ตั้งแต่ครูจูหลิงมารักษาตัวที่ ICU รพ.มอ. ไม่ได้เข้าไปเยี่ยม เพราะคนมาให้กำลังใจมากมายเหลือเกิน วันนี้มีนักเรียนมาหลายร้อยคน ส่วนหนึ่งอยู่ที่หน้า รพ. อีกกลุ่มหนึ่งมานั่งพับนก เพื่อส่งกำลังใจให้ครู ฝ่ายบริการพยาบาลเองต้องจัดอัตรากำลังเพิ่ม เพื่อคอยให้บริการ ต่างคนต่างมุ่งช่วยไม่โดยทางตรงก็ทางอ้อม
แม่ชีศันศนีย์ก็มาเยี่ยม เพื่อแผ่เมตตาให้ครูจูหลิงด้วย บังเอิญได้มีโอกาสนำแม่ชีเข้าไปใน ICU แม่ชีเข้าไปในห้องผู้ป่วยตามลำพัง ส่วนตัวเองยืนนอกห้องกระจก เห็นภาพแม่ชีค่อยๆจับมือผู้ป่วย อีกมือหนึ่งค่อยๆวางที่หน้าผาก ตัวเองได้บอกน้องพยาบาลที่ดูแลว่า " น้องช่วยสังเกต vital signs ด้วยนะคะ พี่อยากจะทราบว่าผู้ป่วยรับรู้ต่อการสัมผัสนี้หรือไม่ " ขณะเดียวกันก็เดินตามพยาบาลไปที่เครื่อง monitor 2-3 นาทีแรกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สักพักหนึ่งเห็น BP ( ความดันโลหิต ) จากความดันสูงค่อยๆลดลง ...เมื่อแม่ชีออกมาก็บอกกับพวกเราหลายคนที่อยู่รอบนอกว่า คนไข้รับรู้ถึงสัมผัส / กระแสจิตที่แม่ชีถ่ายทอดสู่ฝ่ามือเพื่อส่งให้ครูจูหลิง แม่ชีบอกว่า มือที่วางอยู่บนหน้าผากของครูรับรู้ถึงความแรงที่เปลี่ยนไป แม่ชีเห็นน้ำตาของครูคลอเบ้า ขณะเดียวกันน้องที่อยู่นอกห้องก็บอกแม่ชีว่า สังเกตเห็นความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง แม่ชีบอกกับคุณโกสุมภ์ ผู้ตรวจการพยาบาลว่า ถ้ามีคนจะเข้าเยี่ยม น่าจะสื่อให้ผู้ที่จะมาเยี่ยมทราบว่า ครูรับรู้และสัมผัสถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมสื่อ ดังนั้น ผู้เยี่ยมควรสื่อแต่ในสิ่งที่ดีๆ เชิงทางบวก ต้องไม่ไปพูดให้ครูต้องทุกข์ แต่ต้องพูดให้ครูอภัย ไม่ผูกใจพยาบาทอาฆาตคนที่ทำร้ายร่างกายเรา แม่ชีบอกว่า ได้บอกกับครูว่า " ไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ สังคมให้การช่วยเหลือและคอยดูแลท่านอยู่แล้ว ให้ครูทราบว่าทุกคนคอยห่วงใยและให้กำลังใจอยู่รอบนอก ครูไม่ใช่ครูธรรมดา แต่เป็นครูของแผ่นดิน " แม่ชีได้มอบเงินส่วนหนึ่งช่วยเหลือพ่อแม่ครูด้วย พร้อมทั้งได้โอบกอดแม่และจับมือพ่อของครู เพื่อให้กำลังใจ นี่เป็นภาพของการดูแลแบบองค์รวมที่แม่ชีได้ให้แก่คนไข้และครอบครัว โดยเฉพาะในเรื่องของ touch therapy และในการดูแลดังกล่าวต้องมีการประเมินควบคู่ไปด้วยเสมอ เราจึงจรู้ว่าเรามีทักษะ / ประสบการณ์ที่ดีหรือไม่
จากแรงใจของคนทั่วประเทศขอให้ครูรับรู้และมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับความเจ็บปวดในครั้งนี้ด้วยเทอญ
ขอบคุณ ขอบคุณ ที่นำมาถ่ายทอด
ขอเป็นกำลังใจให้คุณครูจูหลิน และ ครอบครัว
ขอเป็นกำลังใจให้คุณครูทุกๆ คน ที่ปฏิบัติงานอยู่พื้นที่
ขอบคูรเจ้าของBlogที่ถ่ายทอด "เรื่อง" ที่อยู่ในความสนใจ
ช่วงนี้ บรรยากาศดู "เศร้า" พอสมควรครับ
เราคนเหนือ ขอให้กำลังครูและคุณพ่อคุณแม่ของครูด้วย
ขอให้มีกำลังใจ กำลังกาย ที่จะอยู่ต่อสู้บนโลกใบนี้ครับ
พวกเราที่ห้อง Lab ทุกคนพยายามเต็มที่ค่ะที่จะช่วยเท่าที่ทำได้จนสุดความสามารถ เราส่งกำลังใจไปถึงคุณครูอยู่ทุกขณะจิต คำพูด คำให้สัมภาษณ์ของคุณพ่อคุณแม่ของคุณครูก่อให้เกิดความตื้นตันใจต่อคนมากมาย สอนให้เรารู้ว่า คนดี ความดี ไม่มีอะไรมาลบล้างทำลายได้ ท่านทั้งสองมีจิตใจสูงส่ง ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณครูจุ้ยเป็นคนดีผู้เสียสละ มีน้ำใจดีงาม มองโลกในแง่ดีเช่นนี้
พวกเราทุกคนกำลังส่งพลังจิตขอภาวนาให้ปาฎิหารย์มีจริง ขอให้คุณครูได้กลับมารับรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้โหดร้าย มีคนอีกมากมายรอคุณครูฟื้นคืนมา คุณครูช่วยให้คน"หลับ" อีกมาก ตื่นขึ้น พวกเราจึงไม่อยากให้คุณครูต้อง"หลับ"ไปโดยไม่ได้รับรู้ว่า คุณครูทำให้เกิดอะไรดีๆขึ้นบ้าง จากสิ่งเลวร้ายที่คุณครูได้รับ
ขอบคุณ "พี่จุด" ที่นำมาถ่ายทอดค่ะ พวกเราอยากทราบและจะรอติดตามข่าวแบบ "ไม่เป็นทางการ" แบบนี้ต่อไปค่ะ
ซาบซึ้งและตื้นตัน...เมื่อเข้ามาอ่าน
ขอบคุณผู้บันทึกที่นำมาถ่ายทอด
ขอบคุณผู้ช่วยเหลือ "ครู" ทุกท่าน
ขอบคุณคนไทยทุกคน...ที่คอยช่วยเหลือกัน
ขอบคุณ...
พลังแห่งความรัก...ที่มีมอบให้ครู"จูหลิง"
ในนามกลุ่มงานจิตเวช รพ.ยโสธร
ขอส่งแรง...พลังแห่ง"ใจ"
เอาช่วยครู...
และกำลังใจแด่..ทีมผู้ช่วยเหลือทุกท่าน
นิภาพร ลครวงศ์
" คุณครูช่วยให้คน"หลับ" อีกมาก ตื่นขึ้น "
" ไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ สังคมให้การช่วยเหลือและคอยดูแลท่านอยู่แล้ว ให้ครูทราบว่าทุกคนคอยห่วงใยและให้กำลังใจอยู่รอบนอก ครูไม่ใช่ครูธรรมดา แต่เป็นครูของแผ่นดิน "
อ่านแล้วอึ้ง...เงียบและน้ำตาคลอ
ขอบคุณ " ครูของแผ่นดิน " ที่ทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการดำรงอยู่และความสำคัญของ " การทำความดี " ขอบคุณบุพการีของครูที่ก่อกำเนิดคนดีให้แผ่นดิน
และ...ขอบคุณผู้บันทึกที่ทำให้เกิดรอยจารึกในใจ...
ขออนุญาตน้อมนำส่วนหนึ่งของบทความจากพระไพศาล วิสาโล ที่รวบรวมในหนังสือ Healthy หน้า 17มาอ้างค่ะ
"มีผู้ชายคนหนึ่งเจออุบัติเหตุรุนแรง ที่ท้ายสุดฟื้นได้อย่างปฏิหาริย์ เล่าว่าตอนที่โคม่าไม่รู้สึกตัวจะมีบางช่วงที่จิตเหมือนจะเคว้งคว้าง แต่สักพักเขารู้สึกเหมือนมีมือมาแตะที่ตัวเขาและมีพลังจากมือนั้นแผ่เข้ามา พลังนั้นดึงจิตเขากลับลงมาทำให้เกิดความรู้สึกตัวรางๆ เป็นแบบนี้หลายครั้ง มารู้ภายหลังว่าเป็นเพราะพยาบาลคนหนึ่งเวลาเข้าเวรก็จะเดินมาเยี่ยมผู้ป่วยทุกเตียง พูดให้กำลังใจ คนไหนโคม่าก็เอามือจับแล้วแผ่เมตตาให้บอกให้หายไวๆ นะปรากฏว่าผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะโคม่าสามารถรับรู้พลังเมตตาของพยาบาลผู้นี้ด้วย ด้วยเหตุนี้ ญาติพี่น้องเวลาไปเยี่ยมผู้ป่วยโคม่า หรือผู้ป่วยที่พอมีสติ รู้ตัว การพยายามสร้างบรรยากาศแห่งความสงบเป็นเรื่องสำคัญ เวลาจะพุดจะคุยอะไรควรพูดเรื่องที่ดีงาม ที่ทำให้เขาสบายใจ ปล่อยวาง ไม่มีห่วง ไม่มีกังวล"
ตื้นตันใจกับความช่วยเหลือต่างๆ ที่ทุกคนรวมพลังให้กับครูจูหลิง และขอบคุณสำหรับบันทึกนี้ด้วยค่ะ
ขอบคุณและรู้สึกดีใจแทนทีมผู้ดูแลทุกคนขอบพระคุณที่เขียนบันทึกดีๆบันทึกนี้ให้อ่านค่ะ เชื่อมั่นมากขึ้นไปอีกค่ะว่าคนไทยไม่ว่าอยู่ที่ไหนรักและห่วงใยกันเสมอ ขอส่งทั้งพลังและกำลังใจทั้งหมดที่มีไปช่วยให้เกิดผลในด้านที่ดีกับ "ครูจุ้ย"ค่ะ ขอบคุณและเป็นกำลังใจกับทีมผู้ดูแลทุกๆท่านด้วยค่ะ
อ่านแล้วซึ้งมากค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ เรื่องนี้ทำให้ชาวไทยทุกภาครู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก ขอส่งกำลังใจด้วยใจจริง ๆ ค่ะ
เชื่อเถอะนะว่าเทวดาฟ้าดินนั้นมีอยู่จริง...วันนี้แม้เทวดาก็ยังคงต้องหลั่งน้ำตาให้กับคุณครูจูหลิง และก็คงทุ่มเทพลังคุ้มครองรักษาเธอ...คอยดูเถิด...เวรกรรมนั้นทันตา พวกที่ทำกับเธอ...คอยดูความเป็นไปเถิด
สำหรับคุณครูนั้น โปรดรับทราบด้วยเถิดว่าหัวใจของคนดีทั้งในชาติและในต่างแดน ต่างก็เถิดทูน สงสารคุณครูสุดหัวใจ...
ขอปวงเทพทั้งหลายได้โปรดช่วยคุ้มครองรักษาคุณครูสุดที่รักของพวกเราทั้งหลายด้วยเถิดนะ...ได้โปรดเถิด...ได้โปรดเก็บรักษาคนดีๆไว้ให้เป็นกำลังใจต่อคนดีๆทั้งหลายด้วยเถอะ...สาธุฯ