ธรรมกาย แปลว่ากายอันเกิดจากธรรมคือโลกุตรธรรม


หลักฐาน “ธรรมกาย” ในคัมภีร์

ธรรมกาย  แปลว่า  กายอันเกิดจากธรรมคือโลกุตรธรรม พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญได้กล่าวถึงลักษณะของ “ธรรมกาย” ไว้ พอสรุปได้ว่า มีลักษณะคล้ายพระพุทธปฏิมากรแก้วใส เกตุดอกบัวตูม แต่ใสสว่างเย็นตาเย็นใจ หารัตนะใดเปรียบปานมิได้  ประทับนั่งขัดสมาธิ เป็นกายในกายที่ละเอียดที่สุดของมนุษย์ หรือสัตวโลกทั้งหลาย เป็นกายประเสริฐ กล่าวคือเป็นกายบริสุทธิ์เป็นธาตุล้วน ธรรมล้วน ไม่ประกอบด้วยตัณหาราคะใดๆ และเหนือจากการปรุงแต่งทั้งปวง ไม่ตกอยู่ในกฎแห่งไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) เป็นกายที่เที่ยงแท้ไม่เปลี่ยนแปลงแปรผันไปตามเหตุปัจจัย เป็นตัวตนที่แท้จริง



นอกจากนี้ ธรรมกาย ยังถือได้ว่าเป็นตัวพุทธศาสนาที่แท้ ไม่แบ่งแยกนิกาย ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ชาติและภาษา ผู้ที่ดำเนินตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ถูกส่วนเข้าก็จะเห็นได้เข้าถึงได้แน่นอน และจะได้ชื่อว่า เป็นพุทธบุตร พุทธธิดา เป็นพุทธศาสนิกชน และเป็นสมณะในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง



เพราะอะไร ? เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระบรมศาสดาของเราทั้งหลาย ก็เสด็จอุบัติขึ้นด้วยพระธรรมกาย แล้วทรงเผยแผ่สั่งสอนชาวโลกจนกระทั่งเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระสาวกผู้เป็นอริยะทั้งหลายก็ได้นำมาเผยแผ่สืบต่อกันมา



ดังมีหลักฐานปรากฏเกี่ยวกับเรื่อง “ธรรมกาย” ทั้งในพระไตรปิฎก และคัมภีร์สำคัญๆ ในพระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายเถรวาทของเราก็หลายแห่ง กล่าวคือ ในพระไตรปิฎก ๔ แห่ง ในอรรถกถา ๒๘ แห่ง ในฎีกา ๗ แห่ง และคัมภีร์นอกจากนี้มีวิสุทธิมรรคเป็นต้นอีกหลายแห่ง อีกทั้งของฝ่ายมหายานก็ปรากฏหลักฐาน “ธรรมกาย” เป็นอันมาก ซึ่งจะได้นำเสนอเป็นลำดับไป



คำว่า “ธรรมกาย” ที่มีปรากฏในพระไตรปิฎก มีอยู่ ๔ แห่ง ทั้งหมดอยู่ในพระสูตร



ครั้งแรกที่ปรากฏคือ อยู่ใน พระสูตรทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ในอัคคัญญสูตร (บาลีฉบับสยามรัฐเล่ม ๑๑ ข้อ ๕๕ หน้า ๙๑–๙๒ ความว่า


ยสส โข ปนสส วาเสฏฐา ตถาคเต สทธา นิวิฎฐา มูลชาตา ปติฎฐิตา ทฬหา อสํหาริยา สมเณน วา พราหมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พรหมุนา วา เกนจิ วา โลกสมึ ตสเสตํ กลลํ วาจาย ภควโตมหิ ปุตโต โอรโส มุขโต ชาโต ธมมโช ธมมนิมมิโต ธมมทายาโทติ ฯ ตํ กิสส เหตุ ฯ ตถาคตสส เหตํ วาเสฎฐา อธิวจนํ ธมมกาโย อิติปิ พรหมกาโย อิติปิ ธมมภูโต อิติปิ พรหมภูโต อิติปิ พรหมภูโต อิติปิ ฯ


