเมีย

รักเมียต้องอดทน ต้องเป็นคนเคารพเมีย

รักเมียต้องส่งเสีย อย่าให้เมียต้องสงสัย

รักเมียต้องรักเดียว อย่าได้เที่ยวไปรักใคร

รักเมียต้องทำใจถึงอย่างไรเธอก็เมีย

รักเมียอย่าขี้เหล้า ถ้าเมียเหงาเราจะเสีย

รักเมียอย่าอ่อนเพลียคนรักเมียต้องแข็งแรง

รักเมียอย่าเที่ยวดึก จะเกิดศึกผิดสำแดง

รักเมียอย่ารุนแรง ค่อยๆแซงอย่าขับไว

รักเมียต้องยอมเมีย เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร

รักเมียต้องเข้าใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย

รักเมียอย่าเถียงเมีย คำพูดเมียใหญ่กว่าใคร

ชาติหน้ามีฉันใด จงจำไว้อย่ามีเมีย

พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ

ผมขอขอบคุณในไมตรีจิตรของทุกท่าน พรที่กรุณามอบให้ผมทำให้ผมรู้สึกได้ทันทีว่าพวกเรา ผนส รุ่นที่ 3 นั้นมีแต่ความรักและเมตตาต่อผม ผมขอจดจำความปรารถนาดีที่ พวกเรามอบให้ผมตลอดไป และหวังว่า พวกเราจะมีแต่ความปรารถนาดีให้ต่อกัน ห่วงใยซึ่งกันและกัน เป็นปฎิญญาที่กำกับให้พวกเรา ผนส.รุ่นที่ 3 พร้อมจะเป็นผู้นำสหกรณ์ที่มีคุณภาพ เอื้ออาทรต่อผู้อื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และปาวารณาตัวรับใช้แผ่นดินต่อไป นานเท่านาน

พบกันวันที่ 20 กพ.นี้ นะครับ

1) Answer the phone by LEFT ear.

ฟังโทรศัพท์โดยใช้หูซ้าย

2) Do not drink coffee TWICE a day.

อย่าดื่มกาแฟถึง 2 ครั้งต่อวัน

3) Do not take pills with COOL water.

อย่ากินยาพร้อมกับน้ำเย็น (ใส่น้ำแข็ง)

4) Do not have HUGE meals after 5pm.

อย่ากินอาหารมื้อใหญ่ หลังจาก 5 โมงเย็นไปแล้ว

5) Reduce the amount of OILY food you consume.

ลดปริมาณอาหารประเภทไขมัน ลงจากที่เคยกินซะบ้าง

6) Drink more WATER in the morning, less at night.

ดื่มน้ำให้มากในตอนเช้า และลดน้อยลงในตอนกลางคืน

7) Keep your distance from hand phone CHARGERS.

อยู่ห่าง ๆ จากการชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือ

8) Do not use headphones/earphone for LONG period of time.

อย่าใช้อุปกรณ์หูฟังเป็นเวลายาวนาน

9) Best sleeping time is from 10pm at night to 6am in the morning.

เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนอนพักผ่อน คือ 22.00-06.00 น.

10) Do not lie down immediately after taking medicine before sleeping.

อย่าล้มตัวนอนทันทีหลังจากกินยาก่อนนอน

11) When battery is down to the LAST grid/bar, do not answer the phone as the radiation is 1000 times.

เมื่อโทรศัพท์เหลือแบตเตอรี่ถึงขีดสุดท้าย , พยายามอย่าใช้เพราะมันจะมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าถึง 1000 เท่าตัว

สวัสดีค่ะเพื่อน ผนส.3 ทุกท่าน

วันที่ 20 ก.พ. นี้อย่าลืมเตรียมสตางค์ไปจ่ายค่าชุดสูท ให้กับพี่น้อยด้วยนะคะช่วงเข้าอาจจะไม่ได้เข้าเรียนเพราะมีประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ แล้วพบกันช่วงบ่ายนะจ๊ะคิดถึงนะตัวเอง

ถึงล่าช้า แต่จริงใจนะคะ Happy Birth Day to Dr. Bancha Ph.D Candidate และ Happy Valentine Day to My Friends (ผนส.3 ทุกคน)

นอกจากนี้ ขอบคุณพี่จิ๋น และท่านปรีชา ที่ส่งภาพ และข้อคิดน่ารักมาให้นะคะ

ข่าวด่วน !! ...ม๊อบชาวนากดดันรัฐบาล

      ตามที่มีม๊อบชาวนา หรือกลุ่มเกษตรกร เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย กำลังเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลอนุมัติเงินหลายหมื่นล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน ที่สถาบันการเงิน หรือสหกรณ์การเกษตรกำลังฟ้องดำเนินคดี ยึดทรัพย์ขายทอดตลาด อยู่ขณะนี้  ในฐานะที่ผม เป็นผู้แทนเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  เป็นกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.)  และเป็นคณะกรรมการจัดการหนี้  ไม่ได้อยู่เบื้องหลังม๊อบนี้นะครับ  แต่ยอมรับว่า เกษตรกรมีหนี้สินเยอะมาก การแก้ไขต้องใช้เวลา ผมพยามนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อให้ กฟก. เร่งจัดซื้อหนี้จากสหกรณ์การเกษตรให้เสร็จสิ้น 31 มีนาคม 2552 ตามบัญชีรายชื่อที่ผ่านการตรวจสอบรับรองจากกรมตรวจบัญชีและกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์การเกษตรส่วนใหญ่ยินดีร่วมมือกับ กฟก. ปัญหาที่เกิดขึ้นมิได้เกิดจากสหกรณการเกษตร แต่เกิดจากปัจจัยอื่นใน กฟก.  

     

เสียดายที่ไม่อยู่หลายวันไปสัมมนาที่ ชะอำ เพิ่จะมาเข้า blog ขออวยพรย้อนหลังนะคะ

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้ อาจารย์บัญชามีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนหมื่นๆปีนะคะ และสุขสนต์วันวาเลนไทม์เพื่อนๆ ผนส.3 ย้อนหลังค่ะ

เรียน อาจารย์ และพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่าน

ผมไม่ได้เข้าดู blog เสียหลายวัน เนื่องจากมีภารกิจทั้งงานที่สำนักงานและที่บ้าน โดยได้ไปเยี่ยมชมสหกรณ์หลายแห่ง ทั้งสหกรณืโคนมที่สระบุรี สหกรณ์การเกษตรที่ควนขนุน พัทลุง สหกรณ์ออมทรัพย์ที่หาดใหญ่ มีความหลากหลายในการบบริหารจัดการสหกรณ์ แต่ที่ได้รับทุกสหกรณ์มีเป้าหมายเดียวกันอยู่ที่ทำให้สมาชิก มีความพึงพอใจในการเข้าใช้บริการจากสหกรณ์ จนถึงการมีศรัทธาในตัวสหกรณ์ ทุกสหกรณ์มีการพัฒนาก้าวหน้าไปมาก แต่ทำไมมักมีคำกล่าวอ้าง สหกรณ์ไม่เจริญทั้งที่ตั้งมาหลายปีแล้ว

แม้ผมเองยังต้องศึกษา หาความรู้เพิ่มเติม เพื่อตามขบวนสหกรณ์ให้ทัน รวมการได้เข้าอบรมรุ่นนี้ แล้วจะเข้าชมให้ได้ทุกวัน

ขอคิดด้วยคนกับคุณทศเทพ ทำไม่มักมีคำกล่าวอ้างว่าสหกรณ์ไม่เจริญ น่าจะเกิดจาก

- คนในองค์กรขาดการเรียนรู้ในทุก ๆ ด้าน

- ขาดความจริงใจ แสวงหาแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่คำนึงถึงองค์กร คนเห็นแก่ตัว

- เกิดจากความไม่พร้อมของคน ถูกบังคับให้เกิด จึงไม่แข็งแรง

แต่ผู้นำสหกรณ์รุ่น 3 ของเราถ้านำสิ่งดี ๆ จากการได้เข้าอบรมในครั้งนี้ คิดว่าคงไม่นานเกินรอ ที่เราจะมีสหกรณ์ที่ดี ๆ และนำความเจริญมาสู่มวลสมาชิกและประชาชนทั่วไปได้อดทนอีกนิดนะ เราชาวสหกรณ์

        เรียน อาจารย์ และผนส 3  ทุกท่าน
          วันนี้มาอบรมการจัดทำเว็บไซต์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ อบรม 3 วัน วันนี้เป็นวันแรกของการอบรม มีประโยชน์มากอบรมแล้วสามารถนำไปใช้ได้เลยซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการเลยต้องมาอบรมด้วยตนเอง หากท่านใดจะเข้าปดูได้ที่ www.coopthai.com/khuanniang แต่ยังไม่เรียบร้อย ยังเหลืออีกสองวัน
           อบรมเสร็จวันนี้ไม่รู้จะไปไหน นอนพักที่สันนิบาตเบื่อจังเลย ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ไม่ทราบใครว่างบ้างไหม มาเยี่ยมกันบ้างซิ

           อบรมหลักสูตรนี้เสร็จ ก็อยู่อบรมหลักสูตรผู้นำต่อในวันศุกร์ ช่วงนี้อบรมบ่อยมากเลย วันที่ 22-24 กพ มีอบรมที่ชลบุรี ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ แต่ไม่ได้ไป เพราะต้องกลับไปเตรียมจัดงานวันสหกรณ์

          วันก่อนพี่ทศเทพลงไปเที่ยวหาดใหญ่ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย จะได้ไปต้อนรับ

           วันี้ไว้แค่นี้ก่อน พรุ่งนี้จะนำเรื่องการอบรมมาเล่าอีก อยาลืมเข้าไปเยี่ยมเว็บสหกรณ์บ้าง แล้วเสนอแนะด้วย  (อยู่ระหว่างอบรม)

 

กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

เรียนท่านอาจารย์และสวัสดี ผนส.3ทุกท่าน

ไม่ได้เข้า blogหลายวันตกข่าวหลายเรี่อง ก่อนอื่นก็ขอ Happy Birthday อาจารย์ บัญชา ประธานรุ่นของพวกเรา หวังสิ่งใดก็ขอให้ได้ดังหวังนะครับ

เรื่องการเลื่อนวันไปจีนเป็นวันที่ 3-7 มี.ค.นี้ผมได้แจ้งคุณณรงค์ทางโทรศัพท์แล้วว่าต้องขอกลับวันที่ 6มี.ค.เพราะติดงานวันที่ 7-8มี.ค.ที่จันทบุรี

ขอคิดด้วยคนกับคุณทศเทพ เราได้คุยกันหลายเรื่องระหว่างไปดูงานที่โคราช ผมมองในมุมมองของสหกรณ์ออมทรัพย์ กรรมการส่วนใหญ่ก็เข้าๆออกๆไม่ได้อยู่ประจำและมองแต่ความต้องการของสมาชิกเท่านั้น และมองงานสหกรณ์เป็นเพียง sidelineหรือparttime เพราะงานประจำมีอยู่แล้วและก็มากเสียด้วย ความคิดที่ไกลที่สุดของผมเมื่อเข้ามาทำงานสหกรณ์ คือร่วมมือกับสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นๆในจันทบุรีจัดประชุม อบรม สัมมนาวิชาการให้ความรู้แก่กรรมการและสมาชิกให้มากทีสุด และทำได้สำเร็จเพียงครั้งเดียวเมื่อปี46 โดยอาศัยความร่วมมือและประสานงานของสหกรณ์จังหวัด หลังจากนั้นก็ไม่มีการจัดอีกเลย กับสหกรณ์การเกษตรก็ทำได้เพียงฝากเงินและร่วมประชุม 3ฝ่ายระหว่างเกษตร ออมทรัพย์ และสหกรณ์จังหวัด ทำอยู่ได้ 1-2ปี ตอนนี้ก็เลิกมาได้4-5ปีแล้ว

ผมมองว่าสหกรณ์จังหวัดควรเป็นแกนหลักในการจัดให้มีการร่วมมือกันทำกิจกรรม ไม่ใช่เฉพาะงานวันสหกรณ์แห่งชาติเท่านั้น แต่ก็ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ active และกรรมการสหกรณ์ที่มีความกระตือรือร้นเพื่อร่วมมือกันทำงานใหญ่

เรียน ท่านประธาน ผนส รุ่น 3

กุ้งได้ทำสรุปการศึกษาดูงานส่งไปให้อาจารย์บัชาตรวจทางอีเมลล์แล้วนะคะ ไม่ทราบว่าได้รับหรือยังค่ะ อาจารย์จะนำขึ้นblogเองหรือจะให้กุ้งเป็นคนนำขึ้นให้ก็ได้นะคะ

สวัสดีคะ ท่านประธาน ผนส.3 และเพื่อนพ้องน้องพี่

คิดถึงจริงๆนะจะบอกให้ โดยเฉพาะท่านประธานเพราะกังวลใจมากเมื่อทราบจากเพื่อนว่าใครๆเค้าอวยพรวันเกิดให้กันหมดแล้ว เอาเป็นว่าขอเป็นคนท้ายสุดนะคะ

"เชิญกวีบทใหม่ ในวันเกิด แสนบรรเจิดสดใส สู่ใจท่าน

ชีวิตนี้ จงเปรมปรีและชื้นบาน สุขเกษมสำราญ ตลอดไป

ขอพรพระให้ท่านพบความสมหวัง มีพลังกล้าแกร่ง และยิ่งใหญ่

ขอเชิญเทพเทวา มาอวยชัย ขอให้ท่านสุขสุดใจ ชั่วนิรันดร์"

สาธุ สาธุ สาธุ /

สวัสดีคะ

เรียน ผนส.๓ ทุกท่าน

จากตารางการอบรมฯ วันที่ ๒๐-๒๑ กุมภาพันธ์ มีวิชาที่สำคัญ ๆประกอบด้วย วิชา หลักเศรษฐศาสตร์จุลภาคกับงานสหกรณ์,ระเบียบ กฎหมายสหกรณ์ที่ผู้นำควรรู้,การนำเสนอประสบการณ์และความสำเร็จ,การประยุกต์แนวคิดทางการตลาดกับงานสหกรณ์,การสร้างทีมเพื่อประสิทธิภาพ และการสรุปการฝึกอบรมและมอบหมายงาน ซึ่งล้วนแต่เป็นวิชาการ ซึ่งล้วนแต่เป็นวิชาการ เป็นประโยชน์ต่อผู้นำ ฯลฯ

ข้อเสนอ ในวันที่ ๒๐ ช่วงเวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป กำหนดเดิมคือรับประทานอาหารเย็น ควรจะเพิ่ม งานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับท่านประธานรุ่น มีเค๊กเล็ก ๆ น่ารักสักชิ้นหนึ่ง + เทียน(ตามจำนวนอายุหรือแทนค่าก็ได้) สถานที่อาจจะเป็นที่ห้องประชุมใหญ่เพื่อความเป็นส่วนตัว หรือครัวสหกรณ์เพื่อความประหยัด ก็ได้ ส่วน คชจ.ใช้งบของรุ่นหรือลงขันใหม่ตามอายุของผู้ร่วมงาน จะดีไม๊ครับ..พี่น้อง!

เห็นด้วยครับค่าใช้จ่ายคิดตามอายุปีละ10บาท เก็บท่านประธานรุ่นก่อนปีนี้อายุ52x10=520บาท แต่พวกเราต้องเห็นใจหัวหน้าพิณ(ฝ่ายปกครองของห้อง)บวกลบคูณหารแล้วเสียหลายตังนะจะบอกให้(เหล้าก็ไม่ได้กิน)

แบบฟอร์มเสนอโครงการ หาได้จากที่ไหน ใครช่วยบอกหน่อยได้ไหม

เรียน อาจารย์ และสวัสดี  ผนส.3 ทุกท่าน

         สำหรับคำถามที่ 371 แบบฟอร์มเสนอโครงการ หาได้จาก http://gotoknow.org/file/todschanin/Project.doc

     วันนี้ผมอบรมเว็บไซตืเสร็จแล้วว่าง 1 วัน อยู่คอยอบรมต่อพรุ่งนี้ หากใครว่างเข้าไปเยี่ยมได้ที่ www.coopthai.com/khuanniang

 

พรุ่งนี้เป็นการอบรมครั้งที่ 4
วันศุกรที่ 20 กุมภาพันธ 2552
เวลา 09.00 - 12.00 . หลักเศรษฐศาสตรจุลภาคกับงานสหกรณ์ 
 โดย ศ.ดร.จีระ หงสลดารมภ
เวลา 12.00 -13.00 . รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา
13.00 - 16.00 . ระเบียบ/กฎหมายสหกรณที่ผูนําสหกรณควรรู(โดย อัยการปรเมศวรอินทรชุมนุม)

เวลา 16.00 -18.00 . การนําเสนอประสบการณและความสําเร็จ
เวลา 18.00 -19.30 . รับประทานอาหารเย็น

วันเสารที่ 21 กุมภาพันธ 2552

เวลา 09.00 - 12.00 . การประยุกตแนวคิดทางการตลาดกับงานสหกรณ
โดย อาจารยสมชาย สาโรวาท

เวลา 12.00 -13.00 . รับประทานอาหารกลางวัน

เวลา 13.00 - 16.00 . การสรางทีมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
โดย รศ.ดร.มนตรี บุญเสนอ

  ซึ่งแต่ละวิชา และอาจารย์ผู้สอน น่าสนใจทั้งนั้น

 

 

คิดถึง ผนส3                                                                      กำนันบ้านนอก    ไปสวนมาเลยหาผลไม้ไปฝากชาว ผนส3ทุกท่านไดชิม40กว่าคน2ลูกคงพอนะ  เป็นหลักฐานว่ากำนันบ้านนอกรู้จักต้นไม้เหมือนกัน เดียว "ท่านพิน"จะว่าไม่เอาถ่าน   20 ก พ 9.00 น .พบกัน

สวัสดีครับ   ท่าน ผนส. 3 และอาจารย์ทุกท่าน ครับ

           ผมมีเรื่องแจ้งเพื่อทราบและขอแก้ไขข้อมูลดังนี้น่ะครับ

          1.ขอแก้ไขข้อมูลที่ท่านผู้จัดการสุทิศ พงษ์จีน post ที่372 น่ะครับ ที่บอกว่า สำหรับคำถามที่ 371 แบบฟอร์มเสนอโครงการ หาได้ จาก http://gotoknow.org/file/todschanin/Project.doc

ขอแก้ไขใหม่น่ะครับเป็น linkที่ .....

 http://gotoknow.org/file/todschanin/Projectfrom.doc

            2.แก้ไขวิทยากรในกำหนดการเรียนวันพรุ่งนี้ ( 20 กุมภาพันธ์ 2552)
              
เวลา 13.00 - 16.00 น. ระเบียบ/กฎหมายสหกรณ์ที่ผู้นำสหกรณ์ควรรู้ วิทยากรท่านอัยการปรเมศร์   อินทรชุมนุม เปลี่ยนเป็น ท่านอาจารย์ดำรง   ปั้นประณต และ อาจารย์
สุรจิตต์  แก้วชิงดวง อดีตข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายสหกรณ์

              3. ห้ามพลาดวันพรุ่งนี้ขอรบกวนทุกท่านตรงเวลาด้วยน่ะครับ ช่วงเช้าอาจารย์จิระฯ และหลังเลิกเรียน จะมีทีมงาน(สาวสวย)ของบริษัททัวร์ สวยๆ มานำเสนอกำหนดการไปศึกษาดูงานประเทศจีนอย่างละเอียดยิบ พร้อมของแจกที่จะให้ และขอให้ท่านที่ยังไม่ได้ให้ passport และรูปถ่าย (หากเป็นไปได้ไม่ควรเอารูปที่ scan น่ะครับ) รีบหน่อยน่ะครับ ด่วนเลย
พรุ่งนี้

              4. สันนิบาตสหกรณ์ฯ มีกำหนดจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 กำหนดการแบ่งเป็น 3 ช่วง คราวๆ น่ะครับ

                  ช่วงเช้ามีพิธีสงฆ์ และวางพานพุ่มสักการะพระอนุสาวรีย์พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย ที่ศูนย์รัชนีแจ่มจรัสฯ  

                 ช่วงบ่ายมีกีฬาสมัคคี ที่สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานยาสูบ จำกัด

                 ช่วงเย็นมีงานเลี้ยงโต๊ะจีนที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ
สิริกิติต์ ขอเชิญ ผู้นำสหกรณ์แต่ละรุ่น (ผนส. 1,2,3) ทุกท่านร่วมกิจกรรมดังกล่าวในนามรุ่นของท่าน แจ้งการเข้าร่วมกิจกรรมที่สันนิบาตสหกรณ์ฯ

***ขอแถมครับได้เข้าเยี่ยม website สกก.ควนเนียง ท่านผจก.สุทิศฯ ครับแจ่มทีเดียว (ยกเว้นรูปหน้าตาท่าน ผจก. เบลอๆ ไปหน่อยครับ ตัวจริงหล่อกว่าเยอะครับ อิอิ) ยอมรับว่า ผู้นำสหกรณ์ยุคใหม่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ สร้างweb เองได้***

จบข่าว..........

                         *****พบกันพรุ่งนี้ครับ*****

"คือผู้นำทั้งกายจิต

นำความคิดทางสร้างสรรค์

นำสปิริตและเชื่อมั่น

คือ...ผู้นำสหกรณ์..."

ด้วยจิตคารวะ

Workshop ต้องการเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับหลักเศรษฐศาสตร์จุลภาค

ต้องมองทรัพยากรที่มี ตั้งสหกรณ์เพื่ออะไร ทำอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพอยู่ที่ผลตอบแทนทางสังคม รวมตัวกันของสหกรณ์เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้สังคม (ที่ไม่ใช่ตัวเงิน)

องค์กรสมรรถนะสูงต้องมีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทางเศรษฐศาสตร์ต้องใช้ทรัพยากรคุ้มค่าที่สุด

อย่าให้ติดลบ

เรื่องทุนมนุษย์เป็นเรื่องจุลภาค เราต้องเสียสละในวันนี้เพื่อได้ประโยชน์ในวันหน้า ต้องทำให้มีคุณภาพ แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงก็ตาม

การรวมตัวของสหกรณ์เพื่อคุณภาพชีวิต ช่วยให้สหกรณ์เข้มแข้ง

ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ต้องพูดถึงทั้งระยะสั้นและระยะยาว

สหกรณ์มีโอกาสก้าวนำแต่ได้รับผลกระทบหลายด้าน

ถ้ามีนวัตกรรมการคิดค้น เชื่อมโยงกับสหกรณ์ต่างๆ จะสร้างงานขึ้นมา ในอนาคตจะเชื่อมโยงกลุ่มต่างๆ และจะทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไป

ควรทำวิจัยสร้างเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร

ในทางเศรษฐศาสตร์ การลงทุนใหม่ๆต้องระวังการลอกเลียนแบบ

ต้องมีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผู้บริโภคที่ถูกต้อง ต้นทุนสำคัญที่สุดของสหกรณ์คือข้อมูล

ต้องรู้จักเจรจาต่อรอง ปฏิบัติตามสัญญา

มองว่า การจ่ายค่าตอบแทนเป็นที่พอใจหรือไม่

ต้องพัฒนาคนด้วยนอกเหนือจากเพิ่มเงินเดือนให้แล้ว

สรุปการบรรยายเรื่อง หลักเศรษฐศาสตร์จุลภาคเบื้องต้น โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

·       ประสิทธิภาพคือเสียไปแล้วได้คืนมาเท่านั้น

·       ไม่ควรให้รัฐบาลแทรกแซงทุกเรื่อง

·       ในทางเศรษฐศาสตร์ต้องมีข้อสมมติฐาน

·       อะไรที่ทำซ้ำแล้วซ้ำอีกจะเกิดความตกต่ำ

·       เรามีของจำกัดต้องจัดสรรให้ได้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องแบ่งปันทรัพยากรให้ถูกต้อง

·       ควรลงทุนเรื่องการพัฒนาคนมากขึ้น

·       ผู้นำสหกรณ์ต้องใฝ่รู้

·       ต้องใช้เหตุใช้ผลในการทำงาน

·       การเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ดีมักมีข้อจำกัดเสมอ ในสหกรณ์ยังมีความจำกัดด้านความรู้

·       ผู้นำสหกรณ์ต้องคิดเรื่องความคิดสร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมมาเชื่อมโยง

·       ควรมีเครือข่ายนอกเหนือสหกรณ์

·       สหกรณ์ต้องลด social cost แล้วไปเพิ่ม social benefit

workshop ได้อะไรจากการเรียนเศรษฐศาสตร์จุลภาค

การจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรือบุคคล รู้จักต้นทุนค่าเสียโอกาส การลงทุนเป็นเงินไม่จำเป็นต้องได้ผลตอบแทนเป็นเงิน อาจจะได้ผลตอบแทนทางสังคมซึ่งมีค่ามากกว่าเงิน

จุลภาคที่ได้เกี่ยวกับสหกรณ์

  • เข้าใจยิ่งขึ้นเกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์
  • แชร์การใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมให้มากที่สุด
  • ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ
  • ลงทุนไปหนึ่งบาทต้องได้กลับมาหนึ่งบาท
  • บริหารทรัพยากรทุกชนิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
บุญตรง เทพอุดม สกก.เมืองเชียงรายจำกัด

หลักเศรษฐศาสตร์จุลภาคที่มีผลในการพัมนางานสหกรณ์

การเรียนเศรษฐศาสตร์จุลภาคในวันนี้ได้ผลดีในการพัฒนาสหกรณ์

  1. การลงทุนในเรื่องของการพัฒนาคนจะได้กลับคืนมาในเรื่องของประสิทธิภาพของตน คุ้มกับที่ได้จ่ายจ้างไป
  2. การดึงให้สมาชิกมาทำธุรกิจกับสหกรณ์โดยการลงทุนลด แลก แจก แถมจะได้มาซึ่งความศรัทธา และการลับมาใช้บริการครั้งต่อๆไปเพิ่มขึ้น
  3. การร่วมมือกับสังคมเช่นชุมชนในท้องถิ่นสหกรณืก็จะได้รับการยอมรับจากสังคมที่ประมาณค่าไม่ได้
  4. การทำธุรกิจของสหกรณ์ต้องคิดถึงความคุ้มค่า ลงทุน 1 บาทควรจะได้กลับมาไม่น้อยกว่า 1 บาท หรืออาจจะได้มาในรูปแบบอื่น เช่น ความพอใจ

 

เศรษฐศาสตร์จุลภาค

        ผมได้เรียนและนำไปใช้ในสหกรณ์เช่น การเชื่อมโยงต่อยอดเพิ่มธุรกิจ เช่นข้าวสาร น้ำยาล้างจาน ปุ๋ยฮอร์โมน โคนม อยู่ในขั้นดำเนินการซื้อและขายแล้ว

        ในส่วนของเดินทางไปต่างประเทศ อยากให้เพื่อนร่วมรุ่นแจ้งความจำนงค์ในแต่ละสหกรณ์ของตนเองมีอะไรที่จะไปขายที่ประเทศจีนบ้าง และมีอะไรจะซื้อจากเมืองจีนบ้างเพื่อเป็นข้อมูลและพูด ในขณะที่ไปดูงานประเทศจีน จะได้เชื่อมโยง ต่อยอด เพิ่มประโยชน์ในโอกาสที่ไปดูงาน

สมชาย พันธุ์แก้ว สอ.ครูน่าน

วิชา "เศรษฐศาสตร์จุลภาคเบื้องต้น" 20 ก.พ. 52

         "การลงทุนในสหกรณ์ควรเน้นประสิทธิภาพมากกว่าประสิทธิผลพอคุ้มทุนและเกิดประโยชน์ต่อสังคมถ้วนหน้า"

         เศรษฐกิจพอเพียงแค่คุ้มทุนก็พอในสหกรณ์ฯ เป็นการลงทุนแบบพอเพียง "ไม่มีของฟรีในระบบเศรษฐกิจ" อยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการเป็นเจ้าของร่วมกัน

วันนี้ เศรษฐศาสตร์จุลภาคได้ข้อคิดและแนวทางไปพัฒนา

  1. พัฒนาคนในองค์กรให้มีความรู้โดยวางแผนระยะสั้นและระยะยาว
  2. ลดต้นทุนและระมัดระวังเรื่องการใช้เงิน ต้องมีการวางแผนที่ดี
  3. พัฒนาข้อมูลข่าวสารและนำมาใช้ประกอบการวางแผน "ใช้คนให้ถูกกับงานและคุ้มค่า ใช้เงินให้คุ้มค่าและมีการวางแผนให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพและผล"

        วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 เรียนเศรษฐศาสตร์จุลภาคกับท่านอาจารย์จีระ ได้มีโอกาสรื้อฟื้นความรู้เดิมที่เคยเรียนมาสมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทาลัยธรรมศาสตร์ และสมัยเรียนปริญญาโทที่ NIDA ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด 2 เรื่องคือ

  1. Property Right ความเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของสหกรณ์ไทย ผู้ใช้บริการสหกรณ์เป็นเจ้าของแต่พนักงานหรือเจ้าหน้าที่สหกรณ์ไม่ได้มีความเป็นเจ้าของ  ส่วนหนึ่งเข้ามาโดยระบบอุปถัมภ์ทำให้ไม่ได้พัฒนาเท่าที่ควร ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไข
  2. ความสุขในการทำงานหรือความพอใจในการทำงานย่อมนำมาซึ่งระบบที่ดีและมีคุณธรรม นอกจากตัวเราเอง จะมีความสุขความพอใจ ชีวิตมีคุณภาพ ย่อมนำไปสู่คุณภาพงานขององค์กรและประเทศชาติต่อไป ถูกต้องตามที่อาจารย์ยกตัวอย่างที่อาจารย์กรุณาสละเวลามาสอนผนส.3

คำถาม เศรษฐศษสตร์จุลภาคที่ทำให้สหกรณ์ดีขึ้น

         สร้างคุณภาพชีวิตให้กับสมาชิกในการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สหกรณ์จัดอบรม เผยแพร่และจข้าร่วมโครงการต่างๆของรัฐที่มุ่งสู่ประชาชนเช่นโครงการอยู่ดีมีสุข SML

         ในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน ทุกคนต้องเริ่มประยัดตั้งแต่ตนเอง สถาบันครอบครัว ถ้าทุกๆคนคิดเริ่มต้น เศรษฐกิจชาติจะต้องดีขึ้นแน่ๆ

         สหกรณ์ก็อยู่ในส่วนหนึ่งที่ต้องช่วยเหลือสมาชิก ซึ่งสหกรณ์ของข้าพเจ้าได้สอนให้สมาชิกนำพืชผลที่มีอยู่ในชุมชน เช่นมะกรูด มะเฟือง ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมาหมัก เป็นน้ำหมักชีวภาพเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในครัวเรือนเป็นส่วนผสมของน้ำยาเอนกประสงค์ (ล้างจาน ซักผ้า) นำน้ำหมักไปล้างห้องน้ำ นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำยาล้างจานแล้ว ยังทำเพื่อขายภายในชุมชนได้

         สอนทำปุ๋ยน้ำมักโดยใช้ผักบุ้ง ใบก้ามปู หยวกกล้วย ฯลฯมาหมักเพื่อทำปุ๋ยน้ำหมักใช้เองภายในสวน นาข้าว ฯลฯ เพื่อเป้นการลดต้นทุนในการผลิตและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

วันนี้เรียนเรื่องเศรษฐศาสตร์จุลภาคกับงานสหกรณ์

อาจารย์ให้คำแนะนำเรื่อง

  • การจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  • การนำความรู้ไปใช้ในการบริหารจัดการ
  • สหกรณ์ขาดองค์ความรู้ขาดข่าวสารข้อมูลควรศึกษาและติดตามข้อมูลให้ทันสมัยและศึกษาการบริหารจัดการให้มาก
  • ควรพัฒนาคนของขบวนการสหกรณ์ให้มีองค์ความรู้มากขึ้น
  • ควรสร้างเรือข่ายเพื่อนำสหกรณ์สู่ความเป้ฯสากลไม่ใช่อยู่เฉพาะขบวนการสหกรณ์
  • ควรดูแลสังคม
  • ควรพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็ง
  • อาจารย์ได้ยกตัวอย่างเป็นกรณีศึกษาจากบุคคลและเหตุการณ์ในอดีตให้เห็นภาพการสร้างประโยชน์จากองค์กรเล็กๆสู่ขบวนการทั้งระบบทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากบุคคลสู่องค์กรและสู่ประเทศชาติโดยรวม

        ที่สำคัญคืออาจารย์เปิดโอกาสให้ผุนำสหกรณ์ที่ต้องการพัฒนาตน พัฒนาสังคมเข้าร่วมโครงการสู่ชนบทและให้โอกาสช่องทางธุรกิจโดยอาจารย์จะเป้นผ้ประสานให้กับภาคธุรกิจระดับชาติ

     การเรียนรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์จุลภาคทำให้ทราบถึงผลกระทบที่มีต่อสหกรณ์ ต้องมองถึงระบบบริหารจัดการที่ขาดความรู้และความจริงใจในการบริหารแบบคุณธรรม จึงทำให้ไม่เกิดความหวงแหนทรัพยากรที่มีอยู่และใช้ไปอย่างไร้ประโยชน์ สรุปว่า การบริหารจัดการที่ดีได้ก้ต้องเน้นว่า "คุณธรรมและจิตสาธารณะ" ในการเป็นผู้นำ

กุ้งได้นำสรุปการศึกษาดูงานที่บริษัทสงวนวงษ์ จำกัด และสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด ขึ้นให้แล้วนะคะ หากมีแก้ไขเพิ่มเติมส่วนใดก็ให้เสนอขึ้น blog ได้เลยค่ะ

บริษัทสงวนวงษ์ จำกัด

ด้านผู้นำ

ผู้นำมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีการคลุกคลีและศึกษาตลาด มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ ใช้คุณธรรมชี้นำ มีแนวคิดให้ความสำคัญกับลูกค้าโดยคิดว่าลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้พัฒนาองค์กร เป็นผู้ที่คิดแล้วต้องปฏิบัติ กล้าเสี่ยง ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ มองภาพรวมทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ มองไกลยอมจ้างเจ้าหน้าที่ส่งเสริมเกษตรเพื่อพัฒนาคุณภาพมันให้เกษตรกร สุดท้ายบริษัทก็ได้รับประโยชน์จากการพัฒนา

ด้านองค์กร

ให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมรอบข้าง สิ่งแวดล้อมชุมชน สร้างความผูกพันระหว่างองค์กรกับชุมชน ลดความขัดแย้งระหว่างโรงงานด้วยกัน โดยเอานโยบายที่เหมือนกันทำให้กลมกลืนเอื้อต่อกัน ดึงเอาผู้นำชุมชนมาเป็นพวกโดยพาชมโรงงานเพื่อให้ทราบว่าปัญหากลิ่นน้ำเน่าเสียไม่ได้เกิดจากโรงงาน เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้โดยนำเอาน้ำทิ้งจากโรงงานมาผ่านกระบวนการบำบัดและผลิตไบโอแก๊ส มีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบได้ครบ มีแนวคิดในการแก้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบโดยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตแบบลดต้นทุน โดยใช้วัสดุที่เหลือใช้จากโรงงานมาทำปุ๋ย

การทำตลาดมาจากภายในมีความตรงไปตรงมา ไม่ได้วัดความพึงพอใจของลูกค้าแต่วัดความผูกพัน องค์กรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐาน ISO องค์กรมีระบบบริหารจัดการดี นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างครบวงจร

ให้โอกาสกับพนักงาน ดูแลสวัสดิการตั้งแต่เกิดจนตาย มีความรับผิดชอบ ขาดทุนก็ยังจ่ายโบนัสเพราะถือว่าไม่ใช่ความผิดของพนักงาน มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่อง เมื่อค้นพบนวัตกรรมใหม่ๆก็ฝึกอบรมให้เกษตรกรเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้

ข้อแนะนำ

ในอนาคตคนไทยจะไม่ค่อยทำงานที่ใช้แรงงาน ควรเตรียมแผนรองรับการขาดแคลนแรงงาน ภาวะโลกร้อนมีผลกระทบกับการปลูกมัน ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกควรเตรียมแผนรองรับ

สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด

ด้านผู้นำ

ผู้นำมีวิสัยทัศน์ มองผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล มีความตั้งใจสูง ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ทุ่มเท มีจิตวิญญาณของนักสหกรณ์ ลงรากหญ้า คลุกคลีกับสมาชิกเพื่อสร้างความเชื่อมั่น นอกจากเป็นนักสหกรณ์ยังเป็นนักรัฐศาสตร์ คือ แยกการบริหารออกจากการเมือง มอบอำนาจการดำเนินงานให้ฝ่ายจัดการโดยไม่ก้าวก่าย มีความเป็นนักพัฒนา มียุทธศาสตร์การบริหารที่เป็นภูมิปัญญาไทย

ด้านองค์กร

หากเปรียบเทียบระหว่างสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด กับ บริษัทสงวนวงษ์ จำกัด จะเห็นได้ชัดเจนว่าบริษัทฯจะแสวงหากำไรแต่สหกรณ์ฯจะไม่แสวงหากำไร แต่มีโครงสร้างการบริหารงานไม่ต่างกัน สหกรณ์ให้ความสำคัญเรื่องของสมาชิกตามหลักการสหกรณ์ มีการจัดกลุ่มของสมาชิกและติดตามสมาชิกอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง มีกิจกรรมที่ส่งเสริมให้สมาชิกมีรายได้เพิ่ม กิจกรรมที่มีการอบรมให้กับสมาชิกทำให้ได้ทั้งความรู้และความสัมพันธ์ที่ดีกับสมาชิก

สหกรณ์ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร มีการเสนอที่ประชุมใหญ่เพื่อขอตัดหนี้สูญทางบัญชีทุกปีแต่สหกรณ์อื่นไม่กล้ากลัวสมาชิกว่าบริหารงานไม่ดี โรงสีมีกระบวนการควบคุมคุณภาพสร้างความมั่นใจ มีการวางระบบบริหารจัดการไว้ดี จัดทำคู่มือการทำงานเมื่อเปลี่ยนตัวผู้นำองค์กรก็สามารถเดินได้ต่อ ปัจจัยความสำเร็จของสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด คือ สมาชิกต้องร่วมมือ สำเร็จคนเดียวไม่ได้ การบริหารงานภายในต้องเรียบร้อย กรรมการต้องดี สมาชิกแฮบปี้ พนักงานตั้งใจ

ข้อแนะนำ

ในอนาคตสหกรณ์ควรเน้นการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ นำ KPI มาใช้ จัดทำ ACTION PLAN และนำ 7’s มาใช้ในการบริหาร เชื่อมั่นว่าสหกรณ์จะโตขึ้นเรื่อยๆ

การรับฟังคำบรรยายเรื่อง หลักเศรษฐศาสตร์จุลภาคกับงานสหกรณ์ของอาจารย์จีระ หงส์ลดารมภ์ วันนี้แล้วได้แนวคิดในการบริหารสหกรณ์โดยหลักเศรษฐศาสตร์ในการวางรากฐานของงานสหกรณ์โดยคิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่ยึดหลักเสียเท่ากับได้ โดยเฉพาะได้กับสังคมครับอาจารย์ เพราะที่ผ่านมาสหกรณ์ส่วนใหญ่อาจคิดถึงกำไรหรือคิดถึงส่วนได้เป็นเม็ดเงินมากจนเกินไปจนลืมนึกถึงสังคม แต่ต่อไปต้องวางรากฐานใหม่เพื่อสังคมสหกรณ์ที่ดีในระยะยาวเป็นงานที่ท้าทายครับอาจารย์

นายสมพงษ์ พาหุวัฒนกร

         ในการศึกษาเศรษฐศาสตร์จุลภาค ฉันได้วิเคราะห์หลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐานของระบบเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน นำมาเชื่อมโยงกับงานระบบสหกรร์ฯที่ได้ปฏิบัติงานอยู่เพื่อปรับปรุงและออกแบบแนวทางพัฒาและปรับเปลี่ยนเอาไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริงของสหกรณ์ต่อไป

         โดยในบางสิ่ง สภาวะการณ์บีบบังคับหรือทรัพยากรที่มีอยู่ก็มีอย่างจำกัด จะนำเอาหลักเศรษฐศาสตร์จุลภาคไปใช้เพื่อนำพาสหกรณ์ให้ไปในแนวทางที่เหมาะสมเพื่อความเจริญอย่างถาวร

       

ในวันนี้เศรษฐศาสตร์จุลภาคที่จะใช้ในสหกรณ์ คุณได้อะไร

  1. การปรับประยุกต์ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในสหกรณ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวและมีประสิทธิภาพในการทำงานให้มากที่สุด
  2. การใช้หลักเศรษฐศาสตร์ในการจัดการในองค์กรหรือวหกรณ์
  3. การใช้ทุนหลายๆประเภทในการประยุกต์ใช้ในองค์กรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในองค์กร
  4. เรียนรู้ผสมผสานระหว่างเศรษฐศาสตร์กับเศรษฐกิจ

ในวันนี้ เศรษฐศาสตร์จุลภาคได้อะไร และจะทำอะไรต่อไป

  • การใช้ทรัพยากรของสหกรณ์อย่างคุ้มค่า
  • ต้นทุนของทรัพยากรมนุษย์ในสหกรณ์ยังไม่ได้รับการพัฒนาทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับธุรกิจอื่นได้
  • การพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้
  • ปัญหาการคอรัปชั่น ในระบบเป็นต้นทุนในสังคมที่สูงมาก มีผลกระทบมาก
  • นโยบายของรัฐบาล คุมกำเนิดระบบสหกรณ์
  • นวัตกรรมในสหกรณ์ยังไม่ได้ลิขสิทธิ์ (สิทธิบัตร)

เศรษฐศาสตร์จุลภาค

       การนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ในหน่วยงานของสหกรณ์นำมาใช้

       การรวมตัวกับรวมกลุ่มกันเพื่อประโยชน์สูงสุดในทางสังคมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จะมองคนเป็นทุน

       การจัดสรรทรัพยากรที่มีจำกัดก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นการจัดสรรที่มีประสิทธิภาพ

นายบุญช่วย โคตรสงคราม
  • มูลค่าทางเศรษฐศาสตร์จะมีความแตกต่างจากมูลค่าทางบัญชี ฉะนั้น ต้นทุนที่พัมนาคือบุคลากรในหน่วยงาน และสมาชิกให้มีคุณภาพเพิ่มคุณค่าให้มากขึ้น ถึงจะอยากก็ต้องใช้เวลา ในการที่จะพัฒนาในการเปลี่ยนแปลงให้มีความรู้ความเข้าใจจากที่เคยทำมาแล้ว ปรับปรุงให้เกิดผลดีมากขึ้น
  • ถ้าบุคลากรในองค์กรและสมาชิกมีความเข้าใจความรู้แล้วจะนำไปสู่การพัฒนาต่อไป
นางขนิษฐา บวชสันเทียะ

เศรษฐศาสตร์จุลภาควันนี้ฉันได้อะไร

  1. เรื่องการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในสหกรร์ใหเกิดประโยชน์สูงสุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ในการรวมตัวที่สหกรณ์จะต้องชักชวนมาร่วมทำธุรกิจซื้อขายโดยต้องสร้างความร่วมมือ และให้สมาชิกเกิดความศรัทธากับสหกรณ์
  2. การบริหารทรัพยากรเช่นเครื่องมือเครื่องใช่ที่สหกรร์มีอยู่ให้เกิดประโยชน์เช่นสหกรณ์มีโรงสีข้าว ต้องการขายข้าวกับให้ได้ราคาสูงให้มีมูลค่า สหกรณืต้องส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษ ตามที่ผู้บริโภคต้องการ
  3. เรื่องการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีอยู่ในสหกรณ์ เช่นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์จะต้องมีการอบรมให้ความรู้ ให้อาหารสมอง เพื่อที่จะได้นำมาพัฒนาสหกรณ์

 

 

 

 

นายประยูร รัตนเมธางกูร

เศรษฐศาสตร์จุลภาคในวันนี้ได้อะไร

  • เรื่ององค์ความรู้ โดยเฉพาะในทางเศรษฐศาสตร์ สหกรณ์ต้องเพิ่มความรู้ในด้านนี้ให้มาก เพราะระบบของสหกรณ์จำเป็นอย่างยิ่ง ต้องนำความรู้เรื่องเศรษฐกิจประยุกต์ใช้ในองค์กรให้ได้ทัดเทียมภายนอก
  • คาดหวังว่าจะต้องนำไปจัดหลักสูตรเพิ่มพุนความรู้แก่บุคลากรขององค์กรตั้งแต่คณะกรรมการพนักงานฝ่ายจัดการทุกระดับ ลงไปถึงตัวแทนสมาชิก จนถึงสมาชิกโดยตรงเพื่อให้เกิดผลในการปฏิบัติจริง เห็นตรงกับอาจารย์ว่าในองค์กรของสหกรณ์มีจุดอันตรายที่เห็นอยู่คือ องค์ความรู้ "มีน้อยมาก"

เศรษศาสตร์จุลภาคคือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุด ซึ่งจากนิยามนี้ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในองค์กรในด้านการปรับปรุงพัฒนาในเรื่องของ Human Capital, Intellectual Capital รวมไปถึง Social Cost ที่ในแต่ละองค์กรมักจะละเลยไม่ได้นำมาพิจารณาเพื่อพัฒนาองค์กรต่อไป

นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

วันนี้ได้อะไร เศรษฐศาสตร์จุลภาคที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์

  • การบริหารจัดสรรทรัพยากรในสหกรณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสหกรณ์ มวลสมาชิกและสังคมแวดล้อม
  • การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆให้เกิดขึ้นเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหาร การจัดการและการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ
  • การสร้างเครือข่ายหรือพันธมิตร เพื่อแลกเปลี่ยนวิชาการ องค์ความรู้และทรัพยากร
  • ที่เรียนเศรษฐศาสตร์จุลภาคในวันนี้ได้ทราบว่า Micro Economics คือการใช้จัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้ทราบถึงการนำต้นทุนต่างๆเข้ามาใช้ในการคำนวณต้นทุน ซึ่งบางต้นทุนเป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดถึงเช่น ต้นทุนค่าเสียโอกาส ซึ่งบางครั้งเราอาจจะมองข้ามไป สหกรณ์ (Firm) ก็คือการรวมตัวกันสมาชิกสหกรณ์เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้ได้ประโยชน์สูงสุด แต่เป้น Social benefit ซึ่งไม่ใช่ตัวเงินเพียงอย่างเดียว
  • จะนำความรู้จาก Micro Economics ไปใช้ในสหกรณ์ในการกำหนดจุดที่สร้างความพึงพอใจสูงสุด Equilibrium ทั้งกับตัวสหกรณ์ฯและตัวสมาชิก ซึ่งอาจจะไม่ใช่จุดที่สหกรณ์จะได้รับประโยชน์สูงสุดเป้นตัวเงิน แต่เป็นจุดที่ทั้งสหกรณ์ก็อยู่ได้และสมาชิกก็ได้รับความพึงพอใจสูงสุด

    การที่พวกเรามาอยู่รวมกันทำให้เกิดพลังในการต่อรองในเรื่องต่างๆได้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การรวมตัวกันในรูปแบบสหกรณ์ แต่จะพูดในประเด็นที่การเข้ารับการอบรมในครั้งนี้จะทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความรู้ของเพื่อนแต่ละหน่วยไม่เหมือนกันซึ่งจะนำสิ่งที่แตกต่างเหล่านี้นำไปประยุกต์เพื่อนำไปพัฒนาให้สหกรณ์มีความเจริญก้าวหน้าเป็นที่พึ่งของสมาชิกได้ดีเพื่อให้สมาชิกมีความอยู่ดีกินดีมีสันติสุข เช่นการได้ไปศึกษาดูงานที่สหกรณ์การเกษตรพิมายจำกัดซึ่งที่นั้นมีการรวบรวมข้าวเปลือกและได้ทำครบวงจรแต่ความคิดของตนเองแล้วจะทำรกิจร่วมกับสหกรณ์พิมายคือ จะรับข้าวสารจากสหกรณ์พิมายไปขายให้กับสมาชิกของสหกรณ์และตรงกันข้ามจะนำสินค้าหรือผลผลิตของสมาชิกที่เป็นผลไม้นำมาให้สหกรณ์การเกษตรพิมายได้ขายเช่นกันต่อไป

ประกาศ เรียน ท่าน ผนส.3 ทุกท่านครับ

           การส่งโครงการพัฒนาสหกรณ์ ให้ดำเนินการตามกำหนดการน่ะครับ ตาม link ครับ

http://gotoknow.org/file/todschanin/Plan.xls

http://gotoknow.org/file/todschanin/Control.xls

 

ด้วยจิตคารวะ

 

ทิฆัมพร พิลึก สกก.บ้านไร่

เศรษฐศาสตร์จุลภาคได้อะไรบ้าง

  • ทฤษฎีทุน 8 ประเภท: ทุนมนุษย์ ทุนทางจริยธรรม ทุนแห่งความสุข ทุนทางสังคม ทุนแห่งความยั่งยืน ทุนทาง IT ทุนทาง knowledge skill & mindset ตรงกับสหกรณ์ที่สหกรณ์ทำเพ่อสมาชิกโดยสมาชิกเพื่อให้เกิดการอยู่ดี กินดี มีสันติสุข ซึ่งสหกรร์มีขีดจำกัดในหลายด้าน ทั้งด้านการเงิน การตลาด ด้านทรัพยากรมนุษย์ ด้านสังคม ปัจจุบันต้องมีการวางแผนจัดการที่ดีซึ่งจะบริหารจัดการให้ได้ทันโลกปัจจุบันและการแข่งขันซึ่งทุกอย่างไม่มีอะไรฟรีในโลก ทุกอย่างต้องมีการลงทุน อีกทั้งต้องมีความรู้และสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ดี คือจะวางแผนได้ดีและต้องนำแผนไปสู่การปฏิบัติได้ ระบบสหกรณ์พบปัญหามาก Property Right
  • สิ่งที่ได้จากการเรียนเศรษฐศาสตร์จุลภาค

        1. ได้ทราบหลักการและวิธีคิดในเชิงดุลภาพ

        2. ได้มองเห็นวิธีคิดและประโยชน์จากการคิดและมองสิ่งใกล้ตัวจากสังคมข่าวสารและการแข่งขันและการตลาด เพื่อใช้เป้ฯแนวคิดต้นทุนในการพัฒนาองค์กรภายใต้ปัจจัยขององค์กรที่มีอยู่ เช่นบุคลากร ทรัพยากร

        3. รู้จักวิเคราะห์เพื่อมองการจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยมองชุมชน สังคมและองค์กร

  •  จะนำวิชาที่เรียนไปใช้ประโยชน์อะไร

         ในส่วนของการพัฒนาองค์กร บุคลากรและธุรกิจ

         จะมองในเรื่องของประโยชน์และการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพในระยะสั้นภายใต้ความพอใจในระดับเดียวกัน

นายอดิศักดิ์ วัชระสัมพันธ์ สหกรณ์โคนมปากช่อง

       การรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อจัดตั้งเป็นสหกรณ์เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาแนวทางทั้งในด้านการปฏิบัติและหลากหลายแนวความคิดที่จะรวมพลังกันขับเคลื่อนอุดมการณ์ที่มีร่วมกัน

       แต่เนื่องจากการดำเนินการในรูปแบบสหกรณ์เป็นการดำเนินการโดยบุคลากรเพียงกลุ่มที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป้นตัวแทนในการบริหาร ดังนั้นบางครั้งการดำเนินงานจึงถือว่าบางส่วนไม่มีต้นทุนในด้านการบริหารการจัดงาน ทำให้ไม่มีการพัฒนาศักยภาพที่จะเป็นการพัฒนาองค์กรสู่ความสำเร็จ และอาจเกิดความล้มเหลวในด้านการบริหารจัดการและระบบได้หากมีผู้นำที่ทุจริตในการปฏิบัติงาน และหากว่าผู้บริหารที่มีศักยภาพในด้านความคิดค้นนวัตกรรมและสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งในองค์กรหรือสหกรณ์ต่างๆได้แล้วก้จะประสบความสำเร็จในการดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมที่แน่นอน และจะมีประโยชน์ในทางสังคมและประเทศชาติยั่งยืนสืบต่อไป เพราะรูปแบบ "สหกรณ์"

หัวข้อ เศรษฐศาสตร์จุลภาคที่ทำให้สหกรณ์ดีขึ้น (ได้อะไรและจะไปทำอะไรต่อ)

      ได้เรื่องทรัพยากรบุคคล ต้องให้ทุกคนมีส่วนร่วมในทุกด้านเพื่อมีการแสกงออกได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้มีส่วนผลักดันให้เกิดความสำเร้จ ร่วมกันคิดและร่วมกันทำและโดยการเพิ่มองค์กความรู้ให้บุคคลต่างๆ รู้จักคิดวิเคราะห์ เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานให้มีจิตสำนึกว่าทุกคนเป็นเจ้าขององค์กร

       นำสิ่งแวดล้อมของตนเองมาพิจารณาว่าควรใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด พิจารณาผลดี ผลเสีย อะไรที่เป็นข้อบกพร่องให้ร่วมกันคิดแก้ไข พิจารณาข้อมูลในทุกๆด้าน ด้านธุรกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม

      สร้างเครือข่ายในธุรกิจประเภทเดียวกันเพื่อเชื่อมโยงในธุรกิจ ปริมาณผลผลิตของแต่ละแห่ง เพื่อรู้ศักยภาพของตนเองและครือข่ายสำหรับใช้เป็นฐานในการต่อรองเรื่องราคาผลผลิต

      การวิเคราะห์วิจัยข้อมูลต่างๆ นำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์ วิจัย เพื่อบางสิ่งที่ดีกว่า และโอกาสที่จะส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าดำเนินการต่อไป

       จากการอบรมเรื่องหลักเศรษฐศาสตร์จุลภาคได้รับความรู้เรื่อง Micro คือพฤติกรรมของคนต่อองค์กร

       จากการอบรมพอสรุปเป็นหัวข้อหลักดังนี้เพื่อใช้กับสหกรณ์

       การสร้างความศรัทธาต่อองค์กร การสร้างความศรัทธาของสมาชิกต่อองค์กรและการสร้างความศรัทธาสหกรณ์ต่อชุมชน

       - ซึ่งหากสมาชิกและชุมชนมีความศรัทธาต่อสหกรณ์แล้วทำให้สหกรณ์มีความเข้มแข็ง

       - การจะให้สมาชิกสหกรณ์มีความศรัทธาต่อสหกรณ์และให้ชุมชนมีความศรัทธาต่อสหกรณ์ สหกรณ์ต้องให้ความเป็นธรรมต่อสมาชิก และสหกรณ์ให้ความช่วยเหลือต่อสังคม เพื่อให้มีประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิกและสังคม

       - เมื่อสมาชิกและชุมชนมีความศรัทธาต่อสหกรณ์แล้วจะทำให้สหกรณ์มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพสูงสุด

เศรษฐศาสตร์จุลภาคเกี่ยวกับสหกรณ์ที่ได้รับในวันนี้ และจะนำไปใช้อย่างไร

1. เรื่องการปรับใช้และจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

2. การคิดอย่างมีเหตุมีผล โดยคือความคิดของคนส่วนใหญ่เป็นความคิดถูกต้อง คิดถึงประโยชน์สูงสุดและต้องการกำไรสูงสุด

การนำไปใช้กับกิจการสหกรณ์

1. การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องนำไปปรับใช้เนื่องจากเป็นการลดต้นทุนในการดำเนินกิจการของสหกรณ์เพราะว่าการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดต้นทุน เป็นความท้าทายที่ต้องทำให้ประจักษ์ต่อสมาชิกหรือสาธารณชน

2. ความคิดของคนส่วนใหญ่ต้องเคารพและถือว่าถูกต้อง ต้องนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร

น.ส.สุรวงศ์ วรรณปักษ์

            การเรียนเศรษฐศาสตร์มี 2 เรื่อง คือ เศรษฐศาสตร์มหภาคและเศรษฐศาสตร์จุลภาค เศรษฐศาสตร์มหภาคเป็นการมองเศรษฐศาสตร์ในภาพรวม

                ในเรื่องของเศรษฐศาสตร์จุลภาคเป็นการพิจารณาพฤติกรรมของการทำธุรกิจอย่างเป็นระบบโดยมุ่งเป็นการก่อให้เกิด Balance ระหว่าง Demand และ Supply และเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด

                ดังนั้นการทำธุรกิจของสหกรณ์นั้น ก็หากจะมองในการทำธุรกิจที่ต้องคำนึงความสมดุลที่ยั่งยืนด้วย ดังนั้นต้องทำให้ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องบริหารงานในลักษณะที่ถือเป็นทรัพยากรที่คุ้มค่า โดยใช้ลักษณะและแนวคิดในรูปแบบ ทุนมนุษย์ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้สามารถดำเนินธุรกิจสหกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล คุ้มค่ามากที่สุด และมีอัตราของความเสี่ยงน้อยสุด

                นอกจากนี้ ในปัจจุบันได้มี การนำประเด็นของ good governance เข้ามาใช้ในทุกขั้นตอนของการทำธุรกิจทั้งภาคสหกรณ์และภาคธุรกิจเอกชนอื่นเนื่องจากมีกระแสของการแสวงหาเครื่องมือที่จะนำมาพัฒนา cooperatives movement เพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบการแข่งขันในโลกธุรกิจได้อย่างเสรี โดยเพื่อลดคอรัปชั่น และลดการแทรกแซงของภาครัฐ เพื่อให้การพัฒนาสามารถยืนได้ด้วยตนเองอย่างเข้มเข็งและยั่งยืน ตามหลัก Free Market ซึ่งจะเป็นในเรื่องอุดมคติในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะสามารถเป็นไปได้

นายประจวบ อมแก้ว ประธานสกก.สะเดา จำกัด จ.สงขลา

ในวันนี้เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐศาสตร์ท่านได้อะไรบ้างและจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรต่อไป

                จากคำถามนี้ในการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ กระผมคิดว่าสิ่งที่ได้จากการฟังบรรยายนั้นมีข้อคิดมากมายโดยเฉพาะสิ่งที่ประทับใจและจะนำไปใช้ได้จริงมีหลายประเด็น ประเด็นที่สำคัญคือ

ก.      การคิดอย่างมีเหตุผล ปัจจุบันสมาชิกสหกรณ์การเกษตรส่วนใหญ่ทำอะไรไม่ได้คิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล ก็จะทำให้เศรษฐกิจสมาชิกแต่ละครัวเรือนประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจมากมาย เช่นการกู้เงินจากสหกรณ์ขาดการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลเมื่อนำเงินแล้วมาทำงานล้มเหลวเพราะคิดไม่รอบคอบว่าเมื่อกู้เงินมาแล้วทำกิจกรรมนี้แล้วจุดล้มเหลวมีอะไรบ้าง คิดไม่รอบคอบ สิ่งที่ทำได้ต่อไปคือ การช่วยคิดจากฝ่ายสินเชื่อให้กับสมาชิก ผู้ที่เข้ามากู้เงินหรือใช้บริการสินเชื่อกับสหกรณ์ เช่นการทำคำขอกู้จะต้องมีแบบฟอร์มวิเคราะห์กิจกรรมให้กับสมาชิกได้วิเคราะห์กิจกรรมโดยเจ้าหน้าที่สินเชื่อเป็นผู้ช่วยคิดช่วยวิเคราะห์ให้ด้วย

ข.      การมองถึงเจ้าของคือการที่สหกรณ์มีเจ้าของเป็นสมาชิกแต่การแสดงความเป็นเจ้าของไม่ได้เป็นเจ้าของอย่างแท้จริงก็เพราะสมาชิกขาดความรู้ความเข้าใจว่าตัวสมาชิกเป็นเจ้าของสหกรณ์ เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับสมาชิกให้ได้ว่าตัวเขาเองคือเจ้าของและแสดงบทบาทความเป็นเจ้าของได้ถูกต้อง

เศรษฐศาสตร์จุลภาคได้อะไรบ้าง

  1. ได้รู้ว่าสหกรณ์แต่ละองค์กรนั้นจะต้องมีเครือข่ายเชื่อมโยงกัน เพราะในสังคมนั้นสหกรณ์เป็นองค์กรหนึ่งที่ต้องช่วยกันทำให้สังคมดีขึ้นในระยะสั้นและในอนาคต
  2. กรรมการ-สมาชิก-เจ้าหน้าที่ ต้องมีจริยธรรมในการรับผิดชอบต่อสหกรณ์เช่น
    • กรรมการต้องบริหารงานด้วยความโปร่งใส ทำให้สมาชิกเกิดความเชื่อใจ ไว้ใจและมั่นใจว่าจะสามารถนำสหกรณ์สู่การมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
    • สมาชิกต้องรู้หน้าที่ของตนเองว่าสหกรณ์นั้นเป็นของท่านเอง ต้องร่วมประชุมและรับผิดชอบต่อองค์กรอย่างแท้จริง
    • เจ้าหน้าที่ต้องมีจิตสำนึกในการให้บริการต่อสมาชิกอย่างรวดเร็วและเกิดความพึงพอใจ พัฒนาตัวเองในด้าน IT ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพราะถ้าสามารถใช้ IT ได้มากเท่าใดต้นทุนในอนาคตก็จะลดน้อยลง และจะเกิดผลดีต่อสหกรณ์ในอนาคต

                เศรษฐศาสตร์จุลภาคในวันนี้ได้ข้อคิดว่า สหกรณ์ต้องพิจารณาในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในสหกรณ์ทั้ง Man Money Material ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการใช้ Management ที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ยุติธรรม และต้องไม่สร้างต้นทุนทางสังคม Social Benefit ให้มาก สหกรณ์ต้องสร้างให้สมาชิกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น well-being

ในสหกรณ์ออมทรัพย์ต้องสร้างให้สมาชิกสามารถเป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์มิใช่การเข้าทรัพย์ ต้องพิจารณาให้สัดส่วนของการรู้จักการออมมีสัดส่วนที่ออมสูงขึ้น เช่นในสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ตอนแรกมีสมาชิกออม 28% สมาชิกกู้ 62% ต่อมาได้พัฒนาให้ความรู้ สร้างแรงจูงใจให้รางวัล เป็นระยะเวลา 15 ปี ปัจจุบันนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯมีสมาชิกกู้ 48% มีสมาชิกไม่กู้ 52% และพบว่ามีสมาชิก ที่มีหลักทรัพย์เป็นของตนเองจากการใช้เงินกู้ของสหกรณ์สร้างฐานะจำนวนถึง 3,000 รายจาก 10,478 ราย คิดเป็นร้อยละ 28 ของสมาชิก

ในขณะเดียวกันสหกรณ์ต้องหาทางประหยัดรายจ่ายเรื่องสาธารณูปโภคมากขึ้นให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันประหยัดทรัพยากรมีความเข้าใจและความรักในการเป็นเจ้าของสำนักงานไม่ใช่ผู้ใช้สำนักงานฝ่ายเดียว

ขอเรียนรู้ด้วยนะคะ

แม้มิได้ทำงานด้านการสหกรณ์ หากว่าได้ติดตามเรียนรู้เรื่องราวของสหกรณ์ ด้วยความเชื่อมั่นในวิธีการของสหกรณ์ ได้นำเรื่องราวและแนวคิดถ่ายทอดเล่าสู๋กันฟัง และเชื่อมโยงปลูกจิตสำนึกให้กับเด็กน้อย

เรียนรู้เพื่อเติมเต็ม และหวังว่าวันหนึ่งจะได้นำความรู้นี้มาใช้ให้เกิดประโยขน์ในกลุ่มผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียนเอง แต่ฝันมักมาและหายไป หากยังมุ่งมั่นในความคิด

เด็กน้อยเติบโตและเข้มแข็งได้ นอกจากความรักและ กองทัพยังต้องเดินด้วยท้อง ความมั่นคงของครอบครัวมีผลต่อการพัฒนาเด็กน้อยให้ถึงเป้าหมายได้เช่นกัน หากครอบครัวมั่นคง เกิดการรวมตัวกันได้ และเดินไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีเป้าหมาย พร้อมเรียนรู้ปรับกระบวนท่า พัฒนา การพัฒฯเด็กน้อยคงไปได้ไกลกว่านี้

ขอบคุณค่ะ

น.พ.กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

ประเด็นการเรียนรู้จากเศรษฐศาสตร์จุลภาค เรื่องใดที่มีผลต่อสหกรณ์ ได้อะไรและทำอะไรต่อ

 

สิ่งที่ได้ เรื่องมอง คนเป็น ทุน

            คนเป็นต้นทุนที่สำคัญ เพราะฉะนั้นการลงทุนใน คนหรือที่เรียกว่า HR จำเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้ไม่ใช่เพียงความรู้ แต่เป็นความคิด ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

                สหกรณ์ควรจัดงบลงทุนในการสร้างคนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้คนเหล่านี้ออกไปทำประโยชน์แก่สังคมและชาติบ้านเมือง และสิ่งหนึ่งที่จะต้องมีคือ คุณธรรมซึ่งถ้าขาดซึ่งคุณธรรม ผลที่ออกมาอาจเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง (ทุนทางปัญญาและทุนทางจริยธรรม)

และสิ่งหนึ่งที่ได้จากวันนี้คือ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งกำลังทรัพย์ กำลังคนและสิ่งของ คือใช้อย่างประหยัดและเห็นคุณค่าในส่วนที่ใช้หรือทำอยู่

สิ่งที่จะทำในสหกรณ์ของข้าพเจ้าคือ เรื่องการเสริมสร้าง ความรู้ ความเข้าใจและความตระหนักในหมูสมาชิก เจ้าหน้าที่ กรรมการ โดยการจัดอบรมสัมมนา พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด ซึ่งปีที่แล้วก็ได้เริ่มดำเนินการไปพอสมควร และปีนี้จะเน้นสิ่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น และเพิ่มหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมากยิ่งขึ้น ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้บุคลากรให้มาก

การนำหลักเศรษฐศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในงานสหกรณ์

                ทรัพยากรของสหกรณ์ (4M: Man Money Material Management) ต้องมีการบริหารจัดการด้วยองค์กรตนเองให้มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดก่อน หากไม่เพียงพอ เช่นทุนดำเนินงานไม่เพียงพอ ก็ต้องระดมทุนทั้งจากภายในและภายนอก เช่นทุนภายในมาจากให้สมาชิกถือหุ้นเพิ่ม ฝากเงินเพิ่ม ทุนภายนอกมาจากการกู้ยืม รับฝากจากแห่งอื่น จึงต้องมีต้นทุน หากขอรับความช่วยเหลือแบบให้เปล่า เช่นได้รับฉางและโรงสีและให้เปล่า จะทำให้ไม่คำนึงถึงค่าเสียโอกาสคือต้นทุนต่างๆเช่นค่าก่อสร้าง อุปกรณ์ต่างๆ ทำให้สหกรณ์ไม่ใส่ใจ อาจประสบความล้มเหลว ฉาง โรงสีอาจไม่ได้ใช้ประโยชน์ เสียโอกาสให้บริการ

                จึงขอให้บริหารอย่างมีประสิทธิภาพก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากภายนอกเมื่อสหกรณ์บริหารองค์กรดีแล้ว จึงขยายไปสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมให้ได้รับการดุแลให้มีคุณภาพมากขึ้น

กัญจน์นิกข์ กำเนิดเพ็ชร์

ในวันนี้ ได้อะไรจากการเรียนเศรษฐศาสตร์จุลภาค แล้วจะทำอะไรต่อที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์

สิ่งที่ได้จากการเรียน 2 ประเด็นคือ

  1. การบริหารจัดการในเรื่อง สิทธิการเป็นเจ้าของ (Property Right) นั้นเป็นเรื่องที่ยากเพราะขาดการเป็นเจ้าของในเรื่องต่างๆ อย่างการใช้น้ำ-ไฟ โทรศัพท์ในองค์กร ซึ่งเป็น Social Cost ขององค์กร แต่สามารถลดได้ด้วยการ

1) ติดประกาศการใช้น้ำ-ไฟโดยกำหนดมาตรการประหยัด

2) ร่วมสร้างนิสัยโดยให้ปิดแอร์/ไฟในเวลากลางวันและใช้งานเมื่อเริ่มทำงาน 8.30 น. ปิดทันทีหลังเลิกงาน

3) มีคณะทำงานตรวจมาตรการดังกล่าว

4) ประกาศเกียรติคุณให้รางวัลแก่พนักงานที่ปฏิบัติได้ดี สิ่งเหล่านี้เป็นการทำงานแบบลด Social Cost ในลักษณะ Short term แต่หากทำต่อเนื่อง จะกลายเป็น Social benefit ในเรื่องการใช้พลังงานอย่างประหยัด คุ้มค่า ลดภาวะโลกร้อนได้

       2.      การบริหารคน ควรมีคุณลักษณะ

                2.1 ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งคนไทยมีน้อยแต่พัฒนาได้โดยการคิดนอกกรอบให้

                มากขึ้นแต่ไม่ทำให้องค์กรเสียหาย

2.2 การมีนวัตกรรม (Innovation) ตั้งแต่การมีแนวคิดใหม่ (New idea) มาใช้ในการทำงานà การมีเครื่องมือบริหารแบบใหม่เพื่อพัฒนาระบบ(Innovation)

2.3 การมีเครือข่ายภาคีพันธมิตร (Networking) เพราะการทำงานที่มีพันธมิตร จะสร้างช่องทางทางธุรกิจ ลดต้นทุนในการทำงานและเกิด Business Matching สร้างมูลค่าเพิ่มในการทำธุรกิจให้องค์กรอยู่รอด

สรุปการบรรยายเรื่อง การประยุกตแนวคิดทางการตลาดกับงานสหกรณ โดย อาจารย์สมชาย สาโรวาท  ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2552

·       การตลาดไม่ขัดกับหลักสหกรณ์ การมุ่งกำไรมากเกินไปไม่ใช่การตลาดที่ดี ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและทำให้สังคมมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วย

·       การทำการตลาด สหกรณ์ต้อง

·       วิเคราะห์โอกาสการตลาด ลักษณะของตลาด

o      มีคู่แข่งมากหรือไม่

o      ขายที่ใด

o      อัตราเพิ่มของประชากร ตลาดโตหรือไม่ มีโอกาสขยายหรือไม่

o      Innovation มีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆหรือไม่

o      พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนหรือไม่

o      วิกฤติการณ์

·       เลือกตลาดที่จะเจาะลงไป

o      ทำเขตใดหรือจังหวัดใด

o      เลือกตามหลักประชากรศาสตร์ เช่น ตลาดเด็ก

o      เลือกตาม lifestyle

o      เลือกตามพฤติกรรมในการซื้อ

·       พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด 4P

o      Product

o      Price

o      Promotion

o      Place

·       วางแผนวิธีการทางการตลาด จะใช้ส่วนผสมทางการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค

·       การปฏิบัติการและควบคุมทางการตลาด

o      ดูว่าการตลาดสร้างกำไรหรือไม่

o      ควบคุมประสิทธิภาพ 4P

o      ควบคุมกลยุทธ์ วิเคราะห์สิ่งแวดล้อมว่าใช้กลยุทธ์เหมาะสมหรือไม่ สมัยปัจจุบัน นิยมใช้กลยุทธ์การตลาดครบวงจร โดยใช้วิธีการทุกอย่างเพื่อสื่อสารเข้าถึงลูกค้า

  • อาจารย์สมชายสำรวจภาพลักษณ์สหกรณ์ พบว่า คนนอกมองว่า สหกรณ์เป็นองค์กรของคนที่รวมตัวกัน ซึ่งส่วนมากเป็นเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน มุ่งอำนาจต่อรองกับส่วนอื่นๆ เพื่อประโยชน์ของสมาชิก  เป็นเครื่องมือของรัฐ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ  ไม่มุ่งเน้นผลกำไรแบบธุรกิจ  ระบบงานแบบพื้นฐาน ไม่ทันสมัย
  • การประยุกต์ใช้การตลาดในการทำงานสหกรณ์ ได้แก่ การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางการตลาด การเลือกตลาดเป้าหมายให้ถูกต้อง การเลือกกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินงานและการควบคุมอย่างได้ผล

ความเห็นเกี่ยวกับกรณีศึกษาการตลาด

·       สหกรณ์ยังขาดความคล่องตัวในการทำงาน ต้องแก้ที่ผู้นำ บุคลากรโดยเฉพาะผู้นำที่สำคัญที่สุด

·       นโยบายประชานิยมขัดขวางการทำงานของสหกรณ์ มีการแทรกแซงต่อแผนสหกรณ์ เช่น สหกรณ์การเกษตรวางแผนพืชพลังงานและพืชอาหารไว้

·       สหกรณ์ควรใช้การตลาดในการประชาสัมพันธ์ขยายฐานสมาชิก ซึ่งสหกรณ์ในไทยยังทำน้อยมาก

·       สหกรณ์ทำธุรกิจการตลาดมีกลุ่มเป้าหมายคือสมาชิกเป็นผู้ซื้อและขาย สหกรณ์เริ่มต้นก็มีลูกค้าที่แน่นอนคือ สมาชิก เครือข่ายและไม่ใช่สมาชิก

·       บุคลากรสหกรณ์ ตั้งแต่สมาชิก ต้องเข้าใจหลักการสหกรณ์  ไม่แสวงหากำไรสูงสุด

ผนส. 3 ทุกท่านครับ

      เสนอโครงร่างโครงการพัฒนาสหกรณ์ หากต้องการความรวดเร็วในการตรวจสอบของอาจารย์ ให้เสนอตามแบบฟอร์มที่ให้ไว้.... http://gotoknow.org/file/todschanin/Projectfrom.doc

และให้ดำเนินการตามกำหนดการนี้น่ะครับ....

http://gotoknow.org/file/todschanin/Plan1.xls

ตรวจสอบและ Udate รายชื่อและความคืบหน้าการเสนอโครงการ ที่นี่ครับ

http://gotoknow.org/file/todschanin/Control1.xls

ด้วยจิตคารวะ

สรุปการบรรยายเรื่อง การสร้างทีมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดย รศ.ดร.มนตรี บุญเสนอ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2552

  • ในการทำงานยุคปัจจุบัน ต้องปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบที่เหมาะสมกับท่านมากสุด ต้องทำวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็ง ทำงานเป็นทีมให้ทุกคนมีส่วนร่วม
  • เวลาทำงานต้องเน้นคุณภาพมาก่อน เน้นความต้องการของลูกค้าที่มีหลากหลาย เน้นปรับปรุงที่กระบวนการลดขั้นตอนให้น้อยลง มีความร่วมมือร่วมใจในทีมงาน มีวินัยในการทำงานของแต่ละคน
  • ปัจจัยความสำเร็จคือ ต้องปรับกระบวนทัศน์ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ มีทัศนคติที่ดีมีความคิดเชิงบวก เชื่อมั่นแผนที่วางร่วมกัน
  • บทเรียนจากเกมตัวเลขคือ เวลารวมกลุ่มใหญ่ต้องมีผู้นำทำกิจกรรม  กลุ่มใหญ่อาจจะไม่ใช่ทีมที่ดีเพราะอาจะมีจำนวนคนมากเกินไป ต้องมีการวางแผนที่ดีด้วย
  • ผู้นำต้องใช้คนเป็น ใจกว้างพอที่จะรับฟังความเห็นผู้อื่นและใช้ประโยชน์จากความคิดเห็นที่แตกต่างนั้น  ผู้นำต้องพูดเป็น พูดถูกจังหวะ และต้องมีความยุติธรรม
  • บทเรียนจากเกมสามเหลี่ยมพิศวง คือ ต้องคิดนอกกรอบทำให้ลดต้นทุนและเพิ่มกำไรและความสามารถในการแข่งขัน และต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  • ผู้นำต้องรู้ธรรมชาติของมนุษย์  บางคนเป็นมนุษย์ X ไม่พัฒนาตน บางคนเป็นมนุษย์ Y สนใจใฝ่รู้ รับผิดชอบ
  • ผู้นำต้องทำคนให้เป็นมนุษย์ Y ต้องใช้การกระตุ้น ตัวผู้นำห้ามทำตัวเป็นมนุษย์ X ต้องเข้มงวดต่อตนเอง
  • ต้องเข้าใจความต้องการของมนุษย์  ผู้นำต้องทราบว่า เพื่อนร่วมงานอยู่ในระดับใด ต้องการอะไร เช่น พนักงานระดับล่างดีเด่นควรได้รับเงินเพิ่มด้วย นอกเหนือประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติแล้ว 
  • บทเรียนจากเกมร้อยใจเป็นหนึ่ง คือ ผู้นำต้องใส่ใจรายละเอียด อย่ามองข้ามสิ่งที่ง่ายเกินไป เราชนะวันนี้ เราอาจไม่ชนะในอนาคตถ้าไม่ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ผู้นำต้องช่วยกำกับดูแล
  • ผู้นำต้องพูดจริงซื่อสัตย์ตลอดไป อย่ารับรองในสิ่งที่ไม่อยู่ในอำนาจตน อย่าให้เพื่อนร่วมงานเสียหน้า อย่าตำหนิต่อหน้าสาธารณชน ให้เชิญมาคุยตัวต่อตัว ขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่สนับสนุนต่อหน้าสาธารณชน
  • ผู้นำต้องมีพลังในตัวสูงและเชื่อมั่นในตนเองแต่อย่าสูงเกินไป มีการทำงานที่เหนือมาตรฐาน กล้าพูด กล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง รู้จุดเด่นจุดด้อยแล้วหาทีมมาเสริม ถ่ายทอดจุดเด่นให้ผู้ร่วมงาน ต้องช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเข้าใจอย่างเอื้ออาทร 
  • ผู้นำต้องสุขภาพดี วิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะทางสังคม
  • ผู้นำต้องตระหนักรู้ว่าเก่งและด้อยอะไรและปรับปรุง ต้องควบคุมตนเองให้ได้ แต่งกายดี มีนวัตกรรมใหม่เสมอ ฟังด้วยความเอาใจใส่
  • ผู้นำต้องเก่งคิด เก่งคน เก่งงาน มีสำนึกในบริการ สื่อสารเป็น ซื่อสัตย์และพร้อมรับผิดชอบ
  • บทเรียนจากเกมรวมพลังกู้ภัยพิบัติคือ ต้องบริหารการเปลี่ยนแปลง การสื่อสารในทีมต้องดี ต้องรู้จักปรับตัวและแก้ปัญหา
  • ในการทำงานเป็นทีม ต้องไว้ใจเพื่อนร่วมงาน เห็นอกเห็นใจ  มีการดำเนินการตกลงเรื่องผลประโยชน์ได้ก่อน ทุกคนมีผลประโยชน์ร่วมกัน ร่วมทีมแบบเต็มใจ เปิดให้สมาชิกมีโอกาสทุกคน มีการยอมรับซึ่งกันและกัน ถ่ายโอนความรู้กันและกัน รวมพลัง
  • ผู้นำต้องทำตัวเสมือนคนรับใช้ รู้ทุกอย่าง ไม่มีการปฏิเสธ พร้อมทำให้ทันที
  • ผู้นำต้องมีทักษะการสื่อสารคือ ใช้ภาษาที่ผู้ฟังฟังแล้วสบายใจ
  • ผู้นำต้องมีข้อมูลมากสุดก่อนตัดสินใจ
  • ในการทำทีมให้สำเร็จ ต้องเน้นความร่วมมือ ทำให้ความคิดเป็นจริง ตัดสินใจแล้วอย่าเปลี่ยนแปลง มีความแน่นอนชัดเจน ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างในทีม ให้รางวัลซึ่งกันและกันในการทำงาน เวลามีอุปสรรค ก็ต้องแสวงหาความช่วยเหลือ อย่าหมดกำลังใจ

พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ

ในการเรียนวันศุกร์ที่ 19 กพ. 52 นั้นเราได้ข้อสรุปของกลุ่มเราว่า

1. เราจะจัดสัมมนาให้กับสมาชิกสหกรณ์ทั่วไป ในหัวเรื่องที่เป็นการแสดงให้เห็นว่าสหกรณ์นั้นเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยเศรษฐกิจของประเทศหรือสหกรณ์นั้นมีส่วนสำคัญในการช่วยเศรษฐกิจของชาติ ส่วนชื่อเรื่องนั้นกลุ่มเราจะตกลงกันในตอนไปจีน

2. สถานที่ใช้สถานที่ห้องประชุมสันนิบาตสหกรณ์

3. กำหนดเวลาในการจัด คือ วันที่ 24 เมษายน 2552 เวลา 09.00 - 12.00 น. แล้วพักรับประทานอาหารจัดโดยโครงการฯ เวลา 13.30 น.เริ่มพิธีรับประกาศนียบัตร

(ตอนเย็นน่าจะจัดเลี้ยงแสดงความขอบคุณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ประธานและคณะกรรมการสันนิบาต ผู้บริหารโครงการ เจ้าหน้าที่โครงการ และรุ่นพี่รุ่น 1-2 รวมทั้งงานฉลองของเราด้วย สำหรับงานเลี้ยงตอนเย็นรายการนี้คิดเองยังไม่ได้ปรึกษากลุ่ม)

4. วิทยากรของพวกเราอาจารย์เสนอว่าควรจะมี 3-คน นำเสนอประมาณ 10-15 นาที ในการนี้ผมได้คุยกลุ่มเล็กๆไว้บ้างและมีการเสนอแนวคิดไว้ว่าอาจเป็นคุณปฏิพล เกตุรัตนัง ได้พูดในเรื่องของทางเกษตร หมอ กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์ พูดแนวของออมทรัพย์ และคุณอดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์พูดเรื่องโคนมที่กำลังเป็น เป็นประเด็นร้อนในขณะนี้ ขอให้พวกเราเสนอความเห็นในเรื่องผู้นำเสนอซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ครับยังไม่ลงตัวนัก

เมื่อผู้นำเสนอลงตัวแล้ว พวกเราจะช่วยกันเตรียมข้อมูลในการนำเสนอให้กับผู้แทนทั้ง 3 และจะช่วยกันทำพลังจุด (Power Point) ให้ด้วยครับ

5. ผู้ที่จะมาแสดงความคิดเห็นข้อเสนอแนะนั้นท่านอาจารย์ได้นำเสนอไว้ 3 คน คือ ท่านกรณ์ จาติกวณิช ท่านโอฬาร ไชยประวัติ และม.ร.ว.ปริดิยาธร เทวกุล ครับ และอาจารย์จะเป็นผู้ทาบทามให้ครับ

6. กลับจากจีนเราจะเริ่มทำจดหมายเชิญสหกรณ์ทั้งหลายมาร่วมงานรวมทั้งการประชาสัมพันธ์ ใครถนัดเรื่องอย่างนี้อาสามาเลยนะครับ

7. พวกเราจะช่วยกันระดมความคิดในรูปแบบของงานและแบ่งงานกันตอนไปจีนนะครับ

พี่น้องครับ

เมื่อวันที่ 19 กพ. 52 เวลาประมาณ สัก 21.00 น. เรามีประชุมกลุ่มย่อยกันแล้วทันใดนั้น คุณสิทธิพร มีเสถียรได้นำเสนอว่า ตามที่พวกเราได้ไปดูงานสหกรณ์นั้นทั้งหมดเป็นสหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จทั้งนั้น ทำไมพวกเราที่เป็นเป็นนักเรียนหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ชั้นสูง รุ่นที่ 3 ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพมากมายและมีพลังมหาศาล รวมทั้งขณะนี้กำลังมีไฟแรงอยู่มากมาย จึงไม่ไปดูงานสหกรณ์ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ หรือประสบความสำเร็จแต่ยังมีปัญหาอยู่ โดยพวกเราน่าจะไปศึกษาดูงานสหกรณ์เหล่านั้นแล้วพวกเราอาจจะเห็นประเด็นที่เป็นปัญหานอกเหนือจากที่เราเห็นจากสหกรณ์ประสบความสำเร็จมีอยู่ แล้วเราจะช่วยอะไรให้สหกรณ์เหล่านั้นประสบความสำเร็จในการบริหารงานจนเป็นสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็งมากขึ้นจนสามารถเลี้ยงตัวได้ พวกเราอาจจะได้ทำหน้าที่โค้ชที่ดีนะครับ

ผมจึงได้นำเสนอพวกเราในตอนเช้าวันเสาร์ที่ 20 กพ. 52 และได้เสนอให้พวกเราช่วยกันหารายชื่อสหกรณ์เหล่านั้นมาเสนอให้กลุ่มพิจารณา โดยเริ่มต้นน่าจะเป็นสหกรณ์ที่อยู่ไม่ไกลมากนักเพื่อสะดวกในการเดินทางไปเยี่ยมชมและเป็นสหกรณ์ที่ยังมีปัญหาหรือยังไม่ประสบความสำเร็จ หรือสำเร็จแล้วแต่ยังไม่เข้มแข็งมากนัก

พวกเราช่วยกันนะครับเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาสหกรณ์ให้เข้มแข็งขึ้น พระเจ้าอยู่หัวฯรับสั่งว่าถ้าสหกรณ์เข้มแข็งแล้วเศรษฐกิจของชาติจะดีขึ้นตามไปด้วยครับ

รักทุกคนตราบชั่วฟ้าดินสลายและโลกแตกเป็นผงคลี

บัญชาผู้น่ารัก

              เรียนอาจารย์ และผนส3 ทุกท่าน

                      สำหรับการอบรมครั้งที่ผ่านมาเป็นครั้งที่ 4

       เรื่อง หลักเศรษฐศาสตร์จุลภาคเบื้องต้น , เรื่อง การประยุกต์แนวคิดทางการตลาดกับงานสหกรณ์ , เรื่องการสร้างทีมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ/เรื่งกฎหมายสหกรณ์ที่ควรรู้

      ทั้ง 4 เรื่องหากสหกรณ์นำมาใช้อย่างจริงจังจะทำให้สหกรณ์ประสบความสำเร็จ อย่างแนน่อน แต่สหกรณ์ส่วนให้ไม่ได้นำมาใช้อย่างจริงจัง หรือบางคนนำมาใช้แล้วเข้าข้างตัวเอง

      -อย่างเรื่องกฏหมายที่อาจารย์พูด การตีความเพื่อเข้าข้างตนเองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ต้องยกตัวอย่างเช่น การดำรงตำแหน่ง(วาระกรรมการ)แต่ละคนตีความหมายไม่เหมือนกัน

     -เรื่องการตลาดสหกรณ์มีกลุ่มเป้าหมายที่แน่นอนคือสมาชิก แต่ปัจจุบันสหกรณ์ไม่สามารถให้สมาชิกใช้บริการสินค้าได้ทั้งหมดเพราะสมาชิก(บางรายยังไม่มีความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์)

     เรื่องอื่น นโยบายของรัฐทำให้ระบบสหกณ์เสียหายหลายเรื่อง

   1 โครงการพักชำระหนี้ของรัฐบาลมีผลกระทบต่อสหกรณ์เป็นอย่างมาก เพราะสหกรณ์ไม่ได้รับการช่วยเหลือเช่นเดียวกับ ธกส.

    2 โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ธกส ได้รับการพักชำระหนี้ สหกรณ์บางแห่งได้รับการพักชำระหนี้แต่วิธีการปฏิบัติไม่เหมือนกัน (รายละเอียดอธิบายวันหลัง) มีอีกหลายโครงการ

        ตามที่ท่านอาจารย์ ยม ให้ ทุกคนเขียนโครงการ และท่านอาจารย์เปิดบล๊อกที่ http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/

      ผนส3 ช่วยเข้าไปเยี่ยมอาจารย์ยมบ้างผมเห็นมีคนเข้าไปน้อยมาก ฝากถึงณรงค์ผมส่งโครงการกับอาจารย์แล้วนะ  เห็นที่รายงานในบล๊อก ยังไม่ส่ง และอาจารย์ส่งกลับมาให้แก้ไขแต่ยังไม่ส่งรอบสอง

ผนส. 3 ทุกท่าน ครับ

         ตรวจสอบและupdate ความคืบหน้าการดำเนินการเสนอโครงการพัฒนาสหกรณ์ ได้ที่นี่......

http://gotoknow.org/file/todschanin/Control1.xls

          หากท่านใดมีผลคืบหน้ามากกว่านี้ หรือ ข้อมูลผิดพลาดโปรดแจ้งด้วยน่ะครับ และหากยังไม่ได้เสนอโครงร่างฯ กับอาจารย์ยม ให้ใช้แบบฟอร์มตามที่แจ้งไว้ในการเสนอโครงร่างฯ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการตรวจแก้ของอาจารย์ ถ้าไม่มี ท่านสามารถ Download ได้ใน blog นี้ หรือที่นี่น่ะครับ

http://gotoknow.org/file/todschanin/Projectfrom.doc

เพื่อประโยชน์ของท่าน โปรดดำเนินการตามกำหนดการ ตามนี้

http://gotoknow.org/file/todschanin/Plan1.xls

ด้วยจิตคารวะ

ถึงอาจารย์พิณฝ่ายปกครองห้อง3/1

สำนวน.เด็กไม่เอาถ่าน..ที่เราได้ถกเถียงกันที่โรงแรมโคราชของที่ไปที่มาของสำนวนนี้มีรากศัพย์มาอย่างไรผมได้ไปสืบค้นมาให้อาจารย์พิจารณาอีกครั้งไม่ทราบว่าเห็นด้วยหรือไม่

คำถาม...

สำนวน เด็กไม่เอาถ่าน มาจาก เหล็กไม่เอาถ่าน ใช่หรือไม่ เพราะเหล็กบางชนิดแม้จะใช้ถ่านเผาสักเท่าไรก็ตาม ก็ไม่สามารถนำมาตีเป็นดาบเป็นมีดได้

คำตอบ...

สำนวน เด็กไม่เอาถ่าน ไม่ปรากฏกล่าวอธิบายไว้ที่ใด มีแต่สำนวนว่า

ไม่เอาถ่าน เท่านั้น ซึ่งขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) อธิบายไว้ว่า

“ไม่เอาถ่าน เป็นสำนวนมาจากการเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งนิยมทำกันในสมัยโบราณ คือ ทำแร่อื่น ๆ ให้เป็นทอง สุนทรภู่เป็นคนหนึ่งที่ฝักใฝ่ทางนี้เคยไปหาแร่ที่

เมืองเพชร และเขียนไว้ในรำพันพิลาป ว่า...

ครั้งไปด่านกาญจนบุรีที่อยู่กระเหรี่ยง ฟังแต่เสียงเสือสีห์ชะนีหนาว

นอนน้ำค้างพร่างพรมพรอยพรมพราว เพราะเชื่อลาวลวงว่าแร่แปรเป็นทอง

อีกตอนหนึ่งอยู่ที่อำเภอสองพี่น้อง เมืองสุพรรณว่า...

โอ้ยามยากอยากใคร่ได้เหล็กไหลเล่น ทำทองเป็นปั้นเตาเผาถลุง

ลองตำราอาจารย์ทองบ้านจุง จนเกลือหุงหายสูญสิ้นทุนรอน

วิธีทำก็คือ ตั้งเตาถลุงแร่ ใช้ถ่านอย่างดีเป็นเชื้อไฟ มียาใส่ให้แร่นั้นกลายเป็นทอง แร่บางอย่างถลุงยาก ใช้ถ่านเผาเท่าไรก็ไม่ละลาย เลยเกิดเป็นสำนวนพูดว่า

ไม่เอาถ่าน

อีกทางหนึ่งใช้เป็นสำนวนหมายความว่า เหลวไหลไม่เอาใจใส่ในการที่จะทำตัวให้ดี จะเป็นในด้านการศึกษาเล่าเรียน ในด้านความประพฤติ ในด้านอาชีพการงานหรืออะไรก็ได้ ไม่คิดทำตัวให้มีหลักฐาน คำว่า ถ่าน มีบางคนเข้าใจว่า คงจะเพี้ยนมาจาก ฐาน คือ ฐานะ ไม่เอาถ่าน ก็คือ ไม่คิดตั้งตัวให้มีฐานะ”

(จากหนังสือ สำนวนไทย ของ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) พ.ศ. ๒๕๓๙ หน้า ๔๔๖)

วิเคราะห์จากคำอธิบายข้างต้น เห็นว่าสำนวน ไม่เอาถ่าน ไม่ได้หมายเฉพาะเด็กเท่านั้น แต่เป็นสำนวนที่ใช้แก่คนทั่วไปที่ประพฤติตนไม่เหมาะควรให้มั่นคงในอาชีพและการงานก็ได้ สำนวนไม่เอาถ่าน ถ้านำไปใช้ก็เป็น เด็กไม่เอาถ่าน หรือ คนไม่เอาถ่าน แล้วแต่กรณี

...พอได้ไหมครับอาจารย์พิณแค่นี้ก่อนนะครับ.....ฝันดีทุกคน...แจ้

ยินดีต้อนรับความคิดเห็นที่ 423 คุณครูต้อยค่ะ

ดีใจมากค่ะที่ได้เห็นคุณครูซึ่งเป็นแม่พิมพ์ของชาติเห็นคุณค่าและประโยชน์จากสหกรณ์อย่างแท้จริง หากคุณครูทุกคนช่วยกันสอนเด็กให้รู้จักหลักการ อุดมการณ์และวิธีการสหกรณ์อย่างแท้จริง พร้อมทั้งรัฐบาลเห็นความสำคัญในการส่งเสริมเรื่องสหกรณ์ในโรงเรียนทุกโรงเรียน โดยมีการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงจะทำให้เด็ก ๆ มีความรู้และปลูกฝังในสิ่งที่ถูกต้องให้กับเด็ก ๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติได้

               เรียน อาจารย์ และ ผนส 3 ทุกคน

 วันนี้มีเรื่องมาฝาก มีคนส่งข้อความให้เห็นมีประโยขน์เลยส่งต่อ       
       ระวั ง ห้องน้ำปั๊ม!!
    
  ระวังห้องน้ำในปั้มและรถที่ขับตามมา ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย
         โปรด Fw: ต่อให้กับคนที่ท่านรักและห่วงใยต่อไป
         สัตว์โลกทั้งหลายพึงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ความตายอยู่รอบตัว เขาเคยคิดว่าภาพข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นบนน.ส.พทุกวันเป็นเรื่องไกลตัว จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่ง ในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่เปิดไฟฟ้าสว่างไสว
        วิชชุ เศรษฐกนก ศิลปินฝึกหัดของบริษัท Aratist ในเครือแกรมมี่กรุ๊ป จึงตระหนักว่า ไม่ว่าใครก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้พอๆกัน วันที่เกิดเหตุผมไปคุยเรื่องงานดนตรีกับพวกเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ที่พรีเมียร์พระราม 9 คุยเสร็จเกือบตีสาม ปกติก็ไม่ได้กลับดึกขนาดนั้น แต่วันนั้นคุยกันค่อนข้างซีเรียสเลยใช้เวลานาน คุยเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ผมขับรถเกือบจะถึงบ้านแล้ว ผ่านปั๊มแห่งหนึ่งก็เลยแวะเข้าไป จริง ๆ แล้วไม่ถึงกับอยากเข้าห้องน้ำขนาดทนไม่ได้ แต่อยากซื้อขนมกับ ไอศกรีมไปกินที่บ้านมากกว่า ตอนนั้นไม่มีรถคันอื่นเข้ามาเติมน้ำมันเลย ผมขับไปจอดหน้ามินิมาร์ทเข้าไปซื้อของเสร็จ คิดว่าเข้าห้องน้ำล้างหน้าหน่อยดีกว่า ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ก็เดินไปล็อครถก่อน ห้องน้ำของปั๊มอยู่ข้างหลังมินิมาร์ท ไม่มีใครในห้องน้ำเลย แต่ไฟสว่างมากเพราะเป็นไฟนีออน กำลังจะรูดซิปกางเกงก็ได้ยินเสียงตึง... เป็นเสียงคนเดินเข้ามา พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นปืนจ่ออยู่ตรงหน้า ความรู้สึกแรกคือไม่อยากเชื่อว่าถูกปล้น แต่พอได้สติก็รู้ว่านี่ของจริง... จังหวะนั้นมันเร็วมาก พอผมเอี้ยวตัวไป เห็นคนเดินตามหลังมาอีกสองคน คนถือปืนก็ขึ้นลำ ปืน แล้วพูดด้วยเสียงดุ ๆ ว่า... ถ้ามึงไม่อยากตายหันหลังไป พอผมหันกลับ เขาก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำ แล้วเอาด้ามปืนตบที่ท้ายทอยซ้อนกันหลายครั้ง ผมบอกเขาว่า.พี่อยากได้อะไร..เอาไปเลยหวังว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรร้าย แรง แต่ปรากฎว่าเขาไม่สน ทุบเอาอีก... แล้วอีกคนก็เข้ามาจับมือผมไปไพล่หลัง ได้ยินเสียงแกะเทปกาวดังแควกก่อนจะเอาเทปนั้นมัดมือผมไว้พอมัดเสร็จ ก็จับตัวผมหันมา จากนั้นก็ต่อยที่ท้องผมอย่างแรง หมัดเดียวแต่จุกมาก จนผมทรุดลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้น ต่อจากนั้นเขาก็จับขาผมรวบให้นั่งบนพื้น แล้วทำท่า เหมือนจะเอาเทปมามัดที่เท้า แต่เปลี่ยนใจเป็นมาพันที่หน้าก่อน เริ่มจากปิดตา ปิดปาก ตอนปิดปากเขาปิดจมูก ไปด้วย ผมพยายามร้องว่าหายใจไม่ออก แต่เสียงมันดังออกมาแค่อือๆ เท่านั้น โชคดีว่าพันไม่แน่นมากยังมีช่องเหลือให้หายใจได้ หลังจากนั้นมันก็เอาเทปมามัดเท้าต่อ ก่อนค้นตัวเอากุญแจรถไป แล้วทุกอย่างก็เงียบ ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาคงทิ้งผมไว้ เอาแต่รถไปอย่างเดียวรออีกเดี๋ยวค่อย ๆ กลิ้งออกไปหาคนช่วยก็ได้ แต่ยังไม่ทันจะโล่งใจเลย ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้น ตอนนั้นตกใจสุดขีดเลย ตกใจกว่าตอนเห็นปืนอีก เพราะคิดว่าคราวนี้คงต้องถูกเอาไปยิงทิ้งแน่ ผมดิ้นสุดชีวิตเลยโดนอัดหรือเตะไม่รู้แน่เข้า หลังจากนั้นมันไม่เชิงว่ามีสติตลอด มันกึ่งรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว เนื่องจากถูกมัดตาเอาไว้ ทำให้ไม่รู้ว่าเค้าอุ้มไปไหน รู้สึกว่าหลังแตะอะไรสักอย่าง คิดว่าน่าจะเป็นรถเพราะพอวางเสร็จรถก็ออกตัวตอนนั้นนึกถึงพ่อแม่. ท่านจะอยู่อย่างไร เพราะผมเป็นลูกคนเดียว แล้วก็นึกถึงพระปลงว่าท่าจะไม่รอดรถวิ่งไปได้ซักพักก็หยุด รู้สึกตัวว่าถูกยกลอยขึ้น ก่อนจะถูกโยนโครมลงไปที่หญ้าคาดว่าคงเป็นข้างทางที่ไหนซักแห่ง กลั้นใจว่าจะโดนอะไรอีกไหม รู้สึกว่าจะถูกเตะเข้าที่กลางลำตัวอีกสองครั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถขับออกไป... เขาคอยจนแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้ว แล้วก็พยายามแกะเทปแล้วตะกายไปขอความช่วยเหลือ

         มีคนขับรถผ่านมา ช่วยเขาพาไปส่ง ร.พ. ไปนอนไอ.ซี.ยู 1 คืน เค้าบอกว่าพ่อแม่เคยเตือนแล้วว่าการขับรถกลับบ้านดึก ให้ระวังคนขับรถมาชนอาจเป็นโจร............. คนๆนี้โชคดีกว่าหลายคนที่เค้ายังกลับไปหาพ่อแม่ของเค้าได้...โลกนี้มันมีีทั้ง เรื่องที่ดีงาม แล้วก็เรื่องที่ไม่ดี มันเป็นโลกแห่งความจริง ขอให้ระวังตัวอย่าชะล่า หลาย ๆ คนคิดว่า... ไม่เป็นไรแค่นี้เอง แต่แค่นี้เองนั้น มันเท่ากับเราได้เอาตัวของเราทั้งชีวิตเข้าไปเสี่ยงซะแล้วถึงแม้จะไม่ห่วงตัว ก็ขอให้คิดถึงคนที่บ้านคนที่เป็นห่วงเราด้วยละกัน..

           ป.ล. ถ้าเป็น ญ. ก็อาจจะเสีย ทั้งกายทั้งใจ ส่งต่อให้คนดีๆด้วย ระวัง
          ถ้าคุณได้รับสัญญาณโทรศัพท์บนมือถือของคุณว่า ช่างเทคนิค Cellnet หรือ Vodafone บอกคุณว่า พวกเขากำลังทำการตรวจเช็คโทรศัพท์ของคุณ และบอกให้คุณต้องกด # 90 หรือ 90 # ตอนนี้มีบริษัทหลอกลวงฉ้อฉล วางอุบายนี้ขึ้นมา ถ้าคุณได้รับสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าว คุณต้องวางสายโทรศัพท์ทันที ถ้าคุณกด # 90 หรือ 90 # ล่ะก็ พวกเขาจะสามารถเข้าไปใน sim card ของคุณได้ และสามารถทำการใช้โทร.ออกจาก sim card นั้น โดยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น จะเป็นของคุณ กรุณาบอกคนอื่นๆด้วย
    -- ห้ามเปิด เวป นี้ เด็ดขาด -- เว็บ siamstreet.com และ digithais.com ปล่อย ไวรัส อย่าเปิด แถมข้อมูลยังโดนแฮ็กด้วยบอกต่อด้วย โหด มาก เตือนทุก คน ฟอร์เวิร์ดต่อด้วย นะ ! Virus ชื่อ kali มันจะมากับเมล์ชื่อ Let watchTV . อย่า เปิด เพราะ harddisk คุณจะเกลี้ยงทุกอย่างโดย ทันที
     ส่งต่อด้วยยังไม่มีวิธีแก้ไข     ไม่ควรเปิด เว็บ Siamstreet.com และ Digithais.com

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ

ต้องขอให้พวกเราแสดงความยินดีกับ กำนันสุขสันต์ จากสุพรรณบุรีที่ได้รับการขึ้นเงินเดือนจากรัฐบาล ตั้ง 50% นะครับ

บัญชา

สวัสดีครับ...เพื่อนๆ ผนส.3 ทุกคน

ขอโทษด้วยครับ ที่ไม่ค่อยได้ขึ้นบล๊อค เพราะเดือน กุมภาพันธ์ 52 นี้ ที่สำนักงานสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด มีงานถึง 3 งาน ก็เมื่อวันที่ 22 ก.พ.52 งานวางศิลาฤกษ์ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม งบประมาณ 368 ล้านบาท กำลังผลิต 45 ตันทะลายต่อชั่วโมง วันที่ 26 ก.พ.52 งานวันสหกรณ์แห่งชาติ ภาคช่วงจัดพิธีทางศาสนาอิสลาม พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย และภาคบ่ายแข่งกีฬามหาสนุกของสมาชิก การแข่งขันเปตอง ภาคกลางคืน มอบของขวัญให้แก่สมาชิกผู้สูงอายุ และชมรายการแสดงของนักเรียน

วันจันทร์ที่ 2 มี.ค.52นี้ ตอนบ่ายก็ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อเตรียมเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อนๆ ได้เตรียมตัวเดินทางกันหรือยังครับ วันที่ 3 กพ.52 เวลา 09.00 น.พบกันที่สุวรรณภูมินะครับ

...ยินดีด้วยกำนันจะได้มีเงินพอเติมน้ำมันรถไม่ต้องขโมยจากปั๊มภรรยา....และขอแสดงความยินดีกับท่านประธานบัญชา ชลาภิรมย์ ที่ได้รางวัลนักสหกรณ์ดีเด่นในปีนี้..ยินดืด้วยครับ.....แจ้

                 เรียน อาจารย์ และ ผนส 3 ทุกท่าน

           เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเป็นสหกรณ์แห่งชาติ สำหรับที่จังหวัดสงขลา ปีนี้จัดที่ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สหกรณ์ในจังหวัดสงขลาร่วมกันเป็นเจ้าภาพ

          โดยการเก็บเงินสมทบการจัดงานตามขนาดสหกรณ์ ขนาดเล็ก 2,000 บาท ขนาดกลาง 3,000 บาท ขนาดใหญ่ 5,000 บาท ขนาดใหญ่มาก 10,000 บาท และแต่สหกรณ์ที่เข้าร่วมแบ่งเป็นสีเป็นโซน ซื้อเสื้อตัวละ 250 บาท งานเลี้ยงสังสรรค์ คนละ 250 บาท 

         กิจกรรมภาคเช้า พิธีถวายสัการะพระบิดาสหกรณ์ สัมมนาเรื่อง แก้วิกฤตเศรษฐกิจไทย ด้วยการสหกรณ์ (วิทยากร คุณอภิชาติ ดำดี )

     กิจกรรมภาคบ่าย การแข่งขันกีฬามหาสนุก เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์

    กิจกรรมภาคกลางคืน กิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ การแสดงต่างๆ ในการจัดงานผมได้รับมอบหมายให้จัดการเรื่องกิจกรรมการแข่งขันกีฬา ซึ่งก็เหนื่อยมาก แต่ก็ดีใจที่ทำให้ชาว มีความสนุกสนานกัน

  

     เรื่องการไปดูงานต่างประเทศ ระหว่าวันที่ 3-7  อยากให้เจ้าหน้าที่สรุปการเดินทางอีกครั้ง ในเรื่องการแต่งกาย การเตรียมความพร้อม เพื่อเตือนความจำ

      ขอบคุณครับ

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

หลังกลับจากการเรียนครั้งที่ ๔ ผมต้องไปเตรียมจัดงาน"วันสหกรณ์แห่งชาติ๕๒" โดยสหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด เป็นเจ้าภาพจัดงานของขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดชัยภูมิ วันที่ ๒๕-๒๖ กุมภาพันธ์ ขอขอบคุณ..ท่านอดิศักดิ์ โคนมปากช่อง ที่ไปร่วมงานและนำนมจากเต้า ไปแจกเด็กที่เข้าร่วมงาน

การจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด ได้จัดงานติดต่อมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ โดยมีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้สมาชิกสหกรณ์ เด็ก ยุวชน เยาวชน ประชาชน หน่วยงานราชการ สหกรณ์เครือข่าย บริษัท ห้างร้าน และหน่วยงานภาคเอกชน อื่น ๆ มีส่วนร่วม เพื่อการประชาสัมพันธ์, สร้างภาพลักษณ์ และการสร้างเครือข่าย เป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาด ของสหกรณ์ที่กำหนดเป็นนโยบาย

เสร็จจากงานวันสหกรณ์แห่งชาติ นี้แล้ว ต้องเตรียมตัวไปทัศนศึกษาดูงานที่ประเทศจีน อากาศที่หนาวเย็น ไม่เป็นอุปสรรค เพราะพวกเราเตรียมชุดกระชับร่างกายกันไว้แล้ว ชุดลองจอน หรือชุดอะไรนะครับ ผมเรียกชื่อมันไม่ถูก แต่..ที่รู้ผมลองสวมมันแล้ว ชุดมันฟิต จริง ๆ (เบอร์ L) ชุดของท่านอื่นเป็นเหมือนผมหรือเปล่า หากเป็นเหมือนชุดผม จำเป็นต้องทิ้งไว้เมืองไทย งานนี้..ต้องปรับแผนไปหาชุดใหม่หรืออะไร ๆ ใหม่ ๆ ที่ให้ความอบอุ่นที่..ประเทศจีน นะครับ...สิ บอก ไห่

ชุดลองจอน งงจังมันชุดอะไรท่าน ทนงศักดิ์ ท่านไดมีรายละเอียดการแต่งตัวไปดูงานบอก กำนันบ้านนอก ด้วย กำนันบ้านนอกความจำสั้นบางคั้งจำทางกลับบ้านยังไม่ได้เลย

ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์บัญชาด้วยครับ สำหรับตำแหน่งบุคลากรสหกรณ์ดีเด่น ขอให้อาจารย์เป็นผู้นำความก้าวหน้ามายังวงการสหกรณ์ออมทรัพย์ในอนาคตต่อไปครับ

ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์ญชาด้วยครับ สำหรับตำแหน่งบุคลากรสหกรณ์ดีเด่น ขอให้อาจารย์.รักษาความดีเให้เหมือนความบัค็มของพี่ต้อย ผิดๆๆ  เกลือพิมาย

ท่านไดมีรายละเอียดการแต่งตัวไปดูงานบอก กำนันบ้านนอก ด้วย กำนันบ้านนอกความจำสั้นบางคั้งจำทางกลับบ้านยังไม่ได้เลย

เพิ่งว่างวันนี้ก็เลยเข้ามาเยี่ยมเยียนblog ทำให้รู้ว่าคุณแจ้ จะมีลองกองไปกินที่สนามบิน 2 กิโล พี่ว่าไม่ต้องเอาขึ้นเครื่องหรอก แค่รอขึ้นเครื่องมันก็หมดแล้ว สำหรับกำนันสขสันต์ก็ลืมไปแล้วว่าพวกเราจะแต่งตัวอย่างไร ในวันเดินทาง ตกลงรอบแรกว่า ให้ใส่เสื้อยีดสีขาว

แต่มีเพื่อนเราบางคนบอกว่าใส่สีเขียวเถอะ เพราะสีสดใสดี ท่านบัญชาได้แจ้งในห้องแล้วไม่แน่ใจว่าทราบกันทั่วแล้วหรือยัง สรุปว่า วันเดินทางให้ใส่เสื้อสีเขียว และสูทสีกรมท่าที่ตัดกัน วันดูงาน สำหรับคุณผู้ชายทุกคน ให้ผูกเนคไท ด้วย สำหรับคุณผู้หญิง วันดูงานให้แต่งกายสุภาพ เรียบร้อย ซึ่งสาว ๆ ทุกคนของเราก็ โอเค อยู่แล้ว

ขอแสดงความยินดี กับ อาจารย์บัญชา ด้วย ที่ได้เป็น บุคคลากรสหกรณ์ดีเด่น พวกเราคงได้ไปฉลองที่จีนอีกแล้วซิ

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์และผนส.3 ทุกท่าน

กลับถึงบ้านแล้วครับ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.52 เวลา 03.50 น.เดินทางร่วมกับท่านกำนันนัด ดวงใส ด้วยสวัสดิภาพปลอดภัย หลังจากผมได้ดูแลบัดดี้ของผมเรียบร้อย(อยู่โคราช) ไม่บอกว่าชื่ออะไร และคิดว่าเพื่อนหลายคนคงจะถึงบ้านกันแล้วนะ ยกเว้นท่านกำนันสุขสันต์ บ้านอยู่ไกล ไม่รู้ว่านาฬิกาโรเล็ต ยังเดินอยู่หรือเปล่า หรือลงถังขยะ ไปแล้ว นาฬิกาของผมยังปกติอยู่ การไปดูงานปักกิ่งครั้งนี้ ประทับใจหลายอย่าง คือ อันดับแรกก็เพื่อนๆทุกคนให้ความเป็นกันเองดี มีความสนิทกันมากขึ้น ประการที่สอง สภาพอากาศสิ่งแวดล้อมหนาวทำให้คนต้องขยันกันดี มีวินัย มากกว่าคนไทยหลายเท่า ความลำบากยากแค้น ทำให้คนมีความแกร่งที่จะต่อสู้อุปสรรคได้ดีกว่า คนไทยเรา คงไม่แปลกใจที่คนจีนมาอยู่เมืองไทย ร่ำรวยกัยทุกคน ประการที่สาม บรรพบุรษของจีน มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สร้างสิ่งมหัศจรรย์ไว้ให้ลูกหลาน หลายอย่าง คือ กำแพงเมืองจีน ราชวัง ไว้เก็บเงินกับชาวต่างชาติ เพื่อเป็นรายได้ให้กับลูกหลาน ได้เก็บเกี่ยวตลอดไป ถ้าทะนุบำรุงรักษาไว้ ประการที่ 4 ผอ.วิทย์ และเจ้าหน้าที่สันนิบาตสหกรณ์ทุกท่านที่ดูแลเป็นอย่างดี รวมทั้งไกด์ คุณรุ่ง ด้วยนะครับ สิ่งที่ประทับใจที่เหลือค่อยบอกต่อ ต้องเตรียมตัวเดินทางไปเป็นวิทยากร บรรยายกรรมการใหม่ ที่จังหวัดสงขลา อ.หาดใหญ่ในวันที่ 10มี.ค.52 นัดกับสุทิศและพี่ประจวบไว้ด้วย และขอบคุณพี่กัญจนิกข์ ที่ได้ให้ลิปมัน 1 แท่ง แก้ปากแตก ไม่ต้องใช้ครีมแก้ส้นเท้าแตกของคุณสุรวงค์ ให้คุณปฎิพลใช้ไปคนเดียว สวัสดีครับ

ของที่ไม่เต็มแก้ว ....

มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียมการสอนอยู่หลายวันจึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึดหัดง่ายๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด

เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ

เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบ เหยือกแก้วขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ ลูกเทนนิส ลงไปจนเต็ม

" พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง?" เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท

แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน " เต็มแล้ว..."

เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ

หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเท กรวดเม็ดเล็กๆ จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบาๆ กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก

" เหยือกเต็มหรือยัง?"

นักศึกษามองดูอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาตอบ "เต็มแล้ว..."

เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมา และเททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทราย ไหลลงไปตามช่องว่างระหว่างกรวดกับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย เขาเทจนทรายหมดถุง เขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก

เขาหันไปถามนักศึกษาอีกครั้ง "เหยือกเต็มหรือยัง ?"

เพื่อป้องกันการหน้าแตกนักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน ปรึกษากันอยู่นาน

หลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆ เงยๆ มองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน จวบจนเวลาผ่านไปเกือบห้านาที หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น

" คราวนี้เต็มแน่นอนครับอาจารย์"

" แน่ใจนะ"

" แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ"

คราวนี้เขาหยิบ น้ำอัดลมสองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะแล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทรายลงไปจนหมด ทั้งชั้นเรียนหัวเราะฮือฮากันยกใหญ่ เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

" ไหนพวกคุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆ ไง" เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น

" ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียนวันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคนเรา

ลูกเทนนิสเปรียบเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก และเพื่อน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณต้องสนใจจริงจัง สูญเสียไปไม่ได้

เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญรองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์

ทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจำเป็นต้องทำ แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้

เหยือกนี้เปรียบกับชีวิตของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา

ชีวิตเต็มแล้ว... เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน"

ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า

เพราะฉะนั้นในแต่ละวันของชีวิต เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข ใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกาย เล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสองชั่วโมง เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวเรา

นักศึกษาคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม "แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไปล่ะครับ หมายถึงอะไร ?"

เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า "การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยากให้เห็นว่า ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใด ในความสับสนและวุ่นวายเหล่านั้นคุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ..."

สวัสดีท่านอาจารย์และชาวผนส3

ขอชมเชยท่านกำนันบ้านนอกนำสาระเรื่องดี๐มาฝากสุดยอดเลยนะขอแอบมาแจม

ด้วยคนนะคะท่าน

เรียน  อาจารย์ และผนส 3 ทุกคน

         หลังจากกลับไปดูงานที่ปักกิ่ง ผมถึบ้านเมื่อคืนเวลา 5 ทุ่ม เมื่อคืนนี้เอง เนื่องจากจองเครื่องกับใต้ไว้ตอนเย็นแต่เครืองกลับออกจากกรุงเทพ 2 ทุ่มครึ่ง (แอร์เอเชีย) ฝากบอกคนที่จะขึ้นเครื่องถ้าจะขึ้นบริษัทนี้ต้องทำใจ 

          จากการไปดูงานครั้งนี้ประทับใจหลายอย่าง อันดับแรกสมาชิกผู้ร่วมเดินทางทุกคน มีการรู้จัก รู้ใจ เข้าใจ และทุกคนเห็นใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะบัดดี้ ผมแอบช่วยเหลือตลอด(ไม่บอกว่าเป็นใคร) การดูงานสถานที่ต่างๆก็ดีมาก  ไม่ว่าชุมนุมสหกรณ์ สถานทูตประทับใจมากกับการต้อนรับ (คนไทยอยู่ที่ไหนก็รักกันเป็นหวังกัน  ยกเว้นเวลาอยู่ที่เดียวกันแดงเหลือง) ดูงานสถานที่ท้องเที่ยวก็สวยมากหากเมืองไทย ทำได้บ้างก็ดีนะ

             สำหรับของที่ซื้อมากจากตลากรัสเชียเป็นอย่างไรบ้าง ผมไม่บอกว่าไม่ค่อยได้เรื่อง  ของเมืองไทยเราดีกล่าวมากๆ แต่ของฝากบัวหิมะ ครีมไข่มุก ใช่ได้ แต่พอใช้หมดไม่รู้ซื้อที่ไหน สงสัยต้องขึ้นเครื่องไปซื้ออีกที่

            วันนี้คงไว้แค่นี้ก่อน   เดี่ยวจะไปรับคุณพี่ไกรฤษ์ จะมาเป็นวิทยากรบรรยายที่หาดใหญ่ ในฐานะเจ้าบ้าไปต้อนรับหน่อยกับคุณจวบ สะเดา

"""ถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็รู้สึกวุ่นวายพอสมควร อยากจะส่งพวกเรากลับบ้านทุกคนแต่ก็กระจัดกระจายไปทั่วก็เข้าใจนะทุกคนคิดถึงบ้าน ไม่มีอะไรจะอบอุ่นเหมือนบ้านเรา พอล้อเครื่องบินแตะรันเวย์สุวรรณภูมิดีใจจริงๆที่ถึงบ้านเราแล้ว การดูงานณ.สาธารณรัฐประชาชนจีนคิดว่าพวกเราคงได้ประสบการณ์ที่หลากหลายบางครั้งการที่การปกครองเป็นเผด็จการก็สามารถสร้างบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าได้ดี แต่ย้อนหลังหันมามองเข้าไปในอดีตแห่งความรุ่งเรือง ก็จะเห็นคราบน้ำตา และความสูญเสียมากมายมหาศาลเกินกว่าประชาชนจะยอมรับได้....."""

ปล.ฝากคุณหมอกิตินันท์ช่วยลงหัวข้อการสัมมนาทั้งหมดให้พวกเราพิจารณาอีกครั้งดีไหมครับ

แจ้.....

นักท่องเที่ยวโดดลงกำแพงเมืองจีนเจอเสือขย้ำดับ!

9 มี.ค. 52 08.21 น.

กำแพงเมืองจีน.....

หวังเดินทางลัดกลับไปจุดเริ่มต้น ปรากฎว่าด้านล่างเป็นอุทยาน ดวงกุดเจอเสือไซบีเรียนจู่โจมดับต่อหน้าต่อตาเพื่อนอีก 2 คน

เอพีรายงานวันที่ 8 มี.ค.ว่า นักท่องเที่ยวจีนแซ่กัว วัย 20 ปีชะตาขาดอย่างคาดไม่ถึง เมื่อกระโดดลงจากกำแพงเมืองจีน บริเวณจุดที่ใกล้กับกรุงปักกิ่ง หวังจะเดินทางลัดเพื่อกลับไปจุดเริ่มต้น ปรากฏว่าบริเวณด้านล่างที่เป็นป่าในเขตอุทยาน มีเสือพันธุ์ไซบีเรียน เข้าจู่โจมเข้าฟัดนายกัว..ชนิดไม่ทันตั้งตัว ใช้กรบเล็บตบให้กลิ้งลงกับพื้นแล้วงับที่คอ นายกัวดับคาที่ต่อหน้าต่อตาเพื่อนอีก 2 คนที่มาด้วยกัน และรอดตายหวุดหวิด เมื่อเผ่นหนีปีนขึ้นไปบนรั้ว

นายหวัง เจ้าหน้าที่ป่าไม้กล่าวว่า พรานของอุทยานขับรถจี๊ปไล่ตามเสือตัวดังกล่าวไปจนมันปล่อยร่างนายกัวทิ้งไว้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะนักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามคำเตือนที่ติดไว้ โดยชายสองคนที่รอดตายให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เป่จิง ไทมส์ ว่า เห็นป้ายเขียนเตือนแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไร เพราะไม่เห็นอะไรแถวนั้น

สำหรับเสือไซบีเรีย ตัวใหญ่จะหนักประมาณ 226 กิโลกรัม เป็นสัตว์หายากที่สุดชนิดหนึ่งในโลก เชื่อว่าเหลืออยู่ในป่าเพียง 400 ตัว ชาวจีนเรียกว่าเสือแมนจู(สงสัยยายทิพย์เลี้ยงไว้)

...ดีนะที่ ผนส. 3 กลับมาก่อน..ไม่อย่างนั้นได้กินก้อยเสือร้องไห้กับข้าวนึ่งพิมายโคราชก่อนกลับเมืองไทยซะแล้ว ...แซบหลายเด้อบักอู๊ด..

บักแจ้....รายงาน

สวัสดีครับ ผนส.3 ทุกท่าน

เมื่อวานนี้ผมเดินทางไปจังหวัดสงขลา อำเภอหาดใหญ่ รับเชิญเป็นวิทยากร ให้กับคณะกรรมการสหกรณ์ ของจังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง ปัตตานี และนราธิวาส จัดโดยศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 18 และ 20 ในหลักสูตร "การพัฒนาศักยภาพผู้นำสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร" ในวันที่ 10 มีนาคม 2552

ต้องขอขอบคุณ คุณสุทิศ พงษ์จีน และพี่ประจวบ อมแก้ว ได้มาต้อนรับและเลี้ยงข้าวเย็น 1 มื้อ ในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้าน ที่ดี อย่างไรแล้วถ้าเพื่อนๆ ผนส.3ผ่านชุมพร(ประตูภาคใต้)ก็โทรศัพท์หาได้เลย ถ้าผมไม่เดินทางไปต่างจังหวัด รับรองไม่ปิดเบอร์หนี ถ้าแจ้งล่วงหน้าหนึ่งวันก็ดี จะได้รีบเคลียคิว วันที่ 13-14 มีนาคม 2552 นี้อย่าลืมไปเรียนกันนะครับ คิดถึงเพื่อนๆทุกคนครับ

สรุปความรู้ที่ได้จากการดูงาน ณ All China Supply and Marketing Cooperatives (ACFMC) ในวันที่ 4 มีนาคม 2552

§       All China Supply and Marketing Cooperatives (ACFMC) เป็นของรัฐบาล

§       สหกรณ์แรกของจีนเปิดเมื่อปี 1918 เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง

§       สมัยประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตุง มีการต่อสู้กับญี่ปุ่น สหกรณ์เกิดช่วงนั้น

§       คนทั่วประเทศจีนอาศัยสหกรณ์อยู่

§       ปี 1950 สหกรณ์ทุกจังหวัดและเมืองรวมกันเป็นชุมนุมสหกรณ์แห่งเดียวกัน

§       ในปี 1954 ตั้งเป็นสหกรณ์แห่งประเทศจีนชื่อ All China Supply and Marketing Cooperatives (ACFMC)

§       ตั้งแต่นั้นมา รัฐบาลดูแลให้

§       ปัจจุบันนี้ มีชุมนุมสหกรณ์ในระดับมณฑล 31 แห่ง สหกรณ์ในระดับเขต 2,376 แห่ง สหกรณ์ขั้นประถม 21,321 แห่ง

§       มีบริษัทเอกชน 40,000 แห่งอาศัยสาขาของสหกรณ์

§       ACFMC มีเจ้าหน้าที่ทั้งหมดทั่วประเทศจีนจำนวน 934,200 คน

§       ACFMC มีสมาชิก 160 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรทั้งประเทศ

§       ACFMC ถือเป็นสำนักงานใหญ่ที่เกิดจากการรวมตัวของสหกรณ์ขั้นประถมที่รวมตัวกันเป็นสหกรณ์เขตและสหกรณ์มณฑล

§       หน้าที่ของ ACFMC คือบริหารสินค้า และปฏิรูประบบขนส่งสินค้า

§       ACFMCมีการปฏิรูปโดย

§       ใช้ระบบการขนส่งสมัยใหม่เพื่อรับ 4 ธุรกิจหลักคือ ปัจจัยการผลิต รีไซเคิลทรัพยากร

        ท้องถิ่น สหกรณ์ร้านค้า และการแปรรูปผลิตการเกษตร

§       ใช้ระบบการบริหารสมัยใหม่ ปรับโครงสร้างสหกรณ์เพื่อเข้ามีส่วนร่วมในระบบตลาด

§       ปฏิรูปเพื่อรับใช้การทำงานของสหกรณ์พื้นฐาน เปลี่ยนระบบการทำงาน

§       สหกรณ์จีนได้ร่วมมือกับบริษัทเอกชน 4,500 แห่ง ตั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต

§       สหกรณ์จีนจำนวน 1,400 แห่งเป็นตลาดขายส่งสินค้าเกษตร

§       สหกรณ์จีนประหยัดค่าขนส่งไปยังชนบท

§       สหกรณ์จีนถือหุ้น 1 ใน 3 ของประเทศ

§       มีการพัฒนาจัดตั้งสหกรณ์รูปแบบพิเศษ 3,400 แห่ง เป็นสหกรณ์เล็กผลิตสินค้าชนิดเดียว

§       นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาสมาคมเกษตรกร  32,000 แห่ง สนับสนุนโดยการรวมกลุ่มทำเฉพาะ 2,020 สมาคม

§       สหกรณ์จีนให้บริการ ค้าขายสินค้าเกษตรไปยังชนบท

       §       ในปี 1983 มีการตั้งศูนย์ฝึกอบรม มีผู้นำเอกชนและจังหวัดมา

              เรียน 7-8 วันและมีการเชื่อมโยงกับต่างประเทศและศึกษา

              ดูงาน

§       มีผู้รับการฝึกอบรมจากมาจากกระทรวงเกษตร ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย และผู้จัดการสหกรณ์

§       ACFMC ออกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม

§       ยังไม่มีการสอนเกี่ยวกับสหกรณ์ให้นักเรียนในโรงเรียนแต่มีสอนในระดับมหาวิทยาลัย

§       นโยบาย ACFMC มาจากนโยบายรัฐบาลกลางในการพัฒนาชนบทและชุมชน รวมทั้งนโยบายสหกรณ์ต่างๆประมวลรวมกันจากข้อมูลที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ได้แก่การทำโครงการขนส่งสินค้าโดยปฏิรูประบบขนส่ง ด้วยการทำวิจัยและการวางแผนของรัฐเพื่อประโยชน์ต่อชนบท

§       คุณสมบัติสมาชิกสหกรณ์จีนคือ

§       ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบสหกรณ์ขั้นประถมและหลักการสหกรณ์ขั้นพื้นฐาน

§       ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักการสหกรณ์และสิทธิประโยชน์ของสมาชิก

§       เป็นบุคคลที่อยู่ในธุรกิจหรือชนบท

§       การตรวจสอบทางการเงินของสหกรณ์ทำโดยหน่วยตรวจสอบของสหกรณ์ระดับสูงและคณะกรรมการสหกรณ์นั้น

§       สหกรณ์ตอบสนองความต้องการของชนบทด้วยสินค้าคุณภาพสูงราคาไม่แพง มีการรวมกลุ่มกันซื้อ

§       บทบาทของรัฐที่มีต่อ ACFMC ได้แก่

§       จัดหาปัจจัยการผลิตเช่นปุ๋ย

§       สั่งให้สหกรณ์ขายสินค้าราคาถูก

§       จัดซื้อ

§       กระจายอำนาจ

§       ตัวสหกรณ์เองเป็นของเอกชน

§       ผู้บริหารสหกรณ์มาจากการเลือกตั้ง โดยสมาชิกสหกรณ์ขั้นประถมเลือกคณะกรรมการและประธาน และคณะกรรมการสหกรณ์ขั้นประถมรวมตัวกันเลือกคณะกรรมการเพื่อไปทำงานในสหกรณ์ขั้นสูงได้ จำนวนคณะกรรมการขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกสหกรณ์ ACFMC มีกรรมการมากกว่า 100 คนแล้วร่วมกันเลือกตั้งประธาน

§       สหกรณ์ขั้นประถมมีกรรมการไม่เกิน 10 คน

§       ขั้นสูงขึ้นไปอาจมีกรรมการ 10-30 คน และรัฐบาลมีสิทธิ์เสนอชื่อคนเข้าไปแข่งขันในการเลือกตั้งได้

§       สหกรณ์ต้องเสียภาษี โดยขึ้นอยู่กับอาชีพ 

§       รัฐบาลก็มีความคาดหวังเกี่ยวกับสหกรณ์เช่น

§       การเป็นช่องทางการตลาดสำหรับเกษตรกร

§       การตั้งสหกรณ์รูปแบบพิเศษที่สหกรณ์ 1,000 แห่งผลิตสินค้า 1,000 ชนิด

§       ให้การฝึกอบรม

§       หุ้นของสหกรณ์มีหลากหลายชนิด

§       สหกรณ์รูปแบบพิเศษ ไม่ต้องซื้อหุ้น สมาชิกที่เป็นบริษัทก็มาร่วมได้ คนที่มาร่วมทำโรงงาน มีอะไรก็นำมาร่วมทุนกันขอสินเชื่อจากธนาคารได้

§       ตัวชี้วัด (KPI) ของ ACFMC คือ ผลผลิตทางการเกษตร การแปรรูปผลผลิต การสร้างตลาด ร้านค้า

§       การทำธุรกิจของสหกรณ์ทำได้โดยการตั้ง New Cooperation Joint-Stock Trade Chain Co., Ltd.  ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง 16 สหกรณ์ มีบริษัท เอกชน 3 แห่งมาร่วมแลกเปลี่ยนสินค้า มีการถือหุ้นและซื้อขายกันเอง ใช้นโยบายเปิดกว้างเพื่อให้บริษัทมาเป็นสมาชิกสหกรณ์  ปฏิรูปโครงสร้างและระบบ ศึกษาการทำธุรกิจจากบริษัทเพื่อนำสหกรณ์มาจับตลาดให้ทัน

§       ระบบสหกรณ์รับใช้ภาคเกษตรส่วนมาก

§       สหกรณ์จีนมีรูปแบบต่างๆคือ

1.       Supply and Marketing Cooperatives มีความเข้มแข้งมากที่สุด มีความหลากหลายมาก เป็นสหกรณ์เกษตรแปรรูปที่เป็นเอกชนหรือเข้าร่วม Supply and Marketing Cooperatives มีสหกรณ์รูปแบบพิเศษอยู่ด้วย

2.       สหกรณ์การเกษตร ต่อมาเปลี่ยนเป็นบริษัทเอกชนหรือไปรวมกับ Supply and Marketing Cooperatives

3.       สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่รัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมในระบบการเงิน

§       ภายใต้ ACFMC ยังมี บริษัทคือ New Cooperation Joint-Stock Trade Chain Co., Ltd.  ซึ่งหลายๆคนร่วมมือกันตั้งโดยมีทุนจดทะเบียน 282 ล้านหยวน ซึ่งตั้งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของจีน

§       มีหน้าที่นำของที่ชุมชนต้องการไปส่งให้

§       มีเจ้าหน้าที่ไปแต่ละจังหวัดเพื่อไปเก็บสินค้า นำไปขายและแบ่งกำไร

§       บริษัทนี้ตั้งมา 5 ปีแล้ว มีสาขาเล็ก 16 แห่ง

§       มีเจ้าหน้าที่มากกว่า 70,000 คน

§       มีกำไรมากกว่า 300 ล้านหยวน

§       มีตลาดขายส่งมากกว่า 70,000 แห่ง

§       ปัจจุบันถือเป็นบริษัทอันดับที่ 2 ของจีน

 

สรุปความรู้ที่ได้จากการดูงาน ณ New Cooperation Joint-Stock Trade Chain Co., Ltd. ในวันที่ 4 มีนาคม 2552

§       New Cooperation Joint-Stock Trade Chain Co., Ltd. ก่อตั้งขึ้นในกรุงปักกิ่งโดยการริเริ่มของ All China Supply and Marketing Cooperatives (ACFMC) ในเดือนกันยายน 2003

§       เป็นบริษัทร่วมทุนเครือข่ายระดับชาติสอดคล้องกับระบบบริษัทมีการร่วมทุนของ ACFMCและบริษัทเอกชนต่างๆ

§       ปัจจุบันมีสินทรัพย์มากกว่า 1,000 ล้านหยวน

§       เป็นระบบเครือข่ายร้านค้าเน้นการร่วมกันจัดซื้อ ร่วมกันขาย

§       มีใน 13 มณฑล

§       มีร้านค้าและศูนย์กระจายสินค้า 451 แห่ง

§       มีร้านแฟรนไชส์มากกว่า 20,000 แห่งใน 271 เขต

§       ปี 2005 ติดอันดับ 1 ใน 10 เครือข่ายร้านค้าจีน

§       กระทรวงพาณิชย์ได้เลือกให้เป็นโครงการทดลองบริษัทตลาดชนบทและมีแบรนด์ที่เชื่อถือได้มากที่สุดในชนบท

§       มีหน้าที่พัฒนาชุมชนสหกรณ์การตลาด

§       มียอดขายต่อปีมากกว่า 50,000 ล้านหยวน

§       มีการบริหารงานดีและเน้นการบริการชุมชนชนบท

§       มีโครงสร้างที่คล่องตัว

§       มีค่านิยมองค์กรคือ ขยัน ก้าวหน้า ร่วมมือ เสียสละ

§       การดำเนินการ

§       ทำงานเป็นเครือบริษัท

§       นำยุทธศาสตร์พัฒนาไปใช้ผ่านบริษัทลูกในกำกับทั่วประเทศด้วยระบบบริษัทสมัยใหม่

§       วางแผน

§       ทำตามนโยบายรัฐ

§       หาทุนและลงทุน

§       ร่วมจัดซื้อ

§       ฝึกบุคลากร

§       สร้างฐานข้อมูลและกระจายข่าวสาร

§       พัฒนาร้านเครือข่าย

§       ระบบการบริหาร

§       มุ่งสร้างกลไกธรรมาภิบาลโดยกำหนดหน้าที่รับผิดชอบของตนและสหกรณ์ตลาด

§       ตัดสินใจผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นและกรรมการ

§       เป็นสำนักงานใหญ่ของการบริหารแบบเครือข่าย

§       ระบบการบริหารของบริษัทลูกก็พัฒนาจุดขายภายใต้ภาวะผู้นำ การแนะนำ การประสานงานของสำนักงานใหญ่

§       ACFMC มาร่วมบริหารจัดการหุ้น บริหารระบบแฟรนไชส์ ร่วมมือกับบริษัทในท้องถิ่นเพื่อขอรับการสนับสนุนทางด้านนโยบาย

§       เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลต้องเน้นนวัตกรรมการบริหาร

§       มีการกำหนดหน้าที่รับผิดชอบ

§       กลไกปฏิบัติงาน ใช้กลไกธุรกิจเอกชนกับกลไกสหกรณ์มาดำเนินกิจกรรมการจ่ายค่าตอบแทน การฝึกอบรมบุคลากร และการกระจายสินค้า

§       การจ่ายค่าตอบแทน ใช้ผลการปฏิบัติงานและระบบหน้าที่รับผิดชอบ โดยใช้กับทุกระดับ มีการให้รางวัลและลงโทษ

§       การฝึกอบรมบุคลากร บริษัทเซ็นสัญญาการจ้างงานกับพนักงานทุกคนและดูแลรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้

§       การกระจายสินค้า

§       สหกรณ์ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกจะได้รับยกเว้นค่าแฟรนไชส์ตามหลักสหกรณ์และการกระจายสินค้าไปยังสมาชิกอื่นโดยไม่ขึ้นกับระบบแบ่งปันผลกำไร แต่ค่าขนส่งค่าแรงงาน และสนค้าที่ขายไม่ได้ ก็สามารถคืนเงินได้เต็มที่เพื่อลดความเสี่ยงจากร้านแฟรนไชส์ซึ่งได้รับการแนะนำโดยสหกรณ์ระดับเขต

§       ถ้าสินค้ากระจายดี ปลายปีจะได้รับการแบ่งปันผลกำไรตามปริมาณการขาย มีอำนาจต่อรองเป็นหมู่ในการรวมกลุ่มกันจัดซื้อและร่วมทำสัญญาจ้างหน่วยงานภายนอกมาผลิต

§       กลไกนี้ช่วยสร้างแรงจูงใจและทำให้สหกรณ์โตเร็ว

§       ระบบจัดซื้อและกระจายสินค้า

§       บริษัทสร้างระบบจัดซื้อและกระจายสินค้าแบ่งเป็น 3 ระดับคือ ระดับบริษัท ระดับภาคและระดับท้องถิ่น โดยจัดซื้อทั่วประเทศ จ้างแรงงานภายนอกมาผลิต จัดซื้อผลผลิตการเกษตร กระจายสินค้าด้วยราคาต่ำแต่คุณภาพสูง

§       ใช้คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต และฐานข้อมูลจัดซื้อและกระจายสินค้าเพื่อกระจายข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างร้านค้าในเครือ สำนักงานใหญ่ สาขาและศูนย์กระจายสินค้า กำจัดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกในการขยายเครือข่าย

§       บริษัทให้การรวมกลุ่มต่อรองและจัดตั้งบัญชีเพื่อค้นหาตลาดและราคาที่แข่งขันได้และตอบสนองความต้องการในชนบท

§       ใช้การจัดซื้อร่วมกันแต่แยกกระจายสินค้า

§       การบริการชุมชน

§       สร้างร้านค้าในชนบทให้น่าเชื่อถือ ผ่านการบริหารแบบแฟรนไชส์รวมทั้งการกระจายข้อมูลผ่านโทรทัศน์มัลติมีเดียในร้าน มีการค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรง หน่วยขนส่งสินค้า การเก็บค่าธรรมเนียม การจัดซื้อสินค้าจำนวนมากและการส่งสินค้าฟรี

§       สร้างงานในชนบท 60,000 งานและซุปเปอร์มาร์เก็ตในเมืองมากกว่า 20,000 แห่ง

§       ความสำเร็จ

§       ผู้จัดการทั่วไปติดอันดับ 1 ใน 10 ของอุตสาหกรรมเครือข่ายร้านค้าจีนมากกว่าทศวรรษ

§       เป็นบริษัทนำร่องดีเด่นในโครงการตลาดหมู่บ้าน

§       ติดอันดับ 1 ใน 100 บริษัทโตเร็วของจีน

§       มีศูนย์กระจายสินค้าระดับเขตมากกว่า 500 แห่ง

§       ร้านค้าปลีกทั่วประเทศมากกว่า 100,000 แห่งภายใน 3 ปี

§       มียอดขายประจำปีมากกว่า 50,000 ล้านหยวน

§       จุดแข็ง

§       วัตถุประสงค์การพัฒนาสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลกลางในด้านการเกษตร การพัฒนาชุมชน เกษตรกร

§       การมีเครือข่ายมากและสถานะการเงินมั่นคง ช่วยรับประกันการบริหารที่มีต้นทุนต่ำ

§       การบริหารแบบบนลงล่างที่จัดตั้งดีทำให้โตเร็ว

§       มีผู้นำในชนบทและคนงานที่คุ้นกับระบบกระจายสินค้าชุมชน ทำให้ได้เปรียบด้านทรัพยากรมนุษย์

§       มุ่งมั่นรับใช้เกษตรกร บริษัทเติมเต็มช่องว่างโดยหลีกเลี่ยงคู่แข่งที่น่ากลัว

§       การสนับสนุนจากผู้บริหารและการตลาดช่วยควบคุมนโยบายและร่วมมือกับสหกรณ์ทั่วประเทศให้ใหญ่และเข้มแข็งขึ้น

§       วิธีการรวมและขยายเครือข่ายด้วยการถือครองทรัพย์สินเป็นเครือข่ายและบริษัทร้านค้าเครือข่ายทำให้ควบคุมสาขาและขยายเครือข่ายร้านค้าปลีกได้รวดเร็วและเป็นระบบ

§       รูปแบบการกระจายสินค้าสองทางตรงตามสภาพความเป็นจริงในการค้าในตลาดชนบททำให้บริการได้เป็นประโยชน์ต่อชนบทดี 

ภาพบรรยากาศ งาน วันสหกรณ์แห่งชาติ 52

 

สวัสดีครับ อาจารย์ และเพื่อน ผนส.รุ่นที่ 3 ทุกท่านรับ กลับจากปักกิ่ง ก็เป็นหวัดแย่ ครับสุขภาพไม่ค่อยจะดี อยู่ปักกิ่งก็มีปัญหา ดีที่ได้ยาทา...? ของคุณสุรวงศ์ มาช่วยแก้ปัญหาได้ ขอบคุณน่ะ คุณสุรวงศ์

การศึกษาดูงานในปักกิ่งนั้น ถึงแม้ว่าจะดูแค่ 2 ที่ คือชุมนุมสหกรณ์ฯ และสถานฑูตไทยในกรุงปักกิ่ง แต่ก็พอจะวิเคราะห์ได้ในความสำเร็จของสหกรณ์ในจีนจากข้อมูล ปัจจัยสำคัญในความสำเร็จ

1.สหกรณ์ในจีนนั้น รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เมื่อรัฐบาลตอกย้ำในเรื่องสหกรณ์อยู่สม่ำเสมอ และให้ความสำคัญกับสหกรณ์ ก็เป็นที่รู้จักของหน่วยและประชาชนทั่วไป ทำให้คนอยากสัมผัส อยากเป็นสมาชิกสหกรณ์ (ทั้งๆที่จีนนั้นไม่มีกรมส่งเสริมสหกรณ์)

2.การเข้าเป็นสมาชิกสหกรณ์ ทุกคนจะต้องผ่านการอบรมในเรื่องสหกรณ์ หลักสูตร 5 วัน เมื่อคนเป็นสมาชิกได้เรียนรู้ในเรื่องสหกรณ์แล้วเบื้องต้นทำให้ง่ายต่อการพัฒนาสหกรณ์ โดยเฉพาะภาคการเกษตร

3.จีนมีสหกณ์ประเภทเดียว

แต่เสียดายอยู่นิดเดียว คือ คณะเราที่ไปน่าจะไปสัมผัสกับชีวิตชาวนาสักวัน เพราะประเทศจีนนั้นเขาแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนคนเมือง กับ โซนชาวนา แต่ไม่เป็นไรครับไว้โอกาสต่อไปถ้ายังมีโอกาส ขอจบแค่นี้ก่อนครับ อ่อ.ลืมไป แล้วคุณอดิศักดิ์ เป็นอะไรมากหรือเปล่า หายดีหรือยังครับเป็นห่วง

สรุปความรู้ที่ได้รับจากการดูงานเรื่อง แนวทางการทำธุรกิจกับจีนสำหรับสหกรณ์ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง ในวันที่ 5 มีนาคม 2552

 

ภารกิจสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง

§       สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งประกอบด้วย เอกอัครราชทูต ผู้ช่วยทูต ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

§       ทำหน้าที่เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยส่งข่าวเกี่ยวกับประเทศจีนให้ทางประเทศไทยทราบและส่งข่าวประเทศไทยให้ทางประเทศจีนทราบ ถือเป็นการย่อส่วนราชการไทยมาทำงานที่จีน

§       นอกจากนี้มีหน้าที่ดูแลข้อมูลเกี่ยวกับด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม

§       ดูแลและปกป้องคนไทย

ยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน

1.      ด้านการเมือง

§         ตอนนี้มีประชุมสภาประชาชนจีนและสภาที่ปรึกษาในระหว่างวันที่ 3-15 มีนาคม 2552 มีผู้แทนมาประชุมกับผู้แทนหมู่บ้าน เพื่อทบทวนการดำเนินงานปี 2551 และวางแผนงานปี 2552

§         การเมืองจีนมีเสถียรภาพและผู้นำจีนมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำไทย

2.      ด้านเศรษฐกิจ

§       เศรษฐกิจจีนโตแบบร้อนแรงหลังจากเข้าเป็นสมาชิกองค์กรการค้าโลกแล้วเมื่อปี 1991 จีนเปลี่ยนเป็นระบบเศรษฐกิจเสรีการตลาด การปฏิรูปเศรษฐกิจทำให้คนจีนกินดีอยู่ดี

§       ประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตุงรวมจีนเป็นปึกแผ่น

§       ประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิงทำให้คนจีนกินดีอยู่ดี ปฏิรูปเศรษฐกิจ

§       เศรษฐกิจจีนโต 10% ขึ้นไปทุกปี แต่ปีที่แล้วโต 9% ปีนี้จีนพยายามให้เศรษฐกิจโต 8%

§       ปี 2010 การค้าไทย-จีนจะเพิ่มเป็น 50,000 ล้านดอลล่าร์

§       สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้การค้าลดลง เมื่อเดือนมกราคม จีนนำเข้าสินค้าลดลง 43% ไทยส่งสินค้าออกไปจีนลดลง 40%

§       สินค้าที่ไทยส่งไปจีนมากได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าว ตามลำดับ

§       คอมพิวเตอร์และรถยนต์คิดเป็น 80% ของมูลค่าสินค้าส่งออก

§       กระทรวงพาณิชย์ของไทยได้พบโอกาสขยายตลาดผักผลไม้โดยให้เน้นตลาดจีนตอนเหนือซึ่งยังไม่มีผลไม้เข้ามา

§       ผลไม้ที่ไทยส่งออกมาที่จีนได้แก่ เงาะ มังคุด ลำไย ทุเรียน ตามลำดับ

§       ปลายเดือนเมษายน จะมีการนำผู้นำเข้าผลไม้รายใหญ่ที่เทียนจินและผู้จัดการการตลาดมาชิมและเยี่ยมชมผลไม้เพื่อจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching)

§       นักลงทุนจีนได้มาลงทุนมากกว่า 300 โครงการในประเทศไทย

§       ในปี 2550 มี 26 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท

§       ในปี 2551 มี 27 โครงการ มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท

§       เดือนมกราคม 2552 มี 1 โครงการ

§       เดือนกุมภาพันธ์ 2552 มี 2 โครงการ

§       โครงการที่จีนลงทุนในไทยได้แก่ การเกษตร (อาหารสัตว์ เลี้ยงสัตว์และแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร) ชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็คทรอนิกส์

3.      ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

§       ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีมากทั้งระดับผู้นำ หน่วยราชการ

4.      ด้านเกษตรกรรม

§       ในปี 2550 จีนมีแรงงานภาคเกษตร 1,320 ล้านคน และสร้างรายได้คิดเป็น 10% ของ GDP จีน

§       จีนใช้สินค้าเกษตรเพื่อบริโภคภายในประเทศถึง 90% และส่งออก 10% จีนจึงไม่มีปัญหาความมั่นคงทางอาหาร

§       การพัฒนาการเกษตรของจีน

§       พัฒนาข้าวลูกผสม ทำให้ผลิตได้ 1,000 กิโลกรัมต่อไร่

§       จีนผลิตปศุสัตว์ได้ 10 ล้านตันต่อปี  สัตว์ปีกคิดเป็น 21%

§       จีนมีทำการประมงมีผลผลิต 45 ล้านตัน แล้วส่งออกไปฮ่องกงและมาเก๊า

§       จีนมีพื้นที่การเกษตรคือ  ที่ราบลุ่มแม่น้ำฮวงโหทางตอนเหนือ ที่ราบลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนกลาง และที่ราบลุ่มแม่น้ำเพิร์ลทางตอนใต้

§       จีนปฏิรูปการเกษตรจนเลี้ยงตนเองและส่งออกได้

§       ปี 2510-2519 มีการปฏิวัติวัฒนธรรมถูกคุมโดย Gang of Four มีมาดามเหมาเป็นผู้นำ ใช้นโยบายซ้ายสุดขั้ว มีระบบคอมมูน รัฐควบคุมการผลิต รัฐตัดสินใจ ซื้อขายแบบผูกขาดโดยรัฐ ทำแล้วได้ผลตอบแทนเท่ากันหมด ทำให้ไม่พอบริโภค

§       เดือนธันวาคม ค.ศ. 1978 ประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิงใช้นโยบายปฏิรูปชนบทและเปิดประเทศโดย

1.      ยกเลิกระบบคอมมูน ให้ระบบครัวเรือนมีบทบาทมากขึ้นเริ่มปี พ.ศ. 2527 เดือนตุลาคม 2551 มีกฎหมายแปลงที่ดินเป็นทุน ทำให้เข้าสู่ทุนนิยมมากขึ้น

2.      เปลี่ยนจากกการค้าเชิงเดี่ยวเป็นการค้าหลากหลายตามตลาด มีการตั้งวิสาหกิจชุมชนเพิ่มความหลากหลาย มีการตั้ง Township Enterprise เริ่มเดือนมกราคม พ.ศ.2540 อยู่ภายใต้สำนักงานวิสาหกิจชุมชนของจีน

3.      เปลี่ยนระบบซื้อขายเป็นระบบตลาดตามอุปสงค์และอุปทาน

4.      เปลี่ยนจากระบบเศรษฐกิจรวมกรรมสิทธิ์สาธารณะ

5.      เปลี่ยนจากการผลิตตามที่รัฐกำหนดเป็นการผลิตตามความต้องการของตลาด

6.      ใช้นโยบาย 3 เกษตร

§       เพิ่มรายได้เกษตรกรรมโดยนำเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่

มาใช้

§       พัฒนาหมู่บ้านเกษตรโดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการ

จัดการสิ่งแวดล้อม

§       ในปีพ.ศ. 2549 จีนออกกฎหมายตั้งสหกรณ์การเกษตร โดยเน้นพัฒนาสหกรณ์ ควบคุมโดยกรมการบริหารจัดการเศรษฐกิจชนบท

§       จีนใช้นโยบายเปิดประเทศชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเริ่มตั้งแต่แนวชายฝั่งทะเลตอนใต้ เลียบแม่น้ำแยงซีเกียง และมณฑลกวางตุ้ง มีชาวฮ่องกงเข้ามาลงทุน รวมทั้งมีการเปิดตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ เสิ่นเจิ้นเพื่อระดมทุน มีการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า

§       ประเทศจีนใช้ระบบ 1 ประเทศ 2 ระบบคือ มีทั้งคอมมิวนิสต์และทุนนิยม

§       ผลไม้ไทยมีแนวโน้มขายดีในจีนเพราะมีการขยายปริมาณ มูลค่าและชนิด ไทยส่งผลไม้มาขายจีน 23 ชนิด

§       ลูกค้าชาวจีนชอบผลไม้คือ ทุเรียน มังคุด ลำไย กล้วยไข่ มะม่วงและชมพู่ทับทิมจันทร์

§       ผลไม้ที่มาแรงมากคือ มะขามหวานและเงาะ เพราะมีคุณภาพตรงตามข้อตกลง มีรสชาติและสีสัน มีความแปลกใหม่

§       ไทยส่งยางพารามาจีนมากเป็นอันดับที่หนึ่งและมีแนวโน้มดี จีนนำเข้ามาทำยางรถยนต์แล้วส่งงต่อไปยังสหรัฐ ญี่ปุ่นและเกาหลีเพื่อผลิตรถยนต์

§       ปีนี้อุตสาหกรรมรถไม่ดี จีนจึงนำเข้ายางพาราน้อยลง

§       จีนนำเข้ามันสำปะหลังจากจากไทย เวียดนามและกัมพูชาเพื่อมาทำแอลกอฮอล์ แป้งมัน แป้งแปรรูป เคลือบธนบัตร กระดาษกาว

§       สินค้าเกษตรในจีนมีแนวโน้มสดใสในระยะยาว

 

1.      แนวโน้มการค้าไม้ยางพาราเป็นอย่างไรบ้างในจีน

2.      แนวโน้มการผลิตพลังงานทดแทนของจีนเป็นอย่างไร

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

§       จีนได้มีการพัฒนาที่อยู่อาศัย จากบ้านเดี่ยวเป็นอพาร์ทเม้นท์ มีบริษัทมาลงทุนเฟอร์นิเจอร์ วัตถุดิบและไม้ยางพารายังเป็นที่ต้องการมาก เพราะนำมาใช้แทนไม่สักแล้วย้อมสี

§       จีนเริ่มใช้พลังงานจากเขื่อนมากขึ้น เขื่อนกั้นแม่น้ำโขง 8 แห่งผลิตกระแสไฟฟ้า มีการผลิตพลังงานไบโอเอทานอลมากขึ้นเพราะน้ำมันแพงโดยทำจากข้าวโพดและข้าวสาลี ทำให้แย่งวัตถุดิบผลิตอาหารไป จีนจึงห้ามการนำข้าวโพดมาผลิตเอทานอล ทำให้คนปลูกข้าวโพดน้อยลงแล้วเข้ามาทำงานในเมืองมากขึ้น จีนจึงใช้พืชชนิดอื่นทำเอทนอลแทนเช่น มันหลา พืชเซลลูโลส และไม้โตเร็ว นำสบู่ดำมาทำไบโอดีเซล นอกจากนี้มีการพัฒนาพลังงานแสงแดด โซล่าเซลล์ แนวโน้มจะมีพลังงานทดแทนมากขึ้น ตอนนี้รัฐบาลจีนกำลังศึกษาอยู่

รัฐบาลจีนมีนโยบายเกี่ยวกับมันสำปะหลังอย่างไร

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ไปพบคอสโก้จีนเพื่อพยายามผลักดันมันสำปะหลัง จีนบอกว่า คอสโก้ดูแลการนำเข้าสินค้าเกษตร นำเข้ามันสำปะหลังจากเวียดนาม 30,000 ตัน และนำเข้าจากไทย 20,000 ตัน แต่มันสำปะหลังเวียดนามได้พัฒนาคุณภาพเกือบเท่าไทยแต่ราคาถูกกว่า ทางไทยจึงแจ้งว่าจะผลิตเอทานอลแล้วส่งไปยังญี่ปุ่นโดยตรง จีนต้องการเอทานอลมากแต่ขาดวัตถุดิบจึงนำมันสำปะหลังไปปลูกในลาว กัมพูชาและเวียดนาม ในระยะยาว ควรสร้างมูลค่าเพิ่มให้มันสำปะหลังด้วยเช่นนำมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้

กฎหมายระบบสหกรณ์ไทยกับจีนเป็นอย่างไร

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

กฎหมายเหมือนกันหมด เคยได้ให้จีนไปดูงานสหกรณ์ไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว สหกรณ์จีนตั้งขึ้นหลัง Township Enterprise กฏหมายสหกรณ์เอาใจคนชนบทห่างไกล

สมาชิกสหกรณ์เป็นเกษตรกรล้วน มี 5 คนก็ตั้งสหกรณ์ได้แล้ว

สหกรณ์จีนที่ประสบความสำเร็จคือ สหกรณ์แตงโมและเยื่อไผ่ในเจ้อเจียงได้จดทะเบียนแตงโมยี่หลิน (เลนหยก)

1. ปุ๋ยที่นำเข้าจากจีน เมื่อพบกำแพงภาษีสูง จะทำอย่างไร

2. แนวโน้มพลังงานนิวเคลียร์ในจีนเป็นอย่างไร

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

§       ราคาน้ำมันทำให้ราคาปุ๋ยเพิ่มขึ้น

§       ประเทศไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีจากจีนมากเป็นอันดับที่ 2 รองจากซาอุดิอาระเบีย

§       เมื่อปลายปี 2550 จีนประสบปัญหาภัยแล้งและพายุหิมะ ผลผลิตทางการเกษตรจึงเสียหาย ดังนั้นในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน จีนจึงเร่งผลิตผลผลิตทางการเกษตรและบังคับห้ามส่งออกปุ๋ยโดยขึ้นภาษี 35% แล้วเพิ่มต่ออีก 150% ทำให้ประเทศไทยขาดปุ๋ย

§       แต่รัฐก็มีหน่วยควบคุมคุณภาพปุ๋ยคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

§       จีนมีพลังงานิวเคลียร์แต่ปิดไว้เป็นความลับ

ไทยส่งออกข้าวหอมปทุมธานีไปยังจีนมากกว่าข้าวชนิดอื่นใช่ไหม

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

§       เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ข้าวหอม 105 ออกมาในช่วง 3 เดือน แล้วซีพีนำมาบรรจุถุงขาย

§       ส่วนข้าวหอมปทุมธานีมีทั้งปี จีนจึงนำเข้ามากกว่า

§       คนจีนทางเหนือบริโภคข้าวเมล็ดสั้นเหมือนข้าวญี่ปุ่น (จีนผลิตได้เองในทางเหนือและตอนกลาง)

§       คนจีนทางใต้บริโภคข้าวเมล็ดยาว ซึ่งได้แก่ข้าวไทย

§       เวียดนามเน้นส่งออกข้างเมล็ดสั้นมาจีน จึงไม่แข่งขันกับไทย

แนวโน้มข้าวอินทรีย์จีนเป็นอย่างไรบ้าง

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

จีนมีแล้วแต่ยังไม่แพร่หลาย

หลายบริษัทจากทางยุโรปเริ่มศึกษาสินค้าเกษตรอินทรีย์

สถานการณ์ลำไยอบแห้งในจีนเป็นอย่างไรบ้าง

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

จีนยังคงเป็นผู้บริโภคลำไยอบแห้งรายใหญ่ ลำไยอบแห้งของจีนคุณภาพยังสู้ไทยไม่ได้ ปัญหาสารตกค้างทำให้จีนเข้มงวดลำไยอบแห้งมากขึ้น

1. จีนเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวได้อย่างไร

2. จีนมีมาตรการอะไรในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

§       จีนผสมพันธุ์ข้าวโดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันข้าวที่ฟิลิปปินส์เกิดเป็นSuperhybrid Rice ทำให้มีผลผลิตสูง นอกจากนี้ จีนพัฒนาระบบชลประทานเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวมีระบบตลาดที่ดีซื้อข้าวในราคาประกันขั้นต่ำ เก็บข้าวช่วงราคาต่ำและระบายออกเมื่อราคาแพง

§       มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนได้แก่การใช้เงิน 4 ล้านล้านหยวนกระตุ้นตลาดส่งออกที่สำคัญคือสหรัฐและยุโรป มีการสร้างงานในประเทศ ทุ่มเทตั้งแต่ปี 1997 คือ สร้างโครงสร้างพื้นฐาน และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ

 

สหกรณ์ในไทยส่วนใหญ่เป็นสหกรณ์การเกษตร ถ้าส่งสินค้ามาจีน จะต้องทำอย่างไร

ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

ต้องมี partner ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์จีนแล้วนำสัญญามายืนขออนุญาต มีหน่วยงานย่อยขอ Quarantine permit ใบอนุญาตระบุชนิดผลไม้มีอายุ 6 เดือน การค้ากับจีนไม่ต้องเปิด LC แต่ใช้ระบบเชื่อใจกัน

กราบเรียนท่านอาจารย์ จีระ หงส์ลดารมภ์

          จากการที่ผมได้เข้าร่วมสัมนาได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนอย่างมากมาย ต้องขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เลือกสรรค์สิ่งดี ๆ มาให้ในหลักสูตรนี้ ปรัชญาสหกรณ์นั้นเข้าใจว่าทุกคนในขบวนการสหกรณ์รับรู้ แต่มีจิตสำนึกหรือจิตวิญญาณที่จะอุทิศให้กับขบวนการสหกรณ์อย่างแท้จริงหรือไม่ หรือเข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ เมื่อไหร่จะถึงเวลาที่จะให้คนรุ่นใหม่ ๆ มีโอกาสเข้ามาแสดงความสามารถบ้าง มองไปทางไหนมีแต่คนรุ่นเก่า ๆ อยู่ทุกจุดของขบวนการสหกรณ์ แต่ละคนก็เป็นกันหลายที่หลายตำแหน่ง สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขบวนการสหกรณ์ปัจจุบันนี้คือการแข่งขันเข้ามาเป็นกรรมการบริหารในวงการสหกรณ์นับวันจะมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น แล้วอย่างนี้จะให้ขบวนการสหกรณ์เจริญเติบโตได้อย่างไร ในเมื่อที่มาไม่ได้มาด้วยจิตวิญญาณ แต่มาด้วยผลประโยชน์

ด้วยความเคารพอย่างสูง

สรุป Dinner Talk โดย คุณพิทยาพล นาถธราดล ในวันที่ 13 มีนาคม 2552

·       ผู้นำเป็นตัวจักรสำคัญของสหกรณ์

·       ตอนที่บริหาร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) มีพนักงาน 12,000 คน มี 800-900 สาขา มีลูกค้าเป็นสหกรณ์มากคือสหกรณ์การเกษตรและสหกรณ์การตลาด และได้พยายามผลักดันให้มีลูกค้าที่เกษตรกร ซึ่งมีลูกค้า 5 ล้านคน

·       การบริหารองค์กรใหญ่ต้องใช้หลักการมาก องค์กรคล้ายพาหนะหรือรถ ต้องมีล้อ เครื่องยนต์ คนขับ (ผู้บริหาร) ถ้าทุกอย่างดี คนขับก็ต้องขับให้ดีด้วย

·       Driver (คนขับ) คือตัวขับเคลื่อนสำคัญ ต้องมีผู้นำที่ดี ซึ่งพัฒนาได้โดยการเรียน และอยู่ที่ผู้ตามว่าจะทำตามหรือไม่และต้องสร้างแรงจูงใจให้คนอื่นอยากทำตาม ต้องรู้หลักบริหาร PODCC

·       P=Planning

·       O=Organizing

·       D=Directing

·       C=Coordinating

·       C=Control

·       การที่จะขับเคลื่อนองค์กรได้ต้องมีภาวะผู้นำ

·       ผู้นำมีหลายประเภท

·       ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีคุณธรรม พรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) มีน้ำใจ เสียสละทำเพื่อส่วนรวมและองค์กร

·       นำหลักการบริหารมาใช้

·       มีการบริหารคุณภาพ

·       คำนึงถึงลูกค้า (สมาชิก) มีหัวใจการบริการคือ ลูกค้าสำคัญที่สุด

·       การบริหารงานที่ดีต้องทำให้คนทำตามด้วยใจ เป็นเรื่องที่ท้าทายผู้นำ หลายคนใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น

·       Operation Room มี chart แสดงการดำเนินการมีตัวชี้วัด ทุกเช้ามี coffee break คุยกันหารือสัปดาห์ละครั้งทำให้ทราบความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการวัดความเปลี่ยนแปลงต้องมีตัวชี้วัด มีการติดตาม follow-up นำไปสู่การประเมินผล

·       ธุรกิจต้องเน้นการบริหารความเสี่ยง สหกรณ์ควรทราบตัวแปรที่มีผลต่อการไปถึงเป้าหมายแล้วควบคุมมันให้ได้ นอกจากนี้ ต้องให้พนักงานร่วมเป็นเจ้าของความเสี่ยง ช่วยกันคิดและควบคุมทำให้ไม่ห่างจากเป้าหมายนัก

·       การบริหารงานสมัยใหม่

·       การบริหารเชิงคุณภาพ ISO, QC, 5ส มาจากการที่โลกตื่นตัวดูแลลูกค้า สหกรณ์จะมีบริการที่ดีต้องดูแลลูกค้า มีการวัดกระบวนการทำงาน ต้องทราบว่าแต่ละขั้นมีตัวคุมไว้เท่าไร

·       ตอนที่ทำ ISO ได้จ้างบริษัทมาสอนแล้วนำมาทำเอง นำพนักงานไปเรียนรู้แล้วทำเอง ต่อมาสาขาต่างๆนำระบบไปใช้ มีระบบวัดความพอใจของลูกค้า มีกล่องรับความคิดเห็น โดยผู้จัดการต้องดูว่าในแต่ละวันลูกค้าร้องเรียนเรื่องอะไร ระบบนี้ทำให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงช่วยปรับปรุงการบริการ แต่ต้องเปิดใจกว้าง ดูเหมือนง่ายแต่ยากต่อการปฏิบัติจริง ผู้จัดการต้องมีศิลปะในการรู้ข้อมูล อย่าลงโทษลูกน้อง

·       ควรใช้หลัก PMS (Performance Management System) ทำให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลและทำงานด้วยใจ ทำได้โดยให้กลุ่มงานร่วมกันพัฒนาตัวชี้วัดความสามารถในการทำงาน ระบบนี้มีความยุติธรรมเพราะพนักงานตั้งเป้าหมายเอง

·       ในปีแรก ต้องสร้างความเข้าใจให้เห็นคุณค่าของระบบ

·       ปีต่อไปนำ Benchmarking มาใช้ นำองค์กรอื่นที่เทียบเท่ามาเปรียบเทียบ เป็นการสร้างความท้าทายทำให้เริ่มแข่งขัน ต้องใช้ศิลปะจูงใจทำให้ teamwork พัฒนาแล้วนำหลักประสิทธิภาพและประสิทธิผลมาวัด

·       สิ่งสำคัญคือ ผู้นำต้องขยัน ติดตามดูแลเอาใจใส่การทำงาน

·       การให้รางวัลและการลงโทษก็สำคัญต้องเน้นหลัก PMS เพราะยุติธรรม ทำให้คนอุทิศตนทำงาน ไม่ท้อ

·       เรื่องผู้นำเป็นพรแสวง ต้องจริงใจ มุ่งมั่น ชอบและรักในงาน แก้ปัญหาด้วยสติปัญญา

·       เมื่อเรียนจบแล้ว ก็ต้องศึกษาด้วยตนเอง หรือไปเข้ารับการฝึกอบรม

·       อย่าฟุ่มเฟือย ควรมีความพอเพียง เพราะทำให้มีความสุข

สรุปการบรรยายเรื่อง การใช้และวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพื่อการบริหาร โดย อาจารย์สมชาย ศิริรุ่งกิจ ในวันที่ 14 มีนาคม 2552

·       ตัวชี้วัดทางการเงินได้แก่

·       Financial Statement Analysis

·       เทคนิคการวิเคราะห์งบการเงินและการตีความหมายเพื่อการตัดสินใจ การใช้ข้อมูลงบการเงินในทางปฏิบัติ อุปสงค์และอุปทานของข้อมูล งบการเงิน คุณภาพของข้อมูลในงบการเงิน การวิเคราะห์สินเชื่อ การวิเคราะห์หลักทรัพย์ การวิเคราะห์ความเสี่ยง การประเมินมูลค่ากิจการ

·       CAMEL Analysis

·       วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรอย่างเป็นระบบและเป็นมาตรฐานเดียวกันในมุมมองของกลุ่มอัตราส่วนทางการเงิน 6 มิติคือ

·       ความเข้มแข็งของเงินทุน

·       คุณภาพสินทรัพย์

·       ขีดความสามารถในการบริหาร

·       การทำกำไร

·       สภาพคล่อง

·       ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ

·       CFSAWS: ss

·       เป็นเครื่องมือเตือนภัยทางการเงินพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งานให้สามารถวิเคราะห์เพื่อเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร โดยสามารถตรวจสภาพทางการเงิน ทราบระดับการวิเคราะห์เพื่อเฝ้าระวัง

·       Economic Value Added-EVA

·       มูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจเป็นเทคนิคในการวิเคราะห์การเงินที่ใช้เพื่อพิจารณาว่าธุรกิจกำลังสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจที่สูงกว่าต้นทุนของเงินทุนที่ลงไป กลับไปยังผู้ถือหุ้นหรือไม่ คิดได้โดย

·       กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี-ต้นทุนเงินทุน

     ·       Social Economic Value Added-SEVA

·       เป็นการวิเคราะห์เพื่อสะท้อนภาพการเป็นองค์กรทางเศรษฐกิจและสังคมของสหกรณ์ โดยประยุกต์ใช้แนวคิดมูลค่าเชิงเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือผลกำไรเชิงเศรษฐกิจ ประกอบการสะท้อนภาพทางสังคมของมวลสมาชิก สู่การเป็นองค์กรทางเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งต่อไป

สรุปการบรรยายเรื่อง การบริหารการเงินและความเสี่ยงกับการทำงานของสหกรณ์ โดย ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์ ในวันที่ 14 มีนาคม 2552

·       ในสมัยปัจจุบัน ลูกหนี้ขอให้เจ้าหนี้ฟ้องร้องตนเพื่อขอประนอมหนี้เพราะทำให้ดอกเบี้ยไม่เพิ่ม

·       หลักบัญชีคือ รับเงินเร็วแต่จ่ายเงินช้าที่สุด

·       ตลาดเงินต่างจากตลาดทุนตรงระยะเวลา

·       ตลาดเงินสำหรับตราสารระยะสั้น เช่น ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้ระยะสั้นที่ออกโดยรัฐบาล มีอายุไม่เกิน 1 ปี

·       ตลาดทุนสำหรับตราสารระยะยาวอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป เช่น พันธบัตรหรือหุ้นกู้ระยะยาวที่ออกโดยรัฐบาล

·       การลงทุน

·       ลงทุนทางตรง

·       ลงทุนทางอ้อม เช่นซื้อหุ้น ฝากธนาคาร นำเงินเราไปให้คนอื่นลงทุน

·       การลงทุนบอกไม่ได้ว่าแบบใดเสี่ยงกว่า ต้องรู้จักมันให้ดีพอแล้วความเสี่ยงจะน้อยลง

·       ถ้ามีกฎหมายประกันเงินฝากออกมา  ปีแรก ประกันทั้งหมด จนในที่สุดปีหลังๆจะประกันแค่ 1 ล้านบาทต่อบัญชีต่อธนาคาร

·       ในการฝากเงินธนาคาร ต้องดูฐานะของธนาคารโดยดูที่เงินทุนสำรอง (Tier 1) ในรูปเงินสด พันธบัตรรัฐบาล หรือ (Tier 2) ในรูปตราสาร หุ้นกู้ประกาศอยู่ในงบการเงินของธนาคาร หรือเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์

·       การหาแหล่งเงินเพื่อลงทุน ทำให้ทราบต้นทุนของเงิน และมีผลต่อการคิดผลตอบแทนซึ่งคิดเป็นร้อยละ

·       การบริหารเงินสด

·       การมีเงินสดมากๆไม่ดี ถือว่าบริหารเงินไม่เป็น มีค่าเสียโอกาสมาก

·       ต้องรู้จักบริหารสินทรัพย์หมุนเวียน คือ เงินสด ลูกหนี้ สินค้าคงคลัง เจ้าหนี้การค้า หนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ

·       การบริหารลูกหนี้

·       ถ้าลูกหนี้เป็นแบบสงสัยว่าหนี้จะสูญ ต้องป้องกันโดย ก่อนให้สินเชื่อ ต้องมีการวิเคราะห์ลูกหนี้ในด้าน

·       ความสามารถในการชำระหนี้ ความมั่นคงของรายได้

·       ความเคลื่อนไหวของลูกหนี้ มีข้อมูลที่ทันสมัยเสมอเกี่ยวกับลูกหนี้

·       การบริหารสินค้าคงคลัง

·       ต้องคำนวณยอดขาย

·       ควรเก็บสินค้าคงคลังให้เหลือน้อยที่สุดเพราะทำให้เกิดค่าเสียโอกาส

·       ใช้ระบบ Just-in-Time และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ Supplier

·       พิจารณาลงทุน

·       ความเป็นไปได้ในการลงทุน

·       ผลตอบแทน

·       ต้นทุนเงินทุน

·       การตัดสินใจ

·       ความเสี่ยงแบ่งเป็น

·       ความเสี่ยงด้านธุรกิจ หลีกเลี่ยงได้ ไปลงทุนในอุตสาหกรรมที่เสี่ยงน้อยกว่า

·       ความเสี่ยงด้านการเงิน หลีกเลี่ยงได้ถ้าเป็นแหล่งเงินภายใน

·       ความเสี่ยงด้านปัจจัยอื่นๆ

·       การวางแผนกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงต้องวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก ใช้จุดแข็งมาแก้จุดอ่อน

·       การทำงบประมาณ ประมาณการณ์จากการวางแผนกลยุทธ์แล้วแปลงเป็นแผนการเงิน

·       วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินจาก สภาพคล่อง  ความสามารถในการทำกำไร การบริหารหนี้ การบริหารทรัพย์สิน

·       บริหารความเสี่ยงด้วยการทำประกัน การกระจายการลงทุน อย่าให้สินเชื่อสมาชิกมากเกินไป ตราสารอนุพันธ์

·       ตราสารอนุพันธ์

·       Swap ทำสัญญาจะซื้อและจะขาย

·       Forward ทำสัญญาซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ต้องเสียค่าพรีเมี่ยมล่วงหน้า

·       ทั้งบริหารความเสี่ยงและมีความเสี่ยง

·       การตั้งเงินสำรองหนี้ที่สงสัยว่าจะสูญ โดยจัดชั้นของลูกหนี้

CAMEL น่าจะเหมาะกับสหกรณ์ทั่วไป ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ น่าจะใช้เครื่องมือตัวอื่นช่วย ตัวอย่างเช่น การพูดถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ถ้าเป็นสหกรณ์ทั่ว ๆไป หรือหน่วยธุรกิจทั่วไป การใช้ acid test ratio หรือ quick ratio ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้ามาใช้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ จะพบว่า มีความ mismatch ของเงินทุนอย่างมาก เพราะ fundamental ของธุรกิจต่างกัน

สิ่งที่น่าจะนำมาใช้ในการประเมินเรื่องสภาพคล่องสหกรณ์ออมทรัพย์ น่าจะเป็นเรื่องของ maturity gap (ลองหาดูในเวปแบงค์ชาติขอรับ)

ยังมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวกับประเมินความเสี่ยงของสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่น่าจะได้มีการวิเคราะห์กัน นอกเหนือจากเรื่องข้างต้น เช่น

- ความเสี่ยงด้านอื่น ๆ เช่น ความเสี่ยงด้านตลาด และความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ และกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง

- หุ้นสหกรณ์ ไม่ใช่หุ้นที่แท้จริง

etc

ผนส.3 น่าจะลองทำ workshop เรื่องนี้ดูนะครับ เพราะ

-สหกรณ์ออมทรัพย์กับสถาบันการเงินทำธุรกิจที่ใกล้เคียงกันมาก

-สถาบันการเงิน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความน่าเชื่อถือ

-ในขณะที่สถาบันการเงิน มีเรื่องสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เรื่องการจัดโครงสร้างทางการเงินเพื่อรับความเสี่ยงรูปแบบต่าง ๆ (BASEL II) แต่สหกรณ์ไม่มีอะไรไปสู้กับเขาได้เลย จะอ้างว่า สหกรณ์ไม่เสี่ยง คนที่ใช้บริการสมัยนี้เขาต้องการหลักฐานหรือแนวทางที่เป็นรูปธรรมกว่าในอดีตขอรับ

ขออนุญาตแสดงความเห็นนะขอรับ

(ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา)

เรียน อาจารย์ และผนส 3 ทุกท่าน
        หลังจากอบรมครั้งที่ 6 ที่ผ่านมา เหลือเวลาอีก 3 ครั้ง จะจบหลักสูตรแล้ว ผมอยากให้ทุกคนผ่านหลักสูตรนี้ทุกคน เพราะหลังจากการดูงานในประเทศ และดูงานต่างประเทศ ทุกคนมีความผูกพันกันมากขึ้น เป็นหวังเป็นใย และที่สำคัญโครงการนี้ทำให้ทุกคนได้รู้จัก ได้เรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกัน 
      ที่สำคัญท่านผู้หลักผู้ใหญ่(สว)ทั้งหลายน่ารักน่าเป้นหว่งทุกคน ไม่ว่าลุงพิณที่พยายามนำความรู้รอบตัวมาฝากทุกครั้ง และอีกหลายคนที่มีประสบการณ์แต่ไม่มีโอกาสได้แสดงออก 

       และอาทิตย์ที่จะถึงนี้เป็นการโขคดีมีอาจารย์โคทม มาพูดเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งหวังว่าทุกคนคงไม่พลาด ผมว่าจะไปก่อนล่วงหน้า หนึ่งวัน เพราะถ้าไปวันอบรมจะไม่ทัน ไปนอนสันนิบาตรไม่ทราบมีห้องไหม(ฟรี)หากไม่มี ค่าห้องไม่ทราบคิดเท่าไร่
        ที่สำคัญวันที่ 20 มีนาคม ท่านประธานรุ่นได้ฝากให้ผมเตือน ให้ทุกคน(ผมชาย)ใส่เสื้อสูตร(ตัวที่ตัดใหม่)เสื้อในสี่ขาวผูกเน็กไท เหมือนกับต้อนไปดูงานปักกิ่ง

        

สวัสดีครับอาจารย์ และสวัสดี ผนส. 3 ทุกท่าน 

      เมื่อวันที่ 12 มีนาคม  2552  ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2552  ผนส. 2 มีการจัดประชุมสัญจร และศึกษาดูงานที่ สกก.เชียงราย  สอ.ครูเชียงราย และ สอ.ครูแพร่  ส่งรูปมาให้ ผนส. 3 ดูกันครับ  กิจกรรมครั้งต่อไปปรับปรุงห้องเรียนสหกรณ์  และมอบอุปกรณ์การศึกษาให้กับโรงเรียนวัดคลองขุนศรี ไทรน้อย  จังหวัดนนทบุรี

หมดหรือเนี๊ยะ  สุดท้ายไม่เหลือ

ท่านรองประธาน ผนส.2 มอบของที่ระลึกในการเยี่ยมชมกิจการ สกก.เชียงราย

ท่านประธาน ผนส. 2 มอบเสื่อจันทรบูนให้ท่านประธาน สกก.เชียงราย

ท่านประธาน ผนส. 2 มอบเสื่อจันทรบูนให้ท่านผู้ตรวจ สกก. เชียงราย

ประธาน  สกก.เชียงรายมองเงิน ในนามองค์กร และส่วนตัว เพื่อร่วมกิจกรรม ผนส.

ผู้ตรวจ  สกก.เชียงรายมองเงินส่วนตัว เพื่อร่วมกิจกรรม ผนส.2

ขอแจมด้วยท่านผู้จัดการธญา ร่วมสมทบกิจกรรมในนามองค์กร และส่วนตัว

หลังจากฟังบรรยายสรุป และตอบข้อซักถามแล้วดูงานที่โรงงานบรรจุน้ำ 

เสร็จจากดูงานแล้วได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ระหว่าง กรรมการ เจ้าหน้าที่ สกก.เชียงราย และคณะ ผนส. 2 

ในภาคบ่ายดูงานที่ สอ.ครูเชียงราย

 

ท่านประธาน ผนส. 2 มอบเสือจันทรบูนให้ท่านประธาน สกก.เชียงราย

ท่านประธาน ผนส. 2 มอบเสือจันทรบูนให้ท่านผู้ตรวจ สกก. เชียงราย

ประธาน  สกก.เชียงรายมองเงิน ในนามองค์กร และส่วนตัว เพื่อร่วมกิจกรรม ผนส.

ผู้ตรวจ  สกก.เชียงรายมองเงินส่วนตัว เพื่อร่วมกิจกรรม ผนส.2

ขอแจมด้วยท่านผู้จัดการธญา ร่วมสมทบกิจกรรมในนามองค์กร และส่วนตัว

หลังจากฟังบรรยายสรุป และตอบข้อซักถามแล้วดูงานที่โรงงานบรรจุน้ำ 

เสร็จจากดูงานแล้วได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ระหว่าง กรรมการ เจ้าหน้าที่ สกก.เชียงราย และคณะ ผนส. 2 

ในภาคบ่ายดูงานที่ สอ.ครูเชียงราย

เรียน ท่านอาจารย์ และ ผนส.ทุกรุ่น

เห็นภาพกิจกรรมของ ผนส.2 แล้วรู้สึกได้ว่า หากขบวนการสหกรณ์มีกลุ่มผู้นำที่เข้มแข็งเป็นแบบอย่างที่ดี มุ่งช่วยเหลือ เอื้ออาทรต่อกัน ต่อชุมชน ต่อประเทศชาติ ผมเชื่อมั่นเหลือเกินว่า สหกรณ์จะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาของประเทศชาติได้เป็นอย่างดี ผมขอให้กลุ่มผู้นำ ที่เป็นศิษย์เก่าของสถาบันพิทยาลงกรณ ทุกท่าน ถึงแม้จะยังมีจำนวนไม่มาก ก็ขอให้ได้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ต่อไป เพราะท่านคือ ผู้นำสหกรณ์รุ่นใหม่ สหกรณ์คือ การกระทำร่วมกัน และการรวมกันก็คือพลังอันยิ่งใหญ่ หากสหกรณ์ทุกประเภทมีความร่วมมือกันแล้ว เรื่องใหญ่ก็จะเป็นเรื่องเล็ก เพราะอุดมการณ์สหกรณ์ต้องมุ่งช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่แล้วครับ นอกจากช่วยกันในหมู่สหกรณ์แล้ว ก็อย่าลืมต้องช่วยกันสร้างชุมชนของสหกรณ์มีความเข้มแข็งไปด้วย นี่จึงจะสุดยอดของความเป็นสหกรณ์ขั้นสูงสุด เพราะสหกรณ์เราจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยไม่ดูแลชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมรอบข้างแล้ว ความยั่งยืนย่อมไม่เกิดแก่สหกรณ์อย่างแน่นอน ผมขอฝากแป็นกำลังใจให้กับ กลุ่มผู้นำสหกรณ์ (ผนส.) ทุกท่าน ที่มีความตั้งใจ และทุ่มเทตนเองให้กับสังคม

เรียนอาจารย์และเพื่อน ผนส 3

ช่วงนี้พวกเราดูเงียบ ๆ ไป หลายคนไม่ได้เข้ามาเยีืยมเยียนใน blog เหมือนเคยสงสัยว่ากำลังทำโครงการส่งอาจารย์ยมใช่ไหมค่ะ

ถูก..ถูก..ถูกต้องครับ..พี่จิ๋น

ผมไม่เห็นด้วย กับพี่จิ๋น น๊ะครับ พวกเราเป็นนักบริหาร เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เขียนแบบพี่จิ๋น ใครไม่เห็นภาพการเรียน การหารือโครงการของพวกเรา จะเข้าใจอาจารย์ผิดได้ จะเสียถึงท่าน

ผมว่าพวกเราทำแบบนั้นดูจะไม่เหมาน๊ะครับ ไปโยนให้อาจารย์  ผมเห็นท่านช่วยและบริการพวกเราได้ดี  อะไรไม่รู้ถามท่าน ท่านก็ช่วยบริการให้ ความดีของท่านก็มี เราน่าจะเรียนรู้จากท่าน และชื่นชมท่านด้วยซ้ำไป ครับ

ขอเถอะครับ อย่าใช้บล๊อกในการโยนอะไร ไม่ดีให้ใคร ๆ ครับ จะเป็นการประจาญ กันไป ผิดวัตถุประสงค์ ของการใช้บล็อกครับ

การลดกรรม 45อย่าง (ควรอ่านอย่างยิ่ง)

มาทำความดี ละเว้นความชั่วกันดีกว่า

1. กรรมที่ไม่มีลูก

กรรมจาก การทำร้ายลูกของสัตว์อื่น พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่หรือเคยข่มเหงลูกคนอื่น

ลดกรรม ด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ในทุกๆเดือนทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิสัตว์หรือ

มูลนิธิเด็กอ่อน

2. เจ็บป่วยบ่อย หรือเป็นโรคร้าย

กรรมจาก เคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์

ลดกรรม ด้วยการทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถา ให้อาหารให้ความเมตตา ซื้อยาหรือบริจาคเงินที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญปล่อยเต่า

งดกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต

3. ตาบอดหรือเป็นโรคตา

กรรมจาก เคยทำร้ายสัตว์ที่ดวงตา หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อน หรือเคยทำลายไฟฟ้าของวัด ของที่สารธารณะ

ลดกรรม ซื้อโคมไฟ หลอดไฟถวายวัด ถวายเทียนห่อใหญ่ ถวายไฟฉาย เติมน้ำมันตะเกียงทุกวันพร! ะ บริจาคเงินในกล่อง

ซื้อน้ำมันเติมตะเกียงที่วัด

4. ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัดต่อย

กรรมจาก จากเคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น มักรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ

ลดกรรม หมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ

5. สูญเสียคนใกล้ชิด

กรรมจาก เคยยิงนกตกปลา

ลดกรรม ทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือ งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัก 1 อย่างชั่วชีวิต หรือกินเจทุกๆ 3 เดือน ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

6.ถูกนินทา ถูกให้ร้าย

กรรมจาก เคยพูดจาให้เป็นเหตุให้คนอื่นเป็นทุกข์หรือเดือดร้อน

ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี พูดดี พูดให้คนอื่นเกิดประโยชน์ พูดให้ผู้อื่นมีความสุข

7. มักเดือดร้อนเพราะไฟ ไฟไหม้บ้าน ไฟดูด

กรรมจาก เคยลบหลู่พระสงฆ์ และศาสนา

ลดกรรม ตักบาตรทุกวันพระ ทำบุญถวายสังฆทานทุกเดือน ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกวันพระ หรือทุกๆเดือนในวันพระ ร่วมพิมพ์หนังสือ

ธรรมะแจกจ่ายฟรี

8. ขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร

กรรมจาก ไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ

ลดกรรม ร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน หรือร่วมด้วยแรงกายช่วยงานอื่นๆในงานศพ เช่นทำอาหาร จัดดอกไม้

9. ตั้งหลักปักฐานไม่ได้ โยกย้ายบ่อย

กรรมจาก ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แก่วัดวาอารามต่างๆ

ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างหลังคาวิหาร ร่วมทำบุญฝังลูกนิมิต หมั่นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ณ เมืองที่ตนอยู่อาศัย

10. มักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน

กรรมจาก ไม่เคยบวช หรือทำบุญงานบวช

ลดกรรม บวช ด้วยจิตศรัทธาปวารถาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงจะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน 1 เดือน 1 พรรษา แล้วแต่

จิตศรัทธา ถ้าเป็นสตรีจะบวชชีพราหมณ์ หรือถือศีล 8 ตามเวลาที่สะดวกและตั้งจิตศรัทธา หรือร่วมทำบุญงานบวชอย่าง

สม่ำเสมอเท่าที่จะทำได้

11.ไม่มีคนชื่นชมเอ็นดู ชาดเสน่ห์

กรรมจาก ไม่เคยถวายของหอม

ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันพระ ถวายธูปหอม เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย ทองคำเปลว ประน้ำอบน้ำปรุง ประพฤติดี

ปฏิบัติชอบต่อผู้อื่น คิดดี ทำดี พูดดี ให้ผู้อื่นได้ดี มิให้ร้ายผู้ใด

12. เป็นที่รังเกียจ มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว

กรรมจาก ทำติเตียนดูแคลน ผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน

ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ ฟังเทศน์มหาชาติทุกๆปี ชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญหรือบริจาคทานเป็นการบอกบุญผู้อื่น

พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจกฟรี

13. ไปไหนมาไหนลำบาก มีแต่อุปสรรค

กรรมจาก เคยทำลายหนทางสัญจรของวัด หรือของชาวบ้าน หรือทำให้ทางสัญจรสาธารณะได้รับความไม่สะดวก

ลดกรรม บริจาคทรัพย์หรือแรงกายช่วงสร้างสะพาน สร้างทางอันเป็นประโยชน์แก่วัด หรือชุมชนเล็กๆ ช่วยผู้คนยากไร้ให้

ได้มียวดยานพาหนะหรือทางสัญจรที่สะดวก

14. เป็นคนรับใช้เขาร่ำไป

กรรมจาก เคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณแก่ตน

ลดกรรม ตอบแทนผู้มีคุณด้วยความกตัญญู ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป พระประธาน ทำทานทั้งกับคนและสัตว์

15. ขัดสน อดมื้อกินมื้อ

กรรมจาก เคยละเว้นการใส่บาตร ละเว้นการให้ทาน เมื่อมีคนยากไร้มาขอทานอาหารและน้ำ

ลดกรรม แบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า แก่คนยากไร้อนา! ถา แม้ไม่มีเงินก็แบ่งปันสิ่งของตามที่มี ตักบาตรทุกเช้าหรือทุกวันพระ

16. อาภัพคู่ ร้างคู่

กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขา

ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน ถวายของเป็นคู่ เช่น แจกันคู่

เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เป็นต้น

17. ได้คู่ที่เลวร้าย ทำร้ายตนหรือทำให้เป็นทุกข์

กรรมจาก เคยข่มขืนเขาในชาติก่อน เคยทุบตีทำร้ายคู่

ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

18. อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย

กรรมจาก เคยจับสัตว์ขัง

ลดกรรม ทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา

19. รูปร่างหน้าไม่งดงาม

กรรมจาก ไม่เคยถวายดอกไม้ของหอม

ลดกรรม ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ทำบุญบริจาคดวงตา บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล

20. มักถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน

กรรมจาก เคยคดโกงผู้อื่น!

ลดกรรม สละทรัพย์บริจาคร่วมการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกๆเดือน

21. พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ

กรรมจาก เคยทุบตีพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่

ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5 ศีล 8 เจริญภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน

22. มีคดีความ

กรรมจาก เคยพบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยหรือพยายามหาทางช่วยเหลือ

ลดกรรม หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือนๆละ 7 วัน

23. ไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

กรรมจาก ไม่สงเคราะห์คนอนาถา ที่มาขออาหาร ขอชายคาหลบฝน ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก

ลดกรรม ร่วมทำบุญซื้อกระเบี้องหลังคาโบสถ์ หมั่นไปกราบไหว้บู! ชาศาลหลักเมือง ทำบุญทำทานแก่สัตว์พิการหรือสัตว์จรจัด

24. จิตใจขุ่นมัว ดุดัน ขี้โมโห

กรรมจาก มักตะหนี่ในการทำบุญ

ลดกรรม สวดมนต ์ไหว้พระ ทุกวันพระ ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 5 หรือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือน บริจาคทาน แบ่งปันเงินทองหรือ สิ่งของแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือร่วมทำบุญบริจาคทานกับมูลนิธิสถานสงเคราะห์ และวัดวาอารามต่างๆ

25. ไม่มีชื่อเสียง

กรรมจาก เคยติฉินนินทาทำให้ผู้อื่นเสียหาย

ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างหอระฆัง ร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษา ทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา

26. ไม่มีวาสนาบารมี

กรรมจาก ไม่เคยนับถือชื่นชมผู้นับถือธรรมมะ

ลดกรรม ทำบุญสร้างพระพุทธรูป ทำทานกับคน

27. มีลูกหลานไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง

กรรมจาก ทำแท้ง เคยทำร้ายคนใกล้ชิดมาก่อน และทำร้ายจิตใจครอบครัวในชาติก่อน

ลดกรรม บวชเณร โดยให้ลูกบวชหรือไปร่วมบวช จะทำให้กรรมน้อยลง ปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูกตนเอง

28. เจอแต่คนเอาเปรียบ

กรรมจาก เคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติ เคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ ขโมยเงินครอบครัวมาใช้

ลดกรรม หมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น ไม่ดื่มเหล้า ทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดีๆเข้ามาในชีวิต

29. เกิดในสกุลต้อยต่ำ

กรรมจาก โอหัง อวดดี จิตใจคับแคบ

ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างวัด สร้างพระประธาน ทำบุญทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

30. ไร้สง่าราศี ขาดวาสนา

กรรมจาก เคยเมาสุระอาละวาด ระรานผู้อื่น!

ลดกรรม นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ทำทานกับคนอนาถา และสัตว์อนาถา ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

31. ไม่เจริญก้าวหน้า จิตใจเป็นทุกข์

กรรมจาก เคยชักจูงคนทำชั่ว

ลดกรรม ถือศีล 8 เป็นเวลา 7 วัน ทุกๆ 3 เดือน หมั่นทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน

32. จิตใจฟุ้งซ่าน เป็นทุกข์

กรรมจาก เคยริษยาผู้อื่น

ลดกรรม ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยปลาลงน้ำ นั่งสมาธิ สวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

33. ชีวิตตกต่ำ ทำสิ่งใดไม่เจริญ

กรรมจาก เคยทำแท้ง

ลดกรรม ปล่อยปลาลงน้ำทุกๆเดือน จนครบ 9 เดือน หรือ 1 ปีเต็ม ถวายสังฆทาน ทำบุญใส่บาตรเสมอ

34. เป็นเมียน้อย เมียเก็บ

กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขามาก่อน ขืนใจเขาโดยไม่ยินยอม เคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ภพก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน

ลดกรรม ถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ อย่างใดก็ได้ อธิษฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ที่ดีขึ้น บวชชีพราหมณ์ ปีละ 1 ครั้ง 3 วัน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินให้ได้รับกุศลและเปิดทางให้ชีวิตคู่ดีขึ้น ร่วมเป็นเจ้าภาพงานแต่ง เพื่อชีวิตตนจะดีขึ้นและสมหวัง สวดมนต์ขอพรทุกวันเกิดด้านความรักให้สมหวังต่อไป ทำบุญสังฆทานสด ในวันเกิดตนเอง เดือนละครั้ง เพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติและวิญญาณที่ตามมาให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรม

35. เป็นทุกข์เพราะคนในครอบครัว

กรรมจาก เคยลำเอียง ไร้คุณธรรมในด้านครอบครัวไว้ก่อน เคยเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดไว้ในชาติอดีตและชาติปัจจุบัน เคยทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกในอดีตชาติ

ลดกรรม ต้องบวชชีพราหมณ์ เพราะเมื่อเกิดอีกภพชีวิตจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะกุศลของการบวช ปฏิบัติธรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรม และตนเองได้พบสิ่งที่มีกุศลมากขึ้น ยึดพรหมวิหาร 4 มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จะทำให้ชีวิตมีความเมตตา และไม่ลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนใกล้ชิด ทำให้วิถีชีวิตมีคนนับถือและพ้นจากความทุกข์ในเรื่องญาติพี่น้องยุ่งเกี่ยวได้ นำพระคู่บ้านคู่เมืองเข้าสักการะที่บ้าน และสวดมนต์ขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

36. เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

กรรมจาก ฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ทำร้ายคนไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ

ลดกรรม ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติ รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้กุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ปล่อยสัตว์ลงน้ำในวันเกิดตนเอง กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับและอโหสิกรรม ถวายยาเข้าวัด

หรือช่วยเหลือคนป่วย

37. เป็นมะเร็ง

กรรมจาก รู้เห็นเป็นใจกับการทำแท้ง การทารุณสัตว์ หรือการทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่น

ลดกรรม ทำบุญใหญ่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และบวชชีพราหมณ์ 1 เดือน เพื่อส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม

ทำบุญสร้างพระพุทธรูป สร้างโบสถ์หรือสร้างศาลาวัด ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี หมั่นนั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน

38. ค้าขายขาดทุน ทำงานไม่ก้าวหน้า

กรรมจาก เคยลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง

ลดกรรม หมั่นทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ถวายเครื่องเซ่นสังเวย เจ้าที่-เจ้าทาง หมั่นสวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

39. ด้อยปัญญา

กรรมจาก ฝักใฝ่อบายมุขในชาติก่อน หรือชักชวนคนไปทำชั่ว ดูแคลนหลักธรรมมะ

ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจก ทำบุญทำทานกับโรงเรียนของเด็กพิการหรือตามมูลนิธิต่างๆ

40. ตกงาน

กรรมจาก เคยกลั่นแกล้งผู้อื่นในเรื่องงาน หรือแย่งงานผู้อื่น

ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทาน ร่วมงานบุญต่างๆ ปล่อยนกปล่อยปลา

41. ไม่มีโชคลาภ

กรรมจาก ไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ

ลดกรรม หมั่นทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ ถวายธูป เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย และทองคำเปลว

42. เรียนไม่จบ การเรียนมีอุปสรรค

กรรมจาก ชาติก่อนปฏิเสธการฟังเทศน์ฟังธรรม

ลดกรรม หมั่นเข้าวัด ร่วมงานบุญต่างๆ ฟังเทศน์ อ่านหนังสือธรรมะ

43. มีอาชีพต้อยต่ำที่ผู้คนดูแคลน

กรรมจาก ชาติก่อนเคยบวชด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไร้ความศรัทธา อาศัยผ้าเหลืองหากิน

ลดกรรม ถือศีล 5 ศีล 8 นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ถวายสังฆทานทุกเดือน หรือทุก 3 เดือน

44. ครอบครัวยากจน

กรรมจาก ชาติก่อนไม่เคยบริจาคทาน

ลดกรรม หมั่นทำบุญด้วยการบริจาคทาน ถ้ามีเงินไม่มากก็บริจาคเป็นสิ่งของ แรงกาย หรือน้ำใจ ต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก เช่น ไปช่วยอ่านหนังสือให้มูลนิธิคนตาบอด

45. เป็นทุกข์เพราะความรัก

กรรมจาก ชาติก่อนเจ้าชู้ หลอกผู้อื่นให้อกหัก

ลดกรรม ประพฤติดีปฏิบัติดีทั้งความคิด กาย วาจา ใจ ร่วมทำบุญงานแต่งงาน ทำสิ่งดีๆให้คนอื่นได้สมรักสม

อ่านให้จบเพราะ จุดเด่นอยู่ที่ข้อ 19 ค่ะ

กฏแห่งกรรม

1. เหตุใดคุณมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย

เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายจีวรแด่พระสงฆ์

2. เหตุใดชาตินี้คุณมีอาหารดีดีรับประทานอยู่เสมอ

เพราะชาติก่อนคุณเคยทำทานอาหารแก่คนยากจนในชาติก่อน

3. เหตุใดชาตินี้คุณอดอยากยากจน ไม่มีเสื้อผ้าดีดีสวมใส่

เพราะคุณตระหนี่ขี้เหนียวไม่ยอมทำทานคนจน ในชาติก่อน

4. เหตุใดชาตินี้คุณมีบ้านเรือนให­ญ่โต

เพราะคุณเคยถวายข้าวสารเข้าวัดในชาติก่อน

5. เหตุใดชาตินี้คุณมีความเจริ­ญรุ่งเรืองและมีความสุขมาก

เพราะคุณเคยถวายเงินสร้างวัดในชาติก่อน

6. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนสวย และรูปงาม

เพราะคุณเคยถวายดอกไม้สดบูชาพระด้วยความเคารพในชาติก่อน

7. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมีปัญญาดี

เพราะคุณเคยเป็นพุทธมามกะและทานมังสวิรัติในชาติก่อน

8. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นที่รักของทุกๆ คนและมีเพื่อนมากมาย

เพราะคุณเคยสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคนในชาติก่อน

9. เหตุใดชาตินี้คุณมีพ่อ แม่อยู่พร้อมหน้า

เพราะคุณเคารพและให้ความช่วยเหลือ ไม่ดูแคลนคนไร้­ญาติในชาติก่อน

10. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นเด็กกำพร้า

เพราะคุณเคยยิงนก ตกปลา และพรากสัตว์ในชาติก่อน

11. เหตุใดชาตินี้คุณมีอายุยืนแข็งแรง

เพราะคุณเคยปล่อยนก ปล่อยปลา สิ่งมีชีวิตในชาติก่อน

12. เหตุใดชาตินี้คุณอายุสั้น

เพราะชาติก่อนคุณเคยฆ่าสัตว์มากมาย

13. เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนรับใช้

เพราะชาติก่อนคุณเคยดูถูกเหยียดหยามคนจน

14. เหตุใดชาตินี้คุณมีด??งตาสดใส

เพราะชาติก่อนคุณเคยเติมน้ำมันตะเกียงและจุดไฟบูชาพระ

15. เหตุใดชาตินี้คุณโง่ปั­­ญญาอ่อนและหูหนวก

เพราะชาติก่อนคุณเคยด่าว่าและหยาบคายต่อหน้าพ่อแม่

16. เหตุใดชาตินี้คุณต้องตายเพราะยาพิษ

เพราะชาติก่อนคุณเจตนาวางยาในต้นน้ำลำธารให้เป็นพิษ

17. เหตุใดชาตินี้คุณจึงแขวนคอตาย

เพราะชาติก่อนคุณใช้ตะข่ายล่าและดักสัตว์

18. ถ้าชาตินี้คุณฆ่าเขา

ชาติหน้าเขาก็จะฆ่าคุณ และจะฆ่ากันไป-มาไม่มีสิ้นสุด

19. ถ้าชาตินี้คุณบอกเล่ากฏแห่งกรรม

คุณจะเป็นที่เคารพนับถือมากมายในชาติหน้า

ความเห็น๔๙๕เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมไม่เห็นว่ามันน่าเกลียดตรงไหนในความเห็นของพี่จิ๋นที่พวกเราหลายคนหายไปจากบล็อกเพราะต้องค้นคว้าคิดวิเคราะห์ในการโครงการและทำรายงานส่งอาจารย์ ก็ทำให้ไม่ได้เข้ามาในบล็อกก็เป็นเรื่องธรรมดา อาจารย์ท่านอยู่ของท่านดีๆไม่เห็นจะเสียหายอะไร ผมว่าก่อนจะวิจารณ์อะไรไตร่ตรองก่อนนะครับท่านผู้บริหาร ใจกว้างๆหน่อย อาทิตย์นี้ก็จะเรียนเรื่องประชาธิปไตยแล้ว ขอฟังความเห็นอื่นด้วยครับถ้าผิดจะขอโทษแทนพี่จิ๋น

เรียน อาจารย์ และ ผนส 3 ทุกท่าน

       วันศุกร์ที่จะถึงนี้ย้ำ ให้ผู้ชายทุกคนใส่เสื้อสูทผูกเนคไท (ท่าประธานรุ่นฝากให้ผมใส่ในบล๊อก) และหลังจากครั้งนี้แล้วเหลืออีกสองครั้งจะจบหลักสูตรแล้ว และยังมีแนวคิดเดิมอยากให้ทุกคนจบพร้อมกันทุกคน  หวังว่าอาจารย์คงจะเข้าใจเพราะทุกคนต้องทำงานหลายหน้าที่ และช่วงนี้มีงานมาก บางสหกรณ์ปิดบัญชี บางสหกรณ์กำลังจะประชุมใหญ่  บางสหกรณ์มีกิจกรรม  บางสหกรณ์ประธานมีหลายตำแหน่ง  อย่างเช่นวันที่ 23 เมษายน 2552 มีการประชุมของสหประกันชีวิต คนที่เป็นกรรมการของสหประกันก็ต้องไปประชุม เป็นสมาชิกก็ต้องไปประชุมผมไม่รู้จะไปหรือเปล่า เพราะช่วงนั้นทุกคนก็ต้องนำเสนอโครงการพอดี
     การเตรียมการอบรมในวันที่ 24 เมษายน ไม่ทราบเป็นอย่างไรบ้าง จะให้ช่วยอะไรบ้าง หากเป็นไปได้ให้นำโครงการคุยในบล๊อกบ้าง เพื่อจะได้ช่วยกันดู  
     
      
         

เข้ามาในblogวันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ได้อ่านบางข้อความรู้สึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือในผนส.3แต่คิดอีกทีก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกันมีหลายแง่หลายมุมที่มองต่างกันได้ แต่ต้องมีเหตุมีผลในการที่มีความเห็นแย้งบางครั้งคำตอบที่ได้เป็นคำตอบที่ถูกหมดทุกข้อ แต่ถูกต้องในแง่ในมุมไหนตามแนวคิดของผู้ตอบ แต่ที่สำคัญต้องคุยกันนะ..

มีนิทานเรื่องหนึ่งในสมัยจีนโบราณ ณ. วัดพุทธศาสนาแห่งหนึ่ง จะตีระฆังทุกเช้าตอนตีสี่เพื่อให้คนในวัดตื่นมาทำวัตรเช้า มีภิกษุรูปหนึ่ง จะตื่นก่อนเวลามาส่องไฟตามทาง เพื่อจะจับหอยทากที่คลานอยู่ ไปปล่อยในที่ปลอดภัยไม่ให้ถูกเหยียบตาย มาวันหนึ่งเมื่ออยู่พร้อมหน้ากัน ภิกษุรูปอื่นก็สอบถามว่า “ทำไปทำไม” ภิกษุรูปนั้นตอบว่า “ผมมีชีวิตอยู่เพื่อประกอบความดี นอกจากสวดมนต์ภาวนาแล้วก็ต้องการทำบุญกุศลเป็นพิเศษด้วย” ภิกษุอีกรูปหนึ่งค้านว่า “ท่านทำเช่นนี้ เท่ากับทำให้ชาวสวนเดือนร้อน อีกทั้งหอยทากเหล่านี้เป็นตัวแพร่โรค” ภิกษุอีกรูปหนึ่งแย้งว่า “ไม่ใช่เช่นนั้น ท่านไม่เจตนาให้เป็นภัยแก่ผู้คน หากต้องการปลดปล่อยสัตว์จากภัยภิบัติ อีกทั้งให้พวกเราบำเพ็ญความบริสุทธิ์โดยไม่ต้องทำให้ชีวิตต้องตกล่วงไปด้วย”

เมื่อตกลงกันไม่ได้ทั้งหมดก็พากันไปหาหลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านนิ่งฟังคำชี้แจงด้วยความเห็นใจ จ้องหน้าตั้งใจฟังคนนั้นที คนนี้ที ภิกษุรูปแรกชี้แจงว่า “ผมเพียรทำความดี แม้น้อยหนึ่งก็ไม่เป็นไร เหมือนหยาดน้ำทีละหยด อาจเต็มตุ่มได้ จะว่าเป็นบาปได้อย่างไรครับหลวงพ่อ” พอฟังจบท่านอาจารย์ ตอบแสดงความชอบใจว่า “ถูก-ถูก ถูกแล้ว”

ภิกษุรูปที่สองชี้แจงว่า “ผู้ใดเหยียบหอยทาก เมื่อไม่มีเจตนา ก็มิใช่กรรมอันใด แต่หอยทากทำลายพืชผลและเป็นตัวเพาะโรค ทางราชการขอให้ช่วยกันกำจัด ทั้งคนในวัดและนอกวัดจะได้ไม่มีโรค เป็นผลดีทั้งต่อตนเองและผู้อื่น มิใช่หรือครับหลวงพ่อ” พอฟังจบ ท่านอาจารย์ตอบแสดงความชอบใจว่า“ถูก-ถูก ถูกแล้ว”

ภิกษุรูปที่สามชี้แจงว่า “การบำเพ็ญธรรม ซึ่งมีคนหนึ่งเสียสละ เปิดโอกาสให้ทุกๆคน ประกอบความหลุดรอดไปตามทางของเขา สัตว์ใดๆแม้จะอยู่ในร่างที่ต่ำต้อย แต่ก็มีธรรมชาติแห่งความตรัสรู้อยู่ได้มิใช่หรือครับหลวงพ่อ” พอฟังจบ ท่านอาจารย์ตอบแสดงความชอบใจว่า “ถูก-ถูก ถูกแล้ว”

ขณะนั้น สามเณรรูปหนึ่งนิ่งฟังอยู่ข้างหลังหลวงพ่อ ก็อดขัดขึ้นไม่ได้ว่า “หลวงพ่อได้แต่ร้องร้องว่า ถูกๆๆ มันจะถูกไปหมดทุกฝ่ายได้อย่างไร ถ้าฝ่ายหนึ่งถูก ฝ่ายอื่นก็ต้องผิดซิ หลวงพ่อ” ท่านอาจารย์หันมาฟัง พอฟังจบ ก็ตอบแสดงความชอบใจอีกว่า “เอ๊ะ ที่เธอว่าก็ถูก ถูกแล้ว” นิทานก็จบลงแต่ผู้เล่าคือ อ.อภิปัญโญ เฉลยความต่อไปว่า

- ความเห็นรายแรกถือหลักแห่งกรรม ปรารภว่าตนอยู่ในกองทุกข์ แล้วมีแต่ตนที่ต้องเพียรหาทางออก

-ความเห็นรายที่สองถือหลักวิทยาศาสตร์ ถือเหตุผลและอรรถประโยชน์

- ความเห็นรายที่สามเป็นทัศนะอย่างโพธิสัตวภูมิ คือแทนที่จะเพ่งเพื่อตัว กลับเพ่งเพื่อผู้อื่น และสัตว์อื่น หวังจะนำสู่แดนที่ปลอดภัยไร้ทุกข์

-ความเห็นรายที่สี่ถือหลักตรรกวิทยา คือความเป็นคู่ มีของตรงกันข้ามกันตลอดไป มีผิดก็ต้องมีถูก หากอันใดถูก อันอื่นนอกนั้นก็ต้องผิด แม้จะเป็นความเห็นของสามเณรหน่ออ่อน ท่านอาจารย์ก็ยอมรับหลักตรรกวิทยาได้เช่นกัน

อ.อภิปัญโญ เล่าสรุปว่า “คราวใด หากใครมีความรู้สึกว่าถูก-ผิด ขึ้นจริงๆด้วยความยึดมั่นถือมั่นแล้วนั้นแหละ พึงรู้เถิดว่าจิตของตนยังไม่ออกจากบ่วงบาศอันแน่นเหนียวของอุปาทาน” ถ้าจะถูกก็ถือว่าแต่ละฝ่ายถูกด้วยกันทั้งนั้น จะถือเอาเพียงความคิดเห็นที่เพ่งกันคนละที คนละทัศนะนั้นไม่ได้ ย่อมจะเถียงกันตาย พุทธศาสนาอย่างเซ็น ไม่เพ่งเล็งจะเอาถูกผิด เอาดีกว่าหรือเลวกว่า คงจ้องแต่เรื่องจิต ว่าทุกๆขณะนั้นจะอยู่อย่างอิสระจากอุปทาน หรือถูกอะไรปรุงแต่ง

จึงขอจบลงณ.ประการฉะนี้..ขอให้ผนส.สามมีแต่ความเจริญ..สาธุ

ปล.วันพรุ่งอย่าลืมห่มจีวรสีน้ำเงินสบงในสีขาวผูกผ้าพันคอด้วยนะ..

สรุปการบรรยายเรื่อง ผู้นำในระบอบประชาธิปไตย โดย ดร.โคทม อารียา ในวันที่ 20 มีนาคม 2552

·       ผู้นำต้องสุจริตและเที่ยงธรรม

·       ผู้นำต้องให้ความสำคัญต่อส่วนรวม มีจิตให้บริการ

·       ผู้นำต้องใจกว้าง มีความคิดเชิงวิพากษ์

·       ผู้นำต้องพร้อมฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

·       ผู้นำต้องประนีประนอม ผ่อนปรน

·       ผู้นำต้องไม่ไว้วางใจอำนาจสัมบูรณ์

·       ผู้นำต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง

·       ผู้นำต้องใช้สันติวิธี

·       ผู้นำเป็นผู้รับใช้หมายถึงพยายามเข้าใจมนุษย์ในแบบที่เขาเป็น

·       ผู้นำต้องทำให้คนอื่นเก่งและมีความสามารถ

·       ผู้นำต้องมีวุฒิภาวะและต้องเสริมพลังให้ผู้อื่น มีความพอเพียง

·       ผู้นำต้องทำให้สำเร็จ

·       ผู้นำต้องคิดโดยนำผลลัพธ์มาเป็นตัวตั้ง ต้องมีการประสานหลายหน่วยงานมาร่วมทำงาน

ภาวะผู้นำคือเป็นผู้รับใช้ มีพรหมวิหาร 4

ภาวะผู้นำคือมีความคิดกว้างไกล แล้วไปถึง มีความคิดสร้างสรรค์

ภาวะผู้นำต้องมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง มีคุณธรรมอย่างแท้จริงไม่เสแสร้ง

ภาวะผู้นำคือจัดการบริหารองค์กรนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร สังคม ประเทศยั่งยืน

ภาวะผู้นำ คือมีวิสัยทัศน์มีอำนาจผลักดันให้คนอื่นทำตามอย่างเป็นระบบตรงเป้าหมายปรับเปลี่ยนให้ตรงกับสถานการณ์ของโลก

ภาวะผู้นำคือ มีความสามารถ กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ

ภาวะผู้นำคือ มีคุณธรรม มีความคิดสร้างสรรค์

สิ่งที่เหมือนกันของภาวะผู้นำ คือ สามารถนำพาองค์กรหรือผู้อื่นไปสู่ความสำเร็จ มีความรู้ สามารถโน้มน้าว กล้าตัดสินใจในสิ่งที่ถูก ทำให้ตรงเป้าหมาย

สรุปการบรรยายเรื่อง การสื่อสารกับการบริหารองค์กร โดย รศ.ดร.ยุบล เบญจรงค์กิจ ในวันที่ 20 มีนาคม 2552

·       ในองค์กรมีการสื่อสารหลายระดับ บางองค์กรมีหลายระดับ บางองค์กรมีความต่างระดับไม่มาก

·       การสื่อสารจากล่างขึ้นบน เช่น การรายงานผล ต้องใช้โทนการสื่อสารแบบระมัดระวัง

·       การสื่อสารจากบนลงล่าง เช่น คำสั่ง มีอำนาจ

·       บางทีมีการสื่อสารหลายระดับ

·       การสื่อสารแบบเป็นทางการ เช่น ทำจดหมาย ทำเอกสารแจก ทำ Newsletter (จดหมายข่าว)

·       ข้อดี คือ มีหลักฐานอ้างอิง

·       ข้อเสีย คือ ไม่ค่อยมีช่องทางสอบถามถ้าไม่เข้าใจ

·       ข้อเสนอแนะ

·       ควรมีช่องทางให้สอบถาม

·       ควรมีวิธีนำเสนอที่น่าสนใจ รูปไม่ควรมากเกินไป ตัวอักษรไม่ควรเล็กเกินไป

·       ควรมีการสื่อสารที่เพียงพอ

·       ควรมีการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการมาเสริมด้วย เช่น ผู้บริหารควรทักทายลูกน้องบ้าง

·       งานขององค์กรไม่สามารถทำคนเดียวได้ แต่ละส่วนต้องประสานกัน

·       ควรจะช่วยให้ลูกน้องสื่อสารกับเจ้านายได้ง่ายขึ้น

·       ควรจะสร้างขวัญและกำลังใจพนักงานเพราะนำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจ

·       ผู้บริหารควรเปิดโอกาสให้พูดคุย สื่อสารให้ทุกคนรับทราบเพื่อผลักดันองค์กรไปข้างหน้า ต้องมีการประชุม ใช้เอกสาร แล้วมีการติดตามผล

·       ผู้บริหารต้องเตรียมการที่ดี

·       อย่าให้ผลประโยชน์ขัดกัน ควรเน้นประโยชน์แก่องค์กรพร้อมกระจายประโยชน์ไปให้ทั่วถึง อาจมีการสลับให้แต่ละกลุ่มได้ทำงานแต่ละประเภท

วันนี้เป็นวันที่พวกเราชาวผนส๓มีความสุขกันพอสมควร หลังเลิกเรียนพี่ปัทมาของเราหลังจากหายไปจากหน้าจอไปนานพอสมควรจากกรุงปักกิ่งก็เริ่มเข้าสู่เกมส์ เริ่มด้วยคาราเกะเปิดอัลบัมปัทมา๒๕๕๒ _๕เพลงรวดไม่มีพักโฆษณา(มีแต่พักดื่มน้ำยาบำรุงเสียงตราช้างไลค์) หลังสองทุ่มเวทีนี้ก็ถูกยึดจาก๒นักเลงอิสานบิ๊กอู๊ดจากบ้านเขว้าและเสี่ยนกนมเวย์(นมโคขายหมดแล้ว)มีเฮียธนะคอยตรวจสอบกิจการอยู่ข้างๆ บรรยากาศสนุกสนานกันพอสมควร

พี่จิ๋น..ของเราก็หายหงุดหงิดแล้วจากบล็อกนิรนามเต้นรำอย่างสนุกสนานน้องอ๋ออ่างทองน้องวีบ้านไร่น้องติ๊กน้องต้อยพิมายน้องวรรณสุรินทร์ปล่อยเพลงกันเต็มที่จนนักดนตรีคีย์เพลงให้แทบไม่ทัน แต่ที่เซอร์ไพร์คือน้องเอ๋ เห็นเงียบๆ ธรรมดาพูดไม่ได้แต่วันนี้ปล่อยที่เดียว๓เพลงรวดร้องเพราะซะด้วยบิ๊กอู๊ดเลยต้องทิปตามระเบียบ ก็ถือได้ว่าเป็นบรรยากาศที่ของพวกเรา ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้เอ่ยนามเช่น พี่นัด โอบามา จากชุมพร ท่านรองนายกปฎิพล ท่านไกรฤกษ์ ท่านปรีชา อาจารณ์พิณ คุณหมอสู วันนี้ร้องเพลงได้ดีมากหลังจากไปซุ่มซ้อมบนเขาคิฎกูฎจันทบุรีมานาน..ก็แค่นี้ก่อนแล้วเจอกัน ..ฝันดี..ทุกคน... ราตรีสวัสดิ์

แจ้..

สรุปการบรรยายเรื่อง เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยและผลกระทบต่อสหกรณ์ โดย ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ ในวันที่ 21 มีนาคม 2552

·       ผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์และรู้และแก้ปัญหาได้ทันเวลา ต้องเห็นปัญหาและโอกาสก่อน

·       ผู้บริหารต้องรู้จักเห็นไกลจากอดีตถึงปัจจุบัน ปัจจุบันถึงอนาคต นำความเป็นมาบริหารความเป็นไป

·       วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ทำให้คนไทยงงเพราะไม่เคยสนใจ แต่เหตุการณ์นี้คล้ายวิกฤติเศรษฐกิจปี 1929 ในอเมริกา และในช่วงนั้นไทยก็ไม่มีเงินจ่ายข้าราชการเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ

·       ตอนนี้ไทยเกิด Recession เศรษฐกิจถดถอย แต่ยังไม่ตกต่ำ Depression

·       Recession เศรษฐกิจถดถอย เมื่อ GDP ติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาสขึ้นไป เหมือนเศรษฐกิจสหรัฐ ในไตรมาส 4 GDPไทย -4.%

·       สหกรณ์ควรซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย

·       ประเทศไทยมีทุนสำรองมาก แต่ปัญหาคือนำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาจำนวนมาก ถ้าราคาตกก็มีปัญหา เศรษฐกิจไทยจึงได้รับผลกระทบจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์

·       ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง ส่งออกลด นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง

·       การมีวิสัยทัศน์ทำให้เหนื่อยน้อยกว่าคนอื่น ทำให้เห็นทางออกง่ายกว่าเพราะมันมักจะช้ำรอย

·       กรุงศรีอยุธยาอยู่ได้ยาวเพราะเมืองขึ้นมีอาณาเขตไปถึงมะละกา และสิบสองปันนา ฝรั่งที่เข้ามาชาติแรกคือโปรตุเกส เข้ามาในสมัยพระนารายณ์ทำให้ขยายอาณาเขต แล้วก็มาขอเมืองมะละกา  เพราะค้นพบเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ และสนใจสินค้าคือใบชา ผ้าไหมและเครื่องเทศ ถือเป็นต้นกำเนิดการค้าระหว่างประเทศและทำให้วัฒนธรรมการกินของฝรั่งเจริญขึ้น เช่นทำไส้กรอกจากเศษเนื้อหมักกับเครื่องเทศ

·       นักบริหารควรเปลี่ยนของเหลือๆเป็นของที่ใช้ประโยชน์ได้ Value Added Management สหกรณ์ควรทำ Value Added Management การบริหารมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ ใส่ภูมิปัญญาทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ทำให้ตลาดมากและมีความต้องการมากขึ้น

·       การบริหารมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ เป็นการขยายแหล่งเงินทุน ต้องคิดถึงแหล่งที่มาของเงินทุน ประโยชน์ที่เกิดต่อองค์กร

·       ควรสร้างวิสัยทัศน์โดยเห็นก่อนและเห็นไกล

·       สร้างความสามารถในการเห็นก่อน

·       ต้องรู้เขารู้เรา บริหารข่าวสารข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ

·       อย่าลงทุนข่าวสารข้อมูลเกินตัวโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า เช่นติดตั้งคอมพิวเตอร์มากเกินความจำเป็น

·       อย่าลงทุนในสิ่งที่ล้าหลัง

·       บริหารนวัตกรรมเพราะนำไปสู่ประสิทธิภาพของทุกอย่าง นวัตกรรมคือสร้างให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิมมากๆ เช่นเปลี่ยนวิธีส่งสารจากใช้นกมาเป็นโทรเลขเป็นวิทยุ

·       สร้างความสามารถในเห็นไกล

·       อยุธยาเป็นราชธานียาวนานเพราะมีแม่น้ำ 3 สาย ทำให้คุมสินค้าได้ สมัยก่อนการค้าต้องทำโดยใช้เรือสำเภาซึ่งทำได้ปีละครั้ง ต้องทำให้ผลตอบแทนมาก จึงขายของแพง

·       ในเรื่องข้อมูลข่าวสารโบราณ ไทยไม่มีวัฒนธรรมการจดบันทึก แต่ดัชท์จดบันทึกประวัติศาสตร์ไทยไว้มากเพราะต้องค้าขายกับไทย

·       ดัชท์ก็ยังเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ มีบริษัทใหญ่ๆ เช่น Royal Dutch Shell, ฟิลิปส์ เพราะคนมีวิสัยทัศน์ เห็นโอกาสก่อน นำประสบการณ์อดีตมาวางแผนในปัจจุบันและอนาคต และกว้างคือเห็นภาพรวม

·       การมองกว้างคือเรียนรู้เศรษฐศาสตร์มหภาค ต้องดูตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น

·       GDP (Gross Domestic Product) คือ รายได้ที่เกิดบนแผ่นดินไทยไม่ว่าจากคนชาติใดก็ตาม

= การบริโภคภายในประเทศ (มีน้ำหนัก 60%) + การลงทุนภายในประเทศ+ การใช้จ่ายของรัฐบาล+ (การส่งออก-การนำเข้า)

·       เศรษฐกิจอเมริกาติดลบเพราะการบริโภคภายในประเทศมีน้ำหนัก 70% และเศรษฐกิจอเมริกาถือเป็น 30% ของโลกทำให้กระทบการส่งออกของทุกประเทศไปยังอเมริกา

·       เศรษฐกิจไทยถือว่ายังเข้มแข็งเพราะ

·       ธนาคารยังดูแลตัวเองได้อยู่

·       การว่างงานไทยยังไม่รุนแรงมาก ไทยให้แรง

      งานประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 3 ล้านคนกลับ

      บ้าน ไทยมีคนวัยทำงานมี 55% ของประชากร

      เท่ากับ 35 ล้านคน ทำให้ลดความรุนแรง

      ปัญหาการว่างงานลง

·       การลงทุนภายในประเทศ ไม่มีมากขึ้น

·       การใช้จ่ายของรัฐบาลมีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ วางโครง

      สร้างพื้นฐาน รัฐบาลควรมีจูงใจให้เอกชนลงทุน แต่

      ของไทยยังเป็นปัญหา

·       การส่งออกต้องมากกว่านำเข้าจึงจะช่วยเศรษฐกิจได้

·       ประโยชน์ในการเห็นกว้างและเห็นไกลคือทำให้วางแผนลึกลงไปในองค์กรของเรา เช่นด้านผลิต ตลาด การเงิน

 

สนใจอ่าน Future Files: The 5 Trends That Will Shape the Next 50 Years

โปรดคลิก

http://www.amazon.com/Future-Files-Trends-Shape-Years/dp/1857885147#

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับทำรายงาน

www.NCSchina.com.cn

สรุปการบรรยายเรื่อง การบริหารการเปลี่ยนแปลง โดย อาจารย์ประยูร วงค์เล็ก ในวันที่ 21 มีนาคม 2552 

·       การบริหารจัดการเป็นสิ่งที่ต้องสะสม

·       จีอีเป็นบริษัทใหญ่ มี Jack Welch เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เขาคิดว่า ควรเปลี่ยนแปลงก่อนมีใครบังคับให้เราเปลี่ยน ต้องควบคุมชะตาเรา ไม่มีอะไรในโลกนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ต้องรู้จักปรับตัวเข้าหามัน องค์กรที่ยิ่งใหญ่ต่างๆล้วนแต่เปลี่ยนแปลง แต่ละบริษัทมีผู้นำที่สร้างตำนานยิ่งใหญ่ให้กับบริษัท

·       ไอน์สไตน์สอนไว้ว่า คนที่คิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิมแต่หวังผลที่ดีกว่าคือคนบ้า

·       ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารแรกที่ให้คุณกรรณิการ์ที่ไม่มีพื้นฐานทางธนาคารมาเป็นผู้บริหาร

·       โนเกียเคยทำป่าไม้แล้วมาทำโทรศัพท์

·       เจสเนอร์เปลี่ยนไอบีเอ็มจาก Mainframe เป็น Service solution

·       การเปลี่ยนแปลงทำให้เติบโต

·       แต่คนไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเพราะ

·       ติดกับ comfort zone ความสบายที่อยู่ที่เดิม

·       มีแผนที่ในสมองกีดกั้น จะเดินไปตามที่ตนต้องการ

·       ถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้องและทำได้ดีแล้วจึงไม่อยากเปลี่ยน

·       คนแบ่งตามพฤติกรรมเป็น 4 แบบ คือ

·       Compliance ทำงานถูกต้องแม่นยำ ยึดกฎระเบียบ คิดมาก ขอข้อมูลก่อนการเปลี่ยนแปลง เช่น ญี่ปุ่น

·       Dominance คิดใหม่ทำใหม่ กล้าตัดสินใจ มุ่งมั่น ชอบการเปลี่ยนแปลงโดยกำหนดเป้าหมายชัดเจน เช่น สิงคโปร์ อเมริกา

·       Steadiness ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เช่น ไทย จีน

·       Influence คิดสร้างสรรค์ ชอบการเปลี่ยนแปลงแต่ไม่มีแบบแผน เช่น อังกฤษ อินเดีย

·       ไม่ใช่ว่าทุกคนชอบการเปลี่ยนแปลง

·       ไม่มีแบบใดที่ดีที่สุด

·       จากวิจัย คนไทยเป็น Steadiness มาก และเป็น Dominance น้อย จึงเปลี่ยนแปลงยาก ต้องกลับไปแก้ที่ระบบการศึกษา

·       คนไม่กลัวการเปลี่ยนแปลงแต่กลัวผลกระทบ การเปลี่ยนแปลงเป็นที่มาของการต่อต้าน

·       จัดการการต่อต้านได้โดย Change by Design ออกแบบให้เหมาะสมบุคคลและกาลเทศะโดย

·       มีผู้นำที่เข้าใจและมุ่งมั่นต่อการเปลี่ยนแปลง

·       ต้องเปลี่ยนคนก่อนเปลี่ยนองค์กร

·       ต้องสร้างแนวร่วมและเครือข่าย

·       ต้องมีการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ดี มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ

·       จากวิจัย พบว่า ผู้นำต้องมี passion เรื่อง

·       ลูกค้า

·       คุณภาพ

·       ต้นทุน

·       คน สำคัญมากที่สุด

·       ไอที

·       ฟอร์ดมีความเชื่อเรื่องคน และกล่าวว่า แม้โรงงานจะถูกทำลาย แต่ก็สามารถกอบกู้ธุรกิจได้โดยคน

·       ถ้าอยากให้องค์กรเชื่อในเรา ก็ต้องสร้างตนเองให้เก่งและดี

·       จากวิจัย คนเราพยายามไม่ถึงหนึ่งครั้งเพื่อไปถึงเป้าหมายชีวิต

·       ทำงานด้วยหัวและหัวใจ

·       ทดลองหลายสิ่งแต่เก็บสิ่งที่ใช้ได้จริงๆไว้

·       ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนความคิดก่อน

·       จากการวิจัย 80% ของบริษัทระบุว่า ผู้นำต้องมีทักษะการบริหารการเปลี่ยนแปลง

·       จาก Good to Great ผู้นำสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ต้อง

·       เปลี่ยนคนก่อน ศรัทธาแต่คนเก่งและดี

·       พร้อมรับฟังความจริง

·       มีวินัย

·       เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว

·       เปลี่ยนคนก่อนเปลี่ยนระบบ

·       ต้องทำลายกำแพงให้เห็นความสำคัญในการเปลี่ยนแปลง

·       หาแนวร่วมคือ ผู้มีอำนาจตัดสินใจ คนที่องค์กรศรัทธาสามารถโน้มน้าวคนอื่นได้ คนในหน่วยงานช่วยให้การเปลี่ยนแปลงไปด้วยดี บุคลากรที่ต้องปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง

·       ต้องทราบความเปลี่ยนแปลงที่มาจากภายนอกและภายในองค์กร

·       หัวหน้าต้องทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงกับลูกน้อง โดยตอบคำถามต่อไปนี้ได้

·       ที่มา วัตถุประสงค์การเปลี่ยนแปลง

·       ผลลัพธ์และเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง

·       ประเมินวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างสภาพปัจจุบันกับอนาคต

·       ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง

·       ผู้นำต้องเป็น Dominance และรู้ Change by Design

·       ต้องฝึกทักษะใหม่ๆให้คน

·       ให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง

·       องค์กรที่ประสบความสำเร็จด้านการเปลี่ยนแปลงมีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของตนเอง

·       ในการเปลี่ยนแปลง ผู้นำที่ดีต้องสร้างขวัญกำลังใจให้ลูกน้อง

·       ท่ามกลางวิกฤติ ก็มีโอกาส เราควรดูแลชะตากรรมให้ดี ก่อนที่คนอื่นจะมาดูแลชะตากรรมให้

·       อยากให้โชคดีมาเยือนคุณ คุณต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและตัวคุณเอง

 

 

Workshop

ยกตัวอย่างองค์กรที่เปลี่ยนแปลงจนเป็นที่กล่าวขวัญถึง

เบียร์ช้าง เปลี่ยนแปลงวิถีดำเนินการธุรกิจ

แอ๊ด คาราบาว เปลี่ยนไปทำเครื่องดื่มชูกำลัง

ซีพีเปลี่ยนกลยุทธ์ทำธุรกิจตลอด

National แตกออกมาเป็น Panasonic

เปโตรนาส ขยายมาไทยแล้วไปทั่วโลก

เปลี่ยนระบบการปกครองและนายกรัฐมนตรี

ทักษิณเป็นจากนักธุรกิจมาเป็นนักการเมือง

เรียน  อาจารย์ผุ้บริหารโครงการ และผนส 3  ทุกคน

        จากการอบรมครั้งที่ผ่านมาได้รับความรู้มากมายทั้งจากอาจารย์และผู้เข้ารับการอบรมด้วยกัน ที่สำคัญจาก ดร.โคทม อารียา ในวันที่ 20 มีนาคม 2552 เรื่องประชาธิปไตยกับงานสหกรณ์หรือกับการเมือง และที่สำคัญท่านได้พูดเรื่องผู้นำต้องสุจริตและเที่ยงธรรม/ผู้นำต้องให้ความสำคัญต่อส่วนรวม มีจิตให้บริการ/ผู้นำต้องใจกว้าง มีความคิดเชิงวิพากษ์/ผู้นำต้องพร้อมฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น/ผู้นำต้องประนีประนอม ผ่อนปรน ซึ่งมาประยุกต์ใช้กับงานสหกรณ์ได้เป็นอย่างดี
      สำหรับเรื่องเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยและผลกระทบต่อสหกรณ์ โดย ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ และเรื่อง การบริหารการเปลี่ยนแปลง โดย อาจารย์ประยูร วงค์เล็ก ทุกเรื่องมีประโยชน์และน่าสนใจทั้งสิ้น    
    และที่สำคัญอย่าลืมเรื่องโครงการ ซึ่งครั้งต่อไปต้องส่งต้นฉบับและ PowerPoint การนำเสนอ
    เรื่องโครงการอบรมสัมนาใหญ่วันที่ 24 เมษายน ก็ต้องช่วยกันให้งานนี้สำเร็จให้ได้ แต่ผมว่าน่าจะไม่ยาก เพราะผนส 3 ทุกคนทำได้อยู่แล้ว
     และที่สำคัญสุดๆอาทิตย์นี้ต้องขอขอบคุณ บัดดี้ ที่มีจดหมายถึง และมีขนมฝากให้คนที่บ้านด้วย สำหรับบัดดี้ผมไม่ต้องเป็นหว่งผมแอบช่วยเหลืออยู่ไม่อยากออกหน้าเยอะ ความจริงอยากช่วยให้มากกว่านั้นแต่เพื่อมารยาท ตามที่ตกลงไว้ 
    สำหรับวันนี้ไว้แค่นี้ก่อน  สวัสดีทุกคน

  

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

*ผู้นำในระบอบประชาธิปไตย (โดย ดร.โคทม อารียา) ผ

- มีอุดมการณ์

- มีเมตตาธรรม

- มีความยุติธรรม

- มีจิตสาธารณะ

*การสื่อสารกับการบริหารองค์กร ( โดย รศ.ดร.ยุบล เบญจรงค์กิจ)

- การสร้างบรรยากาศในองค์กร

- การสร้างวัฒนธรรมในองค์กร

- การสร้างทัศนคติต่องานและคนในองค์กร

- การสร้างขวัญกำลังใจและแรงจูงในในการทำงาน

*เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย และผลกระทบต่อการทำงานของสหกรณ์ (โดย รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์)

- ต่างประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินก้อนโต เช่น สหรัฐอเมริกา ทุ่มเงิน๗๘๗,๐๐๐ ล้านดอลล่าร์ โดยลดภาษี การลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ

- ประเทศไทย รัฐบาลออก ๒๕ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นกระตุ้นการบริโภค ลดภาษี ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานบ้างเล็กน้อย

- สหกรณ์ เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส เปลี่ยนแปลงองค์กรและการทำธุรกิจ เน้นการบริหารความเสี่ยง

*การบริหารการเปลี่ยนแปลง (โดย อ.ประยูร วงค์เล็ก)

- องค์ประกอบของการบริหารการเปลี่ยนแปลง

๑.ภาวะผู้นำ/ผู้บริหารระดับสูง

๒.การวางแผนและการกำกับดูแล

๓.การปรับปรุงและพัฒนาองค์ประกอบขององค์กร

๔.การมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง

หายจากหน้าจอไปนานถึงเมืองไทยวันนี้ก็คิดถึงพวกเราชาวผนส๓ดูแล้วมีความสุขกับการเรียนการเลี้ยง

พอสมควร หลังเลิกเรียนดูจะมีความสุขมากๆ อิดฉาจัง

สวัสดีครับ เพื่อนๆผนส.3

วันนี้ผมได้เดินทางไปอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไปดูปาล์มน้ำมันที่สหกรณ์ได้ไปส่งเสริมและเชื่อมโยงเครือข่ายกับสหกรณ์การเกษตรแม่สอด จำกัด ได้นำนักวิชาการปาล์มน้ำมันและกรรมการบริหารไป ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาปาล์มน้ำมัน และให้ความรู้ด้านการตลาด เพราะผลผลิตเริ่มออกแล้ว และไปแนะนำเรื่อง การสร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก และโรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ให้สมาชิกสหกรณ์ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล จำหน่ายในอำเภอ แทนที่จะนำผลปาล์มสดไปจำหน่ายที่จังหวัดชลบุรี หรือจังหวัดชุมพร

เป็นอย่างไรบ้างเพื่อนๆ สบายดีหรือเปล่า วันที่ 24 เมษายน 52 นี้เราจะจบหลักสูตรกันแล้วนะ เวลามันช่างรวดเร็วเสียจริง ๆ ต้องขอขอบคุณพี่ๆที่นำของมาฝาก ก็คือ คุณอ้อย คุณทนงศักดิ์ (น้ำยาล้างจาน) และพี่สกก.ปราสาท(เครือวัลย์)ชื่อเดิม ที่ข้าวกล้องสูญญากาศมาฝาก

สวัสดีครับ

วิธีชะลอความแก่ 7 ประการ

เรื่องความชราที่มาเยือนนั้นเป็นไปตามวัยก็จริง

แต่หนุ่มสาวสมัยนี้กลับ 'แก่ก่อนวัย'

ถึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า 'ทุกอย่างนั้นอยู่ที่ใจ'

เคล็ดลับเหล่านี้ได้จาก น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์

สูตินารีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

๑.ต้องไม่อยากแก่...

ต้องตั้งใจคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวเอาไว้

และต้องปฏิบัติควบคู่ไปทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ

๒.มีใจเป็นหนุ่มสาว...

คือ รักอิสระ มองโลกในแง่ดีและที่สำคัญมีความหวังเสมอ

หรือการคบเพื่อนที่อายุน้อยกว่าก็เป็นวิธีการที่ดี

๓.ลดความเครียด..

เลิกเอาคิ้วผูกโบได้แล้ว ลองยิ้มให้มากขึ้น

ถ้าไม่รู้จะยิ้มอย่างไรก็ลองยิ้มกับกระจกเงาที่บ้านดูสิ

๔.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ..

ออกกำลังการอย่างน้อย 15 นาทีจะดี

๕.กินอาหารต้านชรา..

พยายามเลือกอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย

เช่น พืชผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

๖.นอนหลับเพียงพอ..

เราควรจะนอนให้เพียงพอกับร่างกาย

ที่ดีที่สุดควรนอนก่อนสี่ทุ่มจะดีที่สุด

๗.ความรัก..

ความรักเท่านั้นที่จะช่วยให้คนสดชื่น กระชุ่มกระชวย

ทั้งความรักของคนหรือสัตว์ ก็จะช่วยให้เราหัวใจเบิกบาน

"มะรุม" เป็นผักพื้นบ้านของไทยที่ปู่ย่าตายายคนไทยเรารู้จักกันมานานแล้ว แต่เด็กรุ่นใหม่หรือคนที่ไม่ค่อยได้เดินตลาดอาจจะไม่รู้จักดีนัก แต่วันนี้กระแสของ "มะรุม" กำลังมาแรง เพราะมีการวิจัยและทดลองคุณสมบัติในการรักษาโรคของมะรุมกันอย่างกว้างขวาง และพบว่าผักพื้นบ้านของเรานั้นมีประโยชน์มากมายเหลือเกิน

ส่วนของมะรุมที่เรามักนำมากินกันนั้นก็มีทั้งใบ ดอก และฝัก แต่ที่มีประโยชน์มากนั้นก็คงจะเป็นใบหรือยอดมะรุม โดยในใบมะรุม 100 กรัมนั้น มีโปรตีนสูงกว่านมถึง 2 เท่า มีวิตามินเอ 3เท่าของแครอท มีวิตามินซีสูง 7เท่าของส้ม มีแคลเซียม 3เท่าของนม และแร่ธาตุโพแทสเซียม 3เท่าของกล้วย มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก และใบสดยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ อีกด้วย และพบว่าใบมะรุมช่วยขับคอเลสเตอรอลออกมากับอุจจาระเพิ่มขึ้น จึงเชื่อได้ว่าการกินมะรุมมีผลลดไขมันในร่างกาย

ส่วนในฝักมะรุมที่เรามักนำมาประกอบอาหารนั้นก็มีฤทธิ์แก้ไข้หรือลดไข้ได้ และยังมีกากใยสูง ช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ดีอีกด้วย จึงนับว่ามะรุมนี้ เป็นผักพื้นบ้านที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

สำนักแห่งความสุขขอประกาศรายชื่อสมุนไพรอันตราย 13

ชนิดที่มีต่อชีวิตการทำงานดังนี้คือ :

1 ขิง / ข่า

ขิง(ก็รา) ข่า(ก็แรง) เป็นอันตรายต่อชีวิตการทำงานอย่างยิ่ง

บางครั้งเป็นการกระทบกระทั่งด้วย

เรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อไม่ยอมกันคนละก้าว ก็เสียทั้งงานและภาพพจน์ขององค์กร

ทางแก้ : การทำงานในสำนักงานไม่ว่าองค์กรราชการหรือเอกชนเป็นการรวมคนจากที่ต่างๆ

เข้าด้วย

กัน จึงเป็นเรื่องปกติที่มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน

รู้จักยอมกันบ้าง ทำนอง 'แพ้เป็น

พระ ชนะเป็นมาร' นอกจากจะได้ไม่เสียสุขภาพจิตแล้ว ยังได้ประสิทธิภาพของงานสูง

2 ขมิ้น (กับปูน)

ไม่ชอบเพื่อน ไม่ชอบเจ้านาย ไม่ชอบหน้าลูกค้า ไม่ชอบงานที่ทำ

ไม่ชอบทุกอย่างในชีวิต!

ทางแก้ : ปรับเปลี่ยนทัศนคติมองผู้อื่นในด้านดี

หรืออย่างน้อยก็ตามความเป็นจริง มองลูกค้าว่าเป็นผู้ที่

ทำให้เราเลี้ยงครอบครัวได้ เพราะการทำงานโดยมีทัศนคติไม่ดียากจะก้าวหน้า

และที่แย่ที่สุดคือผ่าน

ชีวิตทำงานแต่ละวันอย่างทรมาน

3 มะนาว (ไม่มีน้ำ)

พูดไม่ดี พูดมากไป พูดไม่ไพเราะ พูดแต่เรื่องร้ายๆ

เหล่านี้เป็นอันตรายต่อองค์กรอย่างยิ่ง นอกจากจะ

ขัดใจกันในองค์กรแล้ว ยังอาจทำให้ลูกค้าหนีหายก็ได้

ทางแก้ : พูดน้อยหน่อย ทำงานมากหน่อย มองด้านดีของคนอื่นบ้าง

4 จิก

เจ้านายประเภทที่ใช้คนไม่เลือกเวลา ชอบบรี๊ฟงานห้านาทีก่อนเลิกงาน

โทร.ตามจิกลูกน้องห้านาทีก่อน

เที่ยงคืนและในวันหยุดเป็นประจำ

ทางแก้ : การทำงานที่ดีอยู่ที่การวางแผน และรักษาสมดุลของงานกับครอบครัว

ลูกน้องที่พักผ่อนพอ

เพียงและมีชีวิตครอบครัวที่ดี

ย่อมทำงานได้ประสิทธิภาพกว่าคนที่ทำงานใต้สภาวะของการจิก การทำ

งานชั่วโมงยาวนานมิได้หมายถึงประสิทธิภาพและคุณภาพเสมอไป

5 ว่านหางจระเข้ (ฟาดหาง)

เจอเรื่องไม่ดีที่บ้านก็นำมาฟาดหาง (จระเข้) กับเพื่อนหรือลูกน้อง

หรือทั้งเพื่อนและลูกน้อง

ทางแก้ : แยกแยะงานกับเรื่องส่วนตัว งานส่วนงาน

ไม่นำเรื่องส่วนตัวมาปนกับงาน เพราะทุกคนก็

ประสบเรื่องไม่ดีทั้งนั้น แก้ปัญหาเรื่องส่วนตัวโดยวิธีการอื่น

เช่นปรึกษาเพื่อนฝูง เป็นต้น

6 (เย็น)ชา

เย็นชากับลูกค้า ลูกค้าหลุดได้ เย็นชากับลูกน้อง ลูกน้องก็หนี

เย็นชากับเจ้านาย ก็อาจตกงาน!

ทางแก้ : รักษาน้ำใจเพื่อนๆ ในที่ทำงาน

จะทำให้หลายสิบชั่วโมงต่อสัปดาห์ในที่ทำงานเป็นสวรรค์ ไม่

ใช่นรก

7 สีเสียด

ใช้วาจาเสียดสี เหยียดหยาม กระแทกกระทั้นคนรอบตัวเพื่อความสะใจ

ต่อหน้าลูกค้าเอ่ย "ครับๆ ค่ะๆ

" ลับหลังลูกค้าด่าว่าโง่ ฯลฯ

ทางแก้ : การใช้คำพูดในเชิงลบไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น

ตรงกันข้ามจะทำให้ผู้พูดลดคุณค่าและ

ความน่าเชื่อถือลง ลองมองด้านดีของคนอื่นบ้าง

8 กระทืบยอด

เป็นยอดในการย่ำคนอื่น เป็นเยี่ยมในการไต่ขึ้นที่สูงโดยเหยียบหัวเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ

ทางแก้ : ไต่ขึ้นที่สูงไปตามพัฒนาการของตนเอง จะเป็นฐานที่แข็งแรงที่สุด

9 มะขวิด

ไล่ขวิดคนไปทั่ว ยุ่งเรื่องชาวบ้านโดยไม่ทำงานของตัวเอง

ทางแก้ : กลับไปทำงาน! เพราะเวลาวัดผลงานในตอนท้าย

ไม่ได้วัดกันที่ความคมของเขี้ยว เขา

หรืองา

10 ยอ

ยกยอเจ้านายตลอดเวลา เสนอหน้าหลังเวลางาน

ทางแก้ : ความก้าวหน้าจากการประจบเอาใจผู้ใหญ่ไม่ใช่รากฐานที่มั่นคงของชีวิตการทำงานในระยะ

ยาว

11 แมงลัก

ขโมยไอเดียของคนอื่น แล้วยกว่าเป็นของตัวเอง

ทางแก้ : พัฒนาตนเองตลอดเวลา เรียนรู้จากความคิดของผู้อื่น

แล้วนำไปแตกหน่อต่อยอด เป็นการ

เพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง

12 รางจืด

ใช้ชีวิตทำงานแบบจืดสนิท ทำงานแบบกางตำรา

ไม่เริ่มงานเด็ดขาดแม้เข็มนาฬิกาอยู่ก่อนเวลาเริ่มงาน

1.025 วินาที พนักงานไม่เคยไปสังสรรค์ด้วยกัน ฯลฯ

ทางแก้ : เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตทำงานบ้าง แล้วอาจพบว่า

การทำงานก็เป็นเรื่องสนุกได้

13 กระบือเจ็ดตัว

พอใจในความรู้ความสามารถที่ตนมีอยู่ไม่ว่ามันจะจำกัดเพียงใด

ไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

ทางแก้ : ความรู้หรือเทคโนโลยีที่เรียนมาเมื่อ 10-20

ปีก่อนอาจแก้ปัญหารูปแบบใหม่ๆ ในปัจจุบันไม่

ได้ โลกเปลี่ยนไปนาทีต่อนาที คนทำงานต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทัน

ต้องศึกษาเพิ่ม อาจเป็นการเรียน

วิชาที่เพิ่งเกิดใหม่ สัมมนาทางวิชาการ ศึกษาภาคค่ำ

แทนที่จะหาประสบการณ์จากการกินเหล้าและเข้า

ผับอย่างเดียว

ขออำนวยพรให้ทุกท่านทำงานอย่างมีความสุข!

วินทร์ เลียววาริณ

21 กุมภาพันธ์ 2552

ได้อ่านบทความเรื่อง “”What is the Future of Cooperative Business ? ” จาก http://historians.org/Projects/GIRoundtable/Coops/Coops11.htm และได้สรุปให้เพื่อน ผนส.3 ได้ความว่า

ธุรกิจสหกรณ์ดำเนินการได้ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีความเข้มแข็งเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรในด้านการตลาด ปัญหาการซื้อปัจจัยการผลิต และการให้บริการพิเศษ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจสหกรณ์ในสหรัฐยังประสบความสำเร็จน้อยโดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ๆ ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าที่ขายสินค้าในราคาถูก

ในภาวะเศรษฐกิจปกติ พบว่า สหกรณ์เติบโตเป็นไปอย่างช้าๆ แต่เมื่อเกิดภาวะวิฤตเช่นปัจจุบัน ปรากฏว่า ธุรกิจของสหกรณ์ต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรง ผลที่เกิดขึ้น คือ การมีกำไรไม่มากนัก แต่ให้บริการที่ดีแก่ผู้บริโภค ทำให้พัฒนาสหกรณ์ทำได้ไม่มากนัก จะเห็นได้ว่า หากสหกรณ์มีกำไรเพิ่มขึ้น จะมีโอกาสสนับสนุนเรื่องการขยายธุรกิจของสหกรณ์เป็นอย่างดี

ดังนั้น การที่สหกรณ์จะขยายการเติบโตต่อไปในอนาคต จึงขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของสหกรณ์เป็นสำคัญ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ การที่สหกรณ์มีสินค้าดีกว่า ราคาถูกกว่า และให้บริการเพื่อให้เกิดความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการเหนือกว่าคู่แข่งได้ เพื่อให้คนใช้บริการธุรกิจของสหกรณ์ได้นั้น ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการที่ดีของสหกรณ์ และสมาชิกของสหกรณ์มีความเข้าใจและเห็นพ้อง (Sympathetic) ในเรื่องวิถีทางของสหกรณ์ (Cooperative Way)

ที่ผ่านมา พบว่า ธุรกิจของสหกรณ์ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องการเสียเปรียบโดยเฉพาะเรื่องการขาดเงินทุน เพราะในปัจจุบันทุกสหกรณ์มีภาวะผู้นำที่ดี และมีการพัฒนาบุคลากร เช่นเดียวกับธุรกิจภาคเอกชน เนื่องจาก การบริหารธุรกิจของสหกรณ์มีประสิทธิภาพมากเท่าใด ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า สมาชิกมีความเข้าใจในธุรกิจของสหกรณ์มากเท่านั้น

ดังนั้น สหกรณ์ในอนาคตจึงต้องสร้างการเชื่อมโยงกัน อาทิ การตลาดของสหกรณ์ต้องทำทั้งระบบค้าส่ง และค้าปลีก รวมทั้งเชื่องโยงธุรกิจซื้อในรูปของค้าส่งค้าปลีก และทั้งระบบสหกรณ์ ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการประหยัดจากการทำตลาดค้าส่ง และการขนส่งผ่านกระบวนการของสหกรณ์ ทั้งนี้ การประหยัดที่เกิดจากการเชื่อมโยงกัน จะทำให้สมาชิกได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วย

สหรัฐฯคาดหวังว่า จะได้เห็นรูปแบบการดำเนินงานของสหกรณ์ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความท้าทายเรื่องความได้เปรียบอย่างมั่นคง (A Healthy Competitive Challenge) ที่มีต่อคู่แข่ง และหุ้นส่วนในระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเช่นสหรัฐฯ

จากบทความดังกล่าว จึงสรุปได้ว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการทำธุรกิจของสหกรณ์ในอนาคต ขึ้นอยู่กับ การมีภาวะผู้นำที่ดีของสหกรณ์ การมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสมาชิก (Member Economic Participation) การศึกษา การฝึกอบรมแก่สมาชิก และการร่วมมือระหว่างสหกรณ์ (Cooperation among Cooperatives) ซึ่งสอดคล้องกับคุณค่าของสหกรณ์ (Cooperative Values) ของไทย

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

ในช่วงนี้ เพื่อนพ้องน้องพี่..ชาวสหกรณ์ภาคการเกษตร ที่มีปีบัญชีสิ้นสุด ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ นี้ คงสาระวลและสาระวัน...เตี้ยลง อยู่กับการติดตามเร่งรัดลูกหนี้เงินกู้ และลูกหนี้ค่าสินค้า เพื่อให้เปอร์เซ็นต์การชำระดี ๆ หนี้ค้างเหลือน้อย ๆ เป้าหมายคือ กำไร กำไร อ้าว...ลุ้นก่อนหน่อย อ้าว..เชียร์กันหน่อย ครับ วันที่ ๓-๔ เมษายน ชาว ผนส.๓ อย่าลืมงานนำเสนอ Power point ส่งท่านอาจารย์ยม สำหรับผมก็กำลังเช่นกัน แต่ต้องทำในช่วงตอนเย็น ๆ เพราะในช่วงเช้างานเข้าเยอะมาก ทั้งงานบริการ ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาแก่สมาชิก ตอบคำถามและให้คำแนะนำสหกรณ์การเกษตรที่มีปัญหาเกี่ยวกับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.) ซึ่งวันที่ ๒๗ เมษายน ๕๒ เวลา ๑๓.๐๐ น.ผมต้องเข้าประชุมคณะกรรมการจัดการหนี้ของ กฟก.เพื่อพิจารณารายชื่อและตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิกกองทุน ฯ ในการจัดการหนี้ ตาม พรบ.กองทุน ฯ โดยสหกรณ์การเกษตรส่วนหนึ่งประสงค์โอนหนี้ NPLของสมาชิกสหกรณ์ไปอยู่ที่ กฟก. ให้ทันก่อน ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ คุณกุ้ง แห่งแท๊กซี่สยาม หนังสือเชิญเข้าร่วมการสัมมนา ส่งให้ ผนส.๓และสหกรณ์อื่นหรือยัง หากส่งถึงสหกรณ์เร็วก็จะได้ประสานสหกรณ์อื่น ๆ ให้วางแผนเดินทางล่วงหน้า เพราะในวันที่ ๒๓ เมษายน ๕๒ สหกรณ์ผู้ถือหุ้นบริษัท สหประกันชีวิต จก.จะไปประชุมใหญ่บริษัทฯ ณ สก.เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จก.

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

สมาชิก ผู้นำรุ่น 3 ที่รัก

-          ผมชื่นชม Blog มาก และการแสดงออกใน Blog มีคุณภาพมาก

-          ผมไม่ได้ไปเมืองจีนด้วย แต่กลุ่ม 3 เก่ง ทำ Paradigm Shift คือ ไปจนได้ และได้บรรยากาศที่ดี

-          อยากรู้ว่า รุ่น 4 จะไปไหน เราเหลือเวลาไม่มาก วันที่ 4 เม.ย. ผมจะขอเวลา 08.30-09.00 น. พูดถึง Public Seminar และคุยกันเรื่องผู้นำ

-          พูดถึง ผู้นำ ลูกศิษย์รุ่น 3 เชิญผมไปพูดให้สหกรณ์บริการเดินรถ น่าสนใจมาก

-          อ่าน Blog ของสหกรณ์บริการเดินรถด้วย น่าสนใจมาก

-          ลูกศิษย์จากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้พบผมที่ งานวันสถาปนา 53 ปีของกรมฯ

-          ท่านอื่นๆ จะให้ผมไปทำอะไรก็บอก ยินดีครับ เอาเป็นว่า ทฤษฎี ตัว V ป่านนี้ท่านคงเข้าใจแล้ว

-          ขอบคุณประธาน ที่ทำงานอย่างเข้มแข็ง

จีระ หงส์ลดารมภ์

ตอนนี้ยังยุ่งเรื่องโครงการสัมมนาใหญ่อยู่เลยค่ะ หนังสือเชิญ กำหนดการ และตัวโครงการยังไม่เรียบร้อยดี แต่รับรองว่าอาทิตย์หน้าต้องได้ส่งแน่นอนค่ะ น้องเอ๋.พี่ขออีเมลล์ด้วยนะคะ จะส่งโครงการไปให้ค่ะ

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ผนส ๓

เอาใจช่วยคุณทนงศักดิ์ด้วยคนนะ รวมทั้งสหกรณ์การเกษตรอื่น ๆ ด้วยนะจ๊ะ

พี่ก็มีแต่งานประชุมเหมือนกัน สหกรณ์เรามีการคุมต้นทุนสินค้า ภาครัฐเราก็มีการคุมต้นทุนเหมือนกันไม่ใช่มีแต่ใช้เงินงบประมาณเพียงอยางเดียวเท่านั้น ช่วงนี้ก็เลยต้องเก็บข้อมูลในการคำนวณต้นทุนต่อหน่วยของแต่ละกิจกรรมด้วย ทำให้ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเยี่ยมชม blog รวมทั้ง power point โครงการก็ยังไม่ได้ทำเลย แต่ยังไงก็ต้องทำให้ทันส่งภายในสัปดาห์ที่ไปเรียนแน่นอน คิดถึงทุกคนนะคะ

กำนันบ้านนอก ไปต่างประเทศมีอะไรมาฝากหรือเปล่า

สวัสดีครับ ผนส.3และผู้อ่านทุกท่าน

วันนี้วันหยุดได้เข้ามาอ่านบล๊อค ย้อนหลัง และทำการบ้านยังค้างpowerpointโครงการของ อ.ยม อยู่จะส่งในวันที่ 3 มี.ค.52 ครับ ที่สำนักงานของผมก็ไม่ค่อยว่าง มีแต่งานประชุมทุกวัน เพราะเป็นสหกรณ์ที่กำลังพัฒนา สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด จ.ชุมพร มี1สำนักงานใหญ่ และสำนักงานสาขาอีก 3 สาขา มีจำนวนสมาชิก 2,700 คน มีเจ้าหน้าที่และลูกจ้างจำนวน 52 คน มีธุรกิจสินเชื่อ,ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย,ธุรกิจรวบรวมผลผลิต(ปาล์มน้ำมันและยางพารา),ธุรกิจส่งเสริมการเกษตรและบริการ และธุรกิจรับฝากเงิน วันทำการ สัปดาห์ละ 6 วัน(จันทร์ถึงเสาร์)แต่เจ้าหน้าที่และลูกจ้างหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันหยุดในสัปดาห์เพื่อบริการสมาชิกได้ตลอดทั้ง 7 วัน วันนี้ขอฝากเรื่อง หัวใจงานบริการ นั้นมี 5 ไม่ (1)ไม่ยักท่า (2)ไม่หน้างอ (3)ไม่ให้รอนาน (4)ไม่อ้างงานมาก (5)ไม่ปากเสีย สวัสดีครับ!

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

ผมได้อ่าน Blog ของสหกรณ์บริการเดินรถ แล้วครับ คุณเยาวลักษณ์ กิจกังวาล สรุปไว้ดีมาก และน่าสนใจ ประเด็นที่ตรงใจกับผม คือ การพัฒนาการให้บริการของคนขับแท๊กซี่ เช่น การแต่งตัว มารยาท ความปลอดภัย ฯลฯ และการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ทำหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์จริง ๆ เน้น ให้การศึกษาอบรมสมาชิก การปลูกจิตสำนึก ตามหลักการและอุดมการณ์สหกรณ์ ไม่ใช่"กรมสหกรณ์ส่งเสริม"(ผมว่าเองนะ..)

ในวันที่ ๒๗ มีนาคม ผมไปประชุมคณะกรรมการจัดการหนี้ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มีเรื่องพิจารณาที่สำคัญดังนี้ ๑. การซื้อทรัพย์จากเจ้าหนี้หรือบุคคลภายนอกซื้อทรัพย์ไว้ / สมาชิก กฟก.ผ่านการอนุมัติให้ซื้อหนี้(NPA)จำนวน ๑.๑๘๗ ราย ยังไม่สามารถซื้อทรัพย์ได้ เนื่องจากระเบียบการซื้อทรัพย์ ฯ ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กฟก.และประกาศหลักเกณฑ์ฯ ต้องลงนามโดย พลตรี สนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี ใน ฐานะประธานคณะกรรมการ กฟก. ขณะนี้ท่านรองนายกฯยังเข้าทำเนียบไม่ได้ ใครเป็นญาติเสื้อแดงช่วยบอกหลีกทางหน่อย เพราะผู้เดือดร้อนคือเกษตรกรผู้ที่กำลังจะถูกยึกทรัพย์ขายทอดตลาด ๒. การเร่งรัดให้สำนักงาน กฟก.ทำการซื้อขายโอนหนี้เกษตรกรที่เป็นหนี้กับสหกรณ์การเกษตร ภายใน ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ เป็นการด่วน เพราะเป็นวันสิ้นปีทางบัญชีสหกรณ์ /ในเรื่องนี้ผมได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการ กฟก. เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๒ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และฯพณฯสาธิต วงศ์หนองเตย ให้ผมส่ง Email ไปให้ท่านด้วยพร้อมประเด็นปัญหาในการแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกร  เพื่อนำเสนอท่านนายก ฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทราบต่อไป

      ฝากความคิดถึง ท่านอาจารย์ และ ผนส.๓ ทุกท่าน..ครับ

    

เห็นใจ...น้องกุ้ง บอกว่าตอนนี้ กำลังวุ่นอยู่กับการทำเอกสารโครงการสัมมนาใหญ่ เพราะ หนังสือเชิญ กำหนดการ และตัวโครงการยังไม่เรียบร้อยดี แต่น้องกุ้ง..ยังรับปากว่า...อาทิตย์หน้าต้องได้ส่งแน่นอน วันที่ ๒๑ มีนาคม (ตอนเย็น)ผมได้ดูโครงการแล้ว ยังกังวลและอดเป็นห่วงน้องกุ้ง(ของพวกเราทุกคน)ไม่ได้ ดูตัวโครงการยังไม่สมบูรณ์ ยังขาดที่ปรึกษา และอื่น ๆ รวมถึงหน่วยงานหรือผู้สนับสนุนงบประมาณ ที่จองไว้ทราบว่ามีเจ้าภาพเยอะเหมือนกัน เช่น สอ.จุฬา ฯ ชสท.สอ.กสส.สอ.ตรวจบัญชีของพี่จิ๋น และสหกรณ์ของ ผนส.๓ ทุกสหกรณ์ หรือหากท่านใดต้องการสนับสนุนเป็นพิเศษโทรฯแจ้งน้องกุ้ง น่าจะทัน ขอให้กำลังใจน้องกุ้ง (จริงๆ) โปรดทำใจเย็น ๆ รอให้ทุกอย่างสมบูรณ์ที่สุดก่อน วันที่ ๓-๔ เมษายน ทุกคนไปเรียนแจกวันนั้นก็ได้ นะ

เรียน อาจารย์และผนส 3 ทุกคน

       ผมไม่ได้เข้าบล๊อกหลายวัน เนื่องจากติดอบรมโครงการกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ โดยสหกรณ์ในจังหวัดสงขลา 5 สหกรณ์เครือข่าย จัดร่วมกัน ซึ่งจากการอบรมมีประโยชน์เป็นอย่างมาก มีการรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานทั้งห้าสหกรณ์ แบ่งกลุ่มให้กรรมการและเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่าย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสรุปผลการประชุมกล่ม นำเสนอต่อทีประชุม

       สรุปผลจากการอบรมมีข้อตกลงร่วมกันทั้ง 5 สหกรณ์

มีการตกลงเป็นเครือข่ายร่วมกันในการทำธุรกิจ
มีการตกลงจะรว่มกันซื้อสินค้ามาจำหน่าย เช่นปู๋ย ข้าวสาร
มีการตกลงจะมีการอบรมสมาชิกสหกรณ์ร่วมกัน
มีการตกลงการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
มีการตกลงมีการแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกัน
มีการตกลงจะมีการประชุมร่วมกันสามเดือนครั้ง
มีการตกลงเรื่องเงินฝาก
มีการตกลงผลิตสินค้าร่วมกันเช่น ปุ๋ยอินทรีย์ตรา 5 เสือ
        ซึ่งคล้ายกับโครงการที่จะนำเสนอในการอบรม ต่างกันในโครงการที่จะนำเสนอมีการศึกษาดูงาน
         สำหรับโครงการใหญ่ที่จะอบรมในวันที่ 24 เมษายน 2552 นั้นเห็นคุณกุ้งบอกว่าเสร็จแล้วเห็น ผู้ร่วมการอภิปรายแล้วน่ามีคนสนใจมากเช่น

1. ศาสตราจารย์ ดร.จีระ   หงส์ลดารมภ์     เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ         

2. ฯพณฯ กรณ์                 จาติกวณิช      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง                   

3. ม.ร.ว.ปรีดียาธร             เทวกุล         อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

4. ดร.โอฬาร                    ไชยประวัติ         ประธานกรรมการบริหาร สมศ.

 

ผู้ร่วมนำเสนอความคิดเห็น

1. นพ.กิตตินันท์    ไทยศรีวงศ์                        ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า จำกัด

2. นายอดิศักดิ์        วชิระสัมพันธ์                 ที่ปรึกษาสหกรณ์โคนมปากช่อง จำกัด

3. นายปฏิพล         เกตุรัตนัง                    ประธานสหกรณ์การเกษตรนาบอน จำกัด

  หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงผมว่าสถานที่อบรมไม่พอ  (เพราะของฟรีและตรงกับการประชุมบริษัทสหประกัน) ส่วนของผมกับคุณประจวบจากสะเดาะน่าจะไม่มีปัญหาตามที่แจ้งไว้

    

สวัสดีค่ะ

เข้ามาชม blog แล้ว คนหน้าเด่ิม ๆ หายไป เช่น อาจารย์บัญชา คุณแจ้ กำนัน เงียบหายกันไปไหนค่ะ สาว ๆ ภาคกลาง น้องอ๋อ น้องปอนด์ น้องวี กำลังคร่ำเคร่งปิดบัญชีหรือค่ะ เงียบไปเลยนะ

ที่คุณสุทืสเขียนมาใน blog ที่มีผู้มาร่วมอภิปรายแล้ว น่าสนใจมากทีเดียว เพื่อน ๆ เรา 3 คน ที่ร่วมนำเสนอความคิดเห็นนั้น มีข้อมูลเพียงพอแล้วหรือยังค่ะ มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้เลยนะค่ะ

ประยูร รัตนเมธางกูร

เรียน อาจารย์ และ ผนศ.3 ทุกท่าน

ไม่ได้เข้าบล๊อกเสียนานมาก แต่ก็พยายามติดตามอยู่ตลอดเท่าที่โอกาสอำนวย เนื่องจากต้องเดินทางถี่เหลือเกิน ในช่วงที่ผ่านมา

-สีเดือนดูเหมือนแป๊ปเดียว เราคงมีเวลาพบกันอีกเพียง 2 ครั้ง แล้วต้องจากกัน น่าเสียดายเวลาที่ได้ร่วมกิจกรรม กำลังจะเข้าที่เข้าทาง กำลังจะจบลง

-ขอเป็นกำลังใจ ช่วยคณะทำงานเตรียมโครงการสัมนา 24 เมษา ถ้าเป็นไปตามโครงการโดยเฉพาะผู้ร่วมอภิปรายทั้ง 4 ทานตามที่เสนอไว้ ถือว่าเป็นโบว์แดงชิ้นใหญ่สุดยอดในรอบปีนี้ ในโครงการสัมนาเลยทีเดียว

-โควต้าผู้ร่วมสัมนาของผม เพิ่มเป็น 20 คนผมขอยืนยัน

-ขอขอบคุณสมุนไพรอันตราย 13 ชนิด ที่มีต่อชีวิตการทำงานทื่ อาจารย์บัญชาได้นำมาเผื่อแผ่ ได้ประโยชน์มาก

-"มะรุม" ผักพื้นบ้านไทย ที่กำนันบ้านนอกนำมาเสนอ รู้สึกว่ากำลังนิยมมาแรงจริงๆ ภรรยาที่บ้านกำลังทดลองกินหลังอาหาร หมดไปหลายกระปุกแล้ว เห็นเขาบอกว่าดีของเขานะ

สวัสดีครับ

ถึงพี่น้องผนส3 ไม่ได้หายไปไหนแต่มีภาระกิจเรื่องงานหลายเรื่องที่ต้องนำมาสะสางต่อที่บ้าน แต่ก็เข้ามาแอบดูblogทุกวันแหละก็ขอชื่นชมคุณสาทิศคุณทนงศักดิ์คุณไกรฤกษ์ ฯลฯ ที่นำความรู้และตั้งประเด็นใหม่ๆเข้ามาให้ได้ขบคิดกันและรายงานตวามก้าวหน้าของกระบวนการสหกรณ์ต่างๆที่ได้ไปรู้ไปเห็นมาสมกับที่ท่านอาจารย์จีระได้ชืนชมและชมเชยว่าเป็นblogที่มีคุณภาพ(ปลื้มจริงๆนะ) ก็ขอให้พวกเราร่วมกันพัฒนาสนับสนุนให้เป็นblogแห่งการเรียนรู้ทั้งจากตำรับตำราและจากประสบการณ์ที่มีอยู่และฝังลึกอยู่ภายในของพวกเราเอง ... เวลาของพวกเราก็ใกล้จะสำเร็จการศึกษากันแล้วคิดๆดูก็น่าใจหายนะสี่เดือนช่างไวเหลือเกิน แต่ก็คิดว่าพวกเราคงจะยังจับกลุ่มกันต่อไปได้พอสมควรบนพื้นฐานของความเป็นเพื่อน แม้เนิ่นนานเพียงใดไม่ลบเลือน ความเป็นเพื่อนนั้นคงอยู่ตลอดไป...คิดถึงเสมอ..ฝันดีทุกคน

แจ้...

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

โครงการสัมมนาวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๒ ส่วนตัวเชื่อและมั่นใจว่า ผู้เข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้จะมีจำนวนมากกว่าทุกรุ่น(ไม่ได้..โม้)เพราะท่านผู้ร่วมอภิปรายทั้ง ๔ ท่าน นั้น ถือว่าเป็น"คลังแห่งองค์ความรู้" อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อการสัมมนาของ ผนส.๓ และประเด็นร้อนที่ขบวนการสหกรณ์ต้องการให้มีผู้จุดประกายและกระตุ้น เพื่อการบริหาร การจัดการสหกรณ์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ในช่วงวิกฤติของเศรษฐกิจของไทยและของโลก

ก่อนวันสัมมนา ๑วัน ผู้แทนของสหกรณ์จะไปประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น บ.สหประกันชีวิต จก.ซึ่งคาดว่าผู้แทนของสหกรณ์ส่วนใหญ่จะอยู่ร่วมการสัมมนาของเรา โดยจะพักค้างที่สันนิบาตฯหรือโรงแรมใกล้ๆนี้ เสนอท่านประธาน รศ.บัญชา และพวกเราทุกคน ในวันที่ ๒๒ เมษายน กลางวัน-กลางคืน เราน่าจะมีกิจกรรมอะไร ? เพื่อเป็นการต้อนรับหรือจูงใจให้ผู้แทนของสหกรณ์มาร่วมกิจกรรมกับเรา ?

ขอคิดด้วยคน..เห็นว่าในช่วงกลางคืนบริเวณรั้วด้านหน้าของสันนิบาต ฯ บรรยากาศ ได้ถูกจัดคล้ายกับ"งานวัด"มาก ๆ เพราะมีการประดับไฟ แสง สี ไว้แล้ว (ยังเหลือ ชิงช้าสวรรค์ สาวน้อยตกน้ำ รำวง ปาลูกดอก หมอลำ ลิเก ลำตัด หนังตะลุง มวย บูชากระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์ ช่อฟ้า และลูกนิมิต )

พี่ๆคะ อ.บัญชา ยังไม่ได้ตรวจโครงการให้กุ้งอีกรอบเลยค่ะ ไม่รู้แกหายไปไหน 3 วันแล้ว คิดถึ๊ง คิดถึง ถ้าอย่างไรอาจจะได้ไปแจกเอกสารให้พี่ๆที่วันเรียนเลยนะคะ พร้อมกับฝากให้ สสท.ช่วยส่งจดหมายไปยังสหกรณ์ทั่วประเทศด้วยค่ะ

ธนณฐ์วรรธ์ แสงหวัง

เรียนอาจารย์ ศ.ดร.จีระ ประธานรุ่น เพื่อนๆผนศ.รุ่น 3

ขอเสนอไอเดียในการสร้างคุณประโยชน์ต่อสหกรณ์และชุมชนของผนศ รุ่น 3หลังจากจบหลักสูตรควรมีโครงการฯของรุ่นนำความรู้ความสามารถที่ได้มาไปพัฒนาและแลกเปลี่ยน เชื่อมโยงกับสหกรณ์และชุมชนแต่ละภาคอย่างน้อยปีละ 1-2ครั้ง หรือจะไปช่วยพัฒนสหกรณ์ที่มีปัญหาตามข้อเสนอของคุณแจ้ เพื่อนๆช่วยคิดต่อยอดด้วยนะคะ

ท่านผู้นำทุกท่านครับ !!!!

                ท่านผู้นำท่านใดที่ยังไม่ได้ถ่ายรูป กรุณาเอาเสื้อสูทมาด้วย ในวันที่ 3-4 เม.ย.52 ขาดเพียงไม่กี่ท่านน่ะครับ รีบๆ หน่อยน่ะครับ และช่วยกระจายข่าวด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

เรียน ผนส. 3

ให้ส่งงานโครงการพัฒนาสหกรณ์ฯ ที่ผ่านการพิจารณาจากอาจารย์แล้ว ให้ส่งไฟล์ได้ที่.......

[email protected]

[email protected]

[email protected]

[email protected]    

   

 ก่อนวันที่ 18 เมษายน 2552   

 

 

 

 

 

 

 

เรียน  อาจารย์  และผนส 3 ทุกคน

         อาทิตย์นี้เป็นอย่างไรบ้างละวันนี้อาจารย์จิระ พูดผมว่าทุกคนตะลึง แต่สุดท้ายก็ถูกตามที่อาจารย์พูด การจัดสัมนาครั้งนี้เป็นงานใหญ่และใหญ่มากด้วย ผมว่าเราทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ว่าข้อมูลการสัมนาซึ่งมีความสำคัญมาก ฝ่ายสถานที่ ฝ่ายต้อนรับ ฝ่ายอาหาร และทุกฝ่ายมีความสำคัญ หากทุกคนมีอะไรผมว่านำลงในบล๊อกบ้าง

        ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องที่จอดรถและที่พักสำหรับพวงที่มาจากต่างจังหวัด 
           ที่สำคัญความเคลื่อนไหวต่าง ๆ เรื่องการแต่งการตามที่ตกลงกันวันนี้ วันที่ 23 ใส่สีม่วง วันที่ 24 ผู้ชายใส่เสื้อสีขาวผูกเนคไทใส่สูท  ผู้หญิงเสื้อสีขาว ใส่สูท   

                

เรียน ท่านอาจารย์ และ ผนส 3 ทุกท่าน

วันนั้นเลิกเรียนแล้ว ออกจากสันนิบาตมาเจอฝนตกหนักจริง ๆ ถนนบางช่วงต้องนั่งรถลุยน้ำ ที่เชียงรายตอนดึกคืนวันที่ 6 เจอพายุฝนหนักเหมือนกัน บ้านเรือนสมาชิกเสียหายไปหลายราย

ผู้จัดการสุทิศ นี้ดีจริง ๆเลยนะที่คอยเตือนอยู่เสมอ ไม่งั้นผมคงลืมไปเลยว่าวันที่ 23 .ให้ใส่เสื้อสีม่วง ผมความจำสั้นครับ วันนั้นที่เรียนเรื่อง 6Qs ผมได้ตรวจสอบ EQ ของตัวเองแล้วออกมาค่อนข้างต่ำ แต่เรื่องเรียงQ นั้นผมเยี่ยมเลย

พี่ติ๊กครับ การจัดทำแบบสอบถามผมฝันว่าพี่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้จริงหรือเปล่านะ แต่อย่างไรก็ตามผมก็จะช่ายอีกแรง ถ้าเสร็จแล้วจะ mail go give crub

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

ผมชอบบรรยากาศการเรียนในวันที่ ๔ เมษายน ๕๒ มากครับ โดยเฉพาะวิชา "การสร้างและพัฒนาภาวะผู้นำ " โดยท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ วินาทีแรกที่ท่านอาจารย์เข้ามาทุกคนต้องอยู่ในอาการเดียวกันทั้งหมด เมื่อท่านอาจารย์ได้จุดประกาย และปรับเปลี่ยนแนวความคิดในการจัดสัมมนาใหญ่ "เรารู้จริง เรารู้เรื่องสหกรณ์มากกว่า เขาต่างหากที่ต้องฟังเรา"

การสร้างและพัฒนาภาวะผู้นำ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการที่ผู้นำ(Leadership)สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรโดยกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมและทุ่มเทให้แก่องค์กร จะทำให้องค์กรบรรลุสู่เป้าประสงค์ที่ต้องการ ผู้นำที่ดีต้องมองการไกล กล้าหาญ กล้าเปลี่ยนแปลง มีคุณธรรมและจริยธรรม และต้องพัฒนาแบบยั่งยืน

การเจอกันครั้งต่อไปของ ผนส.๓ คงเป็นครั้งสุดท้ายของการเรียน แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะได้พบกัน แต่..จะเป็นการเริ่มต้นของการเชื่อมโยงเครือข่ายของ ผนส.๓ ในสิ่งที่จะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มและเป็นประโยชน์แก่องค์กรของพวกเรา อย่าลืม..น้ำยาล้างจานและภาชนะของ โคออป บ้านเขว้า นะครับ

ท่านอาจารย์ และ ผนส.3 ทุกท่าน

วันที่ 22,23,24 เมษายน 2552 เราคงจะพบกันอีกครั้ง คือ การนำเสนอโครงการ ตามลำดับคิว และงานสัมมนา "วิกฤตเศรษฐกิจโลก ผลกระทบเศรษฐกิจไทย สหกรณ์จะรับมืออย่างไร" ขณะนี้ผมก็รับหน้าที่ของฝ่ายวิชาการ ด้านการป้อนข้อมูลของสหกรณ์ภาคการเกษตร นำเสนอโดย คุณปฎิพล เกตุรัตนัง ซึ่งในอาจารย์บรรชา ประธานรุ่น จะนัดประชุมรือกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ผมมีความหวังว่า โครงการสัมมนาของเราจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ขอให้กำลังใจกับ ผนส.3 ทุกท่านว่าเราทำได้ แน่นอน และต้องขอขอบพระคุณ อาจารย์จีระ ที่ให้กำลังใจ และข้อคิดในการสัมมนา และขอบคุณอาจารย์ที่ได้ โทรศัพท์ถึงผมเมื่อวันเช้าวันที่ 7 เม.ย.52 ก็ตกใจ ที่อาจารย์ได้โทรถึง ลูกศิษย์ อาจารย์จะเดินทางไปเยี่ยมผมที่จังหวัดชุมพร ประมาณปลายเดือน เมษายน 52 นี้ ผมจะได้เตรียมการต้อนรับ ท่านอาจารย์ เพื่อนๆเป็นอย่างไรบ้าง คงจะเตรียมหยุดพักผ่อนในเทศกาล วันสงกรานต์ กันอย่างมีความสุข กับครอบครัว สวัสดีครับ

081-7878-523

เมื่อวานนี้(10มีนาคม2552)ได้ดูข่าวในพระราชสำนักได้เห็นสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จเยือนกรุงปักกิ่ง เอกอัครทูตและผู้ช่วยทูตฝ่ายต่างๆถวายการต้อนรับ ได้นึกถึงตอนที่พวกเรา(คณะผู้นำสหกรณ์รุ่น3)ได้ไปเยี่ยมสถานทูตไทย ณ.กรุงปักกิ่ง สถานทูตและบุคลากรเป็นชุดเดียวกันที่ให้การต้อนรับพวกเรา ก็รู้สึกปลื้มใจลึกๆที่ได้รับเกียรติ์และได้ให้ความสำคัญกับสหกรณ์ไทยอย่างสูงซึ่งพวกเรามิอาจลืมเลือนเหตุการณ์ในอดีตในครั้งนี้ได้ และ มิอาจเก็บความรู้สึกนี้ไว้ได้คนเดียวจึงขอนำมาถ่ายทอดลงในบล็อกนี้ ....แล้วพบกันวันที่22 ..ขอให้ชาวผนส.3จงมีแต่ความสุขสดชืนเย็นสบายในวันสงกรานต์..โชคดีปีใหม่ไทยครับพี่น้อง

แจ้....

สงกรานต์ปีนี้หยุดติดต่อกันหลายวันขอให้พี่ๆและเพื่อนๆ ผนส. 3 มีความสุขและเล่นสงกรานต์อย่างระมัดระวัง อย่าลืมวันครอบครัวด้วยนะคะ

อยากให้คนไทยรู้รักสามัคคี

สวัสดีปีใหม่วันสงกรานต์

ขอส่งความสุขและความปรารถนาดีมายังพี่ ๆ เพื่อน ผนส.3 ทุกท่านด้วยค่ะ

พร้อมนี้อยากจะเชิญชวนพวกเราทุกคนร่วมกันส่งใจที่บริสุทธิ์ของทุก ๆ ท่าน ให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัยจากความชั่วร้ายด้วย ขอดลจิตใจให้คนไทยรู้รักสามัคคี เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองด้วย

วันนี้ทั้งวันดูข่าวเสื้อแดงทั้งวันก็รู้สึกเบื่อๆรัฐบาลและก็รำคาญ นปช.ไม่รู้เมื่อไหร่จะจบซะทีก็เลยหาบทความอ่านเจอเรื่องปริญญาสองใบก็เห็นมีสาระดีเลยนำมาฝากพวกเราบางคนที่ยังไม่เคยอ่านจะเห็นได้ว่าสุดท้ายของคนก็คือชีวิตสุขภาพและครอบครัว ร่ำรวยเป็นหมื่นเป็นแสนล้านก็ไม่มีความหมายลองอ่านดู..ครับพี่น้อง

ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมากคือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อโด่งดังมาก เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคนดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร มาเรียนที่อเมริกา เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดูว่าสะอาดจริงมั้ย กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลยต้องให้ดีที่สุดเวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆเขียนไว้สามแผน แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ แกเสนอแผนที่สอง แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สามใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย แกมีบ้าน มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจ มีชื่อเสียงทุกอย่าง แกมีทุกอย่าง วันหนึ่งแกพักผ่อนหลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย ลูกเมียไปขอพบก็บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิต วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่องตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุบลงไป ภรรยาพาเข้าโรงพยาบาลตรวจพบมะเร็ง พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย จริง ๆเค้าก็เตือนตลอด แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไขไม่ได้ แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน บันทึกชีวิตแกก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่ กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า พ่อผมเคยบอกว่าเกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ

ปริญญาใบที่หนึ่งคือปริญญาวิชาชีพคนเราจะต้องทำมาหากินเป็น กินอิ่ม นอนอุ่น พูดง่าย ๆล้วงไปในกระเป๋าแล้วต้องมีเงินใช้ อยากจะนอนก็มีบ้านเป็นของตัวเองแค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ แต่'ปริญญาวิชาชีวิต ปริญญาใบที่สอง ปริญญาวิชาชีวิตคือวิชาธรรมะ สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง

ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตกเพราะอะไร เพราะทำงานจนป่วยตาย ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง บ้าน รถ มอบมันให้กับลูกและภรรยา แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ในครั้งนี้ สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมียเพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย นี่คือปริญญาวิชาชีวิตธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะเราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ แต่ละวันควรจะมีเวลา ให้ดูแลตัวเอง ดูจิต ดูใจตัวเองว่าเราเอ๊ะมันทุกข์ มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่า พยายามลดลงในแต่ละวัน ๆ เพื่อที่ว่าอะไรเพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต หนึ่งปริญญาวิชาชีพ เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง มีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่ แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สองคือวิชาธรรมะ สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือดร้อนเกินไป ทำอะไรให้พอดี พอดีอยู่ดีมีสุข อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด และมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี เพราะอะไร เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้าว่าอะไรคือสิ่งสูงค่าที่สุด บางคนก็ตอบเงิน บางคนก็ตอบเพชร บางคนก็ตอบทอง บางคนก็ตอบอำนาจ บางคนก็ตอบราชบัลลังก์ พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือ สุขภาพและชีวิต สุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะและก็ชีวิตของเรา

อาตมาก็ขอจบแค่นี้ก่อนนะจะจำวัดแล้วพรุ่งนี้จะไปทำบุญที่นครสวรรค์แต่เช้า ก็ขออำนวยพรแด่ญาติโยมชาวผนส3.ทุกท่านมีความสุขความเจริญโดยถ้วนหน้ากัน..ราตรีสวัสดิ์

สวัสดีผนส.3 ทุกท่าน

วันนี้เป็นวันครอบครัว ก็ต้องอยู่บ้าน พาครอบครัวไปเที่ยวในอำเมือง ปีนี้ไม่มีคิวเดินทางไปต่างจังหวัด พักผ่อนอยู่กับบ้านตลอด เทศกาลวันสงกรานต์ ก็ฝากเพื่อนๆให้งดใส่เสื้อสีแดง และสีเหลือง หากใส่ไม่รับประกันความปลอดนะจะบอกให้ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่ประเทศชาติจะสูญเสียไปมากกว่านี้

วันที่ 22 เมษายน 52 นี้ผมก็เตรียมเดินทางเข้าไป กรุงเทพ คิดว่าเหตุการณ์คงสงบนะ คงจะไม่ต้องเลื่อน วันจบ ฝากความคิดถึงเพื่อนๆทุกคน สวัสดีครับ

สวัสดี ผนส.3 ทุกท่าน

วันนี้ค่อยหายใจทั่วท้องหน่อย สงกรานต์ไม่ได้ไปเที่ยวไหนอยู่แต่บ้าน แต่เมื่อวานนี้ได้รดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ ปีก่อนมี 4 ท่าน ปีนี้เหลือ 3 ท่าน ที่บ้านจะจัดทุกปี ให้เด็ก ๆ ได้ซึมซับวัฒนธรรมประเพณี ขอพรผู้ใหญ่

กำนันบ้านนอก และ นายอู๊ด อย่าเที่ยวสงกรานต์จะเพลินนะค่ะ อย่าลืมเรื่องที่ฝากไว้ให้ไปดำเนินการด้วยนะจ๊ะ

เห็นด้วยกับพี่จิ๋นค่ะ ฯ ตอนแรกก็ห่วงเหมือน (557) เกรงว่างานสัมมนาและวันจบการอบรม จะต้องเลื่อนหรือเปล่า พอวันนี้ค่อยดีหน่อย เป็นห่วงทุกคนที่อยู่กรุงเทพฯ

นะคะ

เช้านี้ติดตามข่าวแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นบ้างเหมือนพี่จิ๋นและน้องอ๋อ ขอบคุณในความห่วงใยแต่ก็อย่าเพิ่งไว้ใจในความแน่นอนไม่มีอะไรแน่นอน ก็ขอให้จบไวๆถ้าไม่จบพวกเราก็คงเรียนไม่จบคงต้องเลื่อนไปอีกแต่ก็ดีนะจะได้เจอกันนานๆ

วันนี้ดื่มกาแฟชุมพรของกำนันนัด โอบามาแล้วถึกถึงรูปที่พี่กำนันนัดมอบกาแฟให้กับท่านอุทัย พิมพ์ใจชนดูแล้วน่าสนใจรู้สึกว่ามันโก้ดี พี่นัดน่าจะนำรูปนี้ไปขยายติดไว้ที่สหกรณ์กาแฟชุมพรผมว่าดีนะ เลยมีเรื่องเปรียบเทียบกาแฟถ้วยกาแฟกับความต้องการที่แท้จริงของคนเราที่น่าสนใจนำมาฝากพวกเราลองติดตามอ่านดูแก้เซ็งนะครับ..

ณ.มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แห่งหนึ่งของสยามประเทศ บรรดาศิษย์เก่าที่จบจากสถาบันนี้ แยกย้ายกันไปประกอบอาชีพมีชื่อเสียงในวงสังคมตามวงการต่างๆ มากมาย มีทั้งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และที่กระท่อนกระแท่นยังดิ้นรนอยู่ในหน้าที่การงานก็เยอะ

เนื่องในวาระที่อาจารย์พ่อซึ่งเป็นที่เคารพของศิษย์เก่าทุกคน เกษียณอายุ บรรดาศิษย์เก่าจึงถือเป็นโอกาสดีที่จะกลับไปเยี่ยมสถาบัน เพื่อเลี้ยงสังสรรค์และรำลึกถึงอาจารย์พ่อ หลังจากกินเลี้ยงกันมาได้พักใหญ่ วงสนทนาก็เริ่มเปลี่ยน ไปเป็นการบ่นพร่ำเกี่ยวกับความเครียด ในการทำงานและปัญหาชีวิต แต่ละคน มีปัญหาแตกต่างกันออกไปมากบ้างน้อยบ้าง อาจารย์พ่อฟังปัญหาของลูกศิษย์ทุกคนอย่างตั้งใจ รับฟังโดยไม่มีคำวิจารณ์ หรือนำเสนอความเห็นของอาจารย์เลยแม้แต่น้อย เมื่อฟังปัญหาของลูกศิษย์จบทุกคน อาจารย์พ่อเสนอเลี้ยงกาแฟกลุ่มลูกศิษย์เก่า ท่านเดินเข้าไปในครัว และออกมาพร้อมกับกาแฟเหยือกโตและถ้วยกาแฟ แบบต่างๆ บ้างเป็นถ้วยกระเบื้องบ้าง เป็นถ้วยพลาสติก และบ้างทำด้วยแก้ว มีถ้วยกาแฟหลายใบที่เป็นแบบพื้นๆ ธรรมดา บางใบ สวยวิจิตรสูงค่า

" อาจารย์ ชงกาแฟใส่เหยือกมาให้แล้ว พวกเธอจัดการรินใส่แก้วดื่มกันเองนะ" บรรดาลูกศิษย์ มองถ้วยกาแฟหลากหลาย ด้วยความสนใจ แล้วพากันเลือกถ้วยกาแฟพร้อมๆ กับรินกาแฟออกมาจากเหยือกใส่ถ้วยต่างกันออกไปเอามือไว้

เมื่อลูกศิษย์ทุกคนต่างมีถ้วยกาแฟในมือกันทุกคน แล้วอาจารย์พ่อ กล่าวว่า

ลองดูถ้วยกาแฟในมือของพวกเธอ กับถ้วยกาแฟที่เหลืออยู่ในถาดซึ่งไม่มีคนเลือกสิ "

" สังเกตุกันรึเปล่า.... ถ้วยสวย ๆ แพง ๆ ถูกเลือกไปหมด เหลือไว้แต่ถ้วยแบบธรรมดาราคาถูก "

" เป็นเรื่องปกติ...ที่พวกเรามักจะเลือก สิ่งที่ดีที่สุดโดยลืมคิดถึงความต้องการที่แท้จริงของเราและ นี่คือที่มาของความเครียดและปัญหาทั้งหลายในชีวิต"

" ความจริงวันนี้สิ่งที่พวกเราต้องการแท้จริงคือกาแฟ ไม่ใช่ถ้วยกาแฟ แต่จิตสำนึกกลับ นำพาเราไปเลือกที่ถ้วย มิหนำซ้ำยังคอยชำเลืองมองถ้วยของคนอื่นๆ อีกด้วย

หากชีวิตคือกาแฟ หน้าที่การงาน ตำแหน่งต่างๆ ในสังคม ก็คือ ถ้วยกาแฟ มันเป็นเพียงเครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยหยิบจับหรือประคองชีวิตของเรา มันไม่ได้ทำให้เนื้อหาจริงๆ ของชีวิต เปลี่ยนไป บางครั้ง....การมัวเพ่งที่ถ้วยใส่กาแฟ มันก็จะทำให้เราลืมใส่ใจกับรสชาติของตัวกาแฟ "

" ถ้ารู้จักชีวิตที่แท้จริง....ของหรือตำแหน่งหน้าที่ มันก็แค่ส่วนเคลือบ ไม่ใช่เนื้อหาหรือแก่นแท้ที่สำคัญของชีวิต"

ได้อ่านปริญญาสองใบของคุณแจ้แล้วทำให้คิดรักตัวเองมากขื้น ช่างสรรหาให้อ่านแต่สิ่งที่ดีๆ ฃอบคุณมากเพื่อนๆคงอ่านกันทุกคนนะคะ

เรียน  อาจารย์ และผนส 3 ทุกคน

         ผมไม่ได้เข้าบล๊อกหลายวัน ช่วงสงกรานต์ไม่มีวันว่างเลย วันที่ 10 ไปทำบุญบ้าน วันที่ 11-14 ไปร่วมญาติที่เกาะสมุย วันที่ 14 ตอนค่ำงานเลี้ยงศิษย์เก่าชั้นมัธยม (ซึ่งผมเป็นประธานรุ่น) วันนี้ว่างเลยเข้าบล๊อก เห็นหลายคนเข้ามาและแสดงความคิดเห็น ก็ดีใจที่ ทุกคนสนใจในบล๊อกและแสดงความคิดเห็นในเรื่องบ้านเมือง

            และอาทิตย์หน้าเราได้พบกันครั้งสุดท้ายในการอบรม แต่โครงการสัมมนาใหญ่ไม่ทราบเป็นอย่างไงบ้าง ให้ผมช่วงเรื่องอะไรบ้างบอกมา แล้วตอนนี้มีผู้ตอบรับมาแล้วกี่คน จะให้ผนส ในรุ่นช่วยกีคน ได้ข่าวว่าวันที่ 20 นี้มีการประชุมกันผลเป็นอย่างไรโปรดแจ้งให้ทราบด้วย

            สวัสดีครับ

เมื่อ 2 ก่อนได้โทรศัพท์คุยกับอาจารย์บัญชาว่า วันที่ 24 จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ยังไม่ได้คำตอบค่ะ อาจารย์บัญชาจะติดต่อกับอาจารย์จีระ อีกครั้งหนึ่ง ได้ความอย่างไรจะแจ้งในทาง blog อีกครั้งก็แล้วกันนะคะ แต่ได้ให้ต้อย (โคราช) เตรียมกระเช้าของขวํยไว้แล้ว จำนวน 13 กระเช้า เผอิญวันที่ 16-17 นี้ เป้นวันหยุดอีก ทำให้หลาย ๆ อย่างชะงักไปแต่ก็ดีใจที่บ้านเมืองได้กลับใกล้เหมือนเดิมแล้ว แต่ภาพลักษณ์ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับคืนมายังไงพวกเราก็อย่าลืมช่วยส่งแรงใจกันด้วยแล้วกันนะจ๊ะ ยังเชื่อในบารมีของพระเจ้าอยู่หัวและความศักด์สิทธิ์แห่งพระสยามเทวาธิราช สาธุ..............

วันนี้(๑๖เมย๕๒)ขณะที่กำลังเดินเข้าห้องทำงาน หลังจากหยุดสงกรานต์ไปซะหลายวัน ทีมงานบอกว่า "ผู้จัดการค๊ะ..วันนี้และวันพรุ่งนี้หยุดต่ออีกนะคะ" ผมมองไปที่ใบหน้าเจ้าของเสียงทันที พร้อมอมยิ้มนิด แล้วบอกกับเจ้าหน้าที่คนนั้น "ขอบใจ..อย่างน้อยก็มีคุณและพวกเราอีก ๔-๕ คน ที่มานั่งทำงานในวันหยุดอย่างนี้

ช่วงวันหยุดสงกรานต์ผมไม่ได้เดินทางไปไหนอยู่ร่วมกิจกรรม กับกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ และร่วมแห่สงกรานต์กับชุมชนและเพื่อน ๆ เพราะ..ติดตามข่าวการบ้าน การเมือง ตลอดทุกระยะ ต้องขอปรบมือ(ดังๆนานๆ) ยกย่องและสรรเสริญความมีภาวะผู้นำของประเทศ แด่ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่สามารถแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองกลับคืนสู่ปกติ ทำให้เสื้อแดงประกาศหยุดการชุมนุม

ในวันที่ ๒๔ เมษายน ในงานสังสรรค์ อยากให้เพื่อนพ้อง น้องพี่ชาว ผนส.๓ ทุกท่านได้ช่วยกันคิดและคัดสรรชื่อประเภทรางวัลที่สุดของรุ่น จำนวน ๕ ประเภท ยกตัวอย่าง เช่น

- นิ่ง เงียบ เรียบง่าย ที่สุด

- แก่ เก่ง เป็นกันเอง ที่สุด

- ไม่สวย แต่หมวย ที่สุด

- หนักแน่น แต่นุ่มนวล ที่สุด

- เรียนสบายๆ มาก็สาย บ่ายก็ขาด(ประจำ) ที่สุด

คิดได้ คิดออก บอกมาที่ blogoนี้ด่วน ชื่อประเภทรางวัลที่สุดอันใดที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการ ท่านจะได้รับรางวัล หัวกุ้งมังกรฝังไข่มุก ซึ่งเป็นหัวกุ้งมังกรของแท้จากภัตตาคาร และไข่มุกน้ำจืดของแท้จากจีน ครับ

สวัสดีจ๊ะ

อู๊ด? พี่ได้อ่านที่เธอเขียนมาใน blog แล้ว น่าจะมีแมวมอง ถ้าหากเขียนมาใน blog มันก็จะไม่ surprise กลัวเจ้าตัวเขาจะรู้ก่อน ก็ไม่ตื่นเต้น อีกอย่าง ภูมินทร์ บอกว่า อยากจะรู้ว่าเราเลือกใครในแต่ละประเภท เขาจะได้หารูปที่ถ่ายไว้ในห้องเรียน กับ ตอนที่เราไปทำกิจกรรมข้างนอก มาทำเป็นภาพขึ้นหน้าจอในวันงานที่เราจะจัดเลี้ยงกัน โดยจะเป็นอากัปกิริยาของคน ๆ นั้น ตามประเภทรางวัลที่เราจัดขึ้น ถ้าไง รบกวนอู๊ด โทรศัพท์คุยกับกำนันดีไม๊จ๊ะ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแต่ก็คิดว่ายังทันอยู่ พร้อมทั้งให้ดูของรางวัลมาด้วยนะ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ค่อยมาเบิกกับเหรัญญิก จ๊ะ

พี่ ๆ เพื่อน ๆ มีความอย่างไรเขียนมาแสดงความคิดเห็นได้นะค่ะ

ติดถึงทุกคนจ๊ะ

คิดถึงเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน มากเลยนะจะบอกให้

สวัสดีพี่น้องชาวผนส.3ทุกท่านวันนี้ได้อ่านไอเดียบิ๊กอู๊ดแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่งก็ขอเสนออีกสองสามข้อเผื่อจะได้หัวกุ้งมาเคี้ยวเล่นไข่มุกไม่อยากได้เดี๋ยวไปใช้ผิดประเภทก็ขอเสนอเช่น ขี้เมื่อยที่สุดในรุ่น,ขี้บ่นที่สุดในรุ่น,ดำที่สุดในรุ่น,แย่งไมค์เพื่อนบ่อยที่สุดฯลฯ เสนอแค่นี้ก่อนนะลูกสาวมาแย่งคอมฯใช้

สงกรานต์ไม่ได้ไปไหนเลย ทำแต่งาน งาน งาน แล้วก็โดนงานทำ พอบ้านเมืองสงบก็ออกไปหาซื้อของที่ระลึกที่จะแจกในงานเลี้ยงตามที่ได้รับมอบหมาย ตั้งงบไว้ชิ้นละ 30บาท โถ โถ น่าสงสาร(ตัวเอง)ออกเดินหาอยู่ 2วัน กำเงิน 30บาทจนเหงื่อโชกจะซื้อของอะไร ถูก ดูดี มีประโยชน์ เพิ่มคุณค่าทางใจ ให้ก้บผู้รับ ยากมั้ยคะ เอาเป็นว่าที่อ้อนมาทั้งหม ดนี้ก็จะขอเป็น 40บาท ได้มั๊ยคะ พี่ -น้อง ผนส.3 ขอบคุณคะ สวัสดี (พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงาน)

ขอบคุณ..พี่จิ๋น ที่แนะนำ ที่ผมเขียนขึ้น blogนี้ เป็นตัวอย่างรางวัลที่สุดของรุ่น รับรองมีsurprise แน่ ! ขอบคุณพี่แจ้ มาก ๆ ที่ส่งประเภทรางวัลที่สุดมาร่วมในรายการ ขอพี่โชคดี ได้ลุ้นรางวัล หัวกุ้งมังกรฝังมุกของแท้จากจีน นะครับ

ผนส.๓ สามารถส่งชื่อรางวัลประเภทที่สุดได้ถึงวันที่ ๒๒ เมษายน ๕๒รางวัลประเภทที่สุดของรุ่นจำนวน ๕ ชื่อ/รางวัล กองประกวด จะหารือนอกรอบเพื่อคัดเลือกชื่อประเภทที่สุดแล้ว จะนำแมวสีขาวบริสุทธิ์ ไปมองหาผู้สมควรตกกะไดพลอยโจน ที่สุดของ ผนส.๓ ต่อไป

สวัสดีค่ะ

น่าอิจฉาพี่ๆข้าราชการที่ได้วันหยุดติดต่อกันหลายวัน แต่อย่าลืมออกไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อช่วพื้นฟูเศรษฐกิจชาตินะคะ ในส่วนของสกต.อ่างทอง ก็ได้ช่วยเหลือสมาชิกเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพราะว่าก่อนและหลังสงกรานต์โรงสีส่วนใหญ่จะหยุดรับซื้อข้าวเปลือกทำให้ราคาข้าวต่ำ ราคาเงินสดอยู่ประมาณ 8,000- 9,000 บาท/ตัน แล้วแต่สภาพข้าวและความชื้น ทางสกต.ได้รวบรวมจากสมาชิกเพื่อจำนำซื้อในราคา 10,000 - 10,600บาท/ตัน ก็เป็นการช่วยชาติได้วิธีหนึ่ง

ต้องขอขอบคุณพี่แจ้ที่มีปรัชญาชีวิตมาฝากเรื่อยๆ เพราะตัวเองไม่ค่อยชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ที่ต้องถามถึงอีกคนคือ กำนันบ้านนอก หายไปไหนหลายวันแสดงความคิดเห็นหน่อย

คงจะเป็นคนเดียวที่ติดต่อเพื่อน้อยที่สุด แต่ในใจลึก ๆ คิดถึงทุกท่านทุกคน

สวัสดีชาว blog ผนส 3 ทุกท่าน

หลังจากสงครามกรุงเทพฯ สงบลง หลาย ๆ ท่านก็เข้ามาใน blog ก็ดีใจจริงๆ ครับที่ทุกคนอยู่รอดปลอดภัย พี่น้อย..ได้ข่าวว่าซื้ออาหารแห้งมาตุนไว้ในบ้าน กะว่าจะให้กินได้ถึงครึ่งเดือนใช่ไหมครับ ไม่รู้น้ำหนักหดหายไปบ้างไหม"เป็นห่วง"

เจอกันครั้งต่อไป วันที่ 22 ด้วยความคิดถึง ผนส 3 ทุกคนครับ

เรียน  อาจารย์ และผนส 3 ทุกท่าน

         เข้ามาในบล๊อกวันนี้ดีใจที่เห็นทุกคนเข่ามาเยี่ยมในบล๊อกกันหลายคน และเห็นสถิติแล้วเลขหลักสี่พันกว่าแล้ว ก่อนจนหลักสูตรน่าจะได้สักห้าพันน่าจะดี
         เข้ามาในบล๊อกไม่ทราบใครมีความเคลื่อนไหวเรื่องอะไรบ้าง โครงการสัมนาใหญ่วันที่ 24 ไม่ทราบได้ผู้เข้าร่วมกี๋คนแล้ว สำหรับของผมและคุณประจวบที่รับไว้ โอเค ได้ตามโคต้า แต่ก็มีปัญหาเมื่อเขาไปแล้วด้วยกันตามที่ชวนไป เมื่อสัมนาเส็รจเรามีงานเลี้ยงช่วงกลางคืน แล้วทิ้งเขาไว้น่าเกลียดไหม  หากชวนไปร่วมงานก็ลำบากใจ
         แล้วเรื่องการแต่งกายในช่วงครั้งสุดท้ายทั้งสามวันแต่งกายอย่างไร ผมลืมแล้ว ใครจำได้ช่วยบอกหน่อย

       ขอบคุณครับ

สวัสดี ผนส.3

เรื่องการแต่งกายวันที่ 23 เม.ย ใส่เสื้อสีม่วง วันที่ 24 ชายเสื้อเชิ้ตผูกเน็คไทใส่สูท หญิงเสื้อยืดสีขาว/สูท ค่ะ คุณสุทิศอย่าลืมของที่ฝากซื้อนะคะ ขอขอบคุณส่วงหน้ามา ณ.โอกาสนี้

นั่งทำงานเมื่อยล้าพอตกบ่ายแก่ๆ ทุกวันไม่รู้ไปอะไร คิดถึง " กำนันนัด " ขึ้นมาจากใจ ต้องรีบไปชงกาแฟ " กำนันนัด " มาค่อยๆ จิบไปได้ซักพักก็รู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันทีทันได้ สมองโปร่งใสทำงานต่อไป 5 ทุ่ม 2 ยาม สบายมาก นี่ถ้าหมดแล้วไปซื้อเองเกรงจะไม่ขลังเพราะไม่มีกลิ่น " กำนันนัด " จะทำยังไงดีจ๊ะ ไม่บอกหลอกเป็นใคร ถ้าจะเอามาแจกอีก ก็จะแสดงตัวนะ...จะบอกให้ .........ของเขาดีจริงๆนะ "กำนันสุพรรณ"

เรียน อาจารย์ และผนส 3 ทุกท่าน กำนันบ้านนอก ต้องขออภัยที่ไม่ได้แสดงตัวใน blog แต่ดูทุกวันยังรักและคิดถึงผนส.3 ทุกคน

บางเรื่องที่เราไม่รู้
บางที อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้ เช่น


  
 


  

·         โคคาโคลา เดิมมีสีเขียว

·         ชื่อที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก คือ โมฮัมมัด

·         ชื่อของทุกทวีปมีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกกับตัวสุดท้ายเป็นตัวเดียวกัน

·         กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายของเราคือลิ้น

·         ชาวอเมริกันมีเครดิตการ์ดโดยเฉลี่ยคนละ 2 ใบ

·         คำว่า TYPEWRITER เป็นคำที่ยาวที่สุดที่พิมพ์โดยใช้แป้นพิมพ์แถวเดียวกัน


  

  


  

·         ผู้หญิงกะพริบตาประมาณ 2 เท่าของผู้ชาย

·         คุณไม่สามารถฆ่าตัวตายโดยการกลั้นลมหายใจ

·         คุณไม่สามารถเลียข้อศอกตัวเองได้

·         ผู้คนจะอวยพรกันว่า 'Bless you' เมื่อเกิดการจาม เนื่องจากการจามแต่ละครั้ง จะทำให้หัวใจหยุดเต้นประมาณ 1 มิลลิวินาที

·         ด้วยสรีระของหมู ทำให้มันไม่สามารถมองท้องฟ้าได้

·         ประโยค 'sixth sick sheik's sixth sheep's sick' ถือว่า เป็นประโยคที่ทำให้ลิ้นพันกันมากที่สุด ในภาษาอังกฤษ

·         ถ้าจามแรงมากเกินไป อาจทำให้คุณซี่โครงหักได้ แต่ถ้าคุณกลั้นการจามไว้ จะทำให้หลอดเลือดที่ศีรษะหรือคอโป่งออกจนเสียชีวิตได้

·         ตัวคิงบนหน้าไพ่เป็นตัวแทนกษัตริย์ในประวัติศาสตร์ ได้แก่ คิงโพดำ คือกษัตริย์เดวิด
คิงดอกจิก คือกษัตริย์อเล็กซานเดอร์หาราช คิงโพแดง คือกษัตริย์ชาลีมาน คิงข้าวหลามตัด คือ กษัตริย์จูเลียส ซีซาร์


  

 


  


  


  


 


  

·         ผลคูณ 111,111,111 x 111,111,111 = 12,345,678,987,654,321

·         ถ้ารูปปั้นในสวนสาธารณะเป็นรูปคนขี่ม้าที่ยกสองขาหน้าขึ้นบนอากาศ แสดงว่าคนนั้นเสียชีวิตในสงคราม แต่ถ้าม้ายกขาหน้าขึ้นข้างเดียว คนนั้นเสียชีวิตจากการบาดเจ็บในสงคราม และถ้าม้ายืนอยู่บนขาทั้งสี่ คนผู้นั้นเสียชีวิตเองตามธรรมชาติ

·         อุปกรณ์ที่ใช้กันทั่วไป อย่างเสื้อกันกระสุน บันไดหนีไฟ ที่ปัดน้ำฝน และเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ประดิษฐ์ขึ้นโดยสุภาพสตรี

·         คำถาม อาหารอย่างเดียวที่ไม่เคยเสีย คืออะไร
คำตอบ - น้ำผึ้ง


  

 

  


  


 


  

·         จรเข้ไม่สามารถแลบลิ้นออกมาจากปากได้

·         ทากสามารถจำศีลได้นาน 3 ปี

·         หมีขั้วโลกทุกตัวถนัดซ้าย

·         สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์สามารถประหยัดเงินไปได้ 40,000 เหรียญ จากการตัดมะกอก 1 ลูก ออกจากเมนูสลัดที่เสิร์ฟในที่นั่งชั้นหนึ่ง

·         ผีเสื้อชิมรสอาหารด้วยตีนของมัน


  

·         ช้างเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ไม่สามารถกระโดดได้

·         เป็นเวลา 4000 ปีมาแล้ว ที่คนเราไม่มีสัตว์เลี้ยงชนิดใหม่เพิ่มขึ้นมา

·         โดยทั่วไป คนจะกลัวแมงมุมเกินกว่าความน่ากลัวของมัน

·         เชคสเปียร์ เป็นผู้สร้างคำว่า 'assassination' และ 'bump'.

·         Stewardesses เป็นคำที่ยาวที่สุด ที่พิมพ์สัมผัสโดยใช้แต่มือซ้าย

·         ถ้าไม่ถูกยาฆ่าแมลง มดจะตกลงพื้นโดยลงทางด้านขวา


  

  


  

·         เก้าอี้ไฟฟ้าประดิษฐ์ขึ้นโดยทันตแพทย์

·         การบีบตัวของหัวใจของคน สามารถทำให้เกิดความดันเพื่อขับเลือดไปทั่วร่างกาย แรงดันนี้สามารถทำให้เลือดให้พุ่งไปได้ไกล 30 ฟุต

·         หนูขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ในเวลา 18 เดือน หนู 2 ตัว สามารถทำให้เกิดลูกหลานได้มากกว่า 1 ล้านตัว

·          


  

·         การสวมหูฟังเพียง 1 ชั่วโมง จะทำให้จำนวนแบคทีเรียในหูเพิ่มขึ้น 700 เท่า --- หวายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

·         ไฟแช็คประดิษฐ์ขึ้นก่อนหน้าไม้ขีดไฟ

·         ลิปสติกส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของเกล็ดปลา

·         นอกจากลายพิมพ์นิ้วมือแล้ว ลายพิมพ์ลิ้นของแต่ละคนก็แตกต่างกัน

·         สุดท้าย 99% ของคนที่อ่านเรื่องนี้ จะพยายามเลียข้อศอกตัวเอง

 

ขอแจ้งข่าวให้พี่ๆทราบนะคะ วันนี้ท่านประธานรุ่น 3 ขอเชิญพี่ๆที่อยู่ใน กทม. ร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดสัมมนาที่ครัวสหกรณ์ เวลา 5 โมงเย็น ค่ะ

ท่านประธานรุ่น 3 ช่วยแจ่งข่าวผลการประชุมให้พี่ๆเพือนๆที่อยู่ใน blog ทราบด้วยเพื่อผนส 3 ทุกท่าน ได้เตรียมความพร้อมการจัดสัมมนา

ระห่างรอผลการประชุมอา่นสาระขำของ กำนันบ้านนอก ก่อนแล้วกัน

ผู้หญิงกับภูมิศาสตร์ ผู้ชายกับผลไม้

ภูมิศาสตร์กับผู้หญิง

1. ผู้หญิงอายุ 15-20 ปี เหมือนแอฟริกา

ดินแดนที่ยังเป็นธรรมชาติ สดบริสุทธิ์

น่าตื่นตาตื่นใจ ท้าทายให้นักเดินทางท่องสำรวจไปไม่สิ้นสุด

1. ผู้หญิงอายุ 20-30 ปี เหมือนอเมริกา

ถูกสำรวจปรุโปร่งแล้ว สะดวก รู้งาน

คล่องตัว สมบูรณ์แบบที่สุด

1. ผู้หญิงอายุ 30-35 ปี เหมือนอินเดียกับญี่ปุ่น

ร้อน ลุ่มลึก และงดงาม

1. ผู้หญิงอายุ 35-40 ปี เหมือนฝรั่งเศส

ถูกสงครามทำลายย่อยยับไปแล้วครึ่งหนึ่ง

แต่ส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ยังพอมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม และเป็นที่ปรารถนา

1. ผู้หญิงอายุ 40-45 ปี เหมือนเยอรมัน

ไร้สงคราม แต่ก็ยังคงซึ่งความหวังอยู่ดี !

1. ผู้หญิงอายุ 50-60 ปี เหมือนรัสเซีย

กว้างใหญ่ สงบ

แต่เป็นดินแดน ที่ไม่มีใครอยากไปเที่ยว

1. ผู้หญิงอายุ 60-70 ปี เหมือนอังกฤษ

มีอดีตที่รุ่งเรือง รุ่งโรจน์มากก็จริง

แต่ไร้ซึ่งอนาคต

1. ผู้หญิงอายุ 70 เหมือนไซบีเรีย

ช่างแห้งแล้ง ทุกคนรู้ว่ามันอยู่ส่วนไหนของโลก

แต่ไม่มีใครหรอก ที่อยากไปเหยียบ

_____

1. ผู้ชายกับผลไม้

2. ชายอายุ 20 เหมือนมะพร้าว

เปลือกเยอะ เนื้อน้อย เรียกร้องมากมาย

แต่ไม่ค่อยให้อะไรตอบแทน

1. ชายอายุ 30 เหมือนทุเรียน

หนามแหลมคม ดูอันตราย แต่อร่อยที่สุด

1. ชายอายุ 40 เหมือนแตงโม

ลูกโต กลมกลิ้ง รอบจัด จับไม่ค่อยได้

ไล่ไม่ค่อยทัน แต่ยังให้น้ำแตงโมฉ่ำหวานชื่นใจ

1. ชายอายุ 50 เหมือนส้มแมนดาริน

ปีหนึ่งจะมีมาให้ลิ้มรสเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น

1. ชายอายุ 60+ เหมือนลูกเกด

อดีตผลองุ่น ที่ไม่มีน้ำองุ่นอีกแล้วตลอดอายุขัย

หมดน้ำยา ยู่ยี่ ดำ และเหี่ยวแห้งลงไปทุกวัน

_____

1. ผู้หญิงกับกีฬา

2. หญิง อายุ 18 เหมือนลูกฟุตบอล

ที่มีผู้ชาย 20 คน คอยวิ่งไว่ล่าเธออยู่ตลอดเวลา

1. หญิง อายุ 28 เหมือนลูกซอร์พบอล

ที่มีผู้ชาย ! 10 คน ยังคอยวิ่งไล่ล่าเธออยู่

1. หญิง อายุ 38 เหมือนลูกฮอกกี้

ยังมีผู้ชาย ! 8 คน คอยวิ่งไล่ล่าเธออยู่

1. หญิง อายุ 48 เหมือนลูกกอล์ฟ

ที่มีผู้ชาย 1 คน พยายามตีเธอ ให้ออกไปจากเขา อยู่ตลอดเวลา

1. หญิงอายุ 58 เปรียบเสมือนลูกปิงปอง

ที่ผู้ชาย 2 คน ไม่ต้องการเธออีกต่อไป

พวกเขาจึงต้องคอยตบผลักเธอให้ไปหาอีกฝ่ายตลอดเวลา

ผนส 3 ทุกท่านคงอยู่ในข้อใดข้อหนึ่งละใครอยู่ข้อไหนดูเองจะบอกใ

สัมมนา 24 เมษายน

เฉพาะผนส.3 หรือให้สหกรณ์อื่นเข้าฟังได้หรือเปล่าครับ

ผลการประชุมเมื่อวานนะคะ

1. มีผู้ตอบรับเข้าร่วมการสัมมนาแล้ว 126 คน แต่คาดว่าจะมีเพิ่มอีกในวันนี้และพรุ่งนี้ค่ะ

2. วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อค่ะ ขณะนี้กำลังรอการตอบรับมาจากท่าน ดร.จีระ

3. กำหนดการ..พี่นลทวัชได้ร่างมาคร่าวๆแล้ว คาดว่าจะได้นำเอกสารไปแจกให้พี่ๆในวันพรุ่งนี้

- รายละเอียดอื่นๆจะนำไปพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้ต่อไป

- การแต่งกาย ในวันที่ 22 และ 23 ให้แต่งกายให้สุภาพค่ะ เพราะมีการพรีเซนต์โครงการของแต่ละท่าน ส่วนวันที่ 24 กลางวัน ผู้ชายใส่สูทผูกไท ผู้หญิงใส่สูทและเสื้อรุ่นสีขาวข้างใน งานกลางคืนเสื้อสีม่วงค่ะ เนื่องจากงานเลี้ยงได้ย้ายจากวันที่ 23 มาเป็นวันที่ 24 ค่ะ

ขอบคุณพี่ชวลี กับน้องกุ้งมากๆๆๆๆๆๆที่เป็นธุระเรื่องเสื้อสูทให้นะคะ ทันเวลาพอดี

ภาพบรรยากาศ งานสัมนา "วิกฤติเศรษฐกิจโลก ผลกระทบเศรษฐกิจไทย สหกรณ์จะรับมืออย่างไร"

วันที่ 24 เมษายน 2552

สรุปการสัมมนา

วิกฤตเศรษฐกิจโลก ผลกระทบเศรษฐกิจไทย สหกรณ์จะรับมืออย่างไร

ณ ศูนย์รัชนีแจ่มจรัส  สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

วันที่  24 เมษายน 2552

 

กล่าวต้อนรับ  โดย    ศาสตราจารย์ ดร. จีระ    หงส์ลดารมภ์   เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ

 

·       ที่นี่มีศักยภาพอยู่แล้วแต่ต้องเค้นออกมา

·       ภูมิใจมากที่จะได้ฟังความคิดเห็นของผู้นำสหกรณ์

·       เราจะทำงานร่วมกันต่อไป

·       ขอขอบคุณท่านประธาน ประธานรุ่น 3 และลูกศิษย์อีก 40 คน

·       ผมเคยสอนเศรษฐศาสตร์มหภาคแบบชาวบ้านให้กับผู้นำสหกรณ์

·       สหกรณ์ยังไม่มีความเป็นเจ้าของทรัพย์สินจึงขาดความทุ่มเทดูแล ต้องเปลี่ยนทรัพย์สินให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

·       ต้องมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต ความรู้เป็นไฟฉายในถ้ำมืด

 

พิธีเปิดการสัมมนา โดย    นายมงคลลัตถ์  พุกะนัดด์ ประธานสันนิบาตสหกรณ์             

·       สภาพเศรษฐกิจโลกปัจจุบันถดถอยกระทบการเติบโตของประเทศมีผลจากการเงินและการส่งออกที่ชะลอลงมีผลต่อการบริหารงานสหกรณ์

·       สหกรณ์ต้องปรับตัวโดยใช้เศรษฐกิจพอเพียง

·       โครงการนี้จะมีประโยชน์ต่อการทำงานของสหกรณ์ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ

 

การอภิปราย เรื่อง  วิกฤตเศรษฐกิจโลก ผลกระทบเศรษฐกิจไทย สหกรณ์จะรับมืออย่างไร 

ดำเนินการอภิปราย โดย รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย

 

 

นำเสนอประเด็นโดย

 

นพ.กิตตินันท์   ไทยศรีวงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลพระปกเกล้า

จำกัด

· วิกฤติเศรษฐกิจเกิดที่สหรัฐปล่อยกู้แก่ลูกหนี้ด้อยคุณภาพ เกิดปัญหา Sub-prime

· มูลค่าสินเชื่อ Sub-prime มีมาก ส่งผลถึงไทย

· ด้านการท่องเที่ยววูบลง

· ส่งออกลดลง

· ธุรกิจแย่ลง ต้องปลดคนงานออกมาก

· GDP จะติดลบมาก

· ต่างชาติแก้เศรษฐกิจโดย 3R

· Relief เหมือนเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท

· Reinjection

· Reconstruction ปรับปรุงโครงสร้างคมนาคม

· ไทยมีสมาชิกสหกรณ์ 10 ล้านคน ส่วนมากเป็นสหกรณ์การเกษตร

· ธุรกิจหมุนเวียนคิดเป็นร้อยละ 10 ของ GDP

· สหกรณ์โดยสมาชิก เพื่อสมาชิก ร้อยละ 83 เป็นการกู้ยืมภายใน ลงทุนสินเชื่อส่วนใหญ่

· ได้กำไรจากสินเชื่อร้อยละ 90

· สหกรณ์ออมทรัพย์เข้มแข็งเพราะเงินใช้ภายในส่วนมาก

· มีทั้งภาครัฐ เอกชน วิสาหกิจ

· ออมทรัพย์ภาครัฐใหญ่ที่สุด

· เราให้สมาชิกและสหกรณ์ต่างๆกู้

· สหกรณ์ต้องดูแลการใช้จ่ายสินเชื่อสมาชิก

· แต่ NPL ออมทรัพย์ครูสูงสุด

 

· รับมือโดย

· ระวังการปล่อยสินเชื่อ อย่าขยายวงเงินหรือระยะเวลามากนัก

· ต้องมีธรรมาภิบาล

· รักษาสมดุลทางการเงิน

· ใช้เงินจากภายใน เลี่ยงการกู้ภายนอก

· รักษาสภาพคล่อง

· กันเงินสำรองให้สูงขึ้น ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10

· จัดสวัสดิการให้สมาชิก

· ตรวจสอบเข้มข้น

· ร่วมมือระหว่างสหกรณ์ด้านเงินทุน เทคโนโลยี บริหารจัดการ เครือข่าย

· ประเมินสถานการณ์ตลอด

· สร้างวินัยการเงินสมาชิกใช้หุ้นค้ำประกัน

· ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง

· ระบบสหกรณ์ยังแข็ง ถูกกระทบจากเศรษฐกิจภายนอกน้อย ปี 2540 ยังไม่มีสหกรณ์ล้ม

ดำเนินการอภิปราย โดย รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย

 

· ข้อดี มีทุนภายในมาก ยังไม่ดีตรงทุนสำรอง

นายปฏิพล เกตุรัตนัง  ประธานสหกรณ์การเกษตรนาบอน จำกัด

·       สหกรณ์ภาคเกษตรในประเทศไทยมุ่งส่งเสริมเกษตรกร โดยไม่หวังผลกำไรมาแบ่งปันกัน

·       สหกรณ์เราช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทุกปี เรามีกำไรแล้วจัดสรรไปให้สมาชิกทั้งหมดเท่ากับกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้า

·       ทุนสหกรณ์ยังมีปัญหา มีแค่ ทุนภายนอก 90,000 ล้านบาท  จากธกส.และกรมส่งเสริมสหกรณ์แต่ทุนภายในจากสมาชิกยังไม่พอ

·       สหกรณ์ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติต้มยำกุ้ง

·       สหกรณ์ต้องระดมฝากสัจจะออมทรัพย์ นำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ช่วยวิกฤติได้และขับเคลื่อนสหกรณ์ ให้สมาชิกทำบัญชีครัวเรือน

·       นโยบายรัฐมีผลกระทบต่อสหกรณ์

·       สหกรณ์ภาคเกษตรควรได้รับความช่วยเหลือจริงจังจึงจะเป็นที่พึ่งของสมาชิกได้

·       ต้องเชื่อมโยงระบบเครือข่ายธุรกิจ เช่นแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์

นายไกรฤกษ์  ดวงคงทอง    ผู้จัดการสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด

·       กรณีศึกษาสหกรณ์นิคมท่าแซะ

·       เริ่มจากศูนย์

·       ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ได้เป็นอย่างดี

·       อาชีพทำสวนปาล์มและยาง

·       ทุนดำเนินงานไม่มาก

·       แหล่งทุนมาจากการพึ่งตนเอง ไม่กู้ภายนอก

·       มีธุรกิจสินเชื่อ ขายสินค้า ปุ๋ย ปั๊มน้ำมัน

·       เน้นธุรกิจซื้อขายทำให้โตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจครบวงจร

·       เงินก็มาในรูปแบบหุ้น รณรงค์ให้สมาชิกนำเงินมาฝากที่สหกรณ์มากขึ้น

·       สหกรณ์นำเงินไปบริหารธุรกิจและเกิดผลตอบแทนที่สูงกว่าธนาคาร

·       ปัจจัยความสำเร็จจากจุดแข็งคือ

·       บุคลากร รู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง

·       ต้องถามเจ้าของในการทำธุรกิจ

·       ต้องพึ่งตนเองทุกด้าน ไม่ต้องรอภายนอก

·       สร้างอำนาจต่อรองในการทำธุรกิจ

·       บริหารธุรกิจแบบมีประสิทธิภาพ สร้างภาพลักษณ์ให้ดี

·       วางระบบธุรกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีตัวชี้วัดให้เดินไปได้อย่างต่อเนื่อง

·       นำระบบประชาธิปไตยมาใช้ เลือกตั้งกรรมการแบบเข้าคูหากาบัตร

·       วางระบบตรวจสอบภายในเข้มแข็ง

·       สมาชิกไวต่อข่าวสารสนใจสหกรณ์มาก

·       มีระบบธรรมาภิบาล

·       ให้สมาชิกมีส่วนร่วม

·       บริหารเชิงกลยุทธ์

·       ใช้ระบบสารสนเทศ

·       ทำธุรกิจครบวงจร ต้องหาวิธีเพิ่มผลผลิตต่อไร่มากขึ้น

·       จัดสวัสดิการให้ดี

·       จัดชั้นสมาชิก ให้มีความเสมอภาค แต่จะมีปัญหาทำให้คนดีท้อ จึงจัดให้คนดีได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า

ดำเนินการอภิปราย โดย รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย

พวกเรารุ่น 3 เห็นพ้องต้องกันว่า Co-ops Go Speed

Co-ops (Cooperatives)                  สหกรณ์

Good Governance                         ธรรมาภิบาลที่ดี

Sufficiency Economy                     เศรษฐกิจพอเพียง

Principles                                      หลักการสหกรณ์

Experience                                    ประสบการณ์

Evaluation                                     ติดตาม ประเมินผล

Development                                  การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

พวกเราจะเป็นคลินิคสหกรณ์ช่วยสหกรณ์เล็ก

ร่วมแสดงความคิดเห็นโดย ศาสตราจารย์ ดร. จีระ    หงส์ลดารมภ์ 

ประธานดำเนินการอภิปราย และเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากร

มนุษย์ระหว่างประเทศ

·       ผู้นำต้องทำอะไรยาก กล้าหาญ คิดเป็นยุทธศาสตร์

·       สหกรณ์ต้องเข้มแข็งก่อน แม้รัฐจะไม่ใช้สหกรณ์กระตุ้นเศรษฐกิจ

·       รุ่น 3 ก็พยายามปรับตัวให้เข้มแข้งขึ้น

·       งานครั้งนี้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้สหกรณ์

·       ในอนาคตจะต้องพัฒนาต่อไป

ดร.คณิศ  แสงสุพรรณ  ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง

·       ผมดีใจมากที่ได้อาจารย์จีระมาดูแลโค้ชพวกท่าน

·       ผมดีใจที่อาจารย์จีระยึดมั่นในการสร้างคน ต้องใช้เวลา ค่อยเป็นค่อยไป

·       ขบวนของอาจารย์จีระมีการปรับปรุงตลอดเวลา ขอให้นำวิธีโค้ชแบบนี้ไปใช้

·       การประเมินการเสี่ยงการเงินโลกเกิดความผิดพลาดทั้งหมด เพราะแย่กว่า Sub-prime

·       ธปท.บอกว่า เศรษฐกิจ-1ถึง -3.5

·       เศรษฐกิจเป็นศูนย์จะรับแรงงานไม่ได้เลย

·       เศรษฐกิจครั้งนี้ร้ายแรงกว่าคราวก่อน

·       เศรษฐกิจไทยส่งออกไม่ได้ ท่องเที่ยว รถยนต์ อิเลคทรอนิกส์ ได้รับผลกระทบ

·       แปลกที่สหกรณ์ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ

·             องค์กรที่เชื่อมชุมชนเพราะไม่โตมากแต่ไม่ถูกกระทบมาก ใกล้คิดลูกค้ามากกว่า เข้าใจความเป็นจริง

·             ระบบสหกรณ์เป็นไมโคร ระบบการเงินมีการบริหารความเสี่ยงที่ต่างกัน

·             สหกรณ์ออมทรัพย์ให้สมาชิกกู้ ร้อยละ 70 โดยผู้กู้นำไปใช้หนี้และใช้จ่ายส่วนตัวร้อยละ 60

·             ระบบสหกรณ์คือระบบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง

·             เศรษฐกิจสวิสอยู่ได้เพราะระบบสหกรณ์

·    สหกรณ์ท่าแซะพูดถึงการเชื่อมโยงซึ่งสำคัญ ต้องอ่านข้อมูลสหกรณ์อื่นเป็น ต้องบริหารความเสี่ยง บริหารเงินสดให้ดี

·       เวลาดู สหกรณ์ต้องดู

·             ขนาดของสหกรณ์

·             เงินช่วยเหลือกัน เป็นฐานให้เข้มแข็ง

·             ความเชื่อมโยงกับภาครัฐ ไม่ควรให้มีมากนัก ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพ

 

ศาสตราจารย์ ดร. จีระ    หงส์ลดารมภ์  ประธานดำเนินการอภิปราย

และเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ

·       ดร.คณิศและดร.กอบศักดิ์ต้องมาช่วยกันพัฒนาผู้นำ

·       ควรมีข้อมูลที่ถูกกว่า

·       ศักยภาพสหกรณ์การเกษตรมีตัวอย่างอยู่แล้ว

 

·       ในวิกฤติเศรษฐกิจ สหกรณ์ควร

·             ดูแลตนเองให้เข้มแข็ง

·       ทำอะไรบางอย่างให้ดี เช่น การจ้างงาน สหกรณ์ไปร่วมมือแบบเสมอภาคกับกระทรวงแรงงาน อย่ากลัวข้าราชการ

·    ดร.กอบศักดิ์ทำวิจัยและพบว่า สหกรณ์ควรดูแลทั้งเรื่องเงินและเรื่องคน ควรดูแลเด็กเล็กให้ได้รับอาหารถูกต้องตามหลักโภชนาการ

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล  ผู้บริหารทีมนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย       

·       สหกรณ์เป็นความหวังของประเทศในการบริการทางการเงิน โดยเฉพาะในชนบท

·       ปัญหาวิกฤตการเงินโลก

·             ลึกซึ้งและรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี

·             ส่งผลกระทบให้คนตกงาน ลูกค้าไม่มีกำลังซื้อ

·             สหกรณ์ก็ได้รับการกระทบจากเศรษฐกิจเพราะราคาพืชผลตก

·             ต้องมีความพอเพียงจะทำให้ผ่านวิกฤติไปได้ดี

·             สหกรณ์เป็นองค์กรทางการเงินที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด

·       ขั้นต่อไปของสหกรณ์ในการพัฒนาสหกรณ์

·             สร้างความเข้มแข็ง

·             องค์กร ทำให้สหกรณ์เข้มแข็งมีระบบต่างๆที่ดีเท่าเทียมกัน ทำให้บริการประชาชนดี

·             หัวใจคือผู้นำ เคยไปถามผู้นำชุมชนอุดร เขามีผู้นำที่ดีทำให้เจริญ ต้องสร้างผู้นำและนำเขามาพบกัน

·             ระบบบัญชีต้องดี

·             ความเชื่อมโยง

·       ระหว่างสถาบันที่ดีและสถาบันที่ไม่ดี ให้คนเก่งไปเผยแพร่ความรู้ไปยังคนไม่เก่ง ควรจัดประกวดค้นหาสหกรณ์ต้นแบบ แล้วให้ผู้อื่นไปศึกษาและพัฒนาสหกรณ์ของตน

·             ระหว่างสหกรณ์ การกู้ระหว่างสหกรณ์ ป้องกันความเสี่ยงในการค้ำประกันส่วนตัว

·             ระหว่างกันในสันนิบาตสหกรณ์

·             กับสถาบันการเงิน ให้สหกรณ์เป็นช่องทางนำผลิตภัณฑ์ธนาคารมาให้ลูกค้า

·       ลูกค้า

·       ต้องพัฒนาให้เป็นลูกค้าที่ดี พัฒนาความรู้ทางการเงินให้ลูกค้ารากหญ้า มีนิสัยการออม ฝึกการทำบัญชี พึ่งตนเอง เน้นเศรษฐกิจพอเพียง

·       การนำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ใช้จ่ายอย่างมีสติ พอประมาณ

·       สหกรณ์คือคำตอบ ต้องไม่ยอมแพ้ ต้องทำองค์กรเข้มแข็ง ขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเจริญ

กล่าวปิดการสัมมนา โดย ดร.จีระ

• สหกรณ์ควรมีอิทธิพลต่อประเทศมากขึ้น

• สหกรณ์ต้องมีเครือข่ายมากขึ้น เปิดโลกทัศน์ไปสู่คนนอกมากขึ้น ควรมีการกระจายข้อมูล

• คนเก่งก็ต้องไปช่วยคนไม่เก่ง

• ขอขอบคุณทุกท่าน

สหกรณ์ออมทรัพย์กรมที่ดิน

หัวใจคือให้ความรู้ทุกคน จะทำอย่างไรให้เข้าถึงทุกชุมชนได้

·       บางทีคนมาเป็นสมาชิกสหกรณ์แต่ไม่รักหลักการสหกรณ์ บางคนไม่ได้ปันผล

·       ขอบคุณรุ่น 3 จัดงานนี้

·       สหกรณ์พร้อมจะขับเคลื่อน

·       เจ้าหน้าที่รัฐเข้าใจสหกรณ์

·       อุปสรรคการดำเนินงานของสหกรณ์คือ ภาครัฐ (ธนาคารออมสิน)ไม่ให้สมาชิกสหกรณ์กู้

·       ควรทำให้สหกรณ์ทำธุรกรรมอื่นๆได้จะเพิ่มความเข้มแข็ง เช่นทำประกันชีวิต

·       กระทรวงพาณิชย์ไม่รู้จักร้านสหกรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ไม่ประสานงานกันจึงทำให้ร้านต่างชาติบีบสหกรณ์เล็กลง

ประมาณ (ประธานสอ.มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี)

·       สหกรณ์ผมประสบความสำเร็จพอควร

·       ขอชื่นชมสันนิบาตสหกรณ์ที่ได้จัดงานนี้

·       ได้ความรู้มากแต่ข้อมูลเอกสารน้อยไปหน่อย

·       ผมเชื่อมั่นและศรัทธาสหกรณ์

·       เศรษฐกิจโลกทุนนิยมมีปัญหามาก

·       สหกรณ์ต้องบอกคนอื่นว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลกได้

·       สหกรณ์ช่วยเหลือให้คนกินดีอยู่ดี เป็นแหล่งเงินที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดสำหรับคนทุกชนชั้น

·       เรามีสมาชิกสหกรณ์ 10 ล้านคน คิดเป็นน้อยกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด

·       ควรให้คนเป็นสมาชิกสหกรณ์มากขึ้น

·       โครงการนี้เป็นของผู้นำสหกรณ์ ขอให้ผู้นำนำชุมชนตั้งเป็นกลุ่มออมทรัพย์มีระบบบริหารคล้ายสหกรณ์

 

·       ชื่นชมรุ่น 3 ที่ทำระบบนี้ขึ้นมา เป็นมิติใหม่เปิดโลกกว้าง

·       ระบบสหกรณ์และเศรษฐกิจพอเพียงสำคัญ

·       สหกรณ์ยั่งยืนเพราะมีความร่วมมือกันและระบบแข็งแกร่ง

·       ชื่นชมสหกรณ์นิคมท่าแซะที่ทำครบวงจร

·       ต้องมองตัวเองให้เข้มแข็ง ร่วมมือกันแล้วจะเข้มแข็ง

·       สหกรณ์มีประโยชน์สูงมาก เราก้าวช้าแต่ไปได้ดี

·       ขอบคุณวิทยากรทุกท่านที่ให้ความรู้ อาจารย์จีระที่ให้ข้อคิด ประธานรุ่น 3 ที่จัดงานนี้

 

·       สหกรณ์มีระบบการบริหารและข้อบังคับที่ต่างกัน มีวิธีการอย่างไรนำความต่างมาพัฒนาเป็นระบบเพื่อร่วมมือกัน

·       สหกรณ์ต้องวิ่งคู่ขนานระหว่างธุรกิจที่ทำกับสังคม

·       ในเรื่องข้อมูลสหกรณ์ท่านรู้ดีที่สุด อย่าเอาคนนอกมาแก้ปัญหาสหกรณ์ แต่ค่อยๆช่วยกันทำไป

·       สหกรณ์มีการพัฒนาตนอยู่แล้ว ในการนำภาครัฐมาเกี่ยวข้องต้องดูเงื่อนไขให้ดี

·       ถ้าทำอะไร ก็ต้องบริหารความเสี่ยง

·       สหกรณ์เป็นทางออกหนึ่งที่จะเป็นคู่ขนาน การเพิ่มสมาชิกต้องมาด้วยใจไม่ใช่บังคับ

·       ความร่วมมือจากความต่างของสหกรณ์ ต้องทำให้เป็นระบบเดียวกันก่อน อย่าไปใส่ข้อบังคับ แต่ให้เป็นหลักการที่ยืดหยุ่นร่วมมือกันได้

·       ความคิดเขาเป็นประโยชน์

·       เราต้องสร้างเครือข่ายตลอดเวลา

·       การให้ความรู้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

·             ในประเทศอังกฤษถือว่าความรู้สหกรณ์เป็นหลักสูตรบังคับ คนที่เรียนจะมีเงินออมไม่ต่ำกว่า 4 ล้าน

·             การออมคือทัศนคติ ควรออมก่อนใช้

·             สหกรณ์ควรให้ความรู้ทางการเงิน

·       ความร่วมมือเป็นเรื่องยากแต่เริ่มจากกลุ่มผู้นำพอทำได้แล้วรับสมาชิกเพิ่ม

·       ความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ให้คนกินดีอยู่ดี ควรทำสวัสดิการให้ดี ก็ได้ ปันผลดี

·             สหกรณ์ไม่ควรทำตัวเป็นปัญหาแก่สมาชิกเหมือนบัตรเครดิตและระบบเงินด่วนต้องออกผลิตภัณฑ์ที่นำไปสู่ความพอเพียงไม่สร้างหนี้สิน

รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์

·       ขอบพระคุณท่านวิทยากร

·       ทำให้ทราบว่า สหกรณ์ต้องสร้างความเข้มแข็งและร่วมมือ

·       อยากให้สหกรณ์มีความเพียร อดออม

เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ พร้อมที่จะเผยแพร่เพราะขบวนการสหกรร์

ควรปลูกฝัง หลักการ วิธรการ อุดมการณ์สหกรณ์ให้แก่เยาวชนด้วย เพื่อเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน

[email protected]

สนง.สกจ.สระบุรี

 

  • ได้รับทราบมุมมอง แนวคิดของสหกรณ์กับเศรษฐกิจในการปรับตัว
  • ได้ความรู้มากส่วนที่ไม่เคยมี และต้องมีความเข้มแข็ง ทำจริง และสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง

[email protected]

โทรศัพท์ 083-488-7474, 0-2315-3456 ต่อ 2256

แฟ็กซ์ 0-2315-3334

 

นางอัจฉรัตน์ ศรีวิชัยรัตน์

เรื่องสหกรณ์เกี่ยวกับ "วิกฤติเศรษฐกิจโลก ผลกระทบเศรษฐกิจไทย สหกรณ์จะรับมืออย่างไร"

จากผลการเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้มีประโยชน์มาก อย่าถามว่ากรณีที่ธนาคารออมสินเข้ามาปล่อยกู้กับสมาชิกสหกรณ์และให้ข้อเสนอที่ดีกว่าของสหกรณ์โดยให้กู้ถึง 50 เท่า ทำให้สมาชิกลาออกจากสหกรณ์ไปกู้ธนาคารออมสิน และอีกไม่นานก็กลับมากู้สหกรณ์อีก เราจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อจะมีมาตรการอย่างไรไม่ให้สมาชิกลาออกจากสหกรณ์และไม่ใช้จ่ายเกินตัว ส่วนใหญ่แล้วจะใช้จ่ายเกินตัว

นางอัจฉรัตน์ ศรีวิชัยรัตน์

รองผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์สำนักข่าวกรองแห่ชาติจำกัด

0-2628-6775

  1. การมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสหกรณ์
  2. ความรู้สึกเป็นเจ้าของระหว่างสหกรณ์และสมาชิก
  3. กฎหมายสหกรณ์ที่ไม่เอื้อในการบริหารและการจัดการ
  4. การมีส่วนร่วมระหว่างสหกรณ์และสหกรณ์
  5. การมีธรรมาภิบาลในองค์กร
อัฑฒ์อารัก บริวัตรอิงครัต (สอ.การประปาส่วนภูมิภาค)

การพัฒนาระบบสหกรณ์ 9 ให้มีความสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกได้อย่างไร

ใช้สหกรณ์ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็งในระดับที่น่าสนใจ เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาการดำรงชีพ ในสภาพการณ์ปัจจุบัน ให้เหมาะสมกับตนเอง

ประโยชน์ที่ได้รับจากการสัมมนาในครั้งนี้

การสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กร คือการพัฒนาบุคลากรให้มีความ รู้ เข้าใจเรื่องหลักการวิธีการของสหกรณ์เพื่อพัฒนาให้สหกรณ์เข้มแข็งมากขึ้น

น.ส.สุวรรณี วันหมัด (สกก.หนองจอก) 081-6822443

สิ่งที่ได้รับประโยชน์

1. การขับเคลื่อนงานสหกรณ์ ให้เกิดผลสำเร็จต้องเกิดจากคนที่มีใจให้กับสหกรณ์

2. การสร้างความเชื่อมั่น ในระบบสหกรณ์

3. สหกรณ์เป็นสถาบันกองทุนเลี้ยงชีพระยะยาว

4. ระบบการสร้างเครือข่าย

 

  • การนำพาสหกรณ์ให้พ้นสภาวะดอกต่ำและสมาชิกอยู่รอดได้
  • อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน/ออม

สอ.การประแส่วนภุมิภาค

โทร. 0-2551-8930-3

[email protected]

นายสุวิทย์ วัฒนานคร

การสร้างความเชื่อมโยงกันระหว่างสหกรณ์ต่างๆ หรือสหกรณ์ที่เข็มแข็งช่วยเหลือสหกรณ์ที่อ่อนแอ เช่นการจัดการและด้านการเงิน

นายสุวิทย์ วัฒนานคร

089-6988206

สหกรณ์จะสามารถอยู่ได้ต้องสร้างเครือข่าย ทุกธุรกิจ

เรื่องสหกรณ์กับการออมของสมาชิกเป็นสิ่งที่สำคัญมากซึ่งสามารถที่จะทำให้สหกรณ์และสมาชิกเข้มแข็ง

1. อยากให้สหกรณ์เป็นองค์กรที่มั่นคงความศรัทธา เชื่อมั่นให้สมาชิกตลอดไป

2. สหกรณ์การเกษตรพนมวังก์ จำกัด เป็นองค์กรธุรกิจของสมาชิกสหกรณ์ให้มั่นคงที่สุดและตลอดไป

ขอบคุณค่ะ

มีประโยชน์มาก เป็นการเพิ่มความรู้ด้านเศรษฐกิจ ด้านสหกรณ์ ทุกประเภท แต่เน้นการเกษตร นิคม ออมทรัพย์ สำหรับเศรษฐกิจโลก ที่ย่ำแย่ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเมืองไทย แต่สหกรณ์จะรับมืออย่างไร มีน้อย อยากให้ชี้แจงมากกว่านี้ เพื่อให้สหกรณ์เตรียมรับสถานการณ์

กัญญา วิเชียรศิลป์

การเชื่อมโยงของแต่ละสหกรณ์สามารถทำได้ แต่การเชื่อมโยงข้ามสหกรณ์ เราจะดูได้อย่างไรว่าสหกรณ์ที่เราเชื่อมโยงนั้นมีความมั่นคงได้มากน้อยแค่ไหน

0-2533-1208-16 ต่อ 355

การรู้เขารู้เรา คือ รู้ปัญหา-รู้ทางแก้-รู้วิธีป้องกัน

ข้อเสนอแนะ

ต้องการให้ผู้นำสหกรณ์รุ่น 3 ช่วยให้ความรู้แก่กรรมการสหกรณ์ใหม่ ให้เข้าใจหลักการสหกรณ์ที่แท้จริง ทุกๆ สหกรณ์จะทำให้สหกรณ์เข้มแข็ง

ให้เตรียมตัวระวังในด้านต่างๆของสหกรณ์คือ

  • ระวังเรื่องคน
  • ระวังเรื่องเงิน
  • ระวังเรื่องงาน

ปัญหาของสหกรณ์ไทย

อยู่ที่กรมส่งเสริมไม่ส่งเสริมและนโยบายของรัฐบาลที่ไม่สนับสนุนเพราะเกรงว่าสหกรณ์จะไปแย่งลูกค้าธนาคารที่สนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆอยู่

สหกรณ์เป็นสหกรณ์ที่บริหารโดยตนเองโดยสร้างความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกให้ประสบความสำเร็จ ทำให้ชุมชนนั้นเข้มแข็ง

สหกรณ์การเกษตรต้องการความรู้และการแก้ปัญหาในการประกอบอาชีพ

การมีผู้นำที่ดีเห็นด้วย แต่หาไม่ได้ง่ายเพราะหาเองไม่ได้เมื่อมีภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง

วิทยากรให้ความรู้เข้าใจดี พร้อมจะนำไปปฏิบัติในประเด้นการอบรมให้สมาชิกรู้จักตัวเองมากขึ้น

ข้อมูลที่มีประโยชน์มากที่สุด

  1. การบริหารสหกรณ์ที่ดีและการบริหารบุคคลของสหกรณ์
  2. เศราฐกิจพอเพียงนำมาใช้ร่วมกับสหกรณ์
  1. ต้องให้กรมส่งเสริมสหกรณ์สนับสนุนสหกรณ์อย่างแท้จริงและยั่งยืน
  2. มีวิธีการอย่างไรท่จะให้สหกรณ์ได้ส่งผลผลิตทางการเกษตรที่รวบรวมจากเกษตรกรส่งโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านมือพ่อค้าคนกลาง
  1. ทำสหกรณ์ที่รับผิดชอบอยู่ให้เข้มแข็ง
  2. สร้างพันธมิตรไว้พึ่งพาอาศัยกัน

พอใจคำว่าพอเพียงและไม่สร้างหนี้

"การล่มสลายของทุนนิยม ที่ใช้ทรัพยากรอย่างไม่จำกัดและเป็นโอกาสของสหกรณ์ได้มีบทบาทมากยิ่งขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเน้นอยู่บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"

สิ่งที่คิดว่ามีประโยชน์คือ

การให้ความรู้แก่คน เพราะผมถือว่าคนคือหัวใจสำคัญที่สุดของทุกอย่างในระบบโลกนี้ ถ้าคนมีความรู้ที่ดี ผลงานออกมาก้ต้องดีตามไปด้วย

การพัฒนาผู้นำสหกรณ์ให้มีความรู้ความสามารถนำไปสู่การพัฒนาในระบบสหกรณ์

  • การให้ความรู้กับกลุ่มคนทุกคนที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและอนาคต
  • จิตสำนึกต่อหน้าที่
  • ควรมีการทำอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน ตรงกัน

ประโยชน์ที่ได้จากการสัมมนา

สหกรณ์ที่เข้มแข็งจะเป็นที่พึ่งของตัวเองอละเพื่อนสหกรณ์ต่างๆได้

การฟังการอบรมสัมมนาครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อสหกรณ์ดังนี้

  • เป็นหลักการในการบริหารสหกรณ์ควรทำไปปฏิบัติต่อสหกรณ์ให้เกิดประโยชน์ด้วยดี
กฤษณา นาสนม (สอ.ผป.ขสมก.จำกัด)

ประโยชน์ที่ได้จากการอบรมในวันนี้

ได้เข้าใจว่า การที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่วิกฤติ สหกรณ์จะต้องรู้จักวิเคราะห์ลูกหนี้ว่าเป็นลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติที่รบถ้วนหรือว่าเป็นลูกหนี้หรือสมาชิกผู้นั้นจะมากู้เงินกับสหกรณ์

การพัฒนาองค์กรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ต้องเริ่มที่การพัฒนาบุคลากร ประทับใจ "สหกรณ์นิคมท่าแซะ"

สหกรณ์ เอส เอส เค กลการ จำกัด

ได้รับความรู้ต่างๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เกี่ยวกับการทำให้สหกรณ์และสมาชิกเข้มแข็ง

วิกฤติเศรษฐกิจโลก เป็นโอกาสของสหกรณ์เพราะ ธนาคารลดดอกเบี้ยเงินฝากมาก ทำให้เงินจากธนาคารไหลเข้าสหกรณ์ ทำให้สหกรณ์ฯ เติบโตมั่นคงดียิ่งขึ้น

การที่อาจารย์เสนอแนวคิดจะรวบรวมเสิมสหกรณ์ ดังนั้นขบวนการสหกรณ์อาจทำให้สหกรณ์เปลี่ยนการดูแลจากกระทรวงเกษตรฯเป็นกระทรวงการคลังหลายๆอย่างอาจไม่ได้รับการยกเว้นจากภาครัฐ ควรทำชุมนุมสหกรณ์ให้เป็นตัวอย่างเสมือนธนาคาร ปัจจุบันนี้ ชุมนุมฯทำลักษณะนี้อยู่แล้ว

สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ มร. จำกัด

การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ออมก่อนใช้ ทำบัญชี ค.ช.จ. ทุกครั้ง เป็นข้อคิดที่ย้ำเตือนให้ทุกคนไม่ขึ้นอยู่กับความประมาท

ขอบคุณค่ะ

ศศิมาศ พรรณรัตน์ (ประธานผู้ตรวจสอบกิจการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์)

ความเชื่อมโยงระหว่างสถาบัน

081-813-8369

1. ให้สมาชิกเห็นความสำคัญกับสหกรณ์

2. สมาชิกเข้ามาโดยความแอบแฝง จะทำอย่างไร

3. ภาครัฐไม่เห็นความสำคัญของสหกรณ์ฯ

4. ได้ความรู้ในการออมทรัพย์

5. ให้มีความอดทน

สดศรี สมพันธ์ 081-849 1865

ประธานสหกรณ์โบ๊เบ๊ เฉลิมพระเกียรติ จำกัด

นางปานจันทร์ ภุมภิโร 081-2568934

ทำอย่างไรที่จะทำให้บุคคลอื่น เข้าใจระบบสหกรณ์อย่างง่ายและเข้าใจและจะทำตัวอย่างไร

สหกรณ์โบ๊เบ๊เฉลิมพระเกียรติ จำกัด

ขบวนการสหกรณ์สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลกได้ ควรมีการส่งเสริมเผยแพร่ให้กว้างขวางต่อไป

นายสมหมาย เพชรใหญ่ 077-599019

ประเด็นของ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล เรื่องตั้งธนาคาร ของสหกรณ์ เพื่อรวมเป็นธนาคารของสหกรณ์

สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด

การให้ความรู้แก่สมาชิกเรื่องภาวะเศรษฐกิจ และเข้าใจเรื่องการออมของสหกรณ์

สร้อยสุคนธ์ นิยมวานิช (สหกรณ์ออมทรัพย์ ธปท.)

สหกรณ์เป็นความหวังของประเทศชาติโดยพึ่งพาตนเอง และนำพาลูกหลานให้เข้มแข็งฝนวินัยการออมเพื่อความเข้มแข็งของชาติในอนาคต

086-319-9000

[email protected]

สุวิทย์ ชูประเสริฐ 086-8956471

ให้สมาชิกเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการซื้อหุ้นในแต่ละเดือน เพราะเมื่อมีหุ้นมากชอบลาออกจะเอาเงินไปใช้

การควบคุมค่าใช้จ่ายโดยใช้อย่างไม่เกินตัว เหลือเก็บโดยการออมบ้าง

เรื่องสหกรณ์ควรที่จะแนวความคิดเศรษฐกิจแบบพอเพียงไปใช้ โดยจะร่วมปลูกฝังและปลูกจิตสำนึกให้กับสมาชิกได้นำแนวทางเศรษฐกิจแบบพอเพียงมาใช้ จะทำให้สมาชิกของสหกรณ์มีความสุขที่สุด

การทำให้เศรษฐกิจเข้มแข็ง

- การให้ความรู้แก่ประชาชนในวิชาชีพต่างๆ

- การดำเนินชีวิตแบบพอเพียง

 

  • สร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจให้พ้นวิกฤติให้ได้
  • ให้สมาชิกมีจิตสำนึกในการออม ออมก่อนแล้วค่อยจ่าย ดังที่อ.กอบศักดิ์แนะนำให้ข้อคิดที่ดีมากๆ
  • ขอให้ผู้นำสหกรณ์จัดอีกครั้งต่อไปและเชิญอาจารย์ทั้งอสงท่านมาแนะนำด้วยค่ะ

เรื่องที่ข้าพเจ้าคิดว่า สหกรณ์น่าจะนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารงานสหกรณ์คือ

1. เรื่องการจัดทำบัญชี การใช้จ่าย ส่วนตัวของสมาชิกสหกรณ์ทุกคน

2. เรื่องการสร้างเสริมการออมให้เป็นรูปธรรมให้มากยิ่งขึ้น

สหกรณ์ร้านค้า “ร้านสหกรณ์หนองแขมจำกัด”

เรื่องทำอย่างไรให้ชุมชนเข้าถึงสหกรณ์ได้มากขึ้

ชื่นชมผจก.สหกรณ์นิคมท่าแซะจำกัด ทำสหกรณ์ของท่านได้ครบวงจร อยากให้ท่านเป็นผู้แนะนำและให้คำปรึกษากับสหกรณ์หนองแขมบ้างจัง ซึ่งเป็นสหกรณ์ร้านค้าเหมือนกัน

E-mail: [email protected]

ข้อมูลที่วิทยากรพูด จะนำไปปฏิบัติและขอให้ผู้จัดที่รับว่าจะทำอะไรบ้างช่วยกรุณาดำเนินการด้วย

เรื่องแนวคิด การที่เราดูแลต้องให้เข้มแข็งอย่ารอความช่วยเหลือจากคนอื่น

·       สหกรณ์ทุกรูปแบบต้องสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเองก่อนโดยใช้เศรษฐกิจพอเพียงแล้วเชื่อมโยงความร่วมมือซึ่งกันและกันเป็นเครือข่ายสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจของประเทศได้

ประโยชน์ความรู้ที่สำคัญ

·       มีการบริหารจัดการด้วยตนเอง ออกกฎควบคุมตนเอง อย่าให้ใครมาควบคุม

·       การให้ความรู้เกี่ยวกับการออม การให้สินเชื่อต่อลูกค้า

·       ให้ความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์แก่สมาชิก

·       ออมก่อน กู้ทีหลัง ชีวิตจะสุขสบายในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

089-813-1205

ไพรเลิศ สุมานนท์ (สอ. ศธ.)

คือการสร้างเครือข่ายร่วมกัน

การสร้างเครือข่ายระหว่างสหกรณ์มีความสำคัญอย่างยิ่งในกลุ่มสหกรณ์

แนวทางที่ได้ประโยชน์ได้ความรู้เรื่องการพึ่งพาตัวเองและการรักษาองค์กรสหกรณ์ให้อยู่รอด

การปฏิบัติตัวในภาวะเศรษฐกิจโลกเกิดวิกฤติ

สุริยันต์ หิรัญเขว้า (สกก.บ้านเขว้า ชัยภูมิ)

ต้องการให้มีการแก้ไขกฎหมายหรือระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาสหกรณ์หรือที่ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยที่ควรจะเป็น

081-264-3855

สร้างคนของสหกรณ์ให้เข้มแข็งเพื่อช่วยสร้างสหกรณ์ช่วยแก้วิกฤติเศรษฐกิจประเทศภายใต้หลักการเศรษฐกิจพอเพียง

การสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์

สมาชิกสหกรณ์ยังขาดวินัยทางการเงิน

อยากให้ความรู้แก่คณะกรรมการเงินกู้

ประโยชน์ที่ได้รับ

รู้จักวิธีป้องกัน และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสหกรณ์

ประโยชน์คือ ทำให้เรามีความเชื่อมั่นมากขึ้นในระบบสหกรณื ซึ่งจะเป็นการสร้างนิสัยในการออม มีความพากเพียรยิ่งขึ้น

ชอบมาก

การพัฒนาองค์กรให้มีความเข้มแข็ง

การพัฒนาผู้นำให้มีความรู้

ที่เป็นประโยชน์คือ ทำให้ทราบว่า

  1. การที่ภาครัฐเป็นปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาสหกรณ์
  2. การที่สหกรณ์จะเป้นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้วิกฤติเสรษฐกิจของประเทศ

เรื่องที่ขอเสนอนอกจากร่วมกิจกรรม

      มีหน่วยงานที่เปี่ยวกับสหกรณ์คือ กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ แต่เนื่องจากยังมีผู้เข้าไม่ถึงแหล่งเงินอีกมาก จึงเสนอให้ตั้งอีกกรมคือ กรมสนับสนุนการก่อตั้งสหกรณ์ โดยมีหน้าที่สนับสนุนให้ผู้ที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงิน ต้องกู้เงินเสียดอกเบี้ยแพงได้มีโอกาสมีแหล่งเงินแบบช่วยเหลือกันเองในกลุ่มเพิ่มขึ้นมาก

ในวิกติการณ์ ในปัจจุบัน และในวันข้างหน้า

ขบวนการสหกรณ์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในระหว่างสหกรณ์ด้วยกัน และอยากจะให้ นมส. เป็นเจ้าภาพ และมีชุมนุมสหกรณ์ฯ เป็นผู้เข้าร่วมในการดำเนินการให้สหกรณ์ฯ แต่ละสหกรณ์ฯ ได้รับความรู้อย่างต่อเนื่องและตลอดไป

อยากให้มีสัญลักษณ์ ที่เป็นศูนย์กลาง ของเราชาวสหกรณ์และมีการเผยแพร่ และให้สหกรณ์ฯ แต่ละสหกรณ์ฯ ให้นำมาเป็น สัญลักษณ์ สหกรณ์นั้นๆ

น.ส.เต็มศิริ ล้อมเนตร เจ้าหน้าที่การเงิน

การกระตุ้นพฤติกรรมของสมาชิก ให้รู้จักและปฏิบัติได้ กับคำว่า "พอเพียง" การใช้ชีวิตพอเพียงอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาณในการเงิน ทั้งนี้ ถ้าทำได้ จะเป็นการช่วยเหลือตนเอง , องค์กร และประเทศ

02-2878495, 087-4984649

[email protected]

นายวิรัตน์ พรมสี สกก.เมืองเชียงราย

ได้ประโยชน์เรื่องการเชื่อมโยงเครือข่าย

- อยากให้ขบวนการเชื่อมโยงเครือข่ายของสหกรณ์ขยายวงกว้างในอนาคต

- มีส่วนกลางโดยการรวมตัวของสหกรณ์ทั่วประเทศ เป็นตลาดกลาง ผลผลิตทุกชนิดของสหกรณ์ ทั่วประเทศโดยให้ สก. ทั่วประเทศเป็นสมาชิก นำสินค้ามาจำหน่ายที่ส่วนกลาง

- ส่วนกลาง จัดกระบวนการส่งออก เชื่อมโยงตลาดทั่วโลก และสหกรณ์ต่างประเทศสหกรณ์ ทำการค้าระหว่างประเทศ โดยอาศัยจากส่วนกลาง (แทนการพึ่งจากระบบนายทุน ที่คุมกระทรวงพาณิชย์อยู่)

- การจัดสรรกำไร คืนสมาชิกคือสหกรณ์ทั่วประเทศ

- มีการเฉลี่ยคืนผลกำไร ตามธุรกิจสหกรณ์ที่มีส่วนร่วม

- อยากให้ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงทั้ง 3 รุ่น นำไปเป็นโจทย์ เพื่อจัดการเชื่อมโยงเครือข่ายระดับประเทศ

- จัดการสัมนาร่วม 3 รุ่น เพื่อนำปัญหา และทางออกของการจะเชื่อมโยงกันได้

 

นายสมบัติ นวนสินธุ์ สหกรณ์การเกษตรบางกล่ำ จำกัด

การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของสมาชิกก็คือ การสร้างรายได้ ให้แก่สมาชิกสหกรณ์การเกษตรมีปัญหาเรื่อง ราคาผลผลิต ทำอย่างไร จึงจะทำให้สมาชิก มีความเชื่อมั่น ในเรื่องราคาผลผลิตได้ว่า จะไม่ตกต่ำ

074-328036

[email protected]

วิกฤติของสหกรณ์

1. ผลกระทบของสหกรณ์ จากนโยบายของคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้าราชการเป็นหนี้ ให้มาแจ้งกับรัฐ แต่พอไปแจ้งแล้ว รัฐไม่มีเงินช่วยเหลือจึงให้ไปธนาคารออมสิน เข้าไปดูแล โดยการปล่อย โดยการให้เงินกู้ เพิ่มเติม ทั้งๆ ที่ข้าราชการส่วนใหญ่ ได้กู้เงินกับ สอ. อยู่แล้ว และ ธ.ออมสินหักเงินณ ที่จ่าย ก่อน สอ. ทำให้ สอ.ต่างๆ เก็บหนี้จากสมาชิกใหม่ได้ตามที่กำหนด และสมาชิก สอ.จะกลับมากู้เงินกับสอ.ก็ไม่ได้ เพราะเงินคงเหลือ แต่ละเดือนน้อยเกินไป

ปัจจุบัน ธ.ออมสิน หักเงิน ณ ที่จ่าย ก่อน สอ. ทั้งๆ ที่กู้สอ.ก่อนออมสิน

2 การกำกับของราชการที่ดูแลเกี่ยวกับ สอ. ที่ว่าด้วยการฝากเงินของแต่ละ สอ. ที่เป็น ชมรม ฯลฯ ที่ฝากไว้กับสอ. นั้น ผิด พรบ.สอ. ให้ถอนเงินออกไป ให้หมด

นางเยาวดี ศรีประเสริฐ 081-5524419

ผลกระทบเศรษฐกิจไทย สหกรณ์จะรับมือคือ

คน 1 ได้แก่คณะกรรมการ ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ควบคู่กับคุณธรรมปฏิบัติงานดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกเวลา กล้าทำให้สิ่งที่ถูกต้อง มีแนวคิดใหม่ ทันกับเศรษฐกิจปัจจุบัน อย่าคอยภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ ต้องช่วยตนเอง

2 เจ้าหน้าที่สหกรณ์ มีความสามารถ พัฒนาตนเองตลอดเวลา รักงานที่ทำ ซื่อสัตย์สุจริต

3 สมาชิกสหกรณ์ รู้และมีจิตสำนึกของการเป็นเจ้าขององค์กร ต้องมีส่วนร่วมในการขยายธุรกิจกับสหกรณ์ เมื่อตนเองเป็นเจ้าของ และผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่อง เงินฝาก ใช้ธุรกิจต่างๆ รวบรวมผลผลิต จัดหาสินค้ามาจำหน่าย การให้บริการต่างๆ มีการเพิ่ม มูลค่าของผลผลิต รัก จริงใจ สนับสนุน ส่งเสริม องค์กรสหกรณ์

น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้กับสมาชิก ชุมชน สหกรณ์ ให้เข้มแข็ง และเข้าใจอย่าง ถ่องแท้ของระบบเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมสมาชิกออมก่อน กู้ทีหลังเพื่อการลงทุนสร้างรายได้ และเพื่อความจำเป็นในการดำรงชีวิต

 

คงถึงบ้านโดยสวัสดิภาพกันหมดทุกคนแล้วซินะ ไม่รู้กำนันบ้านนอกถึงหรือยังรายงานตัวด้วย ปิดภาคเรียนแล้วก็รู้สึกใจหายเหมือนกันแต่ก็อย่าลืมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อกันที่พวกเราจะกลับมาพบกันอีกเพราะภาระกิจของรุ่นเรายังไม่จบ ได้ทบทวนความคิดเห็นที่ผู้เข้าร่วมสัมมนามีข้อคิดเห็นที่น่าสนใจหลายๆข้อที่พวกเราน่าจะนำมาวิพากษ์กันต่อ แล้วเจอกัน..คิดถึงเสมอ..โชคดีทุกคน

แจ้....

ต้องขอให้พี่ๆช่วยกันแสดงความยินดีกับพี่ราตรีด้วยค่ะ ในโอกาสที่ได้รับตำแหน่ง ผอ.กลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์

ยินดีกับพี่ๆ ผนส.3 ทุกท่านนะครับ

ติดตามชมภาพข่าวการสัมมนา และพิธีปิดโครงการ ย้อนหลัง

ได้ทาง www.clt.or.th จากรายการ ข่าวดีประเทศไทยครับ

ที่ออกอากาศ วันนี้ เมื่อ 15.10 น. ทาง NBT

ขอแสดงความยินดีผู้อำนวยการฯราตรีด้วยความเคารพยิ่ง.... อย่างนี้ต้องฉลองกันหน่อยดีไหมพี่น้องชาวผนส3

ขอแสดงความยินดีกับท่าน....ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์ ขอให้พี่ราตรี มีทีมงานที่ดี และเป็นผู้นำที่สามารถแสดงภาวะผู้นำให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อพวกเราชาว ผนส.๓ นะครับ

การอบรม ผนส.๓ จบแล้ว แต่...เป็นการเริ่มต้นในการนำองค์ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิทยายุทธจากบรรดาท่านคณาจารย์มาใช้ในเชิงการบริหาร การจัดการและเชิงธุรกิจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสหกรณ์และมวลมหาสมาชิก

เรียน  อาจารย์ และผนส 3 ทุกท่าน

         หลังจากกลับจากการอบรมครั้งสุดท้ายไม่ได้เข้ามาทักทายเลย มีงานมาก งานสหกรณ์ งานวัด และงานสมาชิก

         ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับพี่ราตรีด้วยค่ะ ในโอกาสที่ได้รับตำแหน่ง ผอ.กลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์  แล้วจะมีการเลี้ยงฉลองไหมละคุณพี่ และอย่าลืมลงมาตรวจเยี่ยมสหกรณ์ทางใต้บ้างนะพี่ จะคอยต้อนรับ

         และต้องขอแสดงความยินดีกับผนส  3 ทุกคนที่ผ่านหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง และที่ได้รับรางวัล

         สำหรับของขวัญบัดดี้ ต้องขอขอบคุณพี่ขวลี และคุณวี ที่มอบของขวัญให้ เป็นบัดดี้ที่ดีมาก  เห็นแล้วแอบช่วยเหลือมาตลอด

        ขอบคุณผนส 3 ทุกคนที่ให้ความรัก ความอบอุ่น ความเห็นอกเห็นใจ มีการช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน ตามหลักการสหกรณ์

        และหวังว่าหลังจากนี้เราคงจะได้พบกันอีก

                            สวัสดีครับ

กิตตินันท์ ไทยศรีวงศ์

ขอแสดงความยินดีกับพี่ราตรีด้วยครับ ผนส.3คราวนี้ต้องพัฒนางานสหกรณ์ที่พวกเราตั้งใจไว้ได้สำเร็จแน่ๆ จริงมั๊ยครับท่านผ.อ.กลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์

ขอแสดงความยินดีกับคุณราตรี ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพีฒนางานสหกรณ์คนใหม่ด้วยนะคะ มั่นใจว่าอีกไม่นานเกินรอการพัฒนาสหกรณ์ต้องก้าวไกลแน่นอน ผนส 3 คงต้องมีการเลี้ยงฉลองแล้วนะคะท่านประธาน

ขอแสดงความยินดีกับพี่ราตรี ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์คนใหม่ด้วยนะคะ

ผู้อำนวยการ กลุ่มวิจัยและพัฒนาสหกรณ์ พี่ราตรี ยินดีด้วยค่ะ

ถึงพี่ๆ ผนส.3 ทุกท่านกำนันบ้านนอกถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วครับพี่แจ้(แต่วันที่เท่าไรไม่บอก)ต้องขอแสดงความยินดีกับพี่ราตรี ที่ได้รับตำแหน่งผอ.กลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์ วันศุกร์ นี้ยังไม่รู้จะปเรียนกับใครเลย กำนันบ้านนอกยังเรียนไม่จบเลย กำนันบ้านนอกน้อยใจมากที่ไม่ได้รับรางวัลขยันเรียน เพราะเรียนทุกสัปดาห์ ตั้งแต่ต้นยันจบยังไม่หยุดสักวันเดียว ถึงแม้เป็นวันหยุดก็ยังไปเรียนคนเดียว จริงใหมพี่แจ้

เพื่อนๆ ผนส.3 ใครเหยียบแผ่นดินสุพรรณไม่รายงานกำนันบ้านนอกระวังโดนแช่ง นะจะบอกให้

ผมขอแสดงความยินดีกับพี่ราตรี พี่สาวผู้น่ารักของผม ผู้ที่ผมแอบเป็นบัดดี้ ในโอกาสที่ได้รับตำแหน่งใหม่เป็นผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพีฒนางานสหกรณ์ครับ

ถ้าหากไม่มาเรียน ผนส.3อาจจะต้องรอหน่อบใช่ไหมครับพี่ พวกเราว่างเมื่อไหร่บอกเลยนะครับ จะได้จัดแสดงความยินดีกับพี่ไนท์ของเรา

สวัสดีครับ ผนส.3 และผู้อ่านทุกท่าน

ก่อนอื่นต้องเสนอความยินดี กับ พี่ราตรี ด้วยครับ ที่ได้รับตำแหน่งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม กับ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนาสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ผมคิดว่าเพื่อนทุกคนคงจะสบายดี ตั้งใจในการทำหน้าที่ของผู้นำที่ดี และต้องขอโทษด้วยที่เพิ่งจะเข้าบล๊อค เลยทำให้ตกข่าวไปหลายวัน และต้องขออภัยท่านกำนันบ้านนอกด้วย ที่เมื่อเช้าวันที่29 เมษายน 2552 ที่ผมได้ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสุพรรณ ไปจังหวัดเชียงราย(คุณบุญตรง) ไปสำรวจเส้นทาง สถานที่ศึกษาดูงานของสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด จะจัดขึ้นในปลายเดือน มิถุนายน 2552 ก็อย่าเพิ่งสาบแช่ง ถ้ามีเวลาเที่ยวกลับจะไปล้มทับอย่างแน่นอน กำลังค้นหาเบอร์โทรศัพท์ กำนันอยู่ ใครทราบช่วยบอกด้วยครับ

สวัสดีครับ

อ่านบล็อกสองสามวันมานี้มีความรู้สึกที่ดีมากๆที่เห็นเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวผนส.3แสดงความยินดีที่บ่งบอกถึงความรักสามัคคีและเอื้ออาทรต่อกันผ่านการเรียบเรียงถ้อยคำถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรถึงพี่ราตรีหรือพี่ไนท์ของท่านประธานบัญชาได้อย่างน่าประทับใจ ก็ขอcongratulation พี่ราตรีอีกครั้งด้วยความจริงใจ.... อ่านบล็อกท่านกำนันบ้านนอกแล้วก็น่าเห็นใจอุตส่าห์โกหกลูกโกหกเมียว่ามาเรียนทุกอาทิตย์ทุกสัปดาห์ยังพลาดรางวัลนักเรียนดีเด่นฝายชายไปอย่างน่าเวทนา เสาร์อาทิตย์นี้ก็ต้องกลับมาสอบซ่อมอีกพร้อมกับเจ้าไทสมพงษ์สหกรณ์แท็กซี่รวมมิตร ก็ขอให้เพื่อนๆผนส.3ช่วยเป็นกำลังใจให้เพื่อนเราเรียนจบไวๆจะได้กลับไปช่วยเมียขายน้ำมันเสียที..ก็ขอให้กำนันสอบผ่านจะได้เลื่อนเป็นผู้ใหญ่บ้านไวๆ ผ่านสุพรรณจะแวะหาอย่าหนีก็แล้วกัน..

รักและคิดถึงพวกเราเสมอ

แจ้....

ขอแสดงความยินดีกับคุณราตรีด้วยกับตำแหน่ง ผอ.กลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์

ความทรงจำยังไม่ลืมเลือน ความคิดถึงมีให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ วันนี้ ได้รับโทรศัพท์จากคุณอดิศักดิ์ พูดถึงการจำหน่ายลูกชิ้น มีทั้ง หมู เนื้อ พวกเราใครสนใจทำธุรกิจเป็นเครื่องข่ายกันติดต่อคุณอดิศักดิ์ได้นะค่ะ เพราะคุณอดิศักดิ์ บอกว่าถ้าขายได้จะมีส่วนแบ่งให้เข้าเงินกลุ่มค่ะ แจ้งยอดเงินกลุ่มมีเงินคงเหลือ 61,147 บาท ถ้ามีเวลาจะพยายามสรุปรายรับ รายจ่ายและส่งไปให้กับทุกท่านนะค่ะ ตอนนี้ขอเคลียร์งานในสำนักงานก่อน คิดถึงทุกคนค่ะ

ขอแสดงความยินดีกับ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์ (คุณไนท์ ราตรี)เป็นเกียรติกับ ผนส.3 ด้วยนะคะ ยินดีด้วยจริงๆ นัดฉลองกันเมื่อไหร่ดีเอ่ย เร็วๆก็ดี คิดถึงทุกคนคะ

เรียน  อาจารย์ และผนส 3 ทุกคน

        ขอแสดงความยินดีกับ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนางานสหกรณ์ อีกครั้ง 
        เข้ามาดูในบล๊อกแล้ว อดใจไม่ได้ที่จะไม่แสดงความคิดเห็นและแจ้งความเคลื่อนไหวต่างๆ แต่ที่สำคัญคิดถึง ผนส 3 ทุกคน และรุ่นพี่ด้วยเดียวจะน้อยใจ เผื่อต่อไปอาจจะเชื่อมเครื่อข่ายข้ามรุ่นก็ได้

      ซึ่งรุ่น 3 ยินดีรุ่นอื่นๆแสดงความคิดเห็น หรืออาจจะมีโครงการอบรมร่วมกัน 3 รุ่น ตามที่ประธานสันนิบาตได้พูดไว้

          วันนี้ไว้แคนี้ก่อน พึงจะกับมาจากวัดไปช่วยงานวัด งานฝังลูกนิมิต ใครจะมาเที่ยวยังทันนะ งานจะเสร็จวันที่ 3 พ.ค

         สวัสดีครับ

คิดถึงอาจารย์ คิดถึงห้องเรียน คิดถึง ผนส.3 ทุกๆคน

โดยเฉพาะ buddy V24 สบายดีรึป่าว ?คุณสุทิศ ของที่ระลึกถูกใจมั้ย ต้องคอยเหลียวมองอยู่บ่อยๆ ใช่มั้ยหล่ะ จะได้ไม่ลืมสำหรับของที่คุณให้พี่ " โป๊ะเชะ เลย"จ๊ะ

BOT:ธปท.มองยังมีโอกาสลดดบ.นโยบายหากต้องกระตุ้นศก.,คาดจีดีพีต่ำสุดแล้วใน Q1

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) พร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป หากมีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/52 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว

นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธปท. กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในเดือนพ.ค.นี้ คณะกรรมการจะพิจารณาโดยดูจากภาพเศรษฐกิจ ซึ่งหากต้องกระตุ้น ก็มีโอกาสที่ดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงอีก "ดูว่า หากเห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องกระตุ้น ก็คงมีโอกาสที่(ดอกเบี้ย)จะลงไป ...ยังมี room ที่จะลดดอกเบี้ย" นางอมรา กล่าวในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เมื่อคืนนี้

การประชุม กนง.ครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 20 พ.ค.นี้ หลังได้มีมติลดอัตราดอกเบี้ย ซื้อคืนพันธบัตร(อาร์/พี) ระยะ 1 วัน ลง 0.25% มาที่ 1.25% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังไทยมีความเสี่ยงมากขึ้น จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

การลดดอกเบี้ยดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 4 หลังกนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้วรวม 2.25% นับตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา โดยธปท.ใช้ดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วัน เป็นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อส่งสัญญาณต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ

เมื่อสัปดาห์ก่อน ธปท.ได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของไทย ปี 52 เป็นติดลบ 1.5-3.5% จากที่เคยคาดโต 0-2% เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ธปท.คาดด้วยว่า จีดีพีของไทยอาจติดลบมากที่สุดในไตรมาส 1/52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีมุมมองเช่นเดียวกับที่กระทรวงการคลัง ที่ระบุวานนี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะแตะระดับต่ำสุดแล้วในไตรมาสแรกปีนี้ หลังเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในเดือนมี.ค.จากภาคส่งออกในบางหมวดสินค้า ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจของคู่ค้าบางประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น ในไตรมาส 4/51 เศรษฐกิจไทยติดลบ 4.3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ทั้งปี51 ขยายตัว 2.6%

นางอมรา กล่าวอีกว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/52 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้วเพราะดูจากข้อมูลทางเศรษฐกิจช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาคือม.ค. และก.พ. พบว่าข้อมูลเริ่มนิ่งมากขึ้น ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ที่จะออกมาวันนี้ ก็น่าจะช่วยยืนยันได้ สำหรับเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/52 หดตัวตามเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ขณะที่อุปสงค์ ในประเทศที่ซบเซา เนื่องจากประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย ทำให้ธุรกิจต้องลดกำลังการผลิตและส่งผลการลงทุนชะลอตัวตาม และก่อให้เกิดการว่างงานตามมา แต่รัฐบาลก็ออกมาตรการระยะสั้นรองรับ และการใช้จ่ายภาครัฐ ก็ช่วยผ่อนคลายให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า กรณีที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อน้อยลง และบริหารเงินด้วยการนำสภาพคล่องมาฝากกับธปท.นั้น เป็นภาวะที่ผู้ประกอบการ ผู้บริโภคและธนาคารพาณิชย์ ยังมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจน้อยทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องระมัดระวังในแง่การบริหารการให้กู้ยืม และหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

แต่หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว ธนาคารพาณิชย์มีความมั่นใจมากขึ้น อาจจะรับความเสี่ยงได้ การปล่อยสินเชื่อก็น่าจะดีขึ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็อยู่ระดับต่ำและยังมีมาตรการค้ำประกันสินเชื่อของภาครัฐมาช่วยดูแล ก็น่าจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

นางอมรา กล่าวว่า ธปท.คงไม่สามารถบังคับธนาคารพาณิชย์ให้ปล่อยกู้ได้ ส่วนสินทรัพย์ที่ธนาคารพาณิชย์มีการลงทุน เช่น พันธบัตรของธปท.นั้น เป็นสินทรัพย์สภาพคล่องที่สามารถเปลี่ยนเป็นการให้กู้ได้ทันทีถ้าธนาคารพาณิชย์มั่นใจว่าการปล่อยกู้ไม่มีความเสี่ยง--จบ--

(โดย บุญทิวา วิชกูล รายงาน; วราพรรณ วรศาสตร์ เรียบเรียง--บร--)

(([email protected];โทร.0-2648-9726;Reuters

Messaging:[email protected])

ขอเสนอข่าวทันสมัยหน่อยนะครับที่รัก

โรคไข้หวัดหมู : Swine Influenza (Flu)

องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ไข้หวัดหมูที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากเม็กซิโก ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยในเม็กซิโกเสียชีวิตแล้ว 80 กว่าคน และคาดว่าการแพร่ระบาดจะรุนแรงที่สุดในรอบ 41 ปี ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (UN) จัดประชุมวาระเร่งด่วนและกำลังประเมินสถานการณ์ว่าควรจะเพิ่มการประกาศเตือนเฝ้าระวังไวรัสไข้หวัดหมูทั่วโลกหรือไม่

สาเหตุ : เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน ที่มีสารพันธุกรรมของเชื้อไข้หวัดใหญ่ในหมูผสมอยู่ด้วย

การติดต่อ : เชื้อที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอหรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา

*** ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ***

อาการ : ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก นอกจากนี้บุคคลที่ร่างกายอ่อนแอ และเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หากติดเชื้อดังกล่าว จะทำให้มีอาการที่รุนแรงขึ้นได้

การรักษา : แม้ขณะนี้จะยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดหมู แต่ทางการสหรัฐได้ระบายยาต้านไวรัส รวมถึงยาทามิฟลูออกจากคลังสำรองประมาณ 25% แล้ว โดยยาทามิฟลูต้านไวรัสไข้หวัดหมูผลิตโดยบริษัท โรช โฮลดิ้งและแกล็คโซสมิธไคลน์

“ในส่วนการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู ที่พบในประเทศเม็กซิโก และอเมริกานั้น เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ เป็นสายพันธุ์ที่มีชิ้นส่วนของพันธุกรรมเกิดจากการผสมผสานของไข้หวัดหมู ที่เคยมีรายงานในอเมริกา หรือ ยุโรป และเอเชีย รวมทั้งชิ้นส่วนพันธุกรรมของไข้หวัดที่เคยรายงานไว้ในอเมริกาเหนือ จึงถือได้ว่าเป็น “ไวรัสสายพันธุ์ใหม่” และเมื่อดูองค์ประกอบเปรียบเทียบกับวัคซีน H1N1 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีความคล้ายคลึงกันไม่ถึง 80% ...บ่งชี้ให้เห็นว่า การป้องกันด้วยวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันก็ไม่น่าจะได้ผล อย่างไรก็ตาม ไวรัสดังกล่าวยังคงตอบสนองต่อยาต้านไวรัส ได้แก่ Oseltamivir (Tamiflu) และ Zanamivir แต่สามารถดื้อต่อ ยา Amantadine ได้เช่นกัน”

การป้องกัน :

1. หากป่วยและมีอาการดังกล่าว ควรสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด และรีบไปพบแพทย์

2. ประชาชนทั่วไปควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผัก ผลไม้

4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

6. งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า

7. ล้างมือบ่อยๆ

(อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เกี่ยวข้องติดต่อกับฟาร์มหมู โรงฆ่าหมู เขียงหมู รวมถึงผู้บริโภคเนื้อหมู และเลือดหมู ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อโรคดังกล่าว ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหมูในลักษณะที่สุก ๆ ดิบ ๆ และหากมีความจำเป็นต้องสัมผัสควรป้องกันด้วยการสวมถุงมือทุกครั้ง)

ข้อมูลเบื้องต้นจากการสอบสวนโรคบ่งชี้ว่า ไข้หวัดใหญ่ H1N1 เป็นการติดต่อจากคนสู่คนและทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งองค์การอนามัยโลกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกำลังพิจารณาให้คำแนะนำเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศ ดังนั้น ผู้ที่มีแผนการเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก รวมทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ จึงควรติดตามสถานการณ์และคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดต่อไป

*** ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พบเชื้อโรคดังกล่าว ***

กรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่

ซึ่งมีเพียงพออยู่แล้ว นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีระบบที่ใช้ตลอดปี คือ การเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวมเพื่อคัดกรองหาโรคไข้หวัดนก ซึ่งปกติไข้หวัดใหญ่ในคนจะพบเชื้อ H3N2 มากกว่า H1N1 อยู่แล้ว การเฝ้าระวังจึงสามารถเพิ่มเติมรองรับใช้กับโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ได้

รวมทั้งในประเทศไทยอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ เตรียมพร้อมในการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ “เทอร์โมสแกนเนอร์” บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติโดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในจุดที่มีเครื่องบิน หรือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดคือเม็กซิโก และบางส่วนของสหรัฐอเมริกา พร้อมแจกเอกสารคำเตือนด้านสาธารณสุข (Health Card) แก่ผู้ที่จะเดินทางเข้าและออกนอกประเทศ

ในส่วนของคนไทยได้เตือนให้งดการเดินทางไปประเทศเม็กซิโกและบางรัฐของสหรัฐอเมริกา เช่น แคลิฟอร์เนีย เทกซัส ที่มีการระบาดของโรคในขณะนี้ รวมทั้งให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขึ้นที่กรมควบคุมโรค และหากมีความจำเป็นอาจจะต้องเปิดศูนย์ปฏิบัติการในระดับกระทรวง เพื่อเป็นวอร์รูมในการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังการระบาดของโรคอย่างใกล้ชิดต่อไป

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้เปิดศูนย์ Call Center ให้ประชาชนที่มีข้อสงสัยสอบถามสถานการณ์ของโรคได้ที่

โทร.0-2590-3333 ตลอด 24 ชั่วโมง

*************************************************************************************************************

แหล่งที่มาของข้อมูล

1. องค์การอนามัยโลก (WHO)

2. ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC)

3 3. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

4 4. ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก

5. คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขอแสดงความยินดีกับผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนาสหกรณ์ (พ๊ราตรี)นัดฉลองเมื่อไรดีคะ คิดถึงเพื่อนๆทุกคนนะคะ

สวัสดีครับ ผนส.3 และผู้อ่านทุกท่าน

เมื่อเช้าวานนี้ผมเตรียมจะเดินทางไปจังหวัดตาก และจังหวัดลำพูน เพื่อสำรวจเส้นทางที่จะนำคณะกรรมการและเจ้าที่สหกรณ์ไปศึกษาดูงานสหกรณ์ในภาคเหนือ จำนวน 3 สหกรณ์คือ สกก.บ้านตาก จก. สกก.แม่ทา จก.และสกก.เมืองเชียงราย จก. ผมได้พบพี่กัณญ์จนิก ที่กำแพงเพชร โรงแรมชาวกังรา โดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน ดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนร่วมรุ่น หลังจากจบเป็นคนแรก และพี่เขาเป็นบัดดี้ ที่มาดูแลผมด้วยเป็นอย่างดี และเมื่อวานตอนเย็นผมได้เดินทางต่อไปจังหวัดเชียงราย ผ่านจังหวัดเชียงใหม่ไปทางอำเภอดอยสะเก็ด สภาพถนนลาดยาง โค้งคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ก็ต้องใช้ฝีมือในการขับเป็นอย่างดี ถึงเชียงรายเวลา 18.30 น.และขอขอบคุณ คุณบุญตรง ที่ได้มาต้อนรับ ในฐานะเจ้าของบ้าน และเช้าวันที่ 1 พ.ค.52 นี้ จะเข้าไปที่สกก.เมืองเชียงราย สาขานางแล เพื่อไปเก็บภาพ เก็บรายละเอียดเพื่อไปนำเสนอโครงการทัศนศึกษาดูงานในเดือน พฤษภาคม ต่อไป คิดถึงเพื่อนทุกคน และขอให้เพื่อนๆ ได้เข้าบล๊อค กันทุกคน เพื่อจะได้ทราบข่าว กิจกรรม ความเคลื่อนไหว สถานะการณ์ เกร็ดความรู้ ได้แลกเปลี่ยน

สวัสดีครับ...

ได้อ่านบทความคิดแบบอินเดียก็เลยนำมาฝากเพื่อนๆชาวผนส.3โดยเฉพาะคุณอดิศักดิ์และบิ๊กอู๊ดที่นิยมเลี้ยงโค(โยตี้)เลี้ยงแพะเลี้ยงหมูเลี้ยงน้องกุ้งนำไปประยุกต์ใช้ได้

..Indians Play :เขียนโดย V. Raghunathan :นักวิชาการ ผู้บริหารบริษัทและเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยทั้งในอินเดียและในต่างประเทศ

ขอนำการวิเคราะห์ของคนอินเดียที่มีต่อคนอินเดียเองมาเสนอคิดว่าวิธีนี้จะดีที่สุด เพราะคงไม่มีคนที่เข้าใจอินเดียได้ดีไปกว่าคนอินเดียเอง เพียงแต่ว่าเราจะเปิดใจรับรู้สิ่งนั้นและพยายามที่จะเข้าใจหรือไม่

คิดแบบอินเดียเรื่องหนึ่งที่อ่านจากหนังสือของ Raghunathan และได้นำไปยกตัวอย่างสอนลูกๆ ก็คือเรื่องนี้...

ดช.ปัญญาเป็นเด็กที่เกิดในเมืองแต่ย้ายไปอยู่ในชนบท วันหนึ่งไปซื้อแพะจากชาวนาในราคา 1000 บาทซึ่งชาวนายินดีที่จะส่งมอบแพะในวันรุ่งขึ้น

พอวันรุ่งขึ้น ชาวนาก็ไปหาดช.ปัญญาแล้วบอกว่า

"ข่าวร้ายหนูเพราะแพะเพิ่งตายไปเมื่อคืนที่แล้วเอง"

ดช.ปัญญา ก็บอกว่า "ไม่เป็นไร ถ้าเช่นนั้นคืนเงินให้ผมก็แล้วกัน"

"โอ เสียใจด้วยจริงๆ แต่ฉันใช้เงินนั่นหมดไปแล้ว" ชาวนาพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ

"ไม่เป็นไร ถ้างั้นเอาแพะตัวนั้นมาให้ฉัน"

"หนูจะเอาแพะตายไปทำอะไร" ชาวนาถามด้วยความฉงน

"ฉันจะเอาไปจับฉลากขาย"

"จะไปจับฉลากแพะที่ตายได้อย่างไร ใครจะไปซื้อ"

"ได้ซิ คอยดูละกัน"

จากนั้นชาวนาก็มอบแพะที่ตายให้ดช.ปัญญาไป

หนึ่งเดือนผ่านไป......ชาวนาพบกับดช.ปัญญาจึงถามว่าตกลงเอาแพะที่ตายไปทำอะไร

"ฉันก็ทำฉลาก 500 ใบ ขายใบละ 10 บาท แล้วบอกว่าใครดวงดีจับฉลากได้ก็ได้แพะไปเลย 1 ตัว"

"ฉันได้เงินมา 5000 บาท ได้กำไรหลังจากหักที่จ่ายให้ลุงชาวนาไปแล้วคงเหลือ 3990 บาท"

"แล้วไม่มีคนโวยวายหรือ(เพราะแพะตายแล้ว)" ชาวนาถามด้วยความสงสัย

"ก็มี มีคนเดียวคือคนที่จับฉลากได้ และฉันก็แค่คืนเงินค่าฉลากจำนวน 10 บาทให้คนๆนั้นไป"

ในเรื่องบอกว่า ดช.ปัญญาต่อมาเติบโตและเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก......

เรื่องราวแบบนี้เป็นสิ่งที่คนอินเดียสอนกัน........ที่สำคัญก็คือการแก้ไขปัญหาและแก้ไขสถานการณ์ที่เผชิญหน้าหรือคิดคำตอบโจทย์ที่ยากๆ ซึ่งคนอินเดียจะเก่งในเรื่องแบบนี้มาก

คนอื่นอาจไม่ได้สังเกตุ แต่ผมเห็นว่าส่วนหนึ่งได้มีการถ่ายทอดความรู้แบบนี้ผ่านทางการ์ตูนพื้นบ้านซึ่งขายในราคาถูกมาก ทำให้เด็กไม่ว่าจะอยู่ในรัฐที่ห่างไกลหรือยากจนก็สามารถเรียนรู้วิธีคิดผ่านสื่อเหล่านี้ได้

เปรียบกับของไทยก็น่าจะได้แก่ศรีธนญชัยที่มีปัญญาและไหวพริบ ฉลาดหลักแหลม....

แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่า ความเป็นศรีธนญชัยหายสาบสูญไปจากสังคมไทยนานแล้วและบางครั้งถูกมองว่าเป็นความฉลาดในด้านไม่ดีด้วยซ้ำไป

สมอง ถ้าไม่ได้ใช้ ไม่นานก็ฝ่อ

คนอินเดียจึงเป็นนักคิดนักแก้ปัญหาที่เก่งมาตั้งแต่โบราณกาลและยังสามารถสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้ ด้วยองค์ประกอบทางด้านการศึกษาและภาษา

..แค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกัน..สุขสันต์วันแรงงาน..แจ้ ดอกจิก รายงาน.

สวัสดีพี่ ๆ เพื่อน ผนส.-3

จังหวัดนนทบุรี จะจัดให้มีงานพฤษานนท์ 52 ระหว่างวันที่ 8 - 17 พฤษภาคม 2552 นี้ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุร ถนนรัตนาธิเบศร์ จึงขอเชิญชวนทุกท่านมารเท่ียวงานพฤษานนท์ 52 นี้นะค่ะ ในงานจะมีไม้ดอกไม้ประดับ และพันธุ์ไม้หายาก กับพันธ์ไม้ท่ีผสมขึ้นมาใหม่ให้ชมด้วย เช่น ดอกลีลาวดีใบซ้อน มีการประกวดต้นโกสน และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะท่านที่สนใจเรื่องต้นไม้เชิญเลยนะคะ ผู้ที่สนใจหาของประดับบ้านที่เกี่ยวกับ พวกไม้ ๆ ก็เชิญเช่นเดียวกันค่ะ

คิดถึงทุกคนจ่๊ะ

ดีใจ และภูมิใจ ที่ได้ร่วมรุ่นกับ ผนส. รุ่น 3 เมื่อไม่ได้เจอกัน ก็แค่ได้ทักทายกันทางบล็อกก็ยังดีครับ ...พี่แจ้.. ได้นำนิทานอินเดียมาให้ได้อ่านกัน ก็สมแล้วที่ใช้ชื่อว่า เด็กชายปัญญา สงสัยศรีธนนชัยไปเกิดมั้ง ..ผู้จักการไกรฤกษ ได้มาเซอร์เวย์ ที่เชียงรายเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ก็ไม่รู้ว่าถึงเชียงราย หรือถึงอุดรไม่รู้ด้วยนะ แต่คงกลับไปถึงท่าแซะโดยสวัสดิภาพแล้ว

คิดถึงพวกเราทุกคนครับ

ขอบคุณพี่แจ้....ที่นำแนวไอเดียของอินเดียมาบอกเล่าเก้าสิบครับ ผมก็เลยปิ๊ง..โป๊ะเชะเพราะว่าโค(ไม่โยตี้)ของผมมีหลายตัว เมื่อไหร่โคมันตาย ผมก็จะทำฉลากขายให้ ผนส.๓ รุ่น ๑ และรุ่น ๒ ทุกคน ใบละ ๑๐๐ บาท ได้เงิน ๘,๐๐๐ บาท รุ่นพี่คนใดที่โชคดีผมจะคืนเงิน ๑๐๐ บาท(แถมผ้าสารพัดประโยชน์ น้ำยาล้างภาชนะและลูกชิ้นเนื้อ ของโคออป บ้านเขว้า) ผมจะเหลือเงิน ๗,๙๐๐ บาท ถามว่าทำไม..ผมถึงไม่ขายฉลากให้รุ่น ๓ คำตอบก็คือว่า...๑.เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจกับรุ่นอื่น ๒.เพื่อนำเงินเหลือสุทธิเข้ากองทุนผนส.๓ ของเราให้พี่จิ๋นดูแล

ความคิดถึง..กำลังเดินทาง คิดถึงทุก ๆ ท่านครับ

สวัสดีพี่ ๆ เพื่อน ผนส.3

        รู้สึกอยากไปเรียนเป็นเพื่อน กับกำนันบ้านนอก เพราะคิดถึงพี่ ๆ เพื่อนๆ ร่วมรุ่นทุกคน และขอขอบคุณพี่แจ้ ที่มีเพื่อนอยู่ที่การไฟฟ้าอ่างทอง ทำให้ติดต่องานได้สะดวกขึ้น

 

คิดถึงทุกคนค่ะ

สวัสดีพี่ เพื่อน ๆ ผนส 3 ทุกท่าน

ศุกร์-เสาร์ ที่ผ่านมารู้สึกเหงาชอบกล เพราะตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา เราได้มาเรียนหนังสือและแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยกัน เปิดเข้ามาใน blog 2 - 3 วันแล้ว ไม่มีใตรเขียนข่าวคราว เพิ่มเติมมาใน blog เลยต้องเขียนมาทักทายกันหน่อย เจ้าประจำอย่าง อ.บัญชา

กำนันบ้านนอก เงียบหายไปไหนกันหมดจ๊ะ ส่งข่าวด้วยค่ะ

คิดถึงทุกคนค่ะ

....ย้อนรอยอดีตที่พวกเราได้ไปดูงานประเทศจีน ณ.กรุงปักกิ่งได้เห็นอารยธรรมวัฒนธรรมต่างๆสิ่งส่วนมากเราจะเห็นเป็นสิ่งก่อสร้างวัตถุถาวรและเรื่องราวซูซีไทเฮาที่ยายหมวยทิพย์พูดให้ฟังอยู่สามวันสามคืนพร้อมขายของที่ดีที่สุดในเมืองจีนให้ชาวผนส.3 ได้ซื้อได้ฟังได้อย่างประทับใจไม่มีวันลืม ก็เป็นหน้าที่หลักของไกด์เมืองจีนคือการขายของ แต่ถ้าจะดูไว้ในแง่มุมที่ดีของยายหมวยฯคนนี้ก็มีดีให้ศึกษาคือหลักการนำเสนอสินค้าและการโน้มน้าวจิตใจและการเปิดการขายของยายหมวยทิพย์คนนี้ก็น่าสนใจพอสมควร...

... วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของศาสนาในประเทศจีนที่ประชาชนให้ความศรัทธาคือศาสนาขงจื้อหรือเป็นคำสอนที่ถือได้ว่าเป็นศาสดาคนหนึ่งในเอเชีย

....ศาสนาขงจื๊อเกิดในประเทศจีน ขงจื๊อเกิดเมื่อ พ.ศ. ๘ ในแคว้นหลู่อยู่ในมณฑลชานตุง ขงจื้อเข้ารับราชการเป็นผู้ว่าการฉางหลวง มีหน้าที่เก็บภาษีข้าวเปลือก ที่ชาวนาจะนำขึ้นฉางหลวงของกษัตริย์แห่งแคว้นหลู่

... คำสอนของขงจื๊อมีอยู่มากมาย เช่น ในเรื่องการศึกษา ท่านได้กล่าวไว้ว่า"เมื่อเดินอยู่ด้วยกันสามคน ข้าพเจ้ามักมีครูเสมอ ข้าพเจ้าสามารถเลือกคุณสมบัติที่ดีๆของคนคนหนึ่ง เอามาประพฤติเลียนแบบได้ และเลือกเอาคุณสมบัติที่เลวๆ ของอีกคนหนึ่ง มาแก้ไขตัวข้าพเจ้าเองได้" และท่านได้สอนไว้อีกว่า "เรียนแต่ไม่คิด ก็เป็นการเสียเปล่า คิดแต่ไม่เรียน ก็เป็นอันตราย" ผู้ที่เรียนไปแล้ว ถ้าไม่รู้จักนำเอาความรู้นั้นไปพิจารณาหรือคิดทำอะไรต่างๆ ให้งอกเงยขึ้นมา ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เสียเงินเสียเวลาเปล่าๆ แต่พวกที่ชอบคิด โดยไม่ได้เรียนให้รู้เสียก่อนนั้น มักก่อให้เกิดความยุ่งยากแก่สังคมมาก จึงนับว่าเป็นอันตรายทั้งแก่ตัวเองและสังคม

ขงจื๊อได้สอนในเรื่องมนุษยธรรมไว้ว่า "ให้เอาใจเขามาใส่ใจเราดูบ้าง เราไม่ชอบให้ใครทำอะไรต่อเรา เราก็ไม่ควรทำสิ่งนั้นต่อเขา เราอยากให้เขารักเรา เราก็ต้องรักเขา"

ท่านได้สอนให้บุตรธิดามีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด การแสดงความกตัญญูนั้นไม่ใช่เพียงให้อาหาร ที่อยู่อาศัย เป็นต้น แก่บิดามารดาเท่านั้นเพราะแม้สุนัข แมว ที่เราเลี้ยงมันไว้ เรายังให้อาหารมันเลย ข้อสำคัญก็คือเราจะต้องมีความรู้สึกเคารพนับถือบิดามารดาด้วยใจจริง ถ้าหากเราไม่ให้ท่านด้วยความเคารพนับถือแล้ว ก็คงไม่ผิดอะไรกับที่เราให้อาหารสัตว์ที่เราเลี้ยงไว้เป็นแน่ ถ้าเห็นบิดามารดาประพฤติผิด บุตรธิดาอาจทัดทานท่านได้ แต่ต้องทำด้วยกิริยาอาการที่สุภาพ แม้ท่านจะไม่เชื่อก็อย่าเพิ่งเลิกล้มความตั้งใจเสีย

อ่านแล้วคงจะพอได้แนวคิดหลายๆอย่างไปบ้างพอสมควรไม่มากก็น้อยตามแต่ละคนจะสนใจในประเด็นนำไปประยุกต์ใช้พอสมควร ......ฝากความคิดถึงพวกเราทุกคน(ไม่รู้ฝากใครต่อ)..ก็ขอให้มีชาวผบส.3 ,มีความสุข... สดชื่น..สมหวังทุกคน

ไนท์)ราตรีสวัสดิ์ทุกคน..ฝันดีผีอำ จงมีแด่ทุกท่านเทอญ......สาธุ

Jaee....

เรียน  อาจารย์และผนส 3 ทุกท่าน

        หลังจากจบหลักสูตรไปหลายวันคิดถึงทุกคน และดีใจที่ทุกคนยังเข้ามาทักทายกันในบล๊อก แต่มีบางคนหายไป ไม่ทราบยังอยู่อีกหรือเปล่า เข้ามาทักทายกันบ้าง

       วันนี้ไปร่วมงานครบรอบ 32 ปี ของสหกรณ์การเกษตรนาทวี จำกัด ซึ่งเป็นพัธมิตรกัน มีประธานประจวบจากสะเดาไปด้วย โดยมีสหกรณ์จังหวัดสงขลา ไปเปิดงาน และนำรูปเหรียญพระบิดาสหกรณ์ไปแจกในงาน ผมเห็นแล้วก็คิดอยากทำแจกสมาชิกอยู่เหมือนกัน แต่ของผมจะจัดงานทุกปีในช่วงปีใหม่มีกิจกรรมการการระดมทุน ทำบุญตักบาตร แจกของขวัญกับสมาชิก ปีนี้ที่ประชุมกรรมมีมติให้มีรางวัลในช่วงปีใหม่ รางวัลใหญ่เป็นรถจักรยายนต์ 1 คัน และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย เพียงสมาชิกซื้อสินค้าหรือหุ้นรวมกัน ครบหนึ่งพันบาทได้รับบัตรชิงโชค 1 ใบ

   สวัสดีทุกคน

ซาหวัดดีพี่จิ๋น จำผมได้ไหมที่พี่คอยบ่นผมอยู่เรื่อยๆให้ทายดูเล่นๆจำได้หรือยังละพี่จิ๋น.หรือ จิน หรือ จิ่น ... สบายดีไหมพี่ คิดถึงเสมอ

ถึงขวัญใจช่างภาพรุ่น3(น้องกุ้งน้องอ๋อน้องวี24)

วันนี้มีวิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริงมาบอกกัน...

1. เลือกเสื้อสีเหมาะกับผิว บางสีทำให้ดูเด่น อย่างคนผิวดำมาก ๆ ใส่ออกครีม ๆ เรียบ ๆ ดูดี

2. หันสิว ไฝ ฝ้า กลาก เกลื้อน หลบกล้อง

3. หามุมท่าไม้ตาย ลองหันหน้าเอามุมต่าง ๆ เข้ากล้องแล้วดูว่ามุมไหนดูดีสุด จำไว้แล้วใช้บ่อย ๆ

4. คางไม่สวยออกไป คนไหนที่รู้ตัวว่าคางไม่สวยให้ก้มหน้านิด ๆ หรือเอามือมาทำเป็นเท้าคางบังจุดบกพร่องซะ

5. ผ่อนคลาย บางคนเห็นกล้องแล้วเกร็ง ให้หายใจลึก ๆ ลืมซะว่ามีกล้องอยู่

6. คิดเรื่องขำ ๆ จะได้ยิ้มธรรมชาติ

7. ยิ้มหวานเยิ้ม คิดซะว่ากล้องเป็นกิ๊กใหม่

8. หลังตรงอกแอ่น สาว ๆ แอ่นก้นด้วย

9. ทำตัว 3D นางแบบอาชีพใช้ร่างกาย 3 ใน 4 เข้าใกล้กล้อง ที่เหลือเลื่อนออกไปไกลหน่อย

10. ถ่ายที่มืด มองเหนือกล้องนิด ๆ จะได้ไม่เป็นผีตาแดง

อ้อลืมไปอีกหนึ่งข้อพอนับหนึ่งสองสามให้แขม่วท้องไว้สามวินาทีแล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจทางปากช้าๆ...สวยแน่ๆ

เรื่อง คนสามคน

ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง

หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น จึงเข้าไป

ถามไถ่ว่าเป็นอะไร ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า “ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอ

พระ แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผม

เลย ฮือ ฮือ”

หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า

“เจ้ารู้ไหม ในตัวเรามีคนอยู่สามคน คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น คน

ที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ “

ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา

“คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย

บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน เช่น บางคนอยาก

เป็นนักร้อง เป็นนักมวย เป็นดารา ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่าง

ไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง

หัวใจ”

“มาถึงไอ้ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น บางครั้งก็ยัดเยียด

ว่าเราดีเลิศ จนเราอาย เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก แต่เราก็ยิ้ม

รับ แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยัง

เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่น

ยื่นให้”

“อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ ก็ต้องขับรถหนี

ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคน

ขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร”

“สมัยที่หลวงตายังไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว เพราะเห็นว่า

บ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็น

ชู้กับเมียชาวบ้าน คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจ

แคบ มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม เจ้า

ต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานความมืด

ดำในใจตัวเองออกมา เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ

นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล”

“แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ “ ลูก

ศิษย์หยุดร้องไห้แล้ว เริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา

“เจ้าต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ เรา

ห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัด

เยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่

จริง ใจเราควรสงบนิ่ง ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาด

กว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น แต่ไม่มี

เวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม”

“เข้าใจครับหลวงตา” เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง

จบ..ขอให้เพื่อนๆชาวผนส.3ทุกท่านมีความสุขตามอัตภาพนะโยม

สวัสดีค่ะ....โดยเฉพาะเด็กแว้น เรียนจนจบก็ยังเรียกชื่อพี่จิ๋นไม่ถูกซักที...ให้อภัยนอกเสมอ คิดถึงเช่นเดียวกัน พี่จิ๋นมีของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนที่ชอบใส่แหวนค่ะ

การใส่แหวนเงิน

ใส่แหวนเงินนิ้วโป้ง ทำให้ปอดแข็งแรง

ใส่แหวนเงินนิ้วชี้ จะทำให้ลดความอ้วน แก้ม้ามโต

ใส่แหวนเงินนิ้วกลาง จะรักษาโรคหัวใจต่าง ๆ

ใส่แหวนเงินนิ้วนาง จะรักษาโรคตับ ตับไม่ดี

ใส่แหวนเงินนิ้งก้อย จะช่วยให้ไตแข็งแรง ไตซ้ายขี้ร้อน ไตขวาขี้หนาว

การใส่แหวนทอง

ใส่แหวนทองนิ้วโป้ง จะช่วยรักษาลำไส้ใหญ่ ขับถ่ายสะดวก

ใส่แหวนทองนิ้วชี้ จะช่วยเรื่องกระเพาะอาหาร

ใส่แหวนทองนิ้วกลาง คนที่ร้อน ๆ หนาว ๆ เป็นไข้บ่อย หรือไขมันเกาะลำไส้

ใส่แหวนทองนิ้วก้อย มดลูกรังไข่ สมรรถภาพทางเพศ ต่อมลูกหมาก

กระเพาะปัสสาวะไม่ดี

สวัสดี ผสน.3 นอนหลับฝันดีนะค่ะ

ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง

เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง

เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง

เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น

เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า

แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น...........

เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง

เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง

เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง

ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น……จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ

เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว

จงแสวงหา การหยั่งรู้

จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…

จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…….

กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป

ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด

เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย

น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้

เอาคำพูดที่ว่า…….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม

บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน

อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น

ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย

เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง

พี่จิ๋นๆ ถ้าใส่แหวนนิ้วกลาง ที่ไม่มีเล็บโบราณว่าจะทำให้เซ็กส์เสื่อมและปัสสาวะขัดจริงหรือเปล่าช่วยตอบด้วย

เรียน อาจารย์ ผู้บริหารโครงการ และ ผนส 3 ทุกคน

         รู้ลึกว่าช่วงนี้หายไปหลายคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ ไม่ทราบทำเนียบรุ่น  สรุปโครงการ และเอกสารต่างๆ รูปถ่าย และอีกอย่างไม่เห็นเอารู้ตอนรับประกาศลงในบล๊อกเลย หากมีเวลากรุณาช่วยลงให้หน่อย หรือที่จะส่งให้เสร็จแล้วหรือยัง หากเสร็จแล้วส่งให้หน่อยก็ดีนะ

           ขอคุณครับ

       

สวัสดีคะ ผนส.3 ที่รักและคิดถึง

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน พระราชทานเพลิงศพ นายแพทย์เสนอ ตัณฑเศรษฐี (บิดาคุณหญิงกัลยาฯภรรยาของ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์) วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2552 เวลา17.30น. ณ วัดเทพศิรินทร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ ผนส.3 ท่านใดมีโอกาสไปร่วมงานเพื่อแสดงมุทิตาจิตก็

เชิญนะคะ แนะนำว่าควรจะไปก่อนเวลา 2 ชม.เป็นดีที่สุดจะได้หาก้นเจอไงคะ

สวัสดีคะ

ใส่บาตรวันเกิด

เหล้ากินเข้าไปแล้วก็ขาดสติ...มีเรื่องเล่าว่า

วันเกิดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง

กลางคืนเลี้ยงฉลองร่ำสุรากันเต็มที่..เมาแประ..รุ่งเช้าอยากใส่บาตรทำบุญเอาฤกษ์

ขณะตักข้าวจะใส่บาตร ด้วยความเมาทำข้าวหก

หมาก็วิ่งกรูกันเข้ามาแย่งกันกินข้าว กัดกันเจี๊ยวจ้าวพันแข้งพันขาจนเดินไม่ได้..

ด้วยความโมโห..เงื้อเท้าเตะหมาเต็มแรง...หมามันก็หลบทัน แต่พระหลบไม่ทัน

โดนหน้าแข้งเต็มๆ ทั้งๆที่ไม่ได้ร่วมแย่งข้าวด้วยสักหน่อย

ขณะใส่บาตร..รู้สึกว่ากับข้าวที่เตรียมไว้ ไม่พอดีกับพระ

แกตะโกนเรียกหลานลั่นเลย....

"อีหนู เอาปลาทูมาอีกสององค์ วันนี้พระมาสี่ตัว..."

เหล้ามันทำให้คนกิน..ไม่เป็นผู้เป็นคน..พูดผิด..คิดผิด ทำผิด

แล้วยังจะกินมันอยู่อีกหรือ........

เทศน์รอบดึก

มีอยู่รายการหนึ่ง เขาจัดงานหารายได้เข้ามัสยิด...

นิมนต์พระพยอมมาช่วยเทศน์ดึงคนให้หน่อย..เพราะช่วงที่กำลังดังนี้ เทศน์ทีมีคนฟังเป็นหมื่น..พอประกาศชื่อพระพยอมคนสนใจมาก

เขาจัดโปรมแกรมให้พระพูดตอนดึก 5 ทุ่ม

พระก็อยากพูดเร็วๆ พูดเสร็จจะได้รีบกลับ...

เขาบอกว่า..ไม่ได้..ถ้าท่านกลับ..คนก็กลับกันหมด..

หอยทอด โรตี..ไก่ย่าง..ยังขายไม่หมดเลย..

เดี๋ยวท่านรอให้ขาย หอยทอด โรตี ไก่ย่างหมดก่อน..ค่อยขึ้นเทศน์

กรรมของพระ...ไม่ควรดังเลยเรา....

สงสัยที่เตะหมาไปโดนพระนี่ไม่ใช่ผู้ใหญ่แต่เป็นกำนันบ้านนอกแหงๆ เห็นเล็งพระตั้งแต่อยู่บนนกำแพงเมืองจีนแล้ว สองคนกับพี่แจ้

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุกท่าน

     เรียน ผนส. 3 ทุกท่าน ประธาน ผนส.รุ่น2 พลเรือตรีบงกช  ผาสุข สมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการ ชสอ. (ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย) จับฉลากได้เบอร์ 12  ฝากประชาสัมพันธ์เพื่อน ผนส. 2 ทุกท่าน ที่มีเพื่อน ในสหกรณ์ออมทรัพย์ และเป็นผู้แทนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 13 มิถุนายน 52  ฝากประธาน ผนส. รุ่น 2 เบอร์ 12 ด้วยครับ  ขอบพระคุณคร๊าบ          


13 มิถุนายน 52 โปรดเลือกเบอร์ 12 พลเรือตรีบงกช ผาสุข เป็นกรรมการ ชสอ.

กราบเรียนท่านอาจารย์ และสวัสดีค่ะผนส.3 ทุกท่าน

แวะมาเยี่ยมด้วยความคิดถึงค่ะเห็นเข้า blog กันไม่กี่คนเองเอ้าสู้ ๆ กันหน่อย เมื่อวานจะบอกว่าเจอกับผนส.3 น้องสุทิศด้วยที่สกก.พนมวังก์

ว่าง ๆ แวะไปเยี่ยมรุ่นพี่บ้างก็ได้นะค่ะ

แจ้เหมือนกันแต่รุ่น 2 จ๊ะ

สวัสดีครับท่านอาจารย์และเพื่อนร่วมรุ่น ผนส.3 ทุกท่าน ผมม้าด่วน-ม้าเร็วตามที่ท่านได้มอบหมาย มีเหตุด่วน ที่ต้องการความช่วยเหลือ(ในกรุงเทพฯ)โปรดโทรหาผม

ผมจะไปช่วยเหลือท่าน ขอบคุณครับ

สวัสดี ผนส.๓ ทุกท่านครับ

สัปดาห์ที่ผ่านมาผมไม่มีโอกาสเปิดบล๊อคเลย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ มาถึงเมื่อไหร่ก็...จากไปเสียเฉย ๆ ยังงั้นหละ คิดถึงบรรยากาศในห้องเรียน ห้องอาหาร และห้องต่าง ๆ ในสถานบรรเทิง ที่เคยใช้บริการจังเลย เมื่อไหร่หนอ...ท่านประธานรุ่น รศ.บัญชา จะเป่านกหวีดเรียก"ระดมพล"ถึงตอนนี้หลายคนฟิตจัด โดยเฉพาะ..คุณอดิศักดิ์ นมโค เอ้ย..โคนมปากช่อง ทราบว่าขณะนี้เดินทางไปสำรวจ พท.เพื่อทำธุรกิจ นวดเพื่อสุขภาพที่มาเลเซีย ใครสนใจลงขันก็ลองสอบถามดูเองนะ

ขอบคุณ...พี่แจ้ กะ กำนันบ้านนอก ที่มีเรื่องดี ๆ มาให้อ่านอยู่เสมอ

แผ่นซีดี สรุปโครงการ รูปถ่ายรวมอัลบั๊ม (รูปวันงานเลี้ยงฉลอง๒๔เมย.)เจ้าหน้าที่โครงการช่วยดำเนินการจัดส่งให้ ผนส.๓ ด่วน...หากมี คชจ.ติดต่อพี่จิ๋นนะครับ

เรียน  อาจารย์และผู้บริหารโครงการ ผนส 3 ทุกคน

       ช่วงนี้หายหน้าหายตาไปหลายคน วันก่อนได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรพนมวงค์ จำกัด จังหวัดพัทลุง ซึ่งได้รับสหกรณ์ดีเด่นปี 2552 ได้พบกับพี่ๆผนส 2 หลายคน ปีหน้าผมว่าจะส่งสหกรณ์ผมเข้าประกวดบ้างไม่รู้จะได้หรือเปล่า  แต่ก็จะลองดู

       การสรุปโครงการหลังจากจบหลักสูตร ไม่ทราบไปถึงไหนแล้วตามที่พี่ทนงศักดิ์ ต้องการและยินดีเสียค่าใช้จ่าย หรือหากเป็นไปได้ เอารูปถ่ายช่วงวันสัมนาใหญ่และตอนรับประกาศลงในบล๊อกเหมือนเมื่อก่อนก็หน้าจะดี เพราะไม่ได้ถ่ายไว้เลย หรือใครมีส่งมาให้บ้างก็ได้ ขอบคุณล่วงหน้า

       

…..วันนี้ฝนตกทั้งวันทั้งคืนเข้าดูบล็อกของเพื่อนๆแล้ว ฝนตกตั้งแต่ตีสามตื่นมาหกโมงเช้าฝนก็ไม่หยุดตกนอนฟังเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาแสนจะมีความสุขคิดถึงอดีตที่ตราตรึงใจในฤดูฝน..คิดถึงวันหยุดคิดถึงเพื่อนอย่างที่บิ๊กอู๊ดคิดถึงที่จะต้องมาเรียนหนังสือทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ .คิดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆและคิดถึงอานุภาพของน้ำฝนและความมหัศจรรย์ของน้ำขึ้นมาที่เคยได้อ่านบทความนี้นานมาแล้วเลยลองไปค้นดูเลยนำมาฝากพวกเราในฐานะผู้นำสหกรณ์ชั้นสูงไว้เป็นแนวคิดในการทำงานต่อไปน้ำมีสิ่งน่าศึกษามากมายเช่น...

. .น้ำย่อมไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ...หมายความว่าผู้บริหารที่ดีต้องถ่อมคน ทำตัวให้คิดดิน เข้าถืงหน้างานเปรียบเสมือนน้ำต้องไหลเข้าทุกที่ได้เสมอ

...น้ำจะปรับสภาพรูปร่างตามภาชนะที่รองรับ...ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ฤดูกาลหรือสังคมมนุษย์ย่อมเปลี่ยแปลงตลอดเวลา ผู้บริหารที่ดีต้องรู้จักปรับตัวเปลี่ยนแปลงตามสภาพที่แท้จริง

....น้ำสะอาดต้องดูโปร่งใส..นักบริหารต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลที่ดี มีความยุติธรรมให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

....น้ำฝนที่ตกลงมาหล่อเลี้ยงชีวิตให้พืชและสัตว์โดยไม่มีการเลือกที่รักมักที่ที่ชังการเป็นนักบริหารที่ดีต้องคิดที่จะให้ก่อนเสมอ โดยการให้ออกไปอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะกับลูกน้องของเรา และต้องเข้าใจองค์ประกอบของน้ำที่มหัศจรรย์ ก็คือ น้ำเกิดจากการรวมตัวของธาตุ 2ชนิดคือไฮโดรเจน และ ออกซิเจน ไฮโดรเจนเป็นธาตุที่ติดไฟ ส่วนออกซิเจนเป็นธาตุช่วยให้ไฟติด แต่เมื่อรวมกันแล้วเป็นน้ำสามารถดับไฟได้ น่าแปลกไหมพี่น้องผนส3 เมื่อเปรียบเทียบจากเรื่องธาตุกับการบริหารได้ความว่า.ในยามที่เราเจอวิกฤติหลายๆอย่างรวมกัน ให้คิดว่าวิกฤติอาจเป็นโอกาสก็ได้ ต้องใช้ความใจเย็นสลายความร้อนจากวิกฤติได้

..ทุกๆสิ่งในธรรมชาติเป็นวัฎจักรไม่ว่าจะเศรษฐกิจดีหรือตกต่ำสลับกันไป สินค้าทุกอย่างก็มีวงจรอายุของมัน ผู้บริหารที่ขึ้นมาแล้วก็จากไปเราควรเตรียมตัวเตรียมใจดำเนินไปตามวัฎจักรเหล่านั้น.

ช่วงนี้ใกล้เปิดเทอมแล้วชาว ผนส.3 จะกลับมาเจอกันเมื่อไรดี ..ขอความเห็นพวกเราด้วย..

รักและคิดถึงเพื่อนๆเสมอ

แจ้.....

สวัสดีครับ ผนส.3 และผู้ท่านทุกท่าน

ไม่ได้หายหน้า ไปไหน ผมเข้าบล๊อคมาอ่านทุกวัน เพียงแต่ไม่ได้เข้ามาโพสครับ ก็คิดถึงเพื่อนๆทุกคน ได้เชื่อมโยงกับอดิศักดิ์ โคนมปากช่อง เรื่อง กะลาปาล์ม มูลโค และลูกชิ้น และได้รับการติดต่อจากพี่ประจวบ อมแก้ว เรื่อง ขอให้ผมไปเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง วิธีการทำให้เป็นสหกรณ์ดีเด่น ในวันที่ 31 พ.ค.52 ณ โรงแรมไดอิชิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก็ยินดีครับ ไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับขบวนการสหกรณ์ไทย สวัสดีครับ

ประยูร รัตนเมธางกูร สกต.นครราชสีมา

สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ ผนส.3ทุกท่าน

หลังจบหลักสูตรไม่ได้เข้า Blog เสียนาน เหมือนหายไปเลย ขออภัยที่ไม่ได้ทักทายพี่ๆ เพื่อนๆ คิดถึงกันบรรยากาศเก่าๆที่ห้องเรียนมาก รู้สึกขาดอะไรสักอย่าง เมื่อไรท่านประธานและทีมงานจะมีโอกาศเรียกพบปะกันบ้าง รอฟังข่าวอยู่นะครับ อยากเห็นทำเนียบรุ่นของเราจัง จะได้พลิกดูรูปถ่ายบรรยากาศเก่าๆ และใบหน้าเต็มๆเพื่อคลายความคิดถึง ช่วงนี้ยังไม่มีข่าวคราวส่งถึง ขอส่งความคิดถึงอย่างเดียวก่อนนะครับ และแสดงความยินดีกับท่าน ผอ.ราตรี ด้วยความจริงใจกับตำแหน่งใหม่ ถึงจะช้าไปหน่อย ยินดีด้วยจริงๆครับ

คิดถึงทุกๆท่าน

นายอภิสิทธิ์ เจ้าพ่อข้าวโพดกระป๋อง นายกรัฐมนตรี ของ(ผนส.3ทุกท่าน)ได้มาพบกำนันบ้านนอก ถึงสุพรรณนับเป็นเพือน ผนส.3คนแรกที่มาสุพรรณ (อย่างเป็นทางการ) กำนันบ้านนอก รู้สึกดีใจและยินดีต้อนรับ อยากรู้จังผนส.3ท่านไดจะมาทางสุพรรณอีกกำนันบ้านนอกจะได้รอ.................................,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,ปล..คิดถึผนส.3ทุกท่าน

กำนันบ้านนอก จะไป ลังกาวีวันที่1-5ผ่านบ้านผนส.3ท่านไดช่วยบอกด้วยจะได้แวะนมัสการด้วยความโคโยตี่

ย่างเข้าสู่ฤดูฝน ยืนมองหมุนไปรอบตัว เห็นต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ กำลังผลิดอก แตกใบอ่อน เพิ่มความสวยสด ความเขียวชอุ่มและความชุ่มชื่น ชื่นฉ่ำ อีกครั้งหนึ่ง มันช่างเป็นเรื่องน่าแปลก และวิเศษสุด ๆ สำหรับโลกใบนี้

ผม...ในฐานะคนจังหวัดชัยภูมิ ขอเชิญพี่ ๆ เพื่อน ๆ ผนส.๓ทุกท่าน ทัศนศึกษาดูงานและท่องเที่ยวในฤดูฝนนี้ ชม..ทุ่งดอกกระเจียว สุดแผ่นดิน(รอยเคลื่อนของเปลือกโลกระหว่างภาคอีสานและภาคกลาง) ซื้อของฝากจากชัยภูมิ โดยเฉพาะผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมพื้น ผ้าไหมบาติก ผ้าไหมเพ้นสี ชุดเสื้อผ้าไหมสำเร็จรูป ของอำเภอบ้านเขว้ามีจำหน่ายที่..ศูนย์ผลิตภัณฑ์เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ ที่..สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด แวะเยี่ยมสหกรณ์หรือพักที่โค-ออป อิอน์ ลดราคาพิเศษ ยินดีต้อนรับทุกท่าน ครับ

อาจาร์บัญชา พร้อม...จะเป่านกหวีดหรือยัง ?

เนี่ยก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะได้สัญจรซะทีล่ะคะ คิดถึงพี่ๆทุกคนนะคะ

สวัสดีค่ะพี่ เพิ่อน ๆ ผนส 3 ทุกท่าน

เข้า blog เกือบทุกวันแต่ไม่ได้ post เข้ามา เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปร่วมประชุมกรรมการกับชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้พบกับ

พี่สมชาย พี่น้อย (ชวลี) พี่เอกราช และท่านประธานบัญชา เชื่อไม๊ว่าไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไหร่ ช่วงนี้ฝนฟ้าก็ตกเกือบทุกวัน บรรยากาศก็ดูซึม ๆ เศร้า ๆ หรือเป็นเพราะเราคิดถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ และห้องเรียนก็เป็นได้นะ จะทำยังไงให้พวกเรามีความต่อเนื่องในการติดต่อสื่อสารกัน แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นเหมือนที่พวกเราอยู่ในห้องเรียน หนูอ๋อ หนูวี หนูปอนด์ อย่าแค่เข้ามาชม blog เฉย ส่งข่าวด้วย คิดถึงจ๊ะ

พี่จิ๋น

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์และเพื่อนชาวผนส3

ขอเข้ามาแจมด้วยคนนะคะดีใจจังที่รุ่น3ยังเชื่อมสัมพันธ์กันตลอด

ฝากขอบคุณท่านกำนันบ้านนอกมากจ้ะที่ฝากสาลี่สุพรรณมากับท่านประธานต้อย

(อภิสิทธ์)อร่อยมาก ขอให้เที่ยวลังกาวีพาสาวโคโยตี้มาฝากท่านต้อยด้วยนะคะ

สวัสดีครับ ผนส 3 ทุกคน

สวัสดีครับทุกคน ดีใจที่ทุกคนเข้ามาทักทายกัน ท่านกำนันอย่าลืมโทรมาบอกด้วย มานอนหาดใหย่วันไหน จะได้ไปต้อนรับ

และได้ข่าวพี่ชวลีจะมาหาดใหญ่วันที่ 22 นี้ ดีใจที่จะได้พบกันอีก

วันก่อนพี่อดิศักดิ์ลงมาเที่ยวยังไม่ได้ต้อนรับ เพราะไม่ได้นอนหาดใหญ่ไนอนลังกาวี

วันที่ 13 มิถุนายน ไม่ทราบใครไปประชุมใหญ่สหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย บ้างหากไปคงได้เจอกัน เพราะผมเป็นตัวแทนของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานสหกรณ์จังหวัดสงขลา ไปประชุมด้วย ผนส 3 ท่านใดหาเสียงให้ใครบ้างรีบบอกมาหากช้าเดี่ยวคนอื่นขอเสียก่อนนะ

ผู้เข้าอ่านblog0จำนวน ๕,๕๖๒ ท่าน แล้วครับ ผนส.๓ ช่วยกันเข้าอ่านและเขียนข้อความถึงกันให้มากๆด้วยนะครับ ระยะนี้ท่านประธานรุ่น ๓ อาจารย์บัญชา เงียบหายไป ท่านคงจะมีภาระกิจมาก รักษาสุขภาพด้วยนะครับ เดี๋ยวจะไม่มีแรงเป่านกหวีดเรียกระดมพล"คน ผนส.๓"คิดว่าพวกเราทุกคนคงพร้อมร่วมปฏิบัติการณ์

ท่านอดิศักดิ์ โคโยตี้แห่งประตูอิสานพยายามเข้าBlogโทรสอบถามผมแล้วหลายครั้ง ไม่รู้ผิดพลาดอะไรถึงยังเข้าไม่ได้ซักกะที จั๋งซี้...มันต้องถอน

สอบถามเจ้าหน้าที่..สถาบันพิทยาลงกรณ แผ่นวีดีอัลบั้มรวมฮิต ผนส.๓ เสร็จหรือยัง?ขัดข้องอะไรหรือไม่ อย่างไร แจ้งให้พวกเราทราบด้วยนะ หากเป็นเรื่องงบประมาณโทรสายด่วน..Toพี่จิ๋น แต่ถ้าเป็นเรื่องการบริหารให้โทรยิงขึ้นดาวเทียม..ถึงท่านประธานรุ่น๓ อ.บัญชา หรือถ้าเป็นเรื่องธรรมดาก็เขียนลงBlogนี้เลย

ขอเชิญชาว ผนส.ทุกท่านไปเที่ยวจังหวัดชัยภูมิระหว่างมิถุนายน-สิงหาคม๕๒ "เบิ่งดอกกระเจียว เที่ยวชัยภูมิ เยือนถิ่นผ้าไหม ไหว้เจ้าพ่อพญาแล" สหกรณ์บ้านเขว้า ยินดีต้อนรับ..ครับ

รักและคิดถึง ผนส.๓ ทุกท่าน

สวัสดีค่ะพี่ เพิ่อน ๆ ผนส 3 ทุกท่าน

ไม่ได้อ่าน blog หลายวัน เนื่องจากจัดเตรียมเอกสาร,สถานที่ประชุมใหญ่(20 พ.ค 52) ตอนนี้ประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในส่วนเพื่อนๆสกก. เป็นอย่างไรบ้าง คงยุ่งเหมือนๆ กันนะคะ คิดถึงพี่ ๆเพิ่อน ๆ ทุกคน แอบอิจฉา กำนันบ้านนอก

มีทริปเยอะจริงๆ ส่วนพี่อู๊ดคงเชื่อมโยงธุรกิจกับพี่นกบ่อยนะ คิดถึงบรรยากาศในห้องอาหารตอนเย็นนะ ที่ทุกคนแย่งกันพูดคุยแย่งกันร้องเพลง ได้ยินเสียงพี่จิ๋น และนึกถึงพี่ปฏิพลที่เรียกชื่อพี่จิ๋นไม่ถูกสักที (ตอนนี้คงเรียกถูกแล้วนะเพราะบอกวิธีออกเสียงไปให้แล้ว) เพื่อนกุ้งกับน้องวี 24 ส่งเสียงหน่อย.......

คิดถึงทุกคน

ธนะ บำรุงแสง เลขารุ่น

เรียน ท่าน ผนส.3ทุกท่าน

ท่านประธานบัญชา ชลาภิรมย์ มีบัญชาให้จัดงานคืนสู่เหย้าชาว ผนส.3

" Back to School " ในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2552

เวลา 17.00-22.00 น. ณ ครัวสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

เชิญทุกท่านโดยพร้อมเพียงกัน ขอบคุณครับ

ไฮ...สวัสดีเพื่อนๆชาวผนส3ทุกท่าน..วันนี้ได้โทรศัพท์หาเพื่อนๆหลายคนสอบถามเรื่องการนัดพบปะสังสรรค์ของชาวผนส3.หลายคนก็ว่างหลายคนก็ไม่ว่างก็ปรึกษาท่านอาจารย์บัญชาตกลงขอเป็นันที่28พค.นี้ ก็ดีใจนะที่พวกเราให้การตอบรับเป็นอย่างดีดั่งคำที่ว่า"ฟ้าลิขิตให้พวกเรามาเป็นเพื่อนกัน"แล้วเจอกัน...บ๊ายบาย

รักและคิดถึงเสมอ

แจ้..

Back to School " ในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2552 กำนันบ้านนอก OK ใครมาได้ช่วยตอบรับด้วย

          เรียน ผนส 3 ทุกคน

          ผมยังไม่แน่ใจว่าจะไปได้หรือเปล่า เพราะ วันที่ 29 -30 พ.ค ติดอบรม และอีกอย่างวันที่ 13 มิถุนายน ต้องขึ้นไปกรุงเทพอีก  ไปประชุมใหญ่ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่อย่างไรก็แล้วแต่จะพยาม
          เมื่อวาน อาจารย์จิระ  มาบรรยายที่สงขลา มีผนส3 มากันหลายคน เช่น พี่ชวลี พี่มงคล พี่เอกราช พี่สมชาย คุณนล และผนส 2 อีกหลายคน เป็นโครงการอบรมของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (เดินสาย.....)
          ดีใจมากเลยที่ได้พบอาจารย์และ พี่ๆผนส3  แต่เสียใจที่ไม่มีโอกาสได้พาช็อบปิง เพราะดิตงาน  แต่ก็ได้มาต้อนรับอาจารย์และผนส 3 และอยู่ร่วมงานเลี้ยงช่วงค่ำ
         วันนี้ว่าจะไปซื้อของฝากพี่ผนส3 (ที่มา) สักหน่อย แล้วผนส 3 ที่ไม่มาจะเอาอะไรบ้างละเดี่ยวจะซื้อไปฝาก (ฝากไปทางmail)
        ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไร เนื่องจากำลังจะปิดบัญชีสิ้นปี กำลังเร่งรัดดอกเบี้ย ฝนก็ตกเกือบทุกวัน คนกรีดยางไม่ได้ รายได้ไม่มี เลยส่งดอกเบี้ยไม่ได้ ไม่เหมือนสหกรณ์ออมทรัพย์ สิ้นเดือนก็หักเงินเดือน
      

สวัสดี ผนส 3 ของเราทุกท่าน

ทราบข่าวว่าจะมีการพบปะกันที่ครัวสหกรณ์ นึกแล้วเห็นภาพของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรอย

ยิ้มเสยงหัวเราะ เสียงรองเพลงของพี่แจ้ และได้เจอบัดดี้ด้วย จะหาจังวะโอกาสไปนะครับ

รับทราบแล้วค่ะ วันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค. 52 ที่ครัวสหกรณ์ใช่มั๊ยคะ

งานวันพฤหัสนี้ได้คุยกับอาจารย์บัญชาแล้วยังไม่ถือว่าเต็มรูปแบบเนื่องจากกระทันหันเกินไปแต่ก็อยากให้คนที่พอมาได้มาคุยกันหน่อยเพื่อเตรียมจัดงาน back to schoolครั้งต่อไป ให้ยิ่งใหญ่สนุกสนานในการรวมพลคนผนส.3 (เสื้อม่วง) ก็อยากให้มากันเยอะๆแต่ก็พอทราบว่าหลายๆคนติดธุระติดราชการเนื่องมีแผนงานล่วงหน้าไว้แล้ว ก็ถือว่างานนี้เป็นการประชุมเตรียมการจัดงานคืนสู่เหย้าชาวผนส3"ไปก่อนก็แล้วกัน..ก็อยากให้พวกเราแสดงความคิดเห็นหรือแนะนำเข้ามาในบล็อกกันเยอะๆ จะได้นำมาพูดกันในวันพฤหัสนี้..แล้วเจอกันนะ บ๊ายบาย

คิดถึงเสมอ...

แจ้..

เรียน ผนส 3 ทุกคน

        ผมต้องขอโทษพี่ๆและผนส 3  ทุกคน ที่ไม่สามารถไปร่วมประชุมได้ในการพบปะกันครั้งแรก เนื่องจากติดภาระกิจจริง ประชุมกลุ่มสมาชิกระหว่างวันที่ 26-29 และวันที่ 30-31 ติดอบรม
       แต่อย่างไรก็แล้วแต่ มติที่ประชุมว่าอย่างไง ครั้งต่อไปประชุมที่ไหน ขอให้เป็นมติที่ประชุมและแจ้งล่วงหน้า จะไปให้ได้ หรือหากจะลงมาเยี่ยมทางใต้ก้ได้
      วันนี้ไปร่วมโครงการเจรจาการค้าข้าวสารกับสหกรณ์จากจังหวัดศรีสะเกษ เสียดไม่มีทำงานผนส 3 เลย ผลการเจารจา ยังไม่ทราบผลเพราะมอบหมายให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรสงขลา เป้นผู้ตัดสินใจแทน      
       สุดท้ายเสียดายที่ไม่ได้ไปในการพบกันครั้งแรก อย่างไรก้แล้วแต่อย่าลืมแจ้งมาในบล๊อกด้วย

       สวัสดีทุกคน

เรียนประธานผนส3 ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาร่วมวันที่ 27นี้ไม่ได้ติดประชุมคะ เอาไว้นัดครั้งต่อไปบอกล่วงหน้าด้วยนะคะจะได้เตรียมวางแผนค่ะ

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ

ขอเชิญผนส.3 ทุกท่าน ร่วมสังสรร ในวันที่ 28 พค. 2552 ที่ครัวสหกรณ์ นะครับ

ขอแสดงความยินดีกับท่านอภิสิทธิ์ที่ได้รับตำแหน่งนสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขอเชิญพี่ๆน้องๆแสดง ความยินดีด้วยนะครับ

อนึ่งสำหรับพี่ราตรีจะจัดแสดงความยินดีในโอกาสต่อไปครับเนื่องจากพี่ราตรีติดเข้ารับการอบรมหลักสูจรผู้บริหารระดับสูงอยู่ครับ

คิดถึงทุกคนนะครับ

บัญชา

  • วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) วันวิปโยก วินาศสันตะโร วันสุดท้ายของมนุษย์ (ที่ไม่มีศีลธรรม) *เท่าที่เมย์รวบรวมมาเรื่องภัยพิบัติจากทั่วโลก น่าแปลกใจมาก ทำไมการทำนายหลายๆอย่างในโลก มันถึงมาตรงกันที่ปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) เวลาที่เหลืออีกแค่ 3 ปี เหล่ามนุษย์มัวทำอะไรกันอยู่นะ ควรเร่ง ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา กันนะคะ จะหมดเวลาทำแล้วค่ะ ...เลิกห่วงทรัพย์สมบัติ ทรัพย์สิน เงินทอง รถยนต์ บ้าน มือถือ ฯลฯ ได้แล้วค่ะ เพราะตายไปก็เอาไปไม่ได้ เอาไปได้แค่ บุญ-บาป เท่านั้นเอง* 1.ประกาศจากองค์การ NASA วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) วันนั้นแกนโลกของเราจะพลิกกลับขั้ว คือ ขั้วโลกเหนือจะมาอยู่ที่ขั้วโลกใต้ ช่วงเวลานั้น โลกของเราจะไม่มีสนามพลังแม่เหล็ก เพื่อป้องกันตัวเองจากสนามพลังแม่เหล็ก และ รังษีต่างๆจากอวกาศ แล้ววันนั้นจะเป็นวันเดียวกับที่ ดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้วเช่นกัน เพราะดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้วทุกๆ 11 ปี ปีล่าสุดคือปี พ.ศ. 2544 ถ้ามาถึงวันนี้ก็ 11 ปีพอดี (2544 + 11 = 2555) ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังพลิกกลับขั้วนั้น ดวงอาทิตย์จะแผ่สนามแม่เหล็ก และรังษีความร้อนสูงมายังโลก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่โลก ไม่มีสนามแม่เหล็กป้องกันตัวเอง ผลคือ น้ำแข็งขั้วโลกละลายฉับพลัน น้ำท่วมโลกฉับพลัน ไม่มีทางหนีได้ทัน ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) [อ้างอิง กรรมจริงๆ 22 ธ.ค พ.ศ. 2555 จะเกิดปรากฏการณ์แกนโลกพลิก และการพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ มันคือวันหายนะภัยพิบัติของโลก] 2.ชาวมายา (ชนเผ่ามายาแห่งอเมริกากลาง) ทำปฏิทินใช้เองตั้งแต่ 1,000 ปีที่แล้ว ชนเผ่ามายานี้มีความสามารถในการคำนวนการโคจร การเกิดดับของดวงดาวอย่างไม่น่าเชื่อ คือเขาสามารถคำนวนว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์โดยใช้เวลา 365 วัน ตั้งแต่ 1,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับปฏิทินที่ชาวโลกปัจจุบันใช้กัน แล้วยังสามารถคำนวนเกี่ยวกับร??บบสุริยะจักรวาลได้อย่างแม่นยำมาก ชาวมายายังกำหนดวันสุดท้ายของปฏิทินของพวกเขาคือ วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) พวกเขาบอกด้วยว่า วันนั้นโลกจะถึงจุดสิ้นสุด (โดยบอกไว้เมื่อ 1,000 กว่าปีที่แล้ว) น่าแปลกมาก ทำไมมาตรงกับองค์การ NASA อ่ะคะ ไม่น่าเชื่ออ่ะ [อ้างอิง เวรกรรม ปฏิทินของชาวมายา (ชาวเผ่ามายาแห่งอเมริกากลาง) นั้นสิ้นสุดในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) หรือวันนั้นโลกมนุษย์จะวิบัติ] 3.นาย Gordon-Michael Scallion เป็นผู้หยั่งรู้อนาคต (futurist) มีญาณทัศนะ(Spiritual Visionary) คือมองเห็นอนาคตด้วยญาณ มีความแม่นยำมาก เขาได้ทำนายว่า น้ำกำลังจะท่วมโลก จนหลายประเทศหายไปจากแผนที่ ประเทศที่เป็นเกาะจะจมน้ำทั้งหมด ประชากรโลกที่รอดตายมีเพียง 10% เท่านั้น เขาเชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในระหว่างปี 1998-2012 (พ.ศ.2541-พ.ศ.2555) และเขาได้สร้างแผนที่โลกใหม่หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Future Map Of The World ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1978 (พ.ศ. 2521) ซึ่งประเทศไทยเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น 4."หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล" กล่าวไว้ว่า พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้ [อ้างอิง หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้...] *น่าแปลกใจมาก ทำไมการทำนายหลายๆอย่างในโลก มันถึงมาตรงกันที่ปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)*

ความคิดถึง...กำลังเดินทาง

ในที่สุดท่านประธานรุ่น รศ.บัญชา ของพวกเรา ได้เป่านกหวีดแล้ว แต่เสียดาย หลายท่านอาจติดภารกิจ ไม่สามารถร่วมงาน back to school ครั้งนี้ได้ ครั้งต่อไปต้อง พรึบ พรึบ แน่นอน (ขอบคุณพี่แจ้ ครับ)

วันที่ ๒๘ พค.ผมจะออกเดินทางจาก สนง.ประมาณบ่าย ๑ โมง ถึงที่หมายบ่าย ๕ โมง ด้วยความเร็วและอัตราการเร่งมาตรฐาน

ขอเสนอประเด็นหารือ back to school ครั้งต่อไป

- สถานที่ควรเป็นต่างจังหวัด

- วันศุกร์และเสาร์ ๒ วัน

- มีกิจกรรมที่โยงกับ ภาวะผู้นำ

สวัสดีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ชาว ผนส 3 ทุกท่านค่ะ

ดีใจที่ได้กลับไปโรงเรียน แต่เสียดายที่ไปกันไม่ครบ ไม่เป็นไร เพราะเป็นการพบกันครั้งแรก และกระชั้นชิดจนเกินไป ทำให้หลาย ๆ คนเตรียมตัวไม่ทัน แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่ไม่ได้มาร่วมสังสรรค์ครั้งนี้ ก็อย่าลืมเตรียมฟังข่าวว่าคราวหน้าจะที่ไหน เห็นด้วยกับคุณทนงศักดิ์ ว่า เป็นวันศุกร์ เสาร์ ก็ดีค่ะ

คิดถึงทุก ๆ ท่านค่ะ พบกันพรุ่งนี้ (28 พค) 17.00 น.

สวัสดีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ชาว ผนส 3 ทุกท่าน

             ต้องบอกว่าเสียดายจริงๆที่ไม่สามารถไปร่วมงานครั้งนี้ได้ ติดภาระกิจจริงๆ ช่วงนี้มีการประชุมกลุ่มสมาชิก เริ่มประชุมตั้งแต่วันที่ 26 ถึง วันที่ 29 ประชุมวันละ 10 กลุ่ม ครั้งละประมาณ 200 คน ประชุมที่สำนักงานสหกรณ์  มีการแจกของรางวัลผู้มาร่วมงาน
            เสร็จจากการประชุมวันที่  30-31 เสาร์อาทิตย์ ก็ไม่หยุด มีงานอื่นรออยู่
             ต้องขอโทษพี่ๆจริงๆที่ไม่สามารถไปร่วมได้ วันนี้งานมากลืมเรื่องของพี่อดิศักดิ์  ต้องขอโทษพี่ด้วยนะ พรุ่งนี่จะรีบดำเนินการให้
            ผลการประชุมพรุ่งนี้ เป็นประการใด โปรดแจ้งในบล๊อกด้วย

            สวัสดีทุกคน พยกันในการนัดครั้งต่อไป

ประยูร รัตนเมธางกูร สกต.นครราชสีมา

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผนส.3 ทุกท่าน

ต้องขออภัยและเสียดายโอกาสที่จะได้พบกันในวันที่ 28 พค ทั้งที่ผมคนหนึ่งหล่ะที่บ่นคิดถึง เรียกร้องท่านประธานและทีมงาน ให้หาโอกาสพบกัน ผมรับโทรศัพท์จากคุณธนะ เมื่อวันที่ 25 พค ขณะเพิ่งเดินทาง ไปถึงอรัญประเทศในงานประชุมสัมนาพอดี ได้บอกฝากเสียดายกับคุณธนะถึงเพื่อนๆทุกคน ครั้งหน้าถ้ากำหนดเป็นวันคืนสู่เหย้าเลยดีไหมครับ และแจ้งกำหนดวันล่วงหน้าเนิ่นๆก็จะดี ทุกท่านจะได้จัดโปรแกรมของตนเองไม่พลาด สถานที่ กรุงเทพก็เหมาะ เป็นจุดกลางดี ขอให้สนุกกับปาร์ตี้ครั้งนี้ทุกท่านะครับ ถ้าจะสรุปเกร็ดบรรยากาศทางบล๊อกก็จะดีนะครับท่านประธาน จะได้รับทราบบรรยากาศด้วย แม้ไม่ได้มาร่วมก็คลายคิดถึงได้ สวัสดีครับ

จากการสำรวจประชามติ เพื่อเข้าร่วมงานครั้งนี้ คุณธนะ..เหยี่ยวข่าวของพวกเราชาว ผนส.๓ รายงานว่า มีผู้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมงาน back to schoolจำนวน ๒๘ ท่าน ส่วนอีก ๑๒ ท่านติดภารกิจ แต่ไม่แน่..อาจจะปล่อยภารกิจ มาร่วมงานศิษย์เก่าก็อาจจะมีบ้าง

ขอให้ทุกท่านโชคดี ปลอดภัยในการเดินทางทั้งไป และกลับ ด้วยความปราถนาดีจาก..น้ำยาล้างภาชนะ และลูกชิ้นเนื้อ ตราโคออป บ้านเขว้า

วันนี้กรุงเทพฝนถล่มตั้งแต่บ่ายชาวผนส3.มิได้หวั่นกำนันบ้านนอกมาถึงสันนิบาตก่อนใครเพื่อนเนื่องจากเอารถไปแก้ไขมาแล้วแต่ขากลับวิ่งช้าเหมือนเดิมมาคราวนี้นำพระเครื่องขุนแผนสุพรรรณมาฝากเพื่อนๆทุกคน เจ้าภาพใหญ่พี่ธนะเลขารุ่นมาจัดการห้องจัดเลี้ยงไว้อย่างเรียบร้อยสมกับที่รุ่นเราได้มอบหมายให้เป็นแม่บ้านพร้อมดนตรีคาราโอเกะ แต่ไม่มีใครร้องเพลงมีแต่คุยกันอย่างเดียวเพราะความคิดถึง พี่แจ้มาตามเวลานัดพร้อมสั่งสุรามาล้างคออย่างกระหาย ตามมาติดๆสองสหายคู่หูน้องไทยสมพงษ์และบิ๊กอู๊ดแห่งบ้านเขว้ารับพระเครื่องขุนแผนที่ไม่มีความหมายสำหรับบิ๊กอู๊ดเพราะบิ๊กอู๊ดเจ้าพ่อโคโยตี้เหนือชั้นกว่าขุนแผนแดนสุพรรณมากนัก นำไวท์ขาวมาล้างคอด้วยมีพี่ปัทมาช่วยดื่มอยู่ห่างๆพี่จิ๋นมาอย่างผู้จัดการเหมือนเดิมหลังจากสั่งการทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก็เริ่มทดสอบรสชาดอาหารรสเดิมๆที่เราคุ้นเคย.....หยุดรับประทานอาหารสักครู่ โปรดติดตามตอนต่อไปพรุ่งนี้

ข่าวล่ามาเรือรายงานสดจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย....

ผู้นำ ผนส.3อิจฉาผู้ที่ได้มาร่วมจัง วานนี้ยังนั่งนึกวาดภาพถึงความสุขความคิดถึงของพวกเราที่ได้คืนสู่เย้าคงจะแย่งกันคุย เห็นผู้สื่อข่าวบอกว่าไม่มีไครร้องเพลง คุณปัทมานั่งดื่มวายขาวไม่น่าพาดการขึ้นร้องเพลงนะคะขอบคุณคุณปัทมามากๆคะที่อุดหนุนสินค้าของป้าไปแจกเพือนสมาชิกสำนักงานข้าวสหกรณือีสานคงถูกใจผู้ได้รับนะคะ

สวัสดีค่ะเพื่อ ๆ ผนส. 3 ทุกท่าน

ส่งข่าวมาให้อิจฉาเล่นสำหรับคนที่ไปได้กลับไปโรงเรียนร่วมกัน คาราโอเกะ ไม่มีความหมายเพราะห่วงเม้าท์กระจายกัน มีผู้หญิงร่วมงานเพียง 4 คน ได้แก่ พี่ปัทมา พี่น้อยน้องกุ้ง และหนูเองค่ะ ไปช้าก็ถูกเรียกทางโทรศัพท์ให้รีบมาด่วน สำหรับคุณผู้ชายท่ี่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าประจำแล้ว พี่พิณ ครูผู้ปกครองของเราก็มา ซึ่งนึกไม่ถึงเลยจริง ๆ และ พี่จวบซึ่งมาจากแดนใต้ก็มาด้วย พวกเราได้ถ่ายรูปร่วมกัน น้องกุ้งจะส่งให้ภูมินทร์ เผื่อจะส่งเข้ามาในblog ให้คนที่ไม่ได้มาอิจฉาเล่น สรุปสุดท้ายที่คุณธนะบอกว่ามา 28 คน ไม่มา 12 คน กลายเป็นมา 13 คนไม่มา 27 คน คืนนั้นท่านประธานก็เลยขอรับเป็นเจ้าภาพเอง การประชุมคืนนี้น ให้ คุณอู๊ด กำนันสุขสันต์ และคุณอภิสิทธิ์ ไปทำการบ้านว่าจะเลือกจังหวัดไหนมีชัยภูมิ อุทัยธานี หรือ โคราช ให้ 3 หนุ่ม ถกกันให้เรียบร้อยแล้วนำมาแจ้งให้ที่ประชุมทราบ เมื่อได้ข้อยุติแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคราวหน้าคงมีผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 13 ท่านนะคะ

คุณสุทิศเขียนมาว่าจะเข้าร่วมประชุมใหญ่ ชสอ ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ใช่หรือไม่ค่ะคิดว่าคงได้พบกันนะคะ เพราะพี่จะไปในฐานะหัวหน้า เข้าร่วมประชุมใหญ่ด้วย วันนี้ส่งข่าวเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน คิดถึงทุกท่านค่ะ สวัสดีค่ะ

สวัสดี ครับ พี่ๆ ผนส  3 ทุกคน

      เสียดายที่ไม่ได้ไป อย่างที่บอก ติดประชุมไปไม่ได้จริงๆ แต่ครั้งต่อไป โปรดแจ้งล่วงหน้าหน่อย จะได้เตรียมตัวทัน แต่เดือนมิถุนายน กรกฎาคม ขอทำงานหน่อย เพราะช่วงปิดบัญชี
        ในช่วงไปอบรม ขาดงานไปมากต้องมาเตรียมงานหลายอย่าง ต้องขอโทษ พี่ๆจริงที่ไปไม่ได้ แต่วันที่ 13 นี้จะขึ้นไปประชุมใหญ่ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ คงได้เจอกันหลายคน ที่ต้องเจอแน่นอนคือพี่ธนะ เพราะได้ข่าวว่าลงสมัครกับเขาด้วย อย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องเอาใจช่วยพี่ด้วยคน 
      วันนี้ไว้แค่นี้ก่อน

กำนันบ้านนอกอยากพบเพือนๆทางใต้บา่งเพราะวันที่2จะพักที่หาดใหญคิดถึงจริงๆในเมื่อวันที่28มาไม่ได้กำนันบ้านนอกไปหาพี่ๆเอง

เรียน  ผนส 3 ทุกคน

          ได้ข่าวว่าท่านกำนันจะมาเยี่ยมที่หาดใหญ่ ดีใจที่จะได้เจอท่านกำนัน แล้วจะไปคอยต้อนรับ และพาเที่ยว  แต่คงจะไปได้ตอนบ่ายนะกำนันเพราะช่วงเช้าติดประชุมที่อำเภอ
           ช่วงนี้งานยุ่งมาเลย  แต่ก็ได้อ่านหนังสือพิมพ์โคออป ฉบับล่าสุดแล้วไม่สบายใจ หากใครอ่านช่วยอ่านหน้าที่เป็นเรื่องของ หลักสูตรผู้นำรุ่น 3 ดูไม่อยากบอกเดี่ยวหาว่าพอเป้นเรื่องตัวเองแล้วเรียกร้อง

        แต่ถ้าใครเป็นผม ต้องมีความรู้สึกแน่นนอน เพราะหลังจากจบหลักสูตรที่อบรม ได้นำเสนอผลการอบรมให้คณะกรรมการรับทราบ ทุกเรื่องที่ไปอบรมมาและผลเป็นประการได้บ้าง ได้รับรางวัลอะไรบ้าง แต่หากกรรมการสหกรณ์ได้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้แล้ว กรรมการจะเข้าใจว่าอย่างไร  หาว่าที่ส่งผู้จัดการไปอบรมแล้วมานำเสนอไม่ตรงกัน กับที่พูด
        อยากให้ผนส 3 ช่วยตรวจสอบ ว่าหนังสือพิมพ์ผิดสือว่าผมเข้าใจผิดไปเอง

          สวัสดีทุกคน

สวัสดีพีน้องห่างหายหน้าไปหลายวันคิดฮอดหมู่เฮาน่าดูเลย กำนันบ้านนอกท่องเที่ยวหาประสบกาม(ขอโทษประสบการณืไปเรื่อยๆ)ตามประสาขุนแผนเมืองสุพรรณยกทัพไปตีลังกาวีเที่ยวนี้คงได้สนมกลับมาเพิ่มเติม อย่าลืมของฝากเพื่อนๆนะกำนันบ้า(นอก)... อ่านข้อความของสุทิศแล้วยังไม่ทราบไม่เข้าใจว่าไม่สบายใจประเด็นไหน ผมว่าสุทิศฟันธงออกมาเลยว่าประเด็นไหนจะได้ช่วยกันวิพากษ์จะได้มองให้ตรงประเด็นที่ไม่สบายใจ บล็อกของเราผนส3.เป็นบล็อกที่เสนอความคิดได้อย่างเต็มที่ในแนวคิดแบบประชาธิปไตยไม่ต้องกลัวขอเป็นกำลังใจให้นะ...แล้วเจอกันcoming soon"" /ฝันดีมีโชค.....แจ้

สวัสดี พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผนส.๓ ทุกคน

ขอแสดงความยินดีกับคุณอภิสิทธิ์ เสี่ยข้าวโพดกระป๋องแห่งเมืองย่าโมโคราช ที่จะได้รับตำแหน่งเป็น "สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" ชาว ผนส.๓ ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีและเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ (เมื่อ๒๘พค.ที่ผ่านมา)

สำหรับภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากที่(ประชุม)ทานอาหาร ผนส.๓ให้คัดเลือกพื้นที่เป้าหมายเพื่อทำกิจกรรม ประกอบด้วย จังหวัดอุทัยธานี นครราชสีมา และชัยภูมิ คงต้องรอให้กำนันบ้านนอก กลับจากยกทัพไปตี ลังกาวี ก่อน หวังว่า... ท่านกำนัน คงจะไม่นำเชลยศึกกลับมาเมืองไทยนะ (เมียเดียวบ้านเงียบ เมียเพียบบ้านพัง)

ประเด็นของคุณสุทิศ ก่อนหน้านี้ผมได้รับทราบแล้วเพราะโทรคุยกัน แต่จะเป็นอะไรต้องให้เจ้าตัวลงblogoนี้เลยจะดีกว่า เพราะที่นี่คือเวที ของพวกเราที่ท่านอาจารย์จีระมอบให้ทุกคน

คืนวันที่ ๒๘ พค.ผมพักค้างที่..สันนิบาต โฮเต็ล โชคดีได้พักห้องที่มีการปรับปรุงใหม่ ชั้น ๖ แต่ไม่ถือว่าโชคร้ายนะ เมื่อไฟในห้องดับตอนตี ๑ น่าจะเป็นความโชคดีมากกว่าที่ในคืนนั้นได้มีโอกาสนอน ๒ ห้อง เพราะได้ย้ายไปนอนห้องตรงข้าม สงสัยจังเลยว่าใครออกแบบห้องน้ำ พื้นสีดำด้าน หยาบ ขรุขระ ฝาห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีดำทะมึน พอเหยียบย่างเข้าไป โอ้ย..ไม่อยากเล่า เชื่อไม๊ ชายอกสามศอกอย่างผม ขนลุก เลยนะ ให้ท่านผู้อ่านจินตนาการเอาเองก็แล้วกัน จะเล่าให้ฟังเมื่อ coming soon ครั้งต่อไป ครับ

เรียน  ผนส 3 ที่เคารพทุกท่าน

         เรื่องที่ผมเข้าไปในบล๊อกมีอยู่ว่า หนังสือพิมพ์โคออป นิวส์ ฉบับวันที่ 1-15 พฤษภาคม  2552  หน้าที่  25 เรื่องพลังผู้นำสหกรณ์ ได้นำเสนอผู้นำสหกรณ์ รุ่น  3  เรื่องที่ได้ไปอบรมกันตลอดสี่เดือน และสรุปโครงการ และได้คัดเลือกโครงการที่เราได้นำเสนอ 5 โครงการดีเด่น  ในจำนวน 5 โครงการในหนังสือไม่ตรงกับที่ได้แจ้งในที่เราได้จบหลักสูตร  เพราะหนึ่งในห้าโครงการนั้น ผมได้รับรางวัลด้วย และของรางวัลที่ได้ยังเก็บใส่ตู้ไว้เลย 
        ผมได้แจ้งให้คณะกรรมการรับทราบในวัประชุม และเพือนๆสหกรณ์รับรู้  แต่พอมาอ่านหนังสือฉบับนี้แล้วทำให้ผมไม่สบายใจ  เพราะหากถ้ากรรมการผมได้อ่าน และเพือนๆสหกรณ์ได้อ่าน 

      จะเข้าใจว่าผมโกหก   คณะกรรมการและเพื่อนๆสหกรณ์ ทันที่

      หรือว่าที่ประกาศวันนั้นในห้องประชุมประกาศผิด หรือว่าผิดที่ผมที่ออกไปรับของรางวัล แต่ขอยืนยันว่ารางวัลที่ได้มาวันนั้นยังอยู่ครบ เป็นของที่ระลึกจากสันนิบาตร ใส่กล่องเรียบร้อย 
      ก็ต้องของฝากถึงผู้บริหารโครงการ ช่วยดูให้ด้วย ว่าสุดท้ายผิดอยู่ที่ใคร ที่ผมหรือใคร

         ขอบคุณครับ (ไม่ได้น้อยใจหลอกนะแต่เสียน่า)

ขอแสดงความคิดเห็นกรณีของคุณสุทิศ พงษ์จีน

ในเรื่องนี้ ทีมงานผู้บริหารโครงการฯ ควรให้ข้อมูลที่เป็นความจริง และ บก.หนังสือพิมพ์โคออป นิวส์ ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบในความผิดพลาด เพราะหนังสือพิมพ์ส่งไปทั่วประเทศ,แวดวงสหกรณ์ และสาธารณะรับรู้ วันที่ประกาศมอบรางวัลนี้ ผมและพี่น้องชาว ผนส.๓ ทุกคนทราบและเห็นเป็นที่ประจักษ์

เริ่มแล้วงาน"เบิ่งดอกกระเจียว เที่ยวชัยภูมิ เยือนถิ่นผ้าไหม ไหว้เจ้าพ่อพญาแล" มิถุนายน-สิงหาคม ๒๕๕๒

ผมว่าน่าจะมีอะไรผิดพลาดในการนำเสนอในสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ในฐานะเคยสัมผัสสื่อมามากก็ขอให้ผู้ที่ดำเนินการในสื่อของสันนิบาตลงข้อความออกมาตรวจสอบและชี้แจงในข้อผิดพลาด ผมว่าสุทิศคงไม่ติดใจในความผิดพลาดในครั้งนี้ ใครๆก็พลาดได้ทุกคนจริงไหม..ขอบคุณบิ๊กอู๊ดที่ออกมาขยายความทำให้สามารถตีความที่สุทิศไม่สบายใจได้อย่างเข้าใจ และขอโนนี้....ทษสุทิศด้วยที่ติดตามข่าวสารได้อย่างไม่ชัดเจน จึงตั้งข้ อสงสัยในบล็อกให้สุทิศได้ชี้แจง...แต่ก็ดีใจในความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆที่เข้ามาในบล็อกเพื่อแดงความคิดเห็นในประเด็นที่ตั้ง...อยากฟังความคิดเห็นเพื่อนๆในประเด็นนี้จริงๆนะจะบอกให้....จุ๊บๆ

รักและคิดถึงเสมอ

แจ้....

ธนะ บำรุงแสง เลขารุ่น 3

สวัสดีครับ เพื่อนๆร่วมรุ่น3 ทุกท่าน

สืบเนือ่งวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค.52 ชาวผนส.3 พบปะสังสรรค์ คืนสู่เหย้า

"Back to school" แจ้งมาร่วมงาน 28 ท่าน มาจริง 23 ท่าน ประธานบัญชา

ตัวแทน ผนส.รุ่น3 มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับ คุณอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ ที่ได้รับ

เลือกตั้งเป็นกรรมการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และที่ประชุมให้ดำเนินการดังนี้

1.ออกคำสั่งแต่งตั้งกรรมการ 6 ท่าน/ทนงศักดิ์,สมพงษ์,สุขสันต์,อภิสิทธิ์,

อดิศักดิ์,สิทธิพร(แจ้) เพื่อสรรหาสหกรณ์และจัดกิจกรรมให้ความช่วยเหลือพัฒนาสหกรณ์ โดยเน้น 3 จังหวัด/สุพรรณบุรี,ชัยภูมิ,นครราชสีมา ในวันศุกร์และเสาร์หรือ

ในวันเสาร์และอาทิตย์ให้ ท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เป็นที่ปรึกษา

2.ท่านเหรัญญิกได้รายงานยอดรายรับ รายจ่ายและได้นำเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 63,107 บาท ที่ประชุมให้นำเงินซื้อสลากออมสิน,ธกส.ไม่เกินธนาคารละ10,000 บาท

3.มอบหมายท่านอภิสิทธิ์ติดต่อจองวัดทำบุญทอดกฐินสามัคคีและศึกษาดูงาน

ในจังหวัดเดียวกัน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอบคุณครับ

สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ

เรียน ผู้จัดการสุทิศ พงษ์จีน และท่านผนส.ทุกท่าน

ในนามของสถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยต้องกราบขออภัยเรื่องข้อมูลที่ผิดพลาดในหนังสือพิมพ์โคออป นิวส์ ฉบับวันที่ 1-15 พฤษภาคม 2552 และเกิดความผิดพลาดจริงๆ จากการตรวจสอบข้อมูลแล้ว ผู้จัดการสุทิศ พงษ์จีน ได้รับรางวัลโครงการฯ ดีเด่น จริง และมีข้อมูลผิดพลาดในหนังสือโคออป นิวส์ ฉบับดังกล่าวจริง จึงขออภัยมา ณ ที่นี่ และจะแจ้งให้ นสพ.โคออปฯ ลงประกาศแก้ไขในฉบับหน้า ครับ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ (ชื่อใหม่ครับ)

สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

สวัสดีเพื่อน ๆ ผนส 3 ทุกท่านค่ะ

ขอแก้ข่าวของคุณธนะ ค่ะ มีข้อผิดพลาด ดังนี้

1. เพื่อน ๆ ที่มาเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ทั้งหมด 13 คน ไม่ใช่ 23 คน

2. เรื่องทอดกฐินนั้น คุณอภิสิทธิ์ ได้จองกฐิน ส่วนตัวไว้แล้วที่โคราช ซึ่งคุณอภิสิทธิ์ จะเชิญพวกเราไปร่วมทำบุญกัน หากโครงการพัฒนาสหกรณ์ที่พวกเราจะช่วยกันทำนั้น ถ้าได้เลิอก ไปลงที่โคราชก็จะดี เพราะจะได้ 2 เด้ง

3. เงินคงเหลือ 61,147 บาท ไม่ใช่ 63,107 บาท ค่ะ และเมื่อวันที่ 28 พค. อาจารย์บัญชาเป็นเจ้าภาพเลี้ยง เงินกลุ่มจึงไม่ได้จ่ายค่าอาหาร แต่จ่ายค่าช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับคุณอภิสิทธิ์ที่ได้เป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษา ฯ จำนวน 700 บาท ค่ะ

4. ส่วนการซื้อสลากธนาคาร ไม่เกินธนาคารละ 10,000 บาท ก็ไม่ใช่อีก ท่านประธานอนุมัติให้ซื้อเพียง 10,000 บาท แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ซื้อ อยากทราบความเห็นของเพื่อน ๆ พี่ ๆ และน้อง ๆ ว่ามีความเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งคุณแจ้จะเขียนเข้ามาใน blog อีกครั้งในการขอความเห็นและการอนุมัติจากพวกเราก่อนอีกครั้ง ถึงจะไปดำเนินการค่ะ

วันนี้ขอชี้แจงเพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ

จิ๋นซีฮ่องเต้จ๊ะ คิดถึงทุกท่าน

ขอขอบคุณสถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ที่ตรวจสอบข้อผิดพลาดและชี้แจงได้อย่างรวดเร็วหวังว่าสุทิศคงให้อภัยและพอใจในคำชี้แจงนี้.... ประเด็นเรื่องการนำเงินซื้อสลากออมสินและฝากธกส.ในคืนวันงานback to school ที่ผ่านมาได้มีการคุยกันเรื่องผนส3.น่าจะหาโอกาสไปต่างประเทศด้วยกันอีกสักครั้งในบรรยากาศแห่งมิตรภาพเหมือนอย่างที่เราเคยไปกรุงปักกิ่ง (เมื่อเหล้าหนาปัญญาเริ่มเกิด)จึงมีแนวความคิดว่าน่าจะนำเงินรุ่นไปซื้อสลากออมสินและฝากธกส.อย่างละ5000บาทในนามรุ่นผนส3เผื่อมีโชคได้มีทุนไปต่างประเทศด้วยกันอีกรอบโดยไม่ต้องใช้ทุนส่วนตัวแต่ก็มีข้อจำกัดที่คืนนั้นมีแค่13คนจะตัดสินใจไปเลยก็จะไม่เหมาะจึงมีมติว่าให้ขอความเห็นเพื่อนๆผ่านบล็อกให้เป็นเอกฉันท์เสียก่อน จึงอยากให้พวกเราแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ด้วยเพื่อจะได้ดำเนินการต่อ ..คำคืนนี้แค่นี้ก่อนนะ..คิดถึงเสมอ ...แจ้

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

ขอบคุณ..สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นความจริง ในกรณีของคุณสุทิศ พงษ์จีน ที่ได้รับรางวัลโครงการฯ ดีเด่น ขอปรบมือให้สถาบัน ฯ พร้อมกันยาว ๆ ครับ

ขอแสดงความคิดเห็น..ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมถึงเปลี่ยนชื่อ "สถาบันพิทยาลงกรณ " เป็น "สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ" เพราะชื่อเดิมมีประวัติความเป็นมา และเป็นมงคงยิ่ง ต่อขบวนการสหกรณ์ ส่วนคำว่า "และวิชาการ" น่าจะเป็นฝ่ายงานหรือภารกิจหนึ่งในสถาบันฯ ไม่สมควรที่จะนำมาต่อเป็นชื่อเดียวกัน พีน้องครับ..วุฒิบัตรของ ผนส.รุ่น ๓ จากสถาบันพิทธยาลงกรณ เป็นรุ่นสุดท้ายและเป็นตำนานของสถาบัน ไปแล้วครับ

ขอสนับสนุน...แนวความคิดการนำเงินรุ่นไปซื้อสลากออมสินและฝากธกส.อย่างละ๕,๐๐๐ บาท ส่วนตัวเห็นว่า ในจำนวน ๑๓ อรหันต์ที่ประชุมกันคืนนั้น ถึงแม้องค์คณะไม่ถึงกึ่งหนึ่ง แต่เชื่อว่า ผนส.๓ ที่เหลือจะเห็นพ้องกัน เพราะดอกเบี้ยและโอกาส(ฟลุ๊ค)เป็นสิ่งจูงใจในการลงทุน สุดท้ายอาจนำไปสู่เป้าประสงค์ของพวกเราที่จะได้ทำกิจกรรมและท่องเที่ยวต่างประเทศร่วมกันในเร็ว ๆ นี้ พีจิ๋น..อย่าลืมปลุกเสกก่อนไปฝากเงินนะครับ

เริ่มแล้วงาน"เบิ่งดอกกระเจียว เที่ยวชัยภูมิ เยือนถิ่นผ้าไหม ไหว้เจ้าพ่อพญาแล" มิถุนายน-สิงหาคม ๒๕๕๒ พี่น้องชาว ผนส.๓ ท่านใดสนใจร่วมแข่งแรลลี่ จับหมอกหยอกดอกกระเจียว กับหอการค้าจังหวัดชัยภูมิ วันที่ ๒๗-๒๘ มิถุนายน ๕๒ นี้ ติดต่อที่ ๐๘๑ ๒๖๕ ๒๘๘๐ ครับ

เพื่อนผนส 3เห็นด้วยกับมติที่จะนำเงินกลุ่มไปลงทุนที่ไมมีความเสี่ยงแต่มีผลตอบแทนน้อยเผื่อมีโชคที่จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันตามความหวังของคุณแจ้ ของป้าด้วยแล้วกันขณะนี้ก็มีเพื่อนเราในกลุ่มก็กำลังไปเป็นวิทยากรอยู่ประเทศเวียดนามคือคุณต้อยพิมายค่ะ แต่อย่างไรก็เที่ยวในประเทศสนองนโยบายก่อนแล้วกันนะคะ

ตอบความคิดที่ 765 เป็นนโยบายครับพี่น้อง !!!(ระเบียบใหม่ โครงสร้างใหม่)

เรียน ผนส 3 ที่เคารพทุกท่าน

        ต้องขอขอคุณทางสถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ  ที่ได้ตรวจสอบการนำเสนอข่าว แล้วรับผิดชอบในส่วนที่เสนอไป ส่วนตัวแล้วผมไม่มีอะไรหลอก  แต่เพื่อให้คนอื่นๆเขาเข้าใจว่าที่ได้มาอบรมนั้นอบรมจริง และหลังจากอบรมแล้วยังติดตาม
       ผมดีใจมาเลยที่ได้มาอบรมโครงการนี้ เพราะเมื่อก่อนจะทำอะไรสักครั้งก็ไม่กล้าตัดสินใจ หลังจากอบรมโครงการนี้แล้ว หลายสิ่งหลายอย่างต้องกล้า เพราะได้ผ่านอบรมหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงแล้วต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ ที่สำคัญต้องกล้าพูด

       ช่วงนี้ท่านกำนันลงมาเที่ยวหาดใหญ่  และไปเที่ยวต่อลังกาวี  วันนี้กลับจากลังกาวี  มาแวซื้อของที่หาดใหญ่อีกรอบ  ผมว่าจะออกไปซื้อของฝากสักหน่อย และจะไปส่งกลับสุพรรณด้วย

      ตอนท่านกำนันมาถึงวันแรกรู้ไหมท่านกำนันให้ผมไปหาน้องนกให้  (นกเขา)  นำไปเลี้ยงที่บ้าน  ไปหาอยู่หลายวันี้ แต่เพื่อกำนันก้หามาจนได้ ว่าจะฝากให้คนอืนด้วยก็ลำบากนะ  มาเอาเองดีกว่านะ  ใครลงมาใต้วันไหนโทรมาบอกนะ จะได้ไปต้อนรับ

     สวัสดีทุกคน 

       

...เมื่อครั้งที่เรียนในมหาวิทยาลัย ในชั้นเรียนของวิชาหนึ่งอาจารย์ให้ทำข้อสอบเก็บคะแนน คำถามต่างๆที่อาจารย์ถามมาก็ไม่ยากไม่ง่ายนักสำหรับพวกเราจนกระทั่งถึงคำถามสุดท้าย ซึ่งถามว่า"สุภาพสตรีที่ทำความสะอาดของคณะเรา ชื่ออะไร" ต้องเป็นเรื่องที่อาจารย์เล่นตลกแหงๆเมื่ออ่านคำถามจบแล้วนึกอยู่ในใจ...ผมเจอแม่บ้านทำความสะอาดคนนี้แทบทุกวัน เธอเป็นผู้หญิงรูปร่างผอมสูง ผิวคล้ำอายุประมาณ50ปี แต่ผมจะไปรู้จักชื่อหล่อนได้อย่างไรละ ... ในที่สุดก็ส่งกระดาษคำตอบโดยไม่ได้ตอบคำถามสุดท้ายเพราะไม่สามารถที่จะเดาได้ ก่อนออกห้องสอบได้ยินเพื่อนถามอาจารย์ว่า "คำถามสุดท้ายอาจารย์ให้คะแนนรวมอยู่ในการสอบหรือไม่" "แน่นอน" อาจารย์ตอบอย่างหนักแน่น.. เหตุผลนะหรือ "เพราะเมื่อพวกเธอเข้าทำงาน เธอจะต้องพบเจอผู้คนอย่างมากมาย ซึ่งคนเหล่านั้นล้วน มีความสำคัญควรค่าต่อการได้รับความสนใจและเอาใจใส่ แม้ว่าพวกเธอจะแค่คนทำความสะอาดหรือเพียงแค่ยิ้มให้และกล่าวทักทายคำว่าสวัสดีเพียงแค่นี้ก็ตาม"

ช่วงนี้กุ้งยุ่งมากๆเลยค่ะ เลยยังไม่ได้ออกหนังสือขออนุญาตไปราชการ(ไปสำรวจพื้นทีสหกรณ์)ให้กับพี่ๆที่ได้รับมอบหมาย ที่จะต้องนำไปขออนุญาตจากทางบ้าน ยังไง..ใจเย็นนิดนึงนะคะ จะรีบปฏิบัติให้เสร็จเรียบร้อยภายในอาทิตย์หน้าค่ะ

สวัสดีเพื่อน ๆ ผนส 3 ทุกท่านค่ะ

เห็นด้วยนะคะในการนำเงินรุ่นไปซื้อสลากออมสินและฝากธกส.อย่างละ5,๐๐๐ บาท

และขอแสดงความยินดีกับน้องอภิสิทธิ์ด้วยนะคะ ชื่อนี้ปีนี้เฮงจริงๆนะ

สวัสดีเพื่อน ๆ ผนส 3 ทุกท่าน

        ผมก็เห็นด้วยในการนำเงินรุ่นไปซื้อสลากออมสินและฝากธกส.อย่างละ5,๐๐๐ บาท  และขอแสดงความยินดีกับคุณพี่อภิสิทธิ์ด้วยคน
        ท่านกำนันถึงบ้านแล้วยัง   น้องนกเป็นอย่างไรบ้างละ 
        แล้วโปรแกรมหน้าที่ทางรุ่นจะไปกันนั้นประมาณเดือนไหนละ จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า

         วันนี้แค่นี้ก่อน  สวัสดีทุกคน

สวัสดี ผนส 3 ทุกท่าน

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ไม่ได้ไปร่วมประชุม (ดินเนอร์ คาราโอเกะ) ด้วย อย่างไงๆ

ก็ขอความเห็นใจหน่อยอยู่ไกลเหลือเกิน ได้ส่งใจไปให้แล้ว ตามข้อเสนอที่ออกจาก

พลังมันสมองของ 13 จอมยุทร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทอดกฐิน การนำเงินไปลงทุน

(ต่อยอด) ผมขอยกมือรับหลัการนี้ด้วยครับ จะเป็นเมื่อไรแล้วผมจะติดตามและไป

ร่วมด้วยแน่นอน

คิดถึง ผนส 3 ทุก ๆ คน

สวัสดีเพื่อน ๆ ผนส 3 ทุกท่าน กำนันบ้านนอก ถึงบ้านแล้ว12.00น ของวันที่5ต้องบอกเพือนๆว่าชาวหาดใหญต้อนรับกำนันบ้านนอกดีมากไม่ว่าพี่รอง(พี่จวบ)พี่สุทิศ กำนันบ้านนอกจะไม่ลืมน้ำใจของพี้ทั้งสองเลย น้องนกสบายดีทั้งสามกำนันบ้านนอกจะดูแลอย่างดีแต่ กำนันบ้านนอกจะต้องไปทำธุระที่ลาวอีกแล้ววันที่9-11โดยภาระกิจแรกพบท่านอภิสิทธิ์ท่านอดิศักดิ์,ท่านทนงศักดิ์เรืองโครงการที่ได้รับมอบหมายขอนำเสนอที่อุทัยก่อน ภาระกิจต่อไปคือไปติดตามรถแห่เทียนที่สั่งทำไว้ที่อุบลจะเอามาแห่ที่สุพรรณภาระกิจต่อไปคือแวบข้ามไปชมเมืองลาวจะน่อย

ฉันพูดกับพุทธองค์ว่า :ขอให้เพื่อนผนส.3ของฉันทุกคนมีความสุข สุขภาพดี ตลอดไป

พุทธองค์ตอบว่า : ขอได้เพียง 4 วันเท่านั้น

ฉันตอบว่า : ได้ ถ้างั้นขอวันฤดูใบไม้ผลิ วันฤดูร้อน วันฤดูใบไม้ร่วง วันฤดูหนาว

พุทธองค์ตอบว่า : 3 วัน

ฉันตอบว่า : ได้ เมื่อวาน วันนี้ วันพรุ่งนี้

พุทธองค์ตอบว่า : ไม่ได้ ให้ได้แค่ 2 วัน

ฉันตอบว่า : ได้ งั้นเป็นกลางวัน และ กลางคืน

พุทธองค์ตอบว่า : ไม่ได้มากไป ให้ได้วันเดียว

ฉันตอบว่า : อ๋อ ได้

พุทธองค์ถามว่า : วันไหนล่ะ

ฉันตอบว่า : ขอเป็นวันที่เพื่อนๆของฉันยังมีชีวิตอยู่

พุทธองค์หัวเราะ แล้วพูดว่า : นับแต่นี้ไปเพื่อนๆของเธอจะมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรงทุกๆวัน

..อ่านบทความการวิจัยเรื่องข้าวโพดเลยนึกถึงอภิสิทธิ์สมาชิกสภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ เสี่ยข้าวโพดกระป๋องที่อร่อยมากๆหลายๆคนคงยังไม่ได้รับประทาน บทตวามวิจัยเขียนไว้ว่าข้าวโพดสุก ต้านมะเร็ง การแทะข้าวโพดหวานต้านโรคมะเร็งมีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้หลายเท่านัก

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่าข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด

เขาเผยว่าผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อน ว่าผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหารลงไป สู้กินดิบๆ ไม่ได้ แต่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้ แม้ว่าจะเสียวิตามินซีไป

เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22, 44 และ 53 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายกับเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชรา ต่างๆ อย่างเช่นต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอีกด้วย

คณะนักวิจัยแจ้งว่าข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก อันเป็นคุณกับร่างกายยิ่งมากขึ้นเมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นกรดเฟรุลิกเป็นพวก พฤกษเคมีซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเปรวมอยู่กับอย่างอื่น การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น

...ท่านอภิสิทธิ์น่าจะนำผลวิจัยนี้มาต่อยอดธุรกิจได้นะยุคนี้สินค้าเกือบทุกตัวต้องเน้นเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นหลักแม้แต่เครื่องสำอางยังต้องโหนกระแสนี้ ขอให้ข้าวโพดหวานของอภิสิทธิ์บุกตลาดเมืองไทยและต่างประเทศ ต่อไป โชคดีทุกท่าน...

สวัสดี ผนส 3 ทุกท่านอ่านเล่นๆแล้วยิ้มๆจะได้ผ่อนคลายนะ

1. มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี

2. เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด เราจะช้าไป 1 จังหวะเสมอ

3. ถ้าแอบรักใคร อย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า

4. เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักที ให้พูดว่าไม่เอา จะได้เร็ว

5. ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่าจะกลับทั้งโต๊ะ จะมีพนักงานพุ่งมาทันที

6. ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้าน ไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย

7. ระวังคนขายโรตี ที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่มไม้, ซอกตึก อย่าตัดสินใจซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ

8. ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ

9. ระวังคนที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ

10. อย่าซื้อทุเรียนมาปอกเอง

11. หนังสือดี คือหนังสือที่เราชอบอ่าน, หนังดีคือ หนังที่เราชอบดู

12. อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่าอย่าบอกใครนะ

13. อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว คนล้างจะเสียความรู้สึก

14. เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ

15. อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ

16. รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมันไม่อยู่ขวาเสมอไป

17. ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมี

18. ตลาด อ.ต.ก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา

19. เวลาดูหนังโรง ควรจำว่ากระปุกน้ำอยู่ด้านไหน

เป็นอย่างไรบ้าง อ่านจบแล้วรู้สึกว่าอยากพูด 'อ๋อ ใช่ซี่......'

20. ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป

21. คนไม่กินเนื้อ ไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีเสมอไป

22. เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีนออกจากปาก ให้หลับตาด้วย

23. ปูอัด มันทำจากปลา

24. กินก๋วยเตี๋ยวจากตะเกียบไม้อร่อยกว่า

25. อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิว เราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ

26. ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก อ้วนขึ้นนะ กับประเภทที่ 2 ผอมลงนะ ไม่มีใครเข้ามาทักว่าปกติดีนี่ไปทำอะไรมา

27. คนที่เอาหมวกตำรวจ หรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถมิใช่เพราะบ้านเค้าไม่มีตู้ เค้าไม่ได้ลืม เค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร

28. คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆ ตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา

29. คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ

30. ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วาย เรียบง่ายอยู่ได้นาน

31. จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา

32. เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดู หน้าที่ตัวเองพูดถึงมักจะหาไม่เจอ

33. ขนมและน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก

34. ห้องน้ำผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต, ห้องน้ำผู้ชาย ผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน

35. เวลารถติด เลนอื่นมักไปได้เร็วกว่าเลนเราเสมอ

36. ถ้าเราขับรถไม่ทันไฟเขียวเป็นคันสุดท้าย ให้คิดว่าเดี๋ยวเราจะได้ไปเป็นคันแรก

37. ถ้ามีการแนะนำตัวว่า 'นี่เพื่อนฉัน' หมายความว่า 'แฟนฉัน'

38. ถ้ามีการแนะนำตัวว่า 'นี่แฟนฉัน' หมายความว่า 'ผัว/เมียฉัน

ที่นี่...ประเทศไทย

แปลกมาก......... ในขณะที่ชาวนาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก  ชาวสวนให้รัฐบาลดูแลราคาผลไม้ ชาวไร่มันสำปะหลังเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคา เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทยเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้ สหกรณ์การเกษตรเรียกร้องให้รัฐบาลปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ ธกส. ฯลฯ

แต่ทำไม๊...อีแค่หมีแพนด้าตัวน้อย ๆ ลืมตาดูโลกที่เมืองไทย มีการให้สัญชาติไทย มีบัตรประจำตัว รมต.วิ่งไปจีนขอให้หมีแพนด้าอยู่เมืองไทยต่อ และสร้างบ้านโดมหิมะให้หมีน้อยราคาตั้ง ๖๐ล้านบาท กะคนไทยอีกหลายล้านคนกำลังจะอดตาย....แปลกแต่จริง เพราะที่นี่..ประเทศไทย

เริ่มแล้วครับ "งานเบิ่งดอกกระเจียว เที่ยวชัยภูมิ  ยืนถิ่นผ้าไหม ไหว้เจ้าพ่อพญาแล" มิถุนายน-สิงหาคม ๕๒  สกก.บ้านเขว้า จก. ยินดีรับใช้ ... คร๊าบ

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนเป็นอย่างไรกันบ้างสบายดีบ่..อ่านที่นี่ประเทศไทยของบิ๊กอู๊ดทนงศักดิ์แล้วก็เห็นใจภาคเกษตรกรรมจริงๆนะ แต่เรื่องหมีแพนด้าได้เคยคุยกับกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมที่เชียงใหม่ก็ได้ข้อมูลมาว่าการท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ก็เข้าขั้นโคม่าเหมือนกันในเมืองเชียงใหม่นักท่องเที่ยวน้อยลงมากถึงมาก็ไม่เข้าเมืองเพราะรถราติดวินาศสันตะโรพอๆกับกรุงเทพฯ ออกไปเที่ยวนอกเมืองกันหมด ก็จะมีตัวช่วยก็คือเจ้าหมีแพนด้านี่แหละที่พอจะชักชวนให้เด็กๆบังคับพ่อแม่มาเที่ยวดูเจ้าหมีน้อยตัวนี้พอกระตุ้นเศรษฐกิจในเวียงเชียงใหม่ได้บ้างพอสมควร...งานดอกกระเจียวน่าไปเที่ยวนะขอซาวเสียงพรรคพวกหน่อย แต่งานที่ได้รับมอบหมายยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่เลยจะไปเที่ยวกันอีกแล้ว .. พูดถึงบ้านเขว้าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้เห็นน้ำยาล้างจานของสหกรณ์อะไรไม่รู้(อะรูมีไร้)บรรจุภัณฑ์เค้าทำสวยที่เดียวขวดสีส้มสดใสเลยคิดถึงน้ำยาของบ้านเขว้าถ้ามีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์น่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม(value add)ทั้งด้านราคาและการจำหน่ายได้มากขึ้น..โป๊ะเชะ แค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกันใหม่..ฝันดีทุกคน

แจ้....

ขอบคุณ..พี่แจ้ ที่กรุณาให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ขณะนี้เรา(ผมอู๊ต-กับเสี่ยนก อดิศักดิ์)กำลังออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์กันอยู่ กรุณารอสักครู่ยาว ๆ สำหรับภารกิจที่ได้รับมอบหมายก็เห็นด้วยกับกำนันบ้านนอก คือ จังหวัดอุทัยธานี เพราะว่า ชัยภูมิกะโคราชนั้นอยู่ติดกัน เราเคยไปดูงานที่พิมาย และจะทอดกฐินอีก จังหวัดอุทัยฯจึงน่าสนใจกว่า และที่สำคัญผมไม่เคย..๑..๒..๓...ที่จังหวัดนี้

ขอเชิญชวน..เพื่อนพ้องน้องพี่ ผนส.๓ มาเที่ยวชัยภูมิ "จับหมอก หยอกดอกกระเจียว" มิถุนายน-สิงหาคม ๕๒

อะไรไม่รู้...แพนด้าน้อยกำลังก่อกวนกระแสข่าว ไม่ว่าจะลุก จะเดิน จะมีแต้มดำชัดขึ้น ล้วนต้องถูกตีเป็นข่าว แต่ไม่มีใครพูดหรือประโคมข่าวเลยว่า ประเทศไทยต้องจ่ายเงินจำนวน 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4-5 ล้านบาท สำหรับเจ้าแพนด้าน้อย โดยแบ่งจ่าย 2 งวด งวดแรกจ่ายภายใน 30 วันหลัง ส่วนงวดที่ 2 จ่ายภายในปีที่สอง ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นไปตามข้อตกลงของโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทยที่ทำตาม ข้อตกลงของรัฐบาลไทย-จีน ที่ให้แพนด้าเป็นทูตสันถวไมตรี และเพื่อบริจาคเงินช่วยเหลือแพนด้าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในประเทศจีน

อะรูมีไร้...แล้วไหนจะเงินอีกร้อยกว่าล้านที่ใช้ไปเพื่อแพนด้าน่ารัก อาจดูใจร้าย แต่ก็น่าคิดเหมือนกันว่าเงินจำนวนนี้จะเอาไปช่วยช้าง หรือสุนัข-แมวจรจัด หรือสัตว์ป่าเมืองไทยที่ใกล้สูญพันธุ์ได้อีกเท่าไหร่ ความเอาใจใส่แพนด้าในระดับล้นเกินนี้เองเป็นสาเหตุให้สัตว์ต่างๆ ในสวนสัตว์เชียงใหม่และที่อื่นๆ น้อยอกน้อยใจ บรรดาสัตว์ดาวเด่นตามสวนสัตว์ที่เคยเป็นขวัญอกขวัญใจคุณหนูก็เลยถูกหลงถูกลืมไป

ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

ผู้นำรุ่น 3,

        ความสำเร็จของรุ่น 3 ทำให้ผมได้รับเชิญไปที่ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์หาดใหญ่ 1 ครั้งและล่าสุดไปที่สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขที่ร้อยเอ็ด ได้ห็นอะไรอีกมากเลย

        Blog รุ่นที่ 3 ทันเหตุการณ์ดี สดตลอด ชอบมากๆ

        รุ่นที่ 4 ได้วางแผนแล้วครับ

                                                              จีระ

สวัสดีเพื่อนๆทุกคน วันนี้ กำนันบ้านนอกได้เดินทางไปดูเทียรที่อุบลดีใจจังได้พบเพือนตลอดทาง.....โคราช ได้พบท่านเสี่ยข้าวโพดกระป๋อง(อภิสิทธิ์สมาชิกสภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ )ตั่งแต่ 7.00 นได้ชิมขาหมูหินดาด จากนั้นเดินทางต่อผ่านสุรินทร์ ได้พบท่านพี่สาวใจดี(ป้าเครือ)ก็ 10.30นเลยได้ชิมกาแฟ สวยๆผีมือการชงของสาว สกก.เมืองปราสาทคนสวยจากนั้นเดินทางต่อผ่าน อ.เสลถูมิเลยต้องทักทายเจ้าถิ่น ก็จะใครละถ้าไม่ใช่พี่บุญช่วย(พี่เฮ้ว)แต่โชกไม่ดีพี่แกติดประชุมกลุ่มแกเลยนันกำนันบ้านนอกเวลากลับจะมีใครอิดฉากำนันบ้านนอกบ่างนี่เดือนนี้ได้่พบเพือนทั้ง ไต้ ทั้งอีสาน กำนันบ้านนอก เข้าblog ที่อุบลนะ ได้คุยกับอภิสิทธิ์เรื่องงานที่ได้รับมอบหมายมาเห็นตรงกันว่าจะชวนทีมงานไปสำรวจที่อุทัยจึงแจ้งท่านที่มีรายชื่อต่อไปนี้ /ทนงศักดิ์,สมพงษ์,สุขสันต์,อภิสิทธิ์,

อดิศักดิ์,สิทธิพร(แจ้)

เตรียมเดินทาง

..สวัสดีทุกท่าน ก่อนอื่นขอขอบคุณท่านอาจารย์จีระที่ชื่นชมรุ่น3ผ่านblogทำให้พวกเรามีกำลังใจมากขึ้นขอบคุณอาจารย์อีกครั้งในความกรุณา.. อ่านบทความของบริษัทสุขสันต์ทัวร์ตามสโลแกนด์"ท่องเที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกวัน"ดูแล้วพวกเรามีเงินเติมน้ำมันอย่างเดียวแวะกินกับเพื่อนได้ตลอดทางรับรองไม่อดตายแน่นี่แหละคือเครือข่ายของพวกเราดั่งคำที่ว่า"นกต้องมีขน คนต้องมีเพื่อน"อ่านแล้วอิจฉากำนันบ้านนอกที่ตะรอนๆทัวร์ไปทั่วไทยไม่ห่วงบ้านห่วงช่องระวังกลับสุพรรณไม่ถูกนะ . ..พูดถึงพี่ชีวย(พี่help)เสือซ่อนเล็บของรุ่นเราเลยนึกถึงเรื่องการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่เป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้ได้เคยฟังพี่ช่วยคุยให้ฟังตอนเรียนหนังสือ อยากฟังทัศนะของพวกเราในประเด็น.. การรับจำนำข้าวกับ การประกันราคาข้าว แนวทางไหนเป็นแนวทางที่เกษตรกรได้รับผลประโยชน์มากที่สุด . ในแนวคิดของผมผมว่าการประกันราคาน่าจะง่ายกว่านะไม่มีภาระผูกพันในเรื่องการเก็บรักษาเหมือนการจำนำ ขายราคาเท่าไหร่ในขณะนั้น ก็จ่ายในส่วนที่ขาดเพิ่มให้เกษตรกรรับไปเลยจบ .. เพื่อนๆคิดอย่างไรในประเด็นนี้..ป้าเครือว่าไง รออ่านอยู่นะ

คิดถึงเพื่อนๆเสมอ..แจ้

...โครงการรับจำนำลำไยปี2546-2547 เป็นบทเรียนสำคัญของการรับจำนำแทรกแซงราคาราคาลำไยซึ่งมีความเสียหายเกิดขึ้น โดยโครงการรับจำนำทั้ง 2ปีมีมูลค่า4,800 ล้านบาท นี่แหละคือหลักฐานใบเสร็จการรับจำนำผลผลิตทางเกษตรที่ตะบี้ตะบันทำกันมาโดยให้ราคาสูงๆเกินกว่าความเป็นจริง สิ่งที่ตามก็คือขายไม่ได้ เนื่องจากตลาดไม่ยอมรับ สุดท้ายต้องทำลายทิ้งแถมครม.อนุมัติค่าทำลายให้อีก 90 ล้านบาทซะใจไหมพระเดชพระคุณ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อไม่ให้กระทบต่อผลผลิตใหม่ที่กำลังออกสู่ตลาด(อย่างนี้ใครก็บริหารได้จริงไหมท่านทนงศักดิ์ท่านอภิสิทธิ์)

...โครงการประกันราคาสินค้าเกษตรในปีนี้รับรองขาดทุนแน่นอน..ฟันธงเจ๊งป่นปี้ครับพี่น้อง ที่ผ่านมานักการเมืองถลุงงบประมาณแผ่นดินมหาศาลในโครงการประกันราคาพืชผลแล้วก็อ้างเกษตรกรชาวนาได้ผลประโยชน์จากการประกันราคา สุดท้ายผู้ที่ได้กำไรเป็นเนื้อเป็นหนังก็หนีไม่พ้นพ่อค้าคนกลาง ผู้ส่งออก นักการเมือง นักเขมือบทั้งหลายนี่แหละ..นี่คือกระสุนของนักการเมืองเพื่อเตรียมการเลือกตั้งหรือเรียกว่าตกเขียวซื้อเสียงล่วงหน้า..ขอแสดงความคิดเห็นแค่นี้นะท่านประธานที่เคารพ

สวัสดีครับเพื่อนๆ ผนส.3 และผู้อ่าน

มาแล้วครับ ไม่ได้หาย ไปไหนครับ คิดถึงเพื่อนๆทุกคน งานที่สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด ก็ยังมีงานมากตลอดปี ก็สิ้นเดือนนี้จะปิดบัญชีประจำปี ปลายเดือนนี้จะจัดกรรมการ เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และสมาชิก ไปทัวร์ทัศนศึกษาดูงานภาคเหนือ จังหวัดตาก ลำพูน เชียงราย และงานโครงการก่อสร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สวัสดีครับ

ขอบพระคุณท่าน ศ.ดร. จีระ หงศ์ลดารมภ์ ที่ชม " Blog รุ่นที่ 3 ทันเหตุการณ์ดี สดตลอด ชอบมากๆ " ขอแสดงความขอบพระคุณและความเคารพแทนเพื่อน ๆ ผนส.๓ ครับ

การจำนำ และการประกันราคา พืชผลทางการเกษตร โดยส่วนตัวเห็นว่า โครงการทั้ง ๒ นี้ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง เหตุผลคือ

๑. เกษตรกรเกิดความคุ้นเคย เกิดค่านิยม จนกลายเป็นวัฒนธรรมอาชีพการเกษตร ควรปล่อยให้เป็นไปโดยธรรมชาติของการผลิต และกลไกทางการตลาด เพื่อให้เกษตรกรเรียนรู้ อะไรควร และอะไรไม่ควรผลิต สินค้าใดที่มีปริมาณมาก ๆ ย่อมราคาต่ำ ฯลฯ นี่อะรูมีไร้ พอรู้ว่าผลผลิตออกเกษตรกรก็ปิดถนน รัฐบาลก็อนุมัติโครงการฯ มันน่าไม๊หละ

๒. การจำนำ และการประกันราคา เม็ดเงินงบประมาณของแผ่นดินส่วนใหญ่ตกอยู่กับกระเป๋านักกินเมือง และนายทุบ เกษตรกรได้เพียงเศษเนื้อชิ้นเล็ก ๆ ที่ติดในซอกฟัน ที่นักกินเมืองและนายทุน แคะออกมาให้ เท่านั้น

ผมมีเหตุผลมากกว่านี้ จะเขียนลงวันหน้าครับ เพราะต้องเดินทางไปสัมมนาสหกรณ์ผู้บริหารปั๊มน้ำมันบางจากที่ จังหวัดอุบลราชธานี ๑๑-๑๒ มิถุนายน ครับ

tanong sak nay naey mak (ทะนองสากนายแน่มาก)

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ

ไม่ได้เข้า blog ต้อนรับท่านอธิบดีใหม่แต่เป็นคนเก่าที่ย้ายมาจาก สปก รวมทั้งรับนโยบายจากท่านอธิบดี วันที่เลี้ยงส่งอธิบดีเก่า (ท่านศุภชัย) อาจารย์จิระ ก็ได้ไปร่วมรับประทานอาหารที่กรมฯ ด้วย ได้ทักทายกันพอสมควร อิจฉากำนันจังเลยเหมือนทัวร์เที่ยวไทยจริง ๆ ขึ้นเหนือล่องใต้ แอ่วอีสาน แล้วอย่าลืมสรุปเรื่องที่ให้ทำการบ้านด้วยก็แล้วกันท่านประธานเงียบหายไปเลยนะค่ะ คู่แฝด ติดต่อประธานให้เข้ามาทักทายใน blog หน่อยซิวันนี้เขียนแค่นี้ก่อนนะ

กลโกงเด็กปั๊มน้ำมัน

กลโกง...การเติมน้ำมัน

1. อย่าขี้เกียจ ถ้าเป็นไปได้ให้ลงไปดูด้วยทุกครั้ง

2. ถ้าขี้เกียจลงก็จงจอดในลักษณะที่เราเห็นตัวเลขชัดเจน

3. ถึงแม้ว่าเด็กปั๊มรีเซตแล้วก็ตาม ก็ยังมีเทคนิคขี้โกงตามมาอีก

4. วิธีโกงที่ว่าคือ ถ้าเบิ้ลงวงจ่ายน้ำมันติดกันเร็วๆ 2 ครั้ง

ตัวเลขจะกระโดดขึ้นไปประมาณ 30-50 บาท

ดั้งนั้นจงอย่าละสายตาจนกว่าตัวเลขเริ่มวิ่งแล้ว

ใครที่ชอบเติมน้ำมันปั๊ม แถว... โปรดอ่านทางนี้.. นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้น ปั๊มมัน ??? ผมกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัด

แต่เผอิญว่าน้ำมันในถังเหลือน้อยเต็มที จึงเลือกปั๊มน้ำมัน ??? เพราะมั่นใจในคุณภาพอย่างที่โฆษณาว่าเป็นระดับสากล เมื่อมาถึงปั๊มน้ำมัน จึงแจ้งเด็กปั๊มว่า เติมดีเซล 500 บาท เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 นาที เด็กปั๊มบอกเสร็จแล้วครับ พร้อมกับขอรับเงิน ตอนนั้นก็สงสัยว่าทำไมถึงไวมาก แต่ก็จ่ายผ่านบัตรเครดิต เมื่อเด็กปั๊มนำบัตรมาคืน พร้อมกับเซ็นต์เรียบร้อยแล้ว พอจะออก สตาร์ทรถ ปรากฏว่าน้ำมันไม่มี น้ำมันในถังยังตกเกเหมือนเดิมผมโมโหมาก ลงจากรถไปเรียก ปรากฏว่า เด็กปั๊มคนเดิม (ตัวเล็ก ๆ เตี้ย ค่อนข้างดำ) มาอธิบายว่าทำไมไม่มีน้ำมัน ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้วไม่มีคำอธิบายจากเด็กปั๊ม บอกเพียงว่า 'ผมเติมแล้ว'จึงให้เด็กปั๊มคนเดิมไปเรียกผู้จัดการมาคุย แต่เด็กปั๊มไปเรียกคนเก็บเงิน (คิดว่าน่าจะเป็นหัวหน้า) อีกคนมาคุย เขาถามทางเราว่า 'เกวัดน้ำมันไม่ขึ้นหรือครับ' เราก็เลยตอบไปว่า 'เรื่องเกวัดน้ำมันเป็นไปไม่ได้ แต่เรากลัวว่าเติมน้ำมัน 500 แล้วไม่ได้น้ำมันสักหยดมากกว่า'และถ้าไม่เคลียร์ เรื่องคงถึงตำรวจ เพราะเรามั่นใจว่ารถเรามีน้ำมันเหลือน้อยมาก แฟน(กิ๊ก)ที่นั่งรถอยู่กดเครื่องคิดเลข แล้วถามว่า 'เติม 500จะได้น้ำมันกี่ลิตร' เด็กปั๊มตอบว่า ประมาณ 38 ลิตร แต่ที่แป้นที่เด็กปั๊มจะต้องเคลียร์ก่อน แล้วถึงป้อนข้อมูลเข้าไปใหม่ มันโชว์ เติม 500 บาท แต่ได้ 34 ลิตร แสดงว่า รถคันก่อนหน้านี้ เติม 500 บาท เหมือนกัน แต่เติมน้ำมันเบนซิน เลยได้ 34 ลิตร แสดงว่าเด็กปั๊มไม่ได้เคลียร์โปรแกรม แต่ที่น่าสงสัยคือ ทำไมเอาสายเข้าไปที่ถังน้ำมันแล้ว แต่ไม่มีน้ำมัน แล้วบอกว่าเติมเสร็จแล้ว จุดประสงค์คืออะไร?ถ้ารถของดิฉันมีน้ำมันประมาณครึ่งถัง ใครจะบอกได้ว่าเป็นของใหม่หรือของเก่า คงต้องจ่ายเงินฟรี?แต่สุดท้าย เรื่องก็เลยสรุป เด็กปั๊มเติมน้ำมันให้ใหม่ 500 บาท แต่โดยดี ไม่งั้นเรื่องคงยาวถึงตำรวจ ปั๊มก็คงเสียชื่อมากกว่านี้ มีอีกเรื่องที่คุยกับเพื่อน ๆ หลังเหตุการณ์นี้ บางกรณีที่จ่ายเงินสด มีรถคันก่อนหน้าเรามา สมมติเขาเติม 200 บาท พอเราไปต่อ เราบอกเติม 300 ถ้าไม่สังเกต บางทีเด็กปั๊มไม่เคลียร์โปรแกม เติมต่อจาก 200 เป็น 300เราจะได้น้ำมันแค่ 100 บาท ประเภทอย่างนี้ ถ้าเป็นเงินสด เข้ากระเป๋าเด็กปั๊มทันที

เห็นด้วยกับพี่อู๊ดนะคะ ถึงแม้ว่าสหกรณ์จะได้ประโยชน์ในการเป็นผู้รวบรวมจากสมาชิกเพื่อจำนำ

ขอแซวน้องชายใกล้ๆ บ้านหน่อยนะคะ ดูงานบ่อยจริงๆน่าอิจฉาจัง และได้อ่านรายชื่อ (ทนงศักดิ์,สมพงษ์,สุขสันต์,อภิสิทธิ์,อดิศักดิ์,สิทธิพร(แจ้)) ผู้ที่จะไปดูงานจังหวัดอุทัย แล้วน่าเป็นห่วง กลัวจะไปดำนำ 3 ผุด ต้องส่งข่าว v 24 ให้รอต้อนรับพี่ๆ

5 วิธีคิดอย่างคนเก่ง

คนเก่งไม่ใช่มาจากพันธุกรรมหรอก แต่อยู่ที่การฝึกขัดเกลาสมองต่างหาก วันนี้มี 5 วิธีคิดอย่างคนเก่งมาฝากกัน...

1. มองโลกในแง่ดี และทำทุกสิ่งอย่างเต็มกำลังด้วยรอยยิ้มและความเบิกบาน ทำตัวให้สดชื่นมีชีวิตชีวาและกระตือรือร้นอยู่เสมอ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา ได้อย่างอยู่มือ

2. มีศรัทธาในตัวเอง จงเชื่อมั่นในความเก่งของคุณ อยากให้ใคร ๆ เขาชื่นชอบและทึ่งในตัวคุณ คุณก็ต้องมั่นใจตัวเองก่อน

3. ขอท้าคว้าฝัน ไม่มีอะไรที่จะทรงพลังมากเท่ากับความตั้งใจจริงและทุ่มสุดตัว จะเป็นแรง ผลักดันที่จะทำให้คุณสานฝันสู่ความจริงได้

4. ค้นหาบุคคลต้นแบบ ใครก็ได้ที่คุณชื่นชมเพื่อเป็นมาตรฐานที่ดีในการดำเนินรอยตาม ศึกษาแนวคิด วิธีการทำงาน จุดเด่นในตัวเขา แล้วอาจนำมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตได้บ้าง

5. เริ่มต้นงานใหม่ทุกวันด้วยรอยยิ้มสดใส คนที่มีรอยยิ้มระบายไว้บนใบหน้า เสมือนประตูที่เปิดกว้าง ให้ใคร ๆ อยากเข้ามาคบหาด้วย การเจรจา ติดต่องานก็มักจะลงเอยด้วยความสำเร็จ

นอกจากนี้ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ยังสร้างความเบิกบานและคลายทุกข์ แถมยังเป็นยาอายุวัฒนะชั้นดีอีกด้วย.

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

ขอเชิญ..ท่านประธานกรรมการ,กรรมการ และผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมประชุมและสัมมนา ชมรมผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรฯและเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ ๑๙-๒๐ มิถุนายน ๕๒ ที่โรงแรมอุดร แอร์พอท จังหวัดอุดรธานี ลงทะเบียนวันที่ ๑๙ มิถุนายน เวลา ๑๒.๐๐ - ๑๕.๐๐ น. เปิดการประชุมเวลา ๑๕.๐๐ น.โดยนายวินัย กสิรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุกท่าน
ขอแสดงความยินดีกับประธาน ผนส.รุ่น 2 และคณะที่ได้รับ เลือกตั้งเป็นกรรมการชุมนุม สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ประธานฝาก ขอบคุณมายัง ผนส.ทุกรุ่น ครับ
ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย  เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน  2552

ประธาน  นายเฉลิมผล ดุลสัมพันธ์

กรรมการ

ที่ 1 นาสุทัศน์  กองป่า

ที่ 2 พล.ต.ต.วิโรจน์ สัตยสัณห์สกุล

ที่ 3 นายประดิษฐ  หัสดี

ที่ 3 นายก๊ก  ดอนสำราญ

ที่ 5 พลเรือตรีบงกช  ผาสุก

ที่ 6 นามะณู บุศศรีมณีชัย

ที่ 6 นายคำนึง โสตถิอุดม

ที่ 8 นายเอนก  นาถดิลก

หมายเหตุ

ลำดับ ที่ 3  และที่ 6 คะแนนเท่ากัน ลำดับที่ 8 อยู่ 1 ปี

ผู้ตรวจ เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 3

ผนส3.ขอแสดงความยินดีที่พี่น้องเราชาวผนส.ได้เข้าไปบริหารชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย และขอแสดงเสียใจกับผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกปีหน้าฟ้าใหม่ยังมีอีก

ดึกแล้ว.... ชายหนุ่มโซเซลงจากรถแท็กซี่ของสหกรณ์ตนเอง ด้วยอาการอ่อนล้า งานการอันแสนหนักอึ้งเมื่อตลอดช่วงกลางวัน และยังจับพลัดจับผลูลามปามมาช่วงเย็นค่ำ กว่าเขาจะทำงานเสร็จสิ้นลงไป มันก็ดึกโข สมองเริ่มมึนงง อ่อนล้า ข้าวสักเม็ดก็ยังไม่ถึงท้อง ยิ่งคิดขึ้นมา รู้สึกแสบแปลบที่ท้องขึ้นมาทันใด คงต้องหาอะไรรองท้องเสียหน่อยก่อนเข้าบ้านล่ะ

ทันใดนั้น...... สายตาของเขาก็พลันปะทะเข้ากับแสงไฟแปลกตาที่สว่างเรืองรอง อยู่ในความมืดมิด เขาเองที่ถึงแม้จะผ่านปากซอยนี้ทุกวัน แต่ก็ไม่เคยทันสังเกตว่า มันมีอะไรแปลกใหม่ ตราบจนถึงในขณะนี้....เร็วเท่าความคิดเขา เอามือสอดกระเป๋ากางเกง แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปมองดูใกล้ๆให้เห็นชัดกับสายตา ที่คูหาตึกที่เคยร้างๆนั้น บัดนี้ปรากฏแสงไฟนีออนเจิดจ้า สว่างไสวไปทั่วทั้ง บริเวณด้านหน้ามีผู้คนเดินขวักไขว่ ไปมา ราวกับยามกลางวันก็มิปาน ป้ายชื่อขนาดใหญ่หน้าร้านตั้งตระหง่าน แต่ใจของเขาไม่ทันอ่านว่ามันเขียนว่ากระไร เพราะอะไรมันก็ไม่สำคัญ เท่าสิ่งที่อยู่ในตู้กระจกนั้น..

อ่า... วัยกำลังเอ๊าะทั้งนั้น เบียดเสียดแออัดเรียงรายอยู่เบื้องหลังกระจก ยั่วยวนให้ผู้ผ่านไปผ่านมาได้ไหลหลง นางสาวน้อยๆเหล่านั้น ต่างเยื้องย่างวนรอบเสา อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย

เขา... ตะลึงจังงัง ยืนนิ่งอยู่กับที่ ความหิวผสมกับความอ่อนล้าทำให้ชายหนุ่มรู้สึก อ่อนเปลี้ยเพลียแรงในทันใด แต่หากสมองยังอื้ออึงไปด้วยภาพที่เห็นตรงหน้า ..เขาเพ่งสายตาพินิจสาวน้อยวัยกำดัดในชุดเปล่าเปลือย ที่หมุนไปรอบๆเสาสแตนเลส ด้วยอาการน้ำลายจุกคอ ....

.หุ่นกำลังพอดิบพอดี น่าฟัดพอดีคำ อกอวบอิ่มตั้งเต้าสมวัยสาว เอวคอดรับกับช่วงสะโพกผายหนั่นหนา ปลีน่องขาวสวยได้รูป อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อสวยๆ ร่างกายของเธอ ช่างหาไขมันพอกพูนแม้สักน้อยนิดก็หาได้ไม่

..รู้สึกสะดุดใจแม่สาวนางหนึ่ง ที่อยู่ประจำเสาด้านในสุด เธอคนนั้นรูปร่างกระทัดรัด อกอิ่มเอวคอดสะโพกกลมกลึงกว่าใครในนั้น ผิวกายออกสีแทนนิดๆ คงจะด้วยร้อนไอแสงไฟเจิดจ้า ที่สาดส่องอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แสงไฟจากสปอร์ตไลท์นานาชนิด ขับให้ผิวสีน้ำผึ้งของเจ้าหล่อนนั้นผุดผาดอย่างน่าดูชม นานเท่าไรแล้วนะ ที่เธอต้องมาเต้นวนอยู่รอบเสาเช่นนี้ ชายหนุ่มครุ่นคิดในใจ เธอคงจะเร่าร้อนเป็นแน่แท้....

..ผิวกายเธอเป็นมันวาบวับ ยามต้องแสงไฟ และเมื่อสะท้อนเข้ากับเสาและฟลอร์สแตนเลสที่เป็นมันวับ มันช่างยิ่งงามจับตายิ่งนัก และเมื่อเขาประสานสายตากับแววตาที่ไร้อารมณ์คู่นั้น มันเหมือนมีกระแสไฟช๊อร์ตแปลบเข้ากลางใจ แม้ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดปากออกมา ด้วยกระจกที่กางกั้นไว้ แต่รอยยิ้มน้อยๆ จากปากเรียวบางของเธอ กลับดึงดูดใจชายหนุ่มไว้เหมือนมีมนต์

วันเก่าๆ..... อันหวานชื่นในอดีต ผุดขึ้นมาพร่างพรายในใจของชายหนุ่ม มันเด่นชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันวาน....เขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากยากเย็นที่สุดในชีวิตเขาเอง ถึงแม้จะเคยมีคนรัก ที่พอจะช่วยคลายอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่เสมอๆ แต่บัดนี้ก็ร้างลาห่างจากกันไปนาน อันเหตุด้วยสาวเจ้าพบชายหนุ่มคนอื่นที่ทั้งดีกว่าตัวเขาทุกประการ ...

.ฉับพลัน ชายหนุ่มรู้สึกสะดุ้งหลุดจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงเรียกร้องโหวกเหวกเชิญชวน จากหนุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่หน้าร้าน ทำท่าพยักเพยิดให้เขาเข้าไปใช้บริการ ...มือชายหนุ่มที่ซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกง เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ มือกำเศษธนบัตรแน่น นี่ก็ยังเพิ่งกลางเดือนเงินเหล่านี้ ยังต้องเป็นค่าเลี้ยงดูชีวิตเขาไปอีกหลายวันกว่าจะสิ้นเดือน ชายหนุ่มรู้สึกลังเลใจเป็นอันมาก แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้า มันทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปได้ สองมโนธรรมต่างเร่งเร้าความรู้สึกเขาอย่างช่วยไม่ได้...... และแล้วเขาก็พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกเรียกร้องที่ประดังหลั่งไหล ถะโถมเข้าสู่ความคิด

“เอาล่ะ” ชายหนุ่มครุ่นคิด ไหนๆเขาก็ห่างเหินกิจกรรมแบบนี้มานานพอควร การเสียเงินเล็กน้อยๆ เพื่อแลกกับความสุขทางใจในยามอดอยากหิวโหยเช่นนี้ มันก็คงคุ้มค่าอยู่

ชายหนุ่มตัดสินใจแน่วแน่ สูดลมหายใจลึกๆเข้าปอด แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปหาร้านตู้กระจกที่สว่างอยู่เบื้องหน้า ชายหนุ่มเผชิญกับอาแปะ สายตาลูกผู้ชายประสานกัน เสียงหัวใจเต้นตึ่กตั่กๆ ......ชายหนุ่มสูดลมหายใจอีกเฮือก ตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน พร้อมเอื้อนเอ่ยถึงสิ่งที่เขาต้องการทันที.....

“อาแปะ อั๊วะเอาตัวในสุดนะ ที่ตัวเล็กๆ เนื้อแน่นๆ ผิวเกรียมๆ น่ะ สับให้ด้วย แล้วขอน้ำจิ้มเยอะๆ”

เรียน   ผนส 3 ทุกท่าน

          ตอนนี้อยู่กรุงเทพ มาประชุมชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ดีใจที่ได้เจอกับพี่ๆหลายคน ในผนส3 และ2,1 แต่ก็ได้คุยกันไม่มาก และก็ต้องแสดงความเสียใจ กับพี่ม้าเร็วของเราที่ไม่ได้เป็นผู้ตรวจสอบกิจการ แต่ผมคุยกับพี่เขาแล้ว เห็นว่าอย่างไรก็ สู่ ๆ ๆ ๆ
          มาประชุมครั้งนี้ ผมมาสายนิดหน่อย เพราะเครื่องออกจากหาดใหญ่เช้า แต่เมื่อมาแล้วก็อยู่ร่วมประชุมตลอดรายการ ตลอดจนกลับคนสุดท้าย เหลือคนในห้องประชุมน้อยมาก มาประชุมครั้งนี้มีหลายเรื่องที่ในขนวบการสหกรณ์ต้องปรับปรุง เพราระดับชุมนุมระดับประเทศเป็นอย่างนี้แล้ว ระดับสหกรณ์เล็กๆจะเป็บอย่างไร แต่รับรองได้ว่าสหกรณ์เล็กๆเขาประชุมกันเรียบร้อยกว่านี้มากเลย
         ที่น่าสังเกตุ  
       1 ผู้เข้าร่วมประชุมมาประชุมแล้วรีบกลับ ขนาดเอาค่าพาหนะมาล่อแล้วนะ (จ่ายค่าพาหนะเสร็จกลับหมด) ควรจ่ายค่าพาหนะที่หลังจากการประชุมเสร็จ ขนาดปีนี้จ่ายหลังจากลงคะแนนเสร็จนะ เมือจ่ายค่าพาหนะก็กลับกันหมด ทำให้การประชุมไม่เป็นการประชุม ครั้งต่อไปประชุมกันเป็นภาคๆไปน่าจะดีนะ แล้วเอาตัวแทนภาคมาประชุมใหญ่อีกครั้งเพื่อรับรอง ทำให้ประหยัดงบประมาณได้มากด้วย แต่ต้องดูข้อบังคับก่อนทำได้ไหม
        2. การเลือกตั้งกรรมการเลือกตั้งในวาระการประชุม ทำให้ล่าช้า (ควรมีการเลือกตั้งกรรมการเลือกตั้งก่อนการประชุม โดยวิธีการสมัคร เช่นกกต)
         3. การเลือกตั้งกรรมการ (น่าจะมีการเลือกตั้งเป็นภาค แล้วนำเสนอที่ประชุมใหญ่เพื่อรับรองอย่างเดียวจะไม่เสียเวลา และผู้สมัครก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการเดินไปหาเสียง )
         4. การประชุมแต่ละวาระที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์กลับไม่มีคนฟังและไม่มีผู้แสดงความคิดเห็น กลับไปแสดงความคิดเห็นในวาระที่ไม่สำคัญและไม่ตรงวาระ)
         5. บางวาระไม่มีความจำเป็นประธานในที่ประชุมกลับนำเสนอเสียยาว แต่สาระมีน้อย (ควรเอาแต่เนื้อๆ เพราะระเบียบวาระได้ส่งไปให้อ่านล่วงหน้าแล้ว)
         สรุปแล้วการประชุมครั้งนี้ การเลือกตั้งประธานและคณะกรรมการ ได้ตามที่ลำดับที่ 793 นำเสนอ ก็ต้องขอฝากกรรมการชุปัจจุบันไปปรับปรุง เห็นตอนประชุมรับปากไว้ทุกเรื่อง หากปฎิบัติได้ตามที่ประชุมใหญ่เสนอ บ้างก็น่าจะดี แต่บางเรื่องที่เสนอไม่มีสาระก็มาก อย่าเอาไปปฎิบัตินะ

     กลับใต้วันี้ เพราะพรุ่งนี้ประชุมประจำเดือนกรรมการอีก

       สวัสดีทุกคน

ขอบคุณสุทิศที่ช่วยรายงานบรรยากาศของการเลือกตั้งชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อย่างชัดเจนเสมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงเรียกได้ว่าชัดเจนกว่าต้นฉบับอีก ก็ขอแสดงความดีใจกับพี่ธนะ เลขารุ่นที่ไม่ได้รับคัดเลือก(อยู่ข้างนอกดีแล้วไม่ต้องเครียดมาก)จะได้ดูแลองค์กรณ์และรุ่น3ของเราต่อไป คงไม่วิจารณ์อะไรต่อเพราะสุทิศก็ได้commentไว้เกือบหมดแล้วก็ฝากกรรมการที่ได้รับการคัดเลือกหรือฝากประธานบัญชาไปนำเสนอต่อก็น่าจะดีนะ เมื่อวานก็ตั้งใจว่าจะเข้าไปให้กำลังใจพวกๆเราอยู่เหมือนกันแต่ติดภาระกิจหลายอย่างเลยเข้าไปไม่ทัน ก็ขอแสดงความยินดีกับคณะกรรมการชุดใหม่ชสอ.และพี่ธนะ บำรุงแสงม้าเร็วของเราอีกครั้ง แค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกันใหม่...บาย

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุกท่าน

          เสร็จสิ้นไปอีกหนึ่งภาระกิจ  สำหรับพวกเราชาว ผนส. 2 ในกิจกรรมช่วยเหลือสังคม วันนี้พวกเราชาว ผนส. 2 ดีใจเป็นที่สุดที่อาจารย์จีระ และอาจารย์ยม  ที่มาร่วมงานมอบห้องสมุดสหกรณ์ และร้านสหกรณ์ ส่วนใครเป็นใครดูจากรูปครับ (บางส่วนเท่านั้น)  ของจริงรอน้องณรงค์เอาลง Blog อีกครั้งครับ

เมื่อเข้าสู่ประตูรั้วโรงเรียน

เด็ก ๆ สนใจหนังสือของกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่พี่บุงและพี่เบียบนำมาไว้ในห้องสมุดสหกรณ์

ไม่ใช่ว่าเด็กจะสนใจ ผนส. สนใจเหมือนกัน

ประธานสหกรณ์การเกษตรไทรน้อยมอบของที่ระลึกให้อาจารย์จีระ  ช่วงนี้อาจารย์ยมกลับก่อน

ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรไทรน้อยมอบของที่ระลึกให้ประธานบงกช

เอ้ากินอะไรดีพวกเราประธานเลี้ยงฉลอง กรรมการชุมนุมสหกรณ์ เอ้าเต็มที่ !!  แล้วน้องณรงค์ไม่สั่งเหระอ ?

เมื่อสั่งอาหารแล้วโชว์กันหน่อย เอ้า รุ่น 2  ฮิฮิ !

ฮื่ม !  อร่อยจริง ๆ ผัดไทยห่อไข่

ขอลองข้าวเหนี่ยวกลิ่นใบเตยกับมะม่วงน้ำดอกไม้สักชิ้น  ฮื่มอร่อยเหมือนกัน

ประธานขอบพระคุณอาจารย์จีระ อาจารย์ยม  เจ้าหน้าที่จากสันนิบาติสหกรณ์ (น้องณรงค์ และเพื่อน)  และขอขอบคุณ ผนส. 2 และผู้ติดตาม ทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

โปรดติดตามรูปภาพจากน้องณรงค์ และเพื่อน เร็ว ๆ นี้ 

 

ด.ญ.คำหล้า

ณ โรงเรียนชนบทที่อยู่ใกล้ สวนมะพร้าว และสวนกระท้อน

ครูนิดเป็นคนชอบทานกระท้อนมาก ๆ

และด.ญ.คำหล้าเป็นเด็กที่ทุบกระท้อนเก่งมาก

จนครูนิดต้องให้ทุบกระท้อนให้ทานทุก ๆ วัน

แล้ววันหนึ่งครูนิดก็พูดเหมือนเดิมว่า

ครูนิด - ด.ญ.คำหล้าวันนี้ช่วยทุบกระท้อน ให้ครูสัก 3 ลูกนะ

ด.ญ.คำหล้า - วันนี้ครูนิดให้หนูทำอย่างอื่นแทนได้ไหมค่ะ

ครูนิด - ทำไมล่ะ เธอทุบกระท้อนหวานอร่อยดีครูชอบ

ด.ญ.คำหล้า - หนูก็อยากทำให้ครูนะคะ แต่วันนี้ตอนมาโรงเรียนหนูเดินไม่ทันระวังแก้วมันบาด ส้นเท้า หนูค่ะ

ครูนิด - !!!!!!!!!!!!!!!!??????????

ขณะที่หมอกิตตินันท์กำลังจะเข้าเวรอยู่นั้น (โรงพยาบาล….....)

ก็เหลือบไปเห็น อู๊ด (คนไข้) นั่งอยู่ จึงเข้าไปทักทายพูดคุยด้วย

หมอกิตตินันท์ : อ้าว อู๊ด กำลังทำอะไรอยู่ล่ะ (ทำท่าเป็นสนใจอย่างมาก)

อู๊ด : อ๋อ กำลังเขียนจดหมายอยู่น่ะ หมอ

หมอกิตตินันท์ : ส่งไปให้ใครล่ะ

อู๊ด : ส่งให้ตัวอู๊ดเองแหละหมอ

หมอกิตตินันท์ : อืม...... (ไม่คิดมาก คุยกับคนบ้าก็เงี้ยแหละ) แล้ว เขียนว่าไงบ้างล่ะ

อู๊ด : เอ๊ะ! หมอนี่ถ้าจะบ้าแฮะ

หมอกิตตินันท์ : อ้าว ทำไมว่างั้นล่ะ

อู๊ด : ก็จดหมายยังไม่มาถึงผมเลย จะรู้ได้ไงล่ะว่าเขียนว่าไงมั่งน่ะ

-คนไข้นี่ใช่อู๊ดทนงศักดิ์หรือเปล่าคะ -ฝากหมอรักษากำนันบ้านนอกอีกคนนะคะ ขอบคุณคะ

..... คุณเคยมีอาการอย่างนี้บ้างมั๊ย

- ซื้อของได้ไม่ครบ เพราะลืมกระดาษโน๊ตจดรายการของที่ต้องซื้อไว้ที่บ้าน

- นางเอกหนังเรื่องที่ดูเมื่อวานชื่ออะไรน้า

- จอดรถไว้ชั้นไหนของห้างนะ

- กินแล้วก็นึกว่ายังไม่ได้กิน... นอนแล้วก็นึกว่ายังไม่ได้นอน....ฯลฯ

... หลายคนคงมีอาการเหล่านี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่ก็อย่าเพิ่งตระหนกตกใจว่า คุณเริ่มแก่แล้วหรืออย่างไรถึงได้หลงลืมกันขนาดนี้ จริงๆแล้วคนเราไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อย ก็มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้กันทุกคน บทความฉบับนี้ จะมีเคล็ด(ไม่ลับ)ในการบริหารสมองมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง เรื่องมันมีอยู่ว่า

- สมองของคนเราแบ่งได้เป็น 2 ซีก คือ ซีกซ้ายและซีกขวา ในคนส่วนมาก สมองซีกซ้าย จะควบคุมการทำงานของดวงตาข้างขวา แขน หู และขาข้างขวา อันเป็นข้างที่สามารถขบคิดถึงเหตุและผลได้ดีที่สุด มีความสามารถทางด้านการคำนวณ ความชำนาญด้านภาษา การฟังและความเข้าใจ ..ส่วนสมองซีกขวา จะเป็นแหล่งของจินตนาการ อารมณ์ ความรู้สึก สัญชาติญาณและลางสังหรณ์ ความสามารถทางด้านศิลปะ และบ่อเกิดของความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ

- ถ้าหากคุณเหนื่อยหรือเครียด สมองจะทำงานได้เพียงข้างเดียวเท่านั้น ความสามารถในการใช้สมาธิจึงลดลง และคุณก็จะไม่สามารถรวบรวมความคิด หรือพูดอธิบายอะไรออกไปได้อย่างชัดเจน รวมทั้งไม่สามารถที่จะคิดในเชิงสร้างสรรค์ได้

-...เคล็ด(ไม่ลับ)ในการบริหารสมอง ...

-หลับตาอาบน้ำ..เปิดก๊อกน้ำ ปรับความแรงหรืออุณหภูมิของน้ำโดยใช้ประสาทสัมผัสและความรู้สึก หลับตาใช้มือสัมผัสหาอุปกรณ์อาบน้ำ จากนั้นจึงล้างหน้า อาบน้ำหรือโกนหนวด(ระวังอย่างเดียวตอนฟอกสบู่จะมีมือของใครไม่รู้ส่งสบู่ให้)

-เกมสลับมือ.. ขยับสมอง ฝึกใช้มือข้างที่คุณไม่ถนัดแปรงฟัน หมุนฝาหลอดยาสีฟัน และป้ายยาสีฟันบนแปรง การฝึกลักษณะนี้เป็นการกระตุ้นสมองส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ให้เริ่มสั่งการเพื่อปฏิบัติกิจกรรมต่างๆที่สมองซีกนี้ไม่ค่อยมีส่วนร่วม มีการวิจัยพบว่า การฝึกเช่นนี้ส่งผลให้วงจรและเครือข่ายสมองในส่วนเยื่อหุ้มสมองคอร์แทกซ์ที่ทำหน้าที่ควบคุม และรับคำสั่งจากมือ มีการขยายตัวอย่างมากและในอัตราที่รวดเร็ว หรืออาจลองทำสิ่งต่างๆด้วยมือข้างเดียวก็ได้

... เช้าวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา.. ลองเลือกกิจกรรมต่อไปนี้หนึ่งหรือสองข้อ แต่ไม่ควรทำหมดทุกข้อในเช้าวันเดียวกัน สลับลำดับกิจวัตรตอนเช้า เช่น ถ้าเคยแต่งตัวก่อนกินข้าว ลองเปลี่ยนมากินข้าวก่อนแต่งตัว ถ้าเคยรับประทานกาแฟกับขนมปังทุกเช้า ลองเป็นข้าวโอ๊ตและชาสุขภาพ หรืออาหารอื่นบ้าง เปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุก เปลี่ยนรายการวิทยุ หรือทีวีไปเป็นรายการที่เราไม่เคยฟัง

...เปลี่ยนเส้นทางที่จะเดินทางไปทำงานหรือกลับบ้านบ้าง(อย่าแวะกลางทางแถวก่อนถึงบ้านบ่อยละกัน เดี๋ยวสมองบวม)

วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่16มิย52หน้า15คอลัมภ์ข้าราชการซี12ได้เขียนถึงเรื่องสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ องค์การตามรัฐธรรมนูญ กลุ่มในภาคเศรษฐกิจ ได้เห็นรายชื่อเพื่อนเราอยู่ในกลุ่มการผลิตด้านเกษตรลำดับที่13 นายอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ เพื่อนผนส.3ของเราเองก็เลยพลอยยินดีปรีดาและภูมิใจในความเป็นพวกเรากับเขาไปด้วยและ ขอแสดงความยินดีกับน้องอภิสิทธิ์อีกครั้งครับ

..พี่แจ้

คำถาม

ปัจจุบันแม่มีอายุมากกว่าลูก 21 ปี และ อีก 6 ปีข้างหน้าแม่จะมีอายุเป็น 5 เท่าของลูก อยากทราบ ว่า ตอนนี้ พ่ออยู่ที่ไหนครับ ?

เป็ น งง..................

โปรด.... คิดคำนวณ ก่อนดูคำตอบนะครับ

/

เฉลย

เมื่อใช้คณิตศาสตร์ชั้นต้น สมมติให้ลูกมีอายุเป็น X

ส่วนแม่มีอายุเป็น X+21

และในอีก 6 ปีข้างหน้า (X+21)+6 = 5(X+6)

และแก้สมการออกมาจะได้ว่า X มีค่าเป็น - 0.75

แปลความหมายได้ว่า ลูกมีอายุ ( ลบ 0.75) ปี คือ ลบ 9 เดือน

ทำให้สรุปได้ว่าลูกกำลังปฏิสนธิ

***** ทำให้ปัจจุบันนี้ พ่อจึงอยู่บนตัวแม่ อย่างไม่ต้องสงสัย ............................. ฮา ฮา ฮา

ผมเป็นบุคคลภายนอกได้เข้ามาอ่่านเรื่องราวของผู้นำสหกรณ์แต่ละท่านแล้ว รู้สึกภูมิใจและสบายใจครับ ที่หลายท่านคิดถึงความทุกข์ของพี่น้องเกษตรกรที่เป็นสมาชิก และมีจิตเมตตาที่จะตั้งใจทำงานสหกรณ์ เพื่อแก้ปัญหาและทุกข์ของชาวบ้าน และใช้สหกรณ์เป็นแนวทางในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของไทย แม้ว่าคนในรัฐบาลแทบจะไม่พูดถึงสหกรณ์เลย ก็ตาม ผมขอให้ผู้นำทุกคนโชคดี ดังเจตนาที่ดีของทุกคนครับ สิ่งที่สมาชิกสหกรณ์การเกษตรอยากได้ อยากให้สหกรณ์ สนับสนุนทำให้ครอบครัวเขาอบอุ่น ไม่หย่าล้างเพราะหนี้สินล้นพ้นตัว อยู่ด้วยกันอย่างร่มเย็น เมื่อเขาจะมีผู้สืบสกุล สหกรณ์ควรส่งเสริมด้านโภชนาการ ที่เหมาะสมกับผู้ตั้งครรภ์ ลูก ๆ เขา ควรได้รับการศึกษาที่ดี สหกรณ์มีเงินทุนการศึกษาสนับสนุนบ้างตามสมควร เมื่อลูกจบการศึกษา อยากให้ลูกมีงานทำ โดยสหกรณ์เป็น คนกลางหรือเป็นศูนย์จัดหางานให้บ้าง เขาเป็นเกษตรกร เขาอยากขายผลิตผลและผลิตภัณฑ์ ในราคาที่เป็นธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และมีตลาดรองรับผลผลิต และอยากได้เงินลงทุนที่ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่ควรจะจ่าย สหกรณ์ไม่ควรคิดดอกเบี้ยที่สูงจนเกินไป มาเพิ่มขยายการผลิต อยากให้สหกรณ์ทำประกันความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตรบ้าง หากเกิดผิดพลาดจะได้ไม่ต้องตกระกำซ้ำสอง เขาอยากให้สหกรณ์ ขายสินค้าที่จำเป็น วัสดุอุปกรณ์การเกษตรให้กับครอบครัว ในราคาที่เป็นธรรม และสินค้านั้นต้องไม่ปลอมปน มีปริมาณและน้ำหนักที่ครบถ้วน เขาอยากได้ความรู้ และวิธีทำมาหากินรูปแบบ ใหม่ ๆ มาเป็นอาชีพเสริมบ้าง โดยอยากให้สหกรณ์เป็นแหล่งเรียนรู้ มีห้องสมุดที่มีสื่อ หนังสือตำรา วีซีดี เทป โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วารสาร ที่เกี่ยวกับการสหกรณ์ การทำมาหากิน ให้เขา และลูก ๆ ได้ศึกษาบ้าง อ้อเกือบลืม สหกรณ์ควรมีคอมพิวเตอร์ ไว้บริการสมาชิกบ้าง เปิดบริการเหมือนร้านเกม ลูกหลานเขาจะได้ค้นคว้า หาความรู้ จากอินเตอร์เน็ต มิใช่มีไว้ใช้แต่เฉพาะพนักงานเท่านั้น เขาอยากมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง อยากมีสุขภาพอนามัยดี จะได้มีแรงกำลังในการประกอบอาชีพ อยากให้สหกรณ์ส่งเสริมสวัสดิการด้านนี้บ้าง เช่นการ ตรวจสุขภาพประจำปี จัดสวัสดิการรักษาพยาบาล รถบริการรับส่งเมื่อเราเจ็บป่วยร้ายแรง ฉุกเฉิน เขาอยากมีความรู้เรื่องการมีส่วนร่วมว่าเขาจะเข้าไม่มีส่วนร่วม ในการบริหารจัดการสหกรณ์ได้ทางใดบ้าง เมื่อเขาแก่เฒ่าทำงานไม่ไหว เขาอยากมีเงินเลี้ยงชีพเล็ก ๆ น้อย ๆ พออยู่ได้ และอยากให้สหกรณ์มีการประกันชีวิตยามแก่เฒ่า อยากให้สหกรณ์จัดทัวร์สำหรับผู้สูงอายุ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจปีละครั้ง เมื่อถึงเวลาต้องจากโลกนี้ไป อยากให้สหกรณ์ช่วยจัดการศพให้อย่างสมเกียรติ

ขอยินดีต้อนรับคุณกัลกิ เภริโฆษ ที่ให้ความสนใจในนานาทัศนะภายในblogของผู้นำสหกรณ์รุ่น3นี้.. ขอขอบคุณในคำอวยพรและข้อแนะนำที่มีประโยชน์ต่อสมาชิกสหกรณ์มากมายบางครั้งการจะดำเนินการต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกก็ต้องฟังเสียงสะท้อนขึ้นมาจากผู้ที่ต้องการในสิ่งนั้นจริงๆ บางครั้งการดำเนินการหลายๆอย่างก็เหมือนกับนำมะพร้าวไปให้ชาวสวนหรือให้ในสิ่งที่เขาไม่ต้องการก็ไร้ประโยชน์ ขอขอบคุณอีกครั้งและยินดีต้อนรับเข้ามาเป็นสมาชิกในblogนี้หวังว่าคงได้เข้ามาแลกเปลี่ยนแนวความคิดกันอีกต่อไป..web master ผนส.3

แก้สมการคำถามกำนันบ้านนอก

ตามสมการผลของค่าx=-0.75 ผลเทียบเวลา=ลบ 9 เดือน

อ้างผลการวิจัย:

อสุจิจะเดิน ทางด้วยอัตราเร็ว 2 - 3 มล. ต่อนาทีแต่จะเคลื่อนที่ช้าลง ในช่องคลอดที่มีสภาพเป็นกรด และว่ายเร็วขึ้นเมื่อ ผ่านจากปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูกที่มีความเป็นด่าง ซึ่งกว่าอสุจิจะผ่านพ้นเข้าไปในท่อรังไข่ได้นั้น จำนวน อสุจิ 200 - 400 ล้านตัวในขณะหลั่งจะเหลือรอดได้เพียง ไม่กี่ร้อยตัวที่มีโอกาสไปผสมกับไข่ อสุจิจะปล่อยสารย่อย (Enzyme) จากส่วนหัวซึ่ง สามารถละลายผนังที่ห่อหุ้มปกป้องไข่ออกได้ และจะมีอสุจิ เพียงตัวเดียวที่เจาะเข้าสู่ไข่ได้สำเร็จ หลังจากนั้นอสุจิตัวอื่นๆ จะไม่สามารถเข้าไปได้อีก อสุจิจะสลัดหางและย่อยส่วนหัว เพื่อปลดปล่อยโครโมโซมทั้ง 23 แท่งที่บรรจุอยู่ภายในส่วน หัวเข้าสู่ไข่ เพื่อจับคู่ของตัวเองกับโครโมโซมอีก 23 แท่งในไข่ และหลอมรวมตัวกันกลายเป็นเซลล์เซลล์เดียว เรียกว่าเกิดการปฏิสนธิขึ้น โดยใช้เวลา5-10นาทีในการเดินทาง

:คำตอบที่ถูกต้องคือ: พ่ออยู่ในห้องน้ำชำระร่างกาย(55555)

..พี่แจ้

มีความเห็นแย้งครับ...ต่อโจทย์คำถามของ กำนันบ้านน๊อก บ้านอก โดยแสดงวิธีทำและเฉลยคำตอบอย่างนักคณิตศาสตร์ ตลอดจนงานวิจัยของพี่แจ้ ซึ่งต้องขอชมเชยว่า การวิเคราะห์มีความละเอียดมาก อย่างไรก็ตาม...ต้องขออภัยท่านทั้งสอง ศิษย์ร่วมสำนักคนนี้ไม่มีทางเชื่ออะไรง่าย ๆ จึงได้คำนวณตามสูตรของชายสี่ หมี่เกี๊ยว + เต๊กกอ

คำตอบที่ถูกต้องคือ : พ่อกำลัง...เขียนจดหมายถึงตัวเองอยู่ไง พอเขียนจดหมายเสร็จแล้ว จึงเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย งานนี้ขอบอก ว่า...หมอกิตตินันท์ ไม่เกี่ยวนะ

เพื่อนผนส.3 เมื่อวันที่ 12 มิย.52เข้าร่วมสัมมนาเรื่อง "กองทุนFTA นำเกษตรกรไทยพ้นภัยเศรษฐกิจ" ได้พบกับเพื่อนมี คุณบุญตง คุณลุงบุญช่วย คุณสุรชัย ดีใจมากที่ได้ไปนั่งสัมมนาด้วยกัน วันนั้นมีคุณธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดสัมมนาและบรรยายพิเศษเห็นว่าการสัมมานาครั้งนี้มีประโยชน์กับสมาชิกสหกรณ์และสหกรณ์ เมื่อรับฟังแล้วทำไห้ทราบว่ายังมีโครงการดีๆอีกมากที่เรายังเข้าไม่ถึงหลังจากนี้อีกไม่นานคงมีโครงการส่งไห้อาจาริยยมตรวจและปรึกษาหารือแน่นอนคะ ท่านกำนันบ้านนอกกลับจากอีสานบ้านเฮาแล้วจัดสรรของฝากครบหรือยังคะ เมื่อไหร่คณะกรรมการกลั่นกลองจะไปจ.อุทัยหาv.24 บอกข่าวเล่าแจ้งด้วยนะคะ

เรียน  ผนส `3  ทุกท่าน

        เมื่อวานได้อ่านหนังสือพิมพ์โคออป ต้องขอขอคุณทางสันนิบาตที่ช่วยแก้ข่าวให้ เพราะหลังจากลงหนังสือพิมพ์แล้วทุกคนที่ได้พบกันจะมีสีหน้าที่ดีต่อกันมาขึ้น เพราะวันก่อนทุกคนไม่แน่ใจว่าที่ผมนำมาแจ้งนั้นจริงหรือเท็จ และต้องขอโทษพี่พี่ด้วยที่วันก่อนไม่ได้อธิบายให้เข้าใจแบบเข้าใจง่ายทำให้ทุกคน งงงงง
        เห็นผนสรุ่นต่อไป กำลังเปิดรีบสมัครแล้ว เปิดโครงการวันไหนอย่าลืมทุกวันนั้น _ผนส 3 ทุกคนต้องไปร่วมนะ เพราะได้โอกาสพบปะรุ่นเราไปด้วย ผมคนหนึ่งถ้าไม่มีธุระจำเป็นจริงๆต้องไปร่วมแน่นนอน แต่อย่างลืมขอหนังสือนำทางจากสันนิบาต หรือประธานรุ่นก็ได้  เพื่อเดินทางไปร่วมงานโดยสะดวก
          วันนี้ไม่มีอะไรจะบรรยาย 

           สวัสดีทุกคน

เรียน ผนส. ทุกท่าน

โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตร "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" รุ่นที่ 4 เปิดรับสมัครเข้ารับการอบรม ตั้งแต่ 1- 31 กรกฎาคม 2552 โดยโครงการจะเริ่มวันที่ 10 กันยายน - 25 ธันวาคม 2552

สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ(ชื่อใหม่)

สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

โทร 0-2241-1229

ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์

ที่นี่ประเทศไทย...!!!

ผ่านพ้นกันไปแล้วอีกด่านหนึ่ง สำหรับร่างพระราชกำหนดและพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจรวม 8 แสนล้านบาท โดยเริ่มนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา และล่าสุดพระราชบัญญัติดังกล่าวก็ผ่านที่ประชุมแบบ 3 วาระรวดไปเมื่อคืนวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ฝ่ายค้านได้ประท้วงไม่ลงมติด้วยการวอล์กเอาท์ โดยอ้างว่าไม่ยอมร่วมสังฆกรรมด้วย แต่ผลจากการกระทำดังกล่าวของฝ่ายค้าน ส่งผลให้หมดโอกาสในการตรวจสอบงบประมาณในชั้นกรรมาธิการอย่างน่าเสียดาย และที่สำคัญบทบาทของฝ่ายค้านดังกล่าว แม้จะเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ก็ถือว่าไม่สร้างสรรค์ สังคมมองออกว่าเป็นแค่เกม “ตีรวน” ในสภาตาม “ใบสั่ง” เท่านั้น ไม่ได้เกิดประโยชน์กับชาวบ้านใดๆเลย ขณะเดียวกันเมื่อหันมาที่ฝ่ายรัฐบาลบ้างก็เกิดคำถามมากมายทั้งในเรื่องของการ “แบ่งเค้ก” กันในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล หรือ “แบ่งงบแลกโหวต” อะไรประมาณนั้น เพราะก่อนหน้าที่จะมีการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชกำหนดดังกล่าวก็มีประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษอนุมัติงบประมาณในโครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่อยู่ในการกำกับดูแลของพรรคชาติไทยพัฒนา และโครงการที่เกี่ยวกับการศึกษาท้องถิ่นและการก่อสร้างอาคารศูนย์เด็กเล็กที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยภายใต้การกำกับดูแลของพรรคภูมิใจไทย การชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษครั้งนั้นใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็อนุมัติงบประมาณทั้งสองโครงการรวมแล้วกว่า 4 พันล้านบาท ทุกฝ่ายเดินออกมา “หน้าบาน” เหมือนกับว่าได้ต่อรองกันลงตัว เพราะหลังจากนั้นร่างพระราชกำหนดเงินกู้ 4 แสนล้านบาทก็ผ่านสภาอย่างฉลุย

ท่านผู้นำสหกรณ์  ท่านมีความคิดเห็นในประเด็นข้างต้นนี้อย่างไร?

สวัสดี ผนส.3ทุก ๆท่าน

โดยเฉพาะ ชาว สมาคม อารมย์ดี พี่ทนงศักดิ์ กำนันบ้านนอก พี่แจ้ ทั้ง 3 จะมีเรื่องให้ได้ทำการบ้านเป็นประจำ ข้อมูลที่นำเสนอ ใหม่ สด เสมอ จนถึงเรื่องขำขันๆๆๆๆๆ แล้วอย่าลืม "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ"ด้วยนะ

พี่เครือ แห่งสุรินทร์ จากการเข้าสัมมนา กองทุน FTA นำเกษตรกรไทยพ้นภัยเศรษฐกิจ ที่บอกว่ายังมีโครงการต่าง ๆ ที่ยังเข้าไม่ อีกมาก บอกหน่อยนะ เพราะวันนั้นติดภาระกิจไม่ได้เข้าร่วมสัมมนา

เพื่อนอ๋อ น้องวี และทุก ๆ ท่าน สบายดีนะค่ะ คิดถึงตลอด

การที่ฝายค้านได้กระทำแบบนี้เค้าเรียกว่า"เตะหมูเข้าปากหมา" สนับสนุนประเด็นของทนงศักดิ์ที่ว่าหมดโอกาสในการตรวจสอบงบประมาณในชั้นกรรมมาธิการอย่างน่าเสียดายจริงๆ(หรือมีการตกลงกันหลังไมค์ในเรื่องผลประโยชน์อย่างลับๆที่ว่าเตรียมรอกินเค้กอยู่ที่โต๊ะไม่ต้องออกมาตักเอง)มันน่าสงสัยจริงๆนะบิ๊กอู๊ด หรือมีความเห็นอื่นลองpostเข้ามาหน่อยเพื่อนๆผนส.3ทุกท่าน

ภัยพิบัติล้างโลก พศ.2555

ภัยพิบัติล้างโลก 2012

อาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญไฮโดรเจน จากองค์การนาซ่า และเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ Hydrogen ในประเทศไทย ด้วยวิธีการใช้ไฟฟ้าแยกน้ำที่มีระสิทธิภาพสูง อาจารย์ ทำงานในองค์การ NASA ในสายงานคือ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เพื่อสร้างยานอวกาศ( เพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ.2012 พศ.2555 แต่รู้ในวงจำกัด)

"อาจารย์ สุมิตร" ยืนยันว่าอีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะขึ้นจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน และคนในองค์การ NASA ทุกคนทราบเรื่องนี้มานานแล้ว แล้วได้สร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกในคศ.2012 ใกล้เสร็จแล้ว (แต่ไม่ได้บอกว่าสร้างไว้กี่ลำ)

"อาจารย์" ยังยืนยันด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริง ปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การ NASA โดยสื่อสารทาง "โทรจิต" ในการถ่ายทอดความรู้ทางทคโนโลยี เพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลก(มนุษย์บางคนเท่านั้นที่ถูกเลือกให้รอด) อาจารย์ ยังยืนยันด้วยว่าโลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ 1จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ มนุษย์โลกสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานแล้วโดยทาง "โทรจิต" แต่สหรัฐอเมริกานั้นค่อนข้างปกปิด ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้ ในเมื่อไม่รู้ ก็จะมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล

"อาจารย์ สุมิตร" เป็นนักวิทยาศาสตร์องค์การ NASA มาหลายปีแล้ว ท่านเคยไปบอกให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทยควรเร่งสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพคนไทยจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 โดยเร็ว เพราะประเทศไทยเรานั้น มีเทคโนโลยีในการสร้างแล้ว ขาดก็แต่งบประมาณเท่านั้น แต่กลับไม่มีใครเชื่อ แถมมองว่าท่านเป็นบ้าอีกด้วย พวกฝรั่งเขารู้กันมานาน เขาสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกในค.ศ. 2012 เกือบเสร็จแล้ว แต่คนไทยยังไม่เชื่อ จะจมน้ำตายกันอยู่แล้ว ไม่รู้วันๆ คนไทยทำอะไรกันอยู่ น่าสงสารคนไทยจริงๆ

"อาจารย์ สุมิตร" ยืนยันว่าอีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะขึ้นจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่งเค้าตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมดยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ น่าสงสารคนไทยจริงๆ คนไทยน่าจะเลิกทะเลาะกันได้แล้ว อีก 3 ปี ได้จมน้ำตายแน่ๆ

เพื่อความไม่ประมาทขอให้เพื่อนๆแถวบ้านเขว้าโคราชสุรินทร์ร้อยเอ็ดลำปางเชียงรายเตรียมบ้านรับรองให้เพื่อนๆผนส.3อพยพไปอยู่ด้วย กำนันบ้านนอกสุพรรรณเตรียมเรือไว้ด้วยไม่รอดแน่(เตรียมไว้หลายๆลำเมียหลายคนก็ลำบากหน่อย)

ขอบคุณสามสหายที่มีเรื่องเบาสมองมาให้คลายเครียดเป็นประจำถึงขาดหายไปบ้างแต่ก็ไม่นานเกินรอ ขอบคุณคะที่ช่วยทำให้โลกสดใส รออ่านอยู่นะคะ

/หลินปิง

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ผนส.3 ทุกท่าน

ได้เข้ามาอ่านใน blog ทุกวันแต่ไม่ได้ post เข้ามา วันนี้เห็นบิ๊กอู๊ด วิพากษ์เรื่องสภาแล้ว ก็เห็นด้วย ประเทศไทยถึงเจริญลงทุกวันไงค่ะ แต่พวกเราก็อย่าทำตัวให้เครียดจนเกินไป เห็นตัวอย่างที่ไม่ดี ก็อย่าไปทำตามและพยายามสร้างแต่สิ่งที่ดี ๆ เข้าไว้ โลกก็คงน่าอยู่แต่อ่านบทความของ 815 แล้ว อีก 3 ปี น้ำก็จะท่วมโลกแล้ว เว้นแต่ทางอีสาน อาจจะพอมีแผ่นดินให้อยู่ ยังไงบิ๊กอู๊ด เหลือที่ทางไว้ให้พี่จิ๋นด้วยนะจ๊ะ ช่วงนี้งานยุ่งมาก เพราะเปลี่ยนอธิบดีใหม่ ท่านชื่อว่า อนันต์ ย้ายมาจาก สปก. เป็นนักคิด นักทำงาน พวกเราจึงต้องเร่งงานให้เสร็จก่อนกันยายน ประกอบกับช่วงนี้ ครม. ให้จัดเรื่องอบรมให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายนช่วงนี้ จึงมีแต่การอบรม การสัมมนา ตลอดเดือน

พี่ยังไม่ได้ไปดำเนินการซื้อบัตรออมสิน กับ ธกส. ถ้าซื้อแล้วจะแจ้งให้ทราบใน blog นี้ว่าได้เลขอะไรจะได้ช่วยกันตรวจรางวัล ขอเวลาอีกนิดนะค่ะ

คิดถึงทุกคนค่ะ

ประธานบัญชาหายไปไหน รายงานตัวด้วยค่ะ

ตอบ Blog ที่ 818

ประธานฯ บัญชา ไม่ได้หายไปไหนครับ แต่ตอนนี้เตรียมตัวเป็นวิทยากรให้ สันนิบาตสหกรณ์ฯ เรื่อง "คิดแบบผู้นำ" วันที่ 26 มิถุนายน 2552 09.00-12.00 น. ครับ

ขอบคุณครับ

ผลกระทบจากคำถามกำนันบ้านนอก

จากคำถามของกำนันบ้านนอกที่อ้างผลคำนวณทางคณิตศาสตร์และผลการวิจัยของพี่แจ้ในเรื่องของการปฏิสนธิและคำถามถามว่าพ่ออยู่ที่ไหนทำให้เกิดนั้นทำให้เกิดการต่อว่าต่อขานระหว่างค่ายอนามัยและค่ายถุงยางแทบจะเกิดเรื่อง

ถุงยาง : ผ้าอนามัยเธอรู้ไหมวันใดที่เธอทำงานเธอทำให้ฉันตกงานไปตั้ง 7วัน

ผ้าอนามัย: โกรธอย่างมากหันมาตวาดสุดเสียงว่า"เธออย่ามาพูดเห็นแก่ตัวอย่างนี้นะ เธอรู้ไหมวันไหนที่เธอทำงานผิดพลาด ฉันนะตกงานไป 9 เดือนนะ" (555555)

ท่านอาจารย์นายแพทย์ภาสกิจ(วิทวัส) วัณนาวิบูล อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแพทย์ แผนจีนแนะนำเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ ตามศาสตร์แพทย์แผนจีนว่า อาหาร 10 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกิน นำแนวคิดศาสตร์แพทย์แผนจีนมาวิเคราะห์โดยใช้หลักแพทย์แผนปัจจุบันประกอบ... อาหารที่ไม่ควรกินมากเกิน หรือบ่อยเกินได้แก่...

1) ไข่เยี่ยวม้า: ไข่เยี่ยวม้ามีตะกั่วค่อนข้างสูง ตะกั่วทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลง กินบ่อยๆ จะเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง และอาจได้รับพิษตะกั่วเช่น สมองเสื่อม เป็นหมัน ฯลฯ

2) ปาท่องโก๋: กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้ม ซึ่งมีตะกั่วปนเปื้อน ตะกั่วทำให้ไตทำงาน หนักในการขับสารนี้ออกไป นอกจากนั้นยังทำให้คอแห้ง เจ็บคอง่าย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคร้อนในได้ง่าย

3) เนื้อย่าง: กระบวนการรมไฟ ย่างไฟทำให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

4) ผักดอง: ผักดอง และของหมักเกลือทำให้ร่างกายได้รับเกลือโซเดียมสูง ถ้ากินบ่อยเกิน หรือ มากเกินจะทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันเลือดสูงและโรคหัวใจได้ง่าย นอกจากนั้นกระบวนการหมักดองยังทำให้เกิดสารแอมโมเนียมไนไตรด์ ซึ่งเป็นสาร ก่อมะเร็ง

5) ตับหมู: ตับหมูมีโคเลสเตอรอลสูง การกินตับหมูบ่อยเกิน หรือมากเกินทำให้เสี่ยงต่อโรค หัวใจ เส้นเลือดสมอง (อัมพฤกษ์-อัมพาต) และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น

6) ผักขม ปวยเล้ง: ผักขมและปวยเล้งมีสารอาหารสูง ทว่า... มีกรดออกซาเลตมาก ทำให้เกิดการขับสังกะสี และแคลเซียมออกจากร่างกายมาก การกินบ่อยเกิน หรือมากเกินอาจทำให้เกิดภาวะขาด แคลเซียม หรือสังกะสีได้

7) บะหมี่สำเร็จรูป: บะหมี่สำเร็จรูปมีสารกัดบูด สารแต่งรสค่อนข้างสูง และมีคุณค่าทางอาหารต่ำ อย่ากินบะหมี่สำเร็จรูปมากเกิน หรือบ่อยเกินไปฺฺฺ

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ผนส.3 ทุกท่านกำนันบ้านนอกคิดถึงเพื่อน ผนส.3จัง วันนี้ผมอุบล

ความรู้จากแพทย์จีน

อาจารย์ท่านแนะนำเคล็ดลับไว้ 12 ข้อดังต่อไปนี้...

1) หวีผมบ่อยๆ: หวีผมเบาๆ บ่อยหน่อยช่วยให้ตาสว่าง และรากผมแข็งแรง (ใช้หวีซี่ห่างหน่อย แปรง เบาหน่อย เพื่อกันผมหลุด)

2) ถูใบหน้าบ่อยๆ: ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือ 2 ข้างถู หน้าเบาๆ บ่อยหน่อยเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ใบหน้าเปล่งปลั่ง

3) เคลื่อนไหวดวงตาบ่อยๆ: ให้มองไกล-มองใกล้ มองข้างนอก-ข้างใน มองบน-มองล่าง หลีกเลี่ยงการมอง หรือ จ้อง อะไรนานๆ โดยเฉพาะคนที่ทำงานคอมพิวเตอร์ควรพักสายตาด้วยการมองไกลอย่างน้อยทุกชั่วโมง

4) กระตุ้นใบหูบ่อยๆ: การดึงหู ดีดหู บีบหู ถูใบหูเบาๆ บ่อยหน่อย ช่วยบำรุงตานเถียน (จุดฝังเข็ม) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เก็บพลังงานของร่างกาย (ใต้สะดือ) สัมพันธ์กับไต ซึ่งเปิดทวารที่หู ทำให้แรงดี ป้องกันเสียงดังในหู หูตึง และอาการเวียนหัว

5) ขบฟันบ่อยๆ: ขบฟันเบาๆ บ่อยหน่อย (ไม่ใช่ขบแรงดังกรอดๆ) ช่วยให้ฟันแข็งแรง และกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย

6) ใช้ลิ้นดุนเพดานปากบ่อยๆ: การใช้ปลายลิ้นกระตุ้นเพดานบนด้านหน้าเป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็ม เพื่อเชื่อมพลังลมปราณตู๋และเยิ่น ซึ่งเป็นเส้นควบคุมแนวกลางลำตัวส่วนหลัง และส่วนหน้าร่างกาย ทำให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งสารน้ำ และน้ำลาย

7) กลืนน้ำลายบ่อยๆ: การกลืนน้ำลายบ่อยๆ ช่วยกระตุ้นพลังบริเวณคอหอย และกระตุ้นการย่อยอาหาร

8) หมั่นขับของเสีย: หมั่นขับของเสีย โดยเฉพาะดื่มน้ำให้พอ กินอาหารที่มีเส้นใย ออกกำลัง เพื่อป้องกันท้องผูก เมื่อปวดปัสสาวะหรืออุจจาระให้ถ่ายทันที อย่ารอโดยไม่จำเป็น การทิ้งของเสียไว้ในร่างกายนานเกินทำให้เกิดสารพิษ และการดูดซึมสารพิษ (กลับเข้าสู่ร่างกาย) มากขึ้น ทำให้ป่วยง่าย

9) ถูหรือนวดท้องบ่อยๆ: ให้นวดท้องตามเข็มนาฬิกาเบาๆ เพื่อช่วยให้การขับถ่ายของเสียดีขึ้น

10) ขมิบก้นบ่อยๆ: การขมิบก้นบ่อยๆ ช่วยป้องกันริดสีดวงทวาร และท้องผูก

11) เคลื่อนไหวทุกข้อ: การอยู่นิ่งๆ หรืออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ทำให้เกิดโรคได้ง่าย ควรเคลื่อนไหวข้อต่างๆ ให้ครบทุกข้อทุกวัน ฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อและข้อให้สมดุล เช่น การฝึกชี่กง ไท้เก้ก โยคะ ฯลฯ

12) ถูผิวหนังบ่อยๆ: ใช้ฝ่ามือถูตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย คล้ายกับการถูตัวเวลาอาบน้ำ มีส่วนช่วยให้เลือดและพลังไหลเวียนดี

ทนงศักดิ์ (บิ๊กอู๊ต)

เสร็จสิ้นแล้วครับ สำหรับการประชุม"ชมรมผู้จัดการ เจ้าหน้าที่สหกรณ์และเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ ที่จังหวัดอุดรธานี ประธาน ,กรรมการและผู้จัดการ เข้าร่วมประชุม จำนวน ๑๙๐ กว่าคน ที่ประชุมมีมติเปลี่ยนชื่อเป็น"ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" เพื่อให้กรรมการและฝ่ายจัดการสหกรณ์มีส่วนร่วม เพื่อสร้างความเข้มแข็ง เปิดประชุมและบรรยายพิเศษโดยนายวินัย กสิรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ สรุปมติสำคัญดังนี้

๑. การขอให้ ธกส.ปลับลดดอกเบี้ยเงินกู้แก่สหกรณ์

๒. การคัดเลือกตัวแทนสหกรณ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกร เป็นกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตร

๓. การรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล

๔. การเสนอให้บริษัท บางจาก ฯ สร้างคลังน้ำมันไว้ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในวันนั้น คุณอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ เฒ่าแก่โรงงานข้าวโพดหวาน ไปร่วมด้วย ส่วนพี่บุญช่วย แห่งเมือง ร้อยเกิน ไม่เห็นหน้าเลย ขอบคุณ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และบริษัทสหประกันชีวิต จำกัด ร่วมสนับสนุน รายละเอียดอ่านใน"หนังสืพิมพ์เกลียวเชือก"

ทนงศักดิ์ (บิ๊กอู๊ต)

ขอใช้คำนำหน้าชื่อว่า"บิ๊ก"ที่พี่แจ้ ได้มอบให้เพื่อความเป็นมงคล

พี่จิ๋น... ถ้าซื้อบัตรออมทรัพย์ทวีสินของ ธกส. ขอให้เลือกเลขลงท้ายด้วยเลข ๓ นะเจ๊ เพราะเลข ๓ เป็นเลขแห่งโชคลาภ ดาวพระเสาร์เข้าใกล้ดาวพระศุกร์ พจมานจะลำบาก ถูกกลั่นแกล้งในช่วงต้น-ช่วงกลาง พอตอนจะจบก็จะมีความสุข ชายน้อยจะโตเป็นหนุ่ม ชายใหญ่จะเล่นตัว ส่วนชายสี่ จะไปขายหมี่เกี๊ยว เพราะฉะนั้นเลข ๓ จึงมาแรง

การสำรวจพื้นที่ทำกิจกรรมของรุ่น ๓ ที่จังหวัดอุทัยธานี ในวันที่ ๒๗ มิย. เสี่ยข้าวโพดหวานแจ้งว่า สมพงษ์คนขับท๊กซี่ จะเปลี่ยนขับรถตู้นำคณะทำงานไปอุทัย ขอให้วี ๒๔ คอยดูใจด้วยนะ แต่..ผมเสียดายจังไม่ได้ร่วมโดยสารไปด้วย เพราะติดเป็นกรรมการแข่งแรลลี่ "จับหมอก หยอกดอกกระเจียว" วันที่ ๒๗-๒๘ มิย.

สวัสดีเพื่อนผนส3ทุกท่าน..ไม่ได้เข้าblogมาหลายวันเนื่องจากมีปัญหาทางinternet wireless เข้ามาวันี้ก็ไม่ผิดหวังเจอทั้งบิ๊กอู๊ด กำนันบางกอก(บ้านนอกไม่เคยอยู่เลย)พี่จิ๋นของน้องๆ ได้อ่านผลสรุปการสัมมนาของชมรมผู้จัดการเจ้าหน้าที่สหกรณ์และเครือข่ายเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ขอขอบคุณที่สรุปประเด็นต่างๆให้พวกเราได้ทราบ และเห็นด้วยที่เปลี่ยนชื่อเพื่อเพิ่มแนวร่วมระดมสมองระดมความคิดให้ขบวนการสหกรณ์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

..ขอสนับสนุนเลข3นำโชคและโบราณว่าถ้ามีเมียก็ต้องมีเมีย3คนใช่ไหมบิ๊กอู๊ด..อ่านบทละครออมทรํพย์ทวีสิน แล้วสงสารพจมานจริงๆถูกกลั่นแกล้งตลอดไม่รู้ว่าพจนาถ(จิ๋น)จะออกมาช่วยเมื่อไหร่..

...ชายกลาง..

คำถาม:.. ประธานฯกับผู้จัดการ ใครสำคัญกว่ากัน , กรรมการกับเจ้าหน้าที่ใครสำคัญกว่ากัน,พ่อกับแม่ใครสำคัญกว่ากัน (เริ่มเถียงกันได้)

คำตอบ:..ทุกคนมีความสำคัญเท่ากัน...หน้าที่เท่านั้นที่ต่างกัน

เมื่อไหร่คิดว่าตัวฉันสำคัญกว่าคนอื่น..คนอื่นสู้ฉันไม่ได้ ให้นึกถึงนิทานเรื่องนี้พระที่วัดชลประทานท่านแต่งไว้..บางท่านคงเคยอ่านมาแล้วถือว่าเอามาทบทวนก็แล้วกัน

(หมายเหตุ:ตาคือดวงตาเรานี่เหละ ตีนก็คือเท้าเรานี่แหละครับ)

:นิทานเรื่องตากับตีน:

ตีนกับอยู่กันมาแสนผาสุข จะนั่งลุกยืนเดินเพลินหนักหนา

มาวันหนึ่งตีนทะลึ่งเอ่ยปรัชญา ว่าตีนมีคุณต่อตาซะจริง ๆ

ตีนพาตาไปในที่ต่าง ๆ ตาจึงได้ชมนางและสรรพสิ่ง

เพราะฉะนั้นดวงตาจึงประวิง ว่าตีนนี้เป็นสิ่งควรบูชา

ตาได้ยินตีนคุยโม้ก็หมั่นใส จึงร้องบอกออกไปด้วยโทสา

ว่าที่ตีนไปไหนได้ก็เพราะตา ดูมรรคาเศษแก้วหนามไม่ตำตีน

เพราะฉะนั้นตาจึงสำคัญกว่า ขอตีนอย่าได้มาคิดดูหมิ่น

สรุปแล้วตามีค่าสูงกว่าตีน ทั่วธานินตีนไปได้ก็เพราะตา

ตีนได้ยินตาก็คลั่งแค้นแสนจะโกรธ ก็พิโรธกระโดดไปใกล้หน้าผา

เพราะอวดดีคุยเบ่งเก่งกว่าตา ดวงชีวาจะคับไปไม่รู้เลย

ตาเห็นตีนทำเก่งเร่งกระโดด ก็พิโรธแกล้งระงับหลับตาเฉย

ตีนพาตาถลาล้มทั้งก้มเงย ตกแล้วเหวยตายห่าทั้งตาตีน

..คนเราอยู่ด้วยกันต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกันนะครับ.โชคดี..บาย

โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya) เป็นโรคติดต่อนำโดยแมลง คล้ายกันกับโรคไข้เลือดออกเด็งกี่ มีรายงานการระบาดครั้งแรกทางตอนใต้ของประเทศแทนซาเนียในทวีปแอฟริกา ในปี พ.ศ.2495 เกิดจากเชื้อไวรัส alphavirus ในสกุล Togaviridae ชื่อ ‘chikungunya’ มาจากภาษาท้องถิ่นของแอฟริกา (ภาษา Kimakonde) ซึ่งอธิบายถึงลักษณะบูดเบี้ยวหรือบิดงอตัว (contorted) จากอาการปวดข้ออย่างรุนแรง ในประเทศไทยพบการระบาดครั้งแรกในปี พ.ศ.2501 ที่กรุงเทพมหานคร แยกเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาได้จากผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเด็ก ต่อมายังพบผู้ป่วยเด็กบ้างบางราย และไม่พบอีกเลยตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมา หลังจากนั้นมีรายงานผู้ป่วยในบางปี คือ ที่จังหวัดปราจีนบุรี (พ.ศ.2519) สุรินทร์ (พ.ศ.2531) ขอนแก่น (พ.ศ.2534) เลยและพะเยา (พ.ศ.2536) นครศรีธรรมราชและหนองคาย (พ.ศ.2538) ซึ่งพบผู้ป่วย 576 ราย และ 94 ราย ตามลำดับ จนถึงการระบาดที่พบครั้งล่าสุด ในเดือนกันยายน พ.ศ.2551 ที่ จ.นราธิวาสและปัตตานี (ณ ปัจจุบัน 15 ต.ค.51 การระบาดลดลง แต่ยังไม่มีสิ้นสุด) ซึ่งทิ้งช่วงห่าง 13 ปี จากการระบาดครั้งก่อน

อาการของโรค : ไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการปวดข้อ ข้อบวมแดงอักเสบและเจ็บ เริ่มจากบริเวณข้อมือ ข้อเท้า และข้อต่อของแขนขา อาจพบอาการปวดกล้ามเนื้อด้วย หลังจากนั้นจะเกิดผื่นบริเวณลำตัวและแขนขา มักไม่คัน หรืออาจมีผื่นขึ้นที่กระพุ้งแก้มและเพดานปาก ไข้อาจจะหายในระยะนี้ (ระยะ 2-3 วันหลังเริ่มป่วย) ผื่นนี้จะลอกเป็นขุยและหายได้เองภายใน 7-10 วัน พบต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอโตได้บ่อย แต่อาการชาหรือเจ็บบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้าพบได้ไม่มาก อาการปวดข้อจะหายภายใน 2-3 วัน หรืออาจนานหลายสัปดาห์ และบางรายอาจเป็นเรื้อรังอยู่หลายเดือนหรือเป็นปี อาจพบอาการแทรกซ้อนไม่รุนแรงที่ตา ระบบประสาท หัวใจ และทางเดินอาหาร ผู้ติดเชื้อบางส่วนมีอาการอ่อนๆ ซึ่งอาจไม่ได้ถูกวินิจฉัยโรค หรือวินิจฉัยเป็นไข้เด็งกี่ แต่ในผู้สูงอายุอาการอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้

ไข่ ดาว ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ฯลฯ นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารแล้ว ไข่เหล่านี้ยังสามารถทำนาย ทายนิสัยคุณได้อีกด้วย อยากรู้ว่าตัวเองมีนิสัยอย่างไร หรือเพื่อน ๆ มีนิสัยแบบไหน ไปดูคำทำนายกันเลย

ไข่ดาว

ถ้า คุณชอบกินไข่ดาวมาก แสดงว่าคุณเป็นคนที่ชอบความท้าทาย และเป็นคนที่มีความพยายามเป็นอย่างยิ่ง คุณเป็นคนกระตือรือร้น และไขว่คว้หาโอกาสให้กับตัวเอง คุณจะไม่รอให้โอกาสต่าง ๆ เข้ามาหาคุณ คุณจะพุ่งเข้าใส่มันเอง

ไข่เจียว

คุณ เป็นคนที่มีความยุติธรรม เป็นนักวางแผน และนักคิด คุณมักคิด และทำอะไรอย่างเป็นระบบ คุณมีความเชื่อมั่น ในการตัดสินใจของตัวเอง และคุณก็มักคิดว่า คนอื่นมักคิดเช่นเดียวกับคุณ

ไข่ต้ม

คุณ เป็นคนที่มีความอดทน หากคุณทำงานอะไรสักชิ้นหนึ่ง คุณก็จะทำให้มันเสร็จไปเลย ไม่ชอบที่จะค้างมันไว้ เพราะคุณจะหงุดหงิดกับมันมาก หากคุณทำไม่สำเร็จ คุณมักจะใช้เหตุผลในการตัดสินใจทำอะไรสักอย่างอยู่เสมอ

ไข่ลวก

แสดง ว่าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเรื่องมาก ใคร ๆ ที่อยู่ใกล้มักสบายใจ เพราะคุณไม่มีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มายุ่งให้รำคาญใจ คุณเป็นคนรักความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่จะว่าไปแล้ว คุณเองเป็นคนที่ค่อนข้างจะใจร้อนอยู่สักหน่อย

ไข่ยัดไส้

คุณ เป็นคนที่มีการเตรียมพร้อม ชอบท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกัน ต้องไม่เป็นที่ที่ทำให้ลำบาก เพราะคุณมักจะไม่ค่อยมีความอดทนกับเรื่องพวกนี้ แม้กระทั่งการทำงานก็เช่นกัน หากต้องทุ่มเทกับมันมาก ๆ คุณก็จะรับมันไม่ค่อยได้

วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง

วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง

การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 คือ การปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยคณะราษฎร ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 คณะราษฎร ได้ใช้กลลวง นำทหารบกและทหารเรือมารวมตัวกันบริเวณรอบ พระที่นั่งอนันตสมาคม ประมาณ 2000 คน ตั้งแต่เวลาประมาณ 5 นาฬิกา โดยอ้างว่าเป็นการสวนสนาม จากนั้นนายพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ได้อ่าน ประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ 1 ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เสมือน ประกาศยึดอำนาจการปกครอง ก่อนจะนำกำลังแยกย้ายไปปฏิบัติการต่อไป

หลักฐานประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นหมุดทองเหลือง ฝังอยู่กับพื้นถนน บนลานพระบรมรูปทรงม้า ด้านสนามเสือป่า (ถ้าหันหน้าไปทางเดียวกับหัวม้า จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) มีข้อความว่า "ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎร ได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ เพื่อความเจริญของชาติ" เป็นหลักฐานถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เมื่อ 72 ปีก่อน ข้อความเหล่านี้นับวันแต่จะเลือนหายไปตามกาลเวลา

...แต่..พวกเราผนส3.รัก..ก.ก...มิเคยเปลี่ยนแปลง(ทำท่าแบบติ๊กชีโร่ด้วย)

ทนงศักดิ์มายืนรอแฟนที่ห้างแห่งหนึ่ง

เขารอแฟนนานมากจึงคิดจะไปล้างหน้า

หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็เหลือบ

ไปเห็นเด็กวัยรุ่นกำลังนั่งกินช็อกโกแลค

ทอฟฟี่ น้ำอัดลม เขาจึงเดินเข้าไปเตือน ...

ทนงศักดิ์ : น้อง น้องรู้ไหมว่าของพวกนี้ไม่มีประโยชน์

เด็กวัยรุ่น : รู้เพ่ ก็ผมกินประจำ

ทนงศักดิ์ : อ้าว แล้วน้องไม่เป็นไรหรือ

เด็กวัยรุ่น : ปู่ผมอายุ 100 ปี

ทนงศักดิ์ : ปู่น้องกินของพวกนี้ประจำเหมือนกันเรอะ

เด็กวัยรุ่น : ป่าว

ทนงศักดิ์ : แล้วเอาปู่มาอ้างทำไม

เด็กวัยรุ่น : ปู่ผมไม่เคยยุ่งเรื่องชาวบ้าน อายุเลยยืน

ทนงสักดิ์ : ????????

ทนงศักดิ์ (บิ๊กอู๊ต)

ที่นี่ประเทศไทย   คุณเห็นใจ หรือเห็นกึ่น รถไฟไทย ?

  • มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓ มิ.ย.๒๕๕๒ ที่ผ่านมานั้น คณะรัฐมนตรีพิจารณาผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๒ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) ประธานกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ เสนอ แล้วคณะรัฐมนตรี ก็มีมติ อนุมัติในหลักการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการตามที่ กนร.เสนอเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงินรอง รฟท. ดังนี้
  • ๑. ให้ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการของ รฟท. โดยการจัดตั้งบริษัทเดินรถและบริษัทบริหารทรัพย์สินแยกจาก รฟท. โดยให้ รฟท. ดำเนินการ ดังนี้ (๑) จัดตั้งบริษัทลูก ๒ บริษัท คือ บริษัทเดินรถและบริษัทบริหารทรัพย์สินที่ รฟท. ถือหุ้นร้อยละ ๑๐๐ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการ รฟท. พิจารณากำหนดทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่เหมาะสม (๒) พิจารณาแบ่งแยกภารกิจ สินทรัพย์ และหนี้สินระหว่าง รฟท. และบริษัทลูกทั้ง ๒ บริษัท รวมทั้งกำหนดกิจกรรมระหว่างกันและราคาให้เหมาะสม และเสนอให้ กนร.หรือคณะรัฐมนตรีเห็นชอบอีกครั้งภายใน ๑๕๐ วันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการ (๓) ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจ สินทรัพย์และหนี้สิน เพื่อให้บริษัทลูก ๒ บริษัท เริ่มดำเนินการได้ภายใน ๑๘๐ วันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการ
  • ๒. ให้ภาครัฐรับภาระการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอนาคตของ รฟท. โดยให้กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ร่วมพิจารณาการรับภาระการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท.
  • ๓. ให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ร่วมพิจารณาในการแก้ไขภาระหนี้สินของ รฟท. โดยใช้รายได้ของ รฟท. และบริษัทลูกจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยที่กระทรวงการคลังช่วยเหลือ
  • ๔. ให้คณะกรรมการ รฟท. พิจารณาเสนอกรอบอัตรากำลังที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแผนงานของ รฟท. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาเห็นชอบก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๑ ที่กำหนดให้ รฟท. งดรับพนักงานใหม่ ยกเว้นตำแหน่งที่เกี่ยวกับการเดินรถและตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิพิเศษ แต่ต้องไม่เกินร้อยละ ๕ ของจำนวนพนักงานที่เกษียณอายุ
  • ๕. ให้ รฟท. เร่งรัดเสนอแผนการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในกิจการของ รฟท. และบริษัทลูกภายใน ๑๘๐ วันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการ

...วันนี้วันที่25มิถุนายน 2552เวลาประมาณ16.30น.ได้รับโทรศัพย์จากสุภาพสตรีท่านหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใครแต่เสียงคุ้นๆหู"อัลโหล..คุณแจ้ใช่ไหม" เสียงหวานๆอย่างนี้ใช่เลย(นึกอยู่ในใจ)

...."สวัสดีครับผมแจ้ครับ"

...."คืออย่างนี้นะอยากให้หาโรงแรมให้หน่อย" แฮะๆ..เข้าทางเข้าทาง

...."ต้องการแบบไหนครับคืนละ2,000หรือ 3คืน200ครับหรือเอาแบบโปรโมชั่นนอนฟรี4คืนก็ได้นะครับ"เสียงทุ้มหล่อตอบไป

....."นี่ตาแจ้ ..ฉันป้าเครือจากสุรินทร์พูดนะ ป้ามาสัมมนาที่บางกอก ที่พักสันนิบาตฯเขาเต็มไม่รู้จะไปพักที่ไหน ..ก็นึกถึงเธอนี่แหละช่วยหาโรงแรมใกล้ๆสันนิบาตฯให้หน่อยป้าไม่รู้มีที่ไหนบ้าง"

......แป๊ว...(จบ)

พี่แจ้นี่เห็นเงียบๆไว้ใจไม่ได้เหมือนกันนะ ป้าเครือสบายดีไหมคิดถึงนะจ๊ะ

เรียน  อาจารย์และผนส 3 ทุกคน

       โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตร "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" รุ่นที่ 4 เปิดรับสมัคร ตั้งแต่ 1- 31 กรกฎาคม 2552 โดยโครงการจะเริ่มวันที่ 10 กันยายน - 25 ธันวาคม 2552 สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ(ชื่อใหม่) สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ไม่รู้วันเปิดโครงการจะเชิญรุ่นพี่ไปรับรุ่นไหม
       ถ้าหากเชิญ ไม่ทราบช่วงนั้นสันนิบาตรมีโครงการอะไรอบรมบ้าง ณรงค์ช่วยดูให้หน่อย  จะได้ไปอบรมด้วยและไปร่วมงานด้วย ไปแล้วให้คุ่มกับค่ารถหน่อย
      ช่วงนี้กำลังจะปิดบัญชี ไม่ค่อยมีเวลาว่างเข้ามาในบล๊อก แต่ก็คิดถึงทุกคน

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุกท่าน

         ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านที่ปรึกษาอาจารย์ยม และอาจารย์วิจิตรที่เข้าร่วมประชุมกับ ผนส. รุ่น 2  ผลการประชุมเป็นเช่นไรคุณวรวรรณจะรายงานครับ  เอารูปมาก่อนครับ

การเอื้ออาทร และการให้การศึกษาความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ต่อเยาว์ชน เราผู้นำสหกรณ์ควรทำอย่างต่อเนื่อง

เสียดายจังหลายคนที่ติดภาระกิจแต่การประชุมได้เนื้อหาและสาระครับ

เอาโชว์หน่อย เฮ้

ตกลงเราจะหาทุนเข้า ผนส. กันอย่างไรดี ไม่มีรายรับมีแต่รายจ่าย ?

วิธีเรียนภาษา ที่ดีที่สุด

วิธีเรียนรู้ภาษาต่างประเทศแบบเป็นเอง ให้เข้าหูเข้าตาตลอดเวลา

วิธีการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่ดีที่สุด ก็คือ ให้ได้ยินได้ฟังมันอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่รู้ความหมายของมันก็ตาม

ดร.ปอล ซุลเบอเกร์ นักปราชญ์ทางด้านภาษา มหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ให้เหตุผลว่า แม้จะฟังดูประหลาด เพราะเราไม่รู้เรื่องเลย พวกครูสอนภาษาหลายคนอาจยังฟังไม่ได้ เขาอธิบายเหตุผลว่า “ถ้าหากเราต้องการรู้ภาษาสเปน ก็ต้องหมั่นฟังสถานีวิทยุภาษาสเปนทางอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ มันจะช่วยให้เราพอจับได้และรู้ศัพท์ใหม่มากขึ้น

ผลการวิจัยของเขาได้ท้าทายทฤษฎีการเรียนรู้ภาษาที่ใช้กันอยู่ เขามีข้อสมมติฐานใหญ่ว่า “ปล่อยให้ฟังภาษาใหม่ให้เข้าหูไปเถอะ มันจะไปสร้างโครงสร้างในสมอง ที่สำหรับจะเรียนภาษาใหม่ขึ้นเอง” และเสริมว่า

“เนื้อเยื่อประสาทที่จำเป็นกับการเรียนและเข้าใจภาษาใหม่ จะพัฒนาตัวเองให้เปิดรับภาษา มันเป็นวิธีเดียวกับที่เด็กทารกเรียนรู้ ภาษาแรกของตน”

วิธีเมคอัพให้ดูสวย

สาวๆผนส3ที่ต้องการเมคอัพให้ดูสวย วันนี้มีวิธีเมคอัพมาฝากกัน....

1. หากต้องการใบหน้าที่ดูกระจ่างใส เลือกสีแป้งตลับสว่างกว่าสีของรองพื้นหนึ่งเบอร์

2. แต่ถ้าต้องการใบหน้าที่ดูสดใสเป็นธรรมชาติ เลือกสีของแป้งตลับให้ใกล้เคียงกับรองพื้น

3. ดัดขนตาก่อนปัดมาสคาร่า

4. ต้องการให้อายแชโดว์ติดทนนาน รองพื้นด้วยลิปมันก่อนทาอายแชโดว์

5. เพื่อป้องกันไม่ให้อายแชโดว์เลอะใต้ขอบตา ทาแป้งเด็กไว้ใต้ตาก่อนทาอายแชโดว์

6. ทาลิปสติกทุกครั้งอย่าทาจากตัวแท่ง ควรทาจากพู่กัน เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกลงไปสะสมในเนื้อลิป

7. เขียนขอบปากทุกครั้งก่อนทาลิปสติก

สาวอ๋อสาววีสาวปอนด์สาวเครือสาวจิ๋นฯลฯ ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้นะจ๊ะ

วิธีจัดการเมียอย่างถูกต้องและได้ใจ

..เรื่องนี้ป๋าจวบ อมแก้ว จากสงขลาเคยสอนไว้ วิธีถี..เมียอย่างอัจฉริยะ

1.ดื่มเหล้าให้เมาแล้วกลับดึก ๆ

2.แต่พอกลับมาบ้านต้องพยายามให้ยังพอมีสตินิดนึง

3.แกล้งทำเป็นเข้านอนทั้งชุดนั้นเลยโดยไม่ต้องอาบน้ำ

4.ช่วงนั้นเมียคงจะด่าเราอยู่...เราก็เลยถอดกางเกง

5.แกล้งทำเป็นถอดไม่ได้..เมียเราก็จะมาช่วยถอดเอง

6.และจังหวะที่เมียเข้ามาใกล้นั่นแหละ..บรรจงถีบ เมียให้หงายไปเลย

7.แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อย่ามายุ่งกับกู..กูรักเมียกูคนเดียว" แล้วก็หลับไปเลย

8.เช้ามาแค่นั้นแหละ..เมียก็จะรีบหากับข้าวอร่อยๆมาให้เราทานทันที

ขอมอบไว้เป็นวิทยาทานแด่ชาวผนส3ทุกท่านนำไปใช้ไม่สงวนลิขสิทธิ์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงๆ …..

เรื่องมีอยู่ว่า...

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ชาวบ้าน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ และหมู่บ้านใกล้เคียงนับพันคน แห่มาดูสิ่งประหลาดในรั้วของบ้านหลังหนึ่งที่มีน้ำผุดขึ้นจากดินไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมาให้กับประชาชนที่ยากจนได้ใช้น้ำดังกล่าวไปรักษาโรค ภัยไข้เจ็บ และเป็นสิริมงคล เจ้าของพื้นที่ที่น้ำผุดขึ้นมา กล่าวว่า เห็นสนามหน้าบ้านผิดสังเกตตั้งแต่ในช่วงเช้า เมื่อตรวจสอบพบว่ามีน้ำซึมออกมาจากดิน เมื่อลองเอานิ้วเขี่ยดู น้ำยิ่งออกมากขึ้น จึงได้บอกให้ชาวบ้านมาดู ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุ ตนได้ฝันเห็นยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝัน บอกว่าไม่สบายอยากได้ยาพาราเซตามอล เมื่อตนเดินไปหยิบยามาให้ ยายก็หายไปแล้ว ยายอาจมาเข้าฝันบอกเรื่องยารักษาโรคในขณะตอนเช้าน้ำก็ผุดขึ้นมา ทำให้นึกถึงฝันดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นยารักษาโรค จึงได้เอาธูปเทียนดอกไม้มาบูชา และขอน้ำไปเก็บไว้เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ ชาวบ้านบางคนกล่าวว่า เข้าคิวรอตักน้ำตั้งแต่ทราบข่าวในตอนเช้ากว่าจะได้ตักน้ำก็เกือบเที่ยง โดยนำธูปเทียน-เงินถวายจำนวน 20 บาท วางใส่ในถาดดอกไม้ คงเป็นบุญของชาวบ้านที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจชาวบ้านที่อยู่ในสภาวะข้าวยาก หมากแพง จึงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้รักษาโรคคนยากคนจน โดยชาวบ้านต่างรุมล้อมเพื่อขอตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปบ้าน ในขณะที่น้ำใต้ดินก็ผุดขึ้นมาตลอดเวลา ชาวบ้านที่นั่งรอน้ำผุดขึ้นมามีทั้งน้ำและฟองอากาศ เมื่อชาวบ้านร้องขอให้แสดงปาฏิหาริย์ให้ผุดฟองอากาศ บ่อน้ำขนาดเล็กก็สำแดงให้เห็นทันที

เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้...

เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ในขณะที่จะเข้าไปตักน้ำ ปรากฏว่าน้ำที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงหยุดทันทีและยุบตัวจนพื้นดินแห้ง ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที น้ำก็ผุดขึ้นมาอีก ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแพทย์ที่ไปเก็บตัวอย่างน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจ เมื่อไหลออกมาอีก นายสุรินทร์ นิภาโยธิน กำนันตำบลแม่จั๊วะ ได้นำลูกบ้านขุดหาที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว ก็พบท่อเก่าเป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุน ซึ่งมีน้ำไหลออกมา เมื่อขุดตรวจสอบไปอีก จึงพบว่าเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติดกันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4 เมตรเท่านั้น ซึ่งกำลังมีการสร้างส้วม และกำลังทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าไปในส้วม เมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่า หลายคนที่ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที

ทนงศักดิ์ (บิ๊กอู๊ต)

การประชุมใหญ่สามัญธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธกส. เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ ณ โรงแรมเอส ดี เอวินิว โดย ฯพณฯกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม ผลการดำเนินงาน ธกส.มีกำไรเท่าไหร่ก่อนการจัดสรรโบนัสประจำปี ๒๕๕๑ จำนวน ๘,๖๑๓,๒๐๐,๙๔๗.๕๑ บาท จ่ายโบนัสคณะกรรมการ ๒,๓๒๓,๕๑๔.๑๒ บาท และโบนัสพนักงาน ๒,๓๒๘,๒๘๕,๘๘๒.๗๙ บาท

ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ยื่นหนังสือต่อ ฯพณฯกรณ์ จาติกวณิช ให้ ธกส.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แก่สหกรณ์ภาคการเกษตร ลูกค้าสถาบันชั้นดี จากร้อยละ ๔.๗๕ เป็น ๓.๗๕ เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ชั้นดีจ่ายดอกเบี้ยเท่ากันกับลูกค้ารายย่อยชั้นดีของ ธกส.คือร้อยละ ๖.๗๕ และเสนอให้ธกส.ปรับปรุงเกณฑ์การประเมินปัจจัยความเสี่ยงเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อให้สหกรณ์การเกษตรเข้าถึงเกณฑ์ ให้ได้รับคะแนนในการจัดชั้นมากขึ้น

ในวันนั้น โชดดีมากที่มี ผนส.๓ ซึ่งเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นเข้าประชุม เช่น พี่ประยูร ป้าเครือ สุระชัย และผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สอบถามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ และรวมถึงเรื่องการทำกิจกรรมของ ผนส.๓ ที่จังหวัดอุทัยธานี ด้วย

คิดถึงพี่ๆ ผนส.3 ทุกคนนะคะ อยากทราบความคืบหน้าของโครงการคลีนิคสหกรณ์ที่อุทัยและโครงการร่วมทอดผ้าป่าฯของเสี่ยข้าวโพดหวานอ่ะคะ..

วันนี้เข้าblogไวหน่อย ฝนตกหนักมากตั้งแต่5โมงเย็นมองไปทางไหนเห็นแต่สายฝนและสีขาวหม่นไปทั่วท้องฟ้า.. คิดถึงพวกเราชาวผนส3ถ้าในช่วงเวลาคงถึงเวลาเลิกเรียนพอดี ได้เวลาในการถกเถียงและวางแผนการเรียน มองออกไปทางหน้าต่างเห็นต้นไม้ใหญ่โอนเอนไปมาหยอกล้อกับสายลมและพายุฝนที่กระหนำมาอย่างไม่ขาดสาย .. ใจหนึ่งแว๊บเข้าไปในจิตใต้สำนึก เป็นห่วงพวกเราที่จอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าพระรูปพระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจำรัส(นมส)กลัวว่าพายุร้ายจะพัดกระหนำกิ่งไม้จนทนไม่ไหวหักลงมาโดนรถพวกเราเสียหาย.. หูอื้ออึงไปด้วยเสียงลมพายุฝนก่อนเข้าพรรษา แว่วเสียงหมอทำขวัญนาคดังแผ่วมาไกลๆ..ผู้คนเดินผ่านไปมาแต่งกายสวยงามนักคงไปบ้านงานกัน ..ลมหวลกลับมาอีกครั้งเขย่าร่างให้เราสะท้านไปทั่วสรรพกาย..แข็งใจดันประตูครัวสหกรณ์ไปอย่างสุดแรง..."พี่มาผลักฉันทำไมนี่ ตื่นมาก็ดีแล้วไปซื้อเกี๊ยวปากซอยให้ลูกหน่อย แล้วอย่าเรื่อยเฉื่อยนะ"...

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ

ขอโทษที่ไม่ได้เข้ามาหาเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเสียนานมาก ยังคิดถึงเสมอแต่มีกิจการบางเรื่องยังไม่ลงตัว ตอนนี้ดีขึ้นแล้วเลยย่องเข้ามาหาเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผนส.3 เสียที

คุณแจ้ครับไปอุทัยเป็นไงบ้าง สมควรหรือไม่ นัดประชุมสักครั้งสรุปกันดีไหม จะได้เลี้ยงพี่ราตรีด้วย ติดไว้นานไม่ดี

คิดถึงเท่านาน จนหมดลมหายใจ

บัญชา

สวัสดีครับเพื่อน ผนส. ทุกท่าน

       ผมขอรายงานการประชุมร่วม  ผนส. 2  คร่าว ๆ ครับ

  • ประธานแจ้งเพื่อทราบ  สรุปผลการดำเนินงานการทำกิจกรรมครั้งที่ 1
  • รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 4/2552
  • เรื่องสืบเนื่อง กิจกรรมต่อเนื่อง / รายงานฐานะการเงิน รายรับ รายจ่าย ยอดเงินคงเหลือ
  • การทำกิจกรรม ผนส. 2 ครั้งที่ 2 /  การทำกิจกรรมร่วม ผนส.1 ผนส.2 และ ผนส.3   
  • การประชุมร่วม ผนส.1 ผนส.2 / ประธานรุ่น 1 และรุ่น 2 ได้ข้อตกลงร่วมจะให้มีผู้แทนรุ่นละ 3 ท่านเพื่อประสานงานการทำกิจกรรมร่วม และจะแจ้งให้ประธานรุ่น 3 ทราบต่อไป
  • ประธานรุ่น 1 เสนอให้มีการเปิดการสัมนา รุ่นที่ 4 ที่ จ.กาญจนบุรี  / สันนิบาติจะทำหนังสือเชิญ ผนส. ทุกรุ่นเข้าร่วมงาน

จึงเรียนมาเพื่อทราบในเบื้องต้น

ภาวะผู้นำกับการปลดคน.

“ผมเหนื่อยล้าเหลือเกิน งานมากมายมหาศาล ไหนจะปัญหาเรื่องงาน ไหนจะปัญหาเรื่องคนอีก ผมเครียดมากเลย ทำอย่างไรดีครับ” ทนงศักดิ์บ่นให้ฟัง ...

“คุณทนงศักดิ์ ความเครียดเป็นกลไกเพื่อการอยู่รอดของมนุษย์ เรามีความวิตกกังวลและเกิดความเครียดขึ้น เมื่อสถานการณ์ไม่ปกติ มันเป็นสัญญาณเตือนเราล่วงหน้าว่า อาจจะมีอันตรายและเราจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง เมื่อเราเครียดร่างกายจะอยู่ในสภาวะพร้อมที่จะ ‘สู้หรือหนี’ กระบวนการนี้มันอยู่กับเรามาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์สมัยมนุษย์ถ้ำเลย และเจ้าความเครียดนี่แหละที่มันทำให้มนุษย์ต้องหาทางแก้ปัญหาเมื่อเผชิญกับความท้าทาย จนกระทั่งมนุษย์วิวัฒนาการมาจนถึงทุกวันนี้

"คุณทนงศักดิ์ ผมว่าคุณน่าจะใช้เจ้าความเครียดนี้เป็นตัวบอกเหตุว่าคุณต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เมื่อคุณบอกว่าคุณมีความเครียดในที่ทำงานนั้น มันกำลังส่งสัญญาณบอกว่าคุณอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างไปจากเดิม คุณจะแก้ไขอย่างไรให้สถานการณ์ในงานของคุณนั้นมันดีขึ้น” กำนันบ้านนอกแนะนำ

“กำนันผมคิดว่าเรื่องปริมาณงานที่มันมากขึ้นนั้นน่าจะมาจากสองสาเหตุหลักๆ คือ

- กระบวนการทำงานที่เยิ่นเย้อ

- คนบางส่วนที่ด้อยประสิทธิภาพ

ผมคิดว่าผมสามารถออกแบบกระบวนการทำงานให้ดีกว่าเดิมได้ และผมอาจจะต้องฝึกคนของผมให้เก่งขึ้น”

“มาถูกทางแล้วครับ” กำนันตอบอย่างผู้รู้

“แต่ว่าคนของผมสองคนมีคุณสมบัติต่ำกว่าที่ต้องการมาก ผมรู้ตั้งแต่สมัยสภาวะเศรษฐกิจดีๆ แล้ว ในตอนนั้นก็ยังพอที่จะอุ้มๆ กันไปได้อยู่ ผมจะทำอย่างไรกับพวกเขาดีครับ”

“ทนงศักดิ์คุณมีทางเลือกอะไรบ้างล่ะ”

“กำนันทำให้ผมเครียดอีกแล้ว” ทนงศักดิ์อุทานแล้วพูดต่อ “มีสองทางเลือกครับ"

1.อุ้มกันต่อไป เพื่อทำให้ทุกคนยังมีงานทำกันต่อ

2.ให้สองคนนี้พ้นสภาพการจ้างไป

“คุณทนงศักดิ์ แต่ละทางเลือกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ลองวิเคราะห์ดูหน่อยซิ”

“หากจ้างต่อ ข้อดีคือผมไม่ต้องบอกข่าวร้ายตอนนี้ ทีมไม่ตกใจ ข้อเสียคืออนาคตอันใกล้ก็จะเดือดร้อนทุกคน เพราะผลงานทีมจะไม่ได้ตามแผน เราก็จะเครียดต่อเนื่อง และหลายคนคงเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาลไป ที่น่ากลัวคือคนเก่งๆ บางคนอาจจะลาออกเพราะเขาคิดว่าไม่ยุติธรรมที่เขาต้องมาแบกภาระอุ้มคนที่ทำงานด้อยประสิทธิภาพ

หากจะให้เขาออก ผมต้องบอกข่าวร้ายกับเขาซึ่งมันยากมากๆ แต่จะดีกับทุกฝ่ายในระยะยาว ผมสงสารเขาสองคนนะ เหมือนทำร้ายเขา”

“นี่เรียกว่าเป็นการทำร้ายเขาด้วยความปรารถนาดี การที่เขาทำงานได้ไม่ดีนั้นเขารู้อยู่แก่ใจ ในใจนั้นเขาจึงทุกข์ระทม และเขาอาจจะดูถูกตัวเองและเคารพตัวเองน้อยลงไปเรื่อยๆ การที่เราให้เขาออกจากงานที่เขาทำได้ไม่ดีนั้น เป็นการให้โอกาสเขาไปเริ่มทำในสิ่งที่เหมาะกับเขามากที่สุด”

“ผมทำไม่ลง ดูเหมือนผมทำร้ายเขา”

“แต่การปล่อยให้เขาเป็นภาระกับทีมคุณกำลังทำร้ายทุกๆ คนอยู่นะ การให้คนออกจากงานเป็นเรื่องยากของทุกคน ไม่มีใครสนุกกับมันหรอก แต่มันเป็นความรับผิดชอบและหน้าที่ของผู้บริหาร นอกจากนี้คุณก็บอกเองว่าปัญหานี้คุณรู้ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว คุณก็ต้องรับผิดชอบแก้ไขให้เสร็จ”

“ผมลาออกเองดีกว่า” ทนงศักดิ์สรุป

“ทนงศักดิ์ถ้าคุณลาออก คนที่มาแทนคุณก็ต้องทำแบบเดียวกัน ทำไมไม่ทำเองแต่ตอนนี้เลย เป็นความรับผิดชอบและความกล้าหาญของผู้นำที่ต้องทำทั้งงานง่ายและงานยากครับ ”

เพื่อนๆรุ่น3โดยเฉพาะคูณแจ้และน้องหลินปิงต้องขออภัยทีตอบช้าเพราะมัวแต่ยุ่งๆเร่งงานให้ได้ตามเป้าหมายดอกเบี้ยค้างต้องได้ 40%สหกรณ์สี้นสุดปีการเงิน 30 มิย. ขอบคูณคุณแจ้ที่ช่วยเหลือบอกที่พักในกรุงเทพ ฃอบคุณผู้จัดการพิมายที่ฝากเงินไว้กับสหกรณในวันสิ้นปี คิดถึงเพื่อนทุกๆคนค่ะ

"วันนี้หวยออกมีใครโชคดีบ้างหลวงพ่อปากแดงยังแรงฤทธิ์เหมือนเดิมหรือไม่ แต่ที่แน่ๆblogรุ่น3ยังแรงไม่หยุดทะลุทะลวงใกล้ทะลุ7,000จุดแล้ว ถ้าเป็นตลาดหุ้นถือว่ายังร้อนแรงน่าจับตามอง ดั่งคำที่อาจารย์ชื่นชมว่าใหม่สดทันสมัยเสมอ ก็ขอให้เข้ามาpostกันเยอะๆ ตอนนี้ท่านประธานบัญชาก็กลับเข้าสู่เกมส์แล้วหลังจากหายจากหน้าจอไปนาน ก็คงกลับมาทำblogผนส.3ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น กำนันบ้านนอกก็ยังคงวนเวียนตรวจพื้นที่ท้องไร่ท้องนาแปลงเล็กแปลงใหญ่ตรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วน ช่วยรายงานผลให้เพื่อนๆทราบด้วย..รักและ คิดถึงทุกๆคน..แจ้

สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคน ช่วงนี้ฝนตกบ่อยรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ แอบน้อยใจกำนัน..นัดเจอแต่ตี๋น้อยคนเดียว ไม่ยักชวนเรามั่ง หรือว่าห้ามผู้หญิงไปเหมือนทุกครั้งก็ไม่รู้ 555

ทนงศักดิ์ (บิ๊กอู๊ต)

ภาวะผู้นำกับการปลดคน

เหมือนดั่งตาเห็น ให้ผมเป็นตัวละครเรื่องนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมพึ่งลงนามโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าหน้าที่สหกรณ์ไปหมาด ๆ เพราะเขาไม่พัฒนา ปรับปรุงตัวเอง และเป็นภาระกับทีมงาน ส่งผลต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ ซึ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายนั้นได้ยื่นหนังสือขอลาออกแล้ว ผมไม่ได้ปลด..นะ แต่...ก็เหมือนปลด เพราะอาศัยเทคนิคภาวะผู้นำ ขอบคุณผู้เขียนคอลัมม์ ขอบคุณที่ให้ผมเป็นตัวละครในเรื่องนี้และอีกหลายๆเรื่อง แล้วเมื่อไหร่จะประกาศมอบรางวัลดารานำฝ่ายเชย..รางวัล"หัวกุ้งมังกรฝังไข่มุก" ของแท้จากจีน

เร่งมือหน่อย คุณภูมินทร์ ,คุณณรงค์ แผ่นซีดี วีซีดี ทำเนีบเนียบรุ่น ผนส.๓ ผ่านมาหลายเดือน ความจำผมไม่ค่อยดี เริ่มเลอะเลือน จนจะจำหน้าหน้าเพื่อน ๆ ไม่ได้แล้ว ค่าใช้จ่าย แจ้งไปที่เจ๊..จิ๋น

เรื่อง แผ่น CD MV และการดูงานทั้งในและต่างประเทศ ตอนนี้ ใกล้เสร็จแล้วครับ ถ้าเรียบร้อยแล้วจะรีบจีดส่งให้ "ช่วงนี้ยุ่งงานวันสหกรณ์สากลที่จะมีแขกต่างประเทศ 30 กว่าประเทศมาร่วมงาน วันที่ 4 ก.ค. 52 ที่ สันนิบาตสหกรณ์ฯ ผู้นำท่านใดว่างก็ขอเชิญมาร่วมงานได้นะครับ"

..ผมคิดไม่ผิดที่กำหนดคุณเป็นตัวละครในบทนี้(ความจริงคุณเล่นได้ทุกบทบาท) ตอนกำหนดบทก็เห็นภาพบิ๊กอู๊ด ลอยเด่นขึ้นมาจริงๆไม่คาดคิดเหมือนกันว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นทันตาเห็น ถือได้ว่าเป็นบททดสอบทฤษฏีภาวะผู้นำกับการปลดคน แต่ตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ดีเท่าบิ๊กอู๊ดเพราะได้สัมผัสและได้ปฏิบัติจริง ก็อยากให้บิ๊กอู๊ดวิเคราะห์ผลเทียบเคียงกับทฤษฏีให้ลึกกว่านี้หน่อยได้ไหมเพราะน่าสนใจดี..จะรออ่าน

...บิ๊กแอ๊ด

ปล.รางวัลหัวกุ้งมังกรฝังไข่มุกจากจีนกำลังจัดเตรียมอยู่ รอหัวกุ้งอย่างเดียว มุกเตรียมไว้ให้แล้ว(หรือจะเอามุกไปผัง...ก่อนจะจัดส่งไปให้)

วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น

"เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า "สัตตาหะ" หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด

ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเสียนาน เพราะ ครม.มีมติให้รีบดำเนินการในเรื่องอบรมให้เสร็จภายในสิ้นเดือนมิถุนายน นี้ จึงมีทั้งเราอบรมเขา แล้ว เขาอบรมเรา เดินสายตลอดเพิ่งจะได้พักให้หายเหนื่อยบ้าง พอดีช่วงนี้หยุดยาวจึงได้เข้ามาเยี่ยมเยียน ได้ข่าวว่า กำนัน กับ เสี่ยข้าวโพด ได้ไปที่อุทัยธานี แล้ว ผลของการไปสำรวจเบื้องต้นเป็นไงบ้าง ส่งข่าวด้วย และกรุณารีบแจ้ง ประธานบัญชา จะได้รีบดำเนินการให้เสร็จก่อนการเปิดอบรม ผนส. ๔ รุ่นเราจะได้มีผลงานฝากไว้บ้าง

กรมตรวจฯ ได้เปลี่ยนอธิบดีใหม่คือ นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล ซึ่งท่านเคยเป็นอธิบดีกรมตรวจเมื่อ ปี 48 มาครั้งหนึ่ง ท่านเป็นคน Active งานช่วงนี้จึงต้องเร่งตรวจบัญชีให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคม รวมท้้งงานโครงการอื่น ๆ ด้วย ช่วงนี้เจ็จิ๋น เลยค่อนข้างปากเบียกปากแฉะเร่งงานลูกน้องอยู่ อ่านเรื่องที่บิ๊กอู๊ด เขียนถึงลูกน้องแล้ว เวลานี้ก็ประสพปัญหาเช่นเดียวกันครั้นจะเลิกจ้างก็เห็นใจคนตกงาน ครั้นจ้างต่อก็เป็นตัวถ่วงการทำงาน ภายในกันยายนนี้ก็อาจต้องใช้ภาวะความเป็นผู้นำในการตัดสินใจ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

คิดถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคน สาว ๆ หายไปไหนกันหมด post เข้ามาบ้างซิค่ะ พี่น้อยหายไปไหนส่งข่าวด้วย

ควันธูปมรณะ

พบควันธูปตัวก่อสารเกิดมะเร็ง!! นักวิจัยค้นพบธูปที่จุด 1 ดอก มีสารก่อมะเร็งไม่ต่างจากบุหรี่ 1 มวน หากจุดแค่ 3 ดอก ในบ้านก่อมลพิษเท่าสี่แยกไฟแดงที่มีการจราจรคับคั่ง ไม่เว้นแม้แต่ธูปแบบไร้ควันและอโรมา เผยศาลเจ้าย่านเยาวราชเป็นแหล่งศูนย์รวมสารก่อมะเร็งที่ต้องเฝ้าระวัง

ควันธูปปะปนไปด้วยสารต่างๆ มากมาย ทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ มีเทน รวมถึงสารชื่อแปลกๆ อีก 3-4 ชนิด ซึ่งก็คงไม่ได้สลักสำคัญอะไร หากมันไม่ได้ถูกให้คำจำกัดความจากแพทย์ว่าเป็น สารก่อมะเร็ง ตัวฉกาจ

ควันธูปสีขาวลอยคละคลุ้งอยู่เหนือแท่นบูชา ชวนให้นึกถึงบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์ การอธิษฐาน การเชื่อมโยงโลกแห่งความจริงกับโลกทางจิตวิญญาณ แต่เคยนึกสงสัยหรือไม่ว่า ควันสีขาวที่ดูบริสุทธิ์ นุ่มนวล และมีมนต์ขลังนั้น มีอะไรปะปนอยู่บ้าง

ข้อสังเกตง่ายๆ ที่หลายคนรู้สึกได้ด้วยตัวเอง เช่น แสบตา ไอ หรือจาม คือปัจจัยแรกๆ ที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงสารที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับการเผาไหม้ ผลการวิจัยทั้งในและต่างประเทศในรอบหลายปีที่ผ่านมาต่างยืนยันว่า ควันธูปปะปนไปด้วยสารต่างๆ มากมาย ทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ มีเทน รวมถึงสารชื่อแปลกๆ อีก 3-4 ชนิด เช่น ฟอร์มาดีไฮด์ เบนซีน บิวทาไดอีน ซึ่งก็คงไม่ได้สลักสำคัญอะไร หากมันไม่ได้ถูกให้คำจำกัดความจากแพทย์ว่าเป็น "สารก่อมะเร็ง" ตัวฉกาจ

.... ทฤษฏีสองสูง ของ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)

สูงลำดับแรก "ราคาสินค้าเกษตรสูง"

สูงที่สอง คือ "รายได้หรือค่าจ้างของประชาชนจะต้องสูง" ต้องสัมพันธ์กับราคาสินค้าเกษตรและอาหารการกินที่สูงขึ้น

เจ้าสัวมุ่งเน้นรายได้ประชาชน 2 กลุ่มใหญ่ คือ

1) เกษตรกรในชนบท ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ จะต้องทำให้มีรายได้สูงขึ้น

2) รายได้ ข้าราชการ และผู้ใช้แรงงานในเมือง ก็จะต้องสูงขึ้นเช่นกัน

...เนื่องจากไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมมีการเพาะปลูกข้าว ยางพาราเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ผลผลิตทางการเกษตรจึงเปรียบเสมือนเป็น "น้ำมันบนดิน" ที่ใช้ไม่มีวันหมด

ภาครัฐจึงควรตระหนักถึงคุณค่าของ "น้ำมันบนดิน" และพยายามพัฒนาการเกษตรเพื่อยกระดับราคาผลิตผลให้สูงขึ้นจนสู้กับราคาน้ำมันได้ หมายถึงมุ่งขจัดความยากจนของคนให้สิ้นก่อนคิดจะขยายเรื่องการศึกษาเสียอีก

เขายกตัวอย่าง "อินเดีย" ที่แม้ว่าจะมีคนที่เรียนจบระดับปริญญาตรีเป็นร้อยล้านคนแต่กลับไม่สามารถพัฒนาประเทศชาติ ทำให้คนอินเดียอยู่ดีกินดีขึ้นมาได้เลย

สำหรับเกษตรกรไทยนั้น เจ้าสัวธนินท์มองมีความสามารถแข่งได้ทั่วโลก เพียงแต่ยังขาดอยู่ 3 เรื่อง คือ ขาดความรู้และเทคโนโลยี ขาดทุนทรัพย์ และขาดตลาดรองรับ

ดังนั้นหากมีการสนับสนุนความช่วยเหลือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ในลักษณะเข้ามาแบกรับภาระความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าว เกษตรกรไทยก็จะสามารถยืนหยัดพึ่งพาตัวเองได้อย่างเข้มแข็ง

"พอคนมีเงินก็จะสามารถส่งเสียบุตรหลานให้ได้รับการศึกษาที่ดีได้" เจ้าสัวกล่าว

อย่างไรก็ดีในช่วงวิกฤติที่เปรียบได้เหมือนกับวันที่ท้องฟ้ามืดมิด หากแต่ธุรกิจในเครือซี.พี. กลับจะถือเอาวิกฤติเป็นโอกาสเป็นฝ่ายรุก และไม่คิดตั้งรับ เป้าหมายขยายเครื่องหมายการค้า CP ไปยังแผ่นดินทุกหัวระแหงบนโลกใบนี้อย่างไม่ลดละ

เจ้าสัวบอกว่ายังมีตลาดใหม่อีกมาก ยกตัวอย่างโอกาสที่ยังรอคอยอยู่ เช่น กลุ่มประเทศแอฟริกา ปากีสถาน อินเดีย จีน ฯลฯ

แต่อย่าลืมทำธุรกิจบนหลัก "3 ประโยชน์" เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน และเพื่อองค์กร หรือเพื่อสหกรณ์ของพวกเรา

...วันนี้ดูข่าวจัดงานแห่เทียนพรรษาตอนแรกนึกว่าที่อุบลราชธานีดูไปดูมากลายเป็นที่สุพรรณบุรีของท่านกำนันบ้านนอก ก็นึกขึ้นได้เห็นกำนันเคยบอกว่าจะขึ้นไปดูรถแห่เทียนที่อุบลและถือโอกาสทัวร์อีสานบ้านเฮาซะเลย ก็นึกชื่นชม แนวคิดของท่านบรรหารที่ดึงเอาประเพณีนี้เข้ามาสุพรรณบุรีอย่างเนียนๆ อย่างนี้เค้าเรียกว่าต่อยอดทางธุรกิจวัฒนธรรมของไทยได้อย่างสอดคล้องพร้อมนำผลประโยชน์หลายๆด้านเข้าสู่เมืองสุพรรณบุรี ถือได้ว่าทำได้อย่างชาญฉลาดและต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มเสริมแต่งหลายๆอย่างของเมืองสุพรรณให้ได้รับอานิสงฆ์ไปด้วย การมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และกล้าทำก็ถือได้ว่าเป็นบุญของกำนันและลูกบ้านไปด้วย

....เหมือนการทำธุรกิจการค้าทุกอย่างก็ต้องใช้จังหวะและโอกาสดั่งคำพูดของอาจารย์เคยพูดไว้ว่าการค้าไร้พรหมแดนหรือการค้าเสรีเสมือน "ท้องทะเลแห่งการค้า" ในแง่การตลาดนั้นล้ำลึก มีฝูงปลามากมายจับกินได้อย่างไม่มีวันหมด เพียงแต่ต้องรู้จักศักยภาพของตนเองและตลาดที่ต้องการไปหากินหรือเปรียบเทียบได้ว่าใครมีเหยื่อดีเครื่องมือจับดีก็กินดีอยู่ดีไม่มีวันหมด จึงต้องทำธุรกิจอย่าง"มีสติ"จะได้ไม่หลงไปติดบ่วงเกมการตลาดและการแข่งขัน

...เมื่อวานนี้(7กค.52 )ท่านอดิศักดิ์เสี่ยข้าวโพดหวานโทรมาหาพร้อมprojectมากมายจึงอยากนัดเพื่อนๆชาวผนส.3,มาเสวนากันหน่อยเป็นไงเนื่องจากเสี่ยอดิศักดิ์จะเข้ากรุงวันที่14 กค.นี้ ก็ขอนัดเพื่อนที่พอมีเวลาว่างมาdinner talk กันหน่อย ณ.ห้องอาหารครัวสหกรณ์ เวลา 18.00น.มาก่อนก็ได้นะจะไปรอตั้งแต่เที่ยงวันเลยใครมาได้บ้างแจ้งทางblogด้วยแล้วเจอกัน...ฝันดีทุกคน

พรานป่าคนหนึ่งมีอาชีพทางล่าสัตว์ ฆ่าสัตว์มาขายในเมือง

เขาได้เลี้ยงหมาล่าเนื้อไว้หลายตัว เวลาเขาเข้าป่า พวกหมาก็ติดตาม

ไปเป็นฝูงทีเดียว เขาจับสัตว์มาขายเป็นเวลานานหลายปีแล้ว

อยู่มาวันหนึ่ง...เขาออกจากบ้านแต่เช้า ได้พบพระรูปหนึ่ง...กำลังเดินทาง

เข้าไปในหมู่บ้านเพื่อบิณฑบาตร..พรานป่ามีอาชีพทางทำลายสัตว์

เบียดเบียนสัตว์เป็นปกติ...ก็ไม่ชอบนักบวชผู้งดเว้นจากการเช่นนี้

เขารู้สึกไม่พอใจ นึกในใจว่าวันนี้ซวยแท้ๆมาพบพระได้...

เขาเข้าป่าหาสัตว์วันนั้น ไม่พบสัตว์แม้แต่ตัวเดียว ตอนเย็นเขาเดินกลับบ้าน

ด้วยความหัวเสีย...นึกโทษพระรูปนั้นมาตลอดทาง....

ต่อมาอีก 2 วัน...พรานผู้นั้นออกจากบ้านแต่เช้า ก็ได้พบพระอีก

ความขุ่นใจในวันก่อนยังสุมอยู่ในใจของเขา พอเห็นพระ..ก็นึกว่าเจ้านี่

มาอีกแล้ว ไล่หมาให้กัดเสียเถิด...แล้วเขาก็ยุไล่หมาให้ไปกัดพระ

พระท่านก็กลัวเจ็บ กลัวตาย จึงได้วิ่งหนีขึ้นต้นไม้

พอพ้นจากเขี้ยวของหมาไล่เนื้อ พรานเห็นเช่นนั้นก็โกรธ จึงเอาหอกอันคม

สำหรับแทงสัตว์..แทงเท้าของพระ พระท่านถูกแทงก็หดเท้าหนี

เขาแทงอีกเท้าหนึ่ง ผลัดเปลี่ยนแทงอยู่อย่างนี้ จนเลือดไหลอาบต้นไม้

พระท่านยังสงสาร จึงกล่าวว่า..."ท่านอย่าฆ่าตนเองเสียเลย ท่านอย่าทำลาย

ตนเองเสียเลย ท่านจงรักตัวของท่านเถิด"...

เป็นการเตือนพรานป่าให้นึกถึงตน แล้วจักได้นึกถึงคนอื่นได้...

แต่...พรานป่านึกไม่ออก ยังคงรังแกพระเรื่อยไป จนกระทั่งจีวรหลุด

จากตัวท่านลงมาคลุมตัวพรานเอง เจ้าหมาเขี้ยวยาวทั้งหลาย

คอยกัดอยู่แล้ว พอเห็นจีวรหล่นลงมา ก็เข้าใจว่าพระตกลงมา

จึงรุมเข้าใส่นายพราน ช่วยกันกัดพรานอันเป็นนายของตน จนถึงแก่ความตาย...

เรื่องนี้เป็นคติสอนใจว่า"การเบียดเบียนเขา คือการเบียดเบียนตนเอง"

เป็นกิจที่ไม่ควรทำเป็นอันขาด

ท่านพระอาจารย์ปัญญานันทภิกขุ

วันนี้วันพระใหญ่ขอให้เพื่อนๆผนส3.ทุกท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญยึดมั่นในศีลในธรรม(งดเหล้าเข้าพรรษาด้วยนะจ๊ะ)

สวัสดี  ผนส 3 ทุกคน

        ได้หายไปหลายวัน ไม่ได้ไปไหนเข้ามาดูอยู่ตลอด แต่ไม่ได้เข้ามาทักทาย พอดีช่วงนี้ปิดบัญชีงานมากหน่อย ไม่ค่อยมีเวลา

       อยากไปร่วมงานที่พี่แจ้นัดด้วยคน  แต่ช่วงปิดบัญชีต้องขอตัว อีกอย่างช่วงนี้อยู่ในช่วงรักษาสุขภาพ หลังจากอบรมมีงานมากและงานเลี้ยงบ่อย และได้ไปตรวจสุขภาพหมอบอกให้งดหลายอย่าง อาหารการกิน เครื่องดื่ม(เหล้า)  ช่วงนี้ขอเวลารักษาตัวก่อน ร่างกายปกติวันไหนคงจะกลับมาทานอาหารต่างๆได้เหมือนเดิม 

สาวน้อย : พี่ๆ กำนันกลับบ้านเถอะดึกมากแล้ว

กำนัน : เธอกลับก่อนได้ไหมนานๆจะคุยกับเพื่อนทั้งที เอารถพี่ไป

สาวน้อย : ซอยบ้านเรามันเปลี่ยวอันตรายน่ะพี่กำนัน

กำนัน : เข้าๆออกๆเป็นประจำ ไม่มีอะไรหรอกน่า กลัวอะไรนักหนา(ชักโมโห)

สาวน้อย: ชั้นกลัวถูกข่มขืนนะพี่

กำนัน : ไม่มีอะไรหรอกน่า ..เดี๊ยวนี้โจรบ้านเรามันฉลาด... มันรู้จักเลือก

จำนำควบประกันราคาข้าว

...วันนี้อ่านข่าวโครงการแทรกแซงผลผลิตข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลทีจะมาถึงนี้ รัฐบาลเตรียมนำระบบการประกันราคาราคาสินค้าเกษตรเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยเหลือราคาข้าวควบคู่กับระบบการรับจำนำ เดิมรัฐบาลจะโละโครงการจำนำทั้งหมดเพราะไม่ต้องการแบกรับค่าใช้จ่ายบริหารจัดการสต๊อกปีละหมื่นกว่าล้านบาท โดยในปีนี้จะสร้างแรงจูงใจกำหนดราคาข้าวขั้นต่ำที่รัฐบาลจะชดเชยให้เกษตรกร ในระบบประกันสูงกว่าระบบจำนำ วิธีการประกันราคารัฐจะกำหนดต้นทุนที่ชาวนาลงทุนปลูก+กำไรที่ชาวนาพออยู่ได้เป็นราคาประกันฐาน เมื่อผลผลิตออกมานำไปขายในตลาดหากขายได้ต่ำกว่าราคาเกณฑ์ขั้นต่ำกำหนดให้มารับเงินชดเชยจากรัฐตามราคาประกัน ดูในภาพรวมการใช้เงินทุนหมุนเวียน วิธีประกันราคาน่าจะใช้เงินน้อยกว่าโครงการรับจำนำที่รัฐบาลต้องจ่ายค่าข้าว ค่าจัดการสต๊อก ขณะที่การประกันราคาไม่ต้องใช้เงินส่วนนี้เมื่อใช้ทุนหมุนเวียนน้อยกว่าโอกาสรั่วไหลก็น่าจะน้อยกว่า

...ท่านทนงศักดิ์ท่านอภิสิทธิ์ท่านอดิศักดิ์พี่ช่วยป้าเครือเจ๊ต้อยว่าไงเห็นด้วยหรือไม่

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

ถ้าเมื่อใดรัฐบาลกำหนดเป็นนโยบาย ...อย่าลืมคำว่า "ผลประโยชน์ทับซ้อน" หรือ"วาระซ่อนเร้น"

สังคมไทยรู้ความจริงมานานแล้วว่า... การรับจำนำข้าวโดยรัฐบาลทุกยุคไม่ทำให้ชาวนาได้ประโยชน์ แต่ผู้ได้ประโยชน์กลับกลายเป็นพ่อค้าคนกลาง ผู้ทรงอิทธิพลซึ่งมีความสนิทแนบแน่นกับผู้กุมอำนาจรัฐ เจ้าของโรงสีบางราย นักการเมืองบางกลุ่มและชาวนาผู้มีฐานะดีซึ่งครอบครองที่ดินจำนวนมหาศาล

ล่าสุด..เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2552 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ รายงานผลการศึกษาเรื่องชาวนาที่มีฐานะยากจนไม่ได้รับประโยชน์จากการรับจำนำข้าว แม้ความจริงเรื่องนี้จะเป็นที่รับรู้มาช้านาน แต่..ก็ยังพบว่ารัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมาก็มิได้นำพาและมิได้คิดจะหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม ตรงกันข้าม... นักการเมืองที่ไม่จริงใจกับประชาชนกลับเล่นกลการเมืองให้หนักเข้าไปอีก โดยใช้ข้าวเป็นสินค้าการเมือง ผ่านโครงการรับจำนำข้าวซึ่งกำหนดราคารับจำนำไว้สูงกว่าราคาซื้อขายในตลาดจริง การกระทำเช่นนี้คือ...การจงใจบิดเบือนกลไกตลาด ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้รัฐบาลต้องประสบปัญหาขาดทุนมหาศาลหลายแสนล้านบาท ดังปรากฏในปัจจุบัน รัฐบาลต้องใช้จ่ายเฉพาะงบบริหารจัดการสต๊อกปีละ กว่าสองหมื่นล้านบาท

ดูเสมือนว่า...รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ในยุคปัจจุบัน อาจเข้าใจปัญหานี้มากกว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านๆ มา จึงพยายามเปลี่ยนนโยบายรับจำนำข้าวไปเป็นการประกันราคาข้าว เพราะเชื่อตามหลักทฤษฎีว่า "น่าจะช่วยเหลือชาวนาได้อย่างทั่วถึงมากกว่า" แต่ก็ไม่สามารถจะแน่ใจได้ว่าสุดท้ายแล้ว จะเลิกล้มโครงการรับจำนำข้าวได้หรือไม่ เพราะเหตุผลที่ว่า...รัฐบาลผสม พรรค"ภูมิใจไทยธิปัตย์"

ผนส.๓ หากพวกเราวิเคราะห์..ศึกษาผลวิจัยของ" ทีดีอาร์ไอ" ในเรื่องนี้แล้ว จะพบว่าโครงการรับจำนำข้าวให้ผลประโยชน์กับชาวนาเพียง 40.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ผู้ได้ประโยชน์คือชาวนาในเขตชลประทานภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานะดี เป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุด 20 เปอร์เซ็นต์ แรกของครัวเรือนไทย แต่...สำหรับชาวนาที่ยากจนที่สุด ซึ่งอยู่ใน "ภาคอีสาน" ได้ประโยชน์จากโครงการนี้แค่เพียง 4.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่ชาวนากลุ่มนี้ผลิตข้าวเพื่อบริโภคเองเท่านั้น ไม่มีข้าวเหลือเพื่อส่งขายแต่อย่างใด

ผลการวิจัยระบุว่า... ผลประโยชน์ที่เหลือจะตกเป็นของโรงสี 13.5 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของโกดังเก็บข้าว 4.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ส่งออกได้ประโยชน์มากถึง 23.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราชการได้ประโยชน์ 14.5 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญ"เงินรั่วไหลสูญเปล่า" จำนวน 3.6 เปอร์เซ็นต์

แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือ...รัฐเสียค่าใช้จ่ายในโครงการรับจำนำมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท แต่มีรายได้แค่เพียง 3 หมื่น 2 พันล้านบาทเท่านั้น ขาดทุน 1 หมื่น 8 พันล้านบาท สาเหตุเพราะ..ประกันราคารับซื้อสูงกว่าราคาตลาด แต่เมื่อนำข้าวไปขาย กลับขายได้ราคาต่ำกว่าตลาด ตัวอย่างเช่น รับจำนำตันละ 9,400 บาท แต่ขายได้ตันละ 6,200 บาท นั่นคือขาดทุนไปแล้วตันละ 3,100 บาท

ตัวเลขที่นำเสนอนี้...เป็นแค่เพียงส่วนเดียวเท่านั้น ยังไม่รวมเงินที่รัฐต้องกู้ยืมจาก ธ.ก.ส.เพื่อใช้ในกิจการต่าง ๆ เช่น เงินกู้จำนำยุ้งฉาง 11.62 ล้านบาท เงินกู้จำนำใบประทวน 33.17 ล้านบาท ค่าดำเนินงานของธ.ก.ส. 2.35 ล้านบาท การดำเนินงานขององค์การคลังสินค้า 1.23 ล้านบาท ค่าจ้างสีข้าวและขนส่ง 2.32 ล้านบาท และการอื่นๆ อีก เช่น ค่าจดทะเบียนและประชาสัมพันธ์

ทั้งหมดนี้..บิ๊กอู๊ต ขอยืนยัน นอนยัน และตีหลังคาแบบเกรียวหมุน๓รอบยัน ฟันธงได้ว่า...รัฐบาลต้องยกเลิกการรับจำนำข้าวโดยเร็ว เพราะขืนดันทุรังทำต่อไป ความเสียหายจะเกิดขึ้นหนักกว่านี้ และที่สำคัญที่ต้องเน้นย้ำก็คือ "ทำแล้วชาวนาส่วนใหญ่ ได้กินเฉพาะเศษเนื้อที่ติดในซอกฟันของนักการเมืองและนายทุนการเมือง ที่เขาใช้ไม้จิ้มฟันแคะทิ้งเท่านั้น"

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

ดีใจกับ ผนส.๓ หลาย ๆ ท่าน ที่มีโอกาสได้ไปทำบุญวันเข้าพรรษาและไปท่องเที่ยวในวันหยุดติดต่อกันหลายวัน กับครอบครัว แต่....สำหรับครอบครัวของผม.. ต้ อ ง แ ย ก ท า ง กั น....ครับ

เพราะ...ลูกสาวคนเล็กกับภรรยาคนปัจจุบันไปทำบุญถวายเทียนและหลอดไฟที่วัดในหมู่บ้าน ส่วน..ผมต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ ๖ ก่อนใกล้รุ่ง และกลับถึงบ้านวันที่ ๙ กค.๕๒ ตอนหกทุ่ม เพื่อไปให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ การใช้อำนาจรัฐฯ ,ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ฯ คณะกรรมการจัดการหนี้ และ คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามลำดับ

ผมมีความตั้งใจ..ที่จะวิเคราะห์ผลเทียบเคียงกับทฤษฏี ในประเด็นของ"ภาวะผู้นำกับการปลดคน" ในกรณีที่ผมลงนามโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าหน้าที่สหกรณ์ หลังจากนั้นผ่านไป ๒ วัน เขาได้ยื่นหนังสือลาออก ฯ เพราะ..บิ๊กแอ๊ด..บอกว่าน่าสนใจดี..จะรออ่าน แต่บังเอิญเมื่อผมมาอ่านBlog เจอประเด็นที่เคยแสดงความเห็นไว้ก่อนหน้านี้ คือ การรับจำนำ และการประกันราคาข้าวเปลือก ก็ขออนุญาตแสดงความเห็นข้างบนนี้ก่อน ส่วน "ภาวะผู้นำกับการปลอดคน" โปรดกรุณารอสักครู่ใหญ่ ๆ นะครับ..บิ๊กแอ๊ด

ได้เข้ามาอ่านบล็อกวันนี้หลังจากไม่ได้เข้ามาหลายวันอ่านซะเมื่อยตาเลยมีสาระน่าสนใจหลายๆอย่าง โดยเฉพาะบิ๊กอู๊ดอ่านแล้วต้องอมยิ้มทุกที ขอบคุณจริงที่ได้ตั้งใจเรื่องข้าวและอีกหลายๆเรื่อง สุดท้ายอยากถามบิ๊กอู๊ดว่าลูกสาวคนโตกับภรรยาคนแรกไปทำบุญที่ไหนคะ

วัฒนธรรมองค์กรแก้ไม่ยากแต่ต้องใช้เวลา

ค่าของคนวัดที่ผลของงาน

สมัยก่อนไม่มีใครคิดอยากเป็นหัวหน้า เพราะการเป็นหัวหน้าต้องทำงานหนักและรับผิดชอบเยอะ แถมยังถูกด่ามากกว่าคนอื่น เงินเดือนก็ไม่ได้มากกว่าลูกน้อง ทั้งนี้เพราะการปรับเงินเดือนตอนนั้นยังไม่มีระบบที่ดีและเป็นธรรม เพราะจะเห็นว่าบางคนเมื่อถึงช่วงปรับเงินเดือนก็เข้าหานายให้นายเห็นหน้าบ่อยๆ ส่วนพวกที่ไม่ชอบเข้าหานาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกที่ทำงานจริงๆ พอผลปรับเงินเดือนออกมาก็ลาออกกันไปทั้งที่เป็นคนเก่ง นี่คือปัญหาใหญ่และเป็นวัฒนธรรมที่ไม่พึงปรารถนา ด้วยเหตุนี้จึงหันมาใช้ระบบค่าของคนวัดที่ผลของงานในการปรับเงินเดือน

กล้าปฏิวัติระบบเงินเดือน

จากการที่ได้ใช้ระบบค่าของคนวัดที่ผลของงานในการปรับเงินเดือน ทำให้เขากล้าที่จะปฏิวัติในการปรับเงินเดือนพนักงานโดยไม่ลังเล ตามปกติการขึ้นเงินเดือนคนที่เงินเดือน 1 หมื่นบาท ถ้าขึ้น 10% ก็ 2,000 บาท แต่ถ้าทำงานได้ไม่ดีไม่สมกับงานและความรับผิดชอบก็ขึ้นให้ 500 บาท ส่วนคนที่ทำดีขึ้นให้ 5,000 บาท โดยไม่สนว่าทำงานมากี่ปีแต่ว่าจ่ายให้ตามที่ทำงานจริง ปรากฏว่าเริ่มได้ผล คนอยากเป็นหัวหน้ามากขึ้น

“บอกเลยระดับหัวหน้า 3 หมื่นขึ้น คนทำงานทั่วไป 1 หมื่นกว่า ถ้าปรับตามเกณฑ์อีก 10 ปี จึงได้ 3 หมื่น จากนั้นมาก็เลยเกิดการแข่งขันอยากที่จะเป็นหัวหน้ากัน แต่ก็ยอมรับว่าการที่จะเปลี่ยนแปลงในเรื่องการปรับเงินเดือนต้องใช้เวลาในการคิดเป็นปี เพราะก่อนนั้นก็มีการแก้ไขปรับเปลี่ยนทดลองหลายวิธีเหมือนกันแต่ไม่ได้ผล สุดท้ายก็เข้าใจว่าต้อง ‘วินวิน’ ทั้งสองฝ่าย ฉะนั้นจากที่ปรับปีละ 1,000 บาท ก็ปรับเป็น 1 หมื่นบาท (ส่วนใหญ่โชว์ออฟจริงๆ ปรับที่ 5,000-7,000 บาท) แต่ถ้าต้องการปั้นใครเป็นผู้จัดการฝ่าย เงินเดือน 1.5-1.7 หมื่นบาท ก็ปรับเป็น 2.6-2.7 หมื่นบาท ซึ่งวิธีนี้ทำให้เห็นภาพอย่างหนึ่งที่ชัดมาก ก็คือคนคนนั้นแทบจะยอมตายแทน ทำทุกอย่าง สู้เหมือนตัวเองเป็นเจ้าของ และเมื่อคนอื่นเห็นเขาทำก็เอามั่ง กลายเป็นว่าเกิดสังคมและวัฒนธรรมใหม่ขึ้นมา ก็คือทุกคนทุ่มเททำงาน”

การสร้างทีมใหม่ไม่ใช่ใช้แค่เงิน แต่ปั้นคนที่เพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่เขามีความคิดที่บรรเจิด ส่วนคนที่อยู่ในวัฒนธรรมองค์กรแบบเดิมๆ มีความคิดแบบเนกาทีฟเยอะ ก็เอาคนรุ่นใหม่เก่งๆ ที่มีความสามารถนี้เข้าไปอยู่คลุกคลีด้วย นานไปคนรุ่นเก่าก็จะลดเนกาทีฟลงและก็เป็นอย่างนั้น เพราะผู้จัดการฝ่ายระดับที่ไม่จบวิศวะก็มีบางคนที่สุดท้ายเป็นเพชรในตมที่บริษัทต้องพึ่ง เพราะประสบการณ์สูงมาก แล้วสุดท้ายจึงกลายเป็นเลือดผสมใหม่และเก่า

การที่จะเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เปลี่ยนทัศนคติคนรุ่นเก่าได้ไม่ใช่เรื่องง่าย 3 ปี เปลี่ยนได้เป็นบางส่วน 5 ปี จึงเปลี่ยนได้หมด ปีแรกเหนื่อยเพราะมีคนอยากลองของ ต้องเจอกับระบบอุปถัมภ์ร้อยแปด การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนให้จบในเร็ววัน นอกจากต้องใช้เวลาและองค์ประกอบอื่นๆ แล้วต้องใช้วิธีที่เหมาะกับสถานการณ์และบุคคลด้วย

วรรณ [IP: 125.24.58.230]
เมื่อ ส. 11 ก.ค. 2552 @ 14:34
1402591 [ลบ] [แจ้งลบ

สวัสดีอาจารย์ ยม และเพื่อนๆ ผนส.2 ทุกคน หายไปนานแต่ไม่เคยลืมเพื่อนๆนะ ยังคิดถึงเสมอ แต่บังเอิญเจอลมพัดแรงต้องย้ายสำนักงานไปอยู่ที่ สำนักงานเพลินจิต ต้องทำงานใหม่ ปรับตัวหลายอย่าง แต่รับรองว่าจะไม่ท้อถอย และขอโทษด้วยที่รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 ช้าไปหน่อย ขอบคุณพี่ต้อยสำหรับเลี้ยงอาหารวันนั้น และน่าจะเป็นเลี้ยงวันเกิดพี่วันที่ 28 มิถุนายน ด้วย อวยพรย้อนหลังนะคะว่า ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง สำหรับพี่ติ๊เมื่อวานวันที่ 10 กรกฎาคม ขอให้สุขภาพแข้งแรงนะเจ้าคะ และสำหรับท่านอื่นที่เกิดภายในเดือนนี้ ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปกป้องคุ้มครองให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ สำหรับรายงานการประชุมมีดังนี้

รายงานการประชุมคณะทำงานผู้นำขั้นสูง รุ่น 2

ครั้งที่ 5/2552

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2552

ณ ห้องอาหาร ศูนย์รัชนีแจ่มจรัส สันนิบาตสหกรณ์

                         

                 ********************

ผู้มาประชุม

1. พลเรือตรีบงกช ผาสุก ประธาน

2. คุณอนนท์ ศุภตระกูล กรรมการ

3. คุณอรุณี   วงศ์ราเชน  เหรัญญิก

4. คุณวรวรรณ ส่องพลาย กรรมการและผู้ประสานงาน

ผู้เข้าร่วมประชุม

1. อาจารย์ยม    นาคสุข ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

2. คุณนพคุณ ยังเอี่ยม ที่ปรึกษา

3. คุณสุพจน์   แสงวิริยภาพ

4. คุณประวัติ  หาดปิ่นขจรจารุ  ผนส . 2

5. คุณวิจิตร  จะโรจร  เจ้าหน้าที่โครงการฯ สันนิบาตฯ

เริ่มประชุมเวลา 18.30 น.

 วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ทราบ

  • 1.1 ประธานฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบ ว่าเลขานุการคณะทำงานคุณไพรพนา ฉ่ำเย็นอุรา มีภารกิจ ในการประชุมครั้งนี้ มอบให้คุณวรวรรณ ส่องพลาย เป็นผู้บันทึกรายงานการประชุม และประธานแจ้ง สรุปผลการดำเนินงานการทำกิจกรรมครั้งที่ 1 ของ ผนส. 2 จัดทำห้องสมุดกิจกรรมสหกรณ์ ที่โรงเรียนวัดคลองขุนศรี อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งคณะทำงานได้ดำเนินการจัดทำห้องสมุดสหกรณ์สำหรับนักเรียน และส่งมอบให้กับโรงเรียนวัดคลองบางขุนศรี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2552 ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ ศ.ดร.จิระ หงส์ลดารมภ์  และอาจารย์ยม  นาคสุข ที่ให้เกียรติไปร่วมกิจกรรม โดยมีคณะครู ผู้ปกครองและผู้นำชุมชนที่มาให้การต้อนรับ และร่วมกิจกรรม  รวมถึงขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ ในการทำกิจกรรมครั้งนี้

1.2. คุณนพคุณ ยังเอี่ยม  ขอเป็นตัวแทนรุ่น ผนส.2 แสดงความยินดีกับประธานที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทสไทย และเป็นรองประธานด้วย

1.3 สำหรับคุณวิจิตร  จะโรจร  กล่าวขออภัยที่ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อมอบห้องสมุดสหกรณ์เนื่องจากบุตรป่วย แต่ขอยินดีที่จะช่วยเหลือในทุกเรื่องที่ ผนส.รุ่น 2 มีการจัดกิจกรรม และจัดกลุ่ม ผนส.รุ่น 2 เป็นกลุ่ม VIP  สำหรับกิจกรรมมอบห้องสมุดสหกรณ์จะจัดส่งรายงานให้ สันนิบาตฯ รับทราบ

1.4   อาจารย์ยม  นาคสุข ได้ให้ข้อสนอแนะว่า เมื่อ ผนส.2ส่งมอบห้องสมุดสหกรณ์ฯ แล้วควรมีการต่อเนื่องของการติดตามดูแล ส่งเสริมให้นักเรียนได้รับประโยชน์ต่อเนื่อง ไม่ควรจบแค่การส่งมอบห้องสมุด

วาระที่  2 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 4/2552

  ที่ประชุมคณะทำงาน  รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 4/2552

วาระที่  3  เรื่องสืบเนื่อง กิจกรรมต่อเนื่อง / รายงานฐานะการเงิน รายรับ รายจ่าย ยอดเงินคงเหลือ

        3.1 สำหรับกิจกรรมต่อเนื่อง

 1).  กิจกรรมต่อเนื่องสำหรับห้องสมุดสหกรณ์โรงเรียนวัดคลองบางขุนศรี ตามที่อาจารย์ยม  นาคสุขแนะนำ จะต้องมีการติดตามผลการใช้ห้องสมุดสหกรณ์เพื่อประโยชน์ของนักเรียน หรือ อาจจัดให้มีการอบรม หรือสอนเด็กๆให้เรียนรู้เรื่องสหกรณ์ ซึ่งอาจรวมถึงชาวบ้านด้วย  ทั้งนี้คุณอรุณี   วงศ์ราเชน แจ้งว่า สหกรณ์พื้นที่จังหวัด จะมีกลุ่มวิทยากรที่จะสอนเยาวชน  สามารถที่จะประสานและติดต่อให้ได้ รวมถึงจะประสานขอแผ่นซีดี  หนังสือการ์ตูนที่เป็นสื่อที่ง่ายสำหรับการเรียนรู้ มาเพิ่มเติมในห้องสมุดสหกรณ์ 

สำหรับกิจกรรมต่อเนื่องโรงเรียนวัดคลองบางขุนศรี กำหนดเป็นรูปแบบ การสนับสนุน พัฒนา ติดตาม อย่างน้อย 3 เดือนครั้ง

           2).  กิจกรรมต่อเนื่องระหว่างผนส.1 และ 3

ผนส.1 ได้ขอให้อาจารย์ยม  นาคสุข ประสานรุ่น 1-3 ไปจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างกัน และเพื่อรวมกันทำกิจกรรมสหกรณ์ โดยคุณสุพจน์  แสงวิริยภาพเสนอให้มีการกำหนดเป้าหมายในการจัดทำกิจกรรม ที่เป็นโครงการเพื่อสังคม เพื่อจะได้มีการเตรียมทำกิจกรรมไว้ ประธานขอมีการเชื่อมโยง ผนส.รุ่น1,2 และ3 ก่อนเพื่อทำกิจกรรมเพื่อประเทศ โดยกำหนดตัวแทนรุ่นแต่ละรุ่น เพื่อประสานงานกัน โดยขอให้อาจารย์ยม  นาคสุขเป็นที่ปรึกษาด้วย ทั้งนี้ตัวแทนรุ่น 2 ที่กำหนด คือ

 1 .ประธานพลเรือตรีบงกช ผาสุก

 2. คุณอนนท์ ศุภตระกูล

 3. คุณนพคุณ ยังเอี่ยม

            ประธานจะประสานกับรุ่นอื่นๆต่อไป

 3)  ประธานรุ่น 1 แจ้งผ่านอาจารย์ยม  นาคสุข เสนอให้มีการเปิดการสัมนา รุ่น  ที่ 4 ที่ จ.กาญจนบุรี  / สันนิบาติจะทำหนังสือเชิญ ผนส. ทุกรุ่นเข้าร่วมงาน

            3.2 รายงานฐานะการเงิน รายรับ รายจ่าย ยอดเงินคงเหลือ

             คุณอรุณี   วงศ์ราเชน เหรัญญิกรายงานเงินรุ่นดังนี้

ผนส.รุ่น 2 มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ฝากไว้ที่สหกรร์ออมทรัพย์ กรมตรวจ ฯ ทั้งหมด 3 เล่มคือ

                            -        ผนส.2 (เงินเก็บตั้งแต่ขณะเรียน) จำนวนเงิน 1,067.43 บาท

-        กองทุน ผนส. 2 (เก็บจากเพื่อนร่วมรุ่นหลังจาก จบการเรียน ซึ่ง เก็บเป็นรายปี ปีละ 1,000 บาท สำหรับคนที่จ่ายรายปี  หรือเดือนละ 100 บาท สำหรับคนที่จะจ่ายรายเดือน ) ณ.19 มิถุนายน 2552 จำนวนเงิน 26,270.90 บาท

      -        โครงการ ผนส.2 (เงินที่ได้รับจากการสนับสนุนของเพื่อนๆ ผนส.2 ผู้สนับสนุนอื่นๆ และเงินสนับสนุนจากสหกรณ์ฯต่างๆที่ประธานส่งจดหมายถึง) จำวนเงิน 44,100 บาท จ่ายทำห้องสมุด 25,000 บาท คงเหลือ 19,100 บาท

สำหรับรายชื่อผู้สนับสนุน คุณอรุณี   วงศ์ราเชน ได้จัดทำไว้ และประธานจะทำหนังสือขอบคุณ จัดส่งให้ต่อไป

วาระที่  4  พิจารณากำหนดการใช้-จ่ายเงินกองทุน ผนส.2

การกำหนดการใช้-จ่ายเงินกองทุน ผนส.2  เพื่อความเหมาะสม

ที่ประชุม มีมติให้กำหนดการใช้-จ่ายเงินกองทุน ผนส.2   ดังนี้

1. งานฌาปนกิจศพ บิดา มารดา คู่สมรส บุตร ผนส.2 ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท

                        2.งานแสดงความยินดีอายุครบ 60 ปี ผนส.2  ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท

                        3.เยี่ยมป่วย ผนส.2  ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท

4.จัดทำของที่ระลึกสำหรับ ผนส.แต่ละรุ่น และกิจกรรมอื่น ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร

 

ปิดประชุม 19.45 น. วรวรรณ ส่องพลาย

พรุ่งนี้14กค.52 ขอเชิญชาวผนส3ร่วมเสวนาเรื่องต่างๆในแวดวงสหกรณ์และ เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของรุ่นพร้อมเตรียมการต้อนรับ ผนส4ด้วย พบกันที่เดิมครัวสหกรณ์ เวลา 17.00 น.แล้วเจอกัน (ขณะนี้คุณอดิศักดิ์คุณอภิสิทธิ์มานอนรอที่สันนิบาตแล้ว)

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

ขออภัย..พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผนส.๓ ทุกท่าน ที่ไม่สามารถไปร่วมเสวนาวันที่ ๑๔ นี้ได้ เพราะตั้งแต่วันที่ ๑๔-๑๗ กรกฎาคม๕๒ ผมติดประชุม ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดชัยภูมิ จำกัด ,สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคจังหวัดชัยภูมิ จำกัด และเดินทางไปสำรวจพื้นที่เขาค้อ เพชรบูรณ์เพื่อจัดสัมมนา WALK RALLY สหกรณ์การเกษตรในจังหวัดชัยภูมิ(๒๓-๒๕กค.) ขออภัยหลาย ๆ เด้อ..สิบอกให่

...ได้อ่านบทความของคุณ ธนพล ก่อฐานะ ที่ปรึกษาSMEs ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ ฝ่ายประสานและบริการ SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เห็นว่ามีประโยชน์ดีค่อนข้างยาวสักหน่อยแต่ก็คุ้มค่าเลยนำมาฝากกัน ขอให้เพื่อนๆผนส3 ตั้งใจอ่านสักหน่อยนะ..

@ ต่อยอดธุรกิจโดยไม่มีทุน

@ เถ้าแก่เล็กเปลี่ยนเป็นเถ้าแก่ใหญ่

@ การขยายอย่างไร้ขีดจำกัดคือบ่อเกิดของความหายนะ

...เรื่องราวของการทำงาน การก่อร่างสร้างธุรกิจด้วยตัวเอง และยังพยายามต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆอย่างน่าสนใจ จึงนำมาเขียนเป็นกรณีศึกษาเพื่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ เป็นกำลังใจ เป็นข้อคิดให้นักต่อสู้ทั้งหลายได้เห็นเผื่อจะเป็นแนวคิดให้สามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาได้ หรือป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา

วิกฤตสร้างเถ้าแก่

...เมื่อประมาณสิบห้าปีก่อนมีวิกฤตเกิดขึ้นในโลก ซึ่งแน่นอนกระทบกับประเทศไทยอย่างมากคือการที่ ซัดดัม ฮุตเซนนำกังลังบุกประเทศคูเวตและประเทศสหรัฐอเมริกาส่งกำลังช่วยประเทศคูเวต ขณะนั้นสถานการณ์โลกน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งกลัวว่าจะกลายเป็นสงครามโลก เศรษฐกิจหยุดนิ่งและอาจจะเรียกได้ว่าถดถอยเลยทีเดียว ทำให้ธุรกิจหลายแห่งทั้งใหญ่และเล็กเลิกโครงการต่างๆและบางธุรกิจเลิกกิจการเลยทีเดียว

ขณะนั้นมีบริษัทใหญ่มากในประเทศไทยที่มีฐานะการเงินที่มั่นคง มีผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์ความรู้ความสามารถ ได้ตัดสินใจเลิกโครงการธุรกิจขายส่งสินค้า IT และต้องการหาคนมาซื้อสินค้าใน Stock ทั้งหมดมูลค่าประมาณ 10,000,000บาท ซึ่งในขณะนั้นหาคนมาซื้อได้ยากมาก ๆ ดังนั้นผู้บริหารของโครงการนั้นจึงตัดสินใจลาออกและขอเป็นผู้ซื้อสินค้าทั้งหมดเอง ผู้บริหารคนนี้ตัดสินใจโดยไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า ไม่มีเงิน มีแต่ความเชื่อมั่นในตนเองและต้องการแสดงความรับผิดชอบ ฝ่ายเจ้าของธุรกิจก็เชื่อในความสามารถ ความซื่อสัตย์และมีความต้องการจะเลิกธุรกิจขายส่ง H/W จึงตัดสินใจขายสินค้าทั้งหมดให้ผู้บริหารคนนี้ในเงื่อนไขเครดิตระยะยาว ราคาพิเศษและมีเงื่อนไขห้ามคืนสินค้า ผู้บริหารคนนี้ก็เริ่มต้นเช่า OFFICE ,รับพนักงานขายและส่วนใหญ่มาจากที่เดิมที่เลิกโครงการนั่นเอง ผู้บริหารคนนี้ให้ชื่อว่า "นายก่อร่าง สร้างธุรกิจ" อายุประมาณ 32 ปีในขณะนั้น ธุรกิจที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้น่าสนใจมาก และวิธีบริหารของนายก่อร่างก็น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง..

...นายก่อร่างได้จัดตั้ง "บริษัท ก่อร่าง จำกัด" ขึ้นโดยเริ่มต้นมีเพียงไม่กี่คนล้วนแล้วแต่เป็นลูกน้องฝ่ายขายที่สนิทกันมาก ๆ ทุกคนร่วมกันทำงานด้วยกันมาหลายปี มีความสำเร็จมาด้วยกันมีความรู้ในสินค้าเป็นอย่างดี ทุกคนได้รับการเกื้อกูล สนับสนุนอย่างดีจากนายก่อร่างมาตลอดดังนั้นพอทุกอย่างเริ่มต้น ทุกคนเข้าใจเป้าหมาย ความจำเป็นและอนาคตของแต่ละคนจะดีได้ต้องสนับสนุนนายก่อร่างให้ประสบความสำเร็จ และด้วยเจตนารับผิดชอบลูกน้อง รับผิดชอบต่อหน้าที่ การเป็นผู้นำที่ดี นายก่อร่างเสนอเงินเดือน หาเงินทุนและให้ทุกคนเป็นหุ้นส่วนโดยไม่จำเป็นต้องมีเงินตามความเหมาะสม ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความรวดเร็ว น่าจูงใจ ลงตัวและทุกคนล้วนรู้หน้าที่ สินค้า ลูกค้าเป็นอย่างดี

หลังจากตั้งทีมงาน วางแผนการขาย กำหนดราคา เงื่อนไขต่าง ๆ เรียบร้อยโดยนายก่อร่างไม่มีความกลัวของผลกระทบวิกฤตที่เกิดขึ้น มีแต่ความเชื่อมั่นในตัวเอง ทีมงานและสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนั้นที่นายก่อร่างมองว่าเป็นโอกาสอย่างใหญ่หลวงคือเงื่อนไข CREDIT ระยะยาวมากกว่าหกเดือนประมาณ10,000,000 บาทโดยไม่มีหลักประกันหรือสัญญาใดๆ ในสภาวะปกติไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอนที่จะมีคนให้โอกาสแบบนี้ เขาจึงตัดสินใจคว้าไว้โดยไม่ลังเลและนี่คือที่มาของ"วิกฤตสร้างเถ้าแก่"

หลังจากเวลาผ่านไปสามเดือนของในSTOCK ก็เกือบจะหมด เนื่องจากนายก่อร่างทราบดีว่า ต้องขายสินค้าให้เร็วที่สุดเพราะสองสาเหตุคือ หนึ่งเรื่องสินค้าจะตกรุ่นในธุรกิจ IT สำคัญมากเพราะจะไม่สามารถขายได้เลยถ้าสินค้าตกรุ่น สองเรื่องการหมุนเงินถึงแม้เขาจะได้ CREDITระยะเวลายาวแต่ถ้านิ่งนอนใจจะมีปัญหาอย่างแน่นอน และสิ่งที่ทำให้เขาสามารถขายสินค้าได้เร็วแบบนี้ มีหลายเหตุผลเช่น คนขายรู้จักสินค้าดีมาก คนขายรู้จักลูกค้าดีมาก นอกจากนี้เพื่อชดเชยปัญหาเศรษฐกิจกำลังวิกฤต นายก่อร่างได้ใช้กลยุทธที่ยังไม่มีใครทำในขณะนั้นคือการให้ CREDIT ประมาณ1-2 เดือนแก่ลูกค้าเพื่อเน้นขายจำนวนมากและในขณะนั้นส่วนใหญ่เน้นขายเงินสด แต่ที่นายก่อร่างตัดสินใจให้ CREDIT เพราะเขารู้ว่าลูกค้าคนไหนไม่มีปัญหาการเงิน ดังนั้นเพียงหกเดือนสินค้าทั้งหมดคงขายหมด แต่ตอนนี้นายก่อร่างกำลังมีปัญหาว่าหลังจากนี้จะขายอะไร มีเงินที่กำไรหลังหักค่าใช้จ่ายก็ไม่มาก เงินหมุนที่ได้ก่อนจะถึงกำหนดชำระก็ไม่มาก ขณะนี้ธุรกิจก็เกิดแล้ว พนักงานก็มีหลายคน ลูกค้าก็มีหลายรายล้วนสนิทสนม อนาคตจะดำเนินต่ออย่างไร นายก่อร่างจะแก้ปัญหาอย่างไร และแน่นอนเขาไม่คิดที่จะหยุดเพียงเท่านี้

เพราะเขาไม่ได้ตั้งบริษัทเฉพาะกิจขึ้นเพื่อแก้ไขวิกฤต แต่เขาเป็นเถ้าแก่ที่จะต้องต่อสู้ต่อไป เขาเป็นคนต้องการความสำเร็จสูง เขาเป็นนักคิด เขาเป็นคนหนุ่มไฟแรงสามสิบสองเท่านั้น

ต่อยอดธุรกิจโดยไม่มีทุน

...ด้วยบุคลิกจริงใจ เปิดเผย มุ่งมั่น เชื่อมั่น มองโลกในด้านที่ดี มองหาโอกาสทางออกของปัญหาและทุ่มเทอย่างจริงจัง ทำให้หลายๆคนที่รู้จักนายก่อร่างทั้งผู้ใหญ่ เพื่อนๆ ลูกน้อง ลูกค้า SUPPLIER ต่างชื่นชม มั่นใจ ศรัทธา เชื่อมั่นในตัวของนายก่อร่างอย่างมากมาย จนนายก่อร่างได้รับข้อเสนอต่างๆ มากมายเช่น วงเงินเครดิตจาก SUPPLIERในวงการ IT ซึ่งปกติได้ยากมากและสิ่งหนึ่งซึ่งไม่น่าเชื่ออย่างมาก ๆ ก็คือข้อเสนอวงเงินสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและยังสามารถทำเครดิตเทอมได้อีกหกเดือนโดยเสียค่าใช้จ่ายร้อยละ 5 เป็นค่าใช้วงเงิน ซึ่งในขณะนั้นเศรษฐกิจไม่ดีเลยธุรกิจที่มีวงเงินมากๆ ไม่ได้ใช้ปล่อยว่างๆ ก็ไม่มีรายได้ และมีคนแนะนำนายก่อร่างให้รู้จักเจ้าของวงเงิน เมื่อมีการได้พูดคุยกับผู้ใหญ่เจ้าของวงเงินกับนายก่อร่าง มีการสอบถามแนวทางในการทำธุรกิจ วิสัยทัศน์อย่างละเอียด หลังจากนั้นผู้ใหญ่ผู้นั้นก็ชอบใจบุคลิกที่มีวิสัยทัศน์ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นอย่างมาก และเขาก็ได้อนุมัติให้ใช้วงเงินของเขาได้ 50,000,000 บาททันที

..ทันใดนั้นเหมือนคำพูดที่ว่า " คนป่ามีปืน ฉันใดฉันนั้น" นายก่อร่างเปลี่ยนเป็นนักธุรกิจใหญ่ขึ้นมาทันทีมีทุนในการทำธุรกิจมากกว่า 50,000,000 บาททั้ง ๆ ที่ไม่มีเงินที่เป็นของตัวเองเลย

..หลังจากนั้น "บริษัทก่อร่างจำกัด" ได้เป็นตัวแทนสินค้า IT จากต่างประเทศ ขยายยอดขายเพิ่มขึ้นจนมียอดขายกว่าเดือนละ 20,000,000 บาท ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างมากจนทำให้นายก่อร่างมีความคิดที่จะตั้งโรงงานผลิตสินค้าในประเทศไทยเพื่อความมั่นคง ลดต้นทุนสินค้า เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน เมื่อมีความคิดเช่นนี้ทำให้นายก่อร่างต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้นทันที เนื่องจากธุรกิจที่ดำเนินการไม่ถึงสองปีมีกำไรสุทธิยังไม่มากนักเนื่องจากเขาได้ใช้เงินไปมากสำหรับการพัฒนาบุคลากร การสร้างชื่อเสียงให้สินค้า การสร้างชื่อเสียงของบริษัท เมื่อมีความคิดจะสร้างโรงงานซึ่งเป็นทรัพย์สินถาวร ต้องมีการซื้อเครื่องจักร ต้องมีการซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ต้องมีการเพิ่มค่าใช้จ่ายเรื่องต่างๆ อีกมากมาย และสุดท้ายเขายังต้องคิดถึงยอดขายที่ต้องเพิ่มขึ้นเพราะสินค้า IT ยอดขายที่ทำได้มาก ๆ ในประเทศยังไม่เพียงพอกับกำลังผลิตขั้นต่ำที่ต้องทำการผลิตให้ได้เดือนต่อเดือน เขาจะทำอย่างไรดีสำหรับทุก ๆ ปัจจัยที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

...ด้วยบุคลิกของคนที่มีวิสัยทัศน์ มองโลกในแง่ที่ดี มองหาทางออกของปัญหาเขาทำได้ดีมากโดยเขาเริ่มเดินทางตามงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ มองหาสินค้าใหม่ ๆ ที่จะนำมาขายสอบถามหาพันธมิตรทางธุรกิจ มองหาผู้ผลิตเครื่องจักรต่าง ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งได้พบนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงชาวฮ่องกงซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กับนายก่อร่าง มีความคิดที่จะย้ายฐานการผลิตมายังประเทศที่กำลังพัฒนาเพราะได้สิทธิพิเศษทางการค้าระหว่างประเทศ และประเทศไทยก็เข้ากับกติกาของการได้สิทธิพิเศษพอดี เมื่อเขาได้พบกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเหมือนกันอย่างมาก มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลเหมือนกัน ปัญหาของเทคโนโลยี ปัญหาการหาเครื่องจักร ปัญหาการหาตลาดต่างประเทศ ปัญหาการหาวัตถุดิบสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถูกแก้ไขได้หมด นอกจากนี้ยังมีกำไรจากการส่งออก มีความมั่นคงทางธุรกิจและลดต้นทุนของสินค้าจากการนำเข้า เมื่อเขาได้นำเรื่องเหล่านี้มาเล่าให้นักธุรกิจรุ่นพี่ทั้งหลายฟังทุกคนพอได้ยินธุรกิจ IT มีการส่งออก มีกำไร ผู้บริหารดีน่าเชื่อถือ ท่านเชื่อหรือไม่หลายคนแย่งกันขอเป็นผู้ลงทุน ขอเป็นหุ้นส่วนยินดีให้วงเงินต่าง ๆ เพิ่มแม้แต่นายธนาคารต่างยื่นข้อเสนอให้วงเงินมากกว่าหลักประกันหลายเท่า

ท่านทั้งหลายพอได้ขอคิดในเรื่องการต่อยอดธุรกิจโดยไม่มีทุนของตัวเองเลย มีความเป็นไปได้ในขณะนั้น เป็นเรื่องเกิดที่ขึ้นจริง ๆ และผู้เขียนเชื่อว่านักธุรกิจอีกหลาย ๆ คนมีประสบการณ์เช่นนี้เหมือนกัน การต่อยอดแบบนี้ยังเป็นสิ่งที่ทำได้และมีโอกาสเพียงแต่ขอให้ท่านอยู่ถูกที่ ถูกเวลา ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถูกกฎหมาย น่าเชื่อถือและอย่าทำเพื่อหลอกลวงผู้อื่น โอกาสยังคงมีสำหรับคนที่มองเห็น มีความสามารถ มีความพร้อม และยังคงมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ

เถ้าแก่เล็กเปลี่ยนเป็นเถ้าแก่ใหญ่

...จากวันที่เริ่มต้นเป็นบริษัทเล็กๆในธุรกิจ IT ที่ นายก่อร่าง สร้างธุรกิจจัดตั้ง "บริษัทก่อร่าง จำกัด" ขึ้นมาโดยได้รับโอกาสจากบริษัทใหญ่ที่ต้องการจะเลิกทำธุรกิจขายส่งโอนสินค้ามาให้ขายทั้งหมดและได้รับเครดิตระยะยาว นายก่อร่างก็รีบฉวยโอกาสไว้ทันทีเพราะตัวเองมีความรู้ในเรื่องสินค้า รู้จักลูกค้าเป็นอย่างดีมากอยู่แล้ว และก็เป็นโอกาสดีจริงๆเพราะเขาสามารถขาย เก็บเงินได้ อีกทั้งยังมีกำไรจนสามารถดำเนินธุรกิจต่อยอดต่อไป ขยายต่อไปอีกเพราะได้รับเครดิตจาก SUPPLIERS เพื่อน ๆ นักธุรกิจรุ่นพี่ที่มีวงเงินเหลือไม่ได้ใช้ เนื่องจากธุรกิจของเขาซบเซา เศรษฐกิจไม่ดี แต่นายก่อร่างสามารถขยายธุรกิจได้ เนื่องจากเขาได้เลือกทำธุรกิจ IT ที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง เขาเป็นคนขยัน มุ่งมั่น ตั้งใจสูงมากจนมีวงเงินเครดิตกว่า50,000,000 บาททั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองไม่มีเงินสดเลย

เขาดำเนินธุรกิจได้สามปี จากการซื้อมาขายไป ขยายมาเป็นนำเข้า ขยายมาเป็นผู้ผลิตเองขยายมาเป็นผู้ส่งออกอีกด้วย และขณะที่ขยายธุรกิจเขาก็ไปเรียนปริญญาโทในสถาบันที่มีชื่อเสียงเสริมสร้างความรู้เพิ่มเติม ประกอบกับเขาเป็นคนสมัยใหม่ ต้องการเป็นนักบริหารที่ดี สร้างความถูกต้อง พัฒนาองค์กร พัฒนาบุคลากร แบ่งปันการเป็นเจ้าของให้ผู้บริหารทุกคน จูงใจพนักงานด้วยระบบที่ให้ผลตอบแทนที่สูง ทำให้องค์กรมีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก ๆ เร็วมาก ๆ จนมียอดขายกว่า 500,000,000 บาทต่อปี มีกำไรสุทธิมากกว่า 5% ต่อปี มีผู้สนใจร่วมธุรกิจมากมาย จนทำให้นายก่อร่างมีความคิดที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์

ขณะนั้นเขามีบริษัทมากกว่าห้าบริษัท มีพนักงานกว่าหนึ่งร้อยคน มีความสำเร็จทุก ๆ ด้าน ในองค์กรมีผู้บริหารระดับสูงประมาณสิบท่าน มีการแบ่งงานการบริหารให้ผู้บริหารระดับสูงได้รับผิดชอบคนละบริษัท เน้นการกระจายอำนาจให้กับผู้บริหารแต่ละฝ่ายเนื่องจากทุกคนได้ร่วมมือกันสร้างมาตั้งแต่ต้น มีระดับรองๆลงมาเป็นระดับชั้น และตัวคุณก่อร่างก็เริ่มวางมือจากตลาด จากลูกค้า โดยเขาหันมามุ่งเน้นการขยายงานในต่างประเทศ จากการที่เป็นคนมีวิสัยทัศน์เหมือนคนที่พูดกันว่าเราจะ "GO INTER" และเขาก็ทำได้เป็นอย่างดี จนมีการร่วมทุนตั้งโรงงานในต่างประเทศ คือ จีน เยอรมัน และ เวียตนาม เป็นต้น

การขยายงานก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ความมั่งคงก็เพิ่มมากขึ้นจนมีธนาคารมาเป็นผู้ถือหุ้น ผลการดำเนินงานก็เข้าข่ายที่ตลาดหลักทรัพย์ยอมรับได้ มีการวางแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยการแต่งตั้งผู้ดูแล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทการเงินที่ใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น มีผลกำไรสุทธิที่ดีมาก มีต่างประเทศมาร่วมทุน มียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย มีการขยายธุรกิจออกนอกธุรกิจ IT เช่น ที่ดิน ก่อสร้าง รถยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ผู้บริหารหลายคนโตไม่ทัน บางคนความสามารถไม่เพียงพอ นายก่อร่างมีเวลาไม่เพียงพอในการดูแลให้ทั่วถึง การรั่วไหลเริ่มเกิดมากขึ้น การแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ในองค์กร การแข่งขันกันเอง ผลประโยชน์เริ่มไม่ลงตัว เริ่มมีผู้บริหารลาออกพร้อมนำพนักงานออกตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการทำธุรกิจทับซ้อนกัน เหมือนกัน มีการแย่งลูกค้าไปทำเอง มีการขอซื้อสินค้าของบริษัทไปขายโดยขอเครดิต ราคาพิเศษและยังนำไปขายลูกค้าของบริษัทเดิมนั่นเอง มีการอนุมัติสิทธิพิเศษต่าง ๆ โดยผู้บริหารระดับสูงจนทำให้บริษัทขายขาดทุน มีการสั่งซื้อสินค้าทับซ้อนเข้ามาโดยไม่มีเหตุผลเช่น สินค้าที่เหมือนกันแต่แพงกว่า เป็นต้น มีการปฏิเสธ SUPPLIERSใหม่ สินค้าใหม่ ๆ แต่ผู้บริหารบางคนนำไปดำเนินการเองโดยตั้งบริษัทใหม่ของตัวเองขึ้นมา มีปัญหาของผู้บริหารมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง และอื่น ๆ อีกมากมาย

ในขณะนั้นเป็นช่วงพ.ศ.2538-2539 นายก่อร่างเริ่มได้รับข้อมูลและพยายามคิดหาวิธีแก้ไข แต่สิ่งที่นายก่อร่างคาดไม่ถึงมีมากมายเช่น ผู้บริหารระดับสูงหลายรายที่เขาสร้างขึ้นมา สนับสนุนทุกอย่าง ให้ทั้งเงิน ความรู้ ครอบครัว อำนาจ ความไว้วางใจ ความจริงใจ แต่สิ่งที่เขาได้รับคือการแยกตัวออกไป นำผลประโยชน์ออกไป ทำร้ายชื่อเสียงของนายก่อร่าง ของบริษัท คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น ดังนั้นผลที่เกิดกับนายก่อร่างเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างเหนือความคาดหมาย ถ้าเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาลงทุนกับความเชื่อเรื่องการให้ การให้ทุกๆ อย่างที่คาดว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อเพื่อนร่วมก่อตั้ง ต่อผู้บริหารระดับสูง ต่อพนักงาน และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ "การขยายอย่างไร้ขีดจำกัดคือบ่อเกิดของความหายนะ"

การขยายอย่างไร้ขีดจำกัด คือบ่อเกิดของความหายนะ

สัญญาณของความหายนะเรื่องที่หนึ่งคือ เวลาที่ไม่เพียงพอ ในอดีตนายก่อร่างเป็นคนขยันมาก ๆ ดูแลงานอย่างใกล้ชิด ติดตามอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการขยายงานอย่างมากมาย ทั้งในธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้นายก่อร่างดูแลไม่ทั่วถึง บางธุรกิจไม่ได้ดูเลย ขาดการตรวจสอบ ขาดการควบคุมที่ดี

สัญญาณของความหายนะเรื่องที่สองคือ ผู้บริหารที่ช่วยทำงานระดับสูงโตไม่ทัน หรือความสามารถยังมีไม่เพียงพอ ทำให้ธุรกิจของนายก่อร่างมีปัญหา เนื่องจากเขาใช้นโยบายกระจายอำนาจการทำงาน เมื่อเริ่มต้นธุรกิจในแต่ละบริษัทนั้นดีมาก แต่มอบหมายให้คนที่มีความสามารถไม่เพียงพอ และมีการกระจายอำนาจมากเกินไป ขาดการดูแลเอาใจใส่พัฒนาผู้บริหาร ทำให้ธุรกิจนั้นถดถอยไม่ประสบความสำเร็จ

สัญญาณของความหายนะเรื่องที่สามคือ ความโลภ นายก่อร่างเป็นหัวหน้าที่ไว้ใจลูกน้องมาก ๆ เชื่อในความดี ความจริงใจที่เขามีให้จะได้รับการตอบรับกลับมาเท่ากัน เหมือนกันแต่แล้วผลที่ได้กลับไม่เป็นดังหวัง ผู้บริหารหลายคนเห็นนายก่อร่างโต รวย ได้รับการยอมรับมากมายเลยเกิดความโลภต้องการเป็นเหมือนกัน เริ่มมองหาโอกาสให้ตัวเองเช่น สินค้าใหม่ ๆ ที่ต่างประเทศนำมาเสนอ ก็นำออกไปทำเอง และยังดึงคน ดึงลูกค้าออกไปด้วย นอกจากนี้ตัวเองยังคงอยู่ที่เดิมคอยส่งผลประโยชน์ออกไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง และไม่ใช่ผู้บริหารคนเดียวทำ มีหลายคน หลายระดับ จะขอยกตัวอย่างระดับล่างเช่น เขารู้จักลูกค้าดีอยู่แล้ว ขอลาออกไปตั้งธุรกิจของตัวเอง และยังกลับมาขอซื้อสินค้าราคาพิเศษ เป็นเครดิต และนำไปขายลูกค้าของบริษัทอีกทีหนึ่งเป็นต้น ท่านผู้อ่านลองคิดดูว่าโอกาสใหม่ ๆ ถูกฉกฉวยเอาไปหมด กำไรถูกเบียดเบียนไปอีกด้วย เหลือแต่สิ่งที่ไม่ดีทิ้งไว้ให้ แล้วนายก่อร่างจะเหลืออะไร

สัญญาณของความหายนะเรื่องที่สี่คือ ในการที่ผู้บริหารระดับสูงต้องการแย่งสิทธิในการจำหน่ายสินค้าไปทำเอง ต้องมีการปล่อยข่าวทำร้ายบริษัทเดิมก่อนจะได้เกิดความชอบทำ หรือจะต้องทำอย่างไรก็ได้ที่ทำให้บริษัทเก่าอยู่ไม่ได้ถึงจะได้สินค้าไปอย่างถูกต้อง และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่นายก่อร่างได้รับการกระทำโดยไม่รู้ตัว ทั้งในแง่ของบริษัทและในแง่ของส่วนตัวเช่น นายก่อร่างถูกปล่อยข่าวว่ามีเด็กอยู่ในบริษัททั้งที่เขาไม่เคยมีเลย แต่มีผู้บริหารหลายคนมีแล้วโยนให้เขาเป็นแพะเพื่อหลอกภรรยาตัวเอง เป็นต้นด้วยอุปนิสัยที่เป็นคนมองโลกในแง่ดีทำให้เขานึกไม่ถึงว่าจะถูกกระทำได้ถึงขนาดนั้น

สัญญาณของความหายนะเรื่องที่ห้าคือ ความหลงตัวเอง ความเชื่อที่คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดความเชื่อที่คิดว่าตัวเองสุดยอด ความประมาท ความหลงใหลในความสำเร็จ ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นายก่อร่างพลาดในหลาย ๆ เรื่อง

สิ่งที่เล่ามาเหล่านี้เป็นสัญญาณของความหายนะที่เกิดจากภายในองค์กร แต่ยังมีสัญญาณที่เกิดจากภายนอกองค์กรอีกด้วยเช่น มีหลายธนาคารเจ๊ง สถาบันการเงินถูกปิดหลายสิบแห่ง ตลาดหุ้นเกิดความเสียหายอย่างมาก และการลดค่าเงินบาท นายก่อร่างมีทั้งศึกภายในและภายนอกจะเหลืออะไรได้อีกนอกจากเกิดความสูญเสียอย่างประเมินค่าไม่ได้ และผู้หวังดีที่จริงใจทั้งหลายของนายก่อร่างไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ภรรยา พี่น้องและครูอาจารย์ต่างก็เป็นห่วงว่านายก่อร่างจะยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้หรือไม่ แต่ด้วยกำลังใจจากคนใกล้ชิดจริง ๆ และความช่วยเหลือทำให้เขายังคงมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ เขายังคงเป็นนักสู้จริง ๆ เขายังไม่ย่อท้อ ให้อภัยคนอื่น อดทน และยังต่อสู้ต่อไป โดยยังคงคิดว่าจะสามารถกลับมาได้เพราะเขาคิดว่า ความพยายาม ความสามารถ ประสบการณ์ ความจริงใจ จะสามารถช่วยเขาฟันฝ่าอุปสรรคที่นับวันมีมากขึ้นๆ และกลับมาดำรงชีวิตที่ดีได้ และเขาตั้งใจนำความสำเร็จ ความผิดพลาดที่ผ่านมา นำมาเป็นกรณีศึกษาสำหรับ SMEs คนอื่น ๆ จะได้ไม่ผิดพลาดเหมือนกับตัวเอง

ถ้ามีโอกาสจะคอยแนะนำให้คำปรึกษาเพื่อนนักธุรกิจ SMEs คนอื่น ๆ ให้มีโอกาสที่ดีกว่า และจะแนะนำให้คนอื่น ๆ มองเห็นความสำเร็จที่แท้จริง ไม่ใช่การเจริญเติบโตเพียงอย่างเดียวคือความสำเร็จ แท้จริงแล้วความสำเร็จจะคู่กับความพอดีกับกำลังของตัวเอง ความพอเพียง จะสามารถทำให้เราควบคุมความสำเร็จนั้นได้ มีความสุขกับความสำเร็จที่ยั่งยืนและยาวนานได้จริง ๆ

ข่าวล่ามาเรือ ผนส.3

........อาจจะช้าไปสักหน่อยการ รายงานข่าวความเคลื่อนไหวของการสัมมนาของชาวผนส.3 เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่14กค. เดินเข้าไปในสันนิบาต นึกว่ามาผิดที่หน้าห้องที่เราเรียนกันถูกรื้อทำใหม่งานปรับปรุงของเก่าก็ยังไม่เสร็จบรรยากาสจึงเหมือนกรุงปักกิ่งยามเย็นขมุกขมัวดีแท้ น้องกุ้งมาก่อนใครเพื่อนกลัวไม่มีที่นั่ง(มีแต่ที่นอน) ตามด้วยพี่ติ๊กเจ้าของรางวัลกว่ารู้เดียงสาของรุ่นและพี่ไนส์หรือพี่ราตรีของเรามาในมาดใหม่ของผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนาสหกรณ์ตามด้วยท่านอภิสิทธิ์เสี่ยข้าวโพดหวาน..ตี๋น้อยแห่งสหกรณ์แท็กซี่มาตามสไตล์วัยรุ่นเทรนเกาหลีบวกจีนฮ่องกง และสายตาทุกคู่ทอดยาวไปใต้ต้นไม้ข้างพระรูปฯเห็นหญิงสาวเสื้อชมพูใส่แว่นสายตารูปร่างคุ้นตา หิ้วของพะรุงพะรังจนระยะเริ่มใกล้เข้ามาถึงก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหูอย่างที่สุดว่า “มาช่วยกันหิ้วหน่อยซิโว้ยหนักจะตายอยู่แล้ว” เสียงของพี่จิ๋นของเรานั่นเอง หอบกับแกล้มมาเพียบ... ท่านพิณเกื้อกูลมาในมาดอาจารย์ใหญ่ฝ่ายปกครองเหมือนเดิมแต่ลดความร้อนแรงลงบ้างเพราะนั่งติดกับพี่น้อยผู้นำสตรีคนใหม่ของเรามาในชุดสูทสีแดงสดใสสวยสมวัย ท่านประธานบัญชามาพร้อมเลขาม้าเร็วของค่ายธนะบำรุงแสง ฝีเท้ายังจัดเหมือนเดิมมาถึงก็วิ่งไปวิ่งมาจนเวียนหัวไปหมด .....การเสวนาอย่างไม่เป็นทางการและไม่มีรูปแบบก็เริ่มขึ้นอย่างอัตโนมัติ ท่านนายกอภิสิทธิ์กล่าวผลสรุปการไปลงพื้นที่ตรวจงานสนามสหกรณ์การเกษตรห้วยคต อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับกำนันบ้านนอก(งานนี้ไม่ได้มาพาเด็กๆไปเที่ยวชะอำ)และคนขับรถแห่งบ้านไร่ก็คือวี24ของพี่ๆน้องๆ ผนส-3..... สรุปได้ว่า สหกรณ์นี้ทำธุรกิจรวบรวมสินค้าเกษตรเช่นอ้อย ข้าวโพด สัปปะรส มันสำปะหลัง และสินเชื่อ ปัญหาที่พบในเบื้องต้นเรื่องตลาดรองรับ การบริหารเงิน และระบบบัญชี ฯลฯ ที่ประชุมมีการอภิปรายอย่างกว้างขวางสรุปได้ว่าข้อมูลยังไม่เพียงพอที่จะตัดสินใจได้จึงได้มอบหมายให้มีการหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยจะสรุปให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้

“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” แต่ของรุ่นเราไม่มีเลิกหลังจากครัวสหกรณ์ปิดก็ย้ายออกมาตั้งวงใหม่ด้านหน้าอาคารทางเข้าจนทุกอย่างชักจะหมดน้ำแข็งโซดาขาดแคลนที่ประชุมย่อยจึงลงมติให้ย้ายที่ประชุมไปที่ตลาดราชวัตรกำหนดให้เป็นการประชุมสัญจรต่อเนื่องโดยมอบหมายให้ตี๋น้อยเป็นทัพหน้าหาสถานที่ประชุมต่อ การประชุมเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนใกล้เข้าสู่วันใหม่ การอภิปรายชักไม่มีใครฟังใครเสียงดังลั่นไปทั่วสภาจนท่านประธานต้องเสนอให้มีการปิดประชุม ปิดประชุมเวลา01.00น.แยกย้ายกันไปอาบน้ำปะแป้งนอน...

...มาเรื่องงานบุญงานกุศลบ้างกำหนดการทอดกฐินของผนส.3ที่ประชุมตกลงจะไปทอดที่วัดดงดินแดง อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 23-24ตุลาคม นี้ งานนี้ท่านอภิสิทธิ์รับไปทำ วันนี้แค่นี้ก่อนนะแล้วพบกันใหม่..โชคดีทุกคน...แจ้ ดอกจิกรายงาน

วิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง..จะได้ไม่ต้องเป็นหนี้ที่เราไม่ได้ก่อ

พวกเราวันๆต้องเซ็นรับรองสำเนาในการทำธุรกรรมในสหกรณ์กันอยู่เป็นประจำ

บางคนอาจใช้ขีดเส้นขนาน แล้วเขียนข้อความ / เซ็นรับรอง..ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องนัก

วันนี้เลยเอาวิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาที่ถูกต้อง มาให้พวกเรารู้ไว้จะได้ไม่เป็นหนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ประมาทไม่ได้เลยล่ะ เพราะหากเซ็นไม่ถูกวิธีแม้เพียงนิดเดียวอาจตกเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัวจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่นำเอาเอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาเอกสารสำคัญอื่นๆ จากการเซ็นรับรองของเราไปทำประโยชน์ส่่วนตน แต่สร้างหนี้ที่ไม่ได้ก่อให้กับเรา ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า...ทุกครั้งหากต้องเซ็นเอกสารรับรองสำเนาอย่าลืม ...จำ...และทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ข้อหนึ่ง... ทุกครั้งหลังจากเซ็นชื่อ และเขียนรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว ต้องเขียนรายละเอียดกำกับไว้ด้วยว่า..เอกสารฉบับนั้นใช้สำหรับทำอะไร เช่น "ใช้เฉพาะการขอใช้ไฟฟ้าเท่านั้น"

ข้อสอง... นอกจากกำกับรายละเอียดการใช้แล้ว ยังต้องกำกับ วัน/เดือน/ปี เขียนลงบนสำเนาที่ใช้ด้วย ซึ่งนั่นจะช่วยกำหนดอายุการใช้งานสำเนาของเราได้

ข้อสาม... ต้องเขียนข้อความทั้งหมดทับลงบนสำเนาส่วนที่เป็นบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาเอกสารอื่นๆ ที่สำคัญ

ทั้งสามข้อคือวิธีเซ็นที่ถูกต้องในการรับรองสำเนาอย่างรัดกุม ไม่เปิดช่องทาง ให้กับมิจฉา ชีพ เอาไปสร้างหนี้ให้กับเรา ต่อไปนี้ต้องระวัง เพราะคุณอาจเป็นรายต่อไป ที่จู่ๆก็มี หนี้ตามมาเคาะประตูถึงบ้าน รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมทำนะจ๊ะ

ความรู้เรื่องการเมือง แบบสบายๆ

เป็นเรื่องของเด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งมีครอบครัวที่อบอุ่น

ในครอบครัวมีด้วยกันทั้งหมด 5 คน

วันนึงขณะที่เด็กน้อยนั่งกินข้าวเช้าอยู่บนโต๊ะอาหาร

เด็กน้อยมองเห็นคุณพ่อดูข่าว TV เกี่ยวกับการเมือง

" พ่อ...การเมืองคืออะไรอ่ะ" เด็กน้อยถามพ่อด้วยความสงสัย

พ่อทำท่าทางคิดหนักก่อนจะตอบกลับไปว่า

"อืม...มันก็ไม่ยากหรอกลูกเปรียบเทียบง่ายๆนะลูก"

เปรียบ พ่อเป็น พ่อค้านายทุน ก้อคอยหาเงินไง

เปรียบ แม่เป็น รัฐบาล ก็คอยเอาเงินจากพ่อมาบริหารไง

เปรียบ ตัวลูกเองเป็น ประชาชน ที่ต้องมีรัฐบาลคอยดูแล

เปรียบ น้องชายของลูกเป็น อนาคตของชาติ

เปรียบ พี่แจ๋ว (พี่เลี้ยงของเด็กในบ้าน) เป็นชนชั้นแรงงาน

เด็กน้อยทำหน้า งง ก่อนจะปล่อยให้ความสงสัยนั้นอยู่ในหัวตลอดทั้งวัน

จนเมื่อถึงเวลาตกดึกของวันนั้น

ขณะเด็กน้อยกำลังหลับ " แงๆๆๆๆๆ"

เสียงน้องชายตัวน้อยของเค้าร้องดังขึ้น

เด็กน้อยเดินไปดูที่เปลจึงได้รู้ว่าน้อยชายของเค้า ขี้แตก

เด็กน้อยรู้ทันทีว่าต้องไปตามแม่มาดูน้อง

ขณะเดินไปตามแม่เด็กน้อยได้ยินเสียงออกมาจากห้องของพี่แจ๋ว

พี่เลี้ยงคนสวย

ด้วยความสงสัยจึงแง้มประตูดูพบว่า

พ่อเค้ากำลังอยู่บนตัวของพี่แจ๋ว

เด็กน้อยจึงเดินไปที่ห้องของแม่

พบว่าแม่ของเค้ากำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่

เด็กน้อยพยายามปลุกแต่ก็ไม่ยอมตื่น

เด็กน้อยท้อใจเดินกลับห้องนอนและหลับไป

หลังจากคิดอะไรได้มากมาย

ตื่นตอนเช้าขณะลงมาจากห้องเพื่อกินข้าวเช้า

เด็กน้อยเห็นพ่อของเค้า

" พ่อๆ ผมรู้แล้วละว่าการเมืองเป็นยังไง"

เด็กน้อยยิ้มที่ตัวเองเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่บางคนยังไม่เข้าใจ

" แล้วมันเป็นยังไงละไหนบอกพ่อสิลูก"

พ่อถามด้วยความอยากรู้

" การเมืองก็คือ ....การที่พ่อค้าหรือนายทุนกดขี่ชนชั้นแรงงาน!!

ในขณะที่ รัฐบาลก็หลับหูหลับตาไม่สนใจประชาชน

แม้ว่าประชาชนจะเรียกร้องยังไงก็ตาม!!

โดยทิ้งอนาคตของชาติให้จมบนกองขี้!! "

บ่ายวันนี้ได้รับโทรศัพท์จากอดิศักดิ์โทรจากลังกาวีรายงานผลการสำรวจตลาดในต่างแดนว่าบรรยากาศน่าลงทุนสินค้าเกษตรสหกรณ์สามารถเปิดตลาดได้อย่างแน่นอน เสี่ยอดิศักดิ์อยากชวนเพื่อนๆชาวผนส3ลงไปสำรวจพื้นที่จัดเป็น"โครงการลังกาวีโมเดล"สำหรับรุ่นเราในการทำธุรกิจร่วมสามารถถ่ายโอนสินค้ากลับมาขายบ้านเราได้ ฟังไปฟังมาก็ทำให้เคล้มไปเหมือนกัน แต่ก็น่าสนใจเหมือนกันในการทำธุรกิจต่อยอดต่างๆผมว่าใครพอมีแนวคิดและมีงบประมาณลองคุยกับอดิศักดิ์ดูน่าจะดีนะ ..คิดฮอดทุกคนเด้อ

เป็นเพื่อนกันคิดตังค์ได้อย่างไร

...ภรรยาสมชายที่แสนดีท้องแก่ไม่สามารถให้ความสุขสามีได้ ก็รู้สึกสงสารสามีที่ตนเองไม่สามารถให้ความสุขได้ จึงตัดสินใจให้เงินสามี 500 บาท พร้อมบอกสามีว่า

‘พี่สมชายเอาเงินนี่ไปเที่ยวโรงน้ำชาในอำเภอนะฉันอนุญาต’

...สมชายรับเงินมาด้วยความดีใจรีบเดินออกบ้านเดินตัวปลิว เดินมาระหว่างทางผ่านบ้านสมศรีเพื่อนภรรยาบ้านใกล้ๆกัน

สมศรี เอ่ย ถามว่า

‘จะรีบไปไหนละพี่ชายนี่ก็ใกล้จะมืดจะค่ำแล้ว’

สมชายรีบบอกไปว่า

‘ก็เมียข้าน่ะสิให้เงินมา 500 ให้ไปเที่ยวโรงน้ำชาในอำเภอ

เพราะเมียข้าท้องแก่แล้ว’

‘"อืม….ให้ตั้ง ’500 เลยเหรอ"…สมศรีทำหน้าครุ่นคิดสักครู่แล้วกระซิบเบาๆข้างหูสมชายว่า

“เอางี้ดีไหมฉันคิดพี่แค่ 200 มาหาความสุขกะข้าแทนดีไหมพี่”สมศรีเสนอตัว

สมชายเห็นว่าใกล้บ้านและไม่ต้องไปไกลเสียค่ารถค่าเรือแถมเสียตังแค่ 200

เหลือเงินกลับบ้านอีก ภรรยาคงดีใจที่ประหยัดไปได้หลายร้อย จึงตกลงใช้บริการของสมศรีเพื่อนภรรยา

เสร็จภาระกิจ..สมชายกลับบ้านมาบ้าน…ภรรยาเห็นก็แปลกใจว่าทำไมกลับมาไวนัก

ฝ่ายสามีจึงบอกไปว่า

“พี่ไม่ได้ไปอำเภอหรอก… พอดีผ่านบ้านนังศรีมานังศรีมันเสนอตัวเอาแค่ 200 เองพี่ก็เลยตกลงตามนั้นจะได้ไม่ต้องไปไกล จะได้รีบกลับมาดูแลน้องพี่ด้วย “สมชายพูดเอาใจภรรยา

ภรรยาได้ยินก็โมโหหน้าแดงทันที!

‘ชิชะ นังศรี ฉันจะไปตบมันเดี๋ยวนี้….’

สามีก็ตกใจว่ารีบห้ามคิดว่าภรรยาหึงหวงที่ได้เสียกับเพื่อนภรรยา

ภรรยารีบออกจากบ้านไปพร้อมบ่นพึมพัมว่า

"‘นังศรีนะนังศรี..มันเก็บเงินผัวกูได้ยังไงตั้ง 200 บาท ทีตอนมันท้องข้ายังให้ผัวมัน...ฟรีๆเลย เป็นเพื่อนกันคิดตังค์ได้ไงวะน่าเจ็บใจจริงๆ….."

(5555555)

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

ผมได้รับโทรศัพท์ของเสี่ยนมโต โคราช ปากช่อง จากลังกาวี เหมือนกับ Y2jaee ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ใหม่ แปลกและน่าลงทุน (ทั้งน๊าน) แต่..สิ่งที่กังวลในใจของผมก็คือ ข้อเท็จจริงและความเป็นไปได้ เงินทุนและทีมงาม ฯลฯ เรื่องนี้..ขอเสนอให้นำสู่ที่ประชุมสมัยสามัญของสภา ผนส.๓ นะครับ

แผนงานโครงการ "อุทัยธานีโมเดล" มีรายละเอียดหรือยังครับ หากมีความเป็นไปได้ขอให้บรรจุวาระในการประชุมสมัยสามัญ และขอให้ท่านประธานสภา เรียกประชุมสมาชิก ผนส.๓ ได้เลยครับท่าน (สาธุ..ขอให้เป็นตอนเย็นวันศุกร์ที่...สิงหาคม ๒๕๕๒ ด้วยเถิด)

ในคราวที่ประชุมชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทุกครั้งที่เจอเพื่อน ๆ ผู้จัดการ ผมได้ชักชวนเพื่อน ๆ ให้สมัครเรียน ผนส.รุ่น ๔ เพราะเป็นโครงการที่ดีเยี่ยมและเลิศที่สุด สด ใหม่ และทันยุคทันสมัยกว่า MINI MBA คงอีกไม่นาน ผนส.๓ จะได้ต้อนรับรุ่น ๔ แล้ว

คณะผู้นำสหกรณ์รุ่น 3 นัดประชุม ณ ครัวสหกรณ์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2552  เรื่องความคืบหน้าผลสรุปการไปลงพื้นที่ตรวจงานสนามสหกรณ์การเกษตรห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี  และที่ประชุมได้สรุปว่าข้อมูลยังไม่เพียงพอจึงต้องมีการหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยจะสรุปให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้   พร้อมกับแสดงความยินดีกับ คุณราตรี  ภูมิฐานนท์   ที่ได้เป็น
ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนา กรมส่งเสริมสหกรณ์  บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานเหมือนเดิม


ล้มแล้วเหยียบไม่ใช่วิสัยผู้นำ

ล้มแล้วเหยียบ

ฝรั่งมีสำนวนประโยคหนึ่งว่า “Add insult to injury” หมายถึงการเหยียบซ้ำ

พลาดแล้วถูกซ้ำเติมเป็นเรื่องเราต้องเคยเจอสักครั้งหนึ่ง

เคยไหมที่คุณขับรถฝ่าไฟแดง แล้วไม่ถูกตำรวจจับ และคนข้างๆ บอกประชดว่า “ขับรถเก่งจัง”

แต่ครั้นทำอย่างเดียวกันอีกครั้ง แล้วถูกตำรวจจับ จะได้รับคำซ้ำเติมว่า “บอกว่าอย่าฝ่าไฟแดง แล้วไง โดนใบสั่งจนได้”

ความผิดพลาดอาจเป็นความเสียหาย แต่ก็เป็นความเสียหายในระดับหนึ่ง การซ้ำเติมทำให้ความเสียหายนั้นสูงขึ้นกว่าเดิม และทำให้ปัญหานั้นแก้ไขยากขึ้น

มีตัวอย่างมากมายที่เมื่อเด็กสอบตก พ่อแม่ก็ดุด่าเด็กจนเด็กกลัว ทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด เสียอนาคตไปเลย

บางเหตุการณ์เกิดมานานหลายสิบปี ยังรื้อฟื้นขึ้นมา และยังสามารถโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในเรื่องที่จบไปนานแล้ว

บางคนติดนิสัยด่าคนที่ทำพลาด ตอกย้ำทุกครั้งที่ทำผิด และทุกครั้งที่คิดการใหม่ ด้วยประโยค “ทำไปทำไม เดี๋ยวก็คงผิดอย่างเดิมอีก”

ด้วย ‘กำลังใจ’ แบบนี้ ถึงไม่ทำผิด ก็คงต้องผิดสักวัน

ประโยคยอดนิยมคือ :

"บอกแล้วว่าอย่าทำๆ"

"เห็นมั้ย ฉันว่าแล้ว ผิดซะเมื่อไหร่"

"นึกแล้วเชียว"

"สมน้ำหน้า เตือนแล้วไม่ฟัง"

การกระหน่ำซ้ำคนที่ทำผิดพลาดไม่ใช่กุศโลบายที่ดี โดยเฉพาะในฐานะของผู้นำ

ด่าไปแล้วก็ไม่ช่วยให้ความผิดพลาดกลับคืนสู่สภาพเดิมได้

มองโลกในแง่ดีว่า ไม่มีใครอยากทำผิด ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี

ภาษิตฝรั่งว่า “Don't cry over spilt milk.”

ทำน้ำนมหกไปแล้วก็อย่าเสียเวลาคร่ำครวญกับมัน เสียเวลาเปล่า เพราะไม่มีทางที่จะนั่งยานเวลาย้อนกลับไปป้องกันเหตุการณ์นั้นได้

การเหยียบซ้ำก็เหมือนการถูกมีดบาดแล้วโรยเกลือซ้ำ บางครั้งอาจทำให้คนทำผิดพาลไม่ยอมเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น หรือแสดงออกด้วยการประชด ตั้งใจทำผิดซ้ำสองอีก

คนทำผิดส่วนใหญ่เรียนรู้จากความละอายใจมากกว่าจากคำด่า

มองโลกในแง่ดีคือเมื่อรู้จักให้อภัย เมื่อนั้นความผิดพลาดนั้นๆ ก็อาจคุ้มค่ากับความเสียหาย เพราะต่างคนต่างได้รับบทเรียน

เห็นภาพผู้ร่วมงานเพียง 12 ชีวิตที่ไปร่วมแสดงความยินดีกับคุณราตรี อยากให้มีอีก 28 ชีวิตให้ครบชั้น 40 คนจัง คิดถึงห้องเรียนและรอยยิ้มของพวกเราทุกคน สาว ๆ เข้ามาทักทายกันหน่อย

ผู้นำที่ดีไม่ควรทำ

คุณสมบัติผู้นำที่ด้อยมี 10 อย่าง คือ

1. หูเบา (เชื่อคนง่าย ขาดความยุติธรรม)

2. เข้าข้าง (ลำเอียงไปที่ตัวเองและพวกพ้อง)

3. วางโต (อวดรู้ อวดเก่ง เบ่งกล้าม ข่มขู่)

4. โง่งม (ไม่ยอมรับว่าตนเองผิด หลงตัวเอง หลงทาง ไม่ยอมปรับเปลี่ยน)

5. ซ่อนงาน (ไม่ยอมสานต่องานจากคนอื่น ทำให้งานไม่ต่อเนื่องหยุดชะงัก)

6. ผลาญเงิน (ไม่รู้จักการประหยัด ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย)

7. เดินผิด (ยิ่งเดิน ยิ่งไกล ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งห่างหาย คนเตือนก็ไม่รับฟัง)

8. จิตฟุ้ง (ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หวั่นไหวตามสถานการณ์)

9. มุ่งได้ (เอาแต่ประโยชน์ ไม่ยอมเสียสละ)

10. ขายเพื่อน (เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น)

คุณสมบัติผู้นำที่ดี

ผู้นำที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร

1.ความรู้ (Knowledge)

การเป็นผู้นำนั้น ความรู้เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ความรู้ในที่นี้มิได้หมายถึงเฉพาะความรู้

เกี่ยวกับงานในหน้าที่เท่านั้น หากแต่รวมถึงการใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมในด้านอื่นๆ ด้วย การจะเป็นผู้นำที่ดี หัวหน้างานจึงต้องเป็นผู้รอบรู้ ยิ่งรอบรู้มากเพียงใด ฐานะแห่งความเป็นผู้นำก็จะยิ่งมั่นคงมากขึ้นเพียงนั้น

2.ความริเริ่ม (Initiative)

ความริเริ่ม คือ ความสามารถที่จะปฏิบัติสิ่งหนึ่งสิ่งใดในขอบเขตอำนาจหน้าที่ได้ด้วย

ตนเอง โดยไม่ต้องคอยคำสั่ง หรือความสามารถแสดงความคิดเห็นที่จะแก้ไขสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้ดีขึ้น หรือเจริญขึ้นได้ด้วยตนเอง

ความริเริ่มจะเจริญงอกงามได้ หัวหน้างานจะต้องมีความกระตือรือร้น คือมีใจจดจ่องานดี มีความเอาใจใส่ต่อหน้าที่ มีพลังใจที่ต้องการความสำเร็จอยู่เบื้องหน้า

3.มีความกล้าหาญและความเด็ดขาด ( Courage and firmness)

ผู้นำที่ดีจะต้องไม่กลัวต่ออันตราย ความยากลำบาก หรือความเจ็บปวดใดๆ ทั้งทางกาย

วาจา และใจ

ผู้นำที่มีความกล้าหาญ จะช่วยให้สามารถผจญต่องานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้

นอกจากความกล้าหาญแล้ว ความเด็ดขาดก็เป็นลักษณะอันหนึ่งที่จะต้องทำให้เกิดมีขึ้น

ในตัวของผู้นำเองต้องอยู่ในลักษณะของการ “กล้าได้กล้าเสีย” ด้วย

4.การมีมนุษยสัมพันธ์ (Human relations)

ผู้นำที่ดีจะต้องรู้จักประสานความคิด ประสานประโยชน์สามารถทำงานร่วมกับคนทุกเพศ

ทุกวัย ทุกระดับการศึกษาได้ ผู้นำที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีจะช่วยให้ปัญหาใหญ่เป็นปัญหาเล็กได้

5.มีความยุติธรรมและซื่อสัตย์สุจริต ( Fairness and Honesty)

ผู้นำที่ดีจะต้องอาศัยหลักของความถูกต้อง หลักแห่งเหตุผลและความซื่อสัตย์สุจริต

ต่อตนเองและผู้อื่น เป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยสั่งการ หรือปฏิบัติงานด้วยจิตที่ปราศจากอคติ ปราศจากความลำเอียง ไม่เล่นพรรคเล่นพวก

6.มีความอดทน (Patience)

ความอดทน จะเป็นพลังอันหนึ่งที่จะผลักดันงานให้ไปสู่จุดหมายปลายทางได้ อย่างแท้จริง

7.มีความตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตูม ( Alertness )

ความตื่นตัว หมายถึง ความระมัดระวัง ความสุขุมรอบคอบ ความไม่ประมาท ไม่ยืดยาดขาดความกระฉับกระเฉง มีความฉับไวในการปฏิบัติงานทันต่อเหตุการณ์

ความตื่นตัวเป็นลักษณะที่แสดงออกทางกาย แต่การไม่ตื่นตูม เป็นพลังทางจิตที่จะหยุดคิดไตร่ตรองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น รู้จักใช้ดุลยพินิจที่จะพิจารณาสิ่งต่างๆ หรือเหตุต่างๆได้อย่างถูกต้อง

พูดง่ายๆ ผู้นำที่ดีจะต้องรู้จักควบคุมตัวเองนั่นเอง (Self control)

8.มีความภักดี (Loyalty)

การเป็นผู้นำหรือหัวหน้าที่ดีนั้น จำเป็นต้องมีความจงรักภักดีต่อหมู่คณะ ต่อส่วนรวมและต่อองค์การ ความภักดีนี้ จะช่วยให้หัวหน้าได้รับความไว้วางใจ และปกป้องภัยอันตรายในทุกทิศได้เป็นอย่างดี

9. มีความสงบเสงี่ยมไม่ถือตัว (Modesty)

ผู้นำที่ดีจะต้องๆไม่หยิ่งยโส ไม่จองหอง ไม่วางอำนาจ และไม่ภูมิใจในสิ่งที่ไร้เหตุผล

ความสงบเสงี่ยมนี้ ถ้ามีอยู่ในหัวหน้างานคนใดแล้ว ก็จะทำให้ลูกน้องมีความนับถือ และให้ความร่วมมือเสมอ

เสียดายที่ไม่ได้ไป เห็นภาพผู้ร่วมงานแล้วอิจฉาจังเลย สำหรับโครงการที่จะจัดบอกล่วงหน้าหน่อย จะได้เตรียมตัว ช่วงนี้กำลังปิดบัญชี ปิดเสร็จคงจะมีเวลาว่าง เข้าบล๊อก และร่วมงาน

สวัสดีครับ เพื่อน ผนส.รุ่น 3 และท่านผู้อ่านบล๊อคทุกท่าน

นานๆจะขึ้นมาโชว์ สักครั้ง ขอแจ้งว่ายังอยู่ครับ สบายดี แต่ก็อยู่เบื้องหลัง คอยอ่านความเคลื่อนไหว ของชาวผนส.ทุกท่าน คิดถึงห้องเรียน และเพื่อนๆทุกคน ขณะนี้ที่สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด ก็อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดการปิดบัญชีสิ้นปีบัญชี ให้ผู้สอบบัญชีเข้าตรวจประมาณเดือน สิงหาคม 2552 นี้ ประชุมใหญ่ประมาณเดือนตุลาคม คาดว่าปีนี้ส่วนเหลื่อมจากการทำธุรกิจ(กำไร) ประมาณ 20 กว่าล้านลดลงจากปีที่แล้ว และช่วงนี้ผมต้องเดินทางไปต่างจังหวัดตลอด เพื่อติดต่อประสานงานด้านธุรกิจ และการก่อสร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ที่ท่าแซะงานยุ่งตลอดปี

ขณะนี้ผม อยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช มาประสานงานกับบริษัทเปารงค์ ปาล์มออย์ลผู้ผลิตพันธุ์ปาล์มน้ำมัน กลับวันที่ 22 ก.ค.2552 สวัสดีครับ

สวัสดีค่ะ เพื่อน ผนส.รุ่น 3

เห็นรูปแล้วคิดถึงเพื่อนๆในห้องเรียน โดยเฉพาะลุงพิณน่ารักมากให้ความร่วมมือตลอด ถ้าจัดครั้งต่อไปขอเป็นวันศุกร์นะคะแล้วแจ้งล่วงหน้าด้วยค่ะ

ดีใจจังเลยมีหนุ่มปักษ์ใต้ เข้ามาเยียมเยือนใน blog แล้ว แถมด้วยสาวอ๋อ พร่งนี้ (23 ก.ค.) จะไปนอนค้างที่อุทัยธานี เพราะจะต้องไปช่วยปิดบัญชีของสหกรณ์การเกษตรสว่างอารมณ์ จำกัด ห่างจากบ้านไร่ร่วม 100 กิโล คงยังไม่มีเวลาพอที่จะแวะไป v24 อีกอย่างต้องขับรถไปเอง เพราะคนขับรถขอลาหยุด คนที่สัญญาว่าถ้าบอกล่วงหน้า คราวหน้ามาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะถ้านัดวันศุกร์จะมาด้วย จะถามว่าถ้าไม่มาจะให้ .....จะให้......อะไรดีเอ่ย โปรดติดตามตอนต่อไป คิดถึงนะ

อยากชวนเพื่อนลองแวะเข้าไปชม website www.blacksheep.co.th ซึ่งเป็นเพื่อนพี่เอง เขาเป็นคนที่มีความคิดแกะดำดี บทความก็น่าสนใจ โดยเฉพาะน้องแจ้ หรือ กำนัน น่าจะได้มุมมองอะไร ๆ ได้บ้าง

สวัสดีครับอาจารย์ และพี่ ผนส. ทุกท่าน

ผมขอแจ้งข่าวกิจกรรมที่พี่ๆ มอบห้องสมุดโรงเรียนวัดคลองขุนศรี  วันก่อนที่ได้ส่งน้องอั้มไปถ่ายทำข่าว และสัมภาษณ์ท่านประธานรุ่น นั้น  ข่าวกิจกรรม จะออกอากาศทางช่อง 11 (NBT) วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2552  เวลา 15.15 น. ในรายการ ข่าวดีประเทศไทย ครับ ถ้ามีโอกาสก็ติดตามชมได้นะครับ  และที่สำคัญพี่ไพรพนา อย่าลืมชมและบอกต่อที่โรงเรียนด้วยครับ  (ถ้าไม่ติดถ่ายทอดสดออกแน่นนอนครับ)
ภูมินทร์

สวัสดีคะอาจารย์ และเพื่อน ผสน.3

วันนี้ได้มีเวลาว่างเข้ามาเยี่ยมเยือนใน blog เพราะไม่ว่างเลย แต่ก็คิดถึง

เพื่อนๆทุกคน เสียดายที่ไม่ได้มาร่วมแสดงความยินดีกับพี่ราตรี งานต่อไปจะต้องมาแน่นอน

คุณอดิศักดิ์ได้โทรมาคุยว่าจะชวนรุ่นเราไปเกาะลังกาวี จัดเมื่อไรบอกด้วยนะจ้ะจะไปด้วย

ไม่ได้เข้าblogมาหลายวัน เข้ามาวันนี้ดีใจมากๆที่เพื่อนๆชาวผนส.3เข้าblogกันมากันอย่างอบอุ่นทั้งสุทิศท่านไกรฤกษ์น้องอ๋อน้องจิ๋นของพี่พิณพี่ขนิษฐาที่ห่างเหินไปนาน ดูๆแล้วรุ่น3ของเราต้องเหนียวแน่นตลอดไป..ฟันธง สอบถามพวกๆเราหลายๆคนก็เข้าblog มาอ่านกันเยอะแต่ไม่รู้จะ postอะไร อย่างไรก็ขอให้เข้ามาทักทายสักหน่อยก็ยังดีนะ แสดงตนหน่อยเหมือนส่งการบ้านอาจารย์นั่นแหละ และต้องขอโทษพวกเราด้วยที่นัดเจอกันอย่างรีบร้อนเนื่องจากคณะทำงานอยู่ในกรุงเทพกันหลายคนและต้องรายงานผลการสำรวจงานที่ได้รับมอบหมายจากท่านประธาน ไม่ต้องน้อยใจนะต้องนัดพวกเราเจอกันแบบเต็มรุ่นแน่นอนblack to schoolช่วงรับผนส.4ดีไหมขอความเห็นพวกเราหน่อย...แค่นี้ก่อนนะดึกมากแล้ว...แล้วเจอกัน... ฝันดีมีสุขเพื่อนๆพี่น้องชาวผนส.ทุกท่าน

สวัสดีค่ะ เพื่อน ผนส.รุ่น 3

เห็นด้วยกับพี่ต้อยค่ะ เรื่องจะชวนรุ่นเราไปเกาะลังกาวี เพราะพี่นกบอกว่าสวยมาก และค่าใช้จ่ายก็ไม่สูงมาก ช่วงนี้กำนันบ้านนอกหายไปไหนคิดถึงนะ

เมื่อคืนนี้ได้ดูรายการเจาะใจบางส่วน รู้สึกดีใจกับโครงการ ของมูลนิธิยุวพัฒน์ ที่ทำหนังโฆษณาชุด 1 คนไทย ว.วชิรเมธี คนไทย พ่อผาย ดูแล้วก้คิดว่าถ้าเราทำหน้าที่ของแต่ละคนให้ถูกต้องก็จะช่วยประเทศได้ส่วนหนึ่ง ช่วยเผยแพร่หนังโฆษณาทั้ง 2 ชุดนี้ด้วยนะคะ

ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐี (แจ้)

ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก : วอร์เรน บัพเฟตต์ ( Warren Buffet)ที่อาจารย์จีระเคยเขียนถึงแนวทางการทำงานและการวิเคราะห์หุ้น วันนี้ได้อ่านเกร็ดชีวิตและการปฏิบัติตัวการใช้ชีวิตประจำวันอ่านแล้วก็น่าชื่นชมนึกไม่ถึงว่ามหาเศรษฐีอันดับต้นๆก็ยังยึดถือแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างน่าศรัทธา ลองอ่านดู

มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์

มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์)

ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา

1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบและปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!

2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์

3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮาที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม

4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน

5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ

7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ

กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย

กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1

8) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์

9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิลเกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์

10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า : จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง

ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง

มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม 1 มื้อ เท่ากัน

มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน

มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอนห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน

มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน

...แต่อ่านแล้วก็ยังอยากเป็นเศรษฐีอยู่ดีนะ ชีวิตในสังคมปัจจุบันยึดถือเงินเป็นใหญ่กันทั้งนั้นและก็สามารถทำอะไรก็ได้ ขนาดตัวไม่รู้อยู่ที่ไหนยังจัดงานวันเกิดได้อย่างยิ่งใหญ่คนจะมางานเป็นหมื่นเป็นแสนแถมนิมนต์พระมาทำพิธีทั่สารทิศมาได้ก็แล้วกัน (happy birth day taksin)เหมือนที่ ภาษิตจีนว่าไว้ว่ามีเงินซะอย่างใช้ผีโม่แป้งได้เลย นี่แหละอิทธิพลของเงินๆๆๆๆๆ จริงไหมเพื่อนๆชาวผนส3ที่รักทุกท่าน..ราตรีสวัสดิ์

สวัสดี ผนส3 ทุกท่าน

คิดถึงทุกคนเลย อ่านทุกวันแต่ไม่เคยพิมพ์ลงblog แบบว่าชอบอ่านมากกว่า ข้าวโพดหวานปีนี้ไม่ค่อยสู้ดีเลย ฝนแล้งมาสองเดือนแล้ว จะไปทำมาหากินอะไรดีพิ่เอ๋ย สงสารสมาชิกสหกรณ์ ฝนแล้ง แถมหาที่ขายก็ลำบาก มีใครว่างบ้าง...มาช่วยทำให้ฝนตกหน่อย

เตรียมแมวไว้...อาทิตย์หน้าจะไปช่วยแห่นางแมวขอฝนให้(น้องฝนแถวๆปิ่นเกล้านะจะท่านอภิสิทธิ์)

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

สวัสดี พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผนส.๓ คร๊าบ....อ่าน Blog วันนี้แล้ว รู้สึกสดชื่น เหมือนยืนอยู่บนเกาะลังกาวี ที่มีหลาย ๆ คน เข้ามาทักทาย แสดงว่า....หมู่เฮาเริ่มจะคึดฮอดกันอย่างแฮงแล้วเด้อ

วันที่ ๒๓-๒๕ กรกฎาคม ที่ผ่านมา ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดชัยภูมิ จำกัด ได้จัดฝึกอบอม หลักสูตร"การพัฒนาทีมงาน พัฒนาศักยภาพสหกรณ์" Walk Rally ณ เข้าค้อ รีสอร์ท จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีฝ่ายกรรมการ และฝ่ายจัดการ จำนวน ๒๒๔ คนจากสหกรณ์สมาชิกเข้าร่วมฝึกอบรม ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี Happy ทุกคน ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก คือ"ภาวะผู้นำ"

ความในใจของหลินฮุ่ยและช่วงช่วง(จากหลินปิง)

แพนด้า แพนด้า แพนด้า พ่องจายยยยยยยยยยยย

เกิดมาเป็นสัตว์เลือดอุ่น ...... บ้านอยู่ทางโน้น จีนแผ่นดินใหญ่

เติบโตเพราะกินไผ่ตง ...... เขาจับมาส่ง ไม่ได้ผลักไส

มาอยู่เชียงใหม่กับผัว ........อยู่กัน 2 ตัว มีลูกไม่ทันใช้

ก็มันไม่มีอารมณ์ ......... เสพสมบ่มิสม จับนมจับไข่

ให้กร๊วบกันโชว์คนอื่น .....เห็นว่าเราหื่น กันนักใช่ไหม

บอกแล้วไม่มีอารมณ์ .......ผู้คนชื่นชม สมเป็น นิสัย

เห็นทีต้องผสมเทียม......ถ่ายผ่านเพนเที่ยม โพสต์โชว์เว๊บไซด์

ได้ลูกออกมา 1 ตัว.....ทั้งที่ไม่มีผัว หนูกลัวเป็นไข้

ความสาวยังบริสุทธิ์ ....... จะเอาหน้ามุดไปไว้ที่ไหน

1 อาทิตย์ ลูกโตหูดำ ...... มันไม่มีหะหรำ และไม่มีไข่

เป็นตัวเมีย ไม่มีชื่อ .......หน้าตาซื่อ น่ารักกว่าไก่

อยากมีบ้าน 60 ล้าน (บาท) ..... คนไทยประทานให้หนูได้ไหม

สื่อช่วยประโคมกันหน่อย.....ออกข่าวบ่อยๆ เด็กๆ ดูได้

แต่หนูสงสารพี่ช้าง .....ที่เขาอ้างว้าง ไม่ค่อยมีใคร

หนูเกิดมาจากเมืองจีน ......อยากกลับคืนถิ่น ส่งหนูได้ไหม

พี่ช้างมากมายหลายเชือก......ต้องนอนเข้าเฝือก รอคนเยี่ยมไข้

บ้านหนู ไม่ต้องสร้างหรอก .... หนูมันหมีนอก ไม่ใช่หมีไทย

หนูมีบ้านจริงของหนู ...... พวกคุณมองดู ว่าจริงใช่ไหม

ใครๆก็รักบ้านเกิด.....ส่งหนูกลับเถิด นะจ๊ะคนไทย

อยากให้นำเงินทั้งหมด.....เงินแห้งเงินสดให้พังกำไล

พี่เขาต้องการกว่าหนู ...... อยากให้คิดดู ถ้าคิดกันได้

พี่เขาช่วยคนไทยมานาน ...... ปกป้องเรือนบ้าน ให้อยู่อาศัย

ยามรบพี่เขาไม่หวั่น .......ยามสงบ พี่เขานั้น ช่วยแบกต้นไม้

เขาอยู่กับคุณตลอด......มาแต่อ้อนแต่ออก จริงไหมคนไทย

สำนึกรักบ้านเกิดบ้าง..... อย่าให้อายช้างอายหมีที่ไหน

หวังว่าคงจะยินดี.....หลินฮุ่ยวอนพี่ช่วยเหลือช้างไทย

วอนน้องลุงป้าอาน้า ขอเหอะพี่ขา แพนด้าพ่องจายยยยยยยย

การจูงใจของผู้จัดการมือโปร .

ในการอบรมผู้บริหารหลักสูตรทักษะผู้นำ (Leadership Skills) ของ TheCoach หัวข้อเรื่องของการจูงใจ หรือที่เราเรียกทับศัพท์ว่า Motivation ในตอนท้ายของเนื้อหาผู้เข้ารับการอบรมจะยกประสบการณ์การจูงใจที่ตนเองเคยใช้ได้ผล หรือเคยได้รับจากหัวหน้าที่จูงใจเก่ง เราลองมาดูตัวอย่างการจูงใจเหล่านั้นกัน

กรณีที่หนึ่งหัวหน้าปกติเป็นคนจุกจิกกับเขามาก แต่กลับไปชมเชยพนักงานลับหลัง แล้วมีเพื่อนร่วมงานมาบอกกับเจ้าตัว ทำให้เขามีกำลังใจและรู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างมาก จนกระทั่งทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่

กรณีที่สองผู้เล่าเคยทำงานในสำนักงานเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งมีหัวหน้าชาวญี่ปุ่น หัวหน้าเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลาสองสัปดาห์ ทำให้พนักงานคนนั้นต้องทำงานทุกอย่าง ซึ่งทำให้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า อีกทั้งเมื่อหัวหน้ากลับมาก็กล่าวชมเชยว่าทำงานด้วยความเรียบร้อย

กรณีที่สามที่บริษัทแอมเวย์ประเทศไทย สำหรับการทำงานวันแรกนั้นพนักงานประจำทุกคนจะได้รับแจกันดอกไม้ต้อนรับพร้อมกับโน๊ตใบเล็กๆจากผู้จัดการใหญ่แสดงความยินดีสู่ครอบครัวแอมเวย์

กรณีที่สี่ บริษัทข้ามชาติสองแห่งเกิดการรวมตัวกันจากต่างประเทศ ทำให้พนักงานต้องย้ายสำนักงานมารวมกัน ในวันแรกที่พนักงานจากอีกแห่งหนึ่งมาทำงานที่สำนักงานของอีกบริษัทอีกแห่ง พนักงานที่เป็นเจ้าของสำนักงานเดิมมีการคล้องพวงมาลัยต้อนรับเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีมาก

กรณีที่ห้าพนักงานคนหนึ่งในวันเกิดต้องไปจัดงานออกบู๊ททำงานจนดึก มีน้องคนหนึ่งบอกว่าอยากทานไอสครีมที่ร้านสเวนเซ็น เขาจึงพาไปทาน ปรากฏว่าเป็น Surprise Party โดยไปพบหัวหน้านั่งคอยอยู่พร้อมเค็กวันเกิดและเพื่อนๆอีกหลายคน คืนนั้นเธอทำงานจนถึงตีหนึ่งอย่างมีความสุข

กรณีที่หกผู้จัดการธนาคารสาขาแห่งหนึ่งชมเชยหัวหน้าซึ่งเป็นผู้จัดการเขตว่า หัวหน้าทำการจัดเตรียมข้อมูลทุกอย่างให้ก่อนการประชุม มีการชมเชยคนที่มีผลงานดี และกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน มีการออกเยี่ยมทุกสาขาไม่ว่าใกล้หรือไกล มีการไปให้กำลังใจ สิ้นปีก็มีการประชุมพนักงานและกล่าวชมเชย นอกจากนี้ในวาระปีใหม่ก็ซื้อเสื้อให้ผู้จัดการคนละตัว โดยเลือกสีตามความชอบของแต่ละคน ซึ่งทำให้ผู้ได้รับรู้สึกว่าหัวหน้าแคร์จริงๆ มิใช่สักว่าแต่ซื้อให้สีเดียวกันหมดทุกคน

กรณีที่เจ็ดผู้จัดการธนาคารสาขาแห่งหนึ่งมีแฟ้มรายละเอียดลูกน้องทุกคนว่าใครเกิดวันไหนมีข้อมูลอะไรบ้าง เมื่อถึงวันเกิดคนใด ผู้จัดการจะรีบมาที่สาขาตั้งแต่เช้า แล้วมอบของขวัญวันเกิดต่อหน้าเพื่อนๆ ซึ่งราคาต่อชิ้นก็ไม่สูงมากไม่เกินหนึ่งร้อยบาท แต่ความรู้สึกต่างหากที่พนักงานยินดี มีการชมเชยต่อหน้าเพื่อนๆ มีรางวัลใหญ่ช่วงปีใหม่เช่นทีวี พัดลม สำหรับการจับสลาก

กรณีที่แปดหัวหน้าซึ่งเป็นผู้จัดการเขตของธนาคารแห่งหนึ่งมีความเห็นใจและรู้ใจพนักงาน มีความเห็นใจในความทุกข์ยากทุกอย่าง เช่นเขตที่มีนํ้าท่วมบ่อย เมื่อนํ้าท่วมผู้จัดการเขตจะโทรหาผู้จัดการสาขาด้วยความเป็นห่วง และให้คำปรึกษาเมื่อตัวเลขการขายไม่ถึง บางเดือนยอดตกก็ให้กำลังใจไม่ซํ้าเติม ในกรณีต้องการกู้เงินสวัสดิการก็ให้คำปรึกษาแนะนำอย่างดี หากสินเชื่อรายไกลก็ลงไปพื้นที่โดยไม่ย่อท้อ ให้กำลังใจโดยตลอด

กรณีที่เก้าผู้จัดการธนาคารสาขาอีกคนเล่าว่า ตอนเขาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ และทำงานมาครบยี่สิบปี ทางธนาคารมีแหวนรุ่นครบรอบยี่สิบปีมามอบให้ หากเป็นเจ้านายคนอื่นๆ ก็เพียงแค่นำเอกสารและแหวนมาให้เท่านั้น แต่สำหรับผู้จัดการคนนี้ท่านเอามาให้ด้วยตนเองโดยเขียนที่หน้าจดหมายนำส่งว่า ““ขอให้รักษาความดีไว้ดุจเกลือรักษาความเค็ม ตลอดไป” พร้อมทั้งกล่าวชมในขณะที่แตะที่หัวไหล่เบาๆพร้อมทั้งพูดว่า “นี่คือแหวนที่ทำงานมาครบยี่สิบปี สำหรับคุณนี่อนาคตของคุณนี่ผู้จัดการสาขาแน่นอน”

กรณีที่สิบผู้จัดการธนาคารสาขาคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีพนักงานคนหนึ่งแต่ก่อนผลงานก็ไม่ดีผู้จัดการจึงให้ความสนใจเขามากขึ้น พอทราบมาว่าคุณพ่อเขาป่วยก็จะถามถึง แสดงความเข้าอกเข้าใจ ตอนแรกจากพนักงานไม่มีผลงานเรื่องเงินฝากมาเลย ก็แปรเปลี่ยนไปเป็นพนักงานที่ดีเด่นอันดับสาม ทำให้ผลงานสาขาดีเด่นเกิดขึ้นได้

ทั้งหมดที่เล่ามาก็เป็นตัวอย่างของจริงที่เกิดขึ้นมาในบ้านเรา ผมหวังว่ามันคงเป็นประโยชน์ ข้อควรสังเกตุก็คือ ลางเนื้อชอบลางยา บางคนชอบวิธีนี้ในขณะที่อีกคนอาจจะไม่ชอบ หน้าที่ของผู้บริหารก็คือสังเกตุและมีเมนูหลายๆวิธีแล้วลองประยุกต์ใช้ดู การจูงใจไม่ยากหรอกครับ หากเราใส่ใจ

...ลองจินตนาการว่ามีธนาคารแห่งหนึ่งโอนเงินเข้าบัญชีให้เราทุกเช้า เป็นเงิน 86,400 บาท

...ไม่มีการยกยอดคงเหลือไปวันรุ่งขึ้น ทุกตอนเย็นจะลบยอดคงเหลือทั้งหมดที่เราไม่ใช้ระหว่างวัน

แล้วคุณจะทำอย่างไร? แน่นอนทีสุดเราจะต้องถอนออกมาทุกบาททุกสตางค์ใช่ไหม????

พวกเราทุกคนมีธนาคารอย่างนี้เหมือนกันทุกคน ธนาคารแห่งนี้ชื่อว่าธนาคาร “เวลา” มันจะโอนเวลาเข้าบัญชีให้เราทุกวันวันละ 86,400 วินาที

... ทุกคืนมันจะล้างบัญชีถือว่าขาดทุนตามจำนวนที่คุณพลาดโอกาสทีจะลงทุนในสิ่งดีๆ

...มันไม่สะสมยอดคงเหลือ ไม่ให้เบิกเกินบัญชี ในแต่ละวันจะเปิดบัญชีใหม่ให้เรา

ทุกค่ำคืนจะลบยอดคงเหลือของทั้งวันออกจนหมด

...ถ้าเราเสียโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ระหว่างวัน ผลขาดทุนเป็นของเราไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้ ไม่มีการถอนของวัน “พรุ่งนี้”มาใช้ได้ เราต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันด้วยยอดเงินฝากของวันนี้ ให้ลงทุนจากเงินฝากเหล่านี้เพื่อได้ผลตอบแทนสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสุขภาพ ความสุข และ ความสำเร็จ นาฬิกากำลังเดิน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

...เวลาไม่เคยคอยใครแม้สักคนเดียว เมื่อวานเป็นอดีต พรุ่งนี้ยังยากทีจะอธิบาย วันนี้จึงเป็นของขวัญจากเวลา

.. y2jaee..

"อาจารย์คะตลาดข้าวอินทรีย์มีแนวโน้มเป็นอย่างไรบ้างคะ” ป้าเครือ(สาวน้อยจากสหกรณ์สุรินทร์)ถามอาจารย์ในห้องเรียนผนส.3

...ผมนั่งฟังยังงงงงงวยงวยอยู่นึกอยู่ในใจ ข้าวอินทรีย์เป็นอย่างไรวะ หรือป้าเครือแกจะปลูกขายให้พวกเลี้ยงนกอินทรีย์หรือไง คงจะต้องส่งไปขายสหรัฐอเมริกาแน่เลยเพราะมีนกอินทรีย์เยอะ ฟังแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เพราะเรามาจากสหกรณ์ออมทรัพย์(กู้ทรัพย์)

..ต่อมาได้ยินนักวิชาการเกษตรพูดถึง “กลยุทธ์ตลาดข้าวอินทรีย์”ถึงได้โป๊ะเชะ(แบบอาจารย์จีระ) " ข้าวอินทรีย์" จัดอยู่ในกลุ่มอาหารปลอดภัยที่สังคมผู้บริโภคมีความต้องการสูง รวมไปถึงกลุ่มผู้ผลิตที่ต้องมีความตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม มากกว่าใช้กำลังภายในผลักดันราคา

..กลยุทธ์ที่สำคัญในการพัฒนากลุ่มเกษตรกรข้าวอินทรีย์ ต้องประชาสัมพันธ์ต่อผู้บริโภคภายในประเทศให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสร้างความเชื่อมั่นและระบบมาตราฐานตรวจสอบสินค้า

..สร้างระบบตลาดเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้จำหน่ายได้ราคาที่สูงกว่าสินค้าเกษตรโดยทั่วๆไป

..สร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรข้าวอินทรีย์ด้วยระบบสหกรณ์โดยรัฐต้องสนับสนุนเงินช่วยเหลือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพรวมทั้งการส่งเสริมการผลิตโดยเน้นเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก

..พัฒนาหน่วยงานรับรองมาตราฐานเกษตรอินทรีย์

..และที่สำคัญต้องพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต เช่น พันธุ์ข้าว ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ ตลอดจนงานวิจัยเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์

เพื่อสร้างปัจจัยร่วมให้เกษตรอินทรีย์เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน..ใช่ไหมป้าเครือ....

สวัสดีคะ เพื่อนๆ ผนส.3

เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสต้อนรับคุณบุญตรงและคณะจำนวน 11 คน จากเชียงรายซึึ่งได้เดินทางมาดูงานหลายแห่ง และได้มาดูการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัดด้วยแต่เสียดายที่มาถึงเวลา 17.30น.เลยไม่ได้นำชมทั่วถึง กรรมการสกก.เมืองเชียงรายสนใจจะผลิตปุ๋ยมาก ต้องขอชื่นชมผู้จัดการบุญตรงที่มีความกระตือรือร้นที่จะขยายงานเพื่อเพิ่มรายได้ ทั้งๆที่ธุรกิจมากอยู่แล้ว ช่วงเย็นทางคณะไปพักที่โคราช ก็มีรุ่นพี่รุ่น 2คือคุณธญาพาไปท่องราตรี ดีใจมากที่เพื่อนได้แวะมาเยี่ยม

สวัสดีคะ ทุกๆท่านผู้นำผนส.3

เห้นรูปวันที14แล้วคิดถึงวันเก่าๆแก่ๆมากเข้าblogอ่านเห็นมีเพื่อนๆพูดถึงทักทายกันก็มีความสุขแล้วอยากจะแสดงความคิดเห็นที่ถูกพาดพิงความชำนานด้านการพิมพิ์ยังไม่เกิดเป็นเพราะเราไช้คนอื่นมากเกินไป เช้าวันนี้ถูกอำ คูณบุญตงบอกรออยู่สำนักงานฯพี่อยูไหน ทั้งๆที่อยู่ห่างจากป้าเครือ 30 กม( เหมือนกำนันเมืองสุพรรน) บอกให้มาหาไม่ยอมจะรีบไปดูงานการทำนำดื่ม ไม่มาดูการผลิตข้าวอินทรีย์ ส่วนคุณแจ้ป้าเครือยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องการประกันราคาข้าวราคาเขาออกมาแล้วจะจริงหรือไก่กาคะ

ขณะนี้ป้ากำลังหาข้อมูลลูกค้าและคู่แข่งขันเพราะกลัวว่า"หากท่านไม่มุ่งหาข้อมูลข้อมูลเหล่านั้นจะวกมาจัดการท่าน"

สวัสดีคะ ทุกๆท่านผู้นำผนส.3คิดถึงเพื่อน

ผู้ชายคนนึงอยากแต่งงาน

แต่ไม่รู้จะเลือกใครดีระหว่างผู้หญิง 3 คน

เขาเลยให้ของขวัญทั้ง 3 คนเป็นเงินสดคนละ 5,000 เหรียญ

แล้วดูว่าแ ต่ละคนจะทำอะไรกับเงินที่ให้ไป

คนแรก เอาไปใช้เรื่องแต่งตัวหมดเลย

เธอเข้าร้านเสริมสวยทำผมใหม่

แต่งหน้าใหม่ ซื้อชุดสวยๆ ใหม่ใส่

เพราะเธอรักเขามาก

เขาประทับใจเธอมาก

คนที่สอง ไปซื้อของใช้ผู้ชายให้เขา

เธอซื้อไม้กอล์ฟใหม่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์

และเสื้อผ้าแพงๆ ให้เขา

ตอนเธอให้ของขวัญเขา

เธอบอกว่าเธอใช้เงินทั้งหมดเพื่อเขาคนเดียว

เพราะเธอรักเขา

เขาก็ประทับใจอีก

คนที่สาม เอาเงินไปลงทุน ในตลาดหุ้น

ได้เงินมาหลายเท่า

เธอคืนเงิน 5,000 เหรียญแก่เขา

และลงทุนต่อโดยใช้ชื่อร่วม

เธอบอกเขาว่าเธออยากเก็บเงินไว้เพื่ออนาคตสำหรับเธอและเขา

เพราะเธอรักเขามาก

เขาประทับใจเป็นที่สุด

ชายหนุ่มคิดอยู่นานเกี่ยวกับวิธีใช้เงินของผู้หญิงแต่ละคน

และแล้วเขาก็แต่งงานกับคน....

**** ที่ปอดใหญ่ที่สุด....****

ผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละ รู้ไว้ซะ

ถึงกำนันบ้านนอก (พี่แจ้)

คห.ที่899อ่านเรื่องแต่งงานแล้วยังไม่เข้าใจคำตอบที่ว่า "และแล้วเขาก็แต่งงานกับคน"****ที่ปอดใหญ่ที่สุด****ช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วย หรือว่า"ปอด"แปลเป็นอวัยวะอย่างอื่นได้อีกหรือเปล่า ขอบคุณครับ.... y2jaee

ปล.บิ๊กอู๊ดช่วยวิเคราะห์ด้วย

สวัสดีคะ เพื่อนๆ พี่ๆ ผนส.3

ได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมกับ รศ.ดร.จุฑาทิพย์ ซึ่งได้กล่าวถึงการร่วมมือร่วมใจของขบวนการสหกรณ์ในการผลิตข้าวหอมมะลิสหกรณ์ไทยจนเกิดBrand ข้าวเกิดบุญ

เป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะมีการรวมตัวกันถึง 16 สหกรณ์และมีพี่สาวผนส.3ถึง 2 ท่าน คือพี่ต้อยและพี่เครือ อ่านตรงนี้แล้วพี่แจ้...มีโจทย์ต้องทำต่อนะคะ

12 บัญญัติแห่งความมั่งคั่ง

12 บัญญัติแห่งความมั่งคั่ง

...

นิตยสารสรรสาระ Reader's Digest มิถุนายน 2552 ฉบับ 06/09 หน้า 153 ตีพิมพ์เรื่อง "บัญญัติ 12 ประการแห่งความมั่งคั่ง" จาก 'The Richest Man in Town'

แปลเป็นภาษาไทยคือ เรื่อง "คนที่รวยที่สุดในเมือง" เขียนโดยอาจารย์ W. Randall Jones. เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง โดยจะขยายความเข้าไป เนื่องจากต้นฉบับมีแต่หัวข้อครับ

...

(1). ถ้าหาเงินเพื่อให้ได้เงิน คุณจะไม่มีเงิน

•หัวข้อนี้ฟังเหมือนพูดให้งง ทว่า... จุดอ่อนอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจการงาน คือ ความโลภที่มากเกินพอดี เรื่องนี้คล้ายๆ กับสำนวนที่ว่า 'Big bites live no long.' = "กินคำใหญ่ อยู่ได้ไม่นาน"

•ตัวอย่างของคนที่ "กินคำใหญ่" เช่น คนที่หากินด้วยการปนปลอม หรือหลอกลวง ฯลฯ มีที่รวยเหมือนกัน แต่มีน้อย

...

•คนที่ประสบความสำเร็จจากความโลภมากมีอยู่จริง ทว่า... เป็นกรณียกเว้น (exception) หรือเป็นพวกกินบุญเก่าที่เรียกว่า ความสำเร็จไม่ได้จีรังยั่งยืนอะไร

•คนที่ประสบความสำเร็จจากการทำงาน ผลิตสินค้าหรือบริการได้ดีมีแนวโน้มจะเป็นพวก 'sum-sum game' มากกว่า (sum = ผลบวก ผลรวม) คือ ทำงานให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน มากกว่าเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว

...

(2). รู้ระดับของตัวคุณเอง (รู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตน)

•คนที่มั่งคั่งมีแนวโน้มจะรู้เขารู้เรา และรู้จักจุดแข็ง-จุดอ่อนของตัวเองดีกว่าคนทั่วไป ทำให้ใส่ใจหรือโฟกัส (focus) ได้ว่า ควรจะทำงานหรือลงทุนด้านใด จึงจะสอดคล้องกับจุดแข็งที่มีอยู่

•ขณะเดียวกันก็ต้องระวังจุดอ่อน เช่น ถ้ารู้ว่า ตัวเองเป็นคนโกรธง่าย(เจ้าโทสะ)ต้องระวังอันตรายจากคนใกล้ชิดที่ประจบสอพลอ ฯลฯ

•ถ้ารู้ว่า ตัวเองโลภมาก(มักมาก)อาจต้องชะลอการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ไว้สัก 7 วัน หรือระวังอย่าตัดสินใจอะไรคนเดียว เพื่อป้องกันการพลาดไปฮุบเหยื่อจากพวกลวงโลก

•ถ้ารู้ว่าจะทำการใหญ่ หรืองานของส่วนรวม ต้องหาที่ปรึกษาดีๆ อย่าทำอะไรบนความสะใจ ขอให้ทำการตัดสินใจบนฐานของข้อมูลข่าวสาร และรับฟังความเห็นจากผู้รู้เสมอ

(3). เป็นนายตนเอง

•ความจริงอย่างหนึ่งของโลก คือ คนส่วนใหญ่เกิดมาเป็นลูกน้องหรือลูกจ้าง ไม่ใช่หัวหน้าหรือนายจ้าง

•ทว่า... ถึงจะเป็นลูกน้องหรือลูกจ้างก็ควรมีความมั่งคั่งจากภายใน คือ ขวนขวายใส่ใจให้งานส่วนของเราออกมาดี ให้งานส่วนน้อยมาจากเจ้านายหรือหัวหน้าสั่ง และงานส่วนใหญ่มาจากตัวเราสั่งงานตัวเอง

•ไม่ใช่สักแต่ทำ ทำไปสักพักก็หยุด จนต้องมีคนมาคุมงานตลอดเวลา เพราะนั่นจะเป็นการทำงานที่ไม่มีทางเป็นนายของตัวเองเลย

(4). ทะเยอทะยานอยู่เสมอ

•ยุคนี้ใครทำงานดี (good) คงจะไม่พอ... ต้องขอดีขึ้นอีกหน่อย (better) หรือขวนขวายหาทางพัฒนาให้ดีขึ้นอีกสักนิดเสมอ

•คนที่ไม่มั่งคั่งอาจจะทำงานได้ดี (good), แต่คนที่มีความมั่งคั่งจากภายในจะมองหาหนทางทำอะไรให้ "ดีขึ้น (better)" และมีความสุขจากการทำอะไรให้ดีขึ้นแม้ในเรื่องเล็กน้อย

(5). ตื่นแต่เช้า ต้องไปถึงก่อนเวลา

•คนที่มั่งคั่งส่วนใหญ่... ถ้าไม่ไปก่อนเวลาก็จะเลิกหลังเวลาพอประมาณ หรือทำงานให้เกินคุ้มค่าจ้างไว้เสมอ ถ้าเป็นกิจการส่วนตัวก็จะสนใจ ใส่ใจ

(6). อย่าเอาแต่ฝัน ให้ลงมือทำ มิฉะนั้นจะล้มเหลว

•คนที่ประสบความสำเร็จฝันกลางคืน-ลงมือทำกลางวัน ส่วนคนที่ไม่ประสบความสำเร็จฝันกลางคืนด้วย ฝันกลางวันด้วย และชอบคิดชอบเสนอโครงการให้คนอื่นทำ ตัวเองไม่ค่อยทำ (พบบ่อยตามหน่วยงานทั่วไป)

(7). ล้มเหลววันนี้เพื่อสำเร็จวันหน้า

•คนที่มั่งคั่งส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ทว่า... เกิดมาบนเส้นทางที่ล้มเหลวบ้าง สำเร็จบ้าง คละเคล้ากันไป

•ความต่างกันอยู่ที่ว่า คนที่มั่งคั่งยืนหยัดหลังล้มเหลวหลายๆ ครั้งได้ เรียนรู้ทั้งจากความสำเร็จและความล้มเหลว ทนรอจนถึงวันแห่งความมั่งคั่งได้

(8). ทำเลไม่สำคัญ ความสำเร็จเกิดได้ทุกที่

•ทำเลเป็นเรื่องสำคัญ ทว่า... คนที่มั่งคั่งมักจะทำให้ทำเลที่มีอยู่ดีขึ้นได้ถ้าจำเป็น

(9). ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง

•พวกเราคงจะเห็นคนที่กินบุญเก่า โกง กอบโกย หรือเอารัดเอาเปรียบคนอื่น และประสบความสำเร็จในชีวิตหลายคน แต่นั่นเป็นคนส่วนน้อย

•คนส่วนใหญ่ที่มั่งคั่งได้นาน และสืบทอดความมั่งคั่งไปยังคนชั้นลูกชั้นหลานได้ มักจะเป็นคนที่ไม่เอาเปรียบสังคม ทำงานที่ดีกับส่วนรวม และลงทุนด้านการศึกษาให้ลูกหลาน

(10). พยายามขายทุกครั้งที่มีโอกาส

•คนที่มั่งคั่งมักจะมีความพยายามคิดเป็นจำนวนครั้งสูงกว่าคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือเรื่องอื่น เช่น ถ้าปลูกต้นไม้ก็จะใส่ใจ เรียนรู้เรื่องต้นไม้ ดูแลต้นไม้มากหน่อย ทำให้องค์ความรู้แตกสาขาออกไปเรื่อยๆ ฯลฯ

(11). เรียนรู้จากสิ่งที่ดีที่สุดและเลวที่สุด

•คนที่ไม่มั่งคั่งมักจะเรียนรู้จากความสำเร็จหรือชัยชนะด้านเดียว ส่วนคนที่มั่งคั่งมักจะเรียนรู้ทั้งจากความสำเร็จหรือชัยชนะได้ ขณะเดียวกันก็เรียนรู้จากความล้มเหลวหรือความพ่ายแพ้ได้ทั้งสองด้าน

(12). อย่าหยุดทำงาน

•คนที่มีความรู้ดีคือ คนที่เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ไปตลอดชีวิต ทำให้ชีวิตไม่ตกต่ำ หรืออับเฉาง่าย

•เรื่องการทำงานก็เช่นกัน... คนที่มีความสุขกับงานพอสมควร ไม่มองงานในแง่ร้ายจนเกินไป มักจะมีความมั่งคั่งกว่า

•โจทย์ข้อหนึ่งที่ควรถามตัวเองถ้าอยากจะมั่งคั่ง คือ ถ้าวันนี้เราเกิดตกงาน... คุณสมบัติหรือความสามารถที่เรามีทั้งหมดตอนนี้ พอที่จะหางานใหม่ได้หรือไม่ ถ้าได้... นั่นเป็นลักษณะของคนที่มีความมั่งคั่งจากภายใน

•และโจทย์ข้อสองที่ควรถามตัวเองถ้าอยากจะมั่งคั่ง คือ ถ้าเราเกษียณจากงาน... เราจะหาอะไรทำต่อจากนั้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำเต็มเวลา เป็นงานทำเป็นบางเวลา หรืองานอาสาสมัครที่มีคุณค่าก็ได้, ข้อนี้ถ้าตอบได้... นั่นเป็นลักษณะของคนที่มีความมั่งคั่งจากภายในเช่นกัน

...

อย่าลืมว่า คนเรามักจะทำอะไรดีๆ ได้มากกว่าที่คิดเสมอ (ถ้าลงมือทำ ยืนหยัด และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง)

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

บัญญัติแห่งความยากจน

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

หวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2552

รางวัลที่1 154986

เลขท้าย3ตัว 239 374 421 688

เลขท้าย2ตัว 92

รางวัลที่หนึ่ง

พิเศษ สลากฯ กลุ่มที่ 1 รางวัลละ 30 ล้านบาท ชุดที่ 12 หมายเลข 154986

สลากฯ กลุ่มที่ 2 รางวัลละ 30 ล้านบาท ชุดที่ 66 หมายเลข 154986

รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1

รางวัลๆ ละ 50,000 บาท 154985 154987

รางวัลที่ 2 มี 5 รางวัลๆ ละ 100,000 บาท

013827 489881 891645 946096 955710

รางวัลที่ 3 มี 10 รางวัลๆ ละ 40,000 บาท

018503 144529 218411 218976 461849

606956 676084 723401 852314 936196

รางวัลที่ 4 มี 50 รางวัลๆ ละ 20,000 บาท

0003 004039 019016 019359 042932

060382 076412 080209 121960 128911

137497 164795 186762 187769 241890

245192 328485 393368 402511 402729

424008 432981 445951 471620 492012

512046 512949 556321 649668 657256

664736 675796 677949 702150 712012

716043 723614 741412 783157 785729

795475 812115 818566 843736 858371

871449 903307 923523 957048 962466

รางวัลที่ 5 มี 100 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท

004798 017524 101822 108796 110452

112441 112822 122923 123135 129479

144826 146071 155529 164033 166793

187893 198346 201349 223911 233331

235413 246958 255507 256653 272070

272881 273084 318484 323672 362781

364118 366694 372334 381819 384012

385872 389244 393632 397003 410441

445552 449199 455444 460239 463206

473353 504886 512423 545285 559937

562286 574258 577295 599092 600235

602682 605149 605718 624874 649603

657058 669109 701045 701572 714293

725491 727616 727722 758099 759605

764136 781728 786328 796700 797981

800603 809592 819442 843577 849741

852158 862644 866672 873435 873477

898001 915193 916405 919823 945173

947273 949801 951128 961092 961732

962255 963926 981651 991484 997486

..อ่านเรื่องที่น้องอ๋อ postในเรื่องการร่วมมือร่วมใจของขบวนการสหกรณ์ในการผลิตข้าวหอมมะลิสหกรณ์ไทยภายใต้Brand “ข้าวเกิดบุญ”ก็น่าสนใจและอย่างที่อ๋อว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะมีการรวมตัวกันถึง 16 สหกรณ์ การร่วมมือของขบวนการสหกรณ์ในการผลิตข้าวหอมมะลิถ้าพูดถึงในวงการสหกรณ์ตลาดอาจจะแคบไปหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ไม่มีทางออก

“ข้าวเกิดบุญ”ชื่อก็บอกนัยยว่าบริโภคแล้วจะได้บุญ ตัวแทนการที่จะให้เกิดบุญได้ก็ต้องผ่านทางพระ จึงไม่ต้องสงสัยการตลาดของเราต้องบุกไปทางวัด วงการพุทธพานิชในประเทศไทยกระแสเงินหมุนเวียนในระบบบอกตรงๆว่าไม่ธรรมดามีเป็นหมื่นล้านแสนล้านการนำข้าวเกิดบุญเข้าไปนำเสนอไม่ยากมูลค่าเพิ่มในสินค้าปรับราคาได้อย่างแน่นอน

ตัวอย่าง....ขอนำเสนอ project นำร่อง สหกรณ์เกษตรไทยร่วมมือวัดธรรมกาย(ที่มีลูกศิษย์ในเครือข่ายจำนวนเป็นหลักล้านคน)แค่นี้ก็ผลิตไม่ทันขายแล้ว ข้าวเกิดบุญธรรมกายทานแล้วได้บุญ3ต่อ ต่อแรกช่วยเกษตรกรไทย ต่อที่สองสนับสนุนพุทธศาสนา ต่อที่สามสนับสนุนเศรษฐกิจไทย วัดในประเทศไทยมีเท่าไหร่ไม่อยากคิด หรือจัดโปรโมชั่น ช่วงเข้าพรรษา ถุงบรรจุข้าวอย่าทิ้งรวบรวมครบ3ถุงนำมาแลกหลวงพ่ออ๋อ วัดอ่างทอง ได้ 1 องค์ รับรองไปโลด

แค่นี้ก่อนนะ...คิดถึงทุกๆคน (มีใครถูกหวยบ้างจะได้ให้เลี้ยงข้าว)

p,แจ้

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

ต้องขออภัย y2jaee ผมอ่านหลายครั้งแล้ว ยังไม่สามารถวิเคราะห์เหตุผลที่ชายคนนั้นเลือกผู้หญิง "ปอดใหญ่ที่สุด" ได้ คงต้องให้เจ้าของประเด็นนี้เฉลยคำตอบให้ทีว่า"ปอดใหญ่"คืออะไรใหญ่กันแน่

พอดีเห็น"บัญญัติแห่งความยากจน" นึกขึ้นมาได้ ไม่ทราบว่าพี่จิ๋นนำเงินกองทุน ผนส.๓ ไปลงทุนกับ ธกส.หรือยัง เพราะมันอาจจะไม่ใช่ความจริงแต่..มันเป็นความหวัง เผื่อฟลุ๊คได้รางวัลไปทัวร์เกาะลังกาวี หรือไปเกาะ วี ๒๔ ก็ได้นะ

วันนี้ถูกพาดพิง ขอแจ้งข่าวค่ะ ยังไม่ได้ไปลงทุนกับ ธกส. เพราะที่นนทบุรี หมดแล้ว ก็เลยคิดว่าจะไปซื้อสลากออมสินอย่างเดียว และต้องขอโทษด้วย ยังไม่ได้ไปซื้อเหมือนกัน ช่วงนี้งานยุ่งมาก เพราะจะต้องปิดบัญชีให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคม จึงต้องหมั่นติดตามงานของลูกน้อง วันจันทร์นี้ก็ต้องไปช่วยงานที่จังหวัดอุทัยธานีอีก เพราะที่นั่นขาดคน นายอู๊ด แหมม สนใจแต่ปอดใหญ่ นะ ทำเป็นแกล้งไม่รู้ หรือว่าจะชวนนายแจ้ เจ้าตี๋น้อย ไปพิสูจน์ความจริงกันจ๊ะ รวมทั้งกำนันด้วย

ไต้หวัน-- -- หญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้ง 7 โดยไม่รู้สาเหตุ เสียชีวิตในข้ามคืนเดียว จากการชันสูตรศพเบื้องต้น ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู แล้วสารหนูมาจากไหนล่ะ

...ตำรวจเริ่มสืบสวนในวงกว้าง และเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี

ศาสตราจารย์ตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลัน " ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกลอบสังหาร แต่ตายเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกมันฆ่า" ศาสตราจารย์ฟันธง

...ผู้คนงงเป็นไก่ตาแตก อะไรคือ "มันฆ่า " แล้วสารหนูมาจากไหน

...ศาสตราจารย์กล่าวว่า สารหนูเกิดในกระเพาะผู้ตาย ผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่เธอกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น กินกุ้งโดยลำพังก็ไม่มีปัญหา คนในบ้านกินกันก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ผู้ตายกินวิตามินซีพร้อมกันด้วย

...ปัญหาจึงเกิดตรงนี้แหละ

...นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทำการทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่นกุ้งมีสารประกอบอาเซนิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทานวิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5 หรืออาเซนิกออกไซด์ซึ่งไม่มีพิษ ...กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O 3 หรืออาเซนิกไตรออกไซด์ซึ่งมีพิษ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า"สารหนู"นั่นเอง

..."พิษสารหนู"จะทำให้การทำงานของเส้นโลหิตฝอยและเอนไซม์ของซัลฟีดรีลขัดข้อง เกิดอาการเลือดคั่งในหัวใจ ตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้น ผู้ที่รับพิษจนตาย จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด

...เพราะฉะนั้น ในระยะที่รับประทานวิตามินซี ต้องงดกินอาหารประเภทกุ้ง เพื่อความไม่ประมาท

... แต่น้องกุ้งปิ่นเกล้าของพวกบิ๊กๆทั้งหลาย ในผนส3ยกเว้น..ระวังหมดตัวอย่างเดียว

สวัสดีค่ะ

ได้รับคำแนะนำเรือ่งข้าวเกิดบุญ โดนใจมาก จะนำไอเดียนี้ไปเสนอเครือข่ายทั้ง 16สหกรณ์ กลัวแต่ว่าจะต้องขายด้วยทำบุญด้วยนะ่ซิ

เห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องข้าวเกิดบุญของพี่แจ้และขอแนะนำให้พิมพ์บทสวดมนต์ถวายข้าวสารติดข้างถุงด้วย(เผื่อซื้อถวายพระ)

อาจารย์บัญชาหายไปไหนคะปล่อยพี่แจ้วาดลวดลายอยู่คนเดียว คิดถึงผนส3ทุกคน ป้าเครือป้าต้อยป้าจิ๋นป้ากุ้งสบายดีนะ

ที่สุดในโลก ...

1.ทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทวีปเอเซีย

2.ทวีปที่เล็กที่สุดในโลก - ทวีปออสเตรเลีย

3.คาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก - คาบสมุทรอาหรับ

4.มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก - มหาสมุทรแปซิฟิก

5.มหาสมุทรที่เล็กที่สุดในโลก - มหาสมุทรแอนตาร์กติก

6.ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลจีนใต้

7.ทะเลส่วนที่ลึกที่สุดในโลก - บริเวณChallenger ใกล้เกาะมาเรียนา ในมหาสมุทรแปซิฟิก

8.ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบสุพีเรีย อยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับแคนาดา

9.ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบแคสเปียน อยู่ระหว่างทางใต้ของรัสเซียกับอิหร่าน

10.ทะเลสาบที่มีน้ำเค็มที่สุดในโลก - ทะเลสาบเดดซี อยู่ระหว่างอิสราเอลกับจอร์แดน

11.ทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในโลก - ทะเลสาบไบคาล ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย

12.ทะเลสาบที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก - ทะเลสาบกัลลาเซียล ในธิเบต

13.ทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบมืด เหนือเขื่อนระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซนา

14.อ่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก - อ่าวเม็กซิโก

15.ปากแม่น้ำที่กว้างที่สุดในโลก - ปากแม่น้ำออฟเฟน โพรเซ็น อ๊อป ประเทศรัสเซีย

16.แม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก - แม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟริกา

17.แม่น้ำที่สั้นที่สุดในโลก - แม่น้ำดี ริเวอร์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา

18.แม่น้ำที่กว้างที่กว้างที่สุดในโลก - แม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้

19.แม่น้ำที่เกิดอุทกภัยมากที่สุดในโลก - แม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำวิปโยค ประเทศจีน

20.คลองธรรมชาติที่ยาวที่สุดโลก - คลองยุ่นโห ประเทศจีน

21.คลองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก - คลองสุเอช

22.หมู่เกาะที่มีเกาะต่างๆอยู่หนาแน่นที่สุด - หมู่เกาะอินดีส

23.ช่องแคบที่ยาวที่สุดในโลก - ช่องแคบตาต้า

24.เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก - เกาะกรีนแลนด์ มหาสมุทรอาร์คติค

25.ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก - ยอดเขาเอเวอเรสต์

26.เทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลก - เทือกเขาแอนดีส ทวีปอเมริกาใต้

27.ช่องแคบระหว่างภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ช่องแคบบนแกรนด์ แคนยอน รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา

28.ยอดภูเขาไฟที่สวยและสูงที่สุดในโลก - ภูเขาไฟฟูจิยามา ประเทศญี่ปุ่น

29.ทะเลทรายที่ใหญ่และร้อนที่สุด - ทะเลทรายซาฮาร่า ในแอฟริกาเหนือ

30.น้ำตกที่มีทัศนียภาพสวยงามและใหญ่ที่สุดในโลก - น้ำตกไนแองการา อยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกา และแคนาดา

31.น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก - น้ำตกแองเจิล ประเทศเวเนซูเอลา

32.ประเทศที่มีเนื้อที่มากที่สุดในโลก - ประเทศรัสเซีย

33.ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก - นครรัฐวาติกัน

34.ประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุด - ประเทศจีน

35.เมืองที่มีพลเมืองมากที่สุด - โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

36.ประเทศที่มีพลเมืองน้อยที่สุด - นครรัฐวาติกัน

37.ประเทศที่มีเกาะมากที่สุด - ฟิลิปปินส์

38.ประเทศที่มีทะเลสาบมากที่สุด - ฟินแลนด์

39.ประเทศที่มีภูเขาไฟมากที่สุด - อินโดนีเซีย

40.ประเทศที่อยู่สูงที่สุด - ธิเบต

41.ประเทศที่มีพื้นที่ต่ำที่สุด - อิสราเอล

42.ประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อยที่สุด - ประเทศญี่ปุ่น

43.ประเทศที่มีภาษามากที่สุด - ประเทศอินเดีย

44.ประเทศที่มีเมืองขึ้นมากที่สุด - อังกฤษ

45.เมืองที่มีคลองมากที่สุด - เวนิส ประเทศอิตาลี

46.ประเทศที่ขุดแร่ดีบุกมากที่สุด - มาเลเซีย

47.ประเทศที่ปลูกกาแฟมากที่สุด - บราซิล

48.ประเทศที่ผลิตกระดาษมากที่สุด - แคนาดา

49.ประเทศที่ขุดเพชรได้มากที่สุด - สหภาพแอฟริกาใต้

50.ประเทศที่มีแร่เงินมากที่สุด - เม็กซิโก

51.ประเทศที่มียางพารามากที่สุด - มาเลเซีย

52.ประเทศที่มีทับทิมมากที่สุด - พม่า

53.ประเทศที่มีทองคำขาวมากที่สุด - สหภาพโซเวียตรัสเซีย

54.ประเทศที่มีแร่พลวงมากที่สุด - สาธารณรัฐประชาชนจีน

55.ประเทศที่ขุดสินแร่อลูมิเนียมได้มากที่สุด - สวิสเซอร์แลนด์

56.ประเทศที่ผลิตหินอ่อนมากที่สุด - อิตาลี

57.ประเทศที่ผลิตแร่ปรอทได้มากที่สุด - สเปน

58.ประเทศที่มีถ่านหินมากที่สุด - สหรัฐอเมริกา

59.ประเทศที่มีแมงกานีสมากที่สุด - อินเดีย

60.ประเทศที่ประดิษฐ์และส่งดาวเทียมประเทศแรก - สหภาพโซเวียตรัสเซีย

61.ประเทศที่ส่งมนุษย์อวกาศไปดวงจันทร์ได้สำเร็จประเทศแรก - สหรัฐอเมริกา

62.ประเทศที่จับปลาได้มากที่สุดในโลก - ญี่ปุ่น

63.ประเทศที่มีฟยอร์ดมากที่สุดในโลก - นอร์เวย์

64.ประเทศที่ผลิตเหล้าองุ่นมากที่สุด -ฝรั่งเศส

65.ประเทศที่ผลิตเบียร์มากที่สุด - เยอรมนี

66.ประเทศที่ปลูกอ้อยมากที่สุด - คิวบา

67.ประเทศที่มีต้นควินินมากที่สุด - อินโดนีเซีย

68.ประเทศที่ปลูกข้าวสาลีมากที่สุด - รัสเซีย

69.ประเทศที่ปลูกชามากที่สุด - สาธารณรัฐประชาชนจีน

70.ประเทศที่ปลูกฝ้ายมากที่สุด - สหรัฐอเมริกา

71.ประเทศที่มีข้าวเจ้าพันธุ์ดีที่สุด - ไทย

72.ประเทศที่มีแร่เหล็กมากที่สุด - สวีเดน

73.ประเทศที่เลี้ยงไหมมากที่สุด - จีน

74.ประเทศที่ผลิตนมมากที่สุด - สวิสเซอร์แลนด์

75.ประเทศที่ปลูกสับปะรดมากที่สุด - เกาะฮาวาย สหรัฐอเมริกา

76.ประเทศที่ปลูกส้มมากที่สุด - รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

77.ประเทศที่ผลิตพรมได้มากและคุณภาพดีที่สุด - เปอร์เซีย

78.ประเทศที่ขุดน้ำมันดิบส่งออกมากที่สุด - ซาอุดิอาระเบีย

79.ชาติที่ประดิษฐ์เข็มทิศใช้ในการเดินเรือเป็นชาติแรก - จีน

80.บัตรอวยพรอะไรที่มีเป็นอย่างแรก - บัตรอวยพรวันวาเลนไทน์

81.ศาสนาที่มีคนนับถือมากที่สุด - ศาสนาคริสต์

82.ศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด - ศาสนาฮินดู

83.กำแพงที่ยาวที่สุด - กำแพงเมืองจีน

84.วัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - นครวัต ประเทศกัมพูชา

85.โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก - โรงแรมลาสเวกัส ฮิลตัน รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา

86.ตึกที่สูงที่สุดในโลก - ตึกเซียส์ ที่ชิกาโก สหรัฐอเมริกา

87.ป่าที่ใหญ่ที่สุด - ป่ามหาวัน ประเทศอินเดีย

88.สะพานที่ยาวที่สุด - สะพานเซคอนด์ เลค พอนซาเทรน คอสเวย์ อยู่ที่ลอสแองเจลลิส สหรัฐอเมริกา

89.สะพานที่กว้างที่สุด - สะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์

90.สะพานแขวนที่ยาวที่สุด - สะพานพระราม9 กรุงเทพมหานคร

91.ทางรถไฟที่ยาวที่สุด - ทรานส์ไซบีเรีย

92.อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุด - อุโมงค์ซิมพลอน

93.สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุด - สถานีแกรนด์ เซนทรัล เทอร์มินอล

94.ถนนที่ยาวที่สุด - ถนนแพน-อเมริกัน ไฮเวย์

95.เครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุด - เครื่องบินเจ็ท โบอิ้ง747

96.เรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุด - เรือควีน อลิซาเบธ

97.เรือบรรทุกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด - เรือซีวีส ไจเอ้น

98.ป่าที่ทึบที่สุดในโลก - ป่าเซลวาส ลุ่มแม่น้ำอเมซอน

99.ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด - ต้นซานตา มาเรีย เด็ล ตูลี ในเม็กซิโก

100.ต้นไม้ที่อายุยืนที่สุดในโลก - ต้นสนPinus longaeva รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

สหกรณ์การเกษตรดูลำดับที่71ประเทศไทยติดอันดับเหมือนกันนะ

ในหลวงทรงห่วงเกษตรกร

ได้อ่านหนังสือพิมพ์วันนี้(06/08/52)อ่านแล้วก็ชื่นใจแทนเกษตรกร

.... สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีทรงมีรับสั่งว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใส่พระทัยเรื่องการเกษตรเป็นอันดับต้นๆ ได้ทรงตามเสด็จไปดูผลหมากรากไม้ที่จะนำไปปลูกเป็นตัวอย่างทรงขับรถวนเข้าไปในสวนในไร่ แล้วให้ผู้ตามเสด็จลงไปซื้อมะนาวได้3ลูกมะละกอ2ลูกพริก59เม็ด

.... ทรงรับสั่งอีกว่า “เรามีหน้าที่แก้ปัญหาให้ราษฏรให้มีกินมีใช้ และเกษตรกรเป็นปัจจัย4ที่สำคัญ หลักเกษตรต้องอยู่ในจิตใจ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องช่วยให้ประชาชนมีความสุขมีความอยู่รอดได้ เมื่อเราเข้าไปตรงไหนต้องยึดถือเกษตรเป็นหลักชีวิตแก้ปัญหา สร้างความเจริญให้แก่เกษตรกร โดยพยายามแก้ปัญหาตามกระบวบการดัดแปลงให้เข้ากับชีวิตปัจจุบันโดยให้มีมาตราฐานและดีขึ้นตามลำดับ”

.... เป็นอย่างไรครับท่านชาวผนส.3ฟังพระราชดำรัสแล้วเกษตรกรคงชื่นใจและมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

วันอาทิตย์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๒ วันเลือกตั้ง ผู้แทนเกษตรกร เป็นกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

ขอเชิญ...สหกรณ์ภาคการเกษตรทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกสหกรณ์ องค์กรเกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟู ฯ ระดมสรรพกำลัง อีกครั้งหนึ่ง เพื่อสนับสนุนตัวแทนของสหกรณ์ภาคการเกษตรตามภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกร

สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้สมัครในนามของสหกรณ์การเกษตร มีจำนวน ๒ คน คือ นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ หมายเลข ๑๗ และนายทักษิณ สารมณี หมายเลข ๒๑

เรียนสหกรณ์การเกษตร

สหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวงขอสนับสนุนผู้แทนเกษตรกร หมายเลข 17

นาย ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ (บิ๊กอู๊ด) จากสหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เข้ารับเลือกตั้งเป็นกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นผู้แทนของท่าน

แฟนเก่า คือ คนที่ในอตีดเค้าคือ นางฟ้า/ฮีโร่ ในใจคุณ

แต่ปัจจุบันเค้าคือ นางปีศาจร้าย/นายยมฑูต

แฟนเก่า คือ คนที่คุณเคยคิดว่าเค้าน่ารักที่สุด (ในสายตาคุณ)

แต่ปัจจุบันเค้าคือ... (แล้วแต่จะคิดค่ะ)ทั้งๆ ที่หน้าตาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

แฟนเก่า คือ คนที่คุณเคยอยากเห็นหน้าเค้ามากที่สุด

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่คุณเห็นหน้าแล้วอยากจะเดินเข้าไปตบ/ต่อยซักที

แฟนเก่า คือ คนที่คุณเคยคิดถึงมากที่สุด

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่ใครพูดถึงให้คุณได้ยินแล้วอยากจะเดินเข้าไปด่า

แฟนเก่า คือ คนที่เคยสอนให้คุณรู้จักคำว่ารัก

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่สอนให้คุณรู้จักคำว่าเกลียด

แฟนเก่า คือ คนที่เวลาหนังเข้าคุณจะนึกถึงเค้าเป็นคนแรก

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่ทำให้คุณไม่อยากดูภาคต่อไปของหนังเรื่องนั้น

แฟนเก่า คือ คนที่ทำให้คุณมองโลกสดใส (สีชมพู)

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่ทำให้คุณฟังเพลงอกหักได้เพราะขึ้น

แฟนเก่า คือ คนที่ทำให้คุณอยากไปโรงเรียน (อยากเจอกันทุกวัน)

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่ทำให้คุณไม่อยากไปโรงเรียน (ไม่อยากเจอหน้ามัน)

แฟนเก่า คือ คนที่สอนให้คุณเข้าใจสัจธรรมของคำว่าเข้าใจกันและกัน

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่สอนให้คุณเข้าใจสัจธรรมของคำว่าเลิกลา

แฟนเก่า คือ คนที่เคยเป็น "แฟนฉัน"

แต่ปัจจุบันเค้าคือ "แฟนคนอื่น"

แฟนเก่า คือ คนที่ทำให้คุณหัวเราะได้

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่ทำให้คุณรู้จักคำว่า 'เหงา'

แฟนเก่า คือ คนที่คุณเคยรัก

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่ทำให้คุณคิดว่า 'เคยรักมันไปได้ยังไง' (เห็นธาตุแท้)

แฟนเก่า คือ คนที่คุณเคยคิดว่าอยากอยู่ด้วยกันตลอดไป

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่ทำให้คุณคิดว่า 'เคยอยู่กับมันไปได้ยังไง' (เบื่อหน้ามัน)

แฟนเก่า คือ คนที่ทำให้คุณมีความสุขกับความรัก

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่ทำให้คุณเข็ดกับการมีความรัก/หาใหม่ให้ได้ดีกว่านี้

แฟนเก่า คือ คนที่คุณเคยเบื่อที่จะตอบคำถาม ไปไหนมา ไปกับใคร ไปที่ไหน ไปทำไม

แต่ปัจจุบันเค้าคือ คนที่คุณรอคอยว่าสักวันเค้าจะกลับมา

แฟนเก่า คือ คนที่คุณเคยพูดถึงเสมอว่า เบื่อ

แต่ปัจจุบันถ้าคุณยังพูดถึงเค้าเสมอ นั้นหมายถึงว่า คุณยังลืมเค้าไม่ลง

และสุดท้ายถ้าคุณเข้ามาอ่านบทความ 'แฟนเก่า' นี้นั้นแสดงว่าคุณ ยังคิดถึงเค้าอยู่

ปล. แฟนเก่าคือคนที่สอนให้คุณเป็นคนปากกับใจไม่ตรงกัน ปากก็บอกว่าเกลียดๆ ทั้งที่ในใจอาจจะยังรักเค้า

เวลาเดียวในชีวิตเรา

ในวันที่ 7 สิงหาคม 2009

ชั่วโมงที่ 12 / นาทีที่ 34 / วินาทีที่ 56

เวลาและวันที่ เมื่อเรียงกันแล้ว

12:34:56 07/08/09

1 2 3 4 5 6 7 8 9

ช่วงเวลานี้จะมีเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตคุณ

และตราบเท่าชั่วกาลปาวสาน

ขอแสดงความยินดีกับblogรุ่น3ที่ทะลุยอด8000แล้ว(ไม่ธรรมดาๆๆ)

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

ตามกำหนดการฝึกอบรม ผู้นำสหกรณ์ รุ่น ๔ วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๗.๐๐-๒๑.๐๐ น. กิจกรรมการต้อนรับผู้นำสหกรณ์ รุ่น ๔

ในฐานะที่พวกเรา ผนส.๓ เคยเป็นรุ่นน้องมาก่อน อีกไม่กี่วันพวกเราก็จะเป็นรุ่นพี่แล้ว งานนี้ ผนส.๓ คงต้องมีการวางแผนเตรียมงานต้อนรับรุ่นน้อง แต่เนิ่น ๆ อยากให้พวกเราทุกคนที่เข้า Blog นี้แล้วโปรดอย่าอ่านเฉย ๆ กรุณาแสดงความคิดเห็น หรือรายงานตัว เพื่อเตรียมความพร้อมของ ผนส.๓ ด้วยนะคร๊าบ..

ขอขอบคุณ..สหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ที่สนับสนุนผู้แทนเกษตรกร หมายเลข 17 ครับ

....ข่าวการปาหินใส่รถยนต์ตามถนนหลวงในหลายจังหวัดมีมากขึ้น จังหวัดที่นำร่องก็คือจังหวัดสุพรรณบุรีของท่านกำนันสุขสันต์และดูเหมือนว่าเพิ่มขึ้นทุกวัน ในสมัยก่อนจะเป็นจังหวัดแถวๆนครสวรรค์บ้านกระผมเองแต่ไม่รุนแรงเพราะเป็นการรับจ้างยิงกระจกรถด้วยหนังสติ๊ก ผู้ว่าจ้างในสมัยนั้นก็คือร้านขายกระจกรถยนต์ร้านจะตั้งเลยจากจุดยิงประมาณหนึ่งกิโลเมตร ถ้ามาเปลี่ยนกระจกก็จะได้แบ่งเปอร์เซ็นต์ค่ากระจกพร้อมค่าแรง(ค่าหินไม่ต้องจ่าย เก็บเอาข้างทางเยอะแยะ)และด้วยความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเพื่อนๆชาวผนส.3ที่ชอบกลับบ้านดึกๆดื่นๆ ช่วงนี้ขอแนะนำให้กลับเช้าเลยหรือถ้าภรรยาไม่อนุญาต ขอเสนอวิธีการป้องกันดังนี้

....ติดฟิลม์กรองแสงชนิดใสที่กระจกหน้าทั้งบาน ได้ประโยชน์สองเด้ง นอกจากกันความร้อนแล้ว ฟิลม์ยังช่วยดูดซับแรงกระแทกจากก้อนหินที่มากระทบได้ดี

....การปาหินมักเกิดขึ้นตอนกลางคืนบนถนนสายเปลี่ยวและมืด หากท่านขับรถผ่านถนนที่มีลักษณะดังกล่าว ควรเปิดไฟสูง (เมื่อมีโอกาส)เพื่อสอดส่องดูว่ามีรถจักรยานยนต์กำลังขับขี่สวนทางมาหรือไม่ เนื่องจากคนร้ายมักซ้อยท้ายรถ จยย. ที่ไม่เปิดไฟหน้า หากเปิดไฟสูงนอกจากจะช่วยให้มองเห็นคนร้ายแล้วยังจะช่วยบดบังสายตาของคนร้ายได้ด้วย (ทำให้คนร้ายตาพร่าจากแสงไฟของท่าน) นอกจากนั้นไม่ควรขับรถด้วยความเร็วสูงบนถนนที่มีลักษณะนี้ ให้ระวังทางโค้งมากเป็นพิเศษ เพราะคนร้ายมักใช้ทางโค้งเป็นจุดดักซุ่มรอ

....หากสังเกตุเห็นว่ามีรถ จยย. กำลังขับขี่สวนทางมาควรรีบชลอความเร็วและเปลี่ยนช่องการจราจรให้ออกห่างจากรถ จยย. ดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร) ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนช่องจราจรได้ ให้ลดความเร็วให้เหลือเพียง 40 – 60 พร้อมกับเปิดสัญญาณไฟกระพริบเพื่อเตือนรถที่ตามหลังมาว่าเรากำลังจะชลอตัว ความเร็วยิ่งช้าเท่าไร ความแรงของก้อนหินที่มากระทบรถของเราก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น

.....หากถึงคราวซวยรถของเราถูกปาหินใส่ได้รับความเสียหายแล้ว อย่าจอดรถในบริเวณนั้นทันที เพราะคนร้ายอาจตามมาปล้นทรัพย์สินของท่าน พยายามประคองรถช้าๆไปจนกว่าจะพบผู้คนและเข้าขอความช่วยเหลือ

สุดท้าย....ถ้านั่งไปหลายตนเตรียมหินใส่รถไว้บ้างเอาไว้ปาโต้ตอบพวกมันสนุกดีเหมือนเล่นสาดน้ำตอนสงกรานต์มึงมั่งกูมั่ง

ด้วยความห่วงใย...p,แจ้

วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน

วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๔๓๕ เป็นวันที่ได้มีการจัดตั้งสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขึ้นเป็นครั้งแรกใน สมัยรัชกาลที่ ๕ โดยทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยคนแรก) ทดลองจัดระเบียบการปกครองระดับตำบล หมู่บ้าน ขึ้นเป็นครั้งแรก ณ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านและเป็นการเน้นให้เห็น ความสำคัญของกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการปฏิบัติภารกิจ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชน ทางราชการจึงกำหนดให้วันที่ ๑๐ สิงหาคม ของทุกปี เป็น " วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน "

ขอให้กำนันบ้านนอกผุ้ใหญ่นัด โอบามา มีตวามสุขความเจริญตลอดไป...

..(ผู้ใหญ่แจ้ ปากน้ำโพ)

บิ๊กอู๊ต ทนงศักดิ์

ผนส.๓ อย่าเปิดแล้วอ่านอย่างเดียวครับ โปรดแสดงความเห็นและรายงานตัวด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมในการต้อนรับรุ่น ๔ ครับ วันนี้ขอนำข่าว ๓ ข่าวมาให้อ่านกันเล่น ๆ แก้เหงา..ครับ

๑. เงินโบนัสข้าราชการประจำปี

เมื่อวันที่ ๑๑ สิหาคม ๒๕๕๒ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักงาน กพร.เสนอให้โบนัสข้าราชการประจำปี 6 พันกว่าล้านบาทว่า เป็นเพียงข้อเสนอของ กพร.ที่ให้นำเงินเหลือจ่ายของส่วนราชการต่างๆ มาใช้ในเรื่องนี้ได้หรือไม่ แต่ประเด็นคือยังไม่มีใครรู้ว่ามีเงินเหลือจ่ายหรือไม่และหากรู้ว่ามีเงินเหลือจ่ายมันจะเหมาะสมหรือไม่ เรื่องนี้จึงยังไม่ผ่านความเห็นของ ครม.

๒. การประกันราคาพืชผลทางการเกษตร

นายอภิสิทธิ์ได้แถลงภายหลังประชุม ครม.กรณีการประกันราคาพืชผลทางการเกษตรว่า ครม.มีมติตามที่กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ เสนอวิธีเกี่ยวกับราคาประกันมันสำปะหลัง และข้าวโพด โดยระบบที่จะกระทำหลังการขึ้นทะเบียนเกษตรกร(๓๑ส.ค.๕๒)และประเมินผลผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อผลผลิตออกมาตามฤดูกาล เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้จะสามารถมาขอรับสิทธิส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับราคาอ้างอิง ซึ่งทางราชการจะเป็นผู้ประกาศโดยราคาอ้างอิงนั้นจะคำนวณตามราคาตลาดโลก และราคาส่งออก จุดสำคัญ คือ การรับการชดเชยที่เป็นการใช้สิทธิของเกษตรกรโดยไม่จำเป็นต้องมีการส่งมอบในการซื้อขาย ซึ่งการซื้อขายของเกษตรกรต้องเป็นไปตามกลไกตลาด และการบริหารราคาอ้างอิง โดยคำนวณปริมาณตามเกณฑ์ปกติ โดยที่รัฐบาลกำหนดหลักเกณฑ์ว่าเกษตรกรแต่ละรายจะได้รับสิทธิประโยชน์เท่าใด ทำให้คิดว่างบประมาณที่จะช่วยเหลือในเรื่องนี้นั้นไม่มากไปกว่าเงินที่ขาดทุนจากเเนวทางที่เคยดำเนินการมาในอดีต แต่มันมีความแตกต่างที่เกษตรกรทุกรายจะได้ประโยชน์จากการประกันราคา นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาแนวทางการเสริมเสถียรภาพราคา ในจุดใหญ่นั้น การส่งมอบสินค้าเกษตรจะไม่มี แต่จะมีการช่วยเหลือเกษตรกร พูดอย่างตรงไปตรงมาเวลาที่เกษตรกรเข้าโครงการจะโดนโกงเรื่องความชื้น และคุณภาพ ฉะนั้นจึงไม่ต้องมีประเด็นเหล่านี้ขึ้นมา ส่วนการพิจารณาเรื่องข้าวนั้น นายกฯกล่าวว่าตอนนี้ได้กำหนดเรื่องราคาข้าวหอมมะลิขาวไปแล้ว เมื่อถามว่าจะส่งเสริมการประกันราคาอย่างไร นายกฯกล่าวว่า มีหลายอย่าง เช่น รัฐอาจเข้าไปซื้อขายและจำนำในราคาต่ำกว่าราคาตลาดเป็นต้น “นโยบายนี้จะลดภาระและช่วยเกษตรกรได้แน่นอน เกษตรกรทุกคนที่มาขึ้นทะเบียนจะได้ประโยชน์หากราคาในตลาดต่ำกว่าราคาประกันตรงนี้ชัดเจนว่าได้ประโยชน์ รัฐบาลประเมินว่าภาระในตอนนี้ไม่น่าจะเกินความเสียหายที่เกิดจากโครงการรับจำนำซึ่งเกษตรกรที่อยู่ในโครงการจำนำนั้นเหลือไม่เกินครึ่ง” นายกฯ กล่าว

๓. น้ำมันกำลังจะลดราคา

นายกฯ กล่าวว่า ครม.ได้มีอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเสนอเรื่องการลดภาระการจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละสองบาทให้ประชาชน ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อใดนั้น ตนลงนามตามที่กองทุนอนุรักษ์และส่งเสริมพลังงานเสนอการลดการจัดเก็บรายได้ไปแล้วเมื่อเช้าวันนี้ ส่วนกองทุนน้ำมันนั้นก็สามารถดำเนินการได้ทันที

อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง พี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่รับราชการคงต้องรออีกหน่อยนะครับสำหรับเงินโบนัส คงไม่นานเกินรอ ราคาน้ำมันปรับลดราคาลงแน่นอน หลังท่านนายกอภิสิทธิ์ ลงนาม...ส่วน "นโยบายการประกันราคาผลิตผลทางการเกษตรกร" สหกรณ์การเกษตร ต้องติดตาม สุดท้ายแล้วเกษตรกร หรือนักการเมือง เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์กันแน่ !!

สุดยอดคำตอบ สวย เก่ง ฉลาด

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส อเมริกา ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส อเมริกา : ในบ้านของไอ เราเรียกมันว่า สุภาพบุรุษ

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?

มิส อเมริกา: เพราะว่ามันลุกขึ้นทุกครั้ง ที่เห็นสุภาพสตรี

( เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ!)

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส สเปน ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของอวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส สเปน : ไอ้นั่นของผู้ชาย ในประเทศของเรา เหมือนกับ วัวกระทิง

ที่เราใช้ในการแสดงการสู้วัวกระทิง

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?

มิส สเปน : เพราะว่า มันพุ่งเข้าหาทุกครั้ง ที่เห็นช่องเปิด

( เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ!)

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส ฟิลิปปินส์ ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิสฟิลิปปินส์ : ฉันพูดได้เลยว่า ไอ้นั่นของผู้ชายในบ้านดิฉัน

เหมือนกับข่าวซุบซิบ และ ข่าวลือ

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?

มิส ฟิลิปปินส์ : เพราะว่า มันผ่านจากปากนึง สู่อีกปากนึงต่อๆกัน

( เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ! พร้อมทั้งลุกขึ้นโห่กรี๊ดลั่นต่อด้วยเสียงปรบมือยาว

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส อิหร่าน ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส อิหร่าน : โอ้ ในบ้านชั้น เราว่า ไอ้นั่น

ของผู้ชายมันเหมือนกับ ขโมย

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?

มิส อิหร่าน : เพราะว่า พวกมันชอบเข้า ทางประตูหลัง

( เสียงปรบมือ แปะๆ แปะๆ! พร้อมเสียงหัวเราะดังลั่น ยาวต่อด้วยเสียงปรบมือยาว)

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส ไชน่า ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส ไชน่า : ในจีนพวกเราว่าไอ้นั่นของผู้ชายคล้ายกับท่านผู้นำ Deng Siu Ping.

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?

มิส ไชน่า : คือว่า แม้มัน สั้น(เตี้ย) และ ต้องตรากตรำ งานหนัก

แต่ว่ามันก็ยัง ทำงานได้จนถึงอายุ 90 ปี

( เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ พร้อมเสียงหัวเราะดังลั่น ยาว ต่อด้วยเสียงปรบมือยาว)

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิสไทยแลนด์ ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิสไทยแลนด์ : ในประเทศของเรา เราเปรียบไอ้นั่นเหมือนกับนักการเมือง

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?

มิส มิสไทยแลนด์ : อ๋อ เพราะว่า พวกมันวันๆ งานการไม่ทำ

ได้แต่เดินแกว่งไป แกว่งมา!!! ไปวันๆ เท่านั้น

จบข่าว

สวัสดีครับ พี่ๆเพื่อนผนส 3 ทุกคน

         ขอรายงานตัวว่ายังอยู่ ที่หายไปไม่ใช่ไปไหนหรอกนะ สาเหตุเนื่องมาจาก อยู่ในช่วงปิดบัญชี และมีประชุมบ่อยมาก แต่แอบเข้ามาดูบ่อย

        วันนี้สงสารพี่ทนงศักดิ์ เห็นไม่มีใครเข้ามาเยี่ยมกันเลย แล้วรุ่น 4 นั้นเขาเปิดหลักสูตรวันไหนละ จะได้เตรียมตัวถูก ส่วนผมเดือนนี้สิงหาคมมีคิวแล้ว คือ วันที่ 14-18 ,19,20,24, 27-29,

เดือนกันยายนมีคิว 2,7,8,13,15,21-25 ,30 เห็นแล้วมีคิวยาวมากเลยช่วงนี้ แต่ก็จะไปให้ได้หากไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ

      ต้องขอโทษพี่พี่ๆและเพื่อนๆที่ช่วงนี้เข้าบล๊อกน้อยมาก

        สวัสดี

สวัสดีค่ะ ผนส.3 ที่รักและคิดถึงทุกคนค่ะ

ห่างหายไปนาน แต่ก็ได้เข้ามาอ่าน blog บ้าง วันนี้มีข่าวดีจะบอกว่า ภาระกิจสำคัญที่คำอยู่ในฐานะเลขาธิการ สมาคมลูกจ้างส่วนราชการแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 ได้มีโอกาสพาคณะกรรมการสมาคมฯ และแก่นนำศูนย์ประสานงานสมาคมทุกภาคส่วน เหนือ ใต้ ออก ตก อีสาน เข้าพบ ฯพณฯ รมต.กระทรวงการคลัง ผอ.สศค.และคณะร่วมถึงผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง ณ ห้องรับรอง 2 อาคาร 1 รัฐสภา เพื่อร้องขอ (ขอมาเป็น 10 ๆ ปีแล้ว) บำนาญให้ลูกจ้างประจำของส่วนราชการที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 2แสนกว่าคน ให้ได้มีสิทธิ์เลือกรับบำเหน็จรายเดือน (บำนาญ)

ปรากฏว่าเป็นผลสำเร็จแล้ว และมีผลให้ลูกจ้างประจำที่จะเกษียณในปี 2552 นี้ทุกคนมีสิทธิ์เลือกรับบำเหน็จรายเดือน อย่างช้าประมาณต้นเดือนกันยายน หรือเร็วกว่านั้น ท่านรัฐมนตรีคลังจะแถลงข่าวให้ลูกจ้างประจำได้ดีใจกันทั่วประเทศ

ไชโย ไชโย ไชโย ช่วยยินดีกับลูกจ้างด้วยนะค่ะ

ขอบคุณและสวัสดีค่ะ

สวัสดี ผนส.3 ทุกคน

     วันนี้มีเรื่องจะแจ้งให้ผนส 3 ที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ได้รับทราบและแนะนำการเดินทางด้วย เนื่องจากวันที่ 3-5 กันยายนนี้ จะเดินทางไปประชุมโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการหนึ่งสหกรณ์ หนึ่งโรงปุ๋ยอินทรีย์ เป็นโรงแรมในตัวจังหวัดแต่ยังไม่ทราบโรงแรมอะไร ขอความกรุณาชาวโคราช แนะนำการเดินทางให้ด้วย

    ประชุมวันที่ 3 ต้อนเย็นควรเดินทางเวลาไหน ที่ตั้งใจไว้จะเดินทางโดยเครื่องบินจากหาดใหญ่ต้อนเช้าไม่แน่ใจจะทันหรือไม่

    อีกอย่างอยากให้แสดงความคิดเห็นเรื่องโครงการต่างๆของกรมส่งเสริมสหกรณ์หน่อย เช่น โครงการลดภาระหนี้ ในกรณีเงินฟื้นฟูอาชีพ 3,000 บาท ที่กรมอนัมัติมาให้ ซึ่งที่จังหวัดสงขลา การให้เงินอุดหนุน ให้เฉพาะคนที่เป็นหนี้คงเหลือปัจจุบัน(ปัจจุบันนะ) มีหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท หากเกินจะไม่ได้รับเงินฟืนฟู ไม่ใช่เงินกู้คงเหลือตอนที่เข้าโครงการครั้งแรก ซึ่งผิดจากเงื่อนไขเดิมที่ได้ให้ไว้ ว่าคนที่เข้าโครงการลดภาระหนี้ทุกคนมีสิทธิได้ฟื้นฟูอาชีพทุกคน

     วันนี้ไว้แค่นี้ก่อน 

     

Fw: มันกุ้ง ที่ชอบกินกันรู้มั๊ยคืออะ ไร

เมล์นี้โคตรทำร้ายจิตใจคนชอบกินกุ้งกินปูอย่างเรามากเลยอ่ะ T^T

งี๊ข้าวผัดมันกุ้ง กับข้าวมันปูก็กินไม่ได้แล้วจิ . . . .

มิน่าล่ะ.... หึหึหึ ปวดท้องเหมือนอาหารเป็นพิษทุกที

มันกุ้ง มันปู คือ ตับ ทำหน้าที่เหมือนตับของสัตว์อื่นๆ คือ

กรองสารพิษและเชื้อโรคออกจากกระแสเลือด

สร้างน้ำย่อย จึงเป็นที่รวมของสารพิษต่างๆ

( หน้าตาไม่เห็นจะเหมือนตับมนุษย์หรือตับไก่ตรงไหน)

เวลาตรวจหาสารโลหะหนักหรือสารพิษต่างๆ

จึงใช้ส่วนหัวที่มีมันไปตรวจ และโดยส่วนตัวมันกุ้งแล้ว

ยังอุดมไปด้วยคลอเรสเตอรอล

ดังนั้นอาจพูดได้ว่าเป็นแหล่งรวมโรคและสารพิษของกุ้งก็ว่าได้ครับ

การผ่านความร้อนในกระบวนการทำอาหาร

ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ก็จริง แต่ว่าพวกสารพิษอย่างโลหะหนักล่ะ ?

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำจืด สำนักวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด

กรมประมง ในวันและเวลาราชการ หรือโทรศัพท์

0-2579-4122 , 0-257... โทรสาร

       เช้าวันนี้ 18 ส.ค. 52 ผมได้กลับมาเช็ค blog นี้ ปัจจุบันมีคนคลิกเข้าไป 8,299 คน

       ผมมี 3 ประเด็นฝากไว้

       1. ถ้าถึงหมื่นจะเลี้ยงฉลอง

       2. ช่วยดู blog รุ่น 4 ด้วย และจะมีหลักสูตรบางอันเพิ่มคือ Creativity และ Innovation

       จะใกล้ชิดรุ่น 4 เพิ่มขึ้น

       จะเอาจริงในการทำวิจัยมากขึ้น เป็นกรณีศึกษา โดยปรึกษาอาจารย์ยมและอาจารย์ปรีชา คนมาช่วยงานคือ เอ๋กับปุ้ย และจะมีลูกศิษย์บางท่านมาช่วยงานเพิ่ม

                                  จีระ

คิดถึงเพื่อนๆทุกคนครับ เมื่อไหร่กินข้าวครับ คิลนิคไปถึงไหนแล้วครับแจ้

บัญชา

สวัสดีครับ ผนส 3 ทุก

      เรื่องฝากของอาจารย์ จิระ  ถ้า blog ถึงหมื่นจะเลี้ยงฉลอง น่าสนใจ เหลืออีกไม่มากผมว่าไม่กี่วันก็ครบแล้ว เตรียมเลี้ยงไว้ได้เลย 

     เรื่องรุ่น 4 ตกลงเปิดโครงการวันไหน ที่ไหน แล้วรุ่นเราจะไปใหม ใครทราบช่วยตอบหน่อย

     เมื่อวันที่ 16-18 ไปประชุมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนโรงปุ๋ยอินทรีย์และการจัดทำแผน ณ จังหวัดสุราษร์ธานี  ซึ่งสหกรณ์ผมได้รับงบประมาณจากกรมพัฒนาที่ดินก่อสร้างโรงผลิตปุ๋ย  ซึงจากการประชุมโรงปุ๋ยแต่ละแห่งมีปัญหาแตกต่างกันไป ซึ่งที่มีปัญหาเหมือนกันคือโรงผลิตปุ๋ยที่ไม่ได้มาตราฐาน คือผลิตออกมาแล้วไม่สามารถอัดเป็นเม็ดได้ซึ่งเกษตรกรผู้ใช้ต้องการ , อุปกรณ์ที่ให้มาใช้การไม่ได้บ้าง ,วัตถุดิบในการผลิตไม่เพียงพอ ,และที่สำคัญคือให้โรงผลิตปุ๋ยมาในขณะที่คนรับไม่พร้อมและไม่อยากได้ มีปัญหาอีกมากมาย

    ที่นำมาบอกเล่านี้เพราะได้ข่าวกรมส่งเสริมสหกรณ์มีโครงการจะดำเนินการหนึ่งสหกรณ์หนึ่งโรงปุ๋ย ซึ่งจะเริ่มมีการประชุมกันในระหว่างวันที่ 3-5 กันยายน ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผมจะไปร่วมประชุมด้วย 

    วันนี้ได้ไว้แค่นี้ก่อนพรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่  

      

กำลังจะต่อว่าอาจารย์บัญชาว่าเงียบหายไปเลย วันนี้เปิดเข้ามาก็ได้เห็นเข้ามาทักทายได้มีโอกาสพบกับน้องวีที่จังหวัดอุทัยธานี ก้ได้รับคำถามนี้เช่นเดียวกันว่า ไปถึงไหนแล้ว ก็ต้องขอถาม คุณแจ้ กำนัน และคุณอภิสิทธิ์ เหมือนกันว่า จะเดินทางไปกันได้เมื่อไหร่ เหมือนกับสหกรณ์เขาก็รอ ๆ อยู่เหมือนกัน และน้องวีก็ได้เตียมหาที่พักเอาไว้ให้แล้วเหมือนกัน ถ้าไง 3 หนุ่ม ส่งข่าวด้วย

สำหรับงานรับน้องนั้น อยากจะฝากให้ป้าเครือ น้องต้อย (พิมาย) น้องอ๋อ และพี่น้อย ช่วยคิดด้วย ต้องใช้ปัจจัยเท่าไรแจ้งมายังเหรัญญิกได้เลย และต้องขอโทษเป็นอย่างแรงที่ยังไม่ได้ไปดำเนินการซื้อสลากออมสินให้เลย พบกันคราวหน้าจะรีบจัดการให้

คิดถึงทุกท่านค่ะ

รุ่น 4 จะเปิดอบรมวันที่ 10 กันยายน 2552 คุณสุทิศจะมาร่วมงานได้หรือเปล่าจ๊ะ

ใกล้จะถึงวันเปิดโครงการ รุ่น4แล้วนะคะ เราน่าจะนัดทานข้าวเพื่อปรึกษาหารือเรื่องการจัดงานต้อนรับและพูดคุยเรื่องคลีนิคสหกรณ์ด้วย วันไหนดีคะพี่แจ้ / อาจารย์บัญชา

หวัดดีครับ... พี่จิ๋น น้องกุ้ง และ ผนส.๓ ทุกท่าน

นับจากวันนี้ไปถึงวันที่ ๑๐ กย.๕๒ ตามกำหนดการเปิดอบรม ผนส.๔ (รุ่นน้อง) คงเหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว เห็นพวกเรา(คนหน้าเดิม)เข้ามารายงานตัวเพิ่มขึ้นทุกวันก็ดีใจ สดชื่นขึ้นมาบ้าง ฝาก..พี่แจ้ กรุณาช่วยนำนกหวีดไปให้ท่านประธานรุ่นของเราเป่าด้วยนะครับ จะได้วางแผนและเตรียมความพร้อมต่อไป

ในช่วงนี้ถึง ๒๘ สิงหาคม ๕๒ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวสหกรณ์ภาคการเกษตรส่วนใหญ่กำลังจัดประชุมใหญ่ และบ้างก็กำลังเดินสายไปร่วมประใหญ่ สหกรณ์ใดประชุมใหญ่ มีกำไร ได้โบนัส ขอแสดงความดีใจด้วย แต่..สำหรับสหกรณ์ที่ขาดทุน ก็ถือเสียว่าเป็นเพราะพิษภัยเศรษฐกิจของโลกก็แล้วกันนะครับ

สวัสดีค่ะ พี่ๆ และเพื่อนๆ ผนส.๓ ทุกท่าน

เห็นด้วยกับน้องกุ้งนะคะ เราน่าจะปรึกษากันก่อนว่าจะทำอะไรกันบ้างในวันเปิดโครงการรุ่น 4 โดยส่วนตัวคิดว่าเราน่าจะมี "น้องรหัส" เพิ่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างรุ่น ในการทำกิจกรรมร่วมกันในขบวนการสหกรณ์ต่อไป

สวัสดีครับ พี่ๆ และเพื่อนๆ ผนส.๓ ทุกท่าน

    เห็นด้วยที่จะนัดคุยกันก่อนเพื่อเตรียมงานต้อนรับรุ่นน้อง แต่ผมอยู่ไกลหากจะไปก็คงวันงานที่เดียว และตั้งใจต้องไปให้ได้งานนี้

   ที่แน่ๆวันที่ 3-5 นี้ต้องไปประชุมที่โคราชแน่นอนแล้ว ไปประชุมเรื่องสหกรณ์โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และหวังว่าจะได้เจอกันบ้างนะงานนี้ โดยเฉพาะชาวโคราช

   ช่วงนี้สหกรณ์การเกษตรส่วนให้กำลังปิดบัญชี และบางสหกรณ์กำลังจัดประชุมใหญ่  ส่วนของผมปิดบัญชีใกล้เสร็จแล้ว จะประชุมใหญ่ประมาณวันที่ 30 กันยายนนี้  งานเลยยุ่งสักหน่อย หลังประชุมใหญ่ คิดว่าน่าจะมีเวลามากขึ้น

....สวัสดีเพื่อนๆชาวผนส.3ที่รักทุกท่าน หายจากหน้าจอไปสองสามวันกลับมาเที่ยวนี้ไม่ผิดหวังเพื่อนๆเข้าblogมากันอุ่นหนาฝาครั่ง โดยเฉพาะท่านอาจารย์จีระ ที่ยังให้ความกรุณาพวกเราเหมือนเดิมและยังให้ความหวังอย่างท้าทายวาถ้า blogรุ่นเราทะลุยอดหนึ่งหมื่นจะเลี้ยงฉลอง (อาจารย์เตรียมเลี้ยงได้เลยขอบอก)ทะลุแน่นอนหากพวกเรายังสามัคคีกลมเกลียวอย่างแน่นเหนียวตลอดไป

....หลายๆคนคงห่วงใยในเรื่องการต้อนรับผนส.4 ทีใกล้จะมาถึง ก็รู้สึกเป็นห่วงอยู่เหมือนกันจะขอนัดพวกเราคุยกันหน่อยดีไหมตามที่น้องกุ้งน้องอ๋อเสนอมา เนื่องจากผมติดภาระกิจช่วงเสาร์อาทิตย์ที่28-30 สค.จะขอนัดวันธรรมดาได้ไหมช่วงเย็นๆที่เก่าเวลาเดิมวันไหนก็ได้ มีเรื่องปรึกษาอยู่หลายเรื่องเหมือนกัน(แล้วconfirm กันทางโทรศัพท์อีกที)แค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกัน ....ฝันดีทุกคน

: นม ของคุณบอกอะไรได้มาดูกัน

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ผู้ที่นมกว้าง นมโต วงนมแดง หรือดำ นมตรง เป็นคนที่มีวาสนาดี ปัญญาเฉลียวฉลาด มีความเป็นอยู่ดี มิตรสหายมาก

ผู้ที่มีนมเล็ก นมปักธรณี วงนมขาว นมไม่ตรง ไม่สวยได้รูปทรง เป็นคนอาภัพทุกข์ยาก ชีวิตมีแต่ความลำบาก ไร้ญาติขาดที่พึ่งพา

ผู้ที่นมกว้าง เป็นคนโอบอ้อมอารี สุขุม จิตใจกล้าหาญ ผู้คนให้ความเชื่อถือ

ผู้ที่มีนมแคบ มักจะขลาดเขลา สติปัญญาไม่ดี คบใครไม่ยืนยาว เห็นแก่ตัว

ผู้ที่หัวนมโตและดำ เป็นคนเจ้าปัญญา มักมีลูกมาก เอาตัวรอดเก่ง

ผู้ที่หัวนมเล็ก เป็นคนสุขภาพไม่สมบูรณ์ มักเจ็บไข้เสมอ

ผู้ที่หัวนมคดงอ เป็นคนอาภัพจะพลัดพรากจากบุตร เลี้ยงดูยากลำบาก

ผู้ที่หัวนมใหญ่ เป็นคนเลี้ยงดูง่าย หัวนมโตเป็นเหลี่ยม ลูกจะให้คุณ พึ่งพาได้

ผู้ที่หัวนมขาวและเหลือง เป็นคนที่เลี้ยงลูกยาก หากหัวนมแดงดังสีอิฐ ลูกหลานจะมีอำนาจบุญวาสนา หากหัวนมมีขนและโต เป็นคนซื่อ ใจเบา เชื่อคนง่าย ไม่ค่อยทันคน มักถูกหลอกได้ง่าย

ผู้ที่หัวนมมีไฝ จะได้ลูกเป็นคนมีอำนาจวาสนา อาศัยพึ่งพาได้ในยามแก่ชรา

ส่วนนมเวย์ของท่านอดิศักดิ์บอกถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย

ณ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ห้องตรวจภายใน

หญิงสาว: หมอคะ ตรวจภายในหน่อยค่ะ

หมอ: ขึ้นเตียง เอาขาวางบนขาหยั่งได้เลย

แล้วหมอก็ก้มหน้า แล้ว พูดว่า โอ้โห ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

หญิงสาว (โกรธมาก) ของชั้นจะเป็นอย่างไรมันก็เรื่องของฉัน หมอไม่ต้องร้องโอ้โหๆๆอย่างนั้นก็ได้

หมอ : ป่าวครับ หมอร้องแค่ครั้งเดียว ที่เหลือ เป็นเสียงสะท้อนครับ

หญิงสาว: !!!!???!!!!

"พี่อู๊ดขาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

สวัสดีพี่แจ้ และ ผนส.๓ ที่รัก..ของกระผมทุกท่านครับ

การแสดงความเห็นของพวกเราที่จะนัดพบกันของ"ผู้ก่อการดี"แปลความได้ว่า เสียงส่วนใหญ่มีความเห็นพ้องกันที่จะให้มีการเสวนา หารือกัน เพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับ ผนส.๔ และวางแผนงานโครงการ "อุทัยธานี โมเดล" ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขอให้พี่แจ้ หารือท่านประธานบัญชา กำหนดวันเป่านกหวีด ฟันธงแล้วให้ confirm ทางโทรศัพท์ได้เลยครับ

ส่วนตัวขอเสนอให้เป็นวันศุกร์ที่ ๔ กันยายน เหตุผลคือ ๑.เป็นวันสุดท้ายสัปดาห์ ๒.พี่แจ้ไม่ติดภาระกิจ ๓.คุณสุทิศ อยู่ที่โคราช สามารถเดินทางไปร่วมได้ ๔.ผนส.๓ ส่วนใหญ่น่าจะให้ความร่วมมือ ๕.ถือเป็นโอกาสอันดีเพราะผมอยู่ที่สันนิบาตฯพอดี

"ไม่สูงต้องเขย่ง ไม่เก่งต้องขยัน ฝันให้ไกล ไปให้ถึง"

กำนันบ้านนอกคิดถึงเพื่อนๆทุกคนครับ

ไม่ควรกินยากัน้ำผลไม้หรือนม

....รศ.ดร.โอภา วัชระคุปต์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่าการดื่มน้ำผลไม้หรือนมหลังรับประทานยา หรือใช้น้ำผลไม้แทนน้ำนั้นอาจมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาเช่นเดียวกับกรณีการรับประทานยาก่อน หรือหลังอาหาร เช่นถ้ารับประทานยาพร้อมนม ในนมมีแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมจะไปจับตัวยาบางชนิด เช่น ซิพเปอร์เฟอซิน ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ถ้ารับประทานยาพร้อมนม น้ำนมหรือสารละลายที่มีแคลเซียมเหล็กก็จะไปจับเป็นคอมเพล็กซ์กับยา ทำให้ยาไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้

.....ยาปฏิชีวนะบางชนิดมีโมเลกุลขนาดใหญ่ เวลามาถูกแคลเซียมจับก็สามารถตกตะกอนหรือจับเป็นคอมเพล็กซ์ได้ ทำให้ยาไม่ออกฤทธิ์ ส่วนน้ำส้มมีผลทำให้ปัสสาวะมีฤทธิ์เป็นกรดหรือเป็นด่าง ซึ่งจะทำให้ยาถูกขับออกมากหรือน้อยจะทำให้ปริมาณยาในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นควรรับประทานยากับน้ำธรรมดาไม่ควรรับประทานยาพร้อมกับนม กาแฟ น้ำส้ม หรือน้ำผลไม้ ในช่วงรับประทานยาไม่ควรดื่มนมหรือน้ำผลไม้หลังรับประทานยาประมาณ 30 นาที ถึง 1ชั่วโมง

TIPS

คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เปิดเผยผลการวิจัยซึ่งบ่งว่าน้ำผลไม้จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกาย ที่จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาของยาหมดไปเพราะ ก่อนที่ยานั้นจะซึมเข้าสู่กระแสเลือด น้ำผลไม้จะต่อต้านการดูดซึมของยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว และโรคภูมิแพ้ต่างๆ รวมไปถึงยาที่ใช้กับผู้ป่วยที่ทำการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่

ที่มา วิทยาศาสตร์รอบตัว(จาก สสวท.)

http://knowledgesharing.thaiportal.net/บทความ/tabid/93/articleType/ArticleView/articleId/86/--.aspx

.....สวัสดีเพื่อนๆชาวผนส.3ทุกท่าน ไม่ได้เข้าblogสองสามวันเนื่องจากไปสัมมนาที่นครนายกของการไฟฟ้านครหลวง ฝนฟ้าก็ตกชุ่มฉ่ำดีตลอดทางดูสองข้างทางจากเขตปทุมธานีถึงนครนายกมีพืชผลทางเกษตรขายตลอดสองฝากทางก็คึกคักดีเพราะใกล้วันหวยออกคอหวยก็มุ่งหน้านครนายกหาเลขเด็ดจากหลวงพ่อปากแดง จะเข้าไปดูบรรยากาศภายในวัดมารายงานให้ฟังก็หมดความอดทนเสียก่อนเนื่องจากทางเข้าวัดหลวงพ่อรถติดเป็นกิโล เอาไว้งวดหน้าก็แล้วกัน

....เรื่องงานต้อนรับผนส.4 ท่านประธานบัญชาประสานมาว่าวันศุกร์นี้ได้รับการนัดหมายจากผนส.1และ2มาประชุมปรึกษากันที่สันนิบาตสหกรณ์ ผมกับอาจารย์บัญชาจะไปประชุมและจะรีบส่งข่าวให้พวกเราทราบโดยเร็ว

....ส่วนที่บิ๊กอู๊ดนัดวันที่4กันยาฯก็ดีนะ (เพราะเหตุผลข้อ5ของบิ๊กอู๊ดที่ว่าถือเป็นโอกาสอันดีผมอยู่สันนิบาตพอดี) ใครมาได้บ้างขอทราบหน่อย

.....แค่นี้ก่อนนะ..ดึกแล้วคุณขา.หมดเวลา.ขอลาไปนอน ฝันดีทุกคนแล้วเจอกัน..คิดถึงเพื่อนๆเสมอ ...แจ้ (y2jaee)

วันที่ 4 ก.ย. กุ้งก็อยู่ที่ สสท.เหมือนกันเจ้าค่ะ ส่วนวันศุกร์นี้ก็ได้รับการประสานจาก สสท.ให้ไปร่วมประชุมเหมือนกันค่ะ ที่แน่ๆคือเปิดโครงการ ผนส.4 วันที่ 10 ก.ย. ที่พัทยาค่ะ

น้องกุ้ง ช่วยหาข่าวเพิ่มเติมด้วยว่าทำไมถึงไปเปิดโครงการถึงพัทยา แล้วพวกเราจะไปกันได้หรือ

วันนี้ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากสตูล คนที่โทรมาก็คือคุณอดิศักดิ์ นั่นเอง ซึ่งได้รับแจ้งว่าไปช่วยเหลือเกษตรกรถึงที่โน้น และว่าจะชวนพวกเราชาว ผนส.3 ไปเที่ยวที่สตูลและยังชวนข้ามไปยังเกาะลังกาวีด้วย ใตรสนใจติดต่อคุณอดิศักดิ์ด้วยก็แล้วกัน

สวัสดีครับ พี่ๆ และเพื่อนๆ ผนส.๓ ทุกท่าน

   ประชุมวันที่ 4 ผมคงไม่ได้ไปร่วมประชุมเพราะยังอยู่ที่ โคราช ถ้าวันที่ 5 ได้เพราะจะกลับมานอนที่สันนิบาตร

   วันนี้ได้มีโอกาสโทรคุยกับพี่อดิศักดิ์ ซึ่งอยู่สตูลกำลังหาที่ทำเล เปิดกิจการใหญ่โต และนัดกับผมวันอาทิตย์นี้ จะไปทานข้าวกัน ใครอยากมาร่วมวงเชิญได้นะ

   ผมอยากเสนอแนวคิดการจัดทำโครงการสักโครงการไม่ทราบใครเห็นด้วยบ้างไหม  คือโครงการแข่งขันกีฬาสหกรณ์คัพ ซึ่งเห็นหน่วยงานอื่นๆเขามีกันทั้งนั้น เช่น อบจคัพ  สหกรณ์ตั้งมาหลายปีไม่เห็นมีใครจัดเลย ซึ่งก็อยากฝากให้คิดดูเห็นด้วยไหม ถ้าเห้นด้วยจะได้คิดต่อ

พี่จิ๋นคะ ความคืบหน้าคงต้องรอประชุมวันศุกร์นี้ที่ สสท.ค่ะ แต่เท่าที่ทราบจะมีการรวมรุ่น 1-3 อย่างที่เคยคุยว่าจะไป ตจว.อ่ะค่ะ แต่เค้าสรุปว่าไปพัทยา และมีงานเปิดโครงการรุ่น4ด้วยค่ะ

นิสัย 10 อย่าง ทำให้สมองพัง

นิสัย 10 อย่าง ที่ทำให้สมองพัง

1. ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม

2. กินอาหารมากเกินไป การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น

3. การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์

4. ทานของหวานมากเกินไป การกินของหวานมาก จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาองสมอง

5. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกายการสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง

6. การอดนอน การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อนการอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้

7. นอนคลุมโปง การนอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานขอลสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว

9.ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมองการขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ

10. เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง

ที่มา http://learners.in.th/blog/zenkyo/186917

....หญิงคนหนึ่ง ไปเติมแก็สที่ปั้มแก็ส มีชายมาเสนอบริการทาสี โดยยื่นนามบัตรให้ หญิงคนนั้นก็รับ มาอ่าน แล้วถือเข้ามาในรถด้วย สักครู่เมื่อขับรถออกมาจากปั้มแก็ส ก็สังเกตว่าชายคนนั้นขับรถตามมา และเธอก็รู้สึกว่า หายใจไม่ค่อยออก เธอรีบเปิดหน้าต่าง และตระหนักว่ากลิ่นนั้นมาจากมือของเธอเอง ซึ่งเป็นมือข้างที่เธอรับนามบัตรมาจากชายคนนั้น เธอตัดสินใจขับรถและกดแตรดังไปตลอดทางเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายคนนั้นจึงขับรถหนีไป>>> ยาที่ป้ายบนนามบัตร คือ ยา BURUNDANGA เพิ่อให ้เราหมดสติ ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วเจ้าตัวร้ายก็จะขโมยของและหรือข่มขืนเรา โดยยานี้มีประสิทธิภาพแรงกว่ายาที่ใช้ข่มขืนสาวๆ ถึง 4 เท่า

>>>> ดังนั้นอย่ารับ กระดาษ นามบัตร แผ่นพับ จากคนแปลกหน้านะจ๊ะ !!!! หรือแม้แต่คนที่แจกโฆษณา

...สวัสดีค่ะ อาทนงศักดิ์ที่เคารพ หนูติดตามอ่านคอลัมภ์ของอามานานแล้วค่ะ หนูชอบอ่านเรื่องความทุกข์ ความเจ็บปวดของชาวบ้านค่ะ นึกไม่ถึงว่าวันนี้มันย้อนมาหาหนูเข้าเต็มเปา

...คุณอาคะ หนูอายุ 18ปีแล้ว…เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหนูได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งแถวโรงงาน เขาชอบแอบมองหนูค่ะ แต่หนูพยายามไม่สนใจเขา เพราะเราต้องตั้งใจทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่อีกแรงจริงไหมค่ะ

...เขามาชวนหนูคุยหนูก็พยายามเลี่ยง แต่พอเขาชวนกินข้าวหนูก็กินค่ะ เพราะเขาออกเงินค่าข้าวให้นี่คะ เราคบกันอยู่เกือบ 3วันคะ …เขาก็มาชวนหนูไปดูหนังครั้งแรกหนูปฏิเสธค่ะ แต่พอเขาบอกว่าเขาเลี้ยงเองหนูก็เลยเปลียนใจตกลงรับปากเขาไป

...ในโรงหนังนะคะเขาพยายามจับมือจับไม้หนู แต่หนูไม่ยอมเพราะข้าวโพดคั่วมันจะหกหนูเสียดายค่ะ พอดูหนังเสร็จเราก็นั่งรถเมล์กลับบ้าน แต่เขากลับชวนหนูลงกลางทางไม่รู้แถวไหน…

...ดีว่าหนูเหลือบไปมองเห็นป้ายด้านหน้าทางเข้าเขียนว่า"โรงแรมม่านรูด" หนูนี้ทั้งโกรธทั้งอายมากเลยค่ะ

...หนูต่อว่าเขาไปหลายคำ.. แล้วรีบวิ่งเข้าไปข้างในโรงแรมบอกบ๋อยว่า ขอห้องที่แอร์เย็นๆหน่อยนะ(ต้องเห็นใจนะคะวันนั้นอากาศร้อนมากค่ะ)แล้วหนูเข้าไปนั่งอยู่บนเตียงเขาเข้ามากอดมาจูบหนู

...หนูก็ผลักเขาออกไป แล้วผลัดผ้าเช็ดตัวมานุ่ง(หนูกลัวเสื้อยับค่ะ)

...อาทนงศักดิ์คะหนูสู้แรงเขาไม่ได้จริงๆค่ะ สุดท้ายหนูตกเป็นของเขา (ก็ผู้หญิงตัวเล็กๆจะเอาแรงที่ไหนไปสู้จริงไหมคะ)เขาหลับไปสักพักหนูเลยตัดสินใจ สั่งกระทิงแดงมาดื่มคนละขวด พอมีแรงหนูก็ประคองเขาออกจากโรงแรมกลับบ้านได้ค่ะ

....หลังจากวันนั้นมาอีก3วันเขาก็พยายามชวนหนูอีก หนูลำบากใจมากเลยแต่ก็ต้องรับปากเขาไป…เพราะว่าเขาสัญญาว่าจะเป็นคนจ่ายค่าห้อง กับค่ากระทิงแดง! หนูจึงตกลงค่ะ

...อยากถามคุณอาทนงศักดิ์ ว่าหนูเสียเปรียบไหมคะ เพราะเขาให้หนูออกค่ารถเมล์เองและออกให้เขาด้วยค่ะ (ขอให้คุณอาตอบส่วนตัวนะคะหนูอายคะ)

ประยูร รัตนเมธางกูร สกต.โคราช

สวัสดีครับ อาจารย์ และเพื่อน ผ.น.ส.3 ทุกท่าน ไม่ได้ส่งบล็อกเสียนาน แต่เข้าชมอยู่ตลอด คิดถึงเพื่อนๆทุกท่านได้แต่รอทำเนียบรุ่น จนถึงรุ่น 4 แล้ว

หวังว่าคงได้เห็นอยู่นะครับ ท่านประธาน ปญชา เลขาจิ้น ตกลงกำหนดรับน้องรุ่น 4 สรุปได้อย่างไร เมื่อไร ผมคนหนึ่งมาร่วมด้วย หวังว่าคงได้พบกันทั่วหน้า

สวัสดีครับ

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุกท่าน

     ขอแจ้งผลการประชุม เบื้องต้นในการจัดเตรียมการต้อนรับ ผนส. 4 วันที่ 10 กันยายน 2552 ที่พัทยา ครับ (รายละเอียดน้องกุ้งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง) 

  • สันนิบาติทำหนังสือถึง ผนส. ทุกรุ่นแล้วโดยส่งตรงตัว ผนส. ทุกท่าน
  • เพื่อเป็นประเพณีในการสืบทอดเจตนารมย์  มอบให้ผนส. รุ่น 3 เป็นแม่งานในการจัดการต้อนรับ ผนส.รุ่น 4
  • ออกเดินทางจากสันนิบาติ เวลา 04.30 น. วันที่ 10 กันยายน 2552
  • วันที่ 4 กันยายน วันสุดท้ายในการแจ้งผู้ประสงค์จะร่วมเดินทาง
  • มีรถบัสบริการ 2 คัน (ขาไปเที่ยวเดียว)

       -  ที่ประชุมเสนอหากมีผู้ประสงค์เดินทางน้อย       กว่า 50 ท่าน จะยุบเหลือคันเดียว และบริการทั้งไปและกลับ 

       -  ที่ประชุมเสนอขอที่พัก ในคืนวันที่ 9 กันยายน ที่สันนิบาติสำหรับ  ผนส. ที่ไม่สะดวกในการเดินทางเช้าวันที่ 10 กันยายน  

       -  ที่ประชุมเสนอให้ทำหนังสือเพิ่มเติม  เรียนประธานต้นสังกัดของ ผนส. เพื่อขออนุเคราะห์เรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเบี้ยเลี้ยง

  • สันนิบาติรับไปพิจารณาดำเนินการทั้งสามข้อ โดยในวันจันทร์จะแจ้งผ่าน Blog ให้ทราบ 

 

คณะผู้จัดงานจากสันนิบาติ และผู้แทนจาก ผนส.รุ่น1

ผู้แทนจาก ผนส.รุ่น 2 และ ผู้แทนจาก ผนส.รุ่น 3

เยี่ยม Blog ผนส.รุ่น 2  ใหม่ได้ตาม Link ข้างล่างนี้ครับ เราต้องเชื่อมโยงกันครับ เพื่อขบวนการสหกรณ์  คลิกได้เลยครับ

http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน 52 อยากจะขอนัดพี่ๆ ผนส.รุ่น3 ที่ครัวสหกรณ์ เวลาประมาณ 17.00 น. เพื่อปรึกษาหารือเรื่องการจัดเตรียมการต้อนรับ ผนส รุ่น 4 ค่ะ ไม่ทราบว่าพี่ๆคนไหนจะมาได้บ้างคะ ช่วยรายงานตัวด้วยค่ะ ส่วนรายละเอียดจากที่กุ้งได้ไปประชุมกับพี่ๆผนส.1และ2 ก็ตามรายละเอียดBlogของพี่ผนส.2ด้านบนเลยค่ะ

สวัสดี ผนส.3 ทุกท่านค่ะ

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน นี้ ไม่แน่ใจว่าจะไปได้หรือไม่ เพราะจะเดินทางไปจังหวัดอุทัยธานี ถ้าพี่ไปไม่ทันอย่างไรก็รบกวนให้น้องกุ้งช่วยรับเรื่องด้วยนะ ส่วนวันรับน้องรุ่น 4 นั้น ไม่แน่ใจว่าจะไปได้หรือไม่ เพราะเป็นวันพฤหัส อีกอย่างตอนนี้ก็มีเรื่องยุ่งอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเงินงบประมาณของสำนักงานก็มีไม่พอสำหรับที่จะเดินทางไปราชการต่างจังหวัด คุณแจ้ ช่วยคิดด้วยก็แล้วกันว่าจะมีอะไรบ้าง จะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ จะได้โอนเงินไปให้ ส่วนท่านประธานบัญชา ส่งข่าวด้วย

ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชม blog ของรุ่น 2 อาจารย์ยมได้เข้าไปเยี่ยมทักทายอยู่หลายครั้ง แต่สำหรับรุ่น 3 ยังไม่เห็นอาจารย์ยมเข้ามาทักทายเลย มันน่าน้อยใจจัง

วันนี้ทักทายแค่นี้ก่อนนะ เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองเครียดมากกกกก......

อดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์

วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๒

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ....................

ดีใจมากครับ เพื่อน ผนส.รุ่น 3 ทุกท่าน และท่านอาจารย์ทุกท่าน ที่ได้ความอุปการะมาโดยตลอด ในเรื่องคำปรึกษา ที่ได้ประโยชน์ มากครับ.......

ก่อนอื่นต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ สุทิศ ที่ไม่มีเวลาทานข้าวที่หาดใหญ่ ในคราวนี้ เอาไว้คราวหน้านะครับ และเราเจอกันที่กรุงเทพฯ ที่สันนิบาตสหกรณ์ วันที่ 5 กันยายน นี้นะครับ ผมมาค้างคืนที่สันนิบาตในวันที่ 4 สิงหาคม

วันที่ 27 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ผมได้ไปดำเนินการประสานกับทางสหกรณ์พี่น้องชาวมุสลิม ทางสตูล มีความสงบและมีธรรมชาติที่สวยงามอาหารทะเลสะอาดถูกและอร่อยมาก อยู่ใกล้กับเกาะลังกาวี ของประเทศมาเลเซีย สามารถบืนมาลงที่หาดใหญ่ และมีรถมาถึงจังหวัดสตูล (ห่างกันประมาณ 90 กิโลเมตร)และข้ามฟากไปได้โดยเรือเฟอรี่ มีสินค้าหลากหลาย อาทิเช่นเหล้า บุหรี่และไวน์ ที่เป็นของบริโภคมีราคาถูกมาก โดยเฉพาะการนวดที่สตูล ถึงใจมากสบาย.....จั๊งซี่มันต้องถอน.........

ทราบมาว่าการดำเนินงานของสหกรณ์ มีประสิทธิภาพดีมาก และได้รับความร่วมมือจากทางสมาชิกสหกรณ์ เป็นอย่างดี มีจำนวนสมาชิกถึง 2 หมื่นกว่าคน และยังมีสมาชิกในเครือข่ายอีกมากมายเกือบ 100,000 คนถือว่าเป็นสหกรณ์ ที่ใหญ่มาก และเป็นทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์,การเกษตร,บริการ Three in one และในครั้งที่เกิดเหตุการณ์มหาวาตภัย สึนามิ ได้รับความเสียหายแก่สมาชิกจำนวนมาก โดยทางผม ในฐานะตัวแทนของผนส.รุ่น 3 ได้ลงมาพบกับสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งทางสหกรณ์มุสลิม ยินดีมากที่หากว่าทางสันนิบาตสหกรณ์ หรือ ผนส.รุ่น 3 จะได้ลงมาเยี่ยมและร่วมมือกันพัฒนาให้แก่เกษตรกรทั้งทางด้านการส่งเสริมอาชีพ และการทำการค้าในอนาคตร่วมกัน และเชิญชวนให้มาเที่ยวและสัมนาที่จังหวัดสตูล ได้ก็จะเป็นการดี และจะได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานมาให้ทราบต่อไปครับ.

นก ปากช่อง

อรนุช (ผู้ประสานงานจัดอบรม ผนส.รุ่น 4

เรียน ผนส.รุ่น 3 ทุกท่าน

ในวันที่ 10 กันยายน เป็นวันเปิดโครงการ ผนส.รุ่นที่ 4 ซึ่งกำหนดการเดิมจะเป็นช่วงเข้า แต่เนื่องจากประธานในพิธีเปิด รมช.เกษตรและสหกรณ์ ท่าน ศุภชัย โพธิ์สุ ท่านติดภาระกิจ จึงต้องเลื่อนกำหนดการพิธีเปิดการอบรม ไปเป็นช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. ส่วนในช่วงเช้าเพื่อไม่ให้เสียเวลา จึงขอเปลี่ยนแผนการประชุมปรึกษาหารือกัน ของผนส.1-3 ในช่วงเข้าแทนนะคะ กำหนดจัดไว้ให้ตั้งแต่ เวลา 10.00 -12.00 น. คะ

ส่วนผู้นำท่านใดจะเดินทางไปพร้อมกับรถบัสปรับอากาศที่ สสท. จัดไว้ให้ กรุณาแจ้งชื่อภายในวันที่ 4 กันยายน พร้อมกับผู้ที่จะเข้าพักผรีในคืนวันที่ 9 กันยายน ที่ สสท. จะมีท่านใดบ้างจะได้ดำเนินการขอใช้ห้องพักได้นะคะ

พี่จิ๋นคะ ยังไงพี่จิ๋นต้องมาให้ได้นะทั้งวันที่ 4 และวันที่ 10 ขาดพี่จิ๋นก็เหมือนขาด...คิดถึงพี่ๆทุกคนนะคะ

ท่านประธานผนส.3 ต้องขอรายงานตัวว่าไปร่วมงานต้อนรับรุ่นน้องในวันที่ 10 ไม่ได้ติดประชุมค่ะ ต้อนรับเผื่อด้วยนะคะ....คิดถึงเพือนๆทุกคนคะ

....ถึงเพื่อนๆผนส.3 ทุกท่านได้อ่านกำหนดการต้อนรับผนส.4แล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยจะเข้าใจในนโยบายของอาจารย์สักเท่าไหร่ทำไมต้องไปรับกันที่พัทยา ในเมื่อสถาบันพิทยาลงกรณ์อันศักสิทธิ์ถือว่าเป็นบิดาแห่งสหกรณ์ไทยที่ผู้นำสหกรณ์ทั่วประเทศให้ความเคารพนับถือและเป็นสถานที่ที่ทุกคนเข้ามาอบรมชุบตัวให้มีความรู้ความสามารถในองค์กรณ์ระดับประเทศที่ได้อบรมลูกศิษย์ลูกหาผ่านมาหลายรุ่น ( แต่วันนี้ท่านต้องตื่นมามองพวกเราขึ้นรถตอนตี4ไปต้อนรับกันนอกบ้านของท่านหรือบ้านของพวกเรา) ก็ไม่อยากจะคิดไปถึงเรื่องอื่นเดี๋ยวจะผิดใจกันไปกันซะเปล่าๆ การทำอะไรในระดับนี้หารือกันดีหรือยังดูแล้วจะติดขัดไปหมดทุกอย่างทั้งวันเดินทาง(อย่าคิดว่าทุกคนว่างเหมือน่ท่าน) สายเกินไปหรือเปล่าที่มาพูดเรื่องนี้ ในความเห็นส่วนตัวขอยืนยันว่าไม่เห็นด้วยแต่ถ้าจะรับก็รับกันไปก่อน(โครงการฯรับผิดชอบกันเอง)ชาวผนส.3ไม่ทิ้งน้องแน่จะจัดต้อนรับให้อย่างสมเกียรติ์ที่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยในวันเวลาทีเหมาะสม ... ขอให้พวกเราเสนอความคิดเห็นมาด้วย...

....ถึงเพื่อนๆผนส.3 ทุกท่านกำนันบ้านนอก เสนอความคิดเห็นด้วยคน...เห็นด้วยกับพี่แจ้ ...แต่วันที่4 0k ไปแน่

ถึงเพื่อนๆ ผนส.3 ทุกท่าน ขอรายงานตัวว่าไม่สามารถไปรับ ผนส.4 ได้ค่ะ

ฝากกำนันคุยแทนพี่ด้วยนะ (4 ก.ย.52) ปล.เอาใจช่วยน้องกุ้งนะคะ สู้ๆ

ถึง เพื่อน ๆ ผนส. 3 ทุกท่าน

เหตุที่ต้องไปจัดรับน้องรุ่น 4 ที่พัทยาเพราะ ห้องที่จัดอบรมอยู่ระหว่างการปรับปรุง ถ้าไปประชุมวันที่ 4 ก.ย. จะเห็นสภาพค่ะ

ท่านประธานคะ...ต้องขอโทษด้วยที่ไปร่วมงานต้อนรับรุ่น 4 ไม่ได้เพราะต้องพาคณะกรรมการ ประธานกลุ่ม เจ้าหน้าที่ จำนวน 150 คนไปทัศนศึกษาจังหวัดกระบี่ และ พังงาตั้งแต่วันที่ 10-13 ก.ย.52 โอกาสหน้าจะไม่พลาดแน่นอน ช่วยบอกเพื่อนๆด้วยนะคะคิดถึงเพื่อนๆทุกคนค่ะ อ้อวันที่ 13 ก.ย. นี้เป็นวันเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูฯขอให้พวกเราช่วยบอกเกษตรกรไปเลือกเบอร์ 17 คุณทนงศักดิืนะจ้ะ ต้อยกับพี่ประยูรได้คุยกันแล้วว่าในอำเภอพิมายต้องมีคะแนนให้บิิ๊กอู้ตแน่นอนจ้ะนอกจากนี้ทั้งคุณอภิสิทธิ์ได้ช่วยกันแจ้ง ผจก.และประธานในในโคราชให้ช่วยกันทุกอำเภอด้วย

หวัดดี เพื่อพ้องน้องพี่ชาว รุ่น.๓ ทุกท่านครับ ในวันที่ 4 กย.ต้องขออภัยที่ไม่สามารถร่วมงานที่ครัวสหกรณ์ได้ เพราะติดจัดประชุม "ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" ที่จังหวัดขอนแก่น แต่สำหรับงานต้อนรับรุ่น 4 เจอกันแน่นอน...ชัวร์

เป็นมนุษย์หรือเป็นคน

เป็นมนุษย์หรือเป็นคน!?

เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง

เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน

ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน

ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา

ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ

ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา

เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา

เปรมปรีดา คืนวัน สุขสันต์จริง

ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า

ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง

เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง

แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย

คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตก

จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย

ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย

ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอยฯ

พุทธโอวาทคำกลอนของ...หลวงพ่อพุทธทาส

ก่อนอื่นต้องขอโทษเพื่อนๆในวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ไปถึงสันนิบาตเป็นคนสุดท้ายเนื่องจากติดงานเลี้ยงเกษียณอายุพนักงานการไฟฟ้านครหลวงเขตนนทบุรีและได้รับเป็นประธานจัดงานฯแต่ก็ไปถึงพอได้เห็นใจกัน ยังมีกำนันบ้านนอก.พี่จิ๋น.ตี๋น้อย.เจ้านกโคนม.อาจารย์บัญชาและเลขาม้าเร็วของเรา(ธนะ บำรุงแสง)และขอโทษน้องกุ้งด้วยที่วิพากษ์วิจารณ์การรับผนส.สี่ พอได้ไปเห็นโรงเรียนของเราแล้วนึกว่าโดนระเบิดปรมาณูก็จึงได้เข้าใจว่าทำไมต้องไปรับกันที่อื่น แต่ก็คงไม่สดวกสำหรับพวกเราอยู่ดีอยากให้เลขาสรุปให้พวกเราเข้าใจอีกที ( เพราะตอนผมไปถึงเขาสรุปกันไปแล้ว)จะอธิบายก็กลัวว่าไม่ถูกต้องตามที่ประชุมมีมติ คืนนั้นก็มีการเสวนากันต่อท่ามกลางบรรยากาศสงครามโลกครั้งที่สองมีสหประกันชัวิตมาแจมด้วยและมีนักธุรกิจชาวสิงคโปรอีกคนพีนกโคนมspeak english ตลอดก็ได้ความรู้ดี รำลากันไปนอนตอนเที่ยงคืน..แล้วเจอกัน

สวัสดีครับ ผนส 3 ทุกคน

    กลับจากโคราช ก็รีบเปิดบล๊อกดูทันที เพื่อดูสรุปผลการประชุมวันที่ 4 เป็นอย่างไรบ้าง ท่านเลขาช่วยสรุปหน่อย และขอแจ้งว่าจะไปร่วมให้ได้ กำลังเครียงานอยู่

  กลับจากโคราชเมื่อวาน นอนที่สันนิบาตรหนึ่งคืน ได้เห็นบรรยากาศแล้วน่ากลัวจริงๆ ตอนเช้าตื่นมาเสียงดัง นึกว่าใครมาวางระเบิด ทีไหนได้ งานก่อสร้างปรับปรุงนีเอง

  ไปประชุมโคราชครั้งนี้ได้เจอ พี่ๆหลายคน พี่ต้อย พี่อภิสิทธิ์ พี่สุรชัย และวันไปดูงานเจอป้าเครือด้วย

  ขากลับต้องขอขอบคุณพี่นัน ผนส 2  ที่กรุณานำไปซื้อของฝาก (ถ้าไม่ไปซื้อของฝากกลับไม่ได้ คนที่บ้านสั่ง) และสุดท้ายพี่เขาได้ไปส่งขึ้นรถที่ บ ข ส  เพื่อเดินทางกลับ

  ในการไปประชุมครั้งนี้ เป็นโครงการหนึ่งสหกรณ์หนึ่งโรงปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งเป็นนโยบายของ รมช. ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดี แต่ใครจะเอาต้องศึกษาให้ดีก่อน ซึ่งหากไม่พร้อม เอาไปแล้วแล้วไม่ทำก็จะเป็นอนุสาวรีย์เสียเปล่า

  สุดท้ายวันนี้ ขอฝากท่านเลขาช่วยสรุปผลการประชุมด้วย

ประยูร รัตนเมธางกูร สกต.โคราช

สวัสดีครับเพ่อนๆ ผสน.3 ทุกท่าน

-ท่านประธาน ท่านเลขา ครับ

สรุปในวันรับน้องรุ่น 4 พวกเรามีกิจกรรมร่วมอย่างไรบ้าง หรือ มีรายละเอียดที่ประชุมกันไว้อย่างไร จะได้เตรียมตัวในวันที่ 10 ได้ถูกต้อง ผมจะไปรอที่สันนิบาตในวันที่ 9 และวันที่ 10 จะได้ร่วมเดินทางไปกับ คระสันนิบาตจัดไว้ สำหรับรุ่น 3 เราจะมีอะไรซักซ้อมกันก่อนหรือไม่อย่างไรครับ

สวัสดีครับ

ขออนุญาตทำหน้าที่แจ้งข่าวแทนพี่ธนะค่ะ..

ในวันที่ 10 มีกิจกรรม คือ ช่วงเช้าเวลา 10.00 น. ทางอาจารย์จีระได้มอบให้ ผนส.1-3 ประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางที่จะพัฒนาขบวนการสหกรณ์ไทย

ส่วนช่วงบ่ายเวลา 15.00 น. เป็นพิธีเปิดโครงการโดยท่าน รมต.ช่วยกระทรวงเกษตรฯ

ช่วงเย็นก็เป็นพิธีต้อนรับน้องรุ่น 4 ซึ่ง ผนส.3 เป็นแม่งานในการจัดงานครั้งนี้ ในการจัดงานต้อนรับก็ยังมีอะไรไม่มากเท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มีคนมาประชุมกันน้อย ก็จะมีการมอบดอกไม้(ดอกกุหลาบ)ให้กับรุ่นน้อง แล้วก็มอบให้อาจารย์บัญชากล่าวต้อนรับและโชว์คอนเซ็ปของเราคือ coop go speed แล้วก็มีการร้องเพลงต้อนรับ โดยมอบให้พี่จิ๋นและพี่อู๊ด(เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง)ทำหน้าที่ดำเนินรายการบนเวที หลังจากนั้นก็คงมอบให้สันนิบาตจัดการต่อค่ะ(เพราะคิดไม่ออกแล้ว) พี่ๆมีกิจกรรมอะไรจะเสนอก็เสนอได้เลยนะคะ เรายังพอมีเวลา อยากให้ช่วยๆกัน ใครไปไม่ได้ก็เสนอความคิดได้นะคะ ต้องการให้เตรียมอะไรก็แจ้งได้ค่ะ

ลืมไปค่ะ..การแต่งกาย

ในช่วงกลางวันพิธีเปิดเป็นชุดสูทนะคะ(เสื้อข้างในขอเป็นสีเขียวค่ะ)

ในช่วงเย็น จะเป็นตัวไหนไม่ได้นอกจากเสื้อม่วงของเราค่ะ

สวัสดีค่ะ ผนส. 3 ทุกท่าน

คิดถึงทุกคนนะคะ ช่วงกลางเดือนสิงหาก็ลุ้นเรื่องบำนาญลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ผ่าน ครม. เมื่อ 25 ส.ค. 52 วันที่ 2 ก.ย. 52 ก็ได้พาผู้แทนลูกจ้างประจำทั่วประเทศกว่า 300 คน เข้าพบนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณที่อาคารรัฐสภา ต่อจากนั้นก็ต้องเดินสายไปขอบคุณส่วนราชการผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลักดันเรื่องบำนาญลูกจ้างจนสำเร็จ เช่น สศค. และกรมบัญชีกลาง ส่วนวันที่ 4 ก.ย.ติดภาระกิจที่บ้านกรูด อ. บางสะพาน จ.ประจวบฯ เกือบถึง "บ้านกำนันนัด" อีกไม่กี่กิโลเอง "คุณสุทิศ" มากรุงเทพฯ พี่ไม่ทราบเลย พี่ปรารถนา ( อยาก )จะดูแลคุณบ้าง ยังประทับใจไม่เคยลืม สำหรับน้ำใจเกินร้อยที่คุณมอบให้ตอนที่ไปหาดใหญ่ ยังไงๆ ก็ไม่เคยลืม คราวหน้าคราวหลังให้โอกาสพี่บ้างนะคะ สำหรับวันที่ 10 ก.ย. 52 ลาพักผ่อน 2 วัน จะไปรับผนส. รุ่น 4 ด้วย การเดินทางก็ขอติดตาม " คุณติ๊ก กับ คุณไนท์ " ไป ส่วนรายละเอียดยังไม่ทราบจะพักกับใครอย่างไรเลย ไปด้วยใจจริงๆ จะให้ทำอะไร ยังไง " น้องกุ้งกับคุณจิ๋น " ก็บอกด้วยนะคะ พบกันที่พัทยา คิดถึงทุกคนนะคะ สวัสดีค่ะ

สวัสดีค่ะ ผนส. 3 ทุกท่าน คิดถึงทุกคน ก่อนอื่นต้องขอโทษเพื่อนๆวันที่ 10 กำนันบ้านนอก ไม่สบายจึงไม่สามารถไปร่วมรับน้องรุ่น4ได้แต่มีเรืองให้ช่วยคิดว่าทำไมต้องเลือกคนเอาหัวมัน

เศรษฐีคนหนึ่ง มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว

ครั้นถึงวัยสมควรแต่งงาน แกเป็นห่วงกลัวว่าจะได้เมียไม่ดีมาผลาญสมบัติของตระกูล

จึงประกาศหาคู่ให้ลูกชายผ่านทางคอลัมน์ มาลัยไทยรัฐ

ปรากฎว่ามีหญิงสาวจากทั่วทุกสารทิศสนใจมาสมัคร มากมาย

แต่ละคนแจ่ม แจ่ม ทั้งนั้น ทำเอาลูกชายตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใคร

ท่านเศรษฐีนำเอาสร้อยแหวน เพชรนิลจินดาราคาแพง และ หัวมัน หนึ่งหัว

มากองไว้ต่อหน้าบรรดาสาว สาว ทั้งหลาย แล้วสั่งให้เลือกหยิบคนละหนึ่งชิ้น

ปรากฏว่าทุกคนล้วนคว้าเอาแต่ข้าวของมีค่า มีเพียงสาวน้อยคนหนึ่งที่หยิบเอาหัวมัน

เศรษฐีเห็นดังนั้นก็พูดกับลูกชายว่า " ลูกเอ๋ย จงเลือกหญิงคนนั้นมาเป็นเมียของเจ้า "

ลูกชายรู้สึกแปลกใจ ถามพ่อเพราะเหตุใด , เศรษฐีจึงสอนลูกชาย ว่า

" ผู้หญิงที่เลือกเอาแก้วแหวน แสดงว่าหลงใหลในทรัพย์สิน ไม่รู้จักทำมาหากิน "

" ส่วนผู้หญิงที่เลือกเอามันนั้น คือคนที่ขยัน ทำงานไม่เกี่ยง "

ลูกชายได้ฟัง ก็ไม่เถียง พ่อว่าไงก็ว่าตามนั้น

ผมฟังนิทานเรื่องนี้แล้ว รู้สึกซาบซึ้งในคำสอนของท่านเศรษฐี

ทุกวันนี้ผมจึงจำใส่ใจไว้ตลอดว่า ถ้าจะมีเมีย ต้องเลือกผู้หญิงที่.................................................

สวัสดี  ผนส 3  ทุกคน

       วันนี้กลับจากรับน้องใหม่ ผนส 4 แต่ยังไม่ถึงบ้าน ยังอยู่กรุงเทพอีกคืน แต่มีเรื่อง  มาฝากสำหรับคนที่ไม่ได้มาร่วมรับน้อง ซึ่งการไปร่วมงานครั้งนี้ มีผนส 3 ไปร่วมคือ เริ่มจากประธานรุ่นท่าน ต้อม จวบ ยูร Nice นก ทิศ จิํน อัํน ติ๊ก น้อย อู๊ด  กุ้ง  รวม  13  คน โดยมี รมช ศุภชัย เป็นประธานเปิด ก่อนเปิดงาน มีการประชุมร่วมกัน 3 รุ่น สรุปตั้งกรรมการร่วมรุ่นละ3-4 คน

     เสร็จจากประชุมร่วม ผนส 3 ไปประชุมต่อที่ร้านอาหารลุงไสว โดยมีท่านประธานรุ่นเป็นเจ้ามือ ต้องขอขอคุณท่านประธานสำหรับอาหารมือเที่ยง ในการประชุมเพื่อเตรียมงานต้อนรับรุ่นน้อง  โดยมี่พี่จิ๋น และพี่น้อย เป็นคนวางแผนงาน ส่วนคนอี่นรวมทั้งผมด้วย ลงมติเห็นด้วยทุกอย่าง

      สุดท้ายงานรับน้องครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกคนจากผนสรุ่น 2 ที่ช่วยกันรับรุ่นน้อง ซึ่งต่อไปการรับรุ่นน้องผมว่าน่าจะให้รุ่นพี่ทุกรุ่นมีส่วนร่วม เพราะหากรุ่นพี่รุ่นใดรุ่นหนึ่งเป็นเจ้าภาพแล้ว  รุ่นอื่นๆที่ไปร่วมงานหากเขาไม่มีบทบาทเข้าจะไปร่วมทำไม โดยให้รุ่นพี่ที่ติดกันเป็นแม่งาน

      สุดท้ายการร่วมงานครั้งนี้ดีใจมากเลยที่ได้พบกับพี่ๆผนส3 และรุ่นอื่นๆ

 

 

 

 

สวัสดี ครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. 2 ทุกท่าน

      เรียบร้อยแล้วสำหรับการต้อนรับ ผนส.รุ่น 4 เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา แจ้งให้เพื่อน ผนส. ทราบถึงผลการประชุม และเอารูปบรรยากาศต้อนรับ และงานกลางคืนมาฝากครับ

เช้าวันที่ 10 ร่วมประชุม ผนส. 1 , 2  และ 3   ผลการประชุมคร่าว ๆ มีดังนี้

  • การรวมกันเพื่อทำกิจกรรมในนาม ผนส.
  • ที่ประชุมกำหนดให้แต่ละรุ่นส่งผู้แทนอย่างน้อยรุ่นละ 3 คน เพื่อประชุมร่วมกัน ส่งรายชื่อที่คุณอรนุช(สสท.)
  • สันนิบาติจะเป็นศูนย์กลางประสานงาน และอำนวยความสะดวกในการประชุม
  • ประชุมนัดแรกประมาณกลางเดือนตุลาคม 52

ภาคเช้าประชุม

ภาคบ่ายพิธีเปิดอรบมสัมนา โดยรัฐมนตรีช่วยเกษตร

ผนส.รุ่น 1, 2, และ 3 ถ่ายรูปร่วมกับรัฐมนตรี

 

 เหนือคำบรรยาย

ร่วมกันรับ ผนส. รุ่น 4 

ดับไฟรับรุ่นน้อง  เริ่มจากการผัดแป้งเย็นฉ่ำพร้อมกรีดและขู่   ตามด้วยอมก้อนน้ำแข้งปอบให้ใจเย็น   รับดอกไม้ทำด้วยแบงค์จากประธานรุ่น 3  พร้อมนำเทียนส่องทางพาน้องเข้าที่นั่ง  และสุดท้ายแจกผ้าเย็น  แต่ก่อนหน้าที่จะแจกผ้าเย็น เปิดไฟดูผลงานพร้อมให้อาจารย์จีระทักทายลูกศิษย์ ดูว่าอาจารย์จำศิษย์คนใดได้บ้าง  หาก ผนส.4 ท่านใดลบแป้งออกก่อนจะต้องโดนทาแป้งใหม่   

 

กลับถึงบ้าน..แล้วครับพี่น้องครับ ออกจากโรงแรมประมาณ ๔ โมงเช้า ผมเป็นโชเฟอร์นำพาผู้โดยสาร พี่ยูร และพี่นัน(ผนส.๒)ซึ่งมีรถติดตามขบวน ๑ คัน คือรถคุณ นก อดิศักดิ์ มุ่งหน้าเข้าหนองมน ซื้อข้าวหลาม หมึกและของฝาก จึงเลี้ยวเข้าสู่มอเตอร์เวย์ ชลบุรี-บางปะอิน-มิตรภาพ ส่งรถติดตามของคุณนก เข้าบ้านที่เขาใหญ่ เพื่อให้รายงานตัวกับภรรยา(ใหญ่) ผมจึงมุ่งเข้าสู่ตัวจังหวัดโคราชส่งพี่นัน ที่บ้าน พลล้านวิลล่า แล้วก็ส่งพี่ยูรขึ้นรถที่ บขส. จากนั้นเขาทั้งสอง ก็ปล่อยให้โชเฟอร์ผู้แสนจะน่า..? ขับรถกลับชัยภูมิ- บ้านเขว้า โดยลำพังเพียงคนเดียว ตลอดทางก็นึกถึงแต่..งานต้อนรับน้อง ผนส. ๔ เมื่อคืนที่ผ่านมา ขับรถเลี้ยวเข้าสำนักงานสหกรณ์เวลา ๑๖.๔๕ น.ก็เลยเข้าห้องทำงาน เพื่อเช็คแฟ้มงาน(ขยันไม๊ครับพี่น้อง) ทันทีที่เสร็จก็...เขียน blog นี่แหละครับ

วันเสาร์และวันอาทิตย์นี้..ผมและเพื่อน ๆ ขบวนการสหกรณ์ในภาคอีสาน คงต้องทำงานหนักอีกครั้ง เพราะวันที่ ๑๓ กย.เป็นวันเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร อย่าลืม...ส่งกำลังช่วยนะครับ

วันที่ ๑๓ กย.วันเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กำนันบ้านนอก เป็นกรรมการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรประจำ อ.เมือง สุพรรณ บิ๊กอู๊ต พี่ท่านจะให้น้อง กำนันบ้านนอก ทำงัยบอกมาด่วน กำนันบ้านนอกไม่มีใครอยู่ในใจนะจะบอกให้

บิ๊กอู๊ด..ออกจากโรงแรมตั้งแต่สี่โมงเช้าสงสัยรีบหนีอะไรบางอย่างสงสัยเหมือนที่โรงแรมโคราชหรือเปล่าหนอ(หนีค่าซักผ้าปูที่นอนหมอนมุ้งที่รร.เรียกเก็บเพิ่ม)

อดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์(นก)

นกปากช่อง รายงานตัวครับ.........

งานต้อนน้อง เอ๊ย....รับน้องผนส.รุ่น 4 เป็นไปได้ด้วยความ สำเร็จด้วยดีครับ แหม......น้องผนส.4 แต่ละคน น่ารักทั้งนั้น มอมแมม กันทั้งงานเลย บรรยากาศดีเยี่ยมมาก สมควรที่จะยกย่องผู้ที่ให้แนวความคิดนี้ดีมาก....และอยากให้ถือเอาเป็นประเพณีที่ดีงามเช่นนี้สืบทอด ตลอดไป และหากว่าจะมีกรณีที่รดน้าอาจารย์ ได้ด้วยก็จะเป็นการดีมาก.............

ทุกคนมอมไปด้วยแป้งตั้งแต่เพื่อนผนส.รุ่นพี่ถึงน้อง อาจารย์ และนักร้อง (ท่านผอ.โชคชัย ก็ถูกแป้ง มอมแมมด้วยครับ...........นับถืองานนี้สนุกกันถ้วนหน้า

อาจารย์จีระ ร้องเพลงได้ไพเราะมาก ครับ.............นับถืออย่างบ้าครั่ง..............

สำหรับพี่บัญชา พี่จิ๋น และเพื่อนๆ ผนส.รุ่น3 ที่ได้ไปร่วมกินกัน ขอบคุณอาหารทะเลที่ร้านลุงไหว อร่อยมากครับ

งานในด้านการประชุมกันในห้องประชุมก่อนมีการรับน้อง ดำเนินงานไปด้วยความดีเยี่ยมมาก ในการตั้งคณะทำงานชุดละ 4 คน

การดำเนินงานในด้านการส่งเสริมการสร้างงาน และอาชีพของสมาชิกสังกัดเครือข่ายสหกรณ์ภาคใต้ ของเพื่อนสหกรณ์เรา จะต้องเกิดขึ้นและสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการจัดการสัมนาและระดมความคิดและการให้ความช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ ในเครือข่ายสหกรณ์ภาคใต้ ที่ประสพภัยพิบัติ สึนามิ และได้รับความเสียหาย โดยได้รับความอนุเคราะห์และได้รับความร่วมมือกันในระหว่าง สันนิบาตสหกรณ์ และผนส.รุ่น1,2,3,และหากว่าจะเป็นรุ่นที่ 4 ด้วยก็จะเป็นการดีเยี่ยม ในการระดมทั้งความคิดและแนวทางในการบริหารจัดการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนสหกรณ์ ของเราด้วยกัน และเรายังมีส่วนราชการ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ( ดร.สุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล) ให้การสนับสนุน ในการดำเนินการในด้านการสัมนาในการช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ และประชาชนที่ประสพภัยพิบัติสึนามิ ในครั้งนี้ โดยอาจมีการสัมนาพร้อมกับการจัดงานเปิดฟ้าอันดามัน ที่จังหวัดสตูล ประมาณปลายเดือนตุลาคม หรือพฤศจิกายน 2552 นี้และกำหนดการจะแจ้งให้ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง โดยงานนี้เป็นงานยิ่งใหญ่ระดับชาติ และทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และอบจ.สตูล รวมทั้งสหกรณ์อิบนูเอาฟ จำกัด(มุสลิม) ยินดีต้อนรับทางคณะสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย และผนส.ทุกรุ่น และถือว่าเป็นแขก VIP ของงาน การไปสะดวกมาก นั่งเครื่องบินลงที่หาดใหญ่ และจะมีรถพิเศษมารับนำเข้าสู่จังหวัดสตูล และสามารถเดินทางข้ามไปเกาะลังกาวี ด้วยเรือเฟอร์รี่ ซึ่งปลอดภัยและมีความสะดวกมาก โดยเฉพาะจังหวัดสตูล เป็นเมืองที่สงบมีสังคมพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกัน อากาศดี อาหารทะเลสดรสชาดอร่อย มีราคาถูก มีความเป็นมิตรภาพที่สูง พูดภาษาไทยชัดเจน และโดยเฉพาะการไปช๊อปปิ้งที่เกาะลังกาวี สินค้าอาทิเช่นเหล้า ไวน์ และอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ มีราคาถูกมาก เพราะปลอดภาษี และรัฐบาลมาเลเซีย ก็สนับสนุนให้จำหน่ายสินค้ามีคุณภาพ ราคาถูกมากด้วย ดังนั้นหากว่าท่านใดสนใจก็สามารถประสานและขอข่าวได้ก่อนที่ผม และต่อไปหากมีกรณีตั้งทีมงาน ร่วมกันในระหว่าง สันนิบาตสหกรณ์ กับเพื่อนผนส.แล้ว ก็จะชัดเจนแน่นอน หวังว่าเราคงจะได้ไปร่วมกิจกรรมกันนะครับ ในงาน "เปิดฟ้าอันดามัน จังหวัดสตูล"

ขอความกรุณาจากทางสันนิบาตสหกรณ์ และโดยเฉพาะเพื่อน ผนส.ทุกรุ่นครับ ขอให้ได้กรุณาแจ้งข่าวให้เพื่อนทั้งทางบล๊อก และโทรศัพท์ ให้เพื่อนๆ ได้ทราบด้วยครับ

ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ครับ

อดิศักดิ์ (นก ปากช่อง)

วันอาทิตย์ที่ ๑๓ กย.นี้ ต้องการให้กำนันบ้านนอก กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ฯ เป็นกลางให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่หาก..จะเอียงขอให้เอียงไปทาง คุณชินชร สถิรยากร เบอร์อะไรไม่ทราบ เพราะเป็นคนในขบวนการสหกรณ์และเป็นกรรมการสันนิบาตสหกรณ์ ด้วย

สาเหตุที่ตัดสินใจออกจากโรงแรมสี่โมงเช้าครั้งนี้ มิใช่หนีค่าซักผ้าปูที่นอนหรอกครับ แต่ที่ต้องรีบออกเพราะว่า ต้องรีบกลับมารายงานตัวเหมือนกับคุณนก ครับ

เสี่ยนก คนอารมย์ดีมีโครงการดี ๆ เยอะมาก ยังไงจัดเรียงลำดับให้ดี ๑ ๒ ๓ ๔... ท่านจะได้ขออนุญาตจากคุณนายที่บ้านถูกคิว โครงการใด เงินดีและยั่งยืน อย่าลืมกริ๊งกร๊าง..หรือส่ง blog บอกพวกเราด้วยนะครับ

แหม.........เสืออู๊ด แซวซะเสียเลย ผมไม่ต้องรายงานตัวกับซ้อ ใหญ่หรอกครับ แค่บอกกล่าวโทรศัพท์ ก็พอแล้วครับ VISa ผมก็ผ่านแน่นอน ไม่ต้องรายงานตัวครับ และโครงการต่างๆ การันตีแน่นอนครับ CONFIRM อ้อ.....อู๊ด ผ้าปูที่นอนคงจะจ่ายหลายบาทหรือเปล่าครับ......(สงสัย...ฮิฮิฮิ,,,,,) โคโยตี้พัทยาถึงทวงมา........

อู๊ด เรา ขออวยพรให้เพื่อน โชคดีในการเลือกตั้ง เป็นกำลังใจให้ และขอให้มีโอกาสทำงานให้สังคมและประเทศชาติตลอดไปครับ

GOOD LUCK THANK YOU

นก ปากช่อง

ทดสอบการใช้งานสมัครแบบมีรูปถ่ายใน blog ครับ

ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้บิ๊กอู๊ดชนะการเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกรเพื่อรับใช้ประชาชนและประเทศชาติ ขอให้โชคดี...และขอขอบคุณเพื่อนๆชาวผนส.3ทุกท่านที่เสียสละเวลาทำงานแทนพวกเราในการรับผนส.4 ขอขอบคุณอีกครั้ง

วันนี้ ๑๓ กันยายน วันเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร บรรยากาศโดยทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือคึกคักกว่าปี ๒๕๕๐ สหกรณ์และองค์กรเกษตรกรเครือเครือโทรศัพท์เข้ามารายงานตลอดเวลา มีปัญหาอยู่หลายประการ ยกตัวเช่น ๑.บัญชีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่อำเภอมอบให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศก่อนหน้านี้ ลำดับไม่ตรงกับบัญชีรายชื่อที่หน่วยเลือกตั้ง และมีผู้ใช้สิทธิ์จำนวนมากที่มีชื่อตามประกาศของผู้ใหญ่บ้าน แต่ที่หน่วยเลือกตั้งไม่มีชื่อเลย ๒.การเดินทางไม่สะดวก เพราะแต่ละอำเภอกำหนดหน่วยเลือกตั้งส่วนใหญ่ไว้ที่องค์การบริหารส่วนตำบล ๓.การตรวจสอบรายชื่อเพื่อรับบัตรเลือกตั้งช้า เพราะเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยที่ตรวจสอบรายชื่อ มีบัญชีรายชื่อเพียงชุดเดียว ขณะที่ผู้ใช้สิทธิ์มารอเข้าคิวยาวเหยียด ฯลฯ ขณะที่รายงานเวลา ๑๐.๐๔ น. ยังคงเหลือเวลาเลือกตั้งถึงเวลา ๑๕.๐๐ น.

พรุ่งนี้วันที่ 14 กันยายน 2552 จะเดินทางไปที่บ้านเขว้า ชัยภูมิ พบกับอู๊ด กะว่าจะไปดูและประสานโครงการต่างๆ และวางแผนงานกับอู๊ด รวมทั้งให้กำลังใจด้วย ขอให้เพื่อนโชคดีนะ กะว่าจะเดินทางไปถึงประมาณ 10 โมงและก็กินข้าวเที่ยงก็จะดีมาก เพราะว่าจะค่อยคลำทางไป คงจะเดินทางสะดวก

เพื่อนคนไหน มีเรื่องสอบถามให้บอกมาได้ครับ เข้า blog เป็นแล้วสนุกดีครับ

พี่แจ้ไม่เห็นแซวมาบ้างเลย

โดยเฉพาะเพื่อ ผนส.ทางใต้ หายไปไหนกันหมด ไม่เคยได้ข่าวคราวเลย เงียบจัง สุทิศ ประสาน ด่วน.....

ขอบคุณครับ

นก ปากช่อง

เรียน ผนส 3 ทุกคน

   ยังอยู่ครับ  ไม่ได้หายไปไหน กลับจากพัทยา นอนกรุงเทพ ถึงบ้านเมื่อวาน และต้องเดินทางหาเสียงให้พี่สนั่น ผู้จัดการรัตภูมิ  เป็นผู้แทนเกษตรกร  และวันนี้ก็เลือกตั้งแล้ว ไม่รู้จะได้หรือเปล่า เพราะคนมาใช้สิทธิ์น้อยมาก ในอำเภอผมผู้มีสิทธิ์ สามพันกว่าคน มาใช้สิทธิ์ไม่ถึงพันคน แล้วพี่ทนงศักดิ์ เป็นอย่างไงบ้างส่งข่าวด่วน

  ช่วงนี้งานยุ่งมากเลย ในอาทิตย์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ประชุมประจำเดือน วันอังคารถึงวันศุกร์ประชุมกลุ่มสมาชิกก่อนประชุมใหญ่(เหมือนการประชุมใหญ่ทุกอย่าง) และกหนดประชุมใหญ่จริงๆ วันที่ 30  กันยายน นี้ หลังจากนั้นจะมีเวลาว่างมากขึ้น ช่วงนี้ต้องขออนุญาต เข้าBlog น้อยหน่อย แต่มาแอบดูทุกวันเลย

  สวัสดีทุกคน

อ่านblogผนส3รู้สึกว่าเข้มข้นสาระน่ารู้ดี ตอนนี้ได้นกปากช่อง(เจ้าของproject รายวัน)ข้ามาสร้างสีสรรค์อีกคนหลังจากหาทางเข้าblogมานานเกือบปี ได้ดูรูปพวกเราที่พัทยาก็สดใสเหมือนเดิมโดยเเฉพาะเจ๊น้อยมาดตอนโพสต์ท่าถ่ายรูปเหมือนนางสาวไทยเลย สุทิศยังหล่อเข้มพียูรพี่จวบสี่สาวสดสวยและอาจารย์ยังหลับเหมือนเดิม อ้อลืมไปอีกคนพี่ธนะม้าเร็วก็มาดหล่อไม่เบาพอฟัดพอเหวี่ยงกับบิ๊กอู๊ดขวัญใจโคโยตี้ทั่วประเทศ ... ไม่รู้ผลการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรทั่วประเทศเป็นอย่างไรบ้างใครมีข้อมูลรายงานด้วย..เออนกช่วงเดือนตุลาคมวันที่10อยู่ที่สหกรณ์ปากช่องหรือเปล่าจะแวะไปเยี่ยมเยียนหน่อยหาข้าวโพดหวานกินสักฝักสองฝักพร้อมน้ำล้างถังนมสักแก้ว(นมเวรไม่เอานะ) ใกล้ๆconfirmอีกครั้ง ไปบ้านเขว้าอย่าลืมไปไหว้จรเข้หลวงพ่อด้วยละได้ข่าวศักดิ์สิทธิ์บอกบิ๊กอู๊ดอย่าเข้าใกล้ละเพราะคนละสายพันธ์กันอันตราย แค่นี้ก่อนนะก็ขออวยพรให้บิ๊กอู๊ดประสบความสำเร็จอีกครั้ง และขอให้ชาวผนส.1.2.3.4 โชคดีมีเงินใช้ทุกคน..สวัสดีครับ

สวัสดี ครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุกท่าน

      Blog ผนส. 2 มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เพื่อน ผนส. 3  (คุณอดิศักดิ์)  เข้าไปร่วมทักทายนี่ซิครับเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายอย่างแท้จริง ยังมีเพื่อน ผนส. ต่างรุ่นอีกหลายท่านที่ยังไม่กล้าเข้าไปทักทาย หลายท่านที่เข้าไปอ่านอย่างเดียวแต่ยังไม่กล้าที่จะทักทายกัน  อย่างเช่นคุณสุทิศ ผนส. 3 และ ผนส. ท่านอื่น ๆ  เข้าไปทักทานเถอะครับอย่าคิดว่าเราอื่นไกล พี่น้องกันครับ เข้าไปทักทายก็ดีใจแล้วครับ  ผมรับฟังจากคุณอดิศักดิ์เมื่อครั้งประชุมร่วมที่พัทยา และคุณอดิศักดิ์ยังได้สรุปคร่าว ๆ ลงใน Blog  ผนส. 2ให้อ่านอีก ดีครับน่าสนใจ อย่างที่ผมได้พูดในที่ประชุมว่าต้องมีเจ้าภาพ (สันนิบาติ) จะต้องรีบจัดประชุมเพื่อหาข้อสรุป  

        เรื่องดังกล่าวเมื่อประชุมเสร็จ(ที่พัทยา) ผมได้รายงานให้ท่านประธาน ผนส. 2 พลเรือตรีบงกช ฯ เป็นที่เรียบร้อย แล้วครับ 

        อาจารย์ครับการเชื่อมโยงระหว่างรุ่นของเราเริ่มที่จะเป็นจริงเป็นจังแล้วครับอาจารย์   

สวัสดี ครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุกท่าน

        ร่วมเชื่อมโยงกับ ผนส.2 ได้ที่

        http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209

        http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426

หวังว่าเราคงได้พบกันครับ

รายงานผลการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตัวแทนของขบวนการสหกรณ์เข้าวิน ๒ คน(ผู้แทนภาคมี ๗ คน) คือ นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ ผจก.สกก.บ้านเขว้า จก.(ชัยภูมิ) และคุณทักษิณ สารมณี ผจก.สกก.ชนบท จก.(ขอนแก่น)ขอบคุณ ผนส.๓ และคนในขบวนการสหกรณ์ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจ ครับ

อยากให้พี่แจ้ โม้ใน blog บ่อย ๆ อ่านแล้วเพลินดี ถึงแม้พี่แจ้ จะแก่(วิชา)หน้าอ่อน..แต่ลูกเล่นยังแพรวพราว เหมือนจรเข้หลวงพ่อที่บ้านเขว้า เดี๊ยะเลย ครับ

ยินดีด้วยครับ ท่านผจก.ทั้งสอง ที่ได้รับเลือกเป็นผู้แทนเกษตรกร

กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

หวังว่าคงได้ทำงานร่วมกับทั้งสองท่านครับ

เสี่ยนก เจ้าของโครงการ"ลังกาวี"มาถึง บ้านเขว้า แล้วครับ จะพาไปดูจรเข้หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ และเลี้ยงต้อนรับแบบ "ข้าวหม้อ แกงหม้อ"

ขอแสดงความยินดีกับพี่อู๊ดด้วยนะคะ

เรียน ผนส.รุ่น 1 – 4 เพื่อทราบ

กรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ (กตส.) ร่วมกับ สันนิบาตสหกรณ์ฯ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ

กำหนดจัดการสัมมนาสหกรณ์นอกภาคการเกษตรที่ใช้บริการผู้สอบบัญชีเอกชน

ในวันที่ 30 ตุลาคม 2552 ณ โรงแรมรามาการ์เด็น กรุงเทพฯ กลุ่มเป้าหมาย รวม 500 คน

มีของที่ระลึกมอบให้ผู้ร่วมงาน การตอบปัญหา การแสดงนิทรรศการ

นกปากช่อง รายงานตัวครับ.......

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ บิ๊กอู๊ต ด้วยครับ ที่ได้รับความไว้วางใจ ให้มาดำเนินการเป็นตัวแทนเกษตรกร ในการเข้ามาดำเนินงานเกี่ยวกับงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งเป็นตัวแทนของเกษตรกร และเป็นความหวังของเกษตรกร อย่างดีเยี่ยม คะแนนเสียงถล่มทะลาย และขอให้ทำประโยชน์ให้แก่สังคมเกษตรกรตลอดไป

กินข้าวที่บ้านเขว้า ชัยภูมิ และกลับมาถึงปากช่องใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ยังไม่ทันเหนื่อยเลย สบายมาก

ฝนตกหนัก เลยไม่ได้ไปเยี่ยมชมจระเข้ ที่บ้านเขว้า ตามที่เป็นข่าว เอาไว้คราวหน้า คงจะได้ไปกันนะครับ บิ๊กอู๊ต

และคราวหน้าอาจไปกินข้าวกับอภิสิทธิ์ฯ ที่โคราช เอาไว้ติดตามตอนหน้าขอบคุณครับ

นก ปากช่อง

ต้องขอโทษพี่แจ้ ด้วยครับ ที่ลืมตอบให้ไป

ประมาณวันที่ 10 ตุลาคม นี้ พี่แจ้จะมาที่ปากช่องแน่หรือเปล่าครับ ผมจะเตรียมโค......ไว้ให้พี่แจ้จับนมครับ(อาจเป็นโคคล้ายกับโคโยตี้ของบิ๊กอู๊ต ก็ได้นะครับ) และนมที่จะให้จับ ก็เป็นนมสดๆๆๆๆๆๆๆ.....(ไม่ใชนมเวร ไม่มีอันตราย) และยังมีขนาดตามที่พี่แจ้ต้องการก็ว่าได้ครับ ลองลุ้นดูไหมครับฮิฮิฮิ........ และในส่วนข้าวโพดหวานนั้น หากจะเดินทางมาวันไหนให้กรุณาโทรศัพท์ หรือแจ้งมาให้ผมได้ทราบล่วงหน้าด้วย จะได้เตรียมไว้ให้กินสดๆครับ หากไม่ติดต่อมาก่อนบางทีข้าวโพดยังไม่ได้ที่ จะไม่ได้กินของสด นะจะบอกให้.....และผมจะคอยต้อนรับพี่แจ้นะครับ................

วันที่ผมไปพบกับบิ๊กอู๊ต ในวันที่ 14 กันยายน นี้ ปรากฏว่าบิ๊กอู๊ต ชนะการเลือกตั้ง และผมได้ไปกินข้าวที่บ้านเขว้า ชัยภูมิ พอดี ส่วนสุทิศ ไม่รูว่าทางสงขลา เป็นอย่างไรบ้าง เป็นห่วงครับ

ขอแสดงความยินดีกับพี่ทนงศักดิ์(บิ๊กอู๊ด)ด้วยคนนะ

สวัสดีครับอาจารย์ และ ผนส. ทุกท่าน

             อีกครั้งครับท่าน ร่วมเชื่อมโยงกับ ผนส. ทุกรุ่น ได้ตาม link ข้างล่างนี้ครับ คลิ๊กได้เลยครับ

            http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677   รุ่น 1

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426    รุ่น 2

           http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209        รุ่น 2

          http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359    รุ่น 3

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678   รุ่น 4

 

ไม่มีอะไรขัดขวางการเชื่อมโยงของพวก

สวัสดีครับอาจารย์ และ ผนส. ทุกท่าน

              แก้ไข รุ่น 1 อีกครั้งครับ ร่วมเชื่อมโยงกับ ผนส. ทุกรุ่น ได้ตาม link ข้างล่างนี้ครับ คลิ๊กได้เลยครับ

            http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677     รุ่น 1     

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426      รุ่น 2

           http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209          รุ่น 2

          http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359        รุ่น 3

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678       รุ่น 4

 

ไม่มีอะไรขัดขวางการเชื่อมโยงของเราชาว ผนส. ได้

เรียน อาจารย์และผนส 3 ทุกคน

       ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดี กับพี่ทนงศักดิ์ และคนสหกรณ์ทุกท่านที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกร 

     

     

       

"congretulation mr.tanongsak นายแน่มาก" คงไม่ช้ากว่าเพื่อนๆที่จะกล่าวคำนี้ ก็ขอแสดงความยินดีอีกครั้งและขอให้บิ๊กอู๊ดได้ทำหน้าที่ผู้แทนเกษตรกรตามที่เกษตรกรคาดหวังในตัวท่าน ได้ร่วมฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตเกษตรกร และส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มของเกษตรกรในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรเกษตรกร และพัฒนาศักยภาพในการพึ่งพาตนเองและเกื้อกูลกันระหว่างเกษตรกรด้วยกัน ในอดีตก่อนจะมาเข้าอบรมผนส.3ไม่เคยคิดว่าปัญหาด้านการเกษตรจะมีมากมายและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับมหภาค(ใช้ภาษาวิชาการหน่อยเดี๋ยวอาจารย์จีระจะว่าเอาสอนแล้วไม่เอามาใช้) ช่วงเรียนได้คุยกับเพื่อนๆหลายๆคนที่มาจากภาคเกษตรจึงได้เข้าใจได้"โป๊ะเชะ"(แซวอาจารย์อีกนิด) จึงได้เข้าใจว่าจุดเริ่มต้นของสภาวะเศรษฐกิจประเทศอยู่ที่ภาคการเกษตรนี่แหละนะ ขายข้าวขายพืชผลได้ราคาก็เกิดการซึ้อขายกันอย่างต่อเนืองส่งผลไปถึงภาคอุตสาหกรรมต้องผลิตมากขึ้นและสุดท้ายก็ต้องมาใช้ไฟฟ้าของเรามากขึ้น(ส้มหล่นไปด้วย.. ฮิ.ฮิ) ก็ทำให้ตอนนี้ต้องอ่านข่าวการเกษตรทุกวันเดี๋ยวไม่มีข้อมูลมาโต้ตอบท่านๆทั้งหลาย(ท่านทนงศักดิ์ท่านอภิสิทธิ์ท่านอดิศักดิ์.. สามเสืออิสาน) ก็น่าสนใจดีนะ..จะขอไปเดินตามท่านผู้แทนทนงศักดิ์เป็นวอลล์เปเปอร์ให้ดีไหมรับสมัครเมื่อไหร่บอกด้วย ... แค่นี้ก่อนนะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ามีภาระกิจหลายอย่าง ... ขอบคุณคุณนกปากช่องอีกครั้งที่มีไมตรียินดีต้อนรับในการที่เพื่อนๆจะไปเยือนถิ่นโคนมดีกระหรี่ดัง สมกับดั่งคำที่ว่า"ไม่มีมิตรภาพใดใด... จะคงไว้ได้นานเท่าการเป็นเพื่อน ...แม้เนิ่นนานเพียงใดไม่ลบเลือน..ความเป็นเพื่อนนั้นคงอยู่ตลอดไป ":ฝันดีมีโชคแล้วเจอกัน..สวัสดีชาวผนส.ทุกท่านทุกรุ่น

ขอแสดงความยินดีด้วย K.ทนงศกดิ์ ที่รับการเลือกตั้งเป็ตัวแทนเกษตรกร เพื่องานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรฯ ขอให้เฮง ๆๆๆ

ได้ชมภาพพิธีเปิดและการรับน้องรุ่น 4 แล้วเหนือคำบรรยายและคงไม่มีใครมีความสูขเกิน คุณนกปากช่อง และคุณบิ๊กอู๊ด

คิดถึงท่านประธานรุ่น 3 และเพื่อนเสมอ

ขอบคุณ...พี่แจ้ ,คุณเกรียงไกร,คุณอ๋อ ,คุณสุทิศ ,คุณนก และทุก ๆ ท่านที่มีน้ำใจต่อผู้แทนเกษตรกร

พี่แจ้...ผมจะไม่แน่ได้ไง ก็ผมเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์จีระ เหมือนกับพี่และเพื่อน ๆ ผนส. นี่ครับ ต่อจากนี้ไปหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร การทำงานในกองทุน ฯ นั้น ในส่วนของผูแทนเกษตรกรที่เป็นคนในขบวนการสหกรณ์(พันธุ์แท้)จะต้องจับมือกันให้แน่น (อิสาน๒คน แน่นเหมือนปั้นข้าวเหนียว)และต้องสร้างเครือข่ายกับผู้แทนฯที่สังกัดองค์กรอื่น ที่มีอุดมการณ์เหมือนกันคือ มุ่งแก้ไขปัญหาหนี้สินและการฟื้นฟูอาชีพให้แก่เกษตรกร ตาม พรบ.กองทุน ฯ พ.ศ.๒๕๔๒ อย่างเป็นธรรม ยึดหลักความถูกต้อง ความโปร่งใส และความรวดเร็ว เพราะเหตุผล "สภาวะเศรษฐกิจประเทศอยู่ที่ภาคการเกษตร"ตามความเห็นของพี่แจ้ นั่นแหละครับ

ขอบคุณ..คุณทองปอน ด้วยครับ....(เขียนblogพร้อมกันก็เลยตกไป)

คุณทองปอน ขอบคุณมากครับ ที่เห็นว่ากิจกรรมรับน้อง ผนส.4 มีความสุขมาก น้องๆ มอมแมม กันถ้วนหน้า ตั้งแต่ ท่านประธานสันนิบาตสหกรณ์ ยันถึงนักร้อง น่าร๊าก...............มาก มาก............ไม่เชื่อลองถามบิ๊กอู๊ต ดูก็ได้ ว่านอกจากสนุกแล้ว ยังมีความเป็นกันเอง และคิดถึงวันที่พวกเราได้เรียนด้วยกันนะครับ ย้อนอดีตกลับไปไม่ได้แล้ว วันหน้าให้มีกิจกรรมของ ผนส.3 ของเรา คงได้สนุกกันนะครับ และหากว่างานเปิดฟ้า อันดามัน เราหวังว่าเราคงจะได้เจอกันนะครับ พร้อมเพรียงที่สตูล และลังกาวี

ฝากความคิดถึงเพื่อน ผนส.3 ทุกคนเลยครับ ว่างๆ ก็เข้า BLOG มาพูดคุยกันได้ตลอดครับ เพื่อนมิเคยลืมเลือน ความเป็นเพื่อนนิรันดร ตลอดกาล รักเพื่อนทุกคนครับ

นก ปากช่อง

ยินดีด้วยนะคะพี่อู๊ด(บัดดี้)...เก่งอยู่แล้วเนอะ เนอะ

ขอบคุณ..น้องกุ้ง(บัดดี้)...เป็นไงบ้างเสร็จจากงานต้อนรับ ผนส. ๔ มีโอกาสอยู่เที่ยวพัทยาต่อ คงสนุกนะ แหม!! อิจฉา(ตาร้อน)จังเลย..

เอามาฝากให้ท่านคิดเล่น ๆ ในฐานะผู้นำขั้นเทพ ผนส.รุ่น ๓

อเล็กซานเดอร์มหาราช ได้กล่าวไว้ว่า "กองทัพแกะที่นำโดยสิงห์โตย่อมมีพลังอำนาจ มากกว่า กองทัพสิงโตที่นำโดยแกะ"

ในทางสงคราม...ถ้ามีแม่ทัพที่เก่งกล้าสามารถ แม้กองทหารจะไม่มีความสามารถในการรบมากนัก แต่..ก็จะกลายเป็นกองทัพที่มีความเก่งและน่าสะพึงกลัว เมื่อกองทัพแกะซึ่งนำโดยสิงห์โต แกะก็จะกลายเป็นสิงโตได้ในบั้นปลาย ขณะเดียวกัน...กองทัพสิงโตที่เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง หากแต่นำโดยแม่ทัพที่เป็น แกะ กองทัพสิงโตก็จะไม่สามารถทำการรบพุ่งได้ดี เพราะ..มีผู้นำที่ไร้ความสามารถและอ่อนแอ และเมื่ออยู่ไปถึงจุด ๆ หนึ่ง สิงห์โตทั้งหลายก็จะกลายเป็นแกะไปด้วยเช่นกัน

คงเป็นในทำนองเดียวกับการปกครอง การบริหารบ้านเมือง ถ้าประเทศได้ "ผู้นำ"ที่มีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต มีความเสียสละ มีความโป่งใส ก็จะสามารถนำประเทศไปสู่การพัฒนาและความรุ่งเรืองได้ แม้..ประชาชนส่วนใหญ่จะมีฐานะยากจน และระดับการศึกษาไม่สูงนัก ผู้นำเช่นนี้สามารถจะมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศ จนระดับความรู้และฐานะทางเศรษฐกิจของประชาชนกระเตื้องขึ้นได้

แต่...ในทางกลับกัน หากประเทศที่มีประชาชน มีความรู้ ความสามารถ ฯลฯ แต่ได้"ผู้นำ"ที่ไม่ดี ก็อาจนำประเทศลงเหวไปสู่ความหายนะได้ เนื่องจาก...การฉ้อราษฎร์บังหลวง และการมีนโยบายผิด ๆ ซึ่งมีตัวอย่างอยู่หลายประเทศ และรวมถึงประเทศไทย ด้วย

ข้อคิดนี้..ผมขอฝากให้พี่น้อง ผนส.๓ ได้คิด วิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ เพื่อจะได้ศึกษาว่า "รัฐบาล และ นายทหาร" ในสภาวะปัจจุบัน ใคร?...จะเป็น "แกะ" หรือใคร?... จะเป็น "สิงห์โต" แต่ที่แน่ ๆ ผนส.รุ่น ๓ เป็น CO-OP GO SPEED แน่นอน

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ..........

เปลี่ยนรูปซะหล่อเลยนะบิ๊กอู๊ต น่าอิจฉาน้องกุ้ง ได้เที่ยวต่อพัทยา กับเพื่อนๆ แต่เราต้องมาเดินสายทำงานเหนื่อย แต่ไม่ท้อ เพื่อสังคมส่วนรวม ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก (ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งของการขับรถ) ตอนนี้ทางปากช่อง เขาจะมีงานเปิดอ่าง.....เอ๊ยเปิดอ่างกักปลาที่ลำตะคอง ในระหว่างวันที่ 1 ถึง 3 ตุลาคม 2552 นี้ เป็นเทศกาลกินกุ้ง ปลา ของอำเภอปากช่อง โดย มีกุ้ง ปลา สดๆ ในราคาถูกมากจากอ่างลำตะคองมีคนมาเที่ยวมากมายเลย เพื่อมากินปลาสดๆซึ่งมีหลายชนิดและเป็นปลาตามธรรมชาติ ไม่ใช่ปลาเลี้ยงด้วยอาหาร เป็นปลาธรรมชาติ มีรสชาดหวานอร่อยมาก.............อึ๊ม..... สำคัญมีราคาถูกเอ๊า................ มาดูแลสุขภาพกันหน่อยครับ.

และเรื่องแกะกับราชสีห์นั้น ขอให้เป็นคนที่ดีและมีคุณธรรมจริยธรรมแฝงด้วยนะครับ ไม่ใช่เก่งเป็น CO-OP GO SPEED อย่างเดียวครับ เดี๋ยวคนไม่ดีจะมาครองเมือง(เก่งอย่างเดียวไม่ได้ครับ)

พี่ยูร เจ๊จิ๋น พี่บัญชา และเพื่อนๆ ผนส.3 ที่ว่างเว้นจากภาระกิจงานที่ทำแล้ว ไม่เห็นเข้า BLOG คุยกันบ้างเลย ใครมีวิชาอะไรเด็ดๆ ก็มาเจรจาลงใน BLOG บ้างก็ได้ครับ สละเวลาเพียง 10 นาที เพื่อเพื่อนครับ

คิดถึงเพื่อน ผนส.3 ทุกคนครับ

นก ปากช่อง

ขอแสดงความยินดีด้วยคนกับผู้พิชิดความสำเร็จคุณทนงศักดิ์ ป้ากำลังเข้าไปเกี่ยวข้องกับกองทุนฟื้นฟู เสนอขายหนี้ 152 รายคงต้องไปขอคำแนะนำในเรื่องนี้แน่นอนคะ เลี้ยงฉลองเมื่อไหร่อย่าลืมคนบ้านเคียวกันนะคะ คิดถึงเพื่อนๆทุกคนค่ะ

ขอแสดงความยินดีกับ บิ๊กอู๊ด ด้วย มาช้าไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่ได้มา พอดีเมื่อวันที่ 15-16 ที่ผ่านที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์มีการสัมมนาพร้อมทั้งมีงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการ นัองนก ปากช่อง พอเข้า blog ได้ ดูมีความสุขจังเลยนะ แต่ดีแล้วละ เข้ามาเยียมเยียนและสงข่าวความก้างหน้าของคุณน้องด้วย

ผนส ทุกท่าน

   ผสน 3 จากแดนใต้ทุกท่านโปรดทราบแผ่น cd จากการอบรมตลอดหลักสูตร และการไปศึกษาดูงาน ของผนสจากแดนใต้ทุกคนอยู่ที่ผม ตอนนี้ไม่มีเวลาส่งไปให้เลยต้องขอโทษด้วย  หากใครรีบจะเอามารับเองก็ได้นะ

   วันพี่ต้อย มาเที่ยวทางใต้ ไม่ทราบเป็นอย่างไงบ้าง เห็นว่าไปเที่ยวจังหวัดกระบี่ ไม่ทราบไปเที่ยวสตูล ของพี่อดิศักดิ์หรือเปล่า

 

 

พ่อของ Mary มีลูกสาว 5 คน: 1. Nana, 2. Nene,

3.Nini, 4. Nono.

อยากทราบว่าคนสุดท้องชื่อว่าอะไร

V

V

V

V

คำตอบ Nunu?

ไม่ มันผิดแน่ๆ

คนสุดท้ายชื่อ Mary สิ ลองกลับไปอ่านคำถามอีกที…

หนุ่มนก ไปตามหาหมอตำแยกลางดึกเพราะเมียปวดท้องจวนคลอด

หมอตำแยก็ดีใจหาย รีบมาทันที มือนึงหิ้วกล่องเครื่องมือทำคลอดมาด้วย

พลางไล่หนุ่มนกไปต้มน้ำร้อนไว้ให้ ..สักครู่ก็ร้องเรียกหนุ่มนก..

"หาค้อนให้ป้าหน่อยเถอะวะ"

หมอตำแยโผล่หน้าออกมาบอก

หนุ่มนก ก็วิ่งไปหาให้โดยไม่ถามซักคำ

ห้านาทีผ่านไป... หมอตำแยโผล่หน้ามาอีก

"หนุ่มเอ๊ย..หนุ่ม หาสิ่วให้ป้าหน่อย"

หนุ่มนก ออกวิ่งอีก แต่คราวนี้ชักตงิดๆ ขึ้นมาบ้าง

"ป้าจะเอาค้อนกับสิ่วไปทำอะไรกับเมียผมหรือ"

หนุ่มนก ถามตอนยื่นสิ่วให้

"ไม่ได้เอาไปทำอะไรเมียเอ็งหรอก" หมอตำแยว่า

"ป้าเปิดกล่องเครื่องมือไม่ออกน่ะ"

55555

ขอบคุณป้าเครือ และ..พี่จิ๋น คร๊าบ !!!

ป้าเครือ.. จะขายหนี้สมาชิกให้กองทุนฟื้นฟู ฯ(กฟก.) จำนวน ๑๕๒ ราย เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าเลยโคยตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิก ๑.เป็นสมาชิก กฟก.สังกัดองค์กรใดและองค์กรนั้นได้ขึ้นทะเบียนองค์กรตอ กฟก.หรือยัง(เลขระหัสองค์กร)๒.สมาชิกต้องขึ้นทะเบียนหนี้ในรอบ ๑-๘ ๓.ต้องเป็นหนี้ NPLและ NPA หรือหนี้ระหว่างดำเนินคดี ๔.สมาชิกและสหกรณ์หรือสถาบันเจ้าหนี้ต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย ๕.การส่งเอกสารประกอบทั้งหมด เช่น สำเนาสัญญากู้,สำเนาสัญญาจำนองโฉนดที่ดินหรือ น.ส.๓ก.,สำเนาแผ่นบัญชีลูกหนี้,สำเนาคำฟ้องหรือคำพิพากษา,แบบรายงานของกองทุนฯ ชช.๑ ,สำเนาหน้าบัญชีเงินฝาก ธกส. ของสหกรณ์ ฯลฯ การขายหนี้ของสหกรณ์ให้ กฟก.ในปี ๒๕๕๒ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพราะในช่วงที่ผมเป็นกรรมการจัดการหนี้ได้อนุมัติรายชื่อไว้จำนวนกว่า ๓ แสนราย โดยเฉพาะลูกหนี้สหกรณ์ มีจำนวนมากกว่าลูกหนี้สถาบันการเงินอื่น

ผนส.๓ ภาคอีสาน แผ่น CD เรียน, CDไปจีน, ทำเนียบรุ่น อยู่กับผม คือ ป้าเครือ ตาชัย ลุงช่วย จะส่งให้ทาง ไปรษณีย์ ครับ

เรียน ผนส.รุ่น 1-4 เพื่อทราบ

ช่วงเดือน ต.ค.- พ.ย.52 สันนิบาตสหกรณ์ฯ ได้รับงบประมาณจาก กสส.จัดโครงการพัฒนาบุคลากร 4 ภูมิภาค กลุ่มเป้าหมายรุ่นละ 50 คน รายละเอียดดังนี้

ภาคเหนือ ( เชียงใหม่ พิษณุโลก) ภาคอีสาน (ขอนแก่น นครราชสีมา ) ภาคใต้ (สุราษฎร์ธานี สงขลา) ภาคกลาง (เพชรบุรี นมส.)

คัดเลือกกลุ่มจาก สหกรณ์ภาคการเกษตร 60 % สหกรณ์นอกภาคเกษตร 40 %

สหกรณ์ที่เคยอบรมกับ สสท. และไม่เคยอบรมกับ สสท. 50 : 50 %

สหกรณ์ที่ไม่เคยส่งบุคลากรเข้าอบรมกับ กสส. ในปี 2552

โดยมีหลักสูตรให้เลือก 5 หลักสูตร ดังนี้

1.กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ

2.กลยุทธ์การพัฒนาทักษะผู้นำ

3.การเขียนรายงานการประชุมอย่างสร้างสรรค์

4.การบริหารการเงินสหกรณ์อย่างมืออาชีพ

5.ทักษะการพัฒนางานบริการ และการให้บริการสมาชิกสหกรณ์เหนือความคาดหวัง

เรียนอาจารย์ สวัสดี ผนส. ทุกท่าน

     ขอเข้ามาเยี่ยมชม blog  ของ ผนส.3 หน่อยนะ เห็นแล้ว ผนส.3 เก่งๆกันทั้งนั้น น้องทองปอน น้องสุทิศ แล้วน้องประพันธ์ ไม่เห็นเข้ามาคุยบ้างหละ

    

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ...........

ไปทำธุระที่กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ พอกลับมาถึงปากช่อง ได้อ่าน BLOG แล้ว มีความดีใจมากเลยครับ............

ผมมีความสุขดีมากครับ เจ๊จิ๋น ที่ผมเข้า BLOG ได้ และรู้สึกอบอุ่นมาก ที่ได้รับทราบข่าวคราวของเพื่อน ผนส.รุ่น 3 เรา แม้ว่าจะไม่ครบถ้วนทุกคนก็ตาม ขอบคุณมากครับ เจ๊จิ๋น คนสวย...............แฮ่ แฮ่.....................

ไม่รู้ว่าหมอตำแย คนไหนเขียนแซวมา ผมตั้งตัวแทบไม่ติดเลย แถมวิธีการทำคลอด เอ๊ย.....ไม่รู้ว่าทำแท้งหรือเปล่า พิสดารมากตั้งแต่เคยได้ยินมา แต่ก็แปลกดี เพราะว่าการทำคลอดแบบนี้แสดงว่าแม่พันธุ์มีความแข็งแกร่งมากในเรื่องการ................ไม่ทราบว่าหมอตำแย จะง้างออกหรือเปล่า นั่นคือประเด็นที่ต้องคิดต่อไปหากว่ามีเวลากรุณาแจ้งผลมาให้ได้ทราบด้วยครับ หรือจะมีการทำคลอดโดยวิธีอื่นก็ลองเสนอมาบ้างครับ รับฟังทุกปัญหา.................

ขอบคุณสุทิศ มาก ที่เพื่อนยังสนับสนุนให้เจ๊ต้อย ที่หลงมาทางใต้ ได้คิดถึงสตูล และหากว่าจะเป็นไปได้ เจ๊ต้อยเขียนมาแซวบ้างก็จะเป็นการดี สำหรับสุทิศ หากว่าเร็วๆ นี้(อาจสิ้นเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า) ผมลงเครื่องบินที่หาดใหญ่ไปที่สตูล จะรีบติดต่อไปให้ทราบ และคงจะต้องได้กินข้าวกันแน่นอน สัญญา.......... และหากว่าเพื่อๆ ทางใต้ที่ใกล้เคียงจะมาร่วมด้วยก็ยินดีครับ

ไม่รู้ว่าพี่แจ้ ,ธนะ, น้องอ๋อ , และเฮียบัญชา , เชียงราย , ลำปาง , ทางใต้ และเพื่อนผนส.3 คนอื่นๆหายไปไหนประกาศเรียกด่วน ระดมพลความคิดบ้างครับ หากไม่รายงานตัว วันหน้าสมควรปรับแน่นอน

คิดถึงเพื่อน ผนส.3 ทุกคนเสมอครับ

นก ปากช่อง

เรียน  ผนส 3 ทุกคน

        สวัสดีทุกคน วันนี้เข้ามาดูแล้วอดใจไม่ได้ต้องร่วมแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะที่พี่อดิศักดิ์ลงมาใต้ จะไปกินเข้ากันนั้น ก็รออยู่หลายครั้งแล้วไม่ได้ต้อนรับสักที แต่ขออย่ามาให้ตรงกับวันที่ 22,25,29,30 นะเพราะมีงานสำคัญและตรงกับประชุมใหญ่พอดี หากพี่มาช่วงผมว่าจะไปเที่ยวสตูลกับพี่ด้วย

      แล้วจะเลี้ยงฉลองคุณพี่ทนงศักดิ์วันไหนส่งข่าวด้วย

:หนุ่มนก ปากช่อง: ช่วงนี้มาแรงแซงไม่หยุดเข้าblogถี่ยิบขึ้นเหนือล่องใต้ตลอดแถมชักชวนแกมบังคับเพื่อนฝูงให้เข้าblogหากไม่เข้าจะถูกปรับออกจากรุ่นเลยต้องรีบเข้ามารายงานตัวกลัวถูกปรับออก " สตูลโมเดล "หรือเปิดฟ้าอันดามันใกล้เป็นจริงๆแล้วซินะหนุ่มนกตามข้อตกลงที่ได้คุยกันคืนนั้นที่สันนิบาตเราจะไปด้วยกันทั้งรุ่น เสียนกคิดcostหรือยังว่าต้องใช้เท่าไหร่และจะดำเนินการอย่างไรในtripนี้ ( คืนนั้นเราสรุปกันว่าเจอกันที่หาดใหญ่ก่อนใช่ไหม) ชักอยากไปเร็วๆซะแล้วตกลงนกคิดว่าจะไปช่วงไหนดี ต้องแจ้งล่วงหน้าพอสมควรเพื่อลางานขออนุญาตลูกเมียให้เป็นที่เรียบร้อยเสียก่อน ...ได้อ่านหนุ่มบ้านเขว้าเล่าเรื่องกองทัพแกะนำโดยสิงห์โตและกองทัพสิงห์โตนำโดยแกะ(ชาวจีนเรียก สิงห์โตว่าโสห์ติง)ได้อย่างน่าฟังและนำมาดัดแปลงใช้ได้ในเรื่องภาวะผู้นำ ที่ผนส.4กำลังศึกษากันอย่างเข้มข้น ตอนต่อไปอยากให้บิ๊กอู๊ดวิเคราะห์เรื่อง"กองทัพแพะนำโดยฮายีน่า " ให้ฟังบ้างแต่ความจริงก็เล่ามาแล้วละแต่เปลี่ยนจากแกะมาเป็นแพะ(ประชาชนรับบาปอย่างเดียว)สิงห์โตยังมีคุณธรรมแต่ฮายีน่าไอ้หมาเจ้าเล่ห์เปรียบกับอะไรดีบิ๊กอู๊ดช่วยคิดต่อด้วย...ได้ยินแว่วๆเรื่องการตั้งสภานมแห่งชาติ เป็นอย่างไรหรือนกน้อย ปากช่อง คุยให้ฟังหน่อย... อยากถามอีกเรื่องตอนนี้ผส.4เขาเรียนกันที่ไหนเพราะที่สันนิบาตเหมือนโดนระเปิดปรมาณูถล่ม.... แค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกัน สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านblog"ผนส.3

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. ทุกท่าน

           เข้ามาอ่านและให้กำลังทุกวันอย่างน้อยวันละครั้ง

 

นพคุณ

พี่ป้าเครือเริ่มปฏิบัติการ พี่บิ๊กอู๊ดเตรียมดำเนินงาน อย่างไรก็ขอเก็บเงินไว้ฟื้นฟูภาคกลางด้วยนะ(อิจฉา) พี่จิ๋นคงหายเหนื่อยจากการปิดบัญชีรอบ มีนาคม แล้ว คงสดใสและน่ารักเมือนเดิม

เพื่อนอ๋อ น้องวี ทำอะไรอยู่ มีขอสงสัยให้ตอบ ณ เวลานี้ ควรปลูกข้าวพันธุ์อะไร ใส่ปุ๋ยอินทรียี่ห้อไหน ในเมื่อข้าวหอมมะลิ ตันละ 32,500.บาท และ ทองคำ บาทละ 16,600.(คำถาม งงๆ นะ)

คิดถึง ผนส.3 ทุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคนเลย

ดีใจจัง ผนส.รุ่น 2 เพื่อนผู้จัดการนงเยาว์ สหกรณ์ดีเด่น จากพัทลุง เข้าเยี่ยมblog ขอให้สดใสเหมือนดอกกล้วยไม้นะคะ

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ...............

ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่แจ้ ครับที่กรุณาเขียนมาแซวใน BLOG ในเรื่อง "สตูล โมเดล" ผมสอบถามจากทาง อบจ. และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานนี้ที่จังหวัดสตูล ปรากฏว่าจะมีการจัดการประชุมเพื่อจัดงาน เปิดฟ้าอันดามัน ประมาณวันที่ 23 - 24 กันยายน 2552 นี้ครับ และหากว่าได้ทราบกำหนดการเมื่อไหร่ จะรีบแจ้งให้ เพื่อนๆ และพี่ๆ ผนส. ได้ทราบเป็นการด่วน เพราะการไปในครั้งนี้เป็นการดำเนินการที่สำคัญมาก เพราะเป็นการร่วมมือระหว่างส่วนราชการจังหวัดสตูล กับทางสันนิบาตสหกรณ์ และผนส. ทุกรุ่น ที่จะระดมแนวทางเพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสพภัยพิบัติ จากสึนามิ ทางฝั่งอันดามัน และจะเป็นงานที่พวกเรา เลือดสหกรณ์ด้วยกันจะช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยผ่านระบบสหกรณ์เครือข่ายในภาคใต้ครับ และได้ทราบจากท่าน ผอ.โชคชัย ฯ ว่าประสงค์ที่จะจัดสัมนาสัญจร เพื่อระดมความคิดสู่จังหวัดภาคใต้ ที่ถูกภัยพิบัติสึนามิ และเป็นการเปิดแนวทางการค้า กับโลกกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งมีกำลังซื้อสูงมาก โดยความร่วมมือกับกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์มุสลิมของพวกเราครับ ซึ่งใครเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ ก็ดำเนินงานเกี่ยวกับออมทรัพย์และการเงิน,ในส่วนสหกรณ์ภาคการเกษตรและประมง ก็เป็นสินค้าทางเกษตร ประมง และในส่วนสหกรณ์ขนส่งก็จะได้เป็นการขับเคลื่อนในการขนส่ง ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อวงการสหกรณ์ทุกประเภท มากครับ

ดังนั้นหากว่าจะสามารถจัดการสัมนาเพื่อเปิดโลกการค้า สู่ตลาดกลุ่มประเทศมุสลิมได้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้อง เพื่อนสหกรณ์แล้ว เรายังได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ เรามาช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ด้วยกันนะครับ

สำหรับกำนันสุขสันต์ ผมได้รับข้าวตัวอย่างเรียบร้อยแล้วครับ จะรีบดำเนินการติดต่อให้เป็นการด่วนครับ และเราจะไปตลุยขายสินค้าในตลาดโลกด้วยกันนะครับเพื่อน

สุทิศ ขอบใจมาก สำหรับน้ำใจในการที่รอกินข้าวกับผม และหวังว่าหลังหมดเทศกาลถือศีลอด ของพี่น้องมุสลิม ประมาณปลายเดือนกันยายน นี้ ผมก็จะเดินทางไปลังกาวี และสตูล (ปกติไปทุกเดือนอยู่แล้ว) และหากว่ามีเวลาไม่ตรงกับช่วงเวลาที่ท่านติดงาน เราจะไปลังกาวีเที่ยวได้ครับ มีรถบริการแน่นอนครับที่ลังกาวี.........(แต่สาวๆ ไม่แน่ใจ แต่ว่าที่สตูล รับปากว่า SURE............นวดหายปวดเมื่อยแน่นอน ฮิฮิฮิ.......มีปริมาณเพียงพอแน่นอน........สำหรับ 4 ยอดกุมาร และเพื่อนๆ ผนส.)

และในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังจังหวัดสตูลและลังกาวี ผมกำลังประสานกับทาง อบจ.สตูล เพื่อจะได้หาสปอนเซอร์ในเรื่องอาหารจากทาง อบจ. และทางสหกรณ์มุสลิม ในการเลี้ยงต้อนรับกลุ่มสันนิบาตสหกรณ์และผนส. ที่ประสงค์จะเดินทางไปในวันดังกล่าว (ประมาณปลายเดือน พฤศจิกายน ถึง ต้นเดือนตุลาคม งานมีประมาณ 7 วัน) และเราจะเป็นแขก VIP ในงานเปิดฟ้าอันดามันครับ อีกทั้งจะได้เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่พวกเราครับ ซึ่งในอาทิตย์หน้าจะสรุปให้เสร็จครับ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและการประชาสัมพันธ์ และการจองตั๋วเพื่อการเดินทาง โดยเฉพาะส่วนราชการจังหวัดสตูล จะมีหนังสือเชิญมาถึง สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย และผนส.ทุกรุ่นครับ ถือว่าเป็นเกียรติในงานนี้ที่จะได้รับการต้อนรับอย่าง VIP สมเกียรติครับ

ขอบคุณพี่นพคุณ และพี่นงเยาว์ ผนส.2 ที่ให้เกียรติเข้ามาใน BLOG ของรุ่น 2 เรานี้ เรายินดีต้อนรับพี่ๆ ทุกท่านครับ และหากว่ามีโครงการเชื่อมโยงกัน เราจะประสานไปยังพี่ๆ ครับ และเราจะส่งข่าวสารดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อน และสังคมสหกรณ์ของพวกเรา และเราจะไปมาหาสู่กันตลอดไปครับ

เอ๊า.........เพื่อนผนส.รุ่น3 ไปไหนกันหมด ไม่ค่อยเข้ามาใน BLOG เลย ใครทราบ ก็ช่วยกันกระจายข่าวและให้ความกรุณาติดต่อเข้ามาใน BLOG เพื่อพูดคุยกันบ้างครับ จะได้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นและอย่างน้อยก็ได้พูดคุบกันบ้างครับ

ไม่ทราบว่าใครทราบ BLOG อาจารย์ยมบ้างไหมครับ หากว่าใครทราบกรุณาแจ้งผมด้วยครับ

คิดถึงเพื่อนทุกคนครับ

นก ปากช่อง

อ่านคอลัมภ์นก ปากช่อง ก็เพลิดเพลินดีเหมือนกันมีเรื่องคุยเยอะจริงๆไม่รู้เป็นนกพันธ์ไหนมาเกิด(สงสัยไม่นกแก้วก็นกขุนทอง) เรื่องสตูลโมเดล สุทิศน่าจะมองเห็นภาพชัดเจนกว่าคนอื่นนะในการลงทุนการค้าในภาคใต้ ลองขยับให้ฟังหน่อย..

...น้องปังปอน กำลังหาพันธ์ข้าวแนวเกษตรอินทรีย์ลองปรึกษาป้าเครือ ดูซิเจ้าตำหรับเหมือนกัน ดูราคาข้าวที่น้องปังปอนบอกน่าสนใจไปทำนานะ คงจะถึงยุคเสี่ยนาข้าวสาวนาเกลือเฟื่องฟูอีกรอบ ..ในสมัยก่อนเคยไปแถวสมุทรสาครสมุทรสงครามเกษตรกรปลูกข้าวบอกว่าไปนั่งฟังเพลงตามcafe'นักร้องไม่สนใจเลย พอพวกเลี้ยงกุ้งเข้ามาเอาใจกันน่าดูเพราะจับกุ้งทีได้เป็นแสน ขายข้าวได้ตันไม่ถึงหมื่น (มันน่าน้อยใจน้อยใจ) สรุปสุดท้ายทั้งนาข้าวและนากุ้งเจ๊งทั้งคู่ แม่นักร้องสาวรวยคนเดียวขับรถป้ายแดงเสียนากุ้งวางดาวส์เสี่ยนาข้าวผ่อนให้ สุดท้ายโฉนดต้องไปฝากbankไว้กลัวหาย...

... เข้าไปอ่านblogรุ่น4ตอนนี้ก็รู้สึกเริ่มเข้มข้นขึ้น เริ่มส่งการบ้านก็มีมุมมองต่างๆกันดี ก็ขอบคุณพี่นพคุณที่วนเวียนเข้าblogเป็นกำลังใจให้ทุกรุ่น ... ขอบคุณคุณนงเยาว์ที่ให้เกียรติ์เข้ามาเยี่ยมชมblogผนส.3พร้อมกล้วยไม้แสนสวยสดใส ดั่งคำของมล.ปิ่น มาลากุล ได้พูดไว้ว่า"การศึกษาเหมือนดั่งการปลูกกล้วยไม้ ต้องใช้เวลา แต่ยามใดออกดอกก็พาให้ชื่นชมชืนใจทุกครั้งไป "เปรียบเทียบได้ว่า การเรียนการศึกษาต้องใช้เวลามาก แต่เมื่อเรียนจบก็แสนจะดีใจภูมิใจ เหมือนกล้วยไม้วันที่ออกดอกให้ชื่นชม...

....กรุงเทพตอนนี้ก็เริ่มวุ่นวายสีเหลืองลีแดงเริ่มป่วน พูดถึงเรื่องนี้ถ้ามองในมุมชุมนุมอย่างสงบก็มีส่วนดีอยู่บ้างนะการค้าขายของบรรดาแม่ค้าต่างๆก็ขายดีเช่นข้าวกล่องของกินของใช้ต่างๆส่งผลให้ข้าวสารป้าเครือพี่ต้อยทีส่วนขายดีไปด้วย รวมถึงนมกล่องนมเวย์ และที่แน่ๆได้เเคะกระปุกออมทักษินเข้าประเทศบ้าง แต่ไอ้ที่เสียหายก็เยอะ สงสัยต้องใช้ทฤษฐีกองทัพแพะของบิ๊กอู๊ดมาวิเคราะห์สถานการณืบ้านเมืองในปัจจุบันให้ฟังอีกที..

..วันนี้แค่นี้ก่อนนะ.. คิดฮอดทุกคนสวัสดีครับ

เข้มข้นน่าดู...ทั้ง กระทู้สด และ กระทู้แห้ง ของบรรดาผู้นำชั้นเทพ(ขอยืมคำของพี่แจ้) ผนส.๓ ของพวกเราที่เข้า blog เริ่มถี่และหนาแน่นขึ้น สาระดีก็มีเยอะ สาระเด็ดก็มีมาก ประทับใจที่สุดเลย

ยอมรับว่าพี่แจ้ ของเรายอดเซียนจริง ๆ สมัยก่อน(ปางก่อน)พี่แจ้เคยไปแถวสมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีเรื่องเล่า ของ เสี่ยนาข้าว สาวนาเกลือ มาฝากด้วย ไม่ทราบว่าพี่แจ้มีเรื่อง เสี่ยไฟฟ้า เสียท่าสาวประปา หรือเปล่านะ

เสี่ยนมโต คนอารมณ์ขัน ช่วงนี้ออกอาการขยันเข้า blog ทุกวัน "สตูลโมเดล" งาน "เบิดฟ้าอันดามัน" ขอให้กำลังใจเสี่ยนก ในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมุ่งสู่เป้าประสงค์ที่ตั้งไว้ หวังว่าพวกเรา ผนส.๓ และรุ่น๑, ๒, ๔ จะมีโอกาสร่วมงานครั้งนี้ ฝากพี่จิ๋นเตรียมวางแผนหาสตังค์ เข้ากองทุนด่วน !!

ที่นี่ !! ประเทศไทย

สถานการณ์ช่วงนี้ พวกเราต้องภวนาให้พระสยามเทวาธิราช ปกปัก คุ้มครองให้ประเทศไทยรอดพ้นวิกฤติการณ์ครั้งนี้ อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์และปัจจัยความเสี่ยง คือ ๑. เสื้อเหลืองทวงคืนแผ่นดิน ๒.เสื้อแดงทวงคืนทักษิณ ๓.เนวินทวงคืนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและคดีกล้ายาง ซึ่งจะส่งผลทำให้ประเทศไทยของเราสั่นสะเทือน (ประมาณ ๗.๖ ริคเตอร์) อย่างไรก็ตาม จะต้องวิเคราะห์ปัจจัยสนับสนุนภายในและภายนอกประเทศทุกมิติ และอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งสำคัญมาก คือ ความเป็นผู้นำของ นายกรัฐมนตรี , ผู้บัญชาการทหารบก ว่าจะเป็น "สิงห์โต" หรือ "แกะ" โดยส่วนตัวเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี ยังมีความเป็น "ภาวะผู้นำ" เพราะฉะนั้น สถานการณ์เช่นนี้ หากควบคุมไม่ได้ ด้วยเหตุใดก็ตามหรือเพราะอาจมีมือที่สาม(มือที่มองไม่เห็น) อาจจะส่งผลสู่การตัดสินใจของผู้นำ ประกาศ"ยุบสภา" หรือ "ปฏิวัติ"

ที่นั่น !! กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

หลังจากทราบผลการเลือกตั้ง ผู้แทนเกษตรกรทั่วประเทศ ถึง ณ วันนี้ ผู้สอบผ่านก็เริ่มประสานงาน จับกลุ่ม รวมก๊ก ควบก๊วน เพื่อประโยชน์อะไร ? และของใครไม่ทราบ ? แต่ที่ยืนยันชัดเจน คือ ผมและคุณทักษิณ ผู้แทนของขบวนการสหกรณ์ภาคอิสาน จะมุ่งรักษาผลประโยชน์ ปกป้องระบบสหกรณ์ ยึดมั่นหลักและอุดมการณ์ของสหกรณ์เป็นสำคัญ ขณะนี้มีผู้แทนเกษตรกรที่มีหลักและอุดมการณ์เดียวกัน ติดต่อเข้ามาและตกลงในหลักการไว้แล้ว ซึ่งเราพร้อมที่จะร่วมเป็นทีมงานทีดี

พี่แจ้นี่คือใครคะเห็นอ้างอิงถึงกันบ่อยในblogแสดงตัวหน่อยซิคะ อยากรู้จัก...

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ................

ขอบคุณพี่แจ้ ที่เขียนมาแซวใน BLOG ครับ มากล่าวหาว่าผมเป็นนกพันธุ์ไน ลองสังเกตุดูซิครับ แต่ที่แน่ๆ ผมหวังดีกับเพื่อนๆ ทุกคนครับ ผมสัญญา............... และขอให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม และเราจะเชื่อมโยงธุรกิจกันนะครับ

บ๊กอู๊ต เขียนมาดีมากมีสาระ และในการดำเนินงานทุกชนิดสำคัญที่ใจครับ เพราะว่าหากว่าใจคนบริสุทธิ์แล้ว ทุกอย่างเริ่มต้นก็จะเป็นสิ่งที่ดีและเสร็จสิ้นด้วยดี หากว่าใจที่ไม่บริสุทธิ์ทุกอย่างแม้จะดำเนินงานดูเหมือนดี แต่ว่าจบลงก็ไม่ดีครับ

พี่แจ้ หากว่าน้องๆๆๆๆ อยากเห็นภาพก็ลองจินตนาการไม่ยาก .......เคยเห็นแซม(ยุรนันท์) ไหม อย่างไง อย่างงั้น ฮิฮิฮิ........แถมร้องเพลงสำเนียงไพเราะมาด้วย ยิ่งตอนได้ดริ๊งนิดๆ.......แหมหวานเจี๊ยบเลยเชียวคุณ ร้องเป็นภาษาอังกฤษ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่............พี่เขาแน่มากอยู่แล้ว เอ้า......พี่แจ้แนะนำตัวหน่อยครับ

เจ๊จิ๋น,เจ๊ติ๊ก,เจ๊นิก,เจ๊ต้อย,พี่น้อย ชลประทาน คนสวยหายไปไหน ไม่เห็นเขียนลง BLOG มาบ้างเลยครับ คิดถึงครับ

พวกเรามีบุญแล้วครับที่เกิดในรัชสมัยของราชจักรีวงศ์นี้ โดยเฉพาะในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช พระองค์นี้และเราทุกคนถือว่าเป็นลูกของพระองค์ท่าน เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกว่าประเทศเพื่อนบ้านของเราเป็นไหนๆ ที่พ่อของพวกเราทำเพื่อพวกเรามาตลอดโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจากลูก เวลาที่เราจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มันไม่นานมากหรอก สั้นนิดเดียวเท่านั้น เราไม่รู้ว่าเราจะสิ้นอายุวินาทีไหน (สิ้นอายุเมื่อไม่หายใจ) และเราไม่รู้ว่าชาติหน้าหากเกิดมาจะพบกับใน รัชสมัยนี้หรือพ่อพระองค์นี้หรือไม่ไม่ทราบ เมื่อเราเกิดมาโชคดี แล้วยิ่งเราเป็นพี่น้องในแนวทางพระราชดำริ ในวงการสหกรณ์ด้วยแล้ว (ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเป็นผู้นำสหกรณ์ได้ทุกคน เพราะมีจำนวนจำกัดเพราะฉะนั้นถือว่าเรามีบุญมาก) เราควรที่จะยิ่งภาคภูมิใจและเร่งทำความดี เพื่อถวายพ่อ ของพวกเราให้เพิ่มขึ้นมากๆ.....นะครับ ความดีทำง่าย ไม่ต้องแต่ใช้แต่เงินเพียงอย่างเดียว และสามัคคีกันไว้ และทำประโยชน์ให้แก่สังคมพี่น้องของพวกเรา และดำเนินชีวิตตามแนวทางพระราชดำริ ตอลดไป เพื่อให้พ่อได้ภูมิใจในบรรดาลูกๆ ของพระองค์ท่านนะครับ อย่าทำให้พ่อผิดหวังและเสียใจนะครับ วันนี้เรายังไม่สายที่จะทำความดีเพื่อตอบแทนแผ่นดินครับ แม้จะทำผิดมาแก้ไข เริ่มต้นทำความดี แก้ไขใหม่ได้ครับ พี่น้องในสังคมพร้อมให้อภัยครับ ในส่วนของผมและครอบครัวขอให้คำปฏิญาณว่า.........ผมและครอบครัวจะทำความดีทุกวิถีทาง เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินตลอดไปครับ

คิดฮอดทุกคนครับ

นก ปากช่อง

ของฝากสำหรับพี่แจ้

วิธีแก้อาการเมาค้าง

การเมาค้างเป็นอาการที่พบบ่อยหลังวันหยุดยาวในทุกเทศกาล โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ หรือไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยง งานแต่ง งานบวช งานสังสรรค์ เป็นการทุ่มเทให้กับความสนุกสนาน หลายคนดื่มทุกวันติดต่อกัน จากการสำรวจพบว่าคนไทยทั้งประเทศเป็นนักดื่มที่จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก เลยทีเดียว การดื่มเหล้า เบียร์ ทำให้ร่างกายใช้น้ำมากในการเผาผลาญแอลกอฮอล์จึงเกิดภาวะขาดน้ำ ดังนั้น การดื่มน้ำอุ่นมากๆ อาบน้ำบ่อยๆรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวจะช่วยแก้เมาค้างได้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้คนไทยฉลองเทศกาลต่างๆ จนเมาค้าง เพราะจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ต่อสุขภาพร่างกายของเรา และบางครั้งอาจทำให้ควบคุมสติไม่อยู่ เกิดการทะเลาะวิวาท กระทบต่อการทำงาน

สำหรับท่านที่เป็นนักดื่มตัวจริงมีหลายคนที่เจอกับอาการเมาค้างแบบนี้ จนไม่สามารถปฎิบัติภาระกิจประจำวันได้ อาจจะเสียงานเสียการมีหวังงานนี้ จะถูกเจ้านายตำหนิได้ ขอให้ทุกเทศกาลเป็นช่วงของวันหยุดแห่งการสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว เป็นโอกาสได้หยุดเพื่อชาร์ตแบตเตอรี่มีพลังในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

วิธีแก้เมาค้างคือ

1. ต้องงดการดื่มทันที หากดื่มเพื่อถอนแก้เมาค้างยิ่งเป็นการเติมเชื้อแอลกอฮอล์ให้ร่างกาย สิ่งที่ควรทำคือให้ดื่มน้ำอุ่นมากๆ

2. รับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะม่วงดิบ มะขามเปียก

3. ใช้กาแฟผงชนิดใดก็ได้ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเดือดๆ 1 แก้วใหญ่(ห้ามใส่น้ำตาล) คนให้ละลาย รอจนอุ่นให้คนเมาดื่มแล้วนอนพัก อาการจะดีขึ้นใน 15 นาทีหลังจากดื่มกาแฟ

4. ใช้มะนาว 1 ลูกคั้นเอาแต่น้ำ กรอกให้คนเมาดื่ม ประมาณ 10 นาที คนเมาจะอาเจียนนอนพักสักครู่ อาการเมาก็จะหาย

5. อย่ารับประทานทุเรียน เพราะมีซัลเฟอร์หรือกำมะถันสูง สารนี้ทำให้แอลกอฮอล์ดูดซึมในร่างกายได้เร็ว ทำให้ร้อนในถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนขนุน ละมุด ลำไย ลิ้นจี่ เป็นผลไม้รสหวานแต่ไม่มีซัลเฟอร์หรือกำมะถันผลข้างเคียงจะไม่รุนแรงเท่าทุเรียน

6. ควรรับประทานอาหารย่อยง่าย ทำจากปลา เช่น ข้าวต้มปลา โจ๊ก อย่ากินอาหารมัน การออกกำลังกายเบาๆ ทำให้อาการดีขึ้น ฟื้นสภาพได้เร็ว

7. ควรเดินเบาๆ อย่าวิ่งเพราะอาจทำให้หกล้มได้ อาบน้ำบ่อยๆ หากลองปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวข้างต้นยังลุกไม่ขึ้น มีการอาเจียน ปวดศีรษะ ต้องพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา

ที่มา http://www.yokkrokbangkok.com/index.php?option=com_content&view=article&id=12%3A2009-01-13-18-03-09&catid=5%3A-qq-&Itemid=3

หลังจากเฝ้าดูยอดขายที่ตกต่ำลงมา 3 เดือนของไก่ทอดเคนตั๊กกี้

ผู้พันแซนเดอร์ส(คนคิดสูตร KFC)ได้โทรศัพท์หาพระสันตปาปาเพื่อขอความช่วยเหลือ

พระสันตปาปากล่าว

"พ่อจะช่วยอะไรลูกได้บ้าง"

ผู้พันตอบ

"ผมอยากให้คุณพ่อช่วยเปลี่ยนบทสวดประจำวันจาก"ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานขนมปังให้แก่เรา " เป็น "ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานไก่ทอดให้แก่เรา" ถ้าหากคุณพ่อทำได้นะ ผมจะบริจาคให้วาติกัน 10 ล้านดอลลาร์"

พระสันตปาปาตอบ

"พ่อเสียใจนะลูกนั่นเป็นบทสวดของพระผู้เป็นเจ้า พ่อเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก"

หลังจากนั้นอีกเดือนหนึ่ง ยอดขาดยังคง ตกต่ำลงกว่าเก่าอีก ผู้พันเริ่มเครียดจึงโทรหาพระสันตปาปาอีกครั้ง

"ฟังนะครับคุณพ่อ ผมต้องการความช่วยเหลือของท่านมาก ผมจะบริจาค 50 ล้านดอลลาร์ถ้าท่านเปลี่ยน คาถาในบทสวดจาก "ขนมปัง" เป็น "ไก่ทอดเท่านั้นเอง"

พระสันตปาปาตอบกลับมาว่า

"ลูกเริ่มทำให้พ่อลังเลแล้วนะ ผู้พันแซนเดอร์ส โบสถ์สามารถใช้เงินที่ลูกบริจาค ทำประโยชน์แก่สาธารณชนได้มากมาย แต่พ่อคงต้องขอยืนกราน นั่นเป็นบทสวดของพระผู้เป็นเจ้า พ่อคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้"

ผู้พันแซนเดอร์สต้องผิดหวังกลับไปอีกครั้ง แต่เมื่อสองเดือนผ่านไปพร้อมกับยอดขายที่ย่ำแย่ถึงขีดสุด

"คุณพ่อครับ นี่เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้าย ถ้าพ่อเปลี่ยนคำในบทสวดจาก"ขนมปัง" เป็น "ไก่ทอด" ผมจะ บริจาคให้สำนักวาติกัน 100 ล้านดอลลาร์ "

พระสันตปาปาตอบ

"ขอเวลาพ่อคิดก่อนนะ แล้วพ่อจะติดต่อกลับไป"

วันต่อมา พระสันตปาปาเรียก ประชุมบิชอปทั้งหมดในคณะและเริ่มแถลงว่า

"พ่อมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายนะ ข่าวดีคือ KFC กำลังจะบริจาคเงินให้สำนักวาติกันของเรา 100 ล้านดอลลาร์"

เหล่าบิชอปต่างพากันปลาบปลื้มกับข่าวดีนี้ บิชอปท่านหนึ่งจึงถามถึงข่าวร้ายบ้างพระสันตปาปาตอบ

"ข่าวร้ายก็คือ เราคงต้องยกเลิกสัญญากับบริษัทขนมปังฟาร์มเฮาส์แล้วน่ะ"

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ผนส.3

เสี่ยนก ปากช่อง มาแรงอย่างที่แจ้ว่าไว้ไม่มีผิด รู้สึกว่า "สตูลโมเดล" มาแรงจริง ๆ ฝากถึง กำนันบ้านนอก อภิสิทธิ์ พี่แจ้ และท่านประธานบัญชาด้วยว่า อย่าลืมที่เราตั้งใจกันไว้ว่า จะไปเยี่ยมเยียน คูคต อุทัยธานี ทำไมเงียบหายไป วันก่อนได้รับโทรศัพท์ จากน้องวี ถามมาว่าไปถึงไหนแล้ว อ้อ บิ๊กอู๊ด อีกคน 4 ทหารเสือรีบสุ่มหัวด่วนค่ะ

แจ้งค่าใช้จ่ายที่จ่ายในวันรับน้อง ผนส 4 จ่ายไป 5,865บาท มีเงินคงเหลือฝากอยู่สหกรณ์จำนวน 50,447 บาท ยังไม่ได้ไปซื้อสลากออมสินนะค่ะ ถ้าไปซือ 10,000 บาทก็จะคงเหลือ 4หมื่นบาทเศษค่ะ

เพื่อน ๆ ช่วยยืนยันอีกครั้งว่าจะให้ซื้อหรือไม่ ประธานบัญชา ช่วยส่งข้อความมาหน่อย รวมทั้งหนุ่มภาคเหนือ เงียบหายไปไหนเอ่ย

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ................

เมื่อวานนี้ไม่ว่าง งานยุ่งมากเลย ไปคุมการสร้างรีสอร์ตอยู่ กว่าจะกลับมาเกือบ เที่ยงคืนเลยง่วงนอนหลับดีกว่า...............

พอมาเข้า BLOG ในวันนี้ปรากฏว่าเข้าท่าแฮะ....เจ๊จิ๋น เข้ามาใน BLOG ก็รู้สึกว่าดีมากเลยครับ สำหรับ สตูลโมเดล รออดใจสักครู่ ให้ทางจังหวัดเขาประชุมกันกำหนดวันจัดงานก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบ

โทรคุยกับพี่บัญชา,สมพงษ์,พี่แจ้,น้องกุ้งและเพื่อนๆอีกหลายคน ตอนนี้ทางผมกำลังปรับปรุง รีสอร์ต ที่ปากช่องอยู่ และในตอนนี้ปรับปรุงใกล้สร็จแล้ว สามารถรับการสัมนาได้ประมาณ 30-40 คนก่อน หากว่าประมาณเดือนธันวาคม 2552 นี้คงจะเสร็จสมบูรณ์ รับคนได้ประมาณ 70 คน มีทั้งบ้านพักและที่สัมนาและเป็นที่ออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์อากาศดีมาก ไม่ไกลจากแหล่งชุมชน(ห่างจากตลาดปากช่องประมาณ 5 กิโลเมตร) ชื่อว่า "ภูนกยูง" เป็นรีสอร์ตที่ใกล้มาก ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 160 กิโล(ขับด้วยความเร็ว 100 กม/ชม.ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ) ท่ามกลางภูเขาที่ล้อมรอบเขียวขจีด้วยแมกไม้ และมีนกร้องเพลงยามเช้า และอากาศที่เย็นสบาย ทั้งเช้าและค่ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และมีสถานที่เหมาะสำหรับสัมมนาและพักผ่อน รวมทั้งมีผักผลไม้รสชาดหวานสดๆ และมีไร่องุ่นที่อยู่ใกล้ องุ่นสดๆหวานกรอบจากต้นองุ่น มีราคาถูก และไวน์องุ่นที่มีรสชาดอร่อยมาก จากสวนองุ่นฮอลิเดย์ปาร์ค ดื่มไวน์และสังสรรค์หลังจากที่ไปท่องเที่ยวกันในเวลาบ่ายๆ นอกสถานที่ ในเวลายามค่ำที่ พระอาทิตย์ตกดินสังสรรค์กันในแวดวงเพื่อนในโลกส่วนตัวของคณะ สนุกสนานกันกับบรรยากาศที่เย็นสบายตามธรรมชาติ และบรรเลงเพลงท่ามกลางธรรมชาติโดยนักร้องที่มากันเอง...............(คาราโอเกะ) ไม่ทราบว่ามีโคโยตี้หรือเปล่า แต่ความปลอดภัย รับรอง100% อาหารเป็นแบบสไตล์คันทรี อาทิเช่น หมูหัน,ไก่ย่าง,ส้มตำ,ลูกชิ้นปิ้ง ทอด ย่าง และปลาสดๆจากอ่างลำตะคองแท้ ทั้งย่าง นึ่ง ทอดหรือปลาสามรสราดพริกปลามีรสชาดหวานมันเผ็ดมากอร่อยไม่รู้ลืม (แต่น้องปลา.....ต้องหาเอาเอง.....ฮิฮิฮิ.......) แอ้มกับผักสดๆ และใกล้กับที่พักก็ยังมี "ห้างสรรพสินค้า โลตัส" แหม......โฆษณา ให้เลย ที่สามารถซื้อข้าวของเครื่องใช้ก่อนที่จะเดินทางเข้าพักผ่อนในรีสอร์ต และทำการประชุมสัมนาย่อย เพื่อกำหนดการในการดำเนินกิจกรรมและกำหนดหัวข้อระบบของงาน ก่อนที่จะไปสตูลโมเดล กันนะครับ ซึ่งอาจเป็นวันเสาร์ที่ 3 หรือ 10 ตุลาคม 2552 นี้ก็ได้ครับ ขอให้น้องกุ้งรีบประสานด่วนครับ และแจ้งให้เพื่อนๆ ผนส.3 ได้ทราบด้วยครับ (รูปถ่ายรีสอร์ตจะส่งมาให้ดูหลังจากที่ได้มาพบปะกันแล้วครับ)

อาจารย์ยม จะเดินทางมาปากช่องในวันที่ 23 กันยายน 2552 นี้ ผมยินดีต้อนรับที่บ้านรับรอง "ร่มเย็น เป็นสุข" ก่อนครับ และหากว่ามีเวลาจะพาไปเยี่ยมชมที่ "ภูนกยูง รีสอร์ต" ครับ ขอบพระคุณมากครับ ยินดีต้อนรับเพื่อนๆผนส.และเพื่อนๆสันนิบาตสหกรณ์ทุกคน และเราคงจะต้องมาร่วมกันทำกิจกรรมดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม และสหกรณ์ของพวกเรานะครับ

คิดฮอดทุกคน(ตามคำพี่แจ้) ครับ

นก ปากช่อง

ได้มีโอกาสฟังการประชุมระดับชาติเรื่อง “การค้า และการพัฒนาอาหาร พลังงาน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” สรุปได้ว่า ปัจจุบันให้ความสำคัญต่อความมั่นคงด้านอาหาร และผลกระทบทางนิเวศวิทยาส่งผลให้เกิดโลกร้อน ทำให้ประชาคมโลกกำหนดแนวทางการดำเนินงานร่วมกันเพื่อแก้ไข ป้องกัน และรักษาความสมดุลทางธรรมชาติของโลก จำแนกเป็น 3 ระดับ ได้แก่

1. ระดับโลก กำหนดมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดอุณหภูมิโลก และการปรับพื้นที่ในการปลูกพืชอาหาร และพืชพลังงานอย่างเหมาะสม

2. ระดับภูมิภาค กำหนดเกณฑ์ White Paper for Food Safety ของ EU และการใช้พลังงานทดแทนโดยมีเป้าหมายใช้พลังงานทดแทนทั่วโลกในปี ค.ศ. 2020

3. ระดับประเทศ สำหรับประเทศไทยได้กำหนดแนวทางและนโยบายจัดการความสมดุลระหว่างอาหารและพลังงาน ดังนี้

3.1 ด้านพลังงาน มุ่งจัดการระหว่างการใช้พลังงานที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานทดแทนอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ระดับชาติถึงระดับท้องถิ่น

3.2 ด้านอาหาร มุ่งจัดการแหล่งน้ำ และชลประทานเพื่อการเกษตร และน้อมนำเกษตรทฤษฎีใหม่ครอบคลุมทั้งเกษตรอินทรีย์ และเกษตรผสมผสาน

3.3 ด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งจัดการพื้นที่เกษตรกรรมภายใต้การจัดสรรสิทธิในพื้นที่ที่เหมาะสมแก่เกษตรกรรายย่อยเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ควบคู่ไปกับการปลูกจิตสำนึกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

อ่าน blog รุ่น 3 อันดับที่ 1030 แล้ว ทำให้เกิดความซาบซึ้ง อยากเห็นบรรยากาศซะแล้ว... อู๊ดจ๋า พี่ว่าเปลี่ยนที่

ประชุมย่อยกรรมการชมรมฯ จากบุรีรัมย์ ไปปากช่องดีกว่ามั๊ง ? ดีมั๊ย ดีมั๊ย........

เรียน ผู้นำสหกรณ์ รุ่นที่ 3

ตามที่ได้ตกลงกันไว้ที่พัทยา วันรับน้องผู้นำรุ่น 4 กำหนดไว้ว่าจะมีการประชุมผู้แทนของผู้นำสหกรณ์ รุ่นที่ 1-3 นัดแรก กลางเดือนตุลาคม จะเป็นวันใด เรื่องอะไรบ้าง แจ้งให้ทราบด้วยนะคะ จะได้ดำเนินการประสานงานจัดประชุมให้คะ และตัวแทนของรุ่นที่ 3 จะเป็นท่านใดบ้างคะ

กำนันบ้านนอก รายงานตัวครับ................ยังคิดถึงเพือนทุกๆคนไม่ว่าจะเป็น นก 100โครการ1000000โปรเจ็ก บิ๊กอู๊ต ไม้เลื้อย พี่แจ้จอมสับ น้องพงษ์เด็กแว้น พี่นะนักจัดหา พี่ สาว ส ก ต อ่างทองมาเทียวสุพรรณหายเป็นลมย้ง ต้องดูทองปอนกับน้องวี24ซิ สหนุก ไปเลยล้อกันเล่นนะแต่ coop go speed จริงๆนะ

สวัสดีค่ะ ดีใจจังเลยสาว ธกส. กัญจน์นิกข์ ได้เข้ามาเยี่ยมเยียน และ มีสาระดี ๆ เข้ามาฝากใน blog รุ่น 3 นึกว่าเป็นสาวล่องหนไปที่ไหนแล้ว คิดถึงนะ

... สวัสดีชาวผนส.3ทุกท่านไม่ได้เข้าblog' สองสามวันเข้ามาวันนี้ดีใจหลายสมาชิกเข้ามากันอุ่นหนาฝาครั่ง อ่านสรุปรายงานการประชุมระดับชาติเรื่อง “การค้า และการพัฒนาอาหาร พลังงาน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ของพี่กัญจน์นิกข์ดูภาพรวมระดับมหภาคน่าจะเป็นผลดีต่อเกษตรกรไทยในเรื่องราคาผลผลิตพืชไร่ต่างๆแต่ประชาชนและสัตว์อาจจะขาดแคลนอาหารได้ในการนำพีชไปทำพลังงานทดแทนกันมากขึ้น อยากให้พีกัญจน์นิกข์ขยายความเรื่องการกำหนดเกณฑ์ White Paper for Food Safety ของ EU ให้พวกเราทราบหน่อยเผื่อจะได้หาทางหนีทีไล่ได้อย่างถูกต้อง สรุปภาพรวมภาคการเกษตรดีแน่นอน

...มาอีกแล้วครับท่าน..projectใหม่ล่าสุดของท่านนกแล ปากช่อง "ภูนกยูงรีสอร์ตแอนด์สปา"ของเสี่ยนมโตปากช่อง(ขอยืมคำนี้จากบิ๊กอู๊ดหน่อย) อ่านโบชัวร์แล้วอยากไปซะวันนี้เลยสมกับท่านกำนันบ้านนอกให้ฉายานกร้อยโครงการแสนโปรเจคส์ ก็ดีนะเป็นคนที่สร้างงานให้เกิดในสังคมอยู่ตลอดเวลาถ้าไม่มีคนอย่างนี้บ้างในสังคมประเทศชาติก็ไม่เจริญนะ มีงานทำกันถ้วนหน้าตั้งแต่ผู้จัดการยันหมอนวด

...ถึงพี่จิ๋น เจ้าของโครงการดูดยาเส้นเล่นสาวจีน เรื่องอุทัยโมเดลยังไม่ลืมนะครับขอให้หมดช่วงเดือนกันยาฯแสนยุ่งๆนี้ไปก่อนนะครับบอกน้องวี24เตรียมล้างรถรอไว้เลย(ได้ข่าวซิ่งน่าดู) ส่วนเรื่องการซื้อสลากออมสินดูงบห้องแล้วเหลือไมเท่าไหร่เอาไว้สุดท้ายเสร็จกิจกรรมทั้งหมดเงินเหลือค่อยทำพิธีล้างกระเป๋าซื้อก็ได้มั๊งพี่จิ๋น ก็อยากฟังความเห็นเพื่อนๆอีกที

แค่นี้ก่อนะ..แล้วเจอกันโชคดีมีเงินใช้ทุกท่าน..สวัสดี

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ....................

ขอบคุณมากสำหรับกำนันสุขสันต์ ที่ได้กรุณาให้ฉายา "100 โครงการ 1,000,000 โปรเจค" และผมจะคิดค้นโปรเจคมาให้คิดบ่อยๆ ครับ อันไหนทำได้ก็ทำกันนะครับ

พี่แจ้ ขอบคุณมากที่ได้ให้แนวทางชื่อรีสอร์ตว่า "ภูนกยูงรีสอร์แอนด์สปา" ชื่อฟังดูแล้วลื่นหูดีอย่างบอกไม่ถูก(นึกภาพแล้วน่ารัก คิ๊กขุ อาโนเน๊ะ........) เอาไว้รุ่นเรามาใช้บริการแล้วช่วยกันติ ว่ามีอะไรที่ต้องแก้ไขบ้างครับในการให้บริการแก่เพื่อนๆครับ แต่ขอรับรองว่า CONFIRM ทุกอย่างครับ และเห็นด้วยกับพี่แจ้เรื่องการซื้อสลากออมสินครับ

เจ๊นิ๊ก ให้วิชาการที่ดีและมีประโยชน์มากในแง่เศรษฐกิจ และหากว่ามีวิชาการใดเด็ดๆ ก็เข้า BLOG มาบอกเพื่อนๆ ต่อเนื่องตลอด ก็จะเป็นการดีมากครับ และเพื่อนคนไหนจะแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กันใน BLOG ก็จะเป็นการดีมากเลย เป็นวิทยาทานครับ

แล้วเจ๊จิ๋น คนสวย ประจำรุ่น 3 ไม่เห็นให้วิชาการ สอดแทรกลงมาบ้างเลย...................หรือคิดตลกอะไรได้ก็ว่ากันมา

น้องกุ้งไปที่อำเภอปาย เป็นอย่างไรบ้าง หนาวๆๆๆๆ.......ไหม ระวังไปคนเดียว เดี๋ยวผีหลอกนะ...............

บิ๊กอู๊ต สมพงษ์ หายไปเลยไม่มีข่าวคราว เดี๋ยวโดนปรับแน่แท้ถ้ายังชักช้าไม่ตอบ...............

ติดต่อกับ วี24 แล้วดีใจที่โทรติด และทราบข่าวว่า สาว วี24 ก็จะมาร่วมงานที่ปากช่องด้วยครับ สาวอ๋อ อ่างทอง หายไปไหนในเรื่องอุทัยโมเดลและโครงการอื่นๆ ที่ดีนั้น ผมให้การสนับสนุนครับ เพราะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก สหกรณ์ตามที่ทางเพื่อน ๆ ได้กำหนดทิศทางไว้ครับ ใครรับผิดชอบก็เร่งงานกันครับ...................coop go speed

วันที่ 23 เมื่อวานที่ผ่านมา บ้านพักรับรอง "ร่มเย็น เป็นสุข" ของผมมีความภาคภูมิใจและดีใจมากครับที่ได้มีโอกาสต้อนรับอาจารย์ยม ท่านสง่างามมาก มาในชุดขาวท่านได้มาถือศีล ที่อำเภอปากช่อง ดีมากเลยครับ อนุโมทนาด้วยครับ รูปถ่ายจะส่งมาให้เพื่อนๆ ได้ดูครับ แต่ยังไม่มีเวลาพาอาจารย์ไปที่รีสอร์ต "ภูนกยูง" เอาไว้เที่ยวหน้าครับ และแถมส่งท้ายยังได้ทานข้าวตอนค่ำร่วมกับพี่ผนส.2(พี่ธญา โบสุวรรณ์ ดาวประจำรุ่น ผนส.2)และอาจารย์ยมด้วย ครับ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อที่อร่อยที่สุด(อาจารย์ เป็นเจ้ามือครับ ผมแย่งจ่าย อาจารย์ไม่ยอมครับ..............) และหากว่ามีโอกาสต่อไปผมยินดีต้อนรับอาจารย์และเพื่อนๆ ผนส.ทุกท่านครับด้วยความเต็มใจ

รักและคิดถึงอาจารย์และเพื่อนๆทุกคนครับ

นก ปากช่อง

สวัสดีค่ะ ดีใจจังที่พี่นิกจ์เข้ามาให้ความรู้กับพวกเรา และขอพาดพิงถึงพี่จิ๋นหน่อยนะคะ ว่าโครงการของกรมตรวจบัญชีเยอะจริงๆ เพิ่งกลับจากเข้าร่วมประชุมโครงการพลิกฟื้นธุรกิจถาบันเกษตรกร ซึ่งได้ชี้แจงให้สหกรณ์ได้รับทราบถึงแผนงานของสำนักงานตรวจบัญชีอ่างทองกับสหกรณ์ในจังหวัด ซึ่งสกต.รับด่วนมา 2 โครงการ เอาใจช่วยนะคะพี่จิ๋น ขอบคุณกำนันที่เป็นห่วงพี่ พี่ยอมรับว่าแก่แล้วแต่ใจสู้นะ พี่นกปลายปีนี้ น้องอ๋อจะพาครอบครัวและเจ้าหน้าที่ไปนะคะจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า คิดถึงผนส.3 ทุกคนนะคะ

คนเมืองผู้กล้า พญาแล

สวัสดีครับเพื่อน พี่ น้อง ผนส.3 ทุกท่าน

ดีใจครับที่เข้าblogแล้วได้ทราบข่าวคราวของพวกเราและกิจกรรมที่กลุ่มพวกเราได้ร่วมกันคิดและทำเพื่อสังคมและผู้อื่นแม้จะไม่ค่อยมีโอกาสเข้ามาทักทายเพื่อนฝูงก็เฝ้าดูอยู่(ห่างๆ)คอยเป็นกำลังใจให้ทุกเรื่องทุกกิจกรรมที่พวกเราทำ(ดี)ตอ้งขอขอบคุณป๋าจวบป๋าพิณที่โทรมาถามข่าวบอกว่าไม่ค่อยถนัดเรื่องของกล่องของblogไม่เป็นไรครับป๋าๆผมว่าแค่โทรหาผมได้นี่ก็ถือว่าสุดยอดแล้วครับ(แซวเล่น) พี่แจ้ครับ กำนันครับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนครับคิดถึงอยู่ห่างๆเหมือนเดิมครับ ส.

ว้าว...!! blog หนาแน่น เหมือนก้อนเมฆ เหนือท้องฟ้าชัยภูมิ ขณะเลย

ตั้งแต่..เสี่ยนมโต เจ้าของฉายา "ร้อยโครงการ ล้านโปรเจค"สามารถเข้ามาใน blog ได้เนี่ย แฟน ๆ ผนส.๓ หลาย ๆ คนที่หายหน้า หายตาแต่ก็ยัง(หายใจ)g/เฝ้าติดตาม แบบหายใจรดต้นคอ เริ่มแสดงตัวตนที่แท้จริงมากขึ้น ร่วมกันบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ เข้ามาเยอะและเป็นสาระน่าติดตาม ส่วนผมเองไม่หายไปไหนนะครับ อยากจะเขียน blog แต่ไม่มีเวลา เพราะใช้เวลาในการอ่านและจินตนาการณ์กับบทประพันธ์เรื่องยาวของเสี่ยร้อยโครงการ วันก่อนกลับจากกรุงเทพฯผ่านปากช่อง ได้โทรถึงเสี่ยเผื่อมีน้องวัวจะได้แว๊ปเข้าไป รู้ไม๊น้องวัว อร่อยกว่าน้อง(...)เยอะเลยนะ คงอีกไม่นาน ผนส.๓ จะได้ไป "ภูนกยูงรีสอร์แอนด์สปา" เตรียมตัวให้พร้อมนะครับ งานนี้..เสี่ยนกเปิดสีสอร์ทต้อนรับพวกเรากับบรรรยายแบบคาวบอย

พี่จิ๋นครับ เรื่องเงินกองทุนของรุ่นเห็นด้วยกับพี่แจ้และหลาย ๆ ท่าน ยังไม่ต้องซื้อฉลากหรือเสี่ยงโชคอะไรทั้งน๊านนะครับ ให้เก็บไว้ใช้ในกิจกรรมที่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ดีกว่า แต่ผมคิดว่า..กองทุนของเรา"ผอม"ไปนิด ลองคิดหาวิธีให้กองทุน"อ้วน"กว่านี้ดีไม๊ครับ หากคิดวิธีไม่ออก คงต้องอาศัยเสี่ย" "ร้อยโครงการ ล้านโปรเจค" คิดให้พวกเราด้วย..

"ฮอปักนั้ง ฮอกากี"สุภาษิตของจีนแปลว่า "จงทำให้คนอื่นดีขึ้น แล้วเราก็ดีเอง" ยกมาเป็นกำลังใจให้นก ปากช่อง สำหรับการคิดค้นprojectใหม่ๆให้เกิดการสร้างงานให้ชุมชน การสร้างงานพัฒนาชุมชนท้องถิ่นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ถ้ามีจิตอาสาก็ไม่ยากเกินกำลังของคนหนุ่มอย่างท่านนก ปากช่อง กินนมโคทุกวันพลังงานเหลือเฟือต้องมาขับออกบ้างในการสร้างสรรผลงานตามฉายาร้อยโครงการล้านโปรเจคส์ (คราวก่อนอ่านเป็นแสนโปรเจคส์ขอแก้ไขด้วย) แตยังสงสัยฉายาตนเองที่ท่านกำนันบ้านนอกตั้งให้ว่า"พี่แจ้จอมสับ"นี่หมายความว่าอย่างไรขยายให้ฟังหน่อยจะได้เตรียมตัวไปขายข้าวมันไก่ จะได้สับให้มันไปเลย

..คนเมืองผู้กล้า พญาแล เจอคนเมืองแพร่ แห่ระเบิด สงสัยจะสนุก นานๆเข้ามาทีไม่ต้องดูห่างๆหรอกเข้ามาใกล้ๆก็ได้ทีตอนอยู่ปักกิ่งเห็นเบียดเพื่อนๆเข้าไปก่อนใครเลยร้านข้างๆโรงแรมนะ(เข้าไปซื้อเบียร์อย่าคิดเป็นอย่างอื่น)คิดถึงค่ำคืนนั้นยังตราตรึงอยู่ในใจอยู่นะสนุกสนานดีไม่มียศไม่มีศักดิ์มีแต่ความเป็นเพื่อน และความเย็นยะเยือกสุดๆๆ ท่านสุรชัยสบายดีนะคิดถึงอยู่เสมอโดยเฉพาะตอนส่งสัญญาณควันด้วยกันข้างห้องเรียน บิ๊กอู๊ดตั้งแต่ได้เป็นสส.นี่ไม่ค่อยมีเวลาเขียนเท่าไหร่น่าเห็นใจ แต่พวกเราเป็นผู้บริหารสหกรณ์ขั้นเทพแล้วจะต้องบริหารเวลาให้ได้เดี๋ยวอาจารย์จะว่าเอา

...ต้องอธิบายคำว่า"ผู้บริหารขั้นเทพ"นี้ให้ผู้ที่เข้ามาอ่านในblog ที่ไม่ใช่ชาวผนส.3เข้าใจหน่อยว่าเดี๋ยวจะหมั่นไส้เอา ในรุ่น3นี้ได้ฉายาว่ารุ่นผู้นำขั้นเทพเพราะว่าแต่ละคนมีความสามารถเฉพาะตัวห้ามลอกเลียนแบบในการหายตัวได้ตอนเช้าซ็นชื่อปุ๊บเสกคาถาหายตัวได้ปั๊บสี่โมงครึ่งช่วงเบรคปรากฎตัวอีกแล้วยืนกินกาแฟหน้าห้อง เรียนถึงเที่ยงกินข้าวกลางวันเสร็จเสกคาถาหายตัวไปได้อีกแล้วครับท่าน บ่ายสองลงมาหน้านวลเหมือนพึ่งตื่นที่นี้อยู่ยาวครับ dinner talk เสร็จกินข้าวเคล้าเสียงเพลงจนครัวสหกรณ์ปิดสี่ทุ่มครึ่ง ย้ายไปประชุมสัญจรภายนอกต่อจนเทียงคืนไปแล้วมนต์คาถาชั้นเทพเริ่มเสื่อมค่อยๆหายตัวไปที่ละองค์สององค์เป็นวัฐจักรสืบเนื่องเรื่อยมา อาจจะลามไปถึงรุ่น4ได้โปรดระวังด้วย

..คืนนี้แค่นี้ก่อนนะ..หลับฝันดี..ราตรีสวัสดิ์ชาวผนส.ทุกท่าน

การประกาศลดอัตราภาษีสินค้าตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) เหลือร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ได้แก่ ข้าว น้ำนมดิบ/นมปรุงแต่ง นมผงขาดมันเนย ลำไยแห้ง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กระเทียม หอมหัวใหญ่ เมล็ดพันธุ์ พริกไทย เมล็ดถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม มะพร้าวผล น้ำมันมะพร้าว ชา กาแฟสำเร็จรูป ไหมดิบ น้ำตาล และ ใบยาสูบ ส่วนสินค้าอ่อนไหว 3 ชนิด คือ มันฝรั่ง เนื้อมะพร้าวแห้ง และเมล็ดกาแฟ ซึ่งจะลดภาษีลงเหลือ ร้อยละ 5

อีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า จะมีการประกาศเรื่องดังกล่าวซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยให้แก่เกษตรกรไทย เพราะสินค้าการเกษตรในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คล้ายคลึงกัน ต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรกรของประเทศไทยสูงกว่า แต่ผลิตภาพต่อไร่ของประเทศไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเป็นเช่นนี้ หากสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยในราคาที่ถูก แล้วสินค้าเกษตรกรของประเทศไทยจะทำอย่างไร? จะปรับตัวเพื่อตอบรับผลกระทบดังกล่าวอย่างไร?

เพื่อนๆช่วยแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์เพื่อตอบประเด็นดังกล่าว

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ..............

มาอ่าน BLOG แล้วชื่นใจมี่เพื่อนๆ เริ่มเข้ามาอ่านกันแล้ว ตอนสนี้เข้า BLOG ง่ายมากเลยวิธีคือ.

1. เข้ามาใน Google แล้วพิมพ์ "ผนส.2" ลงในช่องกรอกข้อความ

2. หลังจากได้เห็น ข้อความใน ผนส.2 แล้วก็เลื่อนลงมาที่ "ผู้นำขั้นสูงรุ่น 3" และจะเห็นรายการข้อความของผู้นำขั้นสูงรุ่น 3 และเลื่อนเม้าท์ลงมาเพื่อ กรอกพิมพ์ข้อความชื่อ และพิมพ์ข้อความที่ต้องการจะส่งถึงเพื่อน หลังจากเสร็จข้อความแล้ว ให้เลื่อนเม้าท์มาที่ "บันทึก" ด้านล่าง ข้อมูลก็ถูกส่งไปเก็บใน BLOG เรียบร้อยถึงเพื่อน ผนส.3 ................

ผมกว่าจะหาข้อมูลนี้ได้นานมากเลยครับ ต้องพยายามหน่อยสำเร็จ................

น้องอ๋อ แล้วพี่นก ปากช่อง จะรอนะจ๊ะ ให้กำหนดวันมาก่อน เพราะในช่วงนั้นรีสอร์ตทุกที่ ในปากช่องอาจเต็มครับ แต่ยินดีต้อนรับครับทุกคน

เมืองผู้กล้าพญาแล ที่ได้เขียนเข้ามาใน BLOG ฟังแล้วรู้สึกดีมาก อากาศหนาวหรือยังตอนนี้ มีฝนตกมากไหม และเศรษฐกิจเป็นอย่างไร และเสนอแนวทางความคิดต่างๆมาให้ทราบด้วยครับ

บิ๊กอู๊ต ทราบแล้วเปลี่ยน หากว่ามาปากช่อง ส่งข่าวให้ทราบอย่างนี้ดีแล้วครับ เอาไว้น้องวัวมีเมื่อไหร่ จะแจ้งให้ทราบครับ และในการมาปากช่องหากว่าเพื่อนๆ จะแต่งคาวบอยมาก็จะเป็นการดีครับ แต่บิ๊กอู๊ต ห้ามแต่งหล่อมากนะครับ เดี๋ยวเด็กปากช่องใจแตกหมด.............และอย่าลืมชวนสุรชัย มาด้วยนะครับ

พี่แจ้ใช้คำภาษาจีนเลยนะครับ แต่ก็ขอบคุณมากครับที่เขียนมาให้กำลังใจในการทำงาน และผมจะปฏิบัติงานให้ดีที่สุดครับ

เจ๊นิ๊ก พี่สาวที่น่ารัก เขียนความรู้มาให้ได้รับทราบได้มากมายเลยครับ หากว่าจะมีคำถาม ให้เพื่อนๆ ผนส.3 ได้ตอบบ้างก็จะเป็นการฝึกสมองได้ดีครับ และขอบคุณมากที่เป็นห่วงเรื่องการเกษตรที่มีแนวทางการแก้ไข จะเป็นอย่างไร เพื่อนๆ ช่วยเสนอแนะมาให้ด้วยนะครับ อย่างน้อยๆ ขอให้ติดตาม BLOG ให้ตลอดนะครับ ขอบคุณเจ๊นิ๊กมากครับ

คิดถึงเพื่อนๆ ผนส.3 เสมอครับ

นก ปากช่อง

แจ้งข่าวพี่ครับ โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 4โปรแกรม ทัศนศึกษาดูงานในประเทศ จ.นครราชสีมา จ.ปราจีนบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา วันที่ 14-16 ตุลาคม 2552 วันพุธที่ 14 ตุลาคม 2552 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา 09.00 น. ลงทะเบียน ณ ศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส 10.00 น. ออกเดินทางสู่ จ.นครราชสีมา โดยรถบัสปรับอากาศ 11.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน และเดินทางเข้าเยี่ยมชม บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด 13.00 น. ชมโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จ.นครราชสีมาที่มีมาตรฐานระดับโลก (EU.STANDARD) 16.00 น. จบการดูงาน นำทุกท่านกราบย่าโมเพื่อเป็นสิริมงคล นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมปากช่องแลนด์มาร์ค จ.นครราชสีมา 18.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม 2552 นครราชสีมา – ปราจีนบุรี 07.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 08.30 น. นำท่านเดินทางสู่ อ.ปากช่อง 10.00 น. ชมกิจการของฟาร์มโชคชัย ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นฟาร์มโคนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีการ จัดการที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภาคพื้นเอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านโชคชัยสเต็กเฮ้าส์ (STEAK MENU) ตามอัธยาศัย 13.30 น. นำท่านชมฟาร์มโชคชัย สนุกสนานกับการนั่งฟาร์มแทรคเตอร์ ท่องไปในทุ่งกว้างใหญ่ ชื่นชม ความงามตามธรรมชาติ เพลิดเพลินกับสาระน่ารู้ “กว่าจะเป็นน้ำนม” ชมทัศนียภาพอัน สวยงามของทุ่งหญ้า แปลงข้าวโพด และทุ่งทานตะวัน ร่วมกิจกรรมอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การรีดนม การป้อนนมลูกโค หรือทดลองขี่ม้าด้วยตัวคุณเอง และพบกับสัตว์เลี้ยงน่ารักแสนรู้ที่คุณ จะประทับใจไม่รู้ลืม เชิญท่านเลือกซื้อของที่ระลึกจากฟาร์มโชคชัย 15.30 น. ออกเดินทางสู่ จ.ปราจีนบุรี 18.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ พานหินการเด็นวิลล์ จ. ปราจีนบุรี รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2552 ปราจีนบุรี – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพฯ 07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  08.00 น. ออกเดินทางสู่ จ.ฉะเชิงเทรา 09.00 น. ชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเพื่อหาทางช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎร โดยใช้วิชาการหลายด้าน ประกอบกันทั้งการพัฒนาแหล่งดินและน้ำ รวมทั้งการจัดสรรอาชีพ 10.30 น. นำท่านเดินทางสู่ มูร่าห์ฟาร์ม จ.ฉะเชิงเทรา ที่ ตำบลหนองไม้แก่น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา มีการนำเทคโนโลยีการผสมเทียมและย้ายฝากตัวอ่อนกระบือนมเพื่อสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากนมกระบือ ในประเทศไทย โดยกรมปศุสัตว์ ได้ให้การสนับสนุน มูร่าห์ฟาร์ม เป็นฟาร์มเครือข่ายภายใต้ความร่วมมือ ไทย-นิวซีแลนด์ โดยมูร่าห์ฟาร์มจะเป็นฟาร์มต้นแบบในการศึกษาความเป็นไปได้ของการผลิตนมกระบือ และทำผลิตภัณฑ์จำหน่ายในประเทศ เป็นการลดการนำเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์นมได้ทางหนึ่ง และชมการทำชีสจากนมกระบือ 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันสไตล์ อิตาเลียน ณ ห้องอาหารภายในฟาร์ม จากนั้นฟังการบรรยายสรุปกิจการของ มูร่าห์ฟาร์ม และเยี่ยมชมฟาร์ม 14.30 น. นำท่านเดินทางกลับกรุงเทพฯ 16.30 น. ถึงกรุงเทพ ฯโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจยิ่ง...

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผนส.ขั้นสูง ทุกท่าน

ยังอยู่สบายดีครับ ไม่ได้ไปร่วมรับน้อง ผนส.รุ่นที่ 4 เสียดายมากที่ไม่ว่าง ก็ออกประชุมกลุ่มสมาชิก 10 กว่าวัน เตรียมประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในวันที่ 8 ตุลาคม 2552 ขอเชิญทุกท่านถ้าว่าง ประชุมที่ สนง.สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด เลขที่ 50 หมู่ที่ 13 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร 077-622059 ถ้าเพื่อนมีโอกาสลงไปเที่ยวภาคใต้ ผ่านชุมพรแล้ว ช่วยโทรแจ้งด้วยครับ 081-7878-523 จะได้ไปเลี้ยงข้าวสักหนึ่งมื้อ สวัสดีครับ

...อ่านสัญญาณเตือนภัยสำหรับเกษตรกรไทยในเรื่องการลดภาษีตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี(AFTA) ของพี่กัญจน์นิกข์แล้วก็รู้กังวลใจแทนเกษตรกรอยู่เหมือนกันในการที่จะต้องจัดเตรียมแผนรับมืออย่างไรตามที่พี่กัญจน์นิกข์ว่าสินค้าการเกษตรในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คล้ายคลึงกัน แต่ต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรกรของประเทศไทยสูงกว่า ผลิตผลต่อไร่ของเราต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน สินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยในราคาที่ถูก แล้วสินค้าเกษตรกรของประเทศไทยจะทำรับมืออย่างไร พวกเราต้องระดมสมองช่วยกันแล้ว ถ้าพูดอย่างนักวิชาการก็หนีไม่พ้นคำว่าคุณต้องลดต้นทุนการผลิตพร้อมทั้งพัฒนาผลิตผลให้ได้มากขึ้นพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตรวมทั้งปรับปรุงคุณภาพเมล็ดพันธุ์ ผมว่าอย่างนี้ใครก็พูดได้ แต่ต้องทำอย่างไรละผมว่าเรื่องอย่างนี้มันต้องเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องจัดการและต้องเป็นเจ้าภาพใหญ่ถ้ารัฐไม่ขยับปัญหาซ๊ำซากก็จะตามมาเรื่องการประท้วงปิดถนนสุดท้ายรัฐต้องรับซื้อเองไม่รู้จบทุกยุคทุกสมัย ร้องเรียนผ่านบิ๊กอู๊ดช่วยขยับให้ฟังหน่อยซิในฐานะตัวแทนเกษตรกร

...ท่านไกรฤกษ์หายไปนานธุรกิจน้ำมันปาล์มเป็นอย่างไรบ้างคงไปได้สวย เจอท่านกำนันนัด โอบามาบ้างไหมครับฝากความคิดถึงด้วยยังติดใจในรสกาแฟท่านกำนันอยู่ไม่ลืม ชวนเข้าblog บ้างและขอบคุณที่เชิญเข้าร่วมประชุมใหญ่และจะเลี้ยงข้าวเพื่อนๆแค่นี้ก็ดีใจหลายแล้วเด้อ

...ดูกำหนดการดูงานของผนส.4เห็นมีรายการดูงานที่ฟาร์มโชคชัย เลยสงสัยทำไมไม่แวะดูเครือข่ายสหกรณ์โคนมปากช่องของเสียนกบ้าง(อย่างนี้ต้องคิดproject สู้ฟาร์มโชคชัย) เอ้าสู้เค้าหน่อยในหัวข้อ"กว่าจะเป็นนมเวร" น่าได้ประโยชน์ดีนะในหัวข้อนี้...จบ

... สวัสดีชาวผนส.ทุกท่าน

หมื่นแล้วจ้า...ผ่านฉลุย ในที่สุด blog ผนส.๓ ของพวกเรา อ่าน ๑๐,๐๐๐ ครั้ง ความเห็น ๑,๐๔๖ ครั้ง

วันนี้(๒๖กย๕๒) เวลา ๑๑.๕๕ น.ทันทีที่เข้าห้องทำงานของสหกรณ์ พอเปิด blog รู้สึกดีใจที่เห็นว่า ตนเป็นผู้เปิด blog คนที่ ๑๐,๐๐๐ พอดี ผมมีความประทับใจในผองเพื่อน ผนส.๓ ทุกคน ที่ได้มีการติดต่อ เชื่อมโยง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มาโดยตลอด มิตรภาพที่ดีอย่างนี้ เชื่อว่า...นี่คือส่วนหนึ่งของสังคมไทย ซึ่งกำลังจะกลายเป็นส่วนใหญ่ของสังคมสหกรณ์ที่สร้างสรรค์ ถึงแม้ว่า...จะเป็นการเริ่มต้นหรือก่อกำเนิด"ผู้นำสหกรณ์"จากรุ่นที่ ๑ ๒ ๓ และ ๔ ก็ตาม ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นผู้"จุดประกาย"ให้โครงการนี้เกิดขึ้นมาในขบวนการสหกรณ์ไทย

ข้อตกลงเขตการค้าเสรี(AFTA)

ผมได้อ่านสัญญาณเตือนภัยสำหรับเกษตรกรไทย เรื่องการลดภาษีตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี(AFTA)ของพี่กัญจน์นิกข์ และความกังวล ความเป็นห่วงเป็นใยเกษตรกร กระดูกสันหลังของชาติ จากพี่แจ้ แล้ว ในฐานะที่ผมเป็นเกษตรกรคนหนึ่ง ทั้งชีวิตทำงานอยู่ในวงการสหกรณ์ และสังคมเกษตรกร ในเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งที่เกษตรกรต้องประสบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เว้นแต่..รัฐบาลจะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม เช่น พลังงานทดแทนจากผลิตผลการเกษตร การประกันราคาผลิตผลการเกษตรกร การกระตุ้นจิตสำนึกนิยมไทย การส่งเสริม สนับสนุน และอุดหนุนองค์กรหรือสถาบันของเกษตรกรหรือสหกรณ์ภาคการเกษตรให้เกิดความเข้มแข็ง ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลต้องอุดหนุนเงินก้อนใหญ่มาให้ แต่รัฐ..ควรจะอุดหนุนในด้านเทคโนโลยี ปัจจัยการผลิต ด้านวิชาการ และด้านการตลาด เป็นต้น

ผนส.๔ ทัศนศึกษาดูงานในประเทศ(๓ จังหวัดภาคอิสานและตะวันออก) คิดคล้าย ๆ กับพี่แจ้ทำไมไม่ดูนมของสหกรณ์ปากช่อง หรือนมของสหกรณ์สีคิ้ว เพราะจะได้เกิดไอเดียการต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม และเชื่อมโยงเครือข่ายกับสหกรณ์ด้วยกัน ในรุ่น ๔ ผู้จัดการสีคิ้ว (คุณสยาม)ผู้มีความถนัดและช่ำชองเรื่องนม ไม่แพ้ฟาร์มโชคชัย ก็เรียนนะ

ผนส.๑ ๒ และ ๓ ครับ ผมคิดว่า เริ่มจากปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นไป ควรจัดให้มีการศึกษาดูงานต่างประเทศ ร่วมกันปีละ ๑ ครั้ง โดยให้สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย และกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพ หาเงินทุนส่วนหนึ่ง และให้ ผนส.สบทบอีกส่วนหนึ่ง (๕๐:๕๐) ดีไม๊ครับ....พี่น้องครับ

เรียน พี่ ๆ ผนส. รุ่น 3 ทุกท่าน

ก่อนอื่นขอขอบคุณรุ่นพี่ ผนส. ทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 และ รุ่น 3 สำหรับการต้อนรับอันแสนจะอบอุ่นที่พัทยา และขอแสดงความดีใจและชื่นชมยินดีที่มีผู้เข้าชม Blog ของรุ่นพี่ ผนส. รุ่น 3 ถึงกว่า 10,000 ครั้ง ทำได้อย่างไรนี่ เก่งจังเลย มีความสามัคคีและมุ่งมั่นอย่างน่านับถือและควรเอาเป็นตัวอย่าง ท่านอาจารย์ ดร.จีระ ท่านชมรุ่นพี่ รุ่น 2 และ รุ่น 3 อยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะ รุ่น 3 ท่านชมมากเป็นพิเศษเลยครับ

มนตรี ช่วยชู

ผนส. รุ่น 4

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ...........

เข้ามาใน BLOG นี้ช้าไปนิดหนึ่ง แต่ว่าเพิ่งจะหาเจอ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดี HAPPY BIRTHDAY กับพี่บัญชา ชลาภิรมย์ย้อนหลัง ด้วยนะครับ ช้าไปแต่ก็จริงใจนะพี่ที่น่าร๊าก...............ขอให้พี่บัญชาคิดสิ่งใดจงสมหวังดังหมายทุกประการครับ

ส่วนใหญ่จะเข้าไปใน BLOG ของสันนิบาตสหกรณ์ ก็เลยไม่เจอ BLOG นี้แล้วจะเข้ามาคุยกันนะครับ หนาแน่นดีเหมือนกันครับ

แนวทางตามที่พี่บัญชา เขียนไว้ดีมาก แต่เอ๊......ไม่เห็นมีวิธีแก้เรื่องการกินเหล้าไม่ให้เมาเลย (แก้ปัญหาอย่างไงดีหว่า.........)

เสี่ยอู๊ด เข้าทุก BLOG เลย เข้าท่าดีเขียนแต่เรื่องวิชาการปวดหัวจังเลย..........

ปากช่อง ยินดีต้อนรับ เพื่อน ผนส.ทุกคนครับ มาดื่มด่ำกับบรรยากาศตามธรรมชาติที่เย็นสบายท่ามกลางขุนเขาและแมกไม้สีเขียว มีเพื่อนๆพูดคุยกันในระหว่างวันหยุดพักผ่อน(อาจวันเสาร์)และประชุมปรึกษาหารือเพื่อทำประโยชน์ให้แก่สังคมและสมาชิกสหกรณ์ต่างๆ หลังจากที่เสร็จภาระกิจในการประชุมสัมนากันแล้ว ก็มีกิจกรรมต่างๆ ตามที่มีโปรแกรมวางไว้ ยามค่ำคืนสังสรรค์

และร้องเพลงกันในหมู่เพื่อน เป็นโลกส่วนตัว และดื่มไวน์และอาหารที่อร่อย อาทิเช่นปลาสดๆจากอ่างลำตะคองตามธรรมชาติ ทั้งทอด,ปิ้ง,ย่าง , หมูหันหนังกรอบเนื้อนุ่ม , ไก่ย่าง,ส้มตำ ฯ อาหารอร่อยมากมาย ผักหวานสด และผลไม้องุ่นสดๆไวน์และวิสกี้ และพักผ่อนตามสบายท่ามกลางอากาศที่เป็นธรรมชาติเย็นสบายตลอดคืน ตื่นในยามเช้าวันอาทิตย์พูดคุยทานอาหารเช้าและเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อพักผ่อนวันอาทิตย์และทำงานในวันจันทร์ที่วุ่นวาย แหม......ฟังแล้วน่ามันส์จัง.............

นก ปากช่อง ยินดีต้อนรับสู่ "ภูนกยูง รีสอร์ตแอนด์สปา" ครับ

แล้วเราคงจะได้เจอกันนะครับ

นก ปากช่อง

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ...............

มาช้าไปนิดนึก แต่ว่าทดลองเข้า BLOG ปรากฏว่าเข้าได้แล้วครับ ก่อนอื่นต้อง HAPPY BIRTHDAY ย้อนหลังให้พี่บัญชา ชลาภิรมย์ครับ ขอให้พี่ที่น่าร๊าก.......ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้พี่บัญชา จงมีแต่ความสุข คิดสิ่งใดขอให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการครับ จริงใจ แน่ครับ SURE

พี่บัญชา เขียนข้อคิดมาให้อ่านฟังแล้วรู้สึกว่าดีมาก อยากให้บอกวิธีการกินเหล้าแล้วไม่เมาทำอย่างไงหว่า.....................เฮียบัญชา ทราบแล้วตอบด้วย

ส่วนอู๊ต เขียนแต่เรื่องการเมือง ไม่มีการมุ้งมั่งเลย ฟังแล้วเวียนหัวจังเลย.....................

มาทักทายก่อนแล้วจะเข้ามาบ่อยๆ ครับ

ขอบคุณครับคิดถึงทุกคนมาก

นก ปากช่อง

....ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับblogของผนส.3ที่ทะลุยอดหนึ่งหมื่นไปเรียบร้อยโดยบิ๊กอู๊ดเป็นผู้โชคดีเข้ามาคนที่หนึ่งหมื่นพอดีทางคณะกรรมการก็จะมอบหัวกุ้งเผาฝังมุกจากปักกิ่งให้หนึ่งหัว(เป็นรางวัลของบิ๊กอู๊ดเองที่มอบให้เพื่อนๆ) และยินดีต้อนรับคุณมนตรี ช่วยชู ผนส.4ที่ให้เกียรติ์เข้ามาเยี่ยมชมblogของพวกเราชาวผนส.ด้วยกันก็ขอให้แสดงความเห็นได้เต็มที่ในblogนี้ไม่ต้องเกรงใจ (ขอโทษอยากถามว่าคุณมนตรีมาจากสหกรณ์ไหนมีสินค้าอะไรบ้างเพื่อจะได้คุยต่อยอดความคิดและธุรกิจร่วมกันต่อไป) ผมว่าอาจารย์ท่านก็จะชมและให้กำลังใจทุกรุ่นพอรุ่น5ท่านก็จะชมรุ่น1234ให้ฟังเพื่อเป็นแรงกระตุ้นพวกเราที่เข้ามาใหม่บางคนอาจจะท้อบ้างเหนื่อยบ้างทั้งงานหลวงงานราษฎร์ทั้งครอบครัวภาระการเดินทางสารพัดอย่างก็ขอเป็นกำลังใจให้ผนส.4 จบไปอย่างมีคุณภาพทุกคนสมกับที่ท่านอาจารย์คาดหวังไว้ มีการบ้านอะไรคิดไม่ออกเข้ามาปรึกษาในblogนี้ได้มีพวกกูรูแฝงตัวอยู่เยอะในblogนี้

....นก ปากช่องขวัญใจชาวblog เข้าไปที่ไหนเจอที่นั่น ดูนก ปากช่องวันนี้เข้ามาแบบงงงงงวยงวยอยู่นะ ดูบล็อกอื่นไม่เห็นของอาจารย์บัญชาเลยนะบอกท่านด้วยอย่าไปหลงระเริงที่อื่นกลับเข้าบ้านตัวเองบ้างหายไปเลยไป.. ไป..จุ๊บๆเด็กโง่อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ สงสัยต้องให้เจ๊จิ๋นตามล่าตัวมาด่วน แต่ก็ขอสุขสันต์วันเกิดด้วยก็แล้วกัน

...ช่วงนี้ฝนฟ้าตกหนักมากก็ขอให้พวกเราดูแลสุขภาพและระมัดระวังการใช้รถใช้ถนนให้ดีด้วย...

"อุบัติเหตุไม่ใช่เวรกรรม แต่เกิดจากการกระทำโดยประมาท" ด้วยความห่วงใย...p'jaee

HAPPY BIRTHDAY ประธาน ผนส.๓ รศ.บัญชา ชลาภิรมย์ กระผมขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านศรัทธาและเคารพนับถือจงปกป้องคุ้มครองและดลบันดาลให้ท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีแบงค์กองโต ๆ มีทองโชว์เต็มบ้าน มีบริวารและทีมงานที่ดี มีบารมีเพิ่มพูน ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

เรียนผนส    ทุกคน

           ก่อนอื่นต้อง HAPPY BIRTHDAY ท่านประธาน ผนส.๓ รศ.บัญชา ชลาภิรมย์ ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านศรัทธาและเคารพนับถือจงปกป้องคุ้มครองและดลบันดาลให้ท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง 

           ผมต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่ได้เข้ามาคุณใน blog เนื่องจากช่วงนี้มีงานยุ่งมา จะประชุมใหญ่ในวันพุธนี้แล้ว หลังจากประชุมใหญ่น่าจะมีเวลามากขึ้น

           โครงการพันล้านเป็นอย่างไงบ้างท่านพี่อดิศักดิ์  ลงมาทางใต้วันไหนบอกด้วย จะได้ไปสำรวจเส้นทางด้วย

           และโครงการอุทัยธานีละ เป็นอย่างไรบ้างละ ทุกโครงการถือว่าเป็นโครงการที่ดี แล้วแต่จะหยิบโครงการไหนก่อน

 

สวัสดี ผนส.3 ทุกท่าน happly birthday p.ประธานรุ่น 3 ขอให้สุขภาพ ร่างกาย แข็งแรง และเป็นที่พึ่งของน้อง ๆตลอดไป

พี่แจ้......ขอคุณมากสำหรับคำว่า ปังปอนด์ ขอถือใช้เป็นช่องทางในการผ่าน blog เลย คงไม่คิดค่าลิขสิทธิ์นะคะ

กำนันบ้านนอก .... บิ๊กอู๊ด .... นกปากช่อง ..... ทั้ง 3 ท่านคงไม่มีใครมีความสูขเกินท่านอีกแล้ว และที่ดีใจมากที่สุดก็

พี่นิกข์.... ได้ให้คำแนะนำที่สดใหม่แก่ ภาคเกษตรหลายเรื่อง สำหรับมันสำประหลังที่ได้ทราบว่า ธกส.จะเป็นผู้รวบรวมส่งประเทศจีนจะตรวจสอบและขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไหน

คิดถึงทุกท่านเสมอ

(เพื่อนอ๋อ-น้อง v )หายไปไหน

พี่แจ้อ่านโจทย์แล้ววิเคราะห์ให้หน่อยนะคะ

จากประสบการณ์ ฤดูทำนาที่ผ่านมา ทำนา 11 ไร่ ค่าพันธุ์ข้าว,ปุ๋ย.ยา,ค่าแรง,ค่าน้ำมัน,ค่ารถเกี่ยว ไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม ต้นทุนต่อไร่ 4,364 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 48,004 บาทได้ข้าว 10,120 กก.ราคา ตันละ 7,500 บาท เป็นเงิน 75,900 บาท ส่วนต่าง 27,896 บาท หมายเหตุ ปลูกพันธุ์พิษณุโลกได้ผลผลิตมากกว่าพันธือื่นๆ (ปกติไม่เกิน 80 ถังต่อไร่) และไม่เสียค่าเช่านา คำถาม ถ้าหลังจากวันที่ 1 มกราคม 2553 ไปแล้วจะเป็นอย่างไรคะ

นก ปากช่อง รายงานตัวแล้วครับ...............

หนาแน่นดีครับสำหรับ BLOG ของ ผนส.3 เราหวังว่าเราคงจะมีสัมพันธ์ที่ดี และเป็นเช่นนี้ตลอดไปนะครับ

ยินดีด้วยครับสำหรับBLOG ของ ผนส.3 เราที่เกิน 10,000 แล้ว และอย่าได้วางใจหรือชะล่าใจไปเดี๋ยว ผนส รุ่นอื่นเขาก็ไม่เบา แต่ก็ดีนะครับที่มีการประสานสัมพันธ์กันดีเยี่ยม............

พี่แจ้ ครับ พี่บัญชา คงจะไม่ไปจู จุ๊บ กับเด็กๆๆๆๆๆๆ หรอกครับ คงจะเมาหรือไม่ก็มันส์อยู่กับการสอนมั๊ง.......สงสัย หรือหากว่าตามตัวไม่ได้จริงๆ สงสัยว่าจะต้องมีประกาศตามและมีรางวัลด้วย จะดีไหมครับ (รางวัลเป็นโค...............ดีไหมครับ)

ขอบคุณน้องทองปอนด์ ที่เขียนแซวมา ผมว่าผมมีความสุขดีอยู่นะ เพราะว่ามีเพื่อนๆ ที่น่าร๊ากกันทั้งนั้นเลย ดีใจ..........

น้องอ๋อ ผู้ที่มีโจทก์มีปัญหาถามพี่แจ้ ผมว่าพี่แจ้แกคงจะไม่ได้ตอบปีนี้มั๊ง อาจเป็นปีหน้าจริงไม๊......พี่แจ้

โทรหาเจ๊ต้อย พิมาย น่ารักตลอดเวลา เพราะเจ๊ แกต้องเตรียมตัว SPEAK ENGLISH ที่ประเทศญี่ปุ่นในไม่กี่วันนี้แล้วครับ ยินดีด้วยครับสำหรับการทำงานของเจ๊ต้อยที่ประสพผลสำเร็จครับ แกสัญญาว่าจะเข้ามาใน BLOG ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เอ่ย........

จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์มา จากปรีชา นครศรีธรรมราช เพื่อนเรา คิดถึงพอดี ถามสารทุกสุขดิบกัน เอาไว้หากว่ามีเวลาจะไปเยี่ยมที่นครศรีธรรมราช ไปกินแกงไตปลา(ลองกินดู) และไปหาไม่ยาก เพราะว่าเครื่องบินถึงครับ..... (นกแอร์) ฝากความคิดถึงปฏิพล และกำนันนัด โอบาม่า ด้วยครับ เข้า BLOG มาพูดคุยกันบ้างครับ.......คิดถึง

สุทิศ...(กุมาร3) พรุ่งนี้ 29 กันยายน ผม(กุมาร 1)ต้องตื่นนอนประมาณ ตี 3ครึ่ง พักที่โรงแรมชาลีน่า ซอยมหาดไทย บางกะปิ ไปเดินหน้าราม แหม.....สนุกจัง (ลองนีกภาพดูซิฮ่าฮ่าฮ่า.......)และเดินทางไปหาดใหญ่โดยเครื่องการบินไทย เครื่องออก 6.00 น. เขาเช็คอินประมาณ ตี5 และเมื่อถึงหาดใหญ่ มีเพื่อนรองนายก อบจ.สตูล มารับที่สนามบินหาดใหญ่ ไปทำธุระที่ตรัง เสร็จแล้วย้อนกลับมาที่สตูล พักที่สตูล และมีประชุมในวันรุ่งขึ้น(วันที่ 30 กันยายน) ที่สตูล และรัฐเปอริส มาเลเซีย ในตอนบ่าย กลับมาพักที่สตูล และวันรุ่งขึ้น(1 ตุลาคม)เดินทางไปลังกาวี ประชุมและเดินทางกลับมาที่สตูล เคลียงาน และ พักที่สตูล และวันที่ 2 ตุลาคม เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ (เพราะว่าวันที่ 3 ต้องจ่ายเงินเดือนคนงานครับ...)และผมจะติดต่อท่านสุทิศในวันที่ 2 นะครับ ผมกะว่าจะบินกลับเที่ยวเที่ยง เป็นไง....ยุ่งจริงๆๆๆๆมากๆๆๆๆ...... อยากจะพบกับท่านและกินข้าวกับท่าน หากไม่สะดวกเอาไว้มื้อหน้านะครับ เอาอีกแล้ว เฮ้อ......แต่ก็จำเป็นต้องทำเพราะมันเป็นงานครับ..........ขออภัยด้วยนะครับ เราติดต่อกันทางโทรศัพท์ก่อนก็แล้วกันครับ ว่าจะเอารูปมาลงใน BLOG ให้ดูก็ยังไม่มีเวลาเลย เอาไว้กลับมาก่อนครับ

ส่วนเรื่องสตูลโมเดล ผมจะขออนุญาต ขอเข้าประชุมร่วมกันกับทางสันนิบาตสหกรณ์ และตัวแทน ผนส ครับ เอาไว้ผมกลับมาจากสตูลก่อนครับ แล้วว่ากัน

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้กำลังใจน้อมรับคำติและชมเสมอครับ.........คิดถึงเพื่อนเสมอ

นก ปากช่อง

เรียน พี่ ๆ ผนส. รุ่น 3 ทุกท่าน

ขอร่วม HAPPY BIRTHDAY รศ. บัญชา ชลาภิรมย์ ท่านประธาน ผนส. 3 ด้วยคนครับ

ที่พี่ p'jaee ถามว่าผมอยู่สหกรณ์ไหน สินค้าของสหกรณ์คืออะไร ขอตอบว่า ผมอยู่สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย จำกัด ครับ ไม่มีสินค้าขาย มีแต่เงินให้กู้เหมือนกับ สอ. จุฬา ของท่านประธาน ผนส. 3 ครับ

มนตรี ช่วยชู

ผนส. 4 (สอ.ธปท.)

เรียน พี่ๆ ผนส.3 ทุกท่านครับ

ขอร่วมแสดงความยินดีกับท่านประธาน ผนส. 3 รศ. บัญชา ชลาภิรมย์ สุขสันต์วันคล้ายวันเกิด 28 ก.ย. 52

มั่ง มี ศรี สุข รวยๆๆๆ ครับ

สีลา ภูคลัง

ผนส. 4 สอ.ครูขอนแก่น จำกัด

ยินดีต้อนรับคุณสีลา ภูคลัง จากสอ.ครูขอนแก่น เข้าสู่blogผนส.3 อยู่ที่เดียวกับท่านเอกราช ใช่ไหมครับ ได้ข่าวว่าเป็นสหกรณ์ฯที่มีผลประกอบการดีมากแห่งหนึ่ง(ถ้าจำไม่ผิดท่านเอกราชเคยเล่าให้ฟัง)ก็ยินดีต้อนรับอีกครั้งมีอะไรดีๆเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับสาวขอนแก่น

สวัสดีค่ะพี่ๆ ผนส 3 น้องกุ้งรายงานตัวค่ะ ขณะนี้เดินทางถึงกทมเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ หลังจาก on the way อยู่หลายวัน ตั้งแต่กลับมาจากพัทยา เคลียร์งานอยู่ 3-4 วัน ก็ต้องเดินทางไปอำเภอปายต่อเพื่อปรับปรุงรีสอร์ทไว้สำหรับเทศกาลท่องเที่ยวที่ใกล้จะมาถึงนี้ ระหว่างอยู่ที่โน่นก็มีพี่นกโทรหาแทบทุกวัน เรื่องที่จะชวนพวกเราไปประชุมร่วมกันที่"ภูนกยูง"(ปากช่อง) ในช่วงวันที่ 3-4 หรือ 10-11 ตุลาคมนี้ พี่ๆคิดว่าอย่างไรบ้างล่ะคะ มีใครสนใจร่วมทริปบ้างแล้วสะดวกช่วงวันไหนจะได้ดำเนินการต่อไปค่ะ

ดีใจจังคุณแม่(พี่นิก)กลับมาแล้ว และคิดถึงพี่ๆทุกคนนะคะ พี่กำนันสุขสันต์หายเงียบเลยนะ...

HAPPY BIRTHDAY กับท่านประธาน ผนส.3ย้อนหลังนะคะ ขอให้ร่ำรวยเงินทอง ยศศักดิ์ มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่จนนะคะ

คิดถึง ผนส.3 ทุกท่านค่ะ

เรียน พี่ ผนส. 3 ทุกท่าน

พี่ ผนส. 3 Active กันดีจังเลย

พี่น้อย ชวลี คิดถึงแต่ ผนส. 3 แล้วไม่คิดถึง ผนส. 4 ที่พี่น้อย ชวลี ประแป้งให้ที่พัทยาแล้วหรือครับ

มนตรี ช่วยชู

ผนส. 4

สวัสดีค่ะ ท่าน ดร.มนตรี ช่วยชู และ ผนส.4 ทุกท่าน

" กำลังคึดฮอดพอดี ขอบคุณนะที่ Blog มา " อาจารย์คะ ชวลี กำลังชื่นชมว่า ผนส.4 กรุณาให้ความสนใจเข้ามาร่วมสนทนา

ใน Blog รุ่น 3 กำลังคิดว่าจะทักทายอาจารย์ยังไงดี ก็เลยได้ประเด็น เรื่องประแป้งรับน้องที่พัทยา หวังว่าอาจารย์คงไม่ถือสา

และสนุกสนานไปกับพวกเรานะคะ ขอส่งกำลังใจให้อาจารย์และ ผนส.4ทุกท่าน จบหลักสูตร " ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง " โดยเร็ววัน

ไม่เหน็ดไม่เหนื่อย สู้ๆนะคะ หลังจากจบหลักสูตรแล้วมาช่วยกันหากิจกรรมทำประโยชน์ให้กับกระบวนการสหกรณ์ร่วมกันนะคะ

สำหรับวันนี้.....สวัสดีค่ะ

.....สวัสดีเพื่อนผนส.ทุกท่านตอนนี้คงใช้คำว่า"สวัสดีเพื่อนๆผนส.3"รุ่นเดียวไม่ได้แล้วเพราะมีพี่ๆน้องๆผนส.เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นในblogนี้มากขึ้น ตอบโจทย์น้องอ๋อก่อนไม่ต้องทวนโจทย์ ราคาข้าวบ้านเราแพงกว่าเขาตันละประมาณ1,000บาทลดกำแพงภาษีไปอีกประมาณตันละ200บาทโดยประมาณ ปัจจุบันน้องอ๋อขายได้ตันละ7,500บาท หลังวันที่1มกราคม2553 เปิดการค้าเสรีอาจต้องสู้ราคาที่6,000-6,300บาท(ถ้ารวมค่าเช่านาดอกเบี้ยค่าปุ๋ยค่ายา น้องอ๋อและเกษตรกรไทยรับประทานแกลบได้เลยครับ) พี่ว่าปลูกหญ้าขายดีกว่าครับ หญ้าปูสนามขายดีและราคาสูงพอสมควร เห็นแถวหนองจอกและมีนบุรีทำกันมาก

....น้องกุ้งกลับมาแล้วได้ข่าวปายฝนตกหนักระวังน้ำป่าด้วยนะ เมื่อวานฟังรายการวิทยุคลื่นอะไรจำไม่ได้แล้วพูดถึงโครงการพัฒนาการพูดภาษาอังกฤษให้ผู้ขับขี่รถtaxiเพื่อการสื่อสารกับผู้โดยสารต่างชาติเลยนึกถึงน้องกุ้งที่เคยทำโครงงานนี้เสนออาจารย์ยมและมีคนเห็นด้วยจำนวนมากพร้อมเสนอให้เพิ่มภาษาจีนและญี่ปุ่นเข้าไปด้วย ไม่ทราบว่าโครงการนี้น้องกุ้งมีส่วนร่วมขับเคลื่อนด้วยหรือไม่ในฐานะผู้บริหารเครือข่ายรถโดยสารสาธารณะ

....น้องปรีชา หนุ่มสะตอรูปหล่อจากแดนใต้หายหน้าไปนานเข้าblogมาทักทายกันหน่อยซิ ...

....อ่านบล็อกพี่น้อย ชวลีชอบคำอวยพรตอนสุดท้ายที่ว่า"ไม่เจ็บไม่จน"แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับชีวิตเราและได้รู้ว่าท่านมนตรีผนส.4มีดีกรีถึงPh.D รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่วงการสหกรณ์ไทยของพวกเรามีผู้มีความรู้เข้าช่วยกันพัฒนามากยิ่งขึ้น อนาคตต้องตั้งพรรคสหกรณ์ลงเลือกตั้งบ้างแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจกันเสมอๆ... ขอสอบถามพี่น้อยหน่อยครับตอนนี้โรงพยาบาลกรมชลประทานโอนให้มศว.ไปแล้วหรือครับ คือว่าอยากให้ลูกสาวไปใช้ทุนแพทย์ที่รพ.กรมชลฯดีไหมครับขอคำแนะนำและฝากพี่ด้วยครับ

....นก ปากช่องเชิญชวนไม่หยุดสองทริปสองโปรเจคส์"ภูนกยูงรีสอร์ตแอนด์สปาผสมลังกาวีแอนด์สตูล"เหินฟ้าขึ้นรถลงเรือครบทุกรสชาดได้ข่าวมีผู้สนใจจะไปกันเยอะ (เลิกขายนมเหอะมาทำทัวร์ดีกว่าดูแล้วรุ่งแน่)

....แค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกันพรุ่งนี้ สวัสดีทุกท่าน..

เรียน  ผนส ทุกคน

       เข้ามาดูในBlog แล้วคึกคักจัง วันนี้ผมประชุมใหญ่สามัญประจำปีเสร็จแล้ว เลยมีเวลาว่างมากขึ้น จะขยันเข้ามาทักทายบ่อยขึ้น เมื่อวานประชุมใหญ่ผ่านไปด้วยดีใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชม เสร็จเพราะการประชุมใหญ่ของผมมีการประชุมกลุ่มก่อนประชุมใหญ่ซึ่งประชุมเหทือนกับการประชุมใหญ่แต่ไม่มีการลงมติ พอถึงวันประชุมใหญ่เชิญตัวแทนสมาชิก โดยใช้สัดส่วนสมาชิก 5ต่อ 1 มาประชุมเลยใช้เวลาไม่นาน

        สรุปผลการดำเนินงานปีนี้ สหกรณ์มีกำไรสี่ล้านแปดแสนก่าวบาท จ่ายเงินปันผลสมาชิกร้อยละ 5.5 บาท เฉลี่ยคืนเงินกู้ร้อยละ 4 บาท เฉลี่ยคืนซื้อสินค้าร้อยละ 4.5 บาท

       พี่อดิศักดิ์ลงมาใต้แต่ยังไม่เจอ คิกว่าวันที่ 2 จะนัดไปทานข้าวหน่อยไม่รู้จะได้เจอกันอีกหรือเปล่าเพราะพี่เขามีงานยุ่งมาก

สวัสดีชาวผนส.ทุกท่านวันนี้ได้อ่านผลสรุปผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์เพื่อรับมือเปิดเสรีการค้าและลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นเรื่องที่น้องอ๋อ อ่างทองเป็นห่วง ผลการประชุมสรุปได้ว่ามีผลกระทบหลักๆอยู่ 5 ประเด็นดังนี้:

1.ราคาข้าวในประเทศจะตกต่ำ เนื่องจากมีการนำเข้ามากขึ้น

2.ผู้ส่งออกอาจนำข้าวในอาเซียนส่งออกแทนข้าวในประเทศเพราะราคาถูกกว่า

3.ข้าวในประเทศเพื่อนบ้านอาจเป็นข้าวเอ็มจีโอปนมาด้วย

4.ปัญหาการสวมสิทธิ์

5.กระทบต่อความเชื่อมั่นในการผลิตข้าวและความมั่นคงของชีวิตชาวนา ส่งผลกะทบต่อระบบการผลิตข้าวของประเทศโดยรวม

แนวทางแก้ไข:

1.ใช้มาตราการแทรกแซงตลาดไม่ให้ราคาสูงกว่าราคาภายนอกเพื่อลดแรงจูงใจนำเข้า

2.ต่อยอดงานวิจัยเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่จากข้าว

3.นำผลวิจัยมาประยุกต์ใช้และส่งเสริมการตลาด

ก็ดูคล้ายๆกับที่พวกเราเคยวิเคราะห์กันก็คงจะต้องคอยติดตามการแก้ปัญหานี้กันอยางใกล้ชิด ..สหกรณ์ของท่านสุทิศผลประกอบการใช้ได้นะครับปันผล5.5สมัยนี้ถือว่าok.แล้วนะ

นก ปากช่องตอนนี้โบยบินไปทางใต้ส่งสัญญาณมาทางโทรศัพท์เดี๋ยวกลับมาคงมีข่าวล่ามาเรือบินรายงานอีกเยอะ

แค่นี้ก่อนนะครับ..สวัสดี

ขอชื่นชม..ทีมงานบริหารและทีมงานฝ่ายจัดการของสหกรณ์การเกษตรควนเนียง จำกัด ที่มีความสามารถทำให้สมาชิกเจ้าของสหกรณ์ทำธุรกิจกับสหกรณ์ด้วยความศรัทธาและสำนึกที่ดีต่อสหกรณ์ ส่งผลให้สหกรณ์มีกำไร ๔.๘ ล้านบาทเศษ จ่ายเงินปันผลร้อยละ 5.5 เฉลี่ยคืนเงินกู้ร้อยละ 4 และเฉลี่ยคืนซื้อสินค้าร้อยละ 4.5 เท่าที่ทราบในปีนี้สหกรณ์การเกษตรส่วนใหญ่ขาดทุนหรือกำไรลดลง แต่สหกรณ์คุณสุทิศ สามารถมีกำไร ทวนกระแสเศรษฐกิจของไทย และจ่ายปันผล เฉลี่ยคืนครบทุกสูตร เป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ ขอยกนิ้วให้ด้วยความจริงใจ เอ้อ..แล้วโบนัสได้กี่เท่า ได้เท่าไหร่ คุณสุทิศไม่เห็นแจ้งพวกเราเลย

เมื่อวาน(๑ตค๕๒)ผมไปประชุม(ว่าที่)ผู้แทนเกษตรกร ซึ่งมีผู้แทนเกษตรกรเข้าประชุมรวม ๑๖ คน(ทั่วประเทศ ๒๐คน)โดยมีอดีตผู้แทนเกษตรกร และตัวแทนของเกษตรกรของผู้พลักดันให้เกิด พรบ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.๒๕๔๒ เข้าประชุมด้วย จำนวน ๖ ท่าน ถือเป็นมิติใหม่ที่ผู้แทนเกษตกรส่วนใหญ่ร่วมมือกันเพื่อก่อการดีให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรสมาชิกกองทุน ฯ ขอขอบคุณท่านประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์ ที่กรุณาเอื้อฟ้าสถานที่ ห้องประชุมครั้งนี้

ผนส.๓ หลายท่านเริ่มแสดงตนใน blog และมีอีกหลายท่านกำลังด้อม ๆ มอง ๆ ติดตามความเคลื่อนไหว เพราะว่าในช่วงนี้สหกรณ์ภาคการเกษตรส่วนใหญ่ได้ประชุมใหญ่เรียบร้อยแล้ว ส่วนภาคออมทรัพย์ผมไม่แน่ใจเพราะปีสิ้นสุดแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามเห็นว่า หลายท่าน"ต้องการพักผ่อน" ควรเอาโอกาสในช่วงนี้นัดเจอกันเพื่อ"ระดมสมอง"ดีไม๊..พี่แจ้ เมื่อวันที่ ๒๙กย.ที่ผ่านมา ผมไปประชุมคณะกรรมการบริษัท สหประกันชีวิต จำกัด ซึ่งท่าน รศ.บัญชา ประธานรุ่น ๓ เป็นรองประธานกรรมการบริษัท คนที่ ๑ ผมได้แจ้งท่านว่า เพื่อนผนส.๓ อวยพรวันเกิดย้อนหลังมากมายเลย ท่านบอกว่าจะเปิด blog ดู และท่านก็ฝากขอบคุณทุกคนที่อวยพรให้ ถึงตอนนี้สงกะสัยเหมือนกันว่า...ท่านประธานรุ่นของเราคงมีภารกิจเยอะ งานยุ่งแน่ เพราะท่านยังไม่เข้ามาทักทายเลย ท่นอดิศักดิ์ ร้อยโครงการ ล้านโปรเจค เจ้าของสถานที่ ภูนกยูงรีสอร์ทแอนด์สปา พร้อมหรือยัง? หากพร้อมส่งสัญญาณให้น้องกุ้ง ประสานพวกเราด่วนที่สุด...คิดถึง..คิดถึง..พวกเราทุกคนครับ

เมื่อวานได้คุยกะพี่นกปากช่อง ต้องการให้พวกเราไปประชุมและสังสรรค์กันที่ภูนกยูงรีสอร์ทแอนด์สปา ในช่วงวันศุกร์-เสาร์ หรือเสาร์-อาทิตย์ กุ้งว่าถ้าเป็นช่วงอาทิตย์หน้าดีมั๊ยคะ(10-11 ตค) พี่นกบอกว่าให้เจอกันที่โลตัสปากช่องแล้วให้ไปที่รีสอร์ทพร้อมกัน พี่ๆว่าอย่างไรบ้าง ติดต่อทางblog หรือโดยตรงที่กุ้งหรือเจ้าตี๋น้อย(ไท)ได้เลยนะคะ ตอนนี้ต้องการเช็คจำนวนคนและวันที่สะดวกค่ะ แต่คิดว่าน่าจะเป็นในเดือนนี้ (ต้องการคำตอบด่วนค่ะ)

เรียน พี่น้อย ชวลี และ ผนส. 3 ทุกท่าน

ขอบคุณพี่น้อย ชวลี มากครับที่กรุณาให้ความรัก ความเมตตา และกำลังใจ รับรองว่า ผนส. 4 ต้องเจริญรอยตามรุ่นพี่ ผนส. 3 แน่ เพราะมีตัวอย่างที่ดี ตอนนี้เกิดพายุทำให้ฝนตกมาก น้ำท่วมหลายแห่ง น่าเห็นใจเพื่อนสมาชิกสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิและอีกหลาย ๆ จังหวัดที่โดนหางเลขของพายุกิสนา งานนี้กรมชลประทานของพี่น้อย ชวลี คงเหนื่อยหน่อยนะครับ ขอเอาใจช่วยครับ

มนตรี ช่วยชู

ผนส. 4

กำนันบ้านนอกเห็นด้วยกับน้องกุ้งok 10-11จองหนึ่งที่นั่ง

ท่าน ผนส.3 ครับ

14 ต.ค.52 ผนส.4 ไปศึกษาดูงานที่ cp อ.โชคชัย และจะพักค้างคืนที่ ปากช่องแลนมาร์ค หากรุ่นพี่ ผนส.3 จะไปร่วมแจมก็ยินดีครับ

สวัสดี ผนส ทุกคน

     ก่อนอื่นต้องขอขอคุณพี่ทนงศักดิ์ที่ชื่นชม ที่สหกรณ์มีกำไรปีนี้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งสวนกระแสเศรษฐกิจปีนี้นั้น การทำกำไรแต่ละธุรกิจบางธุรกิจก็มีกำไรลดลง เช้นธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายมีกำไรลดลงมากเลยในขณะทีขายสินค้าได้มากกว่าปีก่อนหลายล้านบาท(ปีก่อนผมขายสินค้าได้20 ล้าน มีกำไร 1.2 ล้าน ปีนี้ขายสินค้าได้ 25 ล้าน มีกำไร 4 แสนกว่าบาทเอง) ที่สหกรณ์มีกำไรปีนี้นั้นมากจากการปล่อยเงินกู้มากกว่าและปีนี้มีแนวโน้มสมาชิกเพิ่มมากขึ้นการปล่อยเงินกู้ก็มากขึ้น แต่เงินกู้ทีจะนำมาให้สมาชิกกู้มีน้อยและดอกเบี้ยสูง ว่าจะกู้เงินจากสหกรณ์ท่านประธานรุ่นไม่รู้จะได้หรือเปล่า

  และที่พี่ทนงศักดิ์สงสัยว่าได้โบนัสเท่าไรนั้น ได้ไม่กี่บาทหลอกพี่ และตอนนี้ก็ใช้เกือบหมดแล้ว  เหลือไว้เลี้ยงพี่อดิศักดิ์สักมื้อไม่รู้จะได้เลี้ยงหรือเปล่า เมื่อวานโทรไปหาเห็นบอกว่าจะมาหาดใหญ่พรุ่งนี้เช้าและจะขึ้นเครื่องกลับเลยไม่ได้นอนหาดใหญ่

   สำหรับโครงการวันที่ 10 -11 ที่โคราชผมต้องขออนุญาติ เพราะวันที่ 11 มาการเลือกตั้งนายกอบจ สงขลา (เลือกซ่อมโดนใบเหลือง) หากไม่ได้เลือกเดียวจะเสียสทธิ์

 

สร้างความมั่นใจจากวิธีคิด

ความมั่นใจ ถือเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จและเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ทั้งเรื่องเรียนและการทำงาน นอกจากจะส่งผลให้เป็นคนกล้าแสดงออก และกล้าเผชิญกับเรื่องต่าง ๆ อย่างมั่นใจแล้ว ยังทำให้บุคลิกภาพดีด้วย

แต่สำหรับใครที่ยังรู้สึกขาดความมั่นใจมีวิธีเพิ่มความมั่นใจมาฝากกัน

1. ยอมรับตนเอง เพราะทุกคนย่อมมีความแตกต่างกัน จึงควรภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น โดยอย่านำตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น

2. อย่าลังเลที่จะเรียนหรือทำสิ่งที่ชอบ เพราะสิ่งที่เราคิดว่าทำไม่ได้นั้น อาจเป็นกิจกรรมที่ช่วยดึงพรสวรรค์ที่ซ่อนในตัวเราออกมาก็ได้

3. คิดมีเหตุผล เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในเรื่องต่าง ๆ อย่าโทษตัวเองทุกเรื่อง และอย่าคิดว่าครั้งต่อ ๆ ไปก็จะผิดพลาดตลอด ควรใช้หลักการคิดอย่างมีเหตุผล เพราะหลายคนมักประเมินมาตรฐานตนเองต่ำเกินไป จึงยิ่งบั่นทอนความมั่นใจให้ลดน้อยลง

4. เผชิญหน้ากับปัญหา โดยคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องเจอ หลังจากนั้นให้ใช้สติเพื่อการแก้ไขเพราะปัญหาทุกอย่างมีทางออก

5. รักษาสุขภาพกายและใจ ให้แจ่มใส ไม่หมกมุ่นอยู่กับข้อด้อยของตัวเอง เพราะข้อด้อยต่าง ๆ สามารถพัฒนาให้กลายเป็นข้อดีได้

6. บันทึกไดอารี่ความสำเร็จ ในเรื่องต่าง ๆ และเมื่อกลับมาอ่านจะช่วยให้เกิดความภูมิใจในความสามารถของตนเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินชีวิตได้

‘ความมั่นใจ’ นั้น แท้จริงแล้ว เป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่ในตัวเอง แค่เริ่มต้นจากการคิดง่าย ๆ สร้างกำลังใจให้ตัวเอง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจได้มากทีเดียว หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ปรับให้ ‘ความมั่นใจ’ กลายเป็นลักษณะนิสัยของตัวเองในที่สุด.

เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

5 เรื่องธรรมดา ที่แอบร้าย

1. การใช้แปรงสีฟันร่วมกัน

การใช้แปรงสีฟันร่วมกันนั้นจะทำให้แบคทีเรียในช่องปากที่สะสมนั้น มีมากขึ้นในแปรงสีฟัน หากใช้ร่วมกันนานๆ อาจทำให้ติดโรคภายในช่องปาก หรือโรคติดเชื้อจากแผลในช่องปากด้วย หากวันใดคนที่เราใช้แปรงร่วมด้วยไม่มีแปรงสีฟันจริงๆ ให้เขาใช้น้ำยาบ้วนปากแทน เพราะน้ำยาบ้วนปาก จะช่วยยับยั้งการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรีย และทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นอีกด้วย

2. ใช้เครื่องเป่ามือในห้องน้ำสาธารณะ

ขอร้องเลยว่า อย่าทำให้มือแห้งด้วยเครื่องเป่ามือตามที่สาธารณะทั่วไป เพราะท่อส่งอากาศที่ถูกเป่าออกมานั้น เต็มไปด้วยจุลินทรีย์ที่กำลังแพร่ขยายพันธุ์อยู่ ผลที่ได้คือ มือของคุณจะปราศจากแบคทีเรีย แต่จะอุดมไปด้วยเชื้อโรคมากกว่าตอนก่อนล้างมือเสียอีก ดังนั้น ควรซับมือด้วยกระดาษชำระ หรือผ้าเช็ดมือแบบใช้ครั้ง เดียวเท่านั้น

3. การนั่งบนชักโครกสาธารณะ

เวลาสาวๆ นั่งปัสสาวะหรือถ่ายทุกข์แบบหนัก ไม่ว่าจะน้ำปัสสาวะหรือของเสียอื่นๆ ก็อาจจะมีบางส่วนที่กระเด็นมาสะสมกันอยู่ที่บริเวณโถรองนั่งของชักโครก จนเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคขนาดมหึมา ฉะนั้น ก่อนเข้าห้องน้ำสาธารณะทุกครั้ง เช็ดให้สะอาดด้วยกระดาษชำระชุบน้ำ แล้วตามด้วยกระดาษชำระที่แห้งวางทับบนโถรองนั่งก่อนปลดทุกข์ทุกครั้ง รับรองว่าวิธีการนี้ได้ผลแน่นอน

4. การกลั้นจาม

คุณรู้ไหมว่าอัตราความเร็วในการจามแต่ละครั้งนั้นสูงถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทีเดียว ดังนั้น การยื้อหรือกลั้นไม่ให้จามนั้นจะก่อให้เกิดแรงอัดอากาศภายใน อาจส่งผลทำให้เยื่อแก้วหูแตกหรือเป็นรูได้

5. กินยาแก้ปวดทุกครั้งที่ปวดศีรษะ

การรับประทานยาแก้ปวดหัวบ่อยๆ และเป็นเวลานานจะมีผลทำให้ตัวยาสะสม และอาจกัดจนเป็นแผลในช่องท้อง หรือมีผลให้ตับทำงานหนักจนเกิดผลเสียกับตับได้ หนทางแก้ไขก็คือ เมื่อมีอาการปวดศีรษะ ให้พยายามดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือถ้าปวดศีรษะ เนื่องจากนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ก็ให้พักสายตาชั่วโมงละ 5 นาที ช่วงทานข้าวกลางวันก็ออกไปเดินเล่นเสียหน่อย เพื่อเป็นการพักผ่อนสายตาไปในตัว

เรียน ผสน ทุกคน

        วันนี้ได้มีโอกาสเจอพี่อดิศักดิ์ เจ้าของโครงการร้อยโครงการ ถือว่าโชคดีปกติเจอตัวยากมาก มาใต้ทีไรแอบกลับทุกที ต้อนเช้าไปทานข้าวกับพี่เขา และไปส้งพี่เขาขึ้นเครื่อง ในระหว่างทานอาหาร ก็ได้พูดคุยเรื่องโครงการที่สตูล ก็เลยมีความคิดหากจะมาจริงและมาแน่นอน ควรจัดในรู้ปสัมนาเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงาน เพื่อจะไดเบิกค่าใช้จ่ายได้ และให้สันนิบาตรเป็นคนทำหนังสือ กำหนดการเป็นอย่างไรคงจะนัดคุยกันอีกครั้ง และที่น่าสนใจทางอบจสตูลอยากเชื่อมความกับสหกรณ์ เสนอการแข่งขันก๊ฟุตบอลระหว่างผู้นำสหกรณ์กับผู้นำอบจสตูล ก็น่าสนใจดี แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องถามทุกคนดูก่อน อย่างไรก็แล้วแต่ไปสตูลแล้วมานอนหาดใหญ่สักคืนก็น่าจะดีนะ

   วันนี้ได้ไปส่งพี่เขาที่สนามบินแล้ว โชคดีได้พบกับอดีตประธานห่อการค้าจังหวัดสงขลา ได้พูดคุยกับท่านและอาจารย์(จำชื่อไม่ได้)แต่เรียนรุ่นเดียวกับอาจารย์จิระเราด้วย  ได้ประโยชนย์เป็นอย่างมากเพราะได้มีเครือข่ายเพิ่มขึ้น ทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักสหกรณ์และไม่เขาใจสหกรณ์ได้รู้และเข้าใจสหกรณ์ดีขึ้น

       ท่านผู้จัดการสหกรณ์นิคมท่าซะหายไปไหน หรือว่ายุ่งอยู่กับการเตียมการประชุมใหญ่ เสร็จประชุมใหญ่เข้ามาเยี่ยมบล็อกบ้างนะ เพราะประมาณเดือนพฤศจิกายน ว่าจะไปดูงานเรื่องปาล์มสหกรณ์ของท่านหน่อย วันก่อนไปดูแล้วแต่มีเวลาน้อยดูได้ไม่ทั่วถึง ครั้งนี้ตั้งใจไปดูให้เต็มที่ดูทั้งวันแล้วนอนที่ชุมพรด้วย พี่ช่วยหาที่พักให้ด้วยนะ ไปประมาณ100 คน ตั้งใจไปดูแล้วจะกลับมาทำให้เกิดประโยชนย์สูงสุด

  
    

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ.................

โทษที ที่ไม่ได้ส่งข่าวคราวให้เพื่อนๆ ได้ทราบ มาหลายวัน(ไม่ว่างเข้า BLOG) เพราะว่ามีการประชุมและติดงานธุระกิจที่ประเทศมาเลเซีย แต่ว่าก็เป็นบรรยากาศการต้อนรับจากทั้งทางส่วนของสหกรณ์มุสลิม และเครือข่ายสหกรณ์ภาคใต้ อบอุ่นมากครับ และยังได้ทางส่วนราชการของทางจังหวัดสตูล มาร่วมเป็นแรง ที่จะช่วยกันผลักดันโครงการต่างๆ ที่เราได้พูดคุยกันไว้ เพื่อให้เกิดงานเป็นรูปธรรม และก่อให้เกิดงานในการดำเนินกิจกรรม เชื่อมโยงกันระหว่างสหกรณ์เครือข่ายภาคใต้ และสันนิบาตสหกรณ์ รวมทั้งท่าน พี่น้องผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงและเพื่อนๆสหกรณ์ ต่างๆที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรมดีๆ อันจะเป็นการส่งเสริมและสร้างงานให้กับสมาชิกสหกรณ์และเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้กับระบบสหกรณ์ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติเราสืบต่อไป โดยสหกรณ์ทางเครือข่าย ภาคใต้พร้อมที่จะดำเนินกิจกรรมร่วมกับสหกรณ์ทุกท่าน รวมถึงพวกเราด้วยนะครับ

ก่อนอื่นดีใจกับท่านสุทิศ ด้วยนะครับ ที่การประชุมของสหกรณ์ท่าน ได้ผ่านพ้นไปด้วยดีมากๆๆๆๆๆๆๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เศรษฐกิจตกต่ำ ท่านยังฟันฝ่า มรสุมมาได้ และผลประกอบการได้ดีเยี่ยม(ไม่ติดลบ ) และมีเงินปันผลให้แก่สมาชิกได้ ก็เป็นสิ่งที่วิเศษ ที่สุดแล้วหละครับ................(ขอปรบมือให้ และหากว่าสหกรณ์อื่นๆ มีผลประกอบการเป็นอย่างไร ก็แจ้งข่าวกันมาบ้างก็ได้ และหากว่ามีปัญหา เราจะได้ช่วยเหลือกันนะครับ.........) อาหารมื้อเช้าในวันอาทิตย์ (สุทิศ อุตส่าห์ ตื่นมาพาไปเลี้ยงข้าว และส่งที่สนามบินหาดใหญ่ อร่อยมากท่านรองนายก อบจ.สตูล ฝากขอบคุณมาด้วยครับที่เลี้ยง และโดยเฉพาะกาแฟที่สนามบิน...น่าร๊าก ม๊ากมากๆๆๆๆๆๆๆ) สุทิศ (อาจารย์ ที่เราไปเจอกันที่สนามบินหาดใหญ่ชื่อท่านชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์)เอาไว้จะไปนอนที่หากใหญ่สักคืนหนึ่ง และเราค่อยกินกันมื้อหน้านะครับ..........

สำหรับ "ภูนกยูง สปา แอนด์รีสอร์ต" เราจะประชุมกันที่ปากช่อง ในระหว่างวันที่ 10 ถึง 11 ตุลาคม นี้ เพื่อกำหนดและวางแนวทาง ในการดำเนินกิจกรรมร่วมกัน(สตูล โมเดล) กับเครือข่ายสหกรณ์ภาคใต้ โดยมีส่วนราชการจังหวัดสตูล โดยเฉพาะท่านรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ท่านสำราญ รักษ์ชาติ) และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล(ดร.สุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล) รวมทั้งส่วนราชการอบจ.สตูล ให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรม ที่ดีๆ ในระหว่างเครือข่ายสันนิบาตสหกรณ์ และเครือข่ายสหกรณ์ ในการวางแนวทางการเชื่อมโยงการค้าและนำสินค้าทางภาคการเกษตรมุ่งสู่ประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม(กลุ่มประเทศมุสลิมต่างๆอาทิเช่นมาเลเซีย,ซาอุดิอาราเบีย,ดูใบ,โอมาน,จอร์แดน และอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยทางสหกรณ์อิบนูเอาฟ และเครือข่ายมุสลิมโลก ยินดีต้อนรับ โดยเฉพาะท่านประธานสหกรณ์อิบนูเอาฟ ท่านรอเฉด ใบกาเด็ม น่ารักมากครับ พูดคุย เป็นกันเองมากเลย...... และยังเป็นการสัมนาเพื่อแก้ไขปัญหาในการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อนในภัยพิบัติสึนามิ ได้มีการ สัมนาในเชิงวิชาการและการปฏิบัติงานร่วมกันในกลุ่มสหกรณ์ อีกทั้งยังมีโครงการพระราชดำริ "ป่าชายเลน ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่จะได้มาเปิดโครงการพระราชดำริ ป่าชายเลนเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ป่าชายเลน ในจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศขณะนี้ เป็นการป้องกันการทำลายป่าชายเลนด้วย โดยผมได้เรียนต่อท่านรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ท่านสำราญ รักษ์ชาติ) ไว้แล้วและท่านยินดีให้การสนับสนุนร่วมกับทางสันนิบาตสหกรณ์และกลุ่มสหกรณ์ของพวกเราครับ อีกทั้งหากมีโอกาส จะได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จมาเพื่อทรงปลูกป่าด้วยครับ (พวกเราไปปลูกป่าด้วยกันนะครับ....)และทางส่วนราชการสตูล และช่างภาพสื่อมวลชนสตูล ยินดีต้อนรับพวกเรา ในฐานะแขกคนสำคัญ ในฤดูการท่องเที่ยว เปิดฟ้าอันดามันครับ

ในส่วนของการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรในแนวทางความคิดของคุณสุทิศ ระหว่างทีมกลุ่มสันนิบาตสหกรณ์รวมกับเครือข่ายสหกรณ์ ร่วมกับทีมจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นทีมที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมีนักฟุตบอลทีมชาติหลายคนเลย เป็นการแข่งแบบ VIP เปลี่ยนตัวนักกีฬา ลงมาเตะฟุตบอลได้ตลอดครับ........เราน่าจะมีกิจกรรมในงานนี้ด้วยนะครับ( นึกภาพแล้วคงจะสนุกสนานกันแน่ไม่จืดเลยหละครับ.......) หากว่าเพื่อนๆ สนใจก็รีบนะครับ รับจำนวนจำกัด รีบติดต่อกุ้ง หรือ ไท สหกรณ์TAXI ด่วนนะครับ ไม่ผิดหวังครับ

แล้วจะแจ้งข่าวมาให้เพื่อนๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่งนะครับ วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนนะครับ ของคุณมากครับ

รักและคิดถึงเพื่อนๆครับ และเจอกันที่ "ภูนกยูง รีสอร์ตแอนด์สปา" ครับ

นก ปากช่อง

ตกลงที่ประชุมชื่ออะไรกันแน่พี่นก "ภูนกยูง สปาแอนด์รีสอร์ต" หรือ "ภูนกยูง รีสอร์ตแอนด์สปา"

อภิสิทธิ์ จั้นอรัญ ผนส3

<p>เรียน ผนส.3 ทุกท่าน

ขอเรียนเชิญร่วมงานทอดกฐิน ทอดถวาย ณ สำนักสงฆ์ดงดินแดง ม. 7 ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา

กำหนดการ

ตั้งองค์กฐิน ณ บ้านเลขที่ 36 ม.2 ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ. นครราชสีมา

วันศุกร์ที่ 23 ต.ค. 2552 เวลา 11.00น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์

เวลา 13.30 น. เทศน์อานิสงส์ 1 กัณฑ์ (ฉลององค์กฐิน)

เวลา 18.00 น. ขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร (โต๊ะจีน)

วันเสาร์ที่ 24 ต.ค.2552 เวลา 09.00 น. แห่องค์กฐินไปทอด ณ สำนักสงฆ์ดงดินแดง

นายอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ ผนส.3 เจ้าภาพ

ผนส.3 ท่านใดที่ประสงค์จะทำบุญร่วมกัน โปรดแสดงตน ใน blog หรือ โทร.081-8774446 จะได้จัดเตรียมที่พักให้

ผมสนใจจะไปหารือวันที่ ๑๐-๑๑ ตค.ที่"ภูนกยูง รีสอร์ทแอนด์สปา" แต่คงต้องให้น้องกุ้งช่วยเช็คจำนวนผู้ร่วมงานด้วยครับ เพื่อความชัวร์ครับ

วันนี้ (๖ ตค.)เสี่ยนกเจ้าของ"ร้อยโครงการ ล้านโปรเจค"จะไปที่สหกรณ์บ้านเขว้า ชัยภูมิ เพื่อติดต่อซื้อโคตัวผู้ จำนวน ๑๐๐ ตัว อิจฉาเสี่ยนกจัง"จับมือหลายปลา" แถมยัง "ยิงนกนัดเดียวได้กระสุนหลายตัว" อย่างนี้ ไม่รวยคราวนี้จะรวยคราวไหนหละ

งานกฐินของท่านนายก เสี่ยข้าวโพดหวาน ผมต้องขออภัยที่ไม่สามารถไปร่วมงานได้ เพราะติดงานมงคลและฉลองสมรสของหลานสาว ขออนุโมทนา...ด้วยนะครับ

พี่ๆคะขอเช็คยอดผู้ที่ต้องการไปประชุมที่ภูนกยูงค่ะ ขอให้แจ้งภายในวันพรุ่งนี้ได้มั๊ยคะ ถ้าเกิดว่าน้อยเกินไปอาจจะต้องเลื่อนนะคะ

หรือติดต่อกุ้งโดยตรงก็ได้ 081-3730705

ตอนนี้รู้สึกว่าจะมีพี่อู๊ดและกำนันสุขสันต์ที่ตอบรับ

พี่แจ้ และท่านประธานรุ่นว่าอย่างไรเอ่ย พี่น้อย พี่จิ๋น พี่อ๋อ พี่วี24 พี่ปอนด์ น้องกุ้งรอคำตอบอยู่นะคะ

ข่าวเด่น เย็นนี้

วันนี้ (๖ตค.) สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเสี่ยนก เจ้าของ"ร้อยโครงการ ล้านโปรเจค" โดยเดินทางมาพร้อมกับคุณนาย เพื่อทำข้อตกลงซื้อ-ขายโค(ไม่โยตี้)จำนวน ๑๐๐ ตัว ราคากว่าห้าแสนบาท กับสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคจังหวัดชัยภูมิ จำกัด ซึ่งเป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่า จากการศึกษาตามหลักสูตร ผนส.รุ่นที่ ๓ ซึ่งเป็นแผนงานโครงการ"การส่งเสริมสมาชิกเลี้ยงโคขุน" ที่ผมได้นำเสนอต่อท่านอาจารย์ยม เสี่ยนกแจ้งว่า เนี่ยเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น โครงการนี้จะต่อเนื่องและยั่งยืนแน่นอน เพราะเสี่ยนกกับเพื่อนลงทุนทำธุรกิจผลิตลูกชิ้นเนื้อ ซึ่งกำลังจะเดินเครื่องจักรในเร็ว ๆ นี้ เพื่อน ๆ ผนส.และคนในวงการสหกรณ์จะได้มีลูกชิ้นเนื้อโลโก้สหกรณ์ (โค-ออป)รับประทาน และสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายเพิ่มธุรกิจของสหกรณ์ได้อีก งานนี้..สงสัยบรรดาลูกชิ้นเนื้อที่วางขายตามท้องตลาด หรือที่ต้มอยู่ในหม้อก๋วยเตี๋ยว จะต้องกระเด็น กระดอน ตกถ้วย ไปเลย เด้อ..สิ..บอก..ไห่

ถึงน้องกุ้ง...วันที่10-11นี้พี่มีภาระกิจเดินทางไปกับคณะการไฟฟ้านครหลวงที่โคราชแต่ไม่ได้พักใกล้กัน ทีแรกพี่planงานไว้ว่าจะขอดูงานที่สหกรณ์นมโตปากช่องของท่านอดิศักดิ์แต่เวลาไม่มีพอเพราะมีการนัดหมายภาระกิจอื่นล่วงหน้าไว้แล้วกลัวจะไปไม่ทันที่นัดหมายไว้จึงไม่รู้จะมาหาพวกเราได้หรือไม่ ...แต่ถ้าพวกเราไปกันจริงก็จะพยายามหาทางมาพบพวกเราให้ได้ก่อนฟ้าสาง

...อ่านข่าวเด่นเย็นนี้ของบิ๊กอู๊ดแล้วน้ำลายไหลอยากรับประทานลูกชิ้นเนื้อโค(โยตี้)ซะแล้วแต่บิ๊กอู๊ดก็อย่ารับประทานมากเดี๋ยวรุ่นเราจะเหลือน้อยลง(ติดเชื้อวัวบ้า)ไม่รวมติดเ.....ส์ นี่แค่เพียงเริ่มต้นนะครับพี่น้องลูกชิ้นกระเด็นกระดอนดึ๋งๆออกนอกหม้อไปอย่างไม่น่าเชื่อโกฮับโกเด้งโกเต็กต้องยอมสยบลูกชิ้นพลังสหกรณ์ของ"โกนก"เราแน่นอน...ฟันธง....(ใช่ไหมบิ๊กอู๊ดฟันแล้วทิ้ง) ขอเสนอโลโก้ข้างถุงเป็นรูปเสี่ยนกขี่โคคาบลูกชิ้น3ลูกพร้อมรีดนมไปด้วย...ดังแน่ๆ

...แค่นีก่อนนะเรื่อยเฉื่อยไปเรื่อ่ยอ่านเล่นๆคลายเครียด...แล้วเจอกัน

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ...............

วันนี้ได้มีโอกาสได้เดินทางไปบ้านเขว้า ชัยภูมิ ดินแดนเสี่ยอู๊ต ประทับใจมาก และขอบคุณที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ในการจัดซื้อโค(ไม่ใช่โคโยตี้) ในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้น ในการประกอบธุระกิจร่วมกันในเครือข่าย และเป็นการต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการธุรกิจ ตามแนวทางที่ได้เรียนมาในหลักสูตรของ ผนส.3 โดยเป็นการดำเนินงาน ส่งเสริมให้เกษตรกรได้เลี้ยงโคขุน ตามแนวทางที่บิ๊กอู๊ต ได้แถลงไว้กับทางอาจารย์ยม และเพื่อนๆ ผนส.3 ในวันสำเร็จการศึกษา ผนส.3 ผมขอชื่นชมครับส่วนตัวของผม

ก็คงจะได้จัดซื้อโค จากบิ๊กอู๊ต ต่อเนื่องตลอดไป เพราะว่าหากว่าโรงงานลูกชิ้นเนื้อเปิดแล้วคาดว่าคงจะใช้โคไม่ต่ำกว่าวันละ 30 ตัวขึ้นครับ ต้องจัดหาสตางค์มาซื้อเสี่ยอู๊ต ตลอดไป หวังว่าคงจะมีโบนัสให้นะครับ(สวยๆก็ดียามใดที่ไปชัยภูมิ..............) กลับถึงปากช่องประมาณ 2ทุ่ม เข้าพักที่ บ้านร่มเย็น เป็นสุข ทันที

เพื่อนๆครับเอาไว้โรงงานลูกชิ้นเดินเครื่องเต็มรูปแบบเปิดเป็นทางการเมื่อไหร่เราคงจะได้ชิมกันนะครับ ตอนนี้ผลิตเล็กน้อย ส่งให้แก่ลูกค้าทางภาคใต้อยู่ครับ ซึ่งผมมีโครงการอีกหลายอย่างที่จะทำเอาไว้ให้เกิดงานเป็นรูปธรรมก่อนนะครับ ผมจะแจ้งให้ทราบ

ขอขอบคุณพี่แจ้ กำนันสุขสันต์ กุ้ง และเพื่อนๆ ที่ให้การสนับสนุนด้วยดี มาตลอด ขอให้ทุกคนโชคดีครับ

นก ปากช่อง

กุ้งว่าโปรเจคประชุมที่ภูนกยูงเลื่อนไปก่อนดีกว่ามั๊ยคะ หลายท่านคงไม่สะดวก เอาไว้โอกาสเหมาะๆค่อยไปก็ได้เนอะ หรือจะเป็นช่วงพฤศจิกายนก็น่าจะดีนะคะ อากาศกำลังเย็นสบายเพราะเข้าช่วงฤดูหนาว

พี่นกคะ...ส่วนโครงการสตูลก็เดินหน้าต่อเลยค่ะพี่ มีความคืบหน้าอย่างไรหรือมีข้อสอบถามก็สื่อสารกันทางblog หรือสายตรงกันเลยก็ได้ค่ะ อยากไปเร็วๆน่ะค่ะ

เพื่อเป็นการเปิดช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ติดต่อสื่อสารกัน

สถาบันพิทยาลงกรณฯ จึงได้เปิด http://gotoknow.org/blog/pittayalongkon ให้ทุกท่านได้เข้าไปชมครับ

แจ้งให้ท่าน ผนส.3 ทราบ

ผนส.1 (ผู้การวารุณี)

ขอให้ ผนส.2-3 ได้กำหนดวันเลยค่ะ (ถ้าวันที่ 19 หรือ 20 ต.ค.ไม่ทราบผู้แทนท่านอื่นจะสะดวกหรือไม่)หรือไม่ก็ปลายเดือน ต,ค. (ยกเว้น 23 ต.ค. เนื่องจากเป็นวันปิยะมหาราช ) ส่วนผู้แทน ผนส.1 ได้แก่ ประธานรุ่น, เลขา ฯ ,นายเอนก ,นายเพิก และนายอภิสิทธิ ค่ะ

ถึงพี่ยูร ปราสาทหินพิมาย'

ดูข่าวน้ำท่วม..ประสาทหินพิมายรู้สึกเป็นห่วงพี่ประยูรของเราไม่ทราบว่าลอยคอไปถึงไหนแล้วกรุณาส่งข่าวให้เพื่อนๆทราบด้วยจะได้ส่งชูชีพไปช่วย.....ด้วยความห่วงใยจากเพื่อนๆผนส.3

น้องกุ้ง พี่มีภาระกิจเกี่ยวกับจัดการประชุมใหญ่ ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ(ทั่วประเทศ) ในวันที่24 ต.ค. ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน กรุงเทพ ในฐานะเลขาธิการสมาคม ฯ จึงต้องจัดเตรียมต้อนรับ ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งคาดว่าจะมากกว่า 3 พันคน เหนี่อยมากค่ะ ขอบคุณที่คิดถึง และขออภัยทุกคน ที่ไม่สามารถไปร่วมสังสรรค์ได้ในครั้งนี้ สวัสดีค่ะ

เรียน ผนส ทุกคน

         วันที่ 24 ตุลาคม ผมไม่ว่างเช่นกัน เป็นเจ้าภาพทอดกฐิน ณ.วัดบางเหรียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้าน หากท่านใดจะอนุโมทนาบุญด้วยเชิญได้นะครับ

        และประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน จะไปดูงานสหกรณ์เกษตรนิคมท่าแซะ จำกัด จังหวัดชุมพร ของพี่ไกรฤกษ์ ประมาณสมาชิก 100 คน กำลังติดต่อท่านพี่เขาอยู่ หากใครจะมาเที่ยวด้วยก็เชิญนะ

          

สวัสดีค่ะ ผนส. 3-4 ทุกท่าน

ต้องขอโทษหลายวันมานี้ ไม่ได้เข้ามาดู Blog เนื่องจากกำลังเตรียมการจัดประชุมใหญ่ เรื่องบำเหน็จรายเดือน ( บำนาญลูกจ้าง )โดยเชิญลูกจ้างประจำของส่วนราชการทั่วประเทศ ประชุมพร้อมกันในวันที่ 24 ต.ค. 52 ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยเชิญรัฐมนตรีคลัง เป็นประธานในพิธีเปิด คาดว่าจะมีผู้เข้าประชุมมากกว่า 3 พันคนแน่นอน

ส่วนวันที่ 13 พ.ย. 52 เตรียมจัดการประชุม หลักสูตร " การเพิ่มศักยภาพผู้นำสตรีในสหกรณ์ไทย " ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

ตอบ P' JAEE ว่า ร.พ. ชลประทาน โอนไป มศว และต่อไปจะเป็นศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน รับทราบเรื่องลูกสาวจะขอใช้ทุนที่ ร.พ. ชลประทาน จะดูแลให้ได้ เท่าที่จะสามารถ เต็มที่คะ

ตอบน้องกุ้งว่า 10 - 11 ต.ค. ขออภัยที่ไม่สามารถไปร่วมสังสรรค์ ด้วยเหตุข้างต้น เสียดายจริงๆ ค่ะ ถ้าพบคุณนก ปากช่อง ถามด้วยว่า โครงการแพทย์แผนไทย ( นวดเพื่อสุขภาพ ) ที่จะไปเปิดที่ลังกาวี ให้พี่หาหมอนวดให้ ตอนนี้มาสมัครเป็นร้อย เมื่อไหร่จะนัดไปทดสอบ หรือจะให้ส่งไปที่ " ภูนกยูงรีสอร์ตแอนด์สปา " ก่อนค่ะ

ขอบคุณท่าน ดร.มนตรี ( ผนส. 4 ) ที่เป็นห่วงคนกรมชลฯ ไม่ว่า น้ำท่วม น้ำแล้ง คนกรมชลฯ ก็เหนื่อยกันทั้งปีค่ะ เป็นอย่างไรคะเรียนสนุก ลุกนั่งสบาย ใช่มั๊ยคะ

มีโอกาส ผนส. 3 จะพากันไปเยี่ยมเป็นกำลังใจให้ถึงห้องเรียนนะคะ ฝากระลึกถึง " ผนส. 4 ที่มาจาก ชสอ. ด้วยคะ "

สวัสดี และยินดีต้อนรับ "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" (ผนส.) ทุกรุ่น

สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ (สพว.) สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) มีความยินดีและขอต้อนรับ "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" ทุกท่านเข้าสู่อาณาจักรออนไลน์ของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดเห็น และการสื่อสารถึงกัน ขอให้ blog เป็นศูนย์กลางการพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของ "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง" (ผนส.) ทุกรุ่น ทุกท่าน ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน รวมทั้งผู้ที่สนใจและต้องการที่จะสื่อสารถึงผู้นำและถึง สพว. ทางทีมงาน สพว. ยินดีให้บริการเต็มที่ครับ ขอให้ได้ใช้ประโยชน์จาก blog นี้ อย่างเต็มที่ นอกเหนือจาก blog ใน

http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677 ผนส.1

http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209 ผนส.2

http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359 ผนส.3

http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678 ผนส.4

สพว. ยินดีที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายทุกรุ่นไว้ด้วยกัน ณ ที่แห่งนี้ จึงขอเชิญทุกท่านได้วิพากษ์ วิจารณาญานในการสื่อสาร และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดทั้งเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การพัฒนาขบวนการสหกรณ์ไทยต่อไป ขอรับกระผ้ม....

ข่าวเช้า เว้าสู่ฟัง

ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดชัยภูมิ จำกัด กำหนดทอดถวายกฐินสามัคคีของสหกรณ์ในจังหวัดชัยภูมิ วันที่ ๑๕-๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ ณ วัดอัมพวัน อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เพื่อนผนส.และชาวสหกรณ์ท่านใดมีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคปัจจัยสมทบกองกฐินได้ที่ หมายเลข ๐๔๔ ๘๓๖ ๔๘๑ ครับ

หลังจากออกพรรษา ระยะเวลา ๑ เดือน เป็นช่วงเทศกาลทอดถวายกฐิน พี่น้องชาว ผนส.และขบวนการสหกรณ์ คงมีกิจกรรมทอดถายกฐินเช่นกัน ขออนุโมทนากับเจ้าภาพกฐินทุกกอง ด้วยครับ สำหรับท่านใดที่ยังไม่มีเสื้อ ผ้า ชุด ผ้าไหม (สินค้าOTOPระดับสี่ดาว)สวมใส่ไปงานบุญกฐินติดต่อได้นะครับ ที่ ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ บริหารงานโดย สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด http://www.coopthai.com/bankhwao ยินดีบริการจัดส่งทั่วประเทศ

ขออภัยครับ ลืมแจ้งบล็อก

http://gotoknow.org/blog/pittayalongkon

จึงขอเชิญทุกท่านได้วิพากษ์ วิจารณาญานในการสื่อสาร และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดทั้งเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การพัฒนาขบวนการสหกรณ์ไทยต่อไป ขอรับกระผ้ม....

ถึง พี่สุทิศ พงษ์จีน

กำหนดการอบรม วันที่ 2-3 พ.ย. 52 ณ โรงแรมโฆษิต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (สสท.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดยกเว้นค่าห้องพัก ค่าเดินทางค่าเบี้ยเลี้ยง)

2 พ.ย. 52

07.00-08.30 ลงทะเบียน

08.30 - 09.00 พิธีเปิดการอบรม

09.00 - 10.00 บรรยาย "ทิศทางการพัฒนาสหกรณ์และขบวนการสหกรณ์

โดย "ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์ฯ"

10.00-12.30 บรรยาย "บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ" (อาจปรับเปลี่ยน)

12.30-13.30 รับประทานอาหารกลางวัน

13.30 -16.30 บรรยาย "กฏหมายแรงงาน/กฏหมายแรงงานสัมพันธ์/กฏหมายประกันสังคม"

17.00-21.00 รับประทานอาหารเย็น(กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์)

3 พ.ย. 52

09.00 -12.00 บรรยาย "ลางบอกเหตุหรือสัญญาณเตือนภัยเมื่อเกิดการทุจกิจขึ้นในสหกรณ์"

12.00 -13.00 รับประทานอาหารกลาวงวัน

13.00 -16.00 การเจรจาต่อรองและการฟ้องร้องบังคับคดี

16.00 เดินทางกลับภูมิลำเนา

ปล. หัวข้อวิชาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

และหากพี่สุทิศ ได้รายชื่อผู้เข้าอบรมแล้ว ช่วยเมล์มาให้ผมด้วยที่ [email protected]

ถึงเพื่อน ผนส.3

คิดถึงเพื่อนทุกท่านค่ะ เงียบหายไปเพราะมีงานด่วน งานยุ่งตลอดค่ะ เห็นด้วยกับน้องกุ้งที่ให้เลื่อนไป ภูนกรีสอร์ทแอนด์สปาของเสี่ยนก เป็นเดือนพฤศจิกายน ก็ดีค่ะ หรือเป็นต้นเดือนธันวาคม ก้ไม่เลวนะจ๊ะ วันที่ 12 ตุลาคมนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้จัดให้การแข่งขันเกมส์สหกรณ์ ที่โรงถ่าย กันตนามูฟรี ทาวน์ อ.ศาลายา จ.นครปฐม โดยให้สหกรณ์การเกษตรส่งผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ เข้าร่วมประกวด จังหวัดละ 2 แห่ง คัดเลือกให้เหลือ 10 แห่ง ซึ่งทั้ง 10 แห่งนั้นจะออกอากาสทาง Farm Charnal และ ช่องโมเดริน์ 9 การประกวดทำอย่างประกอด AF ให้ประชาชนสามารถเข้าไปโหวตโดยผ่าน sms ผู้ชนะที่ 1 จะได้รับรถกะบะ 1 คันพร้อมเงินสด 1 แสนบาท ถ้าหากจังหวัดใดได้และเป็นพวกเราที่อยู่ในจังหวัดนั้น พี่จะแจ้งข่าวมาใน blog นี้ เพื่อจะได้ช่วยกันโหวตให้กับสหกรณ์ในจังหวัดของท่านด้วย อ้อ งานนี้น้องติ๋กเราก็เป็นกรรมการร่วมด้วยนะ และน้องวีก็ส่งผ้าบ้านไร่เข้าประกวดด้วย

วันที่ 23 - 25 ตุลาคมนี้ไม่สามารถไปร่วมงานทอดกฐิตของคุณอภิสิทธิ์ได้ เพราะจะพาน้อง ๆ ในสำนักงานไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพักผ่อนคลายเครียด เสริมสร้างกำลังใจ พร้อมทั้งตอบแทนความเสียสละ ในปีที่ผ่านมา และเพื่อจะได้มีแรงเริ่มต้นทำงานใหม่ในปีงบประมาณใหม่ ที่ถาโถมเข้ามาพอสมควร

ส่วนการประชุมร่วมของ ผนส 1 - 4 ตามที่เสียนกเสนอนั้น พี่คงต้องรบกวนน้องกุ้งช่วยติดตามกับเสี่ยนกด้วย อย่าให้เสียชื่อ ผนส 3 เชียวนะค่ะ

วันนี้ ทักทายเท่านี้ก่อนนะ คิดถึงทุกท่านค่ะ

สิ่งที่ไม่ควรพูด

ประโยคที่ไม่ควรพูดในที่ทำงาน

จากซูแซนน์ เบตส์ ผู้เขียนหนังสือ Speak Like a CEO และโดนัลด์ ทรัมป์ จากเว็บไซต์ http://www.trumpuniversity.com

1. "นั่นไม่ใช่งานของดิฉัน / ผม"

เหตุผล: ถ้าเป็นการโยนงานมาจากเจ้านาย ก็แปลว่านายต้องการความช่วยเหลือจากคุณนั่นแหละ รับทำเพื่อเก็บเป็นโปรไฟล์ที่ดีติดตัวไว้เถอะ

สิ่งที่ควรพูดที่สุด: อย่าเพิ่งปฏิเสธเจ้านาย (หรือใครก็ตาม) แบบมะนาวไม่มีน้ำ ถ้าทำไม่ไหวจริงๆ ควรออกตัวด้วยประโยคทำนองว่า ตอนนี้มีงานหลายชิ้นที่ยังไม่เสร็จ เกรงว่าหากมีงานใหม่เข้ามาอาจทำให้ส่งงานช้าลง หรือหากทำเร็วกว่ากำหนดคุณภาพอาจไม่ดีพอ จากนั้นเจรจาขอให้เจ้านายลดงานเก่าที่คั่งค้างอยู่ หรือเลื่อนกำหนดส่งออกไป เป็นต้น

2. "ฉันมีเรื่องจะเมาท์"

เหตุผล: คงไม่ดีแน่หากชื่อเสียงของคุณจะเป็นที่โจษจันไปทั่วออฟฟิศว่าคุณเป็นเจ้ากรมข่าวลือ และชอบแอบเมาท์แทงคนอื่นลับหลังประจำ

สิ่งที่ควรพูดที่สุด: เข้าใจว่าความคันปากไม่เข้าใครออกใคร แต่ถ้าพูดไปแล้วไม่มีประโยชน์ สู้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานไม่ดีกว่าหรือ

3. "ฉันมีไอเดียหนึ่งอยากจะแชร์ แต่อาจฟังดูโง่ๆ คือว่า..."

เหตุผล: การพูดออกตัวเช่นนี้ถือเป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือในสิ่งที่กำลังจะพูด

สิ่งที่ควรพูดที่สุด: ตัดคำพูดออกตัวที่อาจฟังดูติดลบออกไป แล้วให้ลุยในเรื่องที่อยากจะพูดอย่างมั่นใจที่สุด

4. "ฉันไม่มีเวลาพูดกับเธอหรอกนะ"

เหตุผล: เป็นประโยคที่ฟังหยาบคาย (ไม่) ได้ใจมากๆ ไม่เหมาะทั้งพูดต่อหน้าและทางโทรศัพท์

สิ่งที่ควรพูดที่สุด: เดี๋ยวนะเธอ ฉันใกล้จะเสร็จงานนี้แล้ว อีกสัก 10 นาที (หรือเท่าไรก็ว่าไป) เราค่อยคุยกันไหม

5. "ทำงานมาตั้งหลายปี ไม่เห็นขึ้นเงินเดือนให้เสียที"

เหตุผล: การพิจารณาขึ้นเงินเดือน เจ้านายไม่ได้เอาอายุงานมาเป็นเครื่องวัด หากประเมินกันที่ผลงานมากกว่า

สิ่งที่ควรพูดที่สุด: หากได้โอกาสเหมาะและอยากจะพูดเรื่องนี้จริงๆ ควรนำผลงานชิ้นโบแดงมาสนับสนุนด้วย จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น

6. "ไล่ดิฉัน / ผมออกสิ แล้วคุณจะเสียใจ"

เหตุผล: เป็นประโยคที่บ่งชี้ว่าคุณใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เพราะมีเจ้านายจำนวนหยิบมือ (หนึ่งเปอร์เซ็นต์หรือน้อยกว่า) ที่จะเสียใจจริงดังว่า ฉะนั้นการพูดออกไปจะมีโอกาสเสี่ยงถูกเจ้านายอัปเปหิตามคำขอสูงทีเดียว

สิ่งที่ควรพูดที่สุด: ควรคิดก่อนพูด อย่าทะนงตนว่าคุณทำงานเก่ง เพราะการอยู่ร่วมกันในที่ทำงานนั้นมีเส้นบางๆ ที่แบ่งบทบาทและความรับผิดชอบชัดเจน ถ้าคุณล้ำเส้น อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้

สวัสดีค่ะ ผนส. 3 ทุกท่าน

อย่าลืมช่วยกันโหวดให้ น้องV24 กันเยอะๆ ฝากถึง คุณติ๊ก อย่าลืมให้คะแนนพิเศษ น้องV24 ด้วยนะคะ ถ้าได้รางวัลจะได้ฉลองกัน " เรือล่มในหนอง รางวัลนั้นจะไปไหน"

คุณจิ๋น อย่าลืมแจ้งใน blog ว่าจะโหวตได้อย่างไร จะช่วยกันเต็มที่ สำหรับ buddy V24 สำหรับ buddy หนุ่ม คุณสุทิศ พงศ์จีน ก็ยังประทับใจมิรู้ลืม สำหรับการต้อนรับที่หาดใหญ่ จำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่ไม่เคยลืมเลือน น้ำใจเกินร้อยที่มอบให้ ขอบคุณจริงๆ

คิดถึงทุกคนนะคะ สวัสดีค่ะ

ข่าวเช้า เว้าสู่ฟัง

การเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๒ ที่ผ่าน จนถึงวันนี้(๑๒ตค.๕๒)ยังไม่มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ว่าที่ผู้แทนเกษตรกร จำนวน ๑๕ คน (ทั่วประเทศ ๒๐ คน)ได้ประชุมหารือกำหนดแนวทางและกรอบในการทำงานร่วมกัน การวางแผนติดตามเร่งรัดให้มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง การเร่งรัดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ (๕ คน)และภาคเอกชน (๖ คน) เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี และให้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ฯ ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ต่อไป ภายในไม่เกินวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๒

พี่น้องสหกรณ์ภาคการเกษตร ที่มีเกษตรกรเป็นสมาชิก โดยสมาชิกส่วนหนึ่งเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟู ฯ ด้วย หลายสหกรณ์ประสบปัญหาในการดำเนินงาน เนื่องจากมีจำนวนหนี้ค้างชำระ(NPL)เพิ่มขึ้น เพราะสมาชิกขาดวินัยทางการเงิน การแก้ไขปัญหาดังกล่าว สามารถแก้ไขได้โดยอาศัยกระบวนการของ พรบ.กองทุนฟื้นฟู ฯ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนก็คือจะต้องมี คณะกรรมการกองทุน ฯ โดยเร็ว

เรียน ผนส. รุ่นที่ 3 ทุกท่าน

ข้อคิดการทำงานครับ

เร็ว ก็หาว่าล้ำหน้า

ช้า ก็หาว่าอืดอาด

โง่ ก็ถูกตวาด

พอฉลาด ก็ถูกระแวง

ทำก่อน บอกไม่ได้สั่ง

ทำทีหลัง บอกไม่มีหัวคิด

เฮ้อ นี่แหละชีวิตคนทำงาน

โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

อาตมาอ่านเจอกลอนในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่ผู้เขียนระบายไว้ได้สาแก่ใจมากเลย

เรียน ผนส ทุกคน

       ช่วงนี้หายหน้าหายตาไปไหนกันหมด  ไม่เห็นมีใครมีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง แล้วเรื่องโครงการเป็นอย่างไงบ้าง คุณวีเป็นอย่างไงผลการคัดเลือกเป็นไงบ้าง วันก่อนหาเสียงให้แล้วนะ หากเข้ารอบจะช่วยหาเสียงให้อีกนะ ตามที่คุณพี่พัดดี(พี่น้อย)เเนะนำไว้ เราชาวผนส ทุกคนต้องช่วยเหลือกัน

         วันที่ 2-3 เดือนหน้าสันนิบาตรมาจัดอบรมที่สงขลา  และผมเข้าอบรมด้วย แต่โครงการนี้ผมไม่ได้เป็นคนประสาน แต่ก็ต้องช่วยหากชาวสันนิบาตรลงมาสงขลา

 

ผมขอโทษที่ไม่ได้เข้ามาคุยเลย คิดถึงทุกคนครับ

บัญชา

สวัสดีครับอาจารย์ และ ผนส. ทุกท่าน

         ขอรายงานผลการประชุมสรุปอย่างย่อให้เพื่อน ผนส. รับทราบเบื้องต้น ฉบับสมบูรณ์ต้องรอเลขาครับ

  • ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
  • เรื่องการรับน้อง ผนส.4 ที่พัทยา ประธานขออภัยที่ไม่สามารถไปร่วมได้เนื่องจากติดภาระกิจของสหกรณ์ต้นสังกัด  ประธานขอขอบคุณ ผนส. 2 ที่ไปร่วมต้อนรับ
  • เรื่องการศึกษาดูงานที่ สหกรณ์ออมทรัพย์บริษัททีโอทีจำกัด เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประธานขอขอบคุณประธาน สหกรณ์ออมทรัพย์บริษัททีโอทีจำกัด ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
  • เรื่องสืบเนื่อง
  • การศึกษาดูงาน และการทำกิจกรรม ครั้งต่อไป  ที่ประชุมมีมติ ให้ร่วมประชุมกับ ผนส. 1 , 2 , 3 และ 4 เบื้องต้นที่ประชุมสรุปแนวทางด้วยกัน 3 เรื่องคือ

      1. ผนส. รุ่น 2 จะทำกิจกรรมมอบของใช้จำเป็นกับผู้ต้องขังหญิง เช่นผ้าอนามัย ชุดชั้นใน และอื่น ๆ ที่ทัณฑสถานหญิงลาดยาว (กำหนดวันในภายหลัง)

      2. ผนส. รุ่น 2 จะทำกิจกรรมมอบอุปกรณ์การศึกษาให้กับโรงเรียน ตชด. ที่จังหวัดกาญจนบุรี

      3. ร่วมกิจกรรมกับ ผนส. ทุกรุ่น "กิจกรรมเปิดฟ้าอันดามัน"  รอการประชุมร่วมอีกครั้ง  

  • รายงานฐานะทางการเงิน การรับจ่าย   (รอเลขาฯ)   
  • เรื่องอื่น  ที่ประชุมเสนอให้ ผนส. 2 เข้าไปมีส่วนร่วมในองค์กรระดับชาติ  อย่างต่อเนื่อง องค์กรที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปคือสันนิบาติ ที่ประชุมมีมติส่งคุณ ประวัติ  สมัครเป็นผู้ตรวจ

จึงเรียนมาเพื่อทราบในเบื้องต้นครับ    

สวัสดีค่ะพี่ๆ ช่วงนี้งานยุ่งน่าดูเลย วันก่อนมีโอกาสได้เจอพี่จิ๋นคนสวยที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ได้ทักทายกันพอหายคิดถึง แต่พี่ๆหลายท่านสิตั้งแต่ปิดโครงการยังไม่มีโอกาสได้พบสบตากันเลยนะ พี่อ๋อ พี่วี24 พี่ปอนด์ ยังคิดถึงเหมือนเดิมนะคะ

อาจารย์บัญชา พี่กำนันสุขสันต์เมื่อไหร่จะไปสังสรรค์กันอีกล่ะ

ไม่แสดงตนแต่เป็นคน ผนส3

ผนส3 พากันสนุกสนานอยู่แต่ในblog ไม่ดูบ้านเมืองเขามั่งเหรอ ว่ารุ่นอื่นเขาทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง ถ้าทุกคนยังอ้างว่า ไม่ว่าง ติดธุระ แล้วกิจกรรมดีดี ที่คุยกับสังคมไว้ เมื่อไหร่จะสัมฤทธิ์ผล กล้าๆสละเวลากันหน่อย นัดกันมาเลยที่ไหน เมื่อไหร่ พร้อมที่ร่วมมือเสมอ ไหนๆก็เป็นเลือด ผนส3ด้วยกันอยู่แล้ว

ขอบคุณ..."ผู้ไม่แสดงตน แต่เป็นคน ผนส๓" มาก ๆ ครับที่กรุณามีข้อคิดเห็นในประเด็น "การทำกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคม และเพื่อขบวนการสหกรณ์"ของ ผนส.๓ ผมยอมรับว่า แผนงานโครงการและกิจกรรมหลายอย่าง ที่พวกเราวางแผนไว้ยังไม่เป็นรูปธรรมขึ้นมาเลย กังวลเหมือนกันว่า หากปล่อยเวลายืดออกไปนาน ๆ อาจจะทำให้การรวมกลุ่มเป็นแบบ ห ล ว ม ๆ เพราะฉะนั้น ขอให้พวกเรารีบแสดงพลัง ผนส.๓ ให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยเถิด ฝากน้อง.กุ้ง ช่วยประสานงานท่านประธาน พี่แจ้ พี่จิ๋น กำนันบ้านอก ฯลฯ ด่วน

"คิดดี ทำดี ก็ดูดี"

1104 ไม่กล้าแสดงตนแต่เป็นคนผนส3ดีมากแต่กล้าๆหน่อย

เพื่อประโยชน์ในการสื่อสาร /ทางเลือก ในการสื่อสารต่อกันของ ผนส.4 ครับ

E-Mail ของผนส.4

[email protected] ไมตรี กิ่งชา

[email protected] เรวัต เปี่ยมระลึก

[email protected] สมคิด มีอาหาร

[email protected] อารุณ ธุวะคำ

[email protected] รัชนี บำรุง

[email protected] ภานุรัตน์ ถนอมทรัพย์

[email protected] สมศักดิ์ อังศุโกมุทกุล

[email protected] มาลิณี บวงแก้ว

[email protected] มงคล เที่ยงอยู่

[email protected] สายสมร คุขุนทด

[email protected] ทัศนีย์ พลเยี่ยม

[email protected] รศ.ฉายศิลป์ เชี่ยวชาญพิพัฒน์

[email protected] รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา

[email protected] วิศิษฎ์ โตชัย

[email protected] ศิวกร ขวัญดี

[email protected] พงศ์พันธ์ เหลืองวิไล

[email protected] สำเริง สุดศรี

[email protected] ศุภาภรณ์ ถาปนศิริ

[email protected] ชาติ ฟ้าปกาศิต

[email protected] พลตรี ดร.วีระ วงศ์สวรรค์

[email protected] ประดิษฐ หัสดี

[email protected] ก๊ก ดอนสำราญ

[email protected] บุญเลิศ ใจดี

[email protected] สมคิด ปัญญาแก้ว

[email protected] วิทยา รักษาทิพย์

[email protected] พ.ต.อ.มณฑล เงินวัฒนะ

[email protected] ปาณิสรา ชาวจีน

[email protected] อรรถพล ชุมประยูร

[email protected] ดร.มนตรี ช่วยชู

หมู่นี้นก ปากช่อง หายไปไหน ไม่เห็นมารายงานตัวเลย.

ผมได้เห็นโครงการต่างๆ ของ นก ปากช่อง เขียน เห็นเป็นโครงการที่ดี แต่ ผนส.3 ไม่เห็นทำให้เห็นเป็นรูปธรรม เลย

โครงการไปถึงไหนแล้ว ไม่เห็นเป็นรูปร่างเลย สงสัยจัง

สวัสดีครับอาจารย์ และ ผนส. ทุกท่าน

         ผนส. รุ่น 2 รายงานตัวที่จะประชุมร่วมครับ วันที่ 19 -21 ตุลาคม 2552  วันไหนก็ได้ครับ นัดเวลามาครับ  ขอแจ้งชื่อผู้แทน ผนส. 2   ประธานบงกชฯ คุณนพคุณฯ และคุณอนนท์ฯ  ครับ

....สวัสดีเพื่อนผนส.3ไม่ได้เข้าblogหลายวันรู้สึกว่ามีนักเลงดีมาตีหัวเข้าบ้าน ได้อ่านความเห็นของผู้ใช้นามว่าไม่แสดงตนแต่เป็นคนผนส.3และนามว่าผู้สงสัย คุณเป็นใครผมไม่ทราบแต่คุณอย่าใช้ถ้อยคำแสดงความโอหังอย่างนั้น คำว่า"ผนส3 พากันสนุกสนานอยู่แต่ในblog ไม่ดูบ้านเมืองเขามั่งเหรอ ว่ารุ่นอื่นเขาทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง " ผมว่ามันแรงไป การเข้ามาเรียนผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงและคุณอ้างว่าเรียนจบไปแล้วผมว่าคุณน่าจะมีวิจารณญาณในการแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ได้ดีกว่านี้ ที่คุณอ้างว่าคุณเป็นเลือดผนส.3ผมว่าผนส.3ไม่น่ามีเลือดกรุ๊ปนี้อยู่ในรุ่น การที่คุณไปเร่งรัดเอาเรื่องเอาราวอย่างกับว่าเป็นลูกจ้างลูกน้องคุณมันไม่สุภาพและเป็นการละเมิดสิทธิของคนอื่นด้วย การมีเวลาว่างของแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนรับราชการบางคนเป็นพนักงานบางคนเป็นผู้จัดการบางคนเป็นผู้ประกอบการหรือบางคนเป็นประธาน การใช้สิทธิเคลื่อนไหวในสังคมมันก็แตกต่างกันอยู่แล้ว คุณอาจเป็นประธานหรืออาจจะเป็นเจ้าของกิจการคุณจะไปที่ไหนเมื่อไหร่ได้อย่างสบายใจอยู่แล้วแต่บางตำแหน่งบางหน้าที่มันไปไหนไม่ได้อย่างคุณก็มากต้องขออนุญาตจึงอย่าคิดว่าทุกคนเหมือนคุณมีเวลาเหมือนคุณ การจะทำโครงการอะไรไม่ต้องไปเทียบเคียงกับใครหรอกครับขอให้โครงการของเรานั้นตอบแทนสังคมช่วยเหลือเพื่อนสหกรณ์ด้วยกันได้อย่างภูมิใจและถูกต้องตามหลักเกณฑ์และที่สำคัญทุกคนหรือส่วนมากในผนส3เห็นด้วยถึงแม้จะใช้เวลาแต่ผลงานออกมาดีมันก็น่าชื่นใจ การคุณมีความเห็นที่ดีอย่างไรแนะนำมานัดหมายมาและที่สำคัญคุณต้องแสดงตนว่าคุณเป็นคนหนึ่งในผนส.3ด้วย ท่านอาจารย์จีระท่านอาจารย์ยมท่านจะได้ภูมิใจที่มีลูกศิษย์ที่มีความคิดที่ดีกล้าแนะนำในสิ่งที่ดีและกล้าแสดงถึงภาวะผู้นำ... ก่อนเข้าblogคุณอ่านจุดประสงค์บ้างหรือเปล่าที่อาจารย์ท่านเขียนไว้ว่า...

"เพื่อเป็นการวางแผนระยะยาว และผมก็อยากทำความรู้จัก กับ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 ที่กำลังจะเข้ามารับการอบรมผมจึงเปิด Blog นี้ขึ้นเพื่อให้ทุกท่านได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ผมและสันนิบาตสหกรณ์ ได้ทำหลักสูตร ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง มาแล้ว 2 รุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จมาก และจะพยายามทำให้ดีที่สุดต่อไป Blog ของเราจะต้องมีความเข้มข้น และมีประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะจะต้องให้มีความเชื่อมโยง กับ รุ่น 1 และ รุ่น 2 อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างเครือข่าย ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างไกล "

ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะนำความรู้ ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และมีมูลค่าเพิ่ม

จีระ หงส์ลดารมภ์

:ขออนุญาตอาจารย์ในการนำคำอาจารย์มาอ้างอิง :

(ไม่มีเจตนาให้เกิดความแตกแยกแต่ต้องท้วงติงเพื่อให้การใช้blogเป็นไปตามวัตถุประสงค์)

แค่นี้ก่อนนะแล้วจะรอคำตอบจากท่านนิรนามทั้งสอง ...

จาก..สิทธิพร มีเสถียร (แจ้)

ข่าวเที่ยง วันอาทิตย์

เล่าข่าวเช้าไม่ทัน ขอเปลี่ยนเป็นข่าวเที่ยงนะครับ เมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๖ ที่ผ่านมา ขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกันทอดถวายกฐินสามัคคี ที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ โดยมีท่านสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ ,ประธานชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดชัยภูมิ จำกัด,ประธานกรรมการ กรรมการ เจ้าหน้าที่และลูกจ้างสหกรณ์ในจังหวัดชัยภูมิไปร่วมงานกว่า ๓๐๐ คน และชาวบ้านให้การต้อนรับกว่า ๑,๐๐๐ คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ได้บุญกุศลและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า ครับ

"ผู้ไม่แสดงตนแต่เป็นคน ผนส.๓ และผู้สงสัย" คงจะเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้นแล้วนะครับ เมื่อคุณได้อ่าน blog (๑๑๑๐)ของพี่แจ้ สิทธิพร มีเสถียร และหากคุณเป็นคน ผนส.๓ และติดตามพวกเราอยู่ตลอด คุณรู้ไม๊ คุณนั่นแหละ ที่ไม่ขึ้นรถคนนี้ของพวกเรา ผนส.๓ มีการติดต่อมิใช่เฉพาะแต่ใน blog ที่คุณเห็นเท่านั้น แต่...พวกเรามีการติดต่อและเชื่อมโยงกันตลอดเวลา ทั้งด้านกิจกรรม ด้านธุรกิจ และด้านวิชาการ เป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้องค์กรและสถาบันของพวกเรามีผลงานที่มีคุณภาพเป็นที่ประจักษ์ เพราะฉะนั้น คุณ..คอยติดตามผลงานของพวกเราก็แล้วกัน นะครับ

ขออนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะพี่อู๊

สำหรับผู้ไม่แสดงตนก็ขอบคุณนะคะที่เป็นแรงกระตุ้นพวกเรา พวกเรายังคงเหนียวแน่นดีค่ะ ยังคงรักและคิดถึงกันเสมอ

แต่ในช่วงนี้หลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติก็อาจจะทำไม่สะดวกในการที่จะพบปะกัน หลายท่านก็ติดภาระกิจ ก็อย่าว่ากันเลยเนอะ

ซึ่งจริงๆแล้วการขับเคลื่อนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้พร้อมหน้าพร้อมตา เราสามารถปรึกษาหารือสื่อสารกันได้หลายทางแล้วแจ้งให้ชาวผนส 3 เราทราบทาง blog ก็ได้ ยังไงก็มีความตั้งใจสร้างสรรค์สิ่งที่ดีต่อขบวนการสหกรณ์กันอยู่แล้วเนอะ น่าจะเป็นเดือนพฤศจิกายนนี้ที่จะได้พบเจอกันแน่นอน กุ้งจะพยายามประสานให้นะคะ ใจเย็นๆกันเนอะ

ถึงเพื่อน ๆ ผนส.3 ทุกท่านค่ะ

ช่วงนี้เงียบหายไป เพราะมีมรสุมรุมเร้า ไม่ว่าเรื่องงานราชการหรือเรื่องส่วนตัว มีแต่เรื่องปวดเศียรเวียนเกล้า ขี้นปีงบประมาณใหม่ ได้งานใหม่ นายใหม่ การทำงานก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป เป็นหัวหน้าก็ต้องเร่งแรงขับเคลื่อนเพื่อให้งานผ่านไปได้ ตอนนี้ก็ยังเคลียร์ไม่ลงตัว กลัวเพื่อน ๆ จะลืม ก็เลยต้องเข้ามาทักทายกันหน่อย

บิ๊กอู๊ด พี่ฝากหัวหน้าสำนักงานชัยภูมิคนใหม่ด้วยนะ เป็นผู้หญิง ชื่อ นิรมล เป็นหัวหน้าใหม่ ๆ ซิง ๆ แต่อู๊ดอาจจะคงเคยเห็นหน้าก็ได้ เพราะเธอเคยอยู่ ที่ สำนักงานตรวจบัีสหกรณ์ที่ 3 โคราช ยังไง ก็อย่าเพ่ิงลุยน้องเขานะ ฝากด้วยจ๊ะ และหวังว่าคงจะร่วมงานกับหัวหน้าใหม่ด้วยดีนะค่ะ

อ้อ มีข่าวฝากอีกหนึ่งข่าว กรมตรวจฯ ได้จัดมีการแข่งขันเกมส์สหกรณ์ ที่ได้เคยแจ้งให้ทราบไปแล้วครั้งหนึ่ง ผลประกอบรอบแรกออกมาแล้ว เข้าชิง 10 ภาค ๆ ละ สหกรณ์ สหกรณ์ในพืนที่จังหวัดนนทบุรี ได้เข้ารอบด้วยจ๊ะ เป็นผลิตภัณฑ์ภาพกระดาษผักตบ เรียกว่า ภาพนูนต่ำ เป็นผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชีพ ของสหกรณ์การเกษตรบางใหญ่ จำกัด จะขอความร่วมมือเพื่อนร่วมรุ่น ผนส.3 ให้ช่วยโหวตคะแนนให้ด้วย เอาไว้ใกล้ที่เปิดให้โหวตจะแจ้งมาใน blog นี้ ช่วงนี้ยังไม่เปิด กล้วจะลืมเสียก่อน

วันนี้ก็ทักทายเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน

ได้มีโอกาสไปจัดการฝึกอบรมที่เชียงใหม่ ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักสหกรณ์หลายท่าน /วิทยากร /ผู้จัดการ

จึงทราบว่า สหกรณ์ภาคการเกษตร มีปัญหากับกรมธนารักษ์ เกี่ยวกับการเก็บภาษีฯ (ที่ราชพัสดุ) เช่น สหกรณ์การเกษตรเมืองลำพูน สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง สหกรณ์การเกษตรแม่จัน และสหกรณ์นิคมสันทราย

เรื่องราวดังกล่าว สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ (สพว.) ได้ส่งเอกสาร /ข้อมูลเบื้องต้นให้ นิติกรดำเนินการเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไปแล้วครับ

เล่าข่าว เช้านี้

ผนส.๓ ยังหนาแน่น เกาะติด blog และสื่อสารกันไม่ขาดระยะ ขอบคุณน้องกุ้งที่ร่วมอนุโมทนาบุญกฐินของขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกัน และขอบคุณน้องกุ้ง ที่ช่วยเป็นธุระประสานงานรุ่น เพื่อให้เกิดกิจกรรมในเดือน พย.๒๕๕๒ นี้

ขอบคุณพี่จิ๋น มาก ๆ ครับที่กรุณาฝากหัวหน้าสำนักงานชัยภูมิคนใหม่ ผมสิต้องฝากพี่จิ๋น ช่วยบอกให้หัวหน้าสำนักงานตรวจฯชัยภูมิ ดูแลผม(เป็นพิเศษ)ด้วย หากเป็นไปได้..ผมก็จะช่วยเหลือสำนักงานตรวจ ฯ เป็นอย่างดีครับ ผมอาจจะคงเคยเห็นหน้าก็ได้ครับ เพราะผมค่อนข้างคุ้ยเคยกับเจ้าหน้าที่กับสำนักงานตรวจบัีสหกรณ์ที่ 3 โคราชหลายคน

ผู้แทนสหกรณ์ และเพื่อน ผนส.ทุกท่าน อย่าลืมไปประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๕๒ ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม (ฮออลล์๙)ศูนย์แสดงสินค้าเมืองทองธานี ฯ เพื่อให้กำลังใจกับผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ ม้าเร็วคนเก่ง ธนะ ผู้กล้า ซึ่งในวันนั้นจะมีการเลือกตั้งผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ ด้วย วันนี้ได้สอบถามพี่ธนะ แล้ว พี่ธนะแจ้งว่าครั้งนี้ต้องเว้นวรรคเพราะขาดคุณสมบัติตามระเบียบใหม่ ฯ หากเพื่อน ๆ และผู้แทนสหกรณ์สนับสนุน ผม ทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ ก็อาจจะลงสมัครอีกครั้ง หลังจากครั้งก่อนผมได้คะแนนเป็นอันดับ ๓ ต่ำกว่าลำดับ ๒ เพียง ๑๐ คะแนน พี่ ๆ เพื่อน ๆ คิดเห็นยังไงช่วยแสดงความเห็นด้วยนะครับ....

สวัสดีเพื่อนผนส3ทุกท่านกลับมาคึกคักเหมือนเดิมพี่จิ๋นของน้องๆเข้าสู่blogอีกครั้งการปวดเศียรเวียนเกล้าก็คงเหมือนๆกันในการขึ้นปีงบประมาณใหม่ในแต่ละที่ แต่ก็ดีนะเจออะไรใหม่ๆตลอดไม่น่าเบื่อแต่ปวดหัวหน่อย ขอบคุณน้องกุ้งที่คอยปลอบขวัญให้กำลังใจนี่ซิเลือดผนส.3ที่แท้จริง(พี่ก็บ่นๆไปตามประสาคนวัยทอง.)..บิ๊กอู๊ด(นักเลือกตั้ง) ผมเห็นด้วยหนึ่งเสียงที่จะมีผู้แทนดีๆเป็นที่พึ่งพาให้กับสมาชิกสหกรณ์และที่สำคัญเป็นหน้าเป็นตาให้กับรุ่น3ของพวกเรา ผมว่าบิ๊กอู๊ดน่าจะตัดสินใจได้แล้วเวลามีน้อยในการวางแผนหาเสียงพี่ก็จะพยายามช่วยทุกวิถีทางและหวังว่าเพื่อนๆคงให้การสนับสนุนบิ๊กอู๊ดของเราอย่างเต็มกำลังความสามารถ การเลือกตั้งของสันนิบาตสหกรณ์ก็คงมีการแข่งขันกันสูงแน่นอนก็ขอให้บิ๊กอู๊ดออกซ้อมวิ่งได้แล้ว ช่วงนี้น้องนก ปากช่องหายหน้าหายตาไปนะรู้สึกๆขาดอะไรไปบางอย่าง สงสัยกำลังพัฒนาภูนกยูงรีสอร์ทแอนด์สปาเตรียมให้พวกเราได้ไปเยี่ยมเยียนปลายฝนต้นหนาว วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับแล้วเจอกัน..

สวัสดีคะ เพื่อนๆผนส.3คิดถีงทุกคนมากถ้าหากมีโอกาสผ่านอำเภอปราสาทก็เชิญร่วมทอดกฐินสามัคคีสหกรณ์ในจังหวัดสุรินทร์สหกรณ์ฯปราสาทเป็นเจ้าภาพในปี้คะ

สวัสดี ทุก ๆ คน

ขอถาม ผนส 3 หน่อย

1 ป้าเครือทำไมถึงสวย? ตอบ ชอบทำบุญทอดกฐิน

2 บิกอุ๊ดทำไมถึงหล่อ? ตอบ ชอบไถ่ชีวิตโค

ทอดวันไหนละป้าเครือ

1. ความเพียร

การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันควรทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีควรต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ในโอกาสเข้าเฝ้าฯวันที่ 27 ตุลาคม 2516

2. ความพอดี

ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัด ระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 18 ธันวาคม 2540

3. ความรู้ตน

เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน

พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521

4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้

คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521

5. อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ

ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุ ฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 มิถุนายน 2496

6. พูดจริง ทำจริง

ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจ จัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2540

7. หนังสือเป็นออมสิน

หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ 25 พฤศจิกายน 2514

8. ความซื่อสัตย์

ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง

พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี พุทธศักราช 2531

9. การเอาชนะใจตน

ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้ สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ

พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่าน ในพิธีเปิดการประชุม

เรียน พี่ ๆ ผนส.3 ที่เคารพรักทุกท่าน

ขอบคุณมากครับสำหรับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นจากการไปดูงานในประเทศที่จังหวัดนครราชสีมา และต้องขอโทษด้วยที่บางครั้งไม่ได้ชวนถ่ายรูปด้วย เพราะเวลาถ่ายรูปหมูจะชุลมุนมาก ตัวใครตัวมัน กลัวตกเฟรม มีดาราหน้ากล้องเยอะ บางครั้งจึงลืมรุ่นพี่ที่อุตส่าห์ไปตอนรับและอยู่กับพวกเราจนดึกดื่น

โครงการเปิดฟ้าอันดามัน ซึ่งเชื่อมโยงเครือข่ายทั้ง 4 รุ่น สหกรณ์ทุกประเภท เป็นโครงการที่ดีมาก น่าสนใจ น่าสนับสนุน ผมเอาด้วยคนครับ ถ้ามีโอกาสจะไปเที่ยวเกาะลังกาวีซื้อเหล้าถูก ๆ ถ้วย โถ โอ ชาม สวย ๆ ราคาไม่แพง

ยังระลึกถึงท่านประธาน ผศ. บัญชา พี่น้อย ชวลี พี่นกน้อย พี่แจ้ (p'jaee) กำนันบ้านนอก และรุ่นพี่ ผนส.3 ทุกท่านที่ไม่ได้กล่าวนามด้วยครับ

มนตรี ช่วยชู

ผนส.4 (สอ.ธปท.)

สวัสดีต่ะ เพื่อน ๆ ผนส.3 ทุกท่านค่ะ

ขอรายงานตัวนะคะไม่ได้เข้า blog นานมากเพราะว่าอบรมสมาชิก 2 โครงการ แล้วเฝ้าไข้คนใก้ลชิดที่ รพ. 12 วัน (5 - 16 ต.ค) เพิ่งได้มาอ่าน blog วันนี้ คิดถึงทุกคนนะคะ แล้วก็ดีใจนะที่รุ่น 4 เข้ามาเยี่ยม โดยส่วนตัวยังไม่ได้ไปรับน้องรุ่น 4 เลย โดยเฉพาะน้องน้อยคนสวย จาก สกต.โคราช

สวัสดีคะ เพื่อนๆผนส.3 ทอดกฐินแล้วค่ะวันที่ 24 บอบคุณมากคะที่ส่งใจมาช่วยโดยเฉพาะคุณต้อยพิมายส่งตัวแทนมาช่วยก็ได้รับบุญไปถ้วนหน้า กิจกรรมของสหกรณ์ช่วงนี้กำลังออก Road Show ตามโครงการสร้างความสัมพันธ์ฯ 3 ฝ่ายที่เสนออาจาริย์ ออกถึงกลุ่มสมาชิกได้รับผลตอบรับดีมากสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรม 80-90 % เจ้าหน้าที่และคณะกรรมการกลับถึงบ้านคำหน่อยก็สดชื่นกับผลงาน

สวัสดีค่ะอาจารย์ และเพื่อน ผนส.

ขอรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2552 ค่ะ

                                            รายงานการประชุม 

                                      ชมรมผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่น 2 

                                              ครั้งที่  3 / 2552

                             เมื่อวันอาทิตย์ที่  11  ตุลาคม  พ.ศ.2552

                                        ณ   กรมส่งเสริมสหกรณ์

 

ผู้มาประชุม                1.  พลเรือตรีบงกช                              ผาสุข                                    

                                2.  คุณสายัณห์                                    ถิ่นสำราญ                            

                                3.  คุณกฤตยา                                      โอวาท   

                                4.  คุณนพคุณ                                       ยังเอี่ยม

                                5.  คุณอนนท์                                       ศุภตระกูล

                                6.  คุณประวัติ                                      หาดปิ่นขจรจารุ                 

                                7.  คุณวรวรรณ                                   ส่องพลาย

                                8.  คุณระเบียบ                                     มโนรัตน์                              

                                9.  คุณไพรพนา                                    ฉ่ำเย็นอุรา                            

 

เริ่มประชุมเวลา       10.00  น

 ระเบียบวาระที่  1                เรื่องที่ประธานฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบ

ประธานฯ                             มีเรื่องที่จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบ  ดังนี้

                                         1.   กิจกรรมรับ ผนส.รุ่นที่ 4    ที่สันนิบาต      สหกรณ์ได้มีพิธีเปิดอบรมเมื่อวันพฤหัสบดีที่  10  กันยายน 2552  ที่พัทยา      โดยได้เชิญ ผนส.1-3   เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมต้อนรับนั้น      เนื่องจากติดภารกิจงานสหกรณ์ต้นสังกัด  จึงไม่สามารถไปร่วมงานได้  ขอขอบคุณผู้แทน ผสน.2  ทุกคนที่ไปร่วมจัดกิจกรรมในวันนั้น

                                         2.   กิจกรรมแสดงความยินดีกับ ผอ.สันนิบาตคนใหม่       ผนส.2  ได้มีการส่งตัวแทนเข้าแสดงความยินดีกับ   ดร.โชคชัย   สุทธาเวศ     ที่เข้ารับตำแหน่ง   ณ สันนิบาตสหกรณ์           

                                         3.  กิจกรรมศึกษาดูงาน  สอ.TOT จำกัด   ผนส.2 รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่อาจารย์จีระฯ  ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย     ในการนี้คณะ ผนส.2 และ สอ.กรมอู่ทหารเรือ จำกัด  ขอขอบคุณคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ สอ.TOT จำกัด ทุกคน   ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่ง

ที่ประชุมฯ            รับทราบ

 

ระเบียบวาระที่  2                เรื่องรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552   

เลขานุการฯ  ได้แจ้งรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552    ให้ที่ประชุมรับทราบโดยละเอียด

ที่ประชุมฯ        ไม่มีการแก้ไขและมีมติรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552

 ระเบียบวาระที่ 3                 เรื่องสืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่ 2 / 2552

ประธานฯ                             ตามที่ตัวแทนของ ผนส.2 เข้าร่วมประชุม ผนส.ทั้ง 3 รุ่น นั้น     ผนส.2 มีตัวแทนเข้าร่วม

                                ประชุมด้วย   จึงขอให้ผู้แทน ( คุณนพคุณฯ ) ชี้แจงผลการประชุม

คุณนพคุณฯ              ในเบื้องต้นของการประชุมร่วมกันทั้ง 3 รุ่น  ได้มีมติออกมาให้ ผนส.ทั้ง 3 รุ่น  ทำกิจกรรมร่วมกัน  โดยมี ผนส.3 ( คุณอดิศักดิ์ฯ )  เสนอให้ทั้ง ผนส.ทั้ง 3 รุ่น  ทำกิจกรรมร่วมกันโดยให้ความรู้เกี่ยวกับระบบสหกรณ์กับพี่น้องประชาชนในภาคใต้   และร่วมงานเปิดฟ้าอันดามัน  พร้อมทั้งศึกษาและดูงานที่เกาะลังกาวี      คาดว่าจะประมาณปลายเดือนตุลาคม   หรือต้นเดือนพฤศจิกายน  ซึ่งขณะนี้รอการประสานในรายละเอียด

ที่ประชุมฯ             ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วและมีมติ    ให้ประธานฯ คุณนพคุณฯ  และคุณอนนท์ฯ  เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม    โดยมีแนวทางการนำเสนอในการทำกิจกรรมเพื่อเป็นทางเลือกด้วย  ดังนี้

  1. 1.       กิจกรรมช่วยเหลือโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
  2. 2.       กิจกรรมบริจาคเครื่องอุปโภคและบริโภคให้ผู้ต้องขังหญิง

 ระเบียบวาระที่ 4                 รายงานรายรับ- รายจ่าย                                        

คุณนพคุณฯ                         สำหรับรายรับ-รายจ่าย  แยกออกเป็น 2 บัญชี  ดังนี้

  1. 1.       รายรับจ่ายเงินของ ผนส.2

เงินคงเหลือของรุ่นยกมา                                          1,067.43             บาท

ดอกเบี้ยรับ                                                                 23.47            บาท

เงินสมาชิกรุ่น   เก็บได้ 31 คน                                31,000.-               บาท

รวมรายได้                                                           32,090.90             บาท

หัก   ค่าใช้จ่ายของรุ่น                                             6,820.-                บาท

ยอดเงินคงเหลือ                                                   25,270.90             บาท

  1. 2.       รายรับ-รายจ่ายของโครงการห้องสมุดโรงเรียน

เงินรับบริจาค                                                        54,100.-              บาท

รับบริจาคค่าหนังสือ (คุณสายัณห์ฯ)                          4,000.-               บาท

รวม  รายได้รับ                                                      58,100.-              บาท

ค่าใช้จ่ายในการจัดทำห้องสมุด รร.                          33,500.-              บาท

ซื้อหนังสือ                                                             4,000.-               บาท

รวม  ค่าใช้จ่าย                                                     38,900.-               บาท

เงินยืมทดรอง (ประธานฯ)          65,000.-

จ่ายค่าพัดลมเพดาน (ห้องสมุด)    1,400.-                 5,100.-             บาท       

ยอดเงินคงเหลือในบัญชี                                         14,100.-             บาท

รวมยอดเงินคงเหลือ                                               19,200.-             บาท

ที่ประชุมฯ                            รับทราบ

 

ระเบียบวาระที่ 5                 การประชุมสัญจร

ประธานฯ                           ตามที่ ผนส.2 ได้มีการประชุมสัญจร  ครั้งที่ 1   ไปแล้วที่จังหวัดเชียงราย    ดังนั้น ควรให้มีการประชุมสัญจรครั้งที่ 2  ต่อไปอีก    ซึ่งจุดประสงค์หลักของการประชุมก็เพื่อให้ ผนส.2  ได้มีการศึกษาดูงานสหกรณ์ในพื้นที่      ตลอดจนทำกิจกรรมให้กับชุมชนไปด้วย   จึงขอที่ประชุมร่วมกันพิจารณา

ที่ประชุมฯ                  ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว   และมีมติให้ ผนส.2 มีการประชุมสัญจรครั้งที่ 2  ไปจังหวัดกาญจนบุรี    เพื่อส่งกิจกรรมต่าง ๆ และจะได้มีการวางแผนเพื่อนำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

 

ระเบียบวาระที่ 6                 เรื่องอื่น ๆ

ประธานฯ                           ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552    เป็นวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสันนิบาตสหกรณ์  ในการนี้  สันนิบาตสหกรณ์จัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ

ที่ประชุมฯ                            มีมติให้คุณประวัติ  หาดปิ่นขจรจารุ    เป็นผู้ลงสมัครรับการเลือกรับเลือกตั้งเป็นผู้ตรวจสอบกิจการ

 

เลิกประชุมเวลา   12.30  น.                                                                   .................................................

                                                                                                                           ( ไพรพนา    ฉ่ำเย็นอุรา )

                                                                                                                                ผู้จดบันทึกการประชุม

เรียน  ผนส ทุกคน

        ไม่ได้เข้า blog หลายวันยุ่งอยู่กับงานทอดกฐินสามัคคี ที่วัดใกล้บ้าน และครอบครัวผมเป็นเจ้าภาพ ทอดได้เงินประมาณ 890,000 กว่าบาท

       เรื่องที่พี่ทนงค์ศักดิ์จะลงสมัครกรรมการสันนิบาตรเห็นด้วย หากเอาจริงเราผนส3 ต้องช่วยกัน ผมเป็นตัวแทนไปประชุมใหญ่ด้วย และทีมงานในจังหวัดก็ไปกันหลายคน หากจะสมัครต้องรีบตัดสินใจ จะได้ช่วยหาเสียง

       วันที่ 10-12 ธันวาคม 2552 จะไปดูงานสหกรณ์นิคมท่าแซ่ และสหกรณ์การแฟ ที่จังหวัดชุมพร ของพี่ไกรกฤษ และกำนันนัด นำสมาชิกไปประมาณ 100 คน ไม่รู้เจ้าบ้านยินดีต้อนรับหรือเปล่า 

      วันนี้ 26 ได้ไปร่วมงานโครงการพลิกฟื้นธุรกิจสถาบันเกษตรกรผ่านกลไกการบัญชี ปี 2553-2554 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  จัดงานที่สหกรณ์การเกษตรสิงหนคร จำกัด ผู้เข้าร่วมสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดสงขลา สหกรณ์ละ 3 คนและสกย  ในงานมีการจัดนิทรรศการ การเสวนา ผู้มาเป็นประธานเปิดงานคุณนิกร  จำนง ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร ไปรอตั้งแต่ตอนเที่ยง เปิดงานเวลาบ่ายสี่โมง ระหว่ารอให้เดินเรียนรู้แต่มติ 7 มติ เสร็จแล้วนั่งคอยที่ปรึกษามาเปิด ระหว่างนั่งรอก็ไม่มีกิจกรรมอะไรเลย ทำให้คนมารอเบื่อ หนี้กลับไปหลายคน แต่ผมอยู่จนเสร์จงานประมาณหกโมงครึ่ง ผมรีบกลับ มีการเลี้ยงอาหารเย็นด้วย แต่ไม่ได้อยู่ทาน ต้องรีบกลับ 

      ฝากพี่จิ๋น ให้กรมตรวจทบทวนกำหนดการหน่อย  นึกถึงคนไปนั่งคอยด้วย ไมได้ว่าอะไรนะพี่ แต่บ่นให้ฟัง  เพราะเดินทางไกลไปนั่งรอ

 

ถึงเพื่อน ๆ ผนส.3 ทุกท่าน zผมกำนันบ้านนอกรายงานตัว คิดถึงเพือนทุกๆคน และรอร่วมทุกกิจกรรมด้วยความจริงใจ

สวัสดีเพื่อน ๆ ผนส.3 ทุกท่านค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณสุทิศก่อนที่มาร่วมโครงการฯ แล้ว ประทับใจน้อยไปหน่อย ไม่ขอแก้ตัว เพราะช่วงหลัง ๆ มานี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์มีโครงการฯ ที่ประธานเปิดเป็นคนในแวดวงการเมือง ซึ่งค่อนข้างจะควบคุมไม่ได้ พวกเราคือคนกรมตรวจฯ ก็เสียความรู้สึกเหมือนกัน แต่พูดมากไม่ได้ ยังไง พี่จิ๋น ก็ขอน้อมรับไว้คนเดียวก็แล้วกันนะค่ะ ขอโทษจริง ๆ จากใจจริง

วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากน้องนก (เจ้าของ poject ลังกาวี) ได้มาบอกว่า รุ่น 3 ยังไม่ได้มอบหมายให้ใครไปเป็นตัวแทนรุ่นที่จะประชุม ร่วมกับ รุ่น 1,2,4 และสันนิบาตสหกรณ์ฯ ถ้าจำไม่ผิดได้เคยบอกไว้แล้ว ในวันที่ไปรับน้องรุ่น 4 ที่พัทยา ว่ามอบหมายให้ พี่น้อย เป็นหัวเรืองใหญ่ แต่เผอิญช่วงนี้พี่น้อยมีงานใหญ่ที่ต้องทำให้กับลูกจ้างประจำ ในการรับบำนาญรายเดือน ก็เลยทำให้ยังยุ่งอยู่ พี่จิ่น ก็เลยถือโอกาส บอกไปว่า ตัวแทนรุ่นเราน่าจะเป็น คุณอดิศักดิ์ (นก) เจ้าของโครงการฯ น้องกุ้ง (เดินรถ) ซึ่งได้เคยบอกน้องไปแล้ว และ คุณพี่น้อย (ชวลี) ทุกคนเห็นด้วยหรือไม่ หากมีใครขัดแย้ง กรุณาแจ้งเข้ามาใน blog ด้วย

ดังนั้น หากทางสันนิบาตฯ จะมีการประชุมเรื่องเครือข่าย ของ ผนส. ก็คงต้องรบกวนทั้ง 3 ท่าน เข้าร่วมประชุม และแจ้งข่าวเข้ามาใน blog เพื่อพวกเราจะได้ทราบความก้าวหน้ากัน ส่วน พี่แจ้ พี่จิ๋น อาจารย์บัญชา ซึ่งช่วงหลังนี้เงียบหายไป จะคอยเป็นที่ปรึกษาให้นะจ๊ะ รวมทั้ง บิ๊กอู๊ด ด้วย เห็นด้วยกับพี่จิ๋นไม๊ค่ะ

วันนี้ ทักทายเท่านี้ก่อนนะคะ คิดถึงทุกคนค่ะ

ขอบคุณ...คุณสุทิศ มากที่จะสนับสนุน ไม่ใช่สมัครกรรมการสันนิบาตฯ แต่เป็นการสมัคร"ผู้ตรวจสอบกิจการสันนิบาตฯ" เนื่องจากพี่ธนะ ม้าศึก เอ้ย ม้าเร็วของพวกเราลงสมัครไม่ได้ ผม..ก็เลยอาสาจะลงสมัครในตำแหน่งผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ เอาไว้ปี ๕๓ จะลงสมัครเป็น"กรรมการสันนิบาตสหกรณ์" ๒๖ พฤศจิกายน นี้เลือกตั้งผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ ขอให้ช่วยลงคะแนน ด้วยนะครับ

ยก ๒ มือเห็นด้วยครับพี่จิ๋น ผนส.๓ ขอมอบสามทหารเสือ เข้าประชุมเครือข่าย ผนส.พิทยาลงกรณ มติ เป็นไง เป็นกัน เอาไง เอากัน ผู้นำต้องพร้อมทำทุกอย่าง เพราะผู้นำ "คิดดี ทำดี ก็ดูดี"

ผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากบ้านของเธอ

และได้เห็นชายชราที่มีเคราสีขาว 3 คน

นั่งอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านของเธอ

เธอไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เธอพูดกับเขาว่า

' ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักพวกคุณ

แต่ท่าทางคุณต้องหิวแน่เลย

โปรดเข้ามาในบ้านและทานอะไรซักหน่อยเถอะ '

' สามีของเธออยู่ในบ้านไหม ' เขาถาม

' ไม่ ' เธอตอบ ' เขาออกไปข้างนอก '

' ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็เขาไปข้างในไม่ได้ดอก ' เขาตอบ

ในตอนเย็น เมื่อสามีเธอกับมาบ้าน

เธอเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

' ไปบอกพวกเขาซิ ฉันกลับมาบ้านแล้ว

และเชิญเข้ามาในบ้านเถิด '

เธอก็ออกไปและเชิญพวกชายชรานั้นให้เข้ามาในบ้าน

' เราเข้าไปในบ้านพร้อมกันไม่ได้หรอก ' เขาตอบ

' ทำไมล่ะ ' เธอถาม

ชายชราคนหนึ่งอธิบายว่า ' เขาชื่อ ความมั่งคั่ง '

เขาพูดและชี้ไปยังเพื่อนของเขา

และชี้ไปยังอีกคนหนึ่งว่า

' เขาคือ ความสำเร็จ และฉันคือ ความรัก '

เขากล่าวต่อไปว่า

' บัดนี้ จงเข้าไปข้างในและปรึกษากับสามีของเธอว่า

คนไหนในพวกเราที่คุณต้องการจะให้เข้าไปในบ้านของคุณ '

เธอกลับเขามาข้างในและบอกกับสามีของเธอ

สามีของเธอรู้สึกดีใจมาก

' วิเศษจริงๆ ' เขากล่าว

' เมื่อ เป็นเช่นนี้ เราจะเชิญ ความมั่งคั่ง

เมื่อเขาอยู่กับเรา บ้านของเราจะเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง '

ฝ่ายภรรยาไม่เห็นด้วย

' ที่รัก ทำไมเราไม่เชิญ ความสำเร็จ ล่ะ '

ขณะนั้นลูกสะใภ้ได้ยินทั้งสองกำลังปรึกษา

จากมุมหนึ่งของบ้าน เธอก็เข้ามาและแนะนำว่า

' จะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเราเลือก ความรัก

บ้านของเราจะเต็มไปด้วยความรักไง '

' เราฟังสิ่งที่ลูกสะใภ้แนะนำเถอะ '

สามีกล่าวกับภรรยา

' ออกไปข้างนอกและเชิญความรัก

เข้ามาเป็นแขกของเราเถอะ '

ภรรยาออกไปและถามชายชราทั้ง 3 ว่า

' ใครคือความรัก โปรดเข้ามา

และเป็นแขกของเราเถอะ '

ความรักลุกขึ้นและเดินไปยังบ้าน

ชายชราอีก 2 คนก็ลุกขึ้นและตามเขาไป

ด้วยความประหลาดใจ

ภรรยาถาม ความมั่งคั่ง และความสำเร็จว่า

' ฉันเชิญเพียงความรัก ทำไมคุณถึงเข้ามาด้วยล่ะ '

ชายชราตอบพร้อมกันว่า

' ถ้าคุณเชิญความมั่งคั่ง หรือ ความสำเร็จ

คนใดคนหนึ่ง อีกสองคนก็จะอยู่ข้าง นอก

แต่เมื่อคุณเชิญความรัก ที่ใดที่เขาไป

เราจะไปกับเขา ที่ใดมีความรัก

ที่นั่นก็จะมีความมั่งคั่งและความสำเร็จ '

เครื่องบินลำหนึ่งกำลังจะตก ปรากฏว่าบนเครื่องบินมีร่มชูชีพอยู่ 4 อัน

แต่มีคนโดยสารอยู่ 5 คน คือ นายก สส. ครู ลูกเสือ และ พระ

นายก "ฉันขอลงก่อนะ เพราะฉันมีความสำคัญกับประเทศมาก ขาดฉัน

แล้วประเทศชิบหายแน่นอน" นายกคว้าร่มแล้วกระโดดลงไป

สส. "ฉันก็ขอลงก่อนนะ เพราะฉันต้องไปดูแลประชาชนในพื้นที่

งบประมาณอีกเยอะแยะเดี๋ยวจะไม่มีใครดูแล" สส.หยิบกระเป๋าร่มกระโดดลงไป

ครู "พระคุณเจ้ากับลูกเสือโดดลงไปเถอะ เดี๋ยวครูอยู่บนเครื่องนี้เอง"

พระ "เราโดดลงไปทั้ง 3คนนี่แหละโยม

เพราะเมื่อกี้คุณ สส. ผู้ทรงเกียรติมันคว้ากระเป๋าเป้ของลูกเสือโดดไปโน่นแล้ว"

วันก่อนได้คุยกะพี่นกเจ้าโครงการ ฝากให้มีการนัดประชุม ผนส.3 เพื่อเตรียมงานจัดโครงการสตูลโมเดล พี่ๆมีความเห็นอย่างไรบ้างคะ วันไหนดี กุ้งว่าน่าจะเป็นวันที่มีเรียนของ ผนส.4 ด้วยนะ จะได้ไปเยี่ยมเยียนรุ่นน้องด้วย

พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผนส.๓ พวกเราคงมีความสุขและสนุกกับงานที่สำนักงานมาก หลายท่านอาจมีภาระกิจเพิ่มเข้ามาอีก บางท่านอาจมีเจ้านายใหม่ บางท่านมีที่ทำงานใหม่ อย่างไรก็...ขอให้กำลังกับทุกท่านนะครับ

เมื่อวาน(๒๙ตค)ผมไปประชุมแกนนำผู้แทนเกษตรกร ที่สันนิบาต ฯ ขณะนี้การก่อสร้าง ปรับปรุง เกือบสมบูรณ์แล้ว ห้อง VIP ห้องประชุมใหญ่ ล๊อบบี้ และสถานที่สวยงามมาก เป็นศักดิ์ศรีของขบวนการสหกรณ์ ต้องขอชื่นชมคณะผู้บริหารสันนิบาต ฯ และผู้บริหารสหกรณ์ทั่วประเทศ

น้องกุ้ง (คนสวยของ..รุ่น) ผมเห็นด้วยกับการนัดประชุม ผนส.๓ เพื่อเตรียมงานสตูลโมเดล ในวันที่ ผนส. ๔ มีเรียน อาจเป็นวันศุกร์ที่ ๖ หรือเสาร์ที่ ๗ พย.๕๒ ก็ได้ รบกวนน้องกุ้งช่วยประสานงานกับ ท่านประธานบัญชา พี่แจ้ พี่จิ๋น พี่น้อย ฯลฯ ด้วย เนื่องจากในระยะนี้หลายท่านอาจไม่มีเวลาเปิด blog ต้องใช้วิธีโทรติดต่อโดยตรง

ต้องขออภัยท่านผนส.ที่ไม่ได้เข้า BLOG สื่อสารกับทุกท่านเพราะต้องปฎิบัติงานต่างจังหวัด (กฝอ.พัฒนาบุคลากร 4 ภูมิภาค)

ได้มีโอกาสไปจัดการฝึกอบรมที่พิษณุโลกได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักสหกรณ์หลายท่าน /วิทยากร /ผู้จัดการ

จึงทราบว่า สหกรณ์ภาคการเกษตร มีปัญหาเกี่ยวกับปุ๋ยปลอม เช่น สหกรณ์การเกษตรบางกระทุ่ม สหกรณ์การเกษตรวังทองสหกรณ์การเกษตรบางระกำ

เรื่องราวดังกล่าว สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ (สพว.) ได้ส่งเอกสาร /ข้อมูลเบื้องต้นให้ นิติกรดำเนินการเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไปแล้วครับ

สวัสดีคครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส

ขอแก้ไขเงินยืมทดรองของประธานต้นฉบับพิมพ์ผิดครับ

                                            รายงานการประชุม 

                                      ชมรมผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่น 2 

                                              ครั้งที่  3 / 2552

                             เมื่อวันอาทิตย์ที่  11  ตุลาคม  พ.ศ.2552

                                        ณ   กรมส่งเสริมสหกรณ์

 

ผู้มาประชุม                1.  พลเรือตรีบงกช                              ผาสุข                                    

                                2.  คุณสายัณห์                                    ถิ่นสำราญ                            

                                3.  คุณกฤตยา                                      โอวาท   

                                4.  คุณนพคุณ                                       ยังเอี่ยม

                                5.  คุณอนนท์                                       ศุภตระกูล

                                6.  คุณประวัติ                                      หาดปิ่นขจรจารุ                 

                                7.  คุณวรวรรณ                                   ส่องพลาย

                                8.  คุณระเบียบ                                     มโนรัตน์                              

                                9.  คุณไพรพนา                                    ฉ่ำเย็นอุรา                            

 

เริ่มประชุมเวลา       10.00  น

 ระเบียบวาระที่  1                เรื่องที่ประธานฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบ

ประธานฯ                             มีเรื่องที่จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบ  ดังนี้

                                         1.   กิจกรรมรับ ผนส.รุ่นที่ 4    ที่สันนิบาต      สหกรณ์ได้มีพิธีเปิดอบรมเมื่อวันพฤหัสบดีที่  10  กันยายน 2552  ที่พัทยา      โดยได้เชิญ ผนส.1-3   เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมต้อนรับนั้น      เนื่องจากติดภารกิจงานสหกรณ์ต้นสังกัด  จึงไม่สามารถไปร่วมงานได้  ขอขอบคุณผู้แทน ผสน.2  ทุกคนที่ไปร่วมจัดกิจกรรมในวันนั้น

                                         2.   กิจกรรมแสดงความยินดีกับ ผอ.สันนิบาตคนใหม่       ผนส.2  ได้มีการส่งตัวแทนเข้าแสดงความยินดีกับ   ดร.โชคชัย   สุทธาเวศ     ที่เข้ารับตำแหน่ง   ณ สันนิบาตสหกรณ์           

                                         3.  กิจกรรมศึกษาดูงาน  สอ.TOT จำกัด   ผนส.2 รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่อาจารย์จีระฯ  ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย     ในการนี้คณะ ผนส.2 และ สอ.กรมอู่ทหารเรือ จำกัด  ขอขอบคุณคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ สอ.TOT จำกัด ทุกคน   ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่ง

ที่ประชุมฯ            รับทราบ

 

ระเบียบวาระที่  2                เรื่องรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552   

เลขานุการฯ  ได้แจ้งรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552    ให้ที่ประชุมรับทราบโดยละเอียด

ที่ประชุมฯ        ไม่มีการแก้ไขและมีมติรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552

 ระเบียบวาระที่ 3                 เรื่องสืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่ 2 / 2552

ประธานฯ                             ตามที่ตัวแทนของ ผนส.2 เข้าร่วมประชุม ผนส.ทั้ง 3 รุ่น นั้น     ผนส.2 มีตัวแทนเข้าร่วม

                                ประชุมด้วย   จึงขอให้ผู้แทน ( คุณนพคุณฯ ) ชี้แจงผลการประชุม

คุณนพคุณฯ              ในเบื้องต้นของการประชุมร่วมกันทั้ง 3 รุ่น  ได้มีมติออกมาให้ ผนส.ทั้ง 3 รุ่น  ทำกิจกรรมร่วมกัน  โดยมี ผนส.3 ( คุณอดิศักดิ์ฯ )  เสนอให้ทั้ง ผนส.ทั้ง 3 รุ่น  ทำกิจกรรมร่วมกันโดยให้ความรู้เกี่ยวกับระบบสหกรณ์กับพี่น้องประชาชนในภาคใต้   และร่วมงานเปิดฟ้าอันดามัน  พร้อมทั้งศึกษาและดูงานที่เกาะลังกาวี      คาดว่าจะประมาณปลายเดือนตุลาคม   หรือต้นเดือนพฤศจิกายน  ซึ่งขณะนี้รอการประสานในรายละเอียด

ที่ประชุมฯ             ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วและมีมติ    ให้ประธานฯ คุณนพคุณฯ  และคุณอนนท์ฯ  เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม    โดยมีแนวทางการนำเสนอในการทำกิจกรรมเพื่อเป็นทางเลือกด้วย  ดังนี้

1.       กิจกรรมช่วยเหลือโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน

2.       กิจกรรมบริจาคเครื่องอุปโภคและบริโภคให้ผู้ต้องขังหญิง

 ระเบียบวาระที่ 4                 รายงานรายรับ- รายจ่าย                                        

คุณนพคุณฯ                         สำหรับรายรับ-รายจ่าย  แยกออกเป็น 2 บัญชี  ดังนี้

1.       รายรับจ่ายเงินของ ผนส.2

เงินคงเหลือของรุ่นยกมา                                          1,067.43             บาท

ดอกเบี้ยรับ                                                                 23.47            บาท

เงินสมาชิกรุ่น   เก็บได้ 31 คน                                31,000.-               บาท

รวมรายได้                                                           32,090.90             บาท

หัก   ค่าใช้จ่ายของรุ่น                                             6,820.-                บาท

ยอดเงินคงเหลือ                                                   25,270.90             บาท

  1. 2.       รายรับ-รายจ่ายของโครงการห้องสมุดโรงเรียน

เงินรับบริจาค                                                        54,100.-              บาท

รับบริจาคค่าหนังสือ (คุณสายัณห์ฯ)                          4,000.-               บาท

รวม  รายได้รับ                                                      58,100.-              บาท

ค่าใช้จ่ายในการจัดทำห้องสมุด รร.                          33,500.-              บาท

ซื้อหนังสือ                                                             4,000.-               บาท

รวม  ค่าใช้จ่าย                                                     38,900.-               บาท

เงินยืมทดรอง (ประธานฯ)          65,000.-

จ่ายค่าพัดลมเพดาน (ห้องสมุด)    1,400.-                 5,100.-             บาท       

ยอดเงินคงเหลือในบัญชี                                         14,100.-             บาท

รวมยอดเงินคงเหลือ                                               19,200.-             บาท

ที่ประชุมฯ                            รับทราบ

 

ระเบียบวาระที่ 5                 การประชุมสัญจร

ประธานฯ                           ตามที่ ผนส.2 ได้มีการประชุมสัญจร  ครั้งที่ 1   ไปแล้วที่จังหวัดเชียงราย    ดังนั้น ควรให้มีการประชุมสัญจรครั้งที่ 2  ต่อไปอีก    ซึ่งจุดประสงค์หลักของการประชุมก็เพื่อให้ ผนส.2  ได้มีการศึกษาดูงานสหกรณ์ในพื้นที่      ตลอดจนทำกิจกรรมให้กับชุมชนไปด้วย   จึงขอที่ประชุมร่วมกันพิจารณา

ที่ประชุมฯ                  ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว   และมีมติให้ ผนส.2 มีการประชุมสัญจรครั้งที่ 2  ไปจังหวัดกาญจนบุรี    เพื่อส่งกิจกรรมต่าง ๆ และจะได้มีการวางแผนเพื่อนำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

 

ระเบียบวาระที่ 6                 เรื่องอื่น ๆ

ประธานฯ                           ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552    เป็นวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสันนิบาตสหกรณ์  ในการนี้  สันนิบาตสหกรณ์จัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ

ที่ประชุมฯ                            มีมติให้คุณประวัติ  หาดปิ่นขจรจารุ    เป็นผู้ลงสมัครรับการเลือกรับเลือกตั้งเป็นผู้ตรวจสอบกิจการ

 

เลิกประชุมเวลา   12.30  น.                                                                   .................................................

                                                                                                                           ( ไพรพนา    ฉ่ำเย็นอุรา )

                                                                                                                                ผู้จดบันทึกการประชุม

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส

ขอแก้ไขเงินยืมทดรองของประธานจาก 65,000 เป็น 25,000 ครับ

                                            รายงานการประชุม 

                                      ชมรมผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่น 2 

                                              ครั้งที่  3 / 2552 

                             เมื่อวันอาทิตย์ที่  11  ตุลาคม  พ.ศ.2552 

                                        ณ   กรมส่งเสริมสหกรณ์

 

ผู้มาประชุม                1.  พลเรือตรีบงกช                              ผาสุข                                    

                                2.  คุณสายัณห์                                    ถิ่นสำราญ                            

                                3.  คุณกฤตยา                                      โอวาท   

                                4.  คุณนพคุณ                                       ยังเอี่ยม

                                5.  คุณอนนท์                                       ศุภตระกูล

                                6.  คุณประวัติ                                      หาดปิ่นขจรจารุ                 

                                7.  คุณวรวรรณ                                   ส่องพลาย

                                8.  คุณระเบียบ                                     มโนรัตน์                              

                                9.  คุณไพรพนา                                    ฉ่ำเย็นอุรา                            

 

เริ่มประชุมเวลา       10.00  น

 ระเบียบวาระที่  1                เรื่องที่ประธานฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบ

ประธานฯ                             มีเรื่องที่จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบ  ดังนี้

                                         1.   กิจกรรมรับ ผนส.รุ่นที่ 4    ที่สันนิบาต      สหกรณ์ได้มีพิธีเปิดอบรมเมื่อวันพฤหัสบดีที่  10  กันยายน 2552  ที่พัทยา      โดยได้เชิญ ผนส.1-3   เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมต้อนรับนั้น      เนื่องจากติดภารกิจงานสหกรณ์ต้นสังกัด  จึงไม่สามารถไปร่วมงานได้  ขอขอบคุณผู้แทน ผสน.2  ทุกคนที่ไปร่วมจัดกิจกรรมในวันนั้น

                                         2.   กิจกรรมแสดงความยินดีกับ ผอ.สันนิบาตคนใหม่       ผนส.2  ได้มีการส่งตัวแทนเข้าแสดงความยินดีกับ   ดร.โชคชัย   สุทธาเวศ     ที่เข้ารับตำแหน่ง   ณ สันนิบาตสหกรณ์           

                                         3.  กิจกรรมศึกษาดูงาน  สอ.TOT จำกัด   ผนส.2 รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่อาจารย์จีระฯ  ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย     ในการนี้คณะ ผนส.2 และ สอ.กรมอู่ทหารเรือ จำกัด  ขอขอบคุณคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ สอ.TOT จำกัด ทุกคน   ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่ง

ที่ประชุมฯ            รับทราบ

 

ระเบียบวาระที่  2                เรื่องรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552   

เลขานุการฯ  ได้แจ้งรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552    ให้ที่ประชุมรับทราบโดยละเอียด

ที่ประชุมฯ        ไม่มีการแก้ไขและมีมติรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 2 / 2552

 ระเบียบวาระที่ 3                 เรื่องสืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่ 2 / 2552

ประธานฯ                             ตามที่ตัวแทนของ ผนส.2 เข้าร่วมประชุม ผนส.ทั้ง 3 รุ่น นั้น     ผนส.2 มีตัวแทนเข้าร่วม

                                ประชุมด้วย   จึงขอให้ผู้แทน ( คุณนพคุณฯ ) ชี้แจงผลการประชุม

คุณนพคุณฯ              ในเบื้องต้นของการประชุมร่วมกันทั้ง 3 รุ่น  ได้มีมติออกมาให้ ผนส.ทั้ง 3 รุ่น  ทำกิจกรรมร่วมกัน  โดยมี ผนส.3 ( คุณอดิศักดิ์ฯ )  เสนอให้ทั้ง ผนส.ทั้ง 3 รุ่น  ทำกิจกรรมร่วมกันโดยให้ความรู้เกี่ยวกับระบบสหกรณ์กับพี่น้องประชาชนในภาคใต้   และร่วมงานเปิดฟ้าอันดามัน  พร้อมทั้งศึกษาและดูงานที่เกาะลังกาวี      คาดว่าจะประมาณปลายเดือนตุลาคม   หรือต้นเดือนพฤศจิกายน  ซึ่งขณะนี้รอการประสานในรายละเอียด

ที่ประชุมฯ             ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วและมีมติ    ให้ประธานฯ คุณนพคุณฯ  และคุณอนนท์ฯ  เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม    โดยมีแนวทางการนำเสนอในการทำกิจกรรมเพื่อเป็นทางเลือกด้วย  ดังนี้

1.       กิจกรรมช่วยเหลือโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน

2.       กิจกรรมบริจาคเครื่องอุปโภคและบริโภคให้ผู้ต้องขังหญิง

 ระเบียบวาระที่ 4                 รายงานรายรับ- รายจ่าย                                        

คุณนพคุณฯ                         สำหรับรายรับ-รายจ่าย  แยกออกเป็น 2 บัญชี  ดังนี้

1.       รายรับจ่ายเงินของ ผนส.2

เงินคงเหลือของรุ่นยกมา                                          1,067.43             บาท

ดอกเบี้ยรับ                                                                 23.47            บาท

เงินสมาชิกรุ่น   เก็บได้ 31 คน                                31,000.-               บาท

รวมรายได้                                                           32,090.90             บาท

หัก   ค่าใช้จ่ายของรุ่น                                             6,820.-                บาท

ยอดเงินคงเหลือ                                                   25,270.90             บาท

  1. 2.       รายรับ-รายจ่ายของโครงการห้องสมุดโรงเรียน

เงินรับบริจาค                                                        54,100.-              บาท

รับบริจาคค่าหนังสือ (คุณสายัณห์ฯ)                          4,000.-               บาท

รวม  รายได้รับ                                                      58,100.-              บาท

ค่าใช้จ่ายในการจัดทำห้องสมุด รร.                          33,500.-              บาท

ซื้อหนังสือ                                                             4,000.-               บาท

รวม  ค่าใช้จ่าย                                                     38,900.-               บาท

เงินยืมทดรอง (ประธานฯ)          25,000.-

จ่ายค่าพัดลมเพดาน (ห้องสมุด)    1,400.-                 5,100.-             บาท       

ยอดเงินคงเหลือในบัญชี                                         14,100.-             บาท

รวมยอดเงินคงเหลือ                                               19,200.-             บาท

ที่ประชุมฯ                            รับทราบ

 

ระเบียบวาระที่ 5                 การประชุมสัญจร

ประธานฯ                           ตามที่ ผนส.2 ได้มีการประชุมสัญจร  ครั้งที่ 1   ไปแล้วที่จังหวัดเชียงราย    ดังนั้น ควรให้มีการประชุมสัญจรครั้งที่ 2  ต่อไปอีก    ซึ่งจุดประสงค์หลักของการประชุมก็เพื่อให้ ผนส.2  ได้มีการศึกษาดูงานสหกรณ์ในพื้นที่      ตลอดจนทำกิจกรรมให้กับชุมชนไปด้วย   จึงขอที่ประชุมร่วมกันพิจารณา

ที่ประชุมฯ                  ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว   และมีมติให้ ผนส.2 มีการประชุมสัญจรครั้งที่ 2  ไปจังหวัดกาญจนบุรี    เพื่อส่งกิจกรรมต่าง ๆ และจะได้มีการวางแผนเพื่อนำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

 

ระเบียบวาระที่ 6                 เรื่องอื่น ๆ

ประธานฯ                           ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552    เป็นวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสันนิบาตสหกรณ์  ในการนี้  สันนิบาตสหกรณ์จัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ

ที่ประชุมฯ                            มีมติให้คุณประวัติ  หาดปิ่นขจรจารุ    เป็นผู้ลงสมัครรับการเลือกรับเลือกตั้งเป็นผู้ตรวจสอบกิจการ

 

เลิกประชุมเวลา   12.30  น.                                                                   .................................................

                                                                                                                           ( ไพรพนา    ฉ่ำเย็นอุรา )

                                                                                                                                ผู้จดบันทึกการประชุม

ขอเชิญประชุมใหญ่สามัญประจำปี สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

โปรดเลือก...นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ ประธานชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดชัยภูมิ จำกัด , ผนส.๓

เป็นผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ   ด้วยนโยบาย " ตรวจสอบเชิงสร้างสรรค์  ยึดมั่นในหลักคุณธรรม "             

สวัสดีผนส ทุกคน

      ประชุมใหญ่สามัญประจำปี สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ขอสนับสนุนคุณพี่ทนงศักดิ์ เป็นผู้ตรวจสอบกิจการ และได้ข่าวว่า ผนส 2 ลงสมัครด้วย แล้วรุ่น 3ไม่ช่วยรุ่น 3 ด้วยกันหรือ

     วันนี้กล้บจากการอบรมหลักสูตรกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ จัดโดยสันนิบาต จัดที่โรงแรมโฆษิต หาดใหญ่ มีผู้เข้าอบรมทั้งหมด 64 คน ตามเป้าหมายของสันนิบาตร 50 คน เกินมา 14 คน โดยงบประมาณที่ทางสันนิบาตสนับสนุนไม่เพียง ต้องเก็บเพิ่มจากผุ้เข้ารับการอบรมที่เกินมา สุดท้ายก็เรียบร้อยดี

     ผลจากการอบรมโครงการนี้ทุกคนที่เข้าอบรมพอใจ และตั้งใจมาก แต่เสียดายที่มาจัดเอาช่วงลอยกะทง ทำให้หลายคนอดไปลอยกะทง  และหลังจากอบรมเสร็จทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้สันนิบาตรจัดโครงการนี้ใหม่อีกครั้ง เพราะยังไม่ทั่วถึงทุกสหกรณ์  โดยทางสหกรณ์ยินดีออกค่าใช้จ่ายในการอบรมเอง สันนิบาตสนับสนุนด้านวิทยากร ซึ่งทางสหกรณ์ในจังหวัดสงขลาให้ผมประสานงาน และขอจองไว้ล่วงหน้าเอาเดือนธันวาคม ประมาณวันที่ 19-20 ไม่ทราบวิทยากรว่าหรือไม ฝากให้เจ้าหน้าที่สันนิบาตประสานงานให้ด้วย แล้วผมจะทำหนังสือไปอีกครั้ง

   ช่วงนี้ผนส3 หลายคนหายหน้าหายตาไป มีผนส2เข้ามาแทนที่มากขึ้น ผนส3 ช่วยเข้ามาบ้างนะ

   ขอบคุณ

       

 

เล่าสู่กันฟัง

"ภาวะผู้นำกับการพัฒนาองค์การ"

หลายคนมองว่า 'ภาวะผู้นำ' คือ คุณสมบัติของคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ทางการบริหาร และภาวะผู้นำก็จะได้มาจากการที่ได้รับมอบหมายอำนาจ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่ไปบริหารผู้อื่นได้ แท้ที่จริงแล้ว คำว่า 'ภาวะผู้นำ' ก็คือ คุณลักษณะของคนที่ทำให้คนๆ นั้นสามารถนำหรือโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่ตนเองต้องการให้ทำได้ พูดง่ายๆ คือ คนที่พูดแล้วคนอื่นฟังและยอมทำตามด้วยความเต็มใจ

ดังนั้น "ภาวะผู้นำ" จึงไม่จำเป็นต้องมีอยู่ในตัวคนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ต้องบริหารคนอื่นเสมอไป และในทางกลับกันผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่ในการบริหารบางคน อาจไม่มีภาวะผู้นำในตัวเองเลยก็เป็นไปได้ และนี่ก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่งของหลายๆ องค์การ

ประเด็นที่ว่า เราควรพัฒนาภาวะผู้นำคนกลุ่มไหน ผู้ที่มองว่า ผู้บริหารเท่านั้นที่ต้องมีภาวะผู้นำ ก็มักจะมุ่งเน้นพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหาร เพื่อให้สามารถบริหารหรือโน้มน้าวทีมงานของตนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้โดยง่าย แต่สำหรับผู้ที่มองว่าใครก็ได้ ที่ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งบริหาร หากมีภาวะผู้นำก็จะสามารถใช้ความรู้ ความสามารถที่มีอยู่ในตัวเองช่วยองค์การและสังคมได้

ดังนั้น การพัฒนาภาวะผู้นำ จึงไม่จำเป็นต้องเลือกพัฒนาเฉพาะกลุ่มคนที่มีหน้าที่ทางการบริหาร แต่เราควรที่จะสร้างคนทั้งในองค์การและในประเทศของเราให้มีภาวะผู้นำ ทั้งนี้ เพื่อให้เขาสามารถใช้วิจารณญาณในการเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ด้วยตนเอง

สังคมที่มีคนมี 'ภาวะผู้ตาม' มากกว่า 'ภาวะผู้นำ' จะเป็นสังคมที่ขาดวิจารณญาณ ใครจะดึงให้โอนเอนไปทางไหน ก็จะเฮกันไปทางนั้น โดยไม่มีสติยั้งคิดด้วยตนเองว่า ควรทำตามนั้นหรือไม่ ขอเพียงแต่ผู้นำที่ตนศรัทธาสั่งก็ทำตามแบบถวายชีวิต สังคมใดเป็นเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

สวัสดีท่านผู้นำสหกรณ์ชั้นเทพทุกท่านหายหน้าหายตาไปหลายวันเนื่องจากภาระงานหลายๆอย่างแต่ก็แอบเข้ามาอ่านบ่อยๆไม่ได้ขาดความอาทรและห่วงใยในเพื่อนๆชาวผนส.3ทุกท่าน วันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ดูทีวีถ่ายทอดนายกรัฐมนตรีพบผู้นำองค์กรที่หาดใหญ่มองหาสุทิศเหมือนกันว่าได้เข้าร่วมประชุมด้วยหรือเปล่า ดูนายกรัฐมนตรีตอบคำถามต่างๆก็ใช้ได้นะมีการเตรียมตัวมาดีอธิบายทีละเรื่องทีละอย่างฟังเพลินๆดีเหมือนกัน ก็ได้ความรู้ดี.... อ่านภาวะผู้นำของบิ๊กอู๊ดก็ดีนะและสรุปสั้นๆว่าผู้ที่จะเป็นผู้นำนั้นต้องเป็นคนดี และยึดมั่นในหลักคุณธรรม ดั่งสโลแกนที่บิ๊กอู๊ดเขียนไว้ทำให้ได้นะครับ....วันนี้แค่ก่อนนะครับไม่ค่อยสบาย(หวัดรับประทานงอมแงม) โชคดีมีเงินใช้ทุกท่าน......พี่แจ้

มีโครงการอบรมฟรี ที่สันนิบาตสหกรณ์ฯ จัดโดย สพว.

หลักสูตร  ทักษะการพัฒนางานบริการ และการให้บริการสมาชิกเหนือความคาดหวัง   ระหว่างวันที่  12-13 พ.ย.52

สนใจติดต่อ  02-2411229   02-6693254-60 ต่อ 1010   ,1015  ,1008

tags: นิติภูมิ นวรัตน์ สหกรณ์ เปิดฟ้าส่องโลก

สหกรณ์

             นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.กาญจนบุรี + นายวิชัย ล้อศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกาญจนบุรี + Ms.Belinda Stewart-Cox ผอ.เครือข่ายอนุรักษ์ช้างป่ากาญจนบุรี + สถานทูตเนเธอร์แลนด์ ฯลฯ ร่วมมือกันจัดงานใหญ่ "Jazz de Chang Kanchanaburi ท่วงทำนองคลาสสิก เพื่อชีวิตช้างป่า ณ กาญจนบุรี" มีทั้งวง Bangkok Connection และวงดังที่สุดของเนเธอร์แลนด์ Biggles Big Band เต็มวง 18 ชิ้น ฯลฯ 17.30-24.00 น. เสาร์ 7 พฤศจิกายน 2552 ท่านใดสนใจติดต่อที่ [email protected] หรือ 08-1857-2623

              ผู้อ่านหลายท่านบ่นว่าระยะหลังมานี่ ผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกหายไปในเรื่องของสหกรณ์ ขอเรียนว่า นิติภูมิของท่านไม่ได้หายไปไหนดอกครับ กลับเกี่ยวดองหนองยุ่งเรื่องของสหกรณ์มากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ กรมส่งเสริมสหกรณ์ให้งบมหาวิทยาลัยบูรพา 4.2 ล้าน และให้ผมเป็นผู้อำนวยการ "โครงการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของหน่วยงานที่กำกับ ดูแล และพัฒนาสหกรณ์" ซึ่งพวกผมต้องทำงานหนักทั้งวิจัยเอกสารและวิจัยเชิงสำรวจ

            ประเทศที่พวกผมต้องนำมาวิจัยเปรียบเทียบก็มีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อังกฤษ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา แคนาดา อินเดีย และมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการนำระบบสหกรณ์เข้ามาใช้ และมีสหกรณ์ที่เข้มแข็งมาก

            ขณะนี้ยังวิจัยไม่เสร็จ แต่ผมมีรายงานความก้าวหน้า หรือ progress report ออกมาเป็นระยะ หลายท่านถามว่า นิติภูมิและคณะจะแนะนำให้ยุบกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ไหม? ขอตอบว่า "ไม่ดีกว่าครับ"

            ตอบว่า "ไม่" ไม่ใช่เพราะผมเคยรับราชการในกรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงไม่อยากให้ยุบ แต่เพราะทั้งสองกรม มีข้าราชการกว่า 4 พันคน โอกาสที่จะแปลงหน่วยงานทั้งสองให้เป็นองค์กรมหาชน หรือหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ หรือ SDU นั้น มีน้อยมาก 

            ที่ผมว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งสองหน่วยงานมีคนมากเกินกว่าที่จะหาเงินมาเลี้ยงตัวเองได้ ทั้งสองกรมไม่มีรายได้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์อาจจะมีรายได้บ้างจากการรับตรวจบัญชี แต่ผู้อ่านท่านก็ทราบว่า สหกรณ์ไทยยังไม่เข้มแข็ง ลูกค้าของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์จำนวนไม่น้อยอาจจะไม่มีกำลังจ่ายค่าตรวจบัญชี

           ข้อแนะนำของนิติภูมิและทีมวิจัยก็คือ ยุบทั้งสองกรมที่ว่า และนำมารวมกันเพื่อตั้งเป็น "ทบวงสหกรณ์" ภาระงานของทบวงสหกรณ์คงไว้แค่ "การกำกับ" และ "การดูแล" เท่านั้น ส่วน "งานส่งเสริม" อาจแยกไปตั้งเป็นองค์กรมหาชน

           หากไม่เอา "งานส่งเสริม" แยกไปตั้งเป็นองค์กรมหาชน เราก็อาจจะชูสันนิบาตสหกรณ์ขึ้นมา และเน้นบทบาทของสันนิบาตสหกรณ์ไปในทาง "การส่งเสริม" ให้มากขึ้น อันนี้ก็จะเหมือนสหกรณ์ในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯลฯ ซึ่งประเทศพวกนี้มีชุมนุมสหกรณ์กลาง หรือสันนิบาตสหกรณ์ที่มีบทบาท "การส่งเสริม" สูงมาก

           สันนิบาตสหกรณ์ของไทยยังไปไม่ถึงไหน เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ มีแต่เขียนกำหนดไว้คร่าวๆว่า งบประมาณของสันนิบาตมาจากกำไรบางส่วนของสหกรณ์สมาชิก จะจ่ายหรือไม่จ่ายก็แล้วแต่ ไม่มีการบังคับ

          พอทราบว่านิติภูมิเป็น ผอ.โครงการศึกษาความเป็นไปได้ฯ ก็มีผู้ใหญ่และนักวิชาการกรุณาแนะนำว่า ควรจะให้กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ออกนอกระบบราชการเหมือนมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่ทำสำเร็จมาแล้ว ซึ่งนิติภูมิเองก็เป็นกรรมาธิการ ตอนที่มหาวิทยาลัยบางแห่งเหล่านั้นจะออกนอกระบบ

          เรียนในเปิดฟ้าส่องโลกนี่แหละครับว่า ให้กรมทั้งสองออกนอกระบบราชการเหมือนมหาวิทยาลัยไม่ได้ มหาวิทยาลัยเลี้ยงตัวเองได้เพราะหา รายได้จากการเปิดหลักสูตรต่างๆ วิชาดังๆที่ทำสตางค์มากๆ ก็เช่น MBA หรือพวกรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต พวกนี้เป็นสาขายอดฮิต ผู้คนพร้อมที่จะเสียเงินเรียน

           ในโลกใบนี้ มีระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมจ๋า และสังคมนิยมจ๋า สำหรับผม ผมว่าทั้งสองระบบทำให้มนุษย์ได้เปรียบเสียเปรียบกันมากไปหน่อย ระบบที่ดีที่สุดซึ่งอยู่ตรงกลางของระบบทุนนิยมจ๋าและสังคมนิยมจ๋าก็คือ ระบบสหกรณ์

            ผมเกี่ยวดองหนองยุ่งกับสหกรณ์ตั้งแต่เด็กจนโต คุณพ่อผมเป็นสมาชิกสหกรณ์ เป็นกรรมการสหกรณ์ ผมจบการศึกษาทางสหกรณ์ เคยรับราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เคยเป็นที่ปรึกษาให้สหกรณ์หลายแห่ง เคยเป็นกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ฯลฯ

            ขอเรียนว่า โดยแท้จริง "รัฐไทย" ไม่เคยมีความจริงใจให้ระบบสหกรณ์ กฎหมาย และกฎระเบียบที่สร้างตั้งแต่อดีต ก็เพื่อคุมกำเนิดสหกรณ์ให้อยู่ภายใต้บงการของรัฐ หากรัฐบาลนี้มีความจริงใจ เปลี่ยน แปลงแก้ไขการสหกรณ์ให้เป็นไปในแนวเดียวกับนานาอารยประเทศที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ก็จะดีมากครับ.

นิติภูมิ นวรัตน์

 

ขอบคุณที่มา : http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/44186

สวัสดีคะชาว ผนส.3 ทุกท่าน

ไม่ได้เข้ามา post แต่ก็เปิดอ่านเกือนทุกวัน ช่วงหลังมานี้รู้สึกว่ามีแต่หน้าเดิม ๆ นะ พวกเราชาว ผนส.3 หายหน้าหายตามไปไหนเอ่ย เข้ามาทักทายกันหน่อยนะค่ะ พี่จิ๋นมีเรื่องรบกวนให้พวกเราช่วยโหวตให้สหกรณ์การเกษตรบางใหญ่ จำกัด ที่อยู่จังหวัดนนทบุรี ที่ผลิตภัณฑ์ได้รับชนะระดับภาค ขณะนี้อยู่ระหว่างการโหวตระดับประเทศในรายการเกมสหกรณ์ ที่ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท เวลา ตีห้าถึงหกโมงเช้า ผลิตภัณฑ์เป็นภาพนูนต่ำที่ทำจากกระดาษผักตบชวา แข่งขันชนะโดยการโหวตเหมือนอย่างรายการประกวดน้กร้อง AF ฝากเพื่อน ๆ ช่วยโหวตให้ K 1 แล้วส่งไปยังหมายเลข 4221900 ครั้งละ 3 บาทค่ะ ถ้าไงช่วย ๆ กันหน่อยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะที่ช่วยโหวต

....สวัสดีเพื่อนๆชาวผนส.ทุกท่านทุกรุ่นช่วงนี้ต้องหากินกับรุ่นอื่นบ้างแล้วเพราะรุ่น3ชักหายหน้าหายตาไปจากหน้าจอ..เอ้าพวกเราช่วยกันเชียร์เจ๊จิ๋นแกหน่อย จิ๋น k1สู้ๆ (3บาทเองทิปนักร้องมากกว่านี้เยอะ)แต่รายการเจ๊แกเช้าไปหน่อยนะตีห้าถึงหกโมงเช้านี่ เอ้าตื่นมาเชียร์หน่อย.... อ่านบทความของคุณนิติภูมิก็รู้สึกคล้อยตามเกือบทุกประเด็นและเห็นด้วยที่จะชูสันนิบาตฯขึ้นมาส่งเสริมระบบสหกรณ์ให้มากกว่านี้และต้องมีpowerมากกว่าที่เป็นอยู่แต่สรุปสุดท้ายอ่านแล้วก็รู้สึกหดหู่ชอบกลที่ว่า "โดยแท้จริง "รัฐไทย" ไม่เคยมีความจริงใจให้ระบบสหกรณ์ กฎหมาย และกฎระเบียบที่สร้างตั้งแต่อดีต ก็เพื่อคุมกำเนิดสหกรณ์ให้อยู่ภายใต้บงการของรัฐ"แค่นี้ก็ จบบริบูรณ์..แต่ผลงานวิจัยโครงการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของหน่วยงานที่กำกับ ดูแล และพัฒนาสหกรณ์ ผมว่าน่าสนใจนะ...ฝากสันนิบาตฯด้วยหากผลงานวิจัยชิ้นนี้สร็จเมื่อไหร่ขอนำมาเผยแพร่ด้วย(เผยน่านไม่เอานะ) ขอบคุณล่วงหน้า

     แจ้งเหตุร้ายจากสำนักงานสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยบอกต่อขณะนี้กำลังมีการระบาดของ กลุ่มมิจฉาชีพ แกล้งทำทีมาขาย สเปรย์ปรับอากาศในรถยนต์ แต่จริงๆแล้ว สารในสเปรย์กระป๋อง นั้นคือ คลอโรฟอร์ม ที่ทำให้ท่านสลบได้ เหตุการณ์ เริ่ม จากเด็กสาววัยรุ่นท่าทางดีมาเคาะกระจกขณะรถจอดหรือรี่เข้ามาขณะท่านกำลังจะ เข้ารถบริเวณลานจอดรถ ตามที่สาธารณะทั่วไป...หากท่านไม่ระวังหรือไขกระจกรถเพื่อพูดคุยด้วย สเปรย์จะถูกฉีดเข้าในรถทันที เมื่อท่านสลบ งัวเงีย สลึมสลือไม่ได้สติ ผู้ชายอีก 2-3 คนจะเข้ามาปลดทรัพย์ หรืออาจทำอันตรายร่างกายของท่านได้เพื่อความปลอดภัยสำหรับทุกท่าน ขอให้ระวังตัวในทุกย่างก้าว และไม่ประมาทด้วยความปราถนาดี และห่วงใยเสมอ สำนักงานสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ช่วยกระจายต่อด้วยนะคะเพื่อความปลอดภัย!!



 

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ...........

ขอโทษเพื่อนๆ ที ที่หายไปเสียนาน ไม่ได้ติดต่อเพื่อนๆ มานาน เพราะมีธุระกิจจำเป็นเกี่ยวกับงาน และต้องติดตามงานที่ประเทศมาเลเซีย เป็นธุระกิจส่วนตัวและจะเชื่อมโยงกับระบบสหกรณ์เราครับ......และตอนนี้กลับมาแล้วครับ นก ปากช่องคนเดิม

ก่อนอื่นดีใจครับที่เพื่อนๆ ผนส.3 ยังเหนียวแน่น และติดต่อกันแม้จะเป็นการติดต่อกันทางโทรศัพท์ตลอด ไม่ห่างกันเลย ผมมีความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ของพวกเราครับ เราจะร่วมกันต่อสู้เพื่อนำเศรษฐกิจที่ดีกลับมาสู่ประเทศไทยให้ได้ครับ และผมให้การสนับสนุนเจ๊จิ๋น ครับและจะช่วยโหวตให้ครับ(พูดยังกับนักการเมืองอาชีพ..........แต่ไม่แน่นะล้อเล่น......)

หายหน้าหายตาไปนาน ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ เป็นอย่างไรบ้างสบายดีกันอยู่ไหม เอ้ารีบๆเข้า BLOG มารายงานตัวกันด้วย ไม่งั้นโดนปรับแน่.....(เจ๊จิ๋น คนสวยเตรียมกระเป๋าไว้เก็บค่าปรับด้วยครับ)

ในส่วนของการร่วมประชุมระหว่างผนส.ทุกรุ่น และสันนิบาตสหกรณ์ผมว่าเราต้องรอน้อง ผนส.4 กลับมาจากใต้หวันก่อนดีกว่าไหมครับ และเราจึงจะได้ร่วมงานกัน ขอขอบคุณเพื่อนๆ ผนส.ทุกรุ่นมากที่ได้ให้ความกรุณาและยังติดตามงานมาตลอด ตอนนี้ฝนตกทางใต้ตลอดเลย การเดินทางไปลำบากมาก และคิดว่าเมื่อหมดฝนแล้วเราจะได้ดำเนินงานร่วมกันอย่างแน่นอน ซึ่งทางผนส.3 ได้มอบหมายให้ผม(นก ปากช่อง) ถือธงรบ เอ๊ย ธงรุ่น เดินพร้อมกับพี่น้อยและน้องกุ้ง คนสวยประจำรุ่น(ไม่รู้ใครสวยกว่ากันหว่า....) จึงเป็นการมอบหมายงานที่ชัดเจน และเอาไว้ผนส.4 กลับมาเมื่อไหร่ เราค่อยประชุมกันนะครับ และเราจะดำเนินงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของเพื่อนสหกรณ์และสมาชิกของสหกรณ์พวกเรานะครับ

และในการเดินทางไปดูงานที่ใต้หวัน ของผนส.4 และเจ้าหนย้าที่สันนิบาตที่เดินทางไปทุกท่าน ขอให้ทุกท่านได้เดินทางไปและกลับด้วยความโชคดีและขอนำส่งนะครับ และอย่าลืมนำเอาความรู้มาฝากพวกเรานะครับ และเราจะได้ทำประโยชน์ร่วมกันในอนาคตนะครับ

ขอบคุณมาณ ที่นี้ครับ

นก ปากช่อง

ขอให้โชคดีทุกท่านนะครับ

สวัสดีค่ะ ชาว ผนส.3

ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ นึกได้ให้รีบพิมพ์ k 1 แล้วส่งไปยังหมายเลข 4221900 นะค่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้นะจ๊ะ ขอครั้งเดียวไปไม่พอนะ ต้องหลายครั้งค่ะ แหม อย่าคิดในทางไม่ดีนะ คือกด sms เชียร์ k 1 จ้า

พี่จิ๋น ตั้งข้อสังเกต ที่บางคนเงียบหายไป อาจเป็นเพราะบางท่านไม่ได้เป็นกรรมการสหกรณ์ หรือเปล่า อย่าคิดมากเลยค่ะ เพราะนั่นคือหัวโขนเท่านั้น มิตรภาพของพวกเราสำคัญกว่า นะจ๊ะ ยังไงก็อย่าลืมเข้้ามาทักทายกันหน่อย เวลานี้พอเข้ามาใน blog ต้องเลือกไปถึงหน้า 14 แล้วนะ

คืดถึงหลาย ๆ เด้อ

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ...........

สุทิศ บอกวิธีการที่ป้องกันภัย ได้ดีมากเลย ทันสมัยมากแต่ว่าหากว่าเราไม่ประมาท(มองแต่คนสวยๆละก้อ......รอดแน่....)

แต่ระวังในเรื่องการขับรถ ให้เช็คลม ยาง และหมั่นตรจสอบรถก่อนเดินทางบ่อยๆ เพื่อจะได้เดินทางโดยความปลอดภัย และที่สำคัญ "เมาไม่ขับ"

การดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ขอแนวร่วมที่แสดงความคิดเห็นบอกแนวทางบ้างครับ เพื่อให้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการสหกรณ์อย่างยั่งยืนครับ

จริงของเจ๊จิ๋นครับ แม้ว่าเราจะไม่เป็นกรรมการในสหกรณ์ และตำแหน่งก็เป็นแค่หัวโขนจริงครับ แต่คนเราในการทำความดีต่อสังคม ไม่จำเป็นต้องดำรงตำแหน่งใดๆก็ได้มั๊งครับ.....ทำความดี ทำให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ผมว่าดีที่สุดแล้ว ผมเชือว่า "ฟ้ามีตา" และผมว่าเราเกิดมาก็ควรเร่งทำความดีนะครับ ชีวิตไม่ยืนนานมากหรอกครับ ผมว่าเราเกิดมาได้มีโอกาสได้พบเจอกันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ผมถือว่าเป็นโชคดีแล้วครับ ผมดีใจมากครับ และผมจะจำภาพของมิตรภาพที่ดีตลอดไปครับ

นก ปากช่อง

1) ผู้ชนะ : เมื่อพบว่ามีข้อผิดพลาด จะพูดว่า ฉันทำผิดเอง

ผู้แพ้ : เมื่อพบข้อผิดพลาด จะพูดว่า ไม่ใช่ความผิดของฉัน

2) ผู้ชนะ : จะทำงานหนักกว่าปกติ และมีเวลามากกว่าผู้แพ้

ผู้แพ้ : จะทำงานแบบยุ่งทั้งวัน โดยที่ไม่คิดว่า งานไหนควรทำก่อน ทำหลัง

3) ผู้ชนะ : จะเผชิญหน้ากับปัญหาและลงมือแก้ไขปัญหานั้น

ผู้แพ้ : จะทำในทางตรงข้าม คือหลีกเลี่ยงปัญหา

4) ผู้ชนะ : จะลงมือทำงานให้ปรากฏผลงานขึ้น

ผู้แพ้ : จะให้แต่คำสัญญา คือมีแต่ลมปาก แต่ไม่ลงมือ

5) ผู้ชนะ : จะพูดว่า “ ฉันทำได้ดี แต่ยังไม่ดีเท่ากับที่ฉันต้องการ “

ผู้แพ้ : จะพูดว่า “ ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่มีผลงานแย่กว่าตัวเขา “

6) ผู้ชนะ : จะตั้งใจฟัง แล้วทำความเข้าใจ และ สามารถตอบสนองได้

ผู้แพ้ : จะรออย่างเดียว โดยไม่ฟัง ไม่ทำความเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูด รอจนกว่าจะถึงคิวที่จะได้พูดเรื่องของตัวเอง

7) ผู้ชนะ : จะยอมรับ นับถือคนที่มีความสามารถเหนือกว่า และจะเรียนรู้จากคนเหล่านั้น

ผู้แพ้ : จะทำในทางตรงข้ามและจะพยายาม หาข้อผิดพลาดของคนที่เหนือกว่าเขา

8) ผู้ชนะ : จะมีความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่งานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น จะช่วยคิดให้องค์กรประสบความสำเร็จ( ไม่ใช่ไปก้าวก่าย งานคนอื่นนะ )

ผู้แพ้ : จะไม่กล้าที่จะช่วยเหลือคนอื่น และ มักจะพูดว่า ฉันไม่ว่าง กำลังทำงานของฉันอยู่

9) ผู้ชนะ : ต้องมีวิธีที่จะทำให้ดีขึ้นได้เสมอ

ผู้แพ้ : จะพูดว่า “ นี่คือหนทางเดียวที่ทำได้ “

10) ผู้ชนะ : จะแบ่งปันบทความนี้ไปยังเพื่อนๆของเขา

ผู้แพ้ : จะเก็บบทความนี้เอาไว้ เพราะว่าเขาไม่มีเวลาที่จะแบ่งปันไปให้คนอื่น

สวัสดีค่ะพี่ๆผนส 3

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสคุยกะพี่กำนันบ้านนอกทางโทรศัพท์

ก็เลยมีไอเดียกันว่าจะไปเที่ยวสุพรรณกันค่ะ ได้คุยกะเจ้าตี๋น้อย(ไท/สมพงษ์)แล้ว กำลังเซ็ตโปรแกรมกันอยู่

พี่ๆท่านใดสนใจร่วมทริปก็ได้นะคะ แต่อันนี้ไม่เป็นทางการนะคะแค่อยากพบปะสังสรรค์กันค่ะ

และอาจจะได้คุยกันต่อเรื่องโครงการอุทัยธานีของพี่ v24 ด้วย เห็นกำนันบอกว่าสหกรณ์ทางนั้นก็รอเราอยู่นะ

เอ้า...ประธานรุ่นอยู่ไหน...เป่านกหวีดด่วน

เมื่อวันที่10 พฤศจิกายน 2552 ไปหาคุณอภิสิทธิ์ ที่โคราช แต่ว่าวันนี้ได้ไปที่สุพรรณบุรี ไปกินข้าวเที่ยงกับกำนันสุขสันต์ฯ อาหารประเภทปลา สดมาก และอร่อยมาก โดยเฉพาะน้ำใจที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีมาก อิ่มเลยเรา........การต้อนรับเป็นที่ประทับใจมาก และของที่ระลึกอร่อยมาก ขอบคุณหลายเด้อ...... แต่ว่าอากาศร้อนไปนิดหนึ่ง และตอนกลับถึงปากช่อง อากาศเปลี่ยนเป็นเย็น เอาไว้ผมรอต้อนรับท่านกำนัน ที่ปากช่อง บ้างนะครับ จะให้หนำใจเลย........ทดลองดูก็ได้ครับ

น้องกุ้งคนสวย ผมขอตอบรับการไปเยี่ยมกำนันและน้อง v24 สุดสวยด้วยคนนะครับ การไปทำกิจกรรมเสริมที่อุทัยธานีด้วย ก็จะยิ่งดีมากเลยครับ และน้องกุ้งอย่างไงก็บอกล่วงหน้าสัก 1อาทิตย์นะครับ จะได้เตรียมตัวไม่เดินทางไปไหน (ตั้งหน้าตั้งตารอไปสุพรรณฮิฮิฮิ.......มันส์) พี่แจ้,น้องสมพงษ์ และเพื่อนๆคนอื่นว่าไง กรุณาแจ้งเข้ามาใน BLOG ด่วน

ประธานรุ่นหายไปไหน เป่านกหวีดด่วน........หากไม่เป่าปรับ 10 จอก.....

พี่จิ๋นครับผมมีเรื่องแจ้ง ๒ เรื่อง ครับ

๑ ผมได้พบกับหัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ชัยภูมิ คนใหม่แล้วครับ หัวหน้าฯเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ผมด้วย นิสัยดีมาก เป็นกันเอง(ไม่กล้าบอกว่า..น่ารัก) ผมจะช่วยดูแล (อยู่ห่าง ๆ) ตามที่พี่จิ๋นฝากไว้ ซึ่งผมก็ได้ฝากหัวหน้าฯให้ดูแล แนะนำสหกรณ์ผมด้วยเช่นกัน และหากมีสิ่งใดให้ผมหรือสหกรณ์ช่วยเหลือ ยินดีรับใช้ครับ

๒ ผมพิมพ์ k 1 แล้วส่งไปยังหมายเลข 4221900 แล้วครับ และจะตั้งใจทำ ทำ ทำ หลาย ๆ ครั้งครับ

ช่วงนี้ต้องขออภัยพี่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกคน ที่ผมไม่ค่อยมีเวลาเขียน แต่อ่านใน blog ประจำ เพราะเดินสายประชุมไป ๆ มา ๆ กทม. และต่างจังหวัด ทุกสัปดาห์ และการเตรียมงานประชุมสัญจร ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ ๓-๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ ที่จังหวัดอุบลราชธานี พี่ ๆ ผนส.๓ ภาคอีสาน อย่าลืมไปประชุมและช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยนะครับ คาดว่ามีผู้เข้าร่วมประมาณ ๓๐๐ คน ขณะนี้หนังสือเชิญกำลังส่งถึงทุกสหกรณ์ภาคอีสาน มีวาระการประชุมล้วนเป็นประเด็นที่ต้องติดตามหลายเรื่อง ตลอดจนการพลักดันให้รัฐบาลอุดหนุนและสนับสนุนกิจกรรมของสหกรณ์ บอกได้ว่า ๓ คำว่า " น่า ติด ตาม"

ผมประทับใจ บทความวรรคสุดท้ายของคุณนิติภูมิ นวรัตน์ ตรงนี้มาก "รัฐไทย ไม่เคยมีความจริงใจให้ระบบสหกรณ์ กฎหมาย และกฎระเบียบที่สร้างตั้งแต่อดีต ก็เพื่อคุมกำเนิดสหกรณ์ให้อยู่ภายใต้บงการของรัฐ หากรัฐบาลนี้มีความจริงใจ เปลี่ยน แปลงแก้ไขการสหกรณ์ให้เป็นไปในแนวเดียวกับนานาอารยประเทศที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ก็จะดีมาก " ขอบคุณ p,jaee ที่แสดงความเห็นในเรื่องเดียวกันนี้ ได้อย่างประทับใจ

ขอชื่นชมผู้นำทุกท่านที่ " คิดดี ทำดี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ " เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ

....สวัสดีผนส.ทุกท่านเมื่อเช้าตั้งนาฬิกาปลุกตีสี่กว่าๆตื่นมาดูรายการสหกรณ์การเกษตรของเจ๊จิ๋นแนะนำมาทางช่อง9อสมท. รายการน่าสนใจดีนะโดยเฉพาะพิธีกรสาวทั้งสามคนสวยใช้ได้ถูกสเปคสี่ยอดกุมารของรุ่น3... ตามสั่งครับพี่กดไป2ที(โทรศัพท์นะครับ)k1สู้ๆๆ สุดท้ายตอนปิดรายการพิธีกรพูดได้น่าชื่นใจมากว่า ยินดีด้วยนะคะตอนนี้ k2และ k3 นำโด่งเลยคะ(จั่งซิมันต้องถอน) เอ้าช่วยกันหน่อย...

....อ่านความเห็นของหลายๆท่านที่ต่อยอดเจ๊จิ๋นที่ว่า"บางคนเงียบหายไป อาจเป็นเพราะบางท่านไม่ได้เป็นกรรมการสหกรณ์ หรือเปล่า " ผมก็ตกใจในประเด็นนี้นะว่าเป็นไปได้หรือในเมื่อการเข้ามาเรียนมาอบรมในสถาบันเดียวกันก็เหมือนเราเรียนตอนมัธยมหรือสมัยอยู่มหาวิทยาลัยทุกคนมีสถานภาพเดียวกันทั้งหมดคือเป็นนักศึกษา การมาเรียนผนส.ทุกคนต้องถอดหัวโขนไว้หัวบันไดบ้านก่อนมาเรีนทั้งหมดจะใหญ่จะโตแค่ไหนไม่สำคัญเข้าห้องเรียนสถานะเท่ากันหมดและที่ ...สำคัญก็คือทุกคนเป็นเพี่อนกัน องค์กรไม่เกี่ยว...จบมาก็ต้องมีปฏิสัมพันธ์หรือที่เรียกว่ามีเครือข่ายต่อกันแลกเปลี่ยนความรู้แนวคิดพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบตามประสาเพือนร่วมรุ่นร่วมสถาบันกันมา ถ้าเป็นอย่างที่พี่จิ๋นว่าก็น่าเสียดายและเสียเวลาที่ร่วมเรียนกันมา ..อย่างที่นกปากช่องว่าไว้เห็นด้วยนะ

...."ไปไหนไปกันบ้านกำนันไม่ไป" สำนวนโบราณชอบพูดกันเพราะไปแล้วจะถูกจับปรับแน่นอน แต่บ้านกำนันสุขสันต์(กำนันบ้านนอก)คนมีน้ำใจใครๆก็อยากไปหาเตรียมยิงนกตกปลารอไว้เลย น้องกุ้งนัดมา.. พักนี้ไม่ค่อยเห็นกำนันเข้าblogสงสัยจะถูกภรรยายึด notebook ไปแล้วหลังเปิดเจอภาพยนต์มวยปล้ำห้าร้อยกว่าเรื่องบรรจุอยู่ในcomp

...แค่นี้ก่อนนะคิดฮอดทุกคน....

พี่ๆเพือนๆที่รักผมกำนันบ้านนอกยังเหมือนเดิมอ่านbolgทุกวันคิดถึงเพือนรอต้อนรับเพือนที่จะผ่านสุ1000ด้วยควา มยินดี

วันนี้ (๑๓พย๕๒) ได้ไปร่วมงานสัมมนา Network Meeting Day ภายใต้โครงการพลิกฟื้นธุรกิจสถาบันเกษตรกรผ่านกลไกการบัญชี โดยสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ ๓ มีสหกรณ์ในกลุ่มอีสานใต้ ๕ จังหวัด ที่ โรงานผลิตปุ๋ยสหกรณ์การเกษตรนางรอง จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดงานโดยท่านอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ผมมีโอกาสได้พบท่านประธานกรรมการ กรรมการและผู้จัดการหลาย ๆ สหกรณ์ และที่สำคัญได้พบ ผนส.๓ ด้วยครับ เช่นคุณอภิสิทธิ์ ต้องยอมรับว่าเสี่ยข้าวโพดหวานฟิตจัด หุ่นดีขึ้นเยอะเลย และป้าเครือ หน้าตาก็สดใสปิ๊งมาก สงสัยมีกำไรข้าวสารหลายล้าน ซึ่งทั้งสองท่านบอกว่า "ผนส.๓ เราน่าจะนัดเจอกันได้แล้ว เพราะดูจะเหินห่างกันนานพอสมควร" โดยเฉพาะกิจกรรมโครงการที่ อุทัยธานี ส่วนตัวผมอยากให้เกิดเร็ว ๆ นี้ ส่วนโครงการอื่น ๆ เอาไว้ให้เสร็จงานที่อุทัยธานีก่อน ค่อยมาตกลงกัน ประชุมวันใดผมยินดีเข้าร่วมได้ทุกวัน

ขอเรียนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกคน ที่ได้รับทราบข่าวเกี่ยวกับตัวผม ซึ่งหลายท่านได้สอบถามทางโทรศัพท์แล้ว ๒ ข่าว...ครับ

ข่าวแรก .....ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่จะสนับสนุนในการเลือกตั้งผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ สันนิบาตสหกรณ์ ฯ ในวันที่ ๒๖ พย.๒๕๕๒ หลายท่านทราบข่าวว่าผมจะลงสมัคร อย่างเช่นวันนี้ที่บุรีรัมย์ สอบถามกันเยอะมาก หลายท่านบอกเลยว่าตั้งใจจะไปช่วยลงคะแนนให้

ข่าวสอง......ขอขอบคุณที่เป็นห่วงกับข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งเขาพยายามใช้ความสามารถพิเศษทำลายชื่อเสียงของคนอื่น ผมเสียดายเวลาและความตั้งใจกับการทุ่มเทให้กับเพื่อนคนนี้มาก ผมมีความจริงใจ แต่เขาจิงโจ้ ผมเชื่อว่า ผนส. ทุกท่านสามารถวิเคราะห์ได้โดยทฤษฎีง่าย ๆ ว่าอะไรใช่ หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง ใครคือทองแท้ ใครคือทองชุบ ตั้งแต่เกิดจน ณ ปัจจุบันผมอยู่กับสหกรณ์มาตลอด ผมไม่มีวันหรือแม้แต่จะคิด ทำอะไร แล้วทำลายชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของตัวเองและวงษ์ตะกูล ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

สวัสดีเพื่อน ๆ

ให้กำลังใจบิ๊กอู๊ด อย่างที่่ว่า ทองแท้ อย่างไรเสียก็เป็น ทองแท้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องไปวิตกกับสิ่งที่ได้ยินหรือได้รู้มา มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำได้คือการให้อภัย และให้นึกถึงแต่สิ่งดี ๆ ที่เคยทำร่วมกันมา มิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

ประมาณ วันที่ 18 ธันวาคมนี้ สตท 1จะมีการจัดงาน network meeting day ท่ี่ สหกรณ์การเกษตรศรีประจันต์ จำกัด ในวันนั้นไม่รู้ว่า กำนันบ้านนอก ได้ไปร่วมงานวันนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนวันที่ 18 พ.ย. นี้จะเป็นที่ อ. วิเศษไชยชาญ คงจะได้พบกับน้องอ๋อของเราแน่ ๆ อยู่แล้ว และวันที่ 19 พ.ย. นี้ ก็จะไปต่อที่ สหกรณ์การเกษตรบ้านไร่ จำกัด ของ v 24 เพราะว่า อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์จะไปเยี่ยมเยียนที่สหกรณ์ค่ะ พี่จิ๋นก็เลยไปร่วมต้อนรับ อธิบดี ด้วย

ก่อนจาก อย่าลืมช่วยโหวตให้ k 1 ด้วยนะค่ะ ส่งไปที่ 4221900 ขอบคุณนะคะ และขอเชิญไปร่วมงาน "คนไทยหัวใจเกษตร"จัดที่ กันตนา มูฟวี่ทาวน์ อ.ศาลายา จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 26 - 29 พ.ย. นี้

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส. 

          กลับจากไต้หวันมาแล้วครับ  ดีใจที่รุ่น 3 ตั้งผู้แทนที่จะเข้าร่วมประชุมได้เรียบร้อยแล้ว  ถ้าอย่างไรฝากคุณอดิศักดิ์ นัดวันที่จะประชุมร่วมกันเลยเครับผมจะได้ประสานทางรุ่น 2 ให้ครับ

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ........

ขอบคุณพี่นพคุณมากครับ ที่อุตส่าห์เข้ามาทักทายใน BLOG ของผนส.3 และดีใจเช่นกันครับที่พวกท่านซึ่งเป็นตัวแทนผู้ไปเผยแพร่เกียรติคุณของผู้นำขั้นสูงในต่างประเทศ ขอปรบมือให้ครับ.........

ขอเดินหน้าโครงการเต็มที่เลยครับ เกี่ยวกับการประชุมเพื่อที่จะวางแนวทางในการจะได้ไปสัมนาสัญจรในภาคใต้ ที่ได้วางแผนงานไว้ครับ ผมขอให้น้องกุ้งคนสวย ได้เป็นผู้ดำเนินการประสานได้เลยครับ น้องกุ้ง......ว่าไงรีบนัดด่วนครับ(วันเสาร์เย็น ที่สันนิบาตสหกรณ์ก็ได้ครับ จะได้พบกับ ผนส.4 ด้วยครับ)

นก ปากช่อง

สวัสดีคะ อาจารย์ และพี่ น้อง ผนส .

ไม่ได้หายไปไหน "ไม่ว่างจริง ๆ" ขอบคุณ คุณจิ๋น ที่เข้าใจเพราะในฐานะ เลขาธิการสมาคมลูกจ้างส่วนราชการแห่งประเทศไทย ต้องไปช่วยผลักดันเรื่องบำเหน็จรายเดือนของลูกจ้างประจำ จนสำเร็จ หรือที่เข้าใจกันก็คือ บำนาญลูกจ้าง แต่กรมบัญชีกลางไม่ให้เรียกบำนาญเพราะเกรงว่าจะไปซ้ำซ้อนกับของข้าราชการ โดยเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2552 สมาคมได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ มีลูกจ้างของส่วนราชการทั่วประเทศไปร่วมประชุมเกือบ 4 พันคนโดยมี นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์

รมช.คลัง เป็นประธานพิธีเปิด นอกจากนี้ได้เชิญผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กรมบัญชีกลาง สำนัก กพ.และนักการเมือง

(สส.รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท) รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอในเรื่องสิทธิสวัสดิการต่างๆ ที่ควรจะได้รับเช่น ค่ารักษาพยาบาล บำเหน็จตกทอด และลูกจ้างที่เกษียณด้วยเหตุสูงวัย อายุราชการไม่ถึง 25 ปี ก็ควรจะพิจารณาให้มีสิทธิได้เลือกรับบำเหน็จรายเดือน ซึ่งในเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐบาล

ต่อมาระหว่างวันที่ 25 ต.ค.-5 พ.ย. 52 ต้องรีบออกหาเสี่ยงสมัครรับเลือกตั้งสรรหากรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน จำกัด ซึ่งมีผู้สมัคร 3 กลุ่มๆละ 7คน รวม 21คน ในการนี้ผู้สมัครจะต้องหาเสียงจากสมาชิกที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

76 จังหวัด และสมาชิกส่วนกลางคือที่ กรมชลประทาน สามเสน และกรมชลประทาน ปากเกร็ด กำหนดการเลือกตั้งวันที่ 6 พ.ย. 52

มีเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ล่องหาเสียงไปเรื่อยๆ "ค่ำไหน นอนนั่น" ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ได้ชัยชนะมา 6 คน

โดย ชวลี ได้คะแนนเป็นลำดับที่ 3 จากสมาชิกชลประทานทั่วประเทศ 8,785 คะแนน

9-12 พ.ย. 52 เดินทางไปอบรมเรื่อง การเพิ่มศักยภาพผู้นำสตรีสหกรณ์โดยสันนิบาตสหกรณ์ ร่วมกับชุมนุมสหกรณ์ประเทศสวีเดน ณ โรงแรมชมวิว หัวหิน 13 พ.ย.52 สันนิบาตจัดการประชุมสัมมนาความเสมอภาคระหว่างหญิง ชายเรื่อง"ศักยภาพ ของสตรีสู่เส้นทางนักบริหารสหกรณ์ ณ ห้องประชุมสันนิบาตสหกรณ์ งานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานพิธีเปิด รวมทั้งวิทยากรรับเชิญจากกรมส่งเสริมฯ ท่านวรรณี รัตนวราหะ อดีตรองอธิบดี ท่านภัทราสม ร่มเย็น คุณศันสนีย์ นาคพงศ์ พิธีกรและผู้ประกาศข่าว ส.ส.รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท มาร่วมอภิปรายเรื่อง"เส้นทางสตรีสู่การเป็นผู้บริหารมืออาชีพ"และทิศทางการพัฒนาสตรีไทยสู่อนาคต (งานนี้ "น้องกุ้ง "ไปด้วยเห็นตอนมาลากลับ) ในภาคบ่ายเป็นการประชุมจัดตั้ง"ชมรมพัฒนาสตรีสหกรณ์แห่งประเทศไทย" โดยในที่ประชุมให้เกียรติ ชวลี สวัสดิบุตร เป็นประธานชมรมฯ ในการนี้มีนักกฏหมายสตรีมือหนึ่ง ผนส.3 คุณสุรวงศ์ วรรณปักษ์ เป็นรองประธาน (อุ่นใจแล้ว) นอกจากนี้ยังมี ผนส. อย่างคุณเครือวัลย์ ชลนัย และสตรีผู้มีความสามารถอยู่ในแวดวงสหกรณ์มาร่วมด้วยช่วยกันสานต่อเจตนารมย์ ในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย ทั้งนี้ชมรมฯได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจาก ท่านประธานกรรมการดำเนินงานสันนิบาตสหกรณ์ ท่านผู้อำนวยการสันนิบาตฯ ท่านรองอำไพ เหลืองภิรมย์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ขอได้รับความขอบคุณมา ณ ที่นี้ และโอกาสนี้ขอเชิญชวนสตรีสหกรณ์ทุกท่านโปรดให้ความสนใจ รวมทั้งท่านสุภาพบุรุษ สมัครเป็นสมาชิก "ชมรมพัฒนาสตรีสหกรณ์แห่งประเทศไทย" เพื่อเป็นเวทีพบปะ พูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณจีระพรรณ แก่นศึกษา โทร. 02-561-4567 ขอบคุณคะ ขอกลับเข้าสู่ ผนส.3 เรื่องตั้งผู้แทนที่จะเข้าร่วมประชุม "โครงการความร่วมมือ ผนส.รวมใจรับใช้สังคม" (ตั้งชื่อเองซะเลย)คุณนก ปากช่อง น้องกุ้ง พี่พร้อมแล้วนัดได้เลย(แต่บอกล่วงหน้าหน่อยก็ดีนะคะ ) ผนส.4 เค้ากลับมาจากใต้หวันหลายวันแล้ว พวกเรายังไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนรุ่นน้องเลย สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ budyสุทิศ พงศ์จีน ที่มีข้อมูลภัยใกล้ตัวมาฝากให้ระวัง สำหรับ 26 พ.ย.52 ร่วมเป้นกำลังใจสนับสนุนคนดีมีฝีมืออย่าง คุณทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ เป็นผู้ตรวจสอบกิจการสันนิบาตฯ แน่นอน แต่เอะ! รับทราบพิมพ์ SMS เชียร์ K1 ปฏิบัติทันที สวัสดีค่ะ

ในโอกาสครบรอบ  72 ปี ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงอำนวยอวยพรให้ รศ.ดร.สวัสดิ์  แสงบางปลา (ผนส.4)  จงมีความเจริญด้วยจตุรพรชัย  มีสุขภาพแข็งแรง  บริหารกิจการ  สอ.จุฬา  บริการสมาชิกให้มั่นคง และมั่งคั่ง

และขอเชิญชวน ผนส.ทุกรุ่น  อ่านหนังสือเล่มนี้ครับ

"จากทฤษฎีชีวิตสู่วิถีปฎิบัติ

สหกรณ์ออมทรัพย์หมื่นล้าน"

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ.......

ผมได้ประสานกับพี่นพคุณ ยังเอี่ยม ผนส.2 แล้ว และเห็นว่ากำหนดที่จะนัดร่วมประชุมตัวแทนของ สันนิบาตสหกรณ์ และรวมทั้งตัวแทนผนส.ทุกรุ่น ดำเนินกิจกรรมร่วมกันในโครงการสัมนาสัญจร เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ และช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ภาคใต้แก้ปัญหาจากกรณี มหาวาตภัยสึนามิ ตามแนวทางของสหกรณ์ และวางแนวทางร่วมโครงการตามแนวทางพระราชดำริป่าชายเลน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช กับทางส่วนราชการจังหวัดสตูล โดยผมขออนุญาต กำหนดนัดวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา 12.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสันนิบาตสหกรณ์ หรือสถานที่เหมาะสมครับ

ขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ

นก ปากช่อง

P

นก ปากช่อง 
      

       ขอแก้ไขสถานที่เป็นที่เมืองทองธานีที่ประชุมใหญ่ครับ

       อดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์ (นก ปากช่อง)

Happy Birthday to Ph.D Sawatt sangbangpar ขอให้ท่านอาจารย์มีสุขภาพ และร่างกายแข็งแรง ครับ

กลไกการบริหารจัดการที่ดี  6  ประการ

       กลไกที่สำคัญของการบริหารจัดการมีหลากหลายขึ้นอยู่กับผู้บริหารแต่ละคนจะนำมาใช้ให้เหมาะสมกับองค์กรนั้นๆ   ผมขอนำหลักของการบริหารจัดการ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของการบริหารจัดการมานำเสนอดังนี้

1.  หลักความรับผิดชอบ

       โดยตระหนักถึงสิทธิหน้าที่ การมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจปัญหา มีความกล้าหาญที่จะรับผิดชอบผลจากกระทำ

2.  หลักคุณธรรม

       ยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม ยึดหลักซื่อสัตย์สุจริต ขยัน อดทน
มีระเบียบวินัย

3.  หลักการมีส่วนร่วม

          โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีส่วนรับรู้ และร่วมตัดสินใจในการพัฒนา

4.  หลักความคุ้มค่า

       โดยบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดให้มีการใช้อย่างประหยัด คุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด และสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน

5.  หลักความโปร่งใส

       คือเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้สหกรณ์ (สมาชิก) เข้าถึงได้สะดวก และมีส่วนร่วมตรวจสอบความถูกต้องในการดำเนินงาน

6.  หลักนิติธรรม

       โดยตรากฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ  ประกาศต่าง ๆ ให้ทันสมัย เป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับของสังคม

สวัสดีเพื่อนๆผนส.3ทุกท่านวันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปอ่านในblog รุ่น2และ4ที่กลับจากดูงานที่ไต้หวันก็กำลังครื้นเครงกันอยู่เหมือนตอนที่เรากับมาจากปักกิ่งใหม่ๆ ก็ดูสนุกสนานกันดีแต่จะซุกซนเหมือนรุ่น3หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ การที่ได้เดินทางท่องเที่ยวด้วยกันฉันเพื่อนก็ทำให้หลายๆคนได้สนิทชิดเชื้อกันไวขึ้น ยังนึกถึงพี่ช่วย(หรือbrother help ของท่านประธานบัญชา)อยู่เมืองไทยเหมือนผ้าพับไว้พอไปเมืองจีนถือธงนำหน้าเลยหมวยๆกรี๊ดกันน่าดู(ทิปไปหลายหยวน)แถมเหล้าให้อีกมีตี๋เล็ก(เจ้าไท)แอบสนับสนุนอย่างเป็นทางการ พวกที่อยู่เมืองไทยดูซ่าๆแจ๋วๆอย่างกำนันบ้านนอกนี่บิ๊กอู๊ดนี่เที่ยบไม่ติด ก็เป็นภาพความทรงจำในอดีตที่ตราตรึงใจไว้มิเคยลืม(สำนวนอาจจะดูลิเกไปหน่อย) อย่างที่เคยพูดไว้เป็นประจำในเรื่องของคนคนหนึ่งได้มาใช้ชีวิตร่วมกันสี่สิบกว่าชีวิตเป็นเวลาหลายเดือนไม่ใช่เรื่องธรรมดานะครับ โบราณท่านว่านี่คือลิขิตของสวรรค์หรือเรียกว่าฟ้ากำหนดให้พวกเรามาเป็นเพื่อนกันฉนั้นก็ต้องร่วมกันรักษาสัมพันธภาพนี้ไว้ให้ยั่งยืนอย่าเอาความแตกแยกเข้ามาในวงผนส.3นี้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหนก็แล้วแต่ ใครเรียนผูกก็เรียนแก้กันเอาเองแล้วก็อย่าลากกองเชียร์เข้าไปมากมันจะยุ่งเป็นลิงแก้แห ดูแล้วมันจะหมดสนุก ขอทบทวนสำนวนนี้อีกครั้งเพื่อเตือนใจ "ไม่มีมิตรภาพใดใด จะคงไว้ได้เท่าการเป็นเพื่อน แม้เนิ่นนานเพียงใดไม่ลบเลือน ความเป็นเพื่อนนั้นคงอยู่ตลอดไป " จบ.

สวัสดีค่ะ

เข้ามาอ่านใน blog ดูเงียบเหงาชอบกล ยังคิดถึงกันอยู่นะ ช่วงนี้พิ่จิ๋นไม่ต่อยว่าง มีงานตลอด เสาร์ อาทิตย์ แทบจะไม่ได้อยู่บ้าน จนสามีค้อนให้แล้ว 25-29 นี้ มีงานคนไทยหัวใจเกษตร ที่ กันตนา มูฟรีย์ทาวน์ อ ศาลายา จ.นครปฐม วันที่ 3-4 ธันวาคม ไปวังน้ำเย็น จ. สระแก้ว

เมื่อวันที่ 18 ที่ผ่านมากได้เจอกับ น้องอ๋อ ที่ อ.วิเศษไชยชาญ ได้มีโอกาสคุยกันพอหายคิดถึง ได้รับน้ำยาล้างจาน กับแก้วน้ำ เป็นของฝากจากน้องอ๋อด้วย แล้ววันที่ 19 ก็พบกับน้องวี มีหลายคนชมว่าผู้จัดการวี ทั้งสวย ทั้งเก่ง แต่น้องวีก็ต้องเหนื่อยอีกเพราะอธิบดี จะไปจัดงานอีกครั้ง ในวันที่ 8 มกราคม นี้ ที่สหกรณ์น้องวีอีก

หนุ่มนก ปากช่อง ประชุมแล้ว ได้เรื่องเป็นอย่างไรบ้าง ก็ส่งข่าวมาใน blog นี้ด้วยก็แล้วกัน

คิดถึงจ๊ะ

สวัสดี ชาว ผนส.ทุกท่าน

ขอชื่นชมทุกๆ ท่านจริง ๆ ที่ส่งข่าวคราวผ่าน blog ถึงกันตลอด แม้ผมจะไม่ได้ร่วมแจมด้วยแต่ก็เข้าอ่านตลอด ก็รู้สึกคิดถึงทุก ๆ คน “ ขอให้ ผนส 3 ของเรายั่งยืนตลอดไป”

เวลานี้ที่เชียงรายหนาวมาก ท่านไหนขึ้นมาเชียงรายจะใช้บริการเรื่องใด บอกได้ครับ

คิดถึง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สวัสดี ผนส ทุกคน

      งานของพี่จิ๋น สงสัยชาวสงขลาและภาคใต้ ไปร่วมงานพี่ไม่ได้แล้ว เพราะหลายพื้นที่ ในจังหวัดสงขลา น้ำท่วมมากเลย และสำหรับที่ผมอำเภอควนเนียงน้ำท่วมทุกตำบล และจังหวักสงขลาประกาศเป็นพื้นที่อุทกภัยแล้ว ส่วนที่บ้านผมพื้นที่โดยรอบท่วมหมด ที่บ้านยังไม่ท่วม แต่น้ำกำลังมาอีกมาก คิดว่าน่าจะท่วม

    และไปประชุมสันนิบาตร ไม่แน่ใจว่าจะไปหรือเปล่า แต่จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว ถ้าไม่ไปก็ต้องเสียเงินเปล่า  ไม่ทราบที่ไหนน้ำท่วมบ้าง

"พอย่างเข้าเขตหน้าหนาว ลมหนาวเริ่มโชยพัดกระหน่ำ" ลมหนาวต้นฤดูกาลได้พัดพาหนุ่มเหนือจากเชียงฮายาเข้ามาสู่blogของชาวผนส.3หลังจากหายหน้าหายไปนาน(สงสัยติดภาระกิจปราบเพลี๊ยกระโดดกัน) ส่วนหนุ่มใต้สุทิศก็วิดน้ำเพลินเลยก็ขอเป็นกำลังใจและขอให้น้ำลดไวๆจะได้มาประชุมได้ทัน(จองตั๋วเรือไว้เผื่อด้วย) ในช่วงประชุมสันนิบาตฯผมไม่อยู่กรุงเทพก็ฝากความคิดถึงพวกเราด้วยผนส.3คงได้พบกันหลายคนโดยเฉพาะท่านประธานบัญชา

วันนี้ขอทักทายแค่นี้ก่อนนะเนื่องจากมีภาระกิจเร่งด่วน ขอให้โชคคดีทุกท่าน..สวัสดี

วันที่ ๒๐ พย. แกนนำ(อดีตผู้แทนเกษตรกร)และว่าที่ผู้แทนเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตร ได้ไปหารือกันที่ สันนิบาติสหกรณ์แห่งประเทศ เป็นครั้งที่ ๘ แล้ว หลังจากเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๑๓ กย.๕๒ ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณท่านประธานสันนิบาติ ฯ ที่เอื้อเฟื้อและอำนวความสะดวก ผู้แทนเกษตรกรทุกคนประทับใจมาก ในช่วงหน้าหนาวนี้ หลายท่านคงหาโอกาสพักผ่อน หากนึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหน ในฐานะคนชัยภูมิ ขอเชิญท่องเที่ยว และสัมผัสกับบรรยากาศแห่งขุนเขา ๑๒ เดือน ๗ ดาว ๙ ตะวัน ที่ "มอหินขาว" จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ ๒๑ พย. ผมและครอบครัวขึ้นไปชมและสัมผัสแล้ว จึงเก็บภาพมาฝากครับ

ขออภัย ผมพยายามทำ(เอารูปลง)หลายครั้ง แต่ไม่สามารถทำได้ ติดตามได้ที่ Googel.com พิมพ์ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

ดาวดวงที่ 2 คืนมหัศจรรย์นอนนับดาวที่มอหินขาว เสาหินมหัศจรรย์ จังหวัดชัยภูมิ

เสาหินยิ่งใหญ่ต้องยกให้ “มอหินขาว” จังหวัดชัยภูมิ ใครได้นอนนับดาวที่นี่จะรู้ว่าพลังมหัศจรรย์บนฟากฟ้าของดาวล้านดวงมีจริง กลุ่มเสาหินสูงใหญ่เรียงรายที่อยู่บนสันเขาภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ ก่อกำเนิดทางธรณีวิทยามาจากแรงยกตัวของเปลือกโลก อีกทั้งแสงแดด จนผุกร่อนมีรูปทรงแปลกตา ณ ยามราตรีเมื่อเหล่าดวงดาวนับล้านดวงโคจรอยู่เหนือกลุ่มหินมหัศจรรย์เหล่านี้ เกล็ดเพชรของทางช้างเผือกเหนือฟากฟ้าก็จะระยิบระยับราวกับอยู่ใกล้แค่เอื้อม

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงเวลา 23.00 น. ถึงราวตี 2

ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ฤดูร้อนราวเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม

จุดชมวิวที่ดีที่สุด : กลุ่มหินมอหินขาวด้านทิศตะวันออก และตะวันตก

เส้นทางการเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 2 ถึง อ.สีคิ้ว ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 201 ถึง จ.ชัยภูมิ แล้วใช้เส้นทางสู่น้ำตกตาดโตนก่อนถึงเล็กน้อยมีทางแยกซ้ายเส้นทางสู่มอหินขาว

สวัสดีครับ เพื่อนๆผนส.3 ท่านผู้อ่านบล๊อคทุกท่าน

นานๆที่คนสหกรณ์จะโผล่มาให้เห็น แต่ก็ซุ่มเข้ามาอ่านบล๊อคบ่อย มาครั้งนี้คงไม่ต้องตกใจนะครับ พอดีได้รับการคัดเลือกให้เป็นสหกรณ์ ตามโครงการพัฒนาคุณภาพการบริหารการจัดการสหกรณ์ (CQA) ของจังหวัดชุมพร ได้มาสัมมนาที่โรงแรมวินเซอร์ สวีท ที่ กทม. ระหว่างวันที่ 23-25 พ.ย. 2552 และอยู่ต่อถึงวันที่ 26 พ.ย.2552 ร่วมประชุมใหญ่ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ที่เมืองทองธานี คิดถึงเพื่อนๆทุกคน ครับ ท่านประธานบัญชา พี่จิ๋น พี่อู๊ด คุณวี คุณอ๋อ คุณสุทิศ ลุงพิณ กำนันบ้านนอก พี่นิก คุณปฎิพล และคนอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวชื่อถึง ครับ ขออภัยครับ ยังไม่ได้รับทะเบียนรุ่นเลยครับ ไม่ทราบว่าจะไปขอรับได้ที่ใคร ช่วยบอกหน่อยครับ สวัสดีครับ

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ......

ช่วงนี้งานยุ่งไปสักนิดหนึ่ง แต่ว่าผมมีปัญหาเล็กน้อยที่จะปรึกษาเพื่อนผู้นำ ทุกท่านดังนี้.

"ผมได้ไปสั่งซื้อสินค้า และชำระเงินค่าสินค้าไว้กำหนดส่งมอบสินค้าตามสัญญาภายในวันที่ 12 ตุลาคม 2552 แต่ก่อนถึงกำหนดส่งสินค้าผมได้ไปตรวจสินค้าที่จะส่ง ปรากฏว่าสินค้าไม่ตรงสเปคกับที่กำหนดในสัญญา ผมขอให้คู่ค้าหาสินค้าให้ส่งให้ผมตามกำหนดสัญญา แต่คู่ค้าไม่ได้ส่งสินค้าในสเปค ตามกำหนดสัญญาให้กับผม ผมทำหนังสือทวงเงินที่ชำระก็ไม่คืนเงินให้กับผมจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่คืนเงินให้ครับ..... " อย่างนี้ท่านๆว่าผมควรจะทำอย่างไรดีครับ การที่คู่ค้ามาโกรธผมและมาต่อว่าผม ผมงงไปหมดแล้วครับ.......ผมขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆนะครับ

ผมได้โทรศัพท์ถามป้าเครือ สุรินทร์แล้ว แกพูดได้ดีมาก "ขนาดป้าแกส่งสินค้าไปแล้วผิดสเปค แกยังต้องไปรับสินค้าคืน และหากว่ารับเงินลูกค้ามาแล้วก็ต้องรีบนำเงินโอนคืนให้แก่ลูกค้าทันที ไม่ต้องให้ลูกค้าทวงหรอกครับ......." อย่างนี้ซิเป็นนักธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและน่าชมเชย น่าสนับสนุน และร่วมธุรกิจด้วยจังครับ......ขอปรบมือให้ครับ

"อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง" สุภาษิตนี้ไม่เชยครับ......แสบมากครับ

ขอขอบคุณเพือนๆครับ

นก ปากช่อง

สวัสดีค่ะ

ดีใจจังเลยที่คนสหกรณ์เข้ามาทักทาย ที่ทวงทะเบียนรุ่นนั้น สำหรับชาวใต้ ถ้าจำไม่ผิดได้ฝากไว้กับคุณสุทิศให้ไปช่วยดำเนินการต่อ คุณสุทิศเข้ามาใน blog แล้ว ช่วยบอกคนสหกรณ์ด้วยนะ ได้ข่าวมาว่าจะไปเยียมเยียนที่นิคม มิใช่หรือ ทวงกันเอกเองนะ คิดถึงหนุ่มปักษ์ใต้ ทุกคนค่ะ

คนชัยภููมิช่วยไปเที่ยวมอหินขาวแล้ว น่าไปเที่ยวจังเลยนะค่ะ ถ้าได้มีโอกาสไปนอนนับดาวกับคนรู้ใจ เหมือนกับที่บิ๊กอู๊ดชวนคนที่บ้านไปด้วยแล้ว คงมีความสุขดีนะ

ช่วงนี้พี่แจ้หายไปไหน ช่วยตอบคำถาม นก ปากช่อง ด้วย เผื่อมีวาทะอะไรดี ๆ ใครเป็นคู่กรณี ก็รีบปรับความเข้าใจและคุยกันให้รู้เรื่องเสีย เพื่อน ๆ เอาใจช่วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามิตรภาพคงกลับคืนมา

ขอเชิญชวนชาวสหกรณ์ทุกท่านไปร่วมงาน คนไทยหัวใจเกษตร ที่ กันตนามูฟรีย์ทาวน์ อ.ศาลายา จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 26-29 นี้นะค่ะ มีสินค้าเชิงเกษตร และ 10 ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ที่เข้าประกวดมีให้ชม และจำหน่ายด้วยนะ เราชาวสหกรณ์ไปอุดหนุนกันหน่อย ที่สำคัญไปเป็นกำลังใจให้ด้วย

วันนี้ขอคุยแค่นี้ก่อน สวัสดีค่ะ

      ทะเบียนรุ่นในส่วนของ  ภาคใต้ทั้งหมด  อยู่ที่ผมครับพี่ วันก่อนพี่มาเยี่ยมผมลืมให้ ขอโทษด้วย  และสำหรับคนอื่นๆ ยังไม่ได้ให้เหมือนกัน ต้องขอโทษด้วย เดียวจะจัดส่งไปให้ 

     

....การทำการค้ามีการทำสัญญาเห็นพ้องต้องกันตามที่ต้องการทั้งสองฝ่าย หากผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งหรือทั้งหมดก็ควรเจรจากันก่อนหากสุดท้ายไม่สามารถบังคับคู่กรณีให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ ก็ให้ใช้อำนาจศาลเป็นผู้ไกล่เกลี่ยหรือออกคำสั่งชี้ขาดเป็นที่ยุติ เราไม่ควรใช้ระบบปิงปอง(โต้กันไปโต้กันมา ตามทฤษฏี dialogue) ที่พวกเราเคยเล่าเรียนมามันจะหาข้อยุติไม่ได้ในแนวทางนี้ อ่านรายละเอียดของนก ปากช่องแล้วก็น่าใช้วิธีทางนิติศาสตร์เป็นแนวทางที่ดีที่สุดเมื่อใช้หลักทางรัฐศาสตร์ไม่ได้ผล ก็ว่าไปตามหลักการนะครับพี่จิ๋น(อันนี้ไม่มีนอกไม่มีใน) สุดท้ายก็อย่างที่พี่ว่าควรปรับความเข้าใจและคุยกันให้รู้เรื่องเสีย เพื่อมิตรภาพจะกลับคืนมาแน่นอน..สวัสดีขอให้ฝันดี...ราตรีสวัสดิ์พี่น้องผนส.3ทุกท่าน

ถึงลูกศิษย์ ผนส. รุ่น 4 ทุกคน

            ก่อนอื่นผมได้เห็นรูปภาพ ที่พวกเราได้ไปศึกษาดูงาน ที่ประเทศไต้หวันแล้ว  เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมาก และ ขอขอบคุณ ที่ได้ดูแล ทีมงานของผม คุณเอราวรรณ เป็นอย่างดี

งานสำคัญอีกอันหนึ่ง นอกจากการทำ Paper โครงงาน ของแต่ละคน ก็คือ การจัด  Public Seminar ซึ่ง      วันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. นี้ ผมจะแวะเข้าไปให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ซักเล็กน้อย แต่หลักการก็คือ

  1. ต้องเป็นหัวข้อที่เกี่ยวกับสหกรณ์ของเรา แต่ก็ต้องเชื่อมโยง ไปสู่ภายนอกด้วย เช่น เรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
  2. ต้องเชิญ ผู้ใหญ่ข้างนอกมาพูด แต่ขณะเดียวกัน เราก็ต้องมีตัวแทนจาก ผนส.รุ่น 4 ขั้นต่ำ 2 คน และจะมีผมเป็นประธานในการสัมนาครั้งนี้
  3. คราวนี้ ให้เน้นสื่อมวลชนให้มากๆ เน้นแขกของพวกเราด้วย เช่น กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงการคลัง , แบงค์ชาติ หรือ หน่วยงาน NGO ที่เกี่ยวข้องและเห็นการทำงานของเรา
  4. เวลาในการเตรียมตัวมีไม่มากแล้ว ให้ปรึกษากับประธานรุ่น 3 ด้วย และเชิญ ผนส. ทั้ง 3 รุ่น มาร่วมงานด้วย
  5. ทีมงานผม ปุ้ย กับ เอ๋ เขาเคยมีประสบการณ์ คงจะช่วยได้

ศาลท่านคงไม่ฟังคำเพียงฝ่ายเดียว พยานบุคคล และหลักฐานที่เป็นเอกสาร น่าจะมีน้ำหนักน่ารับฟังมากกว่า

ผมไม่เห็นด้วยเลยที่ผู้นำสหกรณ์ นำเอาเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์มาลงในBLOG อ่านแล้วไม่ประทับใจเลย เข้าใจว่า คู่กรณีอาจเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเป็นคู่สัญญาระหว่างกัน แนะนำให้แก้ไขปัญหาทางรัฐศาสตร์ มิใช่ นิติศาสตร์ เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เพราะผู้นำ ต้องลดความขัดแย้ง ต้องไม่สร้างความแตกแยก

กำนันบ้านนอกรายงานตัว อยากบอกเพือนผนส.3 ว่าถ้าจะนัดพบกินข้าวกับน้องผนส. รุ่น 4ละก็คงไม่ต้องรอให้ว่างทุกคนถ้ารอคงไม่ทันน้องคงจบก่อน ป .ล.รักคิดถึงเพือนทุกคนด้วยความจริงใจ

ป้าเครือ ขอพูดด้วยคนที่ถูกพาดพิงถึง "ในการทำธุรกิจโดยเฉพาะในสังคมไทย เพื่อน ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยี่ง เพราะหากได้เพื่อนทีดีแล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยในการทำมาค้าขายของเราเป็นอย่างดี" กำนันบ้านนอกป้าเครืออยากไปทานอาหารที่เมืองสุพรรนจังเลยคะนัดเพื่อนๆได้กี่คนแล้วบอกด้วย วันนี้ตั้งใจจะไปประชุมสันนิบาตสหกรณ์เพราะเป็นผู้แทนสหกรณ์แต่ก็ไปไม่ได้ใครได้เป็นผู้ตรวจสอบกิจการคะคุณแจ้

ขอแสดงความยินดีกับ ผนส.ที่ได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่  สสท.

ให้เป็นคณะผู้ตรวจสอบกิจการ ประจำปี 2553

1.นายดิเรก  นาคดิลก

2.รศ.ฉายศิลป์  เชี่ยวชาญพิพัฒน์

3.นายสมคิด  ปัญญาแก้ว

และ ผนส.4  ท่านใดยังไม่ส่งโครงการ อ.ยม  ให้ปฎิบัติดังนี้ครับ

คงเหลืออีกไม่เกิน 20 โครงการ ใช้การโค๊ช์อีกไม่เกิน 2 ครั้งคือในวันที่ 27-28 พ.ย. นี้ หากไม่มีอะไรแก้ไขมาก ก็ถือว่าเสร็จและส่งได้เลย แต่หากมีการแก้ไขก็พอมีเวลาแก้ไขให้เสร็จก่อน 5 ธ.ค.นี้ และส่งต้นฉบับ3 ชุด และส่งเป็น Soft file ให้พิทยาลงกรณฯ ภายในวันที่ 11 ธ.ค. นี้ หากสามารถจบครบทุกคนได้ภายในวันศุกร์ที่ 27 นี้ ก็ยิ่งดี วันเสาร์ผมจะได้ไม่ได้ต้องไป ครับ

สำหรับผู้ทรงคุณวุฒิประจำรุ่น คือผู้ที่จบปริญญาเอกแล้ว ผมคิดว่าส่งผ่านตรงไปที่พิทยาลงกรณฯ ได้เลย โดยขอให้ใช้แบบฟอร์มโครงการที่กำหนดไว้ ส่งต้นฉบับโครงการ 3 ชุด และส่งเป็น Soft file ให้พิทยาลงกรณฯ ภายในวันที่ 11 ธ.ค. นี้

สรุป คือประมาณ 27-28 นี้ ใครยังไม่เรียบร้อย ก็นำโครงการมาหารือกันครับ ยกเว้นผู้ทรงคุณวุฒิที่ จบ ปริญญาเอกแล้ว  และส่งโครงการโดยขอให้ใช้แบบฟอร์มโครงการที่กำหนดไว้ส่งต้นฉบับ3 ชุด และส่งเป็น Soft file ให้พิทยาลงกรณฯ ภายในวันที่ 11 ธ.ค. นี้

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส.

ขอรายงานการประชุมร่วม ผนส. ครั้งที่ 1

                                            รายงานการประชุม 

                                              ครั้งที่  1 / 2552 

                             เมื่อวันที่ 26  พฤศจิกายน  พ.ศ.2552 

                             ณ   ห้อง VIP   Hall 9 เมืองทองธานี

 

ผู้มาประชุม      1.  พ.อ.วารุณี         มงคลฤดี          ผนส.1        

                       2.  คุณนพคุณ          ยังเอี่ยม          ผนส.2

                       3.  คุณอนนท์            ศุภตระกูล      ผนส.2

                       4.  คุณวิรัตน์             พรมสี            ผนส.2        

                      5. คุณอดิศักดิ์          วชิระสัมพันธ์  ผนส.3

                      6.  คุณภัททรัตน์        แนวพานิช      ผนส.3             

                      7.  คุณเกษตร           มุกข์ดา           ผนส.4

                      8.  คุณประสิทธิ์        บุญสม             ผนส.4

                      9.  คุณมงคล            เที่ยงอยู่           ผนส.4 

                   10.  คุณสมคิด            ปัญญาแก้ว      ผนส.4

ผู้เข้าร่วมประชุม 

                    1.  ดร.โชคชัย          สุทธาเวศ          ผอ.สทท. 

                    2.  คุณอรนุข            กันภัย              สสท.                  

                   3.  คุณสมพร            ตันกุล              สสท.  

 เริ่มประชุมเวลา       14.30  น

ก่อนเริ่มประชุมคุณอดิศักดิ์  วิชระสัมพันธ์ เปิด VCD  แนะนำการท่องเที่ยว จ.สตูล  ให้ ผนส. ทุกท่านได้ชมแหล่งท่องเที่ยวใน จ.สตูล

เริ่มการประชุมโดยมอบหมายให้คุณอดิศักดิ์ ฯ  เล่าความเป็นมาโครงการสัมมนาสัญจร ภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ สู่โลกอิสลาม และเพื่อช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ ผู้ประสบภัยพิบัติ ตามแนวทางสหกรณ์ 

ที่ประชุมสรุปแนวทางในการดำเนินการต่อไป 

-         มอบหมายให้คุณอดิศักดิ์  วชิระสัมพันธ์  และเครือข่ายในจังหวัดใกล้เคียง เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการร่างโครงการที่จะทำ  เพื่อดำเนินการในการจัดหางบประมาณ โดยนำเสนอให้สันนิบาติ  และกรมส่งเสริมสหกรณ์  รับทราบการทำโครงการ ของ ผนส. ทุกรุ่น 

 

-         ที่ประชุมสรุปที่จะใช้หัวข้อในการดำเนินการ การทำโครงการในครั้งนี้ โดยใช้ชื่อว่าการดำเนินการเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์มุสลิม เพื่อดำเนินการด้านการค้าในตลาดโลกมุสลิมในอนาคต

และ ผนส. 1 ถึง ผนส. 4 จะร่วมทำกิจกรรมการร่วมกัน ในโครงการตามแนวทางพระราชดำริ ป่าชายเลน

-         ผอ. สสท.  รับทราบ จะนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสันนิบาติ  เพื่อพิจารณาการจัดหางบประมาณ   ตามที่ผู้แทนสหกรณ์ เสนอในที่ประชุมใหญ่ ให้มีการแก้ไขในเรื่องการวางแผนค่าใช้จ่ายในการอบรมสัมมนา

 

ผนส. 4 จะนำผลการประชุม  แจ้งให้ประธานรุ่นทราบ และจะดำเนินการในเรื่องหาผู้แทนในการเข้าร่วมประชุมในครั้งต่อไป

 

-         ก่อนปิดการประชุม  ผู้แทน ผนส. 2  แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ผนส. 2 จะมีกิจกรรมในการมอบสิ่งของให้ผู้ต้องขังหญิง ที่เรื่อนจำลาดยาว  กรุงเทพฯ  ในวันที่ 17 มกราคม  2553  จึงขอบอกบุญมายัง ผนส. ทุกรุ่น  ประธาน ผนส. 2 จะทำหนังสือถึง ผนส. ทุกท่าน  ประมาณต้นเดือนธันวาคม 2552

 

ปิดประชุมเวลา  15.30 น.

ผมขอขอบพระคุณ แขกผู้มีเกียรติ ท่านผู้อำนวยการ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ สสท. และท่านผนส ทุกรุ่น

ทุกท่านที่ได้กรุณาสละเวลา (แม้ว่าจะช้าไปเป็นอย่างมาก) ในการเข้าร่วมประชุม ณ ห้อง วีไอพี 1 เมืองทองธานี ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 เป็นประวัติศาสตร์ ที่จะต้องบันทึกไว้ เพราะเป็นครั้งแรกในการดำเนินการร่วมกัน เพื่อวางแนวทางและโครงสร้างในการดำเนินกิจกรรมร่วมกัน ในการดำเนินการจัดโครงการสัมนาสัญจรภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงเครือข่าย และแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ รวมทั้งการวางแนวทางร่วมโครงการพระราชดำริป่าชายเลน และจะได้ดำเนินงานร่วมกันอย่างเหนียวแน่น ด้วยความเสียสละจริงใจและจะประสานงานกันให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อวงการสหกรณ์ และสมาชิกสหกรณ์ ประชาชนและประเทศชาติยั่งยืนนานตลอดไป

นก ปากช่อง

บล็อกผู้นำรุ่น3อ่านแล้วน่าเบื่อมีแต่ความขัดแย้งไม่สร้างสรรค์

นก ปากช่อง รายงานตัวครับ.....

ผมว่าท่านที่ไม่แสดงตนให้ความคิดเห็นที่ดีมากเลยครับ แต่ว่าขอให้ท่านลองพิจารณาดูให้ดีๆนะครับ ผมว่าการแสดงออกของผนส.3 อย่างตรงไปตรงมาเป็นการแสดงออกที่ได้ทั้งเรื่องที่เป็นประสพการณ์จากการที่ได้ทำงานจริง และทำการค้าจริง และเป็นสิ่งที่จะได้นำมาเป็นบทเรียนในอนาคตต่างหาก บนโลกใบนี้ก็ต้องมีทั้งการค้าและการดำเนินชีวิตที่เป็นทั้งจริงและไม่จริง แต่ละท่านก็มีประสพการณ์มามาก และการที่เรามาร่วมกันแสดงความคิดเห็นด้วยความจริงใจ(มิใช่ความขัดแย้ง แต่ว่าเป็นการปลุกกระแสความคิดเห้นทั้งในการค้าและข้อกฎหมายและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจต่างๆ ผมว่าน่าสนุกดีนะครับ....) ซึ่งโลกแห่งความเป็นจริงมนุษย์เราต้องเชื่อมโยงและมีสัมพันธ์ต่อกันครับ บางครั้งก็เห็นตรงกัน บางครั้งก็เห็นขัดแย้งกัน และหากว่าเป็นไปได้ขอความกรุณาให้ท่านนักวิชาการและเพื่อนๆ ในรุ่น ผนส.3 ออกมาแสดงความรู้แบ่งปันให้เพื่อนๆบ้างก็จะเป็นการดี ในเชิงสร้างสรรค์ของการประยุกต์นำไปใช้ในการดำเนินกิจการในอนาคตต่อไปครับ

นก ปากช่อง

ผ่านพ้นไปอีกปี สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๕๒ ณ อิมแพ๊ค เมืองทองธานี วันนั้นโชคดีมีโอกาสพบ ผนส.๓ หลานท่าน เช่น คุณอ๋อ น้องกุ้ง เสี่ยสมพงษ์ คุณสุทิศ พี่บุญช่วย ป้าเครือ ม้าเร็วพี่ธนะ คุณสุรชัย ฯลฯ ขอบคุณทุกท่านที่อยู่ประชุมช่วยยกมือ ในการเลือกตั้งผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ ได้คะแนนเป็นอันดับ ๔ จากผู้สมัครทั้งหมด ๖ คน ถึงแม้จะพลาด ๑ ใน ๓ ก็ตาม ประชุมใหญ่สันนิบาติฯ ปีหน้าคงต้องรบกวนทุกท่านอีกในการเลือกตั้งคณะกรรมการสันนิบาต ฯ ชุดใหม่

การประชุมใหญ่สามัญ ฯ สันนิบาตฯครั้งนี้ ผมในฐานะว่าที่ผู้สมัครผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ มีประเด็นที่สงสัยและตั้งข้อสังเกตไว้หลายเรื่อง ซึ่งตรงกันกับผู้แทนสหกรณ์ที่อภิปรายหลายท่าน แต่โดยมารยาทผมจึงไม่อภิปราย ในตอนท้ายผมต้องขอบคุณ และชื่นชมในความกล้าแกร่งของคุณ ธนะ บำรุงแสง ผนส.๓ ของพวกเรา ในฐานะผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ ได้ชี้แจงผลการตรวจสอบการดำเนินงานและการบริหารงาน แต่เสียดายเป็นช่วงจังหวะที่ผู้แทนสหกรณ์ลุกออกจากห้องประชุมเพื่อไปทานอาหารเที่ยง ซึ่งมีประเด็นที่สำคัญ(มากๆ) ในขณะที่ผู้ตรวจสอบกิจการฯ อีกคนที่นั่งข้าง ๆ กัน ทำอะไรไม่ถูก

ประเด็นและข้อสังเกตุ

๑. งบการเงิน ค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน /การบริหารงานทั่วไป(กรรมการ) เพิ่มขึ้นมาก เปรียบเทียบปี ๒๕๕๒ จำนวน ๔.๗๗๐ ล้านบาท ปี ๒๕๕๑ จำนวน ๒.๙๐๖ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๑.๘๖๔ ล้านบาท ซึ่งอาจเกิดจากการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หลายคณะ การเบิกค่าเบี้ยประชุม การเบิกจ่ายค่าพาหนะ และค่าที่พัก อาจจะซ้ำซ้อนกัน (คำชี้แจงของกรรมการและเจ้าหน้าที่ ไม่ชัดเจนฟังไม่ขึ้น )

๒. การรายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ โดยปกติจะต้องรายงานผลการตรวจสอบ ฯ ในวาระต่อจาก ระเบียบวาระรายงานผลการดำเนินงานประจำปี๒๕๕๒ แต่ข้อเท็จจริง ปรากฏว่าผู้ตรวจสอบ ฯ ต้องขอเวลารายงานในวาระอื่น ๆ ภายหลังการเลือกตั้งผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ (ต้องยึดหลักธรรมมาภิบาล)

๓. การเลือกตั้งผู้ตรวจสอบกิจการ ฯ ถึงแม้ระเบียบสันนิบาต ฯ กำหนดให้เลือกตั้งผู้ตรวจสอบกิจการโดยใช้วิธีโดยตรงและเปิดเผย ฯลฯ สันนิบาต ฯ ควรกำหนดวิธีการเลือกตั้งที่โปร่งใสกว่านี้ การนับคะแนนโดยการยกมือนั้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอาจยกมือเกินกว่าที่กำหนด หรือกรรมการเลือกตั้งอาจจะมีความผิดพลาดในการนับคะแนน หรืออาจจะมีการลำเอียงเป็นคุณเป็นโทษต่อผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง

๔. ประเด็นที่ผู้ตรวจ ฯ (คุณธนะ) รายงานต่อที่ประชุม ได้แก่ สัญญาการจ้างและมาตรฐานวัสดุ อุปกรณ์ และกรรมการสันนิบาตฯมีความขัดแย้ง ถึงขั้นฟ้องดำเนินคดีต่อกัน ฯลฯ

สุดท้าย ขอบคุณผู้แทนสหกรณ์จากทั่วประเทศ ครับ

''ท่านไม่แสดงตน'' ผมกำนันบ้านนอกอยากให้ท่านแสดงตน ไม่ต้องแอบแสดงความคิดเห็น ด้วยความนับถือกำนันบ้านนอก

กำนันบ้านนอก เริ่มรายงานตัวแล้วดีใจมากครับ.....

ผมเห็นว่าเพื่อนๆขอความกรุณาเข้าBLOG มาแสดงความคิดเห็นและร่วมกันเสนอความคิดและแบ่งปันความรู้กันด้วยก็จะเป็นการดีมากนะครับ ว่าไงครับพี่แจ้ เงียบไปเลย บุญตรง คนเชียงฮาย สุทิศ หนุ่มใต้ และเพื่อนๆอีกหลายคนที่ยังไม่ได้เอ่ยชื่อถึง ไม่ทราบว่า หายไปไหนครับ หากว่าว่างเว้นจากงานแล้วพูดคุยกันได้นะครับ

ขอบคุณครับ

นก ปากช่อง

...ไม่ได้หายไปไหนไม่อยู่กรุงเทพหลายวัน ไปสัมมนาเรื่องการเพิ่มผลผลิตในองค์กรที่นครนายกเลยไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือเข้าบล็อกของพวกเราเสียหลายวัน จากบ้านไปหลายวันกลับมาที่ไรเจอแต่พวกแอบจิตเข้ามาป่วนอยู่เรื่อยก็ดีเหมือนกันถือว่าแก้เซ็งได้ระดับหนึ่งก็เชิญท่านเข้ามาบ่อยๆอย่าเบื่อไปเสียก่อนก็แล้วกัน แต่การเสนอความคิดเห็นในบล็อกต่างๆก็ควรมีมารยาทในการนำเสนอด้วยให้เกียรติ์ในความคิดเห็นซึ่งกันและกัน การมีความเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครจะเห็นพ้องต้องกันไปเสียทุกเรื่องทุกราว ไม่เห็นด้วยก็แย้งมาอย่าใช้วาจาสามหาวว่าน่าเบื่อน่าดูแคลนไม่สร้างสรรค์ มันเป็นคำพูดของคนถ่อยที่ไม่น่ามีอยู่ในสารระบบแวดวงของผู้นำสหกรณ์จะขั้นต่ำหรือขั้นสูงก็ตาม พวกเราก็อย่าถือเอาเป็นอารมณ์ขับเคลื่อนบล็อกของรุ่นเราให้เดินหน้าต่อไป โบราณว่า"ยิ่งใหญ่ดั่งภูเขาทอง ย่อมมีหมามาเยี่ยวรดบ้างเป็นธรรมดา" จบ.

อรนุช (ผู้ประสานงานจัดอบรม ผนส.รุ่น 4)

เรียน ผู้นำสหกรณ์ รุ่นที่ 1-4

ตามที่ได้มีการประชุมปรึกษาหารือ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ในเรื่องการจัดสัมมนาเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์มุสลิม เพื่อดำเนินการด้านการค้าในตลาดโลกมุสลิมในอนาคต และ โครงการเชื่อมโยงกิจกรรมตามแนวทางพระราชดำริ ป่าชายเลน เต็มรูปแบบฯ นั้น

ซึ่งจากการประชุมผู้สหกรณ์ รุ่นที่ 4 ในวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ได้รับมอบหมายเป็น พลตรี ดร.วีระ วงษ์สรรค์ (ประธานรุ่นที่ 4) คุณศุภาภรณ์ ถาปนศิริ และรศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา เป็นตัวแทนของรุ่นที่ 4 ซึ่งจะนัดประชุมขับเคลื่อนโครงการกันเมื่อไหร่ ก็นัดมาได้เลยนะคะ จะได้ประสานงานด้านสถานที่ให้คะ

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อนผนส.

ผมมีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่งที่อยากจะให้อ่านในสภาวะเช่นนี้

เรื่องของน้องคุ้กกี้ ที่สุวรรณภูมิ 

          สาวน้อยคนหนึ่งนั่งรอเวลาออก ของเครื่องบิน ในห้อง  Boarding Room  ที่สนามบินสุวรรณภูมิ  ขณะที่ต้องนั่งรอนานหลายชั่วโมง เธอตัดสินใจซื้อหนังสือมาอ่าน  พร้อมคุ้กกี้  สำหรับทานเล่นอีกหนึ่งถุง  เธอนั่งอย่างสบายในเก้าอี้แบบ  Armchair  ในห้อง  Vip   สนานบินนั้น  พร้อมทั้งอ่านหนังสือ และทานคุ้กกี้ไปอย่างมีความสุข 

         ข้างถุงใส่คุ้กี้มีชายหนุ่มนั่งอยุ่พร้อมทั้งอ่านแมกกาซีนไปด้วย  เมื่อเธอหยิบคุ๊กกี้ขั้นมาทานหนึ่งชิ้น  ผู้ชายคนนี้ก็หยิบขึ้นมาทานอีกหนึ่งชิ้นเช่นกัน เธอรู้สึกอึดอัดไม่พอใจมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา  ได้แต่คิดในใจว่า ผู้ชายคนนี้คง  ประสาทไม่ดี  ถ้าอารมณ์ไม่ดีคงได้ซัดไอ้ผู้ชายคนนี้เข้าให้แล้ว  กล้าดียังไงมาหยิบคุ้กกี้ของเราไปกิน 

          ในทุกครั้งที่เธอหยิบกินหนึ่งชิ้น  เจ้าผู้ชายคนนี้ก็หยิบอีกหนึ่งชิ้นเช่นกัน  นี่มันกวนโมโหชัด ๆ  เธอได้แต่คิด  เพราะไม่อยากโวยวายให้เกิดปัญหากับไอ้แค่คุ้กกี้ถุงเดียว    ในที่สุดก็เหลือแค่คุ้กกี้เพียงชิ้นเดียวเธอคิดว่า “ดีล่ะจะดูซิไอ้เจ้าผู้ชายคนนี้จะทำอย่างไรต่อไป”    และแล้วชายหนุ่มคนนั้นก็หยิบมันขึ้นมา แบ่งออกเป็นสองส่วน และส่งเครื่องหนึ่งให้กับเธอ    โอ๊ะ... นี่มันเกินไปแล้วนะ เธอรู้สึกโกรธอย่างมาก เธอลุกขึ้นคว้าหนังสือ และข้าวของส่วนตัว  แล้วเดินออกจาก  Boarding Place    แห่งนั้นทันที  เมื่อเธอได้ที่นั่งบนเครื่องบิน ก็หยิบกระเป๋าถือออกมาเปิดหยิบแว่นกันแดด ออกมาสวม  ทันใดนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ อย่างมาก  ที่ได้เห็นถุงคุ้กกี้ที่ยังไม่ได้เปิดวางอยู่ขางใน  เธอรู้สึกอับอายอย่างมากเธอเพิ่งรู้ว่า เธอทำผิดพลาดไปอย่างมหันต์

          เธอลืมว่าคุ้กกี้ที่ซื้อมาถุงนั้น เธอได้ใส่ไว้ในกระเป๋าถือ   ชายหนุ่มคนนั้น  เอื้อเฟื้อแบ่งคุ้กกี้ให้เธอครึ่งหนึ่งโดยไม่รู้สึกโกรธหรือรู้สึกยุ่งยากใจแต่อย่างใด  แต่ในขณะเดียวกันเธอกลับโกรธ โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง เมื่อคิดว่าจะต้องแบ่งคุ้กกี้ครึ่งหนึ่งกับชายหนุ่มผู้นั้น  ขณะนี้เธอไม่สามารถที่ แม้แต่จะอธิบาย หรือกล่าวคำขอโทษ    ม

มีสิ่งสำคัญอยู่ 4 ประการ  ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ

 ก้อนหิน    เมื่อได้ขว้างออกไปแล้ว

คำพูด    เมื่อได้พูดออกไปแล้ว

เวลา   เมื่อหมุนผ่านพ้นแล้ว

โอกาส   เมื่อได้สูญเสียมันไป 

ทุก ๆ อย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  จะผ่านเข้ามาแล้ว ก็ผ่านไปอย่างนี้เสมอ จะหลงเหลืออยู่บ้างก็เพียงร่องรอยของความทรงจำ  ฉะนั้นจงสร้างร่องรอยแห่ความทรงจำที่ดี  พูดบวก เพราะจะทิ้งรอยแห่งความชื่นชม 

ดูแลสุขภาพกาย  ใจ  ให้ดีเพราะจะชราแต่แข็งแรง  และจงสร้างความสำเร็จให้แก่ชีวิต  เพราะยังมีโอกาส

ยังอยู่นะ แต่ตอนนี้มีงานยุ่งหน่อย เตรียมงานวันที่ 5 ธันวามหาราช งานศึกษาดูงาน  วันที่ 11-12 งานกิจกรรมปีใหม่  วันที่ 30 ต้องขออภัยจริงที่ไม่ได้เข้า บล๊อก แต่เข้ามาอ่านทุกวัน  และวันที่ 30 ก็ต้องขึ้นไปปีใหม่ที่กรุงเทพ

 สำหรับเรื่องโครงการทางใต้(สตูล)ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ก็อยากเสนอ คือ การไปซื้อของที่ลังกาวี กับหาดใหญ่ ผมว่าที่หาดใหญ่บางสิ่งถูกกว่าตั้งเยอ หากโครงการจะลงใต้จริงขอเสนอให้ไปนอนสตูล 1 คืน มานอนหาดใหญ่ 1 คืน

เศรษฐกิจพอเพียงจะดังทั้งโลก

พุธ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๒

หลังจากนายจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช พ้นตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ปัญหาของโลกด้านพลังงานก็ลดน้อยถอยลงไปอย่างคาดไม่ถึง หลายประเทศที่เคยเกรงอกเกรงใจอเมริกา ไม่กล้าเสนอเทคโนโลยีใหม่ด้านพลังงานที่ตนแอบพัฒนาคว้าวิจัยไว้เป็นเวลานาน ก็กล้าโชว์โผล่ข้อมูลออกมาในห้วงช่วงนี้ ทำเอาบารมีของชาติตะวันออกกลางหมดหดลงไป เพราะความสำคัญของน้ำมันซึ่งเป็นสมบัติใต้ดินของกลุ่มประเทศตะวันออกกลางกำลังลดความสำคัญลงไปเรื่อยๆ  ในไม่ช้า โลกจะถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไฮโดรเจน

ผู้อ่านท่านที่อยากทราบว่า ในอนาคตไฮโดรเจน หรือเซลล์เชื้อเพลิงจะเข้ามาแทนที่น้ำมันได้อย่างไร กรุณาเข้าไปดูภาพยนตร์ สารคดีความยาวประมาณเรื่องละ ๓๐ นาทีได้ที่เว็บไซต์  nitipoom.com เมนู presentation/ Balance TV6 ซึ่งเป็นภาพยนต์ที่ผมได้มาจากการไปเรียนรู้ดูงานที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว

พลังงานไฮโดรเจน และพลังงานทดแทนประเภทอื่นทำให้อภิพญามหานครใหญ่ที่สุดของตะวันออกกลางล้มทั้งยืนครืนลงมา ผู้อ่านท่านคงทราบแล้วนะครับว่า สิบปีที่ผ่านมา โลกทั้งใบจ้องมองไปที่สหรัฐอรับเอมิเรตส์ด้วยความทึ่ง การก่อสร้างเกิดขึ้นระเบิดเถิดเทิงในเมืองอาบูดาบี อัจมาน ดูไบ ฟูไจราห์ ราสอัลไคมาห์ ซาร์จาห์ และอุมม์อัลไกไวน์ ซึ่งเมืองหลวงแห่งรัฐทั้งเจ็ดของสหรัฐอรับเอมิเรตส์

พลังงานใหม่ทำให้มหานครดูไบซึ่งได้ชื่อว่ามั่นคงที่สุดทางด้านการเงินของโลกมีปัญหา ขนาดมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ของโลก ยังประกาศปรับลดความน่าเชื่อถือของบริษัทต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับดูไบลงไป

 มูดี้ส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือของบางบริษัทของดูไบไปสู่สถานะ Junk หรือ ขยะ ซะด้วยซ้ำไป บริษัทใหญ่อย่างบริษัทดูไบเวิลด์ บริษัทนาคีล บริษัทลิมิทเลส ฯลฯ พวกนี้เดี้ยงหมด เดี้ยงขนาดต้องเลื่อนการชำระหนี้กันแล้วในขณะนี้

หากผู้อ่านท่านตามเศรษฐกิจโลกอย่างลึก ท่านจะพบว่าขณะนี้มีนักวิเคราะห์ชั้นนำจำนวนไม่น้อยทำนายทายทักว่า ต่อไปไม่ช้า จีนเองก็จะมีปัญหา เพราะจีนมุ่งทุนนิยมมากเกินไป ทุกอย่างของจีนในปัจจุบันทุกวันนี้เป็นความต้องการเทียมทั้งนั้น ของเทียมยืนยงคงกระพันอยู่ในโลกได้ไม่นานดอกครับ

ทำไมเกาหลี ญี่ปุ่น และไต้หวันยังคงยืนยงอยู่ได้ ผู้อ่านท่านที่เคารพ หน้าฉากของสามประเทศนี่คือทุนนิยมแต่แท้ที่จริง ประเทศเหล่านี้มี ระบบสหกรณ์เข้มแข็งมาก ขณะที่เขียนคอลัมน์ฉบับวันพุธ ผมยังอยู่ที่เกาหลีใต้ วันเวลาที่ผ่านมา ผมไปดูงานที่ตลาดสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลการัคดง ซึ่งเป็นตลาดสดของเทศบาลแห่งมหานครโซล การขายสินค้าการเกษตรที่นี่ตัดพ่อค้าคนกลางออกไป ชาวไร่ชาวนาเกาหลีเป็นผู้กำหนดราคาสินค้าเกษตรและอาหารทะเลด้วยตัวเอง

ยังไปเยือนพิพิธภัณฑ์เกษตรกรรม ขบวนการเซมาอึลอุนดง ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาหมู่บ้านของเกาหลีที่เริ่มในสมัยประธานาธิบดีปักจองฮี ฯลฯ  ฟังบรรยายสรุป และได้ไปสอบถามตามข้อมูลดู ก็จึงถึงรู้แท้แน่ชัดว่า เกาหลี ญี่ปุ่น และไต้หวัน ประเทศพวกนี้มีพื้นฐานสหกรณ์ที่เข้มแข็งมาก ผู้คนในชนบทของเกาหลี ญี่ปุ่น และไต้หวัน เชื่อในหลักการช่วยเหลือตนเอง และร่วมมือช่วยเหลือกัน มีอุดมการสหกรณ์สูง และนำหลักสหกรณ์มาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเข้มข้น ทำให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม และที่ระบบสหกรณ์ในประเทศเหล่านี้มีบทบาทมากเลยก็คือ การอำนวย ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจให้กับผู้คนในชนบท

ในโลกของเราใบนี้นะครับ ระบบเศรษฐกิจที่ใช้กันอยู่ตามประเทศต่างๆ บ้างก็ขับเคลื่อนโดยภาครัฐ หรือ public sector บางแห่งก็ดำเนินการโดยภาคเอกชน หรือ private sector ไม่ว่าจะทุนนิยม หรือสังคมนิยมจ๋า ก็ไม่ยั่งยืนทั้งนั้น สำหรับผม สิ่งที่จริงแท้แน่นอนและยั่งยืนก็คือ ภาคสหกรณ์ หรือ cooperative sector

นิติภูมิขอเป็นนอสตราดาโม้หน่อยเถิด ต่อไปในอนาคตอีกไม่นาน ประเทศทุนนิยมจ๋าจะโงนเงนโอนเอน จะล้มมิล้มแหล่ แต่ถ้าในชนบทของประเทศไหนมีระบบสหกรณ์เข้มแข็ง ระบบสหกรณ์จะเป็นเสาค้ำไม่ให้ประเทศนั้นล้มได้

นอกจากระบบสหกรณ์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งซึ่งทุกประเทศกำลังหันมาสนใจมองก็คือ ระบบ เศรษฐกิจพอเพียง

หลายอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงมีพระราชดำริไว้ในอดีต ปัจจุบันทุกวันนี้ได้พิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นแล้วว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับชาวโลกทั้งนั้น ไม่ว่า พลังงานทดแทน หรือระบบเศรษฐกิจพอเพียง

ขณะที่ผู้คนทั้งโลกกำลังไขว่คว้าหาสิ่งที่พ่อหลวงของเราพระราชทานไว้ให้คนไทย แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยกลับเพิกเฉยละเลย  ซึ่งน่าเสียดายมากครับ

พี่นพคุณ เข้ามาทักทายใน BLOG ได้ให้แนวความคิดที่เกี่ยวกับการดำเนินงานในชีวิตที่ดีมากครับ ขอให้เข้ามาบ่อยๆ หน่อยครับ

ยินดีมากครับสุทิศ ที่เข้ามาใน BLOG เข้ามาทักทายหน่อย ก็ยังดีเป็นการเติมแนวทางความคิดและความร่วมมือที่ดีมากเลยครับ

ผมว่า www.nitipoom.com เมนู presentation/Balance TV6 ที่คุณเกรียงไกร กรุณาบอกมา ผมว่าดีมีประโยชน์ในโลกอนาคต น่าติดตามมากเลยครับ และไม่ทราบว่าเพื่อนๆ ผนส. มีเวปอะไรดีๆ กรุณาแนะนำมาให้ก็จะเป็นการดีมากครับเพราะจะได้เป็นการสร้างสรรและเป็นการแชร์ไอเดียกันครับ ยิ่งในการนำเสนอในเรื่องการให้สหกรณ์ เป็นเสาค้ำมิให้ประเทศล้ม และการดำเนินชีวิตตามรอยตามเท้าพ่อ ในแนวทางโครงการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ผมว่าเป็นศิริมงคลต่อชีวิต และเป็นแนวทางที่เยี่ยมมากเลยครับ ในโลกปัจจุบัน แต่ว่าอย่างไรเสียอย่าลืมโครงการทำความดีทุกชนิดที่จะทำเป็นความดีได้ เพื่อถวายให้แก่พ่อของแผ่นดิน และเพื่อเป็นของขวัญให้แก่พ่อ ด้วยนะครับ ขอบคุณคุณเกรียงไกร ที่เสนอแนวทางที่ดีๆมา ณ ที่นี้ครับ

นก ปากช่อง

5 อย่างที่ผู้นำไม่ควรทำ

  • อย่าพูดคำว่าไม่มีเวลา  โดยเฉพาะกับลูกน้อง
  • ต้องให้คนเข้าถึง
  • อย่าพูดคำว่าคนอื่นไม่ได้เรื่อง  เก่งแต่ตัวเอง
  • อย่าพูดคำว่า  งานนี้ไม่ใช่ของผม
  • อย่าพูดคำว่างานหนัก ทำไม่ได้  ทำไม่เป็น  ไม่เคยเห็น

ภาวะผู้นำ

•ผู้นำที่ดีต้องรักษาคำพูด  พูดแล้วต้องทำให้ได้ตามนั้น

 • เข้าใจงานทุกขั้นตอน และทุกกระบวนการ

• สนับสนุนการทำงานเป็นทีม

• ต้องมองภาพใหญ่ทั้งองค์กร และจัดลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง

• มุ่งสร้างความเชื่อถือ ศรัทธาทั้งภายใน และภายนอกองค์กร

•โฟกัสที่ความพึงพอใจของลูกค้า โดยคำนึงถึงกลไกตลาดด้วย

สวัสดีทุกคนครับ

ผมยังอยู่ที่เดิมครับ ยังหลงใหลในอุดมการณ์สหกรณ์เหมือนๆกับทุกท่านนั้นแหละครับ เห็นหลายๆท่านขึ้นบล็อคมาทักทายก็อดคิดถึงวันเก่าๆไม่ได้ ที่ได้นั่งเรียน(หลับ)ด้วยกัน ผมเชื่อว่าพวกเรายังไงเสียก็คงเป็นผู้นำที่ดีเป็นที่พึ่งของขบวนการสหกรณ์ของเราได้

ขอชื่นชม คุณนก ด้วยที่ขยันขึ้นบล็อคเป็นพิเศษ และผมรู้สึกว่าคุณนกจะยุ่งๆ เรื่องงานมาก ดูดวงชะตาแล้วน่าจะเป็นคนปีฉลู (ใช่หรือเปล่าไม่รู้นะ) ดวงชะตาปีนี้จะได้เดินทางไปต่างแดนบ่อย จะได้ลาภเป็นสัตว์สองเท้า พึงระวังอาจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกับคนข้างเคียง แต่ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นผู้นำ คุณนกจะผ่านไปได้ด้วยดีโดยยึดหลัก “หันหน้าเข้าหากัน” ..หมอตง..ฟันธงครับ


เรื่องของ ในหลวง ที่เรา(อาจ)ไม่เคยรู้


          บทความ เกร็ดความรู้ เรื่องของ ในหลวง ประวัติในหลวง รูปในหลวง ที่เรา(อาจ)ไม่เคยรู้ เป็น บทความ เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับ ในหลวง ตั้งแต่เมื่อทรงพระเยาว์ พระอัจฉริยภาพ ในหลวง งานของในหลวง ของทรงโปรด ในหลวง และเรื่องส่วนพระองค์ …  อ่าน บทความ เกร็ดความรู้ เรื่องของ ในหลวง ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ที่นี่ค่ะ


 

เมื่อทรงพระเยาว์


           1.ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45น.

           2.นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์ ทรงมีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์

           3.พระนาม "ภูมิพล" ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7

           4.พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช

           5.ทรงมีชื่อเล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก

           6. ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า "H.H Bhummibol Mahidol"หมายเลขประจำตัว 449

           7.ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือสมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า "แม่"

           8.สมัยทรงพระเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง

           9.แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม
     
          10. สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต

          11.สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า"บ๊อบบี้"

          12. ทรงฉลองพระเนตร(แว่นสายตา)ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำพระองค์ต้องลุก ขึ้นบ่อยๆ

          13.สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ที มากเกินไป 2 ทีพอแล้ว

          14.ระหว่างประทับอยู่ สวิตเซอร์แลนด์นั้นระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทยกับสมเด็จย่าเสมอ

          15. ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก "การให้" โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า "กระป๋องคนจน" เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก "เก็บภาษี" หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำ อะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน

          16. ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า "ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน"

          17.กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา

          18.ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง


พระอัจฉริยภาพ

          19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก "การเล่น" สมัยทรงพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่นอะไรต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับพระเชษฐา ซื้อชิ้นส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง

          20. สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์

          21. ในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ ***บเพลง (แอกคอร์เดียน)

          22. ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้

          23.ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส

          24. ทรงพระราชนิพนธ์พลงครั้งแรก เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ "แสงเทียน" จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง

          25. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรงเกิดแรงบันดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น กลายเป็นเพลง "เราสู้"

          26. รู้ไหม...? ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่ายภาพเหมือนใคร : เหมือนสมเด็จย่า และ รัชกาลที่ 5

          27. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอและโรคเรื้อนด้วย

          28. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง "นายอินทร์" และ "ติโต" ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ แล้วให้เสมียนพิมพ์ แต่ "พระมหาชนก" ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์

          29. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และ เรือใบ ทรงเคยได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น"กีฬาซีเกมส์") ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2510

          30. ครั้งหนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน

          31. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ์ คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ "กังหันชัยพัฒนา" เมื่อปี 2536

          33. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุการเกษตรเพื่อใช้เป็น พลังงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์,ดีโซฮอลล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว

          34. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง


เรื่องส่วนพระองค์

          35. พระนามเต็มของในหลวง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรา มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

          36. รักแรกพบ ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯทรงให้สัมภาษณ์ว่า"น่าจะเป็น เกลียดแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะรับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่ม ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่วโมง

          37. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป ข้อความในสมุดทะเบียนก็เหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท หลังอภิเษกสมรส ทรง"ฮันนีมูน"ที่หัวหิน

          38. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน

          39. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

          40. ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพงหรือต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น

         41. เครื่องประดับ : ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้น นาฬิกา

         42. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว : ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่อมอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ

         43. หลอดยาสีพระทนต์ ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีด และ กดเป็นรอยบุ๋ม

         44. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า แม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ เมื่อถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยุ่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่ ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง
 

 

งานของในหลวง

         45. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบนมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ

         46. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ

         47.ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียวกระดาษที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน

         48. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็นดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรทั้งกลางสายฝน
 49. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน

          50. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห้นกันทุกวันนี้

          51. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมชมโครงการฯสวนจิตรลดา ในหลวงจะเสด็จฯลงมาอธิบายด้วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด

          52. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า "ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ

          53. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน


ของทรงโปรด

          54. อาหารทรงโปรด : โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา

          55. ผักที่ไม่โปรด : ผักชี ต้นหอม และตังฉ่าย

          56. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็นพระกระยาหารหลัก

          57. ไม่เสวยปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง

         58. เครื่องดื่มทรงโปรด : โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง

         59. ทีวีช่องโปรด ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศส ของยูบีซี เพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่วโลก

         60. ทรงฟัง จส.100 และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม.ไปที ่ จส.100ด้วย โดยใช้พระนามแฝง
 61. หนังสือที่ในหลวงอ่าน : ตอนเช้าตื่นบรรทม ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์รายวันทั้งไทยและเทศ ทุกฉบับ และก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิตยสารไทม์ส นิวสวีก เอเชียวีก ฯลฯ ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก

         62. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ ร้านยูไลย เจ้าของชื่อ ยูไลย ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดเสื้อในหลวงมาตั้งแต่ปี 2501 เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ มาถวายงานต่อ จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว

         63. ห้องทรงงานของในหลวง อยู่ใกล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ

         64. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล แล้ว ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว




 รู้หรือไม่ ?


         65. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า "นายหลวง" ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง

         66. ทรงเชี่ยวชาญถึง 6 ภาษา คือ ไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน

         67. อาชีพของในหลวง เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อเอกสารสำคัญใดๆทรงโปรดให้กรอกในช่อง อาชีพ ของพระองค์ว่า "ทำราชการ"

         68. ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมีอายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี

         69. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกันลงข่าวลือเกี่ยวกับในหลวงว่า แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นเป็นแซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื้อแท้ บริสุทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า"อันนี้ไม่จริงเลย สมมติว่าจริงก็จะหนักมาก ยกไม่ไหวหรอก"

         70. ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด

         71. หัวใจทรงเต้นไม่ปรกติ ในหลวงเคยประชวรหนักจนหัวใจเต้นไม่ปกติ เนื่องจากติดเชื้อไมโครพลาสม่า ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี

         72. รู้หรือไม่ว่า ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รูปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์

         73. ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค มีประชาชนเข้าชมรวม 6ล้านคน

         74. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน

          75. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง

          76. สีประจำพระองค์คือ สีเหลือง

          77. นั่งรถหารสอง : ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง จึงให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด


           ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระเกษมสำราญ มีพระพลานมัยแข็งแรงสมบูรณ์ มีพระชนม์ยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ตลอดกาลนานเทอญ. ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ... ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ...

ข้าพระพุทธเจ้า ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่นที่ 2 

อีกระบบที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่น

พฤหัสบดี ๓ ธันวาคม ๒๕๕๒

 สมัยอยู่ชั้นมัธยม นิติภูมิเรียนห้องเดียวกับอิทธิพล ปัจจุบันเพื่อนคนนี้คือ พลตำรวจตรี อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผู้บังคับการตำรวจจันทบุรี และประธานรุ่นเพื่อนตราดฯ ๑๘,๒๐ วันอาทิตย์ที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๒ ขอเชิญเพื่อนร่วมรุ่นทุกคนไปพร้อมกันเวลาเย็น ที่สวนอาหารหนองบัว จ.ตราด ไปกันให้ครบนะเพื่อน สมัยรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ใหม่ๆ ครูบาอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่า ในอดีต ระบบสหกรณ์ของไทยไม่เป็นสองรองใคร แม้แต่เกาหลีใต้ยังต้องเดินทางมาดูงานด้านสหกรณ์ในไทย แต่วันนี้ ผมและข้าราชการไทยจากหลายกระทรวงกลับต้องเดินทางมาดูงานการสหกรณ์ที่เกาหลีใต้ นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าพอสมควรสำหรับคนที่มุ่งมั่นและเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์อย่างพวกเรา

นายทุนทั้งหลายไม่ชอบสหกรณ์ พ่อค้าคนกลางของไทยพยายามเข้าไปเกี่ยวดองหนองยุ่งกับการเมือง จากนั้นก็ใช้อิทธิพลการเมืองเข้าไปทำลายเครือข่ายสหกรณ์ ไม่ให้สหกรณ์ไทยเชื่อมโยงกันได้ ไม่ให้รวมตัวกันซื้อ หรือรวมตัวกันขาย ไม่ต้องการให้ประชาชนคนในแวดวงสหกรณ์มีอำนาจต่อรองกับนายทุน อีกกลุ่มที่ทำลายสหกรณ์ก็คือผู้คนในแวดวงธนาคาร พวกนี้แขยงแขงขนสหกรณ์มาก เพราะเมื่อใดที่สหกรณ์ออมทรัพย์เข้มแข็ง ธนาคารซึ่งเป็นระบบนายทุนก็จะหมดความหมายเหมือนในหลายประเทศทางแถบสแกนดิเนเวีย

 เฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตอนนี้มีเงินออมอยู่ ๓ หมื่นล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ของมหาวิทยาลัยหลายแห่งมีเงินเป็นพันล้าน เอาเป็นว่า ขณะนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งของหน่วยงานรัฐและเอกชนมีเงินฝากรวมกันทั้งสิ้น ๗ แสนกว่าล้านบาท นี่ขนาดถูกแกล้ง และถูกทำลาย มาตลอดโดยนายธนาคารและนายทุนที่สวมชุดนักการเมือง สหกรณ์ออมทรัพย์ยังแหกด่านมีทุนได้ขนาดนี้ เมื่อรวมเงินออมในสหกรณ์อื่นด้วย ก็มีทุนมากกว่า ๘ แสนล้านบาท  เมื่อวาน นิติภูมิเรียนรับใช้ถึงเกาหลี ญี่ปุ่น และไต้หวัน ว่าประเทศเหล่านี้มีรายได้ส่วนใหญ่จากภาคอุตสาหกรรมก็จริง แต่รัฐบาลก็จริงใจส่งเสริมระบบสหกรณ์ รัฐบาลของประเทศเหล่านี้เข้าใจดีว่า ระบบทุนนิยมสามารถโกยความมั่งคั่งเข้าประเทศได้ชั่วระยะหนึ่ง แต่ความมั่นคงของแท้ของแผ่นดินอยู่ที่ระบบสหกรณ์

ผู้อ่านท่านคงทราบนะครับ ว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีแต่ภูเขาสูงเลากา ร้อยละ ๑๕ ของที่ดินทั้งประเทศเท่านั้นที่ใช้ทำการเกษตรได้ จีดีพีภาคเกษตรของญี่ปุ่นมีเพียงร้อยละ ๑.๔ แต่มีมูลค่ามากกว่า ๖ หมื่นล้านดอลล่าร์  รัฐบาลส่งเสริมให้มีการใช้พื้นที่ร้อยละ ๕๖ ปลูกข้าว โดยเฉลี่ยเกษตรกรถือครองที่ดินกันครอบครัวละ ๖.๙ ไร่ แต่เกษตรกรของญี่ปุ่นก็ยังดำรงคงความเป็นอยู่ที่ดี เพราะมีฐานมาจากระบบสหกรณ์ที่เข้มแข็งซึ่งรัฐบาลให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลมามากกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว

ญี่ปุ่นมีกฏหมายสหกรณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ รัฐบาลวางรากฐานด้านสหกรณ์ไว้ถึง ๔ ประเภท ทั้งสหกรณ์สินเชื่อ สหกรณ์การขาย สหกรณ์การซื้อ และสหกรณ์การแปรรูป อีก ๖ ปีต่อมา รัฐบาลก็แก้ไขกฏหมายให้มีสหกรณ์อเนกประสงค์ได้ ต่อมา ก็อนุญาตให้ขบวนการสหกรณ์ตั้งชุมชนและสหภาพได้

เพียงเวลาแค่ ๓๐ ปี ญี่ปุ่นมีสหกรณ์เพิ่มจาก ๒๑ แห่ง ไปเป็น ๑๔,๐๘๒ แห่ง รัฐบาลส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล และให้สหกรณ์เป็นผู้ค้าข้าวโดยตรงกับรัฐบาล เมื่อรัฐให้ความสำคัญขนาดนี้ ภายในเวลา ๒๐ ปีจาก พ.ศ. ๒๔๖๓ สมาชิกสหกรณ์จึงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๓๓ ไปเป็นร้อยละ ๙๕ วิญญาณสหกรณ์จึงหยั่งฝังลึกอยู่ในหัวใจของคนญี่ปุ่นทุกผู้ทุกนามมาตั้งแต่ในอดีต หลังแพ้สงครามโลกครั้งที่ ๒ ญี่ปุ่นต้องใช้อุตสาหกรรมเพื่อสร้างชาติให้ได้ไว แต่เพื่อประกันไม่ให้ประเทศอยู่ในความเสี่ยง รัฐบาลญี่ปุ่นมากยุคทุกสมัยก็ยังคงให้ความสำคัญกับการสหกรณ์ เพราะคิดว่า ในอนาคต ถ้าทุนนิยมล่ม ประเทศของตนก็ยังไม่ล่มสลายหายไป อย่างน้อยผู้คนชนบทก็ยังพยุงประเทศให้ไปได้ ญี่ปุ่นก็เริ่มมีกฏหมายปฏิรูปที่ดินพร้อมกับการประกาศกฏหมายสหกรณ์ฉบับใหม่ รัฐบาลหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้สร้างกฏหมายฟื้นฟูและปรับปรุงสหกรณ์การเกษตรเพื่ออุบัติโครงสร้างของขวนการสหกรณ์ขึ้นมาใหม่ มีการตั้งสหภาพกลางของสหกรณ์การเกษตรให้เป็นองค์กรสูงสุดของสหกรณ์และทำหน้าที่เสนอนโยบายทางด้านการเกษตรให้แก่ภาครัฐ  เดี๋ยวนี้ ญี่ปุ่นมีชุมนุมและสหภาพสหกรณ์ที่มาจากการรวมตัวกันของสหกรณ์ขั้นปฐมในทุกจังหวัด พวกนี้มีหน้าที่ให้คำแนะนำ ศึกษาวิจัย อบรม ให้ข่าวสาร ติดต่อประสานงาน และตรวจบัญชีให้แก่สหกรณ์ขั้นปฐมทั้งสหกรณ์เอกประสงค์และสหกรณ์อเนกประสงค์

 นิติภูมิเอาเรื่องนี้มาเรียนรับใช้อีกวัน เพราะไม่อยากให้รัฐบาลไทยหลงทาง ไปลอกเลียนความสำเร็จของญี่ปุ่นด้านการผลิตเพื่อการส่งออกเพียงอย่างเดียว โดยคิดหาแต่เงินและมุ่งโกยแต่ความมั่งคั่งชั่วครั้งชั่วคราว จนลืมความมั่นคงอย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถสร้างได้โดยผ่านระบบสหกรณ์

มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ

ขอเชิญเข้าร่วมสัมมนา“ปัจจัยท้าทายประเทศไทยปี 2553 อยู่รอดหรือยั่งยืน?”

วันที่ 8 ธันวาคม 2552

ณ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด แคมปัสพระรามเก้า 

มีรายละเอียดในลิ้งค์นี้

http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/317427

อภิสิทธิ์ จั้นอรัญ ผนส3

สวัสดีครับ ผนส.3 ทุกท่าน

ไม่ได้เข้าblog เสียนาน คิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆทุกคน สำหรับวันนี้มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ

ต้องขอขอบพระคุณ ท่านประธานรุ่นผนส.3 ท่านอาจารย์บัญชา ชลาภิรมย์ ที่ท่านได้ให้ความอนุเคราะห์ นำเงินส่วนตัวมาฝากออมทรัพย์พิเศษ ที่สหกรณ์การเกษตรมาบตะโกเอน จำกัด เป็นจำนวนเงิน 3,000,000 บาท ทางสหกรณ์ก็ขอบพระคุณท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย นี่สิ ที่เขาเรียกว่า พี่น้องรุ่น 3 รักกันจริง มีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เดี๋ยวจะหาว่า ประธานรุ่น 3 ไม่แน่จริง

รักเพื่อนๆพื่ๆน้องๆ รุ่น 3 ทุกคนครับ

อภิสิทธิ์ จั้นอรัญ โคราชา

ผมเองก็เช่นกันครับ นึกถึงวันเวลาที่เราเป็นเพื่อนกันได้เรียน เขียน พูด และมีทั้งความสนุกสนาน เสียงเพลง แต่ว่าบัดนี้ก็เป็นอดีตไปแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีกแล้ว คิดถึงวันวานจัง......

บุญตรง หนุ่มเมืองคนกล้าเมืองเชียงฮาย ขอบคุณมากครับที่เข้าBLOG มาให้กำลังใจในการดำเนินงาน ผมจะดำเนินงานให้ดีที่สุดครับ และตามที่ท่านทายมา ตรงเป๋งเลยครับ....อุปสรรค คือสิ่งที่พิสูจน์เราว่าเราจะเดินผ่านไปถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ หากว่าเราสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ล๊ะก็........สบายครับขุมทรัพย์รออยู่ข้างหน้า เอาไว้จะขอให้ท่านได้ดูหมออีกทีหนึ่ง หากว่าครั้งต่อไปดูแม่นอีก สงสัยว่าคงจะต้องวเปิดกิจการดูหมอแม่น แม่น เป็นแน่แท้(ลูกค้าตรึม....)

ดีใจแทนท่านอภิสิทธิ์ ด้วยที่ได้รับการสนับสนุนการเงินที่มั่นคง และขอให้ท่านได้ดำเนินงานไปได้ด้วยความสำเร็จทุกประการในสิ่งที่ท่านได้ตั้งใจ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ คนเก่งก็ยังงี้แหละ สังคมจะตอบแทนความดีของท่านเอง.....ขอปรบมือให้ ได้ข่าวว่ากิจการงานขยายตัวไปได้ด้วยดี ผมขอแสดงความดีใจด้วยความจริงใจมากมาก....นะครับเพื่อน และผมก็รักเพื่อนเช่นกัน

นก ปากช่อง

อรนุช (ผู้ประสานงานจัดอบรม ผนส.รุ่น 4)

เรียน ผนส. รุ่น 1-3

ขอเชิญเข้าร่วมสัมมนาวิชาการ เรื่อง พ.ร.บ.ใหม่ สังคมไทยจะได้อะไร ในวันที่ 25 ธันวาคม 2552 และขอเชิญร่วมพิธีปิดการอบรม ผนส. 4 ด้วยคะ เริ่มงานตั้งแต่เวลา 07.30 น. ลงทะเบียน จนเสร็จสิ้นกิจกรรม พิธีปิด และมอบวุฒิบัตร เวลา 15.30 น. หลังจากนั้นขอเรียนเชิญ ผนส.1-3 ร่วมกิจกรรมฉลองความสำเร็จของ ผนส. 4 และท่านอาจารย์ จีระ ขอให้ทุกรุ่น มีกิจกรรมร่วมกันกับ ผนส. 4 ด้วย ซึ่งจะมีการนัดประชุม ผนส. รุ่น 1-4 หารือร่วมกันทำกิจกรรม ในคืนวันที่ 25 ธันวาคม เวลา 18.00 น. จึงขอเชิญ ประธานรุ่น รองประธาน และเลขา แต่ละรุ่นมาประชุมร่วมกัน ในวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม นี้ คะ ช่วงเวลา 14.30 น. โดยประมาณ และหากมีการเปลี่ยแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ที่ศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส โดยมีระเบียบวาระการประชุม ดังนี้

ระเบียบวาระที่ 1 ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ (โดยประธาน ผนส. 4)

ระเบียบวาระที่ 2 พิจารณากำหนดการสัมมนาวิชาการ และความร่วมมือของ ผนส. 1-3

ระเบียบวารที่ 3 การจัดกิจกรรมสังสรรค์ ปิดโครงการ ฉลองวุฒิบัตร และอำลาอาลัย ผนส. 4

ระเบียบวาระที่ 4 พิจารณาจัดกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ร่วมกัน

ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ

....ได้เข้าไปอ่านในblogของอาจารน์ยมพบข้อความที่เขียนถึงพวกเราไว้ตอนไปดูงานที่เมืองจีนอ่านแล้วก็มีความรู้สึกดีๆลองอ่านกันอีกครั้งเพื่อทบทวนความหลังในอดีตของผนส3

ประทับใจ เมื่อไปจีน (1)

กำแพงจีนสูงใหญ่

หรือจะสู้ ความดี มีน้ำใจของผู้นำฯ

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

วันนี้ ผมเขียนเกี่ยวกับ ความประทับใจ กับ ผนส. เมื่อไปจีน ครับ เมื่อวันที่ 3-7 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินทางไปทัศนศึกษาร่วมกับ ผนส. 3 ที่ประเทศจีน ได้เห็นความดี ความมีภาวะผู้นำหลายท่านที่อดที่จะชื่นชมไม่ได้

คุณพิณ ท่านเป็นผู้อาวุโส ที่ หลายท่านให้ความเคารพรัก ท่านมีความรู้กว้างขวางเกี่ยวกับต้นไม้เป็นอย่างดี น่าสนใจ หากศึกษาวิธีการของคุณพิณว่า ท่านทำอย่างไรจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้ แล้วนำวิธีการเรียนรู้ของท่านมาประยุกต์ ในการเรียนรู้สาขาอื่นๆ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ผมประทับใจ คุณทนงศักดิ์ ปรับตัวได้ดี มีทั้งสุขุม ลุ่มลึกเร้าใจ บางครั้งหน้าขาวเหมือนคนจีน แต่บางทีหน้าแดงเหมือนเทพเจ้ากวนอู ดูรักษาสุขภาพได้ดีทีเดียวรศ.ปัญชา ผมชอบลุคลิกและน้ำเสียงของท่าน เวลาพูดมีลีลาน่าฟัง เสียงดังฟังชัด อารมณ์ดี และเป็นกันเองกับทุกคนสมเป็นผู้นำ ผนส.

คุณขนิษฐา จากพิมาย มีสไตล์ มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เป็นคนดีมีฝีมือทางการบริหารสหกรณ์ฯ คนนึง เรียกได้ว่าเป็น “จอมยุทธ์หญิง” แห่งวงการ ที่สุขุม มีพลัง มีความสามารถ และมีความตั้งใจดีมาก คุณสุขสันต์นี่ จากสุพรรณ นี่ก็มีเอกลักษณ์โดดเด่น สมเป็นคนสุพรรณ ที่เหนือว่านั้น เรียกว่า เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ยังอาย คือบุคลิกที่สูงสง่า สมบูรณ์ และมีน้ำเสียงแบบผู้นำ มีความมั่นใจ มีอารมณ์ดี และรู้จักบริหารตนเอง เป็นกันเองดี

คุณสุทิศ จากสงขลา เช่นกัน ผู้นำยุคใหม่ ไฟแรง ต้องยกให้ เป็นคนแรกของรุ่น ที่เปิดบล็อก เข้ามาทักทายผม เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจใฝ่เรียนรู้ เป็นคนจริงใจ จริงจัง อบอุ่น อ่อนน้อมถ่อมตน สุขุม ลุ่มลึก ต้องยกให้ว่าเยี่ยมจริง ๆ คุณประจวบ ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่ง มาจากสงขลา ผมได้สัมผัสท่านเต็ม ๆ เพราะนั่งใกล้กันทั้งบนอากาศและบนดิน มีความเป็นกันเอง จริงใจ มีภาวะผู้นำสมวัย เป็นคนดีมีน้ำใจ มีเอกลักษณ์ของชาวใต้ ที่น่าสนใจ

คุณปฏิพล จากนครศรีธรรมราช ดินแดนแห่งคนจริง บุคลิกที่สะดุดตา สีผิวน้ำผึ้ง รู้จักปรับตัวได้ดี สุภาพ ร่าเริง อารมณ์ดีสบายๆ ได้ข่าวว่าสามารถใช้ยารักษาส้นเท้าแตก มาประยุกต์แก้ปัญหาปากแห้งแตกได้เป็นอย่างดี เสียงดังฟังชัด และรู้จักสร้างอารมณ์ขัน มีความจริงใจ ยกนิ้วให้ได้เลย นี่คือผู้นำขั้นสูง คุณชวลี อารมณ์ดี สุภาพ นุ่มนวล มีพลังแห่งสตรีไทย มีกริยามารยาทที่ดีงาม สุภาพอ่อนน้อมแต่ก็มีพลัง มีความแข็งแรง แข็งขันขยันอดทนอยู่ในตน เห็นได้ชัดตอนปีนกำแพงเมืองจีน ทำได้ดีกว่าชายอกสามศอก ครับ ยืนยัน ผมเห็นกับตา สมกับเป็นผู้นำขื้นสูง ครับ คุณสมชาย แห่ง จ.น่าน มาดเหมือนพ่อเลี้ยง ผมประทับใจการวางตนของท่าน ที่สุขุมลุ่มลึก อ่อนนอกแข็งใน สมชายชาตรีของไทย การจัดการงานกิจกรรมในการอบรม ทำได้รวดเร็วและออกมาดี น่าสนใจและเป็นตัวอย่างที่ดี น่าเลื่อมใสศรัทธา

คุณเอกราช จากขอนแก่น เป็นคนดีมีน้ำใจอีกท่านหนึ่งครับ มีเสน่ห์ สาว ๆ ใด ได้พูดคุยเป็นต้องติดใจอย่างเห็นได้ชัด ท่าสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ในขณะที่มีความเข้มแข็งอยู่ในตัว มีเสน่ห์ ผมคิดว่าถ้าท่านอยู่ที่จีน คงไม่เหงาแน่ ท่านคงผันตัวเองเป็นเจ้าพ่อที่ปักกิ่งแข่งกับเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ได้ไม่ยากเลย คุณปัทมา แห่ง ทีโอที สตรีผู้เข้มแข็งอดทน เป็นแบบอย่างที่ดีของการต่อสู้กับสภาพอากาศและอาการเจ็บป่วย เพราะวันแรกก็ป่วยเพราะอากาศมันเย็น แต่ไม่ย่อท้อและต่อสู้จนเอาชนะ มีความมั่นใจในตนเอง สุขุม รอบคอบ น่าคบหา ครับ

นพ.กิตตินันท์ แห่งจันทบุรี มีบุคลิกดี สุภาพ สุขุม ฉลาด รอบรู้ และอ่อนน้อม ถ่อมตน เรียบง่าย ปรับตัวได้ดี เรียนรู้ได้ตลอดเวลา และก็แชร์ความรู้ได้ตลอดเวลาเช่นกัน มีลีลาการพูด เรียบง่าย มีสาระ กระชับดี คุณกิตติพงษ์ แห่งลำปาง ก็ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ที่ธรรมดาเพราะบุคลิกภาพเหมือนคนต่างจังหวัดจริง ๆ แต่ความคิด ภูมิปัญญา เหมือนจอมยุทธ์แห่งกรุ่งปักกิ่ง สุขุม ลุ่มลึก อ่อนน้อมถ่อมตน สมเป็นคนเก่งคนดีอยู่ในตัว คุณมงคล แห่งสมุทรปราการ มีบุคลิกที่ดีมาดผู้นำ ดูมีเสน่ห์ มีความสุขุม สุภาพ ให้เกียรติผู้คนรอบข้าง สนใจใฝ่รู้กระตีอรือร้น สมเป็นผู้นำขั้นสูง น่าสรรเสริญยิ่งนัก

คุณสมพงษ์ ดูเรียบง่าย สบาย ๆ ได้ทุกรูปแบบ ตาดูหูฟัง ว่องไว ใส่ใจกับสิ่งที่ตนศึกษาอยู่ น่าเลื่อมใสยิ่งนัก

คุณภัทรัตน์ มีเอกลักษณ์ยิ้มสยาม สุภาพเรียบร้อย ดูเรียบง่ายแต่ทรงพลังแห่งการใฝ่รู้ คุณสุรชัย จากชัยภูมิ มาดเข็ม ปรับตัวเข้าได้กับทุกระดับ สุขุม ลุ่มลึก อ่อนน้อม ถ่อมตน สุภาพเรียบร้อย ยกนิ้งให้ว่าเยี่ยมจริง ๆ คุณทองปอน และคุณสวนีย์ รักษาบุคลิกภาพได้ดี ดูสุภาพเรียบร้อย ขี้เกรงใจคน ดูอ่อนน้อมสุภาพ มีความเข็มแข็งในตัวตน มีความมั่นใจ มีความพยายามสูง เห็นได้ชัดกับการต่อสู้กับความหนาวเย็น ไม่ย่อท้อ สนใจใฝ่เรียนรู้ อยู่เสมอ

วันนี้ ผมเขียนถึง ผนส. 3 เพียงเท่านี้ก่อน สำหรับผู้ที่ยังไมได้กล่าวถึง ผมจะเขียนต่อในบันทึกหน้า

ขอความสวัสดี จงมีแด่ผู้อ่านทุกท่าน อ.ยม

      ได้เข้าไปอ่านใน blog ทุกวันและทุกครั้งที่เปิดเครื่องดอม แต่บางครั้งไม่ได้เขียนอะไร  วันนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ยมที่ชม และได้เข้ามาทักทายกันใน blog วันก่อนผมไปประชุมสันนิบาตได้เจอท่านอาจารย์ แต่ไม่ได้พูดคุยกันมากนักเพราะต้องรีบกลับ

      และวันที่ 11-12 ธันวาคมนี้ สหกรณ์ผมจัดศึกษาดูงาน โดยนำผู้นำสหกรณ์ไปศึกษาดูงานจำนวน 100 คน และวันที่ 26 ธันวาคม ผมประชุมใหญ่สามัญประจำปีสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานสหกรณ์จังหวัดสงขลา จำกัด (ซึ่งผมเป็นประธานอยู่) และวันที่ 30 ธันวาคม สหกรณ์จัดงานระดมทุน และจัดกิจกรรมปีใหม่ มีการทำบุญตักบาตร การแสดง จับรางวัลผู้โชคดี(รถจักรยานยนต์ 1 คัน ) และวันที่ 30 ธันวาคม เช่นกัน(ตอนเย็น)ไปปีใหม่ที่กรุงเทพกลับวันที่ 3 มกราคม เป็นงานรวมญาติ ไปรวมกันที่กรุงเทพ แล้วจะไปเที่ยวที่สุพรรณ ไม่รู้กำนันสุขสันต์ จะต้อนรับหรือเปล่า

        และสงสัยวันที่ 25 ธันวาคม งานเลี้ยงฉลอง ผนส 4 คงจะไม่ได้ไป ต้องขอโทษทุกคนด้วย

 

ไม่รู้กำนันสุขสันต์ จะต้อนรับหรือเปล่า เป็นคำพูดที่ทำใหักำนันบ้านนอกนอนไม่หลับตอ้งรีบตอบเพือนสุทิศทันทีว่า ยินดีอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นเพือนคนไหนที่มาสุพรรณเเล้วจะรอ

สุทิศ ครับ...... ไม่ต้องกังวลครับ กำนันบ้านนอก ใจกว้างมากครับ ไม่ต้องห่วง ผมไปที่สุพรรณบุรี ขนาดไปกับภรรยา การต้อนรับของกำนันประทับใจมาจนทุกวันนี้ นี่แหละครับเพื่อน ใจกว้างอย่างกับรูปร่างของเจ้าของ อาหารอร่อยสดแถมขากลับ ยังใจดีมีของฝากกลับบ้านด้วย น่าภูมิใจที่เป็นคนเช่นนี้ขอปรบมือให้ครับ เสมอต้นเสมอปลาย และปากช่องยินดีต้อนรับครับ

และเร็วๆนี้ผมจะเดินทางไปสุพรรณบุรีอีกทีหนึ่งนะครับ บอกซะเลย......

ขอบคุณล่วงหน้ามาณ ที่นี้

นก ปากช่อง

ตอนนี้กุ้งดูแลกิจการอยู่ที่ปายค่ะ ปีนี้ที่นี่อากาศไม่ค่อยหนาวเหมือนปีแล้วค่ะ หนาวนี้พี่ๆท่านใดยังไม่มีโปรแกรมจะไปเที่ยวที่ไหนก็เชิญมาเที่ยวที่อำเภอปาย..

เมื่อวานนี้ 6 ธค ได้มีโอกาสต้อนรับผู้ใหญ่เพิก (ผนส. รุ่น 1) ที่พาครอบครัวมาเที่ยวที่ปาย หวังว่าโอกาสต่อๆไปคงจะได้ต้อนรับพี่ๆผนส ท่านอื่นบ้างนะคะ แล้วเจอกันวันที่ 25 นะคะ

ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณท่านพี่กำนัน ที่ยินดีต้อนรับที่จะไปเที่ยวสุพรรณ ทั้งลงใน Blog และโทรมายืนยัน ว่าต้องให้ไปให้ได้ จะคอยต้อนรับ กำลังวางแผนอยู่ว่าจะไปวันไหน เพราะไปกันหลายคน พาครอบครัวไป(ครอบครัวในพี่น้องเดียวกัน) ไปวันไหนจะโทรไปบอกกำนันล่วงหน้า

และช่วงนี้ที่อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลากำลังมีงาน 5 ธันวามหาราช จัดระหว่างวันที่ 5-7 คืรนี้เป็นคืนสุดท้าย มีกิจกรรมมากมาย สหกรณ์ผม ไปร่วมกิจกรรมตลอด และร่วมส่งกิจกรรมร่วมงานด้วย การแสดง การประกวดเทพี(สหกรณ์ตกรอบแล้ว) ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน การประดับโคมไฟ

อรนุช (ผู้ประสานงานจัดอบรม ผนส.รุ่น 4

เรียน ผนส. 1-3

ตามที่ได้แจ้งกำหนดการประชุม ในวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม ช่วงบ่าย ขอเปลี่ยนเป็น วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม คะ ช่วงเวลา 19.30 น.

ณ ศูนย์การประชุมรัชนี จึงขอเรียนเชิญ ประธาน รองประธาน และเลขาฯ หรือผู้แทน มาร่วมประชุมเพื่อสานต่อกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันคะ ตามวาระที่แจ้งไปแล้วด้านบนคะ

สวัสดีคะ เพื่อนๆผนส.3

ต้องขอโทษเพื่อนๆทุกคนด้วยที่เงียบหายไป เพราะงานยุ่งมากแต่ก็ยังคิดถึงทุกคนค่ะ

หากเราได้รู้จักนาฬิกาชีวิตของตัวเอง ก็อาจจะสามารถบาลานซ์การใช้ชีวิต โรคภัยย่างกรายมาถามหาน้อยลง

01.00-03.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงาน ของ "ตับ" ควรหลับพักผ่อนให้สนิท

03.00-05.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ "ปอด" ควรตื่นมาสูดอากาศสดชื่น

05.00-07.00 น. เป็นช่วงเวลาของ "ลำไส้ใหญ่" ควรขับถ่ายอุจจาระ

07.00-09.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ "กระเพาะอาหาร" ควรกินอาหารเช้า

09.00-11.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงาน "ม้าม" ควรพูดน้อย กินน้อย ม้ามทำหน้าที่ในการดึงเอาธาตุเหล็กจากฮีโมโกลบินของเซลล์เม็ดเลือดแดงนำมา ใช้ในร่างกาย และยังทำหน้าที่เอาของเสียออกจากกระแสเลือดในรูปของน้ำปัสสาวะเช่นเดียวกับ ตับ

11.00-13.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ "หัวใจ" ควรเลี่ยงการใช้ความคิด ความเครียด ระงับอารมณ์ตื่นเต้นตกใจ

13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ "ลำไส้เล็ก" ควรงดกินอาหารทุกประเภท ลำไส้เล็กมีหน้าที่ย่อยอาหาร ตั้งแต่คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน

15.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาทำงานของ "กระเพาะปัสสาวะ" ควรทำให้เหงื่อออก

17.00-19.00 น. เป็นช่วงเวลาทำงานของ "ไต" ควรทำตัวให้สดชื่น

19.00-21.00 น. เป็นช่วงเวลาทำงานของ "เยื่อหุ้มหัวใจ" ควรทำสมาธิ สวดมนต์

21.00-23.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ "ระบบความร้อน" ห้ามอาบน้ำเย็น ตากลม ทำร่างกายให้อบอุ่น

23.00-01.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ "ถุงน้ำดี" ควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน สวมชุดนอน ผ้าฝ้าย เพราะผ้าสังเคราะห์จะดูดน้ำในร่างกาย โดยถุงน้ำดีทำหน้าที่ในการเก็บสะสมน้ำดีเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร

นี่มุมมองของ "วีระชัย วาสิกดิลก" แพทย์วิถีไทยแบบธรรมชาติบำบัด ที่ท่านสามารถนำไปใช้ในการดูแลตัวเองเพื่อให้ชีวิตสมดุลและห่างไกลความเจ็บ ป่วย

สวัสดีพี่น้องชาวผนส.ทุกท่าน...ได้อ่านดูตารางนาฬิกาชีวิตแล้วคิดว่าพวกเราหลายๆคนอาจจะทำไม่ได้เช่นบิ๊กอู๊ดกำนันบ้านนอกท่านสมพงษ์นกปากช่องท่านบัญชาฯลฯ อันดับแรกก็เสร็จแล้ว01.00-03.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงาน ของ "ตับ" ควรหลับพักผ่อนให้สนิท แต่ชาวผนส.3หลายท่านยังอยู่ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้(แถวๆปิ่นเกล้าบ้างร้านข้าวต้มบ้าง) 03.00-05.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ "ปอด" ควรตื่นมาสูดอากาศสดชื่น อันนี้ยากเลยเพราะเป็นช่วงที่พวกเราเริ่มเข้านอนกันจะให้ตื่นมาได้อย่างไร แต่ช่วงนี้พอรับได้ 21.00-23.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ "ระบบความร้อน" ห้ามอาบน้ำเย็น ตากลม ทำร่างกายให้อบอุ่น เพราะพวกเราไม่อาบน้ำเย็นอยู่แล้วบอกน้องๆเร่งอุณหภูมิขึ้นอีกหน่อยช่วงนี้หน้าหนาว (เดี๋ยวทิปเต็มที่) แต่ไอ้ที่ห้ามตา-กลม นี่เป็นอย่างไรนะ..

...ช่วงนี้อากาศกำลังดีสบายๆหลายๆคนได้ไปสูดโอโซนตามดอยต่างๆอิจฉาน้องกุ้งนางเอกเรื่องปายกำลังจะเข้าฉายเร็วๆนี้ ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับโดยเฉพาะท่านสุทิศก่อนไปสุพรรณแวะกินข้าวเมืองนนท์ก่อนก็ได้นะครับยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกคน ขอให้เดินทางปลอดภัย เมาไม่ขับ(แล้วจะกลับอย่างไร) โชคดีทุกท่าน..สวัสดีครับ

สุรชัย บำรุงราษฎร์

หากแม้นทุกอย่างในโลกนี้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน เด็ดดอกไม้เพืยงหนึ่งดอกอาจสะเทือนถึงดวงดาว

สวัสดีครับ เพื่อน พี่ น้อง ผนส.3 ที่เคารพรักทุกท่าน กาลเวลาจะผ่านไปช้าหรือเร็วก็เป็นเรื่องของเวลา ดีใจครับที่เข้า blog ได้ทราบข่าวคราวความเคื่อนไหวของพวกเรา ผนส.3 บางท่านมีกิจกรรมที่ดีๆ บางท่านได้ไปในที่ที่ชอบ ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้อากาศเย็นสบาย หากพวกเราท่านใดอยากปลีกวิเวก มาเที่ยวพักผ่อน ที่จังหวัด ชัยภูมิ(เมืองผู้กล้า พญาแล) ก็ไม่เลวนักนะครับ ถึงจะไม่ใช่จังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังหรือใหญ่โตมากนักเมื่อท่านได้มาสัมผัสแล้ว ท่านอาจจะกลับมาซำอีก หรือท่านใดคิดอยากจะมาแต่ไม่แน่ใจ สอบถามคุณหมอกิตตินันท์ ก่อนตัดสินใจก็ได้ ว่าชัยภูมิมีอะไรดี ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ

เงียบหายไปเกือบ(ตั้ง)นาน เข้าอ่าน Blog วันนี้ แม้อากาศที่ชัยภูมิจะค่อนข้างหนาว แต่..ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น เพราะความหนาแน่นจากแฟนพันธุ์แท้ ผนส.๓ ทุกคน สาเหตุที่ผมเงียบหายไปจากจอ เพราะว่า..กำลังสนุกกับการทำภาระกิจและงานที่สำคัญของเครือข่ายสหกรณ์ภาคอีสาน และสหกรณ์ของผมอยู่ ซึ่งขอรายงานดังนี้

วันที่ ๓-๕ ธันวาคม ๕๒ ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดการประชุมประจำไตรมาส (๓สัญจร)ที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งผมเป็นเลขานุการของชมรม ฯ ในวันนั้นมีประธานกรรมการ และผู้จัดการสหกรณ์เข้าประชุมจำนวน ๑๗๘ คน จาก ๑๙ จังหวัดของภาคอีสาน ชมรมได้รับเกียรติจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร นักสหกรณ์แห่งชาติ ปี ๒๕๕๑ (ประธานกรรมการบริษัท สหประกันชีวิต จำกัด)บรรยายพิเศษ เรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง กับการพัฒนาสหกรณ์" ที่ประชุมได้หารือและพิจารณาร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางที่จะเอื้อประโยชน์ และประเด็นปัญหาภายนอกที่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ (ขอแจ้ง ๒ เรื่องจากทั้งหมด ๙ เรื่อง) ดังนี้

๑. การขอลดดอกเบี้ยเงินกู้ต่อ ธกส.หรือให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้แก่สหกรณ์การเกษตร (ยื่นหนังสือต่อท่านนายกรัฐมนตรี โดยตัวแทนสหกรณ์จังหวัดละ ๔ คน)

๒. การกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดการหนี้หรือซื้อขายหนี้โอนหนี้ต่อกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

ฯลฯ

วันที่ ๙ ธันวาคม ๕๒ ประชุมแกนนำองค์กรเกษตรกร ผู้แทนเกษตรกรและผู้ทรงคุณวุฒิ ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (ว่าที่)กรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่ง ครม.ได้ผ่านความชอบแล้ว เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกัน ก่อนการประชุมคณะกรรมการกฟก. ครั้งแรก

วันที่ ๑๐-๑๑ ธันวาคม ๕๒ สัมมนาประธานกลุ่มและอาสาสมัครสหกรณ์(อสก.)ของสหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด หลักสูตร"ทีมงานสหกรณ์ สานฝันสู่ความสำเร็จ" ณ ภูตะวันรีสอร์ท อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โครงการนี้ต้องขอบคุณพี่ต้อย พิมาย มาก ๆ ครับ ที่อนุญาตให้ก๊อปโครงการช่วงที่พวกเราเรียน ผนส.๓

วันที่ ๑๒-๑๓ ธันวาคม ๕๒ ร่วมกิจกรรม แรลลี่ท้าลมหนาว ที่เขื่อนจุฬาภรณ์ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจัดโดย หอการค้าจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งผมเป็น รองเลขานุการ ฝ่ายวิชาการ หอการค้า

วันที่ ๑๗-๑๙ ธันวาคม ๕๒ ทัศนศึกษาดูงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ของ สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด ประกอบด้วยคณะกรรมการ ฝ่ายจัดการ จำนวน ๕๐ คน ทั้ง ๒ คืน เข้าพักที่โรงแรมของชุมนุมฯเชียงใหม่ ขอบคุณแม่เลี้ยงสุภัตรา ศรีเทพ ผจก.ชุมนุม ฯ เชียงใหม่ นะครับ

วันที่ ๒๒ ธค.๕๒ ร่วมคัดเลือกทีมนักกีฬา วันที่ ๒๔ ธค.๕๒ ร่วมการแข่งขันกีฬาสหกรณ์ชัยภูมิ และงานราตรีสหกรณ์สัมพันธ์ปี ๕๒

***ผนส.๓ ท่านใดที่มาเยือนชัยภูมิ ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ เพื่อให้ผมได้มีโอกาสรับใช้ท่าน กรุณาอย่าตรงกับวันที่ผมมีภาระกิจนะครับ***

สรุป Dinner Talk ประสบการณ์และความสำเร็จ โดย คุณอุทัย พิมพ์ใจชนในวันที่ 11 ธันวาคม 2552

การเป็นนักการเมืองทำให้มีประสบการณ์ รู้จักเตรียมตัว เตรียมข้าวไปกินในรถเพราะไม่มีเวลา

การเป็นนักการเมืองต้องลำบากในการพูดเรื่องซ้ำๆ หรือตอบคำถามซ้ำๆได้

คนที่อยู่ข้างหน้า ไม่ใช่มีภาวะผู้นำ เพราะหนีปัญหาก่อน

สนใจภาวะผู้นำเป็นพิเศษ และอยากเป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่เด็ก

จอมพล ป.พิบูลสงคราม มีเพลงมหาชัยเวลาไปไหน

สมัยกบฏแมนฮัดตั้น จอมพล ป.พิบูลสงครามถูกจับ พอระเบิดลง ท่านก็หนีไปได้

ได้ไปพบจอมพล ป.พิบูลสงครามตอนที่ท่านพ้นโทษที่คุกบางขวาง ท่านก็เป็นผู้นำที่น่าเกรงขาม

กบฏแมนฮัดตั้นตั้งพลเอกวรการ บัญชาเป็นนายกมนตรีซึ่งเขาก็เป็นผู้แทนด้วย

นี่คือแรงบันดาลใจว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจากผู้แทน

เมืองไทยยังขาดภาวะผู้นำ อยากให้เมืองไทยมีผู้นำ จึงลงมือเป็นผู้นำเอง

คนที่เป็นผู้นำได้ต้องกล้าหาญคือ กล้าทำตามสิ่งที่ตรงตามความสามารถของตนในภาวะที่เหมาะสม

พระพุทธเจ้าสอนว่า ผู้นำต้องมีความกล้าหาญในตัว ธรรมที่ทำให้กล้าหาญ มี 5 องค์ประกอบคือ

1. มีศรัทธา ชอบหรือเชื่อ เพราะทำให้อยากทำงาน

2. มีศีล ไปไหนก็สง่า ไม่มีใครทำร้าย

3. มีพาหุสัจจะ รู้มาก ฟังมาก เห็นมาก

4. มีวิริยารัมภะ ความอดทน

5. มีปัญญา

คนไทยโบราณสอนว่า ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ต้องคิดเป็นด้วย มีความรู้จะได้ไม่เปล่าประโยชน์ ความคิดเหนือความรู้ ปากต้องดีด้วยจึงจะเจริญ

ปัญหาคือ คนไทยสรรเสริญคนที่ไม่ควรสรรเสริญ แต่สรรเสริญคนที่ไม่ควร

นับถือพระพุทธเจ้าในฐานะศาสดาและนักการเมือง

พระเยซูมีความอดทนสูง เวลาตาย ก็ให้อภัย

ลินคอล์น เลิกทาส

รัชกาลที่ 5 เลิกทาส

คานธี ยอมทนลำบากเพื่อส่วนรวม

ผู้นำและนักการเมืองต้องมีความอดทน

อยู่สหกรณ์ต้องรู้ข่าวแวดวงสหกรณ์

ประชาธิปไตยเลียนแบบพระพุทธเจ้า เพราะคนที่จะมีตำแหน่งต้องไปหาเสียง ทำให้รู้จักความทรมาน รู้จักอดทนต่อการด่าทอ

ทุกครั้งที่มีตำแหน่ง ไม่เคยไปขอตำแหน่งใคร

นักการเมืองในอนาคตต้องเป็นนักเศรษฐกิจมากขึ้น

เวลานั่งประชุมสภา ขึ้นบัลลังก์เป็นประธานสภา ก็ถือว่าอยู่ท่ามกลางผู้มีเกียรติ ต้องให้เกียรติสมาชิกทุกคนเสมอกัน แล้วเขาจะให้เกียรติเรา ถือว่าเราเป็นตัวแทนประชาชน เขารอดูเราอยู่ อย่าทำอะไรนอกลู่นอกทาง ต้องถามว่าชาวบ้านต้องการอะไร ถ้าความคิดไม่ตรงกับชาวบ้าน ให้รีบทำความเข้าใจ

พยายามทำใจว่า ทำแทนประชาชน ต้องถามความคิดประชาชนก่อนทำแทนเขา ถามสมาชิกแล้วถามกรรมการบริหาร

ไม่กลัวผู้แทนเกลียด เพราะทำในสิ่งที่ถูก ก็จะมีคนเกลียดไม่มาก ถ้าทำในสิ่งที่ผิด แม้จะมีคนรัก ก็ไม่มากและไม่นาน

ทำงานโดยเอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาความรู้และสติปัญญามาหาคำตอบ

ตอนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ได้ไปพูดในการประชุมหอการค้าใหญ่ ว่า กล้าเป็นรัฐมนตรีเพราะไม่ใช่พ่อค้า พ่อค้ามักเอื้อประโยชน์ให้ตนเองและเอาเปรียบผู้อื่น ไม่ใช่ว่าพ่อค้าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ แล้วจะเป็นได้ดีกว่า เวลาเจรจาแกตส์ ก็ใช้คนกระทรวงพาณิชย์เป็นล่าม ช่วงที่แปล ก็มีเวลาคิดไปอีกขั้น เรื่องที่เจรจาแกตส์ คือเรื่องการเจรจาต่อรองภาษี และทนายความก็พูดเรื่องสัญญาได้ดีที่สุด

หลักการตั้งรัฐมนตรีคือ ตั้งคนที่ประชาชนศรัทธา ทำอะไร ประชาชนก็เห็นว่าดี และข้าราชการก็เป็นหลักจริงๆ และจะดูกฎระเบียบ รัฐมนตรีมีหน้าที่ตัดสินใจ

ตอนนี้ไม่คิดเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะเนื่องจากสังขาร การเป็นนักการเมืองต้องมาจากคนส่วนใหญ่ ต้องรู้จักหยุด

นักการเมืองก็รู้ว่าสหกรณ์สำคัญแต่มักไม่ให้ความสำคัญ ประเทศไทยเรามีเกษตรกรมาก มารวมตัวเป็นสหกรณ์มีอำนาจต่อรองมากขึ้น ควรจะให้ความสำคัญสหกรณ์มากขึ้นเพราะเป็นคนรากหญ้า

ผู้แทนราษฎรคือเงาสะท้อนของประชาชน เลือกคนประเภทเดียวกันกับตน หรือเอื้อประโยชน์ให้ตน

สหกรณ์ไม่ควรแก้ข้อบังคับ เป็นแบบนี้ดีแล้ว

การบรรยายเรื่อง การสร้างและพัฒนาภาวะผู้นำ โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ในวันที่ 12 ธันวาคม 2552

ผู้นำที่เก่งที่สุดในโลกต้องบริหารความขัดแย้งได้

ผู้นำต้องมองไกลและมองกว้าง

ผู้นำต้องกระตุ้นให้ลูกน้องเป็นเลิศด้วย รู้จักแบ่งปันความรู้แก่ลูกน้อง ยิ่งให้ความรู้ ยิ่งได้ความรู้

ผู้นำต้องมีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยเหลือสังคม

ในการพัฒนาคน อย่าทำมากแต่ไม่มีคุณค่า

ผู้นำต้องมี Passion ทำในสิ่งที่ชอบ

ผู้นำต้องมีความสุขในการทำงานแล้วเกิด Performance มีการวัดผลจากลูกค้า

องค์กรที่สำคัญใช้ภาวะผู้นำเป็นหลัก สร้างทิศทางองค์กร ไม่บริหารมากเกินไป

ผู้นำทำสิ่งที่ถูกต้อง มีคุณธรรม

ผู้นำที่ดีในอนาคตต้องใฝ่รู้

ผู้นำที่ดีต้องมองภาพใหญ่ อย่าอยู่ในกะลาครอบ มีความรู้สด มีความใฝ่รู้ด้านภาษาต่างประเทศ

ผู้นำต้องสนใจการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก

ผู้นำต้องได้รับการยอมรับจากผู้ตามด้วย ไม่ใช่แค่มีตำแหน่งเท่านั้น

ผู้นำที่ดีต้องยอมรับความจริง อย่าหลอกตัวเองหรือสร้างภาพ

ในรอบ 150 ปีที่ผ่านมา วิจัยช่วง 50 ปีแรก พบว่า ต้องเกิดมาเป็นผู้นำ ส่วนวิจัยตอนหลังๆ ก็พบว่า ก็มีทั้งคุณสมบัติผู้นำที่มีมาแต่กำเนิดและมีบางอย่างที่สร้างได้

การศึกษาภาวะผู้นำคือส่วนหนึ่งของการบริหารทรัพยากรมนุษย์

ผู้นำอยู่ในทฤษฎี 3 วงกลม ต้องนำองค์กรไปสู่ความเป็นเลิศ แล้วจึงนำประเทศไปสู่ความเป็นเลิศด้วย

ผู้นำคนไทยมักเป็นผู้นำทางการเมือง การทหาร หรือพระมหากษัตริย์

ผู้นำต้องเน้นที่คน มองระยะยาว ต้องถามว่าทำไมทำไม่สำเร็จ

ผู้นำที่ดีต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง

ผู้นำต้องเน้นนวัตกรรม มีจินตนาการ

ผู้นำต้องมีเสน่ห์

ผู้นำเกิดจากสถานการณ์

ผู้นำต้องคิดเก่ง วิเคราะห์เก่ง

ต้องสร้างอนาคตผู้นำ

ผู้นำต้องมีบุคลิกติดตัว เช่น ทัศนคติทางบวก มีคุณธรรม ชอบการเรียนรู้

ผู้นำต้องมีทักษะ เช่น การตัดสินใจ การเจรจาต่อรอง

ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ บอกลูกน้องได้ว่าจะพาองค์กรไปที่ไหน

ผู้นำต้องสร้างศรัทธา การยอมรับ

ผู้นำต้องเป็นพี่เลี้ยง อย่าสั่งเท่านั้น

ผู้นำต้องคิดแบบยุทธศาสตร์

ผู้นำต้องมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ทุกวัน

ระหว่างที่ทำงานแล้วเครียด ผู้นำต้องปล่อยวางแล้วชีวิตจะมีพลัง อย่านำปัญหากลับไปบ้าน

ผู้นำต้องทำให้คนอื่นมีพลังด้วย

ผู้นำต้องตัดไฟแต่ต้นลม กล้าตัดสินใจ

ผู้นำต้องไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค

ควรมีการประกวดผู้นำสหกรณ์ทุกสาขา

ควรมีวิจัยภาวะผู้นำในวงการสหกรณ์

สวัสดี ผนส ทุกคน

วันนี้กลับจากนำ คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ ประธานกลุ่มเลขานุการกลุ่ม ตัวแทนกลุ่ม จำนวน 100 คน กลับจากการศึกษาดูงาน และที่ไปดูคือของพี่ไกรกฤษ สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด

ต้องขอขอบคุณสหกรณ์นิคมท่าแซะ เป็นอย่างมากที่ให้การต้อนรับ ด้วยความอบอุ่น และจริงใจ สมาชิกผมฝากชมมาด้วย โดยเฉพาะอาหารมื้อเที้ยง ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยมากๆ

สำหรับการไปศึกาดูงานครั้งนี้ภือว่าประสบความสำเสร็จเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนที่ไปได้แสดงความรู้สึกกันในรถ บอกว่าคุ้มกับนำเงินมาใช้ เพราะสถานที่ที่ไปดูงานแต่ละที่ได้รับความรู้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่สหกรณ์นิคมท่าแซะ ได้ทั้งความรู้ และไปดูสถานที่จริง โดยเฉพาะท่านผู้จัดการ

และที่จะพูดถึงไม่ได้ คือ กำนันนัด ผนส3 ไปให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น และเป็นผู้ขับรถนำทาง หากไม่ได้ท่านผมคงหลงอยู่นานแน่นอน

สรุปแล้ว การที่ได้ไปเรียนหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง ทำให้ได้อะไรหลายอย่าง หลังจากจบหลักสูตรมาแล้ว เรายังมีโอกาสได้ติดต่อ และเวลาไปไหนก็ไม่ต้องกลัว ว่าไม่มีเพื่อน ทุกที่ทั่วไทย เรามีเพื่อน

และหาก ผนส3 ท่านใดลงมาทางใต้ กรุณาส่งข่าวด้วยนะ จะได้ไปต้อนรับ

สวัสดีค่ะ ชาว ผนส.3

ได้เข้ามาอ่านใน blog ติดตามข่าวคราวเกือบทุกวัน ช่วงนี้มีแต่งานกับงาน เพื่อน ๆ ที่อยู่สหกรณ์การเกษตรคงทราบดี เพราะว่าเปลี่ยน อธิบดี ใหม่ มีงานใหม่ ๆ เข้ามา บางแห่ง ชาวกรมตรวจฯ ก็ไปขอความร่วมมือ และได้รับความร่วมมือด้วยดีเสมอมา

ช่วงนี้พอจะว่างนิดหน่อย คิดถึงพวกเราก็เลยเข้ามาทักทาย

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้รบกวนให้พี่น้อย คนสวย (ชวลี) คุณธนะ (เลขารุ่น) และคุณนก (อดิศักดิ์) เข้าร่วมประชุมกับ ผู้นำสหกรณ์ รุ่น 1 - 4 เพื่อร่วมจัดงานวันปิดภาคเรียนรู่นที่ 4 ที่จะมีขึ้นในว้นที่ 25 ธันวาคม นี้ ทราบมาจากคุณธนะ ว่า รุ่น 3 เราจะมีกิจกรรมแสดง 1 ชุด ไม่ทราบว่า พี่น้อย ดำเนินการหรือติดต่อกับใครบ้างแล้วหรือยัง สุดท้ายคงจะต้องให้น้องนุชสุดท้อง คือ น้องกุ้ง ช่วยคิดอีกแรงหนึ่ง แต่เกรงว่าไปหลงลมน้ำอยู่ที่ ปาย จะได้มาร่วมงานกันหรือไม่ หากว่างานนี้มีค่าใข้จ่าย คงต้องขออนุมัติจ่ายตามที่เกิดขึ้นจริงนะค่ะ

ทักทายเท่านี้ก่อนนะค่ะ คิดถึงทุกคนค่ะ

บทความดีๆอาจารย์ยม

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของผู้บริหารหรือผู้นำ

ที่มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จอย่างสูง

สวัสดี ผนส.และท่นผู้อ่านทุกท่านครับ

หวังว่า ทุกท่านคงสบายดีน๊ะครับ บันทึกของผมฉบับนี้ กล่าวถึง "พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของผู้นำ" ทั้งนี้ไม่มีเจตนาจะกล่าวว่าใครทั้งสิ้น เราพูดถึงผู้นำขั้นสูงแน่นอนว่าต้องมีขีดความสามารถในการคิดเชิงบวกหรือคิดกว้าหน้าสร้างสรรค์น๊ะครับ

ในบันทึกนี้ ผมได้อ่านบทความหนึ่งในหนังสือ What got you here, won’t get you there ของ ดร.มาร์แชล โกลด์สมิธ ได้อธิบายให้ความรู้เกี่ยวกับผู้บริหารหรือผู้นำไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่อง "พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของผู้นำ" ด้วยเหตุจูงใจให้อ่านคือ การค้นคว้าเพิ่มเติมประจำวัน ค้นคว้าหาข้อคิดไว้เตือนตนและเป็นการเตรียมพัฒนาปรับปรุงการทำงานของผมในปีใหม่ พ.ศ. 2553

ดร.มาร์แชล ผู้เขียนหนังสือดังกล่าว เป็นโค้ชให้กับผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายองค์การ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพทั้งสิ้น ดร.มาร์แชลยังเคยเป็นกรรมการบริหารใน "มูลนิธิปีเตอร์ ดรั๊คเกอร์" มาหลายปี เขาเคยได้พบเห็น Peter Drucker ซึ่งเป็นบรมครูของบรรดา ครู อาจารย์ ที่สอนในสาขาการบริหาร โดยได้ให้แง่คิดไว้หลากหลาย แต่ที่ ดร.มาร์แชล ชื่นชอบในความเห็นของ Peter Drucker มาที่สุดก็คือคำพูดของ Peter Drucker ที่กล่าวว่า

“พวกเราใช้เวลา แรงกายและแรงใจมากมายไปกับการสอนสั่งบรรดาผู้บริหาร หรือผู้นำในเรื่อง ใหม่ ๆ แต่ว่าเราให้ความสำคัญน้อยมากกับการสอนให้ผู้นำของเราเลิกพฤติกรรมบางอย่าง กว่าครึ่งของผู้นำที่เราพบ เขาเป็นผู้รอบรู้มากพออยู่แล้ว พวกเขาควรจะเรียนรู้ว่าจะเลิกพฤติกรรมอะไร (พฤติกรรมไม่พึงประสงค์) ต่างหาก” พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ดังกล่าว ได้แก่

1. ความอยากจะเอาชนะมากเกินไป คือการที่ต้องการจะชนะในทุกที่ทุกเวลาทุกคน โดยไม่สนใจว่าจะถูก จะเหมาะ จะควรหรือไม่ ไม่สนใจว่าจะต้องเสียอะไรไปบ้าง

2. ความต้องการมีส่วนแสดงความเห็นในทุกเรื่องทุกโอกาส คือคิดว่าตนเองปราถนาดี หวังดีต่อองค์กร ต่อการทำงานของทุกคนในองค์กร จึงเสนอแนะความเห็นไปเสียทุกเรื่อง ขอให้ได้บอก แม้ว่าจะพูดเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่หารู้ไม่ว่า "ถ้าผู้บริหารหรือผุ้นำยิ่งมีตำแหน่งสูงมากเท่าใด การออกความเห็นของเขาเพียงคำสองคำก็อาจจะกลายเป็นคำสั่งไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นก็ตาม"

3. การด่วนสรุปตราหน้าผู้อื่นเร็วเกินไป คือการที่ใช้มาตรฐานของตนเองเป็นใหญ่ในการประเมินคนอื่น ที่มีพฤติกรรมหรือผลงานไม่ดีหรือสูงเท่ากับของเขาเอง

4. การชอบวิจารณ์ในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ชอบเสียดสี หรือการแสดงความคิดเห็นแบบสอดแทรกในลักษณะที่ทำให้คนอื่นดูว่าเราฉลาดกว่าคนอื่น

5. การเริ่ม บทสนทนาด้วยคำพูดว่า “ที่เสนอมาน่ะ ก็ โอเคน๊ะ แต่ผมไม่เห็นด้วยนะ” “แต่ว่า” หรือ “อย่างไรก็ตาม” คือขอแสดงความเห็นคัดค้านไว้ก่อน เสมือนประหนึ่งว่า “ที่คุณทำ คุณพูดน่ะถูก แต่ของผมถูกกว่าก ถ้าขืนทำไปคุณอาจผิด (I'm OK, You're not OK”

6.ต้องการบอกให้โลกรู้ว่า “ข้านี้ฉลาดหรือเก่งเพียงใด”

7. การพูดด้วยความโกรธ ใช้อารมณ์ในการบริหารหรือการนำ

8. การชอบแสดงความเห็นแง่ลบไว้ก่อน แม้ว่าคนอื่นยังไม่ถามความเห็นเลย

9. การเก็บข้อมูลไว้ไม่แชร์กับคนอื่นๆ เพื่อที่จะทำให้ตนเองมีข้อมูลเป็นอำนาจต่อรอง

10. การไม่ชมเชยคนทำงาน ตกหล่นการยกย่องชมเชยและให้รางวัลเมื่อคนของตนทำงานได้ดี

11. การเอา ความดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นผลงานคนอื่น เป็นพฤติกรรมที่มองว่าตนเองมีส่วนสร้างสรรค์ผลงานและความสำเร็จสูงเกินความ เป็นจริง

12.การชอบมีข้ออ้างแก้ตัวว่า "ไม่ใช่ความผิดของตน" เช่น มาช้าเพราะวางแผนเวลาไม่ดีก็อ้างว่ารถติด

13. ชอบโทษอดีตชะตากรรม มักยกเรื่องราวในอดีตเพื่อจะเป็นข้อแก้ตัวว่าตนเองไม่ใช่สาเหตุ “ผมเป็นลูกคนกลาง เลยชอบเรียกร้องความสนใจ ทำให้หงุดหงิดง่ายไปหน่อย...”

14. การไม่มีความยุติธรรม ชอบเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างเห็นได้ชัด

15. การขอโทษคนไม่เป็น เมื่อทำอะไรพลาดลงไปก็ไม่ยอมรับ และไม่แสดงความรับผิดชอบขอโทษคนที่ได้รับผลกระทบ

16. การไม่ยอมรับฟังความเห็นจากคนอื่น เป็นพฤติกรรมที่ไม่แสดงความเคารพคนอื่นด้วยการไม่ฟังเขาเหล่านั้น

17. การขอบคุณผู้คนไม่เป็น ไม่ขอบคุณคนอื่นที่เขาให้ความช่วยเหลือ เป็นเรื่องความบกพร่องพื้นๆ ที่มองข้ามไป

18. การทำร้ายคนที่บอกข่าว เมื่อมีคนพยายามจะบอกเราในเรื่องที่ไม่ดี แทนที่จะขอบคุณเขา กลับตำหนิเขากลับอย่างรุนแรง

19. การโบ้ยความผิดไปให้ผู้อื่น ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นสาเหตุ

20. มีอัตตาสูง มีความเป็น “ตัวกู ของกู” มากจนเกินไป ยึดมั่นในตนเองสูง ไม่ยอมจะทำในเรื่องต่างๆ ที่ง่ายๆ เช่น การไม่อยากชมคนอื่นเพียงเพราะว่า “ก็ฉันเป็นคนไม่ชอบชมคนนี่น่า ฉันเป็นของฉันอย่างนี้เอง...”

พฤติกรรมที่เป็นหลุมพรางของนักบริหารหรือผู้นำขั้นสูง เหล่านี้ จะเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าและความสำเร็จของผู้บริหารหรือผู้นำ คือเคยรุ่ง เคยสำเร็จมาแล้ว แต่หากมีพฤติกรรมดังกล่าว อาจทำให้ตกต่ำลงได้ ดังคำกล่าวที่ ดร.มาร์แชล โกลด์สมิธ กล่าวไว้ในหนังสือว่า “What got you here..Won’t get you there” หนทางในอดีตอาจไม่ใช่เส้นทางไปสู่จุดมุ่งหมายของอนาคต

“How Successful People Even Become More Successful?” ผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วจะสามารถประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นได้อย่างไร จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ผู้บริหาร ผู้นำที่มีวุฒิภาวะผู้นำที่ต้องการประสบความสุขความสำเร็จมาแล้ว และยังคงมุ่งมั่นที่จะแสวงหาความสุข ความสำเร็จอย่างยั่งยืนมักให้ความสำคัญเสมอ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาขีดความสามารถของผู้นำทุกระดับครับ

ขอความสวัสดีจงมีแด่ทุกท่าน

--------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิง

Dr. Marshall Goldsmith, What Got You Here Won't Get You There: How Successful People Become Even More Successful (Hardcover, January 8, 2007)

http://gotoknow.org/blog/yom-nark11/234646

http://fws.cc/dreamland/index.php?topic=32.0.12/14/2009 http://www.raidaidd.com/forums/archiver/?tid-432.html.12/14/2009

ถึงพี่จิ๋นคนสวย....ตอนนี้ยังอยู่ที่ กทม. อีกสักระยะค่ะ และก็ได้เข้าร่วมงานวันที่ 25 แน่นอน

แล้วแต่พี่น้อยคนสวยจะว่ามีกิจกรรมใดบ้าง

เราน่าจะได้คุยกันบ้างนะคะ อย่างน้อยก็คนที่อยู่ใน กทม น่าจะเป็นแกนหลักให้กับคนที่อยู่ในต่างจัหวัด

แล้วงานวันที่ 25 มีท่านใดมาได้หรือไม่ได้อย่างไรแจ้งให้ทราบกันหน่อยเน้อ จะได้เตรียมกิจกรรมให้สอดคล้องกับบุคลากร

ท่านประธานผนส.3 มาร่วมงานวันที่ 25 นี้ไม่ได้คะตรงกับวันเปิดปั้มนำมันสหกรณ์พอดี คิดถึงเพื่อน ๆทุกคนคะ น้องกุ้งคนสวยคงเป็นตัวแทนพี่ๆเพี่อนๆที่อยู่ไกลได้เป็นอย่างดีนะคะ

สวัสดี ผนส ทุกคน

วันที่ 25 นี้ ผมไปร่วมไม่ได้เนื่องจากประชุมใหญ่สามัญประจำปี สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานสหกรณ์จังหวัดสงขลา จำกัด ซึ่งผมเป็นประธานอยู่ อีกอย่างวันที่ 30 ธันวาคมนี้ สหกรณ์ ฯ ผม มีกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่/ กิจกรรมการระดมทุน มีการทำบุญตักบาตร มอบทุนการศึกบุตรสมาชิก มอบทุนสวัสดิการผู้สูงอายุ การจับรางวัลชิงโชค มีรางวัลใหญ่ปีนี้ รถจักรยานยนต์ 1 คัน ทองคำ หนัก 1 บาท โทรทัศน์ ตู้เย็น อื่นๆ อีกมากมาย เลยไปร่วมงานไม่ได้

ต้องขออภัยจริง ๆ ไว้โอกาสหน้า จะพยายามไปให้ได้

อรนุช (ผู้ประสานงานจัดอบรม ผนส.รุ่น 4

เรียน ผนส.1-3 ทุกท่าน

ตามที่ท่าน ผนส.1-3 ได้มาประชุมร่วมกันในวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีมติว่าจะจัดการแสดงร่วมกับ ผนส.2และ 3 จำนวน 1 ชุด ในวันที่ 25 ธ.ค. 52 นี้ กำหนดเวลาปิดการอบรมและมอบวุฒิบัตร ของ ผนส. 4 จะล่นเวลาเข้ามาเร็วขึ้น จึงทำให้ ผนส. 4 ต้องขอปรับเปลี่ยนกำหนดการจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จมาเป็นวันที่ 24 ธ.ค. แทน ซึ่งกิจกรรม เราจะเริ่มกันตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. คะ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

128 ข้อ

1. บ้านพักที่ใหญ่โตเกินไป แต่ในบ้านมีคนพักน้อย ไม่เป็นมงคลจะทำกินไม่ขึ้น ในครอบครัวจะดีมาก ทำให้อบอุ่น ทำกินร่ำรวย

2. บ้านที่มีหลังบ้านข้างบ้านมีตึกสูงกว่าดี แต่อย่าชิดเกินไป

3. บ้านสองบ้านที่เล็งกัน บ้านฝั่งที่ต่ำกว่านับว่าไม่เป็นมงคล, บ้านที่สร้างขวางทางยาว แต่กินที่แคบไม่ลึกไม่เป็นมงคล

4. บ้านใดที่ปลูกต้นไผ่ แล้วคนภายนอกมองไม่เห็นคนในบ้าน จะทำให้คนอยู่อาศัยจะพบความเจริญ

5. บ้านของลูก ๆ ไม่ควรสร้างในลานบ้านของพ่อแม่ ครอบครัวจะยากจนลง แต่ลูกคนโตไม่เป็นไร ให้หันประตู6. บ้าน ตามรหัสราศีปีเกิด หรือตามทิศของโป้ยข่วย คือ ทิศตะวันออก

7. บ้านที่มีตึกสูงอยู่ใกล้ แสดงถึงมีผู้มาให้ความช่วยเหลือคุ้มครองและอย่านำต้นไม้ที่เป็นรากมาประดับโดยแขวน รากชี ฟ้าจะไม่เป็นมงคล

8. บ้านที่มีลานโล่งห้ามล้อมรั้วกลางลานโล่งจะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคตา หัวใจ

9. บ้านที่อยู่รวมกัน ห้ามเอาหลังคาชนกันจะไม่เป็นมงคล บ้านชั้นเดียว ถ้าคับแคบให้ปลูกเพิ่มเติม ต้องแก้เคล็ด

10. บ้านควรปลูกเป็นรูปสี่เหลี่ยม ไม่ควรปลูกส่วนเกิด ส่วนขาด จะเป็นอัปมงคล เสียหาย

11. บ้านอย่าแขวงเครื่องประดับมากเกินไป โดยเฉพาะนอแรด เขากระทิง หัวสัตว์ที่ดุร้ายไม่ควรแขวนเลย เพราะ วิญญาณมักจะตามมาทวงและรบกวนเจ้าของบ้าน

12. บ้านเล็กอย่าสร้างประตูใหญ่จะเกิดปากเสียงทำกินไม่ขึ้น

13. บ้านไม่ควรเจาะหลังคา นะไม่เป็นมงคล ถ้ากลัวว่าทึบก็ให้ใช้กระเบื้องใสแทน

14. บ้านหลังเดียว ควรมีประตูหลังบ้านถึงจะเป็นมงคล

15. บ้านผู้ดีมีเงินมักสร้างศาลาพักผ่อนยื่นออกมา ตามหลักฮวงจุ้ยห้ามสร้างบ้านยื่น ขาด เว้า แหว่ง จะมีอันเป็นไป ต้อง ปลุกต้นไม้รับตัวบ้านและศาลาที่สร้างต้องรวมกันให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม

16. บ้านที่มีกำแพงเก่าควรทาสีให้ใหม่เสมอ เวลากลางคืนควรติดไฟให้สว่างจะพบแต่ความเจริญ

17. บ้านที่มีที่ดินด้านหลังบ้านแคบหน้าบ้านกว้างไม่เป็นมงคลให้แก้เคล็ดโดยการติดกระจก บริเวณที่แคบทั้งสองด้าน เพื่อเวลามองแล้วจะรู้สึกกว้าง ลึก

18. บ้านที่มีหน้าบ้านแคบแต่หลังบ้านกว้างเป็นถุงเงินถุงทองดี บ้านที่ปลูกแล้วดูเป็นรูป W, L ไม่เป็นมงคล

19. บ้านที่มีกำแพงสูงมากเกินไป เช่นสูงเกิน 2 เมตร ไม่เป็นมงคล (เหมือนคุก)

20. บ้านที่สร้างแล้วมีความลึกมากกว่าความกว้างงอยู่แล้วจะเจริญรุ่งเรือง, บ้านที่สร้างตามความลึกเป็นมงคล

21. บ้านที่มีการปลูกหน้าบ้านยาวแต่แคบไม่เป็นมงคล , บ้านหรือที่ดินบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสเป็นมงคลยิ่ง

22. บ้านสร้างบ้านอยู่บนเนินเขา ไม่ดี, บ้านสูงต่ำ เล่นระดับ ไม่ดี, บ้านมีห้องใต้ดินอยู่กลางบ้าน ไม่ดี

23. บ้านที่แหว่งบางส่วน คนในบ้านจะมีอันเป็นไป เช่น ถ้าแหว่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หมายถึงแม่หรือหญิงเจ้าของ บ้าน ถ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือคือ พ่อ หรือชายเจ้าของบ้าน

24. บ้านที่แหว่งทิศตะวันออก และตะวันตกผลกระทบ คือลูกชายคนโต และลูกสาวคนเล็ก ไม่เป็นมงคล ต้องแก้เคล็ด

25. บ้านหรือพื้นที่เว้าแหว่ง ทิศเหนือและใต้จะเสียหายแก่ลูกสาวงคนกลาง (ทิศใต้) ลูกชายคนกลาง (ทิศเหนือ) จะมีเรื่องคดีความ, บ้านด้านหนึ่งมีปล่องควันปล่องควันแทนก้านธูปไหว้คนตายไม่ดี

26. บ้านที่ตะวันออกเฉียงเหนือแหว่งจะเกิดเสียหายแก่ลูกชายคนเล็กและระบบย่อยอาหาร

27. บ้านหรือที่ดินที่เว้า แหส่ง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีผลกระทบกับพ่อ หรือชายเจ้าของบ้าน และผู้คนในครอบครัว บ้านที่เป็นรูปทรงหน้ากว้างหลังแคบจะเก็บเงินไม่อยู่ จะยากจน

28. บ้านที่แหว่งจะทำให้ครอบครัวไม่มีความเจริญรุ่งเรือง และถ้าแหว่งทางทิศตะวันออกจะมีผลกระทบเกี่ยวกับลูกชายคนโต บ้านที่มีหลังคาด้านซ้ายยาว ด้านขวาสั้น ภายในครอบครัวจะพบภัยพิบัติ

29. บ้านเวลาปลูกอย่าตั้งเสาข้างหนึ่งสูงข้าง ข้างหนึ่งเตี้ย จะแสดงถึงการทำกิน ธุรกิจง่อนแง่น

30. บ้านที่เก่าถ้าจะเข้าไปอยู่ใหม่ควรทาสีให้ใหม่ กลอนประตูควรจะเปลี่ยนใหม่ จะนำโชคลาภมาให้

31. บ้านถ้าอยู่ใกล้สุสานไม่ดี , บ้านที่มีสะพานพุ่งแทงเข้ามาให้แก้เคล็ดโดยปลูกต้นไม้ไผ่บังสายตา

32. บ้านที่มีบ่อน้ำที่มีมุมแหลมพุ่งตรงสู่หน้าบ้านไม่เป็นมงคล ควรแก้เคล็ดโดยปลูกต้นไม้บังบ่อตรงมุมแหลม จะพบความสุข , บ้านที่มีหลังคาเป็นรูปโค้งไม่ดี

33. บ้านที่มีบ่อน้ำอยู่หลังให้ระวังเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เช่น โรคท้อง

34. บ้านที่เพดานเฉียง ไม่ดี, บ้านมีคาน ไม่ดี, บ้านที่มีคานไม่เสมอกัน ไม่ดี, บ้านสร้างคล้ายรูปตัวยู ไม่ดี

35. บ้านที่มีถนนโค้งออก อยู่แล้วไม่เจริญ , บ้านที่มีถนนล้อมรอบทั้ง 4 ด้านไม่เป็นมงคล , บ้านที่มีทางโค้งออกอยู่ไปจะทำให้ยากจน, บ้านที่อยู่ใกล้สี่แยกให้ตั้งประตูใหญ่ให้ถูกรหัสราศีของเจ้าของบ้าน และอีกส่วนด้านให้ปลูกต้นไม้แทนภูเขาเพื่อแก้เคล็ด

36. บ้านที่อยู่ใกล้สี่แยกระวังขโมยขึ้นบ้านบ่อย และถ้าถนนตัดกับทิศตะวันตกเฉียงใต้ คนในบ้านมักจะมั่วกาม

37. บ้านมีสองบันได ไม่ดี , บ้านรูปทรงตัว H ถือว่าบ้านเว้าแหว่ง จะเสียทรัพย์ เสียชื่อเสียง

38. บ้านเว้าแหว่ง รูปทรงกากบาท หมายถึงป่วย ความตาม ไม่ดี

39. บ้านที่มีรูปทรงแปลก ๆ ผิดปกติ เฉียงเอียงเว้าแหว่งล้วนไม่ดี, บ้านมีคนพักอาศัยมากจะทำให้คนในบ้านอบอุ่น

40. บ้านที่มีลานหน้าบ้านกว้าง เป็นฮวงจุ้ยที่ดี, บ้านถูกทางแทง ไม่ดี ต้องแก้ไข

41. บ้านเป็นรูปสามเหลี่ยม เรียกว่าถังขยะ ธุรกิจเจ๊ง เป็นมะเร็ง อัมพาต

42. บ้านแตกร้าว ในบ้านจะเกิดปากเสียง ไม่ดี, บ้านตรงข้ามโบสถ์ จะมีแต่ความเสื่อมเสีย มีเรื่องชู้สาว

43. บ้านรูปแปดเหลี่ยมดี บ้านที่มีเหลี่ยมตึก หน้าจั่วแทงด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา ไม่ดี

44. บ้านที่อยู่ใกล้เสาไฟแรงสูง อันตรายเวลาฝนตก, บ้านอยู่ตรงข้ามโรงไฟฟ้าไม่ดี ต้องแก้ไข

45. บ้านติดโรงพยาบาลไม่ดี การค้าสะดุด การเงินเป็นหนี้ สุขภาพไม่ดี

46. บ้านร้างที่อยู่ใกล้บ้านใหม่ จะทำให้บ้านใหม่ไม่ดีไปด้วย, หน้าบ้านมีกองขยะ หรือสิ่งรก ๆ ไม่ดี

47. บ้านที่อยู่ระหว่างช่องว่างของตึกสูง เรียกว่าลมพิฆาต ไม่ดี วิบัติรุนแรง

48. บ้านมีต้นไม้เอียงเบนห่างออก ไม่ดี ขาดผู้สนับสนุน, บ้านถูกทางน้ำ หรือบันไดแทง ไม่ดี

49. หน้าบ้านที่มีบ้านมุมบ้านแหลม หันมาแทงบ้านของตัวเอง, หน้าบ้านมีบ่อรูปสามเหลี่ยม ไม่ดี

50. หน้าบ้านมีบ่อน้ำสองบ่อ เรียกว่าบ่อน้ำตา ไม่ดี, หน้าบ้านห้ามมีศาลเจ้า โบสถ์ วัด

51. หน้าบ้านทางด้านซ้ายมือมีสระน้ำอยู่มุมมังกรเขียว ผู้อยู่อาศัยจะเจริญรุ่งเรือง

52. หน้าบ้านถ้ามีต้นไม่ใหญ่ตายยืนควรจะโค่นตัดทิ้งเลย มิฉะนั้นจะพบความยากจน

53. หน้าบ้านมีรูปเหมือนรูปปืนที่ยิงใส่หน้าบ้านตลอด อยู่ใกล้ไปจะยากจน , หน้าบ้านมีท่อระบายน้ำหรือแทงค์น้ำอยู่ไม่ดี

54. หน้าบ้านมีเสาเครื่องหมายจราจรอยู่ไม่ดี,หน้าบ้านมีทางเข้าออกของรถ ของบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ตรงกัน แทงกันเองไม่ดี

55. หน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่เหมือนมีมีดมาฟันบ้าน ไม่ดี, ประตูใหญ่อย่าสร้างประตูเล็กไว้ 2 ข้าง แต่ให้สร้างข้างเดียวคือ หันหน้าอกสร้างตรงซ้ายมือ (มุมมังกรเขียว) , ประตูตรงกันไม่เป็นมงคล,ประตู เสา และฝาบ้าน ต้องเลือกไม้ที่ไม่มีตามาก ๆ

56. ประตูหน้าบ้านห้ามตรงกับประตูห้องน้ำไม่ดี จะเกิดโรคฝีหรือโรคมะเร็งได้, ประตูบ้านที่มีซุ้มสูงกว่าหลังค่าไม่เป็นมงคล ให้แก้ไข จะได้พบแต่ความสุข, ประตูที่ทำซุ้มแบบซุ้มประตูของศาลเจ้าหรือมูลนิธิ บ้านคนธรรมดาห้ามสร้างจะไม่เป็นสิริมงคล, ประตูบ้านไม่ควรจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลางประตู

57. ประตูหน้าบ้านมีสะพานพุ่งเข้าหน้าบ้านไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับเตียงนอนไม่ดี, ประตูใหญ่ตรงประตูห้องน้ำไม่ดีจะทำให้เงินเข้าบ้านไม่ดี สุขภาพไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับประตูห้องน้ำไม่ดี จะเกิดโรคภัย ธุรกิจสะดุด

58. ประตูใหญ่ตรงกับประตูห้องนอน จะเกิบเงินไม่อยู่ มีปากเสียง ไม่ดี, ประตูรั้วบ้านฝั่งตรงข้ามใหญ่กว่าบ้านเราไม่ดี

59. ประตูตรงกันหลายบาน ตรงกับเตา ทำให้ร้อนเงิน มีปากเสียง ไม่ดี, ประตูตรงห้องนอนห้ามตรงกับบันได ไม่ดี

60. ประตูห้องส้วมตรงกับเตียงนอนไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับประตูครัว ทำให้เกิดปากเสียงเงินเก็บไม่อยู่

61. ประตูด้านซ้ายควรใหญ่กว่าด้านขวา, ประตูรั้วสูงกว่ากำแพงไม่ดี

62. บันไดตรงกับประตูห้องนอน ไม่ดี, บันไดตรงประตู ไม่ดี, บันไดตรงห้องน้ำ ไม่ดี, บันไดอยู่กลางบ้านตรงประตูเข้าออก ไม่ดี

63. ห้องนอนติดกับเตา หรือห้องครัวไม่ดี, ห้องนอนของคนชราควรอยู่ชั้นล่าง เพราะอายุมากกระดูกไขข้อเริ่มเสื่อม

64. ห้องนอนควรที่จะเก็บแต่เสื้อผ้าใหม่และข้องใหม่ จะเป็นมงคล, ห้องนอนควรอยู่ให้ถูกกับรหัสราศีของตัวเอง

65. ห้องนอน ผ้าห่ม หมอน ควรที่จะแห้ง สะอาดอยู่เสมอ, ห้องนอนอยู่ใต้ห้องน้ำจะเจ็บป่วย

66. ในห้องนอนเจ้าบ้านควรอยู่ทิศในรหัสราศีของตัวเองถึงจะเป็นมงคล

67. ห้องนอนประตูห้องนอนไม่ควรตรงกับประตูหน้าบ้าน, ห้องนอน เตียงนอนไม่ควรจะตรงกับประตูห้องหนอและไม่ควรเป็นห้องเก็บของ จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ

68. กระจกอย่าวางไว้ที่หัวนอน เพราะจะทำให้เสียสุขภาพ

69. เตียงนอนอยู่บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ดี ไม่เป็นมงคล

70. ใต้เตียงนอนไม่เหมาะที่จะเก็บถ้วยชามที่ร้าว จะทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพ

71. เตียงนอนตรงกับประตู ไม่ดี, เตียงนอนห้ามตั้งอยู่บนเตาไฟ จะทำให้คนนอนสุขภาพไม่ดี

72. เตียงนอนห้ามอยู่ใต้บันได เพราะจะมีคนขึ้นลงอยู่ประจำ, การตั้งเตียงเป็นมุมทะแยง ไม่ดี จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ

73. ด้านหัวนอนของเตียงและปลายเท้าห้ามตั้งกระจก, ห้ามนอนเอาเท้าหันไปสู่ประตู

74. หิ้งลอย ตู้ลอย ไม่ควรอยู่บนหัวนอน จะทำให้เครียด เกิดโรคทางสมอง

75. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรตั้งตรงบันได หรือใต้บันได ไม่เป็นมงคล, การตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ห้ามเอาหลังอิงห้องน้ำ ไม่เป็นมงคล

76. ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรตั้งในห้องนอนถ้าเป็นคนโสดไม่เป็นไร ถ้ามีคู่แล้วห้าม

77. สิ่งศักดิ์สิทธ์ตั้งอยู่บนห้องน้ำ เป็นสิ่งไม่สมควร ควรแก้ไข

78. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ห้ามตั้งอยู่ใต้คาน รวมทั้งคนด้วยเช่นกันก็ห้ามอยู่ใต้คาน

79. ห้องพระไม่ควรรวมกับห้องนอน ถ้าที่คับแคบจำเป็นต้องรวมให้กั้นฉากเป็นสัดส่วน ห้องนอนอย่าอยู่หน้าห้องรับแขก

80. บ่อน้ำไม่ควรเป็นที่ทิ้งขยะ ไม่ดี, บ่อน้ำอยู่หลังบ้าน หรือหลังเตียงนอน ไม่ดี

81. คานอยู่หน้าประตูไม่ดีจะส่งพลังกดทับทำให้เงินหรือพลังไม่คล่อง คานต่ำ เพดานต่ำ จะทำให้ชี่ (เงิน) เข้าบ้านไม่สะดวก

82. คานห้ามอยู่บนหัวนอน จะเป็นมะเร็งในสมอง เส้นโลหิตในสมองแตก, คานทับเตาไฟ ทำให้เงินขาดมือ

83. ห้องน้ำอยู่บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เป็นมงคล, ห้องน้ำอยู่บนประตูใหญ่ไม่ดี ทำให้เงินไม่ไหลเข้า, ห้องน้ำอยู่เหนือเตาไฟ ไม่ดี

84. ด้านหลังของเตียงเป็นห้องน้ำไม่ดี

85. ห้องน้ำกลางบ้านไม่ดี, เครื่องซักผ้าตรงกับเตาไม่ดี, ห้องครัวถ้ามีขื่อพาดอยู่ ไม่ดีจะเจ็บป่วย ยากจน

86. ห้องครัวห้ามอยู่ติดกับห้องนอน ถ้าจำเป็นจะตั้องกั้นผนังห้องครัวและห้องนอนอย่าให่มีอากาศเข้าถึงกันได้

87. เตาตรงกับประตู เท้ากับชักนำเพื่อนเข้ามากิน แล้วก็จากไป แต่ตัวเราจะจนลง ไม่ดี

88. เตาแก๊สห้ามตั้งติดกับก๊อกน้ำหรืออ่างล้างชาม ไม่ดี

89. การตั้งเตาควรหันที่ปิดเปิดให้ถูกโฉลกและเป็นมงคลกับเจ้าบ้าน

90. หัวเตาแก๊สควรมี 3, 5, 7 เตาดีที่สุด, ไม่ควรสร้างเตาไฟเล็งไปที่ประตู

91. ไม่ควรวางเตาไว้บนท่อระบายน้ำหรือท่อ น้ำประปา, ด้านหลังเตาแก๊สห้ามมีบ่อน้ำ

92. ด้านหลังเตาอย่าให้ห่างผนังมากเกินไป

93. ครัวเตาไฟไม่ควรจัดไว้หน้าบ้าน จะไม่มีทรัพย์สินเก็บจะมีคนในบ้านตายทุก 3 ปี

94. ตัวเตาในบ้านอย่าให้คนนอกบ้านเห็นจะไม่เหลือเงินเก็บ, การตั้งเตาอย่าใกล้สระน้ำ หรือน้ำประปา

95. หน้าเตาไฟหันไปสู่ทิศตะวันออก หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ดี เป็นมงคล แต่ถ้าจะให้ดีต้องถูกรหัสราศีทิศของเจ้าของบ้านด้วย

96. ไม่ควรสร้างเตาในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน แต่ควรหันหัวเตาให้ถูกโฉลกรหัสราศีของเจ้าของบ้าน

97. ห้องนั่งเล่นโซฟารูปสามเหลี่ยมไม่ดี, ข้างบ้านมีเครื่องระบายความร้อนพุ่งมาหาบ้านอีกฝ่ายหนึ่งไม่ดี

98. ต้นไม้ชิดบ้านเกินไปไม่ดี แต่ถ้าห่างประมาณสิบเมตรดี จะมีผู้สนับสนุน, หลังบ้านมีบ่อน้ำตรงกับเตา ไม่ดี

99. ห้องนั่งเล่นเป็นหลุมเป็นแอ่งกระทะ ไม่ดี, ท่อน้ำอยู่ใต้เตาไม่ดี เพราะน้ำกับไฟเป็นศัตรูกัน

100. การตั้งโต๊ะทำงาน ควรตั้งในมุมทรัพย์ จะร่ำรวยมาก, ถ้าด้านซ้ายมือของบ้านมีสะพานให้แก้เคล็ด

101. ถ้าสุสานอยู่ทางทิศตะวีนออกของบ้านให้แก้เคล็ด, หลังบ้านอย่าให้มีรอยแตกร้าว จะเป็นอัปมงคล

104. หลังคา เพดานบ้าน อย่าให้รั่ว ถ้ารั่วให้รีบซ่อมเสีย ถ้าไม่แก้ไขเงินทองจะเก็บไม่อยู่ยากจน

105. ขื่อบ้านถ้าร้าว หักควรรีบแก้ไข เพราะไม่เช่นนั้นในบ้าน จะเกิดขาดผู้ช่วยสนับสนุนเงิน ทองร่อยหรอลง เจ็บไข้ได้ป่วย

106. ในบ้านมีหญิงมีครรภ์ ไม่ควรต่อเติมบ้าน หรือย้ายเตียง ถ้าฝืนทำแล้วหญิงในบ้านอาจแท้งบุตรได้ หรือบุตรคลอดออกมาไม่สมประกอบ

107. พื้นที่นอกบ้านควรจะต่ำกว่าพื้นในบ้าน จึงเป็นมงคล, ห้ามทำราวตากผ้าผ่านเตาไฟ จะเป็นอัปมงคล

108. โรงรถควรจะมีความกว้างเสมอกับบ้านอย่าให้ยื่นเกินออกมา

109. ผู้ที่เกิดราศีทิศตะวันออก ธาตุไม้ ไม่ควรหันหน้าบ้านไปสู่ราศีตะวันตก ธาตุทอง เพราะเป็นศัตรูธาตุ

110. ผู้ที่เกิดราศีทิศเหนือ ธาตุน้ำ ห้ามหันเข้าสู่ทิศใต้ ธาตุไฟ เพราะเป็นสัตรูธาตุ

111. ผู้ที่เกิดราสีทิศตะวันตก ห้ามมีหน้าบ้านหันสู่ทิศตะวันออก เพราะเป็นคู่ศัตรูกัน

112. ผู้ที่เกิดราศีทิศใต้ ธาตุไฟ ห้ามมีหน้าบ้านหันสู่ทิศเหนือ เพราะเป็นทิศคู่ศัตรูกัน

113. จำนวนห้องที่กั้นในบ้าน ควรกั้นเป็นเลขที่เป็นมงคล คือ 1, 2, 5, 6, 7 ห้องดีเป็นมงคล

114. ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ไม่ควรสร้างห้องนั่งเล่นจะไม่เป็นมงคล, ห้องนั่งเล่น หรือรับแขกตั้งอยู่กลางบ้านถือว่าเป็นมงคล

115. การสร้างบันไดตรงดิ่งลงมาที่หน้าประตูอยู่กลางบ้านถือว่าเป็นมงคล

116. ตรงกลางบ้านห้ามทำเป็นห้องน้ำ หรือห้องส้วม ทำเป็นห้องนอนดีที่สุด

117. หน้าต่างมีได้ทุกทิศดีที่สุด แต่หน้าต่างและประตู ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ตรงกัน

118. วงกบ เสาบ้าน ไม่ควรคดงอ จะทำให้เกิดเรื่องอัปมงคล, หน้าต่างหรือประตูควรจะสร้างกันสาดถึง จุเจริญรุ่งเรือง

119. กำแพงบ้านอย่าสูงเกินไป (เกิน 2 เมตร) หรือต่ำเกินไป (1.40 เมตร)

120. ตำแหน่งกำแพงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนืออย่าให้ชำรุดจะมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล

121. สร้างบ้านไม่ควรสร้างกำแพงหรือภูเขาก่อนจะทำให้ยากจน หรือถูกคุมขัง

122. กำแพงบ้านไม่ควรเจาะเป็นหน้าต่าง จะไม่เป็นมงคล, กำแพงบ้านสร้างเป็นรูปโค้งดีกว่าสร้างกำแพงเป็นรูปสี่เหลี่ยม

123. ไม่ควรสร้างกำแพงบ้านให้ชิดบ้านเกินไป, ตัวที่ดิน หรือตัวบ้าน ข้างหน้าแคบข้างหลังกว้างไม่เป็นมงคล

124. ที่ดินที่เคยมีต้นไม้ใหญ่อยู่หนาแน่น ควรจุขุดรากถอนโคนให้หมดเสียก่อนค่อยปลูกบ้าน

125.ทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสะพานจะดีแต่แรก จะแย่ในภายหลัง

126. ร้านค้าหรือบ้านไม่ควรนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คนภายนอกเห็น เพราะจะมีคนแกล้งเอาของสกปรกมาทำลายสิ่งศักดิ์สิทธ์

127. ร้านค้าใดถ้าหากมีสะพานพุ่งตำเข้ามาหา จะเป็นทิศใดก็ตาม ควรประกอบอาชีพประเภท ขายอาวุธ ของมีคม ขายเนื้อ ซึ่งต้องใช้ของมีคมประจำ ถึงจะเจริญรุ่งเรือง

128. ร้านค้าใดก็ตามควรจะตั้งหน้าบ้านให้ถูกรหัสราศีกับเจ้าของบ้านและตั้งเตาให้ถูกรหัสราศีของเจ้าของบ้านด้วย

หมายเหตุ การแก้ไขฮวงจุ้ยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากตกแต่งถูกทิศร้ายประจำปี เดือน วัน หรือ เวลาที่ไม่ดี จะนำเภทภัยเรื่องร้ายเข้ามาภายใน 1 วัน ถึง 3 เดือน

อนาคต...รถจะใช้น้ำแทนน้ำมัน (นิติภูมิ)

ศุกร์ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๒

ผมเคยเขียนลงไปใน นสพ.ไทยรัฐ เมื่อ ๔ ปีที่แล้วนี่แหละครับ ว่าต่อไปในอนาคต เยาวชนคนรุ่นใหม่จะไม่รู้จักเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า ต่อไปมนุษย์จะไม่รู้จักปั๊มน้ำมัน บริษัทน้ำมันทั้งหลายในโลกนี้จะต้องมลายหายไป ประเทศที่จะกลับไปยากจนเหมือนเดิมก็คือ กลุ่มประเทศตะวันออกกลางทั้งหลายที่กดดันโลกมาเป็นเวลาช้านานด้วยพลังงานฟอสซิล อย่างน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เขียนรับใช้ไปเมื่อก่อนตอนโน้น โอย ไอ้ปื๊ดลูกเจ้สำอางข้างบ้านผมมันหัวเราะเยาะข้อเขียนของผมจนฟันกระเด็นออกมานอกปาก อีเปี๊ยกลูกเจ้น้องก้นซอยสอง มันก็ไปโพนทะนาสาธยายว่าพี่นิติภูมินี่หัวเสื่อมไม่มีน้ำยาสมองแล้ว บ้าบอคอแตกถึงขนาดเขียนออกไปได้ว่า ต่อไปโลกจะไม่ใช้น้ำมัน จะไม่มีเสาไฟฟ้า วันนี้ สิ่งที่เขียนความจริงแล้วครับ มากมายหลายประเทศประสบความสำเร็จในการนำรถเซลล์เชื้อเพลิง หรือรถพลังงานไฮโดนเจน ออกมาใช้กันแล้ว ถ้าผู้อ่านท่านเทียวเที่ยวไปตามประเทศต่างๆ เห็นข้างรถเขียนตัวอักษรว่า FCV หรือ FCHV ก็ขอให้ทราบไว้ว่า รถยนต์พวกนี้ไม่มีถังน้ำมันและไม่ใช้น้ำมัน รถพวกนี้ไม่มีท่อไอเสีย และจะไม่ปล่อยก๊าซเสียอะไรออกมาให้มนุษย์เป็นมะเร็งเลย เพราะไม่มีการสันดาปหรือเผาไหม้อะไร เพียงแต่มีน้ำหยดออกมาบ้าง เพราะเมื่อก๊าซไฮโดรเจนเจอกับก๊าซอ๊อกซิเจนในอากาศ ก็จะรวมตัวกันได้เป็นน้ำ รถยนต์แห่งอนาคตใช้น้ำ ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหลายในโลกนี้ที่เคยใช้น้ำมันไปปั่นกระแสไฟฟ้า ต่อไปใช้น้ำ คุณพี่ทนง ขันทอง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น และนิติภูมิมีวาสนาก้นได้ไปนั่งมากันแล้วที่ญี่ปุ่น โอย ผู้อ่านท่านผู้เจริญ รถบ้าอะไรไม่รู้วิ่งนิ่ง เงียบ เฉียบ เร็วปรู๊ดปร๊าด แซงซ้ายป่ายขวาได้ไวกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเยอะ เติมโฮโดรเจนครั้งเดียวเที่ยวเทียววิ่งไปได้ไกลกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันมาก โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ฯลฯ อะไรทั้งหลายทั้งปวงต่อไปใช้เซลล์เชื้อเพลิง หรือ fuel cell ที่มาจากไฮโดรเจนทั้งนั้น ประเทศไทยไชโยของเราซื้อน้ำมันมาใช้ในประเทศปีละ ๘-๙ แสนล้านบาท เกินครึ่งหนึ่งของงบประมาณที่ใช้กันในประเทศในแต่ละปี หากรัฐบาลไทยจริงใจ ไม่จิงโจ้ ผมว่าท่านเจียดงบประมาณเอาไปให้สถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ สถาบันที่ไม่ขายการศึกษาหากิน ฯลฯ ค้นคว้าวิจัยให้ถึงกึ๋น ไม่ใช่ต่อไปในอนาคต เมื่อเซลล์เชื้อเพลิงราคาถูกลงและใช้กันทั่วโลกแล้ว ไทยยังต้องใช้เงินเท่าเดิมซื้อเทคโนโลยีพลังงานเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ อย่างนี้ก็กรรมของชาติบ้านเมืองละครับ สิบปากว่าไม่เท่าหนึ่งตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าหนึ่งมือคลำ คุณพี่ทนง ขันทอง กับนิติภูมิไปคลำมาแล้ว แม้ว่าจะเอามาให้ท่านคลำที่เมืองไทยยังไม่ได้ แต่ผมก็มีภาพยนตร์มาให้ท่านดู ผู้อ่านท่านครับ เช้าเสาร์ที่จะถึง ๖.๐๐ – ๖.๓๐ น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๓ รายการ ‘World Beyond เดินทางสร้างชาติ’ ที่นำโดยนิติภูมิและลูกสาวสุดเลิฟ ‘ธมลวรรณ นวรัตน์’ จะรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพเรื่อง “พลังงานแห่งอนาคต” เชิญดูกันให้เต็มตา ว่าฤทธิ์ Fuel cell เป็นยังไง ท่านที่ตื่นมาดูไม่ทัน กรุณาเข้าไปที่เว็บไซต์ nitipoom.com เมนู World Beyond/ Balance TV2 ดูเวียนได้ ๒๔ ชั่วโมง

ผู้อ่านท่านผู้เจริญ ทุกวันนี้ เราจำเป็นต้องมาชุมนุมสุมหัวช่วยกันคิดถึงประเทศไทยในอนาคตอีก ๑๐ ปี ๒๐ ปีแล้วครับ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ก็เหมือนกัน วันนี้เร่งเครื่องแรง เพราะต้องการสร้างนักอัญมณีศาสตร์รุ่นใหม่ เขียนให้อ่านเข้าใจกันง่ายขึ้นก็คือ เดี๋ยวนี้คนไทยที่ทำธุรกิจด้านอัญมณีมีจำนวนลดน้อยถอยลงไปมาก เราจำเป็นต้องรักษาหม้อข้าวที่เอาเงินเข้าประเทศปีละถึงแสนล้านบาทหม้อนี้ให้ยังดำรงคงอยู่ คนรุ่นเก่าจึงต้องส่งไม้ต่อ โดยให้ความรู้ความเข้าใจกับคนไทยรุ่นใหม่ ขั้นตอนแรกเลยก็คือ การจัดสัมมนาฟรีเพื่อให้ความรู้เยาวชนคนไทย อังคาร ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ ตั้งแต่ ๘.๓๐ – ๑๕.๓๐ น. พวกเราจะไปรับใช้ให้ความรู้คนรุ่นใหม่ในเรื่องแหล่งพลอยใหม่ๆ ของโลก โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ที่ห้องประชุมชั้น ๑ กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก กทม. ท่านจะได้พบกับ นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก นายอิทธิพงษ์ พลบุตร ประธานคณะอนุกรรมการจัดหาวัตถุดิบอัญมณีและความร่วมมือระหว่างประเทศ นายอดิสัย ธรรมคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กรมเจรจาการค้า กระทรวงพาณิชย์ นายซุ่ยไฮ้ แซ่เอง เลขาธิการสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยฯ นายอภิสิทธิ์ จรัลทรัพย์ อุปนายกสมาคมผู้ผลิตอัญมณีฯ นายธนาเศรษฐ์ อุดมรัตนะมณี ผจก. บริษัท Thai Jewelry Advance ผศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ ทปษ.สถาบันิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มีภาพยนตร์เหมืองพลอยในสาธารณรัฐโมซัมบิกมาฉาย มีการแนะนำการเข้าสู่อาชีพอัญมณี อาชีพที่จะต้องสงวนไว้ให้คนไทยเป็นเบอร์หนึ่งของโลก มี workshop ลักษณะของพลอยจากแหล่งต่างๆ ในทวีปแอฟริกา ฯลฯ นิติภูมิของท่านผู้อ่านก็ไปพูดด้วย ในฐานะอุปนายกสมาคมผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับไทย และที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) ท่านใดสนใจเชิญโทรศัพท์ไปที่คุณยุพดี ๐๒ ๙๖๕ ๒๒๒๓ ถึง ๔ ทุกอย่างฟรี ความมุ่งมั่นของผู้คนในกระทรวงพาณิชย์คือ ‘พลอยต้องเป็นอาชีพที่มนุษย์พันธุ์ไทยมีความชำนาญที่สุดในโลก’

สวัสดี..ส่งท้ายปีเก่า ๒๕๕๒ ต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๓

เมื่อวันที่ ๑๗-๑๙ ธันวาคม ๕๒ ที่ผ่านมา คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด จำนวน ๔๖ คน ได้ไปทัศนศึกษาดูงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง ๒ คืน เข้าพักที่ศูนย์พัฒนาธุรกิจสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ จำกัด โดยคุณพี่ศุภัตรา ศรีเทพ ผจก.ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ศูนย์ฯของชุมนุมนี้ ได้ออกแบบเป็นโรงแรมที่พัก จำนวน ๔๙ ห้องหัก และห้องประชุม สัมมนา ๑ ห้อง สะอาด และบรรยากาศดีมาก ขอแนะนำให้ชาว ผนส.และชาวสหกรณ์ หากไปเที่ยวเชียงใหม่ ขอเชิญไปใช้บริการและอุดหนุนเครือข่ายสหกรณ์ด้วยนะครับ ท่านอาจจะโชคดี ได้พบสหกรณ์ เพื่อนจากจังหวัดอื่น ๆ ดั่งเช่น ๒ คืนที่ผ่านมาของผมและคณะ ก็อาจเป็นไปได้นะครับ...

คืนวันที่ ๑๗ ธค. งานเลี้ยงต้อนรับแบบ"ขันโตก" มีการแสดงฟ้อนรำแบบชาวเหนือ ๔ ชุด และต่อด้วยคาราโอเกะ แบบสหกรณ์ คืนนี้บังเอิญและเป็นความโชคดี ที่ได้พบคณะของคุณอุทัย ศรีเทพ กรรมการสันนิบาตฯ ซึ่งท่านนำคณะอาจารย์และนักเรียน จากจังหวัดตรัง เข้าพักที่นั่นและร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน

คืนวันที่ ๑๘ ธค. เป็นความโชคดีที่ได้พบกับคณะของสหกรณ์การเกษตรดอนตูม จำกัด จังหวัดนครปฐม สหกรณ์ผู้ผลิตน้ำดื่ม ตราสหกรณ์ นำโดยท่านประธานพยงค์ และผู้จัดการอัมพร แต่งานนี้ทราบว่า เป็นโครงการร่วมกับ บางจาก นำพาคณะของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ กรรมการ และลูกค้าผู้ใช้บริการน้ำมันจากปั้มสหกรณ์ดอนตูม ไปทัศนศึกษาจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย

งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ ผนส.๔ ตามที่...คุณอรนุช ผู้ประสานงาน ผนส.๔ ได้แจ้งว่า ผนส. ๑-๓ ได้ประชุมร่วมกันในวันศุกร์ที่ ๑๑ ธ.ค.ที่ผ่านมา มีมติ จัดให้มีการแสดงของผนส.๒ และ ๓ จำนวน ๑ ชุด ในวันที่ ๒๕ ธ.ค. ๕๒ นั้น แต่..มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดงานแสดงความยินดีและเลี้ยงฉลอง ผนส. ๔ เป็นวันที่ ๒๔ ธ.ค. ๕๒ นั้น ผม..มีความตั้งใจจะไปเข้าร่วมกิจกรรม และก็อยากร่วมแสดงเหมือนกันนะ แต่เมื่อกำหนดการเปลี่ยนเป็นวันที่ ๒๔ ผมต้องเรียนว่า ผมไม่สามารถไปร่วมงานนี้ได้ เนื่องจากในวันที่ ๒๔ ทั้งกลางวันและกลางคืน ขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดชัยภูมิ จัดงานแข่งขันกีฬาประเพณีและงานราตรีสหกรณ์สัมใพันธ์ ปี ๕๒ (ครั้งที่ ๑๔) ณ สหกรณ์การเกษตรบำเหน็จณรงค์ อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ โดยวันที่ ๒๒ ธ.ค. เป็นวันแข่งรอบคัดเลือก

วันที่ ๒๑ , ๒๓ และ ๒๕ ธันวาคม ผมมีภาระกิจที่จะมาประชุมแกนนำเกษตรกร ผู้แทนเกษตรกรและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่สันนิบาต ฯ และกระทรวงเกษตร ฯ ครับ หาก ผนส.๓ มีอะไรให้ผมรับใช้ ยินดีครับ

สวัสดีเพื่อนๆผนส.3ทุกท่านหายหน้าหายตาไปนานเนื่องจากติดภาระกิจหลายด้านแต่ก็ยังคิดถึงเพื่อนๆอยู่เสมอ วันได้อ่านเจอเทคนิค ในการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ลงในมือถือที่ต้องมีเบอร์ต่อเลยเอามาฝากพวกเราเพราะเคยจะบันทึกก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน กรณีที่ต้องมีเบอร์ต่อ อย่างเช่น เบอร์ 02-9876543 ต่อ 191 อะไรประมาณเนี่ย.. ซึ่งยุ่งยากกับมือถือ เวลาที่เราโทรออกแล้ว แบบว่า.. ต้องมานั่งจำตัวเลขต่ออีก นึกไม่ออกเลขอะไรหว่า.. อ่านดูแล้วก็ไม่จะยากอะไร เช่นว่า..หากต้องการจะบันทึก เบอร์ 02-987-6543 ต่อ 191 บันทึกเป็น 029876543p191 เพียงเท่านี้แหละเมื่อ ทำการโทรออกไปที่เบอร์ที่บันทึกนี้ไว้ โทรศัพท์มือถือของเรา ก็จะทำการโทรไปที่หมายเลข 029876543 นี้ก่อน จากนั้นเมื่อโทรติดแล้ว มันจะเว้นช่วงนิดนึง และจะกดหมายเลข 191 ให้โดยอัตโนมัติทันที

***เพิ่มเติม ..แล้วตอนที่พิมพ์จะพิมพ์ใส่ตัวอักษร p ได้ยังไงกดที่ปุ่ม * (ดอกจัน) ไปเรื่อยๆ(บางรุ่นใช้วิธีกดค้างใว้) จะมีอักษร p ขึ้นมา แล้วก็สามารถบันทึกเบอร์ต่อได้เลย

....วันที่25นี้มีใครมากันมั่งเห็นติดภาระกิจกันหลายคน แต่มีบิ๊กอู๊ดมาคนเดียวก็สนุกแล้ว....วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วเจอกัน...

สรุปว่างานกิจกรรมเป็นอย่างไรบ้างคะ พี่ๆที่เข้าร่วมประชุมช่วยแจ้งด้วย

วันที่ 24 มีอะไรบ้าง และวันที่ 25 มีอะไรบ้าง คนที่อยู่ต่างจังหวัดจะได้เตรียมตัวถูกค่ะ

เมื่อเช้าได้รับแจ้งจากคุณอรนุช(ผู้ประสานงานจากสันนิบาต) ถึงกำหนดการสัมมนาและงานเลี้ยง ดังนี้นะคะ

วันที่ 24/12/52 เวลา 18.00 น. งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ ผนส 4

*ผนส 3 ท่านใดที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยง ให้แจ้งที่กุ้งหรือแจ้งคุณอรนุช หรือแจ้งในบล็อคก็ได้ค่ะ กุ้งจะเข้ามาเช็คเรื่อยๆ เพื่อเตรียมในส่วนของโต๊ะจีน* (อยากให้เข้าร่วมกันเยอะๆหน่อยนะคะ)

วันที่ 25/12/52 เวลา 8.30 - 11.00 น. การสัมมนา "พรบ.สหกรณ์ใหม่ สังคมไทยจะได้อะไร"

เวลา 11.00 น. พิธีมอบวุฒิบัตร

กำหนดการสัมมนา/ปิดการฝึกอบรม
โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์
หลักสูตร "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 4" (ผนส. 4)
เรื่อง "พ.ร.บ.สหกรณ์ใหม่ สังคมไทยจะได้อะไร"
ณ ห้องประชุมศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส สันนิบาตสหกรณ์ฯ
วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม 2552
จัดโดย...ผนส. 4

***********************

07.30-08.30 น.    ลงทะเบียน ณ ศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส
08.30-09.00 น.    ปฐมนิเทศ / พิธีเปิดการสัมมนา
09.00-09.15 น.    ประธานในพิธีกล่าวเปิดการสัมมนาฯ  พณฯอลงกรณ์   พลบุตร 

                         (รมช.กระทรวงพาณิชย์)

09.15-11.00 น.    อภิปราย เรื่อง "พ.ร.บ.สหกรณ์ใหม่ สังคมไทย จะได้อะไร"
                          โดย..
                           1.รศ.ดร.สวัสดิ์      แสงบางปลา
                           2.รศ.ฉายศิลป์      เชี่ยวชาญพิพัฒน์
                           3.นายชาติ           ฟ้าประกาศิต    (ผู้ทรงคุณวุฒิใน คพช.)
                          ประธานดำเนินการอภิปราย โดย.. ศ.ดร.จีระ   หงส์ลดารมภ์
                          วิพากย์โดย..
                          1.ฯพณฯอลงกรณ์   พลบุตร  (รมช.กระทรวงพาณิชย์)
                          2.ผู้แทนจากสมาชิกวุฒิสภา
                          3.อัยการปรเมศร์     อินทรชุมนุม (อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 
                                                     สำนักงานอัยการสูงสุด)
                          4.คุณเอ็นนู            ซื่อสุวรรณ  (รองผู้จัดการ ธกส.)
11.00 น.        พิธีปิดการสัมมนา/พิธีปิดการอบรม/มอบวุฒิบัตร ผนส. 4

ขอเรียนเชิญ ผนส. 3 ทุกท่าน

เข้าร่วมงานเลี้ยง ผนส. 4 ด้วยครับ อย่าลืมแจ้งที่กุ้ง นะครับ

ผมหวังว่าจะพบพวกเรานะครับ

บัญชา

เพิ่มเติม; น้องกุ้งแจ้งว่าให้ใส่เสื้อสีม่วงตัวเก่งของพวกเรานะอย่าลืม .... แล้วเจอกัน วันพฤหัสบดีที่ 24 นี้แน่นอน

พี่แจ้..

น้องกุ้ง...ผมไม่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ ผนส.๔ ในวันที่ ๒๔ ธค. ๕๒ ได้ เนื่องจากต้องเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันกีฬาสหกรณ์สัมพันธ์และงานราตรีสหกรณ์สัมพันธ์ ครั้งที่ ๑๔ ของขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดชัยภูมิ ส่วนวันที่ ๒๕ ธค.จะไปร่วมฟังการสัมมนา ครับ

คึดฮอดทุกคนครับ

สวัสดีค่ะ เพื่อน ผนส3

วันนี้พอมีเวลาว่างจึงได้เข้ามาเยี่ยมเยียนใน blog ทำให้รู้ว่า ในคืนงานเลี้ยง ( คืนนี้ 24 ธ.ค.) บิ๊กอู๊ด ไม่ได้มาร่วมงานด้วย ต้องบอกว่าเสียดายจัง ป้าเครือ ด้วย ส่วนสาวต้อย (โคราช) คงจะโกอินเตอร์ตลอด ไม่รู้ว่ามาได้หรืเปล่า น้องกุ้ง บอกว่าพวกเรามากัน 10 กว่าคน คิดถึง คนที่ไม่มานะจ๊ะ สำหรับคนที่มาในคืนนี้คงได้เม้าท์กันคืนนี้ค่ะ

สวัสดีครับ ผนส3 ทุกท่าน

ผมทศเทพ ห่างหายจากการเข้าเยี่ยม blog มานานมากๆๆ ตอนนี้พอจะบริหารจัดการกับเวลาที่มีวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน ได้แล้ว

จึงจะเข้ามา ตอนนี้เปลี่ยนลักษณะการทำงาน มาเป็นรับผิดชอบในด้านการส่งเสริมสหกรณ์

ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการหลวง อ้อแล้วเมื่อวันที่ 24 ธค 52 ได้ไปร่วมงาน ผนส4 ด้วย

พบพวกเราหลายคน

คิดถึงแล้วจะเข้ามาเยี่ยม bolg อีก

สวัสดีเพื่อนๆ ผนส.3 ทุกคน นก ปากช่อง รายงานตัวครับ......

ไม่ได้เข้า BLOG มานานตอนนี้ได้เข้ามาทักทายกันบ้างแล้ว แต่ว่าอ่านตลอด และยินดีมากที่เพื่อนๆ ได้มาร่วมงานวันก่อนรับวุฒิบัตรของผนส.4 (24 ธ.ค 2552)งานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและน่ารักมาก โดยเฉพาะผนส.3 เรามีเพื่อนๆ มากันหลายคน ซึ่งโดยเฉพาะประธานบัญชา ได้มาร่วมงานด้วย(ตอนนี้รู้สึกว่าสมบูรณ์ไปหน่อย ออกกำลังกายด้วย และเจ๊จิ๋นงานนี้ไม่ค่อยได้ยินเสียงพูดดังๆเลย พี่น้อยชวลี แสดงเป็นนางแบบโคโยตี้...เอ๊ย...เป็นนางแบบแขกขายถั่วในงานสร้างความฮือฮาในวงการเป็นอย่างยิ่งในวันดังกล่าวที่จัดงาน คราวหน้าเต้นให้สะใจอย่างนี้อีกนะครับ น่ารักดี......ทศเทพยินดีด้วยกับตำแหน่งหน้าที่ใหม่ที่ได้รับมาและขอให้แสดงฝีมือให้เต็มที่นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ พี่แจ้ งานนี้ร้องเพลงท่ามกลางผู้จับตาดู ได้ตลึงในเสียงเพลงซึ่งเป็นคนเดียวที่ร้องภาษาอังกฤษ ได้น่าฟังมากสนุกจังเลย.....ลุงพิณ(ที่ได้เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ด้วย ดีใจจังที่ยังหนุ่มกว่าตอนเรียนอีก ไม่ทราบว่ามียาดีอะไร ไหนลองเข้าBLOG มาบอกด้วย จะได้บอกให้คนอื่นเขาได้รู้ต่อไป พี่จวบ นั่งขรึมอยู่เหมือนเดิมแต่ว่าพูดทีก็ฮาไปทั้งวง และมีน้ำใจที่จะระดมพลพรรคทางภาคใต้ เพื่อต้อนรับในการจะได้มีการจัดสัมนาสัญจร เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ในภาคใต้ รวมรุ่น ผนส และสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ในเร็วๆนี้ครับ เตรียมตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน น้องอ๋อ ยังคงสวยไม่สร่างเช่นเดียวกับ น้องวี พิลึก ที่เดินทางมาร่วมงานด้วยหน้าตามที่ชื่นบานฉีกยิ้มกันตลอดงาน ดูแล้วสดชื่นจัง....พี่หมอกิตตินันท์ ให้ความสำคัญในงานนี้เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เดินทางด้วยใจมาจากจันทบุรี มาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ และเดินทางกลับไปทำงานต่อในวันรุ่งขึ้น ขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไป ผมจะขอเอาเป็นแบบอย่างครับ.....พี่หมอ...ส่วนพี่ราตรี(ไนท์ คุยน้อยแต่ว่าทำไมหนอ.....หน้าแดงสวยจัง.....เข้าBLOG มาตอบคำถามกันหน่อยครับ หรือให้วิชาการอะไรบ้างก็ยังดีครับ)โดยเฉพาะเจ๊นิก(กัญจน์นิกข์ ) เดินทางจากภูเก็ตกลับมาลงเครื่องแล้วรีบมางานในวันนี้ด่วนเลย เหนื่อยไหมครับ ผมว่าเจ๊นิกแกคงจะสนุกนะครับที่ได้พบปะกับเพื่อนๆ แกยิ้มอย่างมีความสุขมากเลย..... น่ารักจังขวัญใจรุ่นมั๊ง กำนันสุขสันต์ เป็นแบบเดิม หลอกว่ามาไม่ได้ แต่ที่ไหนได้ พอวางโทรศัพท์ปั๊บ ถึงทันทีในงาน เดินทางได้รวดเร็วดุจดังจรวด อภิสิทธิ์ คนหนุ่มไฟแรง แรงดี มีพลังมาก....แต่ก็ดูสุขภาพให้ดีนะเพื่อน จะบอกให้เป็นกำลังใจให้เพื่อน(รถใหม่สวยจังเลย....) ที่ขาดไม่ได้ก็น้องกุ้ง ที่ประสานงานได้ดีเยี่ยมเสมอปรบมือให้ครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อน เพระว่าวิจารณ์มากไปเพื่อนๆ จะหาว่า นก ปากช่อง ร้อยโครงการ ล้านโปรเจค พูดมากไปแล้ว และคิดถึงเพื่อนๆ เสมอ

ในส่วนของโครงการสัมนาสัญจรภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสพมหาวาตภัยสึนามิ และเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ในอนาคต อีกทั้งเป็นการวางแนวทางเชื่อมโยงโครงการพระราชดำริ ป่าชายเลน(เต็มรูปแบบ) ของจังหวัดสตูล ผมได้เข้าพบ และเรียนโครงการนี้ ให้กับท่านประธานสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย และท่านรองประธาน ได้ทราบแล้ว ท่านเห็นดีด้วยและให้การสนับสนุนในการไปดำเนินการในครั้งนี้ ซึ่งท่านประธานสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย และอาจมีท่านผู้มีเกียรติ ท่านอื่น จะได้เดินทางไปร่วมกับทางผนส.รวมรุ่นเรา(โดยเฉพาะท่านอ.ปรีชาฯ ที่เคารพ บอกก่อนเลยว่าขอจองด้วย) และทางสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย จะได้มีหนังสือเชิญมายังท่านผนส.ทุกท่านอีกทีหนึ่ง และจะได้กำหนดวันเวลาที่จะได้เดินทางไปเพื่อการดำเนินงานนี้ และในส่วนรายละเอียด ของค่าใช้จ่าย คุณอรนุช (เล็ก) จะเป็นผู้ประสานกับทางท่าน ผนส.และท่านผู้มีเกียรติ ทุกท่านอีกครังหนึ่ง โดยการดำเนินงานนี้จะแบ่งการเดินทางเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรกนี้เป็นการเดินทางแบบVIP ที่มีราคาแสนประหยัดที่สุด(คาดว่าประมาณ 4 พันกว่าบาท ไม่รวมค่าเครื่องบินไปกลับกำลังจะติดต่อเป็นกรณีพิเศษอยู่ คงไม่เกิน 5,000 บาท รับจำนวนจำกัดเพียงไม่เกิน 50 ท่าน) ในการจะได้เดินทางไปถึงประเทศมาเลเซียเกาะลังกาวี ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก พิเศษอาจได้เข้าเยี่ยมชมฟาร์มส่วนตัวปลูกพืชอาหารของท่านนายกรัฐมนตรี มหาเดย์ ซึ่งเป็นการโชว์การผลิตพืชอาหารของท่านเป็นโครงการทดลองของท่านนายกรัฐมนตรี และสนุกเพลิดเพลินการช๊อปปิ้ง มีราคาที่ถูกที่สุด และจะได้เดินทางได้พบปะหารืองานในโครงการสัมนาเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์สัญจร กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และท่านกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย อีกทั้งยังได้รับการต้อนรับ จากทางประชาชนชาวสตูล และทางช่างภาพสื่อมวลชนในการมาทำข่าว อย่างสมเกียรติในครั้งแรกนี้ และข้อสำคัญเราจะได้พบปะเพื่อนๆ ทางจังหวัดสงขลา พัทลุง และจังหวัดใกล้เคียงที่จะได้เดินทางมาร่วมงานกับเราอย่างมากมาย อีกทั้งหวังว่าในการดำเนินงานสัมนาสัญจร เพื่อช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกสหกรณ์และประชาชนผู้ประสพมหาวาตภัยสึนามิและวางแนวทางร่วมกับโครงการพระราชดำริป่าชายเลน(เต็มรูปแบบ) ในครั้งนี้ เราจะได้มีผู้ใหญ่ใจดีหลายท่าน ที่จะได้มาร่วมกิจกรรมสัญจรดีๆ และเป็นประโยชน์ต่อวงการสหกรณ์ และเป็นการขับเคลื่อนระบบสหกรณ์ ให้ไปสู่จุดหมายของความสามัคคีกัน เพื่อสรรสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติสืบตลอดไป

ขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ

นก ปากช่อง

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส.

    วันนี้ผม  มีเรื่องเล่าที่แปลจากภาษาจีน  และขอยกความดีให้กับผู้แปลที่แปลให้เราได้อ่าน  อ่านแล้ว อย่าร้องไห้น่ะ  !

 

ไม่ใช่เพราะมันยาก เราถึงได้กล้าทำ

แต่เพราะถ้าเราไม่กล้า มันก็เลยยิ่งยาก" 

 

ชื่อเรื่อง  หกหยวน เพื่อรัก

 

วันหยุดนี้ เขาได้นั่งเครื่องบินกลับมาเยี่ยมแม่ที่บ้าน

คิดว่าจะอยู่บ้านเฉยๆ อยู่เป็นเพื่อนแม่ดูทีวี หรือคุยกันเรื่อยเปื่อย

วันรุ่งขึ้น แม่ชวนเขาไปเป็นเพื่อนซื้อไข่ไก่

พอได้ยิน เขาอดยิ้มไม่ได้

ที่สำนักงาน เขาคือกรรมการผู้จัดการใหญ่ มีเลขาฯ และคนขับรถส่วนตัว

แต่เขาก็ยังพยักหน้ารับ “ได้ครับ แม่”

พอออกจากบ้าน แม่ก็บอกว่าต้องไปซื้อที่ซุปเปอร์โน้นนะ

เขาถามว่า ทำไมไม่ซื้อที่ซุปเปอร์ใกล้บ้านเราเล่า

แม่กระพริบตา ทำท่าเหมือนผู้ชนะ บอกว่า

ที่ร้านโน้นไข่ไก่ถูกกว่า ชั่งละสามหยวนสองเอง แต่ที่ร้านนี้ต้องสามหยวนสี่

เขาทำท่าห่อปาก แบบว่าโอ๊ะโอ๋ เพิ่งรู้นะเนี่ย

พอเดินมาถึงข้างถนน เขาทำท่าจะโบกมือเรียกรถแท็กซี่

แต่แม่บอกว่า ไปรถเมล์สาย 12 กันเถอะนะ

เขาถาม ทำไมต้องสาย 12 ด้วย

แม่บอกว่า สาย 12 เป็นรถรับส่งของทางห้างนี้ ไม่ต้องเสียค่ารถ

ถ้านั่งรถสายอื่น ต้องเสีย 2 หยวน

เขาอดยิ้มไม่ได้ แต่ก็บอกกับแม่ไปว่า ดีครับ

พอขึ้นนั่งบนรถสาย 12 ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ

ล้วนแต่สนิทสนมกับคุณแม่ทั้งนั้น

พอทราบว่าเขาเป็นเพื่อนแม่มาซื้อไข่ไก่ ต่างมองเขาด้วยสายตาที่อบอุ่น

เหมือนกับว่า เขาก็เป็นลูกชายของพวกเขาเหล่านั้นเช่นกัน

ส่วนใจของเขาในตอนนั้น.. อบอุ่นไม่แพ้กัน

หลังจากซื้อไข่ไก่ได้ 10 ชั่ง แม่ดึงให้เขานั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้าง บอกว่าต้องรออีก 1 ชั่วโมง รถสาย 12 คันเดิมถึงจะกลับมารับอีก

ต้องรออีกตั้ง 1 ชั่วโมง เขารู้สึกหัวใจร้อนรุ่มคุกรุ่นขึ้นมาทันที

แต่ก็ข่มใจไว้ ใช้ความอดทนข่มจิตให้เย็นลง 

ในที่สุด ก็ได้นั่งสาย 12 กลับมาบ้าน

พอถือไข่ไก่เหล่านั้นลงจากรถได้ เขาเป่าปากระบายอย่างโล่งอก คุณแม่ดูเหมือนจะมีความสุขมาก นับนิ้วให้ฟังว่า ไข่ไก่ 10 ชั่งประหยัดไปได้ 2 หยวน ประหยัดค่ารถไปกลับสองคนอีก 4 หยวน รวมแล้วประหยัดตั้ง 6 หยวน

แต่ในสมองเขากลับคิดคนละอย่าง ตั้งแต่ออกจากบ้านจนถึงตอนนี้ ปาเข้าไป 4 ชั่วโมง หากให้เขาใช้เวลา 4 ชั่วโมงนี้ในที่ทำงาน เขาสามารถทำเงินได้อีกไม่ต่ำกว่าหมื่นหยวน.. เขาได้แต่แอบถอนใจเบาๆ

ตอนใกล้จะถึงบ้าน เดินผ่านร้านขายผลไม้ร้านหนึ่ง แม่ใช้เงิน 6 หยวนซื้อแตงโมลูกโตลูกหนึ่ง

พอกลับถึงบ้าน จัดแจงผ่าแตงโมทันที   เนื้อแตงโมแดงสด น่ารับประทานมาก

ตัวเขาเองรู้สึกกระหายน้ำตั้งนานแล้ว ก็เลยไม่ฟังอีร้าค่าอีรม หยิบแตงโมได้หนึ่งชิ้น ก็งับเลย  แตงโมหวานมาก เขากินแบบตะกรุมตะกราม เหมือนหมูเลย นานแล้วที่ไม่ได้กินผลไม้อย่างฉ่ำใจเช่นนี้

พอเงยหน้า เห็นแม่กำลังมองเขาอยู่ ในตามีแววเปียกชื้น บนหน้ากลับระบายไปด้วยความสุขและเปี่ยมรัก

ทันไดนั้น ใจเขาเหมือนสายพิณที่ถูกดีดจนสั่นสะท้าน

ภาพแบบนี้ เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ

แตงโมหวานมาก เขากินแบบตะกรุมตะกราม เหมือนหมูเลย นานแล้วที่ไม่ได้กินผลไม้อย่างฉ่ำใจเช่นนี้

พอเงยหน้า เห็นแม่กำลังมองเขาอยู่ ในตามีแววเปียกชื้น บนหน้ากลับระบายไปด้วยความสุขและเปี่ยมรัก

ทันไดนั้น ใจเขาเหมือนสายพิณที่ถูกดีดจนสั่นสะท้าน

ภาพแบบนี้ เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ

ตอนยังเล็ก ฐานะทางบ้านยากจน และเขาเป็นเด็กที่ชอบกินมาก(ตะกละ ว่างั้นเถอะ)

ตอนเย็นๆ เขามักแอบไปเก็บเอาแตงโมที่บ้านอื่นกินเหลือแต่เปลือก เอามาล้างในคลอง แล้วแทะกินอย่างตะกละ (เห็นมั้ย)

พอแม่รู้เข้า แม่ใช้เวลา 3 วันเพื่อที่จะทอเส้นเชือก แล้วเอาไปขายเพื่อซื้อแตงโมมาให้เขา แล้วนั่งดูเขากินอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนหมู

เขาจ้องดูแม่ด้วยความสะท้าน กลืนแตงโมที่เต็มปากลงไป

ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าเขาเริ่มเข้าใจคุณแม่บ้างแล้ว

ยามยากลำบาก แม่ขยันและอดออม ส่งให้เขาเรียน เลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่

พอเริ่มมีอันจะกิน ความขยันและอดออม ได้กลายเป็นรูปแบบดำรงชีวิตของแม่ ที่ยังคงทำให้แม่พอใจและมีความสุขอยู่เสมอ

รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา รู้สึกดีใจที่วันนี้ยอมทนเป็นเพื่อนแม่ ทำให้แม่ประหยัดเงินได้ 6 หยวน

เงิน 6 หยวนนี้ เทียบกับการที่ตัวเองสามารถหาได้เป็นหมื่นหยวนจากการทำงาน คุณค่าไม่ต่างกันเลย

เพราะ บางที..    เวลาและเงินทอง    จะมีค่าก็ต่อเมื่อมีรักด้วยเท่านั้น

ใกล้ปีใหม่  แล้ว

ถ้ายังมีผู้ใหญ่ให้ชื่นชม ก็ไปเยี่ยมท่านบ้าง

ก็อย่างที่บอก อย่าไปตำหนิท่านที่ไม่ทันสมัย(เหมือนเรา)เลย

เพราะจริงๆแล้ว ความไม่ยอมทันสมัยของท่านนั่นแหละ ที่จุนเจือให้คุณได้ทันสมัยในวันนี้

ขอให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดปีใหม่นี้เทอญ.

 

Have a wonderful new year!

 

นพคุณ  ยังเอี่ยม

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส.

      ปีนี้ต้องขออภัยเพื่อน ๆ ด้วยที่ไม่ได้ส่งการด์อวยพรปีใหม่ ขอส่งใน Blog  นี้แทนล่ะกันน่ะครับ

New Year Myspace Comments

สวัสดีชาวผนส.ทุกท่านจะรายงานข่าวงานเลี้ยงฉลองผนส.4ซะหน่อยก็ถูกนก ปากช่องตัดหน้าไปซะแล้ว ก็ถือได้ว่าจัดงานได้ดีน่าชื่นชมนะ บรรยากาศก็เป็นไปอย่างชื่นมื่น รุ่นเราก็มากันอย่างอบอุ่นนำโดยท่านประธานบัญชา มาในมาดแปลกตาขี่มอเตอร์ไซค์ฮาเล่ห์คันโตเข้ามาในงาน(แต่ไม่มีเด็กแว้นซ้อนท้าย) ตามด้วยดาราของรุ่นโต้ชีริกหรือติ๊ก ชีโร่ ท่านทศเทพของเราหลังจากไม่เจอกันนานก็ได้มีเรื่องคุยกันเยอะ ป๋าพิณ ก็ยังเหมือนเดิมกินสมุนไพรล้มไม่รู้โ-..ทุกวันเลยยังดูหนุ่มขึ้นอย่างที่นก ปากช่องบอกไว้ กำนันสุขสันต์ยืนคอยรับเพื่อนๆที่หน้างานกับท่านนายกอภิสิทธ์ จั้นอรัญ น่ารักเหมือนเดิม นั่งพินิจดูสาวๆในงานดูความสวยของสาวๆแล้วรุ่นเราสวยที่สุด(ฮา) น่าเสียดายถ้าพวกเราอยู่กันครบคงจะสนุกมากกว่านี้..มาแค่นี้ก็น่าชื่นใจแล้ว แค่นี้ก่อนนะครับแล้วจะเข้ามาคุยใหม่

ปล..ฝากน้องภูมินทร์เอารูปบรรยากาสงานเลี้ยงลงให้ดูหน่อยพวกที่ไม่มาจะได้อิจฉา ขอบคุณล่วงหน้า...พี่แจ้

มีหญิงชาวเขาคนหนึ่งเดินกระโผลกกระ เผลก

ไปหาหมอที่ทำการสาธารณสุข

หมอ : “ เป็น อะไรมาครับ ”

สาวชาวเขา: “ โต๊ะเขา ”

เมื่อหมอได้ยินดังนั้นเลยหยิบยาหม่อง ให้ 1 ตลับ แล้วบอก ว่า

หมอ : “ เอา ไปทา วันสองวันก็หาย ตกเขาแค่นี้เองนิดหน่อย ”

สาวชาวเขา : “ เขาะคุงค่ะ ” หญิงสาวขอบคุณ

ผ่านไป 2 วัน สาวชาวเขาก็มาหาหมออีกครั้ง

กระเผลก ยิ่งกว่าเดิมอีก เมื่อหมอเห็นดังนั้นเลยถาม ว่า

หมอ : “ อ้าว ! ยังไม่หายอีกเหรอ ”

สาวชาวเขา: “ ยาค่ะ ”

หมอ : “ อะไร กันแค่ตกเขาให้ทายาหม่องแล้วยังไม่ หาย'

พร้อมกับหันไปหาพยาบาลแล้วบอก ว่า

หมอ: 'คุณพยาบาลไป ดูอาการและถามเค้าให้แน่ใจทีซิว่าเค้า เป็นอะไรกัน แน่ ”

เมื่อพยาบาลไปดูอาการแล้วก็กลับมา รายงานหมอ

พยาบาล: “ เค้าเป็น 'ตกขาว' ค่ะ คุณหมอให้ยาอะไรไปทา คะ ”

หมอ: “ ยา หม่อง ” พร้อมทำหน้า แหย

พยาบาล: “ นั่นซิค่ะ เห็นเธอบ่น “ แสะซิหาย!เลย ” ”

สวัสดีส่งท้ายปีเก่าครับ

ผนส. 3 และท่านผู้อ่านทุกท่าน

วันจันทร์ท่ 28 ธ.ค. เป็นวันจันทร์สุดท้ายของปีนี้(พ.ศ. 2552) ผมถือโอกาสไปทำบุญเลี้ยงพระเพล ถวายสังฆทานพระประมาณ 200 รูป เป็นการทำบุญส่งท้ายปีเก่า อะไรที่ไม่ดีในปีเก่า ขอให้ผ่านพ้นไป ครับ เมื่อพระให้พร ก็นึกถึงพวกเรา และผนส.ทุกรุ่นด้วยขอให้ได้บุญ ได้พรนี้ถ้วนหน้ากันน๊ะครับ  ส่วนในวันที่  1 ม.ค.2553 ค่อยทำบุญต้อนรับปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ชื่นชมที่ ผนส. 3 มาร่วมงานแสดงความยินดีกับ ผนส.รุ่น 4 อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง มากกว่าทุกรุ่น ทำลายสถิติไปเลยครับ และมีน้ำใจไมตรีที่ดีต่อกัน เห็นได้จากการร่วมงานเมื่อคืนวันที่ 24 ธ.ค.อย่างสนุกสนานสมานสามัคคีกันครับ

ผนส. 2 และ 3 ท่านได้ทำหน้าที่รุ่นพี่ได้ดีน่ายกย่อง ความมีน้ำใจที่มาร่วมงานอดที่ผมจะเข้ามาเขียนชมไม่ได้  ทุกคนมีหน้าตาที่สดใสร่าเริง  หวังว่าสันนิบาตฯคงจะมีหลักสูตรดี ๆ เช่นนี้มาให้พวกเราได้รับความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดไป

ส่งท้ายปีเก่านี้ ขออำนาจสิ่งศักสิทธิ์ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆ์คุณ อำนวยพรให้ ผนส. 3 ทุกท่าน รวมทั้งทีมงานที่สันนิบาตสหกรณ์ฯ จงเจริญด้วยศีล สมาธิ สติ ปัญญา พร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ มีความสำเร็จและความสุข ..ตลอดไป ครับ...สวัสดีจากใจจริง

สาธุ สาธุ สาธุ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ยม เป็นอย่างสูงที่ท่านได้อวยพรปีใหม่ ๒๕๕๓ ครับ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผนส.๓ ครับ

คืนวันที่ ๒๔ ธค. ที่ผ่านมา ผมพลาดโอกาสที่ไม่สามารถมาร่วมงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ ผนส.๔ ขอชื่นชมพี่ ๆ และเพื่อน ๆ ที่ไปร่วมงานทุกคน ขอบคุณพี่แจ้...กับการรายงาน"ข่าวล่ามาเรือ" งานนี้หลายท่านอาจจะติดภาระกิจเช่นกัน หากเป็นไปได้ผมคิดว่า"อุทัยธานี โมเดล" น่าจะทำให้พวกเราได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง

ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จกับ ผนส.๔ ทุกท่าน ในวันที่ ๒๕ ธค. ผมมีโอกาสได้เข้าไปในห้องประชุมในช่วงเวลาที่ ฯพณฯ สุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรกร ฯ กำลังมอบวุฒิบัตร เก้าอี้แถวหลังเหมาะที่สุดถึงแม้จะมีผู้หญิงนั่งอยู่ ๒-๓ คน ทันดีที่ผมนั่งลง ทั้งตกใจ(เล็กน้อย)และดีใจมากเพราะคนนั่งข้าง ๆ คือ..น้องกุ้ง คนเก่ง หลังเสร็จพิธีก็เจอ คุณ อ๋อ ในวันเดียวกันในตอนเช้าผมไม่ได้เข้าร่วมฟังการอภิปราย ของ ผนส.๔ เพราะติดประชุมแกนนำและผู้แทนเกษตรกร โดยมีท่านอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน(ธวัชชัย)และว่าที่รักษาการเลขาธิการกองทุนฟื้นฟู ฯ (วิชิต) เข้าร่วมประชุมด้วย ที่ฝั่งด้านตรงข้ามสันนิบาตฯ ณ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์

นำพรแด่ ผนส. รุ่น ๑ ,๒ ,๓ และ ๔ ทุกท่าน

    "มอบสิ่งดีปรีดิ์เปรมเกษมสมัย

กิจการก้าวไกลสุขสวัสดิ์พิพัฒน์ผล

สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสกสรรบันดาลดล

พรมงคลให้พร้อมพรั่งยั่งยืนนาน

    ประมวลพรปีใหม่อวยชัยเชิญ

สำเภาเงินสำเภาทองเรืองรองหวัง

รวมความดีความเด่นเป็นพลัง

ชัยประเดิมโชคประดังทั้งปีเทอญ..."

สวัสดีปีใหม่ 2553 นี้ขอให้เพื่อนๆและครอบครัวทุกท่าน จงประสบแต่ความสุข ความเจริญในหน้าที่การงาน มีสุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดขอให้สมหวังทุกประการ......ต้อยพิมาย

สวัสดีค่ะอาจารย์ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกท่าน

ห่างหายไปนานจนเกือบเข้าบล๊อกไม่เป็น นานๆ เจอกันทีร้สึกดีมากๆ ยกความดีความชอบให้น้องก้งของเราด้วยความขอบคุณ ขอบอกคนที่ไม่ได้ไปว่าอ่านเท่าไรก็ไม่เหมือนไปเองนะจ๊ะ...จะบอกให้ โชคดีปีใหม่ค่ะ

เรียน ผนส.3 ทุกท่าน

ขออวยพรให้ ผนส.3 ทุกท่าน จงมีความสุขตลอดปี 2553 ครับ

ณรงค์ ยี่หวา

สวัสดีปีใหม่ 2553 ทุกท่าน คะ รู้สึกได้ในความซึ่งใจในความกรุณาของท่านอาจารย์ยม ที่มีต่อพวกเราเสมอมาขนาดท่านไปทำบุญพระให้พรท่านยังกรุณานึกถึงและส่งบุญมาให้ ผนส.ทุกคน ขอน้อมรับไว้ทั้งพรพระและพรของอาจารย์ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง รวมถึงคำอวยพรของทุกท่าน ได้รับแล้วคะ รวมของคุณณรงค์ ยี่หวา ด้วยนะคะ และในโอกาสนี้ก็ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกที่ท่านเคารพสักการะบูชาและพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯและพระสยามเทวาธิราช โดยเฉพาะพระบิดาแห่งสหกรณ์ไทย ได้โปรดประทานพรให้ ครู อาจารย์ และ ผนส. รุ่น 1 2 3และ4 ทุกท่าน ตลอดถึงประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ ผู้ตรวจสอบกิจการ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่สันนิบาตสหกรณ์ ทุกๆท่าน ตลอดถึงผู้ที่ท่านรักและห่วงใย จงมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง ยศศักดิ์ ทั้งในหน้าที่การงาน และในด้านครอบครัว (ไม่เจ็บ ไม่จน) ตลอดปี 2553และตลอดไปนะคะ สวัสดีปีใหม่ 2553 คะ

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ผนส.

      อาบังมาตามหาหวานใจของอาบัง (พี่น้อย) และเพื่อน ผนส.3  อาบังไม่ได้หายไปไหน   ไปหาอาบังได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้เลย  คลิ๊กเลยน่ะนาย

http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์และชาว ผนส.3ทุกท่าน

   พรุ่งนี้ ขอสวัสดีปีใหม่ 2553 นะคะ ขอให้ท่านอาจารย์และชาว ผนส3 ทุกคนจงประสบแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ตลอดปีและตลอดกาล

            ธญา โบสุวรรณ์ ผนส.2(โคราช )

สวัสดีปีใหม่  2553 ขอให้อาจารย์ และ ผนส. ทุกท่าน 

แข็ง    -    แข็งแรง สุขภาพดี 

ใหญ่   -    ให้เป็นใหญ่เป็นโต 

ยาว    -    อายุยิ่งยืนยาว

 

สวัสดีปีใหม่ 2553 ครับ.....

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกนี้ จงดลบันดาลให้เพื่อนๆ ผนส.3 จงมีความสุขความเจริญทั้งในหน้าที่การงานและในกิจการที่เป็นการทำความดีต่อสังคมและประเทศชาติ และขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคาพยาธิทั้งปวง และขอให้สมหวังในสิ่งปรารถนาดีงามจงทุกประการ ตลอดปี 2553 นี้และตลอดไป

ขอบคุณครับ

นก ปากช่อง

สวัสดีปีใหม่ ครับ  ผู้นำสหกรณ์ขั้นสุงรุ่น 3 และท่านผู้อ่านทุกท่าน

ขอขอบใจสำหรับคำอวยพร ที่หลายท่านมีต่อคณาจารย์เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2553 ขอบใจคุณเชาวลี(คุณน้อย รุ่น 3) คุณบิ๊กอู๊ต คุณอดิศักดิ์ที่เขียนถึงผม และอีกหลายท่านที่ให้เกียรติ ให้ความคิดถึงคณาจารย์ด้วยการกล่าวทักทายเสมอมา

ขอบใจคุณธญา คุณนพคุณ และตัวแทน ผนส.2 ที่เข้ามาสวัสดีปีใหม่ ให้ก้บรุ่น 3 นับว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่มีการสวัสดีปีใหม่ข้ามรุ่นกันไปมา การทำความดี ไม่มีกำแพงใดกั้นได้ 

แม้การฝึกอบรมสัมมนา ผนส.รุ่น 3 ผ่านไปนานแล้ว แต่ผมยังระลึกถึงพวกเราเสมอ ผมขอบใจ พวกเราทุกคนมาให้กำลังใจ ผนส. รุ่น 4 และมอบความดีงามให้คณาจารย์และทีมงานสันนิบาตฯ ตลอดมาครับ ประทับใจครับ

ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2553 ขออาราธนาบารมีแห่งพระรัตนตรัย พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงประสิทธิ์ประสาทพรให้ ศิษย์รัก ผนส. ทุกท่านและครอบครัวเจริญด้วยศีล สมาธิ สติ ปัญญา ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอให้เจริญด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ คุณสมบัติ มีสุขภาพกาย และใจที่ดี  มีอายุขัยยืนยาว มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี มีลาภ ยศ สรรเสริญสุขให้ได้มีโอกาสทำบุญสร้างบารมีรุดหน้าไปทุกภพ ทุกชาติ ตราบถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญ

 

จากใจจริง อาจารย์ยม

http://gotoknow.org/blog/yom-nark11/234646

http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209

http://gotoknow.org/blog/yom-11/324547

สุรชัย บำรุงราษฎร์

สวัสดีปีใหม่ ครับ คณาจารย์ ผู้นำสหกรณ์ ทีมงานสันนิบาตสหกรณ์ และท่านผู้อ่านทุกท่าน

ในโอกาสปีใหม่ 2553 ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักสิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพบูชา จงดลบรรดาลให้ท่านและครอบครัว ประสบแตความสุขความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีทรัพย์สินเงินทองเพิ่มพูนตลอดปี และตลอดไป ครับ

สวัสดีปีใหม่  2553 กับผนส.ทุกท่าน

    " ขอให้สำลักความสุขกันทุกคนนะคะ"

     -แจ้งความคืบหน้าของการประสานงานเรื่องของการเดินทางไปสตูล

     -31 ธันวาคม ไปอวยพรปีใหม่ที่บ้านท่านรมต.แจ้งท่านเบื้องต้นแล้ว

     -คำตอบ"ได้เลย ทำหนังสือมาแล้วกัน"

     -รายละเอียดอื่นยังไม่ได้แจ้งเพราะไม่ทราบกำหนดการที่แน่นอน...

 

สวัสดีปปีใหม่ 2553 ท่านอาจาริย์ ทีมงานสันนิบาตฯ เพื่อน ผนส. 3 ทุกท่าน ขอจงสุข สดชื่น โชคดีทุกวันนะคะ เห็นรูปเพือนๆวันต้อนรับรุ่น 4 แล้วน่าปลื้มใจจริงๆคืดถีงทุกคนคะ

สวัสดีปีใหม่ อาจารย์ ผนสทุกคน ทุกรุ่น

ขอให้ท่านและครอบครัวจงมีความสุข คิดสิ่งใด ขอให้ได้ดังใจหวัง คนที่ขี้บน ขี้ด่า ขี้เกียด ขี้น้อยใจ ขี้ทั้งหลาย ขอให้ขี้เหล่านั้นหลายไป มีแต่สิ่งดีๆเข้ามา มีเงินทองใช้ตลอดไป

และต้องขอโทษที่อวยพรช้าไป เพราะพึงกลับถึงเมื่อวาน แล้วคอมที่บ้านเสีย

มาช้าดีกว่าไม่มา...ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่2553ขอให้ชาวผนส.3ทุกท่านและครอบตรัวจงประสบแต่ความสุขทั้งกายทั้งใจ ขอให้สิ่งศักด์สิทธิ์นำสิ่งดีๆมาสู่ชาวผนส.3 และสุดท้ายขอให้พวกเรารักกันนานๆตลอดไป..

ปล:อ่านความเห็นของสุทิศขอตั้งชื่อว่าบทความว่า"ศูนย์รวมขี้ปีใหม่53" (ฮา)

โชคดีปีใหม่...พีแจ้

ไทยสูญ2หมื่นล. แลกเสรีอาฟตา

ข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร 22-23 รายการ ตามข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ที่มีผลมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 ทำประเทศไทยสูญเสียรายได้มากกว่า 1.8-2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นแม้ข้อตกลงอาฟตาต้องลดภาษีเหลือ 0% แต่กฎของ WTO ยังเปิดช่องให้เก็บภาษีในโควตาและนอกโควตาได้

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการเปิดการค้าเสรีและใช้ภาษีในพิกัด 0% เพราะไทยเป็นสมาชิกองค์การการ ค้าโลก (WTO) ยังมีประกาศของคณะกรรมการ WTO เกี่ยวกับการยกเว้นอากรและลดอากรตามข้อผูกพัน WTO ลงวันที่ 31 ธ.ค. 2549 และเริ่มประกาศใช้ในวันที่ 5 ม.ค. 2550 ซึ่งยังบังคับใช้จนถึงทุกวันนี้

ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวกำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีสินค้าเกษตรในโควตาและนอกโควตา รวมถึงสินค้าเกษตร 22 รายการ ที่กำลังจะประกาศยกเว้นภาษี ยังต้องเสียภาษีตามประกาศของ WTO ตามราคากำหนดได้ สินค้าชนิดอื่นก็เช่นกัน

สำหรับสินค้า 23 รายการ ที่จะลดภาษีเหลือ 0% ได้แก่ น้ำมัน/นมปรุงแต่ง นมผงขาดมันเนย มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม มะพร้าว เมล็ดกาแฟ ชา พริกไทย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าว ถั่วเหลือง เมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ น้ำมันถั่วเหลือง ปาล์ม น้ำตาล กาแฟสำเร็จรูป กากถั่วเหลือง ใบยาสูบ เส้นไหมดิบและลำไยแห้ง

สวัสดีปีใหม่ ผนส. ทุกรุ่น ทุกท่านครับ

“มาช้าดีกว่าไม่มา” พี่แจ้เป็นคนบอกไว้ ถูกต้องโป๊ะเช๊ แต่ผมมาช้ากว่าเหตุผลคืออยู่ไกลกว่าเพื่อน รถไฟก็ยังมาไม่ถึง ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ ผนส. ของเราตลอด ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ร่วมแรงมากเท่าไหร่ และมีความรู้สึกเช่นเดียวกับป้าเครือที่เห็นรูปของพวกเราในงานเลี้ยงรุ่น ผนส.รุ่น 4 แล้วรู้สึกอิจฉาแต้เนอ เห็นหน้าแต่ละคนดูมีความสุขจังเลย ไม่เห็นว่าจะมีใครแก่ขึ้นเลย นอกจากหลายคนแก้มจะยุ้ยขึ้น ท่านอาจารย์ยมก็ยังน่ารักเหมือนเดิม โอกาสหน้าถ้าเชียงรายมีรถไฟแล้วจะไปแจมด้วยบ่อยๆ สำหรับปีใหม่นี้ได้รับคำอวยพรที่ดีๆ ทั้งจากท่านอาจารย์ยม พี่ๆ เพื่อนๆ ผนส. ของเรามามากแล้ว ขอพรที่ประเสริฐเหล่านั้นได้กลับไปเป็นของท่านทุกประการด้วยเทอญ

ผนส.กุ้ง /ผนส.วิฑูรย์  เพื่อพิจารณา

ผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้    (ไม่ต้องวิตก หรือกังวล   รักษาตนเองมานานแต่ก็ยังไม่หาย   ลองรักษาด้วยข้อมูลดังนี้) สอบถามเพิ่มเติมด้วยประสบการณ์ตรง   (เกรียงไกร   089-9216280)

1.ปวดศีรษะโดยรอบ หรือ ข้างเดียว
 2.ไมเกรน (Migraine)
 3.ปวดคอ
 4.ปวดไหล่ ปวดแขน
  5.ปวดหลัง
 6.ปวดหรือชาตามแขน ขา
7.บาดเจ็บจากการกีฬา (Sport injuries)
8.บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (Accident)
9. หมอนรองกระดูกเคลื่อน
10. ปวดตามข้อต่างๆ
11. บาดเจ็บจากการยกของหนัก
12. อาการอ่อนเพลียนอนไม่หลับ
13. กระดูกสันหลังคด
14. อาการเครียด
15. เส้นเอ็นอักเสบ

วิธีการรักษา   ก่อนการรักษาจะใช้ วิธีเอกซเรย์เข้าช่วย จะมีข้อจำกัด ในคนไข้ที่เคยผ่ากระดูกมาแล้ว มะเร็ง กระดูกหัก เส้นเอ็นฉีก โรครูมาตอย ข้ออักเสบ จะจัดกระดูกไม่ได้ การรักษาครั้งหนึ่ง จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ใช้ความต่อเนื่อง อาจ 1 เดือน หรือ 2 เดือน ค่าใช้จ่ายในการ จัดกระดูกแต่ละครั้งเฉลี่ยอยู่ที่  900 -1,000  บาท ซึ่งการรักษาแต่ละครั้งคนไข้บางรายรู้สึกดีขึ้นทันที แต่บางรายต้องรับการรักษาหลายครั้งก่อน แพทย์ไคโรแพรคติกจะรักษาที่ต้นเหตุของปัญหา  มิใช่รักษาที่อาการ

การแพทย์ไคโรแพรคติก

การแพทย์ไคโรแพรคติกเป็นการแพทย์ทางเลือกอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ จุลสารการแพทย์แผนจีนจึงขอเสนอศาสตร์การแพทย์ไคโรแพรคติกให้ผู้อ่านได้รู้จักกัน ดังต่อไปนี้

ไคโรแพรคติกคืออะไร

                 ศาสตร์วิชาการแพทย์ไคโรแพรคติกเป็นแขนงการดูแลสุขภาพ โดยตรวจรักษาระบบประสาท การดูแลกระดูกสันหลัง และข้อต่างๆ ในร่างกายเพื่อให้ระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จ่ายยา ใช้เข็ม หรือผ่าตัด ด้วยการรักษาความผิดปกติของโครงสร้างและการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Structure and Biomechanic) หรือการคลาดเคลื่อนจากตำแหน่งปกติ ของข้อกระดูกสันหลัง เนื่องจากกระดูกสันหลังเป็นจุดศูนย์กลางของดุลยภาพในการเคลื่อนไหวของร่างกาย ฉะนั้นหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นในบริเวณนั้น อาจจะมีผลกระทบต่อระบบประสาท ซึ่งควบคุมร่างกายทั้งหมดของเรา การแพทย์ไคโรแพรคติกเน้นถึง ความสมดุลของระบบโครงสร้าง สภาวะจิต และสารเคมีต่าง ๆ ในร่างกาย

การแพทย์ไคโรแพรคติกมีมานานกว่า 100 ปีแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาปัจจุบันเป็นการแพทย์ทางเลือกที่มีจำนวนผู้เชี่ยวชาญมากที่สุดในสหัฐอเมริกา แต่สำหรับในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายนัก เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดว่า การดูแลกระดูกเป็นเรื่องของคนสูงอายุหรือคนพิการเท่านั้น

ศาสตร์วิชาการแพทย์ไคโรแพรคติก (Chiropractic) เริ่มต้นเกิดขึ้นครั้งแรกที่เมือง Davenport รัฐ Iowa ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1895 (พ.ศ.2438) ผู้เริ่มคนแรก คือ DR. D.D. Palmer ท่านได้พัฒนาศิลปะปรัชญา และวิทยาศาสตร์การแพทย์ไคโรแพรคติก คำว่า Chiropractic เป็นภาษากรีก ซึ่งคำว่า “Cheir” และ “Praktikas” มาผสมกัน ซึ่งความหมายก็คือ “รักษาด้วยมือ”

การตรวจรักษา

ในความเป็นจริงแล้ว หลาย ๆ โรคที่เกิดจากการคลาดเคลื่อนจากตำแหน่งปกติของข้อกระดูกสันหลัง โดยเกิดจากสาเหตุง่าย ๆ เช่น ท่าทรงตัวที่ไม่ถูกต้อง, ยกของหนัก, การนั่งนานเกินไป, การขาดการออกกำลังกาย หรือการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง ตามหลักโภชนาการ การสูบบุหรี่ ปัญหามลภาวะ การรับแรงกดที่ผิดปรกติ และความเครียดด้านจิตใจ และความผิดปกติของร่างกายหลายอย่าง สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการแพทย์ไคโรแพรคติก อาทิ อาการปวดศีรษะเรื้อรัง, ปัญหาของไซนัส ปัญหากระดูกกะโหลกศีรษะ ปวดหลัง คอ แขน ขา หมอนรองกระดูก อาการชาตามมือ หรือเท้า อาการปวดประจำเดือน อาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เป็นต้น

การตรวจรักษาจะเริ่มต้นด้วยการซักประวัติอาการไปจนถึงการอ่านฟิล์มเอกซเรย์คนไข้ ส่วนการรักษาโดยปกติจะใช้มือจัดข้อของกระดูกสันหลัง และ กระดูกเชิงกรานให้เกิดความสมดุล จากตำแหน่งผิดปกติให้กลับเข้าสู่ภาวะที่ปกติโดยไม่ใช้ยา เข็ม หรือการผ่าตัด

สำหรับระยะเวลาในการรักษา จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 4 ประการ คือ

1. อาการรุนแรงเพียงใด 
2. มีอาการมาเป็นเวลานานแค่ไหน 
3. ร่างกายของคนไข้มีความสามารถในการรักษาตัวเองมากเพียงใด  
4. คนไข้ปฏิบัติตามคำแนะนำโดยเคร่งครัดหรือไม่

และนอกจากการแพทย์ไคโรแพรคติก จะรักษาอาการต่างๆ ได้ ยังสามารถตรวจเช็คระบบประสาท ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากคอยจนร่างกายแสดงอาการผิดปกติออกมา จะทำให้การรักษาลำบากและใช้เวลานานขึ้น

ไคโรแพรคติกทำการศึกษาอย่างไร

ซึ่งก็คล้ายแพทย์ทั่วๆไปที่จะต้องมี

1.        การซักประวัติการเจ็บป่วย

2.        ตรวจร่างกาย ทั้งทางกล้ามเนื้อ กระดูก และระบบประสาท รวมถึงการเช็คลักษณะโครงสร้างร่างกาย ที่ผิดปกติ

3.        ตรวจ x-ray เพื่อช่วยในการวินิจฉัย

4.        วินิจฉัยโรค และบำบัดรักษา

การรักษาแบบการแพทย์ไคโรแพรคติกจะทำการรักษาด้วยมือ โดยไม่มีการใช้ยาหรือการผ่าตัดแต่อย่างใด โดยปกติจะใช้มือจัดข้อกระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกรานจากตำแหน่งที่ผิดปกติให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เพื่อทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นปกติ รวมถึงการทำงานของระบบประสาทที่ดีด้วย

นอกจากนี้ อาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือ ทางการแพทย์ไคโรแพรคติกบางอย่างช่วยคลายกล้ามเนื้อ หรือลดการเจ็บปวดของคนไข้เมื่อจำเป็น

การศึกษาของการแพทย์ไคโรแพรคติก

จะต้องใช้เวลาการศึกษาเหมือนการแพทย์ทั่ว ๆ ไป คือ ประมาณ 6-8 ปี โดยจะต้องจบวิชาพื้นฐานการศึกษา สาขาวิทยาศาสตร์ (Pre-Medicine) หรือ (Pre-Chiropractic) ในมหาวิทยาลัย 2 ปี ก่อนจะ Entrance เข้าเรียนมหาวิทยาลัย Chiropractic โดยจะใช้เวลาการศึกษาอีกประมาณ 4-5 ปี และได้รับดุษฎีบัณฑิตเฉพาะทางเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ไคโรแพรคติก Doctor of Chiropractic (D.C.)

มีอาการอะไรบ้างควรมาพบไคโรแพรคเตอร์

การแพทย์ไคโรแพรคติก มุ่งเน้นในการบำบัดอาการเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ควรจะเข้ารับคำปรึกษา

1.ปวดศีรษะโดยรอบ หรือ ข้างเดียว
 2.ไมเกรน (Migraine)
 3.ปวดคอ
 4.ปวดไหล่ ปวดแขน
  5.ปวดหลัง
 6.ปวดหรือชาตามแขน ขา
7.บาดเจ็บจากการกีฬา (Sport injuries)
8.บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (Accident)
9. หมอนรองกระดูกเคลื่อน
10. ปวดตามข้อต่างๆ
11. บาดเจ็บจากการยกของหนัก
12. อาการอ่อนเพลียนอนไม่หลับ
13. กระดูกสันหลังคด
14. อาการเครียด
15. เส้นเอ็นอักเสบ

การแพทย์ไคโรแพรคติก ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับส่วนสำคัญของร่างกาย 4 ส่วนใหญ่ๆ
       1. กระดูกสันหลัง (Spine)
       2. ระบบประสาท (Nervous System)
       3. โครงสร้างของร่างกาย (Structure)
       4. โภชนาการด้านอาหารและวิตามิน (Nutrition)

การทำงานภายในร่างกายของมนุษย์  ถือเป็นความสำคัญส่วนหนึ่งของสุขภาพและนั้นก็คือความเกี่ยวข้องระหว่างระบบประสาทที่เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดในการควบคุมการทำงานของอวัยวะทุกส่วนในร่างกายของเรา

การแพทย์ไคโรแพรคติก (Chiropractic) เป็นสาขาการดูแลสุขภาพใหญ่เป็น อันดับที่ 2 ของสหรัฐอเมริกา ไคโรแพรคติก แตกต่างจากแพทย์สาขาอื่น Medicine และ Osteopath คือ การรักษาโรคกระดูกสันหลังและระบบประสาทไขสันหลังที่เนื่องมาจากการกดตัวของกระดูกสันหลัง โดยไม่ใช้ยาและการผ่าตัด แต่ใช้กรรมวิธีของผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ จัดกระดูกสันหลังที่คลาดเคลื่อนที่มีผลทำให้กลไกของการเคลื่อนไหวของการก้ม เงย เอน บิด รวมถึงการทำงานของระบบประสาทไขสันหลัง ผิดปกติกลับมาทำงานให้ดีขึ้น

การคลาดเคลื่อนจากตำแหน่งปกติของข้อกระดูกสันหลังมีอาการอย่างไร

อาการปวดหลังโดยมีหรือไม่มี “อาการปวดที่แผ่กระจาย” ไปที่ขาเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด อาการปวดคอ ปวดไหล่ และปวดแขน มักจะพบบ่อยในผู้ที่ทำงานในสำนักงาน ผู้ที่ขับรถมาก อาการปวดศีรษะแบบไมเกรน และอาการปวดศีรษะโดยทั่วไป อาการอื่น ๆ เช่น อาการกล้ามเนื้อตึง อาการคล้ายเป็นเหน็บ อาการชาและอาการเวียนศีรษะ เป็นตัวอย่างของอาการซึ่งเกิดจากการคลาดเคลื่อนจากตำแหน่งปกติของข้อกระดูก

การคลาดเคลื่อนของกระดูกสันหลังเกิดขึ้นได้อย่างไร

การเคลื่อนของข้อกระดูกสันหลัง ส่วนมากเกิดจากการที่เราทำกิจกรรมประจำวันโดยที่ไม่ระวังตัว เช่น การนั่ง การนอน การยืน ในท่าที่ผิด ลักษณะเป็นระยะเวลานาน ๆ การล้ม การกระแทก การยกของหนักโดยไม่ถูกวิธี อุบัติเหตุ เช่น รถชน รถค่ำ อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา การขาดการออกกำลังกาย

การจัดกระดูกสันหลังคืออะไร

                การจัดกระดูกสันหลัง เปรียบเหมือนการจัดฟัน กระดูกฟันที่อยู่ตำแหน่งผิดปกติ สามารถรักษาด้วยวิธีการจัดฟัน กระดูกสันหลังก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีการเคลื่อนของกระดูกสันหลังออกจากแนวปกติแล้วทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทก็สามารถที่จะรักษาด้วยวิธีการ “จัดกระดูกสันหลัง” (Spinal Adjustment)

                การจัดกระดูกสันหลัง ไม่ใช่วิธีการนวด แต่เป็นวิธีการใช้มือหรือเครื่องมือในการปรับแนวกระดูกสันหลังแต่ละข้อ โดยจะมีเทคนิคต่างๆแล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละคน ซึ่งต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการจัดกระดูกสันหลังเท่านั้น ถึงจะทำได้โดยถูกต้อง

                การรักษา แพทย์ไคโรแพรคติกจะทำการรักษาด้วยมือโดยไม่มีการใช้ยาหรือการผ่าตัดช่วยแต่อย่างใด โดยปกติจะใช้มือจัดข้อกระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกรานจากตำแหน่งที่ผิดปกติให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติส่งเสริมให้การทำงานของระบบประสาทดีด้วย นอกจากนี้อาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือ ช่วยคลายกล้ามเนื้อหรือลดการเจ็บป่วยของคนไข้เมื่อจำเป็น

การรักษาจะเห็นผลในทันทีหรือไม่

                คนไข้บางรายรู้สึกมีอาการดีขึ้นทันทีที่ได้รับการรักษาแต่บางรายต้องรับการรักษาหลายครั้งก่อนที่จะรู้สึกดีขึ้น แพทย์ไคโรแพรคติกรักษาที่ต้นเหตุของปัญหา มิใช้รักษาที่อาการเท่านั้น หากท่านมีปัญหาปวดหลังเป็นเวลานาน อาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่ร่างกายของท่านจะปรับตัวและเริ่มหายเป็นปกติ

หากท่านสนใจการแพทย์ไคโรแพรคติกและต้องการราบละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สมาคมการแพทย์ไคโรแพรคติกแห่งประเทศไทย   www.thailandchiropractic.org  

....ถึงอ้ายบุญตรงคนเชียงฮาย อ้ายสบายดีบ่ เมืองเหนืออากาศบ้านเฮาเป็นจะใดพร่อง บ่หันลงมาแอ่วเวียงกรุงเทพเลย คิดฮอดหลายเด้อบ่หันหน้าหันตาเมินแล้ว(ผสมอีสานนิดหน่อย) อย่าลืมลงมาเยี่ยมสาวกรุงบ้างเน้อ

รศ.ฉายศิลป์      เชี่ยวชาญพิพัฒน์   ผนส.4

เชิญ  ร.ต.อ.นิติภูมิ  นวรัตน์  บรรยาย  เรื่อง "สหกรณ์กับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ"

วันเสาร์ที่  9  มกราคม  2553  เวลา 14.00-16.00 น.

ที่ร้านสหกรณ์กรุงเทพ  สาขาเอกมัย  ถ.สุขุมวิท  กทม.

เรียน ผนส. 3
         ทำเนียบรายชื่อ ผนส. 1-4 สามารถดาวน์โหลดได้ที่.... http://gotoknow.org/blog/pittayalongkorn/303990 โดยดาวน์โหลดจาก link นี้... http://gotoknow.org/file/cooptraning/Namelist-coopleaders.rar (เมื่อดาวน์โหลดไฟล์แล้วให้ Extract files)

---------------0-----------------

ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้

ขอบคุณความยากจน ที่ทำให้เป็นคนมุมานะ

ขอบคุณความล้มเหลว ที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ

ขอบคุณความผิดพลาด ที่ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม

ขอบคุณความริษยา ที่ทำให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่

ขอบคุณคำวิพากษ์วิจารณ์ ที่ทำให้ผลิบานอย่างไร้ข้อตำหนิ

ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้จักครูที่ชื่อประสบการณ์

ขอบคุณความผิดหวัง ที่ทำให้ตั้งสติเพื่อลุกขึ้นมาใหม่

ขอบคุณ

ทางเลือกที่รวดเร็วขึ้นในการเข้า blog
สถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ
เข้าไปที่
http://www.clt.or.th/main.php
แล้วคลิกที่รูป

ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
คนใหม่
ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์ (Dr.Suwichai Suparanon)


ข้อมูลประวัติ...
http://www.clt.or.th/suwichai.htm

ขอเชิญ..เที่ยวงานฉลองอนุสารีย์เจ้าพ่อพญาแลและงาน พระยาภักดีชุมพล วันที่ 12 - 20 มกราคม 2553 ณ บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล และหน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ

ประวัติ

พระยาภักดีชุมพล (แล) ผู้สร้างเมืองชัยภูมิ และเป็นเจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก ชาวเมืองชัยภูมินิยมเรียกขานท่านด้วยความยกย่องนับถือว่า "เจ้าพ่อพญาแล"

พระยาภักดีชุมพล เดิมชื่อ"แล" เป็นชาวนครเวียงจันทน์ เคยรับราชการเป็นพี่เลี้ยงราชบุตรในเจ้าอนุวงศ์แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ (ขณะนั้นตกเป็นประเทศราชของไทยแล้ว) ในสมัยรัชกาลที่ 2 พ.ศ. 2360 นายแลได้อพยพไพร่พลข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งบ้านเรือนที่บ้านน้ำขุ่นหนองอีจาน (อยู่ในเขตอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา) ต่อมาได้ย้ายไปตั้งใหม่ที่บ้านโนนน้ำอ้อม บ้านชีลอง (อยู่ในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ) และได้ทำราชการส่งส่วยต่อเจ้าอนุวงศ์ เจ้าอนุวงศ์จึงตั้งให้นายแลเป็นที่ขุนภักดีชุมพลนายกองนอก

ใน พ.ศ. 2365 ขุนภักดีชุมพลได้ย้ายชุมชนมาอยู่ที่บ้านหลวง ซึ่งอยู่ระหว่างบ้านหนองหลอดกับบ้านหนองปลาเฒ่า ในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิปัจจุบัน เนื่องจากสถานที่เดิมเริ่มคับแคบ ไม่พอกับจำนวนพลเมืองที่เพิ่มขึ้น

พ.ศ. 2367 ได้ที่การพบบ่อทองที่บริเวณลำห้วยชาด นอกเขตบ้านหลวง ขุนภักดีขุมพลจึงได้นำทองในบ่อนี้ไปส่วยแก่เจ้าอนุวงศ์และขอยกฐานะบ้านหลวงขึ้นเป็นเมือง เจ้าอนุวงศ์จึงประทานชื่อเมืองแก่ขุนภักดีชุมพลว่า เมืองชัยภูมิ และเลื่อนบรรดาศักดิ์ให้เป็น พระภักดีชุมพล ทว่าต่อมาพระภักดีชุมพลได้ขอเอาเมืองชัยภูมิขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา และส่งส่วยแก่กรุงเทพแทน ไม่ขึ้นแก่เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์อีกต่อไป พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านหลวงเป็นเมืองชัยภูมิ และแต่งตั้งพระภักดีชุมพล (แล) เป็นพระยาภักดีชุมพล (แล) เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก สร้างความไม่พอใจแก่ทางฝ่ายเวียงจันทน์อย่างมาก

ในสมัยรัชกาลที่ 3 พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์ก่อการกบฎต่อกรุงเทพเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช โดยยกทัพเข้าตีเมืองนครราชสีมา แต่เห็นว่าจะทำการต่อไปได้ไม่ตลอด จึงเผาเมืองนครราชสีมาทิ้ง และถอนทัพกลับไปตั้งรับที่เวียงจันทน์ ระหว่างทางกองทัพเจ้าอนุวงศ์เกิดความปั่นป่วนจากการลุกฮือของครัวเรือนที่กวาดต้อนไปเวียงจันทน์ ขณะพักทัพอยู่ที่ทุ่งสำริด พระยาภักดีชุมพล (แล) ได้ยกทัพไปสมทบกับคุณหญิงโมและครัวเรือนชาวเมืองนครราชสีมา ทำการตีกระหนาบกองทัพของเจ้าอนุวงศ์จนแตกพ่าย เจ้าอนุวงศ์เกิดความแค้นที่พระยาภักดีชุมพลไม่ยอมให้ความร่วมมือกับฝ่ายลาว ซ้ำยังยกทัพมาช่วยฝ่ายไทยตีกระหนาบทัพลาวอีกด้วย จึงย้อนกลับมาเมืองชัยภูมิ จับตัวพระยาภักดีชุมพล (แล) ประหารชีวิต ที่บริเวณใต้ต้นมะขามริมหนองปลาเฒ่า

การเสียชีวิตของพระยาภักดีชุมพล (แล) ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ชาวเมืองชัยภูมิจดจำตลอดมา และระลึกถึงว่าเป็นวีรกรรมครั้งสำคัญของท่าน ต่อมาชาวเมืองชัยภูมิจึงเรียกขานท่านด้วยความเคารพว่า "เจ้าพ่อพญาแล" และได้มีการสร้างศาลไว้ตรงสถานที่ที่พระยาภักดีชุมพล (แล) ถูกประหารชีวิต ที่บ้านหนองปลาเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 (ชัยภูมิ - บ้านเขว้า) ต่อมาใน พ.ศ. 2511 ทางราชการได้สร้างศาลขึ้นใหม่ ให้ชื่อว่า "ศาลพระยาภักดีชุมพล (แล) " และจัดให้มีงานสักการะเจ้าพ่อพญาแลทุกปี โดยเริ่มจากวันพุธ แรกของเดือน 6 เป็นเวลา 7 วัน เรียกว่า "งานเทศกาลบุญเดือนหก ระลึกถึงความดีของ เจ้าพ่อพญาแล" ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของชาวชัยภูมิ และใน พ.ศ. 2518 ทางราชการร่วมกับพ่อค้าและประชาชนชาวชัยภูมิ สร้างอนุสาวรีย์ของพระยาภักดีชุมพล (แล) ประดิษฐานอยู่ตรงวงเวียนศูนย์ราชการ ปากทางเข้าสู่ตัวเมืองชัยภูมิ

สวัสดีเพื่อนๆผนส.ทุกท่านทุกรุ่นและขอบคุณข้อมูลที่พญาอู๊ดได้สรรหามาเล่าสู่กันฟังในการเชิญชวนเที่ยวชัยภูมิน่าสนใจนะแต่อยากรู้ประวัติของบ้านเขว้าเป็นมาจะใดจึงเรียกว่าบ้านเขว้าอยากรู้จริงๆ....วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากกำนันบ้านนอกหรือกำนันสุขสันต์แห่งสุพรรณบุรีว่าคุณพ่อป่วยหนักกำลังติดต่อทางโรงพยาบาลศิริราชอยู่...ข่าวล่าสุดแจ้งว่านก ปากช่องเพื่อนของเราได้จัดการติดต่อโรงพยาบาลและได้เตียงเรียบร้อยแล้วแต่อาการยังน่าเป็นห่วงอยู่ท่านกำนันฝากขอบคุณท่านอดิศักดิ์หรือนก ปากช่องของพวกเราที่มีน้ำใจให้เพื่อนๆเสมออย่างนี้ซิเรียกว่าเพื่อนแท้ยามทุกข์ร่วมทุกข์ยามสุขร่วมเสพ ....ก็อยากให้พวกเราโทรให้กำลังใจกำนันเพื่อนที่แสนดีของพวกเราหรือแสดงความรู้สึกผ่านblogนี้เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ขอบคุณแทนเพื่อนล่วงหน้า.แล้วเจอกันโชคดี....พี่แจ้

ดาวเทียมเพื่อการเกษตร

โลกที่เราอาศัยอยู่มีพื้นที่และทรัพยากรจำกัด ซึ่งอาจมีทั้งที่ทดแทนได้และทดแทนไม่ได้ปนกันไป แต่จำนวนประชากรและอัตราการเกิดของมนุษย์ผู้ใช้ทรัพยากรนั้นได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในขณะที่ยังไม่สามารถหยุดยั้งอัตราการเพิ่มประชากร จะต้องมีการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความต้องการและการตอบสนอง การสำรวจทรัพยากรเพื่อให้ทราบว่ามีอะไร อยู่ที่ไหน และมีอยู่เท่าไร เป็นสิ่งจำเป็นเบื้องต้นในการวางแผนเพื่อการจัดการทรัพยากรอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ทรัพยากรการเกษตรเป็นส่วนหนึ่งของหลายทรัพยากรที่ต้องได้รับการเอาใจใส่และติดตามอย่างสม่ำเสมอ การใช้ดาวเทียมเพื่อช่วยในการสำรวจทรัพยากรนั้น จึงเป็นผลสืบเนื่องมาจากความต้องการและความจำเป็นดังกล่าวแล้ว และก็เป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีในการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ธนะ บำรุงแสง เลขารุ่น 3

กำนันสุขสันต์ ฝากขอบคุณท่านอดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์ ที่ประสานงานโรงพยาบาลศิริราช เรื่องหมอ และห้องพัก ในนามรุ่น3ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้

พรุ่งนี้รุ่น 3 (14 มกราคม 53) นัดเยี่ยมไข้ พ่อของกำนันที่ โรงพยาบาลศิริราช อาคารอัษฎางค์ ชั้น 3 หน้าห้อง ไอ ซี ยู เวลา 14.00 น. มาตัวเป่ลาท่านประธานเตรียมของเยี่ยมแล้ว

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบครับ

จริงหรือเปล่า และไม่ทราบว่า นก ปากช่อง หรือคุณอดิศักดิ์ วชิระสัมพันธ์ นี่เป็นใครที่สามารถประสานการจองเตียงที่โรงพยาบาลศิริราช ห้องพักและหมอได้ด้วย ขอให้แสดงตัวหน่อย เพราะว่าปกติการจองเตียงที่ศิริราชยากส์....มาก มีฝีมือนะเนี่ย อยากรู้จักเป็นส่วนตัวจังเลย หรือคุณนก ปากช่อง จะให้เบอร์โทรศัพท์ ในบล๊อกก็ได้ จะได้มีโอกาสโทรไปหารือด้วย

ผู้สงสัย และสนใจ

ถ้าสนใจก็ไม่ต้องสงสัย...น่าเบื่อจริงๆไอ้พวกนี้

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดประชุมเสวนา เรื่อง "การเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ต้นแบบ : พลิกฟื้นธุรกิจสถาบันเกษตรกร ๗๖ จังหวัด ระวห่างวันที่ ๑๗-๑๙ มกราคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมเวียงอินทร์ อำเภอเมือง และสหกรณืการเกษตรแม่สลอง ๒๕๒๖ จำกัด อำเภอแม้ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ซึ่งงานนี้ผมไปร่วมด้วย คงมีโอกาสพบกับ ผนส.รุ่น ๓ และเพื่อนพ้องน้องพี่ ประธานและผู้จัดการสหกรณ์จากทั่วประเทศ โดยเฉพาะพี่ จิ๋น และคุณบุญตรง นะครับ

ในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓ นี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมกับ สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด จะจัดงาน "พลิกฟื้นธุรกิจสถาบันเกษตรกรผ่านกลไกลการบัญชี" ระดับภาค ณ สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ โดยมี นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิด ขอเชิญ....ชาวสหกรณ์ ผนส.๓ ร่วมงาน และเลือกซื้อ ผ้าไหมมัดหมี่ ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม และสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน งานนี้พี่จิ๋น.. ต้องไปนะครับ

ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และคุณงามความดีทั้งปวง จงดลบันดาลให้คุณพ่อ ของท่านกำนัน มีสุขภาพ ร่างกายที่แข็งแรง และหายจากโรคภัยที่ประสบอยู่ด้วย เทอญ..

พี่แจ้..ครับ ประวัติของบ้านเขว้า หรือ บ้านข่าว ให้น่องชายคนนี่ปิ๊กจากเชียงฮายก่อน จะเล่าสู่ฟัง นะครับ

แด่คุณครูด้วยดวงใจ

ประดุจดั่งแม่พ่อก่อกำเนิด

น้ำใจเลิศเมตตามหาศาล

ผู้สอนสั่งทั้งจริยาวิชาการ

สร้างสืบสานคนมีธรรมนำสังคม

หวังเพียงให้เด็กน้อยค่อยเติบใหญ่

มีน้ำใจใฝ่สรรค์สร้างอย่างสั่งสม

ถ้วนทุกวันหมั่นขัดเกลาเฝ้าอบรม

เพียรเพาะบ่มสุดกำลังด้วยตั้งใจ

ฝึกค้นคิดพิจารณาหาคำตอบ

ฝึกทดสอบวิเคราะห์ความรู้ถามไถ่

ฝึกเทคโนโลยีที่ก้าวไกล

ฝึกประยุกต์ใช้ตามวิถีที่เพียงพอ

ฝึกให้เป็นผู้ให้ไม่หวังผล

ฝึกอดทนสร้างสายใจไว้เกี่ยวก่อ

ฝึกวิธีทำใจในคำรอ

ฝึกไม่ท้อแท้ใจในชะตา

เป็นแสงเทียนแห่งธรรมนำสว่าง

เป็นแก่นกลางกลไกชาติปราชญ์ศึกษา

เป็นผู้จุดเทียนทองของปัญญา

เป็นผู้กล้าแกร่งหัวใจไฟอุดมการณ์

จะเหนื่อยยากอย่างไรก็ไม่บ่น

พร้อมผจญขจัดปัดทุกข์ผ่าน

เสียสละเพื่อส่วนรวมร่วมกอปรการ

รักในงานที่ศรัทธาอาชีพครู

ขอนบนิ้วบูชามากราบไหว้

คุณครูไทยทั้งหลายได้รับรู้

น้อมนำใจใส่ทูนเทิดและเชิดชู

จากหนูหนูนักเรียนเขียนอวยพร

ขอคุณพระศักดิ์สิทธิ์ฤทธิผล

โปรดดาลดลทุกข์สลายคลายเดือดร้อน

ส่งความสุขสู่กายใจไร้นิวรณ์

ผ่านกานท์กลอนนี้มาบูชาครู..

ขอขอบคุณ กลอนวันครู โดย

คุณ Phraernumkang จาก dreampoem

สวัสดีผนส ทุกคน

       ผมไม่ได้แสดงความคิดเห็นหลายวันแล้ว แต่ได้เข้ามาดูทุกวัน และขอให้คุณพ่อของท่านกำนันหารไวๆ ด้วย ไม่สามารถไปเยี่ยมได้ ฝากทุกคนเยี่ยมแทนแล้วนะท่านกำนัน

    ช่วงนี้มีงานยุ่งหน่อย กำลังเตีรยมงานวันสหกรณ์แห่งชาติ และงานอื่นๆเขามามากเลยช่วงนี้ ต้องขอโทษทุกคนที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่หากผนส มีงานอะไร ถ้าไม่ติดธุระจริงจะไปร่วม

   สวัสดีทุกคน

ขอให้คุณพ่อของพี่กำนันบ้านนอกหายวันหายคืนนะคะ

...เด็กสาวที่แสนจะเรียบร้อยไร้เดียงสาและเป็นคนตรงไปตรงมา กำลังจะเดินทางไปอยู่เมืองหลวง

ก่อนเดินทางมารดาได้ให้คำแนะนำบางอย่างเกี่ยวกับวิธีพิจารณาชายหนุ่มคนที่

คู่ควรจะแต่งงานด้วยว่าต้องเป็นตามคำแนะนำต่อไปนี้

..ต้องเป็นผู้ชายที่ 'ไว้ใจได้' 'ไม่ฟุ่มเฟือย' และต้องเป็นหนุ่มที่ยังคงความ 'บริสุทธิ์'

เด็กสาวจดจำคำแนะนำติดตัวไปสองสามเดือนต่อมา

เด็กสาวเดินทางกลับบ้านเพื่อขอให้มารดาอวยพรสำหรับงานแต่งงาน

'แม่คะหนูพบผู้ชายที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแม่เปี๊ยบเชียวค่ะ'

'สามีในอนาคตของหนูเป็นคนที่ไว้ใจได้

เพราะเมื่อเราออกไปเที่ยววันหยุดด้วยกันวันหนึ่ง

เขาเอาใจใส่หนูดีมากไม่วอกแวกเลย

ถึงแม้จะมีผู้หญิงหน้าตาสะสวยมากมายแถวนั้น

ถือว่าไว้ใจได้ ใช่ไหมคะ' มารดาก้มศีรษะเห็นด้วย

'จากนั้น เนื่องจากเราเที่ยวกันดึกไปหน่อย แล้วฝนก็เริ่มตกหนัก

เขาเลยตัดสินใจพักค้างคืนที่โรงแรม เขายังแนะนำด้วยว่า

เพื่อไม่ต้องใช้จ่ายเงินให้มากเกินไป

เราควรใช้ห้องร่วมกันจะดีกว่า'

'เขาไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยเลยใช่ไหมคะ'

เป็นครั้งที่สองที่มารดาก้มศีรษะเห็นด้วย แต่มีแววเอ่ะใจเล็กน้อย

'และในที่สุดค่ะแม่หนูก็รู้ว่าเขาบริสุทธิ์!'

'หนูรู้ได้อย่างไรจ้ะว่าเขายังบริสุทธิ์อยู่' มารดาถามเร็วปรื๋อ

'ก็ไอ้นั่นของเขาใหม่มากเลยค่ะแม่ไม่ได้ใช้เลย... ยังห่ออยู่ในถุงพลาสติกเรียบร้อยเชียวนะคะ ....'

ooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo

ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย จงปกป้องคุ้มครอง ดลบรรดาลให้คุณพ่อของท่านกำนันสุขสันต์หายจากอาการป่วยไวๆนะครับ

......ได้ข่าวเป็นที่น่าเสียใจว่าบิดาของท่านกำนันสุขสันต์ได้เสียชีวิตแล้วณ.รพ.ศิริราช ตั้งศพสวดอภิธรรมที่บ้านจังหวัดสุพรรณบุรี ผนส3.จะไปร่วมงานวันศุกร์ที่21 มค.53 นี้ หากผู้ประสงค์เดินร่วมในครั้งนี้โปรดติดต่อเลขาฯรุ่น(คุณธนะ บำรุงแสง)ด่วน.. เพื่อจัดเตรียมรถ

ธนะ บำรุงแสง เลขารุ่น 3

ศุกร์ที่ 22 มกราคม 2553 นำโดยท่านประธานบัญชา จะไปงานสวดพระอภิธรรม บิดาของท่านกำนันสุขสันต์

จังหวัดสุพรรณบุรีโดยรถตู้ จะออกจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เวลา 17.00 น.

ขอแสดงความเสียใจด้วย ที่คุณพ่อของท่านกำนันสุขสันต์ได้จากไป วันนั้นไปเยี่ยม เห็นว่าคุณพ่อรู้สึกตัว ขยับแขนขาได้ คิดว่าคงดีขึ้น แต่ก้มาจากไป ขอแสดงความเสียใจอีกครั้ง

ทศเทพ

ขอแสดงความเสียใจ กับการสูญเสียบุคคลสำคัญยิ่งของตระกูล"ท้วมจันทร์" ของท่านกำนันสุขสันต์

ขออภัยอย่างสูง ที่ผมไม่สามารถไปร่วมงานได้ครับ

               ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง  กับท่านพี่กำนัน  ที่สูญเสียบิดา

และต้องขออภัยด้วย ที่ไม่สามารถไปร่วมงานได้  มีงานทำบุญที่บ้านพอดี  หากไม่มีธุระจะไปด้วย  ต้องขอโทษท่านกำนันจริงๆ

ขอแสดงความเสียใจกับท่านกำนันสุขสันต์ ที่สูญเสียคุณพ่อ ต้องขออภัยที่มิได้ไปร่วมงาน

ธญา โบสุวรรณ์ ผนส.2 นครราชสีมา

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ และเพื่อนชาว ผนส.3

ต้องขอแสดงความเสียใจกับท่านกำนันบ้านนอกเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสูญเสียคุณพ่อ เพิ่งทราบข่าววันนี้เอง

พอดีขาที่เดี้ยงตั้งแต่วันเลี้ยงส่งรุ่น4 ยังเดินไม่สะดวก อยากไปร่วมงานด้วยต้องขออภัยที่ไม่ได้ไปนะคะ

รายงานข่าวงานบ้านท่านกำนัน

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาชาวผนส.3ได้เดินทางไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพบิดาของท่านกำนันสุขสันต์ที่จังหวัดสุพรรณบุรีนำโดยท่านอาจารย์บัญชา พร้อมด้วยคณะประกอบไปด้วย พี่น้อยชวลี น้องกุ้ง ตี๋น้อย ท่านทศเทพหรือพี่ติ๊กชีโร่ของเรา พี่จิ๋นล่วงหน้าไปก่อนไปรอที่บ้านงาน รถออกจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เวลา 17.00 น.มีท่านเลขารุ่นธนะ บำรุงแสงม้าเร็วของเราเป็นสารถีพร้อมผู้นำทางลูกชายสุดที่รักนั่งข้างกายไปตลอด ตี๋น้อยของเราขนเสบียงกรังขึ้นรถมาเต็มพิกัดส่วนมากจะเป็นอาหารกระป๋องตราไฮเนเก้น... พี่แจ้ไปรอขึ้นรถแถวบางบัวทองปากทางไปสุพรรณบุรี รถยังไม่พ้นเขตนนทบุรีอาหารกระป๋องก็เริ่มร่อยหรอต้องแวะซื้อเติมไปตลอดทาง ถึงสุพรรณหาบ้านท่านกำนันไม่เจอต้องถามกันไปตลอด...ตี๋น้อยคนนำทางก็เริ่มมั่วด้วยฤทธิ์อาหารกระป๋อง ถึงบ้านงานสองทุ่มได้เวลาสวดพอดีคนมาร่วมงานเยอะมากประมาณแปดรัอยคนกำนันบ้านนอกของเราดูแลอย่างเต็มที่... พี่จิ๋นของน้องๆมารออยู่ที่บ้านงานแล้วพร้อมกับ น้องอ๋อจากอ่างทองและน้องวี24จากอุทัยธานี เท่านั้นเองนกกระจอกก็เริ่มแตกรังสายตาทุกคู่ในงานก็เริ่มจับจ้องมาที่กลุ่มผู้นำสหกรณ์ขั้นเทพทั้งหลายและคงนึกในใจว่าไอ้พวกนี้มันคงไม่ได้เจอกันมาหลายปี ... ท่านกำนันบอกว่าตามสบายฟังพระสวดเมื่อไหร่ก็ได้เพราะพระที่ไหนที่ไหนก็สวดเหมือนกันทั้งนั้น(คิดได้นอกกรอบสมกับเป็นผู้นำขั้นเทพจริงๆ) ค่ำคืนนี้มีเจ้าภาพร่วม12คณะรวมของรุ่นเราด้วย...ถวายปัจจัยกันทั้ง12คณะจนพระนี้ยิ้มไปตามๆกัน(มาเที่ยวนี้คุ้มจริงๆเต็มย่ามเต็มย่าม)..สามทุ่มกว่าส่งพระกลับแขกเหรื่อทยอยกันกลับเกือบหมดแต่กำนันไม่ยอมให้พวกเรากลับสั่งตั้งโต๊ะจีนรับรองชาวผนส.3 พวกเราก็ไม่ขัดศรัทธาเจ้าภาพให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ จนเวลาล่วงเลยมาเกือบห้าทุ่มเจ๊จิ๋นเริ่มคิดถึงสามี..ลูกชายเลขาธนะเริ่มงอแงเพราะง่วงนอน..อาจารย์บัญชาเริ่มเงียบเหลือตี๋น้อยกับตี๋ใหญ่แจ้ยังโม้กันฟุ้งอยู่ คณะกรรมการรุ่นจึงมีมติเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรกับเวลาแล้วเพราะดึกเกินไปอาจจะมีการปาหินโชว์ได้อีก จึงได้รำลากันเรียบร้อยเดินทางกลับถึงกรุงเทพประมาณเที่ยงคืนโดยสวัสดิภาพ ..... จบข่าว

เรียน  พี่น้อง ผนส. ทุกท่าน

        ประธาน ผนส. 2 มีหนังสื่อเชิญชวนบริจาคสิ่งของหรือปัจจัยให้กับผู้ต้องขังหญิง และเด็ก มายัง ผนส. ทุกท่าน หากท่านไม่ได้รับ แต่มีความประสงค์จะร่วมบริจาค เชิญส่งได้ตามหนังสือข้างล่างนี้ครับ

 

                                                                               ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 2

                                                     วันที่                  มกราคม   2553

 เรื่อง    ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม

 เรียน   ………………………………………

           ด้วยผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 2  (ผนส.2)  จะจัดกิจกรรมประจำปี 2553   เพื่อสังคมและสาธารณกุศล  ครั้งที่ 1         โดยจะจัดหาสิ่งของที่จำเป็นสำหรับผู้ต้องขังหญิงทัณฑสถานหญิงกลาง     แขวงลาดยาว     เขตจตุจักร  กรุงเทพฯ  10900   และจะนำไปมอบให้ในวันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553   เวลา 10.00 น         ในการนี้  มีความยินดี    ขอเชิญชวนท่านร่วมกิจกรรมครั้งนี้โดยบริจาคสิ่งของที่จำเป็นสำหรับผู้ต้องขังหญิง    หรือโอนเงินเข้าบัญชีประเภท  สะสมทรัพย์    สาขาย่อยคาร์ฟูร์ อิสรภาพ    ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)   เลขที่บัญชี  857-0-04119-7    แล้วส่งสำเนาใบส่งเงินให้กับคุณอรุณี  วงศ์ราเชน      เหรัญญิก  ผนส.2       ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์     12   ถนนกรุงเกษม  แขวงวัดสามพระยา    เขตพระนคร   กรุงเทพฯ  10200  , โทรสาร  02-2826536     หรือ เช็คสั่งจ่ายในนาม  คุณอรุณี วงศ์ราเชน    และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

         จึงเรียนเชิญมาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมกับ ผนส.2 ต่อไป

                                                                                        

                                                     ขอแสดงความนับถือ

                                                            พลเรือตรี                                 

                                                                     ( บงกช   ผาสุข )

                                                            ประธานผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 2

สวัสดีค่ะ ชาว ผนส.3

เงียบหายไปนานเพราะงานยุ่งอีกตามเคย ขอแจ้งค่าใช้จ่ายที่ไปร่วมทำบุญงานศพ คุณพ่อ กำนันสุขสันต์ ดังนี้้

ค่าหรีด 500 บาท ถวายพระ 500 บาท และค่าช่วยงานในนามรุ่น 3 อีก 3,000 บาท ขณะนี้เงินกองกลางที่เหลือและนำฝากไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รวมดอกเบี้ย ณ วันสิ้นปี เป็นจำนวนเงิน 47,170.60 บาท

พี่จิ๋นค่ะ

เรียนท่านผู้นำสหกรณ์ขั้นเทพทุกท่าน(รุ่น3)

จากที่ได้มีการปรึกษาหารือกันเรื่องความคืบหน้าของอุทัยธานีโมเดล ณ บ้านกำนันบ้านนอก หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้ข้อสรุปว่าคณะของผู้นำรุ่น3 นำโดยท่านอ.บัญชา พี่แจ้ พี่จิ๋น กำนันบ้านนอก และ....ได้กำหนดการเดินทางเพื่อดำเนินการตามโครงการในวันที่ 13-14 มีนาคม 2553 โดยจะเดินทางในช่วงเช้าของวันที่ 13 จึงแจ้งข่าวมายังผู้นำทุกท่านเพื่อสำรองที่นั่งและที่นอนค่ะ แจ้งข่าวได้ที่น้องกุ้งหรือพี่ธนะก็ได้นะคะ หรือแจ้งทางบล็อคก็ยินดีค่ะ

               โครงการอุทัยธานีโมเดล กำหนดในวันที่ 13-14 มีนาคม 2553  ไม่ทราบรายละเอียดเป็นอย่างไงบ้าง ผมว่าจะไปด้วยแต่ไม่แน่จเพราะไปวันเสาร์เช้ากลับอาทิตย์ ไม่ทราบเวลาได กลับถึงกรุงเทพกี่โมงผมกลับลงใต้ตอนเย็นทันหรือเปล่า

                หากเป็นไปได้ขอให้ทำเป็นหนังสือส่งมาที่สหกรณ์ หน่อยได้ไหม จะได้ขออนุญาติทางสหกรณ์ไปร่วมกิจกรรมได้สะดวกหน่อย

              งานนี้อยากให้ทุกคนไป เป็นการรวมพลหลังจากห่างเหินกันไปนานแล้ว

เล่าสู่กันฟัง

เมื่อวันที่ ๑๗-๑๙ มกราคม ๕๓ ที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมกับ สหกรณ์การเกษตรแม่สลอง จำกัด จัดงาน"โครงการพลิกฟื้นธุรกิจสถาบันภาคการเกษตรผ่านกลไกการบัญชี" ณ ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย โดยมี นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี และมีสหกรณ์การเกษตรต้นแบบกว่า ๓๐๐ สหกรณ์ จาก ๗๖ จังหวัดร่วมงาน สหกรณ์การเกษตรแม่สลอง จำกัด ก่อตั้งโดยนายพลตวน ซึ่งนำทัพทหารจากประเทศจีน เดินทางผ่านเทือกเขาจนถึงเขาค้อของไทย นายพลตวน เห็นว่าดอยแม่สลองมีความอุดมสมบูรณ์จึงไม่กลับประเทศจีน แต่ยังได้ชักชวนให้ญาติและประชาชนของจีนมาอยู่ อาชีพส่วนใหญ่คือการทำไร่ชา เพราะฉะนั้นบนดอยแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยไร่ชา สลับซับซ้อน เป็นแนวบันได สวยงามมาก เป็นครั้งแรกที่ผมได้ไป และโชคดีมากที่ได้พี่จิ๋น คุณอ๋อ และน้องวี

สำหรับงาน"โครงการพลิกฟื้นธุรกิจผ้าไหมสถาบันการเกษตรผ่านกลไกลการบัญชี" เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมกับ สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด ณ สหกรณ์บ้านเขว้า คึกคักไม่แพ้กัน พิธีเปิดโดยท่านอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีรองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มสตรีสหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจ สหกรณ์ในภาคอีสาน กรรมการ สมาชิก และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ร่วมงานอย่างอบอุ่น สินค้าที่ขายดีที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ผ้าไหมมัดหมี่ และผ้าไหมประยุกต์

...................................

น้องกุ้ง(เต้น) งาน"อุทัยธานีโมเดล" วันที่ ๑๓-๑๔ มีนาคม ผมคนหนึ่งที่จะไปร่วมงานช่วยลงทะเบียนด้วย เห็นด้วยกับคุณสุทิศ สำหรับรายละเอียดหรือหนังสือถึงสหกรณ์หน่อยก็น่าจะ..เหมาะสม หรือก่อนถึงวันงานจะมีการหารือเตรียมความพร้อมก่อนก็น่าจะ..ดูดี นะครับ

แก้ไขข้อความ เล่าสู่กันฟัง "และโชคดีมากที่ได้ เจอ พี่จิ๋น คุณอ๋อ และน้องวี"

บิ๊กอู๊ดโชคดีจริงๆได้ทีเดียว3คนเลยหรือ.... ขอแก้ไข.."บิ๊กอู๊ดโชคดีจริงๆได้เจอทีเดียว3คนเลยหรือ"(ฮา)

สหกรณ์ช่วยให้พัฒนาอย่างยั่งยืน

อังคาร ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

อังคารวันนี้เป็นวันที่ ๒ แล้วนะครับ ที่รายการ Dr. Nitipoom @ the crossroads แพร่ภาพทางจานดาวเทียม DTV ทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่อง ABAC Channel รายการของผมมีทุกคืนๆ ละ ๑ ชั่วโมง ระหว่าง ๒๐.๐๐-๒๑.๐๐ น.

 

ในฐานะหัวหน้านักวิจัยโครงการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของหน่วยงานที่กำกับ ดูแล และพัฒนาสหกรณ์ อังคารวันนี้ เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. นิติภูมิจะบินขึ้นไปเพื่อนำเสนอรูปแบบของสหกรณ์ในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จและการบริหารจัดการหน่วยงานต้นแบบภายในประเทศไทย  ที่ห้องมัณฑะเลย์ สำนักบริการวิชาการ ม.เชียงใหม่ ผู้ใดมีความเห็นเป็นประการใดและอยากให้สหกรณ์ไทยพัฒนาไปแบบไหน ผมขอเชิญเข้าร่วมด้วยครับ

ความเห็นส่วนตัว อย่างหนึ่งซึ่งผมอยากเห็นก็คือ สหกรณ์แต่ละประเภท ก็น่าจะมีหน่วยงานที่ส่งเสริม กำกับ และดูแลแตกต่างกันไป อย่างสหกรณ์การเกษตร อยู่กับกระทรวงเกษตรน่ะดีแล้ว แต่สหกรณ์ออมทรัพย์ ก็น่าจะเกี่ยวดองหนองยุ่งกับกระทรวงการคลัง สหกรณ์ร้านค้า ก็ควรจะไปอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ

ไม่อยากจะเขียนมากละครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นการชี้นำ แต่ผมอยากจะเดินทางไประดมความเห็นทั่วประเทศมากกว่า ยอมเหนื่อย แต่ได้ความเห็นที่หลากหลาย อย่างพฤหัสบดีวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี่ ผมก็จะบินไปทำแบบเดียวกับที่ทำที่เชียงใหม่นี่แหละ แต่ไปที่จังหวัดนครสวรรค์ ท่านผู้ใดสนใจก็ไปได้ครับ ที่ห้องแม่น้ำปิง ศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพธุรกิจ มรภ.นครสวรรค์ ต่อไป จะไปสุราษฎร์ธานี เพชรบุรี นครราชสีมา สงขลา อุดรธานี ฯลฯ ซึ่งผมจะทยอยเรียนรับใช้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง

จากการเดินทางเทียวเที่ยวไปทั่วประเทศ ไปมาครบจบหมดทุกจังหวัด และเกือบจะครบทุกอำเภอ อยากจะเรียนว่า ผมพอทราบปัญหาของประเทศได้บ้างในระดับหนึ่ง ทุกวันนี้ ประเทศไทยของเราพึ่งพาการส่งออกมากกว่าร้อยละ ๗๐ ของจีดีพีแล้วนะครับ อันนี้อันตรายมาก ในห้วงช่วงไหนเศรษฐกิจโลกแย่ ประเทศไทยของเราก็จะพลอยโดนกระทบไปด้วย และไม่อยู่ในความควบคุมของเราเองได้ ขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ภายนอกประเทศเป็นหลัก ไม่เหมือนอินเดียและอินโดนีเซีย ที่พึ่งพาการบริโภคภายใน หลายประเทศขณะนี้จึงหาวิธีแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน ผมเรียนรับใช้ไปหลายครั้งแล้วว่า ทุนนิยมจะทำให้โลกของเราร้อนเป็นไฟ ส่วนระบอบคอมมิวนิสต์ พวกสังคมนิยมจ๋ามากทั้งหลาย ก็จะทำให้คนขี้เกียจมาก ประเทศไม่เจริญ ขอเรียนว่า ชาติที่เราคิดว่าเจริญมากๆ นั้น ใช้ทุนนิยมจ๋าทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ครับ พวกนี้มีระบบสหกรณ์ซ่อนอยู่เป็นโครงสร้างที่แข็งแรงมากทั้งนั้น อย่างในประเทศอังกฤษ สหกรณ์มีบทบาทต่อผู้คนชนอังกฤษสูง

โครงสร้างการบริหารสหกรณ์ในอังกฤษมีสหกรณ์ผู้บริโภคเป็นตัวเชื่อมโยงกับสหกรณ์อื่นๆ โดยใช้การลงหุ้นในสหกรณ์ก่อตั้งเป็นชุมนุมสหกรณ์ ในการจัดตั้งสหกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ผู้ค้าส่ง รวมถึงร้านสหกรณ์ค้าปลีก จะมีกฎหมายการค้าซึ่งกำหนดให้อยู่ในรูปของสาธารณะเป็นเจ้าของ ห้ามไม่ให้มีผู้ถือหุ้นคนเดียว

โครงสร้างสหกรณ์ในอังกฤษมีการจัดเป็น ๒ ส่วน คือสหกรณ์ค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่พัฒนาสินค้า ผลิต ขนส่ง และสนับสนุนร้านค้าย่อยในด้านเทคโนโลยีการพัฒนาองค์การ การกระจายสินค้า การเจาะตลาด การโฆษณา และจัดตั้งร้านค้าปลีกในพื้นที่ชนบท ส่วนสหกรณ์ขายปลีกขนาดเล็กจะมีหน้าที่ขายสินค้า ให้คำปรึกษา เป็นตัวแทนประกัน และรับคำแนะนำจากสมาชิก

โครงสร้างการบริหารจะแบ่งออกเป็น ๗ ภูมิภาค มีศูนย์กระจายสินค้า ๘ แห่ง มีผู้บริหารศูนย์ละ ๑๕-๒๕ คน แต่ละภูมิภาคจะมีการส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการรวมทั้งหมด ๓๐ คน และมีการเลือกประธาน ๑ คน แต่ละภูมิภาคต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า ๒๗๕,๐๐๐ ครัวเรือน หรือกลุ่มบุคคล

แต่ละคนต้องถือหุ้นอย่างน้อย ๑๐ หุ้น โดยมีหุ้น ๒ ประเภท คือ หุ้นที่เป็นสมาชิกสามัญ พวกนี้มีสิทธิลงคะแนนได้ มีปันผลแบบไม่ตายตัว ส่วนอีกอย่างมีบุคคล หรือนิติบุคคลเข้าถือหุ้นซึ่งจำกัดจำนวน หุ้นอย่างนี้จะไม่สามารถใช้สิทธิลงคะแนนได้ แต่มีปันผลแบบตายตัว

พอไปถึงเรื่องสหกรณ์การเกษตร ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับสหกรณ์การเกษตรมีมากจริงๆ เพราะรัฐบาลอังกฤษมีนโยบายปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจภาคเกษตรให้เข้มแข็ง โดยใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อให้เกษตรกรผลิตอาหารบริโภคภายในประเทศได้มากขึ้น เช่น ลดต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับผลิตผลจากต่างประเทศได้ รัฐบาลอังกฤษพยุงราคาสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม แม้แต่ความช่วยเหลือทางการเงิน รัฐบาลอังกฤษก็ช่วยสหกรณ์การเกษตรมากจริงๆ แถมยังให้สหกรณ์มีส่วนร่วมกับรัฐบาลในโครงการผลิตสินค้าบางอย่าง และยังมีอะไรอีกหลายอย่าง จากตัวอย่างอีกหลายประเทศครับ ซึ่งไม่สามารถนำมาเขียนรับใช้ในหน้าหนังสือพิมพ์ได้หมด ผมตั้งใจว่า ถ้าวิจัยฉบับนี้ซึ่งจะมีความยาวประมาณ ๓๐๐ หน้า เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะขออนุญาตทางราชการนำไปใส่ไว้ในเว็บไซต์ nitipoom.com เพื่อท่านทั้งหลายจะได้นำไปใช้ประโยชน์กัน  แต่เหนือสิ่งอื่นใด ขอความกรุณาท่านทั้งหลายไปแสดงความเห็นตามจังหวัดที่ผมเรียนรับใช้ไปแล้วกันให้มากๆ นะครับ

26  กุมภาพันธ์   เป็นวันสหกรณ์แห่งชาติ  ขอเชิญร่วมงานที่ สันนิบาตสหกรณ์ฯ

8 วินัยใหม่ เพิ่มเงินเก็บทั้งปี

คนที่มีฐานะมั่นคงไม่ได้หมายความว่าเป็นคนหาเงินได้เยอะ แต่กลับเป็นคนที่มีวินัยในการเก็บเงิน และไม่เสียเงินไปกับเรื่องจุกจิกจนทำให้เงินเก็บสูญไป ปีใหม่นี้ตั้งต้นเก็บเงินกันใหม่ดีกว่า

1. เคลียร์ให้จบสิ้นก่อน เป็นกฎทองของการเก็บเงินที่คุณควรจะเคลียร์หนี้สินที่ติดไว้กับบัตรเครดิตให้จบลงเสียก่อน เพราะแม้ว่าเครดิตการ์ดจะเป็นช่องทางจ่ายเงินที่สะดวกสบาย แต่ถ้าบิลที่เรียกเก็บทำให้การเงินของคุณไม่สมดุลกันระหว่างเดือน รับรองว่าคุณจะไม่มีเงินเหลือเก็บแน่นอน ทางแก้ก็คือ ค่อยๆ ผ่อนชำระหรือหาเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยถูกกว่า โปะทับไปก่อนที่ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะบานเป็นดอกเห็ด

2. ทำช้อปปิ้งลิสต์ คงไม่มีสาวคนไหนจะมานั่งทำช้อปปิ้งลิสต์เวลาไปซื้อของ แต่คุณรู้ไหมว่าลิสต์นี้จะทำให้คุณประหยัดได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเวลาในการช้อปปิ้ง การซื้อของตรงวัตถุประสงค์ และกำหนดเงินในกระเป๋าได้ว่าจะต้องใช้จ่ายเท่าไรบ้างในการซื้อของครั้งนี้ จะได้งดซื้อของที่ไม่จำเป็นออกไป รวมทั้งกำหนดเลยว่าในหนึ่งเดือนจะต้องออกไปซื้อของกี่ครั้ง จะได้ประหยัดค่ารถไปในตัว

3. อย่าติดชื่อแบรนด์ แม้คนดังจะใส่เสื้อผ้าแพงระยับอย่างไร แต่คุณไม่จำเป็นจะต้องซื้อแบรนด์ดังๆ อย่างพวกเขาก็ได้ เพียงคุณดูแฟชั่น และแต่งตัวให้เป็นก็เพียงพอแล้ว อย่าไปเสียเงินให้แบรนด์ต่างๆ จะต้องมานั่งกลุ้มใจเอง

4. ใช้พรสรรค์สร้างเงิน ไม่ว่าคุณมีพรสวรรค์ทางด้านไหน ก็สามารถขุดขึ้นมาทำเงินได้แน่นอน บางคนนิยมถักตุ๊กตา ทำอาหาร ทำบล็อกเว็บไซต์ รับสอนหนังสือ และอื่นๆ อีกมากมาย คุณควรนำความสามารถเหล่านี้มาเป็นจุดขายในการสร้างเงิน เพิ่มรายได้พิเศษได้เดือนละหลายพันบาททีเดียว

5. ทำของใช้เองบ้าง ไม่ต้องเสียเงินทองไปซื้อของ ลองใช้วิธี Do lf Your self ลองประดิษฐ์ของใช้ในบ้านเอา เช่น แท่นวางของ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน นอกจากจะได้โชว์ฝีมือแล้ว ยังไม่เปลืองเงินอีกด้วย

6. วางแผนการท่องเที่ยว คุณทราบไหมว่า ถ้าจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พักก่อนเทศกาลท่องเที่ยว ราคาจะถูกมากกว่าถึง 30% ให้คุณแพลนกิจกรรมท่องเที่ยวเอาไว้ทั้งปี และฉลาดในการจัดทริป เพราะเงินจะเหลือจนคุณช้อปปิ้งซื้อของฝากได้สบายๆ หรือพยายามหาตั๋วที่มีส่วนลด ราคาจะได้ไม่บานปลายเหมือนปีที่ผ่านมา

7. หัดปฏิเสธเสียบ้าง สาวสังคมทั้งหลายยิ่งช่วงปีใหม่ เรื่องกินเรื่องเที่ยวกระหน่ำเข้ามาแทบทุกวัน หัดปฏิเสธและเลือกไปเฉพาะบางงาน เพราะคุณต้องเสียค่าดริ๊งก์ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ รวมแล้วนำมาเป็นเงินเก็บหรือใช้หนี้ได้อย่างสบายๆ

8. ฉลาดเป็นสมาชิก คุณเคยนับยอดไหมว่าเดือนหนึ่งคุณจะต้องเสียค่าสมาชิกยิม เคเบิลทีวี อินเทอร์เน็ตไร้สาย ฯลฯ เป็นจำนวนเท่าไร ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดภาระรายจ่ายจุดนี้ลงบ้าง เพราะคุณสามารถออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมแนวเดียวกันโดยเสียเงินน้อยกว่าได้

ขอบคุณที่มา : นิตยสารlisa

เรื่องหนังสือของโครงการอุทัยธานีโมเดลรับทราบแล้วค่ะ จะรีบดำเนินการให้นะคะ

เรียน ผนส.3 ทุกท่าน

ผนส.4 ขอเชิญร่วมกิจกรรม ตามกำหนดการที่แนบมาค่ะ

ใบฎีกาบอกบุญทอดผ้าป่า  คุณอรนุช (สถาบันพิทยาลงกรณ) จัดส่งให้นะคะ

ขออนุโมทนามา ณ ที่นี้ด้วย

แดง ( ศุภาภรณ์ เลขา ฯ รุ่น ทำงานที่ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ )

กำหนดการทอดผ้าป่าการศึกษาและศึกษาดูงาน

19 – 20 กุมภาพันธ์ 2553

      วันศุกร์ 19 ก.พ. 2553

            07.00 น.   เดินทางจากสันนิบาตสหกรณ์   โดยรถตู้ของสันนิบาต ฯ 2 คัน  / ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ชสอ.) 1 คัน   

            09.00 น.   ถึงโรงเรียนวัดราษฎร์รังสรรค์  หมู่ 2 ต.คอกกระบือ  อ.เมือง  สมุทรสาคร  ( ถ้ามาจากกรุงเทพ ฯ ให้สังเกตด้านซ้ายมือ  ป้ายตลาดลีลา  และมหาชัยเมืองใหม่  ให้เตรียมเข้าช่องซ้ายทางคู่ขนาน  วิ่งตรงไปประมาณ 2 กม. เพื่อขึ้นสะพานกลับรถ  เมื่อลงจากสะพานเตรียมชิดซ้าย  เพราะโรงเรียนอยู่ติดถนน  ป้ายชื่อขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน )

           10.00         พิธีทอดผ้าป่าการศึกษา

                            กิจกรรมส่งเสริมการออม  มอบสมุดเงินฝากออมทรัพย์จาก ชสอ. 500 เล่ม /   ดูงานสหกรณ์โรงเรียน

          12.00 น.       รับประทานอาหารกลางวัน

          13.00 น.        เดินทางไปสมุทรสงคราม

          14.00 น.        ถึงที่พัก เรือนไม้  ชายคลอง 

          15.00 น.        ศึกษาดูงานภูมิสังคม อัมพวา  ชัยพัฒนานุรักษ์ และอัมพวา ชุมชนอนุรักษ์ดีเด่นรางวัลยูเนสโก  ( ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา )

         17.30 น.          รับประทานอาหารเย็น ที่   เรือนไม้  ชายคลอง  

                              ชมหิ่งห้อยที่ต้นลำพู หน้าบ้านพัก / คาราโอเกะ

          22.00 น.          พักผ่อน

      วันเสาร์  20 ก.พ. 2553

        03.00 น.          เดินทางไปศึกษาดูงาน สหกรณ์ประมงแม่กลอง

        06.30 น.          ทำบุญตักบาตรพระทางเรือ ที่เรือนไม้  ชายคลอง  

        07.30 น.          รับประทานอาหารเช้าที่เรือนไม้  ชายคลอง  

        08.30 น.           เยี่ยมชม วัดภุมรินทร์กุฎีทอง / วัดบางแคน้อย / วัดบางกุ้ง

                             ไหว้ขอพรจากกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  และเลือกซื้อของฝากที่ดอนหอยหลอด

         12.00 น.           รับประทานอาหารกลางวัน ที่ อีสาน คลาสสิก

         13.00 น.           เดินทางกลับ กทม.โดยสวัสดิภาพ

          

1. อย่าขับรถเร็วเกินที่เทวดาประจำตัวของคุณบินทันเป็นอันขาด

2. การแก้แค้นไม่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเหมือนกับดื่มน้ำทะเลเวลาหิวน้ำนั่นแหละ

3. ความหมายของความสุขขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณอยากให้มันเป็น

4. อย่ากลัวความฝันของคุณ: มันง่ายกว่าที่คิด

5. นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ทุกๆ 4 คนจะมีคนหนึ่งที่สติเพี้ยน ๆ ลองเช็คเพื่อนคุณสัก 3 คนสิ ถ้าทุกคนปกติดีก็คุณน่ะแหละ

6. แบ่งปันรอยยิ้มของคุณให้กับทุกคน แต่ให้เก็บจุมพิตให้กับคนเพียงคนเดียว

7. น้ำตาจะให้คุณก็แค่ความเห็นอกเห็นใจ แต่เหงื่อจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ

8. สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ไม่ใช่วัตถุ

9. การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจคือการก้มลงแล้วช่วยคนอื่นให้ลุกขึ้น

10. คนๆหนึ่งอาจทำอะไรผิดพลาดได้หลายอย่าง แต่มันจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ไปจริงๆ เมื่อเขาเริ่มโยนความผิดไปให้คนอื่น

11. เรารู้สึกดีที่มีความสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเป็นคนดี

12. มีแต่ปลาตายที่ลอยตามน้ำ

13. คุณค่าของคนๆ หนี่งบอกได้จากวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนที่เขาไม่ต้องการ

14. เงยหน้าขึ้นรับแสงตะวัน แล้วคุณจะไม่มีวันพบกับเงามืด

15. คนอ่อนแอเท่านั้นที่ให้อภัยใครไม่เป็นการให้อภัยเป็นคุณสมบัติของผู้ เข้มแข็ง

16. ในโลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้าสำหรับเรา มีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น

17. เมื่อคุณพูดความจริง คุณไม่จำเป็นต้องไปนั่งจำอะไรทั้งนั้น

18. เด็กๆ ต้องการความรักมากที่สุดเมื่อพวกเขาทำตัวไม่น่ารัก

19. คำว่า listen (ฟัง) นั้นใช้ตัวอักษรชุดเดียวกับคำว่า silent (เงียบ)

มีคนโทรเข้ามาบอกว่าเป็นพนักงานแบงค์กรุงเทพฯ บอกว่ามีลูกค้าโอนเงิน เข้ามาที่บัญชีเราผิด บอกเลขบัญชีทุกอย่างถูกหมด แล้วก็บอกให้โอนเงินกลับด้วย เพราะว่าลูกค้าคนนั้น เดือดร้อนมาก เราก็บอกว่าขอไปเช็คก่อน

พอวันต่อมาเราไปกดตังค์ก็พบว่ามีเงินเข้ามาบัญชีเราผิดตามจำนวนที่เค้าบอกจริงๆ ก็เลยโอนคืนไปให้... ก็ไม่คิดว่ามีอะไร เพราะมันก็ไม่ใช่เงินเราจริง....

จนมาวันนี้ได้รับใบ แจ้งหนี้ CITIBANK มี ยอด Call for cash ให้ผ่อนจ่ายรายเดือน ก็เลยโทรไปเช็คที่ call center เค้าบอกว่าเราโทรไปขอเบิกเงินสดเข้าบัญชีเราเอง เราก็บอกว่าไม่ได้ทำ.. .อย่างนี้ก็โดนหลอกแล้วซิ พนักงาน call center ก็ได้แต่บอกให้ไปแจ้งความ ซึ่งก็ยังดีที่เราเก็บ slip ที่เราโอน เงินไว้นะ......

วิธีแก้ไข หากคุณเจอเหตุการแบบนี้

หากเจอแบบนี้ ไม่ต้องทำรายการโอนครับ ถึงจะมีการโอนเข้ามาผิดจริงทางธนาคารสามารถทำรายการแก้ไขได้เองอยู่แล้ว การทำรายการโอนเงินเท่ากับเราเป็นผู้สั่งโอน การแก้ไขจะทำได้ลำบากขึ้น

หรือหากเป็นการโอนจาก ATM หรือ CDM ให้ขอหลักฐานเป็นหนังสือออก โดยธนาคารมาให้เราก่อน ( ตัวจริงนะครับ) แล้ว เช็คข้อมูลกับธนาคารต้นทางก่อนจนแน่ใจอีก 4-5 วันค่อยโอนก้อไม่เสียหาย เพราะไม่ได้มีเจตนาโกง ฟ้องมาก้อชนะแน่นอน

ถ้า เป็นการทำรายการ โอนผิด ธนาคารแค่แจ้งลูกค้าปลายทาง แล้วจัดการเองได้เลยแน่นอน

นี่เป็นวิธีหลอกลวงแบบใหม่ เพื่อนๆ โปรดระวัง แจ้งเตือนกันให้ทั่วคนส่วนใหญ่ในสังคมเป็นคนดี...อยากคืนเงินคนที่เดือดร้อนแน่อยู่แล้ว ดังนั้นมีโอกาสตกหลุมนี้ได้ไม่ยากเลย

เจ้าของบัญชีที่รับโอนกลับคงเป็นคนบ้านนอก ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรนักถูกจ้างให้เปิดบัญชี พร้อมบัตร ATM ได้ เงิน 200-300 บาทก็เอาแล้วคนโกงก็กด ATM เชิดไปแล้วหลายหมื่น

ข้อควรระวังเรื่องนี้

1. ถ้าโอนผิดจริง แบงก์สาขาจะสามารถจัดการได้เองเลย เราไม่ต้องทำอะไรครับ

2. เบอร์โทรเข้ามา ถ้าแปลกๆ แบบไม่แสดงเบอร์ หรือ เป็นแบบโทรจาก internet ให้ระวังไว้ก่อนเลยครับ

3. ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต ควรทำลายอย่าให้เหลือเห็นข้อมูลต่างๆ เช่น วงเงินสินเชื่อ หรือ

เลขบัญชีธนาคารที่ตัดอัตโนมัติ

ขอบคุณ ผนส.๓ ทุกท่าน ที่เป็นห่วงและให้กำลังใจผม ทั้งที่เจอกันในงานต่าง ๆ และหลายท่านได้โทรฯสอบถามผมโดยตรง ผมมั่นใจในภาวะผู้นำของทุกท่าน คงจะใช้วิจารณญาณหรือวิเคราะห์แยกแยะได้ว่า ข้อมูลหรือเรื่องราวที่คุณ "นก" เล่าให้ท่านฟังก่อนหน้านี้ กับ เมื่อท่านทราบรายละเอียดจากผมแล้ว อะไรคือ..ความจริง หากท่านนึกย้อนหลังไปเมื่อช่วงที่เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมอบรม ผนส. เหตุการณ์ แนวความคิด โครงการ หรือโปรเจค ฯลฯ อะไร ? ของใคร ? ที่มีวาระซ่อนเร้น แอบแฝง เพื่อเขาได้ประโยชน์ ซึ่งสหกรณ์ของผม(โคออป บ้านเขว้า) ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือ มาหลายครั้ง ทำเหมือนจริง แต่มิใช่ เช่น น้ำยาล้างจาน ลูกชิ้นเนื้อ โคขุน เป็นต้น คงจำกันได้นะครับ ผมจำได้ว่า มีโครงการสปา รายได้ชั่วโมงละหลายพันบาท พี่สาวของพวกเราทำโครงการสำเร็จไม๊ หรือล้มเหลว

ผมขออภัยทุกท่านที่อ่าน (ซึ่งอาจไม่สร้างสรรค์..แต่ที่นี่...ผมเชื่อว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่ ผนส.๓ ของพวกเราสื่อสารกันครับ)

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผานมาได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมโครงการปลูกหญ้าทะเลกับจังหวัดตรังได้เห็นบรรยากาสสองข้างทางในการเดินทางผ่านชุมพรคิดถึงท่านไกรฤกษ์คิดถึงท่านกำนันนัด โอบามา ส่งใจไปถึงท่านสุทิศพี่ประจวบ อมแก้ว ท่านประพันธ์ ค้ำชู ท่านปรีชา แก่นอินทร์ และท่านปฎิพล จากนาบอนนครศรีธรรมราช ได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของภาคใต้น่ารื่นรมณ์สมฤดีไม่น่ากลัวอย่างที่คิดผ่านสหกรณ์การเกษตรของท่านไกรฤกษ์เห็นความยิ่งใหญ่ในการบริหารจัดการของปาล์มน้ำมันที่น่าสนใจในเรื่องของพลังงานทดแทนแต่ผ่านแว๊บๆไม่เห็นเนื้อแท้ก็อาฆาตไว้ก่อนว่าจะกลับมาดูอีกครั้ง แต่เชื่อได้ว่าไปโลดๆๆ ปลูกป่าเสร็จเดินทางกลับหลับลูกเดียวประทับใจในการเดินทางและหลับฝันดีตลอดทางจริงๆ...แค่นี้ก่อนนะสวัสดี

คงไม่สายเกินไปนะครับที่จะบอกกับ  ผนส.ทุกรุ่น

วันนี้  10 ก.พ.53  เวลา 13.00-16.00 น.

ร.ต.อ.นิติภูมิ  นวรัตน์  พร้อมทีมงานวิจัย  "โครงการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของหน่วยงานที่กำกับ  ดูแล และพัฒนาสหกรณ์"  จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น  ที่ ม.ราชภัฎนครราชสีมา  ศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพทับแก้ว  ห้องกัลยาณาเวทย์ 

ผนส.ที่อยู่ โคราชหลายท่านอย่าลืมไปร่วมงานกันนะครับ

นก ปากช่อง มาแล้วครับ.

ก่อนอื่นต้องขอรบกวนเวลาของเพื่อนๆผนส.ทุกท่านในการที่เข้า BLOG ในวันนี้เพื่อมาขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่ารายละเอียดในการที่ มีผู้กล่าวอ้างว่าผมเป็นผู้ที่หลอกลวง และใช้บางสหกรณ์เป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจ และทำให้เกิดความเสียหายต่อวงการสหกรณ์เป็นอย่างยิ่ง

ผมขอเรียนมาให้ท่านได้ทราบว่า การที่คนเรา เก่งแต่พูด ทำอะไรที่เป็นแต่การสร้างฉาก พูดความเท็จโดยไม่มีหลักฐานหรือนำหลักฐานมานำพิสูจน์กันให้เห็นความจริงนั้น ผมว่าเป็นบุคคลที่เป็นอันตรายต่อวงการ ในทุกวงการเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากว่าพิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นการจัดฉากก็สมควรที่จะประณาม กำจัดไม่ให้ได้เข้ามาในวงการ และขอให้มาพิสูจน์กันดีกว่าครับว่าใครเป็นคนจริงกันแน่

ผมขอเรียนให้ท่านได้ทราบว่าผมเป็นเจ้าของกิจการ ในเครือ "ร่มเย็น เป็นสุข" สามารถพิสูจน์ตรวจสอบได้ทุกกรณีครับ ผมได้เข้ารับการอบรม ผู้นำขั้นสูงรุ่น 3. โดยผมเป็นผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น ไม่เคยเบิกจากทางสหกรณ์แต่ประการใด และในส่วนตัวผม มีกิจการฟาร์มโคนม ชื่อฟาร์ม "ร่มเย็น เป็นสุข" อยู่ที่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีโคอยู่ประมาณ 100 กว่าตัว และมีเพื่อนๆ ผนส. มาเที่ยวที่ฟาร์มและดูกิจการของผมหลายท่านแล้ว และผมมีธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตอาหารโค ส่งให้แก่ส่วนราชการและสมาชิกผู้เลี้ยงโคนม มาเป็นระยะเวลานานกว่า 15 ปีแล้ว และมีกิจการร่วมกับญาติประกอบธุรกิจโรงงานผลิตน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาล้างจาน มานานกว่า 20 ปีแล้ว และเป็นน้ำยาที่ส่งให้แก่ทางกลุ่มธุรกิจที่ส่งออกหลายบริษัทอาทิเช่น บริษัทซีพี, บริษัทสหฟาร์ม,และอีกหลายบริษัทชั้นนำ อีกทั้งผมยังได้จำหน่ายให้แก่ทางสหกรณ์ต่างๆ อีกหลายสหกรณ์ และศูนย์นมเอกชนอีกหลายแห่งโดยใช้ชื่อในทางการค้าว่า "เอ็นจอย" สามารถตรวจสอบได้อาทิเช่นสหกรณ์โคนมปากช่อง , สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก ,สหกรณ์อีกหลายสหกรณ์และในส่วนราชการอีกหลายแห่ง และในเรื่องของโรงงานลูกชิ้นนั้น จากการที่ผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาสภายุวมุสลิมโลก ซึ่งก็มีการเชิญและมอบหนังสือแต่งตั้งต่อหน้าท่านผู้นำขั้นสูงและท่านอาจารย์จิระ ในวันที่จัดสัมมนาของผู้นำขั้นสูงรุ่นที่ 3 ซึ่งผมกำลังจะดำเนินธุรกิจร่วมกับกลุ่มมุสลิมในภาคใต้ โดยได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ในการสร้างโรงฆ่าสัตว์ ใช้ชำแหละเนื้อโค และแพะ ที่จังหวัดสตูล ในวงเงินงบประมาณ 31,000,000 บาท และผมมีโครงการต่อเนื่องในการที่จะทำโรงงานผลิตลูกชิ้น เพื่อส่งให้แก่ กลุ่มมุสลิม ในภาคใต้ โดยต้องใช้เนื้อโค ในการมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตลูกชิ้นต่อไป ในกิจการเกี่ยวกับสปานั้น ไม่รู้ว่าเคยไปเมืองนอกหรือเปล่า ลองไปเช็คข้อมูลที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ซิว่าค่าบริการสปา ที่เกาะลังกาวีอัตราชั่วโมงครึ่ง 1,500 บาทครับ

ผมทำธุรกิจมาแล้วกว่า 20 ปีไม่เคยสร้างความเสียหายหรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่ประการใด เป็นธุรกิจที่สามารถตรวจสอบได้จริง และมีบุคคลที่อ้างอิงพิสูจน์ได้จริง ไม่เหมือนกับบางคนที่ได้แต่เก่งแต่พูด โจมตีคนอื่นโดยไม่ต้องใช้หลักฐาน จัดฉาก หลอกลวง เป็นนักเลือกตั้ง กินแต่เงินเดือน เบี้ยประชุม เป็นผู้จัดการสหกรณ์นี้ แต่ใช้รถและน้ำมันของสหกรณ์นี้ไปทำงานให้สหกรณ์อื่น ลองถามใจตัวเองซิว่า ทำถูกต้องไหม และไม่ทราบว่าเคยทำธุรกิจส่วนตัวหรือไม่

ผมสั่งซื้อโคเนื้ออาศัยความไว้ใจจ่ายเงินสดไปถึง 300,000 บาท เพราะเชื่อในเครดิต (ปกติต้องเห็นสินค้าก่อนจึงจะจ่ายเงิน แต่ผมจ่ายเงินไปให้ก่อน เขาบอกว่าไม่มีเงินสำรอง) และทำหนังสือยืนยันมาว่าเลี้ยงโค มานานกว่า 50 ปีมีสมาชิกเกือบ 3,000 คน ทำหนังสือในนามสหกรณ์และการโอนเงินก็ในนามสหกรณ์ และการทำสัญญาซื้อขายในนามสหกรณ์ และเขา ก็เป็นคนทำสัญญาให้ผมเอง พอไปตรวจสอบก่อนที่เขาจะส่งมอบแทบจะเป็นลม ปรากฏว่าโดนหลอกแต่ต้นเลย เพราะว่าโค ไม่ได้ขนาดตามที่กำหนดในสัญญา เขาบอกว่าเขามีความชำนาญเลี้ยงโคมานานถึง 50 ปี ไม่รู้หรือว่าโคขนาด 160 กิโล ต่างจากขนาด 200-250 กิโลอย่างไร ผมบอกให้เขาส่งตามกำหนดสัญญา รับปากแล้วแต่ถึงกำหนดไม่ส่งให้นิ่งเฉย และให้คนไปทวงถามแล้วบอกได้ไงว่าเงินใช้ไปหมดแล้ว ไม่มีเงินคืนให้ อย่างนี้หรือการทำธุรกิจ ให้ศาลตัดสินดีกว่า

ผมขอถามเพียงว่า ผมผิดไหมครับจ่ายเงินไปให้ก่อนด้วยซ้ำถึง 300,000 บาท หวังว่าจะได้สินค้าที่ถูกสเปค ตามสัญญาการทำธุรกิจนั้นหากว่าของผิดสเปคนั้นส่งให้เขาได้ไหม และการที่คุณนำของผิดสเปคมาหลอกขายเขานั้นมีจิตสำนึกของความเป็นนักธุรกิจหรือเปล่า และลูกค้าจะต้องมารับผิดชอบในสินค้าผิดสเปคด้วยหรือเปล่า ลองวางใจเป็นกลางๆแล้วถามใจตัวเองดูซิว่าผิดหรือถูก หรือไปถามใครที่มีใจเป็นกลางๆดูครับ

นี่ขนาดเรื่องการซื้อโคยังทำผมได้ขนาดนี้ แล้วเรื่องการจะเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำยาของผมโดยให้ลูกค้าชำระเงินผ่านเขาไป แล้วเขาจึงจะโอนเงินมาชำระค่าน้ำยาให้แก่ผม ไม่ทราบว่าผมควรจะทำการค้าด้วยไหมครับ ผมจะไม่หมดตัวหรือครับ ใครอยากจะทำธุรกิจกับเขาหรือจะไว้ใจก็ลองปล่อยเงินให้ก็ลองดูเอาก็แล้วกันครับ ส่วนผมเงินยังไม่ได้รับคืนอีก 300,000 บาทครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับการให้โอกาสได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบ

นก ปากช่อง

ขอบคุณมากนะ นก ปากช่อง ที่คุณให้หลักฐานแก่ผมอีกอย่าง

ขออภัยท่านอาจารย์ เพื่อน ๆ และผู้ที่อ่าน blog ทุกท่านครับ

ไม่อยากแสดงตน(อายจริงๆ)

มันจริงๆวะรุ่น3นี้สมกับที่เป็นผู้นำสหกรณ์ชั้นสูงมันโกงกันเก่งจริงๆแน่มากนายนกนายอู๊ด

วันนี้  12 ก.พ.53  เวลา 13.00-16.00 น.

ร.ต.อ.นิติภูมิ  นวรัตน์  พร้อมทีมงานวิจัย  "โครงการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของหน่วยงานที่กำกับ  ดูแล และพัฒนาสหกรณ์"  จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น  ที่ ม.ราชภัฎเพชรบุรี   ห้องมรกต  อาคารเพช็รน้ำหนึ่ง  ผนส.  หรือชาวสหกรณ์สนใจอย่าลืมไปร่วมงาน

ขอพูดผ่านถึง "ผู้ไม่แสดงตน" (ผู้ขี้ขลาด) หน่อยนะคะ

ได้ติดตามข้อความที่คุณกล่าวถึงพวกเราใน blog แห่งนี้หลายคราวแล้ว

อยากจะถามว่าเมื่อไหร่ท่านจะแสดงความรับผิดชอบต่อคำกล่าวชุ่ยๆ ของท่านโดยแสดงตนให้ผู้อื่นรับทราบเสียทีคะ

เป็นผู้นำกล้าพูดก็ต้องกล้ารับจริงไหมคะ หรือว่าท่านไม่ใช่...

ก็อย่าได้เยื้องกรายผ่านมาสร้างความหม่นหมองให้กับ blog ของเราต่อไปเลยคะ ขอร้องจากใจจริง

และฝากถึงพี่นกและพี่อู๊ด หยุดเถอะค่ะ

เรื่องของท่านทั้งสองขอให้หันหน้าพูดกันเถอะไม่ว่าจะผิดจะถูกอย่างไร

อย่าฝากผ่านถึงกันทาง blog อีกเลยนะ ขอให้เห็นแก่หน้าตาของพวกเรา "ผู้นำสหกรณ์ ขั้นสูง รุ่น 3" ด้วยเถอะ

กุ้งเชื่อว่าเพื่อนยังไงก็คือเพื่อน แค่ถอยคนละก้าวแล้วลองคุยกันดีๆน่าจะมีทางออกที่ดีนะคะ

สวัสดีค่ะ ผนส.รุ่น 3 ทุกท่าน

ขอส่งความรัก และ ความสุข มายังพวกเราทุกท่านเนื่องในโอกาส วันตรุษจีน และ วันวาเลนไทน์ เห็นด้วยกับน้องกุ้งค่ะ

ผู้ไม่แสดงตน ถ้าไม่เกี่ยวกับตัวเอง ก็ไม่ต้องแสดงความเห็นอะไรให้มากมาย เพราะคุณขลาดเกินกว่าแสดงตัว ส่วนคุณอู๊ด กับ คุณนกก็ควรเลิกที่ใช้เวทีนี้เป็นเวทีที่พูดเรื่องส่วนตัวมากเกินไป เราหวังเป็นอย่างยิ่งในเรื่องมิตรภาพ ที่เคยมีให้กัน ถ้าหันหน้าเข้าหากันและพูดตุยกันให้รู้เรื่อง ใครผิดก็ยอมรับผิดเสีย และแก้ตัวใหม่ให้ถูกต้อง ความเป็นเพื่อนจะได้กลับคืนมา

พี่จิ๋นขอส่งข่าวเรื่องการบริจาคเงินช่วยเหลือกิจกรรมของ ผนส 2 และ ผนส. 4 โดยบริจาคไปให้รุ่นละ 1,000 บาท 2 รุ่น รวมเป็นเงิน 2,000 บาทค่ะ ซึ่งได้มอบให้กับตัวแทนรุ่น คือ คุณอรุณี (รุ่น 2) และ คุณบุญเลิศ (รุ่น 4)

วันนี้ส่งข่าวเพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ ขอให้ทุกคนรักกัน นะค่ะ จุ๊บ จุ็บ

ไม่มีมิตรภาพใดๆ

จะคงไว้ได้นานเท่าการเป็นเพื่อน

แม้เนิ่นนานเพียงใดไม่ลบเลือน

ความเป็นเพื่อนนั้นคงอยู่ตลอดไป....พี่แจ้

ขอบคุณและขออภัย น้องกุ้ง พี่จิ๋น พี่แจ้ พี่ๆและเพื่อน ๆ ผนส.๓ ทุกคน ครับ

ปล. "หากสิ่งที่ผมได้เขียนเรื่องส่วนตัวลงใน blog แล้วทำให้ ผนส.๓ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ มีความรู้สึกอันอาจส่งกระทบต่อภาพลักษณ์ ผนส. ผมต้องขอโทษมาก ๆ และ ขอรับผิดชอบเป็นการส่วนตัวเพียงผู้เดียวครับ"

ทนงศักดิ์ ๐๘๑ ๒๖๕ ๒๘๘๐

ขอแสดงความยินดี กับ เสี่ยข้าวโพดหวาน คุณอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ ผนส.๓ จาก สกก.มาบตะโกเอน อำเภอครบุรี โคราช ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า เป็น "สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชุดที่ ๓"

ต้องอย่างนี้สิคะ น่าชื่นชมจริงๆ

เรื่องโครงการอุทัยธานีโมเดล พี่ๆว่าอย่างไรคะถ้าจะกำหนดในวันที่ 13-14 มีนาคม 2553

ขอทราบความคิดเห็นเพื่อเตรียมจัดการเดินทางและสำรองที่พักค่ะ

สวัสดีครับ เพื่อน ผนส.3 และท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน

ต้องขอขอบคุณ พี่แจ้ ที่ให้แง่คิด ขอบคุณพี่จิ๋น ที่ส่งความรัก ความปราถนาดี และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และขอบคุณ น้องกุ้งที่เป็นตัวแทนเป็นผู้ประสานสร้างความเข้าใจเป็นศูนย์รวมของรุ่น สิ่งที่สังคมกำลังขาดแคลนอยู่ในปัจจุบัน คือมิตภาพและความรัก ความเป็นเพื่อน "เหล้ายี่ฮ้อไหนราคาเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญเท่ากับเพื่อนได้ดื่มได้เมาด้วนกัน การเดินทางด้วยพาหนะชนิดไหน

ราคาเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่เพื่อนได้มาพบเพื่อน"

ได้อ่านหนังสือ โคออป นิวส์ "พี่แจ้"ได้พูดถึงโครงการผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงได้น่าคิดน่าฟังมาก ต้องขอชมเชยจากใจจริง

เล่าสู่กันฟัง

เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ชมรมผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย ได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารชมรม ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย มีกรรมการเข้าร่วมจากทุกภูมิภาค สำหรับกรรมการชุดนี้ที่เป็น ผนส.๓ มี ๓ คน คือ พี่ต้อย โคราช, ไกรฤกษ์ ชุมพร และทนงศักดิ์ ชัยภูมิ วันนี้พี่ต้อยติดภาระกิจขอลาประชุม ผมแจ้งที่ประชุมให้รับทราบแล้ว ในการประชุมมีวาระที่สำคัญดังนี้

๑. บทบาทหน้าที่ สวัสดิภาพและความั่นคงของฝ่ายจัดการสหกรณ์ในปัจจุบัน

๒. สหกรณ์กับเทคโนโลยีสารสนเทศ( IT HUP )

๓. การซื้อขายหนี้ระหว่างสหกรณ์กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

๔. ปัญหาสหกรณ์ถูกดำเนินคดีกรณีจำหน่ายปุ๋ยไม่เต็มสูตร

๕. การจัดสัมมนาและประชุมใหญ่ชมรมฯ วันที่ ๕-๗ พฤษภาคม ๕๓ ณ จังหวัดสุพรรณบุรี

๖. การขอให้ ธกส.ปรับลดดอกเบี้ย,หลักเกณฑ์ประเมินปัจจัยความเสี่ยงในการจัดชั้นสหกรณ์ หรือให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยแก่เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์

๗. การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสำหรับสหกรณ์การเกษตร

๘. การเพิกถอนการจดทะเบียนข้อบังคับสหกรณ์ของนายทะเบียนสหกรณ์ กรณีสมาชิกสมทบ

๙. การทำหลักประกันสัญญาจ้างของเจ้าหน้าที่และลูกจ้างสหกรณ์ ตาม พ.ร.บ.กระทรวงแรงงานฯ

ทั้ง ๙ เรื่อง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่สำคัญที่ชมรม ฯ หยิบยกขึ้นมาพูดคุย แลกเปลี่ยนและมีความเห็นร่วมกันที่จะต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อความถูกต้อง เป็นธรรม มั่นคงและยั่งยืนของขบวนการสหกรณ์ไทย

พี่ๆคะตกลงวันที่ 13-14 มีนาคม 2553 ที่คุยกันไว้เรื่องอุทัยธานีโมเดล สรุปว่าอย่างไรคะ มีท่านใดสนใจร่วมเดินทางด้วย กรุณาแจ้งด้วยค่ะ

กำนันบ้านนอกOKตามตกลงวันที่ 13-14 มีนาคม 2553 อุทัยธานีโมเดล

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

  • ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยสำหรับกิจกรรมครั้งแรกของปี 2553         
  • ขอให้บุญกุศลที่ทุกท่านได้ทำ ขอให้มีแต่ความสุขความและความเจริญ

สวัสดี ผนส ทุกคน

ยังอยู่ไม่ได้หายไปไหน กำลังยุ่งเรื่องกิจกรรมวันสหกรณ์แห่งชาติ ทางจังหวัดสงขลาจัดงานวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์ สงขลา มีกิจกรรมเดินเทิดพระเกรียรติ พิธีการต่างๆ กิจกรรมการแข่งขันกีฬา สุดท้ายต้อนกลางคืนมีงานเลี้ยง ผมต้องรับบทหนักหลายเรื่อง เพราะเขาแต่งตั้งให้ผมเป็นประธานฝ่ายกิจกรรมทั้งหมด และมีงานอื่นในช่วงเดือนนี้มากมาย โครงการเบ็ดเสร็จของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โครงการสำนักงานตรวจบัญชี และงานอื่นๆอีกมากมาย เอาไม่ค่อยจะทันเลย หลังจากวันสหกรณ์แห่งชาติ ต้องขึ้นไปประชุมที่กรุงเทพ (สันนิบาตร) ช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม ไม่รู้จะเจอใครบ้าง

สำหรับกิจกรรมวันที่ 13-14 มีนาคม 2553 เรื่องอุทัยธานีโมเดล กำหดนการเป็นอย่างไรบ้างละ ทำอะไรบ้าง ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ เพราะช่วงวันที่ 11 มีนาคม ว่าจะขึ้นไปงานรับปริญญา หากมีเวลาว่าจะไปร่วมงานที่อุทัยด้วย ฝากคุณกุ้งช่วยกำหนดโปรดแกรมให้หน่อยได้ไหม

ขอบคุณท่านสุรชัยที่ให้กำลังใจและติชมบทความในco-op new เมื่อกลางสัปดาห์ตอนเย็นๆขับรถผ่านสถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการเลยแวะเข้าไปเยี่ยมโรงเรียนของพวกเราเห็นกำลังปรับปรุงภูมิทัศน์กันอยู่เพื่อเตรียมรับรองงานวันสหกรณ์เจอท่านวิจิตร ควบคุมงานอยู่และณรงค์ นั่งเล่นกันหลังพระรูปก็คิดถึงพวกเรานะแล้ว วันสหกรณ์มีใครมาบ้างจะได้คุยกันหน่อย อุทัยโมเดลไปแน่นอนน้องกุ้ง แล้วเจอกันวันสหกรณ์ก่อนนัดแนะกันอีกที ท่านอาจารย์บัญชาคงมาด้วย แค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกัน....

พีแจ้

เก็บมาเล่า เอามาฝาก

เครือข่ายขบวนการสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ จัดงาน"วันสหกรณ์แห่งชาติ ปี ๒๕๕๓" วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ณ สนามหน้าสำนักงานสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ กิจกรรมประกอบด้วย วางพานพุ่มสักการะ พระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย ทำบุญเลี้ยงพระ บริจาคโลหิต งานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ บริจาคสิ่งของ เงินสดเพื่อมอบให้โรงเรียนโสตศึกษา(เด็กพิการทางการได้ยิน) วันสำคัญของคนสหกรณ์ทุกปี ทั่วประเทศก็จะจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ดี ๆ อย่างนี้ ทุกปีครับ

เรื่องอุทัยโมเดล กำหนดการนั้นจะแจ้งให้พี่ๆทราบหลังวันที่ 26 นะคะ เพราะคงได้พบกับพี่ๆหลายท่านที่งานวันสหกรณ์แห่งชาติ

สวัสดีค่ะ อาจารย์จีระ อาจารย์ยม และพี่ ๆ ผนส.3 ทุกท่าน

โครงการทอดผ้าป่าการศึกษาของผนส.4 ณ โรงเรียนวัดราษฎร์รังสรรค์ เมื่อวันที่ 19 ก.พ 2553 ก็ได้สำเร็จลุล่วงไปเรียบร้อยแล้ว ได้เงินทำบุญจาก 45 สาย ทั้งหมด 180,056 บาท จากชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์อีก 100,000 บาท รวมเป็นเงินที่โรงเรียนได้รับทั้งหมด 280,056 บาท ต้องขอขอบคุณทุกท่าน และทุกองค์กรที่มีส่วนร่วมทำให้โครงการนี้สำเร็จอย่างสมบูรณ์

ขอขอบคุณ ท่านอาจารย์จีระ ที่มาให้กำลังใจและเป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าการศึกษาในครั้งนี้

ขอขอบคุณ ท่านอาจารย์ยม ที่เสียสละเวลามาเป็นที่ปรึกษาโครงการและมาร่วมประชุมเตรียมงานกับพวกเรา (ท่านคงเห็นใจว่าเป็นโครงการแรก ยังเด็กใหม่อยู่ โครงการต่อ ๆ ไปขอเชิญท่านเป็นที่ปรึกษาด้วยนะคะ ขอขอบคุณล่วงหน้า) หลังจากนั้นท่านยังไปร่วมทำกิจกรรมกับพวกเราที่แม่กลองตลอดรายการ พวกเรารู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งในน้ำใจของท่านที่เสียสละเวลามาร่วมทำกิจกรรมกับพวกเรา

ขอขอบคุณท่านประธานมงคลัตถ์ ประธานสันนิบาตแห่งประเทศไทย ที่ท่านได้อนุเคราะห์ห้องพัก ในคืนแรกที่ตั้งกองผ้าป่าและรถตู้ที่ใช้ในการเดินทางไปทอดผ้าป่าและทำกิจกรรมตลอดรายการ และมอบหมายให้คุณชินชัย รองประธานสันนิบาตเป็นตัวแทนในการดูแลการทำกิจกรรมในครั้งนี้

ขอขอบคุณคุณชินชัย รองประธานสันนิบาตและตัวแทนผนส.1 ที่ดูแลในเรื่องที่พัก อาหาร และอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตลอดรายการจนเดินทางกลับกรุงเทพฯ (ประทับใจจริง ๆ )

ขอขอบคุณ ดร.สุวิชัย ผู้อำนวยการสันนิบาตแห่งประเทศไทย ที่อนุมัติให้ใช้ห้องประชุมในการเตรียมงานและให้เจ้าหน้าที่สันนิบาตร่วมเดินทางไปทำกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

ขอขอบคุณหัวหน้าเกรียงไกร คุณอรนุช น้องภูมินทร์ และเจ้าหน้าที่สันนิบาตทุกท่านที่ช่วยประสานงานทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ขอขอบคุณ ผนส.1 , 2 และ 3 ทุกท่านที่ให้กำลังใจและร่วมทำบุญกับพวกเราด้วย

และสุดท้าย ต้องขอขอบคุณ(เป็นอย่างมาก) สำหรับความร่วมแรงร่วมใจกันของพวกเราผนส.4 ทุกท่าน งานไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยคนเพียงคนเดียว ต้องอาศัยพวกเราทุกคนที่ทำให้โครงการทอดผ้าป่าการศึกษาในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีและบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราตั้งกันไว้

จึงขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านทั้งหลาย ที่ได้ร่วมทำบุญบริจาคทรัพย์และอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ขอจิตอันเป็นกุศลด้วยอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงน้อมนำท่านและครอบครัวจงประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีความเจริญในธรรมเป็นนิตย์เทอญ

ปาณิสรา ชาวจีน

ตัวแทนคณะทำงานโครงการทอดผ้าป่าการศึกษาผนส.4

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

  • ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่แดง (ผนส.4) ที่ชวนไปร่วมกิจกรรม ก็เสียดายอยู่ครับยังคิดอยู่ว่าเราไม่น่าจะจัดตรงกันเลย  ทั้งสองโครงการที่ เราเหล่า ผนส. ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนี้แหละครับน้ำใจเราชาวสหกรณ์ที่มีต่อกัน 
  • ครั้งต่อไปผมว่าน่าจะมีการจัดร่วมกันทุกรุ่น  แต่เอ้ผมมานึกดูอีกทีว่าเรายังมีโครงการอยู่อีกโครงการหนึ่งที่ยังค้างอยู่ จำได้ว่า ผนส.รุ่น 3 เป็นผู้ริเริ่ม  ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ท่านอดิศักดิ์ เป็นอย่างไรบ้าง โครงการยังจะทำอยู่หรือเปล่า แจ้งข่าวด้วยครับ
  • ขอบคุณครับคุณน้อง ปาณิสรา  ที่แจ้งข่าวการทำกิจกรรมสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี  และให้ศิลให้พร เรียบร้อย  ขอให้พรย้อนกลับเป็น 100 เท่าทวีคูณ  ไปยังคณะกรรมการที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทุกท่าน
  • ถามน้องกุ้ง  ช่วยลงรายละเอียดอุทัยโมเดล หน่อยซิครับ น่าสนใจ

เรียน  ผนส. รุ่น 1 – 4  ทุกท่าน

                ต้องแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ร่วมกิจกรรมทำความดีกับสังคมในฐานะผู้นำ    ผมมีเรื่องที่จะขอความร่วมมือจากทุกท่าน  โดยจะสื่อสารกับทุกท่านผ่านทาง  Blog / E-mail / SMS /โทรศัพท์-โทรสาร    ซึ่งเคยทดลองไปบ้างแล้วทาง  E-mail แต่ไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ  (หลายท่านอาจถูกปิดไปแล้วเพราะไม่ได้ใช้งาน)  

                สิ่งที่จะดำเนินการตามนโยบายของคณะกรรมการ  สสท. / ผอ. โดยขอความร่วมมือ ผนส. ที่มีจิตอาสา  3 เรื่องดังนี้

1.จัดการฝึกอบรม  (ฟรี) ให้กับสหกรณ์ภาคการเกษตรในจังหวัดสงขลา  /จันทบุรี  (ช่วงที่ ผนส.3 จะไปทำกิจกรรมที่ภาคใต้) 

2.การประชาสัมพันธ์ /ทำความเข้าใจ /รับทราบความต้องการของสหกรณ์สมาชิก  เพื่อนำเงินค่าบำรุงของสหกรณ์ฯ ที่มีกำไร (ประมาณ  3,000 กว่า)   ไปช่วยสหกรณ์ฯ ที่ขาดทุน /ขนาดเล็ก  (ประมาณ  3,000 กว่า) 

3.เงินรอตรวจสอบ (ค่าบำรุง /อื่นๆ ) ซึ่งหลายสหกรณ์ฯ โอนเงินทางธนาคาร  แต่ไม่แจ้งสันนิบาตสหกรณ์ฯ ซึ่งสันนิบาตสหกรณ์ฯ  ตรวจสอบย้อนหลังไม่ได้

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา  /หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาแจ้งผ่าน  Blog / E-mail : [email protected] /โทรศัพท์  089-9216280 / SMS  

เกรียงไกร

สวัสดี ผนส. 3 ผู้นำหสกรณ์ขัั้นสูงและท่านผู้อ่านทุกท่าน

ผนส. 3 ทุกท่าน ผมยังคิดถึงพวกเราเสมอ แม้ไม่มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมกับท่าน หลายท่านมีน้ำใจต่อผมยังจำได้เสมอครับ   ผมเฝ้ารอคอย ที่จะเห็นบล็อกที่ ผนส. 3 จะทำด้วยทีมของ ผนส. 3 ตามที่ได้เคยสแนะนำไว้ตามหลักสหกรณ์

ขอบใจคุณปาณิสรา ผนส.4 ที่ตามมาทักทายผมถึงที่นี่ ขอบใจคุณนพคุณ ที่เข้ามาทักทายเช่นกัน  

กิจกรรมต่อไปคงรอพวกเรา ทำโครงการร่วมกันที่จะไปทางภาคใต้ ก็ขอให้สำเร็จไปด้วยดี นำสิ่งดี ๆ ไปสู่สังคม เป็นภารกิจของพวกเรา  ขอให้ทุกท่านโชคดีมีความสุขครับ

จากใจจริง

อาจารย์ยม

สวัสดี ผนส ทุกคน

เข้ามาใน blog แล้วอายรุ่น 4 จัง หลังจากจบโครงการแล้ว ดำเนินกิจกรรมเลย รุ่น 3 เรามีโครงการมาก ไม่แน่ใจว่าจะเอาโครงการไหนก่อน แต่ก็ไม่เป็นไรรุ่น 3 จัดแล้วต้องเป็นงานใหญ่เลยใช่ไหม

ผมเห็นฯโยบาย 3 ข้อ ที่ทางคณะกรรมการ สสท. / ผอ. ให้ผนส 3 ดำเนินการและขอความช่วยเหลือ

โครงการหนึ่งคือ จัดการฝึกอบรม (ฟรี) ให้กับสหกรณ์ภาคการเกษตรในจังหวัดสงขลา (ช่วงที่ ผนส.3 จะไปทำกิจกรรมที่ภาคใต้)

ผมไม่แน่ใจว่าเป็นโครงการเดี่ยวกับที่ผมนำเสนอสันนิบาตรหรือไม่ เพราะผมจะจัดอบบรมสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดสงขลา และ อีก 7 จังหวัดในภาคใต้ คือ สตูล ตรัง พัทลุง นครศรีฯ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ในวันที่ 26-27 มีนาคม 2553 ผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 200 คน ประกอบด้วยคณะกรรมการ ผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่ สำหรับวิทยากรในโครงการ ได้เชิญไว้เรียนร้อยแล้ว เช่น ร้อยตำรวจเอก ดร. นิติภูมิ นวรัตน์ อาจารย์เดชา กิตติวิทยานันท์

โดยผมเสนอให้ทางสันนิบาตสหกรณ์ สนับสนุนค่าวิทยากรบรรยาย สหกรณ์ต่างๆเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ค่าอาหาร ค่าที่พัก และอาหารเลี้ยงสังสรรค์ เอง โดยเก็บค่าลงทะเบียนคนละ 2,000 บาท หากเป็นโครงการที่ผมนำเสนอสันนิบาตก็ต้องขอขอบคุณท่านประธานน้อย ขอบคุณผู้อำนวยการ ที่อนุมัติโครงการดังกล่ว

และหากเป็นโครงการดังกล่าวจริงผมและประธานประจวบ(สะเดา) อยากเชิญผนส 3 ทุกคนมาร่วมเป็นเจ้าภาพด้วยก็ได้ เพราะโครงการดังกล่าวผมและประธานจวบ เป็นเจ้าภาพจัดเอง หากใครอยากมาร่วมเชิญ เดียวผมจะจัดส่งโครงการและหนังสือเชิญไปให้ ถือเสียว่าทุกท่านมาเที่ยวภาคใต้ด้วยตามที่ตั้งใจไว้

ขอแสดงความยินดีกับท่านประธานแจ้ด้วยที่ชนะการเลือกตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้านครหลวง

แหล่งรวมความรู้ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative  Economy) ที่ครบวงจรจากทั่วทุกมุมโลก  www.thailandce.com

เรื่องการฝึกอบรม (ฟรี) ที่ ผนส.สุทิศ  เสนอกับ ประธาน สสท. ผมไม่เห็นเรื่องครับ  และหากเป็นวิทยากรตามที่เชิญไว้  สามารถดำเนินการได้ (หลักสูตร /เนื้อหาใกล้เคียงกัน) ด้านงบประมาณ สพว.สามารถสนับสนุนได้มากกว่านั้น  สหกรณ์ฯ ที่เข้าร่วมโครงการจะเสียงบฯ น้อยลงครับ

ขอแสดงความยินดีกับพี่แจ้ด้วยที่ ได้รับเลือกเป็นประธานสหกรณ์ พรุ่งนี้เป็นวันสหกรณ์แห่งชาติแล้ว หลายคนต้องไปร่วมงานสันนิบาต แต่ที่จังหวัดสงขลา จัดงานที่สนากีฬาติณสูลานนท์สงขลา งานนี้มีสหกรณ์ทุกประเภทในจังหวัดสงขลาเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 1,500 คน กลางวัน เดินรณรงค์วางพานพุ่มถวายสักการะพระบิดาสหกรณ์ ฟังสารฯพณฯ นายกรัฐมนตรี กิจกรรมการแข่งขันกีฬา กิจกรรมสันทนาการ งานเลี้ยงสังสรรค์

เสร็จจากงานนี้ขึ้นกรุงเทพ ไปร่วมประชุมที่สันนิบาต ตามคำเชิญของท่านมงคล ในวันที่ 5 มีนาคม ไม่แน่ใจว่าเจอใครบ้าง

สำหรับเรื่อง ที่คุณเกรียงไกร นำเสนอนั้น หาก สพว. สนับสนุนงบประมาณได้ตามโครงการที่ผมนำเสนอ ก็ดี ทางสหกรณ์จะได้ลดค่าใช้จ่ายลงอีก ต้องขอขอบคุณ วันที่ 5 ผมจะนำโครงการไปเสนอท่านประธานสันนิบาตอีกครั้ง

ก็บมาเล่า เอามาฝาก กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดเสวนา "การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจผลไม้ภาคสหกรณ์ไทย พลิกฟื้นธุรกิจสถาบันเกษตรกร ๗๖ จังหวัด" ครั้งที่ ๒ วันที่ ๑ - ๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมเค พี แกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี และ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติเทศบาลเมืองจันทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาการเชื่อมโยงธุรกิจเครือข่ายสหกรณ์ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ การบริหารจัดการกลุ่มและการพัฒนาธุรกิจในระหว่างสหกรณ์ด้วยกันเอง อันจะเป็นการพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ในอนาคตอย่างยั่งยืน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ประธานกรรมการ และผู้จัดการสหกรณ์ภาคการเกษตร ใน ๗๖ จังหวัด ๆ ละ ๔-๕ สหกรณ์ รวม ๓๐๐ สหกรณ์ งานนี้ชาวสหกรณ์การเกษตรจะได้มีโอกาสพบกันอีกครั้ง โดยเฉพาะสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการกับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ครั้งก่อนจัดที่..ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย ผมโชคดีได้เจอ ผนส.๓ พวกเราหลายคน งานนี้..สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด ได้นำผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของอำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วย ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมเพ้นท์สี ผ้าไหมหยอดทอง ผ้าไหมประยุกต์ ของฝากของที่ระลึก ชุดเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชาย-หญิง หลากหลายสไตล์ ไปออกร้านโชว์ และจำหน่ายในงาน ราคาถูก ๆ แบบสหกรณ์..ครับ

ธญา โบสุวรรณ์ ผนส.2(โคราช)

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ และเพื่อนชาว ผนส3

ต้องขอแสดงความยินดีกับ พี่ประยูร รัตนเมธากูล ผนส.3 ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นบอร์ด

ใหญ่ ธกส ขอฝากเนื้อฝากตัวให้กับสหกรณ์การเกษตรครบุรี จำกัดด้วยนะคะ รุ่น 3 น่า

ยินดีจังได้รับเลือกกันเป็นใหญ่ทั้งนั้น

เรียน พี่น้อง ผนส.3 ทุกท่าน

วันที่ 2 มีนาคม 2553

เรื่อง ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมศึกษาดูงาน

เรียน ………………………………………

ด้วยผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 (ผนส.3) จะจัดกิจกรรมศึกษาดูงานด้านสหกรณ์ เพื่อศึกษาดูงานและให้คำปรึกษาแนะนำแก่สหกรณ์เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานของสหกรณ์ต่อไป รวมถึงอาจก่อให้เกิดการเชื่อมโยงสนับสนุนกันเองระหว่างสหกรณ์แต่ละประเภท โดยในครั้งนี้คณะผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 3 จะเดินทางไปศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรห้วยคต จำกัด จังหวัดอุทัยธานี ในระหว่างวันที่ 13-14 มีนาคม 2553

จึงเรียนมาเพื่อขอเชิญชวนท่านร่วมกิจกรรมครั้งนี้โดยสามารถแจ้งความจำนงค์ในการเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ คุณธนะ บำรุงแสง เลขานุการ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 โทรศัพท์หมายเลข 086-7756592 หรือที่คุณภัททรัตน์ แนวพานิช โทรศัพท์หมายเลข 081-3730705

ขอแสดงความนับถือ

รศ.บัญชา ชลาภิรมย์

ประธานผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3

สวัสดีครับ ท่านผู้นำสหกรณ์ และท่านผู้อ่านที่เคารพ

ขอแสดงความยินดีกับ"พื่ยูร"ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบอร์ดของ ธ.ก.ส.

และขอแสดงความยินดียิ่งกับ"พื่แจ้"ที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานฯของสหกรณ์

ในยุกต์ที่องค์กรที่สำคัญหลายๆแห่งกำลังขาดแคลนผู้นำผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ

ในการทำหน้าที่ที่สำคัญต่อองค์กรครับ

หลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 3

สถาบันพิทยาลงกรณ

เลขที่ 4 ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ

วันที่ 2 มีนาคม 2553

เรื่อง ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมศึกษาดูงาน

เรียน ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 (ผนส.3)

ด้วยผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 (ผนส.3) จะจัดกิจกรรมศึกษาดูงานด้านสหกรณ์ และให้คำปรึกษาแนะนำแก่สหกรณ์ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานของสหกรณ์ต่อไป รวมถึงอาจก่อให้เกิดการเชื่อมโยงสนับสนุนกันเองระหว่างสหกรณ์แต่ละประเภท โดยในครั้งนี้คณะผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 3 จะเดินทางไปศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรห้วยคต จำกัด จังหวัดอุทัยธานี ในระหว่างวันที่ 13-14 มีนาคม 2553

จึงเรียนมา เพื่อขอเชิญชวนท่านร่วมกิจกรรมครั้งนี้ โดยสามารถแจ้งความจำนงค์ในการเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ คุณธนะ บำรุงแสง เลขานุการ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3 โทรศัพท์หมายเลข 086-7756592 หรือที่คุณภัททรัตน์ แนวพานิช โทรศัพท์หมายเลข 081-3730705

ขอแสดงความนับถือ

(รศ.บัญชา ชลาภิรมย์)

ประธานผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่น 3

กำหนดการศึกษาดูงาน

สหกรณ์การเกษตรห้วยคต จำกัด

วันที่ 13-14 มีนาคม 2553

*******************************

วันที่ 13 มีนาคม 2553

เวลา 09.00 น. ออกเดินทางจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

เวลา 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

เวลา 13.30 น. ศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตรห้วยคต จำกัด

เวลา 17.00 น. เดินทางเข้าที่พัก อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

เวลา 18.00 น. รับประทานอาหารเย็น และกิจกรรมพบปะสังสรรค์

วันที่ 14 มีนาคม 2553

เวลา 09.00 น. สรุปผลการศึกษาดูงาน

เวลา 12.00 น. เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

เวลา 15.00 น. เดินทางถึงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

ประยูร รัตนเมธางกูร

เรียนอาจารย์จีระ  อาจารย์ยม และสวัสดีเพื่อน ๆ ผนส 1-4

               ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณธญา ผนสรุ่น 2 จากสหกรณ์การเกษตรครบุรีที่แสดงความยินดีกับผมในครั้งนี้  ก็คงเป็นอีกหน้าที่หนี่งที่ต้องรับผิดชอบแทนพี่น้องชาวสหกรณ์  ต้องขอออกตัวว่าไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโตอะไร แต่ก็จะพยายามใช้ความรู้ความสามารถที่ได้รับจาก การเรียนหลักสูตรผู้นำมาใช้อย่างเต็มที่

        ที่ผ่านมาผมไม่มีโอกาสได้เข้ามาทักทายเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ แต่ก็ยังคิดถึงทุกท่านเสมอ 

 

ประยูร  จาก สกต.นครราชสีมา จำกัด

กรุงเทพฯ 3 มี.ค. - กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนให้ระวังพายุฤดูร้อนที่อาจมีกำลังรุนแรง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นวันที่ 7 – 9 มีนาคมนี้

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยขณะนี้ สูงกว่าปีที่ผ่านมา 4 – 5 องศาเซลเซียส

โดยช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว อุณหภูมิเฉลี่ย 34 – 35 องศาเซลเซียส แต่ปีนี้เพิ่งเริ่มต้นเดือนมีนาคม อุณหภูมิสูงถึง 38 - 39 องศาเซลเซียส และในวันที่ 7 ที่จะถึงนี้ จะมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เข้ามาในประเทศไทย ตามรอบ 5 – 7 วัน เมื่อปะทะกับมวลอากาศร้อนที่พื้นดินสะสมไว้ จะเกิดลมแรงยกตัวสูงขึ้นเป็นพายุฤดูร้อน ทุกจังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนและอาจเกิดลูกเห็บได้ จึงเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง อย่าอยู่ใต้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ไม่ควรออกไปกลางแจ้งขณะฝนตกเพราะอาจถูกฟ้าผ่า

รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยังคาดหมายว่า อุณหภูมิของฤดูร้อนปีนี้ ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน อาจจะสูงถึง 43 องศาเซลเซียส เนื่องจากปีนี้เข้าสู่ฤดูร้อนเร็วกว่าปกติ.-สำนักข่าวไทย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"

โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันพุธ ที่ 3 มีนาคม 2553 เวลา 13:53 น.]

....ผมไปงานเลี้ยงบ้านเพื่อนคนหนึ่งที่ต่างอำเภอ บ้านของเขาอยู่นอกตัวเมืองออกไปไกล แล้วยังแยกเข้าไปในทางลูกรังอีกร่วมสิบกิโล งานคืนนั้นจบลงค่อนข้างจะดึกมาก แต่ต้องกลับเพราะว่าผมมีธุระต้องทำตอนเช้าต่ออีก

.....สุพรรณบุรีฝนตกหนักมาก กำนันขับเบ็นส์คันงามฝ่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนแทบจะมองไม่เห็นอะไรไปอย่างช้าๆบนถนนสายรองเพื่อกลับบ้าน

ทันใดนั้นเองมีแสงแวบจากฟ้าผ่าทำให้กำนันเห็นใบหน้าเหี่ยวย่นของชายแก่คนหนึ่งปรากฏอยู่ข้างหน้าต่างกระจกรถ ชายแก่เคาะกระจกรถและพยายามพูดอะไรบางอย่าง สามัญสำนึกบอกผมว่า เป็นไปไม่ได้ที่มีคนมาเคาะกระจกรถที่กำลังวิ่งอยู่ผมเหยียบคันเร่งเต็มที่

เปรี้ยง!!! แสงจากฟ้าผ่าทำให้ผมเห็นชายชราคนเดิมอีกครั้ง

กำนันขวัญหนีดีฝ่อสุดๆ “นี่มันไม่ธรรมดาแล้วโว้ย ทำไมถึงได้มาเจอดีแบบนี้” กำนันร้องตะโกนอยู่ในใจ ขาเหยียบคันเร่งหนักเข้าอีก

เปรี้ยง! เปรี้ยง! สายฟ้าฟาดซ้ำลงมาอีกสองครั้งติด ชายชราคนเดิมยังอยู่ที่เดิม

ตอนนี้ความกลัวถึงขีดสุดกลายเป็นความกล้าบ้าบิ่น

“เอาโว้ยเป็นไงเป็นกันวะกูก็ก็กำนันบ้านนอกนักเลงเก่า จะมากลัวผีได้อย่างไรเสียชื่อหนุ่มสุพรรณหมด” คิดอยู่ในใจขณะที่ไขกระจกรถลง

“ลุง..จะเอายังไงกับผม” กำนันตะโกนสวนสายฝนที่ซัดเข้ามาในรถเบ็นส์คันงาม

เสียงแหบๆแห้งๆตอบกลับมาจากใบหน้าเหี่ยวย่นนั้น

.

“ไอ้หม่า จะให้ข้าช่วยเอาอีแต๋นมาลากรถเอง ออกจากหล่มไหม? ”

ขอแสดงความยินดีกับ ผนส.๓ พี่แจ้ และ พี่ประยูร..ครับ

พี่แจ้...หากสหกรณ์ของพี่มีเงินล้นระบบเมื่อไหร่ พี่ช่วยส่งข่าวบอกสหกรณ์ภาคการเกษตรด้วยนะครับ ขณะนี้หลายสหกรณ์ไม่อยากจะกู้กับ ธกส.แล้ว เพราะ ๑. ดอกเบี้ยแพงและกำหนดหลักเกณฑ์ประเมินปัจจัยความเสี่ยงแบบคุมกำเนิด ๒. ค้าขายแข่งกันแย่งลูกค้าในพื้นที่ ๓. เข้าไปตรวจสอบกิจการของสหกรณ์ล่วงรู้ความลับเชิงธุรกิจและการบริหาร

พี่ประยูร...หากพี่ประชุมบอร์ด พี่ช่วยนำ ๓ ประเด็นข้างต้น ไปนำเสนอด้วยนะครับ

เป็นห่วงพี่แจ้.... ของน้อง ๆ

ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ฟ้าลิขิตให้พี่แจ้ของน้องได้รับเลือกตั้งเป็นประธาน สอ.กฟน. ชนะคู่แข่งที่แก่ และเก๊า ทางเกมส์ เสียดายลูกทีมที่สมัครด้วยกันตกเกือบหมดเหลือไว้ให้ พี่แจ้ได้ชื่นชมคนเดียว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ สอ.กฟน. บอกได้คำเดียวครับว่าน่าเป็นห่วงพี่แจ้ของน้อง ๆ

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชาว ผนส.3

ห่างหายไปจาก blog นานมาก วันนี้ (5 มีนาคม) ได้มีโอกาสพบเพื่อน ๆ ที่ สันนิบาตสหกรณ์ คิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ เหมือนนักเรียนได้กลับไปโรงเรียน เสียดายวันที่ 13 - 14 มีนาคม นี้ไม่ได้ไปด้วย เพราะมีภาระไปไหว้บรรพบุรุษ แต่จากการพบกับพวกเราในวันนี้ (ไกรฤกษ์ สุทิศ ทนงศักดิ์ สุรชัย ต้อย โคราช ราตรี ติ๊ก ทศเทพ น้องกุ้ง) ส่วนใหญ่ก็จะไปอุทัย กัน

และขอแสดงความยินดีกับ พี่ประยูร และ น้องแจ้ ด้วย อุดมการดี มีหลักการ อุทิศตนและเสียสละเพื่องานสหกรณ์ คิดว่าคงทำให้เราชาวสหกรณ์สามารถฟันฟ่า อุปสรรค ต่าง ๆ ไปได้

คิดถึงทุกคนนะจ๊ะ พี่จิ๋นค่ะ

เก็บมาเล่า เอามาฝาก

เมื่อวันที่ ๕ มี ค๕๓ ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่อง"ทำอย่างไรให้ระบบสหกรณ์มั่นคง ประชาชนมั่นใจ ชุมชนไทยเข้มแข็ง" ณ สันนิบาตสหกรณ์ ฯ ระหว่างเวลา ๐๗.๓๐-๑๕.๐๐ น. โดยมี ฯพณฯ ศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตร ฯ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อการส่งเสริม สนับสนุนและการผลักดันให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ ในโอกาสทศวรรษครบ ๑๐๐ ปีของการสหกรณ์ไทย

การสัมมนาครั้งนี้ ผนส.๓ ไปกันหลายท่าน ได้แก่ พี่ราตรี พี่ติ๊ก พี่ทศเทพ พี่จิ๋น พี่น้อย พี่ต้อย สุรชัย ไกรฤกษ์ สุทิศ ทนงศักดิ์ และน้องกุ้ง เมื่อพบหน้ากันก็ถามข่าวคราวกันพอหอมปากหอมคอ ต่อจากนั้นก็หารือเรื่องงานกิจกรรม "อุทัยธานีโมเดล" เสร็จการสัมมนาก็แยกย้ายกันกลับฐานที่มั่น ส่วนในช่วงบ่ายหลายท่านอาจสังสัย...ว่าผมหายไปไหน ขอรายงานว่าไปทำภาระกิจที่ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย เพื่อเรียนรู้กระบวนการทำงานและวิธีการเกี่ยวกับทรัพย์ของ บสท.(TAMC) กะว่าจะกลับมาทันการสัมมนา แต่..กว่าจะเสร็จภาระกิจก็ ๕ โมงเย็นแล้ว ก็เลยไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเวทีสัมมนา และขออภัยที่ไม่ได้ร่ำลาพวกเรา ครับ

วันที่ ๑๒ มีนาคม ๕๓ เป็นวันสถาปนากรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นอีกวันที่สหกรณ์ต้นแบบ ๓๐๐ สหกรณ์จากทั่วประเทศจะได้พบกันในงาน ซึ่งก็มีสหกรณ์ของคุณอ๋อ น้องวี และผม รวมอยู่ด้วย หลังจากพวกเราพบกันที่...จันทบุรี เมื่อวันที่ ๑-๒ มีนาคม งานพลิกฟื้นธุรกิจผลไม้ไทย ของ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สำหรับวันที่ ๑๓-๑๔ มีนาคม ที่อุทัยธานี หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลายคนต้องเข้ากรุงเทพฯเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒ และต่อไปที่อุทัยธานี ๑๓-๑๔ มีนาคม ในระยะนี้ฝากพวกเราติดตามข่าวการเมืองและวิเคราะห์ด้วยว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กรุงเทพฯ หลายจุด จะมีเหตุการณ์อะไร ? หรือไม่ ?อย่างไร ? เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา..นะครับ

ธนินท์ เจียรวนนท์   

อ่านเกมการค้าโลก-ผ่ากลยุทธ์ประเทศไทย

 ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง เพราะประเทศไทยมีน้ำมันบนดินที่ใช้ได้ไม่มีวันหมด แต่น้ำมันในบ่อธรรมชาติมีวันหมด โดยผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกบอกว่าอีก 100 ปีหมดแน่

แต่ประเทศไทยมี 130 ล้านไร่มีที่เพาะปลูก ที่ทำนา 62 ล้านไร่ มีที่ชลประทานสูงสุดไม่เกิน 25 ล้านไร่ ถ้าเราเอา 25 ล้านไร่มาลงทุนเต็มที่ จัดรูปที่ดิน ปรับรูปที่ดิน ชลประทานให้ครบ เหมือนเราเลี้ยงไก่ ทำให้ทันสมัย สร้างโรงเรือน แต่ต้องลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญไปดูไต้หวัน ไปดูประเทศทำนาแบบเรา เขาลงทุนอย่างไร ลงทุนสูง ผลผลิตสูง คิดแล้วคุ้ม

ผมก็คิดไม่ถึง เมืองไทย เช่น เรื่องกุ้ง เราเป็นที่ 1 ของโลก เราเป็นผู้นำตั้งแต่พันธุ์ไปถึงการเลี้ยง ทำเกี๊ยวกุ้ง กุ้งทอด ไม่มีประเทศไหนทำได้ ต้องยกย่องว่าเราเป็นเบอร์ 1 ของโลก ข้าวเราก็เป็นเบอร์ 1 ของโลก ยางพาราก็เป็นเบอร์ 1 ของโลก รัฐบาลต้องวางแผนให้ดี คนเก่งๆ ชอบอยู่เมืองไทย ถ้าเราเอาคนเก่งมาแสนคน ให้เป็นคนไทยไปเลย เราเป็นที่ 1 ได้ ไฮเทคเป็นที่ 1 ได้ เพราะไฮเทคไม่ใช่เครื่องจักร แต่คือสมอง คือคน

เพราะคนมาอยู่เมืองไทย 2-3 ปี ติดใจเมืองไทย ผมไปอีสานมีลูกเขยต่างประเทศเยอะเลย หมู่บ้านเต็มด้วยลูกเขยต่างประเทศ ผมว่าประเทศไทยคนต่างประเทศชอบมาอยู่ ถ้าเรามีเงื่อนไข เหมาะสมกับเขา ถูกสเป็กเขา

อย่าง "ภูเก็ต" ถ้าเราจัดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ คนเก่งๆ ให้เสียภาษีถูกสัก 10% ของรายได้ เผลอๆ สำนักงานใหญ่ย้ายมาอยู่ภูเก็ตเลย ทำงานที่ภูเก็ตคอนโทรลได้ทั่วโลก สมัยนี้จะประชุมอะไรเห็นภาพกัน คุยกัน ไม่พอใจค่อยบินไป หรือเขาบินมา จะเชิญแขกมาเที่ยวภูเก็ต คนก็อยากมาประชุมที่นี่

ถ้าเราหาคนเก่งของโลกมาสักแสนคน หาบริษัทเยี่ยมๆ ของโลก บริษัทที่เราต้องการไม่ใช่ให้ 8 ปีด้วย ให้เป็นคนไทยไปเลย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ เหมือนอเมริกาวันนี้เขายังเที่ยวล่า คนเก่งๆ ของโลกให้มาเป็นคนอเมริกัน

ผมไปเยอรมันทุกปี แชร์แมนของ KFW บอกว่า เยอรมันเสียหายมาก สร้างคนเก่งลงทุนเป็นสิบล้านบาทส่งให้ไปเรียนต่อ แต่อเมริกามาชุบมือเปิบเลย ถ้าเก่งให้เป็นคนอเมริกันเลย นี่คือสงครามด้วยมนุษย์

สินค้าบนดินของเราที่ยอดเยี่ยมมากคือ ยาง ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย

เดี๋ยวนี้สินค้าเกษตรไม่ใช่อาหารของคนแล้ว เป็นอาหารเครื่องจักรด้วย วันนี้เครื่องจักรมาแย่งกินกับคนแล้ว ผมว่าเป็นเรื่องดีที่สุดของประเทศไทย ในประวัติศาสตร์น้ำมันขึ้นราคา ไม่เคยฉุดเอาสินค้าเกษตรแพงขึ้น หลายท่านกลัวสินค้าเกษตรแพง เพราะคนในเมืองเดือดร้อน แพงแล้วการเมืองเดือดร้อน

ญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รวยได้ยังไง แน่นอนเขามีอุตสาหกรรมบวก แต่เขาต้องเอาข้าว เอาสินค้าเกษตรแพงก่อน เพราะผลิต 100% จากประเทศเขา อย่างอื่นต้องซื้อมาและผลิตขายออกไป แต่สินค้าเกษตรเวลาเราไปคุยกับญี่ปุ่น เรื่องเกษตรอย่ามาคุยกับผม เรื่องข้าวอย่ามาคุย เขาต้องการชาวญี่ปุ่นกินข้าว 100 บาท 200 บาท เราไปขายถูกอย่าไปคุยกับเขา เพราะอะไร เพราะเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ

เหมือนน้ำมันของตะวันออกกลาง ลองน้ำมันถูก ผมรับรองว่าตะวันออกกลางจนกว่าคนไทยอีก ที่เขาร่ำรวยได้เพราะน้ำมันเขาแพง แต่น้ำมันของเราให้กับมนุษย์ มนุษย์สำคัญกว่าเครื่องจักรอีก มนุษย์ทรัพยากรที่สำคัญที่สุด แต่อาหารเลี้ยงมนุษย์ จนที่สุด ซึ่งผิดแล้ว

ลองศึกษาไปทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น รวยแล้วยังไม่ยอมให้สินค้าเกษตรตกต่ำ ยังทำทุกวิถีทางให้ขึ้น อย่างผมไปส่งกุ้ง ไปขายถูก เขาไม่ได้ดีใจ เขาจัดการเลย มาทำให้คนเลี้ยงกุ้งของเขาขาดทุน

เมื่อสินค้าเกษตรราคาสูงขึ้นแล้วทำอย่างไร เพราะคนในเมืองเดือนร้อน ก็ต้องขึ้นเงินเดือน ปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกัน ผมไม่ถือว่าเป็นเงินเฟ้อ แต่ปรับให้สังคมเป็นธรรม ผมจำได้แม่นเลยปี 1960 ผมไปไต้หวัน เงินเดือน 800 เขาเงินเดือน 100 แต่ข้าวกิโลฯละ 10 บาท ของเราข้าวกิโลฯละ 3 บาท มีไหมในประเทศไทยเรา มีใครเคยคิดถึงไหมว่ารายได้ขั้นต่ำของเกษตรกรควรเท่าไร ผมโตมาถึงป่านนี้ยังไม่เคยได้ยิน

รายได้ขั้นต่ำของเกษตรกรควรเท่าไร มีแต่รายได้ขั้นต่ำของกรรมกร ก็ถูกต้องแต่คนส่วนใหญ่ของชาติเราลืมสนิท สินค้าแพงหน่อยกระทรวงพาณิชย์ก็กดราคา ทำไมไม่ขึ้นเงินเดือนละครับ สองสูง เราไม่ได้เป็นประเทศสังคมนิยม แต่เดินน้องๆ เหมือนสังคมนิยม

แต่ประเทศสังคมนิยมกลับไม่ใช่วิธีนี้ เพราะรู้แล้วว่าสุดท้ายหมดตัว สุดท้ายเขาใช้วิธีไหน เงินเดือนก็ไม่ต้องขึ้น สินค้าก็ไม่ต้องขึ้น สุดท้ายรัฐบาลก็ไม่มีภาษี เครื่องจักรเก่าแล้วก็ไม่มีเงินซื้อ จบเลยครับ เติ้ง เสี่ยว ผิง ถึงต้องมาปฏิวัติใหม่ วันนี้อย่าไปพูดกับจีนว่าคอนโทรลราคา ไม่มี

เหมือนกับหมูเที่ยวนี้ขึ้นราคาเท่าตัว นักวิชาการตื่นเต้นมาก คนในเมืองเดือดร้อน นายกฯลงไปศึกษาเอง บอกเงินเดือนต่ำกว่าเท่าไรให้ขึ้นเดือนละ 15 หยวน รวมทั้งที่รีไทร์ไปแล้วนักวิชาการตกใจ เอาน้ำมันพรมลงไปในไฟ ไม่ยิ่งไปกันใหญ่ หมูก็ยิ่งขาดตลาด แถมเงินให้คนไปซื้อหมู

แต่ไม่จริงครับ ยิ่งคนจนเงิน 15 หยวนมีค่ามาก เรื่องอะไรจะไปกินหมู ไปกินอย่างอื่น เผลอบางทีก็เก็บเอาไว้ดีกว่า เหมือนญี่ปุ่น ทำไมญี่ปุ่นเอาเงินไปฝากธนาคารไม่มีดอกเบี้ย ยังยินดี เพราะสินค้าเขาแพงมาก เกินกว่าค่าของแบงก์ เหมือนผมไปญี่ปุ่นไม่อยากซื้อ ถามแล้วราคาอย่างนี้เสียดายเงิน เซฟเงินดีกว่า ไม่ซื้อเหมือนกันครับ อย่าไปเข้าใจผิดว่าเราให้เขา 15 หยวนแล้ว เขาต้องไปกินหมูทั้ง 15 หยวน ไม่ใช่ แต่ถ้าเอา 15 หยวนไปซับซิไดซ์รับรองเขากินหมู เพราะหมูถูก

เวลาที่สินค้าเกษตรราคาสูง อะไรเกิดขึ้น เกษตรกรมีเงินไปจับจ่าย ธุรกิจบริการ อุตสาหกรรม ทุกอย่างเกิด แม่ค้าหาบเร่ พ่อค้า ทุกอย่างเกิด นั่นคือตรงๆ เลยครับ ดีกว่าเอาเงินไป ช่วงนี้ผมยังสนับสนุน ทุ่มเงินเข้าไปก่อนให้เศรษฐกิจมันเดิน เพราะเราเป็นหนี้เขามานานแล้ว เรากดราคาให้เขาจนมานานแล้ว พักหนี้ก็ไม่เห็นเสียหาย อย่าไปบอกว่าเสียนิสัย เพราะเขาจน แล้วเอาเงินอัดเข้าไปอีก

แต่ที่ดีที่สุดในระยะยาวต้องซื้อสินค้าเขาแพง เขาจะได้กระตือรือร้นไปเพิ่มผลผลิต ธนาคารก็กล้ากู้เงินให้ นักธุรกิจก็กล้าสนับสนุน จะเหมือนไก่ 90% แล้ว เปลี่ยนหน้าที่กัน เกษตรกร ไม่ต้องรับความเสี่ยง แต่ถ้าแบบนี้พอกำไร รัฐบาลจะไปคุมราคา ตอนขาดทุนไม่ช่วย ใครจะกล้าเข้าไป คนฉลาดไม่เอาหรอก ธุรกิจแบบนี้มีแต่ความเสี่ยง

ข้าราชการเงินเดือนต่ำไป ต้องสูง ข้าราชการก็มีเงินจับจ่าย เศรษฐกิจเกิด เอกชนต้องตาม ความจริงเขาทำล่วงหน้าอยู่แล้ว ของผมถามคนรถ ดีกว่า เอาของจริงเลย คนรถผมเงินเดือนเท่าไร 3 หมื่นบาท เขาเข้ามา 900 บาท อยู่กับผม 30 กว่าปี เพิ่มขึ้นมา กี่เท่า เกือบ 30 เท่า ทองคำ 37 เท่า ไล่เลี่ยกันนะ

ผมจะเอาตัวเลขมาแลก ลองมาศึกษาด้วยกัน ผมว่าเรามีพื้นที่ปลูกข้าว 25 ล้านไร่ มาทำเรื่องชลประทาน จัดรูปที่ดิน ปรับรูปที่ดิน หาพันธุ์ที่ดี เอาเทคโนโลยีมาใส่ ผลผลิตสูงขึ้น ผมว่าไม่ถึง 1,000 กิโลฯหรอก คิด 800 กิโลฯแล้วกัน เราปลูก 3 คอร์ปก็จะได้ผลผลิตรวม 60 ล้านตัน

เมื่อเป็นข้าวเปลือกผมคิด 15 บาท ผมกล้าพูดได้เลยถ้า 15 บาท มูลค่าที่เราเอา 25 ล้านไร่ เราจะได้เงิน 9 แสนล้านบาท

ยางพาราเราเอา 30 ล้านไร่ เพราะ 25 ล้านเราไปทำนาแล้ว เรามี 67 ล้านไร่ เอา 25 ไปทำนา 3 คอร์ป จำนวนจะได้เท่ากับหรือไม่น้อยกว่าที่เอา 60 ล้านไร่ไปทำนา เพราะอันนี้ 400 กิโลฯก็มี หรือแล้งเสียหายหมด เอา 30 ล้านไร่ไปปลูกยาง เอา 12 ล้านไร่ ไปปลูกปาล์มที่ลุ่มเพราะชอบน้ำ

ยางพาราผมกล้าพูดเลย ถ้าไปจัดการ 3 ประเทศมาฮั้วกัน ยางจีนกำลังใช้ อินเดียกำลังใช้ ยุโรปตะวันออกกำลังใช้ 150 บาท วันนี้เรา 80 กว่าบาท ถ้า 150 ใน 30 ล้านไร่ เราจะได้เงิน 1.2 ล้านล้านบาท นี่ยังไม่ได้เอาพันธุ์พิเศษนะ เรายังค้นคว้าได้อีก

และก็ปาล์มไม่ได้สูงมาก ตัวเลขผมยังไม่กล้ายืนยันเพียงแต่ยืนยันว่า 5.50 บาท จะได้ 19,8000 ล้านบาท เฉพาะ 67 ล้านไร่ รวมแล้ว ถ้าเราวางแผนให้ดีเราจะได้ 2.367 ล้านล้านบาท ลองช่วยกัน ผมอยากพูดกับสภาพัฒน์ว่าลองศึกษา ลองเจาะลึก อาจจะผมผิดบ้าง แต่เรื่องราคาที่ผมคาดคะเนไว้ไม่ผิด เกษตรกรไทยจะลืมตาอ้าปาก เงินเดือนข้าราชการก็สูงได้แล้วนั่นคือทองคำ คือน้ำมัน

ทำไมเราไม่รู้จักทำให้น้ำมันเราแพง เงินเดือนไม่ขึ้นราคาขึ้นน้อยแล้วมากดสินค้าเกษตรให้ต่ำ นั่นคือสองต่ำ สุดท้ายก็หัวใจวาย

ท่านลองศึกษาในต่างประเทศเขาทำกับเกษตรยังไง เขารวยแล้วยังปกป้องสินค้าเกษตร เหมือนโอเปกต้องพยายามให้น้ำมันขึ้น ทุกประเทศต้องซับซิไดซ์ไม่ให้สินค้าเกษตรต่ำ เอานมมาย้อมสีไม่ให้นมต่ำ ผมเลยฝากให้ท่านหัวกะทิที่อยู่ที่นี่ช่วยกันวางแผนให้ชาวไทยเรารวยบ้าง

ข้าวมีเพียงไม่กี่ประเทศ เวียดนามวันนี้ไม่กล้าส่งออกแล้ว จีนจะไม่มีข้าวส่งออก อินเดียบางทีเหลือบางทีมี ทำไมเราไม่จับมือสามประเทศนี้ขึ้นราคาข้าว ให้เวียดนามขายของ ซี.พี.มีค้าทั่วโลก อาหารสัตว์ 20 กว่าล้านตัน ข้าวเราส่งออกนอกเพียง 7-8 ล้านตัน เราทำไม่เป็น ถ้าทำเป็นให้เวียดนามขายก่อนไม่ได้หรือ เราขายทีหลังแพงกว่า ที่เหลือในสต๊อกฟรีเงินยังได้มากกว่าอีก ยังดีมีสต๊อกฟรีอีก เอาไปขายประเทศที่มีอนาคต ขายผ่อนส่งก็ได้ หรือมาขายไปเลี้ยงสัตว์ออกนอก ส่งเสริมอุตสาหกรรม ส่งเสริมแปรสภาพ เอาข้าวแปรสภาพเป็นข้าวเจ้า ก๋วยเตี๋ยวตีตลาดทั่วโลก

ในโลกนี้ไม่มีใครหรอกไม่ขายแพง ถ้าเราให้เขาขายแพงเขาดีใจมาก เราทำตัวเป็นพี่เบิ้มหน่อย น่าสนใจมากถ้าเราวางแผนให้ดี ที่ผมพูดไม่ใช่ฝัน มีโอกาสเป็นจริง ถ้าสินค้าเกษตรราคาสูงขึ้นความเสี่ยงน้อยลง ผมว่าแบงก์ก็กล้ากู้เงินให้ นักธุรกิจก็กล้าลงทุน ส่งเสริม พัฒนา เหมือนกับที่ผมทำเรื่องกุ้ง ไก่ สุกร สู้กับทั่วโลกได้ คนไทยเลี้ยงสัตว์เก่งมาก นี่เป็นเรื่องจริง เราไม่ได้แพ้จีนเลย จีนเราสอนเขา เขาได้ 80 อีก 20 คิดเอง คนไทยสอน 100 เขาเอา 100 เหนือกว่าคนจีน เราได้ 100 เขาได้ 80 เราสู้กันไป

(นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี. ได้ไปบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ "ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทย" เมื่อ 6 มีนาคม 2551 ที่สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจเห็นว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจ จึงได้ตัดทอนบางส่วนมาเรียบเรียงนำเสนอต่อผู้อ่าน)

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชาว ผนส.3

อาจจะช้าไปสักหน่อยนะคะที่ตกข่าวเพราะเพิ่งมีเวลาเข้า blog ขอแสดงความยินดีกับ"พื่ยูร" ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบอร์ดของ ธ.ก.ส. และขอแสดงความยินดียิ่งกับ"พื่แจ้"ที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานฯ สกอ.ไฟฟ้านครหลวง

เสียดายจังที่ไม่ได้ไป "อุทัยโมเดล" เนื่องจากเข้ารับการอบรมหลักสูตร จิตตปัญญาศึกษา วันที่ 11 - 14 มีนาคม 53

คิดถึงเพื่อนๆ และพี่ๆนะคะ

> สวัสดี เพื่อน ผนส.3

> ________________________________

>

>

> ชายคนหนึ่งเดินออกจากผับ มีขอทานคนหนึ่งหน้าตามอมแมม ตามตัวสกปรกนั่งอยู่ข้างทาง

>

> ' พี่ขอเงินสัก 20 ซิผมยังไม่กินข้าวเลย ' ขอทานเอ่ยปาก

>

> ชายหนึ่งหยุดกึ่ก........ แล้วบอกว่า

>

> ' เอาอย่างนี้ ไปกินเหล้ากับพี่ พี่เลี้ยงเอง '

>

> ขอทานบอก ' ไม่เป็นไรครับพี่ ผมไม่กินเหล้า '

>

> ชายหนุ่มเลยบอก ' นั้นไปเล่นม้ากับพี่ไหม พี่ออกทุนให้ '

>

> ขอทานก็ยังปฎิเสธ ' ผมไม่เล่นการพนันคับ '

>

> ชายคนนี้เลยถามต่อ ' เอาอย่างนี้นั้น พี่พาไปลงอ่างดีกว่า '

>

> ขอทานก็ตอบอีกว่า ' ผมไม่เที่ยวผู้หญิงด้วยคับ '

>

> ชายหนุ่มเลยยิ้มนิดๆๆ เหมือนถูกใจแล้วถามว่า

>

> ' เมื่อกี้น้องขอตังค์ พี่เท่าไรนะ'

>

> ขอทานบอก : 20 ครับพี่

>

> ชายหนุ่มเลยก้มหน้าไปกระซิบว่า : เอางี้แล้วกันพี่ให้น้อง 200 เลย

>

> ไปที่บ้านกับพี่หน่อยเด้อ !!!

>

> ขอทานทำหน้า งงงง : ทำไมเหรอคับ พี่

>

> ชายหนุ่มควักตังค์ แล้วพูดว่า : ไปให้เมียพี่มันดู หน่อยว่ะ

>

> ว่าคนที่ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวผู้หญิงนะ

>

> สภาพมันเป็นอย่างไร..

>

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

          ประธาน ผนส.2 ได้รับหนังสือตอบขอบคุณจากทัณฑสถานหญิงกลางเรียบร้อย และจะทำหนังสือขอบคุณไปยัง หน่วยงาน และองค์กร ที่ ผนส. สังกัดอยู่ต่อไป

รูปภาพ

ประกาศสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  เมื่อ 5 ก.พ.53

มี ผนส. 1  และประธานสหกรณ์ฯ เป็นกรรมการดังนี้

1.นายวนิตย์  อาจสาลี  (ภาคอีสาน)

2.นายวิรัตน์  เอี่ยมเอื้อยุทธ  ผนส.1 (อดีต ประธาน สสท.)

3.นายสมยศ  ภิราญคำ  (ภาคเหนือ)

4.นางอรพิน  จำปาเนตร

ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านครับ 

พี่เกรียงไกรครับ

มีผนส.3อีกคนครับ เป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อ5ก.พ.53

คือ ท่าน อภิสิทธิ์ จั้นอรัญ กรรมการ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด

ประธานกรรมการ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรนครราชสีมา จำกัด

ประธานกรรมการ สหกรณ์การเกษตรมาบตะโกเอน จำกัด

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

ขอบคุณครับ 

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ  ท่านอภิสิทธิ์ จั้นอรัญ กรรมการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ประธานกรรมการ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรนครราชสีมา จำกัด ประธานกรรมการ สหกรณ์การเกษตรมาบตะโกเอน จำกัด

กำหนดการอบรม  ผนส.5   (8  ก.ค - 29  ต.ค.53)  รับสมัคร  1 - 31 พ.ค.53  ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยครับ ผนส.ทุกท่าน

ข่าวด่วน.....

ได้รับแจ้งจากม้าเร็ว คุณธนะ ความว่า ผนส.๓ เลื่อนการทำกิจกรรมการ"อุทัยธานีโมเดล" วันที่ ๑๓-๑๔ มีนาคม ๕๓ ออกไปยังไม่มีกำหนด เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง

สวัสดี ทุกคน

      การเลื่อนไป อุทัยธานีโมเดล ก็ถือว่าสิ่งที่ดี เพราะสถานะการ ไม่ค่อยดี และได้มีเวลา เตรียมการ  กำหนดวันไหนแจ้งล่วงหน้าด้วย จะได้เตรียมการ

     ไม่ไปอุทัยธานี ลงมาเที่ยวใต้ ก็ได้นะ วันที่ 26 -27 มีนาคม ผมจัดอบรมพอดี มีสหกรณ์ หลายจังหวัดมาร่วม โดยเฉพาะสันนิบาต ให้เงินสนับสนุนบางส่วน และวิทยากร ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนให้โครงการนี้สำเร็จ โดยเพาะท่านประธานสันนิบาต ผอสันนิบาต และผู้บริหารโครงการสันนิบาตคุณเกรียงไกร คุณณรงค์

   เป็นห่วงคนกรุงเทพจัง  วันนี้คงลำบากมากในการเดินทา และการเป็นอยู่ เพราะเสื้อแดง  

   

สมาชิกหายไปไหนกันหมด สงสัยไปประชุมเสื้อแดงกับเขาด้วย ไม่เห็นมีใครเข้า Blog เลย

ผมอ่าน blog ทุกวัน เมื่อเข้าห้องทำงาน สงสัยเช่นเดียวกันกับคุณสุทิศ พวกเราหายไปไหน แต่ก็คิดว่าคงมีหลายท่านที่เปิด blog อ่านทุกวัน แต่..ไม่แสดงความคิดเห็น

" คิดถึงวันเก่าเก่าของเราบ้าง ยามแรมร้างเกินกู่อยู่ต่างถิ่น แม้ความรักไร้ค่ามีราคิญ ขออย่าสิ้นเยื่อใยเมื่อไกลกัน "

ไม่ได้หายไปไหนเข้ามาอ่านตลอดแต่เบื่อๆเซ็งการเมืองและมีผลกระทบการดำเนินชีวิตประจำวันเคยขับรถไปทำงานก็ต้องอาศัยรถสาธารณะเพราะขับไปก็ไม่รู้อนาคตข้างหน้าจะไปรอดไหม ก็เลยทำให้เหนื่อยขึ้นบางวันต้องไปหลายที่หอบเอกสารพะรุงพะรังเลยขอบ่นหน่อย ดูๆแล้วหาทางจบยากที่พูดกันมาก็เหมือนตาบอดจูงตาบอด สุดท้ายพากันลงคลองหลอดหมด ใครมีวิธีแก้ไขดีๆเสนอแนวทางมาหน่อย ขอเปิดประเด็นเลย ชาวผนส.ที่รักทุกท่าน

ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงเข้าร่วมงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

พบกับขุมความรู้เรื่องเกษตร  “เกษตรออนไลน์”

ความรู้ทางวิชาการ  ข่าวสารการเกษตร  พืชไร่  พืชสวน  ยางพารา

www.doa.go.th   แลกเปลี่ยนความคิดเห็น /ปัญหา   http://it.doa.go.th/forum

หากต้องการสื่อความรู้ด้านการเกษตร  http://agritech.doae.go.th/agri-media

หรือ www.oae.go.th   www.acfs.go.th   www.ekaset.net  

หากต้องการซื้อ – ขายสินค้าเกษตรออนไลน์  www.afet.or.th    www.talaadthai.com 

www.talad-yingcharoen.com/price.php 

สวัสดีค่ะ พี่ ๆ ผนส.3 ทุกท่าน

ขอประชาสัมพันธ์กิจกรรมของผนส.4 ในการไปเชื่อมโยงเครือข่ายกระชับความสัมพันธ์และปรึกษาหารือเกี่ยวกับการเตรียมรับน้องผนส.5 ระหว่างวันที่ 26-28 มี.ค 53 ที่โคราช ผนส.4 จึงขอเชิญพี่ ๆ ทุกท่านที่สามารถไปร่วมได้ด้วยความยินดีค่ะ

กำหนดการทำกิจกรรมที่โคราช

วันศุกร์ ที่ 26 มีนาคม 2553

8:00 น. เดินทางออกจากสันนิบาตสหกรณ์

11:00 – 12:00 น. เยี่ยมชมโรงงานแปรรูปนม สหกรณ์การเกษตรสีคิ้ว จำกัด

14:30 - 16:30 น. เยี่ยมชมกิจการปั๊มน้ำมัน ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรนครราชสีมา จำกัด

17:00 น. เข้าที่พักในอำเภอเมืองนครราชสีมา

วันเสาร์ ที่ 27 มีนาคม 2553

9:00 – 12:00 น. เยี่ยมชมกิจการโรงสี สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.(พิมาย)

13:00 - 17:00 น. ประชุมหารือการเตรียมงาน เกี่ยวกับ ผนส.5

เข้าที่พักอำเภอวังน้ำเขียว

วันอาทิตย์ ที่ 28 มีนาคม 2553

9:00 น. เดินทางกลับ

จึงขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

น้อง ปาณิสรา ตัวแทนผนส.4

เรียน  ผนส./ผจก.สุทิศ  เพื่อพิจารณา

ผมขอความร่วมมือในการจัดฝึกอบรมดังนี้ครับ

1.ขอรายชื่อผู้เข้าอบรมทั้งหมด ให้วิทยากร (อ.เดชา)

2.ขอจองห้องพัก 1 ห้อง ให้ประธาน  สสท. (26 มี.ค.53)  และช่วยสนับสนุนรับที่สนามบิน มายังโรงแรม (ผมและทีมงานเดินทางถึงประมาณ  21.00 - 22.00 น.)

3.ช่วยประสานงานผู้แทนสหกรณ์ที่เป็นผู้นำ /เพื่อประชุมหารือ - หาแนวทางแก้ไข กรณีสหกรณ์ฯ ค้างค่าบำรุง  ร่วมกับประธานฯ ในวันที่ 26 มี.ค. (ช่วงบ่าย)

ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

เรียน คุณเกรียงไกร

สำหรับเรื่องอบรมระหว่างวันที่ 26-27 มีนาคม นี้ ได้ดำเนินการให้เรียบร้อยแล้ว ห้องพัก ให้ประธาน (26 มี.ค.53) และช่วยสนับสนุนรับที่สนามบิน มายังโรงแรม

เรื่องประสานงานผู้แทนสหกรณ์ที่เป็นผู้นำ /เพื่อประชุมหารือ - หาแนวทางแก้ไข กรณีสหกรณ์ฯ ค้างค่าบำรุง ร่วมกับประธานฯ ในวันที่ 26 มี.ค. ก็คงไม่มีปัญหาแต่ผมยังไม่ทราบว่าสหกรณ์ใดบาง เอาอย่างนี้ดีกว่าช่วงบ่ายวันที่ 26 แยกกลุ่มการอบรมเป็นสองกล่มคือ 1 กลุ่มกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ 5 เครื่อข่าย จำนวน 120 คน อบรมเรื่องกฎหมายสหกรณ์ของอาจารย์เดชา 2 กลุ่มประธานผู้จัดการสหกรณ์ต่างๆที่เข้าร่วมประชุม จากสงขลา นราธิวาส สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา แยกไปประชุมอีกห้อง เรื่องการจัดทำเครื่อข่าย และให้ประธานสันนิบาตเข้าประชุมด้วยและจะได้คุยเรื่องต่างๆ ได้สะดวกขึ้น ซึ่งตามโครงการผมจะแยกกลุ่มวันที่ 27 เช้า แต่กลัวประธานสันนิบาตกลับก่อน เป็นมาเป็นวันที่ 26 บ่ายก้ได้ สำหรับเรื่องอื่นๆ จะดูแลให้

การอบรมครั้งนี้ หากมีเวลาเตรียมงานมาก จะเป็นโครงการอบรมโครงการรวมผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงทางภาคใต้ แต่มีเวลาเตรียมตัวน้อย เดิมโครงการต้องการอบรมเพียง 5 สหกรณ์เครื่อข่าย แต่ในเมื่อสันนิบาตไปร่วมด้วยเลยขยายเป็น 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งงานนี้มีผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงร่วหลายคน ตั้งแต่รุ่น 2 คุณจักรินทร์ คุณนงเยาว์ คุณพิมพ์นภา รุ่น 3 คุณสุทิศ คุณประจวบ คุณประพันธ์

รุ่น 4 คุณอรรถพล คุณสมมาตร ส่วนที่เหลือติดภาระกิจ ไว้ครั้งต่อไปจัดจะมาร่วมกันทั้งหมด ผุ้นำรุ่น 3 จังหวัดถ้าสนใจจะมาเที่ยวก็เชิญได้นะ ยินดีต้อนรับด้วยความยินดียิ่ง

สวัสดีทุกคนที่มาเยี่ยมใน blog

ผมเจอคุณสุทิศเมื่อใด เขาแทบไม่มีเวลาว่างได้พักผ่อนเลย ทำงานเพื่อสหกรณ์และขบวนการโดยแท้จริง ขอให้กำลังใจคุณสุทิศ พงษ์จีน ด้วยความจริงใจ นี่สิ...ผู้นำสหกรณ์ต้องอย่างนี้ (ลูกผู้ชายหัวใจเกินร้อย)

ชาวสหกรณ์ในจังหวัดชัยภูมิ ยินดีต้อนรับ ท่านประธานประจวบ อมแก้ว และคณะ จาก สกก.สะเดา จก. จังหวัดสงขลา ดูงานสหกรณ์ สกก.จัตุรัส จก. (รวบรวมพริก) และตอนกลางคืนเข้าพักที่โคออป อินน์ ของ สกก. บ้านเขว้า จก. ในวันที่ ๑ เมษายน ๕๓ ทราบมาว่า ดูงานครั้งนี้ใช้เวลา ๖ วันค่อนประเทศเลยทีเดียว ขอให้เดินทางทั้งไปและกลับ โดยสวัสดิภาพและมีความสุข ครับ

ขอขอบคุณ  ผนส./ผจก.สุทิศ  เป็นอย่างสูง

ประธาน สสท. เดินทาง  25 มี.ค.53  เที่ยวบิน TG     เวลา 17.55 - 19.25 น. ครับ

เอกสารที่ สสท.นำไป

1.โปสเตอร์  2  แบบ

2.CD  DVD  เพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง

3.แบบฟอร์มการฟ้อง  "คดีผู้บริโภค"

4.พรบ.สหกรณ์ พ.ศ.2553

ผนส ทุกท่าน

     ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณประธานสันนิบาต(ประธานน้อย)เป็นอย่างสูงที่ท่านมาเป็นประธานเปิดโครงการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ  ที่โรงแรมพาราไดส หาดใหญ่ ระหว่างวันที่ 26-27 มีนาคม 2553  รวมทั้งทีมงาน ที่นำทีมมาคือคุณเกรียงไกร 

     โครงการอบรมในครั้งนี้ เป็นโครงการร่วมระหว่างสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยและสหกรณ์ 5 เครื่อข่าย โดยมีผู้เข้าอบรมจำนวน 170 กว่าท่าน จากสหกรณ์ใน 7 จังหวัดทางภาคใต้ งบประมาณในครั้งนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสันนิบาตและผู้เข้ารับการอบรมสมทบบางส่วน

 ผลการอบรมเป็นที่น่าขอใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้เข้ารับการอบรมพูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานนี้คุ่มมากๆ (ยอตัวเองเพราะตัวเองจัด) งานนี้มีผนส รุ่น 2/3/4 เข้าร่วมหลายคน และที่สำคัญงานนี้ผนส 3  และ 4 เป็นเจ้าภาพ อย่างน้อยรุ่นละ 2 คน ถือว่าเป็นผลงานของทั้ง 2 รุ่น เพราะหากไม่ได้ไปเรียนหลักสูตรผู้นำขั้นสูงคงไม่เกิดโครงการแบบนี้ เพราะในโครงการนี้จะเชิญผู้นำทุกรุ่นที่อยู่ในทางภาคใต้ตอนล่างมาทุกคนด้วย และอาจจะเป็นไปได้โครงการต่อไปจะมีการรวมพลคนผนส ก็ได้นะ

   หลังจากอบรมโครงการนี้เสร็จมีขอสรุปร่วมกันว่าครั้งต่อไป จะจัดอบรมอีกครั้ง จะเชิญตัวแทนสหกรณืให้มากสหกรณ์และมากคน และทั่วถึงทุกสหกรณ์ ปัจจุบันการอบรมให้ความรู้ต้องควบคู่กับความสัมพันธ์ระหว่างสหกรณ์ด้วย ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้แล้ว และสุดท้ายอีกอย่างมีการลง MOU ระหว่างสหกรณ์ 5 เครือข่าย ในเรื่องเงินฝาก เรื่องการเรียนรูร่วมกัน การจัดหาสินค้ามาจำหน่าย

     สุดท้ายผมและทีมงาน ต้องขอขอบคุณประธานสันนิบาตและทีมงานทุกคน ที่ให้การสนับสนุนวิทยากร งบประมาณ และการจัดการอบรมในครั้งนี้               

เรียนอาจารย์ และ พี่ๆ ผนส. ขอนำภาพบรรยากาศ สหกรณ์การเกษตร 5 เครือข่ายในจังหวัดสงขลา ร่วมกับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย จัดโครงการฝึกอบรม การบริหารจัดการสหกรณ์แบบมืออาชีพ ณ โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 26 -27 มีนาคม 2552 โดยมีสหกรณ์การเกษตร ใน 7 จังหวัดภาคใต้ (สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล ตรัง พัทลุง) กว่า 200 คน เข้าร่วมอบรม โดยมีนายมงคลัตถ์ พุกะนัดด์ ประธานสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีนายประจวบ อมแก้ว ประธานสหกรณ์การเกษตรสะเดา จำกัด ในนามตัวแทนสหกรณ์ เครือข่าย 5 สหกรณ์ กล่าวรายงาน ซึ่งโครงการนี้ก็เป็นการผลักดันของพี่ ผนส.3 และ ผนส.4และมี ผนส.2 เข้าร่วมด้วย

ดูรูปแล้วขอชมว่าจัดได้ดีทีเดียวอย่างที่บิ๊กอู๊ดชมไว้ว่า"สุทิศคนขยันแห่งแดนใต้"ผมก็เห็นด้วยนะมีโปรเจคทำได้ตลอดทั้งปีเยี่ยมจริงๆ

พี่ๆคะโครงการศึกษาดูงานอุทัยธานี เมื่อไหร่ดีคะ

นัดคุยกันซักรอบก่อนมั๊ย

รับสมัคร  ผนส.5   (แน่นอนแล้ว)

19  เม.ย. - 11 มิ.ย.53 

ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยครับ ผนส.ทุกท่าน

ต้องขอขอคุณพี่ทนงศักดิ์และพี่แจ้ที่ชม โครงการที่สำเร็จได้ต้องขอบคุณทั้งท่านที่มีส่วนร่วม ไม่ว่าผู้เข้าอบรม สันนิบาตสหกรณ์ ที่สำคัญเครื่อข่ายสำคัญที่สุด (เพือน )

ผมและทีมงานสหกรณื 5 เครื่อข่ายมีอีกโครงการทีกำลังดำเนินการ คือ การไปศึกาดูงาน เพื่อเจรจาซื้อข้าวสาร จำนวน 250 ตัน กับสหกรณ์ต่างๆ เช่น สกก พิมาย สกก. สกก. ปราสาท สกต หรือ มีสหกรณ์ที่จะนำเสนอ ซึ่งโครงการนี้ อยากได้ ข้าวสารในทีมงาน ผนส ไม่ว่ารุนไหน ที่คุยกันได้ และเป็นข้าวสารที่มีคุณภาพ ราคาคุยกันได้

ซึ่งกำหนดการประมาณวันที่ 2-6 พฤษภาคม 2553 ไปกันสหกรณ์ละ 3 คน รวม 5 สหกรณ์ 15 คน มีผนส รุ่น 3 และรุ่น 4 รุ่นละ 2 คน

หากสหกรณ์ใดจะร่วมทำเครื่อข่าย ยินดีทุกท่าน แต่มีข้อแม้ต้องต้องจริงใจต่อกัน

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์และเพื่อนพี่น้อง ชาวผนส.3

ใต้ใจดีด้วยที่เป็นผู้ประสานการอบรมให้กับสันนิบาตฯผู้เข้าอรมได้จำนวนมาก

สมกับเป็นผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงจริงๆนะขอเป็นกำลังใจให้กับคนรุ่นใหม่ไฟแรง  

ตลอดไปนะคะ...........ธญา โบสุวรรณ์(ผนส.2โคราช)

 

 

 

        

ขออภัยพิมย์ตก เพิ่มเติม คุณสุทิศ พงษ์จีน หนุ่มใต้ใจดีค่ะ

สวัสดี ผนส. 3 และท่านผู้อ่านทุกท่าน

 

หวังว่า ท่านทั้งหลาย ผนส. 3 คงสบายดีน๊ะครับ

คุณสุทิศ และบิ๊กอู๊ตขยันเข้ามาทักทาย ก็หวังว่าทั้ง

สองท่านคงสบายดีเช่นกัน ผมยังคิดถึงพวกเราอยู่เสมอ

คุณธญา แวะมาเยี่ยม ผนส. 3 ด้วย ดีครับ

ผมเชิญชวน ผนส. 3 ทดลองใช้การสื่อสารแบบ Facebook

เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกได้ฟรี ที่ www.facebook.com ครับ

 

ผนส. 5 จะหันมาใช้การสื่อสารทาง ICT ด้วย facebook ครับ

จะเข้ากลุ่มกันเป็น กลุ่ม ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง น๊ะครับ ก็เชิญชวน

สมาชิก ผนส. ทุกท่านน๊ะครับ

ผนส. 5 จะมีการเปิดอบรมวันที่ 8 ก.ค. หวังว่า ผนส. 3 จะมา

เยี่ยมและต้อนรับน้องใหม่ พร้อมหน้ากัน น๊ะครับ

 

ขอให้คุณพระ อำนวยพรให้ทุกท่านมีความสุข ความสำเร็จ

ในสิ่งที่ดีงามตลอดไป

สวัสดี

 

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ยม เป็นอย่างสูงครับ ที่กรุณาอำนวยพรให้กับกระผมและพวกเราทุกคน

ขอขอบคุณพี่ประจวบ อมแก้ว ผนส.๓ และคณะ จาก สกก.สะเดา จก. จังหวัดสงขลา ดูงานสหกรณ์ที่ สกก.จัตุรัส จก.,สกก.บ้านเขว้า จก. และกลางคืนเข้าพักที่โรงแรม โคออป อินน์ ของ สกก. บ้านเขว้า จก. ในวันที่ ๑ เมษายน ๕๓ ที่ผ่านมา ต้องขออภัยพี่ประจวบ มากๆ ที่ผมไม่ได้อยู่ต้อนรับคณะของพี่ เพราะว่าผมไปร่วมโครงการทัศนศึกษาของบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) ที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม-๒เมษายน ๕๓

ผลงานของ"คุณสุทิศคนขยันแห่งแดนใต้"สุดยอดมาก ผมว่า..คุณค่าของคุณทิศ มีราคามากกว่า"ไข่มุกภูเก็ต"ที่มีราคา ๑๕ ล้าน นะ

ผมและอาจารย์บัญชา ประชุมคณะกรรมการบริษัทสหประกันชีวิต จำกัด เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๕๓ ณ สำนักงานบริษัท(แห่งใหม่)อาคารยูทาวเวอร์ ถนนศรีนครินทร์ แต่ไม่มีโอกาสได้คุยเรื่องอุทัยธานีโมเดล เพราะอาจารย์บัญชา มีภาระกิจด่วน ท่านบอกว่ามีอะไรโทรคุยนะ !!!

วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๓ ขอเชิญ ผนส.๓ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากสหกรณ์ผู้ถือหุ้นหรือเป็นผู้สังเกตการณ์ไปร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีของบริษัท สหประกันชีวิต จำกัด ช่วงเช้าเป็นการสัมมนาเชิงวิชาการ ตอนบ่ายประชุมใหญ่ ฯ และตอนเย็นร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์(โต๊ะจีน) วันนั้นคงมีเวลาได้หารือกับท่านประธานรุ่น ๓ อาจารย์บัญชา เรื่องอุทัยธานีโมเดล อย่าลืมนะครับ

เพื่อนผนส.3 คิดถึงทุกๆคนคะ ยินดีต้อนรับคุณสุทิศที่จะมาเยือนอีสานบ้านเฮา วันก่อนได้โทรคุยกับคุณประจอบว่ามาดูงานที่โคราชก็สัญญาว่าจะมาเที่ยวสุรินทร์จะมาทีมเดียวกันหรือเปล่าคะ ปราสาทมีข้าวคุณภาพไว้คอยต้อนรับ 2,000 ตันค่ะ

สวัสดีครับ ผนส.3 และผู้อ่านทุกท่าน

มาแล้วครับ ไม่ได้หายไปไหน คิดถึงเพื่อนๆทุกคน โครงการอุทัยโมเดล ถ้าจะจัดก็น่าจะคุยกันก่อน ถามความพร้อมของเพื่อนๆ ส่วนมากที่ว่างถึงจะกำหนดวันจัด เพราะจะได้ประโยชน์มากกว่า แต่ข้อคำนึงควรพิจารณาคนเสื้อแดงก่อนว่าจะเลิกกันเมื่อไร ส่วนงานที่สหกรณ์ ปริมาณผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดมาก ราคาก็เรื่มดิ่งลงเรื่อยๆ เป็นเรื่องธรรมดาของพืชผลเกษตรเมืองไทย โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ครับ เพื่อนๆ ที่เดินทางลงใต้ เมื่อผ่านชุมพรแล้ว รบกวนช่วยโทรหาหน่อย ผมจะได้ออกไปต้อนรับ นะครับเบอร์โทร 081-7878-523

สวัสดีครับ

ก่อนอื่นขอคุณป้าเครือ ทีให้ขอมูล มีข้าวคุณภาพไว้คอยต้อนรับถึง 2,000 ตัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีมาก หากเรามาทำเครื่อข่ายร่วมกัน สหกรณ์ภาคอีสานส่งสาร(ทีมีคุณภาพ) มาขาย สหกรณ์ทางภาคใต้เป็นผู้จำหน่าย

ซึ่งข้อมูลความต้องการของสหกรณ์ 5 เครื่อข่ายที่จะไปติดต่อข้าวสารมาขายให้กับสมาชิกสหกรณ์นั้น เฉพาะที่ผมที่เดียวขายข้าวสารปีที่ผ่านมา 300-400 ตัน แต่สำหรับที่จะขึ้นไปติดต่อข้าวสารครั้งนี้เราไปด้วยกัน 5 สหกรณ์ รวมแล้วปีละ 2ม000 ตัน เท่ากับที่ป้าเครื่อมีพอดี แต่ในระยะเริ่มแรกต้องการเพียง 15 % ของยอดขายทั้งหมดที่สหกรณ์ขายอยู่คือ 250-300 ตัน ก่อน เพื่อมาเปิดตลาดดู แต่งานนี้ได้ติดต่อหลายสหกรณ๋ ของพี่ต้อยด้วย ป้าเครื่อ หากที่ไหนมี แจ้งมา ถ้าเป็นผนส (ทุกรุ่น) พิจารณาเป็นพิเศษ ความตั้งใจจะทำเป็นเครื่อข่ายภาคใต้ และนำข้าวสารจากภาคอื่นมาขาย

โครงการนี้ความจริงเกิดขึ้นได้เนื่องจากได้ไปเรียนหลักสูตรผู้นำ ถ้าเป็นไปได้ เราผนส มาร่วมกันทำเพื่อสหกรณ์กันดีไหม ขออย่างเดียวทำกันแบบตรงไปตรงมา ไม่มีอย่างอื่น ทำเพื่อสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์เท่าน้น

แล้วตกลงโครงการประชุมชมรมผู้จัดการที่จังหวัดสุพรรณ วันไหน ใครรู้ช่วยบอกด้วย จะได้วางแผนการเดินทางถูก

เรียน ผนส.ทุกท่าน (1-4)

ตามนโยบายของคณะกรรมการ สสท. /คณะกรรมการบริหารและพัฒนาหลักสูตร  ต้องการและอยากเห็นการทำงานร่วมกันของ ผนส.ทุกรุ่นในคราวเดียวกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำ  การสร้าง/ส่งเสริม/พัฒนาสังคมและทรัพยากรธรรมชาติ  ผมมีข้อเสนอเพื่อพิจารณาดังนี้

1.รวมรุ่นเพื่อทำกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (สร้างฝาย /ปลูกป่า)

2.ส่งเสริมการเรียนรู้โดยสร้าง /ซ่อมแซมสถานศึกษา (ร.ร.ตชด.)

3.ทำบุญร่วมกันโดยสร้างศาลาการเปรียญ/โบสถ์ (วัดเขาจอมแห  จ.ระยอง)

จึงนำเสนอมาเพื่อโปรดพิจารณาครับ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ และเพื่อนพี่น้องชาว ผนส.3

  เทศกาลปีใหม่ไทย วันสงกรานต์ เที่ยวให้สนุก เดินทางปลอดภัย และรักษาสุขภาพ นะคะ

 

เริ่มกลับมาคึกคักกันอีกครั้งสำหรับชาวผนส.3หลังจากหายไปจากหน้าจอกันไปนานเริ่มเข้าสู่เกมส์อีกครั้งคิดถึงกำนันบ้านนอกคิดถึงนก ปากช่องและอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามเข้ามาคุยกันบ้างอย่าห่างหายไปกันนานนักเดี๋ยวจะลืมเพื่อนฝูงกันไปหมด เสื้อแดงเสื้อเหลืองอย่าไปสนใจมากเครียดปวดหัว สนใจแต่เสื้อม่วงของพวกเราดีกว่านะ ฟ้ากำหนดให้พวกเรามาเป็นเพื่อนกันก็อย่าทอดทิ้งเพื่อนละ สงกรานต์ปีใหม่นี้ขอให้เพื่อนๆชาวผนส.ทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญ นำพาองค์กรให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป..สาธุ

รศ.ฉายศิลป์ เชี่ยวชาญพิพัฒน์ [IP: 58.9.33.51]

เมื่อ ศ. 02 เม.ย. 2553 @ 15:11

#1935582 [ ลบ ]

พ.ร.บ.สหกรณ์ใหม่ ยังขอแก้ไขอีก

รศ.ฉายศิลป์ เชี่ยวชาญพิพัฒน์

ประธานผู้ตรวจสอบกิจการสันนิบาตสหกรณ์ฯ

ในที่สุด สภาผู้แทนราษฎร์ก็ได้ให้ความเห็นชอบพ.ร.บ.สหกรณ์ (ฉบับที่....) พ.ศ. .... ที่วุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติม ให้รัฐบาลนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย

วุฒิสภาได้เพิ่มเติมให้ประธานกรรมการธนาคารอิสลามและปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นกรรมการคณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.)ด้วย การพัฒนาสหกรณ์ต่อไปนี้จึงจะมีแนวคิดในการพัฒนาสังคมกับความมั่นคงของมนุษย์ควบคู่ไปด้วย โดยมีชาวมุสลิมมาเป็นสมาชิกสหกรณ์มากขึ้น สหกรณ์น่าจะเจริญเติบโตอย่างมั่นคงเข้มแข็งและมีจำนวนมากขึ้น

บทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้ที่มีประโยชน์ต่อขบวนการสหกรณ์มาก คือการให้สหกรณ์มีฐานะ เป็นเจ้าหนี้ บุริมสิทธิ์เหนือเงินค่าหุ้น ซึ่งหมายความว่าสหกรณ์จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นๆ สหกรณ์มีสิทธิ์นำเงินตามมูลค่าหุ้นมาหักกลบลบหนี้ที่ต้องชำระแก่สหกรณ์ให้ครบถ้วนก่อน สหกรณ์จึงจะมีหนี้เสียลดน้อยลง

สหกรณ์สามารถรับฝากเงินจากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่มีสมาชิกของสหกรณ์เป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง บทบัญญัตินี้ทำให้สหกรณ์และสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน กล่าวคือสหกรณ์มีผู้ฝากเงินเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้น สูงกว่าดอกเบี้ยที่อาจได้รับจากสถาบันการเงินอื่นๆ และทั้งสหกรณ์กับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาจขยายกิจการด้วยการตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือสหกรณ์มาร่วมเป็นธุรกิจในเครือได้

ขบวนการสหกรณ์ ควรเตรียมการต้อนรับกฎหมายสหกรณ์ใหม่นี้ได้แล้ว เพราะถึงอย่างไร สาระสำคัญของกฎหมายนี้ต้องคงอยู่ต่อไป สิ่งที่ 5 ชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศกับสันนิบาตสหกรณ์ฯ จะต้องหามติเห็นชอบร่วมกัน คือ เรื่องสมาชิกสมทบ กำหนดอัตราค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์ฯ ก้าวหน้าที่สหกรณ์ที่มีกำไรมากๆ สามารถชำระค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์ได้มากขึ้น และดำเนินการจัดตั้งชุมนุมสหกรณ์ อีก 2 ประเภทที่ยังไม่มีชุมนุมระดับประเทศอย่างเป็นทางการ คือสหกรณ์ประมง และสหกรณ์นิคม

การดำเนินการดังกล่าวนี้ สันนิบาตสหกรณ์ฯ อาจต้องมีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อให้สหกรณ์สมาชิกมีส่วนร่วมพิจารณา แก้ไขระเบียบ ตลอดจนขอความเห็นชอบจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่น่าจะมีการเลือกตั้งกรรมการใหม่ในการประชุมใหญ่วิสามัญตามที่พูดกัน ทั้งนี้เพราะการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสันนิบาต ตกประมาณเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคลาดจาก 180 วันที่กฎหมายกำหนดได้ต้องเลือกตั้งกรรมการสันนิบาตชุดใหม่เพียงไม่กี่วัน สันนิบาตอาจจัดประชุมใหญ่สามัญให้เร็วขึ้น และการประชุมใหญ่คราวนี้ต้องมีการเลือกตั้งกรรมการใหม่อยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้นกฎหมายสหกรณ์ฉบับใหม่จะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสหกรณ์ให้ก้าวหน้ามากขึ้น แต่ยังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอีก 3 ประการ คือ

1. ให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนสันนิบาตมากขึ้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้เงินอุดหนุนสันนิบาตฯปีละ4 ล้านบาท คงที่มาช้านาน ถ้าคำนึงถึงค่าของเงินที่ลดเงิน เงิน 4 ล้านสมัยก่อนมีค่ามากกว่าเงิน 10 ล้านสมัยนี้ ดังนั้น รัฐจึงควรเพิ่มเงินอุดหนุนสันนิบาตฯ เพราะเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าสันนิบาตได้นำเงินอุดหนุนมา ทำโครงการพัฒนาสหกรณ์อย่างจริงจัง ใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2553 คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์วุฒิสภา กับผู้ทรงคุณวุฒิในขบวนการสหกรณ์ มีความเห็นชอบร่วมกัน ที่จะผลักดันสหกรณ์ให้เป็นวาระแห่งชาติ ให้สหกรณ์เป็นเครื่องมือพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่มั่นคงยั่งยืนบนพื้นฐานของความพอเพียง จนเป็นสังคมไทยที่อุดมด้วยสันติสุขตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อสหกรณ์มีบทบาทสำคัญมากขึ้น สันนิบาตมีภารกิจมากขึ้น ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นเป็นเงาตามตัว รัฐจึงควรเพิ่มเงินอุดหนุนให้สันนิบาตในงานที่ทำแล้วก่อให้เกิดต่อประโยชน์ของรัฐ

2. ให้ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเป็นกรรมการองค์กรระดับชาติได้ พ.ร.บ. สหกรณ์(ฉบับที่....) พ.ศ ..... กำหนดให้คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) และคณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) ต้องได้รับการเลือกตั้งจากกรรมการดำเนินการขณะที่ยังดำรงตำแหน่งในสหกรณ์ต้นสังกัด เพื่อป้องกันมิให้บุคคลอื่นที่ไม่เป็นกรรมการดำเนินการสหกรณ์ เป็นกรรมการขององค์กรหัวขบวนสหกรณ์ระดับชาติ ดังนั้นผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรจึงเป็นกรรมการ 2 คณะดังกล่าวมิได้ แต่ในความเป็นจริงสหกรณ์การเกษตร มักขาดแคลนผู้ทรงคุณวุฒิสูงๆ มาเป็นกรรมการ สมาชิกเกษตรกรส่วนใหญ่มักไม่มีเวลา และไม่ค่อยสนใจมาบริหารสหกรณ์ ไม่ค่อยมีผู้เป็นกรรมการอย่างต่อเนื่องยาวนานเหมือนสหกรณ์ประเภทอื่น ผู้จัดการต่างหากที่มักจะอยู่นาน และรู้เรื่องราวต่างๆ ของสหกรณ์ดี กับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการบริหารกับสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับสหกรณ์ และเมื่อเป็นกรรมการดำเนินการของหัวขบวนสหกรณ์ก็ทำงานได้ดี ตัวอย่างก็มีให้เห็นประจักษ์ชัดแจ้งอยู่ ดังนั้นจึงต้องแก้พ.ร.บ.สหกรณ์ให้ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเป็นกรรมการ คพช. และสสท.ได้ด้วยแทนที่จะมีแต่กรรมการดำเนินการสหกรณ์เท่านั้น

3. ยกเลิกการให้กรรมการดำเนินการสหกรณ์ต้องเว้นวรรค กฎหมายปัจจุบันกำหนดให้กรรมการ ดำเนินการสหกรณ์ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 สมัยไม่ได้ นัยว่าเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้เป็นกรรมการบ้าง ซึ่งปรากฏกรรมการที่ดีที่สุดต้องเว้นช่วง ทำให้นโยบายการดำเนินงานไม่ต่อเนื่อง กรรมการใหม่บางคนกลับทำให้สหกรณ์เสื่อมถอยหลัง หรือเปลี่ยนทิศทางกลับไปกลับมา หากมีการเลือกตั้งกรรมการ คพช. หรือ สสท. ในระหว่างที่ผู้มีความสามารถต้องเว้นวรรคจากการเป็นกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ขั้นปฐม บุคคลผู้นั้นย่อมขาดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการ คพช. หรือ สสท. ไปด้วย ดังนั้นจึงยังมีความจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายสหกรณ์อีก แม้นว่ากฎหมายใหม่เพิ่งจะมีผลบังคับใช้ก็ตาม ผมขอเสนอไว้ให้พิจารณาแต่เนิ่นๆ เพราะสมัยนี้การเสนอให้แก้กฎหมายมิใช่เรื่องยาก เพียงล่าลายชื่อ 2 หมื่นคน ก็นำเสนอประธานสภาผู้แทนราษฎร์ขอให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายได้ สมาชิกสหกรณ์มีอยู่ประมาณ 10 ล้านคน การล่าเพียง 2 หมื่นชื่อ ไม่น่าจะยากเย็นเลย จริงไหมครับ

สวัสดีปีใหม่ไทย

 ส.ค.ส.สงกรานต์ ๒๕๕๓

  

สวัสดีครับ ผนส. 3 ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง และท่านผู้อ่านทุกท่าน

 

พวกเราเป็นอย่างไรกันบ้าง  คิดถึงหลาย ๆ เด้อ ผนส. 3 ทุกท่าน ไม่ค่อยได้มีโอกาสพบกัน แต่บอกตรง ๆ ตามจริง คิดถึงพวกเราทุกคนเสมอ  

ในโอกาสปีใหม่ไทย วันสงกรานต์มาถึงอีกวาระหนึ่ง ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีที่ผมมีให้กับพวกเราเสมอมายังพวกเราทุกคน

ขอคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก อำนวยพรให้ศิษย์รักทุกคน เจริญด้วยศีล สมาธิ สติ ปัญญา ให้มีเงินทอง ไหลมาเทมา ไว้สร้างบุญบารมีได้อย่างต่อเนื่อง ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีจิตใจเบิกบานดี ให้เจริญด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ รู้แจ้งทั้งทางโลก ทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ด้วยความรักและคิดถึง

จากใจจริง

อาจารย์ยม

สวัสดีปีใหม่ไทย

 ส.ค.ส.สงกรานต์ ๒๕๕๓

 

  

สวัสดีครับ ผนส. 3 ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง และท่านผู้อ่านทุกท่าน

พวกเราท่านทั้งหลาย ผนส. 3 ครับ เป็นอย่างไรกันบ้าง  คิดถึงหลาย ๆ เด้อ ผนส. 3 ทุกท่าน เราไม่ค่อยได้มีโอกาสพบกัน แต่บอกตรง ๆ ตามจริง คิดถึงพวกเราทุกคนเสมอ  

ในโอกาสปีใหม่ไทย วันสงกรานต์มาถึงอีกวาระหนึ่ง ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีที่ผมมีให้กับพวกเราเสมอมายังพวกเราทุกคน

ขอคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก อำนวยพรให้ศิษย์รักทุกคน เจริญด้วยศีล สมาธิ สติ ปัญญา ให้มีเงินทอง ไหลมาเทมา ไว้สร้างบุญบารมีได้อย่างต่อเนื่อง ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีจิตใจเบิกบานดี ให้เจริญด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ รู้แจ้งทั้งทางโลก ทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ด้วยความรักและคิดถึง

จากใจจริง

อาจารย์ยม

สวัสดี ผนส. 3 ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงและท่านผู้อ่านทุกท่าน

สงกรานต์ ปีใหม่ไทย 2553 พวกเราคงได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว คนที่รัก ม่ีเวลาพักผ่อน มีเวลาอ่านหนังสือ ค้นหาความรู้ ใหม่ ๆ รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ และกิจกรรมอื่นๆ ที่ตนเองชอบ  ที่สำคัญคือการไปทำบุญ ฝึกจิตสมาธิ ไหว้พระขอพร พัฒนาบุญบารมีเพิ่มขึ้นตามวัฒนธรรมผู้นำไทย ๆ ครับ

ปีใหม่ไทย ชีวิตใหม่ เริ่มต้นอีกครั้ง ค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้ตนเอง ความรู้ใหม่ ๆ นวตกรรมการทำงาน และหนทางหนึ่งคือการเข้าไปศึกษาการใช้ Facebook ครับ ผมเชิญชวนพวกเรา เข้าไปที่ http://www.facebook.com/yom.nida จะพบกับเพื่อน ๆ ผนส.ที่ทยอยเข้ามาศึกษาการใช้ Facebook ในการสื่อสาร ครับ

ขอความสวัสดี จงมีแค่ทุกท่าน

มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ

ขอเชิญร่วมสัมมนา โปรดคลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด

 

http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/352750

 

เรียนอาจารย์ยมที่เคารพ สวัสดี ผนส.3 ทุก ๆท่าน

ไม่มีคำกล่าวใด ๆ คิดถึงทุกคนเลย

****ขอบคุณท่านอาจารย์ยม อย่างสูงสุด ที่กรุณาอวยพรในวันปีใหม่ไทย ครับ****

ช่วงสงกรานต์หยุดยาว แต่เข้ามาอ่าน blog ตลอดทุกวัน เพราะ..คึดฮอดทุกคน

วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดการประชุมสหกรณ์ผู้ประสานงาน(แกนนำ)ระดับจังหวัด ๑๙ จังหวัด มีผู้เข้าประชุมกว่า ๑๐๐ คน ประกอบด้วยประธานและผู้จัดการจังหวัดละ ๕ สหกรณ์ ณ โรงแรมขอนแก่น โฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น เพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาในการดำเนินงาน ประกอบด้วย

๑. ประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่องคำแนะนำการผลิตหรือจัดหาปุ๋ยไว้ขายของสหกรณ์

๒. การสัมภาษณ์ออกอากาศทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ของท่านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

๓. การติดตามเงินทุนกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพตามโครงการลดภาระหนี้ฯ

๔. การขอให้ธกส.ปรับลดดอกเบี้ยและการปรับหลักเกณฑ์การจัดชั้นสถาบันเกษตรกร(สหกรณ์) และหรือให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยแก่สหกรณ์การเกษตร

๕. การซื้อขายโอนหนี้ระหว่างสหกรณ์กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตร

ชมรม ฯ จะนำประเด็นปัญหาและมติของที่ประชุมชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสนอต่อที่ประชุม"ชมรมผู้จัดการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย" ในการประชุมใหญ่สามัญ ปี ๒๕๕๓ วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมคุ้มสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อดำเนินการต่อไป

ขอเชิญ...ท่านประธานกรรมการ ท่านกรรมการและผู้จัดการ ไปร่วมประชุมใหญ่ ฯ ครั้งนี้ หนังสือเชิญประชุม สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศ โดยท่านประธานกรรมการดำเนินการ(นายมงคลัตถ์ พุกะนัตต์) หากสหกรณ์ใดยังไม่ได้รับหนังสือเชิญ โปรดติดต่อสันนิบาตสหกรณ์ฯ โดยตรง แล้วพบกัน....นะครับ

เรียนอาจารย์ยมที่เคารพ สวัสดี ผนส.3 ทุก ๆท่านผมก.น ส.พ บ้านนอก ขอเสนอข้อดีของความทุก ถ้าเรามองความทุกข์ในแง่ที่ดีบ้าง

บางทีเราอาจจะทุกข์น้อยลงก้อได้ ... ลองดูซะหน่อย

ข้อดีของความทุกข์

1.ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น

2.ทำให้รู้ถึงค่าของความสุข

3.ทำให้เรามีความสามารถมากขึ้น

4.ทำให้เรามีสิ่งที่ต้องทำ (ทำเพื่อให้หายทุกข์

5.ทำให้เรามีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามากขึ้น

6.ทำให้เรามีความอดทนมากขึ้น

7.ทำให้ความสุขมีค่ามากขึ้น

8.ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้น

9.ทำให้เรามองโลกกว้างมากขึ้น

10.ทำให้เราเห็นได้ว่า ใครคือคนที่เป็นที่พึ่งยามยากของเรา

11.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ห่วงเรา

12.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่เป็นมิตรแท้ของเรา

13.ทำให้รู้ได้ว่าเพื่อนของเรามีความสามารถแค่ไหน

14.ทำให้เรารู้ว่าใครมีความสามารถขนาดไหน

15.ทำให้เรารู้ได้ว่ามีคนไหนที่รักเราจริง

16.ทำให้เรารู้ว่าการหัวเราะเป็นสิ่งจำเป็น

17.ทำให้เราพยายามที่จะมองโลกในแง่ดีมากขึ้น

18.ทำให้เรามาค้นหาข้อดีของความทุกข์ ^ ^

สวัสดีครับ ผนส. 3 และท่านผู้อ่านทุกท่าน

ขอบใจ คุณบิ๊กอู๊ด คุณทองปอน คุณก.น ส.พ บ้านนอก ที่กล่าวถึงอาจารย์น๊ะครับ  ผมยังระลึกถึงพวกเราทุกคน เหมือนสมัยที่ท่านสัมมนา ผนส. อยู่น๊ะครับ 

ผมอาจจะมีความถึ่เข้ามาเยี่ยมพวกเราในบันทึกนี้ห่างไปหน่อย ต้องขออภัยด้วย เพราะ นอกจากงานประจำแล้ว  ก็ต้องแบ่งเวลาเข้าไปศึกษา ระบบ www.facebook.com  ให้เข้าใจอย่างท่องแท้

ผนส. รุ่น 5 ที่จะมาถึงนี้ ผมได้เสนอให้มีการสื่อสาร ICT โดยใช้ facebook ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดี ของ บล็อก/อีเมล์/เว็บไซด์อยู่ใน facebook น๊ะครับ  และสามารถเชื่อมโยงกับโทรศัพท์มือถือ รุ่น ใหม่ ๆ ได้ อีกด้วย ซึี่งมติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร ผนส. ได้มีมติเห็นชอบดำเนินการแล้วน๊ะครับ

Logo facebook ที่ปรากฎบนมือถือรุ่นใหม่ ๆ แสดงว่า มือถือรุ่นนั้นสามารถรองรับ การสื่อสาร facebook บนโทรศัทพ์มือถือได้

จึงได้เชิญชวนพวกเรา เข้ามาพบกันที่ www.facebook.com/yom.nida/ แล้วลงทะเบียน ฟรี เหมือนอีเมล์ทั้ืว ๆ ไปน๊ะครับ แล้วคลิ็กเป็นเพือ่นกับอาจารย์และเพื่อน ๆ ของเรา ก็มีบางท่านก้าวหน้าไปไกลแล้ว เช่น คุณศิวกรณ์ คุณปาณิสรา คุณน้อยที่โครช และอีกหลายคนเช่นคุณแดง ธกส.  รวมทั้งเจ้าหน้าที่สันนิบาตฯ หลายท่านก็ทยอยเข้ามาร่วมสังคมแห่งการเรียนรู้ facebook น๊ะครับ

เมื่อท่านสมัครลงทะเบียนฟรีแล้ว ใส่ภาพประจำตัวแล้ว ค้นหา "อาจารย์ยม" แล้วคลิ๊กเป็นเพื่อนกัน ผมก็จะได้รับข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงพวกเรา ไว้ในกลุ่มเดียวกันน๊ะครับ และจะมีผู้ขอเข้ามาเป็นเพื่อน ๆ เรามากขึ้น ซึ่งบล็อกหรือบันทึกนี้ทำไม่ได้น๊ะครับ

 

facebook เป็นนวตกรรมในการสื่อสารสำหรับประเทศไทย  ในต่างประเทศเขาใช้กันมาพอสมควรแล้ว  facebook นี้ คุณ Bill gates เจ้าของ Microsoft ได้ซื้อหุ้นใหญ่ไว้ เพราะคาดการณ์ว่า จะเติบโตขึ้นทั่วโลก

ภาพ Khun Bill gates

ผมได้เริ่มแนะนำให้ สันนิบาตฯ ใช้ facebook หลักสุตร ผนส. และหลักสูตรย่อยอื่นๆ ตอนนี้ก็ดำเนินการแบบทยอยทำไป

เกี่ยวกับ facebook ผมต้องศึกษาระบบ facebook ให้เข้าใจถึงขั้นสอนได้ ถ่ายทอดได้ เพื่อไว้คอยให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่สันนิบาตฯให้บริการผุ้เข้าร่วมสัมมนา และไว้คอยให้ความช่วยเหลือ ศิษย์เก่า ศิษย์ใหม่ ที่สนใจเข้ามาร่วมกิจกรรม ใน facebook

ผมศึกษาไปได้สักระยะ หนึ่งแล้ว facebook มีขีดความสามารถสูงมาในการสื่อสาร แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น โหลดภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว บทความได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ ผมจึงถือโอกาสนี้ เชิญท่านเข้าร่วม "สังคมการเรียนรู้แห่งใหม่ www.facebook.com/yom.nida/  

 

ขอความสวัสดีจงมีแด่ทุกท่านครับ

อาสาสมัครทหารพราน

พวกกระผมจะปกป้องพ่อให้ดีที่สุด เท่าที่ขีดความสามารถของลูกคนหนึ่งจะทำได้

สวัสดี ทุกท่าน

หายไปหลายวันไม่ได้ไปไหน ได้เข้ามาเยี่ยมทุกวัน แต่ไม่มีเวลา มีงานยุ่งเล็กน้อย

แต่อย่างไรก็ยังคิดถึงทุกคน ผมมีโครงการเครื่อข่ายสหกรณ์ภาคใต้ หรือที่ทุกคนเห็นแล้วในหนังสือพิมพ์สหกรณ์ สหกรณ์เครื่อข่าย 5 สหกรณ์จับมือกันทำโครงการต่างๆ ไม่ว่าอบรม การเชื่อมโยงธุรกิจ การเงิน และกำลังทำเครื่อข่ายเพิ่มเติมขณะนี้จะเชื่อมโยงกับสหกรณ์อื่นๆในภาคต่างๆ และวันที่ 4-8 มีโครงการศึกษาดูงานและเจรจาการค้าข้าวสารกับสหกรณ์การเกษตรพิมาย สหกรณ์การเกษตรปราสาท สหกรณ์การเกษตรโนนสูง โดยมีเป้าหมาย ต้องการข้าวสารจำนวน 250 ตันในปีแรก

ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะหลักสูตรผู้นำขั้นสูง ต้องขอขอบคุณทางสันนิบาตรที่จัดให้มีโครงการนี้ หากไม่มีโครงการหลักสูตรผู้นำขั้นสูง โครงการต่างๆคงไม่เกิด ที่สำคัญต้องขอขอบคุณท่านอาจารย์จิระ และอาจารย์ยมด้วย ที่เป็นอาจารย์ที่ดี

ฝากถึงท่านกำนันด้วยวันที่ 6 และ 7 จะไปนอนที่สุพรรณ ส่วนวันที่ 5 คงจะนอนที่โคราช ไม่แน่ใจว่าจะได้เจอใครบ้าง

สวัสดี สวัสดี ผนส.3 ทุก ๆท่านผม ก.น บ้านนอก ยินดีต้อนรับเพือนสุทิศ พงษ์จีน ขอกำหนดการด้วยจะจัดการต้อนรับให้สมกับเป็นเพือนกำนันบ้านนอก ไงพือน

ไม่ได้เข้ามาดูหลายวันคิดถึงพวกเราเหมือนเดิม อ่านข้อความ ก.น.ส.พ.สงสัยอยู่ตั้งนานนึกว่าเป็น"กองกำลังแนวร่วมสุพรรณ"ที่แท้เป็นคำย่อ"กำนันสุพรรณ"บ้านนอกของเรานี่เองหายหน้าหายตาไปนาน (สงสัยไปเฝ้าร้านกาแฟแถวปั๊มปตท.บางปลาม้าอยู่) เมืองบางกอกตอนนี้ก็ยังไม่น่าสุขสันต์เท่าไหร่ก็คงไม่นานเหตุการณ์น่าจะดีขึ้น ...แค่นี้ก่อนนะฝันดีทุกท่านชาวผนส.3

คิดถึงทุกท่านนะคะ

สงสัยจะได้พบปะกันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งก็คงเป็นงานต้อนรับ ผนส 5

พี่ ก.น.ส.พ. เดี๋ยวนี้ติด(คนขาย)กาแฟแล้วเหรอคะ คิดถึงนะจ๊ะ

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

       ตามมติที่ประชุมที่ได้มีการเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนสมัครเป็นผู้ตรวจสอบกิจการของ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งที่ประชุมมีมติ ให้ผม คุณอรุณี และคุณประวัติ  สมัครเป็นผู้แทน เนื่องจาก คุณอรุณี และคุณประวัติ ติดภารกิจ  ไม่สามารถสมัครได้  จึงมอบหมายให้ผมเป็นผู้สมัครเพียงผู้เดียว  ผมขอรับการสนับสนุนจาก ผนส. ทุกท่าน  หากมีเพื่อน หรือมีคนที่รู้จักมักคุ้น ฝากด้วยครับ   และถ้าจะกรุณา Print ให้เพื่อน ๆ ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

      มั่นใจว่าหลายล้านคนคงได้ดู

http://www.youtube.com/watch?v=A4zJgf6H4BA&feature=related

ขอแสดงความยินดี ชื่นชม สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ปี 2553 สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด

นายแน่นมากคุณไกรฤกษ์ ดวงคงทอง

และคิดถึง ผนส.รุ่น3 ทุกท่านเสมอ

สวัสดี ศิษย์ ผนส. 3 ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง และท่านผู้อ่านทุกท่าน

หวังว่า พวกเรา ผนส. คงสบายดีกันน๊ะครับ  ผมมีงานบุญมาบอก และเชิญพวกเราร่วมกิจกรรมในโครงการปฏิบัติธรรมขั้นสูง ด้วยการบวชเป็นพระแท้ของผม ตามรายละเอียดในโครงการตอนท้ายนี้

การปฏิบัติธรรมขั้นสูง ครั้งนี้ ตั้งใจทำให้เรียบง่าย ไม่มีพิธีรีตรองอะไรให้มากมาย เลียนแบบพระสัมมา สัมพุทธเจ้า จะมีพิธีในวันอาทิตย์ที่ 6 มิ.ย. นี้

หากอาจารย์พลั้งพลาด เผลอ คิด ทำ พูด เขียน ส่ิ่งใด ที่ทำให้ท่านทั้งหลายไม่สบายใจ ขอให้อโหสิกรรม ให้อาจารย์ด้วย 

โครงการปฏิบัติธรรมขั้นสูง(บวชเป็นพระแท้) อาจารย์ยม 

 

1.หลักการและเหตุผล

การบวช เป็นการฝึกฝนอบรมตนเองขั้นสูหรือเรียกว่า “การฝึกปฏิบัติธรรมขั้นสูง”  ฝึกตนให้มีศีล มีธรรม บุคคลที่มีธรรมรู้ เป็นบุคคลผู้รักษากฎระเบียบ ฝึกการเป็นอิสระจากอกุศลทั้งปวง มีใจเป็นกลางเป็นอิสระ ไม่มีกิเลสอคติ  ฝึกบังคับ ควบคุมตัวเอง บังคับจิต บังคับความรู้สึก บังคับ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ฝึกอุทิศตัวเอง เพื่อความสุขของส่วนรวม โดยอุทิศตนเพื่อความถูกต้อง ซึ่งการอุทิศตัวแก่โลกนั้นเป็นพื้นฐานที่มีมาตรฐานมาจากพุทธจิต คือจิตที่ตื่นแล้ว  ฝึกจิตความเชี่ยวชาญในการฝึกจิต เชี่ยวชาญในการปฏิบัติสมถะกรรมฐาน เชี่ยวชาญในการกำหนดลมหายใจออกและลมหายใจเข้า เชี่ยวชาญในการควบคุมอารมณ์จิต  ฝึกตนให้มีจริยธรรม ผู้ที่มีจริยธรรม มักปฏิบัติเพื่อให้ตนเป็นผู้ไม่เบียดเบียนแก่ตนและคนอื่น  ฝึกปัญญา  ปัญญาที่เกิดจากสมาธิ ภาวนา ปัญญา ที่เกิดจากศีล สมาธิ ย่อมทำให้เกิดทุนทางปัญญา และปัญญา ที่เกิดจากการพิจารณาไตร่ตรอง  ฝึกสมถะและวิปัสสนา ซึ่งเป็นแก่นที่สำคัญในการนำไปปฏิบัติธรรม เพื่อฝึกจิต ฝึกสมาธิ เป็นการฝึกฝนตนเองตามวิถีพุทธ ท่านพุทธเริ่มปฏิบัติธรรม พัฒนาปัญญา ด้วยการปฏิบัติสมถะวิปัสสนา   ฝึกขจัดอวิชชา  อวิชชาเป็นกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในใจ เช่น ความโลภ โกรธ หลง อันเป็นฝ่ายอกุศล

เมื่อการบวช เป็นการฝึกอบรมตนเองขั้นสูง เป็นการปฏิบัติธรรมขั้นสูง อาจารย์ยมซึ่งสนใจปฏิบัติธรรมมาเป็นระยะ ๆ ในวันสุดสัปดาห์ วันพระใหญ่และวันคล้ายวันเกิด และได้สนใจนำหลักพุทธบริษัท ไปเผยแพร่ประยุกต์ใช้ในการให้คำปรึกษา กับองค์กรต่างๆ จึงได้จัดเวลาระยะสั้นในการ เข้าปฏิบัติธรรมขั้นสูง ที่วัด ดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นวัดที่มีพระเจ้าอาวาสเป็นกัลยาณมิตร เมื่อครั้งที่เรียน ปริญญาเอก ด้วยกัน และเป็นวัดที่กำลังพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมให้เป็นศูนย์กลางปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในภาคอีสาน  โดยพิธีบวช เน้นเจริญรอยตามพระสัมมาสั้นพุทธเจ้า เน้นการบวชเรียบง่าย และตัวอาจารย์ยม เป็นเจ้าภาพให้ตัวเอง โดยอาจจะมีศิษย์ จากองค์กรต่างๆ ร่วมเป็นเจ้าภาพหรือร่วมงานบุญนี้พอสมควร ตามเวลาและกำลังศรัทธา 

ในการนี้ ขอเรียนเชิญมายังท่าน เพื่อร่วมสร้างบุญเสริมบารมี ร่วมพิธีบวชพระแท้ ณ วัดดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป หากผู้บวช (อาจารย์ยม) ได้พลั้งเผลอ ล่วงเกิน ด้วยกาย วาจา ใจ หรือบทความทางวิชาการ ทางกการเรียนการสอน แก่ท่านทั้งหลาย ขอได้โปรดอโหสิกรรม ให้อาจารย์ ยม ณ โอกาสนี้ด้วย

2. วัตถุประสงค์

  1. เพื่อฝึกปฏิบัติธรรมขั้นสูงให้เป็นบุคคลที่มีธรรมรู้ เป็นอิสระจากอกุศลทั้งปวง อุทิศตัวเอง เพื่อความสุขของส่วนรวม ฝึกศีล สมาธิ และปัญญา
  2. เพื่อช่วยพระผู้ใหญ่ในจัดทำโครงการพัฒนาวัดระยะสั้น อย่างเป็นรูปธรรม
  3. เพื่อ เผยแพร่ พุทธศาสนา แก่ประชาชนทั่วไป
  4. เพื่อสร้างบุญ เสริมบารมี ตามความเชื่อในพุทธศาสนา และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมไทย

3. สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ

  1. พิธีปฏิบัติธรรมขั้นสูงในเบื้องต้น ได้พระใหม่ (อาจารย์ยม) หนึ่งรูป เข้าฝึกอบรม ปฏิบัติธรรมขั้นสูง ตามกำหนดการของโครงการ
  2. พระผู้ใหญ่ วัดดอนขวาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีโครงการพัฒนาวัดระยะสั้น อย่างเป็นรูปธรรม
  3. ศาสนาพุทธ ที่วัดได้รับเผยแพร่ แก่ประชาชน ในรูปแบบการปฏิบัติธรรม ไม่น้อยกว่า 100  คน
  4. พระใหม่(อาจารย์ยม) ได้มีโอกาสร้างบุญ เสริมบารมี ตามความเชื่อในพุทธศาสนา และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมไทย
  5. ผู้มาร่วมงานได้มีโอกาสสร้างบุญ เสริมบารมีร่วมกัน ได้ร่วมกันทำบุญ และเชื่อมโยงเครือข่าย ในกลุ่มผู้นำสหกรณ์

4.  ผู้รับผิดชอบโครงการ  เจ้าภาพ อาจารย์ยม และผู้ประสงค์เป็นเจ้าภาพร่วม

5. พระอาจารย์ที่ปรึกษา   เจ้าอาวาส วัดดอนขวาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

6. ผู้เข้าร่วมโครงการ เป็นศิษย์  กัลยาณมิตร และศิษย์ จากหลักสูตรอื่น ๆ ประมาณ 50 ท่าน

7. สถานที่ วัดดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา

8. ระยะเวลาปฏิบัติงาน

    วันที่......6....เดือน.มิถุนายน .พ.ศ. 2553 ถึงวันที่...29 เดือน.มิถุนายน .พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 6 มิ.ย. 2553 ณ วัดดอนขวาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีดังต่อไปนี้                    

  • 8.00 น.-8.30 น. ปลงผมนาค และนาคเตรียมเข้าโบสถ์
  • 9.00 – 10.30 น. พิธีอุปสมบท  
  • 10.30- 11.30 น. พระใหม่ และเจ้าอาวาส สนทนาธรรม
  • 11.30 – 12.00 น. พิธีถวายภัตราหารเพล ฉลองพระใหม่
  • 12.00 น. รับประทานอาหารร่วมกัน และถ่ายภาพร่วมกัน

9. เป้าหมายโครงการ  จำแนกตามกิจกรรม

  1. 5 มิ.ย. 11.00 น. ตรวจความเรียบร้อยของงาน และอุปกรณ์
  2. 6 มิ.ย. 07.00 น. ถึงวัด ตรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง และเตรียมปลงผม
  3. 6 มิ.ย. 08.00 น. ปลงผม เตรียมเข้าพิธี
  4. 6 มิ.ย. 08.30 น. เริ่มพิธี รอบโบสถ์
  5. 6 มิ.ย. 09.00 น.  พิธีบวช
  6. 6 มิ.ย. 10.30 น.  สนทนาธรรม กับพระใหม่
  7. 6 มิ.ย. 11.30 น.  ฉลองพระใหม่ ถวายภัตราหารเพล
  8. 6 มิ.ย. 12.00 น.  ร่วมรับประทานอาหาร และถ่ายภาพร่วมกัน

10. การติดตามประเมินผล  ใช้การตรวจติดตาม P D C A  

 

ที่มา http://gotoknow.org/blog/yom17/250775

กราบเรียน ท่านอาจารย์ยม ที่เคารพอย่างสูง

กระผมขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ และขอตั้งจิตอธิษฐานด้วยใจบริสุทธิ์ให้บุญกุศลทั้งหลาย จงส่งผลดลบันดาลให้ท่านอาจารย์(พระอาจารย์ยม) สำฤทธิ์ผลตามความตั้งใจ และเจตตนาในการสร้างบุญ เสริมบารมี ครั้งนี้และต่อไป ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

ธนะ บำรุงแสง เลขารุ่น 3

เรียน ผนส.รุ่นที่3 ทุกท่านครับ

ผมนายธนะ บำรุงแสงครับ ขอความอนุเคราะห์พี่ร่วมรุ่นทุกท่าน ช่วยประชาสัมพันธ์และเลือกตั้งกรรมการชุมนุมสหกรณ์

ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ผมเบอร์ 17 ครับ ขอบคุณครับ

กราบเรียนท่านอาจรารย์ยม ที่เคารพรัก สวัสดีชาว ผนส.3 ที่รักและคิดถึงทุกท่านครับ

ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญในกุศลเจตนาของท่านอาจารย์ยม ที่ท่านได้มีโครงการปฏิบัติธรรมขั้นสูง ขอให้ท่านอาจารย์จงบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯขออย่าได้มีอุปสรรคใดๆมาแผ้วพาล ไม่ได้เข้ามาทักทาย เพื่อน พี่ น้องเสียนาน แต่ก็ยังคงระลึกถึงพวกเราทุกคน โดยเฉพาะ พี่แจ้ และท่านกำนัน สุขสันต์ หวังว่าท่านคงสุขสันต์กับกาแฟ ที่ท่านชอบนะครับ ได้พบปะกับพวกเราเป็นบางครั้ง เช่นท่านทนงศักดิ์ ท่าบุญช่วย ท่ายสุทิศ ท่านไกรฤกษ์ พื่ต้อย ป้าเคลือ ท่านต้อยอภิสิทธิ์ คุณอ๋อ คุณว๊ แล้วแต่จังหวะและโอกาส ที่ไม่ค่อยได้เจอคือท่านบุญตรง ไม่ทราบว่าเดื๋ยวนี้ยังคงตรงอยู่หรือเปล่า แจ้งข่าวมาหย่อย ขอให้ทุกท่านโชคดี

สวัสดีผนส3ทุกท่านไม่ได้เข้ามาpostแต่เข้ามาดูบ่อยๆก็เช่นเดียวกันกับท่านสุรชัยคิดถึงทุกคนเช่นกันและขออนุโมทนาบุญร่วมกับท่านอาจารย์ยมซึ่งเป็นที่รักของเราทุกคน ขอให้ทุกคนโชคดีแล้วมีโอกาสเจอกันบ้าง......ปล.อย่าลืมเบอร์17ธนะ บำรุงแสง ม้าเร็วของเราช่วยให้เข้าเส้นชัยหน่อย

อยากได้ประเทศแบบไหน (๑)

พฤหัสบดี ๓ มิถุนายน ๒๕๕๓

สุภาพสตรีนักอ่านท่านหนึ่งอ่านเปิดฟ้าส่องโลกในเว็บไซต์ www.nitipoom.com ย้อนหลังไปจนถึงฉบับวันจันทร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐ ไล่คร่าวๆ จนจบครบทุกบทความแล้ว ท่านก็มีอีเมล์มาถามว่า อ้า สรุปแล้วคุณอยากจะให้ประเทศไทยปกครองแบบไหน?

ยืนยันกันวันนี้ครับ นิติภูมิชอบระบอบการปกครองของไทยในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทว่าอยากให้โทนของการบริหารบ้านเมืองออกไปในทางรัฐสวัสดิการ แม้ว่ารัฐสวัสดิการในฝันจะไม่สามารถบันดาลให้อุบัติได้ในยุคที่ท่านและผมยังมีชีวิตอยู่ ทว่าถ้าเราเริ่มต้นกันซะวันนี้ และยอมให้มีพัฒนาการเป็นห้วง เป็นช่วงไป ผมเชื่อว่าในเวลาไม่ถึง ๑๐๐ ปี เราก็จะมีราชอาณาจักรไทยที่ประชาชนทุกคนมีความสุขสงบสมบูรณ์จากรัฐสวัสดิการ

เขียนถึงรัฐสวัสดิการ ผู้คนทั่วไปมักจะนึกถึงรัฐคอมมิวนิสต์ นิติภูมิขอเรียนว่า รัฐสวัสดิการที่ประสบความสำเร็จบนโลกใบนี้ ต่างเป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ มีราชวงศ์ที่สืบสันตติวงศ์กันมั่นคงแทบทั้งสิ้น ที่ผมยกย่องเลยก็คือ เดนมาร์ก ชื่อเต็มอย่างเป็นทางการก็คือ ‘ราชอาณาจักรเดนมาร์ก’ อีกประเทศหนึ่งซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในเรื่องรัฐสวัสดิการ ก็คือ นอร์เวย์ ชื่อเต็มอย่างเป็นทางการก็คือ ‘ราชอาณาจักรนอร์เวย์’ มีพระมหากษัตริย์ทั้ง ๒ ประเทศ มีเพียงฟินแลนด์เท่านั้นละครับที่เป็นรัฐสวัสดิการสมบูรณ์แต่ไม่มีพระมหากษัตริย์ ผมจึงอยากให้อาจารย์และนักวิชาการที่รู้เรื่องอะไรยังไม่ลึกซึ้ง อย่าเที่ยวออกมาประณามหยามหมิ่น ว่าคนนั้นเป็นคอมมิวนิสต์ คนนี้มีแนวความคิดแบบคอมมิวนิสต์ และก็ขอให้ท่านพยายามแยกให้ออก ระหว่างคำว่า รัฐสวัสดิการ ระบบสหกรณ์ กับคอมมิวนิสต์

รัฐสวัสดิการมักจะมีระบบสหกรณ์ที่เข้มแข็ง อย่าเที่ยวไปโพนทะนาสาธยายว่า สหกรณ์เป็นลูกหลานของคอมมิวนิสต์ สำหรับผม สหกรณ์เป็นระบบเศรษฐกิจที่ยุติธรรมที่สุดในโลก และน่าจะส่งเสริมให้อุบัติในชาติบ้านเมืองเราอย่างมั่นคง แม้แต่ในหลวงของพวกเราชาวไทย พระองค์ยังทรงสนับสนุนกิจการสหกรณ์ ท่านเคยเห็นป้ายตามที่ต่างๆ ไหมครับ ‘สหกรณ์ไทยก้าวไกล เพราะน้ำพระทัยในหลวง’

กว่าจะมาเป็นรัฐสวัสดิการที่ประสบความสำเร็จอย่างในปัจจุบัน เดนมาร์กพัฒนาระบบรัฐสวัสดิการมานานถึง ๕ ช่วง ช่วงแรก เริ่มตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๖ หรือเมื่อ ๒๐๗ ปีที่แล้ว และมาปฏิรูปการปกครองครั้งล่าสุดเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ ให้รัฐบาลมี ๓ ระดับ คือรัฐบาลกลาง รัฐบาลภาค และเทศบาลท้องถิ่น

รัฐบาลกลางออกกฎหมายสวัสดิการสังคมเพื่อบังคับใช้ไปทั้งประเทศ และทำหน้าที่บริการสังคมขนาดใหญ่อย่างกิจการตำรวจ การทหาร การศึกษาระดับอุดมศึกษา ฯลฯ ระดับรัฐบาลกลางยังมีรัฐสภาทำหน้าที่นิติบัญญัติด้วย

รัฐบาลภาค ดูแลการจัดหาสวัสดิการสังคมด้านสุขภาพ การประกันสุขภาพ การศึกษาชั้นมัธยม การคมนาคม และสิ่งแวดล้อมในมณฑล

เทศบาลท้องถิ่นทำหน้าที่จัดสวัสดิการขั้นมูลฐานให้ผู้คนในท้องถิ่น เช่น โรงเรียนชั้นประถม การดูแลผู้สูงอายุและเด็ก ห้องสมุดประชาชน ฯลฯ

เทศบาลท้องถิ่นและรัฐบาลภาคของเดนมาร์กมีอิสระจากรัฐบาลกลางมาก สามารถกำหนดขนาดโรงเรียนประถมได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากรัฐบาลกลาง แถมเทศบาลท้องถิ่นจัดสวัสดิการสังคมให้ผู้คนในเขตได้มากกว่าหน่วยปกครองระดับอื่น โดยจัดหาให้มากถึง ๔๖% ของรายจ่ายเพื่อสวัสดิการทั้งหมดในประเทศ รัฐบาลกลางรับผิดชอบ ๔๐% ส่วนรัฐบาลภาครับผิดชอบเพียง ๑๔%

ประเทศไทยตอนนี้มี อบต. และเทศบาลเล็กๆ กระจัดพลัดพรายไปทั่วประเทศ มีประสิทธิภาพบ้าง บ่มีไก๊ทำอะไรไม่ได้ก็เยอะ เดนมาร์กเจอปัญหานี้มาก่อน ก่อน พ.ศ.๒๕๕๐ เดนมาร์กมีเทศบาลมากถึง ๒๗๑ แห่ง เทศบาลเล็กๆ ขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เดนมาร์กจึงปฏิรูปการปกครอง แบ่งเขตการปกครองซะใหม่ ให้เทศบาลใหญ่ขึ้น เทศบาลไหนเล็กก็ให้ยุบเข้าไปรวมอยู่กับเทศบาลใหญ่ ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๐ เทศบาลของเดนมาร์กเหลือเพียง ๙๘ แห่ง และเดิมผู้คนในเทศบาลมีเพียง ๒ แสน เดี๋ยวนี้แต่ละแห่งก็มีมากขึ้นเป็น ๓ แสน

การปฏิรูปการปกครองรวมไปถึงการยกเลิกการปกครองระดับมณฑล เพราะมีแต่มณฑลก็เล็กๆ แต่ให้แบ่งใหม่เป็นภาค มีทั้งหมด ๕ ภาค รัฐบาลท้องถิ่นตั้งศูนย์จัดหางานร่วมกับรัฐบาลกลาง และดูแลคนตกงานที่ไม่มีประกันการว่างงาน เรื่องการคมนาคมและขนส่ง รัฐบาลท้องถิ่นเป็นคนสร้างถนนในท้องถิ่น ดูการจัดจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาให้บริการคมนาคม แต่ให้รัฐบาลภาครับผิดชอบการก่อตั้งบริษัทดูแลการคมนาคม ระบบตั๋ว ค่าโดยสาร ฯลฯ ส่วนรัฐบาลกลางดูระบบรถไฟและวางแผนการทำถนนเชื่อมโยงไปทั้งประเทศ

รัฐบาลท้องถิ่นดูเรื่องการรักษา และให้การพักฟื้นที่ไม่ได้เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ให้บริการด้านทันตกรรม ดูแลคนติดเหล้า ส่วนรัฐบาลภาคให้บริการโรงพยาบาล จิตแพทย์ และการประกันสุขภาพ รัฐบาลกลางวางแผนดูแลสุขภาพ วางระบบคอมพิวเตอร์ในโรงพยาบาลให้เชื่อมโยงกันไปให้ได้ทั้งประเทศ เรื่องรัฐสวัสดิการของราชอาณาจักรเดนมาร์ก ขอมาว่ากันต่อในวันพรุ่งนี้อีกวันหนึ่งครับ

สวัสดี ผนส ทุกคน

         ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมและทักทายหลายวัน  ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ยมด้วย หากไม่ติดงานจะไปร่วมงานบุญด้วย ได้ข่าวว่ารุ่น 4 เข้าจะไปร่วมงานกันหลายคน แล้วรุ่น 3 เราใครจะไปบ้างละ หากไปจะฝากทำบุญด้วย  ผมไปไม่ได้จริงมีงานเข้ามามากเลย

         วันที่ 7-10 มิถุนายน ต้องเดินทางไปกับโครงการกรมส่งเสริมสหกรณ์ จังหวัดลพบุรี (สหกรณ์ท่าวุ้ง)และจังหวัดนครราชสีมา(สหกรณ์ พิมาย) เสร็จจากอบรม ต้องอยู่กรุงเทพเพื่อประชุมใหญ่สหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย

        และได้ข่าวว่าม้าเร็ว พี่ธนะ ลงสมัครด้วย เบอร์ 17 อย่างไรก็ต้องช่วยกันนะ อย่าให้เสียชื่อรุ่น 3

 

สวัสดีชา่วผนส.3ทุกคน

ไม่ได้เข้าบล็อกมานานแต่ก็ยังคิดถึงเพื่อนๆทุกคนเสมอ หวังว่าหลายคนคงจะไปโคราชในงานวันบวชอาจารย์ยมนะจ๊ะ

คงจะได้เจอกันนะใครไม่ได้ไปจะร่วมทำบุญด้วยก็แจ้งมาทั้งต้อยและต้อยอภิสิทธิ์รอรับเพื่อนทุกคน ทราบมาว่ารุ่นอื่นๆมากันเยอะมาก รุ่นเราอย่าให้น้อยหน้านะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณสุทิศที่มาเยื่ยมทั้ง

พิมายและปราสาทสุรินทร์ ขอบคุณกำนันสุขสันต์ที่ไปรับมากินข้าวต้มพร้อมของฝากอร่อยมาก เมื่อวันที่ 25-26 ได้ไปบรรยายที่

จังหวัดนครศรีธรรมราช คุณปรีชา แก่นอินทร์ พร้อมภรรยา และคุณปฏิพล มารับช่วงดูแลพี่ต้อยคนละวันพาไปทานข้าวและช้อบปิ้ง

แหละมีเพื่อนเยอะก็ดีอย่างนี้ไปไหนไม่อดตายจ้ะ เจอเพื่อนภาคอื่นมาแล้วแต่ยังไม่เจอเพื่อนกรุงเเทพเลย โดยเฉพาะอาจารยืบัญชา

คุณแ้จ้,พี่จิ่น,พี่นิค,น้องกุ้งสบายดีนะคะ

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

  • ภาพประชุมร่วม เพื่อจัดเตรียมต้อนรับ ผนส.5
  • ที่ประชุมสรุป เชิญ ผนส. ทุกรุ่นร่วมกันต้อนรับ ผนส. 5 ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2553 โดยมี ผนส. 4 เป็นเจ้าภาพ ส่วนจะมอบหน้าที่ใครทำอะไรนั้น  ในวันที่ 18 มิถุนายน  2553  จะมีการประชุมร่วม กันทุกรุ่นอีกครั้ง ที่สันนิบาติ สหกรณ์ เวลา 11.30 น. ณ ห้องอาหารครัวสหกรณ์ สันนิบาติ  ท่านเลขา ผนส. 4 (พี่แดง) ขอเรียนเชิญ ผนส. ทุกรุ่นพร้อมกันตามวันเวลาดังกล่าว 
  • ส่วนรูปภาพอาจารย์ยม รอภาพจากมืออาชีพครับ  

นมัสการหลวงพี่ยม สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

  • ดีใจที่ได้เจอ ผนส. ทุกท่าน นับถือจริง แต่ละท่านมาจากแดนไกล หลายท่าน
  • ขอบคุณธญา หญิงเหล็ก ผนส. 2  ที่ดูแลเป็นอย่างดีทุกเรื่องตั้งแต่ย่างเข้าเมืองย่าโม ที่พักโรงแรมอย่างดี ธญาจัดให้ ขอบคุณหลาย ๆ เด้อ ว่าง จะมาถล่มอีกเด้อ
  • ขอบคุณ ผนส. 4 ที่เป็นเจ้าภาพมื้อเย็น พร้อมคาราโอเก๊ะ ต้อนรับ ผนส. 2 และ 4   ขอบคุณหลาย ๆ อีกเช่นกัน
  • งานบวชอาจารย์เรียบร้อย ทุกอย่างเสร็จสมได้ด้วยสามัคคี 
  • งานต่อไปไม่รู้ว่าจะเป็นงานแต่งของใครบางคนหรือเปล่าไม่รู้ ?

นมัสการครับหลวงพี่ยม สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

  • ขออภัยครับประชุมร่วมวันที่ 19 มิถุนายน 2553 
  • จะมีการประชุมร่วม กันทุกรุ่นอีกครั้ง ที่สันนิบาติ สหกรณ์ เวลา 11.30 น. ณ ห้องอาหารครัวสหกรณ์ สันนิบาติ  ท่านเลขา ผนส. 4 (พี่แดง) ขอเรียนเชิญ ผนส. ทุกรุ่นพร้อมกันตามวันเวลาดังกล่าว 

นมัสการครับหลวงพี่ยม สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

  • ขอขอบคุณเพื่อนพี่น้อง ผนส. ทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุน
  • วันนี้เรายังไม่มีโอกาส  วันหน้าเราคงได้มีโอกาส
  • ลึก ๆ บอกตรง ๆ ว่าเป็นห่วง ชสอ. มาก ๆ
  • กรรมการได้ เบอร์ 2 ถึง 8  ยกทีม  ผู้ตรวจ ได้ 3 ถึง 5 ยกทีม

นมัสการครับพระอาจารย์ยม สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

       แจ้งข่าวถึงเพื่อน ๆ ผนส. ทุกท่าน

        ตามที่ ผนส. 4 เชิญ ผนส. ทุกรุ่นร่วมประชุมเพื่อเตรียมการต้อนรับ ผนส. รุ่น 5  ในวันที่ 19 มิถุนายน  2553 นั้น  เนื่องจาก การประชุมกรรมการบริหารและพัฒนาหลักสูตร มีการเลื่อนจากวันที่ 17 มิถุนายน ออกไปเป็นวันที่ 22 มิถุนายน 53 เวลา 09.30 น.  

        เพื่อให้ได้รับข้อมูลจากกรรมการบริหาร และพัฒนาหลักสูตร อย่างถูกต้องครบถ้วน เลขา ผนส. 4 (พี่แดง) จึงขอให้มีการเลื่อนการประชุมร่วมไปเป็นวันที่ 26 มิถุนายน  2553   ที่สันนิบาติ สหกรณ์ เวลา 11.30 น. ณ ห้องอาหารครัวสหกรณ์ (สันนิบาติ)  

       เลขา ผนส. 4  จึงขอเรียนเชิญ ผนส. ทุกรุ่นประชุมร่วมกันตามวันเวลาดังกล่าว

ถึงเลขา ผนส.รุ่น 3  คุณธนะ บำรุงแสง

        ขอให้กำลังใจที่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการชุมนุมฯ   เมื่อวานวันที่ 17 มิถุนายน  53 มีการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม  เรื่องมิติใหม่ของการพัฒนากรรมการสหกรณ์

        มีคำถามเรื่องที่มาของกรรมการชุมนุมฯ  ว่าการเลือกตั้ง และที่มาไม่ชอบด้วยกฏหมายกล่าวคือมีการเปิดห้องโรงแรมริชมอนด์ และโรงแรมย่านสะพานควาย มีการจ่ายค่าน้ำมัน และอื่น ๆ ให้กับสมาชิก  เรื่องดังกล่าวอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (คุณฉกรรจ์ แสงรักษาวงษ์) ได้ตอบคำถามว่า รู้ถึงการกระทำดังกล่าว  หากมีผู้สมัครอื่น ๆ ที่ไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว  สามารถที่จะฟ้องร้องไปที่กรมฯ  ได้เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

        ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว คุณธนะ  หรือผู้สมัครกรรมการ ท่านอื่น ๆ น่าจะฟ้องร้องให้ถึงที่สุดให้เป็นตัวอย่าง พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้วงการสหกรณ์เสื่อมเสีย

เห็นด้วยกับท่านผู้ไม่แสดงตนครับ เพราะว่าการเลือกตั้งเป็นการที่ได้กรรมการผู้ทรงเกียรติมา แต่หากว่าใช้วิธีการที่ผิดๆ ไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ไม่มีศักดิ์ศรีครับ และผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งมาแบบปล่อยผี หรือซื้อเสียงมา ก็ไม่น่าภาคภูมิใจหรอกครับ ก็รู้อยู่แก่ใจว่าได้มาโดยไม่ชอบ และขอให้ท่านเลขาธนะ บำรุงแสง หรือผู้สมัครรายอื่นที่ทำตามกฎหมาย ได้ดำเนินการรุกฆาต และดำเนินคดีอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้เป็นเยี่ยงอย่างและเพื่อศักดิ์ศรีของผู้ดำเนินการตามกฎหมายครับ ขอให้กำลังใจครับ และขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าทางกรมหรือทุกท่าน ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยครับ จึงจะมีศักดิ์ศรี และเป็นการที่จะเฟ้นหาคนดี มาทำงานให้พวกเราครับ

ผู้สงสัย และสนใจ

นมัสการ..พระอาจารย์ยม

สวัสดี..เพื่อนพ้องน้องพี่ชาว ผนส. ทุกท่าน ครับ

ขอให้กำลังใจ คุณธนะ ม้าเร็ว รุ่น ๓ คนตั้งใจทำงาน คนมีอุดมการณ์ คนเก่ง ที่มีภาวะผู้นำ ผู้ที่กล้าอาสาเป็นตัวแทนของคน อย่างท่านและพวกเราหลายๆคน อย่าท้อนะครับ ความจริงคืออะไร มันเป็นวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ แต่ครั้งนี้..ถือเสียว่าการเลือกตั้งคือกีฬา มีแพ้ มีชนะ คนที่มาจากการเลือกตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่ง โอกาสหน้าสู้กันใหม่ครับ สู้ สู้

ดอกกระเจียวที่ชัยภูมิ บานแล้วครับ "งานท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม" ระหว่างเดือน มิย.-สค. ขอเชิญ ผนส. พาครอบครัวไปพักผ่อนได้เลยนะครับ กำนันสุขสันต์ โทรมือถือของใครไม่รู้ แจ้งว่าจะพาคณะเที่ยวไปชัยภูมิ วันที่ ๑๓ กค. นี้ คุณสุรชัยและผม ยินดีต้อนรับ....คร๊าบ

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อน ๆ ผนส.3 ทุกท่าน

       สรุปผลการประชุมร่วม ผนส.2 และ ผนส.4

 การจัดงานต้อนรับ ผนส.5 ในวันที่ 8 ก.ค. 53

  • จัดในรูปแบบบายศรีสู่ขวัญ  ผนส. 5 มีจำนวน  50  ท่าน
  • เรียนเชิญคุณประดิษฐ์ หัสดี เป็นหมอขวัญ
  • หนังสือเชิญ ผนส. รุ่นพี่ร่วมงานพี่แดงรับดำเนินการประสานสันนิบาติ (คุณอรนุช)

    บรรยากาศในการประชุมเป็นได้ด้วยความเรียบร้อย เริ่มประมาณ 11.30 น. เลิกประมาณ 14.30 น. การประชุมไม่เครียด มีโจ๊ก ขั้นรายการเมื่อเครียด  ส่วนใครเป็นใครที่มาประชุม ดูตามรูปครับ

ขอขอบคุณพี่แดงที่เป็นเจ้าภาพอาหารกลางวันที่ครัวสหกรณ์

ชายคนหนึ่งเดินออกจากผับ มีขอทานคนหนึ่งหน้าตามอมแมม ตามตัวสกปรกนั่งอยู่ข้างทาง

' พี่ขอเงินสัก 20 ซิผมยังไม่กินข้าวเลย ' ขอทานเอ่ยปาก

ชายหนึ่งหยุดกึ่ก........ แล้วบอกว่า

' เอาอย่างนี้ ไปกินเหล้ากับพี่ พี่เลี้ยงเอง '

ขอทานบอก ' ไม่เป็นไรครับพี่ ผมไม่กินเหล้า '

ชายหนุ่มเลยบอก ' นั้นไปเล่นม้ากับพี่ไหม พี่ออกทุนให้ '

ขอทานก็ยังปฎิเสธ ' ผมไม่เล่นการพนันคับ '

ชายคนนี้เลยถามต่อ ' เอาอย่างนี้นั้น พี่พาไปลงอ่างดีกว่า '

ขอทานก็ตอบอีกว่า ' ผมไม่เที่ยวผู้หญิงด้วยคับ '

ชายหนุ่มเลยยิ้มนิดๆๆ เหมือนถูกใจแล้วถามว่า

' เมื่อกี้น้องขอตังค์ พี่เท่าไรนะ'

ขอทานบอก : 20 ครับพี่

ชายหนุ่มเลยก้มหน้าไปกระซิบว่า : เอางี้แล้วกันพี่ให้น้อง 200 เลย

ไปที่บ้านกับพี่หน่อยเด้อ !!!

ขอทานทำหน้า งงงง : ทำไมเหรอคับ พี่

ชายหน ุ่มควักตังค์ แล้วพูดว่า : ไปให้เมียพี่มันดู หน่อยว่ะ ว่าคนที่ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวผู้หญิงนะ สภาพมันเป็นอย่างไร.

.

ฉะนั้น เราควรมากินเหล้ากันเถอะ

สวัสดี ผนส ทุกคน

         หายหน้าหายตาไปนาน ต้องขอโทษด้วย แต่แอบมาเยี่ยมอยู่บ่อยนะ ช่วงนี้อยู่ในช่วงปิดบัญชี งานเลยยุ่งหน่อย (ปิด 30 มิถุนายน) ปีนี้ดีหน่อย ดอกเบี้ยค้างเข้าเป้า ดอกเบี้ยปีก็เข้าเป้า 

        วันก่อนได้มีโอกาสไปเยี่ยมพี่ต้อย(สกกพิมาย) มา ซึ่งไปครั้งนี้ไปเป็นครั้งที่ 2 หลังจากจบหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงมา แต่ไปครั้งหลังนี้ไปแล้วประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ เพราะหลังจากจบหลักสูตรผู้นำมาได้รู้จักกับพี่ต้อย พิมาย และป้าเครื่อ(สกกปราสาท) เลยนำคณะจากสหกรณืภาคใต้ไปดูงานเพื่อทำธุกิจข้าวสาร ร่วมกัน และสุดท้ายเราก็ทำธุรกิจร่วมกัน

         โครงการที่ทำธุรกิจร่วมกันกับสหกรณ์พิมาย และสหกรณ์ปราสาท คือการทำธุรกิจข้าวสาร เพราะสหกรณ์ทางภาคใต้ส่วนใหญ่ซื้อข้าวสารจากบริษัทเป็นส่วนใหญ่ และบริษัทส่วนใหญ่ก็ซื้อข้าวสารจากสหกรณ์ มาจำหน่ายสหกรณ์ทางภาคใต้ ผมและทีมงานได้มีความคิดร่วมกันว่าหากเรารวมกันซื้อข้าวสารจากสหกรณ์น่าจะดี ประจวบเหมาะกับกรมส่งเสริมสหกรณ์มีโครงการ ก็เลยได้มีโอกาสไปเจรจา การค้าข้าวสาร กับสหกรณ์การเกษตรพิมาย และมีข้อตกลงว่าจะซื้อข้าวสารจากสหกรณ์ทางภาคอีสาน ดดยให้ทางสหกรณ์การเกษตรพิมาย และสหกรณืปราสาท เป็นผู้ประสานทางภาคอีสาน และผมและทีมงานประสานงานในภาคใต้ โดยให้กรมส่งเสริมเป็นตัวกลาง

     เพื่อให้โครงการต่อเนื่องผมและทีมงานได้ตกลงกับสหกรณ์พิมาย จะซื้อข้าวสารกันประมาณ 100 ตัน ในช่วงแรก และจะเริ่มส่งมอบสินค้ากันในงวดแรกวันที่ 2 กรกฎาคม นี้ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี หากคนสหกรณ์สนับสนุนสินค้าสหกรณ์ด้วยกัน จะทำให้สหกรณ์ เจริญก้าวหน้าแน่นนอน

       สำหรับสหกรณ์ปราสาท (ป้าเครือ) อย่าเสียใจนะ เที่ยวหน้าจะสั่งจากพี่แน่นอน ขอให้พี่เตรียมสินค้าไว้ได้เลย

       

สวัสดีคะ ท่าน ผนส.1-4 ทุกคน

เป็นอย่างไรบ้าง จบแล้วอย่าร้างรากันไปเลยนะคะ หมั่นเข้ามาพูดคุย และทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เครือข่ายจะได้ไม่ขาดหายไปคะ งานเลี้ยงรับน้อง ผนส.5 พิธีเปิดจะมีขึ้นในบ่ายวันที่ 8 ก.ค.นี้ ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะทราบกันดีแล้ว ท่านใดจะมาบ้าง รบกวนแจ้งมาให้ทราบด้วยนะคะ จะได้เตรียมการต้อนรับได้อย่างถูกต้อง ซึ่งตอนนี้จะเป็นการเชิญรวม ไม่ระบุรายตัว ไม่ระบุชื่อสหกรณ์ ใช้คำว่า "ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 1-4" หากต้องการหนังสือถึงประธานสหกรณ์ของท่านโดยตรง สามารถติดต่อมาได้ คะ จะออกให้เป็นรายบุคคลคะ

อรนุช (ผู้ประสานงาน)

19 ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต

1. อย่าขับรถเร็วเกินกว่าที่เทวดาประจำตัวของคุณ บินทันเป็นอันขาด

2. การแก้แค้นไม่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เหมือนกับดื่มน้ำทะเลเวลาหิวน้ำนั่นแหละ

3. ความหมายของความสุข ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณอยากให้มันเป็น

4. อย่ากลัวความฝันของคุณ เพราะหากคุณจะทำตามฝัน มันก็ง่ายกว่าที่คิด

5. นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ทุกๆ 4 คน จะมีคนหนึ่งที่สติเพี้ยนๆ ลองเช็คเพื่อนคุณสัก 3 คนสิ ถ้าทุกคนปกติดีก็คุณน่ะแหละ

6. แบ่งปันรอยยิ้มของคุณให้กับทุกคน แต่ให้เก็บจุมพิตให้กับคนเพียงคนเดียว

7. น้ำตาจะให้คุณก็แค่ความเห็นอกเห็นใจ แต่เหงื่อจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ

8. สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ไม่ใช่วัตถุ

9. การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจ คือ การก้มลงแล้วช่วยคนอื่นให้ลุกขึ้น

10. คนๆ หนึ่งอาจทำอะไรผิดพลาดได้หลายอย่าง แต่มันจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ไปจริงๆ เมื่อเขาเริ่มโยนความผิดไปให้คนอื่น

11. เรารู้สึกดีที่มีความสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเป็นคนดี

12. มีแต่ปลาตายที่ลอยตามน้ำ

13. คุณค่าของคนๆ หนี่ง บอกได้จากวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนที่เขาไม่ต้องการ

14. เงยหน้าขึ้นรับแสงตะวัน แล้วคุณจะไม่มีวันพบกับเงามืด

15. คนอ่อนแอเท่านั้นที่ให้อภัยใครไม่เป็น การให้อภัยเป็นคุณสมบัติของผู้ เข้มแข็ง

16. ในโลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้า สำหรับเรามีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น

17. เมื่อคุณพูดความจริง คุณไม่จำเป็นต้องไปนั่งจำอะไรทั้งนั้น

18. เด็กๆ ต้องการความรักมากที่สุด เมื่อพวกเขาทำตัวไม่น่ารัก

19. คำว่า listen (ฟัง) นั้นใช้ตัวอักษรชุดเดียวกับคำว่า silent (เงียบ

อ่านนิทานก่อนนอนของท่านกำนันบ้านนอกเรื่องขอทานมอมแมมแล้วชอบจริงๆผมให้อีก200ร้อย ไปบ้านกำนันแล้วเลยพามาส่งที่บ้านผมด้วย วันที่8กคนี้มีใครมาบ้างเปิดตัวผนส.5 ผมว่าจะไปนะรับปากกับเจ้ากุ้งไว้แล้ว กำนันมาหรือเปล่างานนี้ขาดกำนันงานกร่อยแน่เลย อยากให้พวกเรามากันเยอะๆจะได้รวมรุ่นซักที แล้วเจอกัน บาย...

เรียน ผนส.1-4 ทุกท่าน

  เนื่องจากกำหนดการเปิดโครงการ ผนส.5 มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องมาจาก ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าง

สสท.ได้เรียนเชิญ ฯพณฯ รมช.อลงกรณ์  พลบุตร มาเป็นประธานในพิธี โดยมีกำหนดการใหม่ในเวลา  11.30 - 12.00 น. ของวันที่  8 กรกฎาคม 2553 จึงขอเชิญทุกท่านสละเวลามาร่วมงานในเวลาดังกล่าวโดยทั่วกันครับ

สวัสดี ทุกคน

         ต้องขอโทษด้วยวันที่ต้อนรับรุ่น 5 ไม่ได้ไปจริง ๆ ช่วงนี้ปิดบัญชีสหกรณ์พอดี  และอีกอย่างงานอื่นๆยุ่งมากเลย  ติดประชุมกรรมการดำเนินการประจำเดือนพอดี

         ไว้โอกาสหน้า ก็แล้วกัน

          แต่ก็ยังคิดถึงทุกคนอยู่เหมือนเดิม

ไม่มีอะไรขัดขวางการเชื่อมโยงของเราชาว ผนส. ได้  ตาม Link ข้างล่างนี้ได้เลยครับ

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677      รุ่น 1     

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426      รุ่น 2

           http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209          รุ่น 2

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359       รุ่น 3

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678       รุ่น 4

           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/372489       รุ่น 5

ขอบคุณ ผนส.3 ทุกท่าน ที่ไปและส่งใจไปต้อนรับ ผนส.5

งานสำเร็จด้วยดี โอกาสหน้าเราไปเชื่อมความสัมพันธ์กันอีกนะคะ

 แดง

สันติ ขจรเวชไพศาล ผนส.5

ผมสันติ ผนส. 5 ได้เข้ามาขอเยี่ยมชม รุ่นพี่ ผนส.3 ได้อ่านนิทานของท่านกำนันบ้านนอกเรื่องขอทานมอมแมมรู้สึกชอบมากเห็นบล็อคของพีแจ้บอกว่าให้เพิ่มอีก 200 ให้พามาที่บ้านด้วย ก็อยากจะบอกว่าถ้าไปบ้านพี่แจ้แล้วจะให้เพิ่มอีก 300 เลยอยากจะให้พามาให้คนที่บ้านดูบาง ครับก็ขอขอบคุณรุ่นพี่ ผนส.3 ทุกท่านที่ไปร่วมรับรุ่นน้อง ผนส.5 พวกเรารู้สึกถึงความรักความเอื้ออาทรของรุ่นพี่และความเป็นกันเองเป็นภาพที่พวกเราประทับใจและไม่ต้องสงสัยเลยว่าการที่ได้มาอบรมหลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงแล้วได้ประโยชน์อะไรบ้าง ก็ขอขอบคุณ ศ.ดร.จิระ หงส์ลดารมณ์ อาจารย์ สันนิบาตสหกรณ์ ผู้ประสานงาน รุ่นพี่ทุกท่าน

ภาพกิจกรรมพิธีเปิดและงานเลี้ยงต้อนรับ ผนส.5

ยินดีต้อนรับคุณสันติและชาวผนส5ทุกท่าน ขอเชิญเข้ามาเสวนาในบล็อคผนส.3ได้อย่างเต็มที่บล็อคนี้เปิดกว้างสำหรับชาวผนส.ทุกท่าน...ยินดีต้อนรับอีกครั้ง

ผนส3เจ้าแห่งบล็อคหายไปไหนกันหมดโดยเฉาะท่านประธานบัญชาพี่แจ้พี่จิ๋นกำนันบ้านนอกพี่สุทิศพี่อู๊ดพี่นกป้าเครือพี่ต้อยพี่น้อยพี่นิดเข้ามาหน่อยผนส5รอท่านอยู่

สวัสดี ประธานบัญชาพี่แจ้พี่จิ๋นพี่สุทิศพี่อู๊ดพี่นกป้าเครือพี่ต้อยพี่น้อยนัองกุ้งลุงพินพี่ทนะพี่จวบพี่ป้ทพี่สุรชัยพี่ยูรพี่นัดพี่ช่วยพี่ทศเทพพี่ทองปอนพี่อ๋อพี่อภิสิทธิ์พี่กิตติพลพี่ติ๊กพี่ประพันธ์น้องวีพี่ตงพี่สุรวงค์น้องสมพงษ์เเละรุ่น3ทุกๆท่านกำนันบ้านนอกยังคิดถึงเพือนทุกคนและยินดีต้อนรับสู่งานแห่เทียรสุพรรณบุรีปี53วันที่27นี้

นก ปากช่อง มาแล้วครับ

ก่อนอื่นต้องขอบแสดงความยินดีกับน้องผนส.5 ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาอบรมในสถาบันพิทยาลงกรณ์ อันทรงเกียรติ์ของพวกเรานี้ และยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความจริงใจครับ.......และผมต้องขออภัยน้อง ผนส5 ที่ผมไม่ได้ไปร่วมงานรับน้องครับ เพราะว่าต้องเดินทางไปประเทศมาเลเซีย กลับมาไม่ทันครับ โดยปกติผมก็ไปงานรับน้อง ทุกงานอยู่แล้ว และขอขอบคุณน้อง ผนส.5 มากที่ได้มีน้ำใจเขียนเข้ามาในบล๊อก ของพวกเรา ผนส.3 นี้ และหวังว่าเราคงจะได้มีโอกาสได้พบปะกันแน่นอนครับ เอาไว้ผมจะไปเยี่ยมที่สถาบันนะครับ และผมขอขอบพระคุณในน้ำใจของกำนันด้วยครับ ผมก็คิดถึงกำนันและเพื่อนๆ ทุกคนครับ คิดถึงภาพความหลังแล้วยังมันส์ไม่หายเอาไว้เจอกันนะครับ และหากว่าเพื่อนๆ มีกิจกรรมอะไรก็ติดต่อได้ตลอดครับ ทางอีเมล์ก็ได้ครับ หากว่าผมไม่ติดภาระกิจสำคัญ ยินดีไปร่วมงานครับ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ

นก ปากช่อง

ดีใจที่หลายๆท่านกลับเข้าสู่เกมส์เฟสบงเฟสบุ๊คเอาไว้ก่อนอย่างนี้สนุกกว่าไม่เข้าไปลึกเกินข้อมูลที่น่าจะรู้ส่วนบุคคล ผนส5ตอนนี้ก็เริ่มเข้มข้นขึ้นก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน รีบส่งงานการบ้านแต่เนิ่นๆ อย่าเอาแบบรุ่นพี่(3)ส่งไม่ค่อยจะทันติดประชุมสัญจรตอนค่ำๆกันบ่อยๆ บิ๊กอู๊ดกวนอูหายไปไหนเข้ามาหน่อยน้องๆรออยู่

ขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับ ผนส.๕ ทุกท่าน ขออภัยที่ไม่ได้ไปต้อนรับ เนื่องจากติดภาระกิจของผู้นำ วันแห่งความสำเร็จฉลองรับมอบวุฒิบัตรฯ ตั้งใจจะไปร่วมงาน..ชัวร์ครับ

สวัสดีงาม ๆ ครับ พี่ ๆ เพื่อน ผนส.๓ ทุกท่าน ช่วงนี้มีเวลาเปิดอ่าน blog แต่ไม่มีเวลาเขียน(จริงๆ) เพราะภาระกิจของผู้นำมีมากขึ้น ต้องไปประชุม สัมมนา อบรม และทำงานของสหกรณ์ที่ผมรับจ้างอยู่ก็พอดีกับ ๒๔ ชั่วโมงของแต่ละวัน มีโอกาสเจอพี่ ๆ เพื่อน ๆ หลายครั้ง นี่ขนาดท่านกำนันแห่งบึงฉวาก เมืองสุพรรณบุรี พาคณะไปเที่ยวที่ชัยภูมิ แจ้งล่วงหน้าตั้งหลายวัน ผมไม่ได้อยู่คอยต้อนรับเลย ดีนะที่คุณสุรชัย รับเป็นไก๊ด์แทน เพราะผมอยู่ที่กรุงเทพฯ วันรุ่งขึ้นผมต้องไปกับน้องนกแอร์ ข้ามชัยภูมิไปประชุมที่อุดรธานี

ในช่วงนี้สหกรณ์ที่ผมรับจ้างเป็นผู้จัดการ กำลังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการจัดงานใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม ซึ่ง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้กำหนดจัดงาน"พิธีถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนีนาถ" และ "งานโครงการพลิกฟื้นธุกิจผ้าไหมภาคสหกรณ์" ในวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ ณ สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจะมีผู้ร่วมงานจากสหกรณ์ทั่วประเทศ สวมใส่ชุดผ้าไหมไทย กว่า ๕,๐๐๐ คน ท่านใดที่เคยมาเห็นสหกรณ์ของเราก่อนนี้ จะรู้สึกถึงความแตกต่างต้องบอกต่อ เพราะ Change ในโอกาสนี้ขอเรียนเชิญชาว ผนส. ทุกรุ่น ร่วมงานนะครับ

วันที่ ๑๒ สิงหาคม ขอเชิญ...ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดการประชุม(สัญจร)ที่ สหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด พิธีเปิดโดย นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รายละเอียดกำลังจัดส่งไปยังสหกรณ์สมาชิกชมรม ครับ

สวัสดีครับ ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงทุกรุ่น(1-5)

สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด ขอต้อนรับคณะผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 5 คณะอาจารย์และสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยขอบคุณที่ได้เลือก สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด เป็นที่ศึกษาดูงาน เป็นกรณีศึกษา เป็นต้นแบบ ในการศึกษาการเรียนรู้ของหลักสูตรผู้นำสหกรณ์รุ่นที่ 5 ซึ่งจะไปศึกษาดูงานในวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2553 นี้ ซึ่งขณะนี้ทางท่านประธานและคณะกรรมการดำเนินการและฝ่ายจัดการได้เตรียมการต้อนรับล่วงหน้ามากว่า10 วัน แล้ว

ฝากความระลึกถึงผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ 3 ทุกท่านด้วยครับ สวัสดีครับ

คนสหกรณ์เหมือนกัน

ขอแสดงความยินดีสำหรับบล็อกของผนส3ที่ทะลลุเป้าไปสองเหมื่อนกว่าแล้ว น่ายินดีจริงๆ isyll6j,รหัสสุ่มน่าเบื่อจริงๆๆๆนะอ.ยม

คลายเครียดให้กับวันทำงาน

ชายหนุ่มคนหนึ่ง บ่นกับเพื่อนว่า

' อั๊วรู้สึกเจ็บข้อศอกอย่างรุนแรง

สงสัยจะ ต้องไปหาหมอล่ะ '

' เฮ้ยไม่ต้อง มีร้านขายยาคอมพิวเตอร์ร้านนึง

มีเครื่อง อัจฉริยะ ถูกกว่า เร็วกว่าไปหาหมอเยอะง่าย ๆ

แค่เอาตัวอย่างปัสสาวะใส่ไปในเครื่อง

คอมพิวเตอร์จะวินิจฉัย และให้คำแนะนำออกมาเสร็จ

แค่ร้อยเดียว ' เพื่อนรัก บอก

ชายหนุ่มคิดในใจ ว่าลองดูก้อไม่เสียหายอะไรว่าแล้ว

ก็ฉี่ใส่กระป๋องแล้วตรงไปร้านขายยาที่ว่า พอเจอเครื่อง

ก็จัดการเทปัสสาวะเข้าเครื่องหยอดเหรียญ

กดปุ่ม

ซักครู่ เครื่องเริ่มส่งเสียงทำงาน

ไฟกระพริบแล้วพิมพ์กระดาษรายงานผลออกมา

' คุณเป็นโรคเอ็นข้อศอกอักเสบ ให้เอาข้อศอกแช่น้ำอุ่นบ่อย ๆ

หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก จะดีขึ้นภายในสองสัปดาห์ '

เย็นวันนั้น

ขณะที่นั่งคิดทึ่งในความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีปัจจุบันเค้า

นึกสงสัยว่า คอมพิวเตอร์ จะตอบมั่ว ๆ ไปเรื่อยหรือป่าว

คิดได้ดังนั้น เค้าจัดการทดสอบทันที โดยการเอาน้ำก๊อกที่บ้านผสม

กับอุจจาระของหมาที่เลี้ยงไว้ และ ปัสสาวะของภรรยา และ ลูกสาว

ปิดท้ายด้วยการช่วยตัวเอง เอาน้ำอสุจิเติมลงไป จัดการเขย่าให้เข้ากัน

แล้วตรงกลับไปที่ร้านเก่า

หลังจากหยอดเหรียญ เครื่องก็ทำงานและพิมพ์รายงานออกมา

' น้ำก๊อกบ้านนายกระด้างเกินไป ควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำกระด้าง '

' หมานายมีพยาธิ ควรให้มันกินยาฆ่าพยาธิ '

' ลูกสาวนายติดยา ควรพาเธอเข้ารับการฟื้นฟูบำบัด '

' เมียนายตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ แต่ไม่ใช่ลูกนาย ควรจะปรึกษาทนายความ '

' และสุดท้าย ถ้านายยังไม่เลิกช่วยตัวเองด้วยมือบ่อย ๆ เอ็นข้อศอกอักเสบ

ของนายไม่มีวันหายแน่ '

ฮา...ตรึม ...ขอแนะนำให้แก้ปํญหาที่ต้นเหตุ..ตัดจู๋ทิ้งซะ..ข้อศอกก็จะไม่อักเสบอีกต่อไป(ฮา.... อีกรอบ)..ใช่ไหมกำนัน

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อนๆ ผนส.

                                    

คำถาม...เพื่อเพิ่มความรู้ และให้หายสงสัย

ระหัสสุ่ม คืออะไร ?

สร้างไว้เพื่อประโยชน์อะไร ?

Subject: เทคนิคการใช้ชีวิตคู่อย่างยั่งยืน...

การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

สัมภาษณ์เสี่ยแป๋ง และ ภรรยาว่า

มีเทคนิคอย่างไรจึงใช้ชีวิตคู่กันอย่างชื่นมื่นยาวนาน ?

ต้องการให้คนรุ่น! ใหม่นำไปเป็นตัวอย่าง ….

ชีวิตคู่จะได้มีความสุขและยั่งยืน …..

ภรรยาเสี่ยแป๋ง: อ๋อ …. ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ …

ตอนที่แต่งงานกับพี่แป๋งใหม่ๆ พี่เขาพาไปฮันนีมูนบนเขา

ขนเอาสัมภาระบรรทุกบนหลังม้าขึ้นไป ….

ขณะเดินทางม้าเกิดพยศ ไม่ยอมเดินต่อ

พี่แป๋งเอามือลูบหัวแล้วพูดกับม้าว่า … “ ครั้งที่ 1 “

ม้าจึงยอมเดินต่อ … ขึ้นไปได้ครึ่งทาง ม้าเกิดพยศอีก

พี่แป๋งเอามือลูบหัวแล้วพูดว่า … “ ครั้งที่ 2 “

ม้าเลิกพยศและเดินต่อ ….

เมื่อใกล้ถึงยอดเขาม้าเกิดพยศอีก

คราวนี้พี่แป๋งไม่พูดอะไรเลยสักคำค่อย ๆ เดินเอามือไปลูบหัว

แล้วหยิบปืนในกระเป๋ายิงเปรี้ยงเข้ากลางแสกหน้า … ม้าตายสนิทคาที่

หลังจากฮันนีมูนวันนั้นเป็นต้นมาชีวิตคู่ของเราก็มีแต่ความสุขราบรื่น ….

มีบางครั้งที่ดิฉันโกรธ โมโห ไม่พอใจ บ่น พูดจาว่ากล่าวรุนแรงไปบ้าง

พี่แป๋งก็เป็นฝ่ายยอม เป็นผู้ชายที่ใจดีมาก ไม่โกรธ ไม่โมโห มีเมตตา

แค่เดินมาลูบหัวดิฉันแล้วกระซิบข้างหูว่า.... “ ครั้งที่ 1 ”

หลังจากนั้นดิฉันก็ไม่เคยขัดใจเขาเลย .!!!!!!!

ข้อห้าม5 ข้อ เมื่อคุณจะเข้านอน

fwdmail

สิ่งที่ห้ามทำ 5 ข้อ เมื่อคุณจะเข้านอน

1) ห้ามใส่นาฬิกาข้อมือ เมื่อเข้านอน เพราะนาฬิกาข้อมือจะปล่อยรังสีอะตอมขนาดเล็กออกมาขณะที่ร่างกายพักผ่อน ซึ่งมันจะมีผลกระทบกับสุขภาพคุณแน่นอน

2) ห้ามใส่เสื้อชั้นในสตรี เมื่อเข้านอน นักวิทยาศาสตร์อเมริกาได้ค้นพบว่าถ้าใส่ บราเกิน 12 ช.ม. ต่อวัน คุณๆ ผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงสูงในการเป็นมะเร็งเต้านม เข้านอนโดยปราศจากบรากันเถอะค่ะ

3) ห้ามวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัว เมื่อเข้านอน หรือข้างเตียงโดยเฉพาะบางคนใช้มันเป็น

นาฬิก าปลุก ควรวางไว้ห่างๆ ตัวเอง นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าวงจรอิเล็คโทรนิคในโทรศัพท์มือถือ ชุดเครื่องเสียงและโทรทัศน์จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กขณะใช้งานซึ่งส่ง

ผลกระทบระบบประสาท ดังนั้นถ้าคุณจำเป็นต้องวางไว้ใกล้ตัวขณะนอน.....ปิดเครื่องพวกมันซะนะคะ

4) ห้ามเข้านอน โดยไม่ได้ล้าง make up บนหน้า ถ้าเข้านอนโดยไม่ได้ลบ Make up บนใบหน้าจะทำให้เกิดปัญหากับผิวในระยะยาวเพราะผิวหนังจะขับของเสียขณะนอนหลับได้ลำบาก

5) ห้ามเข้านอนกับ สามีหรือภรรยา ของคนอื่นเพราะอาจจะไม่ตื่นอีกเลย

ทราบว่า ผนส.5 จะปิดหลักสูตรวันที่ 7 ตค. นี้ เชิญเพื่อนๆผนส.3 ร่วมงานกันนะค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อนๆ ผนส.

                       ห่วงใยเสมอๆ

   คิดถึงก็คลิ๊กไปเลยจร้า  http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209

ก่อนอื่นต้องขอโทษ ที่หายหน้าหายตาไปนานหลายวัน ไม่ได้หายไปไหนหลอก ไปทำการค้าข้าวสาร กับป้าเครือ และพี่ต้อยอยู่ ต้อนนี้ได้ทำไปทะลุเป้าแล้ว 100 ตัน ตามที่ตั้งใจไว้ และคิดว่าต้องทำไปเลื่อย

วันหลังจะพยายามเข้ามาเยี่ยม มากกว่านี้ แล้วคนอื่นๆ หากไปไหนหมดละ รุ่น 5 เขาจะปิดโครงการอีกแล้ว นะ รุ่น 3 ไม่มีโครงการจะทำอะไรกันบ้างหรือ

คิดถึงเพื่อน ๆ ผนส.3 ทุกคนจังเลย มีกำนันบ้านนอกมีอะไรดี ๆ เล่าให้เพื่อนฟัง ป้าอ่านแล้วหัวเราะอายุยืนหมื่นปีแน่นอน เมื่อไหล่จะไปเที่ยวเขมรอีกค๊ะ วันที 13 กันยายนนี้ก็จะได้ต้อนรับคุณสุทีศและคณะจะมาเยี่ยมดูข้าวสารหอมมะลิสุรินทร์ยินดีต้อนรับค่ะ

สวัสดีเพือนๆผนส.3สวัสดีป้าเครือท่านสุทิศคนขยันห่งแดนใต้ท่านกำนัน(เตือนครั้งที่1) ไม่ได้ห่างหายไปไหนเข้ามาดูบ่อยๆแต่เข้ามาดึกเลยง่วงๆเพลียๆวันนี้อ่านข้อ5ของท่านกำนันแล้วตาสว่างเลย(เป็นห่วงคนเขียนนั่นแหละทั้งข้อ5ทั้งศีล5) เห็นป้าเครือpostเข้ามานึกขึ้นได้ว่าเดือนพฤศจิกายน นี้จะไปส่งลูกสาวไปใช้ทุนแพทย์ที่โรงพยาบาลจอมพระ สุรินทร์ รบกวนป้าเครือแนะนำเส้นทางให้หน่อยจะขับรถขึ้นไปเอง จะแวะหาข้าวหอมมะลิกินสักมื้อ แล้วจะเลยไปเยี่ยมท่านฮุนเซ็นด้วยช่วยพาไปหน่อย แล้วเจอกันนะจ๊ะ แค่นี้ก่อนนะฝันดีทุกท่าน

อนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ ผนส.5

ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง” รุ่นที่ ๕ โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี

ณ วัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

-------------------------------------------------------------

ด้วยวัดพระบาทน้ำพุมีสิ่งสำคัญในวัดได้แก่ รอยพระพุทธบาทถูกครอบอยู่ภายใต้มณฑป มีโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ที่ฟักฟื้นและรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้ายที่อาจจะกล่าวได้ว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอุโบสถขนาดกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร มีพระประธานพร้อมด้วยพระอัครสาวก นอกจากนี้ในถ้ำบนเขาที่อยู่ในวัด ภายในมีหลวงพ่อดำ ปางมารวิชัยสมัยอยุธยา และพระโพธิสัตว์ ๙ องค์ ส่วนบนยอดภูเขาพระอุทัย อโนโม สร้างหลวงพ่อขาวขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๕๒๓

วัดแห่งนี้เริ่มต้นรับรักษาและพักฟื้นผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์ครั้งแรกเมื่อพ.ศ. ๒๕๓๕ และดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ริเริ่มโครงการคือเจ้าอาวาส พระอาทรประชานาถ การดำเนินการเกี่ยวกับโรคเอดส์มีสองส่วน ส่วนแรกคือรับดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วไปจากทั่วประเทศ ส่วนที่สองคือการรับอุปการะเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบโรคเอดส์จากบิดามารดา ทั้งสองส่วนอยู่ในการดูแลของวัดประมาณ ๒,๐๐๐ คน แบ่งเป็นเด็กประมาณ ๑,๓๐๐ คน ในแต่ละเดือนวัดจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ ๔ ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าอาหาร ยารักษาโรค ค่าบริหารจัดการภายในวัด และค่าเผาศพ ปัจจุบันได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลประมาณเดือนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือพร้อมทั้งยาต้านไวรัสเอดส์และอาสาสมัครเป็นการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งวัดพระบาทน้ำพุ ยังขาดทุนทรัพย์เพื่อใช้จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก คณะ “ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง” รุ่นที่ ๕ โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อเป็นทุนทรัพย์สนับสนุนโครงการของทางวัดดังกล่าว

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้ท่าน และครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติ ตลอดกาลนานเทอญ

กำหนดการ

วันเสาร์ที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

เวลา ๐๗.๐๐ น. ออกเดินทางจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ถนนพิชัย กทม.

เวลา ๑๐.๐๐ น. ตั้งองค์ผ้าป่าสามัคคี

เวลา ๑๐.๑๙ น. พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี

เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์

เวลา ๑๒.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน

จัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่อาสาสมัคร/เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยในความดูแลของวัด

เวลา ๑๓.๐๐ น. เดินทางกลับ

ประธานฝ่ายสงฆ์

ท่านเจ้าคุณพระอุดมประชาทร (เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ)

ประธานฝ่ายฆราวาส

นายมงคลัตถ์ พุกะนัดด์ ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและพัฒนาหลักสูตร โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์

เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ

นายศิริชัย ออสุวรรณ ประธานนักศึกษาโครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ หลักสูตรผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ ๕

รองประธาน

(ฝ่ายคณะกรรมการบริหารและพัฒนาหลักสูตร และทีมงานบริหารโครงการผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง)

ดร.ปรีชา สิทธิกรณ์ไกร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

นายเลอพงษ์ มุสิกะมาน รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

นายสมชาย ศิริรุ่งกิจ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศฯ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์

นายสมเพียร ศรีปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อสถาบัน ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ

นายเฉลิมพล ดุลสัมพันธ์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด

นายอเนก ศรีสำราญรุ่งเรือง ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ จำกัด

นายชินชัย สถิรยากร ประธานกรรมการสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด

อ.ยม นาคสุข ผู้อำนวยการศูนย์บริหารและพัฒนาทุนมนุษย์

ดร.สุวิชัย ศุภรานนท์ ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

นางสาวอำไพ เหลืองภิรมย์ รองผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

นายเกรียงไกร ขำอินทร์ หัวหน้าสถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ

นางสาวอรนุช กันภัย ผู้ช่วยหัวหน้าสถาบันพิทยาลงกรณและวิชาการ

รองประธาน

(ฝ่ายผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง รุ่นที่ ๕)

นายวีรศักดิ์ สงเคราะห์ รองประธาน สหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด จ. จันทบุรี

พันเอกยุทธเดช พุฒตาล กรรมการ สสหกรณ์ออมทรัพย์กองบัญชาการกองทัพไทย จำกัด

รศ.ปรากรม ประยูรรัตน์ ประธานกรรมการร้านสหกรณ์มหาวิทยาลัยบูรพา จำกัด จ.ชลบุรี

นายวัฒนศักดิ์ จังจรูญ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรเขาสวนกวาง จำกัด จ.ขอนแก่น

นายณฐกร แก้วดี กรรมการผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ธุรกิจก๊าซ ปตท. จำกัด จ.ชลบุรี

นายสันติ ขจรเวชไพศาล ประธานกรรมการสหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จ.ระยอง

นายชัยณรงค์ กัณหา ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรเมืองศรีสะเกษ จำกัด จ. ศรีษะเกษ

นายรุ่งโรจน์ วรชมพู กรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขนครราชสีมา จำกัด จ.นครราชสีมา

นายธวัชชัย อินทรทัต รองประธาน สหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจกฟน. จำกัด

นายสมชาย ทองพันธ์อยู่ ประธานกรรมการ ชุมนุมร้านสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด

นายคำนึง โสตถิอุดม กรรมการ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด

นายมานะ สุดสงวน รองประธาน ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด

นายศรชัย วิจิตรพร ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพระหฤทัยเชียงใหม่ จำกัด จ.เชียงใหม่

นายภาวัต ศุภสุวรรณ ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเคหะรัษฎาภูเก็ต จำกัด จ. ภูเก็ต

นายภราดร สื่อมโนธรรม ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์มูลนิธิโครงการหลวง จำกัด จ. เชียงใหม่

พันตำรวจเอกบุญชัย ฤาชัยสา กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด

นายอนุวรรตน์ อิ่มสมบูรณ์ เลขานุการ สหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี จำกัด จ.จันทบุรี

นายอัมพร เลิศกิจเจริญไพศาล กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย จำกัด

นายวิเชียร พวงศรี ประธานกรรมการสหกรณ์บริการเดินรถนครสวรรค์ จำกัด จ.นครสวรรค์

นายอานุภาพ กระจ่างแจ้ง ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองระยอง จำกัด จ. ระยอง

นายจิตติ เจียมเจือจันทร์ ผู้จัดการ สหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด จ.อุทัยธานี

นายเติมศักดิ์ จันทะจร ผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมหาสารคาม จำกัด จ. มหาสารคาม

นายทักษิณ สารมณี ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรชนบท จำกัด จ.ขอนแก่น

นายอดิศักดิ์ ฟักแฟง ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรคลองขลุง จำกัด จ.กำแพงเพชร

นายศิริพงษ์ มีประเสริฐ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมา จำกัด จ.นครราชสีมา

นางเจริญศรี โสระมัด ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรขาณุวรลักษณ์ จำกัด จ. กำแพงเพชร

ว่าที่ ร.ท.สุวรรณ แป้นเพ็ชร ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรสามโคก จำกัด จ.ปทุมธานี

นายอารี ภู่สกุล ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองอยุธยา จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา

นายถาวร เนคมานุรักษ์ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรบางบาล จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา

นายสมคิด ศรีพยัคฆ์ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรบางกรวย จำกัด จ. นนทบุรี

นางสาวสุมาลัย รักเขตรการ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรลานสัก จำกัด จ. อุทัยธานี

นางยุวดี เสือพันธุ์เจริญ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด จ.อ่างทอง

นายชูชีพ วงษ์สูง ผู้จัดการ สหกรณ์ประมงระยอง จำกัด จ.ระยอง

นายอรุณ พรหมคำ ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรเมืองสงขลา จำกัด จ. สงขลา

นายศุภกร ชูเกษม ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรปักธงชัย จำกัด จ. นครราชสีมา

นายเกษม ศรีเกื้อกลิ่น ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรพังโคน จำกัด จ. สกลนคร

นายเจนวิทย์ อภิชัยนันท์ ผู้จัดการ ร้านสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด

นายมาโนช วรรณบุตร นักวิชาการฯ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลพบุรี

นางสาวภาวินี ตุวยานนท์ นักวิชาการฯ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม

นางอรพิน เทียมเมฆ นักวิชาการ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์

นายจิระ พิมลลิขิต ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด

นายกังวาล เนียมสุวรรณ ผู้อำนวยการกองการพัฒนาธุรกิจฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

นายศิริศักดิ์ หลงจิตร ผู้บริหารทีมฝ่ายสินเชื่อฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำกัด

นายวิรัช รมณีย์ ผู้บริหารทีมฝ่ายสินเชื่อฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำกัด

นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ ผู้บริหารทีมฝ่ายสินเชื่อฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำกัด

นายสุรพล ชัยมาลา รองเลขาธิการ สมาคมเศรษฐศาสตร์สหกรณ์แห่งประเทศไทย

นายชโลทร สุวรรณลาภเจริญ เลขานุการ สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิต จำกัด

นางศิริวรรณ ปัญญาธรรม ผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด

นางสิริพชนันท์ ชิตญาติ รองผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟน. จำกัด

กรรมการ

ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูงรุ่นที่ ๑ รุ่นที่ ๒ รุ่นที่ ๓ และรุ่นที่ ๔ ทุกท่าน

นางสาวชไมพร ตันกุล นายประทิน บุญตุ้ย นายภูมินทร์ เจือไทย

นายบัณฑิต แทนอิสระ นางสาวจิตรลดา ลียากาศ นางสาวเอราวรรณ แก้วเนื้ออ่อน

ท่านที่ประสงค์จะมอบปัจจัยเพื่อร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีครั้งนี้ สามารถดำเนินการได้ ดังนี้

1. ฝากส่งมากับประธาน รองประธาน และกรรมการทุกคน

2. ฝากเข้า บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาสยามสแควร์

เลขที่บัญชี ๑๕๒ ๔ ๖๙๓๐๖ ๔

ชื่อบัญชี “นายบุญชัย ฤาชัยสาและนางศิริวรรณ ปัญญาธรรมและนายเจนวิทย์ อภิชัยนันท์”

“ผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง” รุ่นที่ ๕ โครงการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี

ณ วัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

วันเสาร์ที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๑๙ น.

------------------------------------------------------------------

ชื่อ-นามสกุลผู้บริจาค…………………………………………………………………………………………………..………

ที่อยู่ สหกรณ์ เลขที่……………….หมู่ที่…………….ถนน………………………..….ตำบล/แขวง…………………………..

อำเภอ/เขต……………………………จังหวัด………………...........................................รหัสไปรษณีย์……………………

จำนวนเงินบริจาค…………………………………..บาท

โดยทาง (กรุณาทำเครื่องหมาย / ในช่องว่างด้านล่าง)

( ) ฝากส่ง ชื่อบุคคล.........................................................................................................................

( ) ฝากเข้า บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาสยามสแควร์

เลขที่บัญชี ๑๕๒ ๔ ๖๙๓๐๖ ๔

ชื่อบัญชี “นายบุญชัย ฤาชัยสาและนางศิริวรรณ ปัญญาธรรมและนายเจนวิทย์ อภิชัยนันท์”

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว

จงประสบแต่ความสุขความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติตลอดกาลนานเทอญ

หมายเหตุ กรุณาส่งใบนำฝาก และเอกสารฉบับนี้ กลับไปยัง

คุณศิริวรรณ ปัญญาธรรม หมายเลขโทรสาร ๐๒-๖๑๑-๗๔๑๑

เพื่อจัดทำใบอนุโมทนาบัตรส่งให้แก่ท่านต่อไป

เอ้าช่วยกันทำบุญหน่อย บุญก็ทำกรรมก็สร้าง

คิดถึงเพื่อนผนส. 3 ทุกๆคนจาก vee24

สวัสดีครับ ผนส 3 ทุกคน ขอความกรุณา เข้ามาทักทายกันหน่อย ว่าทุกคนยังอยู่ อย่าแอบเข้ามาดูอย่างเดียวนะ

ส่วนผมช่วงนี้มีการประชุมกลุ่มทุกวัน แวนที่ 30 นี้จะประฃุมใหญ่ ปีนี้มีกำไรนิหน่อย จะจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิกร้อยละ 6

ร้อยละ6เยี่ยมมากสุทิศ (คนขยันแห่งแดนใต้) ขอชมเชยด้วยความจริงใจ...ปีหน้าตั้งเป้าไว้เท่าไหร่(ร้อยละ10ได้ไหม) ผนส.3หายไปไหนกันหมดสงสัยหนีไปเล่นfacebookกับอาจารย์ยม... เข้ามากันหน่อยพวกเราชาวผนส.3

อีกมุมมองของชีวิตที่คุณคิดไม่ถึง

อีกมุมมองของชีวิตที่คุณคิดไม่ถึง

แต่อย่าคิดว่ามันจะไม่มี.....ลองอ่านดู

มีคู่รักคู่หนึ่งนั่งรถเมล์ที่กำลังตรงไปในเมืองในหุบเขา มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ลงกลาง ทาง หลังจากที่พวกเขาได้ลงแล้ว รถเมล์ก็วิ่งต่อไป แต่เพียงไม่นานก็มีหินก่อนขนาดมหึมา ได้ตกลงมาจากที่สูงมาก และทับรถเมล์คันนั้นพังยับเยิน ทุกคนที่อยู่ในรถในเวลานั้นเสียชีวิต ทั้งหมด คู่รักคู่นั้นเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

...... ก็พูดขึ้นว่า ' ถ้าพวกเรายังอยู่ในรถคันนั้นก็ดี น่ะซิ!' ........

......งง.........งง.............งง.............

งง...........งง..................งง.......

คนส่วนใหญ่น่าจะคิดว่า 'ยังดีนะที่เราลงจากรถก่อน!'

แต่คู่รักคู่นี้กลับพูดสิ่งที่ต่างจากคน ส่วนใหญ่

คุณคิดว่าเพราะอะไร ???

....ตอบมาก่อนซิ ว่าคิดว่าไง...

......ถ้าคุณคิดไม่ออกจริง ๆ ลองอ่านคำตอบด้านล่างซิ.......

พวกเขาคิดว่า....

"ถ้าพวกเขายังคงอยู่และไม่ได้ลงจากรถ รถเมล์คันดังกล่าวก็จะไม่ต้องหยุดรถเพื่อพวกเขา และจะขับเลยตำแหน่งที่หินถล่มลงมา!! "

.....................................................

ในชีวิตของพวกเรานั้น ให้ลองมองด้วยมุมมองที่ต่างจากของตัวเอง

และพยายามเข้าใจและช่วยเหลือผู้ อื่นมากขึ้น

อย่าได้ใช้ชีวิตอย่างขาดสติและเฉยเมย ทำเพื่อตัวเองอีกต่อไปเลย

กระถางต้นไม้กับความพดี

สมมติว่ามีกระถางต้นไม้อยู่ 2 ใบ ที่มีขนาดเท่ากัน

..ใบแรกใส่ดินก้อนใหญ่

..ส่วนใบที่สองใส่ดินที่ก้อนเล็กๆ

ถ้าใส่จำนวนก้อนเท่าๆกัน ถามว่ากระถางใบไหนจะเต็มก่อนกัน

แน่นอนคำตอบที่ได้ก็คงไม่พ้นใบที่ใส่ดินก้อนใหญ่ จากนั้นใส่ดินให้เต็มทั้งสองกระถาง แล้วลองเติมน้ำลงไปเท่าๆกัน ถามว่าน้ำของกระถางใบไหนจะไหลออกจากก้นกระถางหมดก่อนกัน คำตอบที่ได้ก็คงจะไม่พ้นกระถางใบที่ใส่ดินก้อนใหญ่อีกเช่นเคย

แล้วลองมองกลับมาที่ตัวเรา ถ้าเปรียบชีวิตเป็นกระถาง ,เปรียบสิ่งของเครื่องใช้เป็นดิน, เปรียบน้ำเป็นรายได้ของเรา

คุณคิดว่าได้อะไรจากข้อความข้างบน

แน่นอนว่าถ้าดินก้อนใหญ่ เราก็สามารถเติมเต็มชีวิตได้เร็ว แต่เงินทองที่เราหามาได้จะหมดไปอย่างรวดเร็ว ความชุ่มชื้นคงอยู่ได้ไม่นาน ต้องเทนำลงไปบ่อยๆเพื่อรักษาความชุ่มชื้นไว้ ต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมาก กว่าจะหล่อหลอมให้ดินเป็นปึกแผ่นเป็นเนื้อเดียวกัน

แต่ถ้าดินก้อนเล็ก กว่าที่ดินจะเต็มกระถางอาจจะใช้เวลานานกว่า แต่น้ำที่เทลงไปจะคงอยู่ในกระถางได้นานกว่า รักษาความชุ่มชื้นไว้ได้นานกว่า โอกาสที่จะเป็นปึกแผ่น เป็นเนื้อเดียวกันสามารถทำได้ง่ายกว่า

ถ้าคนเรารู้จักประมาณตน ไม่ใช้สิ่งของที่เกินกำลัง(ไม่ยึดติดกับวัตถุ) ก็คงจะดี จริงมั้ย

ถ้าคิดจะใช้ดินก้อนใหญ่ ก็ต้องหาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ แต่ถ้าแหล่งน้ำเล็กก็คงจะเดือดร้อนแน่นอน....

วันนี้ได้อ่านบทความดีๆเลยนำมาฝากกัน

ความสำคัญของ "กระดุมเม็ดแรก"

เคยไหมที่คุณตื่นนอนยามเช้า ครึ่งหลับครึ่งตื่น สวมเสื้อราวกับคนไร้วิญญาณ

เมื่อกลัดกระดุมเสร็จแล้วก็พบว่า ชายเสื้อทั้งสองข้างไม่เท่ากัน คุณกลัดกระดุมผิดทั้งแถว!

มันเริ่มจากการที่คุณไม่รู้ว่า คุณกลัดเม็ดแรกผิด แล้วกลัดต่อไปทีละเม็ดอย่างถูกต้อง

เมื่อกลัดกระดุมเสร็จสิ้น ก็ผิดทั้งหมด

ในตัวอย่างนี้ ความไม่รู้ทำให้คุณ 'กลัดกระดุม' ผิดทั้งแถว!

เคยไหมที่คุณเก็บเนื้อในตู้เย็นนานข้ามปี จนเนื้อหมดอายุ แต่ไม่ยอมทิ้ง

เพราะเป็นเนื้อจากต่างประเทศ ราคาแพง

คุณปรุงอาหารจนเสร็จ เมื่อกินแล้วไม่อร่อยหรืออาหารเป็นพิษ

ในตัวอย่างนี้ ความเสียดายทำให้คุณ 'กลัดกระดุม' ต่อไป ทั้งที่รู้ว่าเม็ดแรกผิดรู!

เคยไหมที่คุณสมัครเรียนสายวิชาที่คุณไม่ชอบ ไม่ว่าเพราะพ่อแม่บังคับ

หรือไม่รู้จะเรียนอะไรนอกเหนือจากสายนั้น คุณสอบได้ ลงทะเบียน

เรียนผ่านไปทีละเทอม ทีละปี จนจบ คุณได้รับปริญญาบัตร

หางานที่เกี่ยวข้องกับสายวิชาที่ร่ำเรียนมา แล้วทำงานไปทีละวันๆ

ทีละเดือนๆ ทีละปีๆ จนวันหนึ่งคุณก็หมดแรง

และยอมรับว่าคุณ 'กลัดกระดุม' ผิดมาตั้งแต่เม็ดแรก

ในตัวอย่างนี้ ความละเลยทำให้คุณดันทุรัง 'กลัดกระดุม' เม็ดต่อไปทั้งที่รู้ดีว่ากลัดเม็ดแรกผิด

กระดุมเม็ดแรกสำคัญอย่างยิ่ง มันเป็นรากฐานของกระดุมเม็ดที่สอง สาม สี่...

กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ก็ผิดหมดทั้งแถว ผิดทั้งยวง และอาจจะผิดทั้งชีวิต!

ตึกรามบ้านช่องไม่ว่าจะออกแบบสวยงามเพียงไร

หากคำนวณฐานรากไม่ถูกต้อง วันหนึ่งก็เอียงล้ม

เด็กไม่ว่าฉลาดเพียงไร หากเอาแต่เล่นเกม ดูแต่หนังรุนแรง เอาแต่ใจตัวเอง

โตขึ้นก็อาจเป็นปัญหาภาระที่สังคมต้องแบกรับ

ซื้อรองเท้ายี่ห้อดังมาแล้ว ถึงคับก็ทนสวม ไม่นานก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องเท้าเจ็บ

เพื่อนให้ขนมเค้กจากร้านที่มีชื่อเสียง จะให้คนอื่นก็เสียดาย

จึงฝืนกินเข้าไปทั้งที่อ้วนอยู่แล้ว ผลที่ตามมาคือร่างกายเสียหาย

คุณอาจยอมปล่อยบางปัญหาไป หลับตาข้างหนึ่งแล้วหวังว่า ปัญหานั้นจะละลายหายไปเอง

แต่ท้ายที่สุดก็ต้องแก้ปัญหานั้นอยู่ดี ทั้งยังต้องจ่ายราคาค่าแก้ปัญหามากกว่าเดิม

ไม่ว่าจะเป็นระดับปัจเจก เช่น การใช้ชีวิต การศึกษา การทำงาน ความรัก

ไปจนถึงระดับมหภาคเช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง

ไม่ว่าจะด้วยความไม่รู้ ความปล่อยปละละเลย หรือความเสียดาย หรือเหตุผลใดก็ตาม

หากกลัด 'กระดุม' เม็ดแรกผิด ทุกสิ่งที่ทำถูกต้องหลังจากนั้นจะกลายเป็นผิดไป!

การแก้ปัญหาของการ 'กลัดกระดุมผิดเม็ด' นี้มีทางเดียว

คือ ปลด 'กระดุม' ทั้งหมดออกมาก่อน แล้วกลัดใหม่

การไม่รู้เป็นเรื่องหนึ่ง การรู้แล้วยังทำต่อไปเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

หลายคนทำงานตามคำสั่งทั้งที่รู้ว่า 'กระดุมเม็ดแรก'

ไม่ตรงรูกระดุมของมัน กว่าจะรู้ตัว ก็กลายเป็นปัญหาลูกโซ่

หลายๆ ระบบในสังคมเช่น ระบบการเมือง การศึกษา ฯลฯ

ดำเนินมานานปี ทั้งที่เรามองเห็นปัญหา แต่ก็ดำเนินต่อไปทั้งด้วยความไม่รู้

ความเขลา ความปล่อยปละละเลย ด้วยความเชื่ออย่างนกกระจอกเทศว่า

มุดหัวลงดินสักพัก เดี๋ยวปัญหาก็หายไป แต่ปัญหาไม่เคยหายไป

มีแต่สะสมด้วยดอกเบี้ยทบต้น ยิ่งแก้ไขช้า ราคาแก้ไขยิ่งแพง

บางครั้งการตัดใจเข้าห้องผ่าตัดปฏิรูปตัวเองก็เป็นทางแก้ที่ถูกต้อง

ยอมตัดใจตัดวงจรเดิมนั้นทิ้ง แล้วเริ่มต้นใหม่

เพราะความเสียหายในระยะยาวน้อยกว่า ประหยัดเวลาโดยรวมมากกว่า

ทุกๆ หลายก้าวที่เดินหน้า เราควรหยุดและทบทวนดู 'กระดุม' ของเรา

หรือของสังคมว่า กลัดถูกรูไหม ถ้าไม่ก็อย่ารอช้า ปลด 'กระดุม' ทั้งหมดออกมาก่อน แล้วกลัดใหม่

วินทร์ เลียววาริณ

22พฤษภาคม 2533

ผู้ทำผิดแล้วไม่แก้ไข กำลังทำผิดอีกครั้งหนึ่ง

ขงจื๊อ

จำไม่ได้ว่าเป็นคำกล่าวของใคร แต่เป็นปราชญ์ท่านหนึ่งพูดไว้ว่า ในโลกนี้ผู้คนนับถือกันอยู่สามสิ่ง

1. ความดี นั่นคือ ศาสนา

2. ความจริง นั่นคือ วิทยาศาสตร์ และ

3. ความงาม ซึ่งนั่นก็คือ ศิลปะ

ขอให้พี่น้องนักสหกรณ์ โดยเฉพาะฝ่ายจัดการ(ผู้จัดการและทีมงาน)และฝ่ายบริหาร(คณะกรรมการฯ) ที่เป็นฝ่ายสนองความต้องการของสมาชิกซึ่งเป็นฝ่ายเสนอ ได้ใช้คำกล่าวทั้ง 3 ประการมาใช้ในการพัฒนาสหกรณ์ให้มีความเจริญก้าวหน้า อย่าให้มีการทุจริตคิดมิชอบ ยักยอก หลอกลวง ฉัอโกงทั้งสมาชิก และสหกรณ์เลย เพราะปัจจุบัน นี้ มีข่าวหนาหูเหลือเกิน ความเสื่อมของสหกรณ์มิใช่อยู่ที่ทำงานบริหารจัดการไม่เ่ก่งแต่เพียงอย่างเดียว ศัตรู ตัวร้ายของสหกรณ์ก็คือ การเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของ ฝ่ายจัดการกับฝ่ายบริหารสหกรณ์ การกินเล็กกินน้อย ตั้งแต่การโกงเวลาทำงานไปทำงานส่วนตัว การทำธุรกิจทับซ้อนกับสหกรณ์ การใช้ทรัพย์สินของสหกรณ์ เพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมือง การใช้ธุรกิจของสหกรณ์เพื่อประโยชน์ส่วนตน ใช้คนสหกรณ์เพื่อเป็นฐานคะแนนเสียงทางการเมืองแบบผิด ๆ การยืมมือสมาชิกกู้ยืมเงินออกจากสหกรณ์ การซื้อทรัพย์สินของสหกรณ์ในราคาที่สูง ๆ เช่นที่ดินหรืออาคาร โดยมีเหตูผลและการใช้ประโยชน์ที่ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย เพียงแค่หวังค่านายหน้า หรือแม้แต่การสมรู้ร่วมคิดกันทำธุรกิจกับเอกชน เพื่อประโยชน์ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงผลเสียและประโยชน์ที่ได้รับ กราบขอร้องนะครับว่าอย่าทำ การเข้ามาทำงานสหกรณ์ ก็คือการเข้ามาต่อสู้กับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ที่ทำลายความเลื่อมล้ำของสังคม ทำลายโอกาสของคนจน แทบไม่ได้ผุดได้เกิด ถ้าพวกเราเหล่านักสหกรณ์ชั้นสูงที่ผ่านหลักสูตรไปแล้วกับไปทำงาน และคิดทุจริต คดโกง ต่อสหกรณ์ ก็เท่ากับเราเข้าไปทำลาย และซ้ำเติมพี่น้องสมาชิกสหกรณ์ที่เป็นผู้ด้อยโอกาส และขาดการยอมรับ ให้เขาต้องรับเคราะห์กรรมเพิ่มเข้าไปอีก สงสารเขาเถอะครับ เรามาช่วยกันทำดี ทำธุรกิจเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ที่ด้อยโอกาส ได้มีปัจจัยเบื้องต้นในการดำรงชีพที่เพียงพอ ไม่ทุกข์ร้อน และช่วยต่อไปจนเขามีคุึณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้เขามีที่ดินทำกิน มีอาชีพที่มั่นคง ไม่ต้องถูกสหกรณ์ยึดที่ดินชำระหนี้ แต่ให้เขาได้มีโอกาสพัฒนาแผ่นดินเกิด ไม่ต้องทอดทิ้งถูกยึด รักษาที่อยู่ที่ทำกินได้ตลอดไป ก็เท่ากับเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน โปรดยืนอยู่บนอุดมการณ์สหกรณ์ หลักการสหกรณ์ทั้ง 7 ประการ รวมถึงค่านิยมของสหกรณ์ ล้วยเป็นคุณธรรมทั้งสิ้น ถ้าไม่มีการทุจริต คิดพัฒนาสหกรณ์ ความเดือดร้อนของชุมชนและสังคมจะน้อยลง ครับ ขอกราบขอบคุณเพื่อน ๆ และอาจารย์ทุกท่าน

ถึงพึจิ๋นของน้องๆ

รุ่น5จะไปทำบุญณ.วัดพระบาทน้ำพุ พี่ช่วยใช้เงินรุ่นบริจาคช่วยไปก่อนแล้วตามเก็บทีหลังช่วยเท่าไหร่แล้วแต่พี่จะพิจารณานะจะพี่จิ๋นของน้องๆๆ

:เรารู้ว่าหนังสือไม่ใช่วิธีการที่จะให้คนอื่นมาคิดแทนเรา ในทางตรงข้าม มันคือเครื่องมือที่กระตุ้นให้เราคิดได้ไกลมากยิ่งขึ้น

:ครูเปิดประตูให้ แต่คุณจะต้องเดินเข้าไปด้วยตัวคุณเอง

:ความหิวแก้ด้วยอาหาร ความเขลาแก้ด้วยการศึกษา

:ถ้าไม่ศึกษาเพิ่มเติมขึ้นทุกๆ วัน ก็จะล้าหลังลงทุกๆ วัน

:การศึกษาเปรียบเสมือนพายเรือทวนน้ำ ถ้าไม่รุดหน้าก็ถอยหลัง

:เลี้ยงลูกชายโดยไม่ให้การศึกษา ก็เหมือนเลี้ยงลา เลี้ยงลูกสาวโดยไม่ให้การศึกษา ก็เหมือนเลี้ยงหมู

:เงียบลง คุณจึงจะคิดได้ ถ้าคุณไม่เงียบ คุณจะไม่ได้ยินทุกอย่างที่คนพูดกับคุณ

:เพราะว่าใจคุณพะวงอยู่กับสิ่งที่คุณคิดว่าคุณรู้แล้ว เรียนรู้ที่จะฟัง ฟังด้วยหัวใจของคุณ

:หนังสือทุกเล่มอ่านอย่างละเอียด แบบขบเคี้ยวเพื่อให้ได้เนื้อแท้ของมัน

:ผู้ใดรู้จักใช้พู่กัน จะไม่ต้องขอทานเขากิน

:อุดมการณ์เล็กนิดเดียว แต่ใจใหญ่ ผลสุดท้ายย่อมแย่ ลังเลโลเล สุดท้ายย่อมเสียใจ

:เรียน จึงรู้ว่าตนเองด้อยความรู้ สอน จึงรู้ว่าลำบาก

:ผู้ที่รู้ว่าด้อยความรู้ จึงจะเตือนตัวเองได้ ผู้ที่รู้ว่าลำบาก จึงจะฝึกตนให้เข้มแข็ง

:ไม่เป็นจึงต้องเรียน ไม่รู้จึงต้องถาม

:พูดถึงอะไรสำคัญที่สุด ความประพฤติย่อมสำคัญที่สุด

:การเรียนภาษาต่างประเทศนั้นไม่ยาก มันก็เหมือนกับการคบเพื่อน ยิ่งคบก็ยิ่งคุ้นเคย พบหน้ากันทุกวัน มิตรภาพก็ยิ่งสนิทแน่นแฟ้น

:คนที่เก่งทุกทาง แท้จริงคือคนที่ไม่มีอะไรเก่งจริงสักอย่าง คนที่รอบรู้ไปหมดทุกเรื่อง แท้จริงคือคนที่ไม่เชี่ยวชาญอะไรเลย

:อย่ากลัวที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ สิ่งที่ต้องกลัวอย่างเดียวคือการหยุดนิ่ง

:คนที่เอาชนะผู้อื่นได้เป็นคนเข้มแข้ง คนที่เอาชนะตัวเองได้เป็นคนที่มีอำนาจ

:คนรวย วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ คนจนวางแผนแค่วันนี้

:มีหนังสือตั้งเล่มเกวียน ก็ไม่เท่ามีครูคนเดียว

:คนชั้นต่ำแต่มีการศึกษาดี มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง คนชั้นสูงแต่ไร้การศึกษา จะมีประโยชน์อะไร

:ความฉลาดประกอบไปด้วยการรู้จักใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์

:อย่ายอมแพ้ ตราบเท่าที่ยังมีความหวัง แต่อย่าหวังจนเกินเหตุผล เพราะนั่นสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถมากกว่าการพินิจพิจารณา

:ในโลกนี้ไม่มีอะไรนุ่มหรือบางกว่าน้ำ แต่การที่น้ำสามารถกัดเซาะสิ่งที่แข็งอย่างไม่ยอมจำนนนั้น ไม่มีอะไรจะเทียบได้

:ความจริงที่ว่าคนอ่อนแอกว่าเอาชนะคนแข็งแรงกว่าได้ คนที่หยาบกระด้างต้องพ่ายแพ้ คนที่อ่อนโยน เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ แต่ไม่มีใครทำตาม

:คนที่ยิ้มแทนที่จะโกรธ คือคนที่เข้มแข็งกว่าเสมอ

:ต้นไม้ต้นใหญ่ๆ เกิดจากกล้าไม้ต้นเล็กๆ หอสูงเสียดเมฆา ฐานรากเตี้ยติดดิน

:การเดินทางหลายพันลี้ เริ่มจากการก้าวเท้าก้าวแรก

:ความยิ่งใหญ่ของอุดมการณ์ มิได้อยู่ที่การชนะผู้อื่น แต่อยู่ที่การชนะตัวเอง

:ผู้มีใจตั้งมั่นย่อมชนะฟ้า ผู้ไร้ความตั้งมั่น ฟ้าย่อมชนะคน

:ผู้ที่ขาดความเข้มแข็งทางจิตใจ ทำสิ่งใดก็ไม่บรรลุ

:ทะเลรองรับแม่น้ำร้อยสายได้ จึงกว้างใหญ่ไพศาล บุคคลผู้สูงส่ง เข้มแข็งเพราะไร้กิเลสตัณหา

:ผู้ที่ขาดคุณธรรม ย่อมไม่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ผู้ที่ขาดความรู้ ย่อมไม่มีสายตาอันกว้างไกล

:จิตมั่น ความชั่วร้ายทั้งปวงย่อมไม่อุบัติ จิตสงบ จักไม่สนใจเรื่องทั้งปวง

:ผู้ที่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ จักไม่ยุติกลางคัน

:การสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นเรื่องลำบาก การธำรงไว้ซึ่งความสำเร็จยิ่งลำบาก แต่ผู้ที่รู้ว่าลำบากจักไม่ลำบาก

A bad officer is more danggerous than hundred bandits.

เจ้าหน้าที่ชั่วคนเดียว เป็นอันตรายมากกว่าโจร 100 คน

(ใช้ในสหกรณ์ได้เลย)

วันปิดผนส5มีใครมาบ้าง มากันเยอะหน่อยจะได้ไม่เหงา

7 สูตรสำเร็จเพิ่มความฉลาด

ใครที่รู้สึกว่าสมองอ่อนล้า เฉื่อย ชา และความจำถดถอย เรามีวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำให้กับสมองมาฝาก...

1. บริหารสมองอยู่เสมอ

ยิ่งเราใช้สมองมากและบ่อยเท่า ไหร่ เซลล์สมองจะยิ่งเจริญเติบโตมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนั่นก็จะส่งผลให้ความสามารถในการจำดีขึ้นตามไปด้วย วิธีบริหารสมอง เช่น การเล่นหมากฮอส ต่อจิ๊กซอว์ หรือเล่นครอสเวิร์ดในเวลาว่าง

2. กินยาเสริมความจำ

มีผลการวิจัยยืนยันว่าหลังจาก การกินโสมในปริมาณ 400 มิลลิกรัมไปแล้ว 1 ชั่วโมง จะทำให้ความสามารถในการจำดี ขึ้นและส่งผลต่อไปอีกถึง 6 ชั่วโมง แปะก๊วยก็มีการยืนยันว่าส่งผลดีต่อระบบความจำเหมือนกัน เพราะจะไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในสมอง นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในอเมริกาพบว่า Vinpocetine ที่สกัดได้ขากต้น Periwinkle (ไม้ เลื้อยชนิดหนึ่งที่มีดอกสีฟ้า ใบเข้มเป็นมัน) นั้นจะช่วยเพิ่มความจำและความจดจ่อในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ให้มากขึ้นได้

3. กินผักและผลไม้สด

เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีอยู่สูงในผักและผลไม้สดจะไปทำลายอนุมูลอิสระซึ่งเกิดจากการสะสมเป็น เวลานอนของเนื้อเยื่อไขมันอันจะทำให้สมองอ่อนแอลง และ ช่วยชะลออาการความจำถดถอยในผู้สูงอายุ อาทิ ผมไม้ที่มีสีแดง ม่วง และน้ำเงิน โดยเฉพาะตระกูลเบอร์รี่ ต่างๆ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดที่มีความเข้มข้น สูงที่เรียกว่า Anthocyanidin

4. ลดปริมาณแอลกอฮอล์

เพราะจะส่งผลต่อการปลดปล่อย สาระสำคัญในสมองโดยจะไปขัดขวางความสามารถในการสร้างความจำใหม่ ๆ โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นชื่อ ตัวเลข และเหตุการณ์ณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ยิ่ง ไปกว่านี้ ความสามารถในการระลึกเหตุการณ์ณ์หรือ เรื่องราวเก่า ๆ ในอดีตก็จะถูกบั่นทอนไปด้วย

5. ออกกำลังกาย

ขณะที่ร่างกายของเราเคลื่อน ไหวนั้นสมองจะได้รับเลือดมากเป็นพิเศษซึ่งนั่นหมายถึงว่าสมองจะได้รับกลูโคส และออกซิเจนมากขึ้นทำให้สมองแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังไปเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นความจำของสารเคมีในสมองที่ เรียกว่า Brain-Derived Neurotrophic Factor) ให้ ทำงานได้ดีขึ้นด้วย

6. จดบันทึกช่วยจำ

เพราะโดยธรรมชาติของสมองเรา นั้นเมื่อจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งตรงหน้า ความ สามารถในการจดจำสิ่งอื่นก็จะลดลง ฉะนั้นการย้าย ข้อมูลจากสมองมาเก็บไว้ในสมุดบันทึกอย่างคอมพิวเตอร์ ปาล์ม หรือโทรศัพท์มือถือ ก็เหมือสเป็นการช่วยลดความหนาแน่นของข้อมูลหรือเพิ่มพื้นที่ว่าง ในสมองเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

7. ทำสมาธิ

สมองของคนเรานั้นทำงานที่ความ ถี่หรือคลื่นสมองที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ เรากำลังทำหรือคิดอยู่ ภายใต้ความเครียดที่เกิด ขึ้น คลื่นเบต้าของสมองจะทำงานเร็วขึ้นซึ่งจะส่งผล ให้สมองลืมสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นเราควรคิด ให้ช้าลง โดยการทำสมาธิ หลับ ตาลงช้าๆ หายใจเข้าเบาๆ ช้าๆ โดยตั้งสติอยู่ที่ปลายจมูก จาก นั้นหายใจออกช้าๆ โดยตั้งสติอยู่ที่ช่องจมูกทางขวา จากนั้นหายใจเข้าอีกครั้ง แต่ ครั้งนี้เวลาผ่อนลมหายใจออกให้ตั้งสติที่ช่องจมูกทางซ้าย ทำเช่นนี้สลับกันประมาณ 10 นาที ทุกวันรับรองว่าสมองตื้อๆ ตันๆ จะกลับมาโล่งโปร่งใสเหมือนเดิม

5555555555555555+ชอบมากๆผ้าห่มของกำนัน พี่ฝากให้ปู่พี่อีก2ผืน (ไปฝากเมื่อไหร่บอกด้วยจะช่วยถือไปให้ )หนาวจริงๆนะ

ทำนายวันเกิด (แม่นๆ)

วันที่ 1 จะเป็นคนรักเสรี กล้าหาญ และไม่ก้มหัวให้ใคร

วันที่ 2 เพื่อนเป็นคนสำคัญ

วันที่ 3 ท่านคือ เพื่อนที่แสนดี

วันที่ 4 จริงใจและมั่นคง

วันที่ 5 นักอุดมการณ์ หรือบางทีก็เผด็จการ

วันที่ 6 อยู่ได้ด้วยความรัก

วันที่ 7 นักเล่าประสบการณ์

วันที่ 8 ทุกอย่างต้องพร้อม

วันที่ 9 เจ้าความคิด

วันที่ 10 แข็ง...หรือไม่ก็...แกร่ง

วันที่ 11 แม้จะเจ้าอารมณ์ แต่ก็สร้างสรรค์

วันที่ 12 คนเก่งที่มีเพื่อนน้อย

วันที่ 13 เพื่อนขี้อ้อน

วันที่ 14 น่ารักน่าคบ

วันที่ 15 เห็นง่าย-รู้จักยาก

วันที่ 16 ไม่ลุ่มหลงอะไรง่าย ๆ

วันที่ 17 สมบูรณ์แบบ

วันที่ 18 ที่ปรึกษาผู้เคร่งครัด

วันที่ 19 เปี่ยมด้วยกำลังภายใน

วันที่ 20 อารมณ์ เหมือนใบไม้ไหว...แต่น่ารัก

วันที่ 21 นุ่มนวล เจ้าเสน่ห์

วันที่ 22 คงเส้นคงวา

วันที่ 23 ตัวเอง คือความมั่นใจ

วันที่ 24 มีน้ำใจไมตรี

วันที่ 25 รวงข้าวที่มีเมล็ดมาก

วันที่ 26 สุขุม มองไกล

วันที่ 27 ซื่อสัตย์ยุติธรรม ประจำใจ

วันที่ 28 เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง

วันที่ 29 รักใครไม่ผันแปร

วันที่ 30 ทรราชย์น้อย

วันที่ 31 ต้องการกำลังใจ

ยาย กับ หลาน (ข้างบ้าน)

หลาน : ยาย .. .ยาย

ยาย : หา ?

หลาน : ยายปีนี้ดูแก่มากเลยนะยาย .. .อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ ?

ยาย : เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ยายอายุ 50 ไม่รู้ว่าตอนนี้มันยังจะ 50 อยู่หรือเปล่า ไม่ได้นับมานานแล้ว

หลาน : โห...ยาย ป่านนี้มันไม่เหลือ 9 ขวบแล้วหรอ...แล้วลูกเต้าไม่มีเหรอยายถึงมานั่งคนเดียวเนี่ย

ยาย : มี...

หลาน : อ้าว...แล้วทำไมเค้าไม่มาด้วยล่ะ

ยาย : มีลูกชายสองคน คนหนึ่งอยู่ระยอง คนหนึ่งอยู่เชียงใหม่โน่น ไอ้คนหนึ่งมันจะให้ยายไปอยู่เชียงใหม่...อีกคนหนึ่งจะให้ยายไปอยู่ระยอง...ตัดสินใจไม่ถูกไม่รู้จะไปอยู่กับใคร ?

หลาน : โอ้โฮ...ยายนี่โชคดีจังเลย ลูกๆแย่งกันเลี้ยง

ยาย : โชคดีกะผีอะไรล่ะ...ก็ไอ้คนที่อยู่ระยอง...มันจะให้ไปอยู่เชียงใหม่ ไอ้คนที่อยู่เชียงใหม่...มันจะให้ไปอยู่ระยอง

หลาน : เออ...ยาย...อย่าไปคิดมากเลย อายุปูนนี้ร่างกายยังแข็งแรงอยู่ก็ถือว่าโชคดีแล้ว

ยาย : โอ๊ย...แข็งแรงที่ไหนกัน ตอนนี้กำลังแย่เลย

หลาน : แย่ที่ไหนยาย...ก็เห็นแข็งแรงดี

ยาย : เดี๋ยวนี้ยายมีอาการแปลกๆ เช่น นั่งๆ อยู่เนี่ย...ถ้าลุกขึ้นปุ๊บ...มันจะยืนทุกทีเลย

หลาน : เป็นอะไรไม่รู้ลุกแล้วยืนน่ะมันธรรมดานะยาย...ยายเคยเห็นคนล้มทั้งยืนไหมยาย ?

ยาย : ไม่เคย

หลาน : อยากเห็นไหม ?

ยาย : อย่าเลย...ยายแก่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยอยากรู้อยากเห็นอะไร

หลาน : อ้าว...เป็นอะไรไปเหรอยาย ?

ยาย : สงสัยจะแก่ตัวมาก นั่งนานๆ แล้วมันจะมีปัญหา

หลาน : มันเป็นยังไงหรอยาย ?

ยาย : อีขาซ้ายนี่มัน...ชา

หลาน : แล้วขาขวาล่ะยาย ?

ยาย : กาแฟ

หลาน : ผมว่ายายต้องรีบไปหาหมอแล้วล่ะ

ยาย : ทำไมล่ะ ?

หลาน : ถ้าปล่อยไว้นานๆ มันจะเป็นโอวัลตินนะยาย

ยาย : อืม...แล้วพอยืนนานๆ นะ...ขาซ้ายมันจะปวด

หลาน : โอ๊ย...เป็นเรื่องธรรมดายาย อายุมากแล้วนี่มันก็ปวดสิ

ยาย : ไม่จริงหรอก...ขาข้างขวานี่ก็อายุเท่ากัน...ไม่เห็นมันปวดล่ะ ?

ยาย : หลานเอ้ย ...

หลาน : จ้ะยาย ...

ยาย : คนเราจะประสบความสำเร็จต้องอดทน

หลาน : จ้ะยาย

ยาย : หลานเอ้ย ... คนเราจะประสบความสำเร็จต้องอดทน

หลาน : จ้ะยาย

ยาย : หลานเอ้ย .. .คนเราจะประสบความสำเร็จต้องอดทน ....

หลาน : โอ๊ย รู้แล้ว ... พูดซ้ำซากอยู่นั่นแหละรำคาญ

ยาย : ไอ้หลาน .. .เอ็งนี่ช่างไม่มีความอดทนเอาซะเลย

ยาย : นี่เอ็งเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมไหม

หลาน : เชื่อสิยาย

ยาย : เขาบอกว่า ... ถ้าเราฆ่าไก่ ... เราจะเกิดเป็นไก่ ถ้าเราฆ่าวัว ... เราจะเกิดเป็นวัว ถ้าเราฆ่านก ... เราจะเกิดเป็นนก

หลาน : ยาย .. .เห็นทีผมจะต้องฆ่าคนซะแล้วยาย

หลาน : เออ .. .ยาย .. .ฉันจะเปิดร้านใหม่ล่ะยาย .. .ยายช่วยไปอุดหนุนฉันหน่อยนะยาย .. .ฉันอยากให้ยายไปอุดหนุนเป็นคนแรกเลย ...

ยาย : โอ๊ย...ไม่มีปัญหา .. .เรามันคนกันเอง เออ .. .ว่าแต่ .. .แกจะเปิดร้านอะไรล่ะ

หลาน : ร้านขายโลงศพจ้ะยาย

ยาย : อ้ายเวร...ปากไม่เป็นมงคล .. .เอ็งจำไว้เลย ข้าจะไม่เหยียบเข้าร้านเอ็งจนวันตาย .. .

หลาน : ถ้าถึงวันตายแล้วอย่าลืมมาอุดหนุนนะยาย

ยาย : นี่ๆ .. .ยายก็มีหลานชายอยู่คนหนึ่ง...กำลังเรียน .. .เป็นเด็กดีเหลือเกิน .. .กตัญญู .. .เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดยาย ... พอยายจะเอาชามไปล้าง ... หลานชายมันเข้ามาห้าม .. .มันบอกว่า " ยาย ... วันนี้เป็นวันเกิดยาย ... ยายอย่าล้างชามเลย ..."

หลาน : แหม .. .เป็นเด็กดีจริงๆเลยนะหลานยายเนี่ย

ยาย : เออ ... มันบอกกองเอาไว้ก่อน ... พรุ่งนี้ค่อยล้าง เอ้อ ยายต้องไปแล้วล่ะไอ้หนู

หลาน : อ้าว...ทำไมล่ะยาย ??

ยาย : ต้องรีบไปล้างจาน ??

งานเลี้ยงแสดงความยินดีผนส.5เมื่อคืนที่ผ่านมาก็จัดได้ดีทีเดียวสนุกสนานดีมีรำวงย้อนยุกต์จำลองบรรยากาสได้เหมือนงานวัดในอดีต มีการแสดงละครเรื่องน้องแอนนี่ ผนส.3 มีไปกันหลายคนมีพี่แจ้พี่หมอกิตินันท์กำนันบ้านนอก(มาตั้งแต่วันพุธบอกเมียว่าต้องมาสอบซ่อมยังเรียนไม่จบ)น้องกุ้งน้องไท(แค่นี้แหละ) งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาสี่ทุ่มกว่าก็หายกันไปหมด .... จบข่าว

เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ ไปจนกระทั่งขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 เราจะเห็นธงสีเหลืองมีตัวหนังสือสีแดง ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปตามร้านอาหาร 2 ข้างถนน นั่นบ่งบอกให้รู้ว่า เป็นช่วงเวลาของเทศกาลกินเจ

คำว่า "เจ" ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า "อุโบสถ" คำว่า "กินเจ" ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน ดังเช่นที่ชาวพุทธในประเทศไทยถือ "อุโบสถศีล" หรือ "รักษาศีล 8" จะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีล ของชาวพุทธฝ่ายมหายานไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมเรียก "การไม่กินเนื้อสัตว์" ไปรวมกันคำว่า "กินเจ" ซึ่งเป็นการถือศีลไปด้วย ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า "กินเจ" ฉะนั้นความหมายก็คือ "คนกินเจ" มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ เป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรมไปด้วยพร้อมกัน เช่นนี้แล้วจึงจะเรียกว่า "กินเจที่แท้จริง" ดังนั้น คำคล้องจองที่เราได้ยินอยู่เสมอ คือ "ถือศีลกินเจ" จึงนับว่ามีความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ในตัวเองแล้ว

ตามร้านขาย "อาหารเจ" เราจะพบเห็นตัวอักษร คำนี้อ่าน "ไจ" (เจ) แปลว่า "ไม่มีของคาว" เขียนด้วยสีแดงบนพื้นสีเหลืองเสมอ ในช่วงเทศกาลกินเจเดือน 9 จะเห็นตัวอักษรนี้เขียนบนธงสีเหลือง ปักอยู่ตามแผงขายอาหารเจมองเห็นเป็นที่สะดุดตาแก่คนทั่วไป ชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งสิริมงคลแก่ชีวิต สีเหลืองเป็นสีของผู้ทรงศีล ดังนั้นผู้ตั้งใจถือศีลบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ ตัวอักษรนี้ย่อมเป็นเครื่องหมายเตือนสติให้ระลึกไว้เสอมว่า "การกินเจงดเว้นเนื้อสัตว์ของคาวคือ การปฏิบัติธรรม รักษาศีลของความเป็นมนุษย์ เป็นการเจริญมหาเมตตากรุณาธรรมโดยแท้ อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และก่อให้เกิดสันติสุขแก่ทุกชีวิตบนโลก"

การปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาลกินเจ

การปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาลกินเจ

เมื่อตั้งมั่นที่จะปฏิบัติศีลและกินเจ ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืนนี้แล้ว ก็ควรจะศึกษาข้อห้ามต่างๆ ที่บัญญัติไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัว โดยทั่วไปแล้วจะมีข้อปฏิบัติดังนี้

งดเว้นเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายต่อสัตว์

งด นม เนย หรือน้ำมันที่มาจากสัตว์

งดอาหารรสจัด หมายถึง อาหารรสเผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก

งดผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ รวมทั้งเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุน

รักษาศีล 5

รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ให้คงที่

ทำบุญ ทำทาน บางคนที่เคร่งอาจนุ่งขาว ห่มขาว

สำหรับคนที่กินเจอย่างเคร่งครัด นอกจากจะ "ถือศีล-กินเจ" แล้วยังต้องเลือกผู้ปรุงอาหารเจที่กินเจด้วย เพื่อให้ "อาหารเจ" นั้นบริสุทธิ์จริงๆ บางคนจะมีการคัดแยกภาชนะที่บรรจุอาหารหรือใช้ปรุงอาหาร แยกจากที่ใช้ใส่อาหารที่มีเนื้อสัตว์อย่างเด็ดขาด และในบางแห่งอาจพบว่ามีการจุดตะเกียงเก้าดวง ไว้เป็นเวลา 9 วันตลอดระยะเวลาการกินเจ เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุญคุณพ่อแม่ญาติพี่น้อง และเพื่อเป็นพุทธบูชา

10 อาชีพเสี่ยงเซง (ซึมเศร้า)

อาจารย์ Tammy Worth ตีพิมพ์เรื่อง ' 10 Careers with high rates of depression ' = " 10 อาชีพเสี่ยงเซง (ซึมเศร้า) " ในนิตยสาร ' Health ' ออนไลน์, ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

อ.ดร.เดบอร์รา เลกก์ ผู้เชี่ยวชาญสาขาสุขภาพจิต กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของความน่าจะเป็น... หรือเป็นแนวโน้ม ไม่ใช่ว่าคนทุกคนในอาชีพต่อไปนี้จะต้อง "เศร้า-เหงา-เซง" ไปเสียหมด เพียงแต่ว่า ถ้าเรารู้และเข้าใจธรรมชาติของอาชีพต่างๆ แล้ว, เราจะป้องกัน เ้ข้าใจ เห็นใจ และอาจขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพได้ (ถ้าจำเป็น)

...

(1). Nursing home / Child-care workers = คนทำงานในสถานเลี้ยงเด็ก-คนสูงอายุ

สถิติสหรัฐฯ พบว่า คนอาชีพนี้มีโอกาส "เศร้า-เหงา-เซง" อย่างน้อยช่วงหนึ่งได้มากถึง 11%, สูงกว่าประชากรทั่วไป (7%), ความเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้น... ถ้าคนในอาชีพนี้ตกงาน (13%)

กลไกที่เป็นไปได้ คือ อาชีพนี้มักจะต้องเผชิญหน้ากับคนสูงอายุ คนป่วย หรือเด็กๆ เจ้าปัญหา, แถมยังต้องคอยให้กำลังใจคนอื่นจนลืมให้กำลังใจตัวเอง

...

(2). Food service staff = พนักงานบริการอาหาร / เด็กเสิร์ฟ / บริกร

ดร.เลกก์กล่าวว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไม่ค่อยได้รับคำขอบคุณ (thankless job) แถมแขกๆ หรือผู้ใช้บริการยังมองว่า พนักงานเหล่านี้มีฐานะต่ำกว่าลูกค้า ต้องคอยเอาอกเอาใจ และลูกค้าหลายๆ คนยังหยาบคาย เช่น พูดตะคอก ลวนลาม ตามจีบ ฯลฯ อีกต่างหาก

...

(3). Social workers = นักสังคมสงเคราะห์

เป็นที่ทราบกันดีว่า อาชีพนี้เหมาะกับคนที่มากด้วยความกรุณา หรือปรารถนาจะบรรเทาทุกข์ให้คนอื่น ทว่า... ศัตรูใกล้ของกรุณาคือ โทมนัส หรือความ "เศร้า-เหงา-เซง" โดยเฉพาะเมื่อต้องพบกับอะไรๆ ที่มักจะทำให้ดีขึ้นไม่ค่อยได้

อ.ดร.เลกก์แนะนำว่า วิธีสงเคราะห์คนอื่นโดยไม่ให้ตัวเราเข้าไปสู่วงจร "เศร้า-เหงา-เซง" คือ การเข้าไปช่วยเหลือโดยไม่ทุ่มเทสุดตัว ทำส่วนของเราให้ดี... อะไรที่ทำไม่ได้ก็ขอให้ปล่อยวาง (เข้าใจว่า ดร.เลกก์ได้รับอิทธิพลจาก "อุเบกขา" ในพระพุทธศาสนา)

...

(4). Health care workers = บุคลากรสุขภาพ

อาชีพเหล่านี้รวมบุคลากรทุกฝ่ายในสถานพยาบาล ตั้งแต่ผู้ช่วยเหลือคนไข้ คนงาน พยาบาล และหมอ ซึ่งมีช่วงเวลาทำงานค่อนข้างนาน และอยู่ท่ามกลางเรื่องร้ายๆ

อ.ดร.เลกก์แนะนำว่า ควรแบ่งเวลาให้เป็น คือ พักผ่อนให้พอ ให้เวลากับตัวเองบ้าง และขอให้ีหาโอกาสมองโลกในมุมมองอื่นบ้าง เช่น หางานอดิเรกที่ชอบ ลาพักผ่อน ฯลฯ เพื่อออกนอกวงการ หรือออกนอก "กะลา" เป็นครั้งครา่ว

...

(5). Artists, entertainers, writers = ศิลปิน นักให้ความบันเทิง นักเขียน

อาชีพเหล่านี้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือครีเอทีฟ (creative) สูง ทำให้ต้องผลักดันตัวเองค่อนข้างมาก...

...

คนที่เป็นศิลปินมีโอกาสเป็นโรคอารมณ์ 2 ขั้ว หรือไบโพลาร์ (bipolar = มีช่วงอารมณ์เศร้า สลับกับช่วงที่ร่าเริงผิดปกติ) โดยมักจะขยันทำงาน ผลิตผลงานได้มากในช่วง "อารมณ์ขาขึ้น (ร่าเริงผิดปกติ)" และผลิตผลงานได้น้อยในช่วง "อารมณ์ขาลง (ซึมเศร้า)"

ทุกวันนี้มียาที่ช่วงรักษาโรคซึมเศร้าได้ค่อนข้างดี ทั้งชนิดขั้วเดียว (ซึมเศร้าอย่างเดียว) และอารมณ์ 2 ขั้ว

...

(6). Teachers = ครูบาอาจารย์

ครูบาอาจารย์เป็นอาชีพที่ใช้พลังชีวิตเข้าไปทำงานมากกว่าอาชีพอื่นๆ ทั้งต่อลูกศิษย์หรือนักเรียน-นักศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครอง และสังคม ทำให้เสี่ยงต่ออารมณ์ "เศร้า-เหงา-เซง" มากกว่าอาชีพอื่นๆ

...

(7). Administrative support staff = พนักงานฝ่ายบริหาร

กล่าวกันว่า ผู้บริหารนั้นคล้ายไฟ... ใกล้ไปก็ร้อน ไกลไปก็หนาว คือ ผู้บริหารนั้นเป็นตำแหน่งที่มากไปด้วยอำนาจ ทำให้ลูกน้องที่อยู่ใกล้ โดยเฉพาะฝ่ายบริหารเสี่ยงที่จะตกเป็นเครื่องรองรับอารมณ์มากกว่าคนที่อยู่ไกล หรือทำงานสายอื่นๆ

ขณะเดียวกัน... คนที่อยู่ไกล ไม่ค่อยเสนอหน้าให้ผู้บริหารเห็นหน้า มักจะไม่ค่อยมีความเจริญในหน้าที่การงาน เปรียบคล้ายคนอยู่ไกลไฟมักจะหนาว

...

(8). Maintenance and ground workers = พนักงานฝ่ายบำรุงรักษา

พนักงานกลุ่มนี้มักจะเป็นสายช่าง เช่น ช่างไฟ ช่างประปา ช่างแอร์ ฯลฯ ซึ่งก็เป็นอาชีพที่ไม่ค่อยได้รับคำขอบคุณ (thankless job) เช่นกัน

...

กล่าวกันว่า ถ้าน้ำไหล-ไฟสว่าง (ช่างประปา ช่างไฟทำงานได้ดี) ก็จะไม่มีใครโทร.ไปขอบใจช่าง แต่ถ้าน้ำไม่ไหล-ไฟดับละก็... จะมีคนบ่นกันทันที

ถ้าใครจะเข้าไปสู่วงการช่างละก็... ขอให้ "ทำใจ" ไว้ล่วงหน้าเลย เพราะ "ธรรมดาของโลกก็เป็นเช่นนี้เอง"

...

(9). Financial advisors & accountants = ผู้ให้คำแนะนำด้านการเงิน-สินเชื่อ และนักบัญชี

การแก้ปัญหาการเงินของตัวเองก็หนักหนาสาหัสสุดๆ อยู่แล้ว... ยิ่งใครต้องไปแก้ไขปัญหาการเงินให้คนอื่นแล้ว ยิ่งหนักหนาสาหัสยิ่งขึ้น

อาชีพเหล่านี้รวมพนักงานด้านสินเชื่อด้วย ยิ่งพนักงานธนาคาร-สินเชื่อ-ไฟแนนซ์-ลีสซิ่งทุกวันนี้ยิ่งน่าเห็นใจ เพราะจะถูกบีบให้ "ทำยอด" มากขึ้นเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ

...

(10). Salespeople = พนักงานขาย

อาชีพนี้มีความมั่นคงค่อนข้างน้อย รายได้ประจำ เช่น เงินเดือน ฯลฯ มักจะไม่พอใช้ ต้องอาศัยค่านายหน้า (commission) เป็นแรงเสริม ซึ่งก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง

แถมยังต้องถูกบีบให้ "ทำยอด" ซึ่งก็หนักหนาสาหัสเช่นกัน

...

ถ้าเราเป็นผู้ใช้บริการของอาชีพ 10 กลุ่มข้างต้นนี้แล้ว... ขอให้ช่วยกันเข้าไปใช้บริการแบบ "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" บ้าง, และถ้าเลือกใช้คำ "ขอโทษ-ขอบคุณ-ขอบใจ" ให้เป็นแล้ว เราคงจะได้อะไรดีๆ ตอบแทนกลับมาไม่มากก็น้อย

คนเรามักจะคิดว่า อาชีพหรือชีวิตของเราหนักหนาสาหัสกว่าอาชีพอื่นๆ, ทว่า... คนอื่นก็มีความทุกข์ยากเช่นกัน

...

ความทุกข์และความยากเป็นธรรมดาของโลก ซึ่งถ้าใช้ยา "ทำใจ" ให้เป็นแล้ว... ความทุกข์และความยากก็จะบรรเทาเบาบางลงไป ไม่มากก็น้อย

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

พรุ่งนี้วันตำรวจมีข่าวมาฝาก

ข่าวสาร จากวงการตำรวจ ที่ควรอ่าน

เวลาเจอด่าน (เถื่อน ) คือ มีแค่รถฉลาม 1 คัน จอดตามทางแยก หรือจุดยูเทรินมีตำรวจทางหลวง 2-3 คน โดย1คน ยืนกลางถนนคอยโบกรถหรือฉายไฟให้รถเราแอบซ้ายตำรวจที่เหลือเป็นคนตรวจค้น ถ้าเจออย่างนี้อย่าตกใจหรือชะลอความเร็วหรือหักพวงมาลัยไปตามที่มันโบก ให้ตีไฟสูงไล่ แล้ววิ่งต่อไป มันไม่มีตาม เพราะมันทำผิดกฎหมายการตั้งด่านจุดสกั ด จากนั้นโทรไปที่ 1193 แจ้งว่ามีกลุ่มคนคล้ายตำรวจทางหลวง มีพฤติกรรมดังกล่าวให้ตรวจสอบด้วยว่า เป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือเปล่าที่ไปกีดขวางการจราจรหรือเป็นโจรที่ปลอมตัวไปดักปล้น

ทีนี้มาดูว่าด่านที่ถูกต้องเป็นเช่นไร.... ด่านที่ถูกต้อง คือ ต้องมีเครื่องหมายบอกล่วงหน้าเป็นระยะว่าข้างหน้ามีด่านและมีสิงกีดขวาง เช่น กรวยสีส้ม กรวยสีส้มตั้งเป็นระยะๆเพื่อบีบบังคับทิศทางการจราจรให้เหลือช่องเดียวนำไปยังจุดตรวจค้นในจุดตรวจต้องมี นายตำรวจสัญญาบัตรประจำอย่างน้อย 1 คน ลึกไปกว่านั้นคือ ทางต้นสังกัด(ในพื้นที่นั้นๆ) จะต้องมี หนังสือสั่งการให้ตำรวจกลุ่มนี้ปฎิบัติหน้าที่ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ตรวจ ตำรวจสัญญาบัตรที่ควบคุมชุดตรวจจะต้องแจ้งทางวิทยุสื่อสาร ไปยังศูนย์ควบคุมข่ายนั้นๆว่าจะเริ่มปฏิบัติการตั้งจุดตรวจสกัด และตรวจสกัดสิ่งใด ตำแหน่งไหนวันเวลาเท่าไรถึงเท่าไร ใครเป็นผู้ควบคุม ด้วยกำลังพลทั้งหมดเท่าไร หลังจากเลิกปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจท่านนี้จะต้องสรุปผลการจับกุม-ตรวจค้นว่าพบสิ่งใดบ้างทางวิทยุสื่อสาร ต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมข่ายจากนั้นจะต้องบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร & nbsp; เสนอต้นสังกัด...เป็นอันจบ.

ศึกษาไว้เป็นความรู้ครับ อย่าให้ใครมาหากินกับเรา ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีหน้าที่ปัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน ตำรวจดี ๆ มีอีกเยอะ (ดีแบบผิดๆ เค้าไม่เรียกดีหรอก เค้าเรียกเลวผิดชอบชั่วดียังไม่รู้เลย จะบอกว่าตำรวจดีๆมีอีกเยอะ อ้วก อยากจะอาเจียนคนดีเค้าไม่เป็นตำรวจหรอกจะบอกให้)

ผนส.5ทุกคนขอขอบพระคุณรุ่นพี่ๆ ผนส. 1-4 ทุกท่านที่มาร่วมฉลองความสำเร็จเมื่อคืนวันที่ 7 ตค.และร่วมงานเสวนาวันที่ 8 ตค.ค่ะ

การต้อนรับอาจไม่ทั่วถึง

ผิดตกบกพร่องประการใด โปรดอภัยให้น้องด้วยนะคะ............

สวัสดีครับอาจารย์ ผนส.ทุกท่าน

         ร้านสหกรณ์ผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. มีมติส่งผมสมัครเป็นกรรมการสันนิบาติสหกรณ์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีเลือกตั้งในวันที่ 18 ตุลาคม 2553 นี้ ที่โรงแรมรอแยลริเวอร์ ห้องประชุมภาณุรังษี ในการนี้ผมขอรับการสนับสนุนจากพี่ๆ เพื่อน ผนส. และนักสหกรณ์ทุกท่านครับ

       ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน

 

ทำไมต้องเปิดหน้าต่างเวลาเครื่องบินขึ้นลง

ท่านที่ใช้บริการเครื่องบินคงจะคุ้นเคยกับคำประกาศที่ว่า "ขณะนี้เครื่องบินกำลังจะวิ่งขึ้นแล้ว หรือเครื่องบินกำลังจะร่อนลงแล้ว ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านเปิดหน้าต่างด้านข้างด้วย" เคยนึกสงสัยไหมว่าการเปิดหน้าต่างเครื่องบินขณะที่เครื่องบินกำลังบินขึ้นและขณะที่เครื่องบินกำลังร่อนลงเกี่ยวข้องอะไรกับการบิน และทำไมจึงต้องเปิดหน้าต่างเครื่องบินทุกครั้งที่เครื่องบินขึ้น-ลง

คุณจีรศักดิ์ นาคสีรุ่ง ผู้จัดการฝ่ายการฝึกบิน บริษัท สายการบินนกแอร์จำกัด อธิบายว่า หลายคนคงเคยสงสัยว่าเวลาเครื่องบินวิ่งขึ้นหรือร่อนลงทำไมจึงต้องเปิดหน้าต่าง จะเปรียบเทียบการขับเครื่องบินกับการขับรถยนต์เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เนื่องจากรถยนต์มีขนาดไม่ใหญ่มากและมีกระจกมองข้าง ซ้าย-ขวา กระจกหน้า-หลัง ทำให้คนขับสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่รอบข้างได้ แต่เครื่องบินมีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์หลายเท่า ถึงจะมีนักบินที่ขับเครื่องบิน 2 คนนั่งอยู่ด้านหัวของเครื่องบินก็ไม่สามารถมองเห็นโดยรอบของเครื่องบินได้

จึงต้องให้ผู้โดยสารเปิดหน้าต่างเผื่อผู้โดยสารจะเห็นความบกพร่องของ เครื่องบิน เช่นอาจจะเห็นเครื่องยนต์บางตัวไม่ทำงาน ก็จะได้บอกกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเพื่อจะได้บอกให้นักบินทราบต่อไป ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกท่าน

TIPS

หน้าต่างผู้โดยสารบนเครื่องบินทำจากแผ่นอะคริลิก (acrylic) ที่ถูกยืดออกเพื่อเพิ่มความแข็งแรงประกอบด้วย 3 ชั้นหลักๆ คือชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน โดยชั้นนอกและชั้นกลางจะยึดติดกันด้วยแถบยาง ชั้นในมีไว้เพื่อป้องกันผู้โดยสารทำความเสียหายกับวัสดุชั้นกลาง ไม่ได้มีไว้เพื่อความปลอดภัยและไม่มีความสำคัญใดๆต่อโครงสร้าง แม้แต่การเกิดรอยขีดข่วนก็ไม่ได้ทำให้ความแข็งแรงของหน้าต่างลดน้อยลง แต่จะทำให้คุณภาพในการมองทะลุผ่านกระจกด้อยลงมาก จากเหตุนี้เองจึงทำให้ต้องเปลี่ยนกระจกหน้าต่างทุก 3

สวัสดีผนส ทุกคน

ไม่ได้เข้ามารายวัน มีเรื่องจะแจ้งผมและคณะสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดสงขลา รวม 19 สหกรณ์ จำนวน 43 คน ประกอบด้วยประธานสหกรณ์ต่างๆ ผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายตลาด เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ ไปศึกาดูงานและเจาจาทางการค้าข้าวสารและการเงิน โดยชุมนุมสหกรณ์การเกษตรสงขลา จำกัด เป็นเจ้าภาพ ผมเป็นผู้ประสานงาน กำหนดไปดูงานระหว่างวันที่ 16 - 17 ตุลาคม ดูงานสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด สหกรณ์การเกษตรปราสาท จำกัด สหกรณ์เมืองศรีสะเกษ จำกัด สหกรณ์ สกต ศรีสะเกษ จำกัด ชสท และกรมส่งเสริมสหกรณ์

การไปดูงานครั้งนี้เพื่อเจารจาการค้าข้าวสาร ดดยชุมนุมสงขลา จะนำข้าวสารมาจำหน่ายให้สหกรณ์ในจังหวัดสงขลา และจากจังทางภาคใต้ ซึ่งเป็นตามโครงการเดิมที่ผมและคณะได้ไปติดต่อไว้แล้ว หากครั้งนี้สำเสร็จจะทำให้เครื่อข่ายสหกรณ์เพิ่มมาขึ้น

และอีกอย่างในการไปครั้งนี้ จะไปเชื่อโยงทางการเงินด้วย เนื่องจากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรสงขลา มีเงินเหลือหลายสิบล้านบาท กำลังหาที่ระบาย (หากดอกเบี้ยสูง ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ) หากใครสนใจติดต่อได้

และโครงการที่สำคัญจะเกิดขึ้นในต้นปีหน้าคือ โครงการของกรมส่งเสริมร่วมกับสหกรณ์ จัดโครงการอบรมสัมนาการเชื่อโยงเครือข่ายระหว่างสหกรณ์ โดยจะจัดที่สงขลา ให้สหกรณืภาคอีสานกลาง ลงมาทางใต้บ้าง โดยทางกรมส่งเสริมอยู่ระหว่างรองบประมาณอยู่ หากใครสนใจที่จะมาร่วมสนติดต่อได้ที่กรมส่งเสริม

วันนี้จะเดินทางและ ไปครั้งนี้ไปรูจะเจอผนส มาไหม แต้ที่แน่แน่ ป้าเครือ พี่ต้อย เจอแน่นอน

แจ้งข่าวความคืบหน้าการประชุมวิสามัญเพื่อเลือกตั้งกรรมการวันที่ 18ตุลาคม 2553 เพื่อให้การประชุมสามารถที่จะประชุมได้ ให้สหกรณ์ทุกสหกรณ์ที่ยังไม่ได้รับหนังสือพิมพ์แบบส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุม โดยให้มีมติจากกรรมการจะเวียนหรือจะประชุมแล้วแต่ แล้วแนบมติประกอบ ที่สำคัญอย่าลืมปั้มตราสหกรณ์ต้นส้งกัดด้วย หากท่านผู้ใดมีข้อสงสัยให้โทรหานิติกรสันนิบาติคุณธีรุฒ ครับ
เลื่อนการเลือกตั้งคณะกรรมการสันนิบาติฯ
การประชุมวิสามัญเพื่อการเลือกตั้งกรรมการสันนิบาตฯ (วันที่ 18ต.ค.) เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ว่าการประชุมวิสามัญ ไม่สามารถประชุมได้เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ กำหนดการคร่าวๆ ในเบื้องต้นจะเลื่อนไปประชุมอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553 ส่วนเรื่องสถานที่จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อนๆ ผนส. ทุกท่า

      วันนี้ขออนุญาตที่จะนำผลการประชุมวิสามัญ และข้อคิดเห็น มาเล่าสู่กันฟังครับ

      ผมขอจั่วหัวว่า  

                                   ฤาว่าขบวนการสหกรณ์จะต้องเน่าจริงๆ

                          

      ไม่น่าเชื่อวิธีการสกปรกที่นำมาใช้กันในขบวนการสหกรณ์นับวันจะแนบเนียนขึ้น เหมือนกับที่ว่าทุจริตเชิงนโยบาย อย่างไงอย่างงั้น

     นับวันสหกรณ์จะแบ่งขั้วกันอย่างชัดเจนกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่บอกว่าสหกรณ์มี 7 ประเภท ไปๆ มาๆ ชักจะเป็นประเภทใครประเภทมันเสียแล้ว 

    เริ่มจากคณะกรรมการดำเนินการบริหารสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) ออกหนังสือเชิญประชุมแทนที่เมื่อรู้ว่าจะมีการประชุมวันที่ 18 ตุลาคม 2553  ก็ควรจะมีการเตรียมการแต่เนิ่น เพราะเมื่อคราวประชุมวิสามัญครั้งที่ 1 วันที่ 30 กันยายน 2553 รู้อยู่แล้วต้องมีการประชุมแน่นอนอยู่แล้ว ในที่ประชุมในวันนั้นก็รับทราบและรับรู้แต่ไม่สามารถมาร่วมประชุมได้เพราะไม่มีหนังสือเชิญประชุม กว่า สสท. จะออกหนังสือและเริ่มส่งได้ในวันที่ 11 ตุลาคม 2553 สหกรณ์ใน กทม. ได้รับอย่างไวก็ 13 ตุลาคม 2553  ประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งก็คือเนื้อหา ในหนังสือแต่งตั้งผู้แทนรายละเอียด ทำเหมือนไม่อยากจะให้สมาชิกมาร่วมประชุมอย่างไงอย่างงั้น เพราะมีสหกรณ์ หลายสหกรณ์บ่นให้ฟัง ตอนแรกผมคิดว่าผมจะคิดคนเดียวไหงมีเพื่อนเพียบ     

 และนี่คือประเด็นที่หลายๆ คนสงสัย ว่าทำไม  ทำไม ผมเองก็ไม่รู้ เลยถามต่อ

     ทำไมคณะกรรมการบริหาร สสท. ถึงไม่ดำเนินการในเรื่องหนังสือเชิญประชุม หลังจากที่ได้รับทราบผลการประชุมวิสามัญคร้งที่ 1 แล้วว่าจะประชุมวันที่ 18 ตุลาคม 2553

     ทำไมคณะกรรมการบริหาร สสท. ถึงได้จัดให้มีอบรมสัมมนาเจ้าหน้าที่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าวันเสาร์ และวันอาทิตย์จะต้องมีสมาชิกสหกรณ์โทรถามเรื่องหนังสือเชิญประชุม แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลย

     มีกลุ่มคนบางกลุ่มโทรศัพท์หาหน่วยงานสหกรณ์หลายๆ สหกรณ์ว่าไม่ควรไปร่วมประชุมวิสามัญ 

     มีกลุ่มคนบางกลุ่มจัดสัมนาบังหน้าเชิญชวนให้สหกรณ์มาฟัง และเข้าร่วมประชุมวิสามัญ

 

บรรยากาศในที่ประชุมโรงแรมรอแยลริเวอร์ไซค์ 

 

           ประธานเข้าสู่พิธีการ เวลาประมาณ 10.30 น. ซึ่งเลยเวลามาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ที่ประชุมยังไม่ครบองค์ ประชุม ซึ่งในขณะที่ให้มีการรอวินิจฉัยของผู้แทนที่ทำหนังสือเข้ามาเป็นผู้แทน แต่คณะกรรมการผู้ตรวจสอบสิทธิ์ให้ไปนั่งเป็นฝ่ายผู้สังเกตการณ์ ในขณะรอตรวจอยู่นั้นก็มีการอภิปรายกันถึงวิธีการ และข้อหารือหากสมาชิกมาไม่ครบองค์จะเปิดประชุมได้หรือไม่ อภิปรายกันประมาณ 6 ท่าน อยู่ๆ ประธานให้เจ้าหน้าที่รายงานจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมว่ามีจำนวนเท่าใด เมื่อเจ้าหน้าที่รายงานให้ประธานทราบ

           ประธานประกาศทันทีขณะนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 425 ท่าน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุมขอปิดการประชุม  เท่านั้นเองล่ะครับวงแตกกันไปพักใหญ่  สักครู่มีรองประธานขึ้นมาประกาศว่ายังไม่เปิดประชุมแล้วจะประกาศปิดประชุมได้อย่างไร  เท่านั้นเองแหละครับเป็นเรื่อง  ยาวพอสมควร  สุดท้ายมีกรรมการดำเนินงานมาร่วมสมทบอีก 4 ท่าน รวมรองประธานเป็น 5 ท่าน

           มีการอภิปรายกันหลายต่อหลายท่านเสนอทางออก  รายละเอียดในการอภิปรายคงไม่ต้องบรรยายเอาเป็นว่า สรุปให้อ่านล่ะกัน

           สรุป คณะกรรมการจะหาวิธีการที่จะให้มีการเปิดประชุมวิสามัญ หรืออาจจะเป็นสามัญ ให้ได้โดยจะขอเชิญกรรมการอย่างน้อยอีก 3 ท่านเข้าร่วมประชุมภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2553 เพื่อกำหนดวันประชุม และส่งให้ทางฝ่ายจัดการเป็นผู้ออกหนังสือเชิญประชุมไปยังสหกรณ์สมาชิก  ซึ่งกำหนดคร่าวๆ เป็นวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน  2553  ส่วนเรื่องสถานที่ๆ ใดนั้นจะแจ้งให้ทราบภายหลัง

        งานนี้ประธานน้อย ลงไม่สวยอย่างที่คิดไว้ 

          รีบร้อนที่จะปิดประชุมเกินไป เหมือนกับว่าเตรี่ยมกันมาก่อน

         ลืมไปว่ามีเรื่องที่จะต้องพิจารณาว่า ตกลงผู้ที่คณะกรรมการวินิจฉัยให้ผู้แทน ไปเป็นผู้สังเกตการณ์ ยังไม่มีการพิจารณา รีบชิงปิดเสียก่อน

         เมื่อปิดแล้ว ก็น่าจะขอหารือว่าจะมีการประชุมวันไหน หรือทำอย่างไรให้มันถูกต้องตามกฎหมาย

 

ข้อคิดเห็นและข้อที่น่าเป็นห่วง และน่ากลัวต่อขบวนการสหกรณ์ (เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว)

 

        กลัววิธีการเลือกตั้งที่จะใช้วิธีการเดิมๆ ที่ใช้มาแล้ว และได้ผลชงัด โดยการใช้เงินเป็นตัวชี้วัด จะด้วยวิธีการใดๆ นั้นหลายท่านคงรู้ดี ผมถือว่าไม่ใช่นักสหกรณ์ที่หวังดีต่อขบวนการสหกรณ์ เป็นนักสหกรณ์ที่มุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตน ซึ่งจะเป็นเหตุผลที่จะทำให้ขบวนการสหกรณ์เสื่อมลงในที่สุด 

 

        คนที่คิดจะทำผมขอเถอะครับ อย่าเลยครับ มาช่วยกันคิดมาช่วยกันทำงาน ว่าทำอย่างไรให้ขบวนการสหกรณ์ของเราเจริญก้าวไปข้างหน้า เหมือนกับสหกรณ์ที่เค้าเคยมาดูงานเรา  แต่ปัจจุบันเราต้องไปดูงานเขา ครับ

                                                 

ดีเอสไอลงพื้นที่สอบสหกรณ์ขุนตาล

ชวนเชื่อให้ฝากเงินแถมปุ๋ย-จ่ายดอกเบี้ยสูง เกษตรกรกว่า 700 คนหลงเชื่อ

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ) กล่าวภายหลังลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของสหกรณ์ขุนตาล จ.เชียงราย ว่า ดีเอสไอได้รับการประสานให้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับการดำเนินการของสหกรณ์ขุนตาลซึ่งมีลักษณะฉ้อโกงประชาชนโดยอดีตผู้จัดการสหกรณ์มีพฤติกรรมนำรถกระจายเสียงแจกจ่ายใบปลิวชักชวนประชาชนทั่วพื้นที่โดยให้นำเงินมาฝาก หากฝากเงินรายละละ 1,000 บาท จะได้รับปุ๋ยน้ำหนัก 50 กิโลกรัม 1 ถุง ราคา 350 บาทเป็นการตอบแทน และอ้างว่าผู้เปิดบัญชีเงินฝากกับสหกรณ์มีสิทธิจับคูปองชิงโชคตู้เย็น รถยนต์ ทั้งนี้หากลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี หากฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปจะได้รับดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ทำให้มีประชาชนกว่า 700 คนหลงเชื่อและนำเงินมาฝากกับสหกรณ์ จากนั้นผู้จัดการสหกรณ์ได้นำเงินฝากกว่า 20 ล้านบาทไปใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ได้นำเงินฝากไปลงทุนให้เกิดผลกำไรเพียงพอจะนำดอกเบี้ยมาจ่ายให้กับเจ้าของเงินฝาก

"ก่อนหน้านี้อดีตผู้จัดการสหกรณ์ขุนตาล เคยถูกดำเนินคดีโดยศาลพิพากษาต้องโทษแล้ว 3 คดี เป็นคดีฉ้อโกง 1 คดี และคดียักยอกทรัพย์ 2 คดี อีกทั้งยังมีคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือคดีปลอมแปลงเอกสารโดยการลงพื้นที่วันนี้เป็นการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นจึงจะพิจารณาเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นการกระทำผิดตามพรบ.กู้ยืมเงิน" พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าว

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเพียงความผิดของอดีตผู้จัดการสหกรณ์ ส่วนคณะกรรมการของสหกรณ์ชุดเก่าขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินงานของสหกรณ์มีกรมส่งเสริมสหกรณ์รับผิดชอบโดยตรง แต่จากการตรวจสอบข้อมูลของดีเอสไอพบว่าภายหลังตรวจสอบพบมีการทุจริตทำให้เกิดความเสียหายแต่กรมส่งเสริมสหกรณ์กลับไม่ใช้อำนาจที่มีอยู่หยุดการดำเนินการของสหกรณ์ขุนตาล ดังนั้นจึงจะต้องตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

ตื่นๆมีเรื่องแล้ว

เป็นไงกรมส่งเสริมสหกรณ์งานเข้าอีกแล้ว(น่าจะเปลี่ยนเป็น กรมสหกรณ์ส่งเสริมได้แล้ว) ฮาๆๆๆๆๆๆๆ

สวัสดี

กลับจากนำคณะไปศึกษาดูงาน และเจรจาทางการค้า กับสหกรณ์ทางภาคอีสาน และต้องเอาใจช่วยชาวจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดอื่นที่ประสบภัยนำท่วม โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรพิมาย ซึ่งตามกำหนดการต้องไปดูงานเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถเดินทางไปได้ เนื่องจากติดน้ำท่วมอยู่ในตัวเมืองโคราช กว่าจะออกได้เหนื่อยมากเลย ต้องวนรถกลับออกมาทางโชคชัย เลยไปสุรินทร์ ทำให้ไม่สามารถไปดูงานสหกรณ์การเกษตรพิมายได้ และทราบข่าวว่าหลังจากนั้นน้ำท่วมที่สหกรณ์พิมายด้วย

มีต่อภาคสอง ต้อนนี้มีงานเข้า

ถืงเพื่อนๆผนส.3ทุกท่านและผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยเฉพาะพี่ยูรพี่ต้อยพิมายป้าวรรณสุรินทร์บิ๊กอู๊ดท่านสุรชัยชัยภูมิท่านกำนันบ้านนอก เป็นอย่างไรบ้างขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป สู้ๆๆๆ(กรุงเทพฯก็อ่วมอรทัยเหมือนกัน) คิดถึงเสมอ....พี่แจ้

สวัสดีครับ ป้าเครือ ป้าต้อย และทุกๆคน

ผมได้ติดตามน้ำท่วมไร่นาสาโท เริ่มตั้งแต่ภาคเหนือตอนล่าง เรื่อยไปถึงภาคกลาง และในส่วนของภาคอีสาน รู้สึกเศร้าใจจริงๆ สงสารเกษตรกรไทย เขาคงเดือดร้อนมาก ก็ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร ขอเป็นกำลังใจให้ป้าต้อย (พิมาย)สู้เพื่อเกษตรกรสมาชิกของเรา ขอให้น้ำลดแล้วเงินโพล่

เชียงรายก็มีท่ามอยู่บางพื้นที่ แต่ความเสียหายต่อไร่นาก็ถือว่าน้อย คุณสุทิศ (เจ้าพ่อสงขลา)ที่เชียงรายข้าวก็อร่อยดีนะ จะไม่ลองไปชิมบ้างรึครับ ถ้าสนใจบอกผ่านได้

ขอให้พวกเราทุกคนจงโชคดีตลอดไปครับ

สุขภาพดีหลังน้ำลด

เคล็ดลับสุขภาพดีๆ นำไปปฏิบัติได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่เสียสตางค์เพิ่ม แถมยังการันตีความแฮปปี้ๆ!!

- งีบทุกวัน วันละ 15 นาที จะช่วยให้สมองแล่น มีสมาธิทำงานได้ดีขึ้น

- ทานอาหารเช้าทุกวัน น้ำหนักจะลดมากกว่าอดอาหาร...เหลือเชื่อ!!

- ดื่มน้ำเย็นวันละ 4.5 ลิตร น้ำหนักจะลดลงเดือนละครึ่งกิโลกรัม

- กินกล้วยวันละ 2 ลูก ลดความเสี่ยงเลือดในสมองตีบได้ 20%

- กินปลาทูน่าและเนื้อสัตว์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ 25%

- ทานวิตามินซี หลังออกกำลังกายหนัก ลดความเสี่ยงเป็นหวัดถึง 50%

- กินช็อกโกแลตเดือนละ 3 ชิ้น จะอายุยืนขึ้น 1 ปี เพราะช่วยลดคอเลสเทอรอล

- บ้วนปากทันทีหลังอาหาร ลดแบคทีเรียในช่องปาก 30%

- กินแอปเปิ้ลวันละ 2 ลูก ลดน้ำหนักได้ปีละ 4.5 กิโลกรัม เพราะเส้นใยในแอปเปิ้ล ช่วยย่อยไขมันและโปรตีน

ที่มา http://www.tlcthai.com/club/view_topic.php?club=narakjang&club_id=522&table_id=1&cate_id=193&post_id=647

สวัสดีทุกคน

วันก่อนยังเล่าไม่จบเนื่องจากมีงานเข้า แต่อย่างไรก็แล้วแต่ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมทุกคน ไม่ว่า พี่ต้อย ป้าเครือ พี่ทนงศักดิ์ พี่สุรชัย และอีกหลายคนที่ประสบภัยด้วยตนเอง และสมาชิกประสบภัย ร่วมทั้งชาวกรุงเทพด้วยนะ ทีกำลังประสบอยู่ช่วงนี้ และทางใต้ผู้ตอนนี้ฝนก็เริ่มตกหนักแล้ว คาดว่าปีนี้ก็คงจะท่วมอีก เพราะยังไม่เข้าช่วง ประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน

ขอบคุณ คุณบุญตรงที่เรียกเจ้าพ่อสงขลา คงจะไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ เป็นเพียงเชื่อมต่อโครงการที่ได้ไปเรียนมาเอง ถือว่าประสบผลสำเร็จจากโครงการหลักสูตรผู้นำ นอกจากจะได้เชื่อมโยงในรุ่นเดียวกันแล้วสามารถเชื่อมโยงกับรุ่นอื่นได้อีก เพราะในจังหวัดสงขลามีรุ่น 4 รุ่น 5 อีก 3-4 คน หากทั่วประเทศ สหกรณ์การเกษตรและสหกรณืประเภทอื่นรวมกันได้ ในการทำธุรกิจร่วมกัน ผมว่าบริษัท ชีพี ก็สู่สหกรณ์ไม่ได้ แต่ทุกวันนี้สหกรณ์เราต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างชิงดี ชิงเด่น มันเลยไปไม่ถึงไหน

เรื่องการทำธุรกิจข้าวสาร ผมสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกวันนี้ คนไทยกินข้าว สมาชิกสหกรณ์ทุกคนเป็นคนไทยและกินข้าว

หากสหกรณ์ผู้ผลิตรายใหญ่ ในภาคอีสาน จับมือกับสหกรณ์อื่นไม่ว่าภาคใต้หรือภาคไหน แต่ต้องจับมือกันจริงและจิงจัง ผมว่างานนี้สำเร็จ สหกรณ์การเกษตรในจังหวัดสงขลา โดยชุมนุมสหกรณ์การเกษตรสงขลา จำกัด ประกอบด้วย 19 สหกรณื ตกลงร่วมกันแล้วว่าจะร่วมกันซื้อข้าวสารจากสหกรณ์ภาคอีสานหรือภาคอื่นๆ ที่เห็นว่ามีประโยชน์ต่อสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งปีหนึ่งๆ สหกรณ์ในจังหวัดสงขลา ซื้อข้าวสารมาจำหน่ายปีละ เป็น 100 ล้านบาท

วิชาการมากไป ไว้คุยวันหลังอีก วันนี้ต้องเป็นกำลังใจ ให้กับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมทุกคน และหวังว่าจะไม่มากกว่านี้แล้วนะ

สิ้นฝนก็เห็นฟ้า ถึงเวลาก็เห็นทาง สวัสดีครับ เพื่อน พี่ น้อง ผนส.ทุกท่าน

ขอขอบคุณทุกความห่วงใยในสถานการณ์นำท่วม โดยเฉพาะ พี่แจ้ ท่านสุทิศ และอีกหลายๆท่านที่โทรศัพท์มาถามข่าว ในส่วนของสหกรณ์การเกษตรเมืองชัยภูมิ จำกัด ก็มีทรัพย์สินเสียหายบ้างคิดเป็นมูลค่า 7-8 หมื่นบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้า(ปุ๋ย)ที่เก็บไว้ในโกดังซึ่งขนย้ายไม่ทันเพราะนำเข้าท่วมบริเวณสำนักงานตอนกลางคืนเวลาประมาณ 23.30น.ของวันที่ 19 ต.ค.53 ในส่วนความเสียหายของสมาชิก สหกรณ์กำลังสำรวจ แต่ที่เสียหายหนักๆอยู่ในพื้นที่ไก้ลแม่นำชี 4-5 ตำบล เทือกสวน ไร่ นา เสียหายเกือบทั้งหมด เพราะเป็นที่ลุ่มนําท่วมขังหลายวัน

รู้สึกดีใจ และอบอุ่นครับที่ เพื่อน พี่ น้องห่วงใยถามไถ่ ส่วนเพื่อนๆที่ได้รับผลกระทบในสถาณการณ์เดียวกันก็ขอเป็นกำลังใจให้ทำในสิ่งที่ต้องทำและควรทำ หากท่านหนาวก็อาจจะเป็นผ้าห่มคลายหนาวไม่ได้ แต่อาจจะหนาวเป็นเพื่อนท่านได้

ขอบคุณทุกความห่วงใยครับ

ความเชื่อเรื่อง.........“วันห้ามต่างๆของไทย”

ความเชื่อ คือ ความคิดหรือทิศทางความเห็นที่กลุ่มชนพึงมีไปในทางเดียวกัน สอดคล้องสัมพันธ์กัน หรือประมาณเข้าใจว่าน่าที่จะเป็นเฉกเช่นนั้น เป็นต้น ความเชื่อของคนเราไทยนั้นดังที่พอทราบได้ว่ามีมากมายหลายอย่างโดยเฉพาะรูปแบบของความเชื่อที่ถูกถ่ายเทมาแต่ครั้งอดีต ตกทอดมายังคนรุ่นต่อๆมา อาทิ ความเชื่อในเรื่องของวันห้าม คนไทยมีความเชื่อในเรื่องของวันห้ามต่างๆดังมีปรากฏว่า

ห้ามขึ้นบ้านใหม่วันเสาร์

ห้ามเผาผีวันศุกร์

ห้ามโกนจุกวันอังคาร

ห้ามแต่งงานวันพุธ

วันพุธห้ามตัด

วันพฤหัสห้ามถอน

ห้ามขึ้นบ้านใหม่วันเสาร์..........เพราะเชื่อกันว่าวันเสาร์เป็นวันแรง ถ้าขึ้นบ้านใหม่ในวันนี้แล้วจะทำให้ชีวิตครอบครัวอยู่กันอย่างไม่เป็นปกติสุข

ห้ามเผาผีวันศุกร์...........เพราะเชื่อว่าวันศุกร์เป็นวันแห่งโชคลาภ และความรื่นเริง หากเกิดการเผาผีขึ้นในวันนี้แล้วจะก่อให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นดังคำกล่าวที่ว่า “เผาผีวันศุกร์ ให้ทุกข์แก่คนยัง”

ห้ามโกนจุกวันอังคาร.............เพราะเชื่อว่าวันอังคารเป็นวันแข็ง หากโกนจุกในวันนี้แล้วอาจเกิดเรื่องร้ายแรง อาทิ อุบัติเหตุขึ้นกับผู้ถูกโกนจุกได้

ห้ามแต่งงานวันพุธ.............เพราะเชื่อกันว่าวันพุธเป็นวันที่ไม่มีความมั่นคง หากแต่งงานในวันพุธแล้วจะทำให้ชีวิตแต่งงานพบแต่อุปสรรค

วันพุธห้ามตัด............เพราะเชื่อกันว่าวันพุธเป็นวันแห่งความเจริญงอกงาม จึงห้ามตัดสิ่งต่างๆในวันพุธ อาทิ การตัดต้นไม้ต่างๆ รวมทั้งร้านตัดผมก็ยังนิยมหยุดให้บริการในวันพุธ เป็นต้น

วันพฤหัสห้ามถอน............เพราะเชื่อกันว่าวันพฤหัสเป็นวันแห่งความมั่งคั่ง ดังนั้นการถอดถอนต้นไม้ เสาเรือน หรือถอดถอนสิ่งสำคัญต่างๆจึงพึงงดในวันดังกล่าว

ทันโลกทันธรรม

เรื่อง : พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ (M.D.; Ph.D.) ออกอากาศทางช่อง DMC

โรคมะเร็งที่จะพูดถึงวันนี้เป็นโรคมะเร็งองค์กร คือ ถ้าหากว่าองค์กรหนึ่งเป็นเสมือนสิ่งมีชีวิต มะเร็งในองค์กรก็มีสิทธิ์จะเกิดขึ้นได้ แล้วเราจะมีวิธีป้องกัน แก้ไขอย่างไร

ก่อนอื่นลองมาเทียบเคียงกับมะเร็งในร่างกาย คนเสียก่อน

สาเหตุหลักของมะเร็งในร่างกายคน สรุปได้ ๔ อย่าง คือ

๑. เกิดจากการรับสารพิษเข้าไป ที่จริงร่างกายคนเราก็มีสารพิษอยู่แล้ว และมีกระบวนการในการกำจัดสารพิษอยู่ด้วย แต่ถ้าระบบกำจัดสารพิษทำงานไม่ค่อยปกติก็จะมีปัญหา

๒. เกิดจากกระบวนการในการกำจัดเซลล์ ผิดปกติทำงานไม่ดี ร่างกายคนเรามีเซลล์มากมาย เป็นล้าน ๆ เซลล์ ใน ๑ วินาทีจะต้องสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์เก่าทั่วทั้งร่างกายประมาณ ๒๕ ล้านครั้ง เพราะเซลล์ในร่างกายคนเราเยอะมาก และกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่มีโอกาสที่จะเกิด การผิดพลาดขึ้นมาได้ ถ้าเซลล์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ผิดปกติ ร่างกายก็จะต้องตรวจจับให้ได้ และมีกระบวนการกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติออกไป แต่ถ้ากระบวนการในการกำจัดเซลล์ผิดปกติทำงานไม่ดี เซลล์ผิดปกติที่เกิดขึ้นมาก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้วกลายเป็นมะเร็งขึ้นมา หรือถ้าสารพิษที่กำจัดออกไปไม่หมดมีปริมาณมากขึ้น ก็จะไปเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิดปกติมากขึ้น

ทั้ง ๒ กรณีนี้ อาจเกิดจากยีน กรรมพันธุ์ หรือสิ่งแวดล้อมก็ได้

๓. เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่ไม่ดี ปกติคนเราทุกคนมีภูมิคุ้มกัน เวลาร่างกายมีสิ่ง ผิดปกติเข้ามา ภูมิคุ้มกันก็จะไปจับและกำจัด สิ่งนั้นออกไป ถ้าภูมิคุ้มกันอ่อนแรงลง การกำจัดสิ่งผิดปกติก็จะทำได้น้อยลง ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งได้เพิ่มขึ้น

ถ้าถามว่าทำไมภูมิคุ้มกันถึงอ่อนกำลังลง สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากความเครียด พักผ่อนไม่พอ ร่างกายอ่อนล้า ทำให้ระบบต่าง ๆ อ่อนกำลังลง ถึงคราวมีอะไรผิดปกติขึ้นมาก็สู้ไม่ไหว จัดการไม่ได้

๔. เกิดจากอาหารที่เราบริโภค ถ้าอาหาร ที่เราบริโภคเป็นอาหารที่ไม่เหมาะสม มีสารก่อมะเร็งมาก ก็มีโอกาสเกิดโรคได้มาก

ทั้ง ๔ ข้อนี้ มีความเชื่อมโยงกัน ไม่ได้แยกขาดจากกัน หากรับสารพิษเข้าไปมาก ไม่ว่าอากาศเป็นพิษ หรือน้ำเป็นพิษก็ตาม มีโอกาสเข้าไปสะสม ในร่างกาย แล้วนำไปสู่ข้อ ๒ คือ กระตุ้นให้เกิดการ สร้างเซลล์ใหม่ที่ผิดปกติขึ้นมา แล้วพอภูมิคุ้มกัน อ่อนกำลังลงเพราะพักผ่อนไม่พอ หรือเพราะเครียด ก็จะทำให้กระบวนการในการกำจัดเซลล์ผิดปกติทำหน้าที่ได้ไม่ดี เซลล์ผิดปกติก็เลยเจริญเติบโตมากขึ้น ๆ จนกระทั่งกลายเป็นมะเร็ง อาหารที่เราบริโภคก็เป็นตัวหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดสารพิษกระตุ้น ทำให้เกิดเซลล์ผิดปกติได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน แล้วกลายเป็นมะเร็งในที่สุดนี่คือ กระบวนการในการเกิดมะเร็งของคนเราโดยทั่วไป

ส่วนมะเร็งองค์กรนั้น มีสิ่งที่จะต้องใส่ใจและ ให้ความสำคัญ คือ

๑. ป้องกันมลพิษทางใจระบาดในองค์กร ก่อนอื่นถ้าเรามององค์กรโดยทั่วไป จะพบว่ามีสารพิษมาโดยตลอด เป็นมลพิษทางใจของสมาชิกในองค์กร ที่ทำให้เกิดความคิดหรือความเข้าใจผิด ๆ ออกนอกลู่นอกทาง ซึ่งถ้าทิ้งไว้ก็จะทำให้องค์กรปั่นป่วนได้ เรื่องนี้ขอยืมตัวอย่างของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาให้ดูว่า พระองค์ทรงบริหารองค์กรคณะสงฆ์ ในครั้งพุทธกาลอย่างไร จึงทำให้สงฆ์เป็นปึกแผ่นและสามารถสืบทอดมาได้ถึง ๒,๐๐๐ กว่าปี

วิธีของพระองค์ ก็คือ การพร่ำสอนบ่อย ๆ ดังจะเห็นได้ว่า พระองค์ทรงพร่ำสอนพระภิกษุสงฆ์มาตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อให้คณะสงฆ์เกิดความเข้าใจที่ตรงกันว่า อะไรคือสิ่งที่ถูก ที่ควร ที่ดี

ในการบริหารองค์กรก็เช่นกัน พวกเราจะต้อง มีการสื่อสารที่ดีระหว่างผู้บริหารเจ้าหน้าที่ และพนักงานทั้งหมดในองค์กร วิธีการง่าย ๆ ที่จะเช็กว่าเรามีระบบการสื่อสารดีพอหรือเปล่า คือ สังเกตว่าในองค์กรมีข่าวลือไหม ถ้าองค์กรไหนมีข่าวลือมากแสดงว่าระบบการสื่อสารมีปัญหา ถ้าเพิกเฉยทิ้งไว้จะทำให้มีโอกาสเกิดมะเร็งขึ้น ถ้าผู้บริหารตัดสินใจทำอะไร จะนำองค์กรไปในทิศทางไหนต้องมีการ สื่อสารกับพนักงานและเจ้าหน้าที่ ให้เขาเข้าใจเหตุผลที่มา ที่ไป พอทุกคนเข้าใจ เห็นภาพทั้งหมดตรงกัน องค์กรก็จะรวมเป็นเอกภาพ เพราะเอกภาพเริ่มต้นจากความคิด แต่ถ้าขาดความเข้าใจ ก็จะตีความกันไปต่าง ๆ นานา ผลลัพธ์ก็คือคิดกันไปคนละทิศ คนละทางคิดแล้วเอาไปพูดต่อก็กลายเป็นข่าวลือ ยิ่งถ้ามีคนเจตนาไม่ดีมาปล่อยข่าวลือ ก็ยิ่งไปกันใหญ่

แต่ถ้าองค์กรไหนมีระบบการสื่อสารที่ดี ทุกคน จะรู้ว่าต้องฟังใคร ข้อมูลจากใครเชื่อถือได้มากที่สุด อย่างนี้ถ้าอะไรเกิดขึ้น ทุกคนก็จะเข้าใจทุกอย่าง ใคร จะมาปล่อยข่าวลือก็ไม่สำเร็จ

๒. กำจัดเซลล์แปลกปลอม ร่างกายคนเราต้อง สร้างเซลล์ใหม่วินาทีละ ๒๕ ล้านครั้ง แน่นอนว่าในจำนวนนั้นต้องมีเซลล์ที่ผิดปกติบ้างในการแตกตัว เช่นเดียวกับองค์กรที่รับสมาชิกเข้ามามาก ๆ ก็ต้อง มีสมาชิกที่ผิดปกติปนเปเข้ามาบ้าง คือ เข้ากับ หมู่คณะไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องมีวิธีการบริหารจัดการให้ดี

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้วิธีวางกรอบวินัย ไว้อย่างรัดกุม ทั้งหนัก ทั้งเบา คนทำผิดครั้งแรกพระองค์จะทรงถือว่าเป็นอาทิกรรมิกะ คือ ถือว่าเป็น ต้นบัญญัติ ยกประโยชน์ให้จำเลยไป แต่ก็ทรงวางระเบียบไว้ว่า จากนี้ไปใครจะทำอีกไม่ได้ แล้วทรง ค่อย ๆ บัญญัติวินัยขึ้นมาทีละข้อ ๆ โดยมีที่มาที่ไป ทุกข้อ ถ้าอยู่ ๆ ประกาศระเบียบขึ้นมา ๓๐๐ ข้อ คนก็ไม่รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมระเบียบมากเหลือเกิน เข้มไปหรือเปล่า แต่ถ้าทุกข้อมีที่มาที่ไป มีหลักการและเหตุผลในการบัญญัติระเบียบข้อนั้น ๆ ยิ่งถ้าบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ด้วย คนก็มีแนวโน้มที่จะยอมรับสูง และถ้าตั้งกติกาขึ้นมาแล้ว เวลาใช้จริง ๆ ยังใช้การได้ไม่ดีพอ ก็ต้องปรับเนื้อหา อย่าง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงปรับเหมือนกัน ที่เรียกว่า อนุบัญญัติ ทรงปรับเป็นระยะ ๆ ปรับจนกระทั่งสมบูรณ์แล้วจึงใช้สืบทอดมาถึงปัจจุบัน

ฉะนั้น องค์กรแต่ละแห่งก็ต้องมีกฎระเบียบที่ชัดเจน มีที่มา ที่ไป เป็นเหตุ เป็นผล สอดคล้องกับสถานการณ์ ให้ทุกคนถือปฏิบัติเหมือนกันหมด ทั้งองค์กร ใครทำไม่ถูกต้องก็ว่าไปตามกติกา หนักเบาแค่ไหน อย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น เช่น ถ้าทำอาบัติปาราชิก ๔ ข้อ ก็ต้องขาดจากความเป็นพระ พ้นจากความเป็นสมาชิกภาพขององค์กรคณะสงฆ์พระองค์ทรงบอกไว้อย่างชัดเจนว่า กระทำอย่างไรเป็นอาบัติสังฆาทิเสส ต้องไปอยู่กรรม คล้าย ๆ โทษจำคุกทางโลก ซึ่งเป็นที่รับทราบทั่วไปว่า ใคร ทำผิดก็ต้องผ่านกระบวนการทำตัวเองให้บริสุทธิ์ตามที่พระองค์ทรงกำหนดเอาไว้ มีหนักมีเบาแยกกันไป ตามเรื่องราวที่กระทำ คือ ทรงให้กฎระเบียบขององค์กรไว้ชัดเจน มีเหตุ มีผล มีที่มา ที่ไป ที่ทุกคนรับทราบและยอมรับถือปฏิบัติตรงกัน วินัยนี้เอง ที่เป็นตัวกรองหมู่คณะ กรองสมาชิก ใครเป็นเซลล์ผิดเพี้ยนจะถูกวินัยกรองและคัดแยก วินัยจึงเป็นเสมือนภูมิคุ้มกันให้เราไปในตัวด้วย

พระองค์ตรัสว่าจะปฏิบัติต่อสงฆ์ทั้งหลาย แบบไม่ทะนุถนอมเลย แต่พระองค์จะกระหนาบแล้ว กระหนาบอีกไม่มีหยุด ชี้โทษแล้ว ชี้โทษอีก ไม่มี หยุด "ผู้ใดมีมรรคผลเป็นแก่นสาร ผู้นั้นจึงจะทน เราได้" ฉะนั้น ตั้งวินัยให้ดี ให้เข้มงวดกวดขัน แต่ยุติธรรมสำหรับทุก ๆ คน อย่างนี้จะรักษาเอกภาพในองค์กรได้เป็นอย่างดี และสัมพันธ์กับข้อแรกด้วย คือ ทำให้เกิดความเข้าใจกัน เวลาเกิดอะไรขึ้นข่าวสารจะถึงกันหมด และรู้ว่าตัดสิน อย่างนั้นเพราะอะไร ทำเรื่องนี้เพราะอะไร ไม่ทำเพราะอะไร ถ้าระบบการสื่อสารดี กติกาทุกอย่างในองค์กรดีโอกาสเกิดมะเร็งจะมีน้อย

๓. ระบบภูมิคุ้มกัน วินัยจัดเป็นภูมิคุ้มกัน อย่างหนึ่ง แต่ภูมิคุ้มกันนี้บางทีก็อ่อนกำลังได้เหมือนกัน ถ้าในแง่ของมะเร็งในร่างกาย คนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนลง บางทีเกิดจากกรรมพันธุ์ต้นแบบวางไว้ไม่ดี เจ้าตัวก็ต้องปรับแก้ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่บางทีต้นแบบดี ตัวยีนไม่มีปัญหา กรรมพันธุ์ไม่มีปัญหา แต่เกิดจากตัวคนมีความเครียด เช่น พักผ่อน น้อยและมีเรื่องกลุ้มใจมาก ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายแปรปรวน ภูมิคุ้มกันก็จะรวนไปด้วย

องค์กรก็เหมือนกัน บางทีกรอบวินัยทำไว้ อย่างดี แต่พนักงานเกิดความเครียด เลยไม่ค่อย อยากทำตามวินัย เกิดรวนขึ้นมา อย่างนี้ก็เป็นไปได้ วิธีแก้ต้องให้สมาชิกในองค์กรรู้จักการพักใจ วิธีที่ดีที่สุด คือ สร้างบุญ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา พอบุญหล่อเลี้ยงใจ ใจจะผ่องใส สว่างไสว ชุ่มชื่น แล้วจะมีพลังใจทำสิ่งดี ๆ กันต่อไป แล้วบุญกุศล สิ่งที่ดีงามนี้ จะหลอมรวมใจทุกคนให้เป็นหนึ่งได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้น ผู้บริหารองค์กรทุกท่านควรจะเป็น ผู้นำให้สมาชิกในองค์กรประพฤติปฏิบัติธรรม พอใจ นิ่ง ๆ นุ่มนวลผ่องใสแล้ว ปัญหาจะหมดไปโดยปริยาย บางทีไม่ต้องทำอะไรก็หมดไปเอง เรื่องใหญ่ ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กก็จะกลายเป็นไม่มีเรื่อง แต่ถ้าใจหยาบก็เหมือนภูมิคุ้มกันบกพร่อง เรื่องเล็กก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่ก็แตกกันไปเลย เพราะฉะนั้นการพักใจด้วยการปฏิบัติธรรม ด้วยทาน ด้วยศีล ด้วยบุญกุศล จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

๔. อาหารที่บริโภค ถ้ามีอาหารไม่ดีเข้าไปในร่างกาย ก็จะไปกระตุ้นให้โอกาสเกิดเซลล์ผิดปกติมีสูง ในแง่ขององค์กรก็เหมือนกับการบริโภคสื่อ บริโภคข้อมูลข่าวสาร ซึ่งตอนนี้มีข้อมูลข่าวสารมากมาย ถ้าหากปล่อยให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ดีหลุดเข้ามาในองค์กรมาก ก็จะทำให้มีโอกาสเกิดมะเร็งสูง ข้อนี้จะไปสัมพันธ์กับข้อ ๑ ซึ่งจะเป็นช่องทางใน การรับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความคิด แปลก ๆ เพี้ยน ๆ ทำให้ใจหยาบกระด้างและภูมิคุ้มกันอ่อนกำลังลง ซึ่งจะทำให้ไม่อยากปฏิบัติตามระเบียบวินัย

เพราะฉะนั้นสมาชิกในองค์กรจะดีได้ ผู้บริหารองค์กรต้องรู้จักบริหารจัดการเรื่องข้อมูลข่าวสารให้ดี หาวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสม ถ้ามีสื่อเข้ามาจะต้อง ทำอย่างไร โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ตอนนี้เข้าถึงทุกแห่ง ต้องวางกติกาให้ดี ให้รัดกุมถูกต้อง สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่ใช่วางจนเข้ม เกินไป แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ทำไม่ได้ แต่ถ้ากติกาสอดคล้องกับความเป็นจริง มีเหตุมีผล พนักงานและเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าใจและให้การยอมรับ ที่สำคัญ ควรให้พนักงานได้ไปวัด ไปปฏิบัติธรรม จนมีใจ ที่นุ่มนวล ยินดีที่จะปฏิบัติตามระเบียบวินัย

การบริหารควบคุมเรื่องสื่อที่ไม่เหมาะสม ไม่ให้เข้ามาทำลายองค์กร จะเป็นไปได้ต้องใช้ทั้ง ๔ ข้อประกอบกัน ไม่ใช่แยกส่วนทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะจะทำได้ยาก แต่ถ้าทำทั้ง ๔ อย่าง ก็จะได้ผล คือ พนักงานทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทำงานอย่างมีความสุข องค์กรก็จะเจริญก้าวหน้า ผลตอบแทนก็จะเพิ่มขึ้น ทุกคนก็จะมีความภาคภูมิใจ ในองค์กร และมีความเป็นเอกภาพ สามัคคีกัน ไม่มีการเลื่อยขาเก้าอี้ หรือตั้งกลุ่มตั้งก๊กเป็นก๊วน เหมือนกับเป็นมะเร็งย่อย ๆ ขึ้นมา ทุกคนในองค์กร ก็จะทำงานอย่างมีความสุข และมีผลตอบแทนที่ดี ทั้งบริษัท องค์กร ทั้งเจ้าหน้าที่ พนักงาน บุญกุศลก็บังเกิดขึ้นเพราะได้สร้างบุญสร้างกุศล ทั้งทาน ศีล ภาวนา ตลอดต่อเนื่อง นี่คือการป้องกันมะเร็งในองค์กรที่ดีมาก ๆ และทำให้องค์กรนั้นเป็นองค์กรที่แข็งแรง

สวัสดีทุกคน

ช่วงนี้หลายพื้นที่มีน้ำท่วม ก็ต้องขอเอาใจช่วย เพราะไม่สามารถไปช่วยเหลือได้ อีกอย่างช่วงนี้ภาคใต้ฝนตกหนัก บางพื้นที่ในจังหวัดสงขลา มีน้ำท่วมแล้วบางพื้นที่ และอีกหลายพื้นที่น้ำกำลังจะท่วม สำหรับที่สหกรณ์ผมขณะนี้ยังไม่ท่วม วันนี้มาทำงานปกติ แต่ขณะนี้ฝนตกหนักมาก คาดว่าปีนี้น้ำคงจะท่วมและดูข่าวแล้วกำลังจะประกาศภัยพิบัติในจังหวัดสงขลา

คุณสุทิศ พยายามติดต่อคุณหลายครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้นำท่วมเมืองสงขลา ขอส่งกำลังใจช่วยขอให้นำลดเร็วๆลูกที่ 2 ขออย่าให้เกิดนะคะ คุณแจ้มาส่งคุณหมอลูกสาวที่จังหวัดสุรินทร์กลับกรุงเทพหรือยังคะ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินทางไปสุรินทร์ก่อนไปและกำลังเดินทางสอบถามป้าเครือเรื่องเส้นทางไปตลอดเนื่องจากเส้นทางหลักน้ำท่วมหลายจุดจนคำนวณเวลาแน่นอนไม่ได้ ขอขอบคุณป้าเครือเพื่อนและพี่ที่แสนดีของน้องๆช่าวผนส.3ที่อุตส่าห์หิ้วท้องรอจะเลี้ยงข้าวกลางวันผมและครอบครัว เนื่องจากกะระยะการเดินทางไม่ถูกและเด็กๆเริ่มหิวจึงแวะทานที่อำเภอนางรองก่อนถึงอำเภอปราสาทถิ่นป้าเครือจึงทำให้ป้าเครือผิดหวังมาก( ได้อาฆาตว่าเที่ยวหน้าอย่าทำอย่างนี้อีก) ไปส่งลูกสาวที่โรงพยาบาลอำเภอจอมพระห่างจากถิ่นป้าเครือประมาณห้าสิบกว่ากิโล ตอนเย็นผอ.รพ มีการเลี้ยงรับรองหมอใหม่ ช่วงงานเลี้บงผอ.รพและคุณนายคุยโม้แต่เรื่องข้าวหอมสุรินทร์ว่าอร่อยนักอร่อยหนา(โดยหารู้ไม่ว่าเป็นข้าวของเพื่อนเราเอง ) คืนนี้นอนที่นี่(ป้าเครือจะให้ไปนอนresortของป้าที่ปราสาทแต่ไกลจากรพ.ไปหน่อย) ขอบคุณในความมีไมตรีของพวกเราชาวผนส.อบอุ่นจริงๆ ( โอกาสหน้าอย่าหนีก็แล้วกัน)แล้วเจอกันป้าเครือของน้องๆ วันอาทิตย์ออกจากสุรินทร์สามโมงเช้าถึงกรุงเทพฯเรียบร้อยโดยสวัสดิภาพ....ขอขอบคุณในความห่วงใย...และขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆชาวใต้ที่ประสบอุทกภัยทุกท่าน..สู้ๆๆๆๆ

ถ้าฉันเป็นนายกฯ ในประเทศที่กำลังมีน้ำท่วมหนัก

ถ้าฉันเป็นนายกฯ ในประเทศที่กำลังมีน้ำท่วมหนัก (Rood Thanarak)

ถ้าฉันเป็นนายกรัฐมนตรี ในประเทศที่กำลังมีภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี กินพื้นที่กว่า 30 จังหวัดหรือเกือบครึ่งประเทศ ผู้คนเดือดร้อนหลายล้านคน เป็นเวลายาวนานเกือบหนึ่งสัปดาห์เต็ม ฉันจะ ...

ฉันจะสั่งทำถุงยังชีพ ให้ข้างถุงเขียนว่า "มาจากภาษีประชาชน" ไม่ต้องให้ใครได้ "เอาหน้า" เพราะประชาชนเป็นคนทำงานเสียภาษีให้รัฐทุกปีอยู่แล้ว

ฉันจะจัดตั้ง "ศูนย์กลางแก้วิกฤติ" อย่างด่วนที่สุด ไม่รอให้เนิ่นช้ากว่า 7 วัน ไม่ปล่อยให้ "รัฐบาล" ซึ่งกินภาษีประชาชน ทำงานเชื่องช้ากว่าประชาชนด้วยกันเอง

ฉันจะเอา "ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ศอฉ." นั่นแหละมาปัดฝุ่นแล้วลุยงานเลย เพราะฉันเชื่อว่า "น้ำท่วม" ก็เป็นเรื่อง "ฉุกเฉิน" ของชาติเช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะภารกิจปราบม็อบเสื้อแดงเท่านั้นที่ฉุกเฉิน

ฉันจะตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าศูนย์ เพราะฉันคือผู้นำประเทศ และนี่คือช่วงเวลาที่ประเทศต้องการผู้นำ

ฉันจะไม่ตั้งที่ปรึกษาฯ ของฉัน ซึ่งไม่มีอำนาจอะไรทางกฏหมายเป็นหัวหน้าศูนย์ โดยเฉพาะหากที่ปรึกษาคนนั้น เคยต้องลาออกจากตำแหน่งการเมืองด้วยเรื่องอื้อฉาวในอดีต

ฉันจะเอาข้อมูลทั้งหมดมาประมวลในภาพกว้าง ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่า "น้ำ" ที่ท่วมหนักที่สุดในรอบ 50 ปีนั้นมาจากไหน มาอย่างไร มาเมื่อไหร่ แล้วมันแตกต่างจากน้ำในปีก่อน ๆ อย่างไร และทำไมถึงต่าง

ฉันจะต้องรู้ด้วยว่าพื้นที่ไหนบ้างที่เดือดร้อนไปแล้ว พื้นที่ไหนกำลังเดือดร้อนในตอนนี้ และ พื้นที่ไหนที่น้ำจะท่วมต่อไปในวันพรุ่งนี้ และที่สำคัญคือ เมื่อไหร่ทุกอย่างจะคลี่คลาย พื้นที่ไหนกำลังเดือดร้อน ฉันจะจัดแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ (แดง เหลือง เขียว) ฉันอยากรู้ด้วยว่าในพื้นที่แต่ละแบบนั้นมีประชาชนอยู่กี่คน จุดไหนบ้าง พื้นที่ไหนเป็นสภาพเมือง พื้นที่ไหนเป็นพื้นที่การเกษตร ฉันจะได้ส่งการช่วยเหลือไปอย่างเหมาะสม

ฉันจะกำหนดให้ศูนย์กลางแก้วิกฤติเป็นมากกว่า "คนประสานงาน" ระหว่างหน่วยงานราชการที่เชื่องช้า ศูนย์กลางของฉันจะต้องทำหน้าที่ "บริหารทรัพยากร" ที่มีอยู่ให้ใช้ไปอย่างถูกที่ ถูกเวลาด้วย

เงินทองที่เบิกจ่ายต้องโปร่งใสรวดเร็ว ประมวลข้อมูลจากภาคสนามอย่างทันท่วงที และประสานรับ "น้ำใจ" จากภาคเอกชนอย่างเป็นระบบ ดังนั้น ศูนย์ของฉันจะมีข้อมูลรายละเอียดว่าวันนี้ อำเภอไหนบ้างที่ขาดไฟฉายเข้าขั้นวิกฤต ตำบลใดรับข้าวสารไปหุงกินเองได้ ตำบลใดต้องการอาหารสำเร็จรูปมากกว่า เส้นทางไหนต้องใช้เรือ ใช้กี่ลำ มีคนติดอยู่แถวนั้นกี่คน

ฉันจะรู้ด้วยว่าถึงนาทีนี้ข้าวสาร น้ำดื่ม ทั้งที่จัดซื้อมาเอง และประสานกับภาคเอกชนนั้น มีกี่ขวดแจกจ่ายไปจุดไหนบ้างแล้ว ไปถึงที่หมายช้าเร็วแค่ไหน มีใครได้เกินความจำเป็นหรือไม่ มีใครที่ขาดแคลนอย่างหนักแต่ยังไม่ได้หรือเปล่า

เงินบริจาคทุกบาทจะต้องทำบัญชี แสดงที่มาที่ไป หน่วยงานไหนรับบริจาคมาเท่าไหร่ ต้องแสดงให้ชัดเจน เพราะมันจะมีผลต่อการกล่าวอ้างเพื่อยกเว้นภาษี อีกทั้งป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อฉล โดยใช้ความเดือดร้อนของคนร่วมชาติเป็นเครื่องมือ

อ้อ .. ฉันจะแจ้งให้กลุ่ม "ชาตินิยม" ทั้งหลายทราบด้วยว่า ตอนนี้แหละคือเรื่องของ "ชาติ" จริง ๆ เพราะมันคือเรื่องของคนตัวเป็นๆที่อยู่ในประเทศเดียวกัน ไม่ใช่ที่ดินผืนน้อยที่มีปัญหามาแต่โบราณ ใครอยากกู้ชาติ อยากพลีชีพ เชิญได้เต็มที่ในครั้งนี้ อย่ามัวแต่ไปต่อแถวกินโดนัท

ฉันจะต้องรู้ด้วยว่า "พื้นที่ปลอดภัย" ในแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัดนั้นมีที่ไหนบ้าง จุดไหนที่สามารถอพยพผู้คนเข้าไปได้ จุดไหนยังเสี่ยง

ฉันจะจัดทำแผนอพยพที่ชัดเจน จะไปเส้นทางใด ใช้พาหนะใด ใช้เวลาเดินเท่าไหร่ และที่สำคัญ วันนี้ปลอดภัยแล้วพรุ่งนี้จะปลอดภัยไหม ข้อมูลวิทยาศาสตร์ทำนายว่าอย่างไร ดังนั้น หากรู้ว่าน้ำกำลังไหลจาก อำเภอ ก. ไป อำเภอ ข. ภายใน 12 ชั่วโมง ฉันจะได้สั่ง "อพยพ" ผู้คนได้ล่วงหน้า ทันเวลา ไม่ใช่เพียงแต่ทำงาน "ตามปัญหา"

ด้วยความที่ฉัน (และศูนย์กลางของฉัน) มีข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน เห็นภาพกว้างที่สุด ฉันจะสามารถ "ประสาน" แนวทางการทำงานของแต่ละกลุ่ม ทั้งส่วนราชการต่างๆ หรือส่วนเอกชนอย่างอาสาสมัครกู้ภัย หรือกระทั่งสื่อมวลชน ทุกคนจะได้ทำงานไปใน "ทาง" เดียวกัน เป้าหมายเดียวกัน และได้ประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ซ้ำซ้อน ลักลั่น ไร้ทิศทาง

ฉันเชื่อว่าในสภาวะวิกฤติเช่นนี้ การส่งทรัพยากรอันจำกัดไปให้ถูกที่ ถูกเวลา นั้นสำคัญมาก – ใครขาดน้ำดื่มต้องได้น้ำดื่ม ใครขาดอาหารแห้งต้องได้อาหารแห้ง ใครป่วยต้องได้ถูกเคลื่อนย้ายออกมาทันที – เพราะการใช้ทรัพยากรไปหนึ่งครั้ง มันมีค่าเสียโอกาสอยู่ด้วย

เรือที่ออกไปแจกข้าวสาร สามารถใช้ไปรับคนป่วยได้เช่นกัน เราเพียงต้องรู้ให้ชัดว่าเมื่อไหร่ควรใช้อะไร ทำอะไร เพื่ออะไร ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้ มันต้องมีข้อมูลมุมกว้าง และต้องตัดสินใจอย่างจากภาพรวม

สำหรับพื้นที่ไหนที่น้ำยังไปไม่ถึง ฉันจะสั่งให้รีบ "เตรียมตัว" รับมือ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการเอากระสอบทรายมา "กั้น" น้ำเพียงอย่างเดียว แต่ต้องหมายถึงการเตรียมทางหนี ทีไล่ ระบบแจ้งเตือน จัดพื้นที่ปลอดภัยไว้รอรับปัญหา จัดอาหาร ยารักษาโรค ไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน

พื้นที่ไหนน้ำเริ่มลดแล้ว ฉันจะเร่งช่วยเหลือประชาชน ซึ่งไม่ได้หมายถึงการ "แจกเงิน" อย่างมักง่ายเพียงอย่างเดียว เพราะฉันรู้ดีว่าเงินมีจำกัด และในสภาวะฉุกเฉินนั้น เงินอาจไม่ต่างจากกระดาษปึกหนึ่ง ที่อาจเอาไปซื้ออาหารมากินได้ไม่กี่มื้อ

ฉันจะเร่งช่วยเหลือประชาชนในช่องทางอื่นด้วย เช่น อาจได้เวลาปล่อยสต๊อกข้าวในยุ้งของรัฐ อาจประสานงานกับภาคเอกชนว่าต้องการ "สินค้าเกษตร" เป็นของบริจาค และ อาจเอางบประมาณฉุกเฉินมา "จ้างงาน" ผู้ประสบภัยให้ "ทำอาหาร" แจกจ่ายคนอื่น ๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยประชาชนได้ถึงสองต่อ (มีงานทำ ได้เงิน มีกิน) – ฉันหวังว่าไอเดียแบบเด็ก ป.4 ของฉันจะไม่ไร้เดียงสาเกินไปนัก

ฉันจะทำงานด้วยสำนึกในกะโหลกว่า "ผู้นำ" ประเทศมีหน้าที่รับทราบข้อมูล ประมวลผลในภาพกว้าง กำหนดกลยุทธ์ แนวทาง เป้าหมาย และ "ตัดสินใจ" ในทางเลือกสำคัญ ๆ

ผู้นำประเทศไม่ได้มีหน้าที่เพียง "รับฟัง" แล้วปล่อยให้ลูกน้องทำงานไปวัน ๆ ตามมีตามเกิด

ฉันรู้ดีว่าแนวทางเช่นนี้สำคัญมากในการ "บริหารวิกฤติ" และในฐานะ "นายกฯ มือใหม่" ฉันจะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด เพราะจะว่าไป "น้ำท่วม" อาจเป็นภัยพิบัติที่ "เบา" ที่สุดแล้ว หากเทียบกับ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ หรือ ไวรัสระบาด

ฉันจะไม่ออกเดินทางพร่ำเพรื่อ หรือหากจะออกภาคสนาม ก็จะใช้ทรัพยากร (เช่น เจ้าหน้าที่ หรือ ยานพาหนะ) อย่างน้อยที่สุด เพราะสิ่งเหล่านั้นควรถูกนำไป "แก้ปัญหา" มากกว่ามาดูแลฉัน

ฉันจะพูดให้น้อย ทำงานให้มาก พูดเฉพาะเรื่องสำคัญ ๆ เพราะรัฐบาลของฉันมีโฆษกกินเงินเดือนอยู่แล้ว

ฉันไม่อยากไปแย่งงานเขา …

หมายเหตุ :

คัดลอกจากเรียงความของนักเรียน ป.4 คนหนึ่ง ซึ่งเขียนส่งอาจารย์เป็นการบ้านวิชาสังคมศึกษา

สวัสดี

ขอบคุณป้าเครือที่เป็นหวัง น้ำท่วมสงขลา รับกันไปทั่วหน้า เรื่องน้ำท่วมที่ทำงานผมไม่ท่วมเนื่องจากอยู่ที่สูง แต่ในพื้นที่มีน้ำท่วมกันทั่วถึง ที่บ้านผมก้ท่วมแต่ไม่มาก สมาชิกทุกคนประสบน้ำท่วมกันทั่วหน้า แต่ที่หนักมากคือโดนพายุ บ้านเสียหาย สวนยางล้มเสียหายเป็นจำนวนมากและเกือบทุกครัวเรือน

การช่วยเหลือของสหกรณ์ ก้ช่วยเหลือสมาชิกที่ประสบภัยบ้านเสียหาย อยูระหว่างการสำรวจ เรื่องสวนยางเสียหายให้ไปขอความช่วยเหลือจากเกษตร

ซึ่งการเกิดภัยภิบัติครั้งนี้ถือว่าหนักมาก และมากกว่าทุกครั้งที่เกิดมา แต่ที่หน้าเป็นหวังในตัวเมืองหาดใหญ่ น้ำท่วมหนักมาก ซึ่งวันนี้เริ่มดีขึ้น ส่วนที่บ้านผมและบ้านสมาชิกบางพื้นที่ ไม่มีไฟฟ้าใช้ โทรศัพย์ก็ใช้ไม่ได้ วันนี้มาทำงานเลยสามารถติดต่อกับคนอื่นได้ แต่โทรศัพย์มือถือยังใช้ไม่ได้ หากใครอยากติดต่อ โทรเบอร์สำนักงานใช้ได้ 074-386617

รูปภาพต่างจะส่งให้ดูวันหลัง เนื่องจากอัพโหลดม่ได้

ต้องขอขอคุณทุกคนที่เป็นหวัง

สวัสดีครับ ผนส.ทุกรุ่น ครับ

แอบดูมาตลอด วันนี้ขอแสดงตัวหน่อยครับ เห็นเพื่อนๆประสบปัญหา อุทกภัยแล้ว น่าเศร้าใจจริงๆนะ เราไม่มีทางเลือกครับ ท่วมจากเหนือ อีสาน กลาง ใต้ รัฐบาลหมดไปหลายพันล้าน ที่ต้องช่วยเหลือประชาชน ที่จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 2,3 พ.ย.2553 ก็มีน้ำท่วมบ้าง 3 อำเภอ ที่ท่าแซะ ไม่ได้ท่วมครับ ผมก็โทรศัพท์ ถามสุทิศ อยู่หลายครั้ง เป็นห่วงน้ำท่วมที่ สงขลา ได้ข่าวว่า สวนยางพาราล้ม ได้รับความเสียหาย เป็นจำนวนมาก แค่นี้ก่อนนะครับ คิดถึง ผนส.3 ทุกคนครับ เมื่อไร รวมรุ่นแล้ว ช่วยบอกด้วยนะครับ สวัสดีครับ

อาหาร 2 ชนิดที่ไม่ควรกินร่วมกัน

อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน บางอย่างมีประโยชน์ บางอย่างไม่มีประโยชน์ แต่คุณ ทราบหรือไม่ว่า อาหารบางอย่างที่เราทานเข้าไปทุกวันๆ เราคิดว่ามีประโยนช์มากมายนั้น บางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด มาดูดีกว่าว่ามีอาหารชนิดไหนบ้าง

1. เหล้าขาวกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เป็นพิษ

2. หัวไชเท้ากับเห็ดหูหนู ทั้งดำและขาว - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะเป็นโรคผิวหนัง

3. เต้าหู้กับน้ำผึ้ง - ห้ามรับประทานด้วยกันจะทำให้หูหนวก

4. มันฝรั่งกับกล้วยทุกชนิด - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้หน้าเป็นฝ้า

5. กล้วยกับเผือก - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้ท้องอืด

6. ถั่วลิสงกับฟักทอง - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้ทำร้ายร่างกายและลำไส้อักเสบ

7. มันเทศกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร

8. มันฝรั่งกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เป็นนิ่วในท่อปัสสาวะ

9. หัวไชเท้ากับผลไม้ทุกชนิด - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เกิดคอพอก

10. น้ำเต้าหู้ นมสด - ห้ามใส่ไข่ เพราะจะทำให้ท้องผูกและเส้นเลือดตับ

11. ผักป๋วยเล้ง - ห้ามรับประทานกับเต้าหู้ จะทำให้เป็นนิ่วที่ไขสันหลัง

12. กล้วยมะละกอ แตงโม - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เป็นโรคไตกับโรคเบาหวาน

13. ส้มกับมะนาว - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้กระเพาะทะลุ

14. เหล้าขาวกับเบียร์ - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก

15. ปลาทุกชนิด - ห้ามต้มกับผักกาดดอง จะทำให้เป็นโรคมะเร็ง

16.. ขิงดอง - ห้ามเข้าตู้เย็น กินแล้วจะเป็นโรค มะเร็ง

17. น้ำเต้าหู้ - ห้ามใส่น้ำตาลแดง จะทำให้เสียวิตามิน

18. น้ำข้าว - ห้ามใส่กับนม จะทำให้เสียวิตามิน

19. น้ำผึ้ง - ห้ามชงด้วยน้ำที่ร้อนจะทำให้เสียวิตามิน

20. บวบ ซือกวย ไชเท้า - ห้ามรับประทานวันเดียวกัน จะทำให้เป็นเบาหวาน ทำให้เชื้ออสุจิอ่อนไม่แข็งแรง

21. มังคุดกับน้ำตาล- กินร่วนกันจะทำให้เสียชีวิต

ได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูลจาก คุณเอกลักษณ์ โฉมลักษณ์ ผช.ผจก.ฝ่ายผลิต(รีไฟน์)โรงงานน้ำตาล

สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อน ผนส. ทุกท่าน

                   สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย กำหนดจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3/2553 ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553  ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมรัชนีแจ่มจรัส ในการนี้จัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการสันนิบาตชุดใหม่ด้วย

                  จึงขอเรียนเชิญสมาชิกทุกท่านเข้าร่วมประชุมวิสมัญ และเลือกตั้งกรรมการ สสท.  ดังกล่าว

                  

                                 14 พฤศจิกายน 2553 เลือกตั้งกรรมการ สสท.

                                 โปรดเลือกเบอร์ 2       

                                                        Ico32

                                               นายนพคุณ  ยังเอี่ยม

                                  รองประธานร้านสหกรณ์ผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.

                                 เป็นกรรมการสันนิบาตประเภทสหกรณ์ร้านค้า

               การศึกษา

                                          ปวส.บัญชี  ปริญญาตรีสารนิเทศ

                                         ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ สหกรณ์

                                        มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (รุ่นที่๑)

                  

ฝากบอกต่อๆ  ด้วยครับ หนึ่งท่านมีสิทธิเลือกได้ 7 ประเภท ฝากเบอร์ 2 ประเภทร้านสหกรณ์ด้วยครับ  ขอบคุณครับ

Saturday was the last war to local affiliates Surin again quietly do not know because the network war mission to take the car to save his daughter in the district of Mon.i commeback to bangkok ok

สวัสดี ชาว ผนส. และชาวสหกรณ์ที่รักและเคารพทุกท่าน ห่าง blog ไปนานพอสมควร ขอบคุณที่หลาย ๆ ท่านเป็นห่วงเรื่อง"น้ำท่วม" จังหวัดชัยภูมิ เป็นพื้นที่ประสบภัยที่ค่อนข้างรุนแรง ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านเขว้า สมาชิกและเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัยติดแม่น้ำชีได้รับความเสียหายมาก แต่..พี่น้องของเราที่นี่มีความเคยชิน เพราะท่วมทุกปี ขอบคุณในความเป็นห่วงและขอบคุณน้ำใจของคนไทยทุกคน ที่ส่งความช่วยเหลือมายังพี่น้องของพวกเรา ครับ

ขอเรียนเชิญสหกรณ์ทุกประเภท

ส่งผู้แทนสหกรณ์เข้าประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๓ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย วันอาทิตย์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน นี้ ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ในโอกาสนี้ กระผม ได้ลงสมัครเป็นกรรมการ ประเภทสหกรณ์การเกษตร หมายเลข ๑

ขอความกรุณาจากผู้แทนสหกรณ์ทั่วประเทศโปรดเลือก กรรมการ ประเภทสหกรณ์การเกษตร หมายเลข ๑ นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดชัยภูมิ จำกัด เป็นกรรมการสันนิบาตฯ และโปรดเลือกทีม "คนรุ่นใหม่" ยกทีม

สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อน ผนส. และผู้มาเยือนทุกท่าน

      ายงานผลการเลือกตั้งกรรมการสันนิบาติสหกรณ์แห่งประเทศไทยทีม "คนรุ่นใหม่" ได้ยกทีม

นะโม 3 จบ

พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ (1 จบ)

วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถีโย พุทธัสสะ

มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม

คาถาเรียกทรัพย์ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา

สวดไว้เป็นประจำ จะมีแต่สิ่งดีดี เข้ามาในชีวิต

สวด 3, 5, 7, 9 จบ ก่อนนอน ตื่นนอน จบข้าวใส่บาตร

บันทึกช่วยจำของ“เหลียงจี้จาง

“เหลียงจี้จาง”เป็นพิธีกรดังของ TVB ในฮ่องกงและเป็นนักเขียนด้วยบันทึกช่วยจำที่เขาเขียนให้ลูก

ได้รับการเผยแพร่เป็นวงกว้างเมื่อไม่นานมานี้นอกจากแสดงถึงความห่วงหาอาทรที่พ่อมีต่อลูกเฉกเช่นคุณ พ่อ ทั่วๆไป มุมมองของเขาบางเรื่อง(แบบสังคมฮ่องกง) แม้บางคนจะเคยประสบมาบ้างเหมือนกันอ่านแล้วก็ยังอดอึ้งไม่ได้ เลยถ่ายทอดสู่กันฟัง...

ลูกรัก.. ที่พ่อเขียนบันทึกช่วยจำฉบับนี้ให้ลูก มีเหตุผลอยู่ 3 ประการ คือ

1. สรรพสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง จะมีชิวิตอยู่ได้อีกนานเท่าใดไม่มีใครบอกได้พ่อจึงคิดว่า บางเรื่องพ่อน่าจะสั่งเสียไว้แต่เนิ่นๆ ย่อมจะดีกว่า

2.เพราะพ่อเป็นพ่อของลูก ถ้าพ่อไม่บอกลูกไม่มีใครหรอกที่เขาจะบอกลูกแบบที่พ่อบอก

3.สิ่งที่พ่อบันทึกไว้นี้ ล้วนเป็นประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดที่พ่อได้เรียนรู้มามันจะทำให้ลูกไม่ต้อง เสียเวลาไปเรียนรู้มันอีก ในชีวิตของลูก ขอให้จำสิ่งต่างๆเหล่านี้ไว้ให้ดี

1.คนที่ไม่ดีต่อเรา ไม่ต้องไปใส่ใจนัก ในชีวิตคนเราไม่มีใครมีหน้าที่ที่จะต้องมาดีต่อเรายกเว้นพ่อกับแม่ของลูก สำหรับคนที่ดีกับลูก นอกจากลูกต้องหวงแหนและขอบคุณเขาแล้วยังต้องคอยระวังตัวไว้ด้วย เพราะคนเราทุกคน ทำอะไรย่อมมีจุดประสงค์เขาทำดีกับลูก ใช่ว่าเขาจะทำเพราะชอบลูกเสมอไปลูกต้องตระหนักจุดนี้ให้ดี อย่าเพิ่งรับเขาเป็นเพื่อนเร็วเกินไป (น่ากลัวไหม)

2.ไม่มีคนที่ทดแทนกันไม่ได้ และไม่มีสิ่งใดที่ต้องมีให้ได้ถ้าเข้าใจจุดนี้ หากวันใดคนข้างกายของลูกไม่ต้องการลูกอีกต่อไปหรือวันใดที่ลูกต้องเสียสิ่งที่รักที่สุดไป ลูกจะได้เข้าใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรเลย

3. ชีวิตนี้แสนสั้นหากลูกยังใช้ชีวิตอย่างไม่เห็นคุณค่าพรุ่งนี้ลูกจะพบว่าชีวิตจะหลุดลอยไปไกลยิ่งขึ้นดังนั้น ยิ่งรู้จักถนอมชีวิตเร็วเท่าใดเวลาที่ลูกจะได้รับความสุขจากชีวิตก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้นหาความสุขเสียแต่วันนี้ ดีกว่านั่งหวังให้มีอายุยืนนาน

4.ในโลกนี้ไม่มีเรื่องรักนิรันด์กาล ความรักเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบโดยความรู้สึกนี้ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและอารมณ์หากสิ่งที่ลูกรักมากที่สุดจากลูกไปขอให้รอคอยอย่างอดทน ให้เวลาช่วยชะล้าง ให้จิตใจค่อยๆตกตะกอนแล้วความทุกข์ของลูกจะค่อยๆจางหายไป..อย่าวาดหวังความรักให้สวยเกินไปและอย่าซ้ำเติมการอกหักให้ทุกข์เกินเหตุ

5.แม้ว่าคนหลายคนที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ไม่ได้เรียนมาสูงแต่ไม่ได้หมายความว่า หากไม่ขยันเรียน แล้วจะได้ดีความรู้คืออาวุธ คนเราอาจสู้แล้วรวย แต่ไม่มีทางรวยได้หากปราศจากอาวุธสู้.. จำไว้

6.พ่อจะไม่ขอให้ลูกเลี้ยงดูครึ่งชีวิตหลังของพ่อเพราะพ่อก็จะไม่เลี้ยงดูครึ่งชีวิตหลังของลูกเช่นกันเมื่อลูกโตพอจนเป็นอิสระได้แล้ว พ่อก็หมดหน้าที่แล้วเช่นกันหลังจากนั้นไป ลูกจะนั่งรถเมล์หรือจะนั่งรถเบ๊นซ์ จะกินหูฉลามหรือจะกินบะหมี่ยำๆลูกต้องเลือกเอง

7.ต้องทำดีต่อผู้อื่น แต่อย่าหวังว่าผู้อื่นต้องทำดีต่อเราเราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไรมิได้หมายความว่าผู้อื่นก็จะปฏิบัติตอบต่อเราในแบบเดียวกัน..ลูกต้องเข้าใจในข้อนี้ จะได้ไม่หาทุกข์ใส่ตัวโดยไม่จำเป็น

8.พ่อเคยซื้อล๊อตเตอรี่มาตลอดชีวิต ยังเป็นคนจนเหมือนเดิมแม้แต่รางวัลเลขท้ายยังไม่ค่อยเคยถูกเลยนี่เป็นบทพิสูจน์ว่า คนเราจะเจริญก้าวหน้าได้ ต้องขยันขันแข็งอย่างเดียวเท่านั้นในโลกนี้ไม่มีมื้อเที่ยงที่ไม่ต้องเสียตังค์

9.ญาติ มิตร หรือสหาย ล้วนเป็นกันชาตินี้ชาติเดียว ฉะนั้นจงหวนแหนโอกาสที่ได้อยู่ด้วยกันและแสนมีค่านี้ เพราะในชาติหน้าไม่ว่าท่านจะรักใครหรือชังใคร ท่านก็จะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก(หมายเหตุ ถึงพบกันก็ไม่รู้จักกัน เพราะระลึกชาติไม่ได้นี่เป็นเกราะคุ้มกันของธรรมชาติ จะได้ไม่ทุกข์ข้ามชาติ ฉะนั้น ใครที่ระลึกชาติได้ถือว่าอาภัพสุดๆ)

บางมุมมองดูจะโหดหรือใจดำไปนะแต่นั่นเป็นมุมมองของคนที่อยู่ในโลกของการแข่งขันที่รุนแรงกว่าเราเยอะโดยเฉพาะคนที่อยู่ในแวดวงบันเทิง แต่หากเปิดใจให้กว้างบางเรื่องใช่ว่าจะไม่มีในรอบตัวเราเพียงแต่เราไม่กล้ารับตรงๆเท่านั้นเอง หรือไม่จริง... The end

สวสดีทุกคน

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ พี่ทนงศักดิ์ ที่ได้รับคัดเลือกเป็นคณะกรรมการของสันนิบาตรสหกรณ์ หวังว่าจะได้ดูแลสหกรณ์ ให้ทั่วถึงนะ ได้ทราบเข้าว่าจะให้รับผิดชอบสหกรณ์ภาคเกษตร หากมีอะไรให้ช่วยบอก แต่อาจมีอะไรให้พี่ช่วยก็ได้นะ

ช่วงนี้หลังจากเกืดภัยธรรมชาติ น้ำท่วม พายุ สหกรณ์ก็ต้องให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิก สหกรณ์ของผมก็มีการให้ความช่วยเหลือในกรณีที่อยู่อาศัย ใช้เงินไปเกือบแสน และอีกอย่างให้ความช่วยเหลือสมาชิก โดยน้ำข้ววสารมาแจกให้แก่สมาชิก ซึ่งจะแจกให้แก่สมาชิกทุกคน คนละ 5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นข้าวสารจากสหกรณ์การเกษตรปราสาท ของป้าเครื่อ และของสหกรณ์การเกษตรพิมาย จากพี่ต้อย ซึ่งเป็นการสนับสนุนสิ้นค้าสหกรณ์ด้วยกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณสหกรณ์ทั้งสองที่ขายให้ในราคาพิเศษ

และที่ต้องขอขอบพระคุณทางสหกรณ์การเกษตรปราสาท จำกัด ที่ให้ความช่วยเหลือเป็นข้าวสารมาจำนวน 2 ตัน (ให้มาเพื่อแจกจ่ายให้แก่สหกรณ์ทางภาคใต้ที่ทำธุรกิจรวมกัน ) และจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

แล้วเมื่อไหรผนส 3 จะมีการร่วมพลกันวันไหนบางละ ช่วงนี้พอมีเวลาว่างบางแล้ว รู้ลึกว่าจะหางกันมากแล้ว พี่แจ้ ท่านกำนันอยู่ไหน กระตุ้นหน่อย

ขอขอบพระคุณ...ผู้แทนสหกรณ์จากทั่วประเทศที่เข้าประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๓ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณผู้แทนสหกรณ์ทุกท่าน ที่กรุณาสนับสนุนทีม "คนรุ่นใหม่" ให้ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการ สันนิบาตสหกรณ์ ฯ  แบบ"ยกทีม" สิ่งที่ท่านต้องการ และสิ่งที่ท่านอยากเห็น  ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรารถนาดีต่อขบวนการสหกรณ์ไทย  คือ สิ่งที่คณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ ๒๓  ได้ประกาศเจตนาไว้แล้ว เราจะร่วมมือกับขบวนสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยจะไม่แบ่งแยกประเภทสหกรณ์  

ยินดีด้วยบิ๊กอู๊ดแล้วเจอกัน

คุณทนงศักดิ์ ป้าเครือยินดีด้วยนะคะสำหรับตำแหน่งไหม่ ทำงานหลายตำแหน่งอย่าลืมคนที่บ้านก้แล้วกันนะคะ

ขอบคุณป้าเครือ มาก ๆ ครับ ผมไม่เคยลืมคนที่บ้านครับ และไม่เคยลืมพระคุณของผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน ที่ให้โอกาสผมให้มีวันนี้ครับ

ข่าว !! ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ตัวแทนชมรมสหกรณ์สหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าพบท่านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่ท่านเข้ารับตำแหน่ง และหารือแนวทางในการดำเนินธุรกิจสหกรณ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

๑. การจัดหาปุ๋ยมาจำหน่ายแก่สมาชิก

(๑) ขอความอนุเคราะห์นายทะเบียนสหกรณ์ ยกเลิกหรือผ่อนปรน ประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่องคำแนะนำการผลิตหรือจัดหาปุ๋ยไว้ขายของสหกรณ์

(๒) ขอความอนุเคราะห์กรมส่งเสริมสหกรณ์ ช่วยเหลือสหกรณ์ที่ถูกอายัดปุ๋ยมิให้มีการจำหน่าย ช่วยเหลือสหกรณ์ที่อยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวนของเจ้าพนักงาน และช่วยเหลือสหกรณ์ที่อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีอาญา หากศาลมีคำตัดสินพิพากษาให้จำคุกประธานกรรมการ หรือกรรมการ หรือผู้จัดการสหกรณ์ และให้สหกรณ์จ่ายเงินค่าปรับตามกฎหมาย ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดหางบประมาณเพื่อช่วยเหลือสหกรณ์

(๓) ขอความอนุเคราะห์กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพ ร่วมกับ สหกรณ์ภาคการเกษตร เสนอให้รัฐบาลแก้ไขปรับปรุงและเพิ่มเติมพระราชบัญญัติปุ๋ย ฉบับที่ถือใช้ในปัจจุบัน ให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล การดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

๒. เงินฟื้นฟูอาชีพโครงการลดภาระหนี้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ รายละ ๓,๐๐๐ บาท

(๑) เร่งรัดให้มีการจัดสรรงบประมาณที่เหลือทั้งหมดจากรัฐบาล

(๒) กรณีงบประมาณได้รับจัดสรรจากรัฐบาลช้าหรือไม่เพียงพอ ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดหางบประมาณหรือเงินอย่างอื่นสำรองจ่ายก่อน

๓. เงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์(กพส.)

(๑) หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอเงินกู้ ควรพิจารณาปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องสภาพและเอื้อประโยชน์ต่อสหกรณ์

(๒) ลดขั้นตอนการอนุมัติเงินกู้ ให้รวดเร็วทันเวลาและเหมาะสมกับความต้องการในการใช้เงินกู้

(๓) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย.ให้ต่ำกว่าแหล่งทุนอื่น

๔. เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคการเกษตร(ASPL) กรณีสหกรณ์ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ(โรงสีข้าว,ไซโล)

(๑) ยืดระยะการผ่อนชำระ เงินค่าธรรมเนียม และเงินบริจาค เพื่อแบ่งเบาภาระของสหกรณ์

(๒) ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์รับคืนเครื่องจักรและอุปกรณ์

ทั้ง ๔ ประเด็น ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มอบหมายให้ นายทนงศักดิ์ กุลชูศักดิ์ เลขานุุการชมรม ฯ ติดตามประสานงาน โดยจะนำเสนอความคืบหน้าในการประชุมชมรมฯ(สัญจร ไตรมาส ๔) ที่จังหวัดมุกดาหาร ประมาณต้นเดือน มกราคม ๒๕๕๔ นี้

สวัสดีทุกคน

แอบเข้ามาดูทุกวัน ไม่ให้มีใครเข้ามาทักทายเลย มีแต่หน้าเก่าๆทั้งนั้น ไม่ทราบผนส 3 หายไปไหนหมด เข้ามาทักทายกันบางนะพี่ๆทั้งหลาย

วันนี้ ต้องขอขอบคุณทางสหกรณ์ปราสาท จำกัด เป็นอย่างสูง ที่บริจาคข้าวสารมาช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ ทั้ง 5 สหกรณ์ คือสกก ควนเนียง สกก คลองหอยโข่ง สกก นาทวี สกก สะบ้าย้อย สกก สะเดา ซึ่งทั้ง 5 สหกรณ์ได้ทำธุรกิจซื้อข้าวสารจากสหกรณ์การเกษตรปราสาท และวันนี้ก็มาถึงอีก 32 ต้น ของพี่ต้อย อีก 32 ตัน รวมแล้ววันนี้มาถึง 64 ตัน

ผมอยากเสนอความคิด และให้ช่วยคิดต่อด้วย ปัจจุบันสหกรณ์ในประเทศไทยมีมากมาย มีทั้งสหกรณ์ผลิต และสหกรณ์บริโภค ยกตัวอย่างข้าวสาร สหกรณ์ภาคอีสานมีสมาชิกสหกรณ์ผลิตข้าวมากมาย และสหกรณ์ภาคใต้ ส่วนให้ทำนาน้อยลง ส่วนมากซื้อมาบริโภคมากกว่า และสหกรณ์ทางภาคใต้ส่วนให้ซื้อข้าวสารจากบริษัท เป็นส่วนใหญ่ มาจำหน่าย และได้ข้าวสารที่ไม่มีคุณภาพ แต่ราคาสูง

หากพวกเราชาวสหกรณ์รวมตัวกันเป็นเครื่อข่าย ให้สหกรณ์ภาคอีสานเป็นสหกรณ์ผลิต และสหกรณ์ทางภาคใต้เป็นสหกรณ์ผู้บริโภคและผู้จำหน่าย ซึงเดิมผมและทีมงานสหกรณ์เครื่อข่ายทางภาคใต้ได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้วและได้ผล และปัจจุบันชุมนุมสหกรณ์การเกษตรสงขลา จำกัด ได้ออกมารับเป็นเจ้าภาพ เป็นศูนย์กลางทางภาคใต้ เพื่อกระจ่ายสินค้าไปจังหวัดต่าง ๆ

และประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า มีโครงการประชุมสัมนาสหกรณ์เครื่อข่ายภาคใต้ และภาคอีสาน แต่โครงการจะเกิดหรือไม่ยังไม่ทราบ ในเบื้องต้นทางกรมส่งเสริมรับเป็นเจ้าภาพ แต่หากให้โครงการนี้สำเร็จได้ต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเจ้าภาพ ก็น่าจะมีกรมส่งเสรืฃิมแล้ว สันนิบาตรสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ งานนี้ก็ต้องฝากท่านกรรมการสันนิบาตร(คุณพี่ทนงศักดฺ) ช่วยประสานงานหน่อย ทางใต้ผมรับอาสาประสานเอง

ช่วยกันหน่อย เพื่อขบวนการสหกรณ์

สวัสดีครับ ผนส.3 ทุกท่าน

มาแล้วครับ คุณสุทิศ อย่าเพิ่งบ่นว่าไม่มีใคร มีแต่ซุ่มอ่านเท่านั้น ไม่ยอมโพส ครับ ขอแสดงความยินดีกับคุณทนงศักดิ์ บิ๊กอู๊ด ที่ได้ผ่านการเลือกตั้ง ขอฝากตัวด้วยคนครับ สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด มีเรื่องที่รบกวนอยู่บ่อย เดี่ยวว่างๆแล้วจะเข้าพบด้วยครับ ท่านบิ๊กอู๊ด ขอแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ ที่ผมกำลังโพส ผมอยู่ที่กรุงปักกิ่ง สันนิบาตสหกรณ์ได้คัดเลือก ส่งมาโครงการ "ICA/China Training Course on Operation and Management of Circular Economy Projects" ระหว่างวันที่ 25 พ.ย.53 ถึง วันที่ 5 ธ.ค.53 ไปดูงานจำนวน 3 เมือง คือ Beijing Qingyuan Guangzhou อากาศหนาวมากกว่าที่พวกเรามาครับ อุณหภมิ 3 ถึง ติดลบ 1 องศาครับ จึงแจ้งเพื่อนๆ เพื่อทราบด้วยครับ สวัสดีครับ

สวัสดีทุกคน

พี่ไกรกฤษ์ อยู่ถึงกรุงปักกิ่ง ยังโพสเข้ามาเลย คนที่อยู่เมืองไทยหายไปไหนหมด ไม่ใช่บนแต่ก็น้อยใจ ผนส 3 ไม่มีโอกาสเจอกันแล้ว ถ้าโพสหากันบ้างก็หน้าจะดีนะ คุณกุ้ง คุณบุญตรง พี่ประพันธ์ และอีกหลายคน โดยเฉพาะ คุณพี่ จิ่น คงไปตรวจบัญชีเพลิน คุณกุ้งละช่วงนี้หายไปไหน หรือว่าไปพิจารณาเงินกู้ กพส อยู่ สกก.ควนเนียง กู้วันไหนช่วยดูให้ด้วยนะ ท่านกรรมการกพส

พี่ไกรกฤษ์ รักษาสุขภาพด้วย เห็นว่าอากาศหนาว

สวัสดีผนส.3ทุกท่านโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ต่างแดน(ท่านไกรฤกษ์)อากาศหนาวๆอย่าลืมดูดนมอุ่นๆก่อนนอนนะครับกระป๋องละไม่กี่พันหยวนเอง(หาไม่ได้อย่างไรสอบถามบิ๊กอู๊ดได้ตอนไปปักกิ่งเล่นไปหลายกระป๋อง ) ก็ขอชื่นชมด้วยที่ได้รับคัดเลือกไปศึกษาในครั้งนี้บรรยายเป็นภาษาจีนหรือเปล่า อ่านตอนแรกนึกว่าไปอบรมสายลับพวกcia น้องกุ้งตอนนี้เพลิดเพลินอยู่ในface book ตั้งแต่ได้เป็นนางนพมาศของอำเภอปายเลยไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาpost เอ้าเข้ามาหน่อยหมู่เฮาชาวผนส.3 แนวคิดของสุทิศเห็นด้วยนะครับและได้มีความรู้สึกว่าท่านสุทิศมองเห็นประโยชน์ส่วมรวมมากกว่าส่วนตน...คิดถึงเสมอ

ขอบคุณมาก ๆ ครับ คุณไกรฤกษ์ ที่แสดงความยินดีมาจากเมืองจีน ต้องขอชื่นชมคนเก่ง คนดี คนสหกรณ์ ผนส. ๓ จากแดนใต้ ทั้ง ๒ ท่าน (คุณไกรฤกษ์,คุณสุทิศ) ที่ขยันทำงานเพื่อสหกรณ์และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์

เมืองไทยอากาศเริ่มหนาวแล้ว จีนต้องหนาวกว่าแน่ อุณหภูมิ 3 ถึง ติดลบ 1 องศา คุณไกรฤกษ์ต้องรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะ สิ่งสำคัญอย่าลืมดูดนมอุ่น ๆ ก่อนนอนตามที่พี่แจ้แนะนำ เมื่อคราวที่พวกเรา ผนส. ๓ไปจีนครั้งนั้น ก็ได้พี่แจ้นี่แหละเป็นไกด์นำพาพวกเราไปตะเวนหาซื้อนมได้หลายกระป๋อง ครบทุกคนเลย พี่บุญช่วยได้กระป๋องใหญ่สุด

เมื่อวันที่ ๒๙ พย.๕๓ ได้ไปร่วมเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิด U Tower ที่ทำการสำนักงานใหญ่ บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด วันนั้นได้พบท่านประธานรุ่น รศ.บัญชา และคุณกุ้ง ท่านประธานรุ่นฝากความคิดถึงพวกเราทุกคน

สวัสดี ทุกคน

มีข่าวประชาสัมพันธ์มาฝาก เพราะไปยุ่งกับเขาด้วย ใครรู้จักกกีฬากาบัดดี้บาง ซึ่งส่วใหญ่คนรุ่นใหม่ ไม่ค่อยรู้จัก แต่การแข่งขันกีฬาเอเซี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กวางโจว ประเทศจีน ที่ผ่านมานักกีฬาที่ไปแข่งขันและได้รับรางวัลเป็นบุตรของสมาชิกสหกรณ์ ด้วยเลยมีการจัดกิจกรรมการต้อนรับกันหน่อย เพราะหากรอหน่วยต่างๆจัดคงไม่มี ผมและทีมงานในหมู่บ้านคิดจัดกันเอง เพื่อให้กำลังใจนักกีฬาที่จะกลับมาบ้าน ซึ่งมีกำหนดการดังนี้

ขอเชิญร่วมต้อนรับนักกีฬากาบัดดี้หญิง ทีมชาติไทย

ที่ได้รับเหรียญเงิน กีฬาเอเซี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ เมืองกวางโจว ประเทศจีน

ณ.วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2553

เวลา 14.30 น ร่วมต้อนรับ ณ .สี่แยกคูหา อำเภอรัตภูมิ (นักกีฬามาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช)

เวลา 15.00 น ร่วมต้อนรับ ณ.ลานวัฒนธรรมท้องถิ่น เทศบาลตำบลควนเนียง อ.ควนเนียง

เวลา 19.00 น ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ณ.บ้านนักกีฬา ( บ้านหนองชุมแสง ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง )

นักกีฬากาบัดดี้หญิง ทีมชาติไทย ที่ได้รับเหรียญเงิน กีฬาเอเซี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ เมืองกวางโจว ประเทศจีน มีนักกีฬาจำนวน 2 คน เป็นนักกีฬาจากตำบลบางเหรียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา

คือ นางสาวเยาวเรศ นิสสระ เบอร์ 10 บุตรนายยงยุทธ – นางรวยรัตน์ นิสสระ และ

นางสาวนาลีรัตน์ เกสโร เบอร์ 12 บุตรนายสุเทพ – นางวิมล เกสโร

สวัสดีครับ ผนส.3 ทุกท่าน

ขอบคุณครับพี่แจ้ บิ๊กอู๊ด ที่แนะนำ คิดอยู่เหมือนกันว่าจะไปหานมอุ่นๆ แต่ชาวต่างชาติที่มาด้วย ไม่ค่อยชอบนม ชอบอย่างอื่น มากกว่าครับ ผมไปคราวนี้ อยู่ถึง 10 วัน เหนื่อยมากๆ เหมือนนักเรียนโรงเรียนประจำ ต้องตรงเวลา พูดภาษาอังกฤษ ในการสื่อสารกันทั้งหมด ที่มาอบรมที่จีนครั้งนี้ มีหลายประเทศ คือ อินเดีย อิหร่าน ศรีลังกา มองโกเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า กัมพูชา ไทย และเวียดนาม หลักสูตรมีอบรม คือ การศึกษาสหกรณ์ในประเทศจีน ในประเทศอังกฤษ นโยบายทางเศรษฐกิจ การอุตสาหกรรม การตลาด การประกาศนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อม 3 R การศึกษาดูงานโรงงาน รีไซเคิล ของที่ใช้แล้ว กลับมาใช้ใหม่

เช่น ทองแดง สายไฟฟ้า ได้สอบถามว่า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกให้จีน พี่แจ้ช่วยเข้มงวด การไฟฟ้าด้วยว่า ระวังถูกขโมย ลักตัดสายไฟฟ้า ผมไปเจอของกลางเพียบเลย

ตอนนี้ผมได้เดินทางออกจากปักกิ่ง มาอยู่ที่เมือง กว่างโจว เมื่อบ่ายวันที่ 1 ธ.ค.2553 จะเดินทางกลับเมืองไทย บ่ายวันที่ 5 ธันวาคม 2553 นี้ครับ ฝากถึงประธานบัญชา และคุณกุ้ง ด้วยครับ ผนส.3 น่าจะนัดรวมรุ่นกันหน่อย ครับ คิดถึงทุกคนครับ สวัสดีครับ

News report form guangzhou

ขอบคุณมากครับ คุณสุทิศ ที่เป็นห่วงสุขภาพ ผมอยู่ที่จีน 8 วันแล้ว ยังไม่มีอาการ ป่วย เพียงแต่แพ้อากาศหนาวนิดหน่อย แต่คราวนี้สบายกว่าที่มากับ ผนส.3 ครับ คาดว่าสุขภาพน่าจะผ่านครับ ได้เตรียมตัวล่วงหน้ามาเกือบ 2 เดือน ขณะนี้อยู่ที่กว่าวโจว อุณหภูมิ 15 องศา อากาศกำลังสบายครับ พอๆกับเชียงใหม่ ที่นี่บ้านเมืองเขากำลังพัฒนา สร้างโรงแรมใหม่ๆ มากมาย เขามีนโยบายพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ครับ สวัสดีครับ

News report form guangzhou

ทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน.......อย่าลืมคิดถึงสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำเหล่านี้

1. เครื่องประดับที่สวยที่สุดบนเรือนร่าง คือ รอยยิ้ม

2. งานที่ทำแล้วพอใจที่สุด คือ การช่วยเหลือผู้อื่น

3. ความสุขที่สุด คือ การให้

4. อาวุธร้ายแรงที่ต้องระมัดระวัง และเก็บรักษาให้ดีที่สุด คือ การพูดทำร้ายผู้อื่น

5. พลังยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จ คือ ความรัก

6. ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การทำร้ายตัวเอง

7. ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่จะต้องเอาชนะให้ได้ คือ ความกลัว

8. ยา นอนหลับที่ให้ผลดีที่สุด คือ ความสงบในใจ

สวัสดีครับ ผนส.3 ทุกท่าน

และแล้วก็มาถึงวันที่ สิ้นสุดการฝึกอบรม ICA/China Training Course on "Operation and Management of Circular Economy Projects"วันที่ 25 พ.ย.2553 ถึงวันที่ 5 ธ.ค.2553 ช่างนานมาก การใช้ชีวิตในต่างแดน กับ เพื่อนๆ หลายประเทศ ได้แก่ กัมพูชา เวียดนาม พม่า มาเลเซีย อิหร่านมองโกเลีย อินโดนีเซีย อินเดีย ศรีลังกา และไทย จำนวน 21 คน กับ เจ้าหน้าที่ ไอ ซี เอ ประจำประเทศจีน และอินเดีย พร้อมด้วย คณะอาจารย์ อีกจำนวน10 ท่าน ที่มาให้ความรู้ ตลอดจน โรงงานอุตสาหกรรม รีไซเคิล อีก 5 แห่งที่ให้เป็นที่ศึกษาดูงาน จำนวน 10 วัน

วันนี้วันที่ 4 ธันวาคม 2553 ภาคเช้า ได้ฟังบรรยาย จาก ตัวแทน ชุมนุมสหกรณ์จังหวัด กว่างโจว ภาคบ่าย ได้รายงานสรุปผลการฝึกอบรม การcomment จากผู้รับการฝึกอบรม และอาจารย์ใหญ่จากประเทศอินเดีย และต่อจากนั้น เจ้าหน้าที่ ไอซีเอ จากปักกิ่ง มา ปิดโครงการและมอบวุฒิบัตรการฝึกอบรม เมื่อเวลา 16.00 น.

วันที่ 5 ธันวาคม 2553 ผมเดินทางกลับเมืองไทย โดยสายการบินจีน CZ 363 ออกเดินทางจากท่าอากาศยาน กว่างโจว เวลา 16.00 น.(เวลาจีน) ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 17.55 น.(เวลาไทย)

BOSS

News report form Guangzhou

ขอเชิญ เที่ยวงานคนไทยหัวใจเกษตร ๙-๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ กันตนามูฟวี่ทาว ศาลายา จังหวัดนครปฐม เลือกซื้อสินค้าสหกรณ์และสินค้าเกษตร มากมาย ท่านที่ต้องการซื้อผ้าไหมนวัตรกรรม "ไหมชัยนารี" ผ้าไหมชัยภูมิ ใส่นุ่ม ไม่ยับ ซักง่าย ที่บู๊ท ของสหกรณ์การเกษตรบ้านเขว้า จำกัด

SMS ร่วมโหวต ร่วมเชียร์ เกมสหกรณ์ "ไหมชัยนารี" พิมพ์ C6 ส่ง 4221900 ขอบคุณทุกท่านที่โหวตครับ

    ผมได้กลับมาอ่าน blog ผู้นำรุ่น 3 อีกครั้ง

    ขอแสดงความยินดีต่อการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ มีประโยชน์มากมาย เพราะทุกคนก็ส่งข้อมูล ล่าสุด วันที่ 11 ธันวาคม 2553 เป็นของคุณทนงศักดิ์

    ขอให้มุ่งมั่นทำหน้าที่นี้ต่อไป

ขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูง ที่เข้ามาเยี่ยม blog เราชาวผนส 3 น่าภูมิใจ ที่อาจารย์เข้ามาเยี่ยม แล้วเมื่อไหรเราจะได้เจอกัน

วันก่อนพี่ยูร ลงมาทางใต้ ได้มีโอกาสต้อนรับ แต่ก็มีเวลาน้อยมาก เพราะท่านพี่รีบกลับ ได้ข่าวจะมาทำโครงการสตูลโมเดล

แล้วเมื่อไหรเราจะได้รวมรุ่นกันสักครั้งละ

ขอบพระคุณอาจารย์ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เป็นอย่างสูงครับ ที่กรุณาเข้ามาอ่าน blog ผนส. ๓ และ ชื่นชมกับการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ ของ ผนส. ครับ

ในเดือนสุดท้ายของปี ๒๕๕๓ ผมเชื่อว่าผู้นำหลายท่านคงมีภารกิจสำคัญมากมาย ทั้งงานในหน้าที่ งานอบรม สัมมนา และงานส่วนตัว เป็นต้น สำหรับผู้นำอย่างเรา ๆ มีงานในเดือน ธันวาคม ดังต่อไปนี้

๑. สัมมนาประธานและผู้จัดการสหกรณ์ ฯ จัดโดยสันนิบาตสหกรณ์ วันที่ ๒๐-๒๑ ธค. ที่โคราช

๒. อบรมพัฒนาธุรกิจฯ จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ วันที่ ๒๒-๒๗ ธค. ที่อำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

๓. ประชุมใหญ่สามัญ สันนิบาตสหกรณ์ วันที่ ๒๖ ธค. ที่ สันนิบาตฯ เขตดุสิต กทม.

สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปี สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ในวันอาทิตย์ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ขอความร่วมมือจากทุกสหกรณ์แต่งตั้งผู้แทนสหกรณ์เข้าประชุมโดยพร้อมเพียงกัน ซึ่งระเบียบสันนิบาต ฯ กำหนดองค์ประชุมต้องมีผู้แทนสหกรณ์เข้าประชุมอย่างน้อย ๕๐๐ คน/สหกรณ์

ผนส.๓ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนสหกรณ์เข้าประชุมใหญ่ ฯ สันนิบาตสหกรณ์ ฯ หากมากันหลายคน ควรจะมีการหารือกันเพื่อทำกิจกรรม ฝาก..น้องกุ้ง ช่วยประสานหน่อยเด้อ...

สำหรับผมช่วงเดือนธันวาคม มีภาระกิจ

1.วันที่ 17 ธันวาคม ประชุมกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อเตรียมงานประชุมใหญ่

2.วันที่ 18 ธันวาคม สัมนาผู้นำสหกรณ์การเกษตรในภาคใต้ ทีโรงแรมไดมอน หาดใหญ่

3. วันที่ 25 ธันวาคม ประชุมใหญ่สามัญประจำปี สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานสหกรณ์จังหวัด จำกัด (ซึ่งผมเป็นประธานอยู่) และได้เชิญประธานสันนิบาตร มาเป็นประธานเปิดประชุม และ บรรยาย

4. วันที่ 28 ธันวาคม ประชุมสหกรณ์เครื่อข่ายในจังหวัดสงขลา

5. วันที่ 30 ธันวาคม สหกรณ์จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีกิจกรรมทำบุญตักบาตร กิจกรรมการแสดง กิจกรรมมอบทุนการศึกษาบุตรสมาชิก และทุนผู้สูงอายุ กิจกรรมลุ้นรางวัลผู้ร่วมงาน มีรางวัลรวม 100,000 บาท

สำหรับวันที่ 26 ธันวาคม ผมไม่สามารถไปร่วมประชุมใหญ่ของสันนิบาตรได้ ต้องขอโทษด้วย

สวัสดีเพื่อนผนส.3ทุกท่านเมื่ออาทิตย์ต้นเดือนได้มีโอกาสเดินทางไปสุรินทร์แวะหาป้าเครือที่แสนดีของน้องๆให้การต้อนรับอย่างดีแถมข้าวหอมมะลิมาให้อีกหลายถุง สหกรณ์ของป้าเครือก็มีการบริหารอย่างครบวงจรน่านำไปเป็นตัวอย่างในการบริหารเป็นต้นแบบสหกรณ์อื่นๆ ป้าเครือได้เปิดรีสอร์ตใหม่เอี่ยมอ่องเป็นธุรกิจของครอบครัวใครผ่านไปแวะใช้บริการได้เลย(ป้าเครือบอกไว้้) 26 ธค.นี้มีพวกเรามาประชุมสันนิบาตกันบ้างหรือไม่จะได้นัดเจอกันหน่อย เสียดายท่านสุทิศมาไม่ได้แต่คงมีหลายๆคนที่มาได้แล้วเจอกัน ...พี่แจ้

วันอาทิตย์ที่ 26 ธ.ค.53 สันนิบาตสหกรณ์ฯ กำหนดประชุมใหญ่สามัญ ที่ศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส กทม.

หลังจากประชุมแล้ว ขอเชิญเพื่อน ผนส.ทุกท่าน ทุกรุ่น ร่วมหารือโครงการคืนสู่เหย้าผู้นำสหกรณ์ขั้นสูง

(สันนิบาตฯตั้งงบประมาณไว้แล้วจะจัดในเดือนมีนาคม 2554 ครับ)

ศิริชัย ออสุวรรณ

Friday at 10:07pm ·

เจริญศรี โสระมัด ขอบคุณค่ะท่านประธานศิริชัย พวกเราจะได้พบกัน

Friday at 11:24pm ·

เรียนอาจารย์ยม ทางสันนิบาตฯจะมีหนังสือเชิญประชุมใหญ่ (ในตำแหน่งที่ปรึกษาสันนิบาตฯ) ในวันที่ 26 ธ.ค.53

กรุณาวางแผนงานคืนสู่เหย้า ผนส. ด้วยครับ

หลังประชุมหากมีเวลาจะได้ปรึกษากัน

Yesterday at 11:34am ·

 ไม่มีอะไรขัดขวางการเชื่อมโยงของเราชาว ผนส. ได้  ตาม Link ข้างล่างนี้ได้เลยครับ

                           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295677      รุ่น 1     

                           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/193426       รุ่น 2

                           http://gotoknow.org/blog/leadersship/238209           รุ่น 2

                           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/231359       รุ่น 3

                           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/295678       รุ่น 4

                           http://gotoknow.org/blog/chiraacademy/372489       รุ่น 5

                    สนใจที่จะศึกษา facebook เชิญครับ      

                                    http://facebook.kapook.com/howto/index.php

สวัสดี

พรุ่งนี้จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานสหกรณ์จังหวัดสงขลา จำกัด ทีผมเป็นประธานอยู่ โดยมีประธานสันนิบาตรสหกรณ์แห่งประเทศไทย ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิด งานนี้ต้องขอขอบคุณพี่น้อย ชวลี ที่ประสานงานให้ แต่เสียดายที่พี่น้อยไม่ได้มาด้วย ประธานมาคนเดียว

สหกรณ์ฯผมประชุมเสร็จพรุ่งนี้มีการเลี้ยงฉลองปีใหม่กันด้วย ซึ่งทำเป็นประจำทุกปี

และต้องขอสวัสดีปีใหม่ ทุกคนด้วย ขออวยพรให้ทุกคน มีความสุข คิดสิ่งใดขอให้ได้ดังใจหวัง

ขอบคุณผู้แทนสหกรณ์ทุกท่านครับ ที่ร่วมกันทำให้การประชุมใหญ่สามัญประจำปี สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ผ่านไปด้วยเรียบร้อย

ผนส.๓ พวกเราเป็นตัวแทนสหกรณ์หลายคน แต่เสียดายไม่มีโอกาสได้หารือร่วมกันเพื่อทำกิจกรรมอะไรอะไรและอะไร ขออภัย ผนส.๓ ทุกท่าน ที่ผมไม่ได้เข้าไปทักทาย เพราะคนเยอะจริง ๆ โชคดีมีโอกาสได้คุยกับพี่แจ้นิดหน่อย งง และสงกะสัยจัง พี่แจ้ รักษาสุขภาพและหน้าตาได้อย่างไร หน้าถึงขาวเนียนผ่องเลย ทำอะไรมาช่วยเล่าให้พวกเราฟังด้วยครับ หรือว่า ครีมหน้าขาวบัวหิมะที่ซื้อมาจากจีนคราวนั้น ยังไม่หมด

วันนี้อากาศที่ชัยภูมิเริ่มหนาวแล้ว รอให้หนาวกว่านี้อีกสักหน่อยจะได้สวมเสื้อหนัง(แท้)จากจีนที่ซื้อมาพร้อมกับพี่แจ้ นาฬิกา ๗ เรือนราคา ๑๐๐ หยวน ผมเก็บมันไว้เป็นที่ระทึก ๓ เรือนซึ่งมันยังสามารถเดินได้ดี ส่วนอีก ๔ เรือนแจกกรรมการตั้งแต่กลับจากจีน กรรมการบอกว่า "นาฬิกายังดูได้ แต่มันไม่ยอมเดิน"

สวัสดีปีใหม่ชาวผนส3ทุกท่านขอให้มีความสุขสดชื่นสมหวังคิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนาทุกประการและคิดว่าblogของพวกเรายังคงอยู่ตลอดไป วันประชุมใหญ่ก็เจอพวกเราหลายคนโดยเฉพาะบิ๊กอู๊ดกรรมการสุดหล่อยืนรับแขกอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย (ขอบคุณที่ชมว่ายังไม่แก่เคล็ดลับเหมือนเดิมต้องดูดนมอุ่นๆก่อนนอน) ท่านสุรชัยก็มา น้องกุ้งเจอแต่เสียงไม่เห็นหน้า ท่านปฏิพลดาวสภาอภิปรายทุกครั้งที่เข้าประชุมก็ขอชมเชยในการกล้าแสดงออกตามขบวนการประชาธิปไตย ท่านนัดโอบามาคุยกันนิดหน่อยแล้วก็หากันไม่เจอ สรุปแล้วสถานที่คับแคบเกินไปในการจัดประชุมใหญ่ ที่จอดรถ ห้องน้ำ อาหาร ขาดแคลนไปเสียทุกอย่าง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ท่านรมช.อลงกรณ์ก็พูดได้ดีในเส้นทางการค้าขายของชาวสหกรณ์อยากให้ coop new ถอดเทปลงให้อ่านอีกรอบ แค่นี้ก่อนนะครับเพิ่งกลับมาจากบ้านนครสวรรค์รถติดมากเลยขออนุญาตเข้านอนก่อนฝันดีทุกท่าน....พี่แจ้

                                                          จาก ผนส. 2

ทนงศักดิ์ ขอน้อม อวยพร

เรียงร้อย ถ้อยอักษร สื่อค่า

จุไมตรีอาทร ยิ่งของ ขวัญเอย

เถลิงศก-ฤกษ์เบิกฟ้า มอบมิตร พี่น้องสุขสันต์

ประชุมพร ประเสริฐล้ำ บันดาล

จงอวยเอื้อ มาประทาน แห่ล้อม

เปี่ยมสุขสโมสร สมาน ดั่งตั้ง ใจนา

สวัสดี ปีใหม่พร้อม ผลเกื้อ ทวีเกษม

สวัสดี ปีใหม่ ขอให้สุข หมดสิ้นทุกข์ กายจิต มิผิดผัน

อายุมั่น ขวัญยืน สี่หมื่นวัน มีผิวพรรณ ผ่องนวล เย้ายวนชม

ปรารถนา เงินทอง กองท่วมฟ้า ทำการค้า ร่ำรวย ดั่งใจสม

มียศศักดิ์ รักใคร ใคร่ภิรมย์ ขอให้กลม เกลียวกัน และยั่งยืน

สองพันห้าร้อย ห้าสิบสี่ ให้หมดหนี้โดยเร็ว ไม่มีเห็น

ทำการค้า ทำการงาน ร่ำรวยเป็น รุ่งเรืองโรจน์ โดดเด่น เห็นกำไร

ให้ร่างกาย แข็งแรง ปลอดทุกโรค มีแต่โชค รับแต่ลาภ ยศส่งเสริม

ให้เงินเพิ่ม ทองเพิ่ม พูนทวี ตั้งแต่ปี ใหม่นี้ สุขีเทอญ....

เด็กชายวัยรุ่นสองคนถูกจับในข้อหากระทำความผิดจากการเสพยาเสพติด และตัดสินให้รับโทษ

แต่ศาลให้ความปราณีโดยเข้าสถานบำบัดและออกมาทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์โดยชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้มากที่สุด โดยศาลให้เวลาเด็กชายคนละ 7 วันในการชักจูง

หลังจาก 7วันผ่านไปเด็กชายทั้งสองก็มารายงานต่อหน้าท่านผู้พิพากษา

เด็กชายคนที่ 1: 'ผมชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 50 คนฮับ'

ท่านผู้พิพากษา : 'เก่งมาก เธอทำได้ยังไง?'

เด็กชายคนที่ 1: 'ผมวาดวงกลมวงใหญ่หนึ่งวงและอธิบายว่า นี้คือขนาดสมองก่อนที่เสพยา และวาดวงกลมวงเล็กแล้วอธิบายว่า นี้คือขนาดสมองหลังเสพยา'

ท่านผู้พิพากษา : 'เธอฉลาดมาก แล้วเธอล่ะ' ท่านผู้พิพากษาหันไปถามเด็กชายคนที่ 2

เด็กชายคนที่ 2 : 'ผมชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 500 คนฮับ'

ท่านผู้พิพากษา : 'เธอทำได้ยังไง' ท่านผู้พิพากษาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

เด็กชายคนที่ 2 : 'ผมทำคล้ายๆเพื่อนผมน่ะครับ'

เด็กชายคนที่ 2 : 'แต่ผมวาดวงกลมวงเล็กก่อนแล้วอธิบายว่า นี่คือรูตูดของคุณก่อนที่คุณจะถูกจับข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด จากนั้นผมก็วาดวงกลมวงใหญ่แล้วอธิบายว่า นี้คือรูตูดของคุณหลังจากที่คุณออกจากคุก'

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ในช่วงปีใหม่นี้ ผนส.ทุกท่านคงต้องการให้มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ทำให้นึกถึงคำกล่าวที่ว่า “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” เพราะการมีสุขภาพดีนั้นมีคุณค่าเสมอ ฉะนั้น ปีใหม่ผ่านไปไม่นาน เราหันมาดูแลสุขภาพกันเถอะครับ

1. เลือกกินอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ สะอาด ปลอดภัย ครบ 5 หมู่ คือ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ คาร์โบไฮเดรตจากข้าว แป้ง น้ำตาล วิตามินจากผัก แร่ธาตุจากผลไม้ รวมทั้งไขมันจากพืชและสัตว์ในปริมาณที่เหมาะสม ครบถ้วน หากกินได้อย่างนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาบำรุงหรืออาหารเสริมแต่อย่างใด ตลอดจนหลีกเลี่ยงอาหารที่มันมากๆ หรือหวานจัด

นอกจากนี้สุขอนามัยการกินที่ดี อย่างไม่กินปลาดิบหรือเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก ล้างผักสด ผลไม้ มือ และภาชนะ ให้สะอาดก่อนกินอาหารเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากพยาธิ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไนเตรทสูง โดยเฉพาะอาหารโปรตีนที่ ใช้ดินประสิวเป็นสารปรุงแต่ง เช่น แหนม ไส้กรอก ปลาร้า เพื่อป้องกันโรคมะเร็งตับ

หากปฏิบัติตามนี้จะช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายเป็นปกติและเต็มประสิทธิภาพ น้ำหนักตัวไม่เกิน อีกทั้งป้องกันโรคได้ ซึ่งถ้าเจ็บป่วยขึ้นมา ร่างกายก็จะไม่ทรุดหนักและสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนทั่วไป

2. ออกกำลังกาย ยิ่งมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อ อายุมากขึ้นระบบการเผาผลาญร่างกายยิ่งลดลง การออก กำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีประโยชน์มากมายทั้งการป้อง กันและส่งเสริมสุขภาพ

2.1 เริ่มด้วยลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง ความดันโลหิต เบาหวาน ไขมันชนิดแอลดีแอล (LDL) ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดี และเพิ่มเอชดีแอล (HDL)ซึ่งเป็นไขมันที่ดี

2.2 เพิ่มมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงป้องกันกระดูกพรุนและกระดูกหัก

2.3 ช่วยการทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งระบบต่างๆ ในร่างกายให้ทำหน้าที่ได้อย่างดี และยังช่วย เพิ่มภูมิต้านทานโรคด้วย

2.4 ทำให้ร่างกายคล่องแคล่ว การทรงตัวดีขึ้น แถมยัง ช่วยชะลอความแก่และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

2.5 สุขภาพจิตดี ถ้าออกกำลังต่อเนื่องนานพอสมควร ประมาณ 20 นาทีขึ้นไป สมองจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารเอ็นโดฟินออกมา ทำให้รู้สึกสดชื่นสบายเนื้อสบายตัว อารมณ์ดี สมาธิดี หลับได้ดีขึ้น สุดท้ายอาจป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วย

ผลดีเหล่านี้จะอยู่ตลอดถ้าเรายังออกกำลังกาย และจะหมดไปในระยะเวลาอันสั้นเมื่อหยุด ฉะนั้นควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที โดยเลือกออกกำลังหรือเล่นกีฬาที่ชอบ แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุก็เลือกให้เหมาะกับวัย เช่น เดินเร็ว รำมวยจีน รำไทเก๊ก ที่สำคัญ ทุกครั้งก่อนออกกำลังกายต้องอบอุ่นร่างกาย(วอร์มอัพ)ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ นอกจากได้กล้ามเนื้อแขนและขามีความยืดหยุ่นแล้ว ยังปรับอุณหภูมิภายในร่างกายไปด้วย

3. ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกิน เนื่องจากโรคอ้วนนำมาซึ่งโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หลอดเลือดตีบ โรคกระดูกและไขข้อ ฯลฯ การควบคุมน้ำหนักตัวที่สำคัญคือ ลดอาหารจำพวกแป้ง ของหวาน และของมันจัด กินผักผลไม้ที่ไม่หวานให้เพิ่มขึ้น ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งน้ำหนักตัวของคนเราควรมีค่าดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 19-23 กิโลกรัม/ตารางเมตร ความสำคัญของการรู้ค่านี้เพื่อประเมินหาไขมันส่วนเกินในร่างกาย จะได้รู้ถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคและหาแนวทางป้องกัน โดยคิดคำนวณจากน้ำหนักตัวหน่วยเป็นกิโลกรัม ตั้งหารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง

ดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว

ส่วนสูง(ม)2

4. หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และการใช้สารเสพติด อันนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บทั้งต่อตนเองและครอบครัว

5. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม ทำให้ต้องรับการ รักษาในโรงพยาบาลนานขึ้น เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น และอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุพบว่ามากกว่าร้อยละ 80 มีการใช้ยาหลายขนานร่วมกัน เนื่องจากมีความซับซ้อนของโรคหลายชนิด และที่ร้ายสุดคือซื้อยากินเองโดยไม่พบแพทย์

6. ตรวจสุขภาพประจำปี หลายคนมักเข้าใจผิดว่าถ้าแข็งแรงดีก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพเพราะไม่น่าจะมีโรคอะไร แต่หารู้ไม่ว่าโรคบางโรคอาจไม่แสดงอาการ ถ้าไม่ตรวจจะไม่รู้ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โลหิตจาง หรือโรคมะเร็งในระยะแรกๆ ซึ่งหากตรวจพบ ผลการรักษาจะดีมาก บางโรครักษาหายขาดเลยก็มี เช่น มะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้ผู้ที่รับการรักษาโรคเป็นประจำ ก็สมควรได้รับการตรวจ สุขภาพเช่นกัน

ความเข้าใจผิดอีกอย่างคือ เมื่อผลการตรวจออกมาปกติ หลายคนจะไม่ค่อยสนใจดูแลสุขภาพกันต่อ เช่น รู้สึกว่ายังสูบบุหรี่หรือดื่มสุราได้ หรือไม่ออกกำลังกาย กินอาหารไม่เหมาะสม ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายตามมา การที่ผลการตรวจว่าปกตินั้นไม่ได้รับประกันว่า ท่านมีสุขภาพดี ขอย้ำ..เรายังจำเป็นต้องดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมเช่นเดิมครับ

7. พักผ่อนเต็มที่ด้วยการนอนหลับอย่างน้อยวันละ 7-8 ชม. ร่วมกับการพักผ่อนหย่อนใจ คลายความเครียด ด้วยการท่องเที่ยว หรือหางานอดิเรกทำ เป็นต้น

8. เข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการและสังคม เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนคติ มุมมอง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้าง

9. ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและการหกล้ม อุบัติเหตุหลายอย่างป้องกันได้ โดยเฉพาะการหกล้ม เมื่ออายุมากขึ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลายอย่างที่อาจทำให้เกิดการหกล้มได้ง่าย เช่น การมองเห็นลดลง การทรง ตัวไม่ดี ร่วมกับการที่อาจมีโรคต่างๆเกิดร่วมด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุมีโอกาสหกล้มได้ง่ายและยังเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของอุบัติเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุต้องนอนในโรงพยาบาลถึงร้อยละ 85 ซึ่งเมื่อหกล้มแล้ว อาจทำให้เกิด ปัญหาแทรกซ้อนตามมา เช่น กระดูกหัก เลือดออกในกะโหลกศีรษะ หรือบางรายอาจเดินไม่ได้เหมือนเดิม

10. อยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีมลพิษ ฝึกหายใจลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงได้ทั่ว ร่างกาย

ที่เล่ามานี้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มถ้าลงมือทำ หวังว่าทุกท่านจะมีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง สวัสดีปีใหม่ครับ

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 122 มกราคม 2554 โดย ผศ.นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

เป็นความเชื่อในครั้งบรรพกาลของคนรุ่นผู้เฒ่าผู้แก่ที่ถือปฏิบัติมาเพื่อเสริมมงคล และโชคลาภให้กับชีวิต

"เล็บ" เป็นสิ่งที่ต่อจากกระดูก โดยงอกแทรกออกมาจากเนื้อและหนังของเรา นับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของคนเรา การจะตัดทิ้งหรือตัด

ออกย่อมมีผลกระทบต่อเราโดยตรง หากเราตัดเล็บในวันไม่ดี บ่อยๆครั้งเข้าอาจทำให้ชีวิตเรามีเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งเรามักไม่เคย

สังเกตุว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง ทั้งด้านดีและไม่ดี ดังนั้นเวลาจะตัดเล็บควรจะดูวันที่ควรจะตัดสักหน่อย อย่างน้อยๆไม่ได้ทำให้เรา

เสียเงินหรือเสียเวลาอะไรมากมาย เป็นการเดินตามผู้ใหญ่ไม่มีโทษอะไร ท่านว่าไว้

1. ควรตัดเล็บวันอาทิตย์ - ท่านว่าจะทำให้มีโชคดี ได้โชคลาภ อย่างนึกไม่ถึง และมีเรื่องดีๆมาถึงตนเอง

2. ควรตัดเล็บวันจันทร์ - ผู้ใดตัดเล็บในวันนี้ นับเป็นเรื่องดีจะได้ลาภใหญ่ เกิดขึ้นกับตนเอง

3. ห้ามตัดเล็บวันอังคาร - คนโบราณมักจะห้ามตัดเล็บในวันอังคาร (เพราะถือว่าเป็นวันดุ) ดังนั้นหากใครตัดเล็บในวันนี้ จะทำให้หมดราศี และอาจต้องมีเรื่องให้เสียทรัพย์สินเงินทอง

4. ควรตัดเล็บวันพุธ - หากใครตัดเล็บในวันนี้จะเป็นมงคลแก่ตนในด้านคุ้มครอง ปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย สิ่งไม่ดีต่างๆ ไม่ให้มากล้ำกรายได้

5. ห้ามตัดเล็บวันพฤหัสฯ -โบราณว่าวันนี้เป็นวันครู ท่านห้ามตัดเล็บผู้ใดตัดเล็บในวันนี้จะได้รับความเดือดร้อนมีเรื่องยุ่งยากเข้ามาเป็นอุปสรรค

6. ควรตัดเล็บวันศุกร์ - ผู้ตัดเล็บในวันนี้ ตำราว่าจะได้ลาภ มีมงคลอุดมสมบูรณ์

7. ห้ามตัดเล็บวันเสาร์ - ใครก็ตามที่ตัดเล็บในวันนี้จะส่งผลด้านสุขภาพล้มป่วยไม่ สบาย เป็นโรคภัยต่างๆ

8. ห้ามตัดเล็บวันพระ - คนที่ตัดเล็บวันนี้ มักจะอายุสั้นล้มป่วยไม่สบายง่าย และมีเรื่อง เดือดร้อน มักเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ

**************************************************

สวัสดี

เข้ามาเยี่ยมทุกวัน แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห้นอะไร แต่ก็คิดถึงทุกคน ไม่รู้ได้เจอกันวันไหนบ้าง คงจะยาก แต่ก็เจอกันในblog ก็ได้นะ

เป็นอย่างไรบ้างละชาวสหกรณ์ ส่วนตัวผมต้อนนี้ก็ได้ทำธุรกิจเครื่อข่ายข้าวสารกับป้าเครือ และพี่ต้อยอยู่ แต่มีปัญหาไม่มีรถไปรับสินค้า รออยู่เป็นเดือนแล้ว

มีข่าวมาฝาก วันสหกรณ์แห่งชาติปีนี้ สหกรณ์ในจังหวัดสงขลา กำหนดจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 22-28 กุมภาพันธ์ 2554 บริเวณสระบัวสงขลา มีกิจกรรมเดินวิงเพื่อสุขภาพ กิจกรรมการแสดงทุกคืน นิทรรศการ และในวันที่ 26 มีพิธีเปิดและพิธีการการต่างๆ และกลางคืนมีงานเลี้ยงชาวสหกรณ์(28โต๊ะ) และผมต้องรับผิดชอบฝ่ายกิจกรรมทั้งหมด งานนี้หนักมากและต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากด้วย

   อยากเชิญชวนชาวสหกรณ์มาเที่ยวงานได้ มีสินค้าสหกรณ์มากมาย หรือใคร่สนนำสินค้ามาจำหน่ายติดต่อได้ที่สหกรณ์จังหวัดสงขลา

  สวัสดีทุกคน

ผมเองก็เข้าอ่าน blog ทุกวัน สงสัย&งง เหมือนกันว่า พวกเรา ห า ย ไ ป ไ ห น กั น คำตอบก็คงคล้าย ๆ กัน เช่น งานยุ่ง ...งานมาก...ไม่ค่อยอยู่สำนักงาน...เข้าอ่านแต่ไม่เขียน ฯลฯ แต่..ที่เหมือนกันก็คือ พวกเรายังคิดถึงกัน และความสัมพันธ์ยังเหนียวแน่น..เหมือนเดิม

ขอให้กำลังใจและปรบมือให้ คนขยัน "คุณสุทิศ พงษจีน" วันก่อนเราได้พูดคุยผ่านมือถือ ทราบมาว่า ขาดรถบรรทุกข้าวสาร จากแดนอิสาน สู่ แดนใต้ สก.ท่านใดรถบรรทุกว่างงาน สมัครด่วนคร๊าบ....

ซินเซียยู่อี้ซินนี้ฮั่วไช้... ชาวผนส.3 ไม่ล่ายหายไปไหนแต่ไม่ล่ายเข้ามาลูหลายวัง เลื่องจากกับบ้างลึกทุกวางจงอาซ้อลื้อบ่งน่าลูเลย..ไม่ล่ายหล่างจายไม่ล่ายหล่างจาย...ตื่งเช้ามาก็หายหัวไปหมกเลี้ยว...ขอโชคลีทุกคงๆ..โลยชาเพาะท่างกำนังท่างสุทิกและท่างบิ๊กตือ(อู๊ดๆ)

สวัสดี

      ขอบคุณพี่แจ้ ผมเข้าดูทุกวันแต่ไม่เห็นมีใคร ก็เลยดูอย่างเดียว ได้ข่าวว่าวันที่ 11-12 กพ นี้ ทางสันนิบาตมาจัดสัมนาที่หาดใหญ่ ไม่ทราบคุณพี่อู๊ด จะมาด้วยหรือเปล่า

     ช่วงนี้งานยุ่งหน่อย เพราะเตรียมงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ซึ่งผมต้องรับผิดชอบฝ่ายกิจกรรม มีการจัดนิทรรศการ การแสดง การออกร้าน การอบรม และพิธีการต่างๆในวันที่ 26 พร้อมกับงานเลี้ยงสังสรรค์ชาวสหกรณ์ กำหนดโต๊ะจีนไว้ 280 โต๊ะ ไม่แน่ใจว่าได้หรือเปล่า อยากเชิญชาวสหกรณืมาเที่ยวงานบ้าง ช่วงวันที่ 22-28 กพนี้

     และวันที่ 13 นี้จะขึ้นไปทำธุระที่กรุงเทพ และจะรีบกลับวันที่ 14 คงไม่ได้เจอใคร ไว้ค่อยวันหลัง

 

 

วันที่ ๙-๑๒ กุมภาพันธ์ นี้ ผมจะเข้าร่วมสัมมนาสหกรณ์ โครงการสันนิบาตฯสัญจร ที่ภาคใต้ ณ จังหวัดตรัง และจังหวัดสงขลา ครับ เป็นความโชคดีของผม ที่จะมีโอกาสได้พบพี่น้องขบวนการสหกรณ์ภาคใต้ ฝากท่าน สุทิศ เชิญพวกเราไปกันมาก ๆ นะครับ ผมจะออกจากกรุงเทพ ฯ เวลา ๐๗.๓๐ น. ครับ

วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ "วันสหกรณ์แห่งชาติ" ทราบว่าหลายจังหวัดมีการจัดงาน ขอเชิญพวกเราชาวสหกรณ์ ร่วมงานและประชาสัมพันธ์ให้สหกรณ์เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปด้วยนะครับ... ในส่วนกลางจัดที่..สันนิบาต ฯ วันที่ ๒๕-๒๖ กุมภาพันธ์ ท่านใดจะมาร่วมงานยินดีต้อนรับ..ครับ

ไม่ได้สัมมนาที่กระบี่หรือๆพี่จะจำผิด



กิจกรรมวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2554 จังหวัดสงขลา จัดรวมกันทั้งจังหวัดทุกประเภท

http://www.facebook.com/album.php?aid=34793&id=100000947778036&l=8e9153d3c1

ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องขบวนการสหกรณ์ทางภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม

         สหกรณ์การเกษตรควนเนียง จำกัด และสหกรณ์การเกษตรคลองหอยโข่ง จำกัด มีกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณืเป็นตัวแทนสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดสงขลา ได้เดินทางไปบริจาคสิ่งของช่วยเหลือ สมาชิกสหกรณืพัฒนาชนบทนบพิตำ จำกัด อ.นบพิตำ จ.นครศรีฯ มีสิ่งของไปบริจาคเป็นข้าสารอาหารแห้ง จำนวน 150 ชุด น้ำดื่ม 40 โหล สิ่งของอหารแห้ง 10 กว่าลัง พร้อมเงินช่วยเหลืออีก 37,360 บาท

 โดยมีประธานและผู้จัดการ มารับสิ่งของ     โดยมีท่านสหกรณ์จังหวัดมาให้การต้อนรับ จากการไปดูพื้นที่แล้ว ชาวบ้านลำบากมากไปไหน ไม่ได้ทางตัดขาด ตามรูปภาพที่นำมาให้ดู และต้องขอขอบคุณสำหรับผู้ร่วมบริจาค ทุกคน และขอให้ได้รับส่วบุญทั่วๆกัน http://www.facebook.com/album.php?id=100000947778036&aid=37918

 

สวัสดีครับอาจารย์ เพื่อน ผนส. ทุกท่าน

         ตามที่ ผนส. 2 มีมติส่ง ผม คุณอรุณี และคุณประวัติ ลงสมัครเป็นผู้ตรวจสอบกิจการ ชสอ. นั้น ขณะนี้ได้สมัครเรียบร้อยแล้ว ได้รับเบอร์ 1 ถึง 3 ตามลำดับ  จึงขอรับการสนับสนุนจากเพื่อนๆ ผนส. ทุกท่าน และหากมีเพื่อนที่รู้จักกรุณาแนะนำให้ด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง เลือกตั้งวันที่ 11 มิถุนายน 2554 ที่เมืองทองธานีครับ

สวัสดี ผนส 3 ทุกคนครับ

ไม่เห็นมีใครพูดถึงงานต้อนรับ ผนส รุ่นที่ 6 เลยนะครับ ไม่รู้มีพวกเราไปร่วมด้วยสักกี่คน ถ้าได้ไปเจอกันบ้างก็คงดีนะครับ

สำหรับผมได้จองตั๋วรถทัวร์เรียบร้อยแล้ว หวังว่าคงได้เจอกันบ้างนะครับ

แล้วเจอกัน ครับ

ใครไม่มาเลิก................................คบ................555555

ดร.มนตรี ช่วยชู [IP: 202.90.6.36]

09 มิถุนายน 2554 14:44

#2462837

เรียน ทุกท่านที่เคารพรัก

ผนส. 4 และทุกท่านที่เข้ามาอ่านใน Blog นี้ ถ้าท่านเป็นผู้แทนของสหกรณ์ออมทรัพย์และจะเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (ชสอ.) ซึ่งจะมีการเลือกตั้งประธานกรรมการดำเนินการ กรรมการดำเนินการ และผู้ตรวจสอบกิจการ โปรดช่วยลงคะแนนให้กับทีมผู้ตรวจสอบกิจการทีมนี้ที่จะเข้าไปเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ใน ชสอ. แทนท่าน

หลักธรรมาภิบาลหรือการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Governance) จะต้องซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรม มีจริยธรรม เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ฯลฯ ดังนั้นจึงควรมีการคานอำนาจ มีการ Check and Balance หรือยอมให้บุคคลที่ไม่ใช่พวกพ้องของตนเองเข้าไปตรวจสอบได้ จึงจะเรียกว่าโปร่งใสจริง ผมจึงขอสนับสนุนและเชิญชวนทุกท่านช่วยสนับสนุนทีมนี้ครับ

ปัจจุบันขบวนการสหกรณ์ถูกผูกขาดและถูกครอบงำโดยบุคคลเพียงกลุ่มเดียวแทบทุกองค์กร แทบไม่มีกลุ่มอื่นหรือบุคคลนอกกลุ่มเข้ามาร่วมรู้เห็น ผู้ตรวจสอบกิจการส่วนใหญ่ก็ไม่มีความเป็นอิสระที่แท้จริง เพราะเป็นพวกเดียวกับกรรมการ ดังนั้นจึงควรเลือกกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการที่ไม่ใช่พวกพ้องของกลุ่มที่กุมอำนาจอยู่ เพื่อให้ธรรมาภิบาลเกิดขึ้นได้จริงในขบวนการสหกรณ์ไทย ไม่ใช่พูดแต่ปากแต่กระทำเป็นตรงกันข้าม เข้าทำนองตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ

ตอนนี้นักการเมืองมีการใช้เงินซื้อเสียงกันมโหฬาร ในที่สุดก็ต้องมีการถอนทุนคืน ผลเสียก็เกิดกับประเทศชาติและคนไทยทั้งประเทศ ในระบบสหกรณ์ขออย่าให้นำสิ่งเลว ๆ ที่นักการเมืองใช้กัน นำมาใช้ในขบวนการสหกรณ์เลยครับ ขอร้อง

สำหรับท่านที่เป็นกรรมการหรือประธานกรรมการสหกรณ์ ซึ่งถือว่าโดยเฉลี่ยแล้วจะเป็นผู้ที่มีความรู้และสามัญสำนึกสูงกว่าชาวบ้านทั่วไป โปรดอย่าให้อำนาจเงินมาซื้อเสียงท่านได้ ใครจ่ายเงินซื้อเสียง จัดเลี้ยงดูปูเสื่อ จัดที่พักและรถรับส่ง ให้ของที่มีมูลค่าสูงเพื่อแลกกับคะแนนเสียง อย่าไปเลือกมัน ถ้าเลือกพวกนี้เข้าไปแล้วท่านจะต้องรู้สึกเสียใจในภายหลังครับ

มนตรี ช่วยชู

ผนส. 4

เข้าไปทั้ทีมเลยพี่สกัดไม่อยู่หรอกอำนาจเงิน

ตอนนี้กำลังยกขบวนมายึดสันนิบาตต่อไปครบวงจรจริงๆ(วงจรอุบาต)

รุ่น 3 หายไปไหนหมดแล้ว ตอบด้วย

ปัจจุบันนวัตกรรมเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นพลังในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ตัวอย่างหนึ่งที่น่าทึ่ง คือ การผลิตน้ำตาลจากต้น birch ซึ่งเป็นต้นสนประเภทหนึ่งนิยมปลูกในประเทศฟินแลนด์ซึ่งนำมาใช้บริโภคทดแทนน้ำตาลจากอ้อย ในระยะยาวอาจทำให้น้ำตาลไทยหนาวได้เหมือนกัน เกร็ดความรู้เล่าสู่กันฟังนะค่ะ

มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ

เรียนทุกท่าน

ขอเชิญเข้าร่วมหลักสูตร “พัฒนาผู้นำ ... การบริหารภายใต้วิกฤตและความเสี่ยง” มีรายละเอียดในลิ้งค์นี้

http://www.gotoknow.org/blog/chiraacademy/446835

มูลิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ

ขอเชิญเข้าร่วมสัมมนา มีรายละเอียดในลิ้งค์นี้

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/464540

 

10 พ.ย 54 ต้องขอขอบคุณ ท่านสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมาและขบวนการสหกรณ์ รวมทั้ง

พี่ต้อยจากพิมาย และพี่โบว์ นำของมาช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง มีทั้งข้าวสาร ข้าวโพดต้ม ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำ ผัดหมี่โคราช ขนมและอื่นๆ น้ำใจชาวสหกรณ์มากมายเหลือเกิน ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ

น้ำท่วมครั้งนี้ให้ระวังโรคที่มากับน้ำท่วม ได้แก่

1.โรคน้ำกัดเท้า มีอาการคันตามซอกนิ้วเท้า และเป็นหนอง ควรล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดเท้าให้แห้ง

2.โรคฉี่หนู เรื่มแรกจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ควรใส่รองเท้าบูธกันน้ำป้องกันในเบื้องต้นก่อน

3.โรคไข้เลือดออก

4.โรคอหิวาตกโรค

5.ไข้หวัด

6.โรคตาแดง

7.โรคเครียด

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ การดูแลผู้สูงอายุ ต้องเอาใจใส่พูดคุย บีบนวดอยู่เสมอเพื่อให้กำลังใจ

จากคนที่บ้านถูกน้ำท่วมเหมือนกัน

คุณหมวย กัลยา สบายดีใหม

คุณต้องการขายไตของคุณหรือไม่? คุณกำลังหาโอกาสที่จะ
ขายไตของคุณเพื่อเงินเนื่องจากการทำลายลงทางการเงินและคุณไม่ได้
รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วติดต่อเราวันนี้และเราจะนำเสนอสิ่งที่ดีแก่คุณ
ปริมาณของไตของคุณฉันชื่อ (ดร. คอลลินส์) เป็นนักประสาทวิทยาค่ะ
strewrew โรงพยาบาล โรงพยาบาลของเราเชี่ยวชาญในการผ่าตัดไตและ
เรายังจัดการกับการซื้อและการปลูกถ่ายไตด้วยชีวิต
ผู้บริจาคที่เกี่ยวข้อง หากคุณสนใจในการขายหรือซื้อ
ไตกรุณาอย่าลังเลที่จะติดต่อเราทาง
อีเมล: [email protected]
ขอบคุณ
การบริหารจัดการ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท