พอลูกปิดเทอมพ่อแม่ก็รีบฉวยโอกาสไปเที่ยวเลย..ก็ plan ไว้ว่าจะไปดูไดโนเสาร์ที่ภูเวียงคะ. เดินทางกันเย็นหลังลูกกลับจากโรงเรียนวันนั้นเลยคะ  ตั้งเป้าไว้ว่าคืนนี้จะนอนที่ขอนแก่นก่อน ไปแบบถือแผนที่ไป ถามทางไป ลุยเอาดาบหน้า..แต่คุณสามีก็ค้นข้อมูลจาก internet ไปพอสมควรแล้ว แล้วก็ลูกสาวก็อ่านข้อมูลเรื่องไดโนเสาร์จากหนังสือสารคดีไปแล้ว  ก็เก็บเสื้อผ้าข้าวของเดินทางกันเลย...ซัก 5โมงเย็นได้ ไปแวะกินข้าวเย็นแถวๆชุมแสง แล้วก็เดินทางต่อไปเรื่อยๆ ลูกก็สั่งให้ลูกคอยดูทางไว้นะ อ่านป้ายคอยบอกทางพ่อด้วย...เพราะพึ่งพาแม่มันไม่ได้คะ  เป็นคนมีความสามารถพิเศษ ชอบหลงทางประจำ(แต่ไอส์ไตล์ก็จำทางกลับบ้านไม่ถูกเหมือนกันนะ อิ๊ อิ๊)...ก็ไปถึงที่พักของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ตอนประมาณเกือบสี่ทุ่มได้เพราะแวะไประหว่างทางเรื่อยๆ พักเมารถกันคะสองคนแม่ลูก  ตอนหลังสามีเลยมอมยาให้หลับกันไป ...กิน dramamine

    เช้าก็เดินทางกันต่อแวะเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ที่ขอนแก่น  ก็คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ เพระไม่ใช้เทศกาลท่องเที่ยวนะคะ  ระหว่างทางก็ถามทางไปเรื่อยๆ แล้วแต่ละคนที่เราถามน่ารักมาก สมเป็นเมืองท่องเที่ยวมากเลย สำหรับน้ำใจคนไทย บางคนจะขับนำหน้ามาส่งให้ บางคนบอกทางแถมอวยพรด้วย..โชคดีนะครับ ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทั้งเมืองเลย  ประทับใจเลย

    ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ดูเหมือนกำลังจะพัฒนาเพิ่มเติมอีกหลายอย่างคะ เห็นเริ่มลงไม้ดัดรูปไดโนเสาร์ตั้งแต่ปากทางเข้า  แล้วมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดโล่งก่อนถึงพิพิธภัณฑ์มีกำลังสร้างไดโนเสาร์หลายตัว เลยแวะเข้าไปคุยกับทีมงานบอกว่า กำลังเร่งมือครับ  จะเปิดให้ทัน 5 ธันวานี้ แล้วจะทำแบบหันหน้าได้ มีเสียงร้องด้วย คุณลูกเรามีการนัดกับเขาไว้ว่า"แล้วพอหนูป.3 หนูก็จะกลับมาดูอีก" แม่เลยอดหมั่นไส้ลูกไม่ได้ ไม่นึกถึงตอนเมารถเลยนะลูกเอ้ย!! เลยอดแซวไม่ได้ว่าทำแบบกินเด็กได้ด้วยซิ...ลูกสาวเลยหันมาค้อนไปหนึ่งวงแล้วก็เดินชมสวนไดโนเสาร์กันใหญ่ทั้งพ่อลูก ..บอกว่าพ่อลูกเพราะแม่มันเมื่อยมาก แล้วแอบตามถ่ายรูปอย่างเดียว เรื่องนี้ชอบ...เสียดายเป็นกล้องฟิล์มคะไม่ใช่ดิจิตอล เลยโชว์ไม่ได้

    แล้วก็เดินทางต่อไปที่กาฬสินธ์..ที่นั่นคนเยอะมาก มีนักเรียนมาเที่ยวเป็นกลุ่ม ลูกสาวเลยยิ่งตื่นตาตื่นใจมากขึ้นอีก  เดินจ้องอ่าน วนเวียนอยู่เป็นชั่วโมงๆ ครั้งนี้ทั้งพ่อทั้งแม่หงอยมาก เหนื่อยและเมื่อยมากๆ มีการบอกที่มาของไดโนเสาร์ ชนิด แหล่งค้นพบ แล้วก็นิสัย รวมทั้งมีปุ่มกดแสดงพฤติกรรมต่างๆของไดโนเสาร์ให้เด็กๆกดศึกษาเองได้  มีตู้โชว์จัดไว้ดูการอยู่ร่วมกันของไดโนเสาร์ และมีคำแนะนำเรื่องพัฒนาการของคน ของไดโนเสาร์ให้แวะตลอดทาง แถมมีเกมไดโนเสาร์ให้เด็กๆแวะเล่นอีก 

      ด้านนอกบนเขาจะมีแหล่งที่ค้นพบเปิดไว้ต่างหากให้เขาไปศึกษาข้อมูล และบอกประวัติความเป็นมาว่า "พระอาจารย์ท่านได้มีคนที่พบกระดูกไดโนเสาร์แล้วนำมาให้วัดเพราะไม่คิดว่าเป็นกระดูกไดโนเสาร์ ด้วยคิดว่าเป็นไม้กลายเป็นหิน ต่อมาพระอาจารย์ได้มีนิมิตรเห็นสัตว์ชนิดหนึ่งคอยาวมากมากินน้ำในบ่อ แล้วมีคนมาชี้ทางให้ตามไปแล้วก็หายไป พระอาจารย์จึงได้ให้ไปสำรวจดู จึงพบกระดูกไดโนเสาร์จำนวนมาก จึงได้ทูลเรื่องกับสมเด็จพระเทพฯ"

    ถ้ามีลูกหลานชอบเรื่องไดโนเสาร์น่าพาไปคะ เจออะไรแปลกๆดี เช่น ฟอสซิลขี้ปลา ฟอสซิลอำพันของยุงแบบในหนังฯลฯ

   ก็คืนนั่นนอนกาฬสินธ์ค่าที่พักคืนละ 400 บาท เช้าขากลับก็แวะฟาร์มโชคชัยกินไอสครีมแสนอร่อยทำจากนมวัวสดๆ...แต่ราคาก็สมตามคุณภาพด้วย  ลูกสาวเราบอกว่า "ไม่แพงหรอกพ่อ นานๆเป็นปีกว่าจะได้กินทีนึงน่ะ" แล้วมีโชว์บีบนมวัวให้ดู  แต่รอดูไม่ไหวคะ เดี๋ยวจะถึงบ้านดึกเกินไปก็เลย กลับกันเลยเพราะเช้าวันจันทร์พ่อแม่ต้องทำงาน  ก็ ok ตกลงเดินทางกลับ

   ผลพวงจากวันนั้น ถึงวันนี้ก็คือ พ่อแม่กระเป๋าแห้งเลย...แคะกระปุกลูกกินแล้วจ้า..โปรดทราบ