ดูกรลูกนายบ้าน มิตรผู้เป็นทิศเบื้องซ้ายอันกุลบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ
หัวข้อเหล่านี้ชัดเจนแล้ว แม้ในอรรถกถาท่านก็แก้ไว้เฉพาะคำศัพท์ของข้อสุดท้ายเท่านั้น... ทำนองว่า ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรจะแกล้งพูดเพื่อให้เพื่อนเข้าใจผิด
..............
ดูกรลูกนายบ้าน มิตรผู้เป็นทิศเบื้องซ้ายอันกุลบุตรบำรุงด้วยสถาน ๕ เหล่านี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน ๕ คือ
หน้าที่ของเพื่อนที่พึงช่วยเหลือเพื่อนก็เช่นเดียวกัน ท่านขยายความเฉพาะข้อสุดท้ายเท่านั้น... ทำนองว่า เพื่อนย่อมนับถือและรักใคร่ห่วงใยญาติของเขาฉันใด เราก็ควรจะนับถือและรักใคร่ห่วงใยญาติของเพื่อนฉันนั้น
............
สาเหตุที่ท่านไม่ขยายไว้ คงเป็นเพราะรายละเอียดเรื่องการคบมิตรนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แล้วในตอนต้น ดังนั้น เมื่อมาตรัสย้ำในฐานะเป็นทิศเบื้องซ้าย จึงทรงตรัสในฐานะที่มิตรพึงกระทำต่อมิตรด้วยกันเท่านั้น...
ผู้สนใจประเด็นเหล่านี้ สามารถกลับไปดูได้ที่ เล่า...๑๗ , เล่า...๑๘ และ เล่า...๒๐ ได้ตามลำดับ
ต่อจากทิศเบื้องซ้าย ก็คือทิศเบื้องล่างได้แก่ ทาสและกรรมกร ซึ่งผู้เขียนจะนำมาเล่าในตอนต่อไป...
-/\- นมัสการค่ะพระอาจารย์
การคบมิตรกับการคบสัตบุรุษเกี่ยวโยงกันอย่างไรคะ
-/\-นมัสการค่ะ
สัตบุรุษ แปลง่ายๆ ว่า คนดี
มิตร หมายถึง เพื่อน
ดังนั้น สัตบุรุษ มีความหมายกว้างกว่า มิตร
แต่ถ้าได้เพื่อนที่เป็นคนดีด้วย ก็น่าจะประเสริฐกว่า...
ทำนองเกียวกับ อาจารย์ อาจเป็นสัตบุรุษหรือไม่เป็นก็ได้ แต่อาจารย์มิใช่เพื่อนแน่นอน...
แต่บางกรณี ที่เป็นทั้งอาจารย์และเพื่อนนั้น ขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่ มิใช่ในขณะเดียวกัน....
เจริญพร