BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

ชาติหน้ามีหรือไม่ ? (ปายาสิราชัญญสูตร) ๑๐


ชาติหน้ามีหรือไม่ ? (ปายาสิราชัญญสูตร) ๑๐

จากครั้งก่อน (คลิกที่นี้) เจ้าปายาสิตรัสเล่าถึงความพยายามในการตรวจสอบว่าจิตวิญญาณของผู้ตายออกจากร่างกายอย่างไร เมื่อไม่ได้ผล จึงไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง... พระกุมารกัสสปจึงเปรียบเทียบถวายว่าเป็นการใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง เหมือนกับผู้ที่ต้องการฟังเสียงสังข์ แม้ขอร้องให้สังข์ดังขึ้นมา หรือจับสังข์พลิกคว่ำพลิกหาย ยกขึ้นยกลง เป็นต้น ก็ไม่อาจทำให้สังข์ดังขึ้นได้...

เจ้าปายาสิยังมีการทดลองอีกอย่างหนึ่ง จึงทรงนำมายืนยันความไม่เชื่อของพระองค์ ทำนองว่า...

  • ข้าแต่ท่านกัสสป ! เจ้าหน้าที่ของเกล้าฯ จับโจรร้ายมาให้เกล้าฯ ลงอาญา เกล้าจึงสั่งให้ค่อยๆ เชือดเนื้อเถือหนังของมัน เพราะจะค้นหาว่าชีวะของเจ้าโจรนั้นอยู่ที่ใด เมื่อไม่เจอ ก็ค่อยๆ ให้ตัดเอ็น ตัดกระดูก เยื่อในกระดูก สั่งให้ชำแหละอย่างละเอียดเพื่อว่าจะได้พบชีวะของมัน...
  • แม้ด้วยวิธีการอย่างนี้ ก็ไม่เคยเจอชีวะของโจรเลย ดังนั้น เกล้าฯ จึงมีความเชื่อความเห็นว่า โลกหน้าไม่มี สัตว์ที่ผุดเกิดไม่มี ผลกรรมดีชั่วที่ทำแล้วก็ไม่มี...

 

พระกุมารกัสสปแย้งว่า วิธีการนี้ก็ไม่ได้ผล โดยเปรียบเทียบถวายทำนองว่า...

  • ดูกรบพิตร ! อาตมาจะเปรียบเทียบถวาย เพราะผู้ฉลาดนั้น ย่อมเข้าใจบางอย่างได้ก็ด้วยการเปรียบเทียบ...
  • เรื่องเคยมีมาว่า นักบวชชฏิลบำเรอไฟผู้หนึ่ง เก็บทารกน้อยมาได้จากกองเกวียนร้าง จึงนำมาเลี้ยงไว้ในอาศรมกลางป่า จนกระทั้งเด็กนั้นมีอายุย่าง ๑๐ ขวบ...
  • เมื่อชฏิลมีธุระที่จะต้องเข้าไปยังหมู่บ้าน จึงได้สั่งเด็กน้อยว่า ลูกเอ๋ย ! พ่อจะเข้าไปยังหมู่บ้าน เจ้าช่วยบำเรอไฟ อย่าปล่อยให้ไฟดับ ถ้าไฟดับเมื่อไหร่ นี้มีด! นั่นฟืน! และโน้นไม้สีไฟ! เจ้าจงก่อไฟแล้วบำเรอไฟเถิด...
  • หลังจากชฏิลไปแล้ว เจ้าเด็กน้อยก็มัวแต่เล่น จนเผลอให้ไฟดับลง เมื่อระลึกถึงคำของชฏิลได้ เด็กน้อยจึงเอามีดถากไม้สีไฟ ด้วยเข้าใจว่าจะเจอไฟ เมื่อไม่เจอก็ผ่าไม้สีไฟไม้ฟืนออกเป็น ๒ ซีก ๔ ซีก ค่อยๆ ซอยให้เป็นชิ้นเล็กๆ แต่ก็ยังไม่เจอไฟ จึงเอาเศษไม้นั้นใส่ในครกตำด้วยหมายว่าจะให้ไฟออกมา แม้เอามาโปรยในที่ลมแรง แต่ก็ไม่เจอไฟ...
  • เมื่อชฏิลกลับมาทราบความ ก็คิดว่า เจ้าเด็กน้อยโง่เสียนี้กระไร จึงนำไม้สีไฟมาสีจนเกิดไฟ แล้วก็บอกเด็กน้อยว่า เค้าติดไฟกันอย่างนี้ เจ้าโง่เขลา ไม่เฉียบแหลม ใช้วิธีการไม่ถูกต้อง จึงไม่อาจก่อไฟให้เกิดขึ้นได้...
  • เจริญพรบพิตร ! พระองค์ก็เช่นเดียวกัน ทรงโง่เขลา ไม่เฉียบแหลม ใช้วิธีการไม่ถูกต้องในการแสวงหาโลกหน้า...
  • ขอพระองค์ทรงสละความคิดเห็นผิดๆ ทำนองนี้เถิด ขอความคิดเห็นชั่วร้ายทำนองนี้ อันไม่มีประโยชน์ และทั้งเป็นไปเพื่อทุกข์ อย่าได้บังเกิดมีแก่พระองค์เลย...

 

สรุปว่า พระเถระได้ถวายข้อเปรียบเทียบมาหักล้างวิธีการทดลองของท้าวเธอ ในที่สุดก็ได้ขอร้องให้ท้าวเธอสละคืนความคิดเห็นผิดๆ เพราะมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ แต่เป็นไปเพื่อทุกข์เท่านั้น...

ฝ่ายเจ้าปายาสิก็มิได้นำวิธีการทดลองอย่างอื่น (ถ้าจะมี) มายืนยันความเชื่อของพระองค์ แต่กลับนำเอาเกียรติยศหรือศักดิ์ศรีของตัวเองมาอ้างเพื่อจะยึดถือความคิดความเห็นแบบเดิมๆ ไว้ ซึ่งผู้เขียนจะนำมาเล่าในตอนต่อไป...

หมายเลขบันทึก: 235005เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2009 16:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท