เจ้าด่างเป็นหมาที่มอมแมมในครั้งแรกที่ผมไปพบเห็นเขา ตัวเล็ก ๆ เจ้าของเป็นคู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันและมาปลุกขนำอยู่ไม่ไกลจากบ้านที่ผมอยู่นัก วันแรกที่ไปเจอเขานอนอยู่ที่ใต้แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน พี่ทองและพี่จิต เป็นเจ้าของเจ้าด่างที่ว่า วันแรกที่พบกันกับผม เขาไม่เห่าเลย ได้แต่นอนแอบดู จนพี่จิตสงสัยว่ามันจะป่วย เพราะปกติมันจะเห่าทุกคนที่เข้ามาในบ้าน เจ้าด่างเขานอนทำเป็นฟอร์ม จนผมเข้าไปทักทาย ลูบเขา เมื่อเห็นเขากระดิกหางตอบรับ แสดงว่าเขารับเราเป็นมิตรด้วยแล้ว จากนั้นผมก็จัดการบีบจมูกจนเขาร้อง 3 ครั้ง เป็นการเสร็จสิ้นการผูกมิตรกัน
ขนำพี่ทองและพี่จิต ดูจะเป็นการอยู่กับธรรมชาติ ยังใช้ตะเกียง รอบบ้านก็เต็มไปด้วยต้นไม้ ที่พี่ทองและพี่จิตปลูกขึ้นใหม่เพื่อเก็บกินเองก็เยอะไปหมด เวลาผมไปก็จะได้ผักเหนาะกลับมาด้วยทุกครั้ง ที่นี่เขาขอกันและเก็บได้เลย บางทีไช่จะต้องรอให้เขาอนุญาต เช่นนี้จะเรียกว่า “บอกกันก่อน” เรื่องขนำพี่ทองและพี่จิต พี่จิตบอกผมว่าไม่ใช่ขนำ แต่เป็นบ้านน้อย “บ้านหลังน้อยของเรา” พี่จิตเป็นคนสวยลูกคนรวย แต่รักพี่ทองมาก ยอมแต่งกับพี่ทองโดยไม่ได้รับอะไรจากที่บ้านมาเลย นอกจากที่ดินที่ปลูกขนำผืนนี้และที่นาข้าง ๆ อีกเล็กน้อย อาศัยทำนาในที่ดินของการรถไฟ จึงเหลือได้ขายบ้าง พี่จิตจะบอกผมและพี่ทองเวลาคุยกันว่า เรารวยกว่าบ้านเดิมเสียอีก แต่รวยความสุข เห็นจะจริงเพราะผมเห็นทุกอารมณ์ของคนคู่นี้ มีงอน มีหยอก มีง้อกัน แต่สิ่งหนึ่งคือ เขาจะเรียกแทนตัวเองว่าพี่-น้องกันทุกคำ ผมชอบมากเลย ชอบมาจนถึงปัจจุบัน
วกกลับมาที่เจ้าด่างบ้าง (พระเอกตัวจริง) จริง ๆ นะมันมีชื่อจริงว่า “บิ๊ก” แต่ผมไม่ค่อยชอบเรียกเพราะหากแปลแล้วจะเป็นชื่อเล่นของผม หากวันไหนผมเห็นเจ้าด่างระริกระรี้เวลาผมไปหาละก็ทายได้เลยว่าเจ้านายและเจ้านายน้อยของเขามีความสุขกัน มีวันหนึ่งผมไปหาไม่เจอที่แคร่ไม้ไผ่ ค้นหาไปก็พบแอบนอนหยบอยู่ที่กอกล้วย วันนั้นพี่จิตงอนพี่ทอง เจ้าด่างไม่อยากถูกลูกหลง เลยไปหยบเสียให้พ้นหน้า หรืออีกทีก็ไม่แน่ว่าเจ้าด่างมันอาจจะไม่อยากเห็นภาพการงอน ๆ กันนั้นก็ได้ เรื่องเจ้าด่างยังมีอีกเยอะมากในความทรงจำของผม จะพยายามนำมาเล่าไว้ ด้วยความประทับใจอีกในตอนต่อ ๆ ไป
หากต้องการอ่านทุกตอนใช้ป้าย (Tag) เจ้าด่าง คลิ้กเข้าไปครับ
อ่านหนังสือยามดึก...ว่าจะเข้านอน แล้วมาปิดคอมฯ แต่เผอิญมาเจอบันทึก "เจ้าด่าง...กำเนิดการพบเจอ" ชื่อเหมือนสุนัขที่บ้านเลยคะ จึงแวะเข้ามาดู...
อ่านไปจนจบรู้สึกประทับใจเจ้าด่างขึ้นมา กับการเอาตัวรอดเวลาที่เจ้านายงอนกัน สุนัขเขามักจะเรียนรู้นิสัยเจ้านายเสมอ และหากเห็นท่าไม่ดีก็จะ "รู้หลบเป็นปีก...รู้หลีกเป็นหาง" ประมาณว่า "หางเจ้าด่าง"
เจ้าด่างน่ารักจังค่ะ เหมือน "ด่าง" ที่บ้านเลย อยากให้คุณ "พี่ชายขอบ" นำเรื่องเจ้าด่างตอนต่อไปมาเล่าเร็ว ๆ จังค่ะ ทิ้งไว้ให้คนรักสุนัขอยากติดตามต่อ
ชอบคำว่า เจ้าด่างระริกระรี้ เพระเคยมีสุนัขตัวหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน เป็นแมวมาหา หมามาสู่
ชื่อระริกระรี้ หรือ ริกรี้ เป็นหมาไทยพันธ์แท้แท้ หมายถึง กินง่าย เยงง่าย แข็งแรง ซื่อสัตย์
ทุกวันมันจะวิ่งมารับ ด้วยท่าทางสั่นไปทั้งตัว ก้นส่าย หางส่ายไปมา ปากก็ร้องว่า คิดถึงนายเหลือเกิน นายอั๊บ
เสียดายมันตายเพราะยาเบื่อของชาวบ้านค่ะ
เขียนมาอีกนะคะ รออ่านค่ะ
ขอบตอบที่เป็นข้อสังสัยก่อนนะครับ ผักเหนาะคือผักสดที่ใช้กินกับแกงหรือน้ำพริกครับ
อ่านสนุกค่ะ เวลาหมา(รวมแมวด้วย)อยากได้อะไรลองสบตาดู...จะรู้ใจเขาน่ะค่ะ เวลาทักทายหมามักจะเกาใบหูค่ะ ยังไม่เคย "จัดการบีบจมูกจนเขาร้อง 3 ครั้ง เป็นการเสร็จสิ้นการผูกมิตรกัน" ....เลยค่ะ
อาจารย์น้อง Vij
เจ้าด่างนี่นะ ชื่อเดี่ยวกันกับหมาที่บ้านอาจารย์น้อง อืม! ช่างเผอิญนะ แต่เจ้าด่างก็เป็นชื่อคนก็มีนะ เพื่อนพี่ชื่อครูด่าง สอนพละ
คุณพี่สิริพร
เสียใจด้วยนะครับที่ "ริกรี้" โดนยาเบื่อ ช่างใจร้ายนะครับ ผมชอบหมาครับ เขามักจะซื่อสัตย์ อย่างที่หาตัวจับยากมาก
ท่านพี่ ผอ.บวร
ชายขอบ (ใหญ่) ครับ เจ้าด่างตอนโดนงูเห่ากัดจะน่าสนใจมากครับ กำลังเรียบเรียง จะเห็นถึงความผูกพันธุ์ที่น่าประทับใจของสัตว์ผู้ซื่อสัตย์และคน ครับ รอติดตามนะครับ
ท่านอาจารย์จันทรรัตน์
การบีบจมูกให้ร้อง 3 ครั้ง นี่ปู่สอนไว้ครับ ให้ทำตอนที่เขายังเล็ก ๆ แล้วเขาจะไม่กัดเราอีกเลย ไม่ว่าจะเจอกันที่ไหน ห่างหายกันไปนานเท่าใด หากเมื่อเขาได้กลิ่นเรา เขาจะจำได้ทันที แม้เราจะจำเขาไม่ได้ ผมเลยเอามาใช้ ใช้หลาย ๆ ครั้งด้วยครับ
ท่านอาจารย์พี่ขจิต
ขอบคุณมากนะครับ ที่ตามมาแปลให้ ที่แปลนั้นชอบแล้วครับ