-->>  ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ ก็ผู้ใดแล มีศรัทธาตั้งมั่น ในตถาคต เกิดขึ้นแล้ว แต่รากแก้ว คืออริยมรรค ประดิษฐานมั่นคง อันสมณพราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือผู้หนึ่งผู้ใดในโลก ไม่พรากไปได้ ควรเรียกผู้นั้นว่าเป็นบุตร เป็นผู้เกิดแต่พระอุระ เกิดแต่พระโอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดแต่พระธรรม เป็นผู้ที่พระธรรมเนรมิตขึ้น เป็นผู้รับมรดกพระธรรม ข้อนั้นเพราะเหตุใด ? เพราะคำว่า ธรรมกาย ก็ดี พรหมกาย ก็ดี ธรรมภูต ก็ดี ว่า พรหมภูต ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต ฯ



คำว่า “ธรรมกาย” ในพระสูตรนี้ พระพุทธองค์ตรัสว่าเป็นชื่อของตถาคต เป็นชื่อที่เรียกว่า “เนมิตตกนาม”  คือเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นโดยคุณธรรมนิรมิตให้ เป็นสัจฉิกาบัญญัติ คือแจ่มชัดแก่บุคคลผู้เป็นธรรมกายเอง ไม่ต้องมีใครบอกหรือตั้งชื่อให้ เพราะมีอยู่จริง กล่าวคือเป็นกายที่เกิดจากคุณธรรมคือโลกุตรธรรม เพราะคำว่า “กาย” แปลว่า เป็นที่รวม เป็นที่ประชุม บอกถึงลักษณะของสิ่งที่ประกอบ รวมกันเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจนเป็นรูปลักษณ์ไม่แยกกัน เหมือนดังเช่นกายมนุษย์ เป็นที่รวมของมหาภูตรูป ๔ เป็นต้นผสมผสานกันจนเป็นรูปกายที่เราเห็นกันได้ด้วยตาเนื้อ แต่ว่าเป็นกายเกิดจากโลกิยธรรม คือมีมนุษยธรรมเป็นประธาน



คำว่า พรหมกาย แปลว่า เป็นผู้มีกายอันประเสริฐบริสุทธิ์ มิใช่หมายถึงกายของพระพรหม เพราะมุ่งหมายเฉพาะพระตถาคต



คำว่า ธรรมภูต แปลว่า ผู้มีธรรม หรือ เป็นธรรมเป็นๆ มิใช่เป็นธรรม (ตาย) ที่อยู่ในคัมภีร์ แต่ก็มิใช่เป็นธรรมที่มีชีวะ ตามความเข้าใจของวิสัยปุถุชน เพราะเป็นวิสัยของพระอริยเจ้าทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ละเอียดไม่สามารถจับต้องด้วยมือหรือมองเห็นด้วยตาเนื้อได้
คำว่า พรหมภูต บอกถึงลักษณะสภาวะอันประเสริฐบริสุทธิ์



นอกจากนี้ยังได้บอกถึงปฏิปทาของผู้ที่จะได้ชื่อว่า เป็นบุตร ฯลฯ เป็นผู้รับมรดกพระธรรม ของพระตถาคตที่ทรงพระนามว่า ธรรมกาย แล้วจะต้องเป็นผู้มีศรัทธาตั้งมั่น เกิดขึ้นแล้วแต่รากแก้ว คืออริยมรรค กล่าวคือ ดำเนินตามอริยมรรคมีองค์ ๘ แล้ว อันใครๆ ก็ตามไม่สามารถให้หวั่นไหวได้ ตามหลักพระพุทธศาสนาผู้ที่มีศรัทธาไม่หวั่นไหวที่เรียกว่า อจลศรัทธา อย่างต่ำก็ต้องเป็นโครตภูบุคคลหรือพระโสดาบันขึ้นไปจึงจะรู้ชัดว่าธรรมกาย มิใช่เป็นเพียงชื่อดังอันธปุถุชนเข้าใจกัน แต่เป็นกายแท้จริงที่เกิดจากโลกุตรธรรมฯ



**************************************************************************
ขยายความหลักฐานธรรมกาย โดย พระมหาสมเกียรติ วรยโส (ป.ธ.๙)

หมายเลขบันทึก: 215213เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2008 14:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 00:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท