บ่อยครั้งที่ระหว่างการเดินทางนั้นเราได้ใช้สายตามองออกไปนอกหน้าต่างของรถโดยสารที่เราได้อาศัยเป็นพาหนะเพื่อให้ไปถึงที่หมาย ในสายตาที่เพ่งมองออกไปนั้น ถูกบดบังโดยความรู้สึกที่ล่องลอยไปตามทิวทัศน์ของข้างทางที่เคลื่อนตัวผ่านเราไปโดยเร็วเช่นกัน
การปล่อยหัวใจให้ล่องลอยไปกับการเดินทางนั้นเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าโปรดปราณมากเป็นพิเศษ ในการปล่อยหัวใจให้ล่องลอยนั้นเป็นการปลดปล่อยพันธนาการต่าง ๆ ที่เกาะกุมอยู่ในหัวใจของข้าพเจ้าให้หลุดล่องลอยไปตามกระแสลมที่พัดผ่าน เหมือนการชะล้างหัวใจของข้าพเจ้าให้หลุดพ้นจากความอหังการ ความโอหัง จากหัวใจที่ถูกเกาะกุมไปด้วยหินปูนของกิเลส และความเห็นแก่ตัว
ข้าพเจ้าเป็นคนที่ชื่นชอบการเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ การเดินทางแต่ละครั้งของข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าได้มองเห็นโลกที่กว้างขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้น ได้เรียนรู้ผู้คน วัฒนธรรม และน้ำใจอันงดงามของผู้คนที่หยิบยื่นให้จากสถานที่ที่ข้าพเจ้าได้ผ่านไปอย่างให้เกียรติคารวะและอ่อนน้อม ข้าพเจ้าได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคน จากสองข้างทาง ได้เรียนรู้ได้สัมผัสถึงความสุข ความปลื้มปีติ รวมถึงความเจ็บปวด โศกเศร้าที่หลากหลายเช่นกัน
การเดินทางของข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่า ตัวข้าพเจ้าไม่ใช่จุดศูนย์กลางของคนทั้งโลก ทำให้รู้ว่าข้าพเจ้าเองนั้นไม่สลักสำคัญอะไรมากมายนักกับการหมุนเวียนเปลี่ยนไปของความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา ความสุขที่ได้รับมาข้าพเจ้าได้แบ่งปันคืนให้กับเพื่อนร่วมเดินทางและผู้คนที่อยู่ตามสองข้างทางอย่างเต็มใจ และข้าพเจ้าได้หวงแหนเฉพาะความเจ็บปวดไว้กับตัวเองเท่านั้น..ทั้งนี้เพราะว่าความเจ็บปวดมันทำให้ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาในทุกทุกเช้าสามารถรับรู้ได้ว่าข้าพเจ้ายังหายใจและยังมีชีวิตอยู่
...................................
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ค่ะ ... ใช้ภาษาได้ดีจังเลย ...เขียนบ่อยๆนะค่ะ
อ.ขจิต มาก่อนใครๆ น่ารักมาก
อ่านบันทึกจาก จดหมายจากพ่อ แล้วทึ่งและประทับใจมากครับ ก็เลบต้องแอบตามมาอ่านประวัติและบันทึกฉบับแรก ฉบับนี้ ครับ
เขียนได้น่าอ่านและให้ความรู้สึกที่ดีมากครับ
เขียนบ่อยๆ นะครับ คุณนักอยากเขียน ผมชอบคำนิยามสำหรับตัวตนของคุณคำนี้จังครับ คุณนักอยากเขียน ....
ขอสมัครเป็นแฟนคลับไว้ล่วงหน้าครับผม
ประทับใจจดหมายของพ่อค่ะเลยมาทักทายอ่าแล้วอยากเห็นพ่อน้องจังเลยเอารูปลงก็ดีนะค่ะ กิ่งค่ะ
ขอบคุณมหาศาลครับ