จากหนังสือชื่อ องค์กรไม่ใช่เครื่องจักร
แนะนำไว้ในบล็อก ชีวิต(ติด)หนังสือ
ขอคัดประโยคสำคัญมาวางในบล็อกนี้ค่ะ
เพื่อนับ....ใหม่กับการเริ่มต้นการทำงาน ฝึกฝนงานคุณ Fa
ขึ้นปีที่สามที่หอสมุด มช. ของฉัน...
"หัวใจของการจัดการความรู้
คือการสามารถใช้ความรู้ในการทำงาน
ขณะเดียวกัน
สามารถทำให้การทำงานเป็นการสร้างความรู้ใหม่
ขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ"
จาก องค์กรไม่ใช่เครื่องจักร หน้า 28 (โกมาตร และคณะ, 2551)
สุนทรียสาธก และ การฟังอย่าง Deep Listening เป็นศัพท์สวยงามในเรื่อง KM ที่มิใช่ MK แน่นอน ทุกชีวิตมีเรื่องราว ทุกเรื่องราวมีเรื่องเล่า และชีวิต รวมทั้งจิตใจของคนเราก็มีความสลับซับซ้อน ในความซับซ้อนยังมีแรงพลัง บันดาลใจให้เกิดกิจกรรม การกระทำ การแสดงออก
ขอแค่มีกำลังใจ มีแรงผลัก-ดันอย่างสร้างสรรค์ เรื่องราวและเรื่องเล่าที่ปรากฏจะเพิ่มพลังในความคิด เป็นระบบ ต่อเนื่อง และ ต่อยอด รวมทั้งพลังใจอีกมากมายมหาศาล
เรื่องเล่ามีประโยชน์มากมายในการสร้างและบริหารจัดการองค์กรไปสู่เป้าหมายร่วมกัน
เรื่องเล่ายังมีจินตนาการ ความฝันใฝ่ ที่มาช่วยเสริมแรงผลักแรงดัน ให้ไปข้างหน้า ถึงจุดมุ่งหมายที่เราเองเป็นคนตั้งและรอเราอยู่
เพียงให้มีการเปิดใจ ให้โอกาสการแสดงออก แสดงฝีมือ อย่างไว้วางใจ แล้วจะพบความรักงานที่ทำในคนอีกมากมาย ต่อให้ต้องใช้เวลายาวนานแค่ไหน ตราบใดที่เราพบแล้วว่า คนเรานั้นเลือกเป็นปลาว่ายทวนน้ำ ไม่ใช่ปลาว่ายตามน้ำ เพราะปลาที่ว่ายตามน้ำตลอดเวลา คือ ปลาที่...ตายแล้ว
การให้กำลังใจเพื่อนร่วมงาน เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างตั้งใจและเต็มใจ ผู้ที่มีบทบาทในการประสานเชื่อมโยง ควรมองปัญหา อุปสรรคเป็นเรื่องท้าทาย ผลัก ดันและดึงบ้าง ให้เกิดการระดมคิด ร่วมกันทั้งกายและใจ แก้ไขปัญหา
การค้นเจอทางออกที่ดี ณ ขณะปัจจุบัน อาจจะพบใหม่ว่ามันใม่ใช่ แต่ก็ไม่ควรปิดกั้น ปิดทางออกนั้น ลองดู ถ้าไม่ใช่ก็มาคิดกันใหม่ ก็จะเจอทางออกอีกหลายๆ ทางก็เป็นได้ ไม่มีอะไรถูก ผิด หรือถูกต้องตลอด หรือ ผิดตลอด เชื่อว่ามันมีโอกาสผิด ถูก สลับกันไปมาได้ เหมือนการค้นคว้าวิจัย การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำเอาเราสับสน
โดยส่วนตัวแล้ว การทำงานของฉัน ฉันมองรอบตัวเป็นเวที หรือ Stage แบบเดียวกับการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น Macromedia Flash แล้วสนุกกับการเรียนรู้ ทำแอนนิเมชั่น คน คน คน คือวัตถุ หรือ Object ที่โลดแล่นบนเวที
วัตถุนั้นมีชีวิต เลือดเนื้อ หัวใจที่รู้จักเจ็บปวด เท่าๆ กับสุขเบิกบาน เมื่อเรามีโอกาสเป็นตัวละครในฉากแต่ละฉาก เวลาที่มีไฟส่องสว่างฉาบมาที่ตัวเรา ไม่ว่าเราจะมีจุดยืนในบางครั้งเป็นตัวเอก ตัวประกอบ เป็นแม้กระทั่งวัตถุสิ่งของที่นิ่งๆ เฉยๆ (ไม้ประดับ) บนเวทีนั้น
สิ่งหนึ่งเตือนตัวเองเสมอคือ ก็จะไม่ลืมพกพาความรู้สึกสนุก และจิตใจที่ดีๆ ขึ้นไปโลดแล่นบนเวทีนั้นด้วย ส่วนปฏิสัมพันธ์ที่ปรากฏ ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ ตามบริบทและสถานการณ์นั้น
บางครั้งการสมมุติตัวเองเป็นเพียงผู้ดู ก็ยิ่งเพิ่มความสนุกสนานเป็นการใหญ่ ยิ่งเมื่อเสริมเติมความรู้เรื่องควรรู้เกี่ยวกับบุคลิกลักษณะของผู้คน (ตัวละครในฉากชีวิต) ว่ามีกี่แบบ (ซึ่งก็ไม่พ้นเก้าแบบเอ็นเนียแกรม) ใครเป็นแบบไหน แล้วเราจะเข้ากันได้ดีใด้อย่างไร
เป็นคนดูก็สนุก เป็นตัวละคร (ที่คิดดีทำดี) ก็สนุก ในความสนุกยังได้เนื้องานที่เป็นสาระ มีคุณค่า และทำประโยชน์
นี่คือเคล็ดลับขณะปัจจุบันในการทำงานของฉัน
พรุ่งนี้อาจเปลี่ยนแปลงใหม่ก็ได้...
คุณล่ะคะ มีเคล็ดลับการทำงานอย่างไรบ้าง
ลิงค์เรื่อง คน คน คน ฝากไว้แบบสบายๆ