BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

ชาติหน้ามีหรือไม่ ? (ปายาสิราชัญญสูตร) ๗


ชาติหน้ามีหรือไม่ ? (ปายาสิราชัญญสูตร) ๗

จากครั้งก่อน (คลิกที่นี้) เจ้าปายาสิปล่อยหมัดตรงไปยังพระกุมารกัสสปเพื่อให้จำนนด้วยเหตุผล แต่พระเถระก็แก้โดยเปรียบเทียบว่าท้าวเธอโง่งมประดุจหญิงหม้ายที่ใช้มีดผ่าท้องตัวเองเพื่อจะดูว่าลูกในครรภ์เป็นชายหรือไม่เพื่อจะได้มรดก...

เมื่อมองตามหลักตรรกศาสตร์ ผู้เขียนคิดว่า ท้าวเธออาจพิจารณาแล้วว่าไม่อาจชนะพระเถระได้โดยเหตุผล ดังนั้น ท้าวเธอจึงกลับมาใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ที่พระองค์เคยพิสูจน์มาดังพระดำรัสว่า...

  • ข้าแต่ท่านกัสสป ! คนของเกล้าฯ เคยจับโจรชั่วร้ายมาได้ แล้วให้เกล้าลงโทษ เกล้าจึงได้ใช้โอกาสนี้พิสูจน์ โดยใช้ให้เอาโจรชั่วใส่ในหม้อใบใหญ่ เอาหนังสดรัดปากหม้อจนแน่นแล้วใช้ดินเหนียวพอกซ้ำอีกครั้ง ครั้นแล้วก็สั่งให้ยกมาขึ้นสู่เตาติดไฟต้มแบบเป็นๆ ครั้นทราบว่าเจ้าโจรน่าจะตายแล้ว จึงใช้ให้ยกหม้อลง กะเทาะดินออกจากปากหม้อ แล้วก็ค่อยๆ เปิดปากหม้อเพื่อตรวจดูว่า ชีวะของเจ้าโจรคนนี้จะลอยออกมายังไง...
  • ข้าแต่ท่านกัสสป ! โดยวิธีการทดลองนี้ พวกเราไม่เคยเห็นชีวะของเขาลอยออกมาเลย ดังนั้น เกล้าฯ จึงเชื่อว่า โลกหน้าไม่มี สัตว์ที่ผุดเกิดไม่มี ผลกรรมที่ทำดีทำชั่วก็ไม่มี...

วิธีการทดลองของเจ้าปายาสิน่าสนใจ เพราะแม้ปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงมีการทดลองทำนองนี้อยู่ เพียงแต่รายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น...

 

พระกุมารกัสสปะ ฟังแล้วจึงย้อนถามท้าวเธอว่า...

  • ดูกรบพิตร ! อาตมาจะขอย้อนถามพระองค์ในข้อนี้ แล้วจะเฉลยตามที่เห็นสมควร พระองค์เคยบรรทมกลางวัน แล้วก็ทรงรู้สึกว่าฝันเห็นสวนอันน่ารื่นรมย์ มีพันธุ์ไม้ ภาคพื้น และสระบัวอันชวนแก่การรื่นรมย์ใจบ้างหรือไม่ ?

เจ้าปายาสิตรัสว่า...

  • ข้าแต่ท่านกัสสป ! ก็เคยฝันอยู่บ้างเหมือนกัน

พระเถระจึงทูลถามต่อว่า...

  • ก็ในเวลานั้น หญิงค่อม หญิงเตี้ย เจ้าพนักงานภูษามาลา หรือนางกุมาริกา ที่คอยเฝ้าเพื่อถวายการรับใช้ มีอยู่บ้างหรือไม่ ?

ท้าวเธอตรัสว่า...

  • ก็มีอยู่ทำนองนั้น

พระเถระทูลถามว่า...

  • คนเหล่านั้น เคยเห็นชีวะของพระองค์เข้าหรือออกบ้างหรือไม่ ?

ท้าวเธอตรัสตอบว่า...

  • ไม่เคยมีใครเห็นเลย พระคุณเจ้า

พระเถระครั้นสดับอย่างนั้นแล้ว จึงได้โอกาสเปรียบเทียบให้ท้าวเธอฟังว่า...

  • ดูกรบพิตร ! ก็คนเหล่านั้น แม้ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังไม่อาจเห็นชีวะของพระองค์ที่เข้าออกอยู่ ไฉนพระองค์จะเห็นชีวะของคนที่ตายได้แล้วละ...
  • โดยการเปรียบเทียบทำนองนี้ ก็น่าจะสะท้อนให้พระองค์เข้าใจได้ว่า โลกหน้ามีอยู่ สัตว์ที่ผุดเกิดมีอยู่ และผลกรรมดีชั่วของสัตว์ทั้งหลายก็มีอยู่...

 

นั่นคือ คนเราเมื่อนอนหลับฝันไปนั้น อาจไปเห็นที่โน้นที่นี้ในความฝัน แต่คนใกล้ชิดนั้น ไม่อาจทราบได้ว่าเราไปเห็นได้อย่างไร (คล้ายๆ กับจิตวิญญาณที่ล่องลอยเข้าออกเข้าออกในความฝัน ไม่มีใครสามารถเห็นได้) นับประสาอะไรกับจิตวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว.... ประมาณนี้

สรุปว่า การทดลองของเจ้าปายาสิที่มายืนยันความเชื่อของท้าวเธอ ถูกพระกุมารกัสสปคัดค้านตกไป โดยพระเถระนำความฝันมาเป็นข้อหักล้างในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ท้าวเธอยังมีการทดลองวิธีอื่นอีกที่จะนำมายืนยันความเชื่อ ซึ่งผู้เขียนจะนำมาเล่าในตอนต่อไป... 

หมายเลขบันทึก: 234521เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2009 22:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

นมัสการค่ะ
ในทางศาสนาพุทธเชื่อว่า ตายแล้วไม่สูญ ใช่ไหมคะ ดิฉัก็เชื่อเช่นนั้นค่ะ
กราบ 3 หนค่ะ

PSasinand

 

  • เมื่อเหตุปัจจัยยังมีอยู่ สิ่งนั้นก็ยังมีอยู่

เจริญพร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